สวัสดีครับ รีวิวโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ฉบับที่ 218 ตอนนี้จะพาไปดูโครงการ พีจี พระรามเก้า (PG Rama9) ของบริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ต่อเนื่องกับ LPN พระราม9 ที่เพิ่งพาไปดูมา PG พระราม9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกของปรีชา กรุ๊ป ตอนเปิดตัวได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และราคาพอหยิบจับเป็นเจ้าของง่าย ตอนนี้ตึกเสร็จแล้วไปดูของจริงงานจริงกันครับ

Fact @ 23 August 2012

  • PG RAMA9  (พีจี พระรามเก้า คอนโดมิเนียม)
  • Developer : บริษัท ปรีชากรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
  • ถนนพระรามเก้า
  • MAIN CLASS  (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด High Rise 1 Phase/ Low Rise 1 Phase
  • ที่ดินประมาณ 2-2-60 ไร่
  • Studio/ 1 Bedroom / 2 Bedrooms/ Pent House
  • พื้นที่ใช้สอย  29– 72 ตารางเมตร
  • ราคาปัจจุบัน ประมาณ 1.8 – 4.1 ล้านบาทสำหรับ 1 ห้องนอน และ 4.5 – 5.5 ล้านบาท สำหรับ 2 ห้องนอน
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ  62,000 – 72,000 บาท
  • www.preecha.com

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

สำหรับที่ตั้งของโครงการ อยู่ติดถนนพระรามเก้า ขาเข้า (มุ่งหน้าไปสี่แยก อสมท)  ห่างจากสี่แยกฟอร์จูน ประมาณ 400 เมตร โดยวันที่เปิดขายโครงการ เป็นโครงการแรกในย่านนี้ครับ ส่วนปัจจุบันนี้มีโครงการเพื่อนบ้าน เพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการที่เพิ่งเปิดและกำลังก่อสร้างได้แก่ โครงการ Aspire พระราม9 และ IDEO MOBI พระราม9 อยู่ใกล้ๆกันครับ

แผนที่จากเว็บโครงการครับ ด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดถนนพระราม9  ส่วนด้านจะสามารถขึ้นทางด่วน บริเวณจุดขึ้นลงอโศก ทำให้สะดวกมากสำหรับคนที่เดินทางโดยรถยนต์ และใช้บริการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยครับเพราะสามารถวนรถได้ง่าย และที่สำคัญคือ รถไม่ค่อยติดครับ

ด้วยทำเลที่ตั้งเอง สามารถวนรถเป็นวงกลมได้โดยสะดวกครับ โดยเส้นทางที่วนก็เป็นตามรูปนะครับ เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด และรถไม่ค่อยหนาแน่น แต่ต้องใช้เส้นทางใต้ทางด่วนด้วย

หากเราจะลองขับรถวนตามเส้นทาง พอขับออกมาประมาณ 100 เมตรก็จะเจอซอยพระรามเก้า ซอย 4 ครับ

สภาพทั่วไป บริเวณนี้จะเป็นบ้านพักอาศัย เก่าๆครับ และก็ปั๊มแก๊สครับ หากรถจะติดก็เป็นเพราะรถจอดต่อรอเติมแก๊สนี่หละครับ

ถัดมาอีกพักนึงก็จะเจอสำนักงานขายโครงการ Aspire พระราม9 ครับ

และเป็นทางเข้าโครงการครับ

และบริเวณหัวมุมของสี่แยก ก็จะเป็นสำนักงานขายของโครงการ MOBI โครงการน้องใหม่ล่าสุดในย่านนี้ เพิ่งจะเปิดขายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

และสถานที่ก่อสร้างอยู่ด้านหลังสำนักงานขายครับ

พอเลี้ยวซ้าย ก็จะเข้าถนนรัชดา มุ่งหน้าแยกอโศกครับ

พอลงสะพานก็ผ่านสำนักงาน ขายเฟอร์นิเจอร์ มองเห็นทางด่วนอยู่ไกลๆครับ

ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นตึกแถวเก่าๆ ส่วนที่เห็นอาคารไกลๆ ก็เป็นโครงการคอนโดของ AP และ TCC บริเวณสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน

รถจะมีโอกาสติดที่สุด ผมว่าก็เป็นช่วงนี้ครับ เพราะบางที ติดจากแยกอโศกมาไกลมาก แต่สำหรับคนที่ต้องการขึ้นทางด่วน จะช่วยได้มากครับ เพราะเราจะเลี้ยวซ้ายใต้ทางด่วนพอดี

พอเลี้ยวมา เราจะพบกับส่วนที่เป็นที่จอดรถของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ครับ และจะมีช่องสำหรับผู้ที่จะขึ้นทางด่วน ชิดซ้ายไว้ครับ

ต้องดูป้ายให้ดีครับ ให้ตรงไปตามป้ายที่เขียนว่า ทางด่วน

ขับตรงมาเรื่อยๆครับ จนออกมาเจอทางวนที่จะขึ้นทางด่วน

บริเวณนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่จะมีทางแยกครับ หากใครต้องการจะไปถนนพระรามเก้า ให้ชิดซ้ายไว้ ส่วนคนที่ขึ้นทางด่วน ให้ชิดขวา ซึ่งทางจะบังคับให้วนไปและขึ้นทางด่วนที่ด่านอโศกครับ

พอตัดเข้าช่องทางซ้าย ก็จะเห็นโครงการสีส้มๆ ชัดเจนทีเดียวครับ

ส่วนเราต้องชิดซ้ายไว้ครับ เพื่อที่จะกลับเข้าโครงการ

พอเลี้ยวซ้ายมา จะเจอกับแยกไฟแดง อสมท หากเลี้ยวขวา ก็จะไปโครงการ ลุมพินี ที่เคยรีวิวไป ส่วนโครงการเรา ก็เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดได้เลยครับ

จนมาถึงแยกไฟแดงครับ

หากมองย้อนกลับไปก็จะเห็นโรงพยาบาลพระรามเก้า และหมู่อาคารออฟฟิศ

อีกมุมมอง บริเวณแยกทางด่วน

พอเราเลี้ยวซ้ายโดยนับจากแยก พอเลี้ยวซ้ายมาประมาณ 70 เมตรก็จะถึงแล้วครับ ระวังเลย

ก่อนจะถึงก็จะเป็นอาคารพาณิชยสูง 4 ชั้นตามรูปเลยครับ พอพ้นแล้วก็จะเจอป้ายโครงการสีส้ม เห็นชัดเจนทีเดียวครับ

วนกลับมาจนถึงโครงการ ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีครับ ผมว่าหากขับเร็วๆหน่อย ไม่ต้องหยุดถ่ายรูป 5 นาทีก็น่าจะไหวนะครับ เพราะว่าเส้นทางที่เราไป เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดครับ หากรถไม่เยอะก็ใช้เวลาไม่มาก

การเข้าถึงโครงการ

การเข้าถึงโครงการจากถนนต่างๆ ก็ถือว่าไม่ยาก ไม่ง่ายครับ เนื่องจากโครงการอยู่ในฝั่งที่เข้าเมือง ดังนั้นหากมาจากพระรามเก้า มอเตอร์เวย์ หรือลงทางด่วนพระรามเก้าแล้ว จะสะดวกมาก แต่หากมาจากอโศก หรือ ดินแดง จะต้องกลับรถบริเวณแยกไฟแดง อสมท ซึ่งบางครั้งรถจะค่อนข้างติด อย่างไรก็ดี ก็สามารถวนเข้าจากทางถนนเพชรบุรีเพื่อตัดเข้าถนนที่เชื่อมระหว่าง ถนนเพชรบุรีกับ พระรามเก้า ตามเส้นทางสีเขียวได้เช่นเดียวกัน

การออกจากโครงการ

การออกจากโครงการก็ถือว่าไม่ยาก และสามารถไปได้หลายเส้นทางครับ โดยเฉพาะการเข้าเมือง จะยุ่งยากเล็กน้อยสำหรับการออกไปเส้นพระรามเก้า ขาออก เนื่องจากไม่สามารถกลับรถได้บริเวณแยกฟอร์จูน ต้องวนซ้ายเพื่อวนใต้ทางด่วน ตามเส้นทางสีเหลืองครับ

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการของปรีชา บนถนนพระรามเก้านี้มีอยู่ 2 โครงการนะครับ โครงการแรกคือ โครงการที่รีวิววันนี้ มีจำนวน 2 อาคาร ส่วนโครงการ 2 ก็อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับโครงการแรก เป็นอาคาร 8 ชั้นติดถนนพระรามเก้า ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย อยู่ในระหว่างการเก็บงาน ตรวจรับมอบห้องเพื่อจะโอนให้ลูกค้าครับ สำหรับผมแล้ว โครงการแรกทำเลดีกว่า

โครงการ พีจี พระรามเก้า โครงการ1 ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 2.5 ไร่ แบ่งเป็น 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 8 ชั้น และอาคาร B สูง 15 ชั้น โดยแยกเฟส และแยกนิติบุคคลออกจากกัน มีจำนวนห้องทั้งหมด ประมาณ 550 ห้องครับ การจัดวางโครงการในพื้นที่ค่อนข้างเต็มพื้นที่ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดตำแหน่งทางเข้าเป็น 2 โครงการ มีทางกั้นรถยนต์ 2 ชุดอยู่ติดกัน และมีป้อม รปภ 2 แห่งทำให้ความรู้สึกเวลาเข้าไปค่อนข้างแคบครับ

ปัจจุบัน โครงการยังเหลือห้องขายอยู่จำนวนหนึ่งครับ โดยเป็นห้องขนาด เริ่มต้น 44.88 ตารางเมตร ในราคา 3.05 ล้านบาท (68,070 บาท/ตรม)

ห้องตัวอย่างที่เปิดให้ลูกค้าเข้าไปชมอยู่ที่อาคาร B ครับ

อาคาร B เป็นอาคารสูง 15 ชั้น อยู่ด้านหน้าโครงการ หากเข้ามาแล้วจะถึงก่อน อยู่ด้านซ้ายมือ อาคารจะประกอบด้วยที่จอดรถจำนวน 2 ชั้น สิ่งอำนวยความสะดวก ส่วนกลางจะอยู่บริเวณชั้น 3  และห้องพักจะมีตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป

ภาพนี้จะเห็นป้อมยาม 2 อันของ 2 อาคารนะครับ ซ้ายมือ เป็นป้อมของอาคาร B ส่วนป้อมไกล เป็นของอาคาร A 8 ชั้น

บริเวณฝั่งตรงข้ามป้อม เป็นที่พักคนงานของโครงการ IDEO ครับ ทำให้ทางเข้าโครงการไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่

บริเวณทางเข้าของอาคาร B ครับ

มีป้ายแยกโครงการกันชัดเจน

เข้ามาก็จะเจอที่จอดรถ ด้านบนเป็นห้องซักรีด และชั้นสามเป็นส่วนของสระว่ายน้ำซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปดูนะครับ

สำหรับลูกบ้านอาคาร A หากจะมาใช้บริการสระว่ายน้ำ หรือส่วนกลาง ต้องขี้นบันได้ด้านข้างตึกโดยเข้าจากที่จอดรถตามภาพที่เห็นนี้ครับ ไม่สามารถเข้าจากโถงล๊อบบี้ได้เนื่องจาก คีย์การ์ดคนละอาคาร

หากมองขึนไปก็จะเห็นซุ้มต้นไม้ ซึ่งเป็นบริเวณส่วนพักผ่อน บริเวณสระว่ายน้ำ

เดินย้อนเข้ามาบริเวณที่จอดรถก่อนที่จะขึ้นอาคาร จะจัดที่จอดรถไว้ด้านหน้าเลยครับ โดยมีการจัดสวน และกั้นทางเดินระหว่างโครงการ 1 และ 2 โดยทำเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อน และมีศาลพระภูมิของโครงการ บริเวณด้านซ้ายมือ

ศาลพระภูมิ ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง อาคาร A และอาคาร B

ที่จอดรถจักรยานยนต์ จัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ที่จอดรถบริเวณชั้น 2 ครับ

โครงการมีร้านค้าและห้องซักรีด อยู่บริเวณที่จอดรถชั้น 2 ครับ สำหรับให้บริการลูกบ้านภายในโครงการเป็นหลัก

คราวนี้เราลงมาข้างล่าง เพื่อที่จะเข้าอาคารนะครับ เป็น Drop Off และมีที่จอดรถบางส่วน

ทางเข้าอาคาร ค่อนข้างสูง และโปร่ง ลมเย็น เป็นจุดที่สำหรับแตะการ์ด สำหรับลูกบ้านภายในอาคาร

เข้าประตูคีย์การ์ด มาก็จะเป็นส่วนโถงต้อนรับ

ถัดมาจะเป็นส่วนของที่นั่งเล่น และออฟฟิศของนิติบุคคลครับ

บริเวณโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว จำนวนห้องพักของอาคารนี้ประมาณ 400 ห้อง

ลิฟท์ของ มิตซูบิชิครับ

ห้อง Mail Box ครับ ขนาดค่อนข้างแคบ และมีบันได้ปีนสำหรับห้องที่อยู่สูง เวลาเข้ามาดูจดหมาย  เข้าได้ทีละคนนะครับ ทำมาให้ใช้งานไม่สะดวกอย่างแรง ต้องปีนบันได แถมเข้าออกยากอีก

บริเวณโถงลิฟท์ชั้น 3 มีป้ายชี้เพื่อบอกทางไปสระว่ายน้ำ

ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นของสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง โดยมีห้องพักอยู่ด้วยบางส่วนนะครับ ภายในชั้นนี้จะประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และห้องจัดประชุม จากผังที่โครงการจัดทำไว้ จะมีร้านค้าอยู่ 3 ร้าน แต่ปัจจุบันไม่มีแล้วนะครับ เหลือเป็นห้องว่างๆ อาจเป็นเพราะว่าจำนวนคนไม่มากพอที่ร้านค้าสามารถอยู่ได้ครับ

พอออกมา จะเป็นโถงทางเดินขนาดใหญ่ครับ จากรูป ด้านซ้ายจะเป็นห้องประชุม และด้านขวาจะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง

ภาพสระว่ายน้ำครับ มีระแนงไม้ปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว

ส่วนที่นั่งเล่น พักผ่อนได้

นี่ก็อีกบริเวณที่สามารถ นั่งพักผ่อนได้

ทางเข้าห้อง ล๊อกเกอร์ และห้องน้ำ

ทางเข้าส่วนห้องออกกำลังกาย

ภายในห้องออกกำลังกาย เครื่องเล่นก็เยอะพอสมควรครับ หันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำ

ห้องออกกำลังกายอีกมุม จะหันหน้าไปหาอาคาร A

อีกมุมครับ ห้องออกกำลังกาย ขนาดประมาณ 60 ตารางเมตร

มาที่ห้องประชุมกันบ้าง ขนาดห้องประชุม ที่โครงการเหมือนห้องจัดเลี้ยงมากกว่าครับ คือมีขนาดใหญ่มาก โดยทางโครงการจัดไว้เป็นห้องว่างๆ ตกแต่งไว้บางส่วน

มีห้องแยกเล็กๆ 2 ห้องสำหรับประชุมย่อย

ห้องประชุมเล็ก

ภาพรวมพื้นที่ห้องประชุม จะเห็นว่าพื้นที่ใหญ่ทีเดียวครับ จากการสอบถามพนักงาน ก็ได้ทราบว่าจะมีการจัดงานเลี้ยงในบางครั้งครับ แต่ไม่บ่อย

วิวจากห้องประชุม จะมองเห็นอาคารทิศตะวันออก แต่เนื่องจากอยู่ชั้น 3 จึงไม่ค่อยสูงครับ

เห็นโรงพยาบาลพระรามเก้า

ส่วนของชั้นพักอาศัย จะคล้ายกันหมดทุกชั้นครับ โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น 4 ครับ โดยอาคารจัดวางเป็นรูป U Shape โดยที่ห้องส่วนใหญ่ ขนาด 1 ห้องนอน (สีชมพู) ขนาดประมาณ 35 ตร เมตร จำนวนห้องต่อชั้นอยู่ที่ 36 ห้องครับ

ห้องตัวอย่างของโครงการอยู่ที่ชั้น 7 ครับ

โถงทางเดิน กว้างประมาณ 1.8 เมตร เป็นพื้นปูกระเบื้อง ความสูงประมาณ 2.80 เมตร ทางเดินค่อนข้างโปร่ง แต่ค่อนข้างยาวครับ เนื่องจากรูปแบบอาคารเป็นตัว U

 

 

Product Walk Through

มือจับเป็นลูกบิดธรรมดา และมีตัวล๊อกอีกชั้น ประตูบานเปิด เป็นไม้จริงลูกฟักแบบบ้านๆ สีน้ำตาลเข้มๆ

ห้องตัวอย่าง เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 44.8 ตารางเมตร ตำแหน่งก็อยู่ติดบันไดหนีไฟ และเป็นตำแหน่งมุมอับ เนื่องจากมีส่วนที่สามารถเปิดหน้าต่างได้น้อย เทียบกับห้องอื่นๆ จึงอาจเป็นสาเหตุที่โครงการยังเหลือห้องตำแหน่งนี้อยู่

ที่สำคัญการออกแบบภายในห้องของโครงการ ก็ค่อนข้างแปลกครับ คือห้องรับแขก ห้องทานอาหาร จะไม่มีหน้าต่างเลยครับ จะมีเฉพาะห้องนอนเท่านั้น ทำให้ห้องค่อนข้างมืด และต้องเปิดไฟตลอดเวลา ทั้งนี้จากการสอบถาม ห้องอื่นๆของโครงการนี้ จะเป็นลักษณะนี้เกือบทั้งหมด

บริเวณห้องรับแขก ปูพื้นลามิเนตครับ

ส่วนที่เชื่อมต่อกับทางเดินภายนอก อยู่ระดับเดียวกัน โดยมีคิ้วพื้นปิดครับ

เข้ามาก็จะเป็นตำแหน่งของโต๊ะอาหาร และตำแหน่งที่วางตู้เย็น

ชุดโซฟา และโต๊ะกลาง

ชุดครัว เป็นแบบครัวเปิดครับ มีตำแหน่งก๊อกน้ำ และเตาพร้อมเครื่องดูดควัน (ด้านซ้ายมือ โดยต้องติดเอง) และคงต้องใช้เครื่องดูดควันแบบที่ระบายอากาศภายในตัวครับ  จะเห็นว่าพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นเองไม่เพียงพอ จึงต้องนำไปวางไว้หลังโต๊ะอาหารครับ

โต๊ะวางทีวีครับเป็นแบบลอยตัว

แอร์ในห้องตัวอย่างมี 2 ตัวนะครับ หากเป็นห้องปรกติแล้ว ทางโครงการจะเดินท่อฝังในผนังไว้ให้ แต่ไม่มีเครื่อง ลูกค้าต้องซื้อเครื่องมาติดตั้งเองครับ

ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้ รูปแบบค่อนข้างร่วมสมัย เหมือนประตูบ้านเดี่ยวครับ ลูกบิดหมุน และมีกุญแจล๊อกครับ ส่วนตัวเบรกเกอร์ของไฟจะอยู่ด้านบนเหนือประตู

ต่อมาเข้ามาในส่วนห้องนอนครับ พอเข้ามาจะเป็นตำแหน่งของเตียง และห้องแต่งตัว และเป็นพื้นที่นั่งเล่นซึ่งติดหน้าต่างตามรูปครับ

ตำแหน่งเตียงวางอยู่ด้านขวา

ด้านซ้ายมือเป็นห้องแต่งตัว

ภายในห้องแต่งตัว ซึ่งหากไม่เปิดไฟจะมืดมากครับ

ห้องน้ำ จะเข้าจากห้องแต่งตัวครับ โดยอุปกรณ์มาตรฐานที่โครงการให้ก็มีตามรูปครับ ได้แก่ อ่างล้างหน้า และชักโครก กระเบื้องพื้นภายในเป็นพื้นกระเบื้อง ลวดลายตามภาพ

มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยครับ โครงการนี้ แต่ต้องยืนอาบน้ำในอ่างนะครับ

ฝักบัวเป็นและที่วางสบู่ตามรูปครับ

ออกมาห้องนอนกันต่อครับ มีส่วนสำหรับนั่งเล่น

บริเวณระเบียง มีที่นั่งเล่น และเป็นจุดเดียวที่สามารถมองวิวสระว่ายน้ำได้

และเป็นตำแหน่งแขวนคอยร้อนของแอร์

วิวสระว่ายน้ำ

และห้องด้านข้างครับ

ต่อมาจะพาไปดูห้องเปล่ากันบ้างครับ ซึ่งโครงการก็เหลือห้องในตำแหน่งเดียวกัน แต่คนละชั้น โครงการขายเป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า

พอเข้ามา ก็จะเป็นห้องรับแขกและห้องกินข้าว ภายในห้องเปล่า ภายในเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนทาสี พื้นไม้ลามิเนต

ทางโครงการจะเดินท่อสำหรับติดตั้งแอร์ไว้ให้ครับ

ตู้เบรกเกอร์ไฟภายในห้อง และกล่องโทรศัพท์ อยู่บริเวณทางเข้าห้อง

ไฟ ดาวน์ไลท์ ฝ้าฉาบเรียบ สูง 2.8 เมตร

บริเวณที่สำหรับติดตั้งครัว

พื้นไม้ลามิเนต และคิ้วพื้นภายในห้องครับ ส่วนวงกับประตูสีน้ำตาลเข้ม

ภาพถ่ายเข้ามาในห้องนอน  ค่อนข้างมืดครับ เนื่องจากหน้าต่างอยู่ในมุมอับ และไกลจากประตู

บริเวณระเบียง มีปลั๊กสำหรับใส่เครื่องซักผ้า และก๊อกน้ำสำหรับล้างระเบียง

หน้าต่างระบายอากาศของบันไดหนีไฟ แต่เปิดเข้าสู่ระเบียงห้อง รู้สึกแปลกๆครับ ประหลาดมาก

มาต่อกันที่อาคาร A ครับ ซึ่งเป็นอาคาร 8 ชั้น ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ถ้าจะใช้สระว่ายน้ำหรือห้องออกกำลังกาย ต้องไปใช้ที่อาคาร B

ออกมาจากอาคาร B ก็จะเห็นอาคาร A อยู่ข้างในเข้าไป

นี่เป็นรูปทางเข้า แยกทางเข้าที่จอดรถ และป้อมยาม ของอาคาร A

ทางเข้าที่จอดรถ

บริเวณทางเข้า ของอาคาร B ที่เห็นไกลๆ เป็นตำแหน่งของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญครับ

บริเวณ ล๊อบบี้ของอาคาร A ขนาดเล็กกว่าอาคาร B และรู้สึกไม่ค่อยหรูหราเท่า

บริเวณโถงล๊อบบี้ ของโครงการ มีลิฟท์ 2 ตัวต่ออาคารครับ จำนวนห้องประมาณ 119 ห้อง

ลิฟท์ของมิตซูบิชิเช่นกันครับ แต่นิติของอาคาร ปิดแผ่นกันกระแทกไว้อีกชั้นเพื่อป้องกันความเสียหาย ทำให้ลิฟท์ดูแคบกว่าอาคาร B ครับ

บริเวณ โถงทางเดินภายในอาคาร และแพทเทิร์นของกระเบื้อง

ตำแหน่งของถังดับเพลิงครับ เนื่องจากอาคารนี้ไม่ต้องวางท่อสปริงเกอร์ แต่ต้องมีถังดับเพลิงประจำแต่ละชั้นครับ

ห้องทิ้งขยะ และประตูหนีไฟ

ระดับของฝ้าเพดานในอาคาร A จะเตี้ยกว่า อาคาร B เนื่องจากถูกจำกัดด้วยความสูงของอาคาร ตามกฎหมายควบคุมอาคารที่ 23 เมตร ทำให้แต่ละชั้น ความสูงของฝ้าเพดานจะอยู่ที่ประมาณ 2.40 เมตร

ผังอาคารของทุกชั้นจะเหมือนกันตั้งแต่ชั้น 2 – 8 โดยแต่ละชั้นจะมี 17 ห้อง โดยห้องส่วนใหญ่เป็นห้อง Studio (สีเหลือง) ตามภาพครับ โดยห้องใหญ่จะอยู่บริเวณห้องมุมทั้งหมด โดยมีขนาดตั้งแต่ 54 ตารางเมตร (1 ห้องนอน) และ ขนาด 61-75 ตารางเมตร เป็นแบบ 2 ห้องนอน ไปดูภายในห้องกันครับ

ห้องที่โครงการเหลืออยู่ที่อาคาร A เป็นห้องขนาดใหญ่ ประมาณ 60 ตร เมตร ราคาประมาณ 4.0 – 4.5 ล้านบาท (ประมาณ 68,000 บาท/ ตร เมตร)

ทางเข้าห้อง และช่องชาร์ป สำหรับมิเตอร์น้ำ

สภาพห้องเปล่า พอเข้าห้องมาครับ

เบรคเกอร์ไฟ อยู่บริเวณประตูทางเข้า

สวิทซ์ไฟ เป็นตามรูป

ตำแหน่งวางแอร์ ซึ่งทางโครงการได้วางท่อไว้แล้ว โดยลูกบ้านต้องเข้ามาติดตั้งแอร์เอง

มองย้อนกลับไปบริเวณทางเข้า จะเห็นประตูเข้าห้องนอน และห้องน้ำ ด้านซ้ายมือ และส่วนที่สำหรับติดตั้งชุดครัว ซึ่งโครงการติดตั้งท่อน้ำทิ้งไว้

พื้นที่สำหรับติดตั้งชุดครัว

ทางเข้าห้องนอน และห้องน้ำ ภายในห้อง

ภายในห้องนอน เป็นห้องขนาดใหญ่ ค่อนข้างโล่งครับ

โครงการให้อลูมีเนียมสีขาว และกระจกเขียวใสครับ

ไฟดาวน์ไลท์ ภายในห้อง

ประตูห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ อุปกรณ์เหมือนอาคาร B ครับ อ่างล้างหน้า และกระจกเงา

โถสุขภัณฑ์

อ่างอาบน้ำ และชุดฝักบัว

ลายกระเบื่้องพื้น ก็คล้ายคลึงกัน

ภายนอกระเบียง เป็นตำแหน่งที่ติดตั้ง ตัวคอยล์ร้อนของแอร์ครับ โดยทางโครงการเตรียมสายทิ้งไว้ให้

ราวระเบียงกันตก เป็นเหล็กทาสีขาว

โดยรวมวัสดุที่ใช้สำหรับอาคาร A เหมือนกับอาคาร B ครับ เพียงแต่ด้วยภาพรวมของอาคารที่ต่างกัน ทำให้ราคาเฉลี่ย/ ตารางเมตร ของอาคาร A จะต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ด้วยพื้นที่ที่ใหญ่กว่า ทำให้ราคารวมออกมา ไม่ต่างกันหรือแพงกว่าด้วยซ้ำครับ

ปิดท้ายด้วยภาพทิวทัศน์ จากอาคาร B บริเวณชั้น 13 ครับ เป็นทิศจากทิศใต้ จะมองเห็นวิวทางด่วนและวิวเมืองครับ

อีกภาพ จะเห็นทางด่วน และอาคารสำนักงานมากมาย

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทางนี้จะเห็นโรงพยาบาลพระรามเก้า

ปิดท้ายจริงๆ ด้วยสภาพคลองด้านหลังโครงการครับ ถือว่าเป็นคลองที่มีสภาพที่ดีครับ ไม่มีกลิ่นเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจจะมีกลิ่นคลองบ้างในบางวันและบางช่วงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีทางเดินเลียบคลองสำหรับชาวบ้านภายใน สามารถเดินออกมาถนนด้านข้างที่เชื่อมกับถนนเพชรบุรี กับ ถนนพระรามเก้าได้ด้วยครับ ซึ่งห้องที่อยู่ติดคลองด้านล่างๆ ก็คงไม่ปลอดภัยเท่าห้องข้างบนนะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 23/08/2012

ราคาปัจจุบันหลากหลายมาก เพราะกลายเป็นราคามือสองซะเยอะ แถมแต่ละห้องให้ของและตกแต่งมาไม่เท่ากัน เลยขอยึดราคาห้องที่มีขายของโครงการเป็นหลักนะครับ ซึ่งโครงการนี้ราคาเปิดตัว 4-50,000 บาทต่อตารางเมตร แต่ราคาปัจจุบันเป็นดังนี้

  • 1 Bedroom อาคาร A เนื้อที่ 60.11 ตารางเมตร ราคา 4.07 ล้านบาท หรือ 67,626 บาทต่อตารางเมตร ชั้น 5
  • 2 Bedroom อาคาร A เนื้อที่ 72.52 ตารางเมตร ราคา 4.50 ล้านบาท (ห้องPromotion) หรือ 62,052 บาทต่อตารางเมตร ชั้น 2
  • 1 Bedroom อาคาร B เนื้อที่ 44.80 ตารางเมตร ราคา 3.19 ล้านบาท (Full Furnished/ ห้องตัวอย่าง) หรือ 71,078 บาทต่อตารางเมตรชั้น 7
  • 1 Bedroom อาคาร B เนื้อที่ 44.80 ตารางเมตร ราคา 3.08 ล้านบาท หรือ 68,516 บาทต่อตารางเมตรชั้น 9
  • 1 Bedroom อาคาร B เนื้อที่ 36.00 ตารางเมตร ราคา 2.70 ล้านบาท (fully Furnished) หรือ 75,000 บาทต่อตารางเมตรชั้น 13 (Re-Sale)
  • ค่าส่วนกลางอยู่ที่ 30 บาท/ตร เมตร ค่ากองทุน อยู่ที่ 400 บาท/ ตร เมตร

ราคาค่าเช่า

  • 1 Bedroom อาคาร B ห้องขนาด 44.80 ตารางเมตร ค่าเช่า 15,000 บาท/เดือน หรือ 334.82 บาท/ตร เมตร/เดือน
  • 1 Bedroom อาคาร B ห้องขนาด 35.50 ตารางเมตร ค่าเช่า 12,500 บาท/เดือน หรือ 352.11 บาท/ตร เมตร/เดือน

เจาะลึกรวบยอด

โครงการ พีจี พระรามเก้า โครงการแรก ถือว่าประสบความสำเร็จในการขายอย่างงดงามในวันที่เปิดขาย ด้วยยอดจองที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ถึงวันที่โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จนถึงปัจจุบัน โครงการยังคงเหลือห้องที่ไม่สามารถขายได้อยู่จำนวนหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นจำนวนไม่มาก แต่ก็เป็นภาระของผู้ประกอบการที่ต้องดูแล ทำให้ไม่สามารถปิดโครงการได้จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากห้องเหล่านั้นอยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดีเท่าไรเมื่อเทียบกับห้องอื่น และมีการปรับราคาขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว

ทำเลของโครงการเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย ถือเป็นจุดแข็งที่สุดเพียงหนึ่งเดียวสำหรับโครงการพีจี พระรามเก้านี้ บริเวณย่านแยกพระรามเก้าต่อไปจะมีโครงการเมกะโปรเจกต์ออฟฟิศขนาดใหญ่ ที่จะมีคนมาอยู่ย่านนี้อีกมาก ตัวโครงการก็ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ายังอยู่ในระยะเดินได้ไกลหน่อยค่อยๆเดิน การเดินทางสะดวกมากสำหรับรถยนต์ส่วนตัว

การออกแบบยังคงเป็นสิ่งที่ควรได้รับการพัฒนาสำหรับโครงการต่อๆไป ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ การกั้นห้องระหว่างห้องนอนและห้องรับแขก ทำให้ห้องรับแขกไม่ได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างทำให้การอยู่อาศัยจริงๆ เกิดความอึดอัด พอเปิดประตูเข้าห้องจะรู้สึกว่ามืด และต้องเปิดไฟตลอดเวลา ซึ่งสิ้นเปลืองพลังงาน นอกจากนี้ ห้องอื่นที่ยังเหลือขายในปัจจุบันเป็นห้องที่อยู่ในมุมอับ หรือห้องขนาดใหญ่ที่ทำให้ราคารวมของห้องสูง

วัสดุอุปกรณ์ของโครงการที่ให้มาถือว่าค่อนข้างธรรมดามากเมื่อเทียบกับราคาเปิดตัวที่ 4x,xxx บาท หลายปีก่อนนะ แต่พอเป็นราคาปัจจุบัน มาตรฐานวัสดุ และจำนวนของที่ให้เรียกว่าต่ำกว่ามาตรฐานมาก

ในส่วนของสาธารณูปโภค เปรียบเทียบอาคาร A และอาคาร B นั้น ดูเหมือนอาคาร B จะดีกว่าอาคาร Aอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเป็นอาคารสูง 15 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครันกว่า ไม่ว่าจะเป็น ที่จอดรถ, สิ่งอำนวยความสะดวก, ล๊อบบี้ที่โอ่โถงมากกว่า, ความสูงถึงฝ้าเพดานที่โปร่งมากกว่า, วิวทิวทัศน์ที่ดีกว่า, ราคาห้องที่ถูกกว่า ทำให้อาคาร A ยังคงเหลือห้องขาย ใน % ที่มากกว่า และคนซื้อมักกจะเปรียบเทียบกับอาคาร B ทำให้มีความลังเลในการตัดสินใจซื้อ .. แบบนี้คงต้องรอให้ขายอาคาร B ขายหมดก่อน อาคาร A ถึงจะได้ขาย.. ส่วนสำคัญที่แปลกประหลาดของ Facility ที่นี่คือความไม่สมดุลกันของสาธารณูปโภค ของที่จำเป็นต้องใช้จัดมาให้เล็กนิดเดียวแถมใช้งานยากน่าตำหนิ เช่นตู้จดหมายที่ต้องปีนกระไดหยิบ แต่ทำห้องประชุมจัดเลี้ยงมาอันเบ้อเร่อ เป็นต้น

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไปโดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

คะแนนความคุ้มค่าเทียบกับราคาปัจจุบัน 65,000 – 70,000 บาทต่อตารางเมตร 22/08/2012

  • ทำเล 8.50/10 – ติดถนนพระรามเก้า ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้ เดินทางได้สะดวก และใกล้โครงการ เมกะโปรเจกต์ในอนาคต มีตำหนิที่ติดคลองด้านหลัง แต่ราคานี้ถือว่าได้ทำเลคุ้มแล้ว
  • เดินทางด้วยรถ 8.50/10 – เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวดีมาก สามารถวนขึ้นทางด่วนได้ง่าย เข้าถึงได้ง่าย ไหลหนีรถติดได้
  • ไม่ใช้รถ 8.00/10 – ติดถนนใหญ่เรียกรถ Taxi ง่ายมาก สามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้ แต่ต้องระวังในการข้ามถนนเนื่องจากรถค่อนข้างมาก
  • วัสดุ 5.50/10 – วัสดุ ทั้งในห้องและส่วนกลาง เทียบกับราคาปัจจุบัน ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานราคานี้และค่อนข้างล้าสมัย โครงการขายเป็นห้องเปล่า ไม่มีของแถมอีกต่างหาก
  • แบบ 6.00/10 – แบบอาคาร และแบบห้องไม่ค่อยลงตัว มีของแปลกๆให้ดูเยอะเหมือนกัน แถมเหลือห้องที่ค่อนข้างใหญ่ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้โครงการยังเหลือขายอยู่
  • สาธารณูปโภค 6.50/10 – มีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และห้องประชุมที่ใหญ่มาก ซึ่งห้องประชุมจะใหญ่ไปไหน แต่ตู้จดหมายที่ต้องดูทุกวัน ลูกบ้านต้องปีนกระไดดู…เจ้าห้องในอาคาร A ที่ต้องมาใช้สาธารณูปโภคที่อาคาร B ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร

  • MAIN CLASS
  • 7.53/ 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ พีจี พระรามเก้า โครงการ1 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่พักย่านใกล้แยกพระราม9 เดินทางด้วยรถยนต์ เป็นหลักและใช้รถไฟใต้ดินบ้าง เลือกโครงการที่ทำเล รับได้กับวัสดุและการออกแบบ เพื่อยอมแลกกับการจ่ายน้อยกว่าแต่ได้ห้องที่ใหญ่กว่าในทำเลใกล้เคียงกัน มีงบประมาณเผื่อแต่งห้องด้วย ในระดับ 2-5 ล้านบาท หรืองบผ่อนจ่ายรายเดือน 14,000 – 37,000 บาท