รูปเปิดลงเวป

รีวิวฉบับที่ 1156 … สวัสดีครับ สัปดาห์ก่อนเราได้ไปพาชมทำเลโดยรอบของโครงการ The Base Garden พระราม 9 กันไปแล้ว “คลิกที่นี่เพื่อชมรีวิวทำเล” หลังจากนั้นไม่นาน Sale Office ก็เสร็จตามมาเป็นที่เรียบร้อย เลยรีบกลับไปเก็บรายละเอียดโครงการอีกครั้งเพื่อทำรีวิวฉบับเต็มให้นะครับ ยังไงก็ดูรายละเอียดตัดสินใจก่อนที่โครงการจะ Presale วันที่ 10-11 ก.ย. 59 ที่จะถึงนี้ครับ

Fact @ 22 August 2016

  • The Base Garden Rama 9 (เดอะ เบส การ์เดน พระราม 9)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางกะปิ แขวงหัวหมาก
  • คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 639 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 40%​ (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 3-2-39 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง Sep 2016
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Jun 2019
  • 1 Bedroom 26.5 – 34.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 49.75 – 55 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท หรือประมาณ 82,641 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ (AVG) ประมาณ 99,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.746599, 100.606064

map the base rama 9 (1 of 1)

แผนที่จากทางโครงการ The Base Garden พระราม 9 ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนหลักอย่างพระราม 9 ใกล้กับแยกรามคำแหง ในแผนที่แสดงถึงสถานที่สำคัญต่างๆโดยรอบโครงการเอาไว้ อย่างพวกห้าง คอมมูนิตี้มอลล์ ส่วนการเดินทางระบบรางที่ใกล้จะเป็น Airport Rail Link ราม คำแหงประมาณ 700 ม. ซึ่งไป transit เข้าเมืองเป็น BTS ที่สถานีพญาไทได้ หรือสามารถออกเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ครับ ห่างจุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช ประมาณ 1 กม. และห่างจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจนรงค์ ประมาณ 1.4 กม.

รีวิวพาชมทำเล The Base Garden พระราม 9 : “คลิกที่นี่”


แผนที่ระยะประชิดre

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

1. เรามาดูผังเรื่องวิวกันสักหน่อยนะครับ เริ่มจากฝั่งทิศเหนือ ซึ่งในระยะประชิดจะเป็น Facilities ของโครงการอย่างพวก Garden ชั้น 5 ชั้น 1 และสระว่ายน้ำครับ แต่แต่มองตรงไปที่ระยะประมาณ 40-50 เมตรเจอทางด่วนศรีรัชที่คาดว่าความสูงจะอยู่ที่ระดับชั้นประมาณ 5-7 นะครับ ถ้าอยากเอาพ้นหน่อยแนะนำชั้น 9 ขึ้นไปก็ปลอดภัยแล้ว แต่จะมีหลายคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องเสียงรถด้านหน้าที่ติดถนนใหญ่อย่างพระราม 9 และทางด่วน โครงการก็เลยจัดกระจกแบบหนาพิเศษเอาไว้ให้เพื่อทดแทนในส่วนนี้ครับไม่ต้องเป็นห่วง หลังจากพ้นทางด่วนไปวิวก็จะโล่งๆแล้วครับ จะเห็นอาคารสูงมีตึกเดียว คือพี่ชายของเรา The Base พระราม 9-รามคำแหง 😀

2. มาต่อที่ฝั่งทิศตะวันออก ฝั่งนนี้วิวเคลียไม่มีปัญหาเรื่องอาคารสูงมาบังวิว แต่ก็ยังไม่แน่เหมือนกันเพราะอนาคตมีที่ดินแปลงที่ถัดจากมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์ เป็นผืนที่ดินเปล่าของคนอื่นที่ดูจากรูปแปลงและขนาดสามารถขึ้นตึกสูงได้เหมือนกันครับ ฝั่งนี้ที่จะมีปัญหานิดหน่อยอาจจะเป็นเรื่องเสียงจากทางมัสยิดนูรุ้ลอิบาดะห์ มากกว่าซึ่งผมลองวัดระยะจาก Google map อาคารถึงมัสยิดระยะประมาณ 60-70 เมตรครับ ไกลกว่าระยะทางด่วยเสียอีก แถมได้กระจกหนาพิเศษมาช่วยก็ปลอดภัยหน่อย

3. ฝั่งทิศใต้ในระยะประชิดติดกับรั้วโครงการเราเลย เป็นชุมชุนอยู่อาศัยเยรูซาเล็มที่อยู่ติดกับคลองเขมร พอพ้นคลองเขมรไปมีที่ดินเปล่าอยู่แปลงนึงนะครับ ซึ่งก็พอพัฒนาเป็นอาคารหรือคอนโดได้อยู่(แต่ถ้าทำต้องเข้าออกผ่านทางซ.รามคำแหง 4) แต่ปัจจุบันวิวทุกอย่างยังโล่ง เคลียอยู่มองเห็นวิวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, เส้นทางรถไฟฟ้า ARL และสถานีรามคำแหง

4. สุดท้ายวิวฝั่งทิศตะวันตก ในฝั่งนี้ระยะใกล้จะเห็นวิวแยกรามคำแหง คนที่เลือกห้องไม่เกินชั้น 8 ก็จะเห็นวิวทางด่วนรามอินทราบล็อควิวในระยะ 100 เมตร แต่พอพ้นไปแล้ววิวจะค่อนข้างเคลียแล้ว จะแอบเห็นโครงการพี่ชายเรา The Base เก่า เยื้องๆทางขวามือ และเห็น โรงแรม Al Meroz และคอนโด ฟิวส์ โมเบียส รามคำแหง ในระยะประมาณ 3-4 ร้อยเมตร

รูปภาพโดรนประกอบ วิวฝั่งทิศเหนือ (วิวที่ 1) ประมาณความสูง 100 กว่าเมตร ที่ชั้นบนสุด ชั้น 36

รูปภาพโดรนประกอบ วิวฝั่งทิศตะวันออก (วิวที่ 2) ประมาณความสูง 100 กว่าเมตร ที่ชั้นบนสุด ชั้น 36

รูปภาพโดรนประกอบ วิวฝั่งทิศใต้ (วิวที่ 3) ประมาณความสูง 100 กว่าเมตร ที่ชั้นบนสุด ชั้น 36

รูปภาพโดรนประกอบ วิวฝั่งทิศตะวันตก (วิวที่ 4) ประมาณความสูง 100 กว่าเมตร ที่ชั้นบนสุด ชั้น 36

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สภาสถาปนิก ~ 200 ม.
  • Foodland ~ 500 ม.
  • ARL รามคำแหง + A Link  ~ 700 ม.
  • UM Tower ~ 700 ม.
  • โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา ~ 740 ม.
  • The Mall รามฯ ~ 820 ม.
  • Major Cineplex ~ 960 ม.
  • Big C ~ 1.3 กม.
  • Major Hollywood ~ 1.55 กม.
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 1.6 กม.
  • โรงเรียนสาธิตรามคำแหง ~ 1.9 กม.
  • สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ~ 2.6 กม.
  • โรงพยาบาลปิยะเวท ~ 3.2 กม.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3.4 กม.
  • RCA ~ 3.7 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

ก่อนจะเข้าไปดู Sale Office ผมจะพามาดูส่วนทางเข้าด้านหน้าอีกครั้งที่คราวก่อนมาเค้ายังปรับพื้นที่ฟุตบาทด้านหน้าไม่เสร็จนะครับ คราวนี้งามแล้ว  ไปดูกันเลย

พื้นที่ทางเข้าด้านหน้าโครงการ อยู่ใต้เสาของทางด่วนศรีรัชฝั่งเข้าเมือง เลยเป็นพื้นที่ของ กพท. นับตั้งแต่ริมถนนพระราม 9 ถอยร่นลงไป 30 เมตรและจะถึงรั้วของโครงการจริงๆครับ ซึ่งตรงนี้ทาง แสนสิริ ได้ขออนุญาตทาง กพท. รับดูแลแต่งสวนและทัศนียภาพเพื่อให้ทัศนียภาพที่ดีแก่ลูกบ้านและคนที่ผ่านไปมาแถวนี้ในคอนเซ็ปท์ของ Garden นั่นเอง

ริมฟุตบาท มีทางเดินคอนกรีตเป็นเส้นลวดลายต่อเนื่องเข้าไปด้านในโครงการ โดยมีสวนแนวพุ่มไม้ล้อมรอบ ระหว่างนั้นก็มีการลงต้นไม้ไซส์กลางเอาไว้ด้วย

ทางขวามือที่เห็นจะเป็นป้อมรปภ. นะครับ ซึ่งจริงๆแล้วทางเข้า-ออก หลักของโครงการก็อยู่ตรงนี้แหละ เท่ากับว่าแนวรั้วกำแพงโครงการจะเริ่มขนาดไปกับป้อมรปภ.นั่นเอง

ถัดจากในป้อมรปภ.เป็นส่วนของที่จอดรถ Visitor มาติดต่อเยี่ยมชมโครงการครับ หลังจากนั้นที่ดินจะถูกล้อมรั้วอีกชั้นเพราะเป็นเขตพื้นที่ก่อสร้างตัวอาคารแล้ว

กลับมาที่ทางด้านหน้าอีกครั้ง ที่เห็นอาคารกระจกใสล้อมรอบสวยๆ นั่นคือ Sale Office ครับ ซึ่งเจ้า Sale Office อนาคตไม่ได้ทุบนะครับ จะเป็นพื้นที่ของ Facility อย่าง Fitness นั่นเอง

ให้ดูอีกมุมจากด้านหน้าครับ ถ้าลองดูจาก Master Plan ประกอบจะรู้ว่าอาคารส่วนของ Fitness จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ และล้อมรอบไปด้วยสวนขนาดใหญ่

ด้านข้างของอาคาร Fitness ตรงนี้จะเป็น Terrace ที่เชื่อมต่อกับ kid pool, swimming pool, lawn

ยืนจากหน้า Sale Office มองออกไปที่ถนนใหญ่พระราม 9 มีการตกแต่งโรยด้วยหินกรวดขนาดเล็กเป็นรูปทรงอิสระโค้งไปมา

เดินมาจะเจอกับป้าย Signage โครงการตั้งเห็นเด่นชัด สีทองตัดขาว 😀

เข้ามาดูใน Sale Office กันบ้างครับ เข้ามาแล้วจะรู้สึกถึงความสูงโปร่งเพราะมีผนังกระจกที่สูงเกือบถึงเพดาน พื้นตกแต่งเป็นกระเบื้องลายหิน

ทางขวามือเป็นที่ตั้งของโมเดลโครงการ ซึ่งเดี๋ยวผมกลับพามาดูอีกทีนะ

ทางซ้ายมือจัดเป็นที่นั่งรับแขกขนาดใหญ่ยาวต่อเนื่องทั้งหมด กระจกบานใหญ่ข้างหลังอลังการมาก ตรงส่วนนี้อย่างที่บอกว่า อนาคตถ้าเป็นห้อง Fitness แล้ว เราออกกำลังกายไปจะได้วิวสระ freeform ขนาดใหญ่ พร้อมทั้งสวนอีกด้วย (ข้างล่างมีรูปภาพจำลองประกอบ)

เคาน์เตอร์ Reception ตกแต่งผนังลายไม้ ตัดกับหินอ่อนนำเข้าที่ลวดลายต่อเนื่องกันสวยงามตามสไตล์แสนสิริ ซึ่งหินอ่อนแบบนี้เดี๋ยวจะมีใช้ไปแต่งผนังอีกส่วนในส่วนของห้อง Facility อย่าง Library หรือ Multi Purpose Area

ที่นั่งรองรับลูกค้า อีกมุมนึงครับ

หน้าตาห้องน้ำภายใน Sale Office ก็ดูดีนะ โทนสีดำขรึม กรุด้วยหินจริงแผ่นเล็กหน้าตาแบบนี้

ที่นี่จัดห้องตัวอย่างเอาไว้ 2 แบบนะครับ เดี๋ยวรอดู part ด้านล่าง

ภาพจำลองบรรยากาศโดยรวมของโครงการ

ภาพจำลองมุมมองจากห้องพักสู่พื้นที่ Facilities ชั้นล่างของโครงการ

การจัดเอาสวนขนาดใหญ่นำเอาพื้นที่สีเขียวมารวมกัน ด้านหน้าโครงการเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงและเป็นกำแพงที่บล็อควิวความวุ่นวานจากถนนหลักด้านนอกอีกด้วย เหมาะกับการพักผ่อน เดินเล่น ได้เต็มที่และมีความส่วนตัวจากภายนอก

ภาพจำลองบรรยากาศภายในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ที่ชั้น 1 มุมนี้จะเห็นอาคาร Fitness ที่อยู่ติกับ Terrace เชื่อมต่อกับสระ Freeform ล้อมรอบไปด้วยสวนต้นไม้ใหญ่ และมีบ้านต้นไม้ด้วยล่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ อีกมุมนึงครับ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Fitness (ซึ่งปัจจุบันเป็น Sale Office จะเห็นว่าโครงการสร้างออกมาได้เหมือนจริงพอสมควร)

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ของโครงการ เป็นพื้นที่ Double Volume สูงโปร่งขนาดใหญ่ ผนังกระจกสูงเต็มบาน และมีโคมไฟแชนเดอเรีย รูปแบบสายฝนเป็นเส้นๆมาตกแต่งให้ดูโอโถ่ หรูหราสำหรับรองรับแขก

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Multi Purpose Area ตรงกลางมีการตกแต่งผนังด้วยหินอ่อนแบบที่เราเห็นใน Sale Office ไปแล้ว แต่มีการเลือกลายให้มาบรรจบกันออกมาเป็นรูปตัว X แบบนี้

โมเดล1

มาดูโมเดลโครงการกันบ้างครับ โครงการ The Base Garden พระราม 9 การออกแบบโครงการ โครงการใช้โทนสีอาคารแดงอิฐเป็นหลัก ซึ่งจะดูตัดกันอย่างมากกับกระจกตัดแสงที่สีน้ำเงิน ความหนาแน่นจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 639 หรือที่ประมาณ 19-20  ยูนิต/ชั้น ซึ่งก็ไม่มากไม่น้อยครับปานกลาง แต่มีการจัดวางอาคารเป็นรูปตัว Z เลยทำให้ไม่ต้องเห็นกันเองมากนักเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนการออกแบบห้องพักอาศัยนั้นที่นี่จะมีแบ 1-2 Bedroom แต่จะมี Type ห้องที่ซอยย่อยออกไปหลากหลายแบบ รูปแบบและต่างฟังก์ชั่นให้เลือกสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการต่างกันไปอีกด้วย

โมเดล2

ด้านหน้าโครงการติดถนนพระราม 9 ทางเข้าโครงการอยู่ทางขวาใกล้กับแยกรามคำแหงครับดูจากภายนอกโครงการจัดสวนและลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้ใหญ่เยอะมากตาม Concept Graden

โมเดล3

เข้ามาแล้วที่นี่เดินรถแบบสวนทางกันได้นะครับ พื้นที่ด้านนอกอาคารด้านหน้าจัดเป็น Facilities ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยอาคาร Fitness เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำแบบ Freefom ขนาดประมาณ 5 x 23 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก และสวนล้อมรอบ(มีบ้านต้นไม้ด้วย) และมีสวนอีก 2 จุดที่ชั้น 3 และชั้น 5 ที่จอดรถมีแบบกลางแจ้งและจอดในอาคารได้ถึงชั้น 4 จอดได้ 40% (ไม่รวมซ้อนคัน)

โมเดล4

ด้านหลังก็จะมีส่วนของ Faci;ity อีกจุดคือสวนฝั่งทิศใต้ที่ชั้น 5 ครับ

โมเดล5

ฝั่งนี้จะเป็นที่จอดรถกลางแจ้งทั้งหมด และจะเห็นว่ามี Retail 1 unit ที่เป็น Shop ร้านค้าแต่ยังไม่คอนเฟิร์มว่าเป็นเจ้าไหน

โมเดล9

Logo The Base ถูกติดไว้อยู่ที่ด้านบนชั้นดาดฟ้าเป็นสัญลักษณ์เห็นเด่นชัด

masterplanกดคลิกที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่

ผังโครงการชั้น 1 การเดินรถของที่นี่สามารถสวนกันสองเลนได้เข้าออกผ่านทางเดียวเท่านั้น มีที่จอดรถด้านนอกอาคารแบบกลางแจ้งตีเส้นจอดเอาไว้ให้ และที่จอดรถในตัวอาคารที่จอดได้ไปถึงชั้น 4 ครับ ที่จอดรถ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) จากนั้นพื้นที่ด้านนอกอาคารด้านหน้าจัดเป็น Facilities ขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยอาคาร Fitness เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำแบบ Freefom แยกสระเด็ก และสวนล้อมรอบ(มีบ้านต้นไม้ด้วย)

เข้ามาในอาคารเป็นพื้นที่ของ Lobby แบบ Double Volume ติดกันจะเป็น Multipurpose Area แบบหน้ากว้างที่รับวิวส่วนกลางกลางแจ้งด้านนอก และก็มีส่วนของ Retail 1 ยูนิตขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการแจ้งว่าพยายามจะดิวให้เป็น Shop ร้านค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแต่ยังไม่คอนเฟิร์มเพื่อให้อำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้านอยากจะทานอะไรเบาง่ายๆไม่ต้องออกไปนอกโครงการ  ลิฟต์โดยสารของที่นี่มีทั้งหมด 4 ตัว และมี Service Lift อีก 1 ตัว อัตรส่วนความหนาแน่นลิฟต์จะอยู่ที่ 639 : 4 หรือ 160 : 1 ซึ่งก็อยู่ในเรทปานกลางไปทางจะสูงนิดหน่อย

ผังอาคารชั้น 5 เป็นชั้นที่มีทั้งห้องพักอาศัยและพื้นที่สวนส่วนกลาง ซึ่งจะแบ่งพื้นที่สวนออกเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งที่หันไปทางด้านหน้าโครงการ และฝั่งที่หันไปทางด้านหลังโครงการ ตัวอาคารเป็นรูปตัว Z จึงมีปีกอาคาร 2 ฝั่ง โถงลิฟต์จะอยู่ค่อนมาทางปีกด้านหลัง (ช่องแสงที่ส่องมา Corridor จะอยู่ที่ปีกอาคารและติดกับโถงลิฟต์มีทั้งหมด 3 จุดครับ) ห้องพักอาศัยในชั้นนี้มีทั้งหมด 19 ห้อง มีจำนวนน้อยกว่าในชั้นอื่นๆอยู่ 1 ห้อง แบ่งเป็นห้อง 1  Bedroom 17  ห้อง และห้อง 2  Bedroom 2 ห้อง(สีส้ม)

ผังอาคารในชั้นอื่นๆจะคล้ายกับผังอาคารในชั้น 5 เลยนะครับ ต่างกันที่ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไปจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น แต่ละชั้นจะมีห้องพักอาศัย 20 ห้อง เป็นแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 26.5-34.75 ตร.ม. 18 ห้อง และแบบห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.75-55 ตร.ม. 2 ห้อง

นอกจากนี้ห้องพักในแต่ละชั้นจะมีขนาดที่แตกต่างกัน เช่น ห้อง 2  Bedroomที่ชั้น 7 จะมีขนาดใหญ่สุด 55 ตร.ม. ในขณะที่ชั้น 6 จะมีขนาดใหญ่สุด 53.5 ตร.ม. จากรูปจะเป็นผังอาคารชั้น 6, 9, 12 ครับ

map the base rama 9 (4 of 4)

ผังอาคารชั้น 7, 10

ผังอาคารชั้น 8, 11

ผังอาคารชั้น 13

ผังอาคารชั้น 14

ผังอาคารชั้น 15, 18

ผังอาคารชั้น 16, 19, 22

ผังอาคารชั้น 17

ผังอาคารชั้น 20, 23

ผังอาคารชั้น 21, 24

ผังอาคารชั้น 25

ผังอาคารชั้น 26

ผังอาคารชั้น 27, 29, 31, 33, 35

ผังอาคารชั้น 28, 30, 32, 34, 36

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำแบบ Freeform ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 23 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร แยกสระเด็กด้านข้าง
  • ห้องออกกำลังกาย ขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ n/a เครื่อง
  • Lobby Double Volume ผนังกระจกบานใหญ่ แชนเดอเรียลายสายฝนขนาดใหญ่
  • พื้นที่ Multi Purpose Area รับวิว สระและสวนส่วนกลางด้านนอก
  • Retail Shop 1 ยูนิต (ยังไม่คอนเฟิร์มเป็นร้านค้าอะไร)
  • สวนส่วนกลางและพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง และมี Tree House
  • สวนบริเวณชั้น 5 สองสวนฝั่งด้านหน้า(ทิศเหนือ) และด้านหลัง(ทิศใต้)
  • อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับโถงพักคอยและชั้นสระว่ายน้ำ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ระบบ Access Card
  • ที่จอดรถ 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว, Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 160 : 1
  • บริการพิเศษอื่น : แสนสิริ แฟมิลี่
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

ห้องตัวอย่าง Type แรกที่จะพาไปดู คือห้อง 1 Bedroom Type 1B ขนาด 31-31.5 ตร.ม. โครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว ฉากกั้นทุดส่วน แอร์โถงและห้องนอน ครัวชุดเต็ม ให้ของวัสดุที่ค่อนข้างดี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร

แปลนของห้อง เปิดมาจะเจอกับ Living Area ขนาดค่อนข้างกว้าง วางโซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลางโต๊ะข้างได้ปกติ ติดกันเป็นส่วนของห้องครัว ที่ได้ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ครัวเลยเป็นครัวปิดที่มีพื้นที่ทานอาหารแบบโต๊ะ 2 ที่นั่งเอาไว้ด้วย ด้านนอกติดกันเป็นระเบียง ที่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้และแอร์แขวนด้านบน 2 ตัวหันลมร้อนออกนอกอาคาร  ส่วนของห้องนอน มีพื้นที่วางฟังก์ชั่นใช้งานครบแต่ว่าต้องเอาเตียงชิดผนังเอาไว้ฝั่งนึง ช่องแสงที่นี่ได้แบบจากพื้นเกือบจรดฝ้าเพดานสูงสะใจ แต่ห้องน้ำต้องออกมาใช้ด้านนอกร่วมกับห้องนั่งเล่น ซึ่งได้ฉากกั้นอาบน้ำเก๋ๆเป็นบานเลื่อน 3 ตอนเหมือนกัน ไปดูกันเลยดีกว่า

ด้านหน้าห้องตัวอย่างมีป้ายเพลทสีทองสลัก Room Plan เอาไว้ กรอบลายไม้สวยงาม ห้อง Type 1 B

บานประตูเป็นลายไม้สีโทนเข้ม หน้าตาแบบนี้ มีเจาะรูของตาแมวเอาไว้ให้

และ Digital Door Lock ของ Samsung รุ่นแบบที่กดรหัสและแตะ Keycard ได้ แบบนี้เป็นมาตรฐาน

เข้ามาแล้วเป็น Living Area ขนาดที่เหมาะสมกับห้อง 1 Bed คือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

มองย้อนกลับไปประตูทางเข้าครับ ทางซ้ายบนเป็นตำแหน่งของแอร์ (Trane) ที่เราจะได้ด้วยนะครับ ส่วนทางขวามือหลังประตูมีพื้นที่ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าแบบจริงจังและเก็บได้เยอะได้ ตรงตู้นี้เราไม่ได้นะครับ **แต่ว่าเป็นชิ้นหนึ่งใน Furniture Package ที่โครงการสามารถรับทำให้ได้และซื้อได้ สามารถสอบถามกับเซลล์ได้นะ

พื้นที่วางโซฟา ถ้าเราอยู่แบบ 2 คน ก็จัดแค่แบบ 2 ที่นั่งพอ เป็นรูปตัว I หรือ ตัว L ก็ได้ ไม่บังประตูทางเข้าครับ และจะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือวางโต๊ะข้างได้ด้วย

ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.20 เมตร ซึ่งถ้าเราทำตู้ชั้นวางรองเท้าด้านข้างแบบนี้แล้ว จะเหลือพื้นที่บริเวณชั้นวางทีวีความกว้างแค่ประมาณเมตรเดียวนะ ด้านบนถ้าอยากใช้พื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่า ก็จัดเป็นพื้นที่ชั้นวางแบบติดผนังไปเลย ด้านข้างเป็นประตูห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับห้องนอน

ให้ดูเป็นไอเดียจากโครงการ ตู้รองเท้า ทำเป็นแบบนี้ดีนะครับ มีการจัดเก็บแยกเป็นช่องๆ วางร่ม ของใช้ แขวนกุญแจ อะไรจิปาถะ

ส่วนต่อไปดูครัว ซึ่งได้บานกระจกฉากกั้น 3 ตอน พอเปิดออกสุดแล้วเป็นแบบนี้ ทำให้ยกของใหญ่ผ่านเข้าไปได้ และเดินไปมาได้สะดวก

เวลาปิดจะเป็นแบบนี้ครับ

รางของบานเลื่อนจะอยู่ที่ด้านล่างระดับเสมอกับพื้นนะครับ วงกบจะเป็นอลูมิเนียมพาวเดอร์โค๊ทสีออกเทาเข้มผิวด้าน

ครัวนี้เป็นครัวปิด ที่เป็นพื้นที่ทานอาหารในตัวด้วย 2 ที่นั่ง

ทางขวาเป็นพื้นที่ของวางตู้เย็น ความกว้างประมาณ 80 ซม.

ติดกันด้านข้างเป็นชุดครัวที่ได้แบบนี้เลยครับ เดี๋ยวมาเจาะกันทีละส่วน

ด้านบนเป็นชุดตู้มีหน้าบานปิด เป็นกระจกใสสีชาดำมองทะลุเข้าไปได้นิดหน่อย

พอเปิดออกแล้วเป็นแบบนี้ เป็นชั้นเก็บ แจ่ว่าด้านในมีตู้ส่วนของเบรกเกอร์ไฟอยู่ในตู้

ครัวววววว บอกเลยว่าประทับใจมาก ผนังด้านหลังติดกระเบื้องสีดำเอาไว้ให้กันในส่วนเวลาทำอาหารแล้วกระเด็นไปเลอะเทอะ ชัดได้ง่าย

ตรงนี้มีติดตั้งราวเหล็กจุดแขวนแบบนี้เอาไว้ให้ เผื่อใช้งานแขวนพวกอุปกรณ์ประกอบอาหาร

อ่างล้างจาน ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ลึกได้พอสมควรของ Mex และได้ Hob & Hood แบบเซรามิค 2 หัวของ Mex เช่นกัน

**จุดที่เด่นที่สุดคือโครงการจัด Top ครัว เป็นกระเบื้องพอร์ชเลนขนาดใหญ่เป็นผืนเดียวกันหมดไม่มีรอยต่ออะไรเลย อย่างห้องไซส์ 1 Bed ยาวประมาณเมตรครึ่ง กระเบื้องแบบนี้เป็นแบบที่ผมเคยเขียนบทความของ Cotto คือ Grande Collection ลองอ่านดูได้ครับ “ที่นี่”

ด้านล่างมีช่องเก็บไมโครเวฟที่เหลือเป็นหน้าบานปิดเป็นสัดส่วน

ช่องเก็บของก็มีแบบลิ้นชักและบานเปิด เป็น Soft Close

กลับหลังหันมองพื้นที่โต๊ะทานอาหาร ที่วางเก้าอี้แบบ 2 ที่นั่งเอาไว้ ผมลองกางเก้าอี้ออกมาระยะประมาณใช้งานจริง ก็ไม่ติดผนังกระจกอะไรใช้งานได้จริง

ส่วนของทางออกไปครัวเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเช่นเดียวกัน ตรงนี้จะเป็นธรณีก่อสร้างสูงขึ้นมาหน่อยประมาณ 10 ซม.กว่า(รวมวงกบ) กันในส่วนของเวลาฝนตกหนักจะได้ไม่สาดเข้ามาในพื้นที่ในห้องครับ

พอลองเปิด 2 ตอนออกแล้ว จะได้ระยะความกว้างเข้าออกประมาณ 80 ซม. ครับ พอดีให้เครื่องซักผ้าผ่านไปได้แบบเฉียดฉิว

พื้นที่ของระเบียงขนาดประมาณ 1.10 x 2.10 เมตร ซึ่งพอวางเครื่องซักผ้าลงแล้ว ก็พอเหลือยืน เดิน ได้นิดหน่อยสำหรับตาก แขวน ทำงานบ้านได้ ราวกันตกเป็นแบบโครงเหล็กโปร่ง สูงประมาณ 1.10 เมตร เชื่อมต่อกันเป็นรูปทรงตัว L

ชุดแอร์ที่ได้เป็นของ Trane 2 ตัว สำหรับห้อง Type นี้นะครับ โดยแขวนผนังด้านบนเอาไว้และมีการติดกริลล์บังคับทิศทางลมให้หันลมร้อนออกไปด้านนนอกอาคาร แบบนี้ และอยู่ด้านหลังส่วนที่เป็น โครงเหล็ก ซึ่งเวลาเรามองจากด้านนอกอาคารมาจะไม่เห็นคอมแอร์เต็มๆ ทำให้ดูสะอาดตา เรียบร้อย

มาดูส่วนของห้องนอนกันบ้าง ห้องนอนไม่ได้ใหญ่มากนะครับ แต่ถ้าจะวางเตียง King Size ก็ยังพอได้อยู่ โดยพื้นที่รอบเตียงทั้ง  3 ด้านจะเหลือแค่พอเดินคือประมาณ 40-60 ซม.เท่านั้น

ฝั่งขวาพอเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้ แต่ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้านะครับ เอาไว้ให้เดินไปมา

ตู้เสื้อผ้าก็เป็นส่วนนึงของ Furniture Package โครงการที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้ ถ้าคิดจะทำเองก็เอาสูงจรดเพดานไปเลยนะ ส่วนของตำแหน่งแอร์จะอยู่บนเหนือประตูตรงนี้ครับผม

ด้วยระยะที่ค่อนข้างฟิคแล้ว ถ้าจะดูทีวีต้องทำแบบติดผนังแบบนี้เท่านั้น และไม่ควรติดเป็นชั้นวางยื่นออกมา จะทำให้เดินไปมาลำบาก

หน้าต่างช่องแสงในห้องนอน มาแอบประทับใจกับเดอะเบส ที่อัพให้สูงแบบจากพื้นเกือบถึงฝ้าเพดาน สูงแบบนี้ ตำแหน่งอยู่กลางห้อง โดยรูปแบบจะเป็นบานฟิคตัว L และเปิดออกได้จุดเดียวทางขวาบน เป็นแบบบานกระทุ้งครับเปิดออกได้ประมาณ 30 องศา

** เสริมเรื่องของวัสดุ คือว่าโครงการนี้อยู่ค่อนข้างใกล้กับถนนใหญ่และทางด่วน ทางโครงการเลยจัดกระจกฉนวนความร้อน (Insulating Glass) โดยการนำกระจก 2 แผ่น มา ประกอบกันโดยมีเฟรมอลูมิเนียมคั่นกลาง ป้องกันการถ่ายเทความร้อนระหว่างภายในกับภายนอกอาคารและ ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ไม่ทำให้เกิดฝ้าหรือหยดน้ำ แม้ว่าอุณหภูมิภายในกับภายนอกแตกต่างกันมาก [แต่ว่าให้เฉพาะห้องนอนเท่านั้นครับ]

ออกมาดูห้องน้ำด้านนอกกันบ้างเริ่มจากพื้นก่อน โครงการเลือกเป็นพื้นกระเบื้องลายไม้ที่มีความกว้างแบบ 20 ซม. ทำให้ดูเหมือนไม้จริง ส่วนของผนังที่ตัดกันมีทั้งกระเบื้องผิวด้านสีดำและสีขาวสองฝั่งสลับกัน ในส่วนของห้องน้ำจะมีงานระบบด้วยความสูงจะเหลือแค่ 2.40 เมตรครับ และพื้นของห้องน้ำจะลดระดับลงจากห้องโถงประมาณ 3 ซม.

หน้าตาของอ่างล้างมือ(ไม่มีชุดตู้ใต้อ่าง) และสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard ทั้งหมด โดยมีระยะวางตำแหน่งการใช้งานต่างๆเป็นมาตรฐาน

ห้องน้ำนั้นแยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียกเอาไว้ชัดเจน โดยส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะได้เป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนแบบนี้มาให้ ดูแปลกดีแต่ผมชอบนะ

ตรงส่วนที่แยกพื้นที่จะเป็นธรณีที่ก่อสูงขึ้นมาหน่อยนะครับ เวลาเดินเข้าออกส่วนนี้ก็ระวังสะดุดนิดนึง ที่ทำแบบนี้เพราะไม่ต้องกลัวน้ำกระเซ็น หรือเอ่อล้นข้ามมาส่วนแห้งแน่นอน

ที่ผนังมีการเซาะร่องแบบนี้เอาไว้ให้วางพวกอุปกรณ์อาบน้ำ ส่วนของชุดฝักบัวก็ได้ของ American Standard เช่นกัน ซึ่งสามารถปรับรูปแบบของน้ำได้

ในห้องน้ำได้โคมไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมหลอด LED 2 ดวง และมีติดตั้งพัดลมดูดอากาศและความชื้นไว้ให้ครับ

ทีนี้ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูอีกแบบคือแบบ 2A ขนาด 53.50 ตร.ม. ซึ่งดูจาก Floor Plan แล้ว ห้องแบบนี้มักจะอยู่ตามมุมของอาคาร เลยสามารถจัด Bay Window(หน้าต่างเข้ามุม) ที่ห้อง Master Bedroom ได้

แปลนห้องแบบนี้ เริ่มจากเข้ามาในห้องจะเจอกับโซนรับประทานอาหารก่อน สามารถจัดโต๊ะแบบ 4-6 ที่นั่งได้ ซึ่งพื้นที่นี้จะเชื่อมต่อกับ Living Area เลยทำให้ดูโปร่งโล่งพอสมควร ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นด้านนอกจะเป็นระเบียงขนาดค่อนข้างกว้างเลยใช้งานได้เต็มที่ จะเห็นว่าห้องนี้ถูกแยกระเบียงการใช้งาน 2 ส่วนชัดเจนอีกจุดนึงจะอยู่ถัดด้านนอกจากพื้นที่ครัวปิด ซึ่งครัวห้องนี้จะออกเป็นแนวยาวครับผม น่าเสียดายนอดหน่อยที่ห้องนี้เป็นแบบ 2 Bed 1 Bath ที่ต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่ด้านนอกร่วมกับโถงนะ

**ก่อนเข้าไปในห้องดูแปลนกันสักนิดนึงนะครับ คือทาง interior design ที่นี่เค้าจัดห้องตัวอย่างไม่เหมือนกับแปลนห้องเดิมที่เป็น 2 Bed 1 Bath แต่จัดเป็น 1 Bed ขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนห้องนอนเล็กเป็นพื้นที่ Walk In Closet แทนครับ

เริ่มจากเข้ามาในห้องจะเจอกับโซนรับประทานอาหารก่อน

สามารถจัดโต๊ะแบบ 4-6 ที่นั่งได้ เดินไปมาได้รอบโต๊ะ ซึ่งพื้นที่นี้จะเชื่อมต่อกับ Living Area เลยทำให้ดูโปร่งโล่งพอสมควร

พื้นที่นั่งเล่นรับแขก อันดับแรงที่สะดุดตาคือช่องแสงขนาดใหญ่ ที่ส่องผ่านเข้ามาในห้อง ความกว้างกระจกผนังถึงผนัง ความสูงประมาณ 2 เมตร

ขนาดของโซฟาที่เลือกมาวางแล้วแต่ว่าจะเอาแบบ 2-3 ที่นั่ง มีระยะวางได้

ระยะดูทีวีประมาณ 2.50 เมตรครับ ผนังด้านนี้สามารถ Built-In ใช้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้คุ้มค่าแล้วแต่เจ้าของห้องชอบตกแต่งแบบไหนครับ

ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ขนาดใหญ่ ที่ด้านนอกออกไปเป็นพื้นที่ระเบียง

ลองเปิดบานเลื่อนออกให้ดูด้านนึง จะเห็นว่าบานกระจกเป็นออกสีน้ำเงิน พื้นที่ของระเบียงค่อนข้างกว้างมากประมาณ 1.10 x 3 เมตร ซึ่งพื้นที่นี้สามารถใช้เป็นพื้นนั่งเล่นกลางแจ้งยามเย็นอีกส่วน หรือจัดเป็นสวนกระถาง หรือสวนแขวนแนวตั้งก็ได้นะครับ

พื้นที่ระเบียงมีติดไฟไว้ให้ 1 จุด และมีเจาะผนังไปเชื่อมออกยังเดรนระบายน้ำที่ระเบียงอีกส่วนนึงที่อยู่ฝั่งครัว

มองย้อนกลับไปในห้องครับ เดี๋ยวจะไปดูส่วนของห้องครัวกันต่อ

ห้องครัว ได้ประตูกระจกฉากกั้นเป็นบานเลื่อนแบบนี้ ทำให้เป็นครัวปิดแยกการใช้งาน เวลาทำอาหารไม่ต้องกลัวกลิ่นจะเข้ามารบกวนครับ เปิดเข้าไปแล้วจะเจอกับพื้นที่ วางตู้เย็นและด้านข้าง **เป็นชุดตู้ Built In เก็บของใช้ เฉพาะห้อง Type 2A นี่เราได้ตู้นี้เป็นมาตรฐานด้วยครับ ดีเลย 😀

รูปแบบฟังก์ชั่นข้างในมันก็คือตู้เก็บรองเท้าแบบที่เราเห็นก่อนหน้าในห้อง 1 Bedroom นั่นเอง

พื้นที่ครัว มีระยะทางเดินที่กว้างประมาณ 90 ซม. นะครับ ที่เหลือเป็นชุด Pantry ครัวทั้งหมดแนวยาวไปเลย ประมาณ 2 เมตร

เริ่มจากด้านบนกันก่อน เป็นชุดตู้หน้าบานกระจกชาดำเช่นเคยยาวต่อเนื่อง

รูปแบบครัวเหมือนกับห้องก่อนหน้า แต่จะมีพื้นที่เตรียมอาหารที่กว้างขึ้น ห้องนี้ทำให้ Top ครัวที่เป็นกระเบื้องพอร์ชเลนขนาดใหญ่ไร้รอยต่อเด่นขึ้นมามาก เพราะว่าพื้นที่ยาวถึง 2 เมตร

ด้านล่าง มีช่องวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าเอาไว้ตรงนี้ครับ ที่ต้องเอาเครื่องซักผ้าไว้ในห้องเพราะว่าด้านนอกเดี๋ยวต้องวางคอมแอร์ฯ 3 ตัวนั่นเอง

มีชุดตู้ใต้อ่างอีกจุดนึงครับ

รูปแบบประตูระเบียงเหมือนกับห้องก่อนหน้านะ

ขนาดของพื้นที่ระเบียง(ไม่รวมวางแอร์) คือ 1.10 x 1.70 เมตรครับ ห้อง Type นี้จะได้แอร์ทั้งหมด 3 ตัว

แอร์ชิดผนังฝั่งขวาเอาไว้แบบนี้ ของ Trane เหมือนกันทั้ง 3 ตัว แต่ส่วน Living จะได้ BTU ที่มากหน่อย

ออกมาดูห้องน้ำที่อยู่ติดกับโซนรับประทานอาหารกันบ้าง พอเข้ามาแล้ว หน้าตานั้นเหมือนกับห้อง 1 Bed

ฉากกั้นเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเช่นเดียวกัน พื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1.30 x 1.0 เมตร

ชุดฝักบัว AME

ตำแหน่งของผนังที่เจาะช่องเอาไว้วางของใช้อยู่ทางขวามือแบบนี้ได้ช่องที่ใหญ่ปริมาตรมากกว่า

ทีนี้เข้ามาดูส่วนของห้องนอนกันบ้าง แปลนเดิมห้องนี้คือห้องนอนใหญ่นะครับ เข้ามาแล้ว พื้นที่ค่อนข้างโปร่งโล่ง จัดวางตำแหน่งเฟอร์เอาไว้แบบไม่อึดอัด

เตียงวางแบบ King Size ได้สบายๆ ห้องตัวอย่างเค้าทำฝ้าเล่นระดับเพื่อหลบรางม่านเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดียนะ

ระยทางเดินปลายเตียงถึงแม้จะติดตั้งชั้นวาง Built-In แบบนี้แล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 60 ซม. ซึ่งส่วนนี้เราสามารถทำเป็นชั้นโชว์ตามความชอบเจ้าของห้องได้เลย

ระยะด้านข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่งเหลือวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้ทั้งคู่

ช่องแสงของห้องนอน Master นี่เรียกว่าจุใจกันไปเลยกว้างเต็มผนัง สูงเกือบจรดฝ้าเพดาน

ตัวของหน้าต่างบานกระทุ้งตรงกลางสองบานที่เปิดออกได้ เค้าฟิคไว้ว่าเปิดได้แค่ประมาณ แค่นี้ครับเพื่อความปลอดัย

จุดเด่นของห้อง Type นี้คืออย่างที่บอกไปว่ามักจะอยู่ตำแหน่งตามมุมอาคาร เลยจัดเป็น Bay Window ที่เอาไว้รับวิวเมืองได้มุมมองที่กว้างกว่า แต่ก็เลือกใช้ม่านแบบที่เหมาะกับหน้าต่างเข้ามุมด้วยนะครับจะได้ใช้ประโยชน์ของมันอย่างเต็มที่ 😀

interior design ของโครงการจัดเอาผนังออกเปลี่ยนห้องนอนเล็กให้กลายเป็นพื้นที่ walk in closet กั้นส่วน ด้วยบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่เต็มผนัง ซึ่งการแต่งห้องแบบนี้ผมว่าก็เป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนที่มีจำนวนสมาชิกอยู่อาศัยน้อย อยากได้ห้องใหญ่ ไม่ได้อยากได้ 2 Bed นะครับ

พอเปิดออกไปแล้ว ข้างในก็เป็นฟังก์ชั่นของการแต่งตัวแบบเต็มที่

ไอเดีย Walk in Closet จากทางโครงการครับ แต่ออกมาได้สวยทีเดียว มีการใช้ไฟ และฉากกั้นกระจกมาช่วย ทำให้ดูน่าใช้ง่าย

ส่วนที่ติดกับผนังช่องแสงจัดวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ที่จะได้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้

รูปแบบของช่องแสงจะเหมือนกันกับห้องนอน 1 Bed ก่อนหน้าครับ

แปลนห้องอื่นๆ

นอกจากนี้โครงการ The Base Garden พระราม 9 ยังมีห้องหลากหลายรูปแบบและต่างฟังก์ชั่นให้เลือกสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการต่างกันไปอีกด้วย สามารถดูแปลนห้องเพิ่มเติมที่ทาง Official Website โครงการ “คลิกที่นี่”

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 August 2016

  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ขนาด 26.5 ตร.ม. หรือประมาณ 82,641 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ (AVG) ประมาณ 99,000 บาท/ตร.ม.
  • ส่วนของราคาต้องรอราคารายห้องอีกที วัน Presale 10-11 ก.ย. 2559 นี้นะครับ

  • Fully Fitted (ได้ชุดครัวทั้งหมด, ฉากกั้นครัวปิด, ฉากกั้นอาบน้ำ, แอร์ 2-3 ตัวแล้วแต่ห้อง)
  • Digital Door Lock Samsung
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • Kitchen & Sink (Top กระเบื้องพอร์ชเลนขนาดใหญ่ไร้รอยต่อ)
  • Hob & Hood (แม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว MEX)
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

Promotion Presale

  • ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า 1BR 4 ชิ้น : (ทีวี 40″, ตู้เย็น, ไมโครเวฟ, เครื่องทำน้ำอุ่น)
  • 2BR 5ชิ้น: ได้เพิ่ม ทีวี32″
  • หรือหากไม่เอาเครื่องใช้ไฟฟ้าลูกค้าสามารถเลือก ระบบ Home Automation ได้ครับ

Furniture Package (ที่สามารถสั่งทำเพิ่มกับโครงการได้)

furniture

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

**โครงการจะ Presale วันที่ 10-11 ก.ย. 59

 


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลโครงการตั้งอยู่บนถนนรามพระรามเก้า เกือบติดกับแยกรามคำแหงเลย ซึ่งเป็นแยกระหว่างถนนพระราม 9 และถนนรามคำแหง ซึ่งเป็นย่านที่มีทั้งสำนักงานใหญ่และคอนโด High Rise ตั้งอยู่หนาแน่น โดยบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในแถบนี้จะไม่ได้เจริญหรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเมื่อเทียบกับย่านรามคำแหงที่เลยสี่แยก(แถวหน้าม.ราม)นะครับ แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่เดินทางไปในเมืองได้สะดวกทีเดียว บริเวณนี้เป็นย่านมุสลิมเก่าที่เป็นชุมชนอยู่กันมานานแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านเดี่ยวที่ไม่ได้จัดสรรอยู่กันตามซอยเล็กซอยน้อย ที่ติดริมถนนนั้นพอจะเห็นออฟฟิศขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมทั้งโชว์รูมรถยนต์เปิดกันให้เห็นอยู่ประปราย จะมีตึกใหญ่หน่อยก็อย่างตึก UM Tower ที่อยู่ใกล้ๆแยกคลองตันครับ โดยรวมแล้วไม่ได้เป็นทำเลที่หวือหวามากนักแต่เมื่อมีระบบรางอย่าง Airport Rail Link รามคำแหง มาลงใกล้ๆ จึงทำให้มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นในรัศมีใกล้ๆสถานี

สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในรัศมีไม่ไกลจากโครงการ ส่วนใหญ่จะอยู่แถบแยกคลองตันที่มีเจ้าเด็ดๆ หลายร้านอยู่เหมือนกันครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารที่ขายในช่วงเวลากลางวัน หรือช่วงกลางวันก็มีเต้นท์อาหารใกล้ๆ กับตึก UM Tower และร้านอาหารใน A-Link ส่วนตอนกลางคืนก็จะมีร้านอาหารใต้ตึกแถวและรถเข็นข้างทางบ้างประปรายแต่ไม่มากนักนะครับ

ซูมออกไปหน่อย ดูห้างสรรพสินค้าละแวกใกล้ๆ ถ้าบนเส้นพระราม 9 เหมือนโครงการก็จะมีเสรีมารเก็ตกับ The Nine ที่เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์หลักนั่นเอง จุดอื่นก็ต้องเลยจากแยกรามคำแหงไปหน่อย ก็จะเป็นย่านม.ราม ที่เค้าเรียกกันจนติดปาก ในย่านนี้มีทั้งห้างสรรพสินค้า Hyper Market ที่เปิดติดๆ กันให้เลือกจับจ่ายได้สบายๆ รวมทั้งในช่วงเย็นๆไปจนถึงดึกก็จะมีตลาดนัดตรงบริเวณม.รามคำแหงที่เปิดตามทางฟุตบาทและพื้นที่หน้าสนามกีฬาให้ได้เลือกช็อปปิ้งหรือซื้อของกินได้ในราคาย่อมเยา หรือจะเป็นแหล่งที่เที่ยว Hang Out กับเพื่อนๆ ก็ต้องเข้าไปทางในเมืองหน่อย อย่างที่ดังๆเลยก็คงจะหนีไม่พ้น RCA บนถนนพระราม 9 ครับ

โครงการนี้เหมาะสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย และใกล้จุดตัดที่เชื่อมไปยังถนนหลักๆ ได้หลายสาย อย่าง ถนนพระราม 9 – ที่มุ่งหน้าไปยังดินแดงและอนุสาวรีย์ได้ / ถนนรามคำแหง – ที่ไปยังหัวหมาก บางกะปิ / ถนนเพชรบุรี – วิ่งเข้าเมืองไปยังเอกมัย ทองหล่อได้สบายๆ / ถนนพัฒนาการ – ออกไปยังนอกเมืองมุ่งหน้าไปทางถนนศรีนครินทร์หรือสนามบินสุวรรณภูมิได้ / ถนนสุขุมวิท 71 – ออกไปยังพระโขนงอ่อนนุชได้เช่นกัน / รวมไปถึงไม่ห่างจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้ง 2 สาย คือ ห่างจุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช ประมาณ 1 กม. และจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจนรงค์ ประมาณ 1.4 กม.  ส่วนที่จอดรถนั้นอยู่ที่ 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน(โดยรวมมองว่าน้อยไปนิดนึงสำหรับโครงการนี้ที่เน้นเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวก)

การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้น โครงการไม่ถือว่าเป็นโครงการที่อิงแนวรถไฟฟ้าเท่าไร(Airport Rail Link)  ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรามคำแหงไปประมาณ 700 ม. ถามว่าเดินได้ไหม เดินได้ครับแต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเราเดินก็มีเหงื่อซึมเอาอยู่ครับถือว่าเป็นตัวเลือกให้พอมีได้ใช้ได้ไม่ไกลมากละกัน และอีกการเดินทางเข้าเมืองไปยังอโศก-ประตูน้ำ ก็คือการเดินทางด้วยเรือด่วนคลองแสนแสบซึ่งห่างจากโครงการไปประมาณ 1.2 กม. ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดกับถนนเพชรบุรีครับ แต่ด้วยระยะนี้คงต้องอาศัยนั่งพี่วินอีกทีครับ ส่วน Taxi นั้นเรียกง่ายอยู่แล้วเพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย

การออกแบบโครงการ โครงการใช้โทนสีอาคารแดงอิฐเป็นหลัก ซึ่งจะดูตัดกันอย่างมากกับกระจกฉนวนความร้อน (Insulating Glass) ที่ออกสีน้ำเงิน ความหนาแน่นจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 639 หรือที่ประมาณ 19-20  ยูนิต/ชั้น ซึ่งก็ไม่มากไม่น้อยครับปานกลาง แต่มีการจัดวางอาคารเป็นรูปตัว Z เลยทำให้ไม่ต้องเห็นกันเองมากนักเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนการออกแบบห้องพักอาศัยนั้นที่นี่จะมีแบบ 1-2 Bedroom แต่จะมี Type ห้องที่ซอยย่อยออกไปหลากหลายแบบ รูปแบบและต่างฟังก์ชั่นให้เลือกสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการต่างกันไปอีกด้วย แต่โดยรวมจากที่ดูถือว่าออกแบบมาได้ดีคุ้มค่าพื้นที่ใช้สอย มีที่แปลกและเหลือๆคือแบบเดียวคือ 1F ครับ ส่วนของแบบ 2 ห้องนอนทุกแบบห้องนอนใหญ่จะได้ Bay Window หมดเลย

วัสดุที่ได้เรียกว่าลืม The Base ตัวเก่าไปหมดเลย เอาจริงๆก็เหมาะสมกับราคาที่อัพขึ้นมา (เฉลี่ย 99,xxx บาท/ตร.ม.) นะครับคือขึ้นแล้วให้ของดีแบบนี้ก็โอเค มาเริ่มจาก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร, พื้นเป็นลาิมเนตลายไม้ 8 mm. กระเบื้องครัวระเบียงเป็นผิวด้านไซส์ 30 ซม. แต่กระเบื้องห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายไม้ / ห้องแบบ 1 Bed ได้แอร์ 2 ตัว และห้องแบบ 2 Bed ได้แอร์ 3 ตัว (เป็นของ TRANE) / ชุดครัวได้หมด Kitchen&Sink + Hob&Hood มีหน้าบานทั้งบนล่าง Top ครัวเป็นกระเบื้องพอร์ชเลนลายหินขนาดใหญ่ไร้รอยต่อกว้าง 1.5-2 เมตร ฉากกั้นได้ทั้งครัวและห้องน้ำ วัสดุในห้องน้ำของ American Standard / สุดท้ายเนื่องด้วยโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่และทางด่วนเลยจัดกระจกฉนวนความร้อน (Insulating Glass) ให้ซะเลยแต่ให้เฉพาะส่วนของห้องนอนนะ

สุดท้ายในเรื่องของสาธารณูปโภคถือว่าให้มาเยอะพอสมควรนะ โดยชั้น Facilities หลักจะอยู่ Ground Floor ได้แก่ สระว่ายน้ำแบบ Freeform ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 23 เมตร ลึกประมาณ 1.2 เมตร แยกสระเด็กด้านข้าง, Fitness ขนาดใหญ่(ปัจจุบันเป็น Sale Office), สวนส่วนกลางและพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง และมี Tree House, Lobby Double Volume ผนังกระจกบายใหญ่ ผนังแต่งด้วยหินอ่อน และแชนเดอเรียขนาดใหญ่, พื้นที่ Multi Purpose Area รับวิว สระและสวนส่วนกลางด้านนอก, Retail Shop 1 ยูนิต (ยังไม่คอนเฟิร์มเป็นร้านค้าอะไร), สวนบริเวณชั้น 5 สองสวนฝั่งด้านหน้า(ทิศเหนือ) และด้านหลัง(ทิศใต้) , ลิฟต์โดยสารของที่นี่มีทั้งหมด 4 ตัว และมี Service Lift อีก 1 ตัว อัตรส่วนความหนาแน่นลิฟต์จะอยู่ที่ 639 : 4 หรือ 160 : 1 ซึ่งก็อยู่ในเรทปานกลางไปทางจะสูงนิดหน่อย


The Base Garden พระราม 9 นั้นถือว่าเป็นโครงการที่พึ่งกำลังจะเปิดตัวล่าสุดในย่านนี้ คือพระราม 9 – รามคำแหง ซึ่งในย่านนี้เมื่อ 3-4 ปีก่อนก็มีโครงการรุ่นพี่หลายเจ้ามาเปิดขายกันก่อนหน้าแล้วอาทิเช่น Fuse Mobius, U-Delight, The Base พี่ชาย ซึ่งโครงการพวกนี้สร้างเสร็จเป็นมือสองไปแล้วราคาปัจจุบันซื้อต่อกันเองก็จะอยู่ที่ประมาณ 65,000-80,000 บาทต่อตร.ม. แล้วแต่เจ้าของเดิมไปตกแต่งนะ

ทีนี้หลายๆคนทราบว่าก่อนหน้านี้ประมาณ เดือนกว่า Plum รามคำแหงซึ่งได้เปิดตัวก่อนหน้าไป ตั้งราคาอยู่ที่ประมาณ 75,000 บาท/ตร.ม.(เริ่มต้น) และราคาเฉลี่ยโครงการอยู่ที่ 86,000 บาท/ตร.ม. ถ้าเทียบกับ The Base Garden คือ 82,000 บาท/ตร.ม.(เริ่มต้น) และราคาเฉลี่ยโครงการอยู่ที่ 99,000 บาท/ตร.ม. ดูเหมือน จะแพงกว่าอยู่ระดับนึง แต่ตัว Product ผมว่า The Base Garden ค่อนข้างทำต่างออกมาชัดเจนไม่ได้กะจะมาไฟท์กับพลัมคอนโดนะ คือพลัมเค้าซอยยูนิตรวมออกมาค่อนข้างจะเยอะ นี่แค่เฟสแรกที่พึ่งเปิดตัวไปปาเข้าไป 1,003 ยูนิต ยังไม่รวมอีกเฟสที่กำลังจะเปิดตัวคาดดว่าหลักพันเหมือนกัน ทางพฤกษาเค้าทำเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เงินในกระเป๋าหลัก 1.6-2.5 ล้านบาท เป็นหลัก!มากกว่า แต่เดอะเบส ไม่ได้จับเอากลุ่มลูกค้าแบบห้องเล็กเกินไปที่ซอยแล้วราคารวมจะถูกแบบพลับ เลยมีแค่ 639 ยูนิต อีกทั้งวัสดุของ The Base Garden เรียกว่านำพลัมแบบเยอะพอสมควรเลยครับ เดอะเบสต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่เงินในกระเป๋าหลัก 2.3-6.6 ล้านบาทต่างหาก ผมเลยมองว่าถ้าจะเทียบไฟท์กันตรงๆไม่ได้คงเป็นคนละกลุ่มลูกค้าเสียมากกว่าเพียงแต่แค่ทำเลมันใกล้กันเท่านั้นเอง

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 99,000 บาท/ตร.ม.(เป็นราคาเฉลี่ยโดยประมาณทั้งโครงการ), 22 August 2016

  • ทำเล 7.25/10 – ทางเข้าติดถนนใหญ่ ใกล้แยกใหญ่ แต่ละแวกใกล้เคียงหาของกินยากหน่อย
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก เข้า-ออกเมืองง่าย สามารถเชื่อมเข้าถนนได้หลายสาย
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ติดถนนใหญ่มีรถตู้, Taxi ผ่านหน้า ระยะเดิน Airport Link รามคำแหง 700 ม.
  • วัสดุ 8.5/10 – ให้มาดีและจัดเต็มมาก ลืม The Base ตัวเก่าไปเลย
  • แบบ 7.5/10 – จัดวางฟังก์ชันในห้องได้ดี ใช้พื้นที่คุ้มค่า ส่วนอาคารมีความหนาปานกลาง
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันและเยอะพอสมควรออกแบบมาได้สวยหรูหราน่าใช้ เสียดายไม่ได้ยกเอาไปไว้ชั้นบนๆเพื่อชมวิว

  • UPPER CLASS
  • 7.65 / 10.00

 

BOTTOM LINE

The Base Garden พระราม 9  เหมาะกับคนพื้นที่หรือทำงานในละแวกใกล้เคียง พระราม 9 – รามคำแหง – เพชรบุรี เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก และใช้รถไฟฟ้าบ้าง ชอบของแบรนด์หน่อย รับแขกได้มีหน้าตา มีงบประมาณในราคา 2.2 – 6.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 15,500 – 46,000 บาท