FB-Cover2-3-4

รีวิวฉบับที่ 917 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปรีวิวคอนโดสร้างเสร็จจากพฤกษา ที่มีชื่อว่า Plum Condo ลาดพร้าว 101 เป็นคอนโด Low Rise ที่สูงแค่ 5 ชั้น 12 อาคาร รวมทั้งหมด 712 ยูนิต ตัวโครงการอยู่ติดถนนลาดพร้าว 101 ตามชื่อโครงการ Plum Condo ลาดพร้าว 101 เป็นโปรเจคที่ 2 ของแบรนด์ Plum Condo ใน Segment ต่ำล้านของพฤกษาด้วย ตัวห้องมีแค่แบบเดียวเท่านั้นขนาด 22.36 ตร.ม. ปัจจุบันราคามีการขยับขึ้นไปจากเดิมนิดหน่อย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9 แสนกว่าบาท ไปดูของจริงกันเลยดีกว่าครับ

Fact @ 8 September 2015

  • Plum Condo Ladprao 101 (พลัม คอนโด ลาดพร้าว 101)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางกะปิ
  • คอนโด Low Rise 5 ชั้น 12 อาคาร 712 ยูนิต
  • ที่ดินประมาณ 8-1-71 ไร่
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 13 ยูนิตที่อาคาร A B D E G J K
  • เริ่มก่อสร้าง : 2012  /  ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว
  • 1 Bedroom  พื้นที่ใช้สอย 22.36 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 945,394 บาท เฉลี่ยตารางเมตรละ 42,284 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 44,073 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงสุด 45,728 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-370-1515
  • Call Center : 1739

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.789011, 100.627524

map-office-plum-101

แผนที่จากทางโครงการครับ คอนโดตั้งอยู่ลึกเข้าไปในซอยลาดพร้าว 101 ก่อนจะถึงวัดบึงทองหลาง จากแผนที่แสดงจุดสำคัญต่างอาทิเช่นห้างสรรพสินค้า ธนาคาร โรงพยาบาลไว้ให้แล้ว

1-แผนที่ระยะไกลกดคลิกที่แผนที่เพื่อดูขนาดใหญ่

ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอย ลาดพร้าว 101 ซึ่งห่างจากปากซอยประมาณ 1.6 กม. สภาพแวดล้อมภายในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว แต่ในระยะหลังๆมีคอนโดผุดมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดริมถนนในซอยจะมีอาคารพาณิชย์อยู่เป็นระยะคล้ายๆกับซอยโชคชัย 4 หรือ ซอยลาดพร้าว 71 (นาคนิวาส) แต่ความหนาแน่นจะน้อยกว่าพอสมควร

แหล่งอาหารการกินจะมีร้านอาหารตึกแถวกระจายตัวอยู่ตลอดทั้งซอย หน้าโครงการจะมี 7-11 และ CP Fresh Mart และร้านค้าอาหารตึกแถวรถเข็นริมทาง แต่บริเวณที่มีเยอะหน่อยจะเป็นช่วงปากซอยและก่อนถึงวัดบึงทองหลาง ที่เลยตัวโครงการไปแล้ว ช่วงกลางๆซอยมี Tesco Lotus Supermarket บริเวณใกล้เคียงตัวโครงการในระยะเดินได้จะมี Community เล็กๆของ Happy Condo อยู่ติดกัน และอีกด้านเป็นโกดังและมีร้านอาหารอยู่นิดหน่อย ส่วนห้างสรรพสินค้าต่างๆจะมี  CDC, Crystal Park, Tesco Lotus, Food land, The Mall บางกะปิ และสถานที่ต่างๆสำหรับสำนักงานก็มี Makro และ Office Depot อยู่ติดกันกับ The Mall

การเดินทางด้วยรถถือว่าสะดวกดีเพราะมีทางลัดให้ออกได้หลายทางเส้นทาง วิ่งไปสุดทางเข้าซอยโพธิ์แก้วจะทะลุ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) และถนนนวมินทร์(สุขาภิบาล 1)ที่ใช้ไปออกเส้น ประเสริฐมนูกิจ(เกษตร-นวมินทร์)ได้ และยังมีซอยลาดพร้าว 101 แยก 39 ที่ทะลุซอยลาดพร้าว 87 ได้อีก ทางด่วนที่มีให้ใช้ใกล้สุดจะเป็นด่านลาดพร้าว และด่านโยธินพัฒนา

2 แผนที่รถไฟฟ้า

ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถต้องพึ่งพารถเมล์เป็นหลักครับเพราะไม่มีรถไฟฟ้าในระยะใกล้เลยใกล้สุดตอนนี้จะเป็น MRT ลาดพร้าว ระยะห่าง 6.8 กม. ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) โดนโรคเลื่อนไปคงจะเสร็จไม่ทันภายในปี 2562 ตามแผนการ แต่ถ้าเสร็จแล้วจะมีสถานีลาดพร้าว 101 อยู่บริเวณปากซอยเลย

3-แผนที่รถสาธารณะปากซอย

บริเวณปากซอยลาดพร้าว 101 จะมีป้ายรถเมล์อยู่พอดีบริเวณสะพานลอย และเข้าซอยไปนิดนึงจะมีพี่วินและรถ 2 แถวแบบ 6 ล้อคอยให้บริการอยู่ไม่ลำบากครับและความถี่ในการปล่อยรถอยู่ในเกณฑ์ดี

4-แผนที่ในซอย101

ถ้าจะทำธุรกรรมก็สะดวกเพราะในซอยมีเกือบครบทุกธนาคารเลยไล่จากจากปากซอยเข้าไปจะมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกสิการไทย, ธนาคารธนชาต, ธนาคารกรุงเทพ, และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ตามลำดับ ส่วนปั๊มน้ำมันก็จะมี ปั๊มน้ำมันบางจาก, และปั๊มสยามแก๊ส

เส้นทาง-2

เส้นทางจากโครงการไปถนนนวมินทร์(ถนนสุขาภิบาล1) ระยะทาง 3.3 กม.โดยใช้ถนนโพธิ์แก้ว

เส้นทาง-3

เส้นทางจากโครงการไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรม ระยะทาง 4.9 กม.เส้นทางนี้สามารถไป CDC ได้โดยไม่ต้องออกถนนลาดพร้าว ใช้เลี่ยงรถติดได้ครับ

เส้นทาง1

เส้นทางการเดินทางในวันนี้ เริ่มต้นที่ 5 แยกลาดพร้าวเช่นเดิมครับ ขับตรงไปลาดพร้าวตอนปลาย ผ่านแยกรัชดาลาดพร้าว แล้วขับตรงยาวไปจนถึงซอยถึงซอยลาดพร้าว 101 แต่ถ้ารถติดมากสามารถใช้เข้าซอย ลาดพร้าว 87 ได้นะครับช่วยร่นระยะได้หน่อยนึง

ที่เลือกเดินทางจาก 5 แยกลาดพร้าว เพราะเป็นแหล่งที่มีห้างใหญ่ๆให้เดินกัน เริ่มจากหน้า Union Mall บนถนนพหลโยธินวนขึ้นสะพานเพื่อเข้าเส้นลาดพร้าวการเดินทาง

ชิดซ้ายเพื่อเตรียมม้วนเข้าสู่ถนนลาดพร้าว

พอเริ่มเข้าถนนหลักลาดพร้าว ทางซ้ายมือจะเป็นเป็นห้างแหล่งช้อปในราคาไม่แพงอย่าง Union Mall และติดกับ MRT สถานีพหลโยธินด้วย

ถัดมาอีกหน่อยทางซ้ายมือจะเป็นห้าง Big C Extra (คาร์ฟูร์เก่า)

มาถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปศาลอาญา แยกรัชโยธิน ถ้าเลี้ยวขวาจะไปถนนรัชดา สุทธิสาร ห้วยขวาง ส่วนเราตรงไปครับผม

ผ่านแยกภาวนา(ซ.ลาดพร้าว 41) ทางซ้ายมือ

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับตลาดโชคชัย 4

ทางแยกข้างหน้าที่เห็นจะเป็นทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เราตรงลอดใต้ทางด่วนไปเลย

พ้นมานิดเดียวทางซ้ายมือจะเจอกับ บิ๊กซี ลาดพร้าว บริเวณนี้ช่วงเย็นๆ รถจะติดมากเป็นพิเศษหน่อย เพราะคนมาจากทางเลียบด่วนเลี้ยวเข้ามาถนนลาดพร้าวที่อยู่อาศัยช่วงนี้ค่อนข้างเยอะ

ถัดมาจะเจอกับสนง.วังทองหลาง

ตรงมาจะเจอกับ Market Mall อย่าง Foodland ที่เปิดตลอด 24 ชม.อีกด้วย ถัดไปไม่ไกลคือรพ.ลาดพร้าว ซึ่งมีซอยลาดพร้าว 95 คั่นกลางครับ

เลยรพ.ลาดพร้าวมานิดนึง จะเจอกับสามแยกไฟแดง ที่ถ้าเราเลี้ยวขวาไปจะเป็นซอยลาดพร้าว 122 สามารถลัดเลาะไปออกซอยรามคำแหง 65 ได้

15

มาถึงปากซอยลาดพร้าว 101 แล้ว จุดสังเกตจะเห็นสะพานลอยทางเกาะกลาง เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย

เข้าไปเพียงนิดเดียวจะเจอกับ “ตลาดสดลาดพร้าว” ช่วงปากซอยจะเป็นแห่งร้านอาหารมากมาย และซอยนี้เป็นซอยเส้นทางลัดที่สามารถไปเชื่อมกับถนนนวมินทร์ได้ด้วย

เข้ามาไม่ถึง 100 เมตร ก็จะเจอจุดที่ใช้รถสาธารณะกันได้ 2 อย่างคือวินรถสองแถวที่วิ่งไปกลับจากตรงนี้ไปถึงวัดบึงทองหลาง และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ฝั่งตรงข้ามครับ

ตัวถนนในซอยนี้มีขนาด 4 เลนวิ่งได้สบายครับแต่จะมีรถติดบ้างช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะในซอยนี้เป็นแหล่งชุมชนอยู่อาศัยกันเยอะพอสมควร

ภายในซอยมีทั้งปั๊มแก๊สและปั๊มน้ำมัน

0

Tesco Lotus Supermarket พร้อมด้วยธนาคารกรุงไทย

Happy Condo ที่ด้านหน้าเป็น Community Mall เล็กๆชื่อว่า Happy Avenue อยู่ก่อนถึงโครงการประมาณ 150 เมตร เดินไม่กี่ก้าวก็ถึง มีร้านแบบอินเตอร์แบรนด์อยู่นิดหน่อยถ้าไม่อยากเจอรถติดหรือหาที่จอดในห้างลำบาก ก็ใช้บริการที่นี่ได้ครับ อ้อ..ที่มีมี Max Value และก็ธนาคารออมสินด้วยนะ

ติดกันทางซ้ายมือเป็น Ofiice Building โครงการ The Primary 101 (เดอะ ไพรมารี่ 101) ที่ทางเราได้เคยรีวิวไว้แล้ว

ถัดมาก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้วครับทางซ้ายมือ แต่ก่อนเข้าไปดูในโครงการผมจะพาไปดูในซอยต่ออีกสักหน่อย เพราะมีทางลัดที่มาจากลาดพร้าว 87 และ มีซอยโพธิ์แก้วที่ไปเชื่อมต่อถนนนวมินทร์ และโยธินพัฒนาได้

เลย Plum Condo มาจะมี CP Fresh Mart และ 7 Eleven

ซอยลาดพร้าว 87 จะมาทะลุซอยนี้ครับ (ลาดพร้าว 101 แยก 39)

ตรงเข้ามาอีกหน่อยจะมี วิทยาลัยหัตถกรรมกรุงเทพอยู่

ใกล้ๆกันจะมี ธนาคารกรุงเทพและธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งอยู่แถวๆนี้ก็มีของกินให้เลือกเหมือนกันครับ

ช่วงก่อนถึงวัดบึงทองหลางจะเป็นแหล่งร้านค้าและอาหารเต็มไปหมด ถ้าใครเบื่อๆร้านใกล้โครงการก็เข้ามาแถวนี้ได้ครับ ไม่ไกลมากขับรถแป๊บเดียวถึง

เลยวัดบึงทองหลางไปจะเจอ ซอย โพธิ์แก้วที่ไว้ใช้เป็นทางลัดไป CDC ได้

สุดซอยเป็นวินรถ 2 แถวครับ ถ้าวิ่งลึกเข้าไปอีกหน่อยจะเจอกับหมู่บ้านแฮปปี้แลนด์แกรนด์วิลล์

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดสดลาดพร้าว
  • The Mall บางกะปิ
  • Crystal Park
  • Crystal Design Center (CDC)
  • Makro และ Office Depot
  • ในซอยมี 7-11 , CP Fresh Mart, Mini Big C, Tesco Lotus Supermarket
  • โรงพยาบาลลาดพร้าว และ โรงพยาบาลเวชธานี
  • ไปรษณีย์ 128/2 (อยู่ซอยตรงข้าม ลาดพร้าว 101)
  • ธนาคารในซอย (กรุงศรีอยุธยา, กรุงไทย, ออมสิน, กสิการไทย, ธนชาต, กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์)


เจาะลึกตัวโครงการ

5-แผนที่ระยะประชิด

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

แผนที่ซูมในระยะประชิดรอบๆโครงการ ผมทำประกอบให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมในระยะประชิดนะครับว่าติดกับอะไรบ้าง ตึกไหนจะได้วิวไหน ซึ่งโครงการ Low Rise ส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้คาดหวังวิวที่จะได้อยู่แล้ว เน้นอยู่อาศัยเสียมากกว่า

ผังประกอบ

รูปประกอบสภาพแวดล้อมของจริงรอบๆโครงการ ถ่ายจากโดรนบินขึ้นครับ จะเห็นว่ารอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะถูกล้อมไปด้วนอาคารเพื่อนบ้านสูง 4-6 ชั้น

MasterPlan

ก่อนเข้าไปในโครงการ เรามาดู Master Plan กันก่อน  รูปร่างที่ดินคล้ายๆบ้านจัดสรร ทางเข้านิดเดียวแล้วเข้ามาบานข้างในเป็นที่ดินผืนใหญ่ อาคารมีทั้งหมด 12 ตึกใช้ชื่อฤดูกาลเข้ามาตั้งชื่อทีละแถว ไล่ตั้งแต่ Spring / Summer / Autumn / Winter จากบนลงล่าง รอบๆและภายในโครงการมีการจัดสวนและสอดแทรกพื้นที่สีเขียวระหว่างอาคารตลอดแนว ที่จอดรถเป็นช่องจอดแบบกลางแจ้ง และสามารถจอดซ้อนคันได้เพราะถนนระหว่างตึกค่อนข้างกว้าง

ที่ทางเข้าออกจะเป็นซุ้มป้อมรปภ. เป็นรั้วกั้นไม้กระดกแบบแตะคีย์การ์ดลูกบ้านถึงเข้าออกได้ มี CCTV และรปภ.ประจำอยู่ตลอด ส่วนที่จอดรถจอดด้านหน้าและรอบๆอาคาร ผมลองนับเองได้ช่องจอดประมาณ 143 คัน คิดเป็น 20% ถ้ารวมซ้อนคันคิดเพิ่มเป็น 30% (แต่ทางโครงการเคลมว่าได้ปรับเปลี่ยนที่จอดรถใหม่จาก master plan จะจอดได้ประมาณ 40%) รั้วรอบๆโครงการเป็นรั้วคอนกรีตทาสีสูงประมาณ 3 เมตร

เส้นทางการเดินภายในโครงการ ผมจะพาไปดูทั้งหมด 4 จุดตามลูกศรที่ประกอบเอาไว้ในผังโครงการ มาเริ่มที่จุดที่ 1 กันเลยหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ

ด้านหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ ติดป้ายสัญลักษณ์ plum condo ladprao 101 ไว้เด่นชัดเจน

ถัดมาจะเป็นซุ้มทางเข้า-ออก โดยมีป้อมรปภ.อยู่กึ่งกลาง มีรปภ.ประจำอยู่ตลอด 24 ชม. ทางขวามือเป็นทางเดินริมฟุตบาทไว้เดินเข้าออกไม่มีประตูกั้น

สำหรับลูกบ้านจะมีที่แตะคีย์การ์ด เพื่อเปิดรั้วกั้นกระดก ถ้าใครไม่มีคีย์การ์ดก็ต้องแลกบัตรที่ป้อมนะครับ

ที่แตะบัตร + รั้วกั้น + CCTV (รั้วกันนี่ปิดมิดชิดดีนะครับ บางโครงการที่ผมเห็นจะเหลือช่องสำหรับรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ บางทีก็เจอพวกลักไก่แอบเข้าไปเนียนๆบ้าง

เดินทางการเดินทาง-8

พ้นป้อมรปภ.มาแล้วจะเป็นถนนภายในโครงการสองเลน ลาดยางนะครับ ทางขวามือเป็นริมฟุตบาททางเดินได้ บริเวณนี้จำกัดความเร็วประมาณ 20 เท่านั้นนะครับและมีเนินลูกโดดเอาไว้ชะลอความเร็วด้วย

รั้วกำแพงรอบๆโครงการจะเป็นคอนกรีตทึบสูงประมาณ 3 เมตร ทาสีน้ำตาลเอาไว้ มีไฟส่องถนนและทางเดินเอาไว้ตลอดทาง และโครงการได้ปลูกแนวพุ่มไม้เอาไว้เป็นระดับทำให้ดูร่มรื่นพอสมควร

สุดทางจะเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้าย อ้อ.. ภายในโครงการตามจุดริมกำแพงต่างๆจะมีกล้อง CCTV อยู่ให้เห็นตลอดนะ

มาถึงบริเวณสามแยกแรกนะครับเราจะเลี้ยวขวาไปดูโซนนี้กันก่อน

ตึกแรกที่เจอเลยจะเป็นตึก F จาก Zone Summer ที่เป็นที่ตั้งของ Lobby และนิติบุคคลด้วยครับ

เข้ามาดูข้างใน เป็นพื้นที่ Double Volume โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับแขก ถัดไปด้านในเป็นห้องของนิติบุคคล

ขึ้นมาดูชั้นบนกันบ้าง เป็นพื้นที่นั่งเล่นอเนกประสงค์สำหรับลูกบ้าน และสามารถเอาไว้ให้เพื่อนหรือครอบครัวที่มาหามานั่งรอบริเวณนี้ก่อนก็ได้นะ

กลับมาด้านนอกกันบ้าง มองตรงไปถนนระหว่างอาคาร ทางขวามือเป็น Spring Zone ไล่จากใกล้ไปไกลคือตึก C B A และทางซ้ายมือเป็น Summer Zone ไล่จากใกล้ไปไกลคือตึก F E D

หน้าอาคารจะมีจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้ให้ ทาสีเส้นเป็นช่องจอดรูปแบบนี้

ตอนนี้เริ่มมีลูกบ้านอยู่หลายคนแล้วนะครับ ทำให้มีรถจอดค่อนข้างเยอะ และจะสังเกตเห็นว่าเวลาจอดซ้อนคันจะเป็นแบบนี้

หน้าตาโดยรวมภายนอกอาคารค่อนข้างคล้ายกัน เพราะมีห้องรูปแบบเดียว ต่างกันแค่บางอาคารมีจำนวนหนาแน่นต่อยูนิตไม่เท่ากัน

ช่องระหว่างอาคารด้านข้าง มีทางเดินเชื่อมไปสวน และมีบันไดหนีไฟส่วนนอกอาคารให้เห็นแบบนี้

เดินต่อมาจนสุดรั้วกำแพง(ทิศตะวันตก) จะเห็นว่าโดนบล็อกวิวจาก ลาดพร้าววิวแมนชั่นฝั่งนี้ที่สูง 7 ชั้น

หันมองทางซ้ายมีช่องจอดได้อีก 2 คัน

มาทางขวา จะเป็นพื้นที่จอดรถอีกส่วนนึง

เลี้ยวขวา ด้านหลังอาคารฝั่ง Spring Zone จะมีพื้นที่สวนหย่อม ที่เอาไว้เดินและนั่งเล่นได้ จะเห็นว่าโครงการเอาเก้าอี้ม้านั่งวางไว้ตามจุด และมีไฟส่องตามทางเดินไว้ตอนกลางคืนด้วย

มีชุดโต๊ะเก้าอี้ ไฟส่องทาง และลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้เป็นระยะ ถ้าออกใบมากกว่านี้คงร่มรื่นน่าดู

หันมามองทางขวามือบริเวณอาคารจะเห็นหน้าตาด้านนอกแบบนี้นะครับ ถ้าชั้น 1 ระเบียงจะถูกกั้นปิดเอาไว้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็แอบทำให้ดูอึดอัดขึ้นมาหน่อยนึง

เส้นทางถัดไปจุดที่ 2 จะเข้าไปดูบริเวณด้านหลังของ Summer Zone และ Autumn Zone

เลี้ยวขวาเพื่อเข้าระหว่างอาคารโซน Summer และ Autumn Zone

ถนนจะแคบกว่าเส้นเมนตอนแรกค่อนข้างมาก และมีช่องจอดรถใต้อาคารด้วย

เวลาจอดรถในช่องจอดใต้อาคารเป็นแบบนี้ ความสูง 2.10 เมตร

พอสิ้นสุดที่อาคารแรก จะเป็นทางเดินเชื่อมได้ทั้งซ้ายและขวา ส่วนตรงกลางจะเริ่มเป็นพื้นที่สวน

รูปแบบสวนก็จะคล้ายๆกับซอยแรกที่พาไปดู แต่ลงต้นไม้ใหญ่น้อยกว่าหน่อยนึง

มีทางเดินคอนกรีต และไฟส่องทาง ตลอดทางเดิน

เดินมาจนสุดรั้วกำแพงเช่นเดิม จะเป็นบริเวณที่วางตู้เกี่ยวกับงานไฟครับ

เส้นทางถัดไปจุดที่ 3 จะเข้าไปดูบริเวณด้านหน้าของ Autumn Zone (G H I) และ Winter Zone (J K L)

จะเริ่มเลี้ยวเข้าซอยโซนของ Autumn Zone (G H I) และ Winter Zone (J K L)

หน้าตาถนนซอยเหมือนกับซอยหลักซอยแรก ที่กว้างและจอดซ้อนคันได้สบาย

เริ่มมีลูกบ้านเข้าอยู่เหมือนกันแล้วนะครับ ซอยนี้ มีให้เห็นตากผ้ากันบ้างแล้ว

หน้าตาอาคารเหมือนกันหมด คือช่วง 2 ตึกแรกจะเป็นรูปตัว I

ส่วนสองอาคารสุดท้ายซ้ายและขวา อาคารเป็นรูปตัว L

เดินสุดมาท้ายซอยริมรั้วกำแพง

ซ้ายมือและขวามือเป็นช่องจอดรถฝั่งละ 2 คัน

เส้นทางสุดท้ายจุดที่ 4 จะเข้าไปดูบริเวณด้านหลังของ Winter Zone ที่จัดเป็นสวนหย่อมทางเดินและนั่งเล่น

ด้านข้างอาคาร L ฝั่งนี้มีทางเดินคอนกรีตอ้อมไปด้านหลังอาคาร เราจะเห็นที่ตั้งของศาลพระภูมิครับ

บริเวณหัวมุมทางเลี้ยวมีเก้าอี้ม้านั่งให้ 3 ตัว และมี CCTV ประจำจุดนี้ด้วย

รูปแบบการจัดสวนและทางเดินเหมือนกัน

หันไปมองทางซ้ายรั้วโครงการฝั่งนี้(ติดกับทิศใต้) จะเป็นคลองลำพังพวยที่คั่นกลาง และจะเห็นคอนโดเพื่อนบ้านคือ Happy Condo ที่สูง 6 ชั้น

FloorPlan

ก่อนเข้าอาคารเรามาดูที่แปลนของอาคารทุกชั้นเป็นที่พักอาศัยทั้งหมด จอดรถบริเวณที่ดินรอบๆตึกเอา แต่ละชั้นมีประมาณ 10-13 ห้อง มีลิฟท์ 1 ตัว/อาคาร อืม… ก็ต้องทำใจนิดนึงนะครับว่าถ้าลิฟท์หยุดลิฟท์เสีย ต้องเดินได้ 5 ชั้น กำลังขาแข็งแรงหน่อย! ไม่งั้นก็จองชั้น G ไป (ทนควันรถนิดนึง) โดยเมื่อเราเข้าอาคารมาจะเจอส่วนของโถงทางเข้า ที่มีห้อง CCTV โถงลิฟต์และบันไดหนีไฟ โดยลิฟต์โดยสารมีให้ 1 ตัว อัตราส่วนดังนี้

  • อาคาร A, B, D, G, J ความหนาแน่นของลิฟท์  64 : 1
  • อาคาร E, K  ความหนาแน่นของลิฟท์  63 : 1
  • อาคาร I  ความหนาแน่นของลิฟท์  58 : 1
  • อาคาร C, H, L  ความหนาแน่นของลิฟท์  54 : 1
  • อาคาร F  ความหนาแน่นของลิฟท์  43 : 1

ทุกอาคารถือว่าไม่หนาแน่นเท่าไหร่ ส่วนบันไดหนีไฟ 2 จุด ตรงข้างโถงลิฟต์และภายนอกอาคาร จำนวนหนาแน่นยูนิตต่อชั้นมากสุดจะอยู่ที่ 13 ยูนิต ห้องมีแบบเดียว 22.36 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 945,391 เน้นราคาเร้าใจเป็นหลัก… คอนโดระดับ SUPER ECONOMY ก็แบบนี้แหละครับ สวนมีนิดหน่อย สระว่ายน้ำไม่ต้อง เปลืองพื้นที่ตึกและพื้นที่จอดรถ ทำเลกับราคาไปล้วนๆ!

ทางเข้าอาคารมีหน้าตาเช่นนี้ มีสัญลักษณ์บอกว่าเป็นอาคารอะไร และสีบ่งบอกถึงโซนของอาคาร ทางขึ้นเป็นสเต็ปขึ้นมาเล็กน้อย ทางขวามือเป็นประตูห้องเก็บของของแม่บ้าน

ตู้จดหมายจะอยู่บริเวณซ้ายมือทางเข้า ต้องใช้กุญแจลูกบ้านไขเปิดเอา

การเข้า-ออก อาคารจะใช้ Keycard ทาบที่จุดทาบบัตร

เข้ามาในอาคารจะเจอโถงทางเดิน และลิฟท์อยู่ทางเข้าเลย มี CCTV และถังดับเพลิงอยู่บริเวณนี้ด้วย

ด้านข้างลิฟท์จะมีป้ายบอก Floor Plan ของแต่ละชั้น และก็ประกาศต่างๆจากทางนิติบุคคลอาคาร

ส่วนกลาง52

ภายในลิฟท์หน้าตาแบบนี้ ของ Schindler

หันมามองทางขวาจะเห็นส่วนของตู้งานระบบไฟ และมิเตอร์ไฟ

โถงทางเดินหน้าห้องความกว้าง 1.50 เมตร มีไฟกิ่งตามทางเดินตลอด

ลองขึ้นมาที่ชั้น 5 ดูบ้าง ออกจากลิฟท์มาเจอกับเลข 5 ที่ใช้ทาสีบอกเลขชั้นเอา

ที่โถงทางเดินเราจะได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ด้านนึงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งคู่ ส่วนอีกด้านมาจากทางบันไดหนีไฟ

ลองออกมาดูบันไดหนีไฟด้านนอกอาคารจะเป็นแบบนี้ครับ

ส่วนบันไดหนีไฟอีกจุดนึงในอาคารค่อนข้างกว้าง และโปร่งมีช่องแสงส่องมาทั่วถึง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนหย่อมรอบโครงการ เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 2 ไร่
  • Lobby 2 ชั้น ที่ตึก F
  • ไม่มี Service Lift
  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัวต่อ/อาคาร
  • ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ มีให้บริการ 2 จุด
  • Self – Service Laundry Room มีให้บริการ 2 จุด
  • ระบบ CCTV / Access Card / ป้อมรักษาความปลอดภัยที่ Main Gate
  • ที่จอดรถประมาณ 143 คันคิดเป็น 20% รวมจอดซ้อนคัน เป็น 190 คันคิดเป็น 30% (แต่ทางโครงการเคลมว่าได้ปรับเปลี่ยนที่จอดรถใหม่จาก master plan จะจอดได้ประมาณ 40%)


Product Walkthrough

roomplan

ห้องที่นี่มีแค่แบบเดียวเท่านั้นเหมือนกันทั้งโครงการ คือมีพื้นที่ 22.36 ตารางเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร โดยโครงการขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้ภายในห้องก็จะมีชุดครัว, แอร์ 1 ตัว และวอลเปเปอร์เท่านั้น ที่เหลือตกแต่งให้ดูเป็นไอเดีย ฟังก์ชั่นของห้อง 22.36 ตารางเมตรนี้เป็นรูปแบบคล้ายใกล้เคียงกับของลุมพินี Layout แบบนี้เป็น Layout ที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าดีที่สุดสำหรับห้องขนาด 22 ตารางเมตร และอยู่ได้จริง

เมื่อเข้าห้องไปปุ๊บสิ่งแรกที่เจอคือห้องรับแขก ที่สามารถวางโซฟาและโต๊ะทำงานตัวเล็กๆได้ เชื่อมต่อกับโซนห้องนอนแบบเปิดไม่มีฉากกั้นมาให้ แต่สามารถทำเพิ่มเองได้ ถ้าใครชอบความเป็นสัดส่วน หรืออยู่กับแฟนจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวคนละจุดระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ในห้องนอนมีพื้นที่เหลือให้ทำชุดตู้เสื้อผ้า Build-In ได้เต็มพื้นที่ มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติได้ขนาดปานกลาง ส่วนของห้องครัวตรงนี้สามารถต่อเติมประตูเองเพื่อกั้นให้เป็นครัวปิดได้นะ โดยห้องครัวจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็น และวางโต๊ะทานอาหารเล็กแบบ 2 ที่นั่งพอได้ และส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจน ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าด้านบนเป็นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์

ประตูบานหน้าห้องเป็นบานไม้เซาะร่องหน้าตาแบบนี้ ลูกบิดจับเป็นแบบสามัญธรรมดาทั่วไป หน้าห้องทุกห้องจะมีป้ายบอกเลขที่ห้อง โทนสีเดียวกับโซนของแต่ละอาคาร

เข้ามาในห้องจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตร พื้นที่ได้เป็นลามิเนต 8mm. โคมไฟเป็นแบบซาละเปา สไตล์การตกแต่งห้องของ Plum Condo ลาดพร้าว 101 พฤกษาทำได้ดีนะครับ แนวสดใสวัยรุ่นสวยๆ เน้นสีสันตัดกับสีพื้นขาวๆ

มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้าหน้าห้อง จะเห็นว่าระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร ก็จัดทีวีไซส์สักประมาณ 40-47 นิ้ว กำลังดี

ในส่วนของห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ 1 ตัว ควรจะวางแบบไม่มีพนักแขนนะครับ ไม่อย่างนั้นจะนั่งสองคนอึดอัด ถ้าอยู่ตัวคนเดียวก็สามารถหาโต๊ะทำงานเล็กๆมาวางแบบนี้ก็ได้นะครับ แต่ถ้าใครชอบให้มีแขกมาบ้าง หรือชอบพื้นที่นั่งดูหนังกับแฟน ก็สามารถเลือกซื้อโซฟาขนาดใหญ่ขึ้นก็ได้ แล้วแต่การใช้งานจริงของแต่ละบุคคลด้วย อ้อ ส่วนพื้นที่ผนังด้านบน ถ้าต้องการใช้ให้คุ้มค่าก็สามารถ Build ติดผนังเพิ่มเป็นชั้นวางหรือตู้เก็บของแบบนี้ก็ได้

มุมซ้ายบนของห้องมีเบรคเกอร์สวิทช์ไฟเอาไว้ให้

มาดูบริเวณที่วางชั้นวางทีวีกันบ้าง พื้นที่ความกว้างตรงนี้อยู่ที่ประมาณ 1.2 เมตร โดยเราสามารถทำทีวีแขวนผนังแบบนี้ก็ได้นะครับ จะได้มีพื้นที่วางของเพิ่มด้วย และดูไม่เกะกะอีกต่างหาก

มาดูโซนห้องนอนที่เชื่อมต่อกันบ้าง จะเห็นจากใน Room Plan ว่าบริเวณนี้สามารถติดตั้งฉากกั้นเองได้ จะทำให้กลายเป็นแบบ 1 Bed ไปเลย ซึ่งการกั้นฉากกั้นผมแนะนำว่าถ้าจะทำให้เป็นแบบกระจกบานเลื่อนเราจะได้ช่องแสงส่องเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นด้วย ทำให้ดูโปร่งโล่งไม่อึดอัดและการกั้นแบบนี้จะเป็นพื้นที่ความเป็นส่วนตัวถ้าหากใครอยู่ด้วยกันสองคน คงจะมีอารมณ์อยากสงบเงียบอยู่คนเดียวบ้างบางครั้งคราว เช่นคนนึงอยากอ่านหนังสือ คนนึงอยากดูทีวีเป็นต้น ห้องตัวอย่างโครงการวางเตียงขนาดไซส์ 5 ฟุตมาให้ดูนะ

ระยะจากปลายเตียงจนถึงผนังห่างประมาณ 55 cm.

ผนังบริเวณนี้ของจริงจะหลุบเป็นร่องเข้าไปเอาไว้สำหรับเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า หรือถ้ามีงบมากหน่อยก็ Build-In ให้เต็มช่องเลยก็ได้ครับ ลดปัญหาเรื่องฝุ่นสะสมด้วย

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งนี้ติดกับช่องแสงเหลือแค่ประมาณ 20 cm. ไม่สามารเดินเข้าไปได้นะครับ พอดีสำหรับถ้าติดตั้งผ้าม่านแล้ว

หน้าต่างเป็นหน้าต่างบานใหญ่ กระจกใส วงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ด้านล่างจะเป็นแบบ fixed ส่วนด้านบนเป็นบานเลื่อนซ้ายขวา

ตัวล็อกเปิดปิดหน้าตาเช่นนี้ เป็นแบบมือจับเซาะร่องลงไป

ทดลองเปิดหน้าต่างให้ดู ค่อนข้างใหญทีเดียว รับแสงเข้ามาในห้องได้มาก

การที่ห้องอยู่ชั้น 1 ข้อดี(บางโซน) ข้อดีคือจะได้เห็นพื้นที่สีเขียวจากด้านนอกหน้าต่าง แต่… ก็ทำให้เราเสีย Privacy ไปเหมือนกัน คิดดูถ้าใครเดินผ่านไปมาก็จะเห็นในห้องเช่นกันถ้าเราไม่ได้ปิดม่าน

ตำแหน่งแอร์จะอยู่บนหน้าต่างพอดี แอร์ที่ได้เป็นของ Panasonic 9,000 BTU

ส่วนของห้องครัวตรงนี้สามารถต่อเติมประตูเองเพื่อกั้นให้เป็นครัวปิดได้นะ

ภายในห้องครัว จะอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะรับประทานอาหาร และด้านข้างเป็นพื้นที่วางตู้เย็น

ด้านบนจะมีฝ้าที่ลดระดับลงมาประมาณ 20 cm. เป็นส่วนของเก็บงานระบบ

ชุดครัวที่มาตรฐานโครงการให้มาหน้าตาเป็นแบบนี้ ไม่มี Hob&Hood มาให้

ชั้นบนเป็นชั้นวางของแบบเปิดและตู้แบบปิดได้ งาน finishing แบบธรรมดาไม่ใช่ soft close

Top ครัวผิวเมลามีนกันน้ำและความร้อนได้ระดับนึงมีตัวจบชิดกับขอบผนังเป็นอลูมิเนียมให้ ผนังเป็นฉาบเรียบทาสีธรรมดา ผมแนะนำเพิ่มเติมว่าใครชอบทำอาหารทำกับข้าวกินเองบ่อยให้ติดตั้งกระเบื้องหรือกระจกเพิ่ม จะให้กันเลอะจากเวลาทำครัวและเพิ่มความสวยงามด้วย

ชุดอ่างล้างจาน ขนาดค่อนข้างใหญ่

ชุดตู้ด้านล่างหน้าตาเช่นนี้ มีช่องใส่ไมโครเวฟเอาไว้ให้ด้านล่างแบบนี้ดี เวลาอุ่นอาหารหยิบใส่ง่ายมากกว่าเอาไว้ด้านบน

พื้นที่วางตู้เย็นด้านข้างเหลือประมาณ 75 cm. ถือว่ากว้างอยู่สำหรับห้องไซส์นี้

ฝั่งตรงข้ามกับชุดครัวจะเป็นโต๊ะทานอาหารเล็กๆสำหรับ 2 ที่นั่งได้ ห้องตัวอย่างเอาพร็อพสีสันมาตกแต่งบริเวณผนังทำให้ดูไม่เรียบจนเกินไป

ลองดึงเก้าอี้นั่งออกมาให้ดู ฝั่งที่หลังติดผนังจะอึดอัดหน่อย เวลาใช้งานจริงอาจจะต้องเขยิบโต๊ะถอยหลังออกมานิดนึง

สวิทช์และปลั๊กไฟภายนห้องหน้าตาแบบนี้ ของ Bticino

ประตูห้องน้ำเป็น PVC เบสิคแบบนี้ ลูกบิดจับก็เหมือนกับหน้าห้อง

ภายในห้องน้ำแยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ชัดเจน

ผนังติดกระจกเงาเอาไว้ให้ มีที่แขวนผ้าขนหนูด้านข้าง

ชุดอ่างล้างมือขนาดไม่ใหญ่มากไม่มีชุดตู้ใต้อ่าง ของ American Standard

สุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน ด้านข้างที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระอยู่ฝั่งเดียวกัน ใกล้กับสุขภัณฑ์มากไปนิดนึง เวลาใช้งานจริงจะหยิบลำบากหน่อย

พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียกเอาไว้ด้วยธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 12 cm. เวลาจะเดินข้ามก็ระวังสะดุดด้วยนะ ขนาดประมาณ 0.7 x 0.9 เมตร ทางโครงการไม่ได้ให้ฉากกั้นใดๆมา แนะนำว่าให้หาติดเพิ่มเองจะแบบไหนก็ได้ ผ้าม่าน หรือกระจกนิรภัย

หน้าตาชุดฝักบัวและที่วางสบู่ของ American Standard เช่นกัน

หัวฝักบัวขนาดเล็กมาก มือผมดูใหญ่มากไปเลย บนเพดานมีพัดลมดูดอากาศความชื้นเอาไว้ให้นะ

ไฟในห้องน้ำเป็นโคมดาวน์ไลท์แบบนี้ 1 ดวง มืดไปนิดนึง แนะนำว่าจะติดเพิ่มอีกสักจุดก็ดีนะหรือไม่ก็เปลี่ยนหลอดไฟที่มีกำลังวัตต์สูงหน่อย

ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าด้านบนเป็นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์

ตัวล็อกสีและรูปแบบ เหมือนกันกับหน้าต่างด้านนอกบริเวณห้องนอน

พื้นจะเป็นธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 15 ซม.(รวมวงกบ) ถ้าจะเดินข้ามไปมาก็ระวังสะดุดด้วยนะ

ลองยืนจากบนระเบียงถ่ายธรณีจะเห็นว่าสูงพอสมควร แต่ก็มีข้อดีเหมือนกันนะเวลาฝนตก หรือเราทำงานซักล้างที่ระเบียงไม่ต้องกลัวน้ำจะกระเด็นเข้าไปในห้องเลย

อันนี้จากระเบียงชั้น 1 จะกั้นผนังปิดด้วยระแนงทั้งหมดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็ดูอึดอัดเหมือนกัน

พื้นที่ระเบียงทั้งหมดประมาณ 1.0 x 1.5 เมตร ทางขวามือเป็นที่วางเครื่องซักผ้าได้

ของจริงจะมีท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งพร้อมติดตั้งเอาไว้ให้

มองขึ้นมาด้านบนจะมีปลั๊กไฟแบบฝาครอบกันน้ำเอาไว้ให้จุดนึง และคอมเพรสเซอรแอร์แขวนผนัง ลมร้อนหันหน้าเข้าหาใส่

ไฟเพดานโคมแบบซาละเปาเช่นกันแต่หลอดไฟเป็นสีส้ม

ลองมองไปยังระเบียงห้องฝั่งตรงข้ามให้ดูว่าชั้น 1 กับชั้น 2 ชั้น 1 พอปิดทึบดูอึดอัดไปเลย (>_<)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 September 2015

  • ทุกอาคาร ทุกโซน เนื้อที่ 22.36 ตร.ม.  ชั้น 1 ราคา 945,394 ล้านบาท หรือ 42,284 บาท/ตร.ม.
  • ทุกอาคาร ทุกโซน เนื้อที่ 22.36 ตร.ม.  ชั้น 3 ราคา 985,394 ล้านบาท หรือ 44,073 บาท/ตร.ม
  • ทุกอาคาร ทุกโซน เนื้อที่ 22.36 ตร.ม.  ชั้น 5 ราคา 1,022,394 ล้านบาท หรือ 45,728 บาท/ตร.ม

  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • จอง 500 บาท, ฟรีค่าทำสัญญา
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
  • ค่าส่วนกลาง 29 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่มาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ราคาต่างๆจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ผังประกอบ

Plum Condo ลาดพร้าว 101 นี้เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Happy Condo ลาดพร้าว 101 ที่อยู่ติดกันเลยทางทิศใต้ ซึ่งดูจาก Facility ของ Happy Condo นั้นดูดีและจัดเต็มกว่าโดยมี Happy Avenue อยู่ด้านหน้าโครงการ  มีสโมสรสระว่ายน้ำและฟิตเนส อีกทั้งยังมีอาคารสำหรับคนเลี้ยงสุนัขไว้ด้วย แต่!! Happy Condo ณ ปัจจุบันห้องที่ขายอยู่นั้น มีขนาดห้องอยู่ที่ประมาณ 37 ตร.ม.ขึ้นไป ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท(เฉลี่ยต่อตร.ม.ละ 52,000 บาท) ซึ่งก็หมายความว่าใครจะซื้อที่นี่ก็ต้องดูกำลังเหมาะสมกับตัวเองด้วยว่าจะกู้ได้ไหม,ผ่อนไหวไหม

พฤกษานั้นใช้กลยุทธตัดราคาลงมาอีก 1 ระดับ ไม่ยอมแข่งกันที่คอนโดระดับล้านขึ้นไป เปิดพื้นที่ใช้สอยมาที่ 22 ตารางเมตร(เฉลี่ยราคา/ตารางเมตรมาอยู่ที่ 42,000 บาท) และทำให้มีราคาโดยรวมต่อยูนิตค่อนข้างต่ำมาก.. ว่าง่ายๆก็คือ ห้องที่แพงที่สุดของ Plum Condo ยังห่างกับห้องที่ปัจจุบัน Happy Condo ขายอยู่(แต่ขนาด 37 ตร.ม.นะ) ราคารวมต่างกันถึง 1 ล้านบาท ทำให้เกิดตลาดใหม่ที่พฤกษาสามารถจับได้เต็มๆ คือคนที่มีเงินไม่ถึงล้านแต่อยากได้บ้าน ซึ่งเป็นก็ถือว่ามาถูกจุดของแบรนด์ Plum ของพฤกษาแล้วที่เล่นตลาดล่างที่คนจับต้องง่าย

มองจากทำเลกันก่อน ลาดพร้าว 101 เป็นทำเลประเภท “ก้ำกึ่ง” จะสร้างอะไรก็ได้ตั้งแต่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม แต่ถนนลาดพร้าว 101 นั้นถือว่าเป็นชุมชนใหญ่นะ โดยรอบมีถนน 4 เลน การที่ใครอยากหาที่อยู่อาศัยติดลาดพร้าว 101 เลยในราคาเบาหน่อยก็คงจะเป็นตลาดคอนโด Low Rise นี่แหละ สภาพแวดล้อมในซอยมี 7-11, CP Fresh Mart, Big C Mini, Tesco Lotus Supermarket หรือเดินไปหน่อยก็สามารถไป MaxValu ได้ที่ Happy Avenue ทำให้การใช้ชีวิต อยู่อาศัยและหาของกินทำได้สะดวก แหล่งร้านค้าและร้านอาหารต่างๆภายในซอยนี้มีเยอะอยู่เหมือนกันแต่จะไม่เยอะเท่าซอยโชคชัย 4 หรือ นาคนิวาส จะกระจายตัวกันอยู่ภายในซอย แต่บริเวณที่หนาแน่นหน่อยจะอยู่บริเวณปากซอยและบริเวณก่อนถึงวัดบึงทองหลาง ภายในซอยนี้ยังมีธนาคารและห้างร้านต่างๆที่ตอบสนองต่อการใช้ชีวิตอยู่อย่างครบถ้วน สำหรับแหล่ง Shopping, Hang Out แถวๆนี้ก็มี CDC, The Crystal Park, The Mall บางกะปิ, Lotus, Big C, Food Land, และ Home Pro โดยรวมแล้วมีความอุดมสมบูรณ์ดี

การเดินทางถือว่าค่อนข้างสะดวกในการติดต่อทำธุรกิจ เพราะลักษณะของซอยไม่ซับซ้อนเกินไปและตัวถนนมีขนาด 4 เลนตลอดทั้งซอย เวลามีคนมาติดต่อไม่หลงแน่นอนครับ มีทางด่วนอยู่ในระยะ 4 กิโลเมตร ซึ่งไม่ถือว่าใกล้แต่ก็ไม่ถือว่าไกลจนเกินไป เส้นทางหลักที่ใช้งานคงหนีไม่พ้นเส้นลาดพร้าวที่ขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว ส่วนเส้นทางอื่นๆที่มีทางลัดเชื่อมถึงกันคือ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) และถนนนวมินทร์(สุขาภิบาล 1) โดยใช้ซอย โพธิ์แก้ว ที่อยู่ด้านท้ายซอยเป็นทางลัด ทางด่วนที่มีให้ใช้ใกล้สุดจะเป็นด่านลาดพร้าว และด่านโยธินพัฒนา

คอนโดระดับนี้ไม่ต้องพูดถึงรถไฟฟ้าในระยะเดินนะครับ แต่อนาคต(มากๆ)จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองซึ่งสถานีจะอยู่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 101 นั่นเองก็คงต้องรอกันต่อไป การเดินทางโดยไม่ใช้รถเราจะมาดูกันที่การเดินและการใช้รถสาธารณะเป็นหลัก ซึ่งหน้าคอนโดก็มีรถสองแถว รถแท๊กซี่ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งผ่านอยู่ตลอด (แต่ก็อย่างที่บอกไปนะครับว่าสองแต่วิ่งแค่จากปากซอยไปสิ้นสุดแค่บริเวณวัดบึงทองหลางเท่านั้น) ปากซอยนั้นมีป้ายรถเมล์และสะพานลอยพอดี ถือว่าสะดวกระดับนึงนะ

หากจะวัดกันด้วยวัสดุ Plum Condo ลาดพร้าว 101 คงจะทำไม่ได้ดีนัก เพราะให้เป็นห้องเปล่าแถมแค่ Counter ครัวและแอร์ พื้นลามิเนต วงกบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ส่วนห้องน้ำและระเบียงปูกระเบื้องธรรมดาไซส์ 30 cm. แถมวอลเปเปอร์ให้อีกอย่าง โครงการใช้วัสดุธรรมดาที่ทำให้ต้นทุนต่ำเป็นหลักเพื่อให้แข่งขันได้ที่ราคา 9 แสนกว่าบาท ก่อสร้างด้วยระบบ Precast เป็นหลัก ยกเว้นผนังห้องนอนที่กั้นกับห้องครัวที่ใช้อิฐมวลเบา ดังนั้นก็ต้องคิดว่าจ่ายเท่าไหนได้เท่านั้นนะครับ

การออกแบบโครงการ Plum  ค่อนข้างเรียบง่ายสไตล์ Minimal เน้นสีเทา ตัดเส้นด้วยสีต่างๆตามฤดูของแต่ละชื่อโซน ซึ่งจริงๆแล้วก็คือตึกทรงเหลี่ยมที่มีการตกแต่งหน้าตาทาสีมีดีไซน์ ด้วยจำนวนอาคารที่มากถึง 12 อาคาร วางเรียงเป็นแถวๆทำให้ภาพรวมทั้งโครงการจะคล้ายๆกับอพาร์ทเมนท์และหอพักนักศึกษาที่มีพื้นที่สวนเดินเล่นรอบๆเท่านั้นเอง

Facility ของที่นี่ไม่มีอะไรมาก นอกจากสวนรอบๆโครงการที่สามารถเดินเล่นนั่งเล่นได้(พื้นที่สวนประมาณ 2 ไร่)  Main Gate และ Lobby 1 แห่ง การออกแบบห้อง Lobby ทำได้ดี สวยงาม น่าใช้ เป็น Lobby 2 ชั้น ตามคอนเซปท์ของ Loft + Lobby = “Lof’By” แต่ข้อเสียก็คือห้องนิดเดียวให้ใช้ตั้ง 12 ตึก 712 ยูนิต คงจะไม่พอต่อการใช้สอย และตัวตึกที่ได้ใช้มากที่สุดคงจะเป็นตึก F ซึ่งเป็นตึกที่ตั้งของ Lobby และตึกฝั่งตรงข้ามเท่านั้น

Judgement

การให้คะแนนแบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 42,000 บาท/ตร.ม., 8 September 2015

  • ทำเล 8.5/10 – ทำเลดีเมื่อเทียบกับราคา ชุมชนเจริญแล้ว มี Happy Avenue, CP Fresh Mart, 7-11 อยู่ในระยะเดินได้
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เข้าออกลัดเลาะได้หลายเส้นทางถนนกว้าง 4 เลน แต่..ที่จอดรถยนต์มีไม่มาก โครงการเคลมว่า 40%
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – คอนโดนี้มีวินมอเตอร์ไซค์ สองแถว แท๊กซี่ผ่านหน้าโครงการ แต่ไม่มีรถเมล์ผ่านหน้าโครงการ อนาคตมากๆมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหน้าปากซอย 101
  • วัสดุ 7/10 – คุณภาพวัสดุใช้ของตามราคา
  • แบบ 8/10 – แบบทำออกมาได้โอเค ฝ้าเพดานโปร่ง 2.50 เมตร แบบห้องใช้ 22 ตารางเมตรมาตรฐาน(ใกล้เคียงลุมพินี) ที่ผ่านการทดสอบมาเยอะแล้วว่าอยู่ได้แน่ๆ
  • สาธารณูปโภค 7.25/10 – ไม่ค่อยมีอะไรมาก มีแค่สวนรอบโครงการ และ Lobby ที่ตึก F แต่คอนโดระดับนี้ก็ไม่ต้องการอะไรมาก

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.87 / 10.00

BOTTOM LINE

Plum Condo ลาดพร้าว 101 เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์ไม่สูง เพราะราคาอยู่แค่ 9แสนกว่าบาท เหมาะสำหรับคนที่เขยิบจากการจ่ายค่าเช่าห้องรายเดือน แล้วอยากจะมี “บ้าน” เป็นของตัวเอง ซึ่งราคานี้คงไม่คาดหวัง Facility ที่มากมายนัก เน้นเป็นอยู่อาศัยเสียมากกว่า มีกำลังผ่อนประมาณ 6,500 – 8,000 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )