“ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์” ผู้บริหารหญิงแกร่งแห่งค่าย SENA ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจครบเครื่องอสังหาริมทรัพย์ และรายแรกของไทยที่ทำโครงการหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการครึ่งหลังปี”59 เติบโตต่อเนื่อง เหตุปริมาณ Backlog เต็มมือ ควบคู่กับการผุดโครงการใหม่ตามแผน!!! รวมทั้งปี 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,570 ล้านบาท มั่นใจยอดโอนปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เผยปัจจุบันมี Backlog ในมือกว่า 2,400 ล้านบาท (ณ 30 มิ.ย.59 ) พร้อมเตรียมทุ่มงบกว่าครึ่ง 100 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ให้ติดอยู่ในใจของลูกค้า ภายใต้กลยุทธ์ “หัวคิดและหัวใจ”

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย และในฐานะ Developer รายแรกที่ทำหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของ SENA ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และด้านโซลาร์รูฟ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะเห็นภาพของการเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และมั่นใจว่ายอดโอนในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,500 ล้านบาท และยอดขายอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโครงการที่เปิดใหม่ ซึ่งในนั้นจะเป็นโครงการติดตั้งแผงโซลาร์รูฟบนหลังคาบ้าน โดยปัจจุบันมี Backlog กว่า 2,400 ล้านบาท (ณ 30 มิ.ย.59 ) ซึ่งจะรับรู้ 1,000 ล้านบาทในปีนี้

ความเชื่อมั่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเชื่อว่าจะไปได้สวย เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆดังนี้

  • Home Ownership ในกรุงเทพ 60-70% ซึ่งยังมีช่องว่างของความเป็นไปได้ในการเจริญเติบโต
  • อัตราคนเกิดแม้จะมีไม่สูง แต่ภายในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลมีการอพยพเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
  • สินค้าทดแทน นอกจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย การซื้อเพื่อเก็งกำไรทั้งแบบขายต่อและแบบปล่อยเช่าเพื่อ Passive Income ไม่ค่อยมีความเสี่ยงมากนัก เนื่องจากจะไปทดแทนกับธุรกิจให้เช่าอพาร์ตเมนท์

นอกจากนี้ จากการเริ่มต้นของบริษัทที่หมู่บ้านทางตอนเหนือของกรุงเทพ ปัจจุบันผ่านมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เพื่ม Product ทั้งในส่วนบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม Community mall อพาร์ตเมนท์ปล่อยเช่า และอื่นๆครอบคลุมทุกพื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑล ไม่ใช่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งตลอดไป รวมถึงขยายฐานลูกค้า Segmentationจาก Low-middle เป็น Low-upper middle ในราคา 30,000 – 100,000 บาทต่อตารางเมตรของโครงการ The Niche Pride

“แนวโน้มรายได้และกำไรในปีนี้ มีโอกาสทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จึงทำให้เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ และเราก็ยังมีรายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่รับรู้รายได้เต็มปีอีกด้วย” ผศ.ดร.เกษรากล่าว

โดยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์จะมีทั้งโครงการแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว และโครงการคอนโดมิเนียมทั้งแบรนด์ The Niche และ The Kith ซึ่งจะช่วยลดค่าไฟฟ้าในบ้านแต่ละหลังหรือยูนิต รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟของพื้นที่ส่วนกลางเป็นเวลายาวนานถึง 25 ปี

การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ภายในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการหมู่บ้านของบริษัทเสนา ดีเวลลอปเม้นท์

สำหรับโครงการที่จะเปิดในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ โครงการ เดอะ คิทท์ พลัส สุขุมวิท 113 ซึ่งเปิด
Pre-sales ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 – 31 ก.ค. ที่ผ่านมา และได้นับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า, The Kith Lite
บางกระดี เฟส 2, The Niche Mono สุขุมวิท 50, The Niche ID พระราม 2 เฟส 2 และโครงการ The Niche Mono บางนา เฟส 3″ ฯลฯ จากทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 4,570 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ได้มี
การเปิดตัวไปแล้ว 2 โครงการ

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญในการสร้างกลยุทธ์ ในปี 2559 “หัวคิดและหัวใจ” โดยได้เตรียมเงินกว่าครึ่ง 100 ล้านบาท ในการสร้างการรับรู้ และตอกย้ำแบรนด์ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ “หัวคิดและหัวใจ” เพื่อพิชิตใจลูกค้า โดยคำว่า “หัวคิด” มาจากการที่บริษัทฯ ใช้หัวคิดในการนึกถึงความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้งหรือศูนย์กลาง และในส่วน “หัวใจ” คือการแสดงออกในการบริการลูกค้าด้วยใจของพนักงาน ตามปรัชญาองค์กรที่ว่า “ความไว้วางใจจากลูกค้า คือความภูมิใจของเรา”