Rich Home City อ่อนนุช 66 บ้านเดี่ยว 3 ชั้น เดินทางได้จากถนนสุขุมวิท 77 และถนนศรีนครินทร์ [รีวิวฉบับที่ 901]

รีวิวฉบับที่ 901 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการบ้านเดี่ยวเล็กๆกันบ้างอย่างโครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 8 หลัง ไม่จัดสรร แต่ละหลังจอดรถได้ 4 คัน อยู่ในซอยอ่อนนุช 66 สามารถเข้าโครงการได้จากถนนสุขุมวิทเข้าซอยอ่อนนุช และถนนศรีนครินทร์ ที่ดินแปลงมาตรฐาน 56.2 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท

Facts @ 11 August 2015

• Rich Home City Onnut 66 (ริช โฮม ซิตตี้ อ่อนนุช 66)
• บริษัท ริช โฮม ซิตตี้ จำกัด
• UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
• เนื้อที่โครงการ 1-0-83 ไร่ จำนวน 8 ยูนิต
• แบบบ้านมีแบบเดียว บ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ที่จอดรถ
• ที่ดินแปลงมาตรฐาน 56.2 ตร.วา
• ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท หรือ 115,660 บาท/ตร.วา
• โครงการเริ่มก่อสร้าง : ต้นปี 2557
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปลายปี 2558
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร : 081-835-2588

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.710231, 100.647206

แผนที่โครงการ

ทำเลของโครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66 เป็นโครงการฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ เกือบจะเข้าจังหวัดสมุทรปราการ เป็นช่วงระหว่างในเมืองคือสุดที่แถวเอกมัย ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเมื่อมีการเปิดใช้สนามบิน ระยะระหว่างในเมืองและสนามบินมีประชากรมากขึ้น ประกอบกับการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทไปทางสมุทรปราการ และการเปิด Airport Rail Link พญาไท-สุวรรณภูมิ แต่ในพื้นที่แล้วก็จะไม่พลุกพล่านเหมือนกับช่วงต้นซอยอ่อนนุชที่ใกล้สุขุมวิทหรือแถวบางนา-ตราดเท่าไร

โดยโครงการอยู่ในซอยอ่อนนุช 66 ใกล้กับสี่แยกที่ถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุชตัดกับถนนศรีนครินทร์พอดี ทำให้สามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวที่สัญจรจากถนนแนวราบธรรมดา หรือจากทางยกระดับศรีรัชทางขึ้น-ลงพระราม9 และทางขึ้น-ลงทางด่วนตรงบางนาหน้าไบเทค รวมไปจนถึงระบบขนส่งมวลชนแบบเก่าอย่างรถไฟหรือ Airport Rail Link สถานีหัวหมากประมาณ 4 กิโลเมตร หรือสถานี BTS อ่อนนุช โดยจะอยู่ไกลออกไปหน่อยประมาณ 6.5 กิโลเมตร

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถมาจากทางรามคำแหงเข้ามายังถนนศรีนครินทร์ตรงมาเรื่อยบนถนนศรีนครินทร์หรือจะแยกเข้าไปยังพัฒนาการ แล้วมาบรรจบที่ถนนสุขุมวิท 77 เข้าซอย หรือมาจากอุดมสุข – อ่อนนุช ขับมาทางตะวันออกแล้วไป U-turn หน้าซอยอ่อนนุช 70 หรือจะมาจากทางบางนา-ตราดทางใต้ก็ได้และหากมาจากอโศก – ทองหล่อ – เพชรบุรี ก็จะมารวมกันที่ถนนสุขุมวิท 77 เช่นกัน

ส่วนทางด่วน มีทางพิเศษศรีรัชวิ่งผ่าน โดยมีทางลงทางด่วนอยู่ที่ก่อนถึง The Nine บนถนนพระราม9 ตรงมาเรื่อยๆที่แยกพระราม9 – ศรีนครินทร์ แล้วขึ้นสะพานวนรถเลี้ยวซ้ายเพื่อมาลงยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าอุดมสุข ส่วนหากจะขึ้นทางด่วนเข้าไปในเมืองก็ทำได้โดย ออกมาจากโครงการอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามอินทรา เลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม9 – ศรีนครินทร์ ตรงไปเรื่อยๆจะมีด่านขึ้นทางด่วน ส่วนการออกนอกเมือง สามารถขึ้นทางด่วนไปทางตะวันออกไปสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเลยไปจนถึงชลบุรี ทางด่วนอีกจุดคือตรงบางนา-ตราด สามารถเข้าเมืองหรือออกต่างจังหวัดได้เช่นกัน

สำหรับคนไม่ใช้รถ เส้นทางที่จะมาจากขนส่งมวลชน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link สถานีหัวหมาก จะมีพี่วินอยู่ทั้งส่วนทางลงบันได และจุดใกล้ถนนใหญ่ การขึ้นรถไฟสาย Airport Rail Link จะสะดวกหากจะไปสนามบินสุวรรณภูมิ แต่หากจะเข้าเมืองด้วยการไปลงที่สถานีพญาไท แล้วต่อ BTS หรือ MRT จะค่อนข้างอ้อมและใช้เวลานานพอสมควร ส่วนสถานีรถไฟใกล้เคียงคือสถานีหัวหมาก มีพื้นที่จอดรถข้างตัวสถานี แต่ปัจจุบันคนที่ใช้รถไฟเดินทางก็หาได้ค่อนข้างยากแล้ว ส่วนการเรียกรถแท๊กซี่หน้าปากซอยอ่อนนุช 66 ง่ายมาก เพราะอยู่บนถนนใหญ่ มีอยู่เรื่อยๆ ส่วนพี่วินมีอยู่ที่หน้าปากซอยโครงการเลย

บริเวณรอบๆที่ตั้งมีความเจริญอยู่พอประมาณ โดยเฉพาะบนถนนพัฒนาการ เพราะเป็นถนนที่ต่อจากถนนเพชรบุรี ที่สามารถไปทองหล่อ – อโศก – ดินแดง – ประตูน้ำได้ มีสถานที่ราชการ โรงพยาบาล ศูนย์การค้าอย่าง Tesco Lotus, Max Value และที่เปิดใหม่อย่าง London Street จาก MK Group รวมไปถึงม.เกษมบัณฑิต และสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ส่วนบนถนนศรีนครินทร์จะเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางซะมากกว่า ถ้าขึ้นเหนือไปจะเริ่มเป็นรามคำแหงและราชมังคลากีฬาสถาน ถ้าลงใต้ก็จะเป็นบางนา – อ่อนนุช ที่มีศูนย์การค้าอย่างซีคอนสแควร์ และสวนหลวงร.9 มีอาคารสำนักงานสูงไม่เกิน 8 ชั้นบ้างประปราย โดยตลาดที่ใกล้ที่สุดคือตลาดเอี่ยมสมบัติ แถมหน้าปากซอยอ่อนนุช 66 ยังมี 7-11 และ Family Mart ประทังความหิวได้อีกด้วย

เส้นทางแรกที่เราจะพาไปนั้นก็คือเส้นทางจากทางยกระดับศรีรัช มาจากอารีย์ – อนุสาวรีย์ มุ่งหน้าทางลงศรีนครินทร์ ลงมาจะเจอ The Nine พระราม9 อยู่ทางซ้ายมือ มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ตรงนี้จะไม่มีสี่แยกเพื่อให้เลี้ยวขวาได้โดยตรง แต่จะต้องไปขึ้นสะพานวนรถกลับมายังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา แล้วไปยูเทิร์นที่แยกพัฒนาการเข้าถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้ารามคำแหง ตรงมาเรื่อยๆบนถนนศรีนครินทร์ จนมาถึงกับสี่แยกที่ตัดกับถนนสุขุมวิท 77 หรือ ซอยอ่อนนุช ให้เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดมาอยู่บนถนนสุขุมวิท 77  เราจะไป U-turn ที่หน้าซอยอ่อนนุช 70 ตรงมาเรื่อยๆทางซ้ายมือจะเจอซอยสุขุมวิท 66 เข้าซอยมาประมาณ 400 เมตรจะถึงหน้าโครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66

เริ่มต้นการเดินทางกันที่บนทางด่วนศรีรัช มาจากอารีย์-อนุสาวรีย์ เลี้ยวซ้ายที่ผ่านด่านเก็บเงินทั้ง 50 บาท และ 25 บาท ที่ด่านพระราม9 กันมาแล้ว เรากำลังจะหาทางลงไปยังถนนพระราม9 เพื่อตัดเข้าถนนศรีนครินทร์ หรือทางออก ตอ. 2-05

เจอแล้วทางลงพระราม9 ชิดซ้ายแล้วลงค่ะ

ลงมาบนถนนพระราม9 มุ่งหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ทางลงจะเป็นเลนอยู่ทางซ้ายมือ จะเข้าขวายังไงระวังรถกันด้วย

เลยทางลงทางด่วนมาประมาณ 200 เมตรจะเจอ The Nine พระราม9 ที่เป็น Community Mall ขนาดกลาง มีทั้งร้านอาหาร, Supermarket และร้านค้าขายของทั่วไป มีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้าด้วย

ขับตรงไปเรื่อยๆจะมีปั้มน้ำมัน, Tesco Lotus Express, อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นอยู่ทั้งสองข้างทางของถนนพระราม9 กว้าง 6 เลน แบบมีเกาะกลาง เหนือเกาะกลางขึ้นไปเป็นทางยกระดับศรีรัช ซ้ายมือมีป้ายทางลัดที่สามารถออกไปยังซอยรามคำแหง 24 ที่เป็นถนนเส้นใหญ่ มี ABAC, มหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมไปถึงราชมังคลากีฬาสถาน ทั้งหมดอยู่บนถนนเส้นเดียว

มีสะพานลอยคนข้ามถนนพระราม9 ทั้ง 6 เลน อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ระบบขนส่งอย่างรถเมล์ หรือคนที่จะข้ามมาใช้บริการศูนย์การค้าต่างๆ

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายบอกทางให้ตรงไปจะไปยังเส้นศรีนครินทร์ได้ โดยถ้าเบี่ยงซ้ายจะไปยังบางกะปิ หรือถ้าชิดขวาจะเป็นจุดกลับรถ

เราเลยจุดกลับรถทางขวามาแล้ว แต่ข้างหน้าจะเป็นทางเบี่ยงซ้ายมุ่งหน้าบางกะปิ แต่ถ้าตรงไปจะไปโครงการ นั้นก็คือขึ้นสะพานวนรถไปยังถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา

ขึ้นสะพานเราจะรีบชิดซ้ายกันทันที เพื่อลงถนนศรีนครินทร์ หรือทางออกที่ ตอ.2-06 เพราะถ้าเลยไปจะไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเส้นวงแหวนรอบนอก หรือจะไปชลบุรีก็ยังได้

ทางวนเพื่อไปลงบนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา

กลับมาแตะพื้นดินกันต่อ ตอนนี้กำลังอยู่บนถนนศรีนครินทร์มุ่งหน้าบางนา จะตรงไปเรื่อยๆจนถึงแยกเข้าถนนพัฒนาการ

ซ้ายมือมีทางวนรถอีกครั้งเพื่อกลับไปยังถนนพระราม9 หรือขึ้นไปยังทางยกระดับศรีรัชมุ่งหน้าเข้าเมือง จากสภาพท้องถนนก็จะเห็นได้ว่ารถติดมากอยู่เพราะมีสี่แยกไฟแดงด้านหน้า

ทางด้านซ้ายมือจะเป็นทางเข้าของเส้นทาง Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ที่มีพื้นที่จอดรถด้านในเยอะพอสมควร ด้านข้างเป็นเส้นทางที่คู่ขนานมาด้วยกันคือเส้นทางรถไฟ แต่สถานีรถไฟหัวหมากไม่ได้อยู่ฝั่งซ้าย แต่จะอยู่ฝั่งขวาของถนนอีกด้านหนึ่ง

มีสะพานลอยคนข้ามถนนศรีนครินทร์ 10 เลน โดยมีเกาะกลางกั้น มีป้ายบอกทางว่าถ้าตรงไปจะไปอ่อนนุช เลี้ยวซ้ายไปลาดกระบัง และเลี้ยวขวาไปคลองตัน แต่เราจะไปกลับรถกันที่ไฟแดงหน้า

ตรงมาเรื่อยๆถนนเริ่มโล่ง เพราะปล่อยไฟแดงอยู่เรื่อยๆ แต่ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่ของ Max Value มีร้านอาหาร ร้านให้บริการพร้อมพื้นที่จอดรถเพียบ เรียกได้ว่าฝากท้องได้สบาย

เลยมาหน่อยก็จะมีไฟเขียวไฟแดง เราก็จะตรงต่อไปบนถนนศรีนครินทร์ แต่ถ้าเราเลี้ยวขวาก็จะไปเข้าถนนพัฒนาการที่ต่อเนื่องกับถนนเพชรบุรี สามารถเข้าทองหล่อ-อโศก หรือตรงไปก็จะเป็นประตูน้ำ-ราชเทวี ส่วนเลี้ยวซ้ายตรงนี้ก็จะไปสนามบินสุวรรณภูมิ

ตรงมาเรื่อยๆปริมาณรถก็จะน้อยลง เป็นถนน 4 เลน

ระหว่างทางก็จะมี Thanya Park อยู่ทางซ้ายมือ ด้านหน้ามีทางม้าลายคนข้ามให้ถึงตัวห้างพอดี

ทางเข้าของรถก็จะมีด้วยกันสองส่วนคือส่วนที่เข้าไปยังพื้นที่จอดรถ และส่วนที่วนไปลงที่ Drop-off ด้านหน้า ที่จะมี 2 ช่อง คือช่องสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลจอดส่งแล้ววนออก ส่วนอีกช่องหนึ่งเป็นของแท๊กซี่ที่สามารถจอดรอผู้โดยสารได้แต่ก็ต้องต่อแถวกัน

ตรงมาก็จะถึงช่วงที่ถนนศรีนครินทร์ตัดกับถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ตามป้ายก็คือเราจะเลี้ยวซ้ายกันไปบนถนนสุขุมวิท 77 ไปทางลาดกระบัง แต่ถ้าเลี้ยวขวาไปก็จะไปออกถนนสุขุมวิทที่มีสถานี BTS อ่อนนุชอยู่

เลี้ยวซ้ายจะมีช่องแบ่งให้นะคะ

เลี้ยวซ้ายมาบนถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ทางซ้ายคือซอยอ่อนนุชเลขคี่ และฝั่งตรงข้ามคือซอยอ่อนนุชเลขคู่ ทางขวามือก็จะมีสะพานข้ามแยก รวมถึงมีจุดกลับรถใต้สะพานที่กลับได้แต่เฉพาะรถจากซอยอ่อนนุชฝั่งเลขคู่มายังฝั่งเลขคี่เท่านั้น

เราจะตรงมาเรื่อยๆบนถนนสุขุมวิท 77 ฝั่งตรงข้ามจะเห็นว่ามี 7-11 และ Family Mart จะเป็นทางเข้าของซอยอ่อนนุช 66 ที่เป็นทางเข้าซอยโครงการ แต่เราจะเลี้ยวขวาทื่อๆเลยไม่ได้ ต้องไปกลับรถที่หน้าซอยอ่อนนุช 70 แต่เดินไปไหนมาไหนสามารถใช้ทางม้าลายหน้าซอยได้ จะมีตัดทะลุให้พอดี แต่ต้องระวังรถหน่อยนะคะ

เราก็จะตรงตามทางไปเรื่อยๆจนกว่าจะมีจุดกลับรถ ข้ามคลอง ข้ามทางม้าลายไป

จนมาถึงสี่แยกไฟเขียวไฟแดงหน้าซอยอ่อนนุช 70 ที่สามารถใช้เป็นที่กลับรถได้ ตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่ดูคึกคัก มีร้านขายของขายอาหารอยู่ตรงหัวมุมของหลายๆฝั่ง

กลับรถมาก็จะเจอซอยอ่อนนุช 70 อยู่ทางซ้ายมือเป็นซอยฝั่งเลขคู่แล้ว สังเกตรถคันด้านหน้าจะเป็นรถสองแถวที่วิ่งยาวๆบนถนนสุขุมวิท 77 เป็นทางยาว ก็จะมีหยุดเป็นจุดๆ ทำให้เพิ่มช่องทางการเดินทางในระยะใกล้มาอีกวิธีหนึ่ง

เราก็จะตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็ไม่ได้มีรถเยอะมาก หรือพลุกพล่านมากเท่าไร แต่รถก็ใช้ความเร็วในระดับหนึ่ง

ก่อนจะถึงซอยสุขุมวิท 77 ก็จะมีไปรษณีย์อยู่ทางซ้าย จากจุดนี้ให้เริ่มชะลอรถและอยู่เลนซ้ายไว้ค่ะ แต่บนถนน 3 เลนก็จะเห็นว่าในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วนก็จะมีการจอดรถชั่วคราวริมทางเดินเท้าบ้าง

ถึงแล้วซอยอ่อนนุช 66 ทางซ้ายมือ มีจุดสังเกตคือปากซอยประกบด้วย 7-11 และ Family Mart เรียกแท๊กซี่ไม่ยากนะคะ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยกัน

เข้าซอยอ่อนนุช 66 มา ปากซอยก็จะมีพี่วินตั้งอยู่ เราจะตรงไปเรื่อยๆเป็นระยะ 400 เมตร ตอนกลางคืนข้างๆกับพี่วินก็จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารเปิดคึกคักขึ้น

ตรงเข้ามาในซอยก็จะเห็นว่าเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ มีอพาร์ตเมนท์บ้างแต่ก็จะสูงไม่เกิน 5 ชั้น ความกว้างของซอยก็เพียงพอที่จะให้รถสองคันสวนกันได้สบายๆ แต่จะไม่มีทางเดินเท้าแบบยกระดับ

เข้าซอยมา 400 เมตรก็จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

ถึงแล้ว โครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66 หันหน้าโครงการเข้าหาซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 เรียงกันเป็นแถว 8 หลัง

ด้านข้างของโครงการก็จะเป็นซอยอ่อนนุช 66 ซึ่งเป็นซอยตันจะไปสุดที่คลองด้านใน แต่ก็จะมีแยกทางซ้ายมือไปเรื่อยๆจากแยก 1 หน้าโครงการไปยังแยก 19 ที่สามารถไปต่อกับซอยอ่อนนุชเลขคู่อื่นๆได้

สภาพด้านข้างโครงการข้างแปลง 1 ก็จะเป็นทางรถเรียบๆ ด้านหลังของโครงการก็จะต่อกับบ้านพักอาศัย

ส่วนฝั่งตรงข้ามโครงการในซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 เห็นเป็นพื้นที่ว่างเทกรวดนั้นช่วงกลางวันก็จะมีรถมาเปิดท้ายใต้ต้นไม้ใหญ่ทางซ้ายนิดหน่อย

ส่วนในช่วงประมาณบ่าย 3-ทุ่มนึงก็จะมีตลาดนัดในวันจันทร์ อังคาร พฤหัส เสาร์ ก็จะมีทั้งขายอาหารและข้าวของเครื่องใช้ ซึ่งมองในแง่ดีก็จะได้มีร้านค้ามาหาถึงที่ แต่ในแง่ความเป็นส่วนตัวก็อาจจะหายๆไปหน่อยเป็นบางเวลา

เดินเข้ามาในซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 ทางซ้ายมือก็จะเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ส่วนแปลงฝั่งตรงข้ามจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า ในซอยลึกๆก็จะเห็นว่าค่อนข้างเงียบ แต่ก็มีรถเข้า-ออกเรื่อยๆ

แปลงที่ดินฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารตามสั่ง คือแปลงข้างๆกับโครงการบ้านหลังที่ 8 เป็นพื้นที่ว่าง แต่ก็ไม่ได้มีต้นไม้ใหญ่ทั้งหมด แต่ก็มีไม้เลื้อยและหญ้าขึ้น

มาดูสภาพแวดล้อมโดยใกล้ของโครงการกันบ้างนะคะ โครงการ Rich Home City อยู่ในซอยอ่อนนุช 66 มีรถเข้า-ออกตลอด บริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นซอยตันทำให้ไม่พลุ่นพล่านมาก เข้าจากปากซอยมา 400 เมตรทางซ้ายมือ หน้าโครงการจะหันหน้าเข้าหาซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 ซึ่งเป็นทิศเหนือ แปลงฝั่งตรงข้ามคือแปลงที่ดินเปล่าที่เกลี่ยหน้าดินแล้ว ช่วงเวลาบ่าย-เย็นๆของบางวันจะมีการจัดเป็นตลาดนัด ทำให้คนอาจจะเยอะกว่าปกติหน่อย ส่วนด้านข้างโครงการฝั่งตะวันตกจะติดกับซอยอ่อนนุช 66 ทางตะวันออกจะติดกับแปลงพื้นที่ว่างที่เป็นหญ้าและต้นไม้แต่บางตา ไม่รกมาก แปลงถัดไปถึงจะเป็นอพาร์ตเมนท์สูง 5 ชั้น 4 อาคารเรียงกัน ส่วนด้านหลังโครงการทางทิศใต้ หันชนกับบ้านพักอาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ของบริเวณนี้

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• 7-11/ Family Mart 400 เมตร
• ไปรษณีย์ สาขาอ่อนนุช 600 เมตร
• ตลาดเอี่ยมสมบัติ 850 เมตร
• ซีคอนสแควร์ 2.8 กิโลเมตร
• Max Value พัฒนาการ 3.3 กิโลเมตร
• สถานี Airport Rail Link หัวหมาก 3.7 กิโลเมตร
• สำนักงานเขตสวนหลวง 3.9 กิโลเมตร
• London Street จาก Mk Group 4.5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลวิภาราม 4.5 กิโลเมตร
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 4.6 กิโลเมตร
• สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น 5.1 กิโลเมตร
• โรงแรม The Grand Four Wings 5.5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ 6 กิโลเมตร
• สถานี BTS อ่อนนุช 6.1  กิโลเมตร
• Stamford International University 6.3 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต 6.7 กิโลเมตร
• ABAC 9.1 กิโลเมตร
• ราชมังคลากีฬาสถาน 9.5 กิโลเมตร
• The Nine พระราม9 10.1 กิโลเมตร (รวมระยะทางกลับรถ)
• สวนหลวงร.9 12.2 กิโลเมตร
• สนามบินสุวรรณภูมิ 15 กิโลเมตร

 

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 1-0-83 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการเล็กแบบไม่จัดสรร สามารถเข้าถึงได้จากหลายเส้นทาง แต่ทุกทางจะต้องเข้าซอยอ่อนนุช 66 ซึ่งเป็นซอยบนถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุชเท่านั้น เข้าซอยมา 400 เมตร โครงการจะอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งหันหน้าบ้านทุกหลังออกไปยังซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 การก่อสร้างเสร็จแล้วประมาณ 80% ที่เหลือคืองานตกแต่งภายนอกและเก็บความเรียบร้อย มีการโอนกรรมสิทธิ์แล้วจำนวนหนึ่ง

คำถามเรื่องโครงการจัดสรรหรือไม่จำสรรต่างกันตรงไหน ขอยกพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินมาเล่าให้ฟังแค่ข้อเดียวใหญ่ๆเลยนะคะ การที่จะเข้าข่ายพระราชบัญญัตินี้คือจะต้องมีการทำการรังวัดแบ่งเป็นแปลงย่อยเพื่อจำหน่ายตั้งแต่ 10 แปลงขึ้นไป แต่โครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66 นั้นไม่เข้าข่าย เพราะมีเพียง 8 ยูนิต ดังนั้นจึงสามารถขายขาด โดยที่ไม่มีข้อจำกัดอื่นๆอย่างระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น ความกว้างของถนนภายในโครงการ, ระบบรักษาความปลอดภัยส่วนกลาง, ระบบการระบายน้ำและน้ำเสีย รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวอย่างสวนสาธารณะ ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องการจ่ายค่าส่วนกลางรายเดือนเพื่อบำรุงรักษา-คงสภาพโครงการใดๆ

การจัดวางตัวบ้านอย่างที่กล่าวไปคือหันหน้าออกไปยังซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 เรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน ขนาดที่ดินตั้งแต่ 56.2 – 73.1 ตารางวา แตกต่างกันที่ความกว้างของพื้นที่ข้างบ้าน ส่วนพื้นที่ใช้สอยขนาด 190 ตารางเมตร เท่ากันทุกหลัง รั้วแต่ละบ้านทั้งกั้นบ้านแต่ละหลังและล้อมรอบสูง 2 เมตร ภายในบ้านจะติดกล้อง CCTV 4 จุดรอบตัวบ้านให้ หน้าบ้านหันไปทางทิศเหนือ หลังบ้านส่วนซักล้างหันไปทางทิศใต้ทำให้โดยแดดได้ตลอดวัน ข้อเสียคือพื้นที่ข้างบ้านแต่ละหลังค่อนข้างชิดกัน ทำให้ผู้ออกแบบออกแบบช่องเปิดส่วนข้างบ้านแค่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งให้ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของแต่ละบ้าน

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ระบบ CCTV รอบตัวบ้าน หลังละ 4 จุด
• รั้วบ้านกั้นแต่ละหลังสูง 2 เมตร

 

Product Walkthrough

บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 1 แบบถ้วน คือ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยขนาด 190 ตารางเมตร เท่ากันทุกหลัง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ที่จอดรถ วางอยู่บนแปลงที่ดินตั้งแต่ 56.2 – 73.1 ตารางวา ความลึกของตัวแปลงเท่ากันประมาณ 26.5 เมตร แต่รูปร่างแตกต่างกันที่ความกว้างของพื้นที่ข้างบ้าน ผ่านรั้วบ้านแบบเลื่อนเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวข้างบ้าน ไม่มีการลงต้นไม้ใหญ่ให้ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากสองทางหลัก คือบานประตูเปิดหน้าบ้าน และหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว ส่วนทางเข้าบ้านแบบไม่เป็นทางการ ที่เป็นประตูบานเลื่อนมีที่ส่วนห้องทานข้าวด้านข้าง

จากทางเข้าหลักหน้าบ้าน เข้ามาก็จะเจอทางเดิน ด้านหน้าคือบันได ส่วนทางขวามือคือห้องเก็บของใต้บันได เดินไปสุดทางเลี้ยวซ้ายจะเจอกับห้องรับแขกที่อยู่หน้าบ้านเป็นแบบ Double Ceiling Height คือสูงโปร่งขึ้นไปยังเพดานชั้น 2 สูงมากกว่า 5 เมตร ต่อเนื่องกับพื้นที่กินข้าวตรงกลางบ้านที่มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปข้างบ้านได้ หลังสุดของบ้านคือประตูบานเลื่อนเข้าห้องครัวที่ให้ระบบมา แต่ไม่ได้ให้เคาท์เตอร์มาด้วย ห้องทางมุมขวาด้านในคือห้องนอนชั้นล่าง เหมาะสำหรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ และข้างๆกันคือห้องน้ำ

บนชั้น 2 ขึ้นบันไดมาเจอช่องแสงส่วนหน้าบ้าน ข้างๆจะมีทางเดินไปยังระเบียงที่สามารถชะโงกลงไปมองยังห้องรับแขกด้านล่างได้ ตรงทางเดินสามารถกั้นเป็นห้องเอนกประสงค์ได้แต่ในบ้านตัวอย่างไม่ได้มีการกั้นมาให้ บนชั้น 2 จะมีห้องหลักๆเพียงห้องเดียว คือห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงข้างบ้านและห้องน้ำในตัวอยู่ด้านหลัง ส่วนขึ้นไปยังชั้น 3 จะมีห้องนอน 2 ห้อง แบ่งเป็นห้องส่วนหน้าบ้านที่จะได้ระเบียงส่วนข้างบ้านด้วย และห้องนอนหลังบ้านที่ไม่มีระเบียง ทั้งสองห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกัน สามารถเปิดได้โดยตรงจากห้องนอนทั้งสองห้องเลย

ด้วยโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก การออกแบบจะต้องคำนึงถึงการใช้งานในหลายๆรูปแบบ รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการที่ส่งผลต่อการออกแบบ เพราะจะไม่เหมือนโครงการใหญ่ๆที่สามารถสร้างบรรยากาศโดยรวมได้ เช่น สังเกตว่าการออกแบบช่องแสงไม่มีอยู่ที่ผนังทางขวามือเลย แต่จะหนักไปยังฝั่งซ้ายมือ เพราะถ้าดูจากแปลนโครงการโดยรวม แปลงแรกที่อยู่หัวมุมซอยจะไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยถ้ามีช่องแสงหรือระเบียงทางฝั่งขวา และด้านหน้าบ้านจะเป็นส่วนที่ได้รับความเป็นส่วนตัวน้อยที่สุด ทำให้ฝั่งที่ Balance ความเป็นส่วนตัวไว้ได้คือผนังทางด้านซ้าย ดังนั้นช่องเปิด-ประตูบานเลื่อนรอง-ระเบียงห้องนอนจะออกแบบมาอยู่ทางทิศตะวันออกทั้งหมด ซึ่งจะได้รับแสงในช่วงเช้า

งานดีไซน์ออกเรียบง่ายนะคะ ตกแต่งด้วยสีม่วงเทา-ขาว ตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกเขียวๆ บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันคือบ้านแปลงที่ 1 ที่จะมีที่ดินมากกว่าแปลงมาตรฐานจาก 56 ตารางวา เป็น 73 ตารางวา ความลึกเท่าเดิมที่ 26.5 เมตร แต่ความกว้างจะเพิ่มจาก 8.5 เมตร เป็น 11 เมตร ถัดจากตัวรั้วบ้านเข้าไปก็จะเห็นว่ามีพื้นที่จอดรถ ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานจะจอดได้ 4 คัน ถ้าเป็นแปลง 1 และ 8 จะจอดได้ประมาณ 6 คัน ขึ้นกับขนาดรถด้วย แน่นอนว่าจุดที่ลูกบ้านทุกโครงการนิยมต่อเติมที่สุดคือการหาหลังคาคลุมรถกันแดดกันฝน ซึ่งบ้านนี้อาจจะต้องหาใหญ่หน่อยนะคะ แค่กันสาดอาจจะไม่พอ

เริ่มที่ทางเข้าด้านหน้าบ้านประตูเล็กที่อยู่ขวามือ ก็จะมีกรอบปูนยื่นออกมา ด้านข้างมีกริ่งบ้านและไฟเล็กๆ 1 ดวง ประตูเล็กเป็นแบบเปิดเข้า-ออก

ส่วนฝั่งซ้ายก็จะเป็นที่เก็บขยะ สำหรับเวลารถเก็บขยะมาเก็บก็สามารถเปิดจากหน้าบ้านได้เลย ส่วนเวลาเราทิ้งก็ทิ้งจากในบ้าน สะดวกทั้งสองฝ่าย

ส่วนประตูใหญ่ของบ้านเป็นแบบประตูเลื่อน 2 ตอน สามารถเลื่อนเข้ามาเก็บที่หลังประตูเล็กได้ เซาะร่องที่พื้นเรียบร้อย ประตูนี้สามารถทำเอาระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติมาใส่ได้นะคะ แนะนำให้ติดเพราะเลื่อนประตูทีค่อนข้างหนักทีเดียว

ต่อมาเป็นพื้นที่จอดรถหน้าบ้านที่จอดได้ประมาณ 4 คันสำหรับแปลงมาตรฐาน 2-7 แต่แปลงมุมจะได้ประมาณ 6 คัน เทียบจากสเกลรถ

ขอบๆพื้นที่จอดรถที่เป็นคอนกรีตขัดหยาบก็จะเป็นพื้นหญ้าจริงที่ลงไว้ จากการสอบถามแปลงที่ขายจริงจะไม่ได้หญ้าส่วนนี้และรอบบ้านด้วย รั้วที่มีไฟติดตั้งอยู่ที่เสาก็จะไม่ได้เช่นกัน ส่วนบ้านข้างๆที่เห็นเป็นไฟส่องสว่างใหญ่หน่อย แปลงนั้นลูกบ้านโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้วเลยมีการติดตั้งของเขาเอง แต่ดูจากพื้นที่หน้าบ้านที่ค่อนข้างใหญ่แล้ว ติดไฟที่มีรัศมีกว้างหน่อยก็จะดีค่ะ

เดินลึกเข้ามารอบๆพื้นที่ของบ้านตัวอย่างก็จะเทหินขาวก้อนใหญ่ไว้ รวมถึงวางหินที่เป็นแผ่นทำเป็นทางเดินไปถึงหลังบ้าน ขอแนะนำนิดนึงนะคะว่าถ้าจะจัดในรูปแบบคล้ายๆกัน หินแผ่นที่วางควรจะมีความหนาหน่อย เพราะเวลาฝนตก หรือลดน้ำต้นไม้ จะยังสามารถเหยียบได้ แล้วก็จะไม่จมไปกับดิน

เงยหน้ามองขึ้นไปที่มุมบ้านด้านบนก็จะมีกล้อง CCTV ติดอยู่รอบบ้าน 4 ตัวในทุกๆหลัง หันหน้าออกหน้าบ้าน 1 ตัว, หลังบ้าน 1 ตัว และข้างบ้านสองฝั่ง ตัวจอ Monitor ของกล้องนี้ก็จะเป็นจอที่ดูได้จากในบ้าน

ผ่านหน้าต่างบ้านเลื่อนที่เป็นช่องเปิดจากส่วนห้องรับแขกมาก็จะเป็นส่วนประตูบานเลื่อนจากห้องทานข้าวด้านหลัง ลูกฟักคือกระจกตัดแสงสีเขียวที่ออกมายังพื้นที่ข้างบ้านได้ มีการก่อปูนทำเป็นบันไดให้ 1 ขั้น ความกว้าง 1 กระเบื้องคือ 30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นความกว้างและความเตี้ยที่น้อยไปนิดนึง

ข้างๆกันก็จะมี Compressor แอร์ติดอยู่ข้างบ้าน ยกสูงขึ้นมาจากตัวพื้นประมาณ 20 เซนติเมตร

หลังบ้านกลับมาเป็นพื้นหญ้าอีกครั้ง มีลานซักล้างหลังบ้านต่อจากประตูที่เปิดออกมาจากส่วนครัว มีปลั๊กไฟพร้อมกล่องกันน้ำ รวมถึงก๊อกน้ำที่สามารถต่อสายยางรถน้ำต้นไม้ได้ ที่มุมหลังบ้านอีกฝั่งก็จะเทปูนเป็นสี่เหลี่ยมสูงขึ้นมาสำหรับวางปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำที่โครงการจะให้มาด้วย

ที่มุมหลังบ้านก็จะมีกล้อง CCTV อีกตัวจับภาพหลังบ้านเช่นกัน

ต่อมาเป็นด้านข้างบ้านฝั่งขวา พื้นก็จะปูเป็นพื้นหญ้าและมีการปลูกต้นไม้รอบแนวรั้วบ้าน สังเกตว่าผนังด้านนี้จะทึบทั้งหมด คือตั้งแต่ชั้น 1-3 ไม่มีช่องเปิดด้านนี้เลย เพราะข้างๆกันคือซอยอ่อนนุช 66 เป็นซอยที่มีรถเข้า-ออกพอสมควร ซึ่งการมีช่องเปิดอาจจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไป

แม้กระทั่งห้องน้ำที่อยู่ฝั่งขวาของบ้านที่ชั้น 1 ก็จะไม่มีช่องเปิดที่เป็นบาน แต่จะติดให้เป็นแบบระบายอาการออกข้างบ้านแทน

กลับมาที่หน้าบ้านอีกครั้ง งานดีไซน์ตัวบ้านมองแว๊บเดียวก็จะเห็นว่าให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากบ้านเดี่ยว 3 ชั้นทั่วๆไปในโครงการใหญ่  เรามาสังเกตความแตกต่างกันตั้งแต่แต่ชั้น 1 ขึ้นไปนะคะ

• อย่างแรกเลยคือทางเข้าบ้าน ปกติแล้วทางเข้าบ้านจากหน้าบ้านจะมีด้วยกัน 2 ประตู คือบานประตูเปิดจากส่วนที่จอดรถ และบานเลื่อนจากเฉลียง บ้านในโครงการนี้จะมีแค่บานประตูเปิดจากเฉลียง เพราะตำแหน่งประตูบานเลื่อนเปลี่ยนเป็นช่องแสงขนาดเล็กหน่อยเนื่องจากหน้าบ้านหันหน้าเข้าหาซอยอ่อนนุช 66 แยก 1 ฝั่งตรงข้ามก็เป็นพื้นที่โล่ง ที่บางวันเปิดเป็นตลาดนัด ทำให้ถ้าเปิดเป็นช่องเปิดใหญ่อาจจะทำให้เสียความเป็นส่วนตัว
• ต่อมาคือระเบียงหน้าบ้านที่เปิดออกได้จากห้องนอนก็เปลี่ยนเป็นระเบียงข้างบ้านทางซ้ายแทน ทั้งจากห้องนอนชั้น 2-3 หน้าบ้านก็เป็นช่องแสงที่แคบลงหน่อย สามารถเปิดเป็นบานกระทุ้งได้
• ส่วนหลังคา ปกติแล้วเราจะเจอแบบที่เป็นหลังคา 4 มุม ระบบรอบรับน้ำฝนก็จะตกลงข้างบ้านไหลลงด้านล่างต่อไป แต่โครงการนี้จะทำหลังคาเป็นแบบลาดลงด้านหลังบ้าน หรือเรียกว่า หลังคาเพิงหมาแหงน ที่จะลาดน้ำฝนไปทางด้านหลัง ส่วนเรื่องแสงที่เข้าบ้านก็จะเข้าได้มากขึ้นรอบตัวบ้านเพราะไม่มีชายคาหรือเงาแดดจากหลังคามาปกคลุม หน้าต่างที่เล็กลงก็จะทำให้ปริมาณของแสงแดดในช่วงกลางวันไม่มากจนความร้อนเข้ามาในบ้าน

อย่างที่กล่าวไปว่าทางเข้าหน้าบ้านจะมีทางเดียวคือบานประตูเปิด-ปิดตรงหน้าเฉลียง ก้าวขึ้นบันได 2 ขั้นก็จะถึงบานประตูบ้าน มีหลังคายื่นให้นิดหน่อย เวลาฝนตกจะได้ไม่เปียกเท่าไร บานประตูเป็นบาน UPVC

ประตูเป็นแบบกุญแจไขจากด้านนอก ส่วนด้านในเป็นแบบหมุนล็อกด้วยลูกบิด ด้านบนมีที่จับ แต่ทุกๆจุดของประตูบานเปิดไม่มี Doorstop ทำให้เวลาเปิด-ปิดจะมีการกระทบกันของผนังและที่จับ

เฉลียงขนาด 2.0 x 2.5 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีดำ ส่วนพื้นในบ้านชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ยกพื้นขึ้นสูงประมาณ 5 เซนติเมตร

เปิดประตูบานเข้าไปด้านในก็จะเจอกับทางเดินกว้าง 1.3 เมตร ด้านหน้าเป็นบันได ส่วนขวามือคือห้องเก็บของใต้บันได

ห้องเก็บของใต้บันไดขนาด 1 x 3 เมตร ความสูงประตูรวมวงกบของทุกๆบานประมาณ 2.2 เมตร

หันหลังกลับมาก็จะต้องเดินไปทางขวาเพื่อเข้าส่วน Living ที่เป็นพื้นที่หลัง ก่อนหน้านั้นก็จะเจอกับเสาที่ตั้งอยู่ตรงกลางข้างๆกับบันได มีพื้นที่เล็กๆขนาด 15 เซนติเมตรก่อนถึงบันได ซึ่งถ้าขยายความกว้างของบันไดให้รวมกับความกว้างของเสาไปก็จะดูไม่ขัดตาขนาดนี้

เดินเข้ามาตรงกลางบ้านหันไปด้านหน้าจะเป็นห้องรับแขกที่จัดเป็นห้องนั่งเล่นในตัวก็ได้ กว้าง 3.5 เมตร ทางขวามือจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนส่วนข้างบ้าน ต่อกันเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ส่วนหน้าบ้านเป็นช่องแสงขนาดเล็กหน่อยเป็นบานกระทุ้งสามารถเปิดรับลมได้ ความสูงของชั้น 1 อยู่ที่ 2.7 เมตร

ดังนั้นทางขวามือก็จะเหมาะสำหรับการวางโซฟาขนาดใหญ่ หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานให้แสงเข้าจากทางด้านหลังก็จะได้แสงที่ไม่จ้าหรือมืดเกินไป

ส่วนทางซ้ายก็จะเป็นผนังทึบ เหมาะแก่การวางตู้โชว์ ชั้นวางทีวีที่สามารถใส่แบบสูงๆขึ้นไปได้เลย

ห้องรับแขกตรงนี้ยังเป็นแบบ Double Ceiling Height ที่สูงไปถึงเพดานชั้น 2 ด้วยความสูงประมาณ 5 เมตร ทางซ้ายเป็นทางเดินในบ้านชั้น 2 ที่สามารถชะโงกลงมาได้ ส่วนตรงกลางเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งจากห้องนอนใหญ่ และทางซ้ายเป็นช่องแสงจากข้างบ้าน

ส่วนตรงกลางบ้านชั้น 1 ที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกับห้องรับแขกก็จะเป็นจุดของโต๊ะทานข้าว ที่ทางซ้ายจะมีประตูบานเลื่อนออกไปยังข้างบ้านได้

ประตูบานเลื่อนเป็นกรอบอลูมิเนียม ลูกฟักคือสีเขียวตัดแสง เปิดออกซ้าย-ขวา ด้านบนเป็นบาน Fix รับแสงเฉยๆ

ที่จับเป็นแบบง้างซ้าย-ขวาปกติ ตัวล็อกเลื่อนขึ้น-ลง

ระดับพื้นตัวบ้านและพื้นที่ข้างบ้านต่างกันประมาณ 15 เซนติเมตร โดยมีขั้นบันไดให้ 1 ขั้นก่อนจะถึงพื้นที่ข้างบ้าน ความกว้าง 1 กระเบื้องหรือประมาณ 30 เซนติเมตร

ต่อมาเราจะไปดูห้องครัวที่ส่วนหลังบ้าน ด้านบนมีตำแหน่งแอร์ของห้องทานข้าวยาวไปถึงห้องรับแขก ซึ่งแอร์ตัวนี้น่าจะต้องเป็นแอร์ตัวใหญ่ที่มี BTU เยอะหน่อยนะคะ

บานประตูเป็นแบบบานเลื่อนเปิดจากบานขวาไปทางซ้าย

ซึ่งตัวพื้นของห้องครัวก็จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ต่อเนื่องเข้าไปจากส่วน Living ทานข้าวได้ เพราะตัวบานประตูเลื่อนไม่มีรางล่าง

ที่จับดูมั่นคงดีนะคะ สามารถล็อกกุญแจได้จากด้านนอก และหมุนบิดล็อกได้จากด้านในห้องครัว

ภายในห้องครัวขนาด 2.0 x 3.5 เมตร มีหน้าต่างบานกระทุ้งออกข้างบ้าน 1 บาน และออกไปทางหลังบ้าน 2 บานที่ความสูงประมาณเคาท์เตอร์ครัวพอดี โครงการนี้จะไม่มีเคาท์เตอร์ครัวให้ แต่ต่อระบบน้ำ-ไฟให้เรียบร้อย สังเกตว่าจะมีความสูงของบานกระทุ้งหลังบ้าน และเสาหลังบ้านเป็นจุดที่จะต้องให้ช่างมาวัดก่อนจะทำขนาดนะคะ ทางซ้ายมือก็จะเห็นเป็นท่อแอร์จากแอร์ตัวที่อยู่เหนือบานประตูเลื่อนครัวออกไปข้างบ้าน

หันหลังกลับมาอีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวก็จะเป็นพื้นที่ว่างๆ ตรงนี้เหมาะสำหรับการวางเครื่องซักผ้าและชั้นเก็บของต่างๆนานา เพราะอยู่ใกล้กับประตูหลังบ้านที่เปิดออกไปจะเจอกับลานซักล้างพอดี

ประตูบาน UPVC หลังบ้านก็จะใช้เหมือนประตูหน้าบ้าน คือใช้กุญแจจากด้านนอก ส่วนด้านในใช้เป็นตัวบิดล็อก มีคันโยกเปิด-ปิด

ระดับพื้นของห้องครัวกับลานซักล้างต่างกันประมาณ 5 เซนติเมตร

ลานซักล้างหลังบ้านขนาด 0.8 x 3.5 เมตร ความกว้างหลังบ้านที่เหลือประมาณ 2 เมตร

กลับเข้ามาดูด้านใน ใกล้ๆกับบันไดจะมีประตู UPVC 2 บาน บานทางขวาคือบานทางเข้าห้องน้ำชั้น 1 และบานทางซ้ายคือทางเข้าห้องนอนชั้นล่าง

พื้นห้องนอนชั้นล่างต่อเนื่องจากพื้นห้องทานข้าว

ห้องนอนขนาด 2.5 x 3.0 เมตร ปัจจุบันจัดเป็นห้องทำงานบนชั้น 1 ซึ่งขนาดก็เพียงพอที่จะวางโต๊ะและชั้นเก็บของได้พอดี มีหน้าต่างบานหนึ่งออกไปยังหลังบ้าน ถ้าจัดเป็นห้องนอนก็ความจะเอาหัวนอนหันไปทางข้างบ้านแล้วติดม่านนิดหน่อย

เข้ามาอยู่มุมในสุดของห้องนอนชั้นล่างหันออกไปยังประตูทางเข้า ผนังในบ้านจะเป็นทาสีขาวเรียบธรรมดา ไม่ได้ติด Wallpaper ให้นะคะ

ต่อมาเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ จะมีสวิสซ์ไฟเปิด-ปิดได้จากข้างหน้า

ระดับพื้นห้องน้ำลดลงไปประมาณ 3 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.4 x 2.5 เมตร การวางลำดับของการใช้งานห้องน้ำก็จะเป็นแบบ 3 ส่วนทั่วไปคือจากด้านหน้าจะเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจก ถัดไปคือโถสุขภัณฑ์ และในสุดคือพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ ไม่มีฉากกั้นมาให้

อ่างล้างหน้าเป็นแบบฐานยาวลงถึงพื้น ไม่ได้ก่อเคาท์เตอร์ปูนขนาดใหญ่เพื่อวางของใช้ในห้องน้ำ แต่ตลอดความยาวของพื้นที่ส่วนแห้งจะมีการก่อปูนกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร ทำให้วางของได้นิดหน่อย ตรงผนังเป็นกระจกขนาดเล็ก

โถสุขภัณฑ์จาก nahm ทั้งสองข้างก็จะมีการต่อสายชำระ และที่ใส่ทิชชูมาให้

ในสุดคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืน ก็จะมีฝักบัวสเตนเลสจาก VRH เช่นกัน และมีการต่อท่อรองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่นให้

พื้นที่เปียกขนาด 1.0 x 1.4 เมตร ลดระดับลงนิดหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร ท่อน้ำทิ้งอยู่มุมในสุด

ฝักบัวขนาดหัวไม่ใหญ่มาก เวลาจับก็ถัดมือดีปกติ

ไฟในห้องน้ำเป็นแบบ Downlight และมีเครื่องดูดกลิ่นระบายอากาศจากภายในห้องน้ำออกไปยังข้างบ้านเหมือนที่เห็นจากการเดินรอบบ้าน

ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 รูปตัว L กว้าง 90 เซนติเมตร มีราวจับบันไดอยู่ด้านขวามือ ลูกนอนปูด้วยไม้เทียม ส่วนลูกตั้งเป็นการทาสีขาวเรียบๆ

ยืนตรงชานพักมองขึ้นไปบนชั้น 2 ฝั่งหน้าบ้าน

พื้นชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร แต่พื้นลูกตั้งจะปูด้วยไม้เทียม สีต่างกันอย่างเห็นได้ชัดไปหน่อย

ความกว้างระหว่างขั้นสุดท้ายของบันไดกับผนังหน้าบ้านเหลือพอสมควรนะคะ

ช่องแสงหน้าบ้านเป็นแบบบานเลื่อน ด้านล่างเป็นบาน Fix แต่มีซี่บังแดดจาก Facade หน้าบ้านเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวแม้จะเปิดบานเลื่อนรับลมเต็มๆ

หันกลับหลังมามองพื้นที่ในบ้านกันต่อ บันไดก็จะอยู่ชิดขวาของตัวบ้าน ทางซ้ายจะเป็นทางเดินเข้าห้องนอนใหญ่และพื้นที่เอนกประสงค์ด้านหลัง

ทางซ้ายมือก็จะเป็นที่กั้นที่สามารถชะโงกลงไปยังห้องรับแขกด้านล่างได้

การเปิดช่อง Double Volume แบบนี้ก็จะทำให้บ้านดูโปร่งและมีพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันมากยิ่งขึ้น

ต่อมาเราจะเปิดเข้าไปดูห้องนอนใหญ่บนชั้น 2 กันค่ะ ประตูบาน UPVC เหมือนเดิม

พื้นห้องนอนก็จะต่อเนื่องเข้าไปกับทางเดินคือลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ลายค่อนข้างชัด

ตัวล็อกจากด้านในเป็นแบบบิด ด้านนอกใช้กุญแจ และมีคัดโยกเปิด-ปิดเหมือนเดิม แต่ก็จะไม่มี Doorstop ให้

ประตูบานที่เห็นด้านหน้าทันทีที่เปิดประตูห้องนอนเข้ามาคือประตูออกไปยังระเบียงข้างบ้านของห้องนอนใหญ่ ส่วนทางซ้ายคือบานกระทุ้ง 3 บานที่สามารถรับแสง Indirect ได้

บานกระทุ้งเป็นบานที่ยาวๆด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นช่องแสงแบบ Fix

พื้นที่ด้านในห้องนอนก็จะเป็นพื้นที่ยาวจากกลางบ้านไปหลังบ้าน ช่องแสงจะมีจากทางข้างบ้านฝั่งซ้ายเป็นขนาดเล็กๆแต่หลายๆจุด สามารถเปิดเป็นบานกระทุ้งให้อากาศถ่ายเท แต่แสงที่จ้าๆจะเข้าไม่ถึงมากนักเพราะไม่มีช่องแสงขนาดใหญ่ เสาห้องก็จะมีให้เห็นอยู่พอสมควรตามมุมต่างๆ

ถ่ายไปส่วนหลังของห้องนอนกว้าง 4 เมตร ความลึกของห้องจากจุดที่ยืนถึงสุดผนังด้านในประมาณ 7 เมตร มีประตูทางเข้าห้องน้ำในตัวอยู่ทางขวามือ พื้นที่หน้าห้องน้ำก็สามารถกั้นเป็น Walk-in Closet ได้ถ้าอยากให้เก็บของมิดชิดขึ้น

เราจะออกไปดูระเบียงข้างบ้านของห้องนอนใหญ่กันนิดนึงนะคะ บานประตูเปิดแบบผลักออก เนื่องจากเป็นบานประตูข้างบ้านจะเห็นว่าจะทำเป็นช่องแสงตรงกลางด้วยเลย

ตัวหมุนบิดล็อกจะอยู่ด้านในคันโยก ความเห็นส่วนตัวสำหรับบานประตูบานนี้คือไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร เวลาเปิดออกจะรู้สึกว่าเบา

จากพื้นห้องนอนออกไปยังระเบียงจะลดระดับลงประมาณ 5 เซนติเมตร

ระเบียงขนาด 1.6 x 3.5 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 40 x 40 เซนติเมตร มีราวกันตกสูง 1.1 เมตร

ด้านนอกก็จะมีไฟติดผนังให้ ส่วนด้านบนก็จะเป็นชายคา ความจริงแล้วปูด้วยแผ่นโพลิคาร์บอเนตสีชา แล้วติดแผ่นไม้เป็นระแนงด้านล่างอีกที

มองจากระเบียงเข้ามาด้านในก็จะเห็นว่าที่พื้นจะมีช่องให้น้ำไหลลง ถ้าฝนเกิดตกแล้วสาดเข้ามาในระเบียง

จากระเบียงก็จะเห็นพื้นที่หน้าบ้าน รวมถึงพื้นที่ตลาดนัดฝั่งตรงข้างด้วย

แอบมองไปทางซ้ายก็จะเห็นเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัว 2 ชั้น ต้นซอยไปหน่อยจะเป็นอพาร์ตเมนท์สูงไม่เกิน 5 ชั้น

ส่วนมองไปทางขวาก็จะเป็นเพื่อนบ้านของเราภายในโครงการเอง แปลงที่ 3 เป็นต้นไปก็ยังมีการก่อสร้างและเก็บความเรียบร้อยกันอยู่

เข้ามาในห้องนอนกันต่อ เราจะพาไปดูห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่กัน

ประตูเข้าห้องน้ำเหมือนเดิมคือบาน UPVC มีสวิสซ์ไฟด้านหน้า

เปิดเข้าไปด้านในห้องน้ำขนาด 1.5 x 2.8 เมตร เรียงลำดับเหมือนๆกับห้องน้ำชั้นล่าง คือ อ่างล้างหน้าพร้อมกระจก ถัดไปคือโถสุขภัณฑ์ และในสุดคือพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ

ตัวอ่างล้างหน้าจะต่างกับชั้นล่างคือจะเป็นแค่ตัวอ่างที่ฝังลงไปกับเคาท์เตอร์ปูน ที่ไม่ได้ให้ตู้ปิดด้านล่างมา เพราะบางบ้านก็ชอบให้ปิดเพราะดูมิดชิด บางบ้านก็ชอบแบบเปิดไปเลยให้ดูโล่ง มาพร้อมกับกระจกบานไม่ใหญ่

โถสุขภัณฑ์จาก nahm ทั้งสองข้างก็จะมีการต่อสายชำระ และที่ใส่ทิชชูมาให้

ในสุดคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืน พิเศษขึ้นมาก็จะมีทั้ง Shower ด้านบนและฝักบัวจาก VRH มีการต่อท่อรองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่นให้ พร้อมกับที่วางสบู่ แชมพูให้ 1 อันติดผนังมา และเนื่องจากห้องน้ำนี้ติดกับหลังบ้าน จะมีช่องแสงขนาดเล็กคือบานกระทุ้งด้วย

พื้นที่เปียกขนาด 1.0 x 1.2 เมตร ลดระดับลงนิดหน่อยประมาณ 3 เซนติเมตร ท่อน้ำทิ้งอยู่มุมในสุด

ดู Shower และ ฝักบัวกันใกล้ๆ

จากส่วนหลังของห้องนอนมองไปยังด้านหน้า ไฟในห้องนอนก็จะเป็นแบบ Downlight

ออกมาจากห้องนอนมาตรงทางเดินบนชั้น 2 มองไปส่วนหลังบ้านที่ตามผังแล้วก็จะเป็นห้องเอนกประสงค์ที่กั้นห้องได้ บ้านตัวอย่างวางโซฟามาให้ 2 ตัว และมีหน้าต่างหลังบ้าน 2 บาน ความกว้างของพื้นที่ส่วนนี้อยู่ที่ 2.5 เมตร

หน้าต่างเป็นแบบบานเปิดออกด้านข้าง เปิดรับลมให้อากาศไหลเวียนได้

แอบชะโงกลงไปดูพื้นที่หลังบ้านหน่อย

จากพื้นที่เอนกประสงค์หันหน้ากำลังจะขึ้นบันไดรูปตัว J แบบมีส่วนหน้าบ้าน

ขึ้นมาบนชั้น 3 จะเห็นว่าบันไดเป็นรูปตัว J จริงๆ มีหน้าต่างหน้าบ้านพร้อมซี่จาก Facade หน้าบ้านเหมือนเดิมคล้ายกับชั้น 2

บนชั้น 3 มีด้วยกัน 2 ประตูถ้ามองจากพื้นที่ทางเดิน

ประตูบานซ้ายคือห้องนอนกลางที่มีระเบียงส่วนหน้าบ้านและห้องน้ำในตัว ส่วนบานขวาเป็นห้องนอนเล็กหลังบ้าน ไม่มีระเบียง แต่มีห้องน้ำในตัวซึ่งเป็นห้องน้ำเดียวกันกับห้องนอนกลาง คือเข้าได้ทั้ง 2 ทางเลย

เปิดเข้ามาที่ห้องนอนกลางก็จะปูด้วยพื้นลามิเนตสีเข้มลายชัดปกติ ขนาดห้องอยู่ที่ 3.6 x 6.5 เมตร

เข้ามาในห้องดูตรงๆมองไปยังหน้าบ้านก็จะเห็นว่ามีช่องแสงจากหน้าบ้าน 2 บานผอมๆ ตรงกลางเป็นบานกระทุ้งเปิดได้เหมือนเดิม

มองจากส่วนหน้าห้องไปยังหลังห้องบ้างตรงกลางก็จะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำในตัว และทางซ้ายคือบานประตูออกระเบียงข้างบ้าน

ประตูระเบียงซึ่งเป็นส่วนข้างบ้านเหมือนกันกับชั้น 2 คือจะเป็นช่องแสงไปด้วยในตัว เปิดแบบผลักออกไป

ระเบียงห้องนอนกลางจะเล็กลงหน่อยอยู่ที่ 1.3 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

ความกว้างแม้จะไม่กว้างมากแต่ก็ดูเป็นส่วนตัว แดดเข้าถึงไม่มาก พอรับลมได้

จากระเบียงห้องนอนชั้น 3 สามารถมองไปยังระเบียงห้องนอนชั้น 2 ได้ จุดที่เป็นแผ่นโพลิคาร์บอเนตที่ปูเป็นหลังคาของทั้งชั้น 2-3 ถือว่าเป็นส่วนที่ทำความสะอาดค่อนข้างยากนะคะ จะปีนไปกวาดก็ไม่ได้ จะลาดเอียงก็ไม่ลาด

มองย้อนกลับไปยังระเบียงอีกฝั่งหนึ่ง

แอบชะโงกลงข้างบ้านฝั่งขวามือ

ต่อมาเราจะเข้าไปดูห้องน้ำที่เป็นห้องน้ำในตัวของทั้งห้องนอนกลางและห้องนอนเล็กกัน ประตูเป็นบาน UPVC แบบเปิดเข้า

ห้องน้ำขนาด 1.8 x 2.5 เมตร จัดเป็น 3 ส่วนปกติ มีช่องแสงจากทั้งหลังบ้านและข้างบ้าน ทั้งสองบานเปิดเป็นแบบบานกระทุ้งได้

ประตูจากห้องนอนกลางจะอยู่ในส่วนใกล้พื้นที่เปียก และบานประตูจากห้องนอนเล็กด้านในก็จะใกล้กับส่วนอ่างล้างหน้า

พื้นที่เปียกห้องน้ำนี้จะดูเข้ามุมหน่อยอยู่ที่ 0.9 x 1.1 เมตร เพราะความกว้างของประตูจากห้องนอนกลางบีบเข้ามา ตรงนี้อาจจะต้องติดฉากกั้นอาบน้ำด้านในด้านหนึ่ง แต่ถ้าติดทั้งสองด้านน่าจะเป็นแบบเปิดได้ทั้งสองมุมเพราะเปิดได้ฝั่งเดียวจะทำให้อึดอัดเกินไป

ห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 40 x 40 เซนติเมตร มีห้องน้ำทิ้งอยู่มุมด้านใน

โถสุขภัณฑ์จาก nahm ทั้งสองข้างก็จะมีการต่อสายชำระ และที่ใส่ทิชชูมาให้

อ่างล้างหน้ามาแบบเป็นอ่าง ไม่มีการก่อเคาท์เตอร์ให้เหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนชั้น 2

ต่อมาคือห้องนอนเล็กที่อยู่ส่วนหลังบ้าน รูปร่างของห้องนอนเล็กเป็นรูปตัว L ทำให้เวลาเปิดเข้าไปจะเจอกับผนังขาว

ซึ่งส่วนมุมของห้องนอนสามารถวางตู้เสื้อผ้า ตู้เครื่องแป้งหรือว่าจะวางเป็นชั้นเก็บของได้

เข้ามาแล้วหันไปทางขวา ห้องนอนเล็กจะมีช่องแสงเป็นบานเปิดจากส่วนหลังบ้าน

แต่ตัวพื้นที่ที่วางเตียงนอนจริงๆจะไม่มีช่องเปิดเลย ขนาดห้องนอนอยู่ที่ 3.5 เมตร ผนังขาวทั้ง 3 ด้าน

บนพื้นก็จะเห็นว่าจะมีความกว้างของเสาออกมาที่มุมต่างๆ ดังนั้นเวลาจะเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มาใส่ความจะต้องวัดขนาดห้องไปให้พอดีนะคะ

เข้าไปอยู่ด้านในห้องนอนมองไปยังห้องน้ำก็จะอยู่ที่ส่วนปลายเตียงพอดี เป็นประตูห้องน้ำแบบผลักออก

เปิดเข้าไปยังห้องน้ำก็จะเจออ่างล้างหน้าก่อน ทางซ้ายมือข้างๆกับพื้นที่เปียกก็จะเจอกับประตูที่สามารถเปิดได้จากห้องนอนกลาง

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 August 2015

• แปลงที่ 4 แปลงกลาง ขนาดที่ดิน 56.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ราคา 6.7 ล้านบาท หรือ 119,220 บาทต่อตารางวา
• แปลงที่ 6 แปลงกลาง ขนาดที่ดิน 56.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ราคา 6.5 ล้านบาท หรือ 115,660 บาทต่อตารางวา
• แปลงที่ 8 แปลงมุม ขนาดที่ดิน 68.9 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ราคา 7.25 ล้านบาท หรือ 105,225 บาทต่อตารางวา

• จอง 50,000 บาท
• ทำสัญญา 150,000 บาท (ภายใน 7 วันหลังจากวันจอง)
• ก่อนโอนกรรมสิทธิ = จอง+ทำสัญญา+ดาวน์ = 5% ของราคาบ้าน ผ่อนดาวน์ 2-3 งวด
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 55,000 บาท
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Rich Home City อ่อนนุช 66 ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ที่อยู่ทางตะวันออกของกรุงเทพ พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยแนวราบ ระหว่างพื้นที่ในเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ สามารถเข้า-ออกนอกเมืองได้หลายเส้นทาง ทั้งบนถนนแนวราบธรรมดาอย่างบนถนนสุขุมวิท 77 เองก็ต่อกับถนนสุขุมวิทใหญ่ที่สามารถเข้าเมืองได้ แต่ก็จะเป็นเส้นทางที่รถติดมาก เลยจะมีเส้นทางเลี่ยงที่ถนนพัฒนาการเข้าเพชรบุรี และอีกส่วนคือถนนศรีนครินทร์ที่จะมีโครงการบ้านแนวราบ ขึ้นเหนือไปคือพระราม 9 และรามคำแหง ในพื้นที่มีมหาวิทยาลัยใกล้ๆหลายที่ เช่น ABAC, สถาบันไทยญี่ปุ่น และม.เกษมบัณฑิต นอกจากนั้นก็ไม่ไกลจากสวนหลวงร.9 ที่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และห้างอย่าง Thanya Park, Paradise Park และ Seacon Square

การเดินทางโดยใช้รถ เพราะอยู่ใกล้กับสี่แยกที่ถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุชตัดกับถนนศรีนครินทร์พอดี ทำให้สามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวที่สัญจรจากถนนแนวราบธรรมดา หรือจากทางยกระดับศรีรัชทางขึ้น-ลงพระราม9 และทางขึ้น-ลงทางด่วนตรงบางนาหน้าไบเทค ทางราบมาจากทางรามคำแหงเข้ามายังถนนศรีนครินทร์ตรงมาเรื่อยบนถนนศรีนครินทร์หรือจะแยกเข้าไปยังพัฒนาการ แล้วมาบรรจบที่ถนนสุขุมวิท 77 เข้าซอย หรือมาจากอุดมสุข – อ่อนนุช ขับมาทางตะวันออกแล้วไป U-turn หน้าซอยอ่อนนุช 70 หรือจะมาจากทางบางนา-ตราดทางใต้ก็ได้และหากมาจากอโศก – ทองหล่อ – เพชรบุรี ก็จะมารวมกันที่ถนนสุขุมวิท 77 เช่นกัน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถ้ามาจากขนส่งมวลชน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link สถานีหัวหมาก ออกมาจะเจอถนนศรีนครินทร์ มีพื้นที่จอดรถบริเวณสถานี ถ้าจาก BTS สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอ่อนนุชบนถนนสุขุมวิท ก็เข้าถนนสุขุมวิท 77 หรือซอยอ่อนนุช ส่วนการเรียกรถแท๊กซี่หน้าปากซอยอ่อนนุช 66 ง่ายมาก เพราะหน้าเพราะอยู่บนถนนใหญ่ มีอยู่เรื่อยๆ ส่วนพี่วินมีอยู่ที่หน้าปากซอยโครงการเลย นอกจากนั้นบนถนนสุขุมวิท 77 ยังมีรถสองแถวที่วิ่งยาวๆโบกเรียกหยุดได้

โครงสร้างบ้านจะไม่เหมือนกับโครงการใหญ่ๆที่จะใช้ Pre-cast เพราะโครงการนี้ใช้แบบ Conventional คือแบบเสา-คาน ฉาบปูนกันไปเป็นหลังๆ ภายนอกโครงการจะได้หน้าดินธรรมดา ไม่ได้หญ้าสีเขียวหรือต้นไม้ ส่วนตัวพื้นที่จอดรถเป็นพื้นคอนกรีตขัดหยาบ พอเข้าไปในตัวบ้านชั้น 1 ก็จะเป็นพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และในส่วนของห้องน้ำปูและกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกทั้งพื้นและผนัง ตัวสุขภัณฑ์เองจะเป็นแบรนด์ nahm ก๊อกของ vrh พอขึ้นไปชั้น 2-3 ส่วนห้องนอนและห้องเอนกประสงค์จะปูด้วยพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ส่วนรายละเอียดบานประตูจะเป็นบาน UPVC และกรอบหน้าต่างคืออลูมิเนียมส่วนลูกฟักเป็นกระจกตัดแสง ส่วนแท๊งค์น้ำและปั้มน้ำก็จะมีให้ที่หลังบ้านค่ะ

แบบบ้านมีแบบเดียวคือบ้าน 3 ชั้น มีพื้นที่รอบบ้านค่อนข้างเยอะ จอดรถได้อย่างน้อย 4 คัน หน้าบ้านกว้างอย่างน้อย 8.5 เมตร ส่วนตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องเอนกประสงค์ การออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังคงช่องเปิดเพื่อรับแสงในขนาดที่พอเหมาะและลมเช้าตัวบ้าน ชั้น 1 จะออกแบบเผื่อมีการปรับเปลี่ยนการใช้งานเป็นแบบ Home Office ทำให้การกั้นห้องดูจะเปิดโล่งมากกว่าปกติโดยส่วนหน้าคือห้องรับแขกจะมีความสูงแบบ Double Ceiling Height และด้านหลังคือห้องทานข้าว เนื่องจากการก่อสร้างเป็นแบบระบบก่ออิฐฉาบปูนทำให้บางจุดยังเห็นตัวเสาอยู่เยอะพอสมควร ทำให้การวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยเข้ามุม ส่วนเรื่องรายละเอียดจะมีบ้างที่บานประตูเวลาเปิด-ปิดให้ความรู้สึกไม่ค่อยแข็งแรงและไม่มี Doorstop

เนื่องจากโครงการนี้เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก 8 ยูนิต ไม่นับเป็นโครงการจัดสรร จึงไม่มี Facility ส่วนกลางที่ต้องแชร์กันระหว่างลูกบ้าน และไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางใดๆด้วย ดังนั้นรีวิวโครงการนี้จะไม่มีสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกนะคะ

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 11 August 2015

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 –ทำเลโดยรวมดี ซอยอ่อนนุช 66 ไม่ไกลจากทั้งถนนอ่อนนุชและถนนศรีนครินทร์ เข้าซอยไม่ลึก ไม่ไกลจากแหล่งของกินของใช้ ทางขึ้นลงทางด่วนหลายจุด แต่ไม่ใกล้รถไฟฟ้ามากนัก 
• ความปลอดภัย 7/10 – เนื่องจากเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก จึงไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยส่วนรวมเหมือนหมู่บ้าน แต่ติดกล้อง CCTV ให้รอบบ้าน 4 จุดในทุกๆหลัง รั้วสูง 2 เมตร
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – ออกแบบตามสิ่งแวดล้อมรอบโครงการ จัดพื้นที่บ้านส่วนใหญ่จะเป็น Living ห้องนั่งเล่นแบบ Double Ceiling Height มีการวางเสาที่โดดออกมาบ้าง มีระเบียงอยู่ข้างบ้าน ออกแบบรองรับการปรับเปลี่ยนการใช้งานในชั้น 1
• วัสดุ 7.25/10 – มาตรฐาน แต่การเก็บรายละเอียด และการเลือกตัวบานอย่างบานประตู, Doorstop ไม่ค่อยเรียบร้อย
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ -/10 – ปูพื้นหญ้าให้ได้รอบบ้านแต่ปกติจะเป็นหน้าดินธรรมดา ไม่ลงต้นไม่ใหญ่ให้ และไม่เสียค่าส่วนกลางใดๆ ไม่นำมาพิจารณานะคะ
• สาธารณูปโภค -/10 – ไม่จัดสรร ไม่เสียค่าส่วนกลางใดๆ ไม่นำมาพิจารณานะคะ
• เมื่อไม่คิดสาธารณูปโภค-พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ จะเทียบคะแนนได้ประมาณ 7.625/10.00

BOTTOM LINE

Rich Home City อ่อนนุช 66 ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก จำนวนหลังน้อย ไม่จัดสรร ไม่มีส่วนกลาง ไม่ต้องเสียค่าส่วนกลาง สำหรับคนที่ต้องการบ้านเดี่ยวแบบไม่มีสาธารณูปโภค ซื้อขาด เหมาะกับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว หรือคนทำงานในแถบอ่อนนุช-ศรีนครินทร์-บางนา ต้องมีงบประมาณ 6-7.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 42,000 – 53,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/