Pleno สุขสวัสดิ์ บ้านแฝดฟังก์ชั่นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 จาก AP [รีวิวฉบับที่ 949]

รีวิวฉบับที่ 949 วันนี้จะพาไปชมโครงการ Pleno สุขสวัสดิ์ โครงการฟังก์ชั่นบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ขนาดบ้านแฝดที่ตั้งอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 ไม่ไกลจากโครงการเก่า Pleno สุขสวัสดิ์ 30 ทาวน์โฮมตัวเดิม สามารถเข้าโครงการได้จากทางด่วนสายเฉลิมมหานคร ลงทางลงสุขสวัสดิ์ เข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 อยู่ไม่ไกลจากเส้นวงแหวนฝั่งใต้ที่สามารถข้ามไปได้ทั้งสมุทรปราการทางตะวันออก และสมุทรสาครทางตะวันตก

Facts @ 13 October 2015

• Pleno Suksawat (พลีโน่ สุขสวัสดิ์)
• บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
• MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพ
• เนื้อที่โครงการ 24-1-38 ไร่ จำนวน 146 ยูนิต
• แบบบ้าน Rose’ บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 110.32 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ที่ดินแปลงมาตรฐาน 35.7 ตร.วา
• ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาทหรือ 128,300 บาท/ตร.วา
• โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปลายปี 2557
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปลายปี 2559
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• Call Center : 1623
• Sales Office โทร : 02-001-5999

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.667323, 100.490307

แผนที่โครงการ บอกเส้นทางการเข้าถึงโครงการที่สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งวิธีแนวราบและทางด่วน โดยถ้ามาจากทางด่วนก็สามารถใช้ได้ทั้งสองเส้นคือจากทางด่วนเฉลิมมหานครที่มาจากในตัวเมือง มาลงที่ทางออกสุขสวัสดิ์ หรือว่าถ้ามาจากถนนวงแหวนอุตสาหกรรมจากแถวบางนา-สมุทรปราการก็ได้ นอกจากนั้นเส้นทางแนวราบก็จะสามารถเข้าได้จากถนนพระราม2 เข้าถนนพุทธบูชา ถนนประชาอุทิศ หรือว่าจากถนนเลียบวงแหวนทางใต้

Pleno สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่ในเขตราษฎร์บูรณะ ตอนใต้ของกรุงเทพ ทางเข้าโครงการอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถเดินทางได้จากทั้งทางราบและทางพิเศษ จากทางราบสามารถเข้าถึงได้จากถนนพระราม2 เส้นหลัก เข้าถนนพุทธบูชาและเข้าซอยพุทธบูชา 39 อีกทีที่ต่อกับซอยสุขสวัสดิ์ 30 หรือจะมาจากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ก็เข้าถนนประชาอุทิศ หรือเข้าจากสุขสวัสดิ์ เข้าซอย 30 ทะลุตรงมาเรื่อยๆมายังใต้ทางด่วน แล้วก็ตรงเข้าซอยมาอีกที เข้าที่ซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 2 ทางขวามือ ตรงเข้ามาอีกหน่อยทางขวามือจะมีแยก 8-2 ตรงเข้ามาสุดซอยจะเจอกับทางเข้าโครงการ

สำหรับคนไม่ใช้รถ ในปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางที่จะเข้าถึงตัวโครงการได้อย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินต่างๆ แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นสถานี BTS ตลาดพลู และวงเวียนใหญ่ ที่ต้องต่อรถอีกทีเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตรงมาเข้าถนนสุขสวัสดิ์ ส่วนการเรียกรถ Taxi แถวหน้าโครงการก็ถือว่ายากพอสมควร อาจจะต้องเดินออกมาที่หน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 30 ที่ตัดกับถนนจอมทองบูรณะที่เป็นเส้นใต้ทางด่วน ส่วนพี่วิน รถตู้ สองแถวมีให้เห็นบ้างประปราย

ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือด่านตรงถนนสุขสวัสดิ์ใกล้ Major Hollywood ที่เป็นทางขึ้นที่ไปบรรจบกับสะพานพระราม 9 ได้ตรงไปก็จะมีทางแยกซ้าย-ขวา ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปแถวพญาไท ส่วนถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปแถวบางนา-สมุทรปราการ ส่วนอีกจุดนึงคือที่เส้นพระราม 2 ก็จะมีทางวนขึ้นไปยังสะพานพระราม 9 เหมือนกัน ส่วนการขึ้น-ลงเส้นวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 นั้นจะอยู่ที่จุดเชื่อมระหว่างถนนสุขสวัสดิ์และถนนเลียบวงแหวน

บริเวณที่ตั้งโครงการนี้ถือว่าเป็นย่านที่พักอาศัยของชุมชน ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวราบไม่เกิน 4 ชั้น ริมซอยใหญ่หน่อยก็จะมีอาคาร์พาณิชย์ที่ด้านล่างเปิดเพื่อการพาณิชย์บ้าง แต่เข้าซอยไปก็จะมีแต่บ้านเดี่ยว ขยับวงกว้างขึ้นมาหน่อยแถวซอยสุขสวัสดิ์ก็จะมีโครงการแนวราบให้เห็นบ้าง ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม แต่ด้วยพื้นที่ไม่ค่อยมีห้างร้านให้ได้จับจ่ายใช้สอยเท่าไร ดีหน่อยก็จะมี 7-11 ให้พึ่งพิงตามซอย จะมีความอุดมสมบูรณ์ดีๆก็ที่ตรงเส้นพระราม 2 เป็นหลัก ตรงนั้นจะมีทั้ง Central พระราม2,  BigC และ Lotus ส่วนโรงพยาบาลแถวนี้เยอะมากๆ มีทั้งโรงพยาบาลบางปะกอก1 หรือ9 หรือโรงพยาบาลนครธน และบางมด โรงเรียนที่ใกล้เคียงก็จะมีโรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรีที่คอร์สแบบอินเตอร์ด้วย โตไปหน่อยก็จะมีสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ

เส้นทางที่เราจะพากันไปในวันนี้คือเส้นทางจากทางด่วนเฉลิมมหานครที่มาจากในตัวเมือง ข้ามสะพานพระราม9 มาลงทางซ้ายที่ทางออกสุขสวัสดิ์ มาอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ขามุ่งหน้าไปทางใต้ แต่ต้องไปกลับรถเพื่อไปอยู่ฝั่งมุ่งหน้าทางเหนือ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 ยาว ขับตรงเรื่อยๆตามทางจะไปลอดทางด่วน เราก็ตรงเข้าซอยสุขสวัสดิ์ไปอีก เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8 แล้วก็เลี้ยวขวาอีกทีเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 ทางเข้าโครงการจะอยู่ที่สุดซอยที่เป็นทางตัน

เริ่มต้นการเดินทางกันเลยที่กลางสะพานพระราม 9 มุ่งหน้าฝั่งธนบุรี เหนือแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีตึกธนาคารกสิกรสาขาใหญ่ตั้งเดินอยู่ทางขวามือ

ตรงมาเรื่อยๆจะมีป้ายบอกทางออกถนนสุขสวัสดิ์ทางซ้ายมือ เราก็จะเริ่มชิดซ้ายกันที่ตรงนี้นะคะ ส่วนถ้าเราจะตรงต่อไปทางดาวคะนองจะไปลงที่ถนนพระราม 2

ลงมาก็ชิดซ้ายตามโค้งเรื่อยๆไปยังทางออกถนนสุขสวัสดิ์

และแล้วเราก็มาอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ฝั่งซอยสุขสวัสดิ์เลขคี่ หรือฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางใต้นะคะ ถนนสุขสวัสดิ์เป็นถนนใหญ่ที่ค่อนข้างกว้างคือ 4 เลน รวมสองฝั่งเป็น 8 เลน ตั้งแต่เวลา 11 โมงเป็นต้นไปบนเส้นนี้จะมีรถบรรทุกวิ่งไปมาค่อนข้างเยอะ เพื่อขึ้นเส้นวงแหวนทางใต้ไปโรงงานหรือส่งของ

ตรงมาบนถนนสุขสวัสดิ์เรื่อยๆเราก็จะมากลับรถไปยังถนนสุขสวัสดิ์ฝั่งเลขคู่กันนะคะ

กลับรถๆไปอีกฝั่ง ตลอดถนนสุขสวัสดิ์จะไม่ค่อยมีทางม้าลายให้ข้ามถนนนะคะ เพราะว่าเป็นถนนทางตรงนี้รถใหญ่วิ่งค่อนข้างเยอะ ด้วยความไม่ประมาทก็ใช้สะพานลอยคนข้ามด้านบนที่จะมีอยู่เรื่อยๆ

แล้วเราก็กลับรถมาที่ถนนสุขสวัสดิ์ฝั่งเลขคู่เรียบร้อย สองฝั่งของถนนสุขสวัสดิ์ส่วนใหญ่สิ่งปลูกสร้างจะเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3-4 ชั้น ชั้นล่างก็จะใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างค้าขายของ หรือเป็นจุดรับบริการต่างๆ

ผ่านมาหน่อยก็จะมีรถเมล์วิ่งให้บริการ ความจริงก็มีทั้งแบบแอร์และแบบแอร์ธรรมชาติ รวมถึงรถสองแถวและพี่แท๊กซี่ด้วยนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับทางแยกซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 50 เป็นถนนใต้ทางด่วนเฉลิมมหานครไปด้วย ความจริงเราจะเลี้ยวซ้ายตรงนี้แล้วไปเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 อีกทีก็ได้นะคะ แต่เส้นทางจะค่อนข้างมืดและเปลี่ยวกว่าหน่อย

เลยมาหน่อยคือลงทางด่วนเฉลิมมหานคร

ต่อมาทางซ้ายเป็นด่านทางขึ้นทางด่วนไปดินแดง-พระราม4-บางนา-แจ้งวัฒนะ

เราตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับสามแยกบ้างสี่แยกบ้างเป็นส่วนที่ต้องรอสัญญาณไฟแดงกันหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นแยกเพื่อเข้าซอยต่างๆเพื่อทะลุไปยังเส้นพระราม 2 หรือถนนประชาอุทิศ บางจุดสามารถกลับรถได้ บางจุดจะมีป้ายห้ามกลับรถต้องดูดีๆ

เลยมาอีกหน่อยก็จะมีปั้มน้ำมันที่มี BigC mini พ่วงอยู่ในนั้นด้วย ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น Tesco Lotus

ตรงมาอีกก็จะเจอป้ายเส้นทางลัดไปยังพุทธบูชา 39 ที่สามารถออกไปยังซอยพุทธบูชาหลัก เพื่อออกไปยังถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปสมุทรสาครได้ โดยป้ายนี้ก็จะนำทางไปที่ซอยสุขสวัสดิ์ 30 ซอยเดียวกันกับที่เราจะเข้าไปเหมือนกันค่ะ

มาถึงแล้วหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 30 เลี้ยวซ้ายเข้าไปกันเลย หน้าซอยก็จะเห็นว่ามีป้ายโครงการหมู่บ้านจัดสรรติดกันเต็ม

เข้าซอยมาแล้วเราก็จะขับไปเรื่อยๆตามทาง ถ้าไม่ได้ดูเส้นทางไว้ก่อนหน้า ก็สามารถสังเกตที่ป้ายทางลัดไปออกซอยพุทธบูชาได้ค่ะ

ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 30 ความกว้างของซอยถือว่าสวนกันได้พอดีๆ จะมีบางช่วงที่แคบหน่อยก็ใจเย็นๆค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ

ตรงตามทางมาเรื่อยๆก็จะมาเจอแยกไฟแดงนี้ เป็นจุดตัดกับถนนจอมทองบูรณะ (ใต้ทางด่วน) ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนสุขสวัสดิ์ แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางลัดออกไปยังถนนพระราม 2 ส่วนตรงไปจะไปออกซอยพุทธบูชาซึ่งตรงไปอีกก็จะเรียกว่าซอยสุขสวัสดิ์ 30 เหมือนกันค่ะ เราจะตรงไป

จะเห็นได้ว่าการจราจรตรงนี้คึกคักพอสมควรนะคะ เป็นทางลัดที่เป็นที่รู้จักกันของคนในพื้นที่ ช่วยประหยัดเวลาบนถนนใหญ่ไปได้เยอะ

ตรงเข้าซอยมาทางซ้ายมือก็จะมี 7-11 ร้านค้าขายอาหารนิดหน่อย จากตรงนี้ถึงโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 750 เมตร เป็นระยะเดินสำหรับบางคน เป็นระยะปั่นจักรยานสำหรับบางคน และเป็นระยะรถสำหรับบางคน

ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ความกว้างของถนนสวนกันได้สบายๆ สองฝั่งเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัวซะเป็นส่วนใหญ่

เลยมาหน่อยตรงหัวโค้งทางบังคับซ้าย จะมีทางเข้าของโครงการ Pleno สุขสวัสดิ์ 30 อยู่ทางขวามือ เลยทางเข้าโครงการไปจะเห็นว่ามีพี่วินค่อยให้บริการอยู่ เราจะเลี้ยวซ้ายตามทางไปหน่อยนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยจะมีป้ายโครงการขนาดใหญ่บอกให้เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8

ป้ายซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8 อยู่ทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปกันเลย

ตรงเข้ามาสองฝั่งจะเป็นพื้นที่สวน พื้นที่บ้านพักอาศัยส่วนบุคคล และพื้นที่ว่างเปล่านะคะ

ตรงมาเรื่อยๆจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆทางขวามือ

ป้ายหน้าคลองจะเขียนว่าซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2

เลี้ยวขวามาก็จะเจอกับศาลเจ้าทีกงอยู่ทางซ้ายมือ เราจะตรงไปเรื่อยๆจนสุดซอยเลยค่ะ

ตรงมาจนสุดซอย ด้านหน้าก็จะเจอกับทางเข้าโครงการพอดิบพอดี

เรามาดูเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันนะคะ จากทางทิศตะวันออกที่เป็นซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 ที่เป็นทางเข้าของโครงการ เข้ามาเรื่อยๆก็จะเป็นซอยตันที่สุดทางเป็นพื้นที่โครงการ สองฝั่งทางเข้าจะเป็นบ้านพักอาศัย ศาลเจ้า และพื้นที่ว่างเปล่าที่มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ ไล่ตามเข็มนาฬิกาไปอีกคือทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เรื่อยไปจนถึงทางทิศเหนือก็จะเป็นสวน ที่สวนใหญ่จะปลูกเป็นต้นมะพร้าว และต้นไม้ยืนต้นค่อนข้างทึบ ทิศเหนือค่อนไปทางตะวันออกหน่อยจะเป็นรั้วที่ติดกับโครงการ Pleno สุขสวัสดิ์ 30 พอดี ส่วนตรงสามเหลี่ยมนั้นจะเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยของชุมชนปกติ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• 7-11 – 750 เมตร
• BigC Mini – 2.5 กิโลเมตร
• ตลาดสดบางปะกอก 4 กิโลเมตร
• Major Hollywood – 4.5 กิโลเมตร
• สถาบันพระจอมเกล้าธนบุรี – 5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลบางมด 1 – 5.5 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลบางปะกอก 9 – 6.8 กิโลเมตร
• BigC พระราม 2 – 7.5 กิโลเมตร
• Central พระราม 2 – 8.2 กิโลเมตร
• โรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรี – 8.7 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลบางปะกอก 3 – 8.8 กิโลเมตร
• Lotus พระราม 2 – 10.4 กิโลเมตร

 

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Pleno สุขสวัสดิ์ เป็นโครงการบ้านแฝด 2 ชั้น รวมจำนวนทั้งหมด 146 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 24 ไร่กว่าๆ โครงการมีทางเข้า-ออกทางเดียวที่สุดซอยของซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 ปัจจุบันเป็นโครงการที่แล้วเสร็จประมาณ 30% ที่ป้ายสีส้มไว้รอบถนนโครงการใกล้กับส่วน Facility และสวนสาธารณะ ตัวบ้านในส่วนที่สร้างเสร็จแล้วพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนที่ป้ายสีเลือดหมูไว้จะเป็นส่วนที่ยังก่อสร้างและพื้นที่ขายภายในอนาคต

การจัดสัดส่วนของโครงการจากทางเข้าก็จะมีซุ้มโครงการที่มีป้อมพี่ยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ Keycard ระยะไกล ที่ไม่ต้องเปิดกระจกลงมาตี๊ดบัตร แต่จะมีตัวอ่านสัญญาณจากภายในรถเลย เหมือนกับรถบบ Easypass ของทางด่วน เพื่อยกไม้กั้นเปิดออก มี CCTV ตรงด้านหน้า 2 จุด ในช่วงกลางวันที่มีรถผ่านเข้าออกมาหน่อยจะมีการเก็บประตูเลื่อนไว้หลังป้อมพี่ยาม แต่พอเป็นช่วงเย็นเริ่มมืดจะมีการปิดประตูบานเลื่อน ให้เป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Secuirity Gate ผ่านซุ้มทางเข้าไป ก็จะเป็นถนนตรงกลางกว้าง 12 เมตร มีพื้นที่ทางซ้ายและทางขวา ทางขวาจะเป็นพื้นที่ขายในอนาคต ยังไม่มีการก่อสร้าง ส่วนทางหลักคือพื้นที่ทางซ้ายหักเข้ามาก็จะเจอพื้นที่ขายภายในอนาคตอีก 1 แปลงใหญ่ๆที่ปัจจุบันปลูกเป็นพื้นหญ้า ตรงเข้ามาเรื่อยๆจะเจอกับทางแยก ทางฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนของ Sales Office และบ้านตัวอย่างรวมถึงแบบบ้านมาตรฐานที่ขายกันให้เยื่ยมชม และบางส่วนที่สร้างเสร็จพร้อมโอนแล้ว ส่วนทางขวาก็จะเป็นบ้านพร้อมโอนเช่นกัน ตรงกลางสามเหลี่ยมจะเป็นส่วนของ Facility ที่ประกอบไปด้วย Clubhouse สูง 2 เมตร ด้านหน้าคือสวนสาธารณะ และข้างๆก็เช่นกัน แต่จะมีเครื่องเล่นเด็กให้อีกนิดหน่อย

ภายในของ Clubhouse ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ Outdoor ที่แบ่งเป็นส่วนของสระเด็กและสระผู้ใหญ่ รอบๆสระมีชุดเก้าอี้และ Daybed ให้นอนเล่นได้ หลบเข้ามาภายในอาคารหน่อยก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ส่วนขึ้นไปชั้นสองก็จะเป็นส่วนของห้องเล่นเด็กและห้องฟิตเนสที่จะได้วิวสระว่ายน้ำด้านล่าง

การจัดวางตัวบ้านอย่างที่กล่าวไปคือจะมีถนนหลักโครงการกว้าง 12 เมตร อยู่ตรงกลางแยกไปทางซ้ายและทางขวา ทางซ้ายจะสุดที่สวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น แต่ฝั่งขวาจะมีทางหลักเข้าไปเรื่อยๆ และมีซอยแยกซ้ายขวากว้าง 9 เมตร โดยในซอยก็จะมีบ้านทั้งซ้าย-ขวามือ จำนวนหลังภายในแต่ละซอยก็จะขึ้นกับความลึก โดยแบบบ้านจะมีเพียงแบบเดียวคือแบบ Rose’ เป็นบ้านแฝดแบบเดียวกับที่โครงการ Pleno สุขสวัสดิ์ 66 ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยภายในแต่ละบ้านก็จะเหมือนกันอยู่ที่ 110.32 ตารางเมตร ยกเว้นแต่ขนาดที่ดินที่ใหญ่เล็กตามแปลง บ้านส่วนต้นซอยเข้าถึงได้ง่ายหน่อยก็จะมีความพลุกพล่านกว่า แต่ที่ท้ายซอยก็จะเงียบลงมาหน่อย การวางตัวบ้านมีหลายแบบทั้งส่วนที่หันหน้าเข้าทิศเหนือ และทิศใต้ที่เป็นส่วนใหญ่ และส่วนที่หันหน้าเข้าทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ การเลือกตำแหน่งบ้านขึ้นกับความชอบเลยว่าจะชอบหน้าบ้านที่แสงธรรมชาติตลอดวัน หรือว่าชอบแดดแรงขึ้นมาแต่มีลมเข้ามากกว่า

เริ่มจากซุ้มทางเข้าโครงการเลยนะคะ ตกแต่งด้วยสีเทากลาง ตัดด้วยสีทอง มีป้อมพี่ยามอยู่ตรงกลางเพื่อดูแลทางเข้า-ออกทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้า และทางขวาจะเป็นทางออกเหมือนปกติ

ก่อนจะเข้าไปถึงตัวซุ้ม ตลอดความยาวของโครงการ ฝั่งขวามือจะเป็นทางที่เรียกว่าทางสาธารณะประโยชน์ เป็นทางเดินเท้าไปยังที่ดินด้านข้าง

เช่นเดียวกันฝั่งซ้ายมือ

กลับมาที่ซุ้มโครงการทางเข้า

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการจะเป็นแบบ Double Security Gate คือมีทั้งไม้กั้นและประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดที่จะเร่ิมใช้ในช่วงเย็นถึงเช้า แต่ช่วงกลางวันปกติก็จะใช้แต่ไม้กระดกอย่างเดียว โดยขั้นตอนคือรถลูกบ้านจะได้รับเครื่องติดตัวรถเป็นแบบ Keycard Access ระยะไกล ตัวรับสัญญาณก็จะทำการยกไม้ระดกขึ้นเพื่อให้รถผ่านเข้าไปได้

ตัวรับสัญญาณ Keycard Access ระยะไกล

ไม้กั้นกระดก

มีกล้อง CCTV อยู่จับภาพที่ทางเข้า

ด้านหลังของป้อมพี่ยามก็จะเป็นที่เก็บของประตูเลื่อนของโครงการ ที่จะเปิดใช้

ส่วนเขยิบมาทางซ้ายก็จะเจอกับทางเดินเข้า-ออกของคนเดิน เป็นพื้นที่ยกระดับจากพื้นที่ถนนตรงกลาง

ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการเข้ามาก็จะมีทางเลี้ยวซ้าย และทางเลี้ยวขวา

ทางเลี้ยวขวาตามผังโครงการจะมีการเขียนว่าเป็นพื้นที่ขายภายในอนาคต ที่ปัจจุบันยังปล่อยเป็นพื้นที่สีเขียว มีการปลูกหญ้าและใส่ต้นไม้ ซึ่งความจริงแล้วจากพื้นที่จะเห็นว่าขนาดไม่ใหญ่มาก ต้องรอดูต่อไป รั้วรอบโครงการที่เห็นเป็นสีขาวหลังพุ่มไม้สูง 2.5 เมตร

กลับหลังหันมาทางฝั่งซ้ายจากทางเข้ากันบ้าง จะเป็นถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 12 เมตร ตรงเข้าไปหลังที่เห็นตรงหน้าคือบ้านตัวอย่าง ส่วนทางซ้ายที่เห็นเป็นพื้นที่โล่งๆปูหญ้าคือพื้นที่ขายในอนาคตเช่นเดียวกัน

เข้ามาดูใกล้ๆจะเห็นว่ามีซอยย่อยเข้าตัวพื้นที่กว้าง 9 เมตร พื้นที่ที่ปูหญ้าจะเป็นส่วนของพื้นที่ขายภายในอนาคต ทางซ้ายมือคือรั้วโครงการ

ปักป้ายบอกชัดเจน

ตรงมาตามทาง ทางซ้ายก็จะเป็นซอยย่อยอีกซอยกว้าง 9 เมตร น่าจะเป็นทางเข้าของบ้านในอนาคต ส่วนเราจะตรงแล้วเลี้ยวขวากันนะคะ

ตรงเข้ามาตามถนนหลัก เลี้ยวขวาก็จะเจอกับบ้านที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้วอยู่ทางขวามือเป็นแนวเข้าไป ส่วนฝั่งซ้ายก็จะมีส่วนสวนหย่อมเล็กๆ ก่อนที่จะเป็นส่วนบ้านเช่นกัน

บ้านฝั่งขวาเป็นบ้านพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ มีรั้วบ้านปิดเรียบร้อย

เดินเข้ามาดูให้ชัดๆ ฝั่งซ้ายจะเป็นแนวของบ้านตัวอย่าง Sales Office และบ้านมาตรฐานที่ขายกันปกติ ถัดเข้าไปหน่อยก็จะเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนเช่นกัน แต่ซอยทางซ้ายจะเป็นทางตัน สุดซอยจะเป็นพื้นที่ของส่วนสาธารณะและสนามเด็กเล่น ส่วนตรงกลางที่เห็นเป็นพื้นที่สีเขียวคือสวนเช่นกัน ด้านหลังสวนจะเป็นส่วนของ Facility ที่อยู่ภายในพื้นที่ Clubhouse

เดินเข้ามาที่ซอยซ้ายมือ จะเห็นได้ว่าเป็นทางตันเรียบร้อย ส่วนการกลับรถจะกลับตรงจุดที่รถกอล์ฟจอดอยู่ขวามือ ด้านหลังจะเป็นส่วนของสวนสาธารณะ เดี๋ยวจะพาไปชมกัน

ส่วนของสวนสาธารณะปูด้วยพื้นหญ้า และขอบพื้นที่จะมีพุ้มไม้ ตรงกลางมีเครื่องเล่นเด็กวางไว้ให้ 3 เครื่องถ้วน รอบๆจะเป็นรั้วโครงการสีขาวสูง 2.5 เมตร

กลับหลังหันมาจะเห็นว่าเป็นพื้นที่สีเขียวยาวไปจนถึงด้านหน้าของ Clubhouse มีทางเดินนำทางไปเรื่อยๆทั้งสองฝั่ง

เดินตามทางมาเรื่อยๆจะเจอกับส่วนของ Clubhouse สูง 2 ชั้น ด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำแบบกลางแจ้งรูปตัว T เดี๋ยวเราจะพาเดินรอบโครงการให้ทั่วก่อน แล้วจะกลับมาพาเข้าไปดูของเล่นใน Clubhouse กันนะคะ

หน้า Clubhouse จะเป็นพื้นที่สีเขียวชิ้นสามเหลี่ยม ทางซ้ายเป็นซอยบ้านตัวอย่าง ส่วนฝั่งขวาด้านหน้าเป็นแนวบ้านพร้อมโอนกรรมสิทธิ์

บ้านที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้วจะเป็นแค่หลังด้านหน้าใกล้กับถนนหลักโครงการเท่านั้นนะคะ แต่หลังที่ลึกเข้าไปยังอยู่ในเขตก่อสร้างอยู่ จากการสอบถามทั้งโครงการจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2559 หรืออีกประมาณ 1 ปี

มาเดินทางซ้ายข้างๆบ้างก็จะเห็นว่าสุดทางก็จะเป็นเขตก่อสร้างเช่นกัน ประมาณการณ์ส่วนที่สร้างเสร็จแล้วตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 30% ของพื้นที่ทั้งหมดนะคะ

เดินตรงมาก็เป็นเขตก่อสร้างจริงๆ แต่บางส่วนก็เหลือเก็บรายละเอียด และบางส่วนก็ยังขึ้นโครงกันอยู่

กลับมาส่วนที่ติดค้างกันไว้คือส่วนของ Clubhouse โครงการ มีทางเข้าอยู่ทางเดียวที่ถนนฝั่งขวา

ทางเข้าจากถนนก็จะมีบันไดยาวๆขึ้นไปหน่อย พื้นปูด้วยวัสดุทรายล้างสีเข้มเพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และมีความทนทานสูง

ขึ้นบันไดมาจุดแรกที่เจอคือส่วนพื้นที่นั่งเล่นรับลมธรรมชาติ ข้อดีคือค่าส่วนกลางจะได้น้อยหน่อย แต่ข้อเสียคือถ้าอยากได้พื้นที่นั่งเล่นเย็นๆเข้าไปนั่งในบ้านจะเย็นกว่า

มองจากส่วนนั่งเล่นออกมาก็จะเจอกับพื้นที่สระว่ายน้ำรูปตัว T โดยมีสระเด็กอยู่ที่ส่วนใกล้กับพื้นที่นั่งเล่น พ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถนั่งเฝ้าลูกเล่นน้ำเตะขาได้ที่ตรงนี้ ส่วนพื้นที่ข้างสระทางขวาก็จะเป็นจุดวาง Daybed ให้ได้นอนอาบแดดเล่นกัน

พื้นที่ข้างสระทางฝั่งขวามีจุดลงสระผู้ใหญ่ที่ลึก 1.2 เมตร มุมนี้ได้วิวมุมกว้างๆของโครงการ

หันหลังมาหน่อยจะเจอกับสวนสาธารณะที่มีเครื่องเล่นวางอยู่ จากตรงนี้จะไม่มีทางลงเชื่อมถึงกันนะคะ จะต้องเดินไปอ้อมที่ทางออกของ Clubhouse วนไปด้านหน้าก่อน

จากพื้นที่ข้างสระมองเข้าไปยังส่วนตัวอาคารกันบ้าง จะมีบันไดขึ้นไปชั้น 2 เป็นบันไดรูปตัว U และข้างๆบันไดจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง

ขึ้นมาบนชั้น 2 ก็จะเจอกับประตูบานคู่

เปิดเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ของนิติบุคคลอยู่ทางซ้ายมือ และด้านในจะมีห้องย่อย 2 ห้อง คือห้องเด็กเล่นทางซ้ายมือ และทางขวามือจะเป็นทางเข้าของห้องฟิตเนส

ภายในห้องฟิตเนสจะวางเครื่องเล่นได้ประมาณ 6 เครื่อง มีฉากกั้นเผื่อแดดร้อนเรียบร้อย มองไปทางด้านหน้าก็จะมีประตูบานเลื่อนกระจกออกไปยังระเบียงสามเหลี่ยมด้านนอกได้

วิวจากระเบียงสามเหลี่ยมของห้องฟิตเนสบนชั้น 2 ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำด้านล่าง สวนสาธารณะด้านหน้า และวิวทางเข้านิดหน่อยสวยๆ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• Clubhouse 2 ชั้น
• พื้นที่นั่งเล่น Outdoor
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด n/a เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
• สวนสาธารณะ 285 ตารางวา
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• Key Card Access ระยะไกล
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและเลื่อนไฟฟ้า 1 ตอน
• ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร

 

Product Walkthrough

บ้านภายในโครงการมีเพียงแบบเดียวคือแบบ Rose’ บนขนาดที่ดินมาตรฐานคือ 35.7 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 110.32 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและเนื้อที่ดินรอบบ้าน โครงการให้มาเป็นแบบหน้าดินเปล่า ไม่มีการปูหญ้าหรือลงต้นไม้ให้ จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จาก 2 ทางด้วยกัน คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านทางห้องนั่งเล่นและประตูบานเลื่อนอีกจุดที่หลังบ้านตรงส่วนพื้นที่ทานข้าว

จากทางเข้าหลักหน้าบ้านส่วนห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน ลึกเข้าไปคือส่วนพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวประมาณ 4 ที่นั่ง ที่ทางขวาจะเป็นพื้นที่ทางเดินตรงกลาง แยกมาทางซ้ายจะเป็นประตูเปิดเข้าห้องครัวที่มีช่องเปิดเล็กไว้ให้ยื่นจานตรงฝั่งพื้นที่ทานข้าวได้น่ารักๆ ภายในห้องครัวที่ได้ในบ้านมาตรฐานก็จะได้เป็นแบบงานระบบ ไม่ได้ในส่วนของเคาท์เตอร์ ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าห้องครัวก็จะเป็นทางเข้าห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่ใต้บันได และจากทางเดินตรงกลางไปก็จะเป็นบันไดที่ขึ้นไปยังชั้น 2 ได้

บนชั้น 2 จากบันไดขึ้นมาก็จะมีด้วยกัน 4 ประตู แบ่งออกเป็นห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำ 1 ห้อง ห้องที่กินพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมดแน่นอนว่าต้องเป็นห้องนอนใหญ่ของบ้านหลักนี้ มีระเบียงเล็กๆเป็นของตัวเอง สามารถกั้น Walk-in Closet ขนาดกลางๆได้ มีประตูที่เชื่อมกับห้องน้ำบนชั้น 2 ได้โดยตรง ส่วนห้องนอนอีกสองห้องที่อยู่ส่วนหลังบ้านก็จะมีขนาดใกล้เคียงกัน ในบ้านตัวอย่างแต่งเป็นห้องนอนเด็กห้องหนึ่ง ส่วนอีกห้องหนึ่งแต่งเป็นห้องเอนกประสงค์ที่ทำกิจกรรมงานอดิเรกระหว่างครอบครัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผู้อยู่อาศัยของห้องนอนเล็กและห้องนอนกลางจะต้องมาแชร์ห้องน้ำรวมกันทั้งหมด

จากแปลนบ้านก็จะเห็นได้ว่าทั้งสัดส่วนการวางพื้นที่ใช้สอยและขนาดต่างๆจะถือได้ว่าเป็นบ้านเดี่ยว แต่ด้วยกฎหมายที่ระบุว่าบ้านเดี่ยวจะต้องมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา ซึ่งแปลงมาตรฐานของโครงการนี้อยู่ที่ 35.7 ตารางวา ทำให้โครงการนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่บ้านแฝดนะคะ

งานดีไซน์บ้านแฝดแบบ Rose’ ภายในโครงการเป็นแบบ Modern Classic เรียกง่ายๆคือแบบที่เน้นความเรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีโอรส-น้ำตาล ตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกเขียวๆ จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 1 คัน แต่จากการสอบถามสามารถจอดได้ 2 คันเล็ก หากเทปูนที่พื้นหญ้าทางขวามือเข้าไปอีก ที่หน้าบ้านมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 ตอนเปิดเข้าไปหลังพุ่มไม้หน้าบ้านที่จุดนี้โครงการจะตกแต่งมาให้ แต่ภายในพื้นที่แปลงที่ดินจะไม่มีการปลูกหญ้าหรือลงต้นไม้ใหญ่นะคะ ทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อนเพื่อเข้าไปยังห้องนั่งเล่นทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนด้านบนที่มีระเบียงยื่นออกมาคือเป็นระเบียงห้องนอนใหญ่ ส่วนทางขวาคือหน้าต่างบานเลื่อนและบานกระทุ้งของห้องนอนใหญ่อีกเช่นกัน หลังคาของพื้นที่จอดรถ ไม่ได้ปกคลุมกันแดดกันฝนให้รถทั้งคัน แค่ถึงส่วนกลางรถเท่านั้น ดังนั้นการต่อเติมที่พื้นที่จอดรถเลยเป็นจุดที่ลูกบ้านนิยมที่สุดจากที่ดูๆในโครงการ

เริ่มกันจากประตูรั้วหน้าบ้านเลย ถ่ายจากบ้านเดี่ยวจริงๆที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์นะคะ เป็นประตูเลื่อนเก็บเข้าข้างๆทั่วไป เป็นแบบไม่อัตโนมัติ ความสูงของรั้วบ้านแต่ละหลังอยู่ที่ 1.2 เมตร ประตูหน้าบ้านเป็นแบบซี่โปร่งๆ ทั้งความสูงและรูปแบบไม่ได้เน้นในเรื่องความเป็นส่วนตัวมากนัก แต่จะเน้นการกั้นพื้นที่และความสบายตาเป็นหลัก แปลกนิดนึงตรงนี้ประตูรั้วไม่มีประตูเล็กเข้า-ออกของคนเดินนะคะ

สองฝั่งของเสาหน้าบ้านมีกริ่งกดออด ตู้จดหมายพร้อมเลขที่บ้าน และที่เก็บขยะตามปกติ

แม้ว่าแปลงที่ดินภายในบ้านจะได้เป็นหน้าดินเปล่า แต่ส่วนหน้าบ้านทางโครงการจะมีการปูพื้นหญ้าพร้อมแผ่นหินวางสำหรับเดิน ส่วนข้างๆใกล้กับหน้าบ้านก็จะปลูกเป็นไม้พุ่มขึ้นมา

ตัดกลับมาที่บ้านตัวอย่างนะคะ หน้าบ้านจะไม่มีไม่รั้วกั้นให้ดู แต่เราจะพาไปดูพื้นที่รอบๆบ้านตัดสลับกับบ้านหลังมาตรฐานที่ขายกันปกติในโครงการ

เริ่มจากทางขวาของบ้านจะมีพื้นที่ระหว่างบ้านประมาณ 4 เมตร หารสองแบ่ง 2 แปลงก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร

บ้านหลังมาตรฐานก็จะมีส่วนที่เชื่อมกันระหว่าง 2 บ้านถึงเรียกว่าบ้านแฝด และด้านล่างก็จะเป็นพื้นที่ซักล้างข้างบ้านที่ปูด้วยกระเบื้องพร้อมติดไฟซาลาเปาด้านบนให้เรียบร้อย

มาที่มุมหลังบ้านก็จะมีปั้มน้ำและแท๊งก์น้ำวางอยู่ฟรีตามโปรโมชั่นวางอยู่บนส่วนที่เทปูนให้ และด้านในเป็นส่วนเฉลียงโล่งๆ

ในบ้านตัวอย่างก็จะแต่งดีหน่อย จากพื้นหญ้าธรรมดา ก็จะเปลี่ยนเป็นพื้นกระเบื้องที่ปูสลับกับหญ้าเทียม ซึ่งของดีของหญ้าเทียมคือเขียวเท่ากันตลอด ไม่ต้องดูแล แต่ข้อเสียคือเมื่อเวลาฝนตก จะแห้งช้าและกักน้ำไว้ ไม่เหมือนหญ้าธรรมชาติปกติที่จะแห้งเร็วกว่า นอกจากนั้นภายในบ้านตัวอย่างยังวางเตา BBQ และที่นั่งหลังบ้านไว้ด้วย

ทางเข้าบ้านจากส่วนหลังบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเปิดได้ทั้งสองฝั่งจากพื้นที่วางโต๊ะทานข้าวด้านใน

ด้านบนก็จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนส่วนหลังบ้านของห้องนอนกลางและห้องนอนเล็ก โดยจะมีแท่นว่า Compressor แอร์หันออกหลังบ้าน

พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งก็วางโต๊ะเก้าอี้ไว้อีกจุดหนึ่ง

กลับมาที่หน้าบ้านกันนะคะ ทางซ้ายคือทางเข้าหลักของบ้าน ด้านบนมีกันสาดที่ไม่ได้ให้มาด้วย ส่วนพื้นที่ทางขวาที่วางโต๊ะเก้าอี้ไว้อีกแท้จริงแล้วคือพื้นที่จอดรถที่จอดได้ 1 คัน แต่จากการสอบถามสามารถจอดได้ 2 คัน ถ้าเทปูนลงบนหน้าดินข้างขวาเพิ่ม…

พื้นที่จอดรถก็จะมีไฟซาลาเปาอยู่ด้านบน 1 จุด มีช่องแสงจากห้องนั่งเล่นทางซ้าย จากห้องน้ำด้านหน้า และมีห้องเก็บของเล็กๆทางขวา

ประตูห้องเก็บของขนาดเล็กทางขวามือ เป็นแบบลูกบิดทั่วไป เปิดแบบดึงออกมาด้านในเทปูนฉาบเรียบปกติ ขนาดค่อนข้างเล็กเพราะเป็นพื้นที่เหลือใต้บันได

ทางเข้าหลักหน้าบ้านคือมีเฉลียงหน้าบ้านปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักเป็นกระจกตัดแสง เปิดได้ฝั่งเดียว เปิดเข้าไปจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนเป็นส่วนแรก

ตัวกรอบประตูบานเลื่อนวางอยู่บนพื้น ทำให้อาจจะต้องเดินยกขาก้าวข้ามนิดหน่อย ส่วนพื้นภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

ที่เปิดจากด้านนอกจะเป็นแบบกุญแจไขปกติ ผลักไปทางซ้ายเป็นอันเปิดออก ส่วนด้านในจะเป็นที่จับที่ถนัดกว่าหน่อย และมีที่บิดเล็กๆเพื่อปิดล็อก

ส่วนช่วยล็อกอีกจุดคือระหว่างประตู 2 บาน เป็นตะขอเกี่ยวไว้ให้ล็อกปิด

เปิดเข้ามาด้านในถ้าเป็นบ้านมาตรฐานที่ขายจะเจอกับพื้นที่โล่งๆแบบนี้ คือได้พื้นกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ผนังฉาบเรียบทาสีขาวปกติ ตำแหน่งช่องแสงจะอยู่รอบๆบ้านทั้งจากประตูหน้าบ้านและหลังบ้านและบานหน้าต่างข้างบ้าน ไฟจะได้เป็นแบบไฟซาลาเปา ตำแหน่งแอร์อยู่เหนือประตูเลื่อนหลังบ้าน ขนาดของพื้นที่ห้องนั่งเล่นยาวไปถึงที่วางโต๊ะทานข้าวอยู่ที่ 6.7 x 3.5 เมตร

ตัดกลับมาที่บ้านตัวอย่าง ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายวางโซฟารูปตัว I ด้านหน้ามีโต๊ะกลาง และฝั่งขวาคือชั้นวางทีวีแบบชิดผนัง ด้านในเป็นชั้นวางของก่อนที่จะถึงส่วนโต๊ะทานข้าว ผนังรอบๆมีการติด Wallpaper สีเทาอ่อน และเพดานตกแต่งเป็นฝ้าหลืบพร้อมกระจกเพื่อให้บ้านดูกว้างขวางขึ้น ความสูงของชั้น 1 อยู่ที่ 2.6 เมตร

โซฟารูปตัว I อยู่ด้านหน้าหน้าต่าง ความจริงแล้วสามารถใส่โซฟาขนาดใหญ่ขึ้นรูปตัว L ได้ ถ้าตัดเก้าอี้เดี่ยวและโต๊ะวางของตรงมุมออก

ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี สามารถก่อเป็นตู้โชว์ได้เต็มพื้นที่ผนังไปเลย ข้างๆเป็นช่องแสงจากที่จอดรถ

ลึกเข้ามาด้านในเป็นโต๊ะทานข้าว วางเก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่งไว้ ความจริงแล้วสามารถเพิ่มเป็น 6 ที่นั่งหัวท้ายโต๊ะได้ตามโอกาส ด้านหลังเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่หลังบ้าน

ประตูบานเลื่อนสเปกเดียวกับประตูหน้าบ้าน เลื่อนได้ฝั่งเดียวเหมือนกัน เปิดออกไปจะเจอกับเฉลียงหลังบ้านกว้าง 0.6 เมตร

ที่จับจะเป็นแบบเลื่อน และล็อกจากการกดขึ้น-ลง

ถ่ายให้ดูเทคนิคการติดม่านแบบ 2 ชั้น หากจะทำฝ้าหลืบ คือต้องเหลือพื้นที่ให้รางม่านซักหน่อย เพื่อนให้เวลามองภาพรวมแล้วดูเรียบร้อยไม่มีรางม่าน

พื้นที่เฉลียงหลังบ้านกว้าง 0.6 เมตร บ้านมาตรฐานจะเปิดออกไปเจอหน้าดินธรรมดา ไม่ปูหญ้าให้ แต่บ้านตัวอย่างจะเปิดไปเจอพื้นหญ้าเทียมและชุดโต๊ะเก้าอี้

เฉลียงหลังบ้านจะลดระดับลงจากระดับภายในตัวบ้านอยู่ประมาณ 5 เซนติเมตร

หลังบ้าน

จากหลังบ้านมองเข้ามาภายในตัวบ้านอีกครั้งนึง ทางซ้ายมือจะช่องเปิดเป็นทางเดินนิดหน่อย

ไฟที่ห้องนั่งเล่นยาวไปถึงพื้นที่ทานข้าวจะมีไฟ 2 จุดคือไฟซาลาเปาธรรมดา ไม่ Drop ฝ้าลงให้นะคะ

ทางเดินกว้าง 1 เมตร จะอยู่ขวามือจากหน้าบ้าน และซ้ายมือจากหลังบ้าน เดินเข้าไปทางขวาจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำชั้นล่าง ทางซ้ายจะเป็นประตูทางเข้าห้องครัว ส่วนตรงกลางคือบันไดขึ้นชั้น 2

เริ่มจากประตูห้องครัว เป็นบาน HDF มีช่องแสงนิดหน่อย ที่เปิดเป็นแบบลูกบิดจับหมุนธรรมดา พื้นปูด้วยพื้นกระเบื้องต่อเข้าไปจากพื้นห้องนั่งเล่น พอเปิดเข้ามาแล้วจะมี Doorstop ให้เรียบร้อย

ห้องครัวขนาด 1.8 x 2.8 เมตร วางเคาท์เตอร์ได้ทั้งตัว I แต่ถ้าอยากจะให้เต็มพื้นที่หน่อยก็เป็นตัว L ได้

ห้องครัวแบบภายในบ้านมาตรฐานจะได้เพียงแค่ต่อระบบไว้ให้ ไม่ได้เคาท์เตอร์ครัวหรืออุปกรณ์ใดๆ มีช่องแสงสองช่องจากหลังบ้านและข้างบ้าน เป็นแบบหน้าต่างบานเลื่อนทั้งคู่แค่ขนาดต่างกัน

ในบ้านตัวอย่างจัดเคาท์เเตอร์ครัวเป็นแบบรูปตัว I เว้นพื้นที่วางตู้เย็นไว้ในที่ในสุด ไล่จากการใช้งานร้อนไปเย็นคือ เตา พื้นที่เตรียมอาหารตรงกลางและอ่างล้างจาน มีช่องแสงหลังบ้านวางพอดีกับช่องว่างระหว่างเคาท์เตอร์ล่างและบน บานปิดเป็นแบบดึงเปิดออก ภายในเก็บอาหารแห้งและเครื่องครัวได้เต็มที่

ช่องแสงข้างบ้านเป็นแบบบานเปิด ถ้าไม่อยากได้ปริมาณแสงที่จ้าไปก็สามารถเอาม่านหรือมู่ลี่มาติดได้ แต่แนะนำเป็นวัสดุที่เช็ดล้างง่าย และไม่อมกลิ่น

ในบ้านมาตรฐานก็จะให้ช่องระหว่างครัวและพื้นที่ทานข้าวมาให้ เวลายกอาหาร ยกแกงคนเดียวจะได้ไม่ต้องคอยเปิดประตู

จากห้องนอนเราจะไปต่อที่ห้องน้ำ ที่มีทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามพอดีเป๊ะ ประตูห้องน้ำเป็นบาน HDF เช่นเดียวกัน เป็นแบบบานทึบไม่มีช่องด้านล่างระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตรสีอ่อน ลดระดับจากพื้นที่ทางเดินตรงกลางลงเล็กน้อยที่ 5 เซนติเมตร

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วนการใช้งานปกติคืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ พร้อมกับช่องแสงติดลูกฟักเป็นแบบขุ่นจากส่วนจอดรถ และที่มุมด้านในเห็นเป็นสามเหลี่ยมโผล่มาจากฝ้าคือส่วนของบันไดทางขึ้นชั้น 2

ห้องน้ำขนาด 1.4 x 1.6 เมตร ด้วยความเป็นห้องน้ำชั้นล่าง เลยไม่มีการลดระดับพื้นที่อาบน้ำให้ ทำให้การใช้งานจริงๆแล้วจะทำได้ยาก เนื่องจากน้ำจะกระเด็นออกไปทั่วพื้นที่

มีไฟซาลาเปาติดให้บนฝ้า 1 ดวง

อ่างล้างมือจาก American Standard พร้อมกระจกส่องหน้าขนาดเล็ก ไม่ได้ก่อเคาท์เตอร์มาให้เก็บของด้านล่างได้ แต่มีการก่อปูนยื่นออกมาจากผนังให้วางของได้นิดหน่อย

ต่อมาเป็นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นกัน เป็นแบบ 2 ตอน มาพร้อมกับสายฉีดชำระ และที่ใส่ม้วนทิชชู

ฝั่งตรงข้ามคือฝักบัวแบบหัวเดียว มีการเจาะช่องผนังให้วางแชมพูสบู่ได้นิดหน่อย ไม่มีฉากกั้นหรือม่านกั้นพื้นที่อาบน้ำให้

ฝักบัวรัศมีไม่ใหญ่มาก น้ำหนักค่อนข้างเบา

ช่องแสงจากพื้นที่จอดรถเป็นแบบบานกระทุ้ง ลูกฝักเป็นแบบขุ่นหน่อย กรอบอลูมิเนียมสีขาว

จากห้องน้ำ เราจะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 กันแล้วนะคะ ตัวบันไดลูกตั้งเป็นแบบปูนฉาบเรียบทาสีขาวธรรมดา แต่ลูกนอนและชานพักบันไดปูด้วยไม้สำเร็จรูปสีน้ำตาลอ่อน

จากชานพักบันไดหันขวามาก็จะเจอกับบันไดชิ้นสามเหลี่ยมนิดหน่อย เดินยากนิดนึงสำหรับเด็กและผู้ใหญ่มากๆ เพราะขั้นที่ก้าวได้จะเล็กลง และไม่มีราวจับบันไดให้

จากบันไดขั้นสามเหลี่ยมมองขึ้นไปยังชั้น 2

ลูกนอนของบันไดปูด้วยไม้สำเร็จรูป ส่วนทางเดินตรงกลางชั้นสองรวมถึงห้องนอนทุกห้องปูด้วยไม้ลามิเนต

โถงบันไดมีช่องแสงจากข้างบ้านเป็นแบบบาน Fixed  4 บานรวมกันเป็นช่องแสงขนาดค่อนข้างใหญ่ หากใครกลัวว่าแสงจะเข้าตัวบ้านได้มากเกินความจำเป็นก็สามารถเอาม่านมาปิดไว้ได้ และที่ทางเดินใกล้กับทางเข้าห้องนอนเล็กจะมีเก้าอี้วางอยู่กว้าง 90 เซนติเมตร ที่สามารถใช้วางตู้เก็บของที่ใช้ร่วมกันระหว่างสมาชิกในบ้านได้ ความสูงของชั้น 2 อยู่ที่ 3.1 เมตร

จากพื้นที่วางเก้าอี้ ความกว้างของทางเดินจะอยู่ที่ 2 เมตร มองเข้าไปจะเจอกับประตู 4 บาน บานซ้ายคือทางเข้าห้องนอนใหญ่ ที่มีประตูทะลุเข้ากับห้องน้ำตรงกลาง ส่วนบานทางขวาคือเข้าห้องนอนกลาง และบานเข้าห้องนอนเล็กจะอยู่ขวาสุด

บานประตูห้องนอนและห้องน้ำคือบานสำเร็จรูป HDF

พื้นจากพื้นที่ทางเดินตรงกลาง เข้าห้องนอนแต่ละห้องจะมีตัวจบกั้นอยู่

เปิดเข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ขนาด 6.2 x 2.9 เมตร วางเตียงไว้ทางซ้ายมือตรงกลาง มีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้งสองฝั่ง ช่องแสงมาจากทั้งข้างบ้านและหน้าบ้านที่ทั้งเป็นบานหน้าต่างเลื่อน บานกระทุ้งและบาน Fixed แบบปิดตาย

จากพื้นที่ปลายเตียงจะเห็นว่าพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งยังเหลือพื้นที่ที่เดินได้ปกติ มีช่องแสงจากข้างบานเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆที่จุดเดียวทางซ้ายมือ

มองขึ้นไปด้านบนจะเป็นฝ้าหลุม ตรงกลางเป็นไฟซาลาเปาติดให้ และมีตำแหน่งแอร์อยู่ที่ผนังหัวนอน

มองจากพื้นที่หัวเตียงไปยังปลายเตียงบ้าง ระยะที่แคบลงที่สุดปลายห้องจะอยู่ที่ 2.1 เมตร ที่ในบ้านตัวอย่างจะกั้นผนังออกมาหน่อยเป็น Walk-in Closet ที่ตรงกับทางเข้าห้องน้ำทางขวามือพอดี ส่วนด้านหน้าของผนังที่กั้นออกมาก็จะใช้เป็นที่วางทีวี ทำให้ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร

ตัวอย่างของการดีไซน์ Walk-in Closet คือเป็นบานประตูตู้ฝั่งเดียว แต่บานปิดจะทำเป็นกระจกเต็มตัวให้สองได้พอดี สามารถใส่โต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปได้อีกหน่อย

ข้างๆกันจะเป็นพื้นที่ของประตูบานเลื่อนที่ออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน

ประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงเป็นแบบเปิดได้ทางเดียวเหมือนเดิม ลูกฟักคือกระจกตัดแสงกรอบอลูมิเนียมสีขาว

ตัวกรอบประตูจะวางอยู่บนปูนที่ยกขึ้นมา ทำให้จะสูงขึ้นหน่อยเวลาก้าวเดิน ข้อดีคือสามารถกั้นน้ำได้จากเวลาฝนตก

ระเบียงขนาด 0.7 x 2.0 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีราวระเบียงความสูง 1.1 ให้เรียบร้อย

ที่ผนังด้านนอกก็ติดไฟให้ด้วย

หันกลับมาที่ประตูทางเข้าห้องนอน ก็จะมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ข้างๆกันเป็นบานผลักเข้าไป

สามารถเข้าได้จากทั้งห้องนอนใหญ่และจากทางเดินบนชั้น 2 ประตูเปิดมาจะชนกันนิดหน่อย พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนลงประมาณ 5 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 2 x 2 เมตร ปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่มีการลดระดับพื้นที่อาบน้ำให้  ไม่มีฉากกั้น ไม่มีม่านกั้น ทำให้การใช้งานจริงๆแล้วจะทำได้ยาก เนื่องจากน้ำจะกระเด็นออกไปทั่วพื้นที่ ต้องคอยขัดถูกตลอด

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วนการใช้งานปกติคืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ พร้อมกับช่องแสงติดลูกฟักเป็นแบบขุ่นจากหลังบ้าน

อ่างล้างมือจาก American Standard พร้อมกระจกส่องหน้าขนาดเล็ก ไม่ได้ก่อเคาท์เตอร์มาให้เก็บของด้านล่างได้ แต่มีการก่อปูนยื่นออกมาจากผนังให้วางของได้นิดหน่อย

ต่อมาเป็นโถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นกัน เป็นแบบ 2 ตอน มาพร้อมกับสายฉีดชำระ และที่ใส่ม้วนทิชชู

พื้นที่อาบน้ำ มีฝักบัวแบบหัวเดียว มีการเจาะช่องผนังให้วางแชมพูสบู่ได้นิดหน่อย ไม่มีฉากกั้นหรือม่านกั้นพื้นที่อาบน้ำให้

ต่อมาคือส่วนหลังบ้านที่แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ห้องคือห้องนอนกลางทางซ้ายมือ และห้องนอนเล็กทางขวามือ

ห้องนอนกลางขนาด 2.8 x 3.3 เมตร มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนจากข้างบ้านและหลังบ้าน ภายในบ้านตัวอย่างวางเป็นฟูกอยู่บนพื้นยกระดับ ข้างๆเป็นโต๊ะทำการบ้านและโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า

ยิ่งห้องเล็ก พื้นที่เก็บของก็น้อยลง การยกเตียงให้สูงขึ้นแล้วปูด้วยลิ้นชักเก็บของถือเป็นไอเดียหนึ่งที่สามารถไปทำตามกันได้ถ้าไม่มีที่เก็บของเพียงพอ

ตำแหน่งแอร์จะอยู่ผนังข้างๆใกล้หัวเตียง

ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าและช่องเก็บของนิดหน่อย

ต่อมาเป็นห้องนอนเล็ก

ห้องนอนเล็กขนาด 2.8 x 2.8 เมตร ภายในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องเอนกประสงค์ มีช่องแสงจากหลังบ้านและข้างบ้านเป็นบานหน้าต่างแบบเลื่อน มีตำแหน่งแอร์อยู่ที่ข้างบ้าน

จากมุมด้านในของห้องนอนเล็กหลังบ้าน

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 October 2015

• Rose’ บ้านแฝด Promotion Final Call เนื้อที่ 35.7 ตารางวา ราคา 4.69 ล้านบาท หรือ 131,300 บาท/ตร.วา
• Rose’ บ้านแฝด Promotion Final Call เนื้อที่ 39 ตารางวา ราคา 4.99 ล้านบาท หรือ 128,000บาท/ตร.วา
• Rose’ บ้านแฝด แปลงหน้าคลับเฮ้าส์ เนื้อที่ 35.8 ตารางวา ราคา 5.09 ล้านบาท หรือ 142, 100 บาท/ตร.วา

• โปรโมชั่น
• ฟรี แอร์ทุกห้องนอน
• ฟรี แทงค์น้ำและปั้มน้ำ

• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 บาท
• พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันที ไม่มีผ่อนเงินดาวน์
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 70,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

Pleno สุขสวัสดิ์ ตั้งอยู่ในเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพ ทางเข้าโครงการอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 พื้นที่รอบๆโครงการแถวสุขสวัสดิ์ส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชุมชนเก่าแก่อยู่แล้ว มีสิ่งปลูกสร้างคือที่อยู่อาศัยแนวราบ และอาคารพาณิชย์ที่ต้นซอยและริมถนนใหญ่ แทรกด้วยแปลงพื้นที่ว่างเปล่าที่รอการพัฒนา สามารถเข้า-ออกนอกเมืองได้จากเส้นพระราม 2 ขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือว่าจะใช้วงแหวนอุตสาหกรรมเข้าพระราม 3 แล้ววิ่งเข้าด้วยถนนแนวราบต่อไป ความอุดมสมบูรณ์ส่วนใหญ่ก็จะมีอยู่แถวพระราม 2 เลย ไม่ว่าจะเป็น Central พระราม2, BigC, Lotus ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้งนครธร บางปะกอกหลายสาขา และโรงเรียนทั้งสวนกุหลาบธนบุรี และม.พระจอมเกล้าธนบุรี แต่ถ้าในซอยก็จะต้องพึ่ง 7-11 และร้านค้าเล็กๆ

การเดินทางโดยใช้รถ สามารถเข้า-ออกได้จากทั้งถนนใหญ่และซอยลัดหลายเส้นทาง แต่ทุกเส้นทางก็จะมาบรรจบกันที่ซอยสุขสวัสดิ์ 30 แยก 8-2 การเดินทางถ้ามาจากทางด่วนเฉลิมมหานครที่ข้ามมาจากสะพานพระราม9 ฝั่งพระนครก็ลงที่สุขสวัสดิ์ แล้วกลับรถไปยังถนนสุขสวัสดิ์ฝั่งเลขคู่ เข้าซอยสุขสวัสดิ์ 30 ตรงมาเรื่อยผ่านถนนใต้ทางด่วน เลี้ยวขวาที่ซอยสุขสวัสดิ์แยก 8 และขวาอีกทีเข้าแยก 8-2 ตามลำดับ ส่วนใครที่มาทางวงแหวนก็ลงที่จุดเชื่อมระหว่างถนนสุขสวัสดิ์และถนนเลียบวงแหวน ถ้ามาจากทางพระราม 2 ก็เข้าถนนพุทธบูชา เข้าซอย 39 ที่ต่อกับซอยสุขสวัสดิ์ 30 พอดี หรือว่าถ้ามาจากทางใต้ถนนเลียบวงแหวนก็เข้าที่ถนนประชาอุทิศได้เลย ไม่ต้องอ้อมไปที่ถนนสุขสวัสดิ์ จากทำเลนี้เหมือนเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดกรุงเทพและจังหวัดสมุทรสาครทางตะวันตก และยังสามารถใช้เส้นวงแหวนเพื่อไปทางบางนา-สมุทราปราการได้อีกด้วย

วัสดุของโครงการนี้พื้นที่ชั้นล่างส่วนใหญ่จะได้เป็นกระเบื้องสีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนตรงทางเดินและห้องนอนจะได้พื้นไม้ลามิเนต ลูกตั้งและลูกนอนของบันไดเป็นปูด้วยไม้สำเร็จรูป พื้นระเบียงและพื้น-ผนังภายในห้องน้ำจะได้กระเบื้องเซรามิคขนาดต่างๆกันไปปูถึงฝ้าเพดาน หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีขาว ประตูห้องนอนและห้องน้ำเป็นบาน HDF ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard หรือเทียบเท่า

ขนาดของโครงการถือว่าเป็นโครงการขนาดกลาง มียูนิต 146 ยูนิต มี Facility วางอยู่ตรงกึ่งกลางค่อนมาใกล้ทางเข้าหน่อย จัดแบ่งพื้นที่โครงการส่วนหน้าถือว่าไม่แน่นมาก แต่ส่วนฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือที่เป็นซอยหลายๆซอย ค่อนข้างลึก ทำให้รู้สึกแน่นไปหน่อย ไม่มีระยะเว้น และเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้ยาก ส่วน Landscape สวนสาธารณะทั้งหน้าและข้างๆ Clubhouse ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร พื้นที่สีเขียวหน้าบ้านมีทั้งที่เป็นสนามหญ้าและลงต้นไม้ใหญ่ให้ แต่ภายในเนื้อที่ดินจะได้เป็นหน้าดินเปล่าปกติ 

จากแปลนบ้านก็จะเห็นได้ว่าทั้งสัดส่วนการวางพื้นที่ใช้สอยขนาด 110.32 ตารางเมตร แบ่งห้องย่อยต่างๆได้ดี เหมาะสำหรับครอบครัวเล็กที่พึ่งแต่งงานหรือครอบครัวที่มีลูก 1-2 คน จะได้ไม่มีปัญหาในการแย่งห้องน้ำกันตอนเช้าๆเพราะบนชั้น 2 มีห้องน้ำเพียงห้องเดียว และขนาดของห้องนอนกลางและเล็กก็ไม่ใหญ่มาก ถ้าไม่นับขนาดห้องต่างๆ จะถือว่าการแบ่งฟังค์ชั่นการใช้งานจะเหมือนเป็นบ้านเดี่ยวที่ได้พื้นที่รอบบ้านมาด้านทั้ง 4 ฝั่ง แต่ด้วยกฎหมายที่ระบุว่าบ้านเดี่ยวจะต้องมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 ตารางวา ซึ่งแปลงมาตรฐานของโครงการนี้อยู่ที่ 35.7 ตารางวา ทำให้โครงการนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่บ้านแฝดซึ่งจะมีส่วนที่ต่อกันบนชั้น 2 ระหว่างหลังใกล้กับพื้นที่จอดรถ

สาธารณูปโภค ตั้งแต่หน้าโครงการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security Gate ถือว่าดี มีระบบเปิด-ปิดแบบ Keycard Access ระยะไกลยกไม้กระดกและเปิดประตู มีรปภ.นั่งประจำ 24 ชั่วโมง มี CCTV เฉพาะส่วนหน้าโครงการ เข้ามาด้านในก็จะเจอกับสวนสาธารณะอยู่ด้านข้างและด้านหน้าของ Clubhose ขนาด 285 ตารางวา และมี Clubhouse สูง 2 ชั้นตั้งอยู่ตรงกลาง ภายในมีสระว่ายน้ำแบบ Outdoor ส่วนในอาคารจะมีพื้นที่นั่งรับลม ห้องน้ำแยกชาย-หญิง และชั้นสองมี 2 ห้องคือห้องฟิตเนสและห้องเล่นเด็ก

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4 – 7 ล้านบาท, 13 October 2015 

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วน เข้า-ออกเมืองได้หลายเส้นทาง
• ความปลอดภัย 7.25/10 – Double Gate Security มีไม้กระดกที่เปิดด้วย Keycard Access ระยะไกล และมีรั้วกั้นตอนกลางคืนอีกที
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – ออกแบบพื้นที่ในบ้านแบบบ้านเดี่ยว บนเนื้อที่บ้านแฝดคือน้อยกว่า 50 ตารางวา
• วัสดุ 7.25/10 – ค่อนข้างมาตรฐาน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – โครงการไม่ใหญ่มาก มีสวนสาธารณะ 285 ตารางวา เลียบถนนและหน้าบ้านมีพื้นที่สีเขียว
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – Clubhouse 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวน ห้องเล่นเด็ก 
• 7.45 / 10.00

BOTTOM LINE

Pleno สุขสวัสดิ์  ถือว่าเป็นโครงการบ้านแฝดขนาดกลาง 146 ยูนิต ทางฝั่งใต้ของกรุงเทพ เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว หรือคนทำงานในแถบนั้นอยู่แล้ว สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 4.5 – 5.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 31,000 – 39,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )