suwanaf2

ก่อนที่จะได้ความชัดเจนเรื่อง?สนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งอยู่ระหว่างสรรหาผู้ร่วมประมูลให้ครบ 7 สัญญา วันนี้เราจะพาไปชม ?บรรยากาศแปลกๆ ของ 14 สนามบินรอบๆโลก ที่รวบรวมโดย ➡ www.popularmechanics.com ⬅ ส่วนจะมีที่ไหนบ้างไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ ?

1. Madeira Airport, Portugal

สนามบินแห่งนี้ตั้งอยู่บนริมชายฝั่ง แถว Santa Cruz  ด้วยลักษณะของภูมิประเทศ ทำให้สนามบินไม่ใหญ่พอที่จะรองรับเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น ทางการเลยตัดสินใจขยายพื้นที่รันเวย์ ด้วยวิธีที่ค่อนข้างแปลก คือการสร้างเสาคอนกรีตสูง 70 เมตร ราว 180 ต้น ยื่นลงไปบริเวณริมฝั่ง เพื่อรองรับรันเวย์ใหม่ ทำให้ Madeira Airport ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามของสนามบินที่อันตรายที่สุดในโลกจาก History Channel

Image 1/6
Aeroporto da Madeira_runway

Aeroporto da Madeira_runway

2. Denver International Airport

ถ้าดูกันแค่ขนาด ✈ Denver International Airport ถือเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา มีพื้นที่ประมาณ 33 เอเคอร์ หรือราวๆ 2 เท่าของ Manhattan และด้วยความที่เปิดล่าช้าจากกำหนดไปปีกว่าๆ ทำให้สนามบินแห่งนี้ถูกตั้งข้อสงสัยมากมายถึงความไม่โปร่งใสในการก่อสร้าง รวมไปถึงเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความลี้ลับของสนามบินแห่งนี้ อาทิ มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ? ภาพถ่ายทางอากาศของสนามบิน ดูคล้ายกับเครื่องหมาย Swasdika สัญลักษณ์ประจำพรรคนาซี ? ? ?และมีข่าวลือว่ารูปปั้น ? ม้าสีฟ้า นัยน์ตาสีแดง “Blue Mustang” ที่ตั้งตระหง่านหน้าสนามบินนั่นถูกคำสาป เพราะ Luis Jiménez ศิลปินที่สร้างเจ้าม้าขึ้นมา ตายหลังจากที่ถูกชิ้นส่วนของรูปปั้นหล่นทับ ?

Image 1/6
denver_international_airport

denver_international_airport

3. Princess Juliana International Airport, Saint Martin

สนามบินหลักของ Saint Martin เกาะในกลุ่มแคริบเบียนที่อยู่ในการปกครองของ Netherlands รันเวย์ที่ 10 ของสนามบินอยู่ติดกับชายหาด ทำให้ คนแถวนั้นจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เครื่องบินขับผ่านหัวไป  ตื่นเต้นไปอีกแบบ ?

Image 1/6
fixedw_large_4x

fixedw_large_4x

4. Beijing International Airport, China

? ไฮไลท์คือ Beijing’s Terminal 3 ที่ยาวเกือบ 2 ไมล์ และถือเป็นหนึ่งใน ? อาคารที่ยาวที่สุดในโลก ออกแบบโดย Fosters + Partners และ ARUP ซึ่งตั้งใจออกแบบให้อาคารมีลักษณะ เหมือนปีกของ✈ เครื่องบินที่ทะยานขึ้นไปคล้ายกับ? มังกรผงาดฟ้า อันเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิจีน ภายในมีช่องที่ปล่อยให้? แสงธรรมชาติเข้ามาได้เพื่อประหยัดไฟ พร้อมประดับด้วยไฟสีแดงและเหลืองเป็นระยะ บางส่วนของหลังคาตกแต่งด้วย? หญ้า ทำให้มองเห็นสีเขียวได้อย่างชัดเจนจากบนเครื่องบิน

Image 1/6
img5

img5

5. Incheon Airport, Seoul, South Korea

อาคารหลักของสนามบินถูกออกแบบให้เป็น?ทรงโค้ง ให้ล้อไปกับ?บ้านแบบดั้งเดิมของคนเกาหลี โดยนักท่องเที่ยวสามารถ?ทอดน่องดูรันเวย์แบบเพลินๆ แต่ถ้ารอนานและอยากจะหาอะไรทำฆ่าเวลา  Incheon Airport มีตั้งแต่คาสิโน, ⛳ สนามกอล์ฟ, พิพิธภัณฑ์, สปา และ ⛄ ลานสเก็ตน้ำแข็ง ? เลือกกันไม่ถูกเลยที่นี้

Image 1/8
d5d3c56e61d49bd4c55b4e49b6a2aa92

d5d3c56e61d49bd4c55b4e49b6a2aa92

6. Barajas International Airport, Madrid, Spain

หนึ่งในสนามบินที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในยุโรป พอๆ กับ ? Paris-Charles de Gaulle Airport แห่งฝรั่งเศส เริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1927 ? หลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี 2004 โดยสร้าง? Terminal 4 อาคารหลังใหม่ที่มีดีไซน์ต่างไปจากเดิม ทีมออกแบบให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการให้ผู้โดยสารผ่อนคลายและรู้สึกกระตือรือร้นที่จะไปเจออะไรใหม่ๆ เลยพยายามใช้โทนสีที่สดใส เสาของอาคารจะสลับด้วยสีเหลืองฟ้า ?หลังคามีความลาดเอียงสลับกันไป เพื่อให้มี?ช่องที่แสงธรรมชาติเข้ามาได้ ปัจจุบัน Barajas International Airport มีจำนวนผู้โดยสารราวๆ 47 ล้านคน ถือเป็น 1 ใน 6 ของสนามบินที่มีผู้โดยสารเยอะที่สุดในโลก

Image 1/6
madrid-barajas-airport

madrid-barajas-airport

7. Courchevel Altiport, France

Image 1/2
800px-altiport_courchevel2

800px-altiport_courchevel2

สนามบินเล็กๆ ในเทือกเขา Alps สำหรับรองรับบรรดาเศรษฐีที่นิยมมาพักที่ ?Courchevel Ski Resort ซึ่งด้วยทำเลที่อยู่สูงมาก ทำให้รันเวย์ของสนามบินค่อนข้างสั้น ประมาณ 537 เมตร ✈และไม่สามารถใช้วิธีบินวน (Go-Around) เพื่อให้เครื่องลงจอดได้ ต้องบินแล้วเล็งตรงมาที่รันเวย์เลย ⛄ซึ่งเสี่ยงมากที่เครื่องบินจะตกลงบนลานหิมะ ก่อนที่จะถึงรันเวย์ แม้ว่ายังไม่เคยมีรายงานอุบัติเหตุหนักๆ จากสนามบินแห่งนี้ ❌แต่ Courchevel Altiport ก็ถูกจัดอันดับจาก History Channel ให้เป็น 1 ใน 7 ของสนามบินที่อันตรายที่สุด? ไม่เชื่อลองไปดูคลิป⤵

8. Helsinki Airport, Finland

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของสนามบินแห่งนี้ คืองานศิลปะ ? ภายในสนามบินจะมีการจัดพื้นที่บางส่วนไว้แสดงงานศิลปะ ที่เปิดให้ดูได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งงานส่วนใหญ่ที่นำมาโชว์จะเป็น Modern Art บางชิ้นก็สามารถจับได้ตามใจชอบเลย ?และถ้าเดินเล่นจนเบื่อแล้วจะลองเปลี่ยนบรรยากาศไปดู ✈ พิพิธภัณฑ์การบินที่ตั้งใกล้ๆ ก็ได้นะ  นอกจากนี้ยังมี ⛺ Sleeping Pod ให้ผู้โดยสารที่เหน็ดเหนื่อยจากการรอเครื่องไว้นอนเล่น ?ดูๆ ไปแล้ว ถ้าได้เปลี่ยนเครื่องที่ Helsinki Airport ก็คงไม่มีใครเบื่อเลย

Image 1/7
heslinki-photo-gallery-333x500

heslinki-photo-gallery-333x500

9. O’Hare International Airport, Chicago

O’Hare International Airport เริ่มก่อสร้างในปี 1942-1943 เป็นหนึ่งในสนามบินซ้อมรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ? หลังสงครามจบลง ✈สนามบินรบก็กลายเป็นสนามบินหลัก รองรับผู้โดยสารจากทั่วโลกที่เดินทางมา Chicago พร้อมทั้งขยายเป็น 8 รันเวย์  ?O’Hare International Airport เคยขึ้นแท่นสนามบินที่มีผู้โดยสารเยอะที่สุดในอเมริกา แต่ช่วงหลังมีปัญหาเรื่องการจัดการภายใน ทำให้ถูกลดเที่ยวบินลง และจากสถิติล่าสุดในปี 2015 นับจำนวนผู้โดยสารได้ราว 75 ล้านคน/ปี

Image 1/4
1349879846_ohare-airport

1349879846_ohare-airport

10. Changi Airport, Singapore

Changi Airport ถือเป็นหนึ่งในสวรรค์ของนักช้อป? นอกจากบรรดาร้านแบรนด์เนมเกือบ 300 ร้าน และยังมีโรงหนังให้ดูกันเพลินๆ แต่…สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยจริงๆ คือ ?สวนผีเสื้อนานาพรรณใน Terminal 3 ซึ่งคุณจะได้สัมผัสบรรยากาศบรรยากาศของ?ป่าดิบชื่นตั้งแต่ก้าวแรก แวดล้อมด้วย?น้ำตกและผีเสื้อเกือบ 1,000 ตัว

Image 1/4
800px-t3transitarea

800px-t3transitarea

11. Heathrow Airport, London

สนามบินที่มีผู้โดยสารเยอะที่สุดในยุโรป หรือราว 75 ล้านคน/ปี ?Heathrow Airport เปิดบริการครั้งแรกในปี 1929 และเริ่มขยายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อฝึกบินรบ? หลังสงครามสิ้นสุด สนามบินเริ่มมีเที่ยวบินมาลงมากขึ้น ทำให้มีการสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีกหลายหลัง ? ปัจจุบันมี 5 อาคาร และมีแผนที่ตกแต่งให้มีความทันสมัยขึ้น พร้อมเพิ่มรันเวย์ ?แต่ก็มีเสียงคัดค้านอย่างหนักจากชาวบ้านแถวนั้น ที่เดือดร้อนจากเสียงดังของเครื่องบิน

Image 1/5
heathrow-airport

heathrow-airport

12. Kansai International Airport, Osaka, Japan

ความพิเศษของ  Kansai Airport ไม่ใช่ดีไซน์ที่แหวกแนว แต่เป็นสถานที่ตั้งของสนามบิน ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นเองบน Osaka Bay ? ในช่วงปี 1980s รัฐบาลไม่สามารถหาแปลงที่ดินที่ใหญ่พอ เลยตัดสินใจ⚡เนรมิตเกาะกลางทะเลที่ยาวเกือบ 2.5 ไมล์ขึ้นมา เพื่อให้เป็นที่ตั้งของสนามบิน หลังจากนั้นก็ได้ว่าจ้าง Renzo Piano สถาปนิกชื่อดังชาวอิตาเลียนให้ออกแบบอาคารผู้โดยสารในปี 1994 ซึ่งกลายเป็น✂อาคารที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาว 1.1 ไมล์

Image 1/7
finnair_md-11

finnair_md-11

13. Carrasco International Airport

เดิมทีเป็นเพียงสนามบินเก่าๆ ?ที่สร้างขึ้นในปี 1947 หลังจากรัฐบาลต้องการยกระดับให้เป็นสนามบินนานาชาติ เลยเริ่มปรับปรุงครั้งใหญ่ และได้ Rafael Vinoly สถาปนิกชื่อดังมาช่วยออกแบบ ซึ่งเขาทุ่มสุดฝีมือเพื่อให้ Carrasco International Airport เป็นความภูมิใจของคนทั้งประเทศ? ถ้ามองจากภายนอกจะเห็นหลังคาจะทรงโค้งราว 1,200 ฟุต โดยได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิประเทศที่เป็นเนินเขา แต่ละอาคารแยกชั้นระหว่างผู้โดยสารข้าเข้าและขาออกอย่างชัดเจน

Image 1/5
image

image

14. Dubai International Airport

บอกคำเดียวเลยว่า Dubai International Airport ?”มัน-ใหญ่- มาก” ด้วยพื้นที่ประมาณ 7,200 เอเคอร์ คิดเป็น 5 เท่าของ Chicago’s O’Hare Airport (ซึ่งจริงๆ ก็เกือบจะใหญ่ที่สุดในอเมริกาแล้ว) และยังเป็น?แหล่งสร้างงานหลักสำหรับชาวดูไบ มีผู้ถูกจ้างราว 90,000 คน ?คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 26.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 27% ของ GDP ในประเทศ

Image 1/5
maxresdefault

maxresdefault