[Project Sneak Peek] เปิดตัวโครงการทาวน์โฮมสไตล์ใหม่ AIRES ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง แนวใหม่สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาบ้านใกล้เมือง และฟังก์ชันภายในที่แปลกใหม่ ตรงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มักมีงานอดิเรกหรือความชอบของตนเองที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงบางคนที่ที่ทำงานและบ้านคือที่เดียวกัน

สำหรับโครงการ AIRES ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง เปิดตัวทีเดียวถึง 3 ทำเลด้วยกัน คือ พระราม 9 ซอย 49, รัชดา 19 และรามคำแหง จาก D’WELL Developer ที่มีผลงานทำบ้านระดับ Super Luxury มาก่อนอย่างโครงการ ARNA เอกมัย ซึ่งโครงการนี้จับมือกับทาง Sethiwan Group โดยเปิดขายในราคา 14-23 ล้านบาท


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

AIRES เปิดโครงการบน 3 ทำเล : พระราม 9, รัชดา 19 และรามคำแหง

ทำเล AIRES เลือกจับทำเลที่ค่อนข้างคึกคัก มีความอุดมสมบูรณ์ และการเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองได้สะดวก เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาที่อยู่อาศัยแนวราบ ต้องการพื้นที่ใช้สอย เน้นใกล้ถนนใหญ่ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนใหญ่อื่นๆ ได้หลากหลาย หรือเป็นถนนตรงเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่าย รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าเพื่อตัวเลือกในการเดินทางที่มากขึ้น จึงเป็นที่มาของทั้ง 3 ทำเล ได้แก่

AIRES พระราม 9

พิกัด : 13.748054, 100.631099

ทำเลโครงการ AIRES พระราม 9 จัดว่าเป็นทำเลที่มีความโดดเด่นในเรื่องความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว เป็นโครงการที่สามารถเดินไปในร้านอาหารและคาเฟ่ได้  รวมไปถึงใครที่มองหา Super Market เปิด 24 ชม. และ Community Mall ให้เดินเล่นในระยะที่ขับรถได้สะดวก หรือจะนั่งรถไปต่อก็ไม่อยาก ก็มี The Nine Center พระราม 9 เป็นจุดศูนย์กลางความเจริญบนถนนพระราม 9 ในช่วงย่านนี้ เรียกว่าครบครันในเรื่องของกินของใช้ ที่อยู่ใกล้โครงการ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางค่ะ

การเดินทางของโครงการสามารถเลือกเดินทางได้หลายเส้นทางด้วยความที่อยู่ในซอยที่สามารถทะลุออกถนนพระราม 9 ได้ง่าย เหมาะกับคนที่เน้นทำงานเข้าเมืองวิ่งเส้นพระราม 9  ไปทางแยกพระราม 9 อโศก หรือดินแดงได้ ระยะกลับรถจากซอยโครงการไม่ไกล อยู่ที่ประมาณ 500 ม. ก็กลับรถเข้าเมืองได้ และเหมาะกับคนที่ทำงานสุวรรณภูมิหรือบินไปต่างประเทศบ่อยๆ เช่นเดียวกันนะคะ เพราะวิ่งตรงไปยาวๆ ได้เลย ประมาณ 16 กม.

และซอยโครงการสามารถทะลุออกถนนหัวหมาก หลังรามฯ ที่ทะลุไปทางรามคำแหงและพัฒนาการอีกทอดได้ง่ายค่ะ นอกจากนี้ทางด่วนที่ใกล้โครงการจะมีทั้งทางพิเศษศรีรัช

AIRES รัชดา 19

พิกัด : 13.802446, 100.571720

ทำเล AIRES รัชดา 19 อยู่ในตำแหน่งที่เด่นในเรื่องการเดินทางมากทีเดียวค่ะ ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยลาดพร้าว 26 ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าลาดพร้าวเป็นย่านที่มีซอยลัดด้านในเยอะมากๆ ข้อดีเลยคือทางลัดไปออกถนนใหญ่ได้หลากหลาย เลี่ยงการจราจรบนถนนได้ดีมากทีเดียวค่ะ โดยซอยนี้สามารถลัดไปออกถนนลาดพร้าวช่วงใกล้แยกรัชดา-ลาดพร้าว ในระยะทาง 800 ม. และเมื่อทะลุออกซอยนี้เดินไปอีก 100 ม. เจอทางขึ้น-ลง MRT ลาดพร้าวเลยค่ะ ความพิเศษตรงที่ในอนาคต MRT ลาดพร้าวจะเป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่วิ่งไปทางบางกะปิ-ศรีนครินทร์อีกด้วย อีกถนนนึงที่สามารถลัดได้สะดวกคือ รัชดาภิเษก ซึ่งจากโครงการห่างจากถนนรัชดาภิเษกไปเพียง 700 ม. เท่านั้นค่ะ และเมื่อออกจากซอยเดินมาประมาณ 50 ม.ก็ถึง MRT รัชดาภิเษกแล้วค่ะ เรียกว่าเป็นจุดเด่นของโครงการที่เป็นโครงการแนวราบเดินทางด้วยรถยนต์และ MRT ได้สะดวกมาก

นอกจากนี้ถนนที่สามารถลัดไปออกได้โดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่ก็มีอีกทั้ง ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนพหลโยธิน สามารถลัดออกจากทางโชคชัยร่วมมิตรได้

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ในละแวกใกล้โครงการมากที่สุดจะอยู่ช่วงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งนอกจากจะมีสวนลุมไนท์บาซาร์แล้ว ใน MRT ลาดพร้าวเองก็มี Supermarket อย่าง gourmet market สามารถแวะซื้อของใช้ของกินเข้าบ้านได้ง่ายค่ะ ส่วน Hyper Market และห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ก็อยู่ไม่ไกล ทั้ง Big C Supermarket, Union Mall และ Central ลาดพร้าว

AIRES รามคำแหง

พิกัด : 13.746005, 100.612340

ทำเล AIRES รามคำแหง ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 12 ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ด้านหลัง The Mall รามคำแหงเลยค่ะ โดยอยู่ลึกจากหน้าปากซอยเข้าไปประมาณ 800 ม. เรียกได้ว่าโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่อยู่ใกล้ใจกลางของย่านนี้เลยทีเดียวค่ะ เพราะนอกจากมี The Mall รามคำแหง ที่จะมีการปรับให้เป็น Mixed-Use Complex ที่มีความสมัยใหม่และน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ด้านหน้าปากซอยแล้ว ขยับไปอีกหน่อยก็เป็น Hyper Market อย่าง Big C และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งละแวกม.รามนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ามีความคึกคักมากๆ ทั้งเรื่องอาหารการกิน ร้านค้าต่างๆ ในราคาย่อมเยา รวมไปถึงเป็นศูนย์รวมการเดินทางด้วยรถสาธารณะต่างๆ อีกด้วยค่ะ  อีกย่านใกล้ๆ ย่านม.รามนี้ก็คือย่านทาวน์อินทาวน์ ซึ่งเป็นแหล่งออฟฟิศ รวมไปถึงแหล่งร้านอาหาร Hangout มากมายอีกด้วยค่ะ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านใกล้ความอุดสมบูรณ์สูง ไม่ไกลจากที่ทำงานย่านทาวน์อินทาวน์-พระราม 9-รามคำแหง แต่ยังต้องการบรรยากาศที่มีความสงบ เพราะที่ตั้งโครงการเลยนั้นอยู่ในซอยที่เป็นซอยตันและมีบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่

การเดินทางด้วยรถยนต์และรถสาธารณะสะดวกทั้ง 2 รูปแบบ สำหรับการขับรถส่วนตัวที่สะดวกนั้นเพราะที่ตั้งโครงการอยู่บนช่วงรามคำแหงที่ใกล้กับแยกรามคำแหง ซึ่งตัดกับถนนพระราม 9 วิ่งเข้าพระราม 9 ได้สะดวกจะเข้า-ออกเมืองก็ง่าย รวมไปถึงการเดินทางโดยใช้ทางพิเศษศรีรัช วิ่งเข้าเมืองได้ง่ายค่ะ และตรงจากแยกรามคำแหงไปอีกหน่อยก็เป็นแยกคลองตันที่ตัดกับถนนสุขุมวิท 71, พัฒนาการ และเพชรบุรี

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะด้วยความที่จากโครงการห่างจากหน้าปากซอยไป 800 ม. ออกมาก็เจอป้ายรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ สองแถวและแท็กซี่แล้วค่ะ เรียกรถได้ง่ายมากๆ เพราะเป็นแหล่งของรถสาธารณะอยู่แล้ว นอกจากนี้ในอนาคตก็จัดว่าเป็นบ้านที่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากๆ เลยทีเดียว เพราะตรง The Mall รามคำแหง จะเป็นตำแหน่งของสถานี รามคำแหง 12

 

แบรนด์ AIRES-ATELIER RESIDENCE

แบรนด์ AIRES หรือมาจากคำว่า Artist in Residence เน้นความเป็นศิลปะสอดคล้องกับลูกบ้านที่เหมือนศิลปินสามารถแต่งแต้มความเป็นตัวเองลงไปในบ้านของตัวเองได้อย่างอิสระ ตอบโจทย์กลุ่มคนสมัยใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ตัวเองชัดเจน

กลุ่มลูกค้าแบรนด์คือกลุ่มคนที่อยู่ในวัยทำงาน หรือเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวสมัยใหม่ มองหาที่พักอาศัยแนวราบใกล้เมือง เข้า-ออกได้สะดวก แต่ยังคงสภาพแวดล้อมทำเลที่คึกคักมีความอุดมสมบูรณ์สูงเหมือนอยู่ใจกลางเมืองนะคะ เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้เริ่มมีการแต่งงาน มีครอบครัว จึงเป็นสาเหตุให้มองหาบ้านเพื่ออยู่อาศัยแทนคอนโดมิเนียม ให้มีพื้นที่ใช้สอยจากเดิม มีห้องมากขึ้นสามารถจัดสรรพื้นที่ได้ดี แต่ก็ยังไม่ได้การบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ เพราะการดูแลและทำความสะอาดบ้านที่ค่อนข้างวุ่นวายมากขึ้นหากทำเอง

รูปแบบโครงการเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง สไตล์ Modern Contemporary มีความสมัยใหม่ในเรื่องของงานดีไซน์ รูปทรงอาคาร ผสานกับความร่วมสมัยจากการใช้วัสดุต่างๆ จะเห็นได้ว่าตัวอาคารเป็นทรงเหลี่ยมเนี้ยบ ใช้หน้าต่างกระจกสูง และโทนสี Monotone ผสมกับสัจจะวัสดุ (สีจากวัสดุนั้นๆ)

แบบบ้านของโครงการ AIRES รัชดา 19 (จากรูปแปลนเป็นแปลงมุมนะคะ หากเป็นแปลงมาตรฐานจะมีขนาดตามรอยเส้นประสีเหลือง) ทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง ขนาดที่ดิน 30.9 – 60 (แปลงมุม) ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 283.56 – 389.21 ตร.ม.

ชั้น 1 – จะสังเกตได้ว่าลักษณะการจัดฟังก์ชันภายในชั้น 1 จะเน้นหน้าบ้านอยู่ด้านหลังบ้าน โดยวางพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น หันออกไปยังส่วน Terrace และสวนหลังบ้าน เพื่อให้พื้นที่ที่เป็น Common Area นี้ สามารถชมสวนด้านหลังบ้านได้อย่างเต็มที่ และเป็นส่วนตัวมากที่สุด เพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหรือขับรถผ่านก็ไม่เห็นในส่วนนี้ คือข้อดีในการวางหน้าบ้านหันไปทางหลังบ้านค่ะ และพื้นที่ Common Area นี้ยังมีจุดเด่นตรงที่ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ double Volume ทำให้ภายในโปร่งโล่งมากขึ้นอีกด้วย ในส่วนของด้านหน้าบ้านจากทางเข้ามาจะเป็น Foyer ก่อนเพื่อให้เราได้มีพื้นที่วางรองเท้าต่างๆ และด้านข้างเลยก็จะเป็น Powder Room ห้องน้ำสำหรับต้อนรับแขก ติดกันเป็นพื้นที่ครัวซึ่งแยกให้เป็นส่วนครัวไทยและครัวนอก (Pantry)

ชั้นลอย – ในชั้นนี้จัดให้เป็นพื้นที่ Private Living ซึ่งจะเหมาะมากสำหรับใครที่มักต้อนรับแขกที่บ้านเป็นประจำ ส่วนใหญ่รับรองแขกที่พื้นที่นั่งเล่นด้านล่าง ทำให้สมาชิกในบ้านคนอื่นที่ต้องการพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นมาใช้งานบริเวณนี้ได้ค่ะ หรือจะจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆ ตามไลฟ์สไตล์ก็ได้เช่นกัน อย่างใครที่ทำงานที่บ้านอยู่แล้ว ตามยุคสมัยสังคมสมัยใหม่สามารถปรับให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทำงานขนาดใหญ่ได้เช่นกันค่ะ ส่วนด้านนอกจัดให้เป็น Terrace หรือ Pocket Garden ที่ทางโครงการจะนำต้นไม้ใหญ่มาลงให้ด้วย เพิ่มความสวยงามและร่มเงาได้

ชั้น 2 – ชั้นนี้ออกแบบฟังก์ชันให้เป็นพื้นที่ของห้อง Master Bedroom ซึ่งภายในห้องแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน เริ่มจากฝั่งหน้าบ้านเป็นพื้นที่เตียงนอน ตรงกลางจัดให้เป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ตอบโจทย์คุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัว และด้านหลังบ้านคือห้องน้ำขนาดใหญ่

ชั้น 3 – แบ่งออกเป็น 3 ฟังก์ชันใหญ่ๆ คือ ห้องนอนเล็กชั้นบน และห้อง Passion Room หรือห้องอเนกประสงค์มีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กด้วยนะคะ เพราะทางโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับห้องนี้พอสมควรเลย เพราะต้องการให้ห้องนี้เป็นห้องที่ลูกบ้านสามารถจัดฟังก์ชันเองได้ตามไลฟ์สไตล์ และสุดท้ายเป็นพื้นที่ซักล้าง ที่ยกขึ้นมาไว้ด้านบนเพื่อให้พื้นที่ด้านหลังบ้านสามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนได้เต็มที่ เป็นทั้งสวนและระเบียง ไม่มีพื้นที่ซักล้างมากวนใจ การที่พื้นที่ซักล้างขึ้นมาด้านบนก็ใช้งานได้สะดวกนะคะ เพราะตำแหน่งชั้นห้องนอนใหญ่ก็อยู่ชั้น 3 แล้ว เดินเอาเสื้อผ้าขึ้น-ลงเพียงชั้นเดียว ส่วนห้องนอนเล็กก็อยู่ติดๆ กับพื้นที่ซักล้างจึงเป็นตำแหน่งที่สะดวกในการใช้งาน

ฟังก์ชันที่ชูโรงโครงการคือ Passion Room ซึ่งเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อรองรับลูกบ้านทุกไลฟ์สไตล์ สามารถจัดสรรฟังก์ชันเองได้ เช่น ปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานสำหรับคนที่ทำงานที่บ้าน ห้องฟิตเนสสำหรับคนรักการออกกำลัง หรือจะเป็นห้อง Kid’s Playroom สำหรับเด็กๆ เป็นต้น ห้องนี้มีความน่าสนใจคือเป็นห้องที่ได้กระจกทั้ง 3 ทิศทาง ทำให้ตัวห้องโปร่งโล่งและสามารถชมวิวสวนด้านหลังบ้านได้

ภาพบรรยากาศบริเวณพื้นที่ Common Area ชั้นล่าง ซึ่งบริเวณนี้จะได้ฝ้าเพดาน Double Volume สูงพร้อมกับกระจกขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน เพิ่มความโปร่งโล่งให้ภายในตัวบ้านมากขึ้นและทำให้พื้นที่ภายในเชื่อมต่อกับสวนด้านหลังบ้านได้ดี สำหรับประตูกระจกที่ได้จะเป็นประตูบานเปิดทั้งหมดตามใน Perspective ซึ่งช่วยให้ลมเข้ามายังภายในบ้านได้ดี

ภายในห้อง Master Bedroom บริเวณพื้นที่เตียงนอนและพื้นที่ Walk-in Closet ในส่วนเตียงนอนสามารถจัดให้มีพื้นที่นั่งเล่นด้านข้างเพิ่มเติมได้ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้านข้างได้แสงสว่างจากภายนอกได้ดี เพราะได้หน้าต่างกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานค่ะ

ส่วนห้องน้ำของห้อง Master Bedroom จาก Perspective จะเห็นว่าภายในห้องน้ำมีความกว้างขวางมากทีเดียว ข้อดีของห้องน้ำนี้คือมีหน้าต่างกระจก และ Skylight ด้านบน ทำให้แสงสว่างภายนอกเข้ามาได้ดีมากขึ้นจากห้องน้ำปกติที่ติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดเล็ก

ภายในห้องน้ำประกอบด้วยอ่างล้างมือ His & Her, Bath Tub และพื้นที่อาบน้ำที่กั้นด้วยฉากกั้นกระจกใสแบบ Frameless

แบบบ้านของโครงการ AIRES พระราม 9 มีสไตล์บ้านที่ใกล้เคียงกับ AIRES รัชดา 19 นะคะ มีแตกต่างกันตรงชั้นบนสุดที่เปลี่ยนเป็นโทนสีดำ และมีบันไดวนขึ้นไปยังชั้น Rooftop Garden ซึ่งจะได้เป็นพื้นเรียบ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ด้านบนได้ หรือจะทำสวนกระถางได้เช่นกัน ทางโครงการมีการเดินรางท่อระบายน้ำให้เรียบร้อย

แปลนทาวน์โฮมมีจำนวน 3 ชั้นครึ่ง ขนาดที่ดิน 21.4-35.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 233-303.2 ตร.ม. ลักษณะการจัดวางฟังก์ชันภายในเหมือนกับ AIRES รัชดา 19 แตกต่างกันที่มีขนาดพื้นที่ด้านในที่สั้นลง ดังนั้นในชั้นล่างพื้นที่ Pantry ครัวจะอยู่ในบริเวณเดียวกับ Common Area แทน และในชั้น 3 นั้นตำแหน่งของ Passion Room เปลี่ยนจากด้านหลังบ้านเป็นด้านหน้าบ้านแทนนะคะ ส่วนตัวบันไดในชั้น 3 มีบันไดวนแยกเพื่อขึ้นไปยังชั้น Rooftop