รีวิวฉบับที่ 776 …สวัสดีค่า ผู้อ่าน Thinkofliving ที่รักทุกโค้น วันนี้เรามารีวิวโครงการ The City ราชพฤกษ์ – จรัญฯ13 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 กันค่ะ โครงการ The City นี้เป็นแบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวหลังใหญ่อีกแบรนด์ของ AP ที่ทำออกมาหลายโครงการแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็น The City รามอินทรา, The City งามวงศ์วาน, The City พระราม 5 – ราชพฤกษ์ 2, The City รัตนาธิเบศร์ – แคราย และตัวล่าสุดที่ทางเราเพิ่งทำรีวิวกันไปคือ The City สุขุมวิท – แยกบางนา ค่ะ ซึ่งแบบบ้านเป็นคนละแบบกันกับโครงการที่เรามาดูกันวันนี้นะคะ ตัวโครงการThe City ราชพฤกษ์ – จรัญฯ13 จะอยู่ในซอยจรัญฯ 13 ใกล้ถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ห่างจาก BTS สถานีบางหว้าและถนนเพชรเกษมประมาณ 2.9 กม. ราคาอยู่ในช่วง 8.9 – 15 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลย : D
Fact @ 18 February 2015
- The City Ratchaphruek – Charan 13 (เดอะ ซิตี้ ราชพฤกษ์-จรัญฯ13)
- AP(Thailand) PLC.
- Segment : UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : เขตภาษีเจริญ
- เนื้อที่โครงการ 26-0-40.1 ไร่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 82 ยูนิต
- Finch พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 50 – 60 ตร.ว.
- Pitta พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 50 – 70 ตร.ว.
- Lark พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 70 – 100 ตร.ว.
- Heron พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 80 – 100 ตร.ว.
- ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาทหรือ 171,154บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มเปิดขายเดือน ก.ค. ปี 2555 เฟส 3 สร้างเสร็จและเพิ่งเปิดขายในช่วงปลายปี 2557
- http://www.apthai.com/บ้านเดี่ยว/the-city/the-city-ราชพฤกษ์-จรัญฯ13/home/
- สำนักงานขาย : 02-410-8355
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
พิกัด : 13.738173,100.453217
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ก็จะบอกตำแหน่งสถานที่สำคัญใกล้โครงการอย่าง โรงพยาบาลพญาไท 3, ห้างแมคโคร, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เมเจอร์ปิ่นเกล้า, พาต้า, เดอะ เซอร์เคิล และโรงพยาบาลศิริราช ส่วนมากก็อยู่ในระยะขับรถแทบทั้งหมดค่ะ ในแผนที่จากโครงการจะเห็นเส้นประสีน้ำเงินซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินสายอนาคตส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ที่วิ่งผ่านเส้นถนนจรัญสนิทวงศ์และเชื่อมต่อกับสายสีเขียวค่ะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
ทำเล The City ราชพฤกษ์ – จรัลฯ13 อยู่ในซอยบางแวก 19 ที่ตั้งอยู่ในซอยจรัญฯ13 ซึ่งเชื่อมอยู่ระหว่าง ถนนราชพฤกษ์ ซึ่งสามารถขับไปถนนบรมราชชนนีและทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ อีกทางจะไปออกถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระวิ่งผ่าน แต่ตอนนี้สำหรับคนไม่ใช้รถถ้าจะเข้าเมืองก็สามารถนั่งรถรับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่ง BTS สถานีบางหว้าได้ค่ะ โดยสถานีบางหว้าจะมีที่ตั้งอยู่แยกที่ถนนเพชรเกษมและราชพฤกษ์ตัดกัน ระยะห่างสถานีจากที่ตั้งโครงการประมาณ 2.9 กม.
สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะใกล้ๆนั้นจะพอมี 7-11, ปั๊มแก๊ส หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์ซะมากกว่า ด้วยความที่ถนนในซอยจรัญฯ13 ค่อนข้างแคบ ไม่มีที่จอดรถข้างทาง รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลนเท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยมีร้านอาหารในซอยซักเท่าไหร่ เพราะไม่มีที่จอดรถให้จอดกัน ตอนเช้าเย็นเวลาเข้าออกก็จะรถติดพอสมควร เพราะรถจากบรรดาหมู่บ้านต่างๆ รวมทั้ง The City เองด้วยก็จะออกมาที่ถนนเพื่อไปทำงานหรือกลับจากที่ทำงาน ถนนที่แคบๆอยู่แล้วเมื่อเจอปริมาณรถออกมามากๆรถก็ติดเป็นธรรมดา แต่บนถนนราชพฤกษ์และจรัญสนิทวงศ์ 2 ข้างทางก็จะเห็นร้านอาหารอย่างพวกร้านเนื้อย่าง, ร้านอาหารแบบมีห้องคาราโอเกะด้วย อยู่เป็นระยะๆค่ะ แต่ก็อยู่ในระยะที่ต้องขับรถออกมากินเหมือนกัน
ห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น แมคโคร บนถนนจรัญสนิทวงศ์ค่ะ ถัดไปอีกหน่อยก็จะมี The Circle Community Mall บนถนนราชพฤกษ์, ห้าง Central ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า และ พาต้า จะอยู่บนถนนบรมราชชนนี ข้อดีอีกอย่างคือที่นี่อยู่ไม่ห่างโรงพยาบาลศิริราชนัก แค่ประมาณ 5 ก.ม. ใครที่ทำงานที่นั่นหรือเรียนแถวนั้น อย่างต่อโท หรือเรียนอินเตอร์ที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หรือ ศิลปากร ก็สามารถข้ามแม่น้ำจากท่าเรือวังหลังไปฝั่งกรุงเก่ารัตนโกสินทร์ได้ไม่ไกลค่ะ
การเดินทางวันนี้เราเริ่มจาก BTS บางหว้า ตรงไปบนถนนราชพฤกษ์ไปกลับรถใต้สะพานกลับมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญฯ13 ขับไปประมาณ 550 เมตรจะเจอซอยบางแวก 19 และป้ายทางเข้าโครงการ The City อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ
เราเริ่มเดินทางกันจาก BTS สถานีบางหว้า สถานีปลายทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเข้ม (ส่วนต่อขยายสายสีลม)ที่ตั้งอยู่ตรงจุดตัดระหว่างถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษม
เราต่อรถวิ่งตรงไปทางถนนราชพฤกษ์เพื่อกลับรถเข้าซ.จรัญฯ13 สังเกตว่าแถว BTS สถานี บางหว้า ที่เป็นสถานีปลายทาง ใต้สถานีเลยจะมีทั้งรถ taxi ที่จอดรอรับคนจากสถานี รถส่วนตัวที่มารับส่ง แถมยังมีพี่วินฯมอไซค์อีก ในช่วงเวลาเร่งรีบบวกกับการที่มีรถมาจอดรอคนแบบนี้ ทำให้ช่วงหลังๆนี้ตั้งแต่มีสถานี บางหว้า มา ก็เริ่มมีข่าวถนนราชพฤกษ์และถนนเพชรเกษมรถติดออกมาให้ได้ยินกันเรื่อยๆค่ะ ใครอยู่แถวนั้นมาแชร์ข้อมูลกันนะคะ ว่าติดระดับไหน พอสู้แยกแคราย หรือแยกลาดพร้าวได้รึยัง จะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านท่านอื่นๆนะคะ
เราตรงไปเพื่อกลับรถใต้สะพานไปถนนจรัญฯ13 นะคะ เพราะงั้นเราชิดซ้ายตรงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องขึ้นสะพานค่ะ บนถนนราชพฤกษ์นี้ข้างทางจะเห็นพวกร้านอาหารหรือร้านอาหารแบบมีห้องคาราโอเกะอยู่เป็นระยะๆค่ะ ไม่ได้ถี่มาก แต่ก็พอมีร้านอาหารอยู่บ้างเหมือนกัน
ขับมาอีกหน่อยก็เลี้ยวขวากลับรถใต้สะพาน
พอออกมาก็จะเห็นป้ายขนาดใหญ่ของโครงการ The City ราชพฤกษ์ – จรัญฯ 13 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอทางเลี้ยวเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 แล้วค่ะ เป็นแยกตัดถ.ราชพฤกษ์หรือที่เรียกสั้นๆว่า จรัญฯ13 เราก็เลี้ยวซ้าย
พอเข้ามาในซอยจรัญฯ 13 จะเห็นว่าเป็นซอยค่อนข้างแคบเป็นถนนขนาด 2 เลนให้รถวิ่งสวนกันได้ แต่ไม่สามารถจอดรถข้างทางได้ ข้างถนนมีทางเดินเท้า..สองฝั่งข้างทางส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น แบบนี้ในอนาคตจะขยายถนนให้ใหญ่ขึ้นก็ยากค่ะเพราะติดบ้านกับอาคารพาณิชย์ริมถนน
ในซอยจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปั๊ม, 7-11 หรือร้านค้าต่างๆ เนื่องจากในซอยจะมีหมู่บ้านหรือกลุ่มทาวน์โฮมอยู่เยอะ คนซื้อของขายของก็พลอยเยอะตามไปด้วย ก็พอจะเดินออกมาหาของกินได้เรื่อยๆค่ะ ในรัศมี 400 ตารางเมตรจากโครงการ ก็เป็นระยะเดินที่ไม่ได้ไกลอะไรมาก ยังไงก็ไม่อดตายแน่นอน ส่วนเรื่องการจราจร เช้าเย็น คนออกไปทำงานหรือกลับบ้านก็รถติดพอตัวเลยค่ะ นี่ขนาดภาพนี้เราถ่ายมาตอนช่วงประมาณ 10 โมงนะ ถามคนแถวนี้เค้าบอกว่าออกไปทำงานเช้าๆนี่ต้องเผื่อเวลารถติดในซอยไว้ด้วยนะคะ ซักครึ่งชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยค่ะ
ผ่านซุ้มต้นไม้ในซอยมา
ออกมาหน่อยก็จะเจอซอยบางแวก 19 หรือป้ายทางเข้าโครงการ The City ราชพฤกษ์ – จรัญอยู่ทางขวามือแล้วค่ะ ตอนนี้บ้านเฟส 3 เพิ่งทำเสร็จแล้วเปิดขายอยู่ ทำให้หน้าทางเข้ามี Air tube dancer สีเหลืองอยู่ทำให้มองเห็นง่ายขึ้นนะคะ เราก็เลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย
พอเลี้ยวขวาเข้ามา ถนนที่เราเห็นนี่จะเป็นถนนภาระจำยอมกว้างสองเลน ต้องขับเข้าไปประมาณ 200 เมตรถึงจะถึงซุ้มโครงการนะคะ ข้างหน้าจะมีสะพานข้ามคลองลำกระโดงอยู่ก่อนถึงซุ้มโครงการ จะเห็นว่าสองข้างทางของถนนภาระจำยอม โครงการทำรั้วมาให้สูงทีเดียว ประมาณ 3 เมตรและต่อระแนงเพิ่มอีกเป็นเกือบห้าเมตร เพื่อความปลอดภัยและความที่เรียบร้อย พร้อมปลูกต้นไม้ข้างทางเพื่อให้ดูร่มรื่นขึ้น
ข้ามคลองลำกระโดงมาก็จะเห็นซุ้มโครงการแล้วค่ะ สังเกตสองข้างทางของถนนภาระจำยอมจะมีทางเท้ามาให้สำหรับคนเดินเข้าออกด้วย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงพยาบาลพญาไท 3 ~ 3.6 km.
- Macro ~ 3.1 km
- โรงพยาบาลศิริราช ~ 5.1 km.
- The Circle ราชพฤกษ์ ~ 5.1 km.
- Major Cineplex ปิ่นเกล้า ~ 7.6 km.
- Central ปิ่นเกล้า ~ 9.5 km.
- Pata ปิ่นเกล้า ~ 11.3 k.
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
มาดูขอบเขตที่ดินกันต่อ ที่ดินของโครงการนี้จะเป็นลักษณะหลายเหลี่ยมหลายมุมเหมือนเอาผืนสี่เหลี่ยมหลายๆผืนมาต่อกัน ขอบเขตที่ดินจะเป็นส่วนกรอบสีเหลือง ส่วนทางเข้าจากถนนจรัญฯ 13 มาซุ้มโครงการจะเป็นถนนภาระจำยอม เข้ามาประมาณ 200 เมตรถึงจะถึงซุ้มโครงการค่ะ รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่อยู่อาศัยประเภททาวน์โฮม 3 ชั้น และบ้านเดี่ยวสูงประมาณ 2 ชั้น แทบทั้งหมดค่ะ จะมีติดกับพื้นที่ว่างเปล่าบ้างนิดหน่อย ..ทางเข้าเป็นแบบ Double Gate ก็คือมี 2 ชั้น ผ่านชั้นแรกเข้ามาจะเป็นส่วนของ Club House สำนักงานขาย ที่จอดรถและสวนสาธารณะ ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าสุดของโครงการเลย โดยระยะจากหน้าสุดไปยังส่วนท้ายสุดของโครงการหรือในส่วนของเฟส 3 จะเป็นระยะประมาณ 350 ม.เท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้ไกลมาก พอเดินมาใช้ได้สบายๆ แต่ถ้าเทียบกับเฟส 1 กับ 2 แล้วเฟส 3 ก็อยู่ไกลพื้นที่ส่วนกลางกว่าเพื่อนค่ะ เราไปดูภาพและรายละเอียดในโครงการกันต่อเลยค่ะ
ซุ้มทางเข้าโครงการ The City ราชพฤกษ์ – จรัญฯ 13 ซุ้มตกแต่งโดยได้แรงบันดาลใจมาจากรูปร่างของรังนกสีส้ม น้ำตาล แต่ไม่มีหลังคากันฝนมาให้นะคะ ถนนหลักทางเข้าออกโครงการกว้าง 12 เมตร พื้นเป็นสแตมป์คอนกรีต มีทางเท้าและประตูทางเข้าสำหรับคนเดินให้ทั้งสองฝั่ง
ทางเข้าออกเป็นระบบสแกนบัตรระยะไกล และประตูเลื่อนไฟฟ้า 2 ชั้นค่ะ ส่วนระบบความปลอดภัยด้านหน้าโครงการจะมีกล้อง CCTV 2 ตัวแบบส่องป้ายทะเบียนและหน้าตาของผู้มาติดต่อ และกล้อง CCTV ติดในโครงการทุกซอยรวมแล้วประมาณ 30 ตัว
พอเข้ามาก็จะเห็นซุ้มทางเข้าส่วนที่พักอาศัยอยู่อีกชั้นด้านหน้าค่ะ ซ้ายมือเราจะเป็นส่วนสโมสรและสำนักงานขายค่ะ
หน้าสโมสรจะเป็นลานจอดรถสำหรับผู้มาติดต่อและเจ้าหน้าที่
ด้านหลังลานจอดรถจะเป็นสวนหย่อมของโครงการค่ะ
ในสวนหย่อมขนาดประมาณ 500 ตร.ม. จะมีม้านั่ง ทางเดิน ศาลพระภูมิ และประติมากรรมรูปรังนกอยู่
เข้าไปดูในสโมสรและสำนักงานขายกันต่อเลยค่ะ ชั้นล่าง ขวามือของภาพข้างๆสระน้ำเป็นส่วนของสำนักงานขายค่ะ
เข้ามาในสำนักงานขายจะเจอที่นั่งแบบวงกลมสีขาวและเคาเตอร์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายแบบนี้ ด้านหลังเคาเตอร์ฝ่ายขายจะมีประตูไปห้องรับรองลูกค้าด้านหลังอีกทีค่ะ
ส่วนห้องรับรองลูกค้าค่ะ
ออกมาจะเจอสระว่ายน้ำของโครงการ เป็นสระแบบน้ำล้น ระบบเกลือ ขนาด 10 x 20 m.
สระผู้ใหญ่ลึก 1.5 m. สระเด็กลึก 0.5 m. ส่วนทางลงสระจะมีหลังคากันแดดกันฝนให้ นอกนั้นจะเป็นสระกลางแจ้ง ส่วนสระเด็กจัดเอาไว้ใกล้กับส่วนที่นั่งริมสระค่ะ พ่อแม่พี่เลี้ยงที่พาเด็กๆมาเล่นจะได้นั่งเฝ้าได้สบายๆ
ด้านหลังที่นั่งจะเป็นส่วนล้างตัวก่อนลงสระ มีสองฝักบัว อาบได้ทีละสองคน ข้อดีคือสามารถเอื้อมหยิบของหรือผ้าเช็ดตัวบนเก้าอี้นั่งข้างสระได้ง่าย ข้อเสียคือ ระยะของฝักบัวดูเหมือนจะไกลจากเก้าอี้นั่งมากพอ แต่เวลาเด็กๆซนๆมาล้างตัวแล้วเล่นน้ำกัน ก็มีความเป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะกระเด็นใส่คนที่นั่งอยู่เก้าอี้ใกล้ๆได้
ที่นั่งข้างสระจัดเป็นโซฟาชุดสองชุด
อีกชุดนึงจะมีทางเดินบนสระไป ส่วนทางเดินนี่ก็ใช้เป็นที่นั่งเล่นริมสระได้เช่นกัน
เข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำกันต่อค่ะ
ในห้องน้ำจะมีเคาท์เตอร์อ่างล้างมือมาให้ 2 อ่าง และกระจกเงามาให้ ติดกับอ่างจะมีห้องซาวน่าอยู่
ภายในห้องซาวน่าค่ะ
ถัดเขามาจะมีที่นั่งและล็อกเกอร์ให้
ห้องอาบน้ำมีมาให้ 1 ห้อง
ห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้อง
ออกจากห้องน้ำมาเราขึ้นบันไดไปดูชั้นบนกันต่อเลยค่ะ
สโมสรที่นี่จะมีสามชั้นนะคะ ชั้นสามเนี่ยเป็นส่วนนิติบุคคล ส่วนชั้นสองที่เราขึ้นมาเจอตรงนี้จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนสค่ะ หน้าห้องจะมีชุดโซฟาไว้ให้นั่งชุดนึง เราเข้าไปดูในห้องฟิตเนสกันต่อ
ห้องฟิตเนสที่นี่ทำที่นั่งพักมาให้เต็มที่ดี มาเป็นชุดเลย ทั้งโซฟา อาร์มแชร์ โต๊ะกาแฟ และสตูล จัดธีมมาเข้าชุดกันคือฐานเป็นเส้นไม้สีอ่อน
ในห้องฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังแบบต่างๆมาให้รวมประมาณ 8 เครื่อง
ออกไปดูภายในส่วนที่พักอาศัยกันต่อนะคะ จะมีซุ้มทางเข้าส่วนที่พักอาศัยเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้ามาให้อีก 2 ชั้นและป้อมรปภ.อีกจุดค่ะ
ในซอยย่อยถนนจะกว้าง 9 เมตร ข้างทางหรือรั้วหน้าบ้านแต่ละหลังปลูกต้นไม้ริมรั้วมาให้ ทั้งไม้พุ่มและไม้ต้นสูง ที่นอกจากจะทำให้คนในบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้ว เมื่อมองจากภายนอกเข้าไปในซอยก็ดูร่มรื่นและเรียบร้อยดีด้วย
ในซอยจะมีที่กลับรถมาให้ด้วยค่ะ
บ้านที่อยู่ในซอยแต่ละหลังจะมีสวนมาให้เต็มรูปแบบค่ะ ทั้งสนามหญ้า ไม้พุ่มทั้งนอกบ้านในบ้านและต้นไม้ใหญ่ ทำให้บ้านเปล่าดูเต็มสวยอย่างที่เห็น ส่วนรายละเอียดของบ้านนั้นจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราไปชมตัวบ้านกันต่อเลย
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 10 x 20 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.5 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.5 เมตร
- ห้องออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
- สวนหย่อมขนาด 500 ตารางวา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 30 จุด
- รั้วโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.5 เมตร
- Key Card Access ระยะไกล
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- Doubld Gate Security
- ประตูรั้วโครงการแบบประตูเลื่อนไฟฟ้า
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในซอยกว้าง 9 ม.
แบบบ้านตัวอย่างหลังแรกเลยคือแบบ Pitta มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถค่ะ
แปลนชั้น 1 ของ Pitta แบ่งทางเข้าเป็น 2 ทาง มีทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าฝั่งห้องรับแขก ฟังก์ชั่นด้านล่างจะเป็นส่วนของ Living Area ทั้งหมด มีห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, แพนทรี่, ครัวไทย, ลานซักล้างหลังบ้าน และ ห้องน้ำชั้นล่าง (ที่ใช้อาบน้ำได้ด้วย)
แปลนชั้นสองจะเป็นส่วนของห้องนอน ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง โดยห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวและระเบียง 2 ด้าน ส่วนห้องนอนที่ 2 และ 3 ที่จะไม่มีห้องน้ำในตัว และใช้ห้องน้ำร่วมกัน
หน้าตาบ้านแบบ Pitta ค่ะ สำหรับโทนสีทีใช้จะเน้นสีอ่อนเป็นหลักและแทรกด้วยสีเทาและสีน้ำตาลบางส่วนทำให้ตัวบ้านดูมีมิติมากขึ้น รั้วบ้านจะสูง 1.8 เมตร ประตูรั้วจะเป็นโครงเหล็กโปร่งทาสีดำแบบนี้และมีประตูเล็กแบบบานเปิดสำหรับเดินเข้าบ้านแยกจากประตูรถที่เป็นแบบบานเลื่อน
ริมรั้วฝั่งนึงภายในบ้านจะมีช่องใส่ขยะมาให้เวลาทิ้งขยะจะได้ไม่ต้องเดินออกไปนอกบ้าน
ลานจอดรถเป็นแบบแยกโครงสร้าง ผิวเป็นสแตมป์คอนกรีต ลวดลายได้แบบที่เห็นค่ะ นี่เอามาจากบ้านเปล่า ลานจอดรถนี่จะตอกเข็มเจาะปูพรมกันทรุดตัวเต็มพื้นที่จรดประตูรั้วบ้านเลย ซึ่งอันนี้ถือว่าดีกว่าทั่วไปนะคะ เพราะส่วนใหญ่เข็มจะมาสุดแค่แนวคานบ้านเท่านั้น
ที่ลานจอดรถนี่นอกจากจะมีที่เก็บของมาให้แล้ว ยังมีประตูที่สามารถขนของเข้าครัวหรือวิ่งขึ้นชั้นสองได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนใหญ่อีกด้วย
สวนข้างบ้านมีพื้นที่เยอะพอสมควรค่ะ โครงการปูสนามหญ้าและลงต้นไม้ให้ ของจริงได้ตามที่เห็นเลยค่ะ รวมทั้งแท้งค์น้ำด้านหลังด้วย
ถัดมาเป็นส่วนหลังบ้าน จะเห็นเคาท์เตอร์ท้อปหินแกรนิตพร้อมอ่างล้างจานด้านนอกของครัวด้วย ของจริงได้ตามที่เห็น พื้นหลังบ้านไม่ได้ปูกระเบื้องเต็ม แต่ปูเฉพาะส่วนท่ีใช้ยืนล้างจานหรือเดินไปมา
จากลานจอดรถมองเข้าไปที่เฉลียงหน้าบ้าน จะเห็นว่ามีที่ดินด้านหน้าเฉลียงอยู่ โครงการทำเป็นทางเดินไปสวนข้างบ้านมาให้
สวนข้างบ้านค่ะ ปลูกต้นไม้หลายระดับที่แนวกำแพงมาให้ พร้อมกับมีทางเดินไปที่เฉลียงข้างบ้าน
ขอพาเข้าไปชมภายในบ้านตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ สังเกตว่ารูปร่างเสายื่นที่เฉลียงหน้าบ้าน เมื่อมองจากด้านข้างจะไม่ใช่เสาที่เป็นเส้นตรงเป๊ะ แต่เป็นเส้นเฉียง ตัวฐานจะแคบกว่าและไปกว้างออกด้านบนเพดาน เป็นการออกแบบที่เล่นกับมุมมองทำให้รู้สึกว่าตัวบ้านดูสูงขึ้นอีก เฉลียงหน้าบ้านปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา สังเกตว่าบ้านตัวอย่างทำที่นั่งทั้งสองฝั่งของเฉลียงมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงที่เฉลียงจะไม่มีที่นั่งให้นะคะ
วงกบประตูหน้าต่างของบ้านจะเป็น UPVC สีขาว ของ Windsor กระจกเขียวตัดแสงหนา 5 มม. ส่วนทางเข้าหลักที่เฉลียงมือจับจะเป็นแบบหูช้างคู่
ภายในบ้านค่ะ นอกจากมือจับแล้ว สังเกตว่าจะมีตัวล็อกก้นหอยมาให้ช่วยล็อกเพิ่มอีกชั้นด้วย
ความสูงฝ้าถึงเพดานของบ้านจะสูง 2.8 เมตรค่ะ ก็ถือว่าสูงโปร่งสำหรับบ้านทั่วๆไป ผนังติดวอลเปเปอร์ให้ทั้งหลัง พื้นเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.สีครีม
เอาภาพเปล่ามาให้ดูค่ะ จะได้เห็นช่องแสงของบ้าน จะเห็นว่าบ้านเปล่านอกจากติดวอลเปเปอร์แล้ว จะมีบัวเชิงผนังสีขาวด้วย ส่วนฝ้าเพดานของจริงจะได้เป็นแบบเรียบทาสีขาวอย่างที่เห็นในภาพ ไฟในบ้านเป็นแบบดาวน์ไลท์
โซฟาสามารถวางแบบ 3 ที่นั่งขนาดใหญ่แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกลาง พร้อมอาร์มแชร์อีกตัวได้สบายๆ ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 ม.
ชั้นวางทีวีติดฉากกระจกเพิ่มและทำชั้น Built-in เป็นแนวยาวให้ดูเป็นไอเดียค่ะ แต่ของจริงจะเป็นเสาแยกออกมา 1 ต้นเหมือนที่เห็นในภาพบ้านเปล่าด้านบนนะคะ
ส่วนห้องอาหารมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปเฉลียงข้างบ้านได้ จัดชุดโต๊ะมาแบบ 6 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน
บ้านตัวอย่างต่อเติมสวนน้ำตกเล็กๆมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ พื้นเฉลียงทำเป็นชานไม้แบบนี้ก็น่านั่งเล่นดี
นี่ภาพเฉลียงข้างบ้านค่ะ ของจริงจะได้เป็นแบบนี้ พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทา ทางเข้าออกเป็นประตูบานเลื่อน เปิดเข้าไปเป็นส่วนห้องทานอาหาร ติดไฟผนังด้านนอกมาให้เรียบร้อย
ส่วนถัดมาจะเป็นพื้นที่ทานอาหารที่ต่อเนื่องกับพื้นที่หน้าห้องครัว ซึ่งตรงนี้สามารถต่อเติม Pantry แบบในบ้างตัวอย่างนี้ก็ได้นะคะเพราะเค้าออกแบบพื้นที่เผื่อเอาไว้ให้แล้ว
ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ ห้องน้ำชั้นล่างจะคั่นอยู่ระหว่างบันไดและห้องครัว
ห้องน้ำของจริงมีที่อาบน้ำให้ทุกห้อง แต่จะมีแค่ห้องชั้นบนของห้อง Master Bedroom เท่านั้นนะคะ ที่ได้ฉากกั้นห้องน้ำส่วนเปียก นอกนั้นจะเป็นแบบไม่มีฉากกั้นกระจกเทมเปอร์มาให้อย่างที่เห็นค่ะ นี่คือภาพห้องน้ำชั้นล่างของจริงที่ได้ค่ะ
นี่คือภาพห้องน้ำชั้นล่างของบ้านตัวอย่าง สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto พื้นและผนังปูกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเบจ ปูกระเบื้องจรดเพดาน ไฟเป็นแบบดาวน์ไลท์ หลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือทำ Low Wall มาให้วางของเพิ่ม และติดกระจกเงาบานใหญ่
อ่างล้างมือวางของรอบๆไม่ได้ค่ะ จะทำเคาท์เตอร์เพิ่มผนังด้านข้างก็ติดประตูทางเข้าอีก แต่ก็มีผนัง Low Wall อยู่ พอใช้วางของได้
หน้าตาโถสุขภัณฑ์ค่ะ
หน้าตาฝักบัวในส่วนอาบน้ำ
เคาเตอร์ Pantry ในบ้านตัวอย่างทำมาเป็นรูปตัว L พร้อมวางตู้เย็นมาให้ดูระยะใช้งานด้วย
เราเข้าไปดูในครัวกันต่อเลยค่ะ พื้นครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีเทา ลดระดับลงต่ำกว่าห้องนั่งเล่นประมาณ 5 ซม.
ชุดครัวในบ้านตัวอย่างหน้าตาเหมือนของจริงที่ได้เป๊ะค่ะ
แต่ของจริงจะไม่ได้ติดเตาไฟฟ้ามาให้นะคะ จะมีอ่างล้างจานสแตนเลสมาให้ จะเห็นว่าเป็นครัวปูนก่อ ท้อปเป็นหินแกรนิตสีดำ ฐานปูกระเบื้องสีครีมเข้ากับกระเบื้องติดผนังห้องครัว ..ครัวที่ติดกระเบื้องที่ผนังมาให้เป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะเวลาทำอาหารจะได้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ติดให้จรดฝ้าเพดานนะ ติดแค่เฉพาะส่วนหลังกำแพงชุดครัวซึ่งเป็นส่วนที่น่าจะเจอคราบกระเซ็นเลอะ หรือคราบน้ำมันมากที่สุด
หันมาอีกฝั่งผนังตรงข้ามชุดครัว จะมีห้องเก็บของที่ใช้เก็บงานระบบไฟส่วนต่างๆเอาไว้อยู่
ถัดจากตู้เก็บงานระบบไฟจะเป็นส่วนที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งจัดตำแหน่งท่อให้อยู่ใกล้ประตูเปิดออกไปหลังบ้าน นอกจากนี้เหนือประตูเปิดออกไปหลังบ้านจะติดพัดลมดูดอากาศเอาไว้ช่วยระบายอากาศในห้องครัวด้วยค่ะ
ถ่ายสวนด้านหลังของบ้านตัวอย่างให้ดูค่ะ เคาท์เตอร์ครัวหลังบ้านได้ตามที่เห็น อันนี้ดีนะ เพราะเวลาอยากผัดอยากทอดอะไรหนักๆ เราเดาว่าบางทีหลายๆคนคงอยากออกมาทำนอกบ้านมากกว่า จะปิ้งจะย่างอะไรก็สะใจกว่า สังเกตลานซักล้างหลังบ้านจะลดสเต็ปลงมาจากตัวห้องครัวประมาณ 15 cm.
บันไดขึ้นไปชั้นบนเป็นบันไดไม้ยางพาราแบบทึบ ลูกตั้งเป็นสีขาว ลูกนอนเป็นลายไม้ ขวามือที่ปกติจะเป็นราวจับ ที่นี่ทำเป็น Low Wall ใช้วางของได้แบบไล่เป็น 3 สเต็ป ..บริเวณโถงบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้
ภายในห้องเก็บของพื้นปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา และมีหลอดไฟติดผนังในห้องเก็บของมาให้
ชานพักบันไดทำมาเต็มเดินสบาย
ชั้นบนจะมีราวกันตกอยู่ฝั่งขวามือ เป็นเหล็กทาสีขาวท้อปเป็นไม้สีส้ม โคมไฟเพดานและผนังของโถงบันไดได้ตามที่เห็น
ขึ้นมาจะเป็นโถงบันไดแจกเข้าห้องนอนทั้งสามห้องและห้องน้ำ บ้านตัวอย่างต่อผนังเป็นชั้นวางของมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงเป็นผนังเรียบธรรมดาเน้อ ส่วนพื้นชั้นสองเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เพดานสูง 2.8 เท่ากับชั้นล่าง
เข้าไปดูห้องแรกติดทางขึ้นลงบันไดกันก่อนเลย เป็นห้องนอนเล็กค่ะ
ห้องนอนเล็กจัดมาเป็นเตียงเดี่ยวพร้อมโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า มาให้ดูระยะใช้งาน
ภาพห้องเปล่าค่ะ จะได้เห็นกรอบหน้าต่างที่ได้
ห้องนี้จริงๆจะว่าเตียงคู่แบบ 5 ฟุตก็ยังได้นะคะ ระยะพออยู่ แต่จะไม่มีที่วางโต๊ะข้างเตียงนะ
ออกไปดูห้องน้ำรวมชั้น 2 กันต่อ
สเป็ควันดุและสุขภัณฑ์เหมือนๆกันกับห้องน้ำชั้นล่างทุกอย่างค่ะ รวมทั้งของจริงห้องนี้ก็จะไม่มีฉากกั้นห้องน้ำส่วนเปียกที่เป็นกระจกเทมเปอร์เหมือนที่เห็นในห้องตัวอย่างด้วยเช่นกัน
ถ่ายรูปพื้นลดระดับมาให้ดูกันค่ะ จะเห็นว่าพื้นส่วนเปียกของห้องน้ำจะลดระดับลงมาจากพื้นส่วนแห้ง ซึ่งก็ลดระดดับพื้นลงมาจากโถงบันไดอีกทีประมาณ 5 ซม.
ไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อ
จากผังอาคารจะเห็นว่าภายในห้องนอนใหญ่นี้จะกินพื้นที่เกือบครึ่งนึงของชั้น 2 ทำให้มีพื้นที่เหลือตกแต่งได้อีกเยอะ
วางเตียงคู่มาให้ดูระยะใช้งาน จะเห็นว่าปลายเตียงกว้างประมาณ 90 ซม. เหลือที่พอวางชั้นวางทีวีได้สบายๆค่ะ
ข้างเตียงฝั่งติดระเบียงกว้างประมาณ 50 ซม. ตัวรางประตูเลื่อนเปิดออกไประเบียงก็จะฝังลงไปที่ตัวพื้นห้องนอนเลยทำให้เวลาเดินจะไม่สะดุด
และก็ไม่ต้องกลัวน้ำจากระเบียงจะไหลเข้าเพราะพื้นระเบียงต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5 ซม. ปูกระเบื้องเซรามิกสีเทา
ไปดูส่วนห้องน้ำและ Walk in Closet และระเบียงอีกด้านของห้องนอน
ห้องเปล่าค่ะ ของจริงจะได้เป็นแบบนี้ คือไม่ได้กั้นห้องทำ Walk in Closet มาให้เหมือนบ้านตัวอย่างนะ อยากได้ต้องทำเพิ่มเองค่ะ ซ้ายมือของภาพเป็นประตูเปิดออกไปโถงบันได ขวามือเป็นประตูเปิดออกไประเบียง (ห้องนอนใหญ่นี่จะมีระเบียงสองส่วนค่ะ)
เข้ามาจะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าและทางเข้าห้องน้ำด้านข้าง ตรงกลางเป็นประตูเปิดออกไประเบียง
ระเบียงฝั่งนี้เอาไว้ตากผ้าหรือปลูกต้นไม้ หรือจะเลี้ยงนกก็ได้
ห้องน้ำห้องนอนใหญ่ค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องน้ำที่มีฉากกั้นกระจกเทมเปอร์ ได้ตามที่เห็น ห้องนี้ไม่มี Low Wall มาให้และอ่างล้างมือจะเป็นคนละแบบกับห้องน้ำห้องอื่นค่ะ
ใต้อ่างล้างมือทำเป็นชั้นวางของ ไม่มีบานปิด ของจริงได้ตามนี้ ข้างอ่างล้างมือจะมีเต้าเสียบแบบมีฝาครอบกันน้ำสำหรับเสียบไดร์เป่าผมมาให้
ฝักบัวก็จะหัวใหญ่กว่าห้องน้ำห้องอื่นๆในบ้านด้วย
ไปดูห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายกันต่อ
ห้องนอนเล็กห้องนี้วางเตียงเดี่ยวมาพร้อมตู้เตียงเช่นกันเพื่อให้ดูระยะการใช้งาน
ภาพจากบ้านเปล่าให้เห็นหน้าต่างชัดๆค่ะ (บ้านเปล่ากับบ้านตัวอย่างผังบ้านจะสลับด้านกันนะคะ เป็นผังแบบ Mirror หน้าต่างเลยสลับด้านกันไปด้วย)
ดูระยะข้างเตียงฝั่งละประมาณ 40 ซม.ค่ะ ฝั่งขวามือเป็นระยะหลังจากวางตู้เสื้อผ้าให้แล้วนะคะ
หลังถัดไปที่จะพามาชมกันคือบ้านแบบ Lark ซึ่งเป็นบ้านที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการค่ะ พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แปลนบ้านหลังนี้จะมีจุดที่แตกต่างหลักๆจากหลังที่แล้วนอกจากพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นมาคือ ชั้นล่างจะเพิ่มห้องนอน(หรือห้องอเนกประสงค์)เข้ามาอีก 1 ห้อง
ส่วนแปลนชั้นสองก็จะคล้ายๆกับบ้านหลังที่แล้ว คือเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 แต่หลังนี้จะมี Family Room ที่มีระเบียงในตัวอยู่ที่ชั้น 2 ด้วย อ
หน้าบ้านค่ะ จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือระเบียงชั้น 2 ที่ดูกว้างขวาง และระแนงเหล็กตกแต่งภายนอก ส่วนองค์ประกอบกับวัสดุต่างๆที่ใช้จะเหมือนกับบ้านที่พาไปชมกันหลังแรกเลย ต่างกันที่การจัดผังบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอยค่ะ เราไปดูภายในกันเลย
ที่จอดรถแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน ปูพรมเข็มจนจรดรั้วบ้าน ผิวเป็นสแตมป์คอนกรีต ด้านหน้าลานจอดรถจะมีประตูที่ใกล้บันไดขึ้นไปชั้น 2 และห้องครัวอยู่ ที่ลานจอดรถจะมีตู้เก็บของแบบบานเลื่อนสีขาวตีเกล็ดอยู่
จากลานจอดรถ จะมีทางเดินไปเฉลียงหน้าบ้าน ระแนงเหล็กที่ตกแต่งภายนอกเวลาแสงส่องผ่านจะเกิดเป็นจังหวะแสงในส่วนทางเดินอย่างที่เห็นในภาพ องศาเปลี่ยนไปตามตำแหน่งพระอาทิตย์ในแต่ละช่วงของวัน
เฉลียงหน้าบ้าน วัสดุจะเป็นแบบเดียวกันกับบ้านแบบแรกที่พาไปชมเลยค่ะ กรอบ UPVC สีขาว มือจับหูช้างกระจกเขียวตัดแสง 5 มม. แต่ที่เฉลียงหลังนี้ของจริงได้ที่นั่งหินที่เฉลียงได้ตามที่เห็นนะ
เข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เพดานสูง 2.8 m. พื้นแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 cm. ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 m.
ภาพจากห้องเปล่าค่ะ จะได้เห็นส่วนหน้าต่างและประตูที่เปิดไปห้องชั้นล่างชัดๆ
ห้องชั้นล่างค่ะ ทำประตูมาเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบ UPVC สีขาวเหมือนส่วนอื่นๆของบ้าน ส่วนนี้ถ้าจะทำเป็นห้องนอนก็ต้องติดม่านเพิ่มค่ะ หรือจะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ไว้ทำงานหรือดูหนังฟังเพลงก็ได้ ถ้าบ้านไหนมีเด็กๆจะจัดเป็นห้องของเล่น ห้องเกมส์ของคุณลูกก็มีขนาดที่เหมาะสมเช่นกัน
จากส่วนทานอาหาร มองไปที่ห้องครัว ส่วนหน้าทางเข้าห้องครัวสามารถทำเป็น Pantry ได้ ข้างผนังมีเตรียมท่องานระบบไว้ให้แล้ว
บ้านตัวอย่างวางมาชุด Pantry มาให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ
ส่วน Pantry มุมสูงค่ะ จะเห็นรว่าะยะใช้งานส่วนต่างๆ อยู่ในระยะกำลังดี
เข้ามาดูชุดครัวกันต่อค่ะ นอกจากชุดครัวก็วางตู้ซักผ้าและตู้เย็นมาให้ดูระยะใช้งานจริงด้วย
ชุดครัวของจริงที่ได้ค่ะ ชุดครัวของบ้านแบบนี้ นอกจากอ่างล้างจานสแตนเลสจะมีเตาไฟกับเครื่องดูดควันให้ด้วย ด้านล่างมีที่เก็บของแบบมีบานปิดมาให้ แต่ไม่มีลิ้นชักวางช้อนส้อมมาให้นะ
เปิดประตูครัวออกไปดูหลังบ้าน
หลังบ้านก็จะมีเคาท์เตอร์อ่างล้างจานให้อีกชุด
ก่อนขึ้นไปชั้นบนไปดูห้องน้ำชั้นล่างของบ้านแบบนี้กันก่อนค่ะ
ห้องน้ำสเป็คเดียวกันกับบ้านหลังแรกแทบทุกอย่างค่ะ สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto ผนังปูจรดเพดาน มี Low wall ให้วางของเพิ่ม แต่จัดวางไม่เหมือนกันเนื่องจากผังอาคารต่างกัน
ห้องน้ำนี้เป็นรูปตัว L ค่ะ ของจริงส่วนอาบน้ำที่กั้นกระจกเทมเปอร์ชั้นล่างไม่มีฉากกั้นมาให้นะคะ
ของจริงเป็นโล่งๆและพื้นจะลดระดับลงไปแบบนี้
ขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อเลยค่ะ ข้างโถงบันไดมีห้องเก็บของ ประตูห้องเก็บของสูงเท่าๆกับประตูปกติ เดินเข้าไปได้สบายๆเลย ส่วนบันไดลูกนอนเป็นไม้ยางพารา ลูกตั้งตีทึบทาสีขาว มีราวบันไดฝั่งเดียวทางขวามือเป็นเหล็กกล่องทาสีขาว
โถงบันไดได้โคมไฟเพดานและผนังตามที่เห็นค่ะ ชานพักเต็มขั้นเดินสบายๆ
จะเห็นว่าผนังส่วนห้องนั่งเล่นชั้นสอง(ฝั่งขวามือของภาพ)ไม่ตีผนังจรดเพดาน ช่วยให้ชั้นสองดูสว่างและโปร่งขึ้นเยอะ
เข้าไปดูห้องนอน Master Bedroom กันต่อเลยค่ะ ห้องนี้จะมีระเบียงและห้องน้ำในตัว
ส่วนห้องนอนใหญ่พอวางเตียงคู่ไปแล้วก็ยังเหลือที่พอวางชั้นวางทีวีปลายเตียงได้สบายๆ
ข้างเตียงฝั่งติดระเบียงค่ะ
ที่ระเบียงวางชุดเก้าอี้มาให้ดูระยะใช้งาน
มองกลับไปที่ทางไปห้องน้ำ ในบ้านตัวอย่างกั้นห้องทำเป็น Walk in closet มาให้ดูเป็นไอเดีย
ของจริงจะได้แบบนี้ค่ะ ไม่มีกั้นห้องมาให้นะคะ (ผังบ้านเปล่ากับบ้านตัวอย่างจะสลับด้านกันอยู่นะคะ จะเห็นว่าบ้านตัวอย่างภาพบนประตูไปโถงบันไดอยู่ทางขวา แต่ภาพบ้านเปล่าประตูไปโถงบันไดจะอยู่ทางซ้าย)
ใน Walk in closet ของบ้านตัวอย่างทำโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูด้วย
ส่วนห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะได้ฉากกั้นห้องน้ำส่วนเปียกตามนี้
มุมอ่างล้างหน้า เหลือที่ว่างข้างๆ 2 ฝั่ง ถ้าต่อชั้นลอยเพิ่มคงได้ที่วางของเพิ่มขึ้นเยอะดีนะคะ
โถสุขภัณฑ์อยู่มุมตรงข้ามอ่างล้างมือ มี Low Wall ด้านหลัง
ออกไปดูห้องนอนเล็กอีกสองห้องกันค่ะ ในภาพประตูทางเข้าห้องนอนอีกสองห้องจะอยู่ทางซ้ายมือเรา ส่วนด้านหน้าที่เห็นเป็นห้องน้ำรวมชั้น 2 เดี๋ยวจะพาไล่ดูกันไปทีละห้องนะคะ
ห้องนอนเล็กห้องแรกวางเตียงเดี่ยวมาทำให้สามารถวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานและชั้นวางของได้
ภาพห้องนอนเล็กจากบ้านเปล่าค่ะ จะได้เห็นกรอบหน้าต่างชัดๆ
ถ่ายให้ดูฝั่งปลายเตียงค่ะ
ห้องนอนเล็กอีกห้องนี่อยู่ติดห้องน้ำ ขนาดพอๆกันกับห้องนอนเล็กอีกห้องค่ะ
ห้องนอนเล็กจากบ้านเปล่าค่ะ
ห้องนอนเล็กห้องนี้จะอยู่ติดกับห้องน้ำ
ห้องน้ำชั้นสองก็วัสดุและสุขภัณฑ์แบบเดียวกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ และของจริงที่ได้ห้องนี้จะไม่มีฉากกั้นส่วนเปียกเหมือนในห้องตัวอย่างนะ
ห้องน้ำจากบ้านเปล่าจะได้แบบนี้ค่ะ
ต่อไปมาดูส่วนห้องนั่งเล่นชั้น 2 กันต่อ ส่วนตัวชอบที่ออกแบบผนังคั่นส่วนโถงบันได(ส่วนขวามือของภาพ)เป็นผนังทึบแบบนี้มากกว่าใช้ราวกันตกแบบที่บางที่ใช้กันนะคะ มันดูสบายตาและให้ความรู้ปลอดภัยกว่า
ห้องนั่งเล่นชั้น 2 นี้เป็นพื้นที่ที่ยืดหยุ่น ปรับใช้งานได้หลายแบบนะคะ บางบ้านอาจใช้เป็นห้องพระ, บางบ้านอาจทำเป็นห้องดูหนังหรือห้องสมุด
ระเบียงค่อนข้างกว้างนะคะ ทำให้พอวางชุดที่นั่งไปแล้วก็ไม่อึดอัด ดูนั่งยืดขาตากลมได้สบายๆดี
ระเบียงด้านข้างวางคอมเพรสเซอร์แอร์เอาไว้
ประตูห้องนั่งเล่นเป็นบานเปิด UPVC สีขาวกระจกเขียวตัดแสง ทำหน้าที่เป็นช่องแสงให้ห้องนั่งเล่นด้วยอีกแรงทำให้ห้องไม่อับทึบค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ส่วนบ้านที่เหลืออีก 2 หลัง รายการวัสดุที่ใช้จะคล้ายๆกัน แต่จะต่างกันที่แบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอย เราเอาภาพกับผังมาลงให้ดูกันนะคะ
แบบบ้านขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้คือ แบบ Finch ค่ะมีพื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
แปลนบ้านหลังนี้จะมีจุดที่แตกต่างหลักๆจากหลังที่แล้วคือ ขนาดเล็กกว่าทำให้ส่วน Pantry ถูกลดขนาดลง และจัดเข้ามุมไป นอกนั้นเรื่องการจัดโซนนิ่งส่วนต่างๆจะคล้ายๆกันแทบทุกหลังค่ะ
ส่วนแปลนชั้นสองก็จะคล้ายๆกับบ้านหลังที่แล้ว คือเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนอนใหญ่จะมีระเบียงส่วนตัวและห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องใช้ห้องน้ำรวมกัน หลังนี้คือเป็นผังยอดนิยมของบ้านเดี่ยวทั่วไปนะคะ ไม่ค่อยมีอะไรใหม่
ถัดมาเป็นหลังใหญ่สุดของโครงการคือ Heron พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบ Heron นี้0t.=hวัสดุจะเกรดสูงกว่าบ้านแบบอื่นๆค่ะ คือบันไดแบบอื่นใช้ไม้ยางพารา แบบนี้จะใช้ไม้มะค่า, พื้นชั้น 2 บ้านแบบอื่นเป็นไม้ลามิเนต แต่หลังนี้จะเป็นไม้ปาเกต์
แปลนบ้านหลังนี้จะมีจุดที่แตกต่างหลักๆจากหลังที่แล้วคือ ชั้นล่างจะเพิ่มห้องนั่งเล่นเข้ามาอีก 1 ห้อง และเพิ่มส่วนซักล้างหลังบ้านและเฉลียงข้างบ้านให้ใหญ่ขึ้น ครัวใหญ่ขึ้น รวมถึงมีห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัวเพิ่มเข้ามาอีกห้องหนึ่ง
ส่วนแปลนชั้นสองก็จะคล้ายๆกับบ้านหลังที่แล้ว (คล้ายแบบ Lark) คือเป็น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 Family Room ส่วนที่แตกต่างจาก Lark ก็คือมีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องนั่นเองค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 February 2015
- Finch พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 52.1 ตร.ว. ราคา 8.9 ล้านบาท
- Pitta พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 63 ตร.ว. ราคา 10.7 ล้านบาท
- Lark พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 79.1 ตร.ว. ราคา 13.12 ล้านบาท
- Heron พื้นที่ใช้สอย 252 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 83.3 ตร.ว. ราคา 14.38 ล้านบาท
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 100,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลโครงการ The City ราชพฤกษ์-จรัญฯ13 อยู่ในซอยจรัญฯ13 ซึ่งเป็นซอยที่มีถนนค่อนข้างแคบ รถสวนกันได้แค่ 2 เลน แถมมีหมู่บ้านอยู่เยอะ ทำให้มีรถติดอยู่เนืองๆ แต่ก็เป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสามารถขับไปถนนบรมราชชนนีและทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้ อีกทางจะไปออกถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ ซึ่งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระวิ่งผ่าน แต่ก็ต้องรอกันหน่อยนะคะ น่าจะอีกประมาณ 5 – 6 ปีแน่ะกว่าจะเสร็จ
แต่ตอนนี้สำหรับคนไม่ใช้รถถ้าจะเข้าเมืองก็สามารถนั่งรถรับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่ง BTS สถานีบางหว้าได้ค่ะ โดยสถานีบางหว้าจะมีตั้งอยู่ที่จุดตัดระหว่างถนนเพชรเกษมและราชพฤกษ์ ระยะห่างสถานีจากที่ตั้งโครงการประมาณ 2.9 กม. ซึ่งก็ถือว่าไม่ไกลมากนักนะสำหรับระยะบ้านเดี่ยว แต่อย่าเอาไปเทียบกับระยะเดินของโครงการประเภทคอนโดนะอันนั้นเกิน 800 ก็เดินเหนื่อยละค่ะ ระยะยังก็ต้องต่อรถ 1 ต่ออยู่แล้วหรือจะให้คนที่บ้านไปส่งก็ได้เพราะไม่ได้ไกลมาก
ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะใกล้ๆนั้นจะพอมี 7-11, ปั๊มแก๊ส หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์, ซะมากกว่า ด้วยความที่ถนนในซอยจรัญฯ13 ค่อนข้างแคบ ไม่มีที่จอดรถข้างทาง รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลนเท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยมีร้านอาหารในซอยซักเท่าไหร่ เพราะไม่มีที่จอดรถให้จอดกัน ตอนเช้าเย็นเวลาเข้าออกก็จะรถติดพอสมควร เพราะรถจากบรรดาหมู่บ้านต่างๆ รวมทั้ง The City เองด้วยก็จะออกมาที่ถนนเพื่อไปทำงานหรือกลับจากที่ทำงาน ถนนที่แคบๆอยู่แล้วเมื่อเจอปริมาณรถออกมามากๆรถก็ติดเป็นธรรมดา แต่บนถนนราชพฤกษ์และจรัญสนิทวงศ์ 2 ข้างทางก็จะเห็นร้านอาหารอย่างพวกร้านเนื้อย่าง, ร้านอาหารแบบมีห้องคาราโอเกะด้วย อยู่เป็นระยะๆค่ะ แต่ก็อยู่ในระยะที่ต้องขับรถออกมากินเหมือนกัน ส่วนห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น แมคโคร บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ถัดไปอีกหน่อยก็จะมี The Circle Community Mall บนถนนราชพฤกษ์, ห้าง Central ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ ปิ่นเกล้า และ พาต้า จะอยู่บนถนนบรมราชชนนี
ความปลอดภัยของโครงการ ถ้าไม่ใช้รถก็ยังพอเดินเข้าไปได้เพราะในซอยเป็นโซนที่อยู่อาศัยไม่ถึงกับเปลี่ยวนัก แต่กลางคืนก็จะเงียบๆหน่อยเพราะพื้นที่บางส่วนที่ติดโครงการยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ ส่วนตัวโครงการมีรั้วสูง 3 ม.ต่อระแนงเพิ่มอีกจนสูงเกือบ 5 เมตรถือว่าสูงและช่วยป้องกันความปลอดภัยได้พอสมควร มีประตูรั้วให้ 2 ชั้นเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้า มี CCTV มาให้รวมแล้วประมาณ 30 จุด ก็คือติดที่ป้อมรปภ. ซุ้มทางเข้าออกและซอยในโครงการทุกซอย ส่วนตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยติดแบบ Shock Senser และ Magnetic Sencer ให้ทุกหลัง ถือว่ามีมาตรฐานดีในระดับหนึ่ง
การออกแบบโครงการจะเป็นแบบโครงการขนาดเล็ก พื้นที่โครงการไม่ใหญ่มากทำให้มีความเป็นส่วนตัวขึ้น มี Club House ให้ใช้ ผังโครงการก็ถือว่าจัดมาแบบไม่แน่นมากมีถนนตรงหลักตรงกลางและซอยย่อยแตกออกซ้ายขวาแบบก้างปลาจำนวนยูนิตต่อซอยก็ไม่มาก เพราะบ้านหลังใหญ่แทบทั้งนั้น เรียกว่าค่อนข้างสงบดีเลย สำหรับการออกแบบบ้านถือว่า AP ทำได้ค่อนข้างลงตัวดี ให้พื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นมาพอดีๆไม่มีพื้นที่แปลกๆเท่าไหร่ แถมจัดสวนมาให้ทั้งในตัวที่ดินบ้านและโครงการดูร่มรื่นดีค่ะ
วัสดุให้มาตามมาตรฐานแต่ก็ให้มาเยอะหน่อย พื้นชั้นล่างได้กระเบื้องแกรนิตโต้,พื้นชั้นบนได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ครัวได้ Built-in ชุดล่าง ท้อปเป็นหินแกรนิต สุขภัณฑ์ Cotto ฉากกั้นห้องน้ำมีติดมาให้ในห้อง Master Bedroom ห้องอื่นไม่มีฉากกั้น ทำ Low Wall มาให้วางของเพิ่ม แต่ไม่มีเคาเตอร์วางของในห้องน้ำมาให้นะ ซึ่งเรามองว่าราคาระดับนี้ควรจะมี ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวเชิงผนังดูเรียบร้อยสวยงามดี จัดสวนมาให้เต็มที่ ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง ที่จอดรถเป็นสแตมป์คอนกรีต ไม่ใช่คอนกรีตเฉยๆ ก็ถือว่าดีค่ะ ครัวก็ใช้เคาเตอร์กับอ่างล้างจานนอกบ้านมาให้ แถมติดพัดลมดูดอากาศเพิ่มมาให้ด้วย แต่พอเทียบกับราคาเริ่มต้นที่ 8.9 ล้านบาทก็ถือว่าให้มากลางๆค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ โดยรวมเป็นโครงการเล็กๆ ขนาดที่ดินไม่ใหญ่ พื้นที่สีเขียวก็ต้องบอกว่าไม่ได้เยอะเท่าไหร่ มีแค่ด้านหน้าที่จัดเป็นสวนหย่อมเอาไว้ให้ขนาดประมาณ 500 ตร.ว.และรอบบ้านกับตรงถนนหลักจะมีลงไม้พุ่มกับต้นไม้ต่างๆเอาไว้
สาธารณูปโภคมีทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness แต่ขนาดไม่ใหญ่มากถ้าจัดสรรเวลาดีๆน่าจะใช้กันได้แบบสบายๆ สวนหย่อมถือว่าให้มากำลังดีแต่ลงต้นไม้น้อยไปหน่อยถ้าลงเพิ่มมากกว่านี้จะช่วยให้ลูกบ้านมาใช้งานสวนได้คุ้มค่ามากขึ้น แต่อย่างว่านะคะ เนื่องจากโครงการนี้มียูนิตแค่ 82 ยูนิตเท่านั้นเอง ถ้าทำส่วนกลางมาใหญ่เยอะภาระค่าใช้จ่ายก็จะไปตกอยู่กับลูกบ้านนั่นแหละค่ะ ถ้าจ่ายกันครบทุกคนมีวินัยมีกำลังทรัพย์พอเพียงก็ไม่มีปัญหา สู้ทำมากำลังดีภาระไม่ต้องเยอะอยู่กันไปยาวๆแบบไม่ต้องเพิ่มค่าส่วนกลางมากนักคิดว่าลูกบ้านน่าจะสบายใจมากกว่า
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 9 – 15 ล้านบาท, 18 February 2015
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ไม่ได้ติดถนนใหญ่แต่ยังเดินทางสะดวกและห่างจากBTS บางหว้า 2.9 กม.
- ความปลอดภัย 8/10 – รั้วโครงการสูงร่วม 5 เมตร, Double Security Gate, สัญญาณกันขโมยทุกหลัง, CCTV 30 จุดติดทั่วโครงการ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – ออกแบบมาเน้นพื้นที่ส่วนรวมของบ้านเป็นหลัก
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของราคาระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – จำนวนยูนิตไม่เยอะ พื้นที่สีเขียวก็ไม่ได้ใหญ่ แต่ถนนและบรรยากาศในโครงการปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่นดี
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ครบทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness
- 7.65 / 10.00
BOTTOM LINE
The City ราชพฤกษ์-จรัญฯ13 เป็นโครงการสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านเดี่ยวในย่านจรัญสนิทวงศ์ที่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก ชอบอยู่โครงการที่มีขนาดเล็กไม่เน้นส่วนกลาง เน้นการใช้งานพื้นที่ในบ้านแบบส่วนรวมเป็นครอบครัวขนาดกลาง มีงบประมาณ 9 – 15 ล้านบาทและมีกำลังผ่อนต่อเดือน 69,000 – 110,000 บาท/เดือน
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ