รีวิวฉบับที่ 1425 … สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชมโครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ออกแบบใหม่มาในสไตล์ Modern Neo-Renaissance และมาพร้อมกับ Club House สวนสาธารณะ โดยตัวโครงการตั้งอยู่ในจ. สมุทรสาคร บนถนนพุทธสาคร เข้ามาใยซอยลึกประมาณ 1.2 กม. ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

Promotion ลงทะเบียนฟรีแอร์ พร้อมส่วนลดวันโอน (คลิกที่นี่)

Fact @ 07 September 2017

  • Pruksa Ville Puttha Sakhon (พฤกษาวิลล์ พุทธสาคร)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถ.พุทธสาคร ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
  • เนื้อที่โครงการ 34-1-17.2 ไร่ จำนวน 392 ยูนิต
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 18 ตร.วา

  • Neo Classic II หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
  • Neo Classic III หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

  • ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 65,000 บาท
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1739
  • ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.670719, 100.326170

    โครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร ตั้งอยู่บนถนนพุทธสาคร เข้ามาในซอยลึกไปประมาณ 1.2 กม. จัดเป็นโครงการทาวน์โฮมที่อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก (แต่ไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินได้สะดวกนะคะ) เมื่อเทียบกับโครงการทาวน์โฮมที่อยู่บนถนนบางบอน แลกมากับความอุดมสมบูรณ์และความคึกคักที่เทียบกับโซนบ้านบนถนนบางบอนไม่ได้เช่นกันค่ะ

    ในแง่ของทำเลโครงการจะเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับการเดินทางเป็นเรื่องสำคัญ เน้นเดินทางเข้า-ออกถนนใหญ่สะดวก เพื่อวิ่งไปทำงานแถบกระทุ่มแบนและอ้อมน้อย รวมไปถึงถนนเส้นนี้ก็รถไม่ติดมากนักเทียบกับเส้นเพชรเกษม ซึ่งถ้าเลือกทำเลนี้ก็สามารถเลี่ยงการเดินทางบนถนนเพชรเกษมเพื่อเดินทางไปอ้อมน้อยได้ค่ะ

    ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบอาจจะมีไม่มากและไม่คึกคักเท่าแถบบนถนนบางบอน 3 หรือบางบอน 5 นะคะ ก็อย่างที่บอกว่าคนที่เลือกโครงการนี้จะเหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมใกล้ถนนใหญ่เดินทางสะดวก รถไม่ติดมากกว่า ดังนั้นก็ต้องยอมแลกกับความอุดมสมบูร์ในระยะใกล้ๆ ที่มีไม่มากเท่าภายในถนนบางบอน ซึ่งจะไปหาอะไรกินก็ต้องอาศัยขับไปทะลุออกถนนบางบอน 5 หาของกินเอาได้

    ส่วนศูนย์กลางความเจริญนั้นก็จะมีอยู่บนถนนเพชรเกษม โซนพระราม 2 ใกล้เซ็นทรัลพระราม 2 และอีกโซนคือโซนศาลายา ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ ส่วนที่วงกลมสีแดงไว้คือโซนย่านอุตสาหกรรม บริเวณนี้เป็นแถบโรงงานขนาดใหญ่ทั้ง 2 จุดที่อยู่ใกล้ๆ กัน คือโซนกระทุ่มแบน และอ้อมน้อยค่ะ ใครเลือกโครงการนี้จะเดินทางไปทำงานในย่านอุตสาหกรรมทั้ง 2 โซนก็สะดวกนะคะ และยังไม่ได้อยู่ในโซนอุตสาหกรรมสักทีเดียว อย่างน้อยก็ขยับออกมาหน่อย แทนที่จะอยู่ใกล้กับมลภาวะของย่านอุตสาหกรรม

    เริ่มต้นเส้นทางการเดินทางไปโครงการจากถนนเพชรเกษมบริเวณใกล้แยกจุดตัดกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนพุทธสาครนะคะ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธสาคร แล้ววิ่งตรงไปอีกประมาณ 4.3 กม. ให้สังเกตว่าข้ามคลองมาแล้ว สะพานลอยแรกคือซอยทางเข้าโครงการค่ะ เนื่องจากซอยทางเข้าโครงการไม่ได้มีชื่อซอยให้สังเกตนะคะ หลังจากเลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาแล้ววิ่งมาตามทางลึกประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงหน้าโครงการฝั่งขวามือแล้วค่ะ

    จากถนนเพชรเกษมวิ่งมุ่งหน้าไปอ้อมน้อย เมื่อถึงแยกที่ตัดกับ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 และถนนพุทธสาคร ให้เริ่มเบี่ยงซ้ายเข้าถนนพุทธสาครเลยค่ะ

    วิ่งเข้าถนนพุทธสาครมาแล้ว ก็วิ่งไปตามป้ายสีเขียวที่เขียนว่าสมุทรสาคร-กระทุ่มแบนเลย สำหรับถนนพุทธสาครนี้เป็นถนนสายสั้นๆ ที่เชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษมและถนนพระราม 2 สภาพแวดล้อมรอบถนนนี้ส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า และโรงงานให้เห็นพอสมควร มีอาคารพาณิชย์บ้างประปรายค่ะ

    ขับผ่านวัดหนองพะองไปอีกนะคะ สำหรับวัดหนองพะองนี้ก็เป็นอีกจุดนึงที่ค่อนข้างคึกคักบนถนนพุทธสาครนี้ นอกจากวัดแล้วภายในก็มีโรงเรียนและตลาดด้วยนะ

    จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ อีกเพื่อข้ามคลองภาษีเจริญก่อนนะคะ

    ข้ามคลองมาแล้วให้สังเกตสะพานลอยแรกหลังจากข้ามคลองมาแล้ว เมื่อเห็นให้เบี่ยงซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายตรงซอยที่ใกล้กับสะพานลอยมากที่สุดเลยค่ะ จะเป็นซอยทางเข้า-ออกโครงการหลัก

    ภายในซอยเป็นถนน 2 เลนสวนทางกัน รอบข้างเป็นที่ดินเปล่าค่อนข้างเยอะ มีร้านอาหารเป็นเพิงบ้างประปราย รวมทั้งโรงงานขนาดเล็ก-กลาง

    จากหน้าปากซอยตรงเข้ามาประมาณ 1.2 กม. ก็จะถึงทางเข้า-ออกโครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร แล้วค่ะ

    บริเวณรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าทั้งหมดเลยค่ะ และในซอยนี้ก็ไม่ค่อยมีรถสาธารณะวิ่งผ่านเท่าไหร่ ใครไม่ได้ขับรถอาจจะลำบากหน่อย แต่ยังดีที่มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่แถวร้านข้าวถัดไปเล็กน้อย เดินไปเรียกได้ค่ะ

    อีกฝั่งอยู่ติดกับโรงงานและถัดไปเป็นร้านอาหารเพิงข้างทาง

     

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • รร.มัธยมวัดหนองแขม
    • รร.ปัญญาศักดิ์
    • รร.กรพิทักษ์ศึกษา
    • รร.สารสาสน์วิเทศน์บางบอน
    • สนง.เขตหนองแขม
    • บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า เพชรเกษม
    • โฮมโปร
    • รพ.วิชัยเวชหนองแขม

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    โครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวนยูนิตทั้งหมด 392 ยูนิต บนเนื้อที่ดิน 34-1-17.2 ไร่ การจัดวาง Master Plan โครงการค่อนข้างเรียบง่ายและลงตัวดีค่ะ โดยใช้ถนนหลักเริ่มจากหน้าโครงการตรงไปจนสุดที่ดินเลย จากนั้นแบ่งเป็นซอยย่อยทั้ง 2 ฝั่งเอา ลึกเข้ามาภายในหน่อยจะถนนจะอยู่ริมฝั่งทางซ้ายมือซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่โรงงาน ทำให้ตัวบ้านเองพอมีระยะห่างจากพื้นที่โรงงานมาหน่อยค่ะ และสำหรับยูนิตที่อยู่ด้านในนี้จะมีเหลือซอยย่อยเฉพาะทางซ้ายเท่านั้น ความยาวของซอยมากขึ้น แสดงว่าจำนวนยูนิตต่อซอยก็มากขึ้นเช่นกัน ถ้าเทียบแล้วยูนิตที่อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการจะได้เปรียบในเรื่องของความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะมีจำนวนยูนิตต่อซอยน้อยกว่า และได้เปรียบในเรื่องของความสะดวกในการใช้พื้นที่ส่วนกลางอีกด้วย เนื่องจากที่ตั้งของพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการค่ะ

    สำหรับ Pruksa Ville ที่นี่จะมีความพิเศษหน่อยตรงที่เค้ามี Club House ให้มาด้วย ปกติจะได้เป็นอาคารนิติบุคคลและสวนเลย แต่ที่นี่ได้ Club House ซึ่งด้านล่างเป็นนิติบุคคลปกติ แต่ด้านบนมีพื้นที่ว่างอยู่ซึ่งถ้าในอนาคตมีการจัดทำเป็นห้องสำหรับส่วนกลางให้ลูกบ้านได้ใช้กันจะดีมากเลยค่ะ เพราะสามารถตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการใช้ Facilities ในระดับนึง ไม่เยอะมาก แต่ก็มีให้ได้ใช้ค่ะ

    พูดถึงตำแหน่งการวางหน้าบ้านกันบ้างนะคะ สำหรับโครงการนี้วางผังหน้าบ้านให้หันไปทางทิศเหนือ-ใต้เกือบทั้งหมด มีส่วนน้อยที่หันไปทางทิศตะวันออก โดยทิศเหนือ-ใต้นี้เป็นทิศที่เหมาะกับการวางหน้าบ้านอยู่แล้ว แต่จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของคนนะคะ อย่างทิศเหนือเด่นในเรื่องของทิศทางแดดที่จะไม่โดนแดดร้อนๆ ช่วงบ่ายหันเข้าหน้าบ้าน ทำให้บริเวณหน้าบ้านไม่ร้อน ส่วนตำแหน่งทิศใต้จะเด่นในเรื่องของทิศทางลม เพราะทิศใต้เป็นทิศทางที่ลมพัดผ่านได้ดีค่ะ

    เริ่มจากหน้าโครงการมีความกว้างถนนอยู่ที่ 16 ม. ดูกว้างขวางมากๆ ใช้พื้นถนนแบบคอนกรีตสแตมป์ด้วยดูสวยงามดีค่ะ สำหรับทางเข้ารถยนต์นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง แยกทางเข้า-ออกชัดเจน ตรงกลางเป็นป้อมยาม

    สำหรับทางเข้าจะมีการแยกทางเดินรถเพิ่มอีก คือแบ่งเป็นทางเข้าของลูกบ้านเลย และทางเข้าสำหรับ Visitor ที่ติดกับป้อมยามเพื่อสามารถแลกบัตร ได้ง่ายขึ้น ส่วนลูกบ้านก็สแกนบัตรด้วย Key Card Access ระยะใกล้เข้าโครงการได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาต่อแถวกับรถของ Visitor

    ผ่านไม้กั้นกระดกมาก็จะเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ ซึ่งในช่วงเวลากลางวันจะเปิดไว้ตลอดนะ แต่จะมีปิดในช่วงกลางคืน เพิ่มความปลอดภัยให้กับโครงการมากขึ้นค่ะ

    ถนนทางเข้าโครงการทำออกมาได้กว้างขวางดีนะ ด้วยความกว้างอยู่ที่ 16 ม.

    รอบข้างถนนช่วงแรกตกแต่งเป็นพื้นที่สวนมีสนามหญ้า ไม้พุ่ม ไม้ใหญ่ดูสบายตาและร่มรื่นดีค่ะ

    ตรงเข้ามาอีกหน่อยขนาดของถนนหลักจะเล็กลงตามลำดับนะคะ โดยช่วงแรกๆ จะกว้าง 18, 12 และ 8 ม.ตามลำดับค่ะ วัสดุถนนก็จะเป็นแผ่นคอนกรีตมาตรฐาน ซึ่งโซนแรกหลังจากเข้ามาภายในโครงการแล้ว ฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และฝั่งขวาที่กั้นรั้วอยู่นั้นจะแบ่งเป็นซอยย่อยไล่ไปเรื่อยๆ ด้านในค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างอยู่ เดี๋ยวเราพาเดินไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันค่ะ

    ในส่วนพื้นที่ส่วนกลางนี้จะประกอบไปด้วย Club House และสวน ซึ่ง Club House นี้จะอยู่ติดกับสวนเลยค่ะ คอนเสปพื้นที่ส่วนกลางที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนสไตล์ยุโรป มีการจัดออกมาในรูปแบบ Formal Garden ที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนตัว Club House เองก็ออกแบบมาในสไตล์เดียวกันดูสอดคล้อง

    Club House เป็นอาคาร 2 ชั้น เน้นกระจกขนาดใหญ่ดูหรูหราและโปร่งโล่งพร้อมดีเทลที่มีความ Renaissance

    มาดูสวนกันก่อนนะคะ

    ภายในสวนมีการจัดม้านั่งให้ได้นั่งเล่นได้ชิลๆ ท่ามกลางสวน ซึ่งจัดออกมาได้สวยดีค่ะ

    ถัดจากโซนพื้นที่นั่งเล่นริมสนามหญ้าแล้วก็จะเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ดูสบายตา ภายในปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่เพิ่มความร่มรื่นได้มากขึ้น รอบๆ สนามหญ้ามีทำพื้นที่ทางเดินให้เดินเล่นได้ง่าย หรือจะใช้เป็น Jogging Track ออกกำลังกายได้ค่ะ

    บรรยากาศบริเวณสนามหญ้าอีกฝั่งหนึ่ง

    และบนสนามหญ้าเองก็จัดที่นั่งเล่นภายในสวนด้วยค่ะ

    เป็นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor กันแดดกันฝนได้ พร้อมม้านั่งให้ได้นั่งเล่นได้จริง

    อีกฝั่งหนึ่งของสวน

    มีจัด Landscape เป็นสนามหมากรุกขนาดใหญ่ดูสวยงามดีค่ะ

    ถัดมาส่วน Club House กันบ้างนะคะ บริเวณด้านหน้าจัดพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ให้พร้อมวางชุดเก้าอี้โซฟาให้เรียบร้อย

    ในชั้นล่างปัจจุบันจะเป็น Sale Office ค่ะ แต่ในอนาคตเมื่อโครงการขายหมดจะปรับเป็นสำนักงานของนิติบุคคลต่อไป

    ด้านหลัง Sale Office มีห้องน้ำแยกชาย/หญิงไว้บริการ

    ภายในห้องน้ำสะอาดสะอ้านเรียบร้อยดี แบ่งเป็นห้องน้ำ 3 ห้องด้านใน

    และมีอ่างล้างมือให้ 1 จุด

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันนะคะ บริเวณนี้ทำได้สวยดีค่ะ ลักษณะเป็นบันไดลอย ล้อมรอบเสาขนาดใหญ่

    ขึ้นมาที่ชั้นบน จะเป็นพื้นที่โล่งแบบนี้ค่ะ ปัจจุบันใช้เป็นพื้นที่เก็บของต่างๆ แต่ในอนาคตต้องมาดูอีกทีว่าจะมีจัดฟังก์ชันในห้องนี้เป็นอะไรต่อไปนะคะ

    กลับมาที่ส่วนถนนหลักกันต่อค่ะ จากจุดนี้ถนนหลักจะยาวไปถึงสุดเขตโครงการด้านหลังเลย แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจึงมีการกั้นรั้วไว้

    เลี้ยวมาฝั่งซ้ายมือเป็นซอยย่อยของโครงการที่อยู่ติดกับสวนนะคะ ความกว้างของถนนอยู่ที่ 8 ม.ดูกว้างขวางดีค่ะ สำหรับยูนิตที่อยู่ติดกับสวนนั้นข้อดีคือได้วิวสวนและไม่อยู่ติดกับยูนิตเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามด้วย มีความเป็นส่วนตัวพอสมควรเลย แต่ก็แลกมากับราคาที่สูงกว่าตำแหน่งอื่นๆ ที่อยู่ในซอยย่อยหันหน้าเข้าหากันเองนะ

     

    สิ่งอำนวยความสะดวก

    • สวนสาธารณะ
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
    • Key Card Access ระยะใกล้
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและเลื่อนไฟฟ้า
    • ถนนหลักกว้าง 16,12,8 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.

     


    Product Walkthrough

    โครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร มี Product ที่เปิดขายปัจจุบันทั้งหมดจะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 2 Type มีขนาดกะทัดรัด เน้นราคาแพ็กเกจรวมที่หยิบจับง่าย

    • Neo Classic II หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
    • Neo Classic III หน้ากว้าง 5.7 ม. พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ

    เริ่มจากทาวน์โฮม 2 ชั้น แบบ Neo Classic II มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 98 ตร.ม. แบ่งเป็น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ หน้าบ้านมีความกว้างอยู่ที่ 5.7 ม. ซึ่งจริงๆ ความกว้างนี้สามารถจอดรถคันเล็กแบบจอดใกล้ชิดกันได้ถึง 2 คันได้ แต่ตัวทาวน์โฮมนี้ออกแบบมาให้สามารถจอดรถได้ 1 คัน และเหลือพื้นที่หน้าบ้านที่จะทำเป็นพื้นคอนกรีตไว้ให้เรียบร้อย สำหรับใช้เป็นพื้นที่ Outdoor เพิ่มเติมได้ เช่นใครอยากได้พื้นที่เฉลียงหน้าบ้านมากขึ้นก็สามารถต่อเติมเพิ่มได้ค่ะ

    ภายในชั้นล่างของทาวน์โฮม เข้ามาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลัง เป็นมาตรฐานตามทาวน์โฮมทั่วไป แต่สำหรับแปลนนี้จะมีพิเศษหน่อยคือมีห้องนอนในชั้นล่างเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งตอบโจทย์กับครอบครัวที่มีสมาชิกเป็นผู้สูงอายุ หรือเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านประมาณ 4-5 คน นอกจากนี้ห้องนอนนี้จริงๆ ก็สามารถปรับให้เป็นห้องอเนกประสงค์ในชั้นล่างได้นะคะ เผื่อใครที่ต้องการห้องทำงานเป็นสัดส่วนเป็นต้นค่ะ และอีกหนึ่งของความพิเศษที่แตกต่างจากทาวน์โฮมขนาดเล็กทั่วไปคือส่วนห้องน้ำชั้นล่าง ที่ออกแบบให้ส่วนอ่างล้างมือ และส่วนโถสุขภัณฑ์-พื้นที่อาบน้ำแยกออกกันโดยสิ้นเชิง โดยอ่างล้างมือจะอยู่ด้านนอก และโถสุขภัณฑ์-พื้นที่อาบน้ำอยู่ด้านใน ซึ่งเรามองว่าเหมาะกับทาวน์โฮมขนาดเล็กที่จำเป็นต้องรองรับครอบครัวขนาดกลางที่มีสมาชิก 4-5 คน เพราะสามารถจัดห้องน้ำได้เพียง 2 ห้อง ชั้นบน 1 ชั้นล่าง 1 ดังนั้นการแยกฟังก์ชันแบบนี้อาจจะไม่สะดวกในการใช้งานมากนักแต่สามารถแบ่งกันใช้งานได้ในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน

    ชั้น 2 ขึ้นบันไดมาแล้วจะเป็นโถงขนาดเล็กแจกไปยัง 3 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำชั้นบน โดยตำแหน่งของห้องนอนใหญ่จะอยู่หน้าบ้านมีความยาวห้องตามความกว้างของหน้าบ้านเลย สามารถแบ่งพื้นที่ภายในห้องนอนได้ 2 ส่วน คือส่วนเตียงนอน และส่วน Walk-in Closet ส่วนด้านหลังแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ขนาดห้องพอๆ กัน

    หน้าตาทาวน์โฮมออกแบบมาในสไตล์ Modern Neo-Renaissance โดยผสมผสานและลดทอนดีเทลของสไตล์ Renaissance ออกเพื่อเพิ่มความเรียบง่ายมากขึ้นตามสไตล์ของ Modern แต่ยังคงความ Renaissance ด้วยหลังคาเล่นระดับ ,ระแนง รวมถึงเส้นบัวประดับอาคาร ใช้ความ Modern ที่เน้นความเรียบง่ายและโปร่งโล่งด้วยประตูกระจกและหน้าต่างแบบ Enlarge-High window เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติมากขึ้น

    เริ่มจากหน้าบ้านรั้วบ้านที่ได้จะเป็นรั้วเหล็กโปร่งพ่นสีดำ ลักษณะการเปิด-ปิดประตูเป็นแบบบานพับ เพื่อให้สามารถเปิดประตูได้กว้างเต็มพื้นที่ ซึ่งประตูบานพับแบบนี้จะเหมาะกับทาวน์โฮมมากที่สุดแล้วเนื่องจากทาวน์โฮมจะไม่มีพื้นที่ดินด้านข้างในเราพอจะทำเป็นประตูบานเลื่อนได้ แต่ข้อจำกัดก็คือไม่สามารถทำเป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติได้และเปิด-ปิดไม่สะดวกนักเมื่อเทียบกับประตูบานเลื่อน

    บริเวณหน้าบ้านและที่จอดรถนั้นจะได้โครงสร้างพื้นเป็นแบบ Slab On Ground ทั้งหมด ข้อดีคือส่วนบริเวณหน้าบ้านสามารถจัดเป็นพื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน หรือพื้นที่ Outdoor ต่างๆ ได้ ใครจะทำเป็นสวนนั้นจะเหมาะกับวางกระถางต้นไม้มากกว่าค่ะ ในส่วนที่จอดรถทำเป็นช่องจอดรถไว้มีความกว้างประมาณ 2.65 ม. จอดรถคันเล็กได้กำลังดี ภายในส่วนที่จอดรถมีช่องเก็บของขนาดเล็กให้ ด้านบนมีฝ้าเพดานติดดวงโคมให้เรียบร้อยค่ะ ใครที่อยากจะได้ที่จอดรถและพื้นที่บริเวณเฉลียงอยู่ในร่ม ก็สามารถทำหลังคาเพิ่มเติมได้ เช่น ทำโครงเหล็กด้านบนติด Polycarbonate หรือใช้เป็นผ้าใบก็ได้ค่ะ ซึ่งเป็นโครงสร้างหลังคาเบาทั้งหมด

    หน้าบ้านใช้ประตูบานเลื่อนกระจก ตกแต่งวงกบและส่วนกระจกด้วยการทำเส้นสายมากขึ้นให้ดูมีความ Renaissance ด้านบนมีกันสาดที่ตกแต่งดีเทลแบบ Renaissance เช่นกันค่ะ ดูสวยงามและไม่มากไป

    เข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่โล่งเลยตามบ้านมาตรฐานที่ได้นะคะ ด้านหน้าถูกจัดให้เป็นฟังก์ชันในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลังบ้าน สำหรับพื้นที่ชั้นล่างนั้นใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด ผนังด้านข้างและฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาวมาตรฐาน

    ส่วนที่ติดกับทางเข้าบ้านนั้นจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นนะคะ ซึ่งบริเวณพื้นที่นี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดประมาณ 3 ที่นั่งได้ พร้อมกับเก้าอี้โซฟาเล็กๆด้านข้าง 1 ตัวได้ และบริเวณด้านหลังโซฟานั้นจะมีหน้าต่างแนวสูงให้ซึ่งจะมีเฉพาะทาวน์โฮมแปลงมุมเท่านั้นนะ

    ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารนั้นมีความกว้างเล็กน้อยประมาณ 1.8 ม.ได้ ซึ่งสามารถ Built-in ชั้นวางของต่างๆ ด้านข้างผนังได้ หรือใครจะทำเป็นเคาน์เตอร์เล็กๆ กั้นพื้นที่ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร เพื่อให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็ได้นะคะ

    จากพื้นที่นั่งเล่นเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนฝั่งซ้ายนั้นมีบันไดทางขึ้นชั้น 2, ห้องน้ำชั้นล่าง และห้องนอนชั้นล่างค่ะ

    ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารนะคะ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้กำลังดีค่ะ แต่ถ้าวางโต๊ะใหญ่กว่านี้หน่อยก็ได้เช่นกันนะคะ เป็น 6 ที่นั่งได้สบายเลย

    มาดูที่ห้องน้ำชั้นล่างกันนะคะ และไปดูห้องนอนในชั้นล่างกันต่อ เราชอบการออกแบบห้องน้ำที่นี่นะ มีการหลบเข้าไปด้านในหน่อยเพื่อบังสายตาได้บ้าง ไม่ได้เป็นประตูห้องน้ำเลย

    ลักษณะห้องน้ำชั้นล่างนี้จะแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 2 โซน คือโซนอ่างล้างมือ และด้านในเป็นโถสุขภัณฑ์กับพื้นที่อาบน้ำ จริงๆ ในแง่การใช้งานจริงการแบ่งโซนแบบนี้จะไม่ค่อยสะดวกมากนะ เมื่อเทียบกับห้องน้ำปกติที่ไปแบ่งโซนพื้นที่ด้านในห้องน้ำเองเลย แต่ที่เหมาะกับการใช้งานสำหรับทาวน์โฮม Type นี้นะคะ เพราะทาวน์โฮมนี้เป็นไซส์เล็กที่ต้องออกแบบมาสำหรับสมาชิกในครอบครัว 4-5 คน แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่จำกัดจึงสามารถจัดห้องน้ำได้เพียง 2 ห้อง ชั้นบนและล่างอย่างละ 1 ดังนั้นการแยกฟังก์ชันแบบนี้จะสามารถแบ่งกันใช้งานได้ในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วนจะดีมากเลยค่ะ

    อ่างล้างมือเป็นทรงกลมขนาดกะทัดรัด ใช้ยี่ห้อ Cotto ด้านบนมีให้ชั้นวางของเล็กๆ ด้วยสำหรับวางครีมล้างมือและเครื่องใช้ต่างๆ ได้

    มาที่ภายในห้องน้ำจะลดระดับพื้นลงมาเล็กน้อย ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกแบบด้านกันลื่นได้ระดับนึง สำหรับขนาดห้องน้ำนี้อยู่ที่ประมาณ 1.45 x 1.5 ค่อนข้างเล็กพอสมควร ตามขนาดของทาวน์โฮม

    ภายในแบ่งพื้นที่ใช้สอยระหว่างโถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำคนละครึ่ง ขนาดก็จะแคบหน่อยอย่างที่เห็นในภาพ ซึ่งในการใช้งานจริงแม้จะแคบแต่ก็ยังใช้ได้นะคะ ไม่ได้ถึงขั้นใช้งานจริงไม่ได้

    ส่วนพื้นที่อาบน้ำนี้ไม่ได้แยกส่วนกับโถสุขภัณฑ์เลยทีเดียวนะ อาบน้ำทีก็เปียกทั้งห้องเลย ตามขนาดห้องที่ค่อนข้างเล็ก โดยบริเวณอาบน้ำนี้จะได้ฝักบัวสายอ่อน และที่วางสบู่ให้เป็นมาตรฐาน

    ฝักบัวจาก Cotto ขนาดฝักบัวไซส์กลางๆ มาตรฐานค่ะ

    มาที่ห้องนอนกันต่อนะคะ สำหรับส่วนห้องนอนนี้ในบ้านมาตรฐานจะมีการกั้นพื้นที่ห้องให้เรียบร้อย โดยกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกรอบบานอลูมิเนียมพ่นสีดำตามที่เห็นในรูปฝั่งขวาเลยค่ะ จริงๆ หากมองในแง่ของการทำเป็นห้องนอนจริงๆ นั้นก็ดูจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่นัก เพราะกั้นด้วยกระจกก็มองเห็นหมดจริงๆ ทั้งนี้ก็เพราะว่าห้องนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ เวลาสมาชิกในบ้านผ่านไปมาจะได้สามารถมองเห็นได้ ดูแลได้ง่ายกว่าเป็นประตูทึบ รวมทั้งทำให้ภายในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มากดูโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็จัดการไม่ยากค่ะ จะติดฟิล์มฝ้าที่กระจกหรือติดม่านเพิ่มก็ได้เช่นกัน ไม่ต้องไปต่อเติมอะไรเพิ่ม

    ส่วนใครจะปรับห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ

    ภายในห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.7 x 2.15 ม. ใครจะทำเป็นห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด Single Bed ได้แบบพอดีๆ หัว-ท้ายเตียงติดกับผนัง และด้านข้างเตียงอีกฝั่งต้องติดกับผนังเช่นกัน การจัดวางเตียงคล้ายๆ กับโซฟาในรูปค่ะ จะลงตัวมากที่สุด อย่างบ้านตัวอย่างนั้นเค้าจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นอ่านหนังสือแทน เลยดูว่าห้องไม่ได้เล็กมาก แต่ถ้าเป็นห้องนอนจริงอาจจะเล็กกว่าที่เห็นว่าเป็นห้องนั่งเล่นนะคะ เพราะยังต้องมีพื้นที่ส่วนตู้เสื้อผ้าอีกด้วย

    ถัดมาที่หลังบ้านกันต่อนะคะ บริเวณหลังบ้านนั้นจะกั้นด้วยประตูบานเปิดมาตรฐาน และด้านข้างเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก

    บริเวณหลังบ้านตัวอย่างจะทำเป็นส่วนครัวไทยให้ดูเป็นไอเดีย เพราะว่าภายในบ้านไม่ได้มีจัดพื้นที่ครัวให้เลย ดังนั้นส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้านนั้นทางโครงการจึงมีการต่อเติมเพิ่มเติมมาจากบ้านมาตรฐานให้ดูเป็นตัวอย่างว่าสามารถจัดสรรพื้นที่แบบนี้ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งหากลูกบ้านจะต่อเติมในส่วนนี้ต้องอย่าลืมไปคุยกับทางนิติบุคคลและเพื่อนบ้านข้างเคียงด้วยนะคะ ว่ายินยอมไหม เพราะการก่อสร้างเพิ่มเติมด้านหลังแบบนี้อาจจะไปกระทบกับเพื่อนบ้านเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของรางน้ำและหลังคา

    ส่วนในบ้านมาตรฐานทางโครงการจะให้เป็นพื้นคอนกรีตปกติทั่วไปเลย สำหรับเป็นลานซักล้าง ตากผ้าต่างๆ ได้

    มาที่โถงบันไดเพื่อขึ้นไปชั้น 2 กันต่อนะคะ ความกว้างของบันไดอยู่ที่ประมาณ 1 ม. ในส่วนของโครงสร้างบันไดใช้เป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้วัสดุปิดผิวเป็นไม้ยางพาราประสาน

    ลักษณะบันไดเป็นรูปตัว U ไม่มีชานพักแต่จะซอยเป็นขั้นสามเหลี่ยมบางจุด เนื่องจากฝ้าเพดานชั้นล่างที่ยกสูงประกอบกับพื้นที่บ้านไม่ได้กว้างมากนัก ดังนั้นการออกแบบบันไดแบบนี้จึงลงตัวสุด แต่ในแง่ของการใช้งานนั้นก็จะลำบากและต้องระมัดระวังมากกว่าบันไดที่มีชานพักเป็นสัดส่วน

    จุดพิเศษที่ชอบมากสำหรับโครงการทาวน์โฮมแบบนี้คือ Skylight ด้านบนค่ะ ซึ่งเรียกว่าลบข้อจำกัดของโครงการทาวน์โฮมแปลงกลางแบบนี้ได้เลย ด้วยความที่ทาวน์โฮมแปลงกลางนี้จะไม่มีช่องเปิดให้แสงเข้าหรือระบายอากาศได้จากด้านข้างเลย จะได้เฉพาะด้านหน้า-ด้านหลังเท่านั้น ซึ่งโซนโถงบันไดก็เป็นส่วนนึงของบ้านที่ค่อนข้างมืดๆ จากการไม่มีช่องเปิดด้านข้างบ้าน ซึ่งวิธีออกแบบเพื่อแก้ปัญหานี้ก็มาจบที่ Skylight เลยค่ะ ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลย เพราะทำให้ได้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาบริเวณโถงบันไดได้โดยไม่ต้องพึ่งแสงสว่างในกลางวัน

    ขึ้นมาที่โถงทางเดินชั้น 2 ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมไปยังห้องทั้ง 4 ห้อง โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่บริเวณหน้าบ้าน ห้องน้ำอยู่ตรงกลางใช้ร่วมกันกับห้องนอนทั้ง 3 ห้องเลย และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องขนาดใกล้เคียงกันอยู่บริเวณหลังบ้านค่ะ

    มาดูที่ห้องน้ำกันก่อนนะคะ สำหรับห้องน้ำชั้นบนนี้จะเข้า-ออกได้ 2 ทางด้วยกัน คือจากโถงทางเดินและจากห้องนอนใหญ่ค่ะ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนที่นอนในห้องนอนใหญ่ได้เข้า-ออกได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินผ่านโถงทางเดินและเข้าห้องน้ำอีกที

    ภายในห้องน้ำชั้นบนมีขนาดระดับนึง สามารถแบ่งโซนเป็น 3 โซนได้เป็นสัดส่วนดีค่ะ โดยพื้นที่อาบน้ำของห้องน้ำชั้นบนจะได้ Shower Box เป็นมาตรฐาน

    ส่วนโซนอ่างล้างมือด้านหลังก็กรุกระจกให้เรียบร้อยค่ะ

    อ่างล้างมือจาก Cotto ขนาดปานกลางใช้งานได้ดี ด้านล่างมี Built-in เป็นลักษณะเหมือนโต๊ะเล็กๆ ทำให้ด้านข้างอ่างสามารถวางของได้อยู่หน่อย

    สำหรับ Shower Box ที่ได้จะใช้ฉากกั้นกระจกแบบนี้เป็นมาตรฐาน การเปิด-ปิดเป็นแบบบานเลื่อนเข้ามุม เนื่องจากพื้นที่อาบน้ำมีขนาดไม่มากนัก การออกแบบฉากกั้นกระจกแบบนี้มาถึงว่าตอบโจทย์การใช้งานจริงได้

    ถัดมาที่ส่วนโถสุขภัณฑ์ พื้นที่บริเวณนี้มีความกว้างพอสมควร ไม่แคบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง นั่งได้ชิลๆ

    ภายในห้องนอนเล็กนั้นสามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือ Single Bed ได้กำลังดีเลยค่ะ

    บริเวณที่วางตู้เสื้อผ้า และขนาดตู้เสื้อผ้าที่วางได้พอดีๆ จะมีขนาด 2 บานเปิดประมาณนี้อย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

    หากนำเตียงไปติดกับผนังด้านนึงเลย ก็จะทำให้พื้นที่ทางเดินอีกด้านนึงมีขนาดกว้างมากขึ้น เดินได้มากขึ้นและที่สำคัญตู้เสื้อผ้าถ้าบานเปิดเปลี่ยนเป็นแบบบานเลื่อนได้จะเหมาะสมกับพื้นที่มากกว่าค่ะ เพราะบานเปิดจะไปกินพื้นที่ทางเดินให้เดินได้ยากมากขึ้น

    มาที่ห้องนอนเล็กอีกห้องนึง ขนาดพื้นที่ใช้สอยมีขนาดพอๆ กับห้องที่แล้วเลยค่ะ ซึ่งก็เหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือ Single Bed เช่นกันค่ะ ตำแหน่งเองก็ใกล้เคียงกับห้องที่แล้วเลยคือวางชิดมุมด้านในของห้อง

    ด้านข้างเตียงเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าค่ะ และใครที่ไม่ได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าใหญ่เหมือนกับบ้านตัวอย่างก็จะมีพื้นที่เหลือให้จัดเป็นโต๊ะทำงาน และโต๊ะเครื่องแป้งแลกได้

    มาดูที่ห้อง Master Bedroom กันก่อน ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้านจะค่อนข้างสว่าง แสงธรรมชาติเข้าดี มีทั้งช่องแสงที่เป็นประตูและหน้าต่าง พื้นที่ห้องนี้มีขนาด 2.40 x 5.70 เมตร โดยโครงการสามารถจัดฟังก์ชันให้ทางขวามือเป็นพื้นที่วางเตียงนอน ส่วนทางซ้ายมือกั้นพื้นที่เป็น Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งได้

    โครงการลองวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ดู จะเห็นว่าเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งประมาณ 60 ซม. กว้างอยู่ สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งสบายๆ

    พื้นที่ปลายเตียงฝั่งขวามือ ส่วนทางขวามือกั้นฉาก มีโต๊ะชั้นวางของ มีพื้นที่เป็น Walk-in Closet และโต๊ะเครื่องแป้งให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนบ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งเหมือนรูปด้านล่างนะคะ

    ภายในพื้นที่ส่วน Walk-in Closet เมื่อกั้นมาแล้วก็มีขนาดพอสมควรนะคะ สามารถวางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้นะ

    ถัดมาดูอีกแบบบ้านกันนะคะ กับทาวน์โฮม Type Neo Classic III มีที่ดิน 18 ตร.วา เป็นมาตรฐานเช่นเดียวกับ Neo Classic II แต่มีพื้นที่ใช้สอยน้อยลงมาหน่อยอยู่ที่ 96 ตร.ม. และมีจำนวนห้องนอนน้อยลงมา 1 ห้อง คือมีทั้งหมด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ 1 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกน้อยลงมาหน่อยประมาณ 3-4 คนค่ะ ส่วนหน้าตาทาวน์โฮม Neo Classic III นี้จะแตกต่างกับ Neo Classic II ตรงโทนสีที่ใช้สีครีมสว่าง ดูสะอาดสดใสดีค่ะ ส่วนงานตกแต่งหน้าตาอาคารจะเหมือนกันทั้ง 2 แบบ

    สำหรับแปลนทาวน์โฮมแบบ Neo Classic III มีแปลนภายในที่คล้ายคลึงกับทาวน์โฮม Neo Classic II เลยค่ะ ที่แตกต่างคือส่วนครัวเท่านั้น อย่าง Neo Classic II จะออกแบบให้ตำแหน่งครัวของแปลนบ้านนี้เป็นห้องนอนชั้นล่าง แต่สำหรับบ้านหลังนี้จะออกแบบให้เป็นครัวภายในที่มีพื้นที่เป็นสัดส่วน ใครที่ชอบครัวภายใน ไม่อยากต่อเติมหลังบ้านเพิ่ม หรืออยากทำหลังบ้านไปเป็นฟังก์ชันอื่นๆ ที่ไม่ใช่ครัวไทย ประกอบกับมีสมาชิกในบ้านไม่มากไม่ต้องการห้องนอนถึง 4 ห้องนอน ทาวน์โฮม Type นี้ก็ตอบโจทย์ค่ะ

    เข้ามาภายในตัวบ้านการวางฟังก์ชันส่วนนี้จะเหมือนกับทาวน์โฮมแบบแรกเลยคือ เป็นพื้นที่นั่งเล่นก่อนและเชื่อมไปยังพื้นที่รับประทานอาหารส่วนหลังบ้านค่ะ เพียงแต่มีความแตกต่างตรงที่ความยาวของตัวบ้านที่สั้นกว่าหน่อยเท่านั้น ส่วนเสป็ควัสดุในตัวบ้านได้เหมือนกันหมดคือ พื้นแกรนิตโต้ ผนังและฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาวมาตรฐาน

    ในส่วนพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้พอๆ ดี ไม่เบียดมากและไม่เล็กจนเกินไป ความกว้างระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.8 ม. วางทีวีขนาดประมาณ 52″-55″ เป็นขนาดที่กำลังดีกับระยะสายตา

    ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารด้านใน ซึ่งสามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้กำลังดี หรือหากอยากได้โต๊ะขนาดใหญ่หน่อยก็วางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้นะคะ แต่แค่สลับโต๊ะให้ความยาวโต๊ะขนานกับความยาวของตัวบ้านแทน เพราะมีพื้นที่ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารพอสมควร

    ฝั่งขวานั้นแบ่งเป็นโถงบันได ห้องน้ำและครัวตามลำดับ ไล่จากขวามือของรูปไปทางซ้าย ซึ่งการจัดวางก็จะเหมือนกับทาวน์โฮมหลังแรกค่ะ

    การจัดวางห้องน้ำก็เหมือนกันคือแยกส่วนอ่างล้างมือและส่วนโถสุขภัณฑ์กับพื้นที่อาบน้ำออกจากกัน และยี่ห้อพร้อมสเป็ควัสดุก็ใช้แบบเดียวกัน คือยี่ห้อ Cotto ค่ะ

    ในส่วนที่แตกต่างก็คือพื้นที่นี้นี่แหละค่ะ จากบ้านหลังแรกที่จัดให้ส่วนนี้เป็นห้องนอน แต่บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่ห้องเล็กกว่าหน่อย จึงออกแบบให้เป็นห้องครัวแทนค่ะ ซึ่งในบ้านมาตรฐานจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ แบบนี้เลย ไม่ได้กั้นประตูบานเลื่อนกระจกให้ ถ้าใครที่ต้องการทำเป็นครัวปิดชัดเจนก็สามารถกั้นประตูบานเลื่อนกระจกได้นะคะ ทำเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนจะดีสุด

    ถัดมาโซนหลังบ้าน ก็จะได้เป็นลานซักล้างเหมือนกับบ้านหลังแรกค่ะ

    แต่สำหรับบ้านตัวอย่างออกแบบไว้ให้เป็นส่วนครัวไว้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้นนะ ใครที่สนใจต้องต่อเติมเองนะ

    มาที่ชั้นบนกันต่อบริเวณโถงบันไดก็จะได้ Skylight ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับโถงบันไดได้ดีเช่นเดียวกับหลังแรกเลย

    มาที่โซนด้านหลังบ้านซึ่งจะแบ่งเป็นห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ขนาดห้องนอนอยู่ที่ประมาณ 2.7 x 2.3 ม. เหมาะกับวางเตียงแบบ Single Bed หรือ 3.5 ฟุต จะพอดีสุดค่ะ

    ลักษณะการวางเตียงของห้องนี้คือต้องวางชิดมุมทั้ง 3 มุมด้วยกัน หัวเตียง-ปลายเตียง-ด้านข้างเตียงด้านนึง เพื่อให้เหลือพื้นที่ใช้สอยไว้สำหรับจัดฟังก์ชันอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น

    อีกด้านนึงจึงมีพื้นที่สำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ แต่เป็นขนาดเล็กๆ 2 บานเปิดอย่างบ้านตัวอย่างนะคะ จะเหมาะสมสุด

    มาที่อีกห้องนอนเล็กมีขนาดใกล้เคียงกันอยู่ที่ 3 x 2.3 ม. สามารถวางเตียงแบบ Single Bed ได้เช่นกัน

    เหลือพื้นที่ข้างเตียงไม่มากนะคะ ไม่เหมาะกับวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเท่าไหร่ เพราะจะไปบังส่วนตู้เสื้อผ้าเลย และตู้เสื้อผ้าก็ควรเลือกเป็นบานเลื่อนแทนบานเปิดนะ จะเหมาะกับพื้นที่มากกว่า และใช้งานได้ง่ายกว่าค่ะ

    ส่วนห้องนอนใหญ่นี้สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดีค่ะ มีพื้นที่ทางเดินเหลือทั้ง 2 ข้างเลย

    ฝั่งปลายเตียงเหลือพื้นที่พอสมควรสามารถจัดโซนเป็น Walk-in Closet ได้ค่ะ แต่ไม่กั้นผนังแยกโซนจะดีกว่านะ ห้องจะดูโล่งกว่า แต่หากใครที่อยากดูทีวีหรือต้องการพื้นที่เตียงนอนที่เป็นสัดส่วนจะกั้นผนังก็ทำได้นะคะ

    สุดท้ายมาที่ห้องน้ำชั้น 2 กันค่ะ สำหรับห้องน้ำชั้น 2 นี้เป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอนเลยนะคะ โดยห้องนอนใหญ่จะมีประตูทางเข้าจากห้องนอนได้เลยไม่ต้องเดินผ่านจากโถงทางเดินภายนอกค่ะ

    ส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในก็มีการจัดแปลนมาได้เป็นสัดส่วน เหมือนกับบ้านหลังแรกค่ะ โดยแบ่งเป็นโซนอ่างล้างมือมีกรุกระจกเงาให้เรียบร้อยที่ผนัง มีให้ Shower Box เรียบร้อยกันน้ำกระเด็นออกโซนแห้งได้ชัดเจน เป็นสัดส่วน และอีกโซนคือส่วนโถสุขภัณฑ์มีความกว้างของพื้นที่รอบโถพอประมาณ นั่งได้สบายๆ ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 07 September 2017

    • Neo Classic III แปลงที่ 20 ทิศใต้ ที่ดิน 18.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ราคา (รวมโปรโมชั่น) 2.06 ล้านบาท / ราคา (ไม่รวมโปรโมชั่น) 1.89 ล้านบาท
    • Neo Classic II แปลงที่ 43-46 ทิศเหนือ ที่ดิน 18.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. ราคา (รวมโปรโมชั่น) 2.16 ล้านบาท / ราคา (ไม่รวมโปรโมชั่น) 2.05 ล้านบาท
    • Neo Classic II แปลงที่ 7  ทิศเหนือ ที่ดิน 23.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 98 ตร.ม. ราคา (รวมโปรโมชั่น) 2.74 ล้านบาท / ราคา (ไม่รวมโปรโมชั่น) 2.49 ล้านบาท

    • จองและทำสัญญา 5,000 บาท
    • ดาวน์

    • Neo Classic II ดาวน์ 3 งวด งวดละ 5,000
    • Neo Classic III ดาวน์ 2 งวด งวดละ 5,000

  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 65,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • Promotion ลงทะเบียนฟรีแอร์ พร้อมส่วนลดวันโอน (คลิกที่นี่)
  • **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร  ทาวน์โฮม 2 ชั้นในย่านพุทธสาคร ใกล้ย่านอุตสาหกรรมอย่างโซนอ้อมน้อย และกระทุ่มแบน มีจุดเด่นคือทำเลที่เดินทางไปทำงานในย่านอุตสาหกรรมได้สะดวก อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่พุทธสาคร ซึ่งแลกมากับความอุดมสมบูรณ์ที่เทียบเท่าถนนบางบอน 3 และ 5 ไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงรถติดบนถนนบางบอน ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนที่ติดหนักมาก ตัว Product โครงการเป็นทาวน์โฮมขนาดกะทัดรัด พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 96-98 ตร.ม. แต่มี Type ที่ตั้งใจออกแบบมาสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกมากหน่อย อยู่ที่ 4-5 คน เพราะจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้มีห้องนอนถึง 4 ห้องนอนด้วยกัน ตอบโจทย์ครอบครัวขยายที่ต้องการห้องนอน 4 ห้องนอนแต่มีงบประมาณอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท

    ทำเล – หากพูดในแง่ของการเดินทางถือว่าสะดวกในย่านนี้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ และจะสะดวกมากถ้าอาศัยเดินทางบนถนนพุทธสาครเป็นหลัก ไป-กลับย่านอุตสาหกรรมด้วยรถยนต์ สามารถเลี่ยงรถติดบนถนนเพชรเกษมได้ แต่ทั้งนี้ข้อด้อยของการเดินทางก็มีตรงที่เป็นทำเลที่จำเป็นต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวเกือบจะอย่างเดียวเลย เนื่องจากอยู่ในซอยที่ไม่ค่อยมีรถสาธารณะ อย่าง Taxi ขับผ่านเท่าไหร่นัก ไม่เหมือนบางบอน 3,5 จะไปไหนทีก็ต้องพึ่งพาพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กว่าม.จากหน้าโครงการ ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ หวังพึ่ง App เรียกรถก็ยากเช่นกันค่ะ ส่วนความอุดมสมบูรณ์บริเวณนี้ไม่คึกคักค่อนข้างเงียบ ต้องขับรถออกไปหาของกินแถบบางบอน 3,5 จะมีของกินให้เลือกเยอะค่ะ แต่ใกล้ๆ โครงการก็พอมีบ้างแต่ไม่เยอะนะ ส่วนใหญ่เป็นร้านเพิงกินง่ายๆ ราคาย่อมเยา

    ความปลอดภัย – โครงการนี้ถือว่าให้มาอยู่ในมาตรฐานตามโครงการจัดสรร คือได้ Key Card Access ระยะใกล้ พร้อมเปิด-ปิดด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ มี CCTV ให้ รวมทั้งรปภ.ตลอด 24 ชม. ครบครันตามมาตรฐานค่ะ

    วัสดุ – สำหรับวัสดุที่ได้จากโครงการ ให้มามาตรฐาน พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เกือบทั้งหมด ส่วนพื้นชั้น 2-3 เป็นลามิเนต สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Cotto พร้อมฉากอาบน้ำกระจกทุกห้องเป็นมาตรฐาน แต่มีดีไซน์พิเศษเพิ่มเติมซึ่งตอบโจทย์การอยู่อาศัยในรูปแบบทาวน์โฮมมากขึ้นแล้วเรามองว่าเป็นไอเดียที่ดีเลย คือส่วนฝ้าเพดานโถงบันไดที่ให้ Skylight มา

    โครงการ – ตัวโครงการจัดเป็นโครงการขนาดใหญ่มีจำนวน 392 ยูนิต มีการวางผังออกมาเรียบง่าย คือวางถนนหลักตรงกลางจากหน้าโครงการไปถึงท้ายโครงการ และแบ่ง 2 ฝั่งเป็นซอยย่อยวางยูนิต ช่วงท้ายโครงการจะเหลือซอยย่อยเพียงฝั่งเดียว ซึ่งถ้าเลือกโซนแล้วโซนยูนิตด้านบนได้เปรียบอยู่ 2 อย่างคือ จำนวนยูนิตภายในซอยที่น้อยกว่า และอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลางด้านหน้าด้วย ใช้งานได้สะดวกมากกว่า

    ตัวบ้าน – Product ที่ทำออกมานั้นตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านขนาดกะทัดรัดตามงบประมาณที่มีอยู่ไม่เกิน 3 ล้าน แต่มีจำนวนสมาชิกในบ้านตั้งแต่ 4-5 คน ดังนั้นจึงมีแบบ้านที่มีห้องนอนถึง 4 ห้องนอนด้วยกัน รวมทั้งการออกแบบห้องน้ำสำหรับรองรับการใช้งานได้หลายคนในเวลาเดียวกัน อย่างห้องน้ำชั้นล่างจะกั้นประตูห้องน้ำเฉพาะส่วนโถสุขภัณฑ์กับพื้นที่อาบน้ำ แต่แยกอ่างล้างมืออกมาด้านนอก ซึ่งในช่วงเวลาเร่งด่วนก็ทำให้สมาชิกในบ้านสามารถมาแปรงฟัน-ล้างหน้ารออีกคนที่อาบน้ำได้ ประหยัดเวลาในส่วนนี้ได้ระดับนึงค่ะ ส่วนแบบอีกแบบจะเป็นแบบมาตรฐานสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก ไม่ได้ต้องการห้องนอนในชั้นล่าง ซึ่งก็ปรับไปเป็นห้องครัวหรือห้องอเนกประสงค์เพิ่มเติมได้

    สาธารณูปโภค – ให้มาโอเค เยอะกว่าแบรนด์ Pruksa Ville โครงการอื่นๆ อยู่หน่อยตรงที่มี Club House เพิ่มขึ้นมา ซึ่งชั้น 2 สามารถจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ได้ เช่นห้องนั่งเล่นหรือ Fitmess ขนาดเล็กในอนาคต ส่วนสวนสาธารณะก็ตกแต่งออกมาได้ดีน่าใช้งาน มีการจัด Land Scape ที่สอดคล้องกับคอนเสปโครงการได้ดี เหมาะกับคนที่ต้องการใช้พื้นที่ส่วนกลางระดับนึง ไม่มากแต่ขอให้มีบ้าง ส่วนระบบความปลอดภัยที่นี่ก็จัดออกมาได้ดีนะคะ เริ่มจากป้อมพี่รปภ. ดูแลและรักษาความปลอดภัย 24 ชม. เข้า-ออกโครงการด้วย key card access ระยะใกล้ พร้อม CCTV  ส่องคนขับและป้ายทะเบียนรถ ในส่วนการเข้า-ออกจะเป็นแบบ Double Access แบ่งเป็นไม้กระดกอัตโนมัติและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 2-3 ล้านบาท, 07 September 2017

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – อยู่ในซอยไม่ลึกมาก เดินทางด้วยรถสะดวก เลี่ยงจุดรถติดได้ แต่ไม่อุดมสมบูรณ์มากนัก
    • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ รปภ.หน้าหมู่บ้าน
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – มีดีไซน์เพิ่มเติมจากเดิมที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยรูปแบบทาวน์โฮมมากขึ้น
    • วัสดุ 7/10 – มาตรฐานของระดับนี้
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวระดับนึง สภาพโครงการเรียบร้อยเป็นมาตรฐาน
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีไม่มากแต่ทำออกมาสวยงามน่าใช้งาน
    • 7.33 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ Pruksa Ville พุทธสาคร เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านขนาดกะทัดรัดแต่มี 4 ห้องนอน เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ไปทำงานย่านอุตสาหกรรม (อ้อมน้อย-กระทุ่มแบน) มีงบประมาณ 2-3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 24,000 บาท/เดือน

    ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )