Supalai Prime พระราม 9 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ติดถนนพระราม 9 จาก ศุภาลัย [รีวิวฉบับที่ 1765]

รีวิวฉบับที่ 1765 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปรีวิวคอนโด Supalai Prime พระราม9 จาก ศุภาลัย เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร โครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 ตัวโครงการจะอยู่ด้านหน้าโครงการ Supalai Veranda พระราม 9 แต่ทางเข้า-ออก จะแยกออกจากกันชัดเจน มีแบบให้เลือก 4 แบบ เน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดห้องเริ่มต้น 31.50 ตร.ม. จะเป็นยังไงไปดูพร้อมกันเลยนะคะ

Fact @ 18 December 2018

• Supalai Prime Rama9 (ศุภาลัย ไพร์ม พระราม9)
• บริษัท ศุภาลัย จำกัด
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : ห้วยขวาง
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 217 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 16 ยูนิตที่อาคาร B
• จอดรถได้ 58.53% รวมซ้อนคัน
• ที่ดินประมาณ 2-1-50 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง : Q2 / 2562
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 / 2563
• 1 Bedroom 31.50-38.00 ตารางเมตร
• 1 Bedroom Plus 40.5-46.0 ตารางเมตร
• 2 Bedrooms 1 Bath 48.5-54.5 ตารางเมตร
• 2 Bedrooms 2 Bath 60.0-67.5 ตารางเมตร
• ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
• ราคาห้อง 2.53-5.83 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 83,082.78 บาท/ตร.ม.
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : รอดำเนินการ
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร  : 1720

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วนะคะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.7556737,100.580856

แผนที่จากทางโครงการ Supalai Prime พระราม9 ค่ะ โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ Supalai Veranda พระราม 9 แต่จะแยกทางเข้า-ออกคนละทางนะคะ

ทำเลของที่ตั้งโครงการ Supalai Prime พระราม9 ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับทางด่วนพิเศษศรีรัช โดยบริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับแยกรัชดาภิเษก ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก เนื่องจากเป็นแหล่งสำนักงานขนาดใหญ่ รวมถึงมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างมีรถใช้อย่างหนาแน่น สำหรับตัวโครงการ ถ้าขับต่อไปจะสามารถเชื่อมต่อกับบริเวณเลียบทางด่วนได้ หรือมุ่งหน้าไปทางฝั่งย่านรามคำแหงได้ นอกจากนี้ถ้าขับเข้าซอยพระราม 9 ซอย 17 ที่สามารถไปเชื่อมต่อกับ ถนนเทียมร่วมมิตร ซึ่งสามารถขับไปออกถนนอื่นๆได้หลายเส้น เช่น ถนนประชาอุทิศ ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม และถนนรัชดาภิเษกได้ ซึ่งอาจจะมีรถเบาบางกว่าเส้นอื่นๆ เนื่องจากเส้นหลักในช่วงเวลาเร่งด่วน มีรถหนาแน่น นอกจากนี้ถนนพระราม 9 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย รวมถึงทางขับเลยไปยังฝั่งขวามือ จะเชื่อมเข้าถนนรามคำแหง, ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และ ถนนสุขุมวิท

ทำเลของตัวโครงการตั้งอยู่กึ่งกลางความอุดมสมบูรณ์ของทั้ง 2 ย่าน อย่างย่านรัชดาภิเษก ที่เป็นย่านคนทำงาน มีอาคารสำนักงานที่มีชื่อเสียงต่างๆ และคอนโดมากมายตลอดเส้นทาง รวมถึงมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ถัดมาย่านรามคำแหง เป็นเส้นที่คนอาศัยอยู่หนาแน่น มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดเส้นทางเช่นกัน เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน รวมถึงมีสถานที่สำคัญอย่าง ราชมังคลากีฬาสถาน และ ม.รามคำแหง นอกจากนี้ถนนเส้นนี้สามารถขับออกไปได้หลากหลายเส้นทาง โดยทั้ง 2 ย่านนี้จะมีรถคนข้างหนาแน่น แต่สำหรับตัวโครงการเราจะยังไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่ ข้อดีคือจะมีรถที่เบาบางกว่า และมีเส้นทางลัดที่สามารถออกไปยังแหล่งอุดมสมบูรณ์ได้หลากหลายเส้นทาง สำหรับร้านค้าพาณิชย์ในระยะที่เดินได้จะมี 7-11 ภายในโครงการ Supalai Veranda Rama9 ซึ่งทางเข้า-ออกทั้ง 2 โครงการจะไม่เชื่อต่อกัน ทำให้ต้องเดินออกไปเข้าบริเวณทางเข้าโครงการ Veranda ซึ่งอาจจะลำบากสักเล็กน้อยนะคะ

การเดินทางโดยรถยนต์ สำหรับเส้นทางนี้จะมีทางด่วนรายล้อมตัวโครงการ มีจุดขึ้น-ลงทางด่วนได้หลากหลายเส้นทาง สำหรับวันนี้เราจะเลือกเส้นทางด่วนศรีรัชที่มาจากในตัวเมืองไปยังโครงการ ให้เราขับไปทางที่จะออกไปบริเวณ Motor Way กรุงเทพ-ชลบุรี ให้เราเลือกลงป้ายพระราม 9 เพื่อลงไปยังถนนเพชรอุทัย หลังจากลงทางด่วนมาให้เลี้ยวซ้ายไปยังแยกผังเมือง แต่ให้เตรียมตัวชิดเลนขวาสุด เพื่อจะเข้าถนนพระราม 9 หลังจากนั้นให้ขับตรงไปตามทาง แต่ให้ชิดเลนซ้ายสุด วิ่งตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือนะคะ

กรณีใช้เส้นทางเพื่อไปขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัช เนื่อจากโครงการจะตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณใต้ทางด่วน เมื่อออกจากโครงการเป็นจำเป็นต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 9เท่านั้น แล้วตรงไปตามทาง พอถึงแยกรามคำแหง ให้กลับรถแล้วชิดเลนขวาสุด เตรียมขึ้นด่านรามคำแหง เพื่อเข้าไปยังตัวเมืองได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์  เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนพระราม 9 และบริเวณใกล้เคียงจะเป็นพื้นที่ของ รฟม. โดยในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งสถานี รฟม. จะใกล้โครงการมากที่สุด แต่สำหรับเส้นทางนี้อาจจะต้องรอกันสักหน่อยนะคะ ในปัจจุบันรถสาธาณะที่ใกล้โครงการที่สุดคือ MRTเพชรบุรี ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTSอโศกได้ หรือถ้าใครต้องการใช้ Airport Link สามารถใช้สถานีรามคำแหง ซึ่งอยู่ห่างโครงกาประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเส้นที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสุวรรณภูมิ หรือถ้าใครต้องการเชื่อมต่อกับ BTS สามารถเชื่อมต่อไปยัง BTSพญาไทได้ นอกจากนี้ตัวโครงการติดถนนพระราม 9  ทำให้มี Taxi ผ่านไปผ่านมาอยู่บ้าง แต่บริเวณหน้าโครงการยังไม่มีพี่วินมอเตอร์ไซค์นะคะ แต่ถ้าโครงการเสร็จอาจจะต้องดูอีกทีนะคะ

สำหรับวันนี้ เราจะขับรถจากถนนรัชดาภิเษก บริเวณ MRTศูนย์วัฒนธรรม วิ่งตรงมาสุดที่แยกพระราม 9 หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 9 วิ่งตรงยาวตามทาง จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือนะคะ

เริ่มจาก MRTศูนย์วัฒนธรรม ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารสำนักงานของ จะเป็นตึก SET และ AIA Building ให้เราขับตรงไปตามทางเลยนะคะ

ขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอ Central พระราม 9 อยู่ทางด้านซ้ายมือ ฝั่งขวาจะเป็นตึก Fortune ถนนเส้นนี้จะเป็นถนนกว้าง 4 เลน แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีรถค่อนข้างหนาแน่น

ขับตรงไปสักพัก จะเห็นป้ายให้เลี้ยวซ้ายไปทางรามคำแหง ให้เราเตรียมตัวชิดซ้ายเพื่อจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 9 บริเวณหัวมุมถนนจะมีตึก G Tower ค่ะ

ขับตรงมาถึงบริเวณแยกพระราม 9 เลนซ้ายสุดจะบังคับให้เลี้ยวซ้าย ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม 9 ได้เลย

หลังจากเลี้ยวซ้ายมาแล้ว จะเข้าสู่ถนนพระราม 9 ด้ายซ้ายมีจะเป็นตึก Unilever ค่ะ

หลังจากนั้นจะถึงแยก อ.ส.ม.ท ให้เราขับตรงไปนะคะ

หลังจากขับตรงมาเรื่อยๆ จะเจอลุมพินีเพลส พระราม9-รัชดา อยู่ทางด้านซ้ายมือ ให้เราขับตรงไปตามทางค่ะ

หลังจากนั้นจะถึงแยกผังเมือง ให้เราขับตรงไปตามทางค่ะ

หลังจากนั้น ขับตรงไปฝั่งซ้ายมือ จะเป็นพื้นที่ของรฟม. โดยเราจะชิดเลนซ้ายไว้นะคะ เพื่อเตรียมเลี้ยวซ้ายตามทางค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆ จะมีทางเบี่ยงออกช่องซ้ายสุด ให้เราเบี่ยงออกทางซ้ายนะคะ

ตรงมาเรื่อยๆจะมีทางแยก ฝั่งขวามือจะขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัช ให้เราวิ่งเลนซ้ายสุดตามทางนะคะ

หลังจากนั้นวิ่งตรงไปสักพัก เราจะเห็นโครงการ Supalai Veranda พระราม 9 อยู่ฝั่งซ้ายมือ ซึ่งตัวโครงการ Supalai Prime พระราม9 จะอยู่พื้นที่เดียวกันนะคะ

หลังจากนั้นให้เราขับตรงมาเรื่อย เราจะเป็น Sale Gallery Supalai Prime พระราม 9 อยู่ฝั่งซ้ายมือ เราให้ขับตรงไปก่อนนะคะ เนื่องจากทางเข้าที่จอดรถ จะอยู่ด้านหลัง Sale Gallery

ตรงมาได้สักพักเราจะเห็นทางเข้าที่จอดของ Sale Gallery นะคะ

บริเวณโดยรอบโครงการ Supalai Prime พระราม9  สำหรับด้านหลังโครงการจะเป็นโครงการ Supalai Veranda พระราม 9 ซึ่งจะมีระยะห่างกันประมาณ 17-21 เมตร ทำให้มีระยะห่างพอสมควรไม่รบกวนกัน แต่อาจจะมีบางห้องพักที่ตรงกันอยู่บ้างนะคะ สำหรับทางทิศตะวันออก จะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่รอการพัฒนา ซึ่งอาจจะมีการสร้างตึกสูงในบริเวณนี้ได้ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีอาคารบดบังทัศนียภาพ ถัดออกไปจะมีอาคารสูงไม่เกิน 8 ชั้น ที่มีระยะห่างพอสมควร ด้านหน้าทางเข้าโครงการ จะเป็นพื้นที่ของการทางพิเศษ พร้อมสะพานสูง 12 เมตร ซึ่งอาจจะทำให้มีเสียงรถวิ่งไปวิ่งมา ทำให้อาจจะรบกวนห้องพักอาศัยอยู่บ้าง พื้นที่ด้านทิศตะวันตก จะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลขนาดใหญ่ ในปัจจุบันมีเพลนปูนเช่าพื้นที่อยู่

จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้

• ทิศเหนือ ติดกับ โครงการ Supalai Veranda พระราม9 สูง 31 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ พื้นที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่ของการทางพิเศษ พร้อมสะพานสูง 12 เมตร
• ทิศตะวันตก ติดกับ พื้นที่ส่วนบุคคล มีเพลนปูนเช่าพื้นที่

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้ ไปเดินดูรอบๆพื้นที่โครงการกันค่ะ

สำหรับถนนหน้าโครงการจะเป็น ถนน 2 เลน ซึ่งจะเป็นทางบังคับเดินรถทางเดียว โดยถัดเข้าไปจะมีทางขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัช สำหรับตัวโครงการไม่สามารถเข้าทางนี้ได้ จะต้องไปกลับรถก่อนนะคะ

ด้านทิศตะวันตก จะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งมีเพลนปูนเช่าพื้นที่อยู่ค่ะ

สำหรับทางเดิน หน้าโครงการจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งทางเดินไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานเท่าไหร่ สำหรับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจะยังไม่มีร้านค้าพาณิชย์นะคะ

หันกลับมาทาง Sale Gallery ฝั่งขวามือจะมีอาคารของทางด่วนอยู่บริเวณหน้าโครงการเลยนะคะ บริเวณหน้าโครงการจะมีสายไฟค่อนข้างเยอะนะคะ

เดินตรงไปทางฝั่งทิศตะวันออก จะมีพื้นทีดินว่างเปล่ารอการพัฒนา ซึ่งอาจจะมีตึกสูงในอนาคต ถัดไปจะเป็นอาคารพาณิชย์ ที่สูงไม่เกิน 8 ชั้น และมีระยะห่างจากโครงการค่อนข้างมาก ทำให้ในปัจจุบันด้านทิศนนี้ยังไม่มีตึกบดบังทัศนียภาพนะคะ

กลับมาบริเวณ Sale Gallery จะมีที่จอดรถอยู่ด้านหลัง ซึ่งบริเวณนี้ในอนาคตจะเป็นพื้นที่ของโครงการนะคะ

สำหรับอาคารด้านหลังจะเป็นโครงการ Supalai Veranda พระราม9 สำหรับตัวโครงการจะห่างกันประมาณ 17-21 เมตรนะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานี รฟม. ~ 350 ม.
• KPN Tower ~ 400 ม.
• ร.พ. พระราม9 ~ 1.8 กม.
• ร.พ. ปิยะเวท ~ 2.0 กม.
• เซ็นทรัลพระราม 9 ~ 2.0 กม.
• Fortune ~ 2.0 กม.
• รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ~ 2.0 กม.
• ทางด่วนศรีรัช ด่านรามคำแหง ~ 2.0 กม.
• โรงพยาบาลปิยะเวท ~ 2.6 กม. (รวมกลับรถ)
• Esplanade รัชดาภิเษก ~ 3.0 กม.
• Show DC ~ 3.3 กม.(รวมกลับรถ)
• Big C รัชดาภิเษก ~ 3.5 กม.
• The Street รัชดาภิเษก ~ 3.6 กม.
• The Mall รามคำแหง ~ 4.2 กม.

เจาะลึกตัวโครงการ

จาก Master Plan ทางเข้าโครงการติดกับถนนพระราม 9 ตัวโครงการเอง เป็นตึก Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร โดยตัวทางเข้า-ออกโครงการ จะแยกออกจากกันชัดเจน โดยบริเวณตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Facilities ได้แก่ สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส สำหรับทางเดินรถ เมื่อเข้ามาภายในโครงการ ฝั่งขวามือจะมีห้อง Electrical Room ที่ออกแบบมาให้คล้ายกับตัวอาคารพักอาศัย ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่จอดรถกลางแจ้ง ถ้าใครต้องการจอดรถในร่ม ให้ตรงเข้าไปใต้อาคาร เพื่อจอดรถบริเวณด้านในได้ โดยข้างในใต้ละอาคาร จะมี Lobby และ พื้นที่ Drop off อยู่ สำหรับทางเดินรถใต้อาคารจะเป็นแบบ One Way นะคะ ที่จอดรถของโครงการมีประมาณ 58.53% รวมซ้อนคัน ซึ่งถือว่าได้ระดับกลางๆ บริเวณรอบโครงการจะมีต้นไม้โดยรอบโครงการ

โครงการ Supalai Prime พระราม9 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวมทั้งหมดจำนวน 214 ยูนิต บนที่ดินขนาด 2 ไร่ ภายใต้แนวคิด Rhythm of nature โดยการนำเส้นตรง มาสร้างเป็น Pattern โดยใช้โทนสีน้ำตาล ราวกับป่าไม้ พร้อมทั้งใช้สีทองแทรก เพื่อเสริมความโดดเด่น และเพิ่มความหรูหราให้กับตัวโครงการ โดยจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาของอาคาร

สำหรับตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนพระราม 9 ซึ่งทำให้เข้า-ออกโครงการได้ง่าย แต่อาจจะลำบากสักเล็กน้อย เนื่องจากถนนบริเวณด้านหน้าโครงการเป็น One Way ทำให้บังคับเลี้ยวซ้ายเท่านั้น ถ้าจะเป็นฝั่งขวา อาจจะต้องไปหาที่กลับรถข้างหน้า สำหรับอาคารพักอาศัยจะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร เพื่อลดจำนวนยูนิตแต่ละชั้น เพื่อทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น จุดเด่นของโครงการคือลดยูนิตแต่ละอาคารลง เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่างเช่น อัตราส่วนลิฟต์ Tower A จะอยู่ที่  52 : 1 และ Tower B 56 : 1 ซึ่งถือว่ามีการใช้งานในปริมาณไม่หนาแน่นมากนะคะ

การออกแบบอาคารพักอาศัย ชั้นที่ 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด และจะมี Lobby ของแต่อาคารอยู่ที่ชั้นล่าง ขึ้นไปชั้นที่ 2-8 จะเป็นชั้น พักอาศัย ส่วนชั้นบนสุดของอาคารจะเป็น Roof Garden จะมีพื้นที่พักผ่อนบริเวณชั้นบน สำหรับอาคาร A ที่หันออกด้านหน้าโครงการหรือฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ของทางการพิเศษ มีทางด่วนสูง 12 เมตร ซึ่งห้องพักอาศัยชั้นที่ 5 ขึ้นไป ถึงจะพ้นระดับของทางด่วน ซึ่งอาคารฝั่งทิศใต้ อาจจะมีเสียงรบกวนจากรถที่วิ่งสัญจรบนทางด่วนนะคะ

บริเวณทางเข้าโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือของโครงการ ด้านหน้าจะมีพื้นที่จอดรถกลางแจ้งนะคะ โดยฝั่งขวามือสุด จะเป็นห้อง Electrical Room โดยออกแบบหน้าตาให้กลมกลืนกับตัวโครงการเลย ด้านบนทำเป็นพื้นหญ้า เพื่อให้ดูสบายตามากยิ่งขึ้นนะคะ

ตัวอย่างโมเดลบริเวณด้านทิศตะวันออก โดยตัวโครงการจะมี 2 อาคาร เป็นอาคาร A และ B โดยระหว่างอาคารจะมีระยะห่างพอสมควร ทำให้มีการหมุนเวียนอากาศภายในได้ดี ห้องที่หันออกทางนี้ ปัจจุบันจะเป็นพื้นที่ว่างรอการพัฒนา แต่ในอนาคตอาจจะมีตึกสูงทำให้บดบังทัศนียภาพในบริเวณนี้ได้ ดังนั้นสำหรับตัวผู้เขียนคิดว่า ห้องที่หันเข้าพื้นที่ด้านในโครงการน่าจะเป็นวิวที่ดีกว่านะคะ

ตัวอย่างโมเดลบริเวณด้านทิศเหนือ จะเป็นอาคาร B ทั้งหมด โดยหันหน้าประชันกับโครงการ Supalai Veranda พระราม 9 เลย โดยจะมีระยะห่างประมาณ 17-21 เมตร ชั้นที่ 2-6 จะตรงกับชั้นที่จอดรถของโครงการ Veranda ชั้น 7-8 จะตรงกับห้องพักอาศัยของ Veranda สำหรับตัวผู้เขียนคิดว่า ชั้นที่ตรงกับที่จอดรถ จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า สำหรับฝั่งนี้ชั้นที่อยู่ล่างๆ อาจจะดีกว่าชั้นด้าบน เนื่องจากห้องพักอาศัยต้องหันประชันหน้ากับห้องพักอาศัยของโครงการ Veranda นะคะ

ตัวอย่างโมเดลบริเวณด้านทิศตะวันออก ปัจจุบันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคุล โดยจะหันออกไปยังบริเวณถนนพระราม 9 ซึ่งยังไม่มีตึกสูงในระยะประชิด ถือว่าปัจจุบันยังเป็นวิวที่ดีที่สุดของโครงการนะคะ

ตัวอย่างโมเดลบริเวณด้านบน โดยตัวโครงการจะเป็นรูปตัว L สองตัว อยู่หันหน้าเข้าหากันเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม ทำให้มีพื้นที่ตรงกลาง คล้ายกับ Court ขนาดใหญ่ ที่มีช่องระหว่างตึกที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้ภายในสามารถระบายอากาศได้ดี ทำให้มีอากาศเย็นสบายภายในของตัวโครงการ สำหรับพื้นที่บริเวณนี้ทางโครงการได้ทำเป็นพื้นที่ Facilities โดยจะมีสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ซึ่งข้อดีของการวางไว้ตรงกลางระหว่าง 2 อาคาร คือทำให้คนทั้ง 2 อาคารสามารถลงมาใช้งานบริเวณด้านล่างได้ง่าย และตัวอาคารสามารถบังแดดได้ ทำให้พื้นที่นี้มีความร่มรื่นพอสมควรค่ะ สำหรับบริเวณชั้นดาดฟ้า จะเป็นพื้นที่ของ Roof Garden โดยจะสามารถออกไปใช้งานได้บริเวณเส้นปะสีแดงเท่านั้นนะคะ โดยด้านบนจะมีของเล่น และที่นั่งพักผ่อนให้ใช้งานกัน สำหรับพื้นที่อื่นจะไม่สามารถออกไปใช้งานได้ แต่จะทำเป็นพื้นที่สวน เพื่อทำให้สบายตา และอากาศสดชื่นมากยิ่งขึ้นนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศ บริเวณสระว่ายน้ำและฟิตเนสของชั้นที่ 1 โดยจะเป็นสระน้ำแนวยาวที่สุดขอบสระจะเป็นห้องฟิตเนส และมีต้นไม้โดยรอบเพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้พื้นที่บริเวณนี้ค่ะ

แบบเปลนอาคาร A โดยทั้งอาคารจะมียูนิตทั้งหมด 105 ยูนิตแต่ละชั้นจะมีประมาณ 15 ยูนิต ซึ่งที่ว่าไม่เยอะมาก ทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง โดยแต่ละชั้นจะมีครบทั้ง 4 แบบ โดยห้อง 1 Bedroom ทั้งหมดจะหันออกด้านนอกอาคาร ส่วนด้านในอาคารจะเป็นห้อง 2 Bedroom ทั้งหมด เนื่องจากวิวภายในโครงการถือว่าดี เนื่องจากในอนาคตบริเวณรอบข้างโครงการเป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะทำเป็นตึกสูงได้ ซึ่งตัวอาคารจะอยู่ชิดกับถนนใหญ่มากกว่า อาคาร B ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่อาจจะมีข้อเสีย ที่ฝั่งทิศใต้ จะเป็นพื้นที่ติดกับทางด่วน ซึ่งอาจจะมีเสียงรบกวนได้ สำหรับตัวแผนผังชั้น ทางเดินจะเป็นแบบ Double Corridor ส่วนของโถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องริมสุดไม่ต้องเดินไกลมาก โดยมีลิฟต์โดยสารแต่ละอาคารจำนวน 2 ตัว มีอัตราส่วนของลิฟต์โดยสารอยู่ที่ 52 : 1 ซึ่งถือว่าเบาบางพอสมควร ซึ่งจะไม่มีลิฟต์ Service ทำให้การใช้งานของส่วน Service ลำบากสักเล็กน้อย อาจจะต้องใช้ร่วมกันกับลิฟต์โดยสาร นอกจากนี้ยังมีบันไดหนีไฟทั้ง 2 จุด ทำให้สามารถใช้งานได้ค่อนข้างง่ายนะคะ

แบบเปลนอาคาร B โดยทั้งอาคารจะมียูนิตทั้งหมด 112 ยูนิตแต่ละชั้นจะมีประมาณ 16 ยูนิต โดยแต่ละชั้นจะมีครบทั้ง 4 แบบ ตัวอาคารจะอยู่ถัดเข้ามาข้างใน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าตึก A ซึ่งรวมถึงมีเสียงรบกวนที่น้อยกว่าบริเวณที่ติดถนนใหญ่ด้วย โดยอาคารนี้จะพิเศษกว่าอาคารที่แล้ว เนื่องจากจะมีห้อง 1 Bedroom ที่หันหน้าเข้าตรงกลางอยู่ 2 ห้อง โดยจะเป็นห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus จะมีอย่างละ 1 ห้อง ซึ่งทางทิศเหนือของอาคารนี้จะหันเข้าหาโครงการ Supalai Veranda พระราม 9 สำหรับชั้นที่ 2-6 จะหันหน้าเข้าหาชั้นจอดรถ แต่ชั้นที่ 7-8 ของ จะประชันหน้ากับห้องพักอาศัยของโครงการ Veranda ซึ่งอาจจะทำให้ความส่วนตัวลดลง ถึงแม้ว่าจะมีระยะห่างประมาณ 17-21 เมตร แต่ก็ยังสามารถมองเห็นภายในห้องพักได้ ซึ่งสำหรับฝั่งนี้บริเวณชั้นบนจะมีความเป็นส่วนน้อยกว่าบริเวณชั้นล่างนะคะ สำหรับตึกนี้จะมีอัตราส่วนของลิฟต์โดยสารอยู่ที่ 56 : 1 ซึ่งอาจจะมากกว่าเพราะยูนิตมากกว่า แต่ก็ยังถือว่าเบาบางพอสมควร นะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Lobby
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5×18 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
• สวนหย่อมรอบโครงการและชั้นดาดฟ้า รวม 950 ตร.ม.
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการอาคาร A 52 : 1
• อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการอาคาร B 56 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 58.53 % รวมจอดซ้อนคันแล้ว
• ระบบ CCTV
• Access Card เป็นแบบ Easy Pass
• ลิฟต์ล็อคชั้น

Product Walkthrough

โดยตัวอย่างห้องแรกจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms 1 Bath ขนาดพื้นที่ใช้ซอย 50 ตร.ม. ทางโครงการจะขายแบบ Fully Fitted เริ่มจากเปิดประตูเข้าห้องมา จะเจอพื้นที่ Common Area สามารถจัดเป็นพื้นที่กินข้าวได้ โดยสามารถซื้อโต๊ะทานข้าวสำหรับ 4 ที่นั่งมาใส่ได้โดยฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ห้องครัว โดยจะได้เป็นครัวเปิด แต่สามารถกั้นพื้นที่ได้ สำหรับฝั่งตรงกันข้ามห้องครัว จะเป็นห้องน้ำที่อยู่ด้านในตัวเอง ซึ่งอาจจะถ่ายเทอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร ต้องพึงที่ดูดอากาศในการช่วยระบายอากาศ สำหรับการใช้งานอาจจะต้องลำบากเล็กน้อย เนื่องจากต้องออกมาบริเวณห้องรับแขกก่อนถึงจะใช้ห้องน้ำได้ ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ห้องรับแขกอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้ง 2 ห้องนอน ซึ่งเหมือนเป็นพื้นที่พักผ่อนก่อนแจกจ่ายไปยังห้องต่างๆ สำหรับห้องรับแขกจะมีระเบียงภายในตัว สามารถออกไปใช้งานได้ โดยจะมีขนาดระเบียงที่ไม่ใหญ่มาก อาจจะใช้งานได้ประมาณ 2 คน โดยโครงการจะมีพื้นที่ซ่อน Condensing Unit ไว้ทางฝั่งซ้ายมือ เพื่อซ่อนและไม่รบกวนกับพื้นที่ระเบียงด้วย สำหรับห้องนอนใหญ่จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ และข้อดีคือมีหน้าต่างบางกระทุ้งถึง 3 บาน ทำให้ระบายอากาศได้ดี และยังมีพื้นที่บริเวณหน้าตู้เสื้อผ้าเหลือกว้างพอสมควร สามารถวางโต๊ะเครื่องสำอางได้ด้วย สำหรับห้องนอนเล็กจะสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ และยังมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่สามารถรับแสงธรรมชาติได้ รวมถึงมีหน้าต่างบางกระทุ้ง 2  บานที่ช่วยในการระบายอากาศได้ดีนะคะ

เข้ามาในห้องเจอฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ห้องครัว โดยจะได้เป็นครัวเปิดนะคะ ถัดเข้าไปจะเป็นห้องรับแขกที่มีระเบียงภายในตัว ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.50 เมตร พื้นของห้องนี้จะให้พื้นไม้ลามิเนตขนาด 8 มม.ทั้งหมด ยกเว้นบริเวณห้องครัว สำหรับประตูทางเข้าห้องจะได้เป็นแบบ Digital Door Lock นะคะ

หันกลับมาบริเวณด้านห้าห้อง ฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ห้องครัว ซึ่งพื้นที่ระหว่างทางมีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถเปลี่ยนโต๊ะทานข้าว เป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับ 4 ที่นั่งได้นะคะ

พื้นที่ค่อนข้างกว้างทีเดียวเลย สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ ซึ่งเราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราเองได้ค่ะ

ชุดตู้ Built-in ของห้องครัวเราจะได้ตามห้องตัวอย่างค่ะ จะมีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้ามาให้ ส่วนหน้าบานด้านบนทำผิวพ่นสีครีม high gloss ด้านล่างจะเป็นเมลามีนลายไม้ และมีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟมาให้ด้วยนะคะ แต่ทางโครงการจะไม่ได้ให้เครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ

พื้นที่ภายในครัวหลังจากใส่ Built-in จะมีพื้นที่ให้ยืนทำครัวกว้างประมาณ 1.78  เมตร มีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถใช้งานได้หลายคนพร้อมกัน พื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้องที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ตู้ด้านบนของเคาน์เตอร์ จะแบ่งออกเป็น 3 ตอน ซึ่งตู้ฝั่งซ้ายจะเป็นแบบบานเปิดเข้าหากัน พร้อมด้านในจะมีชั้นวางของมาให้ค่ะ ส่วนตู้ฝั่งขวาทางโครงการให้ hood สำหรับดูดควันในครัว ซึ่งทางโครงการได้ทำที่ระบายอากาศออกด้านนอกอาคารไว้นะคะ

ตู้ด้านบนของเคาน์เตอร์ ตู้เปิด-ปิด แถม Soft Close มาให้เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เกิดเสียง และลดแรงกระแทกก่อนที่หน้าบานจะปิดสนิท พร้อมที่มือจับ แบบเซาะร่องบริเวณหน้าบาน เพื่อให้จับง่ายมากยิ่งขึ้นนะคะ

บริเวณเคาน์เตอร์ ทางโครงการจะให้วัสดุ Top เคาน์เตอน์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ทนต่อน้ำและความร้อนได้ดี มีพื้นที่ตรงกลางไว้ใช้สำหรับเตรียมอาหารที่ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้งานได้สะดวกค่ะ

บริเวณเคาน์เตอร์ ทางโครงการให้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ขนาด 38 x 35 ซม. ก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ปรับโยกซ้าย-ขวาได้

ชุดครัวด้านล่างฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้ข้างใต้ซิงค์ล้างจาน ซึ่งสามารถวางของในบริเวณนี้ได้ พื้นที่ตรงกลางจะเป็นลิ้นชัก 3 ช่องที่สามารถใส่ของได้ตามใจชอบ ฝั่งขวามือจะมีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟ แต่ทางโครงการจะไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามานะคะ

ด้านหลังชุด Built-in ด้านบนสามารถทำเป็นชั้นวางของได้ ด้านล่างสามารถวางตู้เย็น และตู้ซักผ้าได้ สำหรับของจริงทางโครงการจะไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้ามา เราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ มาวางได้ตามใจชอบเลยนะคะ

บริเวณห้องครัว จะเป็นเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight ให้ค่ะ

หันกลับมาห้องตัวอย่าง ทำเป็นโต๊ะกินข้าวแบบ Counter Bar ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่ด้านหลัง เพิ่มขึ้นสามารถใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ฝั่งตรงข้ามห้องครัวจะเป็นทางเข้าห้องน้ำนะคะ

บริเวณห้องน้ำสามารถเข้าได้จากห้องรับแขกเท่านั้น ภายในห้องน้ำจะแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาและให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ

ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่ไว้ลงตัวในการใช้งาน โดยมีห้องน้ำเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว มีระยะการใช้งานกว้างพอสมควร สามารถใช้งานได้สบายค่ะ

ติดตั้งอ่างล้างหน้ายี่ห้อของ Cotto ตัวอ่างล่างมือมีขนาด 38 x 31 ซม. โดบรอบตัวอ่างจะมีพื้นที่สามารถวางของได้ ด้านล่างของตัวอ่างจะมีตู้ สามารถเก็บอุปกรณ์ห้องน้ำได้

ด้านบนจะได้กระจกเงาขนาดใหญ่ โดยจะมีขอบสำหรับวางของใช้ต่างๆ ขนาด 15 ซม. ของจริงจะได้ตามห้องตัวอย่างค่ะ

โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto มาค่ะ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก มีพื้นที่โดยรอบค่อนข้างกว้าง สายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชู่ จะติดตั้งที่ผนังทางด้านหลังค่ะ

สายชำระมีที่จับแสตนเลสถนัดมือค่ะ พร้อมทั้งมีที่ใส่กระดาษทิชชู่ ติดตั้งที่ผนังทางด้านหลัง

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์ใส รวมถึงรอบตัวบานกระจกจะติดขอบยาง เพื่อป้องกันน้ำซึมย้อนมาอีกฝั่ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว L ซึ่งสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวด้านหน้าฉากกั้นห้องน้ำได้ค่ะ

ความพิเศษของห้องน้ำนี้จะเป็นพื้นที่อาบน้ำ จะเรียบกับพื้นที่แห้งด้านนอก แต่จะมีการใส่ช่องระบายน้ำมาให้ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องกลัวสะดุดขอบกั้นนะคะ

พื้นที่ยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.64 x 0.85 เมตร โดยมีพื้นกว้างพอสมควรสามารถใช้งานได้สะดวก ประตูฉากกั้นมีขนาดกว้างสามารถเข้า-ออกได้สบายค่ะ

อุปกรณ์ชุดอาบน้ำแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Cotto โดยทางโครงการจะให้เป็นระบบน้ำร้อนให้ โดยด้านข้างจะมีชั้นวางของมาให้ทางฝั่งขวามือนะคะ

ทางโครงการให้ ฝักบัวเป็นแบบ Hand Shower ยี่ห้อ Cotto ขนาดพอดีกับมือมาค่ะ

สำหรับผนังห้องน้ำจะปูกระเบื้องจรดเพดาน บริเวณเพดานฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดไฟ Downlight และติดพัดลมดูดอากาศมาให้ค่ะ

กลับออกมาพื้นที่ห้องรับแขกจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางก่อนแจกจ่ายไปยังห้องนอน โดยห้องรับแขกจะมีระเบียงสามารถออกไปใช้งานได้ ทำให้ห้องนั่งเล่นสามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ และสามารถระบายอากาศได้ะนะคะ

พื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่น จะมีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.26 เมตร สามารถเลือกทีวีขนาด 50 นิ้วมาใส่ได้ สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ ซึ่งเราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราเองได้ค่ะ

ทางโครงการได้เตรียมช่องเสียบสัญญาณทีวีไว้ให้เรียบร้อย ด้านบนฝั่งทีวีทางโครงการจะให้แอร์ยี่ห้อ Daikin มาด้วยขนาด 17000 BTU

บริเวณห้องนั่งเล่น จะเป็นเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight ให้ค่ะ

ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียมสีดำแบบ 2 ตอน เป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เวลาเลื่อนเปิดจนสุดจะได้ระยะช่องเปิดมากขึ้น เนื่องจากโครงการได้ทำพื้นที่วาง Condensing Unit ไว้ด้านข้าง ทำให้สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่ด้วย ไม่มีอะไรมารบกวนสายตาค่ะ

บริเวณมือจับเซาะร่องพร้อมปุ่มล็อคและมีสักกะหลาดไว้สำหรับกั้นฝุ่นบริเวณขอบประตู ทางออกจะมีธรณีประตูสูงขึ้นจากระเบียงประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำฝนและความชื้นจากระเบียงค่ะ

พื้นทีระเบียงจะมีขนาด 2.00 x 0.70 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ส่วนราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กสีดำค่ะ

ด้านข้างจะทำที่พื้นที่วาง Condensing Unit มาให้ เพื่อไม่ให้รบกวนกับพื้นที่ระเบียงนะคะ

กลับเข้ามาบริเวณห้องนั่งเล่น ฝั่งทางเข้าเดียวกับห้องน้ำ จะมีทางเข้าห้องนอนใหญ่อยู่นะคะ

ภายในห้องตัวอย่างจะใส่เตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมโต๊ะหัวเตียงและตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะการใช้งาน ข้อดีของห้องนอนจะอยู่ติดริมหน้าต่าง ซึ่งมีหน้าต่างบานใหญ่พร้อมมีบานกระทุ้งถึง 3 บาน สามารถระบายอากาศและรับแสงแดดได้ดี พร้อมทั้งสามารถมองวิวได้เต็มที่ สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ ซึ่งเราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราเองได้ค่ะ

บริเวณปลายเตียงหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่เหลือประมาณ 80 ซม. คือพอที่จะเดินไปเดินมาได้สะดวก ซึ่งขอแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานค่ะ

บริเวณด้านข้างเตียงที่ติดกับหน้าต่างจะมีพื้นที่เหลือประมาณ 90 ซม คือมีระยะพอดีสำหรับการใช้งาน สามารถวางตู้ข้างเตียงเพิ่มเติมได้นะคะ

หน้าต่างของห้องนอน ด้านล่างจะเป็นหน้าต่างบาน Fix สำหรับด้านบนจะเป็นบานกระทุ้ง 3 บาน เอาไว้เปิดระบายอากาศได้ดี โดยจะใช้กระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อป้องกันความร้อนเข้ามาในห้องค่ะ

โดยจะมีตัวล็อคของบานกระทุ้ง จะไม่สามารถเปิดได้ไม่กว้างมากนัก เพื่อความปลอดภัยค่ะ ส่วนบริเวณด้านจับเป็นแบบก้านโยกสามารถเปิดใช้งานได้ง่ายค่ะ

มอกลับมาด้านในจะสามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้ และมีพื้นที่กว้างมากพอที่จะวางโต๊ะเครื่องสำอางได้อีกด้วย สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้ ซึ่งเราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราเองได้ค่ะ

บริเวณด้านหน้าตู้เสื้อผ้า จะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถใช้งานได้สบาย หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วจะมีพื้นที่เหลือถึง 1.60 เมตร

บริเวณห้องนอน จะเป็นเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight ให้ค่ะ

ทางโครงการได้ให้แอร์ยี่ห้อ Daikin ขนาด 17000 BTU นะคะ

ออกมาบริเวณห้องรับแขก ด้านข้างชั้นวางทีวี จะมีประตูทางเข้าห้องนอนเล็กนะคะ

ภายในห้องนอนเล็ก สามารถใส่เตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตได้ ข้อดีของห้องนอนจะอยู่ติดริมหน้าต่างเหมือนกับห้องนอนใหญ่ แต่จะมีหน้าต่างบานเล็กกว่า พร้อมมีบานกระทุ้ง 2 บาน สามารถระบายอากาศและรับแสงแดดได้ดี พร้อมทั้งสามารถมองวิวได้เต็มที่ สำหรับห้องจริงจะได้เป็นห้องเปล่าๆไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งให้เช่นเดียวกับห้องเมื่อกี้นะคะ

บริเวณปลายเตียงหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่ระยะปลายเตียงเหลือประมาณ 50 ซม. สามารถเดินใช้งานได้พอดีนะคะ สำหรับฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1.70 เมตร ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง บริเวณหน้าต่างสามารถทำเป็นพื้นที่โต๊ะทำงานได้ โดยสำหรับของจริงทางโครงการจะไม่ให้เฟอร์นิเจอร์มา ดังนั้น เราสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งานได้นะคะ

หน้าต่างของห้องนอน ด้านล่างจะเป็นหน้าต่างบาน Fix สำหรับด้านบนจะเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน เอาไว้เปิดระบายอากาศได้ดี โดยจะใช้กระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อป้องกันความร้อนเข้ามาในห้องค่ะ

ด้านข้างเตียง จะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้ามาให้ซึ่งขอแนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนไป-มา เพื่อประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน

บริเวณด้านหน้าตู้เสื้อผ้า จะมีพื้นที่ใช้งานได้พอสมควร หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วจะมีพื้นที่เหลือประมาณ 50 ซม. ซึ่งขอแนะนำให้ใช้ตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนไป-มาเพื่อประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน

บริเวณห้องนอน จะเป็นเพดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight ให้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @18 December2018

• ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.50-38.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.53 ล้านบาท

• จอง 20,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
• ค่ากองทุนส่วนกลาง 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าทำสัญญา 80,000-150,000 บาท
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – Supalai Prime พระราม9 ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ใต้ทางด่วนพิเศษศรีรัชโดยบริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับ แยกรัชดาภิเษก ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มาก เนื่องจากเป็นแหล่งสำนักงานขนาดใหญ่ รวมถึงมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างมีรถใช้อย่างหนาแน่น สำหรับตัวโครงการ ถ้าขับต่อไปจะสามารถเชื่อมต่อกับบริเวณเลียบทางด่วนได้ นอกจากนี้ถ้าขับเข้าซอยพระราม 9 ซอย 17 ที่สามารถไปเชื่อมต่อกับ ถนนเทียมร่วมมิตร ซึ่งสามารถขับไปออกถนนอื่นๆได้หลายเส้น เช่น ถนนประชาอุทิศ ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม และถนนรัชดาภิเษกได้ ซึ่งอาจจะมีรถเบาบางกว่าเส้นอื่นๆ เนื่องจากเส้นหลักในช่วงเวลาเร่งด่วน มีรถหนาแน่น นอกจากนี้ถนนพระราม 9 ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย รวมถึงทางขับเลยไปยังฝั่งขวามือ จะเชื่อมเข้าถนนรามคำแหง, ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และ ถนนสุขุมวิท

การเดินทางโดยใช้รถ – การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเข้าออกเมืองค่อนข้างสะดวกทีเดียว เพราะโครงการติดถนนสายหลักอย่างถนน พระราม 9 ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมไปถนนสายหลักๆ อย่าง ถนนรัชดาภิเษก, ถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนประชาอุทิศ, ถนนรามคำแหง, ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และถนนสุขุมวิทได้ง่าย รวมถึงบริเวณใกล้โครงๆการจะมีถนนเทียมร่วมมิตร ที่สามารถลัดออกไปยังถนนต่างๆได้หลายสาย สามารถหลีกเลี่ยงรถในช่วงเวลารถติดได้ นอกจากนี้ บริเวณใกล้ๆโครงการจะมีทางขึ้น-ลงทางด่วน ถ้าต้องการเข้าตัวเมืองสามารถใช้ด่านรามคำแหงได้ แต่ถ้าใครต้องการออกนอกเมืองให้วิ่งบนถนนพระราม 9 จนสุด จะไปเชื่อมเข้ายัง Motor Way กรุงเทพ-ชลบุรี ที่สามารถออกไปยังชานเมืองได้ สำหรับที่จอดรถภายในโครงการสามารถจอดได้ 58.53% รวมซ้อนคัน ซึ่งถือว่าให้มากลางๆไม่มากไม่น้อยเกินไปค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – ในปัจจุบันจะมี Airport Rail Link รามคำแหง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. ถ้าต้องการเข้าเมืองไปก็สามารถเชื่อมไปใช้ BTS ได้ที่สถานีพญาไท หรือสามารถออกเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ หรือถ้าใครต้องการใช้ใต้ดิน สามารถไปขึ้น MRTสถานีพระราม9 ได้ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. นอกจากนี้ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ผ่านบนถนนพระราม 9 บริเวณหน้าโครงการ โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรฟม. ที่จะอยู่บริเวณใกล้สี่แยกพระราม 9 สำหรับระยะห่างจากโครงการที่แน่นอนยังไม่ทราบนะคะ ต้องรอแผนที่ชัดเจนจาก MRT ก่อน นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ติดถนนใหญ่ สามารถเรียก Taxi ได้ง่าย แต่บริเวณข้างเคียงยังไม่มีพี่วินมอเตอร์ไซค์นะคะ

การออกแบบโครงการ – เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวมทั้งหมดจำนวน 214 ยูนิต บนที่ดินขนาด 2 ไร่ จัดเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มากจพนวนยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว ออกแบบภายใต้แนวคิด Rhythm of nature โดยการนำเส้นตรง มาสร้างเป็น Pattern โดยใช้โทนสีน้ำตาล ราวกับป่าไม้ พร้อมทั้งใช้สีทองแทรก เพื่อเสริมความโดดเด่น และเพิ่มความหรูหราให้กับตัวโครงการ  ทำให้หน้าตาของอาคารดูแตกต่างจากโครงการอื่นๆทั่วไป ซึ่ง Prime ถือว่าเป็นแบรนด์ระดับบนของ ศุภาลัย ด้วยนะคะ

การออกแบบห้อง – ห้องแบบ 2 Bedrooms 1 Bath ขนาดพื้นที่ใช้ซอย 50 ตร.ม. ทางโครงการจะขายแบบ Fully Fitted โดยจะเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ แบ่งห้องออกเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยเน้นให้ห้องนอนและห้องรับแขก จะได้หน้าต่างขนาดใหญ่ พร้อมได้รับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมีจุดเด่นคือการทำหน้าต่างออกเป็น 2 ส่วน โดยจะแบ่งด้านล่าง เป็นกระจกบาน Fix และด้านบนเป็นกระจกบานกระทุ้ง เพื่อให้สามารถระบายอากาศภายในห้องได้ดี รวมถึงตัวระเบียงได้ออกแบบพื้นที่วาง Condensing Unit มาเป็นพิเศษทำให้ไม่บดบังทัศนียภาพในการมองค่ะ

วัสดุ – ภายในเน้นเลือกใช้วัสดุที่มีมาตราฐานพื้นภายในห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. พื้นและผนังห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้อง ส่วนพื้นที่ห้องครัวของ จะเป็นพื้นกระเบื้องเหมาะกับการใช้งาน ชุดครัวบานเปิดเป็นบานพ่นสีครีม high gloss ส่วน Top เคาน์เตอน์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ทนต่อน้ำและความร้อนได้ดี ผนังห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งหมดเป็นของ Cotto มีระบบน้ำร้อนให้พร้อมใช้งาน แต่โครงการจะเป็นแบบ Fully Fitted น่าจะเหมาะกับลูกค้าที่ชอบแต่งห้องเอง สามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้ สำหรับจุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ ที่ด้านล่างจะเป็นหน้าต่างบาน Fix เพื่อป้องกันอันตราย สำหรับด้านบนจะเป็นบานกระทุ้ง ที่ทำให้ระบายอากาศได้ดี นอกจากนี้ประตูด้านหน้าจะให้ Digital Door Lock พร้อมแอร์ของ Daikin ที่ติดตั้งมาให้แล้วภายในห้องพักนะคะ

สาธารณูปโภค – ส่วนกลางที่มีให้ ได้แก่  Lobby ที่แยกแต่ละอาคาร, สระว่ายน้ำ, Deck ริมสระว่ายน้ำ, Fitness,   สวนบนชั้น Rooftop ที่มีมาให้ทั้ง 2 อาคาร มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 52 : 1 และ 56 : 1 ซึ่งความหนาแน่นของอัตราส่วนลิฟต์ถือว่าไม่มาก สามารถใช้งานได้สะดวก มีบันไดหนีไฟในอาคารทุกอาคาร ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังชั้นที่จอดรถได้ทั้งหมดค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 83,000 บาท/ตร.ม., 18 December 2018

• ทำเล 7.50/10 – ติดถนนพระราม 9 ไปเชื่อมถนนได้หลายเส้นทาง แต่ในระยใกล้หาของกินยากต้องพึ่งรถไป
• เดินทางด้วยรถ 8.50/10 – สะดวกเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ เรียกรถสาธารณะง่าย อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีส้มใกล้โครงการ
• วัสดุ 7.5/10 –  เหมาะสมตามมาตรฐานของคอนโดระดับราคานี้ ได้แบบ Fully Fitted ต้องแต่งเพิ่ม
• แบบ 8/10 – มีห้องให้เลือกหลากหลายแบบ วาง Function ห้องต่างๆไว้อย่างชัดเจน
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีมาให้ครบตามมาตราฐาน น่าใช้งาน

• MAIN CLASS
• 7.70 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ  Supalai Prime พระราม 9เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาที่อยู่ในย่านพระราม 9 แต่ต้องการราคาที่จับต้องง่ายหน่อย ติดถนนหลักเน้นใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว มีห้องให้เลือกหลายแบบ ภายในแบ่ง Function ได้ชัดเจน และมีส่วนกลางหลักๆให้ใช้ครบ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณ  2.53 – 5.83 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนเดือนละ 15,000-30,000 บาท/เดือน