supalai cover post

รีวิวฉบับที่ 955 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Supalai Prima Villa พุทธมณฑลสาย 3 โครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แบรนด์นี้เป็นตัวท๊อปฝั่งแนวราบของศุภาลัย มีแบบบ้านทั้งหมด 5 แบบ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 197 – 306 ตร.ม. บนเนื้อที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วาขึ้นไป ทางเข้าโครงการอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 3 ฝั่งมุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี อยู่ใกล้ถนนอักษะและบรมราชชนนี 

Facts @ 21 October 2015

  • Supalai Prima Villa Phutthamonthon Sai 3 (ศุภาลัย พริม่า วิลล่า พุทธมณฑลสาย3)
  • บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
  • UPPER – HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ
  • เนื้อที่โครงการ 85-3-92.3 ไร่ จำนวน 216 ยูนิต
  • ศุภกฤต – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 213 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ
  • ศุภฤทัย – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 197 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ
  • ศุภจิตรา – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 233 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 2 ที่จอดรถ
  • ศุภกานต์ – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 279 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ส่วนทำงาน 1 ส่วนพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
  • ศุภราช – บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 306 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ส่วนทำงาน 1 ส่วนพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 100 ตร.วา ขึ้นไป
  • ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาทหรือ 83,550 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปลายปี 2557
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-441-3399
  • Call Center : 1720 กด 51

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.770949, 100.363372

mapsai3

โครงการอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 3 ฝั่งมุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี อยู่ในช่วงที่ใกล้ๆกับทางเลี้ยวซ้ายไปยังถนนอุทยาน ซึ่งในบริเวณนี้เป็นพื้นที่สีเขียวลายทำให้บ้านเดี่ยวที่อยู่ในบริเวณนี้ต้องมีพื้นที่มากกว่า 100 ตร.วาขึ้นไป ส่วนถนนพุทธมณฑลจะมีตั้งแต่สาย 1 ไล่ไปเรื่อยไปจนถึงสาย 6 สาย 7 ซึ่งตัวถนนพุทธมณฑลจะเป็นเส้นทางการเชื่อมต่อการเดินทางจากเหนือมาใต้แล้วตัดกับถนนสายต่างๆในการวิ่งเข้าสู่ตัวเมือง นอกจากนี้ยังมีถนนที่ตัดใหม่เป็นโครงการที่เชื่อมต่อจากพรานนกมายังพุทธมณฑลสาย 4 แต่ตอนนี้ยังอยู่ในเฟสแรกคือถึงแค่ถนนกาญจนาภิเษกนะคะ

SPL_Prima_Villa_Map_Area

มาดูแผนที่ในสัดส่วนของจริงกันนะคะ สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนมากยังมีพื้นที่ให้พัฒนาอีกพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยในซอยและพื้นที่ทางการเกษตร โดยหมู่บ้านพักอาศัยนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายโครงการและหลายระดับราคา แต่ส่วนมากจะเป็นทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวเนื้อที่ประมาณ 50 ตร.วา ส่วนบ้านที่ใหญ่กว่า 100 ตร.วานั้นจะมีอยู่แค่ไม่กี่โครงการ

ปัจจุบันทำเลแถวนี้เริ่มคึกคักมากขึ้นเพราะตัวเมืองขยายออกมาเรื่อยๆมีหมู่บ้านเกิดขึ้นมากมาย พอมีแหล่งชุมชนเยอะขึ้นพวกร้านอาหารและตลาดต่างๆก็เติมโตตามมาด้วย ยิ่งตอนนี้มีห้างเซ็นทรัลศาลายามาเปิดด้วยยิ่งคึกคักเข้าไปใหญ่ แหล่งความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะไปอยู่บนถนนเพชรเกษมซะมากกว่า มี Big C ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ส่วน Victory Garden ก็มีร้านอาหารแบรนด์ดังๆมาเปิดอยู่เหมือนกันซึ่งเราเคยรีวิวไว้แล้วสามารถเข้าไปอ่านได้โดย คลิกที่นี่

นอกจากนี้ยังตัวโครงการยังอยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆอย่าง ถนนอุทยาน, สวนพุทธมณฑล, มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา, ตลาดสดศาลายา, สถานีรถไฟศาลายา และ Community Mall ชื่อ The Brio อยู่ตรงหัวมุมทางไปสาย 4 พอดีในนั้นจะมี Foodland อยู่ด้วย หรือถ้าอยากจะหาอของกินที่แบบ Street Food ก็ไปฝั่งตรงข้ามม.มหิดลก็ได้ค่ะ แถวนั้นมีร้านอาหาร และขนมมากมายให้เลือกเยอะ เพราะมีนักศึกษามาอยู่อาศัยแถวนั้นค่อนข้างมาก

ทีนี้มาดูมาดูการเดินทางไปห้างเซ็นทรัลศาลายากันบ้าง ที่ต้องทำแผนที่มาให้ดูเพราะ Google Map ยังไม่ Update แผนที่ให้ เวลาจะไปกลับรถจะต้องไปไกลมากถึงที่กลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนเลย เนื่องจากสะพานกลับรถอยู่ก่อนถึงตัวห้างทำให้เวลาจะเข้าห้างเราต้องใช้ซอยที่อยู่ข้างๆห้างตามรูป พอเลี้ยวเข้าซอยแล้วให้เลี้ยวซ้ายตรงไปจนสุดจะทะลุด้านหลังห้างพอดี

SPL_Prima_Villa_Map_Area-route1

การเดินทางวันนี้เรามาเริ่มกันบนเส้นบรมราชชนนีขาออกมุ่งหน้านครปฐม แล้วก็วิ่งตรงยาวๆไปจนถึงพุทธมณฑลสาย 3 แล้วค่อยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 3 ไปกลับรถใต้สะพานเพื่อเข้าโครงการ

เริ่มกันที่ถนนบรมราชชนนีเป็นถนนขนาดใหญ่ที่มีทางคู่ขนานตลอดทางไปจนถึงแถวเซ็นทรัลศาลายา ถ้าจะมาโครงการก็วิ่งในถนนหลักทางขวามือได้นะคะ แต่เราวิ่งทางคู่ขนานสักระยะเพื่อพาไปดูว่าต้องวิ่งผ่านอะไรบ้าง เริ่มต้นวิ่งผ่านพุทธมณฑลสาย 1 ก่อนซึ่งทุกๆถนนพุทธมณฑลจะมีสะพานข้ามถนนบรมราชชนนีเพื่อให้สะดวกในการเข้าเมือง ตอนนี้สะพานมีถึงสาย 5 แล้วนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นอาคารพาณิชย์ด้านซ้ายมือเป็นพวกบริษัททัวร์ต่างๆเยอะมากเลยค่ะ

supalai location 4 copy

ที่มีเยอะขนาดนี้ก็เพราะอยู่ใกล้สถานีขนส่งสายใต้นี่แหละค่ะ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาวิ่งทางคู่ขนานนะคะเพราะบริเวณบางช่วงเวลารถจะติดมาก

เรายังคงตรงต่อไปตามป้ายนครปฐมนะคะ ตรงไปอีกหน่อยจะมีทางแยกสองทาง ทางที่ใกล้กว่าจะเลี้ยวซ้ายไปบางแค ส่วนทางแยกซ้ายที่ไกลกว่าหน่อยจะกลับไปยังบางบัวทองแถวๆนนทบุรี

มาถึงแยกที่ไปออกถนนกาญจนาภิเษกแยกนี้เอาไว้ไปเส้นเพชรเกษม, พระราม 2 หรือจะข้ามไปทางสำโรงปู่เจ้าสมิงพรายก็ได้

แยกซ้ายถัดมาออกไปวนรถไปทางบางบัวทอง

ตรงมาอีกนิดก่อนถึงถนนพุทธมณฑลสาย 2 จะเจอรพ.ธนบุรี 2 ซึ่งมีสาขาแรกอยู่ตรงถนนอิสรภาพ เลยจากโรงพยาบาลไปจะเป็นทางเลี้ยวซ้ายเข้าสาย 2 ก่อนเข้าจะมีศูนย์อาหารอยู่ด้านใน

จากนั้นเราก็จะวิ่งตรงไปอีก ซึ่งถ้าใครวิ่งบนถนนหลักมาให้วิ่งตรงยาวๆมาจนเจอป้ายให้ออกพุทธมณฑลสาย 3 แล้วค่อยเบี่ยงซ้ายออกนะคะ

ขับมาสักระยะจะเริ่มเห็นป้ายโครงการด้านซ้ายมือแล้วก็เตรียมชิดซ้ายเพื่อออกทางคู่ขนาน

เลี้ยวซ้ายมาออกทางคู่ขนานกันแล้ว เราจะวิ่งตามป้ายบอกทางเลยค่ะ

วิ่งมาจนเจอบุญถาวรจะเป็นช่วงสุดสะพานต่างระดับบรมราชชนนีพอดี ถ้าใครที่ต้องใช้สะพานพระราม 8 หรือสะพานปิ่นเกล้าก็สามารถขึ้นสะพานแล้ววิ่งยาวๆมาลงตรงนี้ได้เลยค่ะ

ป้ายบอกทางอีกเช่นเคย เราจะเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 3 กันแล้วนะคะ ถ้าตรงไปก็จะไปยังสาย 4-5-6-7 ไปเรื่อยๆ

ทางแยกเข้าพุทธมณฑลสาย 3 แล้วให้เลี้ยวซ้ายตามลูกศรเลยค่ะ

เลี้ยวซ้ายมาแล้วก็จะเจอกับจุดกลับรถใต้สะพาน และสะพานข้ามแยกที่จะไปกลับรถเข้าเมืองได้ ส่วนเราตรงต่อไปค่ะ

บนถนนพุทธมณฑลสาย 3 เป็นถนน 3 เลน สองฝั่งรวมกันก็เป็น 6 เลน ซึ่งจะเป็นถนนที่ตัดมาได้ไม่นาน ทำให้มีเกาะกลางถนน และมีจุดกลับรถอยู่เรื่อยๆ สภาพสองฝั่งมีต้นไม่ดูร่มรื่นดี

ตรงมาเจอแยกไฟเขียวไฟแดงที่ตัดกับถนนอักษะ(อุทยาน) ให้เราตรงไปก่อนนะคะ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปพุทธมณฑลสาย 4 ไว้ไปเซ็นทรัลศาลายาหรือไปหาของกินแถวหน้าม.มหิดล

พอผ่านแยกไฟเขียวไฟแดงมาจะสังเกตได้ว่ารถจะเริ่มติดทันที เนื่องจากทางซ้ายมือข้างหน้าจะมีสิ่งปลูกสร้างแบบอาคารพาณิชย์ที่เป็นทางเข้า-ออกศูนย์ขนส่งสินค้าจะมีรถใหญ่เยอะอย่างที่เห็น ซึ่งก็จะกินที่เลนทางซ้ายไปสองเลนได้ ส่วนรถที่ผ่านไปมาก็จะใช้เพียงเลนทางขวามือเลนเดียว ทำให้ความคล่องตัวน้อยหน่อย

การข้ามถนนไปมาก็จะใช้เป็นทางม้าลายที่เตรียมให้ แต่เท่าที่สังเกตก็ยังไม่มีคนใช้ทางเท้าเดินเท่าไรนะคะ ส่วนใหญ่จะขับรถเลยซะมากกว่า

พอเลยขนส่งมาก็จะโล่งแล้ว จะเห็นทางเข้าโครงการอยู่ด้านขวามือ ตรงข้ามกับวันโกมุทพุทธรังสีพอดีเลย

พอเห็นทางเข้าโครงการเราก็เริ่มชิดซ้ายสุด เพื่อจะไปกลับรถใต้สะพาน ส่วนใครที่กลับรถไม่ทัน ข้ามสะพานไปก่อนก็ได้ค่ะ จะมีทางกลับรถด้านหน้าเหมือนๆกัน

สภาพแวดล้อมบริเวณใต้สะพานก็ดูเรียบร้อยดี

กลับรถออกมาแล้วให้ชิดซ้ายไว้นะคะ เพราะทางเข้าโครงการอยู่ไม่ไกล

ถึงแล้วค่ะทางเข้าโครงการ Supalai Prima Villa หน้าซุ้มประตูจะมีป้ายชื่อโครงการติดไว้เห็นได้ชัดเจน ส่วนถ้าใครมาจากทางเพชรเกษมพอข้ามสะพานมาแล้วให้ชิดซ้ายไว้นะคะจะได้ไม่เลย

SPL_Prima_Villa_Map_Area-route2

ต่อไปจะพาไปดูเส้นทางในการเข้าเมืองนะคะ เพราะถ้าจะไปกลับรถบนถนนบรมราชชนนีจะไปกลับถึงสาย 4 เลยแต่ถ้าขึ้นสะพานข้ามแยกไปจะกลับรถใกล้กว่าค่ะ

ออกมาจากโครงการก็เลี้ยวซ้ายมาอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 3 หน้าโครงการ พื้นที่ดินที่ติดกันคือทางเข้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ

ถัดมาหน่อยจะเป็นอาคารที่เหมือนพึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆเลย มี 7-11 มาเปิด ทำให้ลูกบ้านภายในโครงการมีร้านจิปาถะอยู่ใกล้ตัว ถัดไปหน่อยก็จะเป็นพวกร้านขายเสื้อผ้าเล็กน้อยๆ ไม่คึกคักมาก

เลยมาหน่อยก็จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ตรงมาเรื่อยๆก็จะมีแปลงที่ดินว่างเปล่า ที่เลนถนนทางซ้ายสุดมักจะถูกจับจองด้วยรถบรรทุกส่ง-รับของมาจอดรถเวลาบ้าง

ตรงมาเจอแยกตัดถนนอุทยานอีกครั้ง ถ้าจะไปกินข้าวร้านบ้านน้ำเคียงดินก็เลี้ยวซ้ายไปได้เลย แต่เราจะเข้าเมืองก็ตรงไปก่อนนะคะ

วิ่งตามป้ายไปขึ้นสะพานลอยกันเลยยย

เจอสะพานแล้วก็ขึ้นไปได้เลยค่ะ

ลงสะพานมานิดเดียวจะมีจุดกลับรถที่เค้าทำไว้ให้วิ่งเข้าเส้นบรมราชชนนี

กลับรถมาแล้วก็จะมีป้ายบอกทางอยู่เราจะชิดซ้ายเพื่อจะเข้าเมือง ส่วนทางข้างหน้าก็จะมีสะพานลอยรถข้ามกลับไปยังถนนพุทธมณฑลสาย 3 อยู่ที่สองเลนทางขวานะคะ

เราชิดซ้ายมาข้างๆกับสะพานลอยรถข้าม ทางขวามือก็จะมีทางกลับรถไว้ให้ด้วย

วิ่งตรงมาอีกหน่อยก็จะมาออกเส้นบรมราชนนีแล้วค่ะ

เราจะวิ่งตรงไปเรื่อยๆเพื่อไปขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าเส้นบรมราชชนนีเพื่อเข้าเมืองกันนะคะ ส่วนใครที่จะไปถนนพุทธมณฑลสาย 1-2 ก็จะใช้เส้นทางแนวราบ หรือว่าจะไปเส้นจรัญสนิทวงศ์ก็ชิดซ้ายไว้ก่อน

ถึงแล้วทางขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชนนี ใครจะมุ่งหน้าไปยังสะพานซังฮี้, สะพานปิ่นเกล้า หรือสะพานพระราม 8 ก็ขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าวิ่งยาวๆได้เลยค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

พื้นที่รอบๆโครงการถือว่ายังโล่งๆอยู่ มีพื้นที่ให้พัฒนาอีกพอสมควร ก่อนถึงโครงการจะมีศูนย์ขนส่งสินค้าขนาดใหญ่อยู่อาจจะมีปัญหาเรื่องรถติดอยู่บ้างในช่วงที่มีรถมาส่งของเยอะๆ เราก็ชิดขวาไว้ทำให้ก็ยังพอเคลื่อนตัวได้ ฝั่งตรงข้ามทางเข้าโครงการจะมีวัดโกมุทพุทธรังสีเป็นจุดสังเกต การเข้าโครงการจะต้องไปกลับรถใต้สะพานหน่อยนะคะ

ตัวโครงการจะมีพื้นที่บางส่วนติดถนนใหญ่เป็นทางเข้าและมียูนิตบางส่วนอยู่บนถนนหลักส่วนหน้า แต่ยูนิตที่เหลือจะอยู่ด้านในทั้งหมด ทางทิศเหนือของโครงการจะเป็นกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือที่อยู่ติดกับทางเข้ามีอาคารสูงประมาณ 5 ชั้น 1 อาคาร ส่วนทิศใต้ด้านล่างที่ติดกับคลองบางพรหมจะยังคงเป็นพื้นที่โล่งๆอยู่ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะมีโรงเรียนสตรีวิทยาอยู่เขยิบไปอีกหน่อย โรงเรียนขนาดใหญ่ทีเดียว ส่วนพื้นที่ที่ไกลออกไปหน่อยทางทิศเหนือจะเป็นพื้นที่ทางการเกษตรและเป็นถนนอุทยานที่มีร้านอาหารบ้านน้ำเคียงดินอยู่ใกล้ๆ เรียกว่าขับรถไปนิดเดียวก็ได้กินของอร่อยๆแล้วค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • 7-11 100 เมตร
  • วัดโกมุทพุทธรังสี 250 เมตร
  • พุทธมณฑล 4.7 กิโลเมตร
  • The Brio Mall 5.1 กิโลเมตร
  • ศูนย์การแพทย์มหิดล 6.1 กิโลเมตร
  • ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2 6.2 กิโลเมตร
  • ม.มหิดล ศาลายา 6.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี 6.8 กิโลเมตร
  • สถานีรถไฟศาลายา 7.6 กิโลเมตร
  • BigC Extra เพชรเกษม 2 9 กิโลเมตร
  • อนุบาลเด่นหล้า 9.6 กิโลเมตร
  • The Mall บางแค 10.2 กิโลเมตร
  • Central ศาลายา 10.1 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus พุทธมณฑล 11.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลธนบุรี 2 11.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ บางบอน 14.7 กิโลเมตร
  • สถานีขนส่งสายใต้ 15.6 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

masterplan4

โครงการ Supalai Prima Villa พุทธมณฑลสาย 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 216 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 85-3-92.3 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนพุทธมณฑลสาย 3 ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนบรมราชชนนี ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ของโครงการยังเป็นพื้นที่ก่อสร้าง กำหนดโอนกรรมสิทธิ์เร็วที่สุดคือช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2559 ส่วนที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มคือพื้นที่ที่กำลังเปิดขายอยู่ไล่ตั้งแต่หน้าโครงการส่วนที่เป็น Sales Office และบ้านตัวอย่างเข้าไปยังถนนซอยย่อยๆ การจัดวางแบบบ้านของโครงการในแต่ละซอยย่อยรวมไปถึงรอบสวนสาธารณะและ Clubhouse ไม่ได้แบ่งแบบบ้านเล็กใหญ่ออกเป็นโซนๆตามพื้นที่ แต่จะมีบ้านทุกแบบสลับๆกันไปในพื้นที่แปลงต่างๆ แต่เปอร์เซนต์ส่วนมากจะตกอยู่ที่แบบบ้านหลังใหญ่คือแบบศุภกานต์และศุภราช

จากทางเข้าโครงการจะมีซุ้มป้อมพี่ยามต้อนรับอยู่ด้านหน้าพร้อมกับส่วนหย่อม ผ่านส่วนซุ้มโครงการเข้ามาก็จะเจอกับถนนหลักของโครงการที่กว้าง 16 เมตร ทางขวาเป็นกำแพงรอบโครงการสูง 3 เมตรและมีเหล็กแหลมต่อเพิ่มอีก 0.4 เมตร ส่วนฝั่งซ้ายเป็น Sales Office และพื้นที่จอดรถของผู้เข้ามาติดต่อโครงการ ถัดเข้าไปหน่อยจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 5 หลัง มีแบบบ้านให้ดูทุกแบบ ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นทางเดินเท้าที่ยกขึ้นมาจากพื้นถนนนิดหน่อย ตรงเข้าไปเรื่อยๆจะเป็นวงแหวนและมีถนนรองแยกออกมาจำนวน 3 ซอย ถนนซ้ายมือและขวามือจากวงเวียนกว้าง 12 เมตร และถนนสองฝั่งรอบสวนสาธารณะกว้าง 10 เมตร และจากถนนรองก็จะแยกออกเป็นซอยย่อยๆต่างๆกว้าง 9 เมตร ซึ่งก็จะมีบ้านอยู่ทั้งสองฝั่ง แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่ก่อสร้างอยู่ พื้นที่หลังวงเวียนก็จะเป็นส่วน Facility หลักของโครงการ คือสวนสาธารณะขนาดประมาณ 3 ไร่ รอบๆก็จะมีการตกแต่งพื้นที่ออกเป็น Waterscape บ้าง สนามเด็กเล่นบ้าง และทางเดินเท้าบ้าง โดยส่วนหลังสุดจะมี Clubhouse ของโครงการที่กำลังเริ่มก่อสร้าง ภายในประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า และห้องนิติบุคคล

การวางตัวบ้านของแต่ละยูนิตจะมีส่วนที่เป็นแถบบ้านตัวอย่างใกล้กับถนนหลังโครงการที่จะดูเข้าถึงได้ง่ายที่สุด เพราะทุกๆบ้านจะเข้า-ออกทางเดียวกัน ทำให้จะมีเพื่อนบ้านผ่านหน้าบ้านเยอะ ลึกเข้ามาหน่อยที่รอบพื้นที่ Facility ก็จะเป็นส่วนที่น่าสนใจจับจอง เพราะจะมีพื้นที่สีเขียวอยู่หน้าบ้าน และเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ดี ลึกไปทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ในซอยย่อยก็จะเป็นส่วนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เพื่อนบ้านจะผ่านไปมาก็เฉพาะแต่คนที่อยู่ในซอยเดียวกัน ซึ่งจะมีไม่เกิน 16 ครอบครัว และด้วยที่ดินเริ่มต้น 100 ตารางวา ทำให้ตัวบ้านแต่ละหลังค่อนข้างอยู่ห่างกันพอสมควร ส่วนการวางทิศทางตัวบ้าน จะมีเพียงสองแบบคือหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือ และหันหน้าบ้านไปทางทิศใต้ ก็เลือกได้ตามความชอบ ชอบแสงธรรมชาติเป็นคนตื่นเช้าก็เลือกบ้านที่หันไปทางทิศเหนือเพราะห้อง Master Bedroom ส่วนใหญ่จะอยู่หน้าบ้าน ส่วนใครชอบแสงที่แรงขึ้นมาหน่อยแต่ลมดีกว่าและแอบตื่นสายก็เลือกบ้านที่หันไปทางทิศใต้ จะได้นอนได้ยาวๆ 🙂

ทางเข้าโครงการก่อนถึงตัวซุ้มทางเข้าจะมีการจัดสวนหย่อมเป็น Landscape มีป้ายโครงการอยู่ฝั่งขวามือ ขับผ่านไปมาเห็นได้ชัดเจนแน่ๆ

ทางเข้า-ออกรถแบ่งออกเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา ตัวซุ้มทางเข้าเองถือว่ามีขนาดใหญ่ แต่ด้วยการดีไซน์และวัสดุทำให้ดูไม่เด่นมากเท่าไร

ประตูทางเข้าเป็นแบบรางเลื่อน 2 ตอน ไม่มีไม้กระดกกั้นทำให้เวลาจะเข้าหรือออกต้องรอนานหน่อย ระบบความปลอดภัยด้านหน้ามีกล้อง CCTV 2 จุด การเปิด-ปิดเป็นแบบระบบ Keycard ระยะใกล้ คือต้องยื่นมือออกมาแตะบัตรเพื่อให้ประตูเลื่อนเปิดออก

กล้อง CCTV จะมีเฉพาะหน้าโครงการ มี 2 จุดจับที่ใบหน้าคนขับและป้ายทะเบียนรถ

ประตูเลื่อนเข้า-ออกโครงการเวลาเปิดก็จะเลื่อนไปแอบอยู่ที่ด้านหลังของป้อมพี่ยาม ส่วนทางซ้ายมือที่เป็นทางเดินเท้ายกระดับขึ้นมาหน่อยก็จะเปิดประตูได้เช่นกัน

เข้ามาด้านในเป็นถนนหลักกว้าง 16 เมตร รถวิ่งสวนกันได้แบบสบายๆเลยค่ะ ด้านซ้ายมือที่เป็นสนามหญ้าในอนาคตจะเป็นพื้นที่ขาย ส่วนด้านขวาเป็นพื้นที่ติดกับกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ รั้วโครงการสูง 3 เมตรต่อเหล็กแหลมขึ้นไปอีก 0.4 เมตร

บริเวณทางเข้าตรงซุ้มประตูที่พื้นแอบมีใส่รายละเอียดเรื่องไฟ LED มาด้วยค่ะตอนกลางคืนจะช่วยให้บรรยากาศในโครงการดูดีขึ้น

ตรงเข้ามาจากทางเข้าโครงการหน่อยก็จะเจอกับที่จอดรถของผู้มาติดต่อ ถัดไปก็จะเป็น Sales Office ที่บ้านหลังแรก และหลังถัดๆไปก็จะเป็นบ้านตัวอย่างของโครงการเรียงกันไป

บ้านตัวอย่างก็จะมีครบทั้ง 5 แบบเลย ถัดจากบ้านตัวอย่างมาก็จะเป็นบ้านมาตรฐานที่ไว้ขายจริง สังเกตจากรั้วหน้าบ้านที่จะก่อขึ้นมาให้เต็ม

ตรงเข้ามาสุดถนนหลักกว้าง 16 เมตร จะเจอวงเวียนที่ลงต้นไม้ใหญ่ไว้ตรงกลาง ตอนนี้ต้นไม้ยังไม่โตมากนักนะคะเพราะเพิ่งลงไปคงต้องรออีกหน่อยสร้างบรรยากาศได้ดีกว่านี้ จากวงเวียนจะมีถนนรองแยกออกไปอีก 3 เส้นคือเส้นทางซ้าย ตรงไปและทางขวา ส่วนพื้นที่ตรงกลางระหว่างถนนรองตรงไปและทางขวาที่มีต้นปาล์มตรงนั้นเป็นพื้นที่สวนสาธารณะและ Clubhouse ค่ะ

ซอยรองจากถนนหลักจะมีความกว้างลดลงมาเหลือ 12 เมตร ซึ่งก็ถือว่ายังกว้างขวางและวิ่งสบายๆอยู่ ปัจจุบันเป็นพื้นที่ก่อสร้างนะคะ

จากวงเวียนเมื่อกี้ถ้าตรงมาเลยจะเป็นโซนที่ได้วิวสวนไปเต็มๆ แถมจำนวนยูนิตตรงนี้ก็น้อยกว่าซอยอื่นๆด้วยเพราะมีที่พักอาศัยอยู่แค่ด้านซ้ายเดียว ใครอยากได้หน้าบ้านไม่ตรงกับบ้านอื่นๆก็เลือกโซนฝั่งนี้ได้ค่ะแต่ความเป็นส่วนตัวจะลดลงไปหน่อยนะเพราะติดกับพื้นที่ส่วนกลาง

ทางด้านขวามือจะเป็นซอยรองกว้าง 12 เมตรอีกเช่นกัน ไปยังพื้นที่เฟส 2 ที่ตอนนี้ยังไม่เปิดขาย

เดี๋ยวเราเข้าไปดูในสวนกันต่อดีกว่า สวนสาธารณะตรงนี้จะมีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เอาไว้พักผ่อนหย่อนใจได้

ภายในสวนส่วนใหญ่จะตกแต่งด้วยไม้พุ่มมีไม้ยืนต้นบ้างนิดหน่อย ส่วนทางเดินก็มีให้รอบๆสนามอย่างที่เห็นถ้าจะวิ่งออกกำลังกายก็วิ่งรอบๆโครงการ พื้นที่แค่ส่วนนี้เอาไว้เดินเล่นจะดีกว่า ส่วนทางเข้าสนามหญ้าแอบมีน้ำพุเป็น Waterscape ให้นิดหน่อยช่วยทำให้ดูมีการเคลื่อนไหวและสดชื่นมากขึ้น

บริเวณด้านในสุดจะเป็นสนามหญ้าและสนามเด็กเล่นที่ลงเครื่องเล่นมาบางส่วนแล้ว จะเห็นว่าเพิ่งเอามาลงแบบสดๆร้อนๆเพราะยังไม่ได้แกะพลาสติดหุ้มออกเลย สำหรับตัว Clubhouse จะอยู่ในพื้นที่หลังรั้วสีน้ำเงินที่เห็นตรงที่เขียนว่าพื้นที่ก่อสร้างอาคารสโมสรและสระว่ายน้ำ จากการสอบถามกำลังจะเริ่มก่อสร้างนะคะไม่งั้นจะได้ถ่ายมาให้ดูจนครบเลย

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Clubhouse 1 หลัง (กำลังก่อสร้าง)
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 20 x 8 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องภายใน Clubhouse
  • ห้องซาวน่า
  • สวนสาธารณะ 3 ไร่ + สนามเด็กเล่น
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate 2 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 0.4 เมตร
  • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
  • ถนนหลักกว้าง 16 เมตร ถนนรองหลังจากช่วงวงเวียนกว้าง 12 เมตร และถนนภายในซอยกว้าง 9 เมตร

 


Product Walkthrough

แบบบ้านของโครงการมีทั้งหมด 5 แบบ ไล่ตั้งแต่แบบบ้านตัวอย่างจากซ้ายสุดไปขวาสุดคือ ศุภฤทัย,ศุภกฤต, ศุภจิตรา, ศุภกานต์ และศุภราช ซึ่งโครงการนี้มีบ้านตัวอย่างทุกแบบครบเรียบร้อย ดังนั้นเราจึงนำแปลนและบ้านของแต่ละแบบมาวิเคราห์กัน และเจาะลึกรายละเอียดที่บ้าน 2 หลังที่น่าสนใจที่สุดนะคะ

1

บ้านแบบแรกที่เป็นบ้านแบบเล็กเป็นอันดับ 2 มีชื่อว่า ศุภกฤต ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 213 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้านตามโปรโมชั่นโครงการ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 3 ทางหลัก คือบานประตูบานเปิดหน้าบ้านทางห้องรับแขก, บานประตูเลื่อนจากเฉลียงข้างบ้านตรงห้องทานข้าว และประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว

จากทางเข้าหลักส่วนห้องรับแขกหน้าบ้านมี Step เล่นระดับก่อนจะก้าวขึ้นไปยังห้องทานอาหารด้านหลัง ทางซ้ายมือจะมีทางเดินเข้าไปยังห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน เปิดประตูหลังบ้านออกไปเป็นลานซักล้าง ด้านในเป็นห้องนอนของชั้นล่างที่ถ้าไม่มีความจำเป็นในการใช้งานอย่างเป็นห้องนอนของผู้ใหญ่ก็สามารถปรับเป็นห้องทำงานหรือห้องเอนกประสงค์อื่นๆได้ และในสุดทางซ้ายอีกทีจะเป็นห้องน้ำของชั้นล่างที่แบ่งพื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นสามส่วน คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำแบบลดระดับพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ ซึ่งถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งาน บางที่จะให้แค่สองส่วนคืออ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ และสเปกของสุขภัณฑ์ที่เลือกใช้เป็นแบบโถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่สวยและแพงกว่าสองชิ้นพอสมควรเลย

จากบันไดชั้น 1 เดินขึ้นมาถึงชานพักจะมีห้อง Master Bedroom ที่มีระเบียงหน้าบ้านแบบโค้งและห้องน้ำในตัวเรียบร้อย จากชานพักบันได เดินขึ้นไปยังพื้นที่บนชั้น 2 จะเจอกับห้องน้ำของชั้น 2 ที่อยู่ด้านหน้า ทางขวาคือพื้นที่เปิดที่เป็นห้องเอนกประสงค์ของชั้น 2 ส่วนทางซ้ายแบ่งเป็น 2 ห้องนอนคือห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก สมาชิกที่อยู่ภายในห้องนอนกลางและเล็กจะต้องแบ่งกันใช้ห้องน้ำบนชั้น 2 แบบบ้านนี้เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่หน่อยที่เปิดกว้างกับบ้านแบบเล่นระดับ ไม่ได้ยึดติดกับการแบ่งพื้นที่บ้านแบบเดิมๆ แต่ตรงชานพักที่เป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่จะขนาดเท่ากับชานพักทั่วไป ทำให้ระยะก่อนเข้าห้องค่อนข้างแคบ

ภายนอกของบ้านแบบศุภกฤต จะเน้นดีไซน์เรียบง่าย แปลนบ้านหน้าแคบ ตกแต่งด้วยสีไมโล-ขาว ตัดด้วยกระจกอนุรักษ์พลังงาน SMG Green ซึ่งจากการสอบถามจะมีประสิทธิภาพกว่ากระจกเขียวตัดแสง จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านขวาของหน้าบ้าน ประตูบานเปิดทางซ้ายมือคือประตูหลักเข้าบ้านไปทางห้องรับแขก ส่วนหลังคาของพื้นที่จอดรถ ไม่ได้ปกคลุมกันแดดกันฝนให้รถทั้งคัน แค่ถึงส่วนกลางรถเท่านั้นที่หลังคาจะบังถึง บนชั้น 2 ประตูบานเลื่อนและระเบียงที่เห็นคือจากห้องนอนใหญ่ที่เข้าจากชานพักบันได และหน้าต่างทางซ้ายมือคือจากพื้นที่เอนกประสงค์บนชั้น 2

 

2

บ้านแบบที่ 2 เป็นบ้านแบบเล็กที่สุดชื่อว่า ศุภฤทัย ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 197 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวตามปกติ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 3 ทางหลัก คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านทางห้องรับแขก, บานประตูเลื่อนจากเฉลียงข้างบ้านตรงห้องทานข้าว และประตูเปิด-ปิดจากมุมหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว

บ้านหลังนี้จะเป็นแบบธรรมดาคือมีชั้น 1 ชั้น 2 ชัดเจน ไม่มีการเล่นระดับแล้ว จากทางเข้าหลักส่วนห้องรับแขกหน้าบ้านมีห้องทานอาหารด้านหลัง ทางซ้ายมือเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ข้างๆจะมีห้องเก็บของและห้องน้ำของชั้น 1 ที่แบ่งออกเป็นสามส่วนคือมีพื้นที่อาบน้ำแบบลดระดับที่มาพร้อมฉากกั้นอาบน้ำด้วย ส่วนพื้นที่หลังบ้านของชั้น 1 ก็จะมีห้องนอนทางขวามือ และห้องครัวทางซ้ายมือที่จะมีประตูมุมข้างบ้านออกไปยังพื้นที่ซักล้างจะมีทางเดินเข้าไปยังห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน เปิดประตูหลังบ้านออกไปเป็นลานซักล้างเหมือนปกติ

จากบันไดรูปตัว L ชั้น 1 เดินขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับส่วนพักผ่อนข้างบ้าน ส่วนหน้าบ้านทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ที่กว้างมากพอที่จะทำ Walk-in Closet ส่วนปลายเตียงได้สบายๆ มีระเบียงหน้าบ้านแบบโค้งและห้องน้ำในตัว นอกจากชั้น 1 ที่มีโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวแล้ว ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ทุกหลังก็จะสเปกโถสุขภัณฑ์ขยับขึ้นมาจาก 2 ชิ้น เป็น 1 ชิ้น แต่ในห้องน้ำห้องอื่นๆ อย่างห้องน้ำของห้องนอนเล็กหรือห้องนอนกลางจะได้แบบ 2 ชิ้นปกติ ส่วนหลังบ้านก็จะประกอบไปด้วยห้องนอนกลาง ห้องนอนเล็ก และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันอยู่ตรงกลาง แบบบ้านนี้จะมีการแบ่งพื้นที่คล้ายๆกับแบบแรกคือมีห้องนอนล่าง 1 ห้อง มีห้องนอนชั้นบน 3 ห้อง แต่ดีเทลของการดีไซน์จะเรียบง่ายกว่า แบ่งบ้านออกเป็น 2 ชั้นชัดเจนเหมือนแบบบ้านทั่วไป

ภายนอกของบ้านแบบศุภฤทัย จะมีแปลนบ้านหน้าแคบเช่นกัน ตกแต่งด้วยสีไมโล-ขาว ตัดด้วยกระจกอนุรักษ์พลังงาน SMG Green จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านขวาของหน้าบ้าน ประตูบานเลื่อนทางซ้ายมือคือประตูหลักเข้าบ้านไปทางห้องรับแขก ส่วนหลังคาเป็นแบบหน้าจั่วสี่มุมเหมือนทุกๆหลัง บนชั้น 2 ประตูบานเลื่อน หน้าต่างบานกระทุ้ง และหน้าต่างบานเปิดจะเป็นช่องแสงของห้องนอนใหญ่ทั้งหมด โดยรวมแล้วจะเห็นว่ามีช่องเปิดจากหน้าบ้านน้อยกว่าแบบที่แล้วหน่อย

 

3

บ้านแบบที่ 3 คือบ้านขนาดกลางชื่อว่า ศุภจิตรา (เป็นแบบที่ปรับปรุงใหม่บางส่วน) ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 233 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องทำงาน 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถตามปกติ มีทางเดินเชื่อมจากที่จอดรถไปยังเฉลียงหน้าบ้านก่อนถึงทางเข้าหลักส่วนห้องรับแขกหน้าบ้าน ข้างๆมีทางเดินไปยังห้องนอนและห้องน้ำของชั้น 1 ลึกเข้าไปมีห้องทานอาหารด้านหลังเหมือนปกติ ข้างๆกับห้องทานอาหาร มีห้องครัวอยู่ตรงกลาง มีประตูหลังบ้านออกไปพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน ส่วนที่เพิ่มเติมมาจากบ้านสองแบบที่แล้วคือมีห้องแม่บ้านและห้องน้ำของแม่บ้าน ซึ่งจะแยกออกไป สามารถเข้าได้จากส่วนข้างบ้านโดยตรง ซึ่งจะไม่ไกลจากพื้นที่ซักล้างที่เปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องครัว ทำให้ทั้งสมาชิกภายในบ้านก็จะมีความเป็นส่วนตัว และแม่บ้านก็เช่นกัน ส่วนใครที่ไม่มีแม่บ้านก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเก็บของได้สบายๆ

จากบันไดรูปตัว L ที่อยู่หน้าบ้านตรงห้องรับแขก เดินขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเจอกับโถงตรงกลาง ด้านหลังในแปลนจะเขียนเป็นห้องทำงาน ส่วนบ้านตัวอย่างจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่พักผ่อน นอกจากนี้บนพื้นที่ชั้น 2 จะแบ่งออกเป็นห้องนอน 3 ห้อง โดยทุกๆห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด เริ่มจากทางขวามือเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงส่วนหน้าบ้านแบบโค้ง มีห้องน้ำในตัวอยู่ที่ส่วนหลังบ้าน ส่วนฝั่งซ้ายแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน มีห้องนอนกลางอยู่ส่วนหน้าบ้าน ไม่มีระเบียง มีห้องน้ำในตัว และห้องนอนเล็กในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องนอนเด็กเล็ก มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน จะเห็นได้ว่าการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยขึ้นมาประมาณ 30 ตารางเมตร จะทำให้ได้ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ซึ่งใช้งานได้จริง ไม่มีใครต้องแชร์กับใคร

ภายนอกของบ้านแบบศุภจิตราจะแตกต่างจากสองแบบที่แล้วอย่างชัดเจน จากหน้าบ้าน 2 ตอนเพิ่มเป็นแบบ 3 ตอน คือมีโถงบันไดตรงกลางเพิ่มเข้ามาระหว่างพื้นที่ทางซ้าย-ขวา ทำให้หน้าบ้านจะเปลี่ยนเป็นแบบกว้างทันที สีที่ตกแต่งก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวมากขึ้นทำให้ดูคลาสสิก ทางขวาสามารถจอดรถได้ 2 คัน เดินบนทางเท้ามายังประตูบานเลื่อนหน้าบ้านทางซ้าย โถงบันไดจะแบ่งพื้นที่ห้องนอนซ้าย-ขวา โดยทางซ้ายจะเป็นห้องนอนใหญ่สังเกตได้จากมีระเบียงโค้งหน้าบ้าน ส่วนทางขวาเป็นช่องเปิดรับแสงจากหน้าบ้านของห้องนอนกลาง

พื้นที่จอดรถขนาด 4.5 x 5.0 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร แบบสลับลาย ข้างๆที่เหลือจะเททรายล้างเพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด หลังคาครอบคลุมรถคันเล็กได้ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นรถที่ยาวหน่อยอาจจะมีส่วนที่โดนบ้าง ด้านหลังของพื้นที่จอดรถไม่มีประตูที่สามารถเปิดเข้าถึงตัวบ้านได้ ทำให้จะต้องเดินตามทางเดินไปทางซ้ายเพื่อเข้าบ้าน

รอบๆพื้นที่จอดรถก็จะมีประตูห้องเก็บของใต้บันไดขึ้นชั้นสองที่เปิดได้จากภายนอกบ้านเท่านั้น มีหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานเล็ก และทางขวามือมีพื้นที่เก็บของแบบบานปิดอยู่อีกจุดหนึ่ง

ทางซ้ายมือของพื้นที่จอดรถจะมีทางเดินไปยังเฉลียงหน้าบ้าน เพื่อเข้าสู่ตัวบ้านอีกที ทางขวามีประตูห้องเก็บของใต้บันไดที่เปิดได้จากด้านนอกเท่านั้น

ห้องเก็บของเป็นแบบเพดานลาดลงตามพื้นบันไดปกติ ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีตัวจับเป็นแบบคันโยกอย่างดีที่ทั่วไปจะเป็นที่จับมือหมุนกลมๆ

ช่องแสงที่มีขนาดเล็ก 2 ช่องเพราะมาจากห้องนอน ซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องอื่นๆ ด้านบนบานใหญ่หน่อยเป็นบานกระทุ้ง บานเล็กๆด้านล่างเป็นบาน Fixed

ทางขวามือเป็นที่เก็บของแบบบานเปิดคู่ ส่วนใหญ่พื้นที่ตรงนี้จะไว้เก็บอุปกรณ์ทำสวนหรืออุปกรณ์ล้างรถ มีตัวล็อกลงกลอนด้านบน

มาพื้นที่ข้างบ้าน จากหน้าบ้านคือหน้าต่างบานเลื่อนจากห้องนอนที่ภายในจะมีมุ้งลวดติดให้เรียบร้อย ลึกเข้าไปหน่อยจะเป็นห้องนอนของแม่บ้านและห้องน้ำของแม่บ้านที่เข้าได้จากข้างบ้านเท่านั้น เป็นสัดเป็นส่วนดี

ภายในห้องนอนของแม่บ้านและห้องน้ำของแม่บ้าน

มาส่วนหลังบ้านกันบ้าง เป็นส่วนพื้นที่ซักล้างที่เปิดออกมาได้จากห้องครัว พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร รอบๆเทเป็นหินสีขาวรอบๆ และมีจุดท่อน้ำทิ้งให้ออกมายังพื้นที่สีเขียวข้างๆ มีไฟติดอยู่เหนือประตูบานเลื่อน หลังบ้านเป็นรั้วโครงการสูง 3 เมตร มีเหล็กแหลมต่อขึ้นมาอีก 0.4 เมตร

ส่วนข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งมีประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวาที่สามารถเปิดเข้าบ้านส่วนห้องทานข้าวได้ ด้านบนเป็นส่วนของห้องน้ำ ทำให้มีช่องเปิดบานเล็กลงหน่อย นอกจากนั้นข้างบ้านและหลังบ้านก็จะมีพื้นที่วาง Compressor แอร์

กลับมาที่ส่วนหน้าบ้านนะคะ ทางเข้าหลักของบ้านก็จะอยู่ที่เฉลียงหน้าบ้าน ปูด้วยกระเบื้องตรงกลาง ขอบๆเททรายล้างเพื่อความทนแดดทนฝนเหมือนเดิม

ส่วน Facade หน้าบ้านชั้น 1 จะติดเป็นก่ออิฐมวลเบา ทับกับ Cladding แบบมีมิติเพิ่มขึ้นมา ไม่ใช่แบบทาสีกันน้ำเรียบๆทั่วไป

ทางเข้าบ้านเป็นแบบประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดได้ทั้งสองฝั่ง กรอบประตูและหน้าต่างคือ UPVC และลูกฟักคือกระจกอนุรักษ์พลังงาน SMG Green

ตัวหน้าต่างและบานประตูภายนอกที่เป็นกรอบ UPVC สีขาวทั้งหมดจาก Windsor

ส่วนคันโยกที่เปิด-ปิดจะเป็นแบบล็อกด้วยในตัว ทางซ้ายคือแบบปิดล็อกไว้บิดให้เป็นแบบขวาคือปลดล็อกเพื่อเลื่อน แต่หลังจากที่ลองเปิด-ปิดอยู่หลายรอบกว่าจะล็อกได้ต้องกดให้ชิดกับกรอบแล้วหมุนแน่นๆให้ลงล็อคพอดี ด้านล่างยังมีช่องกุญแจเพื่อล็อกอีกชั้นนึงตอนออกจากบ้าน

ระดับกรอบประตูกับพื้นภายในบ้านต่างกันนิดหน่อย พื้นภายในบ้านชั้น 1 ส่วนใหญ่ปูด้วยกระเบื้อง Italia จาก SCG ซึ่งมีขนาด 80 x 80 เซนติเมตร สีน้ำตาลอ่อนมีลายนิดหน่อย

เขามีติดให้ดูด้วยว่าตัวกระเบื้องมีคุณสมบัติยังไงบ้าง แต่ละแผ่นขนาดใหญ่แค่ไหน แล้วก็เป็นโครงการที่แรกที่ใช้

จากประตูบานเลื่อนทางเข้าหน้าบ้าน เปิดเข้ามาก็จะเจอกับห้องรับแขกขนาด 5.2 x 5.25 เมตร ทางซ้ายมือ วางโซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่พร้อมกับเก้าอี้เดี่ยวได้อีกตัว ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้วางทีวี ซึ่งความจริงแล้วสามารถใส่จองขนาดใหญ่กว่าที่เห็นได้ และสามารถ Built ชั้นวางทีวีได้แบบเต็มผนัง ทางขวามือสุดเลยคือบันไดขึ้นชั้น 2

มุมใกล้กับประตูทางเข้าที่ไม่อยู่ในเฟรมเมื่อกี้คือส่วนของชั้นวางของ ซึ่งจากตำแหน่งแล้วสามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้

เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนจะเป็นฝ้าหลุมสี่เหลี่ยม ซึ่งในบ้านมาตรฐานจริงที่ขายก็จะได้แบบนี้อย่างที่เห็นเลย ส่วนไฟเป็นแบบสี่เหลี่ยมติดฝ้าอยู่ตามจุดต่างๆ แต่เรื่องของความสว่างจะสว่างน้อยไปซักหน่อยถ้าเป็นช่วงกลางคืน

จากโซฟาในห้องรับแขก ฝั่งตรงข้ามจะมีทางเดินไปยังห้องน้ำของชั้น 1 ที่ประตูขวามือ และประตูบานตรงหน้าจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง

เรามาดูส่วนหลังบ้านกันก่อนนะคะ จัดเป็นส่วนทานข้าวขนาด 4.0 x 5.2 เมตร วางโต๊ะขนาดใหญ่มีเก้าอี้ 6 ตัว แต่สามารถเพิ่มหัวท้ายได้เพราะพื้นที่ยังเหลือรวมเป็น 8 ตัวสบายๆ

ช่องแสงของพื้นที่ทานข้าวส่วนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนไปสองฝั่งซ้าย-ขวา ส่วนหลังบ้านเป็นหน้าต่างบานเลื่อนและบาน Fixed กรอบ UPVC สีขาวทั้งหมด ลูกฟักคือ SMG Green ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นส่วนที่ได้รับแสงค่อนข้างเยอะ ทำให้อาจจะต้องติดม่านหน่อย จะเป็นแบบชั้นเดียวหรือสองชั้นก็ตามใจชอบ

หน้าต่างทุกบานของโครงการจะมีการติดบานมุ้งลวดมาให้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เนื่องจากเวลาย้ายเข้าอยู่จริงๆ เกือบจะทุกบ้านก็จะมีการติดมุ้งลวดและเหล็กดัด

ตัวล็อกจะอยู่ที่บานหน้าต่างเป็นแบบเลื่อนขึ้นลงปกติ ที่เพิ่มขึ้นมาคือระหว่างบาน ที่จะมีตัวตะขอเกี่ยวล็อกอีกชั้นหนึ่งเหมือนในรูปขวา

ประตูบานเลื่อนออกไปยังข้างบ้านเป็นแบบเปิดซ้าย-ขวา พื้นที่ด้านนอกที่ต่อเนื่องกันสามารถวางเก้าอี้สนามสำหรับกิจกรรมในช่วงแดดร่มเย็นๆได้

ระดับพื้นด้านนอกและภายในบ้านจะต่างกันนิดหน่อยที่ 15 เซนติเมตร

จากประตูบานเลื่อนข้างบ้าน มองเข้ามาภายในตัวบ้าน ด้านหน้าจะเป็นประตูบานเลื่อนเข้าครัว ก่อนหน้าทางมุมขวามือจะมีเคาท์เตอร์พร้อมวางเเก้าอี้สตูล 2 ตัวไว้สำหรับการนั่งทานอาหารเช้าหรือมุมสบายๆ กำแพงด้านหน้าที่ที่การเจาะโค้งนั้นจะได้ตามที่เห็นเลย สังเกตว่าภายในตัวบ้านจะมีบัวทั้งล่างและบนซึ่งก็จะได้เช่นกัน นอกจากนั้นจะได้ Wallpaper ติดให้ตามโปรโมชั่นโครงการด้วย

ประตูบานเลื่อนเมื่อปิดเข้ามาแล้วก็จะแนบสนิท เหมาะสำหรับเวลาทำอาหารไทยหรืออาหารที่มีกลิ่นแรงหน่อย เพราะถ้าเปิดไว้จะทำให้กลิ่นเข้าไปยังพื้นที่บ้านส่วนใหญ่รวมถึงพื้นที่ชั้นสองได้

ภายในบ้านตัวอย่างจะจัดห้องครัวออกเป็นเคาท์เตอร์รูปตัว L ทั้งล่างและบนแบบเต็มพื้นที่จริงๆ ซึ่งความจริงแล้วถ้าเป็นบ้านมาตรฐานที่ขายจะได้แค่ระบบน้ำไฟ นอกนั้นก็จะต้องมาจัดการเลือกเอง ซึ่งสามารถทำตามแบบบ้านตัวอย่างได้ หรือบางบ้านอยากได้แบบ Modern ขึ้นมาหน่อยก็สามารถใส่ครัวแบบมี Island ตรงกลางได้ เพราะพื้นที่ครัวกว้างมากจริงๆอยู่ที่ 2.95 x 4.05 เมตร

ฝั่งด้านในของห้องครัวก็อย่างลืมเว้นที่ว่างไว้สำหรับการวางตู้เย็น ห้องครัวใหญ่ขนาดนี้ใส่ไปเลยค่ะ ตู้เย็นแบบสองประตูเปิดซ้าย-ขวาให้สะใจ

ทางหลังบ้านของห้องครัวก็จะมีประตูออกไปยังพื้นที่ซักล้างเป็นแบบบานเลื่อน ซึ่งความกว้างของการเปิดประตูอาจจะไม่มาก ทำให้ขนย้ายของใหญ่อย่างตะกร้าผ้าอาจจะลำบากนิดนึง

กลับมาที่ส่วนกลางของบ้าน ต่อไปเราจะพาเข้าไปดูห้องนอนชั้นล่าง และห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่สุดทางเดินข้างกับชั้นวางทีวีกันค่ะ

เดินเข้ามาก็จะเจอกับประตู 2 บาน บานทางขวาคือทางเข้าห้องน้ำของชั้นล่าง และบานทางขวาคือประตูเข้าห้องนอนชั้นล่าง ตัวประตูภายในจะแตกต่างจากประตูทั่วไปตรงที่เป็นบานไม้สำเร็จรูปผิวไม้สัก ซึ่งประตูภายในทุกบานของบ้านทุกแบบจะเป็นสเปกเดียวกันหมด

ระดับพื้นภายในห้องน้ำจะลดลงจากระดับพื้นบ้านปกตินิดหน่อย ภายในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

ห้องน้ำชั้นล่างขนาด 1.90 x 2.55 เมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็นสามส่วนคืออ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ ด้านบนมีกระจกบานใหญ่ติดให้ และในสุดคือพื้นที่อาบน้ำที่มาพร้อมฉากกั้น

อ่างล้างมือจาก Cotto และก๊อกน้ำแบบปัดขึ้นด้านบนจาก Cotto เช่นกัน

โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจาก Cotto น้อยมากที่จะเห็นอยู่ภายในโครงการแนวราบ ข้างๆเป็นสายฉีดชำระและที่ใส่ม้วนทิชชู

พื้นที่อาบน้ำด้านในกว้างประมาณ 1 x 2 เมตร ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบผลักเข้า ด้านในมีพื้นที่ก่อปูนขึ้นมาเป็นเก้าอี้ให้นั่งเรียบร้อย สำหรับผู้ใหญ่ที่อาจจะใช้ห้องนอนชั้นล่างจะได้สะดวกขึ้น

พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งนิดหน่อย

อุปกรณ์ในการอาบน้ำมีหลายขนานให้เลือก ทั้งแต่ฝักบัวแบบมือจับ ติดตั้งท่อแบบน้ำร้อนให้เหลือแค่เอาเครื่องมาติดตั้ง ด้านบนยังมี Shower แบบติดลงมาจากผนัง เลือกใช้ได้ตามอำเภอใจ

Rain Shower แบบติดจากผนัง

ส่วนฝักบัวอาบน้ำก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่น้ำหนักก็ไม่ได้หนักมาก

ช่องแสงขนาดเล็กจากหน้าบ้านเป็นบานกระทุ้งพร้อมกับติดมุ้งลวดมาให้ ไว้ระบายอากาศ

ต่อมาเป็นห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ข้างห้องน้ำ

คันโยกมาแบบด้ามจับเรียวๆแข็งแรงกว่าที่เป็นแบบลูกบิดกลมๆแน่นอน ล็อกกุญแจจากด้านนอก หรือบิดล็อกจากด้านในได้เลย

ภายในห้องนอนชั้นล่างขนาด 2.85 x 4.15 เมตร ด้านในวางเตียงเดี่ยวไว้ระหว่างช่องแสงหน้าบ้าน พื้นที่ข้างเตียงเหลือเฟือสามารถเดินขึ้น-ลงเตียงได้ มีช่องแสงบานใหญ่อยู่ที่หน้าต่างข้างบ้านที่มาพร้อมมุ้งลวด

ปลายเตียงเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

หมดจากพื้นที่ชั้นล่าง เราก็จะพาขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนอื่นมาดูบันไดกันก่อน วัสดุปิดผิวบันไดคือไม้ประสานปิดผิวไม้โอ๊คทั้งลูกนอนและลูกตั้ง ที่ขั้นแรกและขั้นสองจะเป็นแบบโค้งเข้ามุมรับกับเสากลมพอดี ช่างโครงการนี้ขยันทำโค้งดีนะคะ ดีเทลทุกๆจุดเลย

เงยหน้าขึ้นไปหน่อยที่ชานพักจะมีช่องแสงขนาดใหญ่จากหน้าบ้าน เป็นบาน Fixed ซะเป็นส่วนใหญ่ จะมีสองบานตรงกลางที่เป็นบานกระทุ้งแบบมีมุ้งลวดติดให้ สามารถเปิดรับลมจากหน้าบ้านเพื่อให้อากาศถ่ายเทเพราะเป็นจุดที่เชื่อมชั้น 1 และ 2

จากชานพักบันไดมองลงมาก็จะเห็นราวบันไดเป็นแบบทึบติด Wallpaper ที่ด้านล่าง ส่วนมือจับเป็นวัสดุคล้ายกับวัสดุปิดผิวลูกตั้งและลูกนอนของบันได

ความเนียนระหว่างวัสดุปิดผิวไม้โอ๊คของบันไดและพื้น Engineered wood บนพื้นชั้น 2 ถือว่าทำได้ดี

จากมุมบนชั้น 2 มองลงไปจะเห็นบันไดเป็นรูปตัว L ช่องแสงจากหน้าบ้านทำหน้าที่รับแสงได้ดี

ที่เพดานของโถงบันไดจะมีหลุมฝ้าให้ บอกแล้วว่าช่างโครงการนี้ขยัน นอกจากนั้นยังมี Chandelier แบบนี้ติดให้ด้วย

บนชั้น 2 ก้จะมีโถงตรงกลางขนาด 2.7 x 3.85 เมตรเป็นทางเดินผ่านไปมา ลึกเข้าไปด้านในจากผังจะเขียนว่าเป็นห้องทำงาน แต่ในบ้านตัวอย่างนี้จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนที่มีของเล่นและของตกแต่งของเด็กเล็กด้วยขนาด 2.4 x 2.9 เมตร ประตูทางซ้ายถือประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่ และประตูทางขวาคือประตูห้องนอนเล็ก

ภายในบ้านมาตรฐานที่ขายจริงที่ระหว่างเสาตรงกลางที่ต่อเชื่อมกันเป็นโค้งก็จะได้แบบนี้เป๊ะๆ พื้นที่ทำงานตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นส่วนพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวได้เวลาที่มีแขกอยู่ห้องรับแขกด้านล่าง

มายืนอยู่หน้าประตูห้องนอนเล็ก ประตูด้านหน้าที่อยู่ตรงกันคือประตูทางเข้าห้องนอนกลางที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน แต่เราจะเร่ิมกันที่ทางเข้าห้องนอนใหญ่กับประตูทางขวามือกันก่อน

เหมือนกับบานประตูภายในของชั้นล่าง ประตูห้องนอนเป็นบานไม้สำเร็จรูปผิวไม้สัก สีออกน้ำตาลแดงนิดหน่อย

พื้นภายในห้องนอนจะปูต่อเนื่องไปจากพื้นห้องโถงด้านนอก เป็นพื้น Engineered wood

ภายในห้องนอนใหญ่ขนาด 4.3 x 7.1 เมตร ไม่นับรวมพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำที่อยู่ด้านใน ตรงกลางสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ เหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินสะดวกมากๆ พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอที่จะวางโต๊ะข้างเตียงขนาดใหญ่ได้

มองจากภายในของห้องนอนใหญ่ออกไปยังส่วนหน้าบ้าน ฝั่งตรงข้ามกับเตียงก็จะเป็นชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงาน ด้านบนจะเป็นหลุมฝ้าขนาดใหญ่ และมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังระเบียงหน้าบ้านได้

ประตูบานเลื่อนกรอบ UPVC ปกติ เปิดได้ทั้งสองฝั่ง

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ต้องยกเท้าข้ามกรอบประตูบานเลื่อนนิดหน่อย

รูปร่างของระเบียงเป็นแบบโค้งนิดหน่อย มีราวจับระเบียงรูปร่างโค้งตามกันไป มีเสากลมอยู่ 2 เสาซ้าย-ขวา

 

ตัว Compressor แอร์ของห้องนอนใหญ่ก็จะแอบติดอยู่ที่ข้างๆบ้าน เช่นเดียวกับห้องอื่นๆก็จะมีพื้นที่วาง Compressor แอร์อยู่ที่ข้างบ้านและหลังบ้าน

จากระเบียงหน้าบ้านมองเข้าไปยังพื้นที่ด้านในของห้องนอนใหญ่จะเป็นส่วนของ Walk-in Closet และลึกในสุดจะเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่ แอร์ที่เห็นเป็นแบบฝังฝ้า ความจริงแล้วจะเป็นแอร์แบบติดผนังทั้งหลัง ซึ่งโครงการจะมีโปรโมชั่นแถมแอร์ให้ทั้งหลัง

ภายในพื้นที่ Walk-in Closet ขนาด 1.85 x 3.5 เมตร ความจริงแล้วสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา แต่ในบ้านตัวอย่างแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นช่องเปิดรับแสงและโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้และกระจก

ส่วนที่อยู่ตรงกลางระหว่างตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งก็คือบานประตูเข้าห้องน้ำในตัว ซึ่งแน่นอนว่าขนาดประตูห้องน้ำภายในก็ยังไม่เว้น เป็นบานสำเร็จรูปผิวไม้สัก

ระดับพื้นห้องน้ำลดลงจากพื้นที่ห้องนอนนิดหน่อย ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ขนาด 2.25 x 3.5 เมตร แบ่งออกเป็น 4 ส่วนที่เพิ่มเข้ามาคืออ่างอาบน้ำทางขวามือที่เป็นแบบฝังแล้วก่อปูนโดนรอบ ตรงกลางเป็นอ่างล้างมือมาพร้อมกับเคาท์เตอร์ทั้งเซตที่เห็นเลย ส่วนทางซ้ายจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืนมาพร้อมกับฉากกั้นอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์จาก Cotto

อ่างอาบน้ำแบบพอดีกับด้านกว้างของห้อง มีฝักบัวติดตั้งอยู่ด้านบน ห้องน้ำภายในบ้านมาตรฐานที่ขายก็จะได้แบบนี้เป๊ะๆเลยนะคะทั้งเซต

มุมทางซ้ายก็จะเป็นพื้นที่ยืบอาบน้ำแบบเข้ามุม มีฉากกั้นพร้อม ส่วนทางซ้ายสุดเป็นโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง

ตัวโถสุขภัณฑ์จะอยู่หลังประตูเข้าห้องน้ำแบบไม่มี Doorstop ทำให้เวลาเปิดจะชนเข้าจังๆ

พื้นที่อาบน้ำแบบเข้ามุม ประตูแบบดึงออกก็จะไปชนกับโถสุขภัณฑ์ทางซ้ายมือ ภายในห้องอาบน้ำก็จะมีปูนก่อออกมาเป็นที่นั่งทางขวามือ อุปกรณ์อาบน้ำทั้ง Shower และฝักบัว

ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าของห้องนอนสองห้อง ทางขวามือเป็นห้องนอนกลางส่วนหน้าบ้าน และประตูซ้ายมือคือห้องนอนเล็กที่ส่วนหลังบ้าน

เรามาที่ห้องนอนทางขวามือเป็นห้องนอนกลางที่อยู่ส่วนหน้าบ้านขนาด 4.3 x 6.15 เมตร ภายในเป็นวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบาย มีพื้นที่เหลือข้างเตียงที่วางโต๊ะข้างเตียงได้ อีกฝั่งหนึ่งเป็นโต๊ะทำงาน ปลายเตียงมีเก้าอี้เดี่ยวตัวใหญ่อยู่ ปลายเตียงปกติก็จะเป็นชั้นวางทีวี

ข้างเตียงมีที่วางเหลือวางโต๊ะทำงานหรือวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ส่วนหน้าบ้านได้ มีช่องแสงพอ

จากโต๊ะทำงานมองไปยังหลังบ้านก็จะมีตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ สามารถกั้นเป็น Walk-in Closet เหมือนในห้องนอนใหญ่ได้

ภายในห้องน้ำของห้องนอนกลางขนาด 1.9 x 3.25 เมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็นสามส่วนตามปกติ คืออ่างล้างมือมาพร้อมกับกระจกขนาดกลาง โถสุขภัณฑ์แบบสองส่วนและพื้นที่อาบน้ำด้านใน

อ่างล้างมือมาพร้อมกับเคาท์เตอร์เป็นพื้นที่ข้างๆ ปูทับด้วยกระเบื้องสีดำ สามารถวางของใช้ในห้องน้ำได้ ถ้าใครอยากได้พื้นที่วางของที่มิดชิดเพิ่มก็สามารถใส่ตู้ด้านล่างได้แล้วติดบานประตูปิดหน่อย

โถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กจะปรับสเปกลงหน่อยเป็นแบบสองชิ้นตามมาตรฐานในบ้านปกติ ข้างๆมีสายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชูให้

พื้นที่อาบน้ำด้านในติดฉากกั้นอาบน้ำให้ มีการก่อปูนออกมาเป็นที่นั่ง มีช่องแสงข้างๆ

ตัวอุปกรณ์อาบน้ำจะมีให้เลือกอย่างเดียว ไม่มี Shower จากด้านบน

ช่องแสงภายในห้องน้ำจะเป็นแบบบานเปิดข้างๆ มีมุ้งลวดติดให้เรียบร้อย

ต่อมาจากห้องนอนกลาง เราจะไปเปิดประตูดูห้องนอนเล็กที่อยู่ส่วนหลังบ้านค่ะ

ห้องนอนเล็กขนาด 3.55 x 4.10 เมตร ภายในตกแต่งเป็นห้องนอนเด็กเลยไม่สามารถเทียบสเกลเตียงปกติได้ แต่จากขนาดแล้วสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ และพื้นที่เหลือข้างเตียง

ส่วนผนังทางเข้างก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ และมีโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้ที่ข้างๆทางเข้า แต่ห้องนี้เนื่องจากเป็นรูปทรงออกจตุรัสหน่อย ทำให้กั้นเป็นส่วน Walk-in Closet แบบห้องอื่นๆไม่ได้

แม้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็จะมีห้องน้ำภายในตัว อยู่หลังประตูบานขวามือ

ห้องน้ำภายในห้องนอนเล็กขนาด 1.65 x 2.9 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ภายในแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นสามส่วน สเปกภายในห้องน้ำนี้คล้ายกับแบบห้องน้ำของห้องนอนกลาง

 

4

บ้านแบบที่ 4 แล้ว มีชื่อว่า ศุภกานต์ (เป็นบ้านแบบใหม่ทั้งหลัง) ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 279 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ส่วนทำงาน 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ จากพื้นที่จอดรถ ก็จะมีทางเดินเข้าเฉลียงหน้าบ้านเพื่อเปิดประตูบานคู่เข้าไปยังพื้นที่ห้องรับแขก ด้านหลังเป็นห้องเอนกประสงค์/ทำงาน ส่วนพื้นที่ข้างๆคือห้องทานอาหาร ตรงกลางหลังบ้านจะเป็นห้องน้ำของชั้น 1 และบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ส่วนทางซ้ายคือห้องครัวที่มีประตูออกไปยังพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน มีห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านแยกออกไป เข้าได้จากพื้นที่ข้างบ้าน จะสังเกตได้ว่าแปลนชั้นล่างของบ้านแบบนี้ค่อนข้างเปิดกว้าง ไม่มีผนังกั้นให้เยอะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่โล่งหน่อยแต่ละส่วนต่อเนื่องกัน แต่ถ้าไม่กั้นเลยก็จะกลายเป็นว่าแอร์จะต้องทำงานหนักหน่อย อีกข้อคือบ้านแบบนี้ไม่มีห้องนอนที่ชั้นล่างและแบบค่อนข้างเป็นเหลี่ยมเป็นมุม Modern กว่าทุกแบบ

จากบันไดชั้น 1 ส่วนหลังบ้านตรงกลาง เดินขึ้นมาบนชั้น 2 จะเจอกับโถงตรงกลางที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่นภายในครอบครัวได้อีกจุด ถ้ามีแขกอยู่ที่ห้องรับแขกด้านล่างก็จะยังมีพื้นที่ที่สมาชิกภายในบ้านได้อยู่รวมกัน ตรงกลางของหน้าบ้านจะแบ่งเป็นพื้นที่ห้องพระ นอกเหนือจากนั้นก็จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนซ้าย-ขวาคือเป็นห้องนอน 3 ห้องที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง แต่ละห้องน้ำก็จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนใช้งานได้สบาย

ภายนอกของบ้านแบบศุภกานต์ จะเน้นดีไซน์เรียบง่ายแบบ Modern เหลี่ยมๆที่สุดจากทั้งหมด แปลนบ้านจะเป็นแบบหน้ากว้าง 3 ส่วน จากพื้นที่จอดรถทางขวามือ เดินผ่านทางเดินจะมาถึงประตูทางเข้าหลักหน้าบ้าน บนชั้น 2 ก็จะมีส่วนที่เป็นระเบียงหน้าบ้านยื่นออกมาจากห้องนอนใหญ่ จากระเบียงโค้งก็จะเปลี่ยนเป็นระเบียงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางเป็นช่องแสงจากพื้นที่ห้องพระ และทางขวาเป็นหน้าต่างบานเลื่อนจากห้องนอนกลางอีกฝั่ง

5

บ้านแบบสุดท้าย เป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุดดด ชื่อว่า ศุภราช ขนาดที่ดินเริ่มต้น 100 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 306 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ส่วนทำงาน 1 ส่วนพักผ่อน 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ แต่ที่ไม่ปกติคือมี Drop-off หน้าบ้านตรงเฉลียงตรงกลางพอดีเป๊ะ ทำให้เพิ่มพื้นที่ที่จอดรถเป็น 3 คัน แต่ถ้าแปลงบ้านไหนที่มีระยะลึกหน่อย และเขยิบตัวบ้านไปทางด้านหลังก็จะมีสิทธิ์ที่จอดรถได้ 4-5 คันสบายๆ จากที่จอดรถเดินเข้าตัวบ้านได้จากเฉลียงหน้าบ้านตรงกลาง เปิดประตูบานคู่ออกไปจะเจอกับพื้นที่รับแขกทางขวามือ และพื้นที่ทานอาหารทางซ้ายมือ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่ทำงาน/พักผ่อนตรงกลาง และทางขวามือจะมีห้องนอนชั้นล่างอยู่ข้างๆกับห้องน้ำชั้นล่าง ส่วนแยกมาทางซ้ายจะเจอกับบันไดโค้งขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน มี Chandelier ให้เรียบร้อยพร้อมกระจกเข้าโค้ง ส่วนทางซ้ายหน้าพื้นที่ห้องครัวจะเป็นประตูที่เปิดได้จากพื้นที่จอดรถ ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ห้องครัวออกไปยังพื้นที่หลังบ้านได้ และมีห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านอยู่ด้านนอก

ยังไม่จบแค่นั้น จากบันไดโค้งขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่โถงตรงกลางขนาดใหญ่ ในบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่วางโซฟารูปตัว L ได้กว้างขวาง ส่วนฝั่งหน้าบ้านก็จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกมาเจอระเบียง พื้นที่ที่เหลือจะแบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน คือห้องนอนใหญ่ทางขวามือที่มีระเบียงหน้าบ้านและห้องน้ำในตัว ภายในห้องน้ำของห้องนอนใหญ่จะมีอ่างอาบน้ำแบบฝังเพิ่มเข้ามา ส่วนทางฝั่งซ้ายมือของชั้น 2 จะแบ่งออกเป็นห้องนอน 2 ห้องขนาดใกล้เคียงกัน ที่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ แค่ดูแปลนก็เหนื่อยแล้ว ไปดูหน้าบ้านกันเลยค่ะ

ภายนอกของบ้านแบบศุภราช จะอลังการกว่าแบบอื่นๆแน่นอน 3 ตอนไม่พอ เอาไปเลย 4 ตอน จากพื้นที่จอดรถทางขวามือ เดินไปทางพื้นที่ Drop-off ที่เฉลียงหน้าบ้านจะมีประตูทางเข้าหลักเป็นแบบบานคู่ สองฝั่งเป็นช่องเปิดหน้าบ้านของห้องรับแขกและห้องทานข้าว บนชั้น 2 ตรงกลางที่เป็นเป็นระเบียงและหน้าต่างบานเลื่อนจะเป็นโถงตรงกลาง ส่วนระเบียงทางซ้ายจะเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ และทางขวาที่เป็นช่องแสงขนาดเล็กจะเป็นส่วนของห้องนอนกลาง

สำหรับบ้านแบบใหญ่สุดโชคดีมากที่มีบ้านแบบมาตรฐานจริงอยู่ข้างๆด้วย ดังนั้นในบ้านแบบนี้เราจะตัดภาพไปมาเพื่อเปรียบเทียบระหว่างบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งสวยงาม และบ้านมาตรฐานที่ขายจริงนะคะ เร่ิมจากรั้วบ้านด้านหน้าที่จะได้นี่เรียกว่าดูอลังการเข้าขั้นเลย ตอนแรกเดินดูบ้านตัวว่าดูใหญ่แล้วพอมาเจอรั้วสีดำตัดทองนี่ดูดีทีเดียวเลยค่ะ ตัวบ้านที่จะพาไปดูจะกลับด้าน (Mirror) กับผังบ้านที่ใช้อธิบายด้านบนนะคะ

ตัวรั้วจะส่วนที่เป็นผนังทึบจะปิดผิวด้วยวัสดุแบบเดียวกับที่ใช้ปิดผิวตัวบ้านนะคะถือว่าคุมโทนได้ดี ด้านขวามือของประตูใหญ่จะเป็นถังขยะเอาไว้ใส่ขยะโดยไม่ต้องเดินมาทิ้งหน้าบ้านแถมช่วยให้บรรยากาศในโครงการดูดีขึ้นด้วย ไม่ใช่เดินผ่านแต่ละบ้านก็จะเห็นถังเหลืองบ้าง น้ำเงินบ้าง

สำหรับทางเดินเข้าบ้านจะอยู่อีกด้านของประตูใหญ่ ต้นไม้พุ่มเล็กๆที่เห็นด้านหน้าโครงการก็ให้มาแบบนี้เลย

เข้ามาดูภายในบ้านกันต่อเลยนะ อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าบ้านนี้มีจุดเด่นคือจุด Drop-off  เป็นฟังก์ชันที่ไม่ค่อยได้เห็นกันในบ้านยุคสมัยนี้ ยิ่งเป็นช่วงระดับราคานี้ส่วนใหญ่จะเน้นสร้างบ้านเต็มพื้นที่เลยทำแบบนี้ไม่ได้ แต่เนื่องจากโครงการนี้ขายแบบที่ดินขั้นต่ำ 100 ตารางวาขึ้นไป ทำให้การใส่พื้นที่ Drop-off ไปก็ดูไม่อึดอัด

จุด Drop-off วดูแปลกตาและให้ความรู้สึกไม่ธรรมดาสำหรับผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ แต่… ถ้าฝนตกนี่ก็ยังเปียกอยู่ดีนะเพราะไม่มีหลังคามาคลุมส่วนที่จอดรถ สำหรับสวนรอบๆจะได้ตามในรูปภาพทุกอย่างรวมถึงรั้วด้วยนะคะ

กลับมาดูในพื้นที่จอดรถบ้าง ที่จอดรถของที่นี่จะเน้นปูกระเบื้องสลับสีและเททรายล้างที่ขอบๆมาให้เลยนะคะ พื้นที่ตรงนี้ก็จอดรถได้ 2 คันกำลังดี

ห้องเก็บของด้านข้างก็ได้ใหญ่ขึ้นเป็นแบบ 4 หน้าบ้านเฟี้ยมที่เปิดออกได้สุดเลยทำให้เก็บพวกอุปกรณ์ทำสวนยาวๆได้ดี

ทางเดินด้านข้างจะเป็นห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำอยู่ติดกัน

ด้านหลังบ้านจะมีระยะเหลือเยอะพอสมควรถ้าจะต่อเติมครัวไทยไว้ด้านนอกเพิ่มก็ยังทำได้อยู่เวลาจะปิดบ้านก็ให้แม่บ้านใช้ครัวด้านนอกไปได้เลยเราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้าออกตัวบ้านชั้นใน

ลานซักล้างที่เป็นประตูส่วนหลังบ้านเปิดเข้าไปเจอห้องครัว จะปูพื้นกระเบื้องพร้อมมีก่อธรณีมาให้พร้อม

พื้นที่ด้านข้างอีกด้านจะเหลือไม่พอให้ลงต้นไม้ใหญ่นะคะ ไม่เหมือนบ้านแบบเล็กกว่าจะมีพื้นที่เหลือให้ลงต้นไม้ใหญ่ได้สบายๆ ตรงอาจจะลงได้แค่ไม้พุ่มหรือสวนแนวตั้งเท่านั้น

กลับมาที่หน้าบ้านตัวพื้นที่ทางเข้าบ้านจะยกสูงขึ้นมาอีก 2 ขั้น

เฉลียงหน้าบ้านปูกระเบื้องและทรายล้างลวดลายเดียวกับพื้นที่จอดรถเลย วัสดุตัวประตูยังคงเป็นกรอบ UPVC แต่ขนาดใหญ่ขึ้น

ส่วนตัวกลอนประตูเปลี่ยนวัสดุเป็นสแตนเลสมีความคงทนและแข็งแรงมากกว่าแบบที่เป็นประตูเลื่อน เป็นแบบล็อกกุญแจจากด้านนอกและบิดล็อกจากด้านใน

เปิดประตูเข้ามาในบ้านโซนแรกที่เจอจะคือโถงกลางบ้านโปร่งโล่งแบบนี้เลย ด้านบนมีหลุมฝ้าให้เป็นจุดๆตามพื้นที่ส่วนต่างๆ แต่ไฟจะได้แบบเป็นกล่องสี่เหลี่ยม

หันมาทางซ้ายมือจะจัดพื้นที่เป็นห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่นใหญ่ที่สุดของบ้าน สามารถใส่โซฟาให้นั่งได้มากกว่า 6 คนแน่นอน และบ้านจริงจะได้ฝ้าหลุมมาด้วย แต่แอร์จะได้เป็นแบบติดผนังปกติ ซึ่งตามโปรโมชั่นจะได้ฟรี

ตัวโถงกลางและห้องทานอาหารอีกด้านก็ได้ฝ้าหลุมมาให้เช่นเดียวกัน

สำหรับพื้นที่ทานอาหารจะวางโต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะวางเป็นโต๊ะกลมก็ได้ สำหรับ

ติดกับพื้นที่ห้องทานอาหารจะเป็นโถงบันได และห้องครัวที่อยู่ทางด้านขวา

ห้องเก็บของใต้บันไดจะได้พื้นที่เข้าโค้งตามบันไดด้วยเก็บของได้ใหญ่ขึ้นนิดหน่อย

ประตูที่ติดกับห้องทานอาหารจะเป็นทางเข้าจากที่จอดรถซึ่งทางโครงการตกแต่งให้มีที่นั่งไว้ใส่รองเท้าถือว่าเป็นไอเดียที่ดีนะคะ แถมมีกระจกไว้ให้เชคความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านด้วย

ประตูนี้จะอยู่สูงจากที่จอดรถพอสมควรเค้าเลยทำบันไดมาให้หนึ่งขั้นเวลาขึ้นลงจะได้ไม่ชันมาก (บันไดยังขยันปาดมุมโค้งให้อีกนะ…ฟิตจริงๆ)

กลับมาดูที่ห้องครัวกันต่อ ห้องนี้กว้างพอให้ทำเคาน์เตอร์แบบตัว L ได้โดยตู้เย็นจะอยู่ฝั่งตรงข้าม

ช่องแสงจะมีมาให้ 2 จุดโดยติดมุ้งลวดมาให้พร้อมเช่นเดิม

ออกมาที่โถงกลางไปดูห้องนอนอีกฝั่งกัน ลองสังเกตดูจะเห็นว่าจริงๆแล้วทุกห้องสามารถกั้นแยกเป็นห้องปิดได้หมดทุกห้องเลยแต่ถ้าอยากได้บรรยากาศในบ้านแบบโปร่งๆหน่อยก็ไม่ต้องกั้นนะคะแต่ก็เปลืองแอร์หน่อย

ด้านข้างบันไดตรงนี้จะมีพื้นที่เหลือพอให้ทำเป็นห้องทำงานเล็กๆได้ ถ้าครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ชั้นล่างก็เอาพื้นที่ตรงนี้ไว้ให้ท่านได้ใช้งานเป็นส่วนตัวก็ได้เป็นพื้นที่กึ่งส่วนตัวแต่สมชิกในบ้านก็ยังมานั่งเล่นพูดคุยได้

ภายในห้องนอนชั้นล่างจะวางเตียง 5 ฟุตไว้เป็นตัวอย่างแต่พื้นที่รอบๆยังเหลือพอให้ใส่ 6 ฟุตได้อยู่นะแต่จะแน่นนิดนึง ช่องแสงมีมาให้ 2 จุดพร้อมมุ้งลวดด้วย

ระยะเหลือปลายก็มีพอให้ทำตู้วางทีวีแบบนี้ได้

ห้องน้ำชั้นล่างของที่นี่ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นนะคะเพราะให้สุขภัณฑ์ดีเทียบเท่าห้องนอนใหญ่เลย ซึ่งส่วนมากเราจะไม่ค่อยเห็นโครงการไหนให้ของดีๆที่ชั้นล่างจะเน้นไปที่ห้องนอนใหญ่ซะมากกว่า ตัวอ่างได้เคาน์เตอร์หินแกรนิต โภสุขภัณฑ์ได้แบบชิ้นเดียวซึ่งราคาจะแตกต่างจากสองชิ้นพอสมควรเลย โซนอาบน้ำจะมีฉากกระจกกั้นมาให้ครบ

ฝักบัวมาแบบ 2 ระบบคือแบบแขวนกับ Rain Shower แยกน้ำร้อนเย็น และมีที่ให้นั่งอาบน้ำ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่พักอยู่ในห้องติดๆกันนี่แหละค่ะ

ถ่ายรูปโถงบันไดมาให้ดูอีกที บันไดของแบบนี้จะพิเศษกว่าแบบอื่นๆตรงที่เป็นบันไดโค้ง

พื้นและราวบันไดส่วนที่เป็นไม้ทำจากไม้โอ๊ค ส่วนราวบันไดเป็นเหล็กดัดทำสีสวยงามตามท้องเรื่องค่ะ

ส่วนบันไดที่เป็นโค้งของจริงก็ดูโอเคอยู่นะไม่ได้ดูเชยเหมือนบ้านสมัยก่อนซะทีเดียว (อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะคะ) แต่ที่แน่ๆตัวบันไดนี่ทำโค้งตามบันไดมาให้ด้วย ส่วนฝ้าหลุมก็ทำเป็นวงกลม 2 ชั้นและแถม Chandelier มาให้ตามแบบบ้านตัวอย่างเลย

ชานพักบันไดมี 2 ช่วงและมีขนาดใหญ่กำลังดีเวลาเดินสบายๆ

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงกลางที่เป็นพื้นที่ขนา่ดใหญ่ พื้นที่ตรงนี้มีความสำคัญกับบ้านเพราะเปรียมเสมือนจุดรวมผลที่มีความเป็นส่วนวตัวมากขึ้น ถ้ามีผู้ใหญ่รับแขกอยู่ด้านล่างแล้วเด็กๆอยากจะทำกิจกรรมก็สามารถทำตรงนี้ได้โดยที่ไม่ต้องรบกวนกับแขกด้านล่าง ตัวกระจกที่เห็นมีลวดลายวงกลมจะได้ตามแบบนี้เลยและเป็นบานเปิดนะคะไม่ใช่บานติดตาย ฝ้าหลุมก็ยังให้มานะคะ

หันมาด้านขวามือจะเป็นทางเดินไปห้องนอนใหญ่และมีพื้นที่หน้าห้องเหลืออีกหน่อย

พื้นที่ตรงนี้จะทำเป็นห้องพระก็ได้นะคะขนาดกำลังดีไหว้พระเสร็จก็เดินจงกรมรอบๆบนชั้นสองต่อได้เลย

ที่บอกว่าเดินจงกรมได้เพราะพื้นที่ตรงนี้มีขนาดใหญ่พอสมควรใส่โซฟาได้ 2 ชุดตามภาพเลยค่ะ จากตรงนี้จะมีทางออกไประเบียงหน้าบ้านด้วย

มุมนี้ก็ใส่โซฟาได้อีกชุดบ้านไหนมีเด็กเยอะนี่เรียกว่าสนุกค่ะ เพราะมีที่ให้วิ่งเล่นกันมันส์เลย

ประตูทางออกระเบียงจะเป็นบานเลื่อสลับ 2 บาน

พื้นที่ระเบียงมีขนาดให้พอเอาเก้าอี้มานั่งได้นะ แต่จะอยากนั่งรึเปล่าอันนี้ต้องแล้วความชอบของแต่ละคนบวกกับความร้อนของช่วงเวลาด้วยนะคะ

ไหนๆก็ขึ้นมาบ้านตัวอย่างแล้วเลยถ่ายรูปอาคารของกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือมาให้ดู

ถ่ายพื้นที่เปล่าๆจากบ้านจริงมาให้ดูอีกทีว่ามันใหญ่แค่ไหน ของจริงก็ได้มาแบบโล่งๆเลยนะใครอยากตกแต่งแบบไหนก็แล้วแต่จินตนาการเลยค่ะ อ่อเกือบลืมบอกไปว่าวัสดุพื้นบ้านไปเหมือนกับบ้านหลังแรกที่พาไปดูนะคะ

มาดูห้องนอนใหญ่กันค่ะ ห้องนี้จะมีพื้นที่ให้วางเตียง 6 ฟุตและยังสามารถวางโซฟาได้อีกตัว ช่องแสงห้องนี้ก็ไม่น้อยนะมีทั้งประตู และหน้ารอบด้านเลย

พื้นที่ระเบียงตรงนีจะไม่ใหญ่มากเอาไว้วางไม้กระถางได้นิดหน่อย

ถ่ายช่องระบายน้ำมาให้ดูว่าเค้าใส่ใจรายละเอียดอยู่เหมือนกันนะ

หันกลับมาดูอีกด้านของห้องนอนบ้างจะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงนี่เหลือเยอะจริงๆค่ะ ใส่ชั้นวางทีวีและชั้นวางของแล้วยังมีทางเดินโล่งๆอยู่เลย

ส่วนพื้นที่หน้าห้องน้ำทำเป็น Walk-in Closet ได้แต่ถ้าคิดว่าเล็กไปก็ไม่ต้องทำประตูปิดแบบนี้นะ แต่ก็แลกกับความเป็นส่วนตัวไปพอสมควร

ที่แปลกอยู่อย่างนึงของห้องนี้คือกำแพงห้องน้ำถูกออกแบบมาให้ปาดมุมเฉียงด้วย

ระยะพื้นที่หน้าห้องน้ำพอใส่โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้พอสมควร

ภายในห้องน้ำจะปูกระเบื้องมาให้ตามในรูป ส่วนสุขภัณฑ์จะได้เหมือนห้องน้ำชั้นล่าง

ส่วนฝ้าในห้องน้ำก็….ยังจะทำเป็นฝ้าหลุมมาให้อีกนะคะ ให้ฝ้าหลุมมาเยอะจริงๆโครงการนี้

หันกลับมาดูเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ากันต่อ จากมุมเฉียงที่เป็นด้านนอก เค้าตั้งใจให้ด้านในเป็นเคาน์เตอร์ติดกระจกเข้ามุมแบบนี้

ห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องอื่นๆตรงที่มีอ่างอาบน้ำมาให้พร้อมฝักบัวอีกชุด ตรงอ่างจะมีกระจกฝ้าติดมาให้แต่ถ้าใครยังรู้สึกเขินๆอยู่ก็แนะนำให้หาม่านทึบมาติดจะปลอดภัยกว่า

เดี๋ยวเราไปดูห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่อยู่อีกฝั่งกันต่อนะคะ

ห้องแรกที่ติดกับบันได ส่วนหน้าห้องจะมีพื้นที่โถงทางเดินอยู่นิดหน่อย

ห้องน้ำยังคงมีฟังก์ชันมาให้ครบแต่ตัวสุขภัณฑ์ได้ของที่เล็กลงมาจากห้องนอนใหญ่ ตัวโถสุขภัณฑ์ได้เป็นแบบ 2 ชิ้นและอ่างล้างหน้าไม่มีเคาน์เตอร์เต็มอ่างมาให้แล้ว

ภายในห้องนี้วางเตียง 5  ฟุตพอได้อยู่ และยังมีพื้นที่เหลือพอให้ใส่ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้

ห้องนี้ตกแต่งในสไตล์เด็กเล็กที่หวานแหววมากเลนค่ะอย่างโคมไฟนี่ทีมงานเห็นแล้วอยากเอากลับไปติดที่บ้านเลย

ตรงหัวเตียงก็มีลูกเล่นช่องเก็บของมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ (ตรงนี้โครงการไม่ได้แถมมาให้นะคะเป็นห้องโล่งๆ)

ห้องนอนเล็กอีกห้องจะมีขนาดใหญ่กว่านิดหน่อยใส่เตียง 6 ฟุตได้

ห้องนี้ยังคงมีห้องน้ำในตัวอยู่นะคะแต่จะอยู่ที่หน้าห้อง

สำหรับพื้นที่หน้าห้องน้ำจะเหลือให้ทำตู้เสื้อผ้าได้นิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับเป็น Walk-in Closet นะ

ภายในห้องน้ำจะได้ชุดสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องนอนเล็กอีกห้องเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 October 2015

  • ศุภกฤต – บ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 213 ตารางเมตร ที่ดิน 107.6 ตร.วา ราคา 8.99 ล้านบาทหรือ 83,550 บาท/ตร.วา
  • ศุภฤทัย – บ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 197 ตารางเมตร ที่ดิน 101.2 ตร.วา ราคา 8.99 ล้านบาทหรือ 88,800 บาท/ตร.วา
  • ศุภจิตรา – บ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 233 ตารางเมตร ที่ดิน 101.3 ตร.วา ราคา 9.57 ล้านบาทหรือ 94,500 บาท/ตร.วา
  • ศุภกานต์ – บ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 279 ตารางเมตร ที่ดิน 102.5 ตร.วา ราคา 10.3 ล้านบาทหรือ 100,450 บาท/ตร.วา
  • ศุภราช – บ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 306 ตารางเมตร ที่ดิน 110.2 ตร.วา ราคา 11.55 ล้านบาทหรือ 104,800 บาท/ตร.วา

  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 200,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ขั้นต่ำ 6 งวด งวดละเริ่มต้น 40,000 บาท พร้อมโอนกรรมสิทธิ์เร็วที่สุดคือ เดือนพฤษภาคม 2559
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 37,000 42,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 18 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

 

โปรโมชั่น ถึง 15 พฤศจิกายน 2558 ส่วนลด 1 ล้านบาท

  • ฟรี แอร์ Daikin แบบติดผนัง 5-8 เครื่อง แล้วแต่แบบบ้าน
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์
  • ฟรี ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง
  • ฟรี ค่าส่วนกลางปีแรก (ลูกบ้านจ่ายแค่ 2 ปี เพราะจัดเก็บ 3 ปี)
  • ฟรี ปั้มน้ำและถังเก็บน้ำบนดิน
  • ฟรี มุ้งลวดเฉพาะบานหน้าต่าง
  • ฟรี จัดสวนและหญ้ารอบบ้าน
  • ฟรี Wallpaper
  • ฟรี Chandelier

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ศุภาลัย พริม่า วิลล่า เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่ได้เนื้อที่ดินเยอะขนาด 100 ตร.วาขึ้นไป ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 3 อยู่ใกล้ๆกับถนนอักษะหรือถนนอุทยานซึ่งเป็นถนนที่สวยอันดับต้นๆของกทม.เลยก็ว่าได้ ตัวโครงการอยู่ในพื้นที่ที่เป็นโซนพักอาศัยอยู่แล้ว ส่วนมากจะเป็นโครงการหมู่บ้านแนวราบ มีร้านอาหารชื่อดังอย่าง บ้านน้ำเคียงดิน อยู่ใกล้ๆ แต่…มีข้อเสียอยู่หน่อยตรงที่อยู่ใกล้กับขนส่งเลยมีช่วงเวลาที่รถติดอยู่ ยิ่งถ้าในช่วงเวลารถส่งของมากันเยอะๆนี่ติดกันจนเหลือแต่เลนเดียวให้วิ่งเลยค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ในระยะใกล้จะไม่มีอะไรมากแต่ดีที่มี 7-11 อยู่ใกล้ๆโครงการเอาไว้เป็นตัวช่วยได้บ้าง แต่ถ้าวิ่งไปไกลหน่อยจะมีให้เลือกเยอะเลยตั้งแต่ตลาดตรงคลองทวีวัฒนา หรือร้านอาหารแถวหน้าม.มหิดลศาลายามีให้เลือกหลายรูปแบบ ตลาดสดใหญ่หน่อยจะเป็นตลาดศาลายาค่ะ ตรงนั้นนี่มีให้เลือกทั้งอาหารสด กับข้าว ผลไม้ และขนมอีกเพียบเลย ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ก็จะมี Central ศาลายา, Lotus ศาลายา และ Community Mall อาทิ Brio, Image Mall และ Victoria Gardens บนเส้นเพชรเกษม

การเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกมากเพราะอยู่ใกล้เส้นบรมราชชนนีมีสะพานข้ามแยกช่วยให้เวลาจะเข้าเมืองจากเส้นบรมราชชนีไม่ต้องไปกลับรถที่สาย 4 และมีสะพานต่างระดับให้วิ่งยาวๆไปสะพานซังฮี้, สะพานปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 ได้ ส่วนขาเข้าโครงการถ้ามาจากบรมราชชนนีก็มีที่กลับรถใต้สะพานข้ามคลองอยู่ใกล้ๆ ทำให้ไม่ต้องกลับรถไกล เพราะบนเส้นนี้เวบาจะกลับรถบางช่วงต้องไปกลับรถไกลพอสมควร ดังนั้นทำเลนี้เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านนี้ หรือคนที่อยากได้บ้านที่พอจะเดินทางเข้าเมืองแถบสนามหลวง, ดุสิต หรือบางซื่อ ได้ไม่ยากแค่ขึ้นสะพานแล้ววิ่งยาวๆไป แต่อยากใช้ในช่วงเวลาเร่งด่วนนะเพราะติดกันยาวววววเลยค่ะ

แบบบ้านถือว่าทำออกมาได้ดีและเป็นจุดเด่นของโครงการเลย เพราะได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องของที่ดินที่ให้มา 100 ตร.วา ขึ้นไป ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่ชอบบ้านหลังใหญ่ๆ หรืออยากได้พื้นที่ทำสวนเยอะๆ ก็เลือกบ้านหลังเล็กไปได้เพราะมีที่เหลือให้ลงต้นไม้ใหญ่ได้สบายๆ หรือจะปลุกบ้านอีกหลังข้างๆก็ยังได้เลยค่ะ ส่วนใหญ่โครงการแถวๆนั้นราคา 9 ล้านจะได้ที่ดินประมาณ 60 ตร.วา หรือบางโครงการก็เน้นหรูไปเลยคือได้ที่ 140 ตร.วาขึ้นไปแต่ราคากระโดดไปที่ 25 ล้าน ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 197 – 306 ตร.ม. เป็นการสร้างบ้านแบบเหลือที่รอบๆไม่ใช่บ้านคับที่ดังนั้นบรรยากาศรอบๆบ้านจะโปร่งโล่งมีระยะเหลือระหว่างเพื่อนบ้านสบายๆไม่อึดอัด

แบบบ้านมีให้ทั้งหมด 5 แบบ เพื่อรองรับความชอบ, ความต้องการในการใช้งาน และงบประมาณของแต่ละคน บ้าน 2 หลังเล็กจะไม่มีห้องแม่บ้านมาให้ สำหรับใครที่ชอบบ้านแบบเล่นระดับโครงการนี้เค้าก็มีให้เลือกนะออกแบบมาน่าสนใจอยู่เหมือนกัน ส่วนแบบบ้านที่ 4 (ศุภกานต์) จะเป็นบ้านแบบเดียวที่ไม่มีห้องนอนชั้นล่างมาให้แต่ก็ยังพอต่อเติมได้ไม่ยาก หรือถ้าใครมีงบเพียงพอแนะนำให้เอาหลังใหญ่สุดไปเลยดีกว่าเพราะต่างกันประมาณ 1.5 – 2 ล้านถ้าผ่อนธนาคารพอหาร 30 ปีแล้วยอดผ่อนต่อเดือนจะต่างกันไม่มากแต่ตัวบ้านจะได้ขนาดใหญ่ถือว่าคุ้มอยู่

วัสดุถือว่าให้มาดีกว่าโครงการอื่นๆถือว่าจัดเต็มใสเลย พื้นชั้นล่างได้กระเบื้อง Italia จาก SCG มีขนาด 80 x 80 เซนติเมตรมีลวดลายสวยงามแตกต่างจากโครงการอื่นๆที่ให้แกรนิตโต้ 60 x 60 ธรรมดา ส่วนชั้น 2 ได้พื้น Engineered wood ทุกแบบตั้งแต่หลังเล็กสุดจนถึงหลังใหญ่สุด บันไดได้วัสดุเป็นไม้โอ๊คทั้งลูกนอนและลูกตั้งผิวสัมผัสดีทีเดียว กรอบประตูและหน้าต่างทั้งหมดใช้เป็น UPVC และลูกฟักคือกระจกอนุรักษ์พลังงาน SMG Green ที่ประหยัดกว่ากระจกเขียวตัดแสงธรรมดา พื้นที่จอดรถได้ปูกระเบื้องและทรายล้างมาให้ สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ได้ของ Cotto ทั้งหมดแถมห้องน้ำชั้นล่างห้องนอนใหญ่ได้โถแบบชิ้นเดียวซึ่งเราจะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักที่ให้มาแบบนี้ ฝักบัวได้ทั้ง 2 ระบบ คือแบบธรรมดาแล Rain Shower พร้อมระบบน้ำร้อนน้ำเย็น มีที่นั่งอาบน้ำและฉากกระจกกั้นให้ด้วย สำหรับฝ้าก็ทำฝ้าหลุมมาให้เยอะเหลือเกินมีแทบทุกห้อง ได้โคมไฟ Chandelier ที่โถงบันได ประตูทุกบานได้เป็นไม้สัก เสียอยู่อย่างเดียวที่ไม่ได้ติดสัญญาณกันขโมยมาให้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าได้ของคุ้มค่าถ้าเทียบเป็นราคาต่อตร.วากับโครงการเพื่อนบ้าน

ตัวโครงการมีขนาดกลางๆไม่ใหญ่และไม่เล็กไปด้วยจำนวนยูนิตสองร้อยต้นๆถือว่าความหนาแน่นกำลังดี สภาพโครงการให้พื้นที่สีเขียวมาเยอะดีมีไม้พุ่มริมรั้วนอกบ้านมาให้ ตัวรั้วออกแบบให้มีความโปร่งพอสมควรแต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวเพราะลงไม้พุ่มมาให้เรียบร้อยทำให้บรรยากาศในโครงการดูร่มรื่น ตัวบ้านสร้างบนที่ดิน 100 ตร.วา หมดทำให้บรรยากาศจะไม่อึกอัดไม่ใช่เห็นบ้านติดๆกันหมด รั้วโครงการสูง 3 เมตรต่อเหล็กแหลมขึ้นไปอีก 0.4 เมตร ส่วน CCTV ในโครงการเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลว่าจะติดให้รึเปล่านะคะเพราะโครงการยังอยู่ในระหว่างดำเนินการค่ะ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นตัว Club House พอยังสร้างไม่เสร็จดังนั้นคะแนนจะให้ตามข้อมูลที่โครงการให้มาว่าจะมีฟังก์ชันอะไรบ้างส่วนวัสดุนี่ต้องรอของจริงเท่านั้นค่ะถึงจะบอกได้

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 9 – 12 ล้านบาท, 21 October 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.0/10 – ติดถนนใหญ่พุทธมณฑลสาย 3 ใกล้ถนนอักษะ เดินทางสะดวกแต่ไกลเมือง
  • ความปลอดภัย 7.25/10 – ประตูเลื่อน 2 ตอน ติดสติ๊กเกอร์ มี CCTV ที่ซุ้มหน้าโครงการ รปภ.หน้าหมู่บ้าน ไม่มีสัญญาณกันขโมย
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – มีแบบให้เลือกเยอะตามความชอบและขนาดครอบครัวบนพื้นที่ 100 ตารางวาขึ้นไป
  • วัสดุ 9.5/10 – รายละเอียดดี พื้นชั้นล่างกระเบื้อง 0.8 x 0.8 เมตร ชั้นสองปู Engineered Wood มีฝ้าหลืบ สุขภัณฑ์ห้องน้ำแบบชิ้นเดียว ประตูผิวไม้สัก มีบัวล่างบน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – โครงการจำนวนยูนิตขนาดกลาง มีพื้นที่สีเขียวพอสมควร
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีครบ Clubhouse สวน 3 ไร่ สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องซาวน่า
  • 8.11 / 10.00

BOTTOM LINE

Supalai Prima Villa พุทธมณฑลสาย 3 ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่เน้นที่ดินเยอะ มีที่เหลือรอบๆบ้านให้ทำสวนลงต้นไม้ได้ จำนวนยูนิตกลางๆ ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว, คนทำงานในแถบนั้นอยู่แล้ว หรือคนที่ใช้การเดินทางโดยสะพานต่างระดับคู่ขนานบรามราชชนนี สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 9-12 ล้านบาท (ยังไม่นับรวมค่าตกแต่ง) หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 63,000 – 84,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )