สยามพิวรรธน์ ประกาศจุดยืน  ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย นำไทยยิ่งใหญ่บนเวทีโลก

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าตลอด 60 ปี สยามพิวรรธน์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการสร้างต้นแบบ และนำมาตรฐานใหม่ๆ มาพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด  เราสร้างปรากฎการณ์ปฏิวัติวงการให้เกิดขึ้น ครั้งแล้วครั้งเล่า และจากทิศทางที่สยามพิวรรธน์ได้ประกาศไปเมื่อ 5 ปีก่อน วันนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสยามพิวรรธน์ได้สร้างมหาปรากฏการณ์ระดับโลกให้เกิดขึ้นจริง ตั้งแต่การเปลี่ยนสยามเซ็นเตอร์ ให้กลายเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ และการปรับโฉมสยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางรูปแบบไฮบริดรีเทล ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ศูนย์การค้าไทยได้รับรางวัลชนะเลิศจากทั้งวงการศูนย์การค้าและการค้าปลีกของโลกพร้อมกัน และล่าสุด สำหรับการเปิดอภิมหาโครงการเมืองไอคอนสยามที่เป็นกระแสร้อนแรงที่สุดแห่งปี 2561 ที่องค์กรและสมาคมสำคัญในวงการค้าปลีกและพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศได้ยกย่องให้เป็นโครงการต้นแบบของ Creative Innovation ที่ผสานเรื่องราวของ Art-Culture เข้ากับ Retail และ Entertainment อย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็นโครงการที่พลิกเกมส์ครั้งยิ่งใหญ่ (Game Changing) เราได้เอาชนะความท้าทายทุกประเภท ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เราเดินหน้าพัฒนาโครงการไอคอนสยามจนสำเร็จ เราได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ (New Paradigm) ในการทำธุรกิจในรูปแบบ Shared Values บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยยกเอาความล้ำสมัยจากใจกลางเมืองมาผสมผสานกับวัฒนธรรมและความงดงามของความเป็นไทย พร้อมกับนำธุรกิจอื่นๆ มาร่วมสร้างเมืองแห่งความรุ่งโรจน์นี้ ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่คนจากทั่วโลกอยากมาเยี่ยมชม” 

ทั้งนี้ นางชฎาทิพ กล่าวต่อว่า “สยามพิวรรธน์ ในวันนี้ก้าวข้ามการแข่งขันในประเทศ สู่การเป็น “ผู้นำแห่งเศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ที่จะผนึกกำลังคนไทยทุกระดับ ชูความสามารถ และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่เป็นคนแรก และสร้างมหาปรากฎการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน นำพาเกียรติยศและการยอมรับบนเวทีโลกมาสู่คนไทย และประเทศไทยของเรา โดยได้วางแผนกลยุทธ์ใหม่ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ และกำหนดทิศทางการลงทุนของสยามพิวรรธน์ ซึ่งจะเน้นไปที่การสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกับคนไทยทั้งประเทศ และพันธมิตรชั้นนำในต่างประเทศ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหนือชั้นเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดแบบครบวงจร โดยเราตั้งเป้าว่าในอีก 5 ปีข้างหน้ารายได้กลุ่มธุรกิจของเราจะโตขึ้นอีก1 – 1.5 เท่า”