Private Nirvana Residence 128

รีวิวฉบับที่ 374 … Private Nirvana Residence  บ้านเดี่ยว 3 ชั้นจาก Private Nirvana เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ตั้งอยู่ในซอยบ้านลาดพร้าวซึ่งเป็นซอยแยกของโยธินพัฒนา 3 ด้านหลัง CDC (ซอยข้าง Chic Republic) ในราคาเริ่มต้นประมาณ 13 ล้านบาท

Fact @ 17 June 2013

  • Private Nirvana Residence (ไพรเวท เนอวานา เรสซิเดนซ์)
  • Private Nirvana Co Ltd.(บริษัท ไพรเวท เนอวานา จำกัด)
  • Segment การตลาด 13 – 30 ล้านบาท
  • เนื้อที่โครงการ 22-0-96 ไร่
  • บ้านเดี่ยว 3 ชั้น รวม 80 ยูนิต
  • 3-4 ห้องนอน 4-5 ห้องน้ำ 2-3 ที่จอดรถ
  • พื้นที่ใช้สอย 325 – 370 ตารางเมตร
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 60 ตารางวา
  • ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท (Q2/2013)

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านนะคะ ^^

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น Private Nirvana Residence ตั้งอยู่ในซอยโยธินพัฒนา เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เข้าทางเดียวกันกับบ้านลาดพร้าว ซึ่งสภาพชุมชนบริเวณนั้นเป็นที่อยู่อาศัย

ทำเลโครงการติดกับหมู่บ้านหลายแห่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ในซอยเดียวกัน ดังนั้นสภาพซอยส่วนใหญ่ก็จะเป็นซอยที่มีหมู่บ้านและเป็นชุมชนที่พักอาศัย

ทิศเหนือหน้าโครงการติดกับ Town Plus X ลาดพร้าว 101 (ทาวน์พลัสเอ็กซ์) โครงการทาวเฮาส์จากค่ายแสนสิริ ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนน

บริเวณด้านหลังโครงการติดกับหมู่บ้าน Happy Land Grand Ville 2

ถ้าขับเลยโครงการไปอีกหน่อยก็จะเป็นหมู่บ้านลาดพร้าวค่ะ

การเดินทางในครั้งนี้ ตั้งต้นจากถนนลาดพร้าววิ่งมาถึงถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะเจอ Crystal Park ด้านซ้ายมือ ให้ชิดขวาเพื่อยูเทิร์น

จากนั้นค่อยเลี้ยวซ้ายอีกทีตรง Chic Republic เข้าซอยโยธินพัฒนา และให้สังเกตทางขวาไว้จะเห็นซอยบ้านลาดพร้าว โครงการจะตั้งอยู่ในซอยนี้ค่ะ รวมระยะทางจากห้าแยกลาดพร้าว บริเวณ MRT ลาดพร้าว มาประมาณ 8.5 กิโลเมตรค่ะ

ละแวกนั้นมีสถานที่สำคัญในการใช้ชีวิตที่เป็นห้างสรรพสินค้าหลายห้าง ตั้งแต่ Tesco Lotus, The Crytal Park, CDC, Big C และร้านขายเฟอร์นิเจอร์ Chic Republic หน้าซอยทางเข้าโครงการค่ะ

Map Private Nirvana Residence

ขยายให้ดูกันชัดๆ สำหรับทำเล Private Nirvana Residence ยูเทิร์นตรง Crystal Park เข้ามานะคะ

สำหรับการเดินทางในตอนบ่ายวันจันทร์บนถนนลาดพร้าว สภาพการจราจรคล่องตัว แม้รถจะค่อนข้างมากก็ตาม แต่ถ้าไม่ใช่วันจันทร์ตอนบ่ายต้นๆ เป็นช่วงสัก 4-5 โมง ทุกท่านก็จะทราบว่าถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าบางกะปินั้น สภาพการจราจรค่อนข้างติดขัดนะคะ

ตรงซอยที่เราถ่ายอยู่นี่เป็นซอยลาดพร้าว 69 ซอยโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา

วิ่งตรงไปหน่อยก็จะถึงแยกถนนเลียบทางด่วน ให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้ารามอินทรา

ถัดจากซอยลาดพร้าว 69 ก็เป็นซอยลาดพร้าว 71 ก่อนเลี้ยวเข้าเลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งซอยลาดพร้าว 71 นี้ เป็นซอยใหญ่ 5 เลน วิ่งไปตัดกับถนนสังคมสงเคราะห์ ที่เชื่อมต่อกับถนนนาคนิวาส และถนนโชคชัย 4 แยกข้างหน้าเป็นถนนเลียบทางด่วนแล้วค่ะ เตรียมเลี้ยวซ้ายนะคะ

เลี้ยวซ้ายถนนเลียบทางด่วน

สภาพการจราจรเลียบทางด่วนวันจันทร์ เวลาประมาณบ่ายโมง ไม่หนาแน่นมาก

ตรงนี้เป็นทางขึ้นทางด่วนเอกมัย – รามอินทราฝั่งขาออก ที่จะมุ่งหน้าไปทางรามอินทรา

U Turn จุดแรกนี้ยังไม่ถึงโครงการนะคะ เอาไว้ U Turn ขึ้นทางด่วน

จุดสังเกตยูเทิร์นแรกคือ Tesco Lotus ซ้ายมือ ซึ่งเอาไว้จับจ่ายใช้สอยซื้อของเข้าบ้านได้นะคะ เผื่อเป็นทางผ่านเวลากลับบ้าน

CDC เลยยูเทิร์นแรกมา ประมาณ 350 เมตร ขากลับจะขับผ่าน แต่อยู่ทางขวามือนะ ถ้าใครจะแวะก็ต้องกลับรถเอา

เจอป้ายให้ยูเทิร์นจุดที่สองแล้ว ชิดขวานะคะ

จุดสังเกตซ้ายมือใกล้ๆจะจุดยูเทิร์นที่สองเป็น Crystal Park

พอยูเทิร์นเข้ามาให้ชิดซ้ายไว้เลยนะคะ ด้านซ้ายมีปั้ม ปตท ด้วย

จากจุดยูเทิร์นประมาณ 250 เมตร ซ้ายมือมีป้ายบอกทางถาวรให้เลี้ยวซ้ายไป “ไพรเวท เนอวานา เรสสิเดนซ์” ป้ายใหญ่พอสมควรเลย นี่คือ ซอยโยธินพัฒนา ค่ะ

ปากซอยมีร้านขายเฟอร์นิเจอร์ Chic Republic

ซึ่งฝั่งตรงข้ามกับ Chic Republic มี 7-Eleven ด้วย

ขวามือเยื้องๆกันเป็น ร้านอาหาร “เจ๊ปานซีฟู้ด”

ถ้าตรงไปสุดซอยจะเจอสามแยกที่มีโครงการหมู่บ้านของ Private Nirvana  ตั้งอยู่

นี่เป็นโครงการเก่าของ Private Nirvana  เจ้าของเดียวกันกับหมู่บ้านที่เราจะพาไปรีวิวกันวันนี้ค่ะ อยู่แยกซ้ายมือนะคะ

ปากทางเข้าหมู่บ้าน ไพรเวท เนอวานา ลาดพร้าว โครงการเดิม เราพาไปดูสภาพหมู่บ้านของเดิมกันก่อน ทรุดโทรมลงไปบ้างแต่ก็ยังดูสะอาดตา

ทางเข้าของ Private Nirvana Residence เป็นทางเข้าทางเดียวกับบ้านลาดพร้าว

สภาพซอยเป็นถนนคอนกรีต กว้างประมาณ 6 เมตร พอให้รถ 2 คันวิ่งสวนเลนกันสบายๆ

ซอยนี้ดีตรงที่ไม่มีรถมาจอดรถเกะระกะทำให้สัญจรลำบาก

สภาพซอยเป็นชุมชนอยู่อาศัย ซ้ายมือที่เห็นคือแมนชั่น ด้านขวาเป็นรั้วบ้าน

ถัดจากแมนชั่นเมื่อครู่ จะเป็นหมู่บ้านลาดพร้าว ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น อยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 350 เมตร

เยื้องๆ กับบ้านลาดพร้าวเป็น บ้าน 3 ชั้นจากค่าย Aquarius Estate ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ค่ะ

ตรงนี้เป็นโครงการใหม่ ยังไม่เปิดขายนะ

ซ้ายมือของบัานจาก Aquarius Estate มีทางแยก เลี้ยวซ้ายนะคะ

สภาพซอยเมื่อเลี้ยวซ้ายมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เป็นบ้านรั้วสังกะสี ที่มีคนงานก่อสร้างอาศัยอยู่

ข้ามสะพานข้ามคลองครั้งที่ 2

พอข้ามสะพานมาจะเจอ ทาวเฮาส์ Town Plus X (ทาวน์พลัสเอ็กซ์) ลาดพร้าว 101 จากค่ายแสนสิริ

มองเยื้องเข้ามาทางด้านขวามือ เจอแล้วล่ะ โครงการที่ตามหา “Private Nirvana Residence” ซึ่งเข้ามาจากปากซอยประมาณ 1 กิโลเมตร

ถ้ามองย้อนกลับมาจะเห็น ทาวเฮาส์ Town Plus X หมู่บ้านเพื่อนบ้านค่ะ

เข้าไปดูใกล้ๆ หน้าโครงการ Town Plus X

ถนนซุ้มหน้าโครงการตั้งแต่ทางเข้าที่ดินเป็นต้นไปปูด้วยกระเบื้อง แบ่งทางเข้าออกเป็นสองช่องมีเกาะกลางเป็นป้อม รปภ.

ทางซ้ายบริเวณที่ดินเปล่าเป็นที่ดินของ Private Nirvana ซึ่งเตรียมวางแผนจะขึ้นโครงการใหม่อีกต้นปี 2557

ป้ายโครงการ “Private Nirvana Residence” ซ้ายมือทางเข้าโครงการ คิดว่าดูไม่แกรนด์เท่าไร ตัวหนังสือค่อนข้างจมไปหน่อย

นี่เป็นคลับเฮาส์อยู่ทางด้านขวามือ อยู่หน้าโครงการเลยค่ะ ใช้เป็นโทนสีเทา เขียว น้ำตาล โทรสีธรรมชาติ ตามแนวคิดโครงการซึ่งเน้นเรื่องอยู่อาศัยที่สอดประสานกับธรรมชาติค่ะ

อีกด้านนึงของคลับเฮาส์ ด้านนี้เป็นทางเข้านะคะ ซ้ายมือที่เห็นนั่น เป็นน้ำตกเล็กๆ จัดเป็นแนวรั้วคลับเฮาส์ค่ะ ส่วนห้องด้านขวามือ คือ Lobby

หน้าตาบริเวณโถงต้อนรับค่ะ เมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วบริเวณนี้จะยกให้เป็นการดูแลของนิติ อนาคตอาจจะกลายเป็นสำนักงานนิติบุคคลไป

ตรงข้ามโซฟาเป็นส่วนต้อนรับของทางโครงการค่ะ ซึ่ง Sale Office อยู่ที่นี่ค่ะ

เดินออกมาจากโถงต้อนรับเพื่อจะขึ้นไปชั้นบน หันกลับมาเจอนี่ค่ะ “Rest In The Residence” เป็นมุมที่สวยดีนะคะ

นี่เป็นบันไดขึ้นอาคารคลับเฮาส์ สามารถมองเห็นได้จากหน้าอาคารเลย ซึ่งอาคารนี้จะใช้สีโครงสร้างเป็นโทนสีเทา และน้ำตาล ทั้งอาคารค่ะ

ขึ้นมาบนบันไดแล้วมองกลับไปบริเวณหน้าโถงรับแขก

ลาดลายและเส้นสายต่างๆ พร้อมกับมุมที่เห็นนี้ เป็นผลของการออกแบบในลักษณะ Asian หรือ Japanese Modern ที่จะใช้ความเรียบ ธรรมชาติ และเส้นสายแนวตั้งฉาก ที่มีความเป็นระเบียบและความ Random อยู่ในตัว เป็นลวดลายสมัยใหม่ค่ะ

มาถึงชั้น 2 แล้วค่ะ ภาพแรกที่เจอเป็นโซฟานั่งเล่นแบบ Semi Outdoor พื้นปูหญ้าเทียม ริมสระน้ำ บริเวณนี้ลูกบ้านสามารถมาใช้กันได้ เป็นส่วนกลางของที่นี่

เขยิบเข้าไปใกล้ๆ โซฟาอีกซักนิด จะได้ยินเสียงน้ำไหลจากน้ำตกบริเวณมุมสุดของอาคารด้วยค่ะ เป็นระบบน้ำวนที่ไหลลงมายังสระว่ายน้ำค่ะ

อีกมุมหนึ่งบนโซฟาค่ะ มองไปไกลๆ จะเห็นบ้านที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเป็นหลังๆ บ้านที่นี่สูงสามชั้นทุกหลัง เวลาเรานั่งอยู่บนชั้นสองก็จะไม่ได้ดูโปร่งเท่าที่ควร ถ้าอยากชมวิวต้องขึ้นไปชั้น 3 นะคะ

ถัดจากโซฟาตัวเมื่อกี้เข้าไปอีก ที่บอกไว้แล้วนะคะ ว่าเป็นเสียงจากน้ำไหลจากที่นี่เองค่ะ ที่นี่แยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ด้วยนะคะ

อันนี้เป็นสระใหญ่ค่ะ ซึ่งเป็นระบบเกลือค่ะ ขนาด 5×20 เมตร ว่ายได้จริงนะ สระน้ำเป็น Outdoor ทั้งหมดค่ะ

นี่เป็นบันไดทางลงนะคะ มือจับถูกออกแบบมาสอดคล้องกับตัวโครงการ ไม่ได้ใช้ราวจับสระน้ำธรรมดาๆทั่วไป

อีกมุมหนึ่งของสระน้ำค่ะ จะเห็นว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ที่โครงการนำมาปลูกไว้บริเวณด้านหน้าโถงรับแขก

Facility ที่มาคู่กับสระว่ายน้ำ แน่นอนค่ะ ห้องน้ำส่วนกลาง ที่แยกชาย-หญิง พร้อมห้อง Steam หรือห้องอบไอน้ำด้านใน

เอ่อ….ที่เข้าไปเก็บภาพมา เป็นห้องน้ำชายค่ะ 55555

อ่างล้างหน้าค่ะ โอ๊ะ!!!! ไม่ใช่ His & Her นะคะ เป็น His & His เพราะที่นี่คือห้องน้ำชายในคลับเฮาส์ค่ะ สุขภัณฑ์ที่นี่ทั้งหมดเป็นของ Kohler นะคะ บริเวณที่วางเป็นหินแกรนิตค่ะ ^^

นี่เป็นบริเวณล็อคเกอร์กับเคาท์เตอร์วางของในห้องน้ำค่ะ ติดกระจกบานใหญ่หน้าเคาท์เตอร์ให้ด้วยนะ 🙂

IMG_20322

นี่เป็นห้องสตรีมนะคะ

ส่วนนี่ ห้องอาบน้ำค่ะ เป็นแบบฝักบัวธรรมดาค่ะ

ชั้น 3 … ขึ้นบันไดไปดูชั้นถัดไปกันบ้าง ห้องนี้เป็นห้องออกกำลังกายค่ะ ตอนนี้ทางโครงการแจ้งว่ายังไม่ได้เอาเครื่องออกกำลังกายมาลงให้  ก็ยังเป็นโล่งๆ อย่างนี้อยู่ค่ะ ต่อไปจะมีเครื่องออกกำลังกายมาวางให้นะคะ ด้านขวามือจะเห็นว่าเป็นบานกระจกใหญ่ทั้งบานเลย ทำให้ห้องดูโปร่งและใหญ่ขึ้นเยอะเลยค่ะ

เข้าไปในห้องออกกำลังกายกันนะ วิวที่เห็นจะเป็นประมาณนี้เลยค่ะ อ่อ พื้นไม้ๆ ที่เห็นนี่เป็น Engineering Wood นะคะ

จากที่ดูสามารถวางเครื่องเล่นได้หลายชิ้น และมีพื้นที่เพียงพอให้เล่นด้วยกันได้ราวๆ 10 คนพร้อมๆกันค่ะ

ถัดมาอีกห้องเป็นห้องอเนกประสงค์ เป็นห้องฝั่งตรงข้ามของห้องออกกำลังกายนะคะ

ตรงนี้ทางโครงการยังไม่ได้จัดอะไรไว้ให้ อนาคตถ้าใส่ Furniture เข้าไปก็คงจะเป็นที่นั่งที่ดีแหละเหมาะสมสำหรับลูกบ้าน

ออกมาจากห้องออกกำลังกายไปทางซ้ายมือ เป็นพื้นที่ที่สามารถมองไปยังด้านหน้าโครงการได้ค่ะ ชั้น 3 จัดสรรพื้นที่ Semi-Outdoor เล็กๆ เอาไว้ทำกิจกรรมกันได้นิดหน่อยค่ะ

บริเวณตรงนี้โครงการยังไม่แน่ใจว่า จะลงเก้าอี้นั่งเล่นให้มั้ยน่ะค่ะ แต่อย่างน้อยก็ได้บริเวณพื้นที่เขียวๆ ว่างๆ ในคลับเฮาส์ชั้นบนสุดนะ 🙂

ณ บริเวณพื้นที่เขียวๆ นั้นเอง เมื่อเราเดินบนพื้นหญ้าเข้าไป แล้วมองไปไกลๆ ที่เป็นพื้นดินไกลๆ นั่นน่ะค่ะ ส่วนนั้นเป็นโครงการของบริษัท Private Nirvanaที่จะมีแผนจะสร้างโครงการต่อไปค่ะ นี่เรามองออกไปทางถนนด้านหน้าโครงการนะคะ

มองเข้ามาในโครงการอีกด้านหนึ่งกลมๆ นั่นเป็นน้ำพุค่ะ ขับรถเข้ามาในโครงการก็เจอเลย อยู่ตรงกลางถนนพอดิบพอดี

อีกมุมจะเห็นพื้นที่สีเขียวด้านขวาบน ตรงนั้นล่ะค่ะ สวนหย่อมของโครงการ

ออกมาจากคลับเฮาส์กันนะคะ มายืนอยู่บนถนนของโครงการอีกครั้ง นี่แหละค่ะ น้ำพุของเรา 🙂

มาพิจารณาพื้นถนนโครงการกันบ้างนะคะ ถนนใหญ่ของโครงการ Private Nirvana Residence กว้าง 12 เมตรค่ะ ส่วนถนนหน้าบ้าน ในแต่ละซอยกว้าง 9-10 เมตร ตัวถนนจะปูด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กๆ สี่เหลี่ยมจตุรัสอย่างนี้ ทั้งโครงการค่ะ

กระเบื้องนี้จะดูดีและสวยงามกว่าคอนกรีตสแตมป์ลาย ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่ทำให้เยอะเนื่องจากราคาค่าก่อสร้างจะสูง แต่ที่นี่ทำให้ทุกถนนและทุกซอย จัดว่าดีมากค่ะ

ไปเดินเล่นในสวนกันบ้างดีกว่า บริเวณของสวนจะอยู่ซ้ายมือหน้าโครงการ เดินเข้ามาก็จะเจอเลย อยู่หลังป้ายหน้าโครงการนี้เอง

ลำธารต่างๆใช้เป็นน้ำระบบเกลือนะคะ มีการ Treat ให้สะอาดและสามารถเล่นได้จริงค่ะ ทำไว้ให้ เผื่อเด็กเล็กๆ อยากลงเล่นน้ำ ต่างกับพวกบ่อน้ำตามสวนสาธารณะโครงการอื่นทั่วไป

ให้ลองดูความใสของน้ำจะเห็นว่าค่อนข้างใส สามารถลงไปเล่นได้

สุดสระเป็นน้ำตกค่ะ มีเสียงน้ำไหลตลอดเวลา

ในสวนก็มีบริเวณสนามหญ้าอย่างนี้โล่งๆอย่างนี้เลยค่ะ สามารถใช้เป็นลานกิจกรรม เดินเล่น ทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว กับเพื่อนบ้าน เฮฮาปาร์ตี้ หรือว่าจะมานั่งเล่นอ่านหนังสือ เล่นดนตรีเบาๆ ก็ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง

มองกลับมาจากพื้นที่สนามหญ้ากว้างๆนั้น จะมีศาลพระภูมิ เจ้าที่ตั้งอยู่ค่ะ _/\_

Product Walkthrough

เข้าไปชมบ้านตัวอย่างนะคะ ที่โครงการมีบ้านตัวอย่างให้ดู 3 หลัง 2 รูปแบบ คือ แบบขนาดพื้นที่ 325 ตารางเมตร 1 หลัง ซึ่งโครงการตั้งชื่อว่า Pride และแบบ 370 ตารางเมตร 1 หลัง ที่โครงการตั้งชื่อว่า Attik

พามาดูโครงสร้างอาคารกันก่อนนะคะ การก่อสร้างเป็นแบบ Conventional ใช้อิฐมอญแดงก่อฉาบตามปกติค่ะ

ส่วนหลังคามีแผ่นสะท้อนกันร้อน โดยกระเบื้องหลังคาที่ใช้เป็นรุ่น Excella

โครงหลังคาในระยะประชิด เห็นแผ่นกระเบื้องปูอยู่ด้านบน

โครงการกำลังก่อสร้างอยู่นะคะ จะเห็นว่าด้านหลังติดกับโครงการสีขาวๆ เป็นแถบ จะเป็นหมู่บ้าน Happy Land Grand Ville 2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ค่ะ

แบบบ้านขนาด 370 ตารางเมตร 3 ชั้น

หลังคาเป็นแบบ Excella ซึ่งจะเป็นกระเบื้องแผ่นเรียบ มุมนี้อาจจะมองไม่ชัดนะ เพราะว่าเป็นการถ่ายภาพมุมเงย

สไตล์บ้านยังคงสะท้อนความเป็น Asian Modern ใช้สีแนว Earth Tone ผสมกับสีเขียวของต้นไม้ แต่ภาพลักษณ์โดยรวมแล้วอาจจะดูค่อนไปทาง Modern มากกว่าฝั่งที่เป็นธรรมชาิตนะคะ

พื้นทั้งหมดใช้เป็นการปูกระเบื้อง ตั้งแต่ถนนไล่เข้าไปในที่จอดรถเลย ซึ่งตรงนี้สามารถจอดรถได้ 2 คัน … แต่ถ้าเป็นคันเล็กๆอย่างรถกอล์ฟหรือ Eco Car ก็น่าจะซ้อนได้ 4 ไหวอยู่นะ

ประตูเล็กสำหรับการเดินเข้าออกโดยที่ไม่ต้องเปิดประตูใหญ่ ใช้เป็นบานอลูมิเนียม

ตู้จดหมายเปิดด้านบน ติดตั้งไว้ให้ มีกริ่งไฟฟ้าและไฟส่องหน้าบ้านครบ

ด้านในบ้าน ขวามือเป็นถึงขยะ ติดตั้งเข้าไปในรั้วแบบถาวร ไม่เกะกะและสวยงาม

ประตูที่นี่ติดตั้งให้เป็นบานไม้แบบที่เห็น เป็นประตูรีโมท ติดตั้งมอเตอร์ไว้ที่ขอบรั้ว เป็น Standard ของโครงการที่จะแถมให้กับทุกหลัง

พื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ 2 คัน คันใหญ่ๆก็จอดได้

Motion Sensor ระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติบริเวณหน้าบ้าน เดินผ่านมาปุ๊บ ไฟก็จะติดอัตโนมัติ

บริเวณสวนหย่อมหน้าบ้าน

ประตูเข้าบ้านอยู่ทางขวามือ ด้านซ้ายมองเข้าไปเป็นส่วนรับแขก มีเฉลียงเชื่อมต่อกันระหว่างลานจอดรถกับทางเข้าบ้านทั้งสองทาง ถ้าใครจะเดินรอบบ้านจากประตูหนึ่งมาอีกประตูหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าก็ได้ เพราะไม่ได้ลงไปย่ำที่พื้นถนน

สวนหย่อม โครงการไม่ได้จัดให้ต้องจัดเองนะคะ เป็นบริเวณพื้นที่โล่งเฉยๆ

ระบบกำจัดปลวกแบบฝังเหยื่อรอบบ้าน ไม่มีสารเคมี ซึ่งเป็นระบบ Exterra ฝังไว้ในดิน ต่างกับระบบท่อปลวกอัดน้ำยาทั่วไป

บริเวณพื้นที่ข้างบ้านตัวอย่างเป็นระแนงไม้ และต้นไม่ริมรั้ว ซึ่งโครงการไม่ได้ทำให้นะคะ ดูเป็นไอเดียเฉยๆ

ประตูหน้าบ้าน ด้านข้างเป็นห้องเก็บของหน้าบ้านค่ะ

รอบบ้านมีกล้อง CCTV ซึ่งโครงการจะติดไว้ 4 จุดทุกหลัง คือ

  1. ส่วนหน้าบ้าน
  2. ส่วนหลังบ้าน
  3. บริเวณรับแขกชั้นหนึ่ง
  4. บริเวณชั้นสอง

 

IMG_2003

ชั้นเก็บของหน้าบ้าน วางได้หลายชั้นเลยนะ

ประตูหน้าบ้านใช้ระบบล็อค 2 ชั้น คือ Digital Doorlock และ ล็อคธรรมดาแบบ Dead Bolt

ข้อดีก็คือสามารถเลือกใช้ระบบใดระบบหนึ่งได้ ถ้าเกิด Digital เสียก็สามารถไขกุญแจได้

แต่ข้อเสียก็คือ กลอนทั้งสองนั้นทำงานแยกกัน ถ้าล็อคไว้สองระบบ แต่ปลดล็อคเพียงระบบเดียวก็ยังไม่สามารถเปิดประตูเข้าบ้านได้

ยกพื้นเข้าไปอีกทีหนึ่ง ในตัวบ้าน

ส่วนวางรองแท้า แยกจากตัวบ้านที่ยก Step ขึ้นสูง เพื่อไม่ให้เศษดิน เข้ามาในตัวบ้าน

ออกแบบคล้ายๆกับบ้านญี่ปุ่นที่มีส่วนนี้หน้าบ้าน มีการเล่นระดับเล็กน้อย 3 ขั้น ก่อนถึงพื้นชั้นล่าง

เมื่อเปิดประตูเข้าบ้าน ภาพแรกที่เห็นโดดเด่นคือโต๊ะรับประทานอาหาร กับกระจกบานเลื่อนด้านหลัง โครงการไม่ได้ให้เฟอร์นิเจอร์มาเลยนะคะ ตรงนี้เป็นเพียงการตกแต่งให้ดูเป็นไอเดียวคร่าวๆ

ส่วนรับแขกจะอยู่หน้าบ้านสุด มองออกไปได้มิติประมาณนี้

ไฟทางซ้ายมือที่ซ่อนเอาไว้หลังตู้นั้นไม่มีให้ จะมีเพียงแต่ไฟ Down Light เป็นจุดๆตามฝ้าเพดาน

มองจากส่วนรับแขกออกไปไม่สามารถเห็นคนเดินผ่านไปมาได้ นั่งแล้วมี Privacy ระดับหนึ่ง

ทางซ้ายที่เราเห็นรถกระบะนั่นเป็นเพราะเราไม่ได้ปิดประตูบ้านนะคะ

ระยะดูทีวีประมาณ 4 เมตร

จากหน้าบ้านเข้ามาจะเป็นส่วนรับแขก ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนครัว ตามลำดับ

วางโต๊ะอาหารตรงนี้สามารถรับวิวสวนข้างบ้านได้ค่ะ ซึ่งถ้าจัดดีๆ ก็จะเป็นมุมที่น่ามอง น่ารับประทานมาก

ส่วนของครัวที่โครงการตกแต่งให้ดู ซึ่งบ้านจริงไม่มีส่วนนี้ให้นะคะ เป็นพื้นที่โล่งๆ เฉยๆ

ไอเดียโครงการวางเก้าอี้ตรงนี้ เพื่อไว้ทานของกินเล่นนิดหน่อย หรือเป็นพื้นที่ที่ช่วยกันทำอาหาร

เคาท์เตอร์ครัว มีเตา และ Sink เป็นรูปตัว L

ด้านหลังสุดที่ติดผนังของครัวสามารถวางตู้เย็นใหญ่ได้ 2 ตู้

ค่าครัวรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าก็น่าจะครึ่งล้านแล้วค่ะ

เขยิบเข้ามา ก่อนที่จะออกประตูหลังบ้าน จัดเป็นมุม Laundry สามารถวางเครื่องซักผ้า หรือเก็บอุปกรณ์่ต่างๆ ได้ บริเวณนี้จะหลบมุมเข้าไปค่ะ มองจากทางส่วนรับแขกไม่เห็นนะ ทำให้ออกไปซักผ้าตากผ้าได้สะดวก

บริเวณหลังบ้าน ทำเคาท์เตอร์ครัวปูนด้านนอกไว้ให้อยู่แล้ว

บริเวณเคาท์เตอร์ส่วนนี้ สามารถใช้ทำเป็นครัวหนัก ทำอาหารที่มีกลิ่นได้ค่ะ ใครจะต้มผัดแกงทอดก็ได้เต็มที่

ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องแม่บ้านและห้องน้ำของแม่บ้านหลังบ้าน ลานตรงนี้เอาไว้วางราวตากผ้าได้ด้วย

แทงค์น้ำ และเครื่องปั้มน้ำค่ะ

มีเคาน์เตอร์วางของด้านข้าง เก็บพวกอุปกรณ์ทำสวนที่สามารถวางกลางแจ้งได้

ตำแหน่งกล้อง CCTV หลังบ้าน อยู่หลังห้อง Laundry

นี่เป็นห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง อยู่ทางขวามือของครัว ในส่วนของห้องน้ำนี้ โครงการจัดให้ทั้งหมดค่ะ บ้านจริงเหมือนห้องตัวอย่างค่ะ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไป เพื่อไม่ให้น้ำซึมออกมาค่ะ

อ่างล้างหน้า Kohler มีบริเวณพื้นที่วางของด้านข้างด้วย สุขภัณฑ์ของที่นี่ใช้เป็นของ Kohler ทั้งหมดค่ะ

ปลั๊กไฟอยู่ทางด้านขวาของอ่างล้างหน้า มีที่ครอบพลาสติกเพื่อกันไม่ใช้สวิทช์ไฟเปียกน้ำ

โถสุขภัณฑ์ของ โคห์เลอร์ หน้าตาดูโอเคค่ะ

IMG_2007

ส่วนอาบน้ำมีกระจก Tempered Glass กั้นครึ่งบานกันน้ำกระเด็นออกมา แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน ฝักบัวอาบน้ำ Kohler พร้อมที่วางสบู่และเครื่องอาบน้ำเรียบร้อย

ด้านหลังห้องอาบน้ำสามารถเปิดประตูบ้าน Slide จากห้องน้ำ ออกไปได้นะคะ ใช้ระบายความอับชื้นในห้องน้ำได้อีกทางหนึ่ง จัดเป็นระเบียง Outdoor ซึ่งสามารถตากผ้าเล็กๆน้อยๆตรงนี้ได้ด้วย

ไม่น่าเกลียดเพราะมีผนังบังไว้ให้แล้ว

พัดลมดูดอากาศติดตั้งไว้ให้

บันไดขึ้นชั้น 2 มีช่องแสง ประตูด้านขวาเป็นห้องใต้บันไดค่

ในห้องใต้บันไดนี้เอาไว้เก็บของได้นะคะ มีช่องให้เก็บของใหญ่กว่าโครงการทั่วไป ติดตั้งไฟไว้ด้านในเรียบร้อย

ถ่ายจากชั้นสองลงมา รูปแบบบันไดหักมุมอย่างนี้ค่ะ

ขั้นบันไดที่นี่ต้องปรับปรุงหน่อยนะคะ เพราะซอยเป็นขั้นเล็กๆแบบสามเหลี่ยมถึง 4 จุด ซึ่งเวลาเดินอาจจะไม่ปลอดภัยเท่ากับชานพักบันไดที่เป็นสี่เหลี่ยมเต็มขั้น และอยากให้ติดตั้งราวจับบันไดด้วย เพื่อความปลอดภัยของบุตรหลานหรือผู้สูงอายุนะคะ

ราวกันตกในส่วนของราวสแตนเลสและกระจกนิรภัยนั้น ทางโครงการทำมาให้นะคะ ส่วนอื่นตกแต่งทั้งหมดค่ะ

ชั้นสองนี้ประกอบด้วย 3 ห้องนอน ด้านสุดเป็น Master Bedroom

พื้นแบบ Engineering Wood

Master Bedroom ค่ะ

ระยะดูทีวีจากเตียง สบายๆเลย วาง Armchair หรือ Sofa ปลายเตียงได้อีกตัว

กระจกบาน Slide เต็มบาน

โครงการไม่ได้ทำเพดานที่มีหลืบม่านให้นะคะ ต้องทำเองค่ะ

จาก Master Bedroom มีระเบียงที่หันไปทางหน้าบ้านค่ะ

ห้องแต่งตัวใน Master Bedroom

ประตู Slide ประตูนี้ไม่ได้มีให้ค่ะ

เข้ามาจะเจอกับ โตีะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ และเคาท์เตอร์เก็บของ ซึ่งสามารถจัดเป็น Walk-in Closet ตามที่สาวๆชอบได้หลายคนเลยค่ะ

เคาท์เตอร์เก็บของกระจุกกระจิก

ห้องน้ำใน Master Bedroom ซึ่งมีทั้ง Shower box และอ่างอาบน้ำ

ส่วน Shower Box มีที่นั่งอาบน้ำ เป็นระบบ Rain Shower และฝักบัวอาบน้ำ ทำออกมาได้ดีมาก พื้นที่กว้างขวาง นั่งได้

อ่างอาบน้ำมี Step ก้าวขึ้นให้ค่ะ ซึ่งดีกว่าอ่างอาบน้ำทั่วไปที่จะก้าวขึ้นลงยากๆ อันนี้ทำมาให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น และมีการปาดมุม ไม่ให้เดินเตะด้วย

อ่างล้างหน้าแบบ His&Her ค่ะ

Top บริเวณซิงก์ทั้งสองเป็นหินสังเคราะห์สีขาว

ก็อกน้ำ Kohler ด้านหลังปูโมเสก ซ่อนไฟไว้ใต้กระจก ให้แสงประมาณนี้

เวลาวางของก็สามารถวางที่โมเสกได้ ไฟจะส่องลงมาเห็นพอดีว่าอะไรเป็นอะไร

ที่นั่งในห้องอาบน้ำ

ก็อกน้ำในห้องอาบน้ำ มีก๊อกเตี้ยให้อีกหนึ่งจุด สำหรับรองน้ำใส่ถัง

พื้นติด Floor Drain สแตนเลสเอาไว้ระบายน้ำ

Rain Shower และ ฝักบัว สังเกตว่าด้านหลัง Rain Shower นั้นมีไฟซ่อนไว้พอดี จะทำให้เราได้แสงแบบ Indirect Light เป็นเงาๆแบบนี้ สว่าง ไม่แสบตา

อ่างอาบน้ำเป็นแบบฝัง กรุลงไปในท๊อปหินด้านข้าง มีการเจาะช่องวางสบู่ให้เรียบร้อย

สายต่างๆของฝักบัวก็ซ่อนไว้ในข้างอ่างได้เลย

อ่างอาบน้ำ มีระบบหัวฉีด Jacuzzi และปลายอ่างก็มีตำแหน่งให้วางคอนุ่มๆ เหมาะกับการนอนแช่น้ำ

และด้านข้างอ่างก็เป็นพื้นที่สวน สามารถวางต้นไม้สวยๆ นอนอาบน้ำชมสวนได้ค่ะ

บริเวณโถสุขภัณฑ์จัดเป็นห้องแยกต่างหาก มีการวางตำแหน่งที่เป็นสัดส่วน เวลาจะเข้าต้องเปิดประตูเข้าไปอีกที ด้านข้างมีกระจกบานเลื่อนระบายอากาศไว้ด้วย

กระจกบานเลื่อนใหญ่ในบริเวณโถสุขภัณฑ์

ตัวล็อคและกรอบอลูมิเนียมสีออทัมน์บราวน์

ห้องนอนเล็กห้องที่ 1 ด้านขวามือเป็นบริเวณห้องแต่งตัว ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ โครงการที่นี่มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องค่ะ

ห้องนอนนี้ก็จัด Walk-in Closet ได้แบบเล็กๆ

ซึ่งสุขภัณฑ์ภายในทุกอย่างเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง แต่จะมี Rain Shower และช่องแสงที่เป็น Glass Block

มีที่วางสบู่ฝังผนังเข้าไปนะคะ

โต๊ะทำงานตั้งอยู่บริเวณหน้าต่างพอดี

ห้องนอนเล็กที่ 2 เหมือนห้องที่แล้วคือ มีห้องแต่งตัว ห้องน้ำ

มากกว่าห้องนอนที่แล้วหน่อย คือ ห้องนอนนี้มีหน้าต่างสองบาน เป็นช่องแสงเข้า

ฟังชั่นห้องอาบน้ำเหมือนห้องที่แล้ว

สามารถติดทีวีติดผนังได้

บันไดขึ้นชั้น 3 ค่ะ ส่วนบันไดนี่จะมี Motion sensor เปิดไฟทางอัตโนมัติค่ะ

ที่เห็นตามขั้นบันไดต้องหามาติดเองนะค่ะ

ช่องแสงธรรมชาติ บริเวณมุมบันไดขึ้นชั้น 3 นะคะ ปาดกระจกเป็นรูปสามเหลี่ยม … นานๆจะเห็นทีนะ

ชั้น 3 ค่ะ โครงการจัดเป็นพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นของครอบครัว ทั้ง Floor ตามคอนเซปท์ของบ้านคือมีห้องใต้หลังคา

สามารจัดชุด home theatre ดูกันทั้งครอบครัว

ซ่อนไฟไว้ด้านหลังคานเพดานค่ะ

มีช่องแสงธรรมชาติทั้งซ้ายและขวา อ่อ แอร์ที่นี่โครงการให้ 5 ตัวนะคะ ชั้นล่างสุด ชั้น2 ในห้องนอน 3 ห้อง และชั้นบนบริเวณนี้ค่ะ ส่วนด้านหลังที่เป็นช่องประตูเข้าไปนั้นมีห้องน้ำอยู่ด้วยค่ะ

ห้องน้ำบนชั้นบนสุด ฟังค์ชั่น คล้ายกับห้องชั้นล่างสุดค่ะ มีฝักบัว ไม่มี Rain Shower

ขวามือเป็นสวนหย่อมส่วนตัวบนชั้น 3 ค่ะ โครงการจะให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆ มาตกแต่งเองนะคะ

สามารถวางแปลได้ค่ะ นอนเล่นอ่านหนังสือบริเวณ Semi Outdoor

IMG_0570

ตัวอย่างการจัดสวนหย่อมของโครงการค่ะ

บริเวณระเบียงอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่นขั้นบน ใช้วางคอมแอร์ด้วยค่ะ

พื้นที่ด้านบนมีห้องอีกห้องหนึ่งค่ะ ห้องอยู่ทางด้านขวามือระเบียงเมื่อกี้ค่ะ

ห้องนี้โครงการจัดเป็นห้องพระให้ดูค่ะ

พื้นในห้องกับด้านนอกเป็นคนละสีด้วยค่ะ

แบบบ้านเดิมขนาด 370 ตารางเมตร แต่เป็นไอเดียการตกแต่งอีกรูปแบบหนึ่ง

ครัวเป็นด้านเดียว มีโต๊ะที่สามารถทำครัวร่วมกันอยู่ตรงกลาง

ห้องด้านล่าง สามารถเปลี่ยนพื้นที่ของห้องเมด จัดเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้ เพราะเป็นบ้านแบบสั่งสร้าง สามารถปรับเปลี่ยนแบบได้เล็กน้อย

ปลายเตียงมีพื้นที่ สามารถใช้วางทีวีได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ไอเดียการจัด Master Bedroom

ห้องแต่งตัวแบบ walk in closet

ไอเดียวการตกแต่งห้องนอนเล็กนี้ ไม่ได้กั้นประตูระหว่างห้องนอนกับห้องแต่งตัวที่เป็นสัดส่วนเหมือนบ้านหลังที่แล้ว

โต๊ะทำงานอยู่ข้างเตียง

ชั้น 3 นี้จะพิเศษหน่อย บริเวณ Outdoor สั่งสร้างเป็นสระว่ายน้ำ เพิ่มเงิน 1.5 ล้านบาท

มุมหนึ่งของห้อง วางเปียโน สำหรับบ้านของคนที่รักดนตรี ในพื้นที่ห้องนั่งเล่นด้านบน

อีกมุมหนึ่งวางเป็นที่นั่งสำหรับเล่นดนตรี ร้องเพลงกัน ในวันพักผ่อน

โซฟานั่งดูทีวี

บริเวณเดียวกับห้องพระบ้านหลังที่แล้ว หลังนี้ทำเป็นห้องนอนใต้หลังคา

มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะทำงานได้

สำหรับเด็กๆวัย Harry Potter คงจะชอบมากค่ะ

ในส่วนบริเวณ Semi Outdoor ด้านนอก วางเก้าอี้นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ

สระน้ำระบบเกลือ เป็นระบบน้ำวน

น้ำตกในสระน้ำ

IMG_2017

ห้องเก็บระบบต่างๆภายในบ้านจะอยู่ชั้นบนสุด ด้านสวนหย่อมด้านซ้ายมือ มีประตูปิด

แบบบ้านถัดมาเป็นบ้านพื้นที่ใช้สอย 325 ตารางเมตร ซึ่งขนาดเล็กของโครงการนี้

บริเวณที่จอดรถจอดได้สองคัน กล้อง CCTV อยู่หน้าบ้าน พร้อม Motion sensor เปิด-ปิด ไปหน้าบ้านอัตโนมัติ

แต่ทางเข้าบ้านจะไม่ได้ดูแกรนด์หรูหราเหมือนบ้านหลังก่อนแล้วนะ พื้นที่ตรงนี้กับห้องรับแขกก็จะไม่เชื่อมกันแบบบ้านหลังที่แล้วเช่นกัน

หน้าบ้านมีสวนหย่อม

ประตูบ้านเป็น 2 ระบบ คือ ระบบธรรมดา และ Digital Doorlock ตามเดิม

พื้นที่ถอดรองเท้าลดระดับลงมา ป้องกันเศษดิน ไม่ให้เข้าในตัวบ้าน

โต๊ะอาหารอยู่กลางบ้าน ด้านซ้ายมือเป็นส่วนครัว ส่วนด้านขวามือเป็นส่วนรับแขก

ชุดโซฟารับแขก นั่งอยู่หน้าบ้าน

ด้านหลังโซฟ้าเป็นกระจกทั้งบาน จัดสวนสวยๆ แล้วจะสวยมากแบบที่เห็น

ด้านข้างเช่นกัน ทำให้ส่วนรับแขกดูโปร่ง โล่ง

ระยะดูทีวีจากโซฟา วางได้สบายๆ อยากได้จอใหญ่ก็จัดได้เต็มที่

ถัดจากโซฟาเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร

ด้านหลังชุดรับประทานอาหารมีกระจก Slide เต็มบาน สามารถเปิดออกมาด้านนอกได้

พื้นที่บ้านตัวอย่าง สร้างบนแปลงที่ดินที่กว้างกว่าปกติที่โครงการให้ จึงทำให้ส่วนสวนนอกบ้านดูกว้างขวางกว่าบ้านจริงค่ะ

ถัดมาจากโต๊ะรับประทานอาหารเป็นเคาท์เตอร์ทำครัว

ถ้าเปิดประตูบานเลื่อนจากหลังเคาท์เตอร์เมื่อกี้ จะเป็นส่วนที่วางของต่างๆ อาจวางตู้เย็นหรือไมโครเวฟในนี้ค่ะ ส่วนด้านขวาเป็นครัวไทย

ครัวไทยที่จัดอยู่ในส่วนหลังสุดของในบ้าน ครัวบ้านหลังนี้แยกเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าหลังก่อนที่ออกแบบแนว Open Plan

เปิดประตูอกมาเป็นก๊อกน้ำหลังบ้าน เอาไว้วางเครื่องซักผ้า ตากผ้า เก็บผ้ากันตรงนี้ได้เลย

บริเวณห้องน้ำด้านล่าง ตำแหน่งเดียวกับบ้านหลังที่แล้ว คือ ด้านขวาของครัว

ขึ้นบันไดบ้าน ตกแต่งด้วยชุดกิโมโนได้อย่างสวยงาม

พื้น engineering wood

บันไดของบ้านหลังนี้เป็นชานพักแบบเต็มขั้น ซึ่งดีกว่าชานพักแบบสามเหลี่ยมของบ้านหลังก่อนนะคะ

แต่ก็ต้องมาติดตั้งราวจับบันไดเองอยู่ดี

ขึ้นมาชั้นสอง ห้องแรกที่เราจะเจอคือบริเวณรับแขก บ้านจริงไม่ได้ทำประตูกับผนังกั้นให้นะคะ เป็นบริเวณพื้นที่โล่งๆ

ภายในห้อง Family Room ชั้นสอง

มาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ด้านซ้ายและขวาของห้องรับแขกกันบ้าน บริเวณโต๊ะทำงาน

ห้องน้ำ มี Shower Box แบบเปิดประตูเข้า

ส่วนบริเวณเตียงนอนอยู่ด้านหน้าบ้านสุด

สามารถรับวิวหน้าบ้านได้

ห้องน้ำของห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่ง

IMG_2027

จากในห้องนอนชั้นสอง สามารถเดินออกไปในส่วนของระเบียงยาวเล็กๆโครงการตกแต่งเป็นส่วนหย่อมเล็กๆ

ห้องใต้บันได ชั้นสองสามารถทำเป็นห้องเก็บของได้

ห้องเก็บของห้องนี้ดีกว่าห้องที่แล้วมาก เพราะมีช่องแสง เปิดระบายอากาศ ให้แสงแดดฆ่าเชื้อโรคได้ มีขนาดกว้าง ถ้าจะทำเป็นมุมเด็กเล่นก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ

ชั้น 3 ของบ้านขนาด 325 ตารางเมตร เป็น Master Bedroom

ฝั่งซ้ายของเตียงเป็นระเบียง ประตูบาน Slide ออกไปรับลมด้านนี้ได้ค่ะ

ระเบียงใหญ่ วางชุดน้ำชาหรือจัดสวนกันได้เลยทีเดียว

หรือจะไปด้านขวาของเตียงก็ได้ค่ะ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นประตูบ้าน Slide เช่นกันที่สามารถออกไปสู่บริเวณ Outdoor ซึ่งจัดเป็นสวนหย่อมส่วนตัว

พื้นที่นั่ง Outdoor ทำเป็นที่นั่งเล่น เป็นสวนส่วนตัวหลังบ้าน

ออกมาด้านนอกบริเวณที่นั่ง Outdoor สามารถมองทะลุไปเจออ่างอาบน้ำ และพื้นที่ว่างที่สามารถจัดเป็นส่วนหย่อมได้อีก ไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนบ้านจะเห็นนะคะ เพราะนี่อยู่บนชั้นบนสุดของบ้านแล้ว มีรั้วที่จัดเป็นสวนหย่อมกั้นด้วย

กลับมาในห้อง Master Bedroom กันใหม่นะคะ  พาไปดูอ่างอาบน้ำจากด้านในตัวบ้านกันบ้าง จะเห็นว่าด้านซ้ายเป็นอ่างอาบน้ำ ด้านขวามี Shower Box นี่ถ่ายไปจาก Walkin Closet ค่ะ

ต้องบอกก่อนว่า Waikin Closet ที่นี่พื้นที่ไ่ม่ใหญ่เท่าบ้านหลังใหญ่นะคะ มีบริเวณเก็บของพอสมควร

ตรงนี้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

ชอบห้องน้ำ Master ของบ้านนี้มากกว่าบ้านที่แล้วอีกค่ะ

ได้เวลาไปดูวิวจากห้องน้ำอย่างจริงจังแล้วค่ะ เข้าไปถึงจะเห็นว่าอ่างอาบน้ำจะอยู่มุมสุด ทำให้ได้รับวิวสวนหย่อมส่วนตัวทุกด้าน มีอ่างล้างหน้าอยู่ด้านซ้ายมือ

อ่างล้างหน้า His&Her จาก Kohler ค่ะ มีพื้นที่บริเวณอ่างล้างหน้าวางอุปกรณ์ล้างหน้าเยอะพอสมควร

อ่างอาบน้ำรับวิวเต็มๆ กระจกรับวิวเป็นแบบบานเลื่อนด้วยค่ะ

อ่างอาบน้ำระบบ Jacuzzi

ย้่ายมาดูอีกฝั่งหนึ่งของอาบอ่างน้ำกันบ้างนะคะ ประตูด้านซ้ายมือสุดเป็นส่วนอาบน้ำแบบ Shower Box ส่วนด้านขวาวางโถสุขภัณฑ์ค่ะ จะเห็นว่าพื้นทั้งสองห้องลดระดับลงไปด้วยนะคะ

ส่วนอาบน้ำเป็นแบบ Rain Shower และฝักบัวค่ะ

พื้นที่ส่วนวางโถสุขภัณฑ์ รับวิวด้วยค่ะ กระจกบานเลื่อน สามารถระบายอากาศได้

วิวจากด้านในห้องน้ำถ่ายออกไปค่ะ เพื่อนบ้านไม่เห็นนะคะ ไม่ต้องเขิน เห็นกันแค่หลังคาค่ะ ^^

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 June 2013

  • แบบบ้าน Pride เนื้อที่ดิน 54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 325 ตารางเมตร ที่จอดรถ 2  คัน ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท
  • แบบบ้าน Attik เนื้อที่ดิน 72 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 370 ตารางเมตร ที่จอดรถ 2  คัน ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท

  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 500,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 3 งวด งวดละ 720,000 บาทสำหรับแบบบ้าน Pride และ 934,000 บาทสำหรับแบบบ้าน Attik

  • ค่าส่วนกลาง ชำระล่วงหน้า 3 ปี เป็นแบบเหมาจ่าย
  • สำหรับแปลงที่มีเนื้อที่ไม่เกิน 60 ตารางวา 3,200 บาท/เดือน
  • เนื้อที่ไม่เกิน 80 ตารางวา 3,700 บาท/เดือน
  • เนื้อที่เกิน 80 ตารางวาขึ้นไป 4,500 บาท/เดือน

เจาะลึกรวบยอด

Private Nirvana Residence เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์  และทำเลนี้ยังเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าหลายห้างไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus, The Crytal Park, CDC, Big C สามารถบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกิน มีโรงเรียนนานาชาติอยู่ในละแวกนี้ด้วย หากินสะดวก เดินทางสะดวก แต่ทำเลนี้เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นหลัก เพราะเข้าไปอยู่ในซอยค่อนข้างลึก ราวๆ 1 กิโลเมตรจากถนนใหญ่ สภาพซอยพอดูได้แต่เปลี่ยว ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเดิน

แปลงที่ดินของโครงการติดกับหลายหมู่บ้านที่มีอยู่ก่อนหน้า รอบโครงการล้วนเป็นทำเลของชุมชนพักอาศัย ดังนั้นจะค่อนข้างเงียบสงบ ตั้งแต่ Town Plus X ด้านหน้า หมู่บ้าน Happy Land Grand Ville 2 ทาวน์โฮม 3 ชั้น ด้านหลัง ซึ่งบางส่วนอาจจะต้องแชร์รั้วซึ่งกันและกัน ทำให้บ้านแถวสุดท้ายนั้นไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไร

การคมนาคมเดินทางโดยรถส่วนตัวค่อนข้างสะดวก เพราะถนนหลักที่ใช้คือเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มีจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ในระยะที่ไปมาสะดวก เวลาลงทางด่วนก็สามารถกลับรถเข้าซอยโยธินพัฒนาได้เลย หากไม่นับเรื่องรถติดแล้วถนนนี้จะเป็นถนนที่น่าอยู่มาก

ถนนเลียบทางด่วนสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายต่างๆ เช่น ถนนสังคมสงเคราะห์ ที่เชื่อมต่อกับถนนนาคนิวาส และถนนโชคชัย 4 ได้ หรือถนนนวลจันทร์ไปออกรามอินทราได้ ปากซอยโครงการห่างจากจุดยูเทิร์น 250 เมตร เป็นระยะที่ไม่ไกลค่ะ สามารถกลับรถได้สะดวก ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความสะดวกในการเดินทางโดยใช้รถ อย่างไรก็ตาม โครงการไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ห่างจากปากซอยถนนใหญ่ประมาณ 900 เมตร เดินเข้ามาไม่น่าจะไหว ทำให้ต้องพึ่งรถ Taxi จึงเป็นการเดินทางที่ไม่ค่อยสะดวกนัก

สำหรับคนที่มาอยู่อาศัยในหมู่บ้านนี้แนะนำว่าต้องใช้จักรยาน ปั่นออกไปปากซอยแถวๆโยธินพัฒนา 3 มีร้าน 7-11 และร้านขายของทั่วไป โดยที่ไม่ต้องใช้รถยนต์ส่วนบุคคล จะเป็นอะไรที่สะดวกมากและได้ออกกำลังกายด้วย ถนนอาจจะขรุขระเล็กน้อย เวลาขับขี่ก็ต้องระวังด้วยนะคะ

การออกแบบทำออกมาเน้นการอยู่อาศัยที่ร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ มีบริเวณพื้นที่ Outdoor ชั้น 3 ชั้นบนสุด ของตัวบ้าน ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้บริเวณพื้นที่สวนส่วนตัวทุกหลัง หรือจะสั่งสร้างเป็นสระว่ายน้ำก็ได้ สำหรับคนที่ชอบฝันอยากมีบ้านในเมืองพร้อมสวนหรือสระว่ายน้ำส่วนตัว โครงการนี้แบบบ้าน Attik ก็ตอบโจทย์ค่ะ แต่ก็ต้องเตรียมงบประมาณเอาไว้ด้วย อย่างน้อยๆก็​ 30 ล้านนะคะ ค่าบ้าน 20 ค่าแต่งบ้านอีก 10 ค่ะ

ส่วนตัวบ้านสามารถสั่งสร้างบิดจากรูปแบบของโครงการได้เล็กน้อย สร้างความยืดหยุ่นในการออกแบบ ว่าจะเอาผนังไหนบ้าง ไม่เอาผนังไหนบ้าง อันนี้คุยกันได้กับเจ้าของโครงการ เพราะว่าหมู่บ้านนี้ขายเป็นบ้านสั่งสร้าง ไม่ใช่บ้านสร้างเสร็จก่อนขายค่ะ

ในส่วนของตัวบ้านสามารถเลือกแบบบ้านได้ 2 แบบคือ แบบ Pride พื้นที่ใช้สอย 325 ตารางเมตร และแบบ  Attik พื้นที่ใช้สอย 370 ตารางเมตร ซึ่งเนื้อที่สามารถซื้อเป็นแปลงๆ เพิ่มได้ เพื่อเพิ่มเนื้อที่ให้กับบริเวณบ้าน ส่วนบริเวณรอบๆบ้านไม่ได้มีพื้นที่มากมายนัก ถ้าเอาแบบมาตรฐานจะไม่สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ได้ ดังนั้นหากใครต้องการเนื้อที่มากๆก็ต้องซื้อแปลงข้างๆเพิ่มเองค่ะ

สำหรับที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอกับผู้อยู่อาศัยที่ซื้อบ้านระดับราคานี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีรถมากกว่า 2 คัน อีกทั้งบ้านมีพื้นที่ที่กว้างขวางอยู่ได้หลายคน มีหลายห้องนอน แต่ละคนก็อาจจะมีรถคนละคัน ต้องดูดีๆนะคะ

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ในส่วนของห้องน้ำที่นี่ จัดให้เต็มตามที่เห็นในภาพ โดยเฉพาะห้องน้ำ Master Bathroom ที่ทำออกมาได้สวยงาม ส่วนเฟอร์นิเจอร์ การตกแต่ง ครัว หรืออื่นๆ ไม่ได้มีให้มา ซึ่งด้วยราคาระดับนี้ ผู้อยู่อาศัยมักจะชอบตกแต่งเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบริเวณบันได โครงการไม่ได้มีราวจับมาให้ ถ้าบ้านไหนมีผู้สูงอายุก็อาจจะลำบากไปหน่อย ต้องทำเพิ่มเองเพื่อความปลอดภัยค่ะ

สาธารณูปโภคส่วนกลาง มีสวนของโครงการที่มีสระน้ำคล้ายลำธารตื้นๆระบบเกลืออยู่ด้วย สามารถเล่นได้จริง มีพื้นที่สนามหญ้าสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ออกกำลังกาย พักผ่อน อ่านหนังสือ คลับเฮาส์ 3 ชั้น มีสระว่ายน้ำระบบเกลือชั้นสองแยกเด็ก-ผู้ใหญ่ อยู่บริเวณชั้น 2 พร้อมห้องสตรีม fitness ชั้น3 แม้ไม่ได้ใหญ่มาก เพราะอาจจะไม่เพียงพอกับบ้าน 80 หลัง แต่ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง ส่วนระบบไฟฟ้าของโครงการเป็นแบบไร้สาย เป็นแบบฝังทั้งหมด ไม่มีสายไฟมาเกะกะ ทำให้ทัศนียภาพโดยรวมดูดีขึ้น

ความปลอดภัย มี รปภ.มีกล้อง CCTV ติดให้ 4 ตัวในตัวบ้าน ฝั่งตรงข้าม ด้านข้าง ด้านหลังโครงการ ติดกับหมู่บ้านอื่นๆ เป็นแหล่งชุมชนที่พักอาศัย ปลอดภัยพอสมควร

ข้อเสียของโครงการนี้เท่าที่พบมีอยู่สองเรื่องคือ แปลงที่ดินโครงการด้านหลังติดกับหมู่บ้าน Happy Land Grand Ville 2 ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ทำให้แปลงด้านหลังโครงการไม่เป็นส่วนตัวเท่าไร และเรื่องของที่จอดรถที่สามารถจอดได้เพียง 2 คัน ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ที่ซื้อบ้านในระดับราคานี้

ส่วนในด้านของ Developer ซึ่งคือ Private Nirvana นั้น จะเห็นว่าไม่ได้ทำโครงการนี้เป็นโครงการแรก เคยผ่านโครงการ Private Nirvana ลาดพร้าวมาแล้ว เปิดบริษัทมา 10 ปี ทำโครงการอยู่ในละแวกนี้รวมแล้ว 6 หมู่บ้าน ซึ่งยอดโครงการ Private Nirvana Residence ที่เราไปรีวิวมาก็ขายไป 90% แล้ว ในอนาคตอันใกล้มีแผนเตรียมจะขึ้นอีกโครงการหนึ่งใกล้ๆ กันกับโครงการปัจจุบันค่ะ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 13 – 30 ล้านบาทสำหรับบ้าน Attik, 17/06/2013

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ไม่ติดถนนใหญ่ แต่ยังคงไปไหนมาไหนสะดวก ใกล้ทางด่วน เข้าเมืองง่าย  ใกล้ห้างสรรพสินค้าหลายห้าง
  • ความปลอดภัย 9.0/10 –  รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV ภายในบ้านที่โครงการติดให้ 4 ตัว
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถออกแบบเองและสั่งสร้างได้บางส่วน มีความยืดหยุ่นในการออกแบบ และสามารถซื้อเป็นแปลงๆ เพิ่มได้ แต่ภายในตัวบ้านบริเวณบันได ไม่ได้มีราวจับมาให้อาจจะลำบากหน่อยสำหรับบ้านหลังที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุค่อนข้างดีในหลายๆประเด็น
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – โครงการใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวและสวนในโครงการ สายไฟฟ้าเอาลงดินทั้งหมด
  • สาธารณูปโภค 8.0/10 – สาธารณูปโภคพื้นฐานดี มีอาคารคลับเฮาส์ 3 ชั้น

  • ระดับคะแนน 8.48 / 10.00

BOTTOM LINE

บ้าน Private Nirvana Residence เป็นบ้านเดี่ยวที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีลูก 2-3 คน หรือมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย มีรถยนต์ส่วนตัว มองหาโครงการย่านลาดพร้าว หรือโครงการใกล้จุดขึ้นทางด่วนที่ไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่อาจจะต้องเผื่องบแรงๆ เอาไว้แต่งบ้านสัก 7-10 ล้านค่ะ

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ ^^