%e0%b8%9b%e0%b8%81-d-parque

รีวิวฉบับที่ 1233 …สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Parque พุทธบูชา 48 ซึ่งเป็นคอนโดตัวแรกจาก Norm Marque ที่ออกแบบโดยสถาปนิกจาก A49 ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น มีจุดเด่นที่อยู่ใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรีประมาณ 300 เมตร ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่แล้ว หน้าตาโครงการจะเป็นอย่างไร ไปชมพร้อมๆกันเลยค่าา ^^

อ่านรีวิวโครงการตอนเปิดตัว คลิกที่นี่

Fact @ 30 N0vember 2016

  • Parque Phutthabucha 48 (ปาร์ค พุทธบูชา 48)
  • บริษัท นอร์มมาร์ค จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ทุ่งครุ
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 363 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 134 คันคิดเป็น 36.91% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 44%
  • ที่ดินประมาณ 3-2-13 ไร่
  • 1 Bedroom ขนาด  26 – 30 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom  ขนาด 33.64 – 38.66 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาด 51 – 57 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.16 ล้านบาทหรือประมาณ 82,149 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 82,000บาท
  • เวปไซต์โครงการ คลิกที่นี่
  • โทร 085-264-2222

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :13.647123, 100.495065

Parqueพุทธบูชา_Map_Official

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ Parque พุทธบูชา 48 ตั้งอยู่บน “ถนนพุทธบูชา” ตามชื่อโครงการเลยค่ะ จุดเด่นที่สำคัญคือโครงการตั้งอยู่ใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรีหรือ ม.บางมด ประมาณ 300 เมตร โดยนับจากโครงการถึงประตูหลัง ม. ฝั่งพุทธบูชา ก็ถือว่าเป็นโครงการใกล้มหาวิทยาลัย ที่เหมาะกับกลุ่มนักศึกษาหรือคนทำงานในละแวกนั้น โดยภาพรวมของทำเลมีความคึกคักค่อนข้างสูงเนื่องจากอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายสำหรับนักศึกษา อีกทั้งเส้นทางในบริเวณนี้จะมีการเชื่อมต่อถึงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นพุทธบูชาที่เชื่อมต่อถนนพระราม2, เส้นประชาอุทิศที่เชื่อมกับถนนสุขสวัสดิ์ และถนนเลียบวงแหวนใต้ อยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วน และสะพานภูมิพลที่ไปโซนอุตสาหกรรมแถวๆ ปู่เจ้าสมิงพราย, สำโรง และเทพารักษ์ได้ ดังนั้นปริมาณรถที่มาใช้จะค่อนข้างหนาแน่นและรถติดหนักในช่วงเวลาเร่งด่วน สภาพแวดล้อมบริเวณเส้นสุขสวัสดิ์จะเป็นแหล่งโรงงานและร้านค้าอาคารพาณิชย์เยอะพอสมควร แต่ถ้าลึกเข้ามาด้านในเส้นประชาอุทิศ-พุทธบูชาแล้วจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและโรงเรียนซะมากกว่า

ตัวโครงการจะตั้งอยู่ใกล้แยกนาหลวง ซึ่งเป็นแยกที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนพุทธบูชาและถนนประชาอุทิศ ทำให้การเดินทางมาถนนเส้นนี้สามารถเข้าได้จากทั้งสองทางเลย  สำหรับใครที่มาจากในเมืองแนะนำให้เข้าเส้นประชาอุทิศจะสะดวกและมีความซับซ้อนของเส้นทางน้อยกว่ามาทางพุทธบูชาค่ะ ลองคิดง่ายๆว่าถ้าเรามาจากในเมืองเวลาจะข้ามมาฝั่งธนฯไม่ว่าจะใช้สะพานสาทร, สะพานกรุงเทพทั้งเก่าและใหม่, สะพานภูมิพล, และทางด่วนเฉลิมมหานคร เส้นทางที่สะพานเหล่านี้มาเชื่อมต่อคือถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้การเข้าจากทางประชาอุทิศทำได้ง่ายและมีทางลัดทะลุมาเยอะกว่าด้วย ส่วนเส้นทางสำหรับคนที่มาจากพระราม 2 ก็เข้าทางพุทธบูชาจะสะดวกที่สุด หรือจะวิ่งเลียบทางด่วนมาทะลุถนนประชาอุทิศ ผ่านแยกนาหลวงแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธบูชาก็สามารถมายังโครงการได้เหมือนกันค่ะ

การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางถือว่าสะดวกมาก ข้างๆโครงการมีป้ายรถเมล์ที่มีศาลาให้รอรถได้ ด้านหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ ทั้งรถเมล์ รถสองแถว และรถกระป๊อ( Subaru เล็ก) เส้นทางก็มีให้เลือกทั้งที่ไปวิ่งบนเส้นพุทธบูชาและเส้นประชาอุทิศ ไป ม.พระจอมเกล้าธนบุรีแล้วออกถนนสุขสวัสดิ์ หรือใครจะไปลงใต้ทางด่วนเพื่อขึ้นรถเมล์อีกต่อเพื่อเข้าเมืองก็ได้ค่ะ รถเมล์สายที่ผ่านหน้าโครงการแล้วจะใช้ได้ประจำคือสาย 75 สามารถนั่งตรงไปลง BTS สะพานตากสิน หรือไปสุดสายที่ MRT หัวลำโพงได้

มาดูสภาพแวดล้อมและภาพรวมทำเลรอบๆโครงการกันบ้าง บริเวณเส้นพุทธบูชาที่อยู่ใกล้ๆกับแยกนาหลวงนี้ คนในพื้นที่จะเรียกกันว่า”โซนหลัง ม.” ส่วน”โซนหน้า ม.”จะอยู่บริเวณประตูใหญ่ของ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ฝั่งถนนประชาอุทิศ ขอเล่าคร่าวๆก่อนนะคะว่าจริงๆแล้วโซนหน้าม.กับหลังม.ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากเท่าใดนัก ทั้งสองโซนมีความอุดมสมบูรณ์ มีหอพัก มีร้านอาหาร และ Mall เล็กๆเหมือนกัน อย่างโซนหน้า ม. จะมีลานไม้ ที่เป็น Mall ที่มีร้านกาแฟร้านอาหาร ส่วนโซนหลัง ม.ก็มีสวนหมากพลาซ่า ที่มีเต็นท์  อาหารและของกินคึกคักมากตั้งแต่บ่ายถึงมืด การเลือกโซนอยู่อาศัยของนักศึกษาหรือคนทำงานแถวนั้นส่วนใหญ่จะเลือกตามความชอบมากกว่าว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน

โดยโซนหน้า ม.ที่อยู่บนถนนประชาอุทิศเนี่ยจะมีจุดเด่นตรงที่เข้าเมืองสะดวกกว่าหน่อยเพราะบนเส้นประชาอุทิศจะมีรถสองแถวสามารถนั่งไป กม.9 เพื่อไปต่อรถตู้หรือรถเมล์เพื่อเข้าเมืองหรือขึ้นทางด่วนได้สะดวก ในขณะที่หลังม.จะต้องนั่งรถกระป๊อแล้วไปต่อสองแถวที่หน้า ม. อีกที แต่โซนหลัง ม. ณ ที่ตั้งของโครงการก็จะได้เปรียบตรงที่มีสวนธนบุรีรมย์ซึ่งเป็นสวนสาธารณะสำคัญในย่านนี้และมีศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติอยู่ติดกับโครงการซึ่งภายในมีพื้นที่ให้เล่นกีฬาได้หลายอย่างเช่น สนามฟุตบอล, สนามเทนนิส, สนามบาสเกตบอล , สระว่ายน้ำ, ปิงปอง, แบดมินตัน, โยคะ, ตะกร้อ และ ลีลาศ เสียค่าสมาชิกแค่ไม่กี่บาทเท่านั้น ซึ่งศูนย์กีฬานี้ก็อยู่ติดกับโครงการ Parque ของเรานี่เอง

นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์อื่นๆอย่างตลาดใหม่ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61 (ตลาด 61) ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ มีของกินของใช้ขายครบ และยังมีตลาดนัดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ให้ไปช้อปปิ้งกันได้ โดยในละแวกตลาดจะเป็นย่านมุสลิม ถ้าใครเคยไปตลาด 61 จะเห็นว่ามีมะตะบะ โรตี ข้าวหมกไก่ ที่เป็นอาหารของคนไทยมุสลิมอยู่เยอะ ส่วนถ้าใครอยากไปห้างก็มี Max Valu และ Tesco Lotus ที่อยู่เลยตลาด 61 ไปหน่อยก็นั่งรถไปได้แป๊บเดียวค่ะ

การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มถนนสุขสวัสดิ์ บริเวณจุดลงทางด่วนสุขสวัสดิ์เพื่อไปดูสภาพแวดล้อมบนถนนสุขสวัสดิ์ แล้วไปกลับรถที่แยกวัดสน จากนั้นตรงไปเรื่อยๆจนถึงกิโล 9 แล้วให้เลี้ยวซ้ายซอยสุขสวัสดิ์ 50  ซึ่งเป็นถนนเลียบทางด่วนเพื่อมาทะลุยังถนนประชาอุทิศแล้วเลี้ยวซ้ายมาวิ่งบนถนนประชาอุทิศ เพื่อดูสภาพแวดล้อมทั้งสองข้างทาง ผ่าน ม.พระจอมเกล้าธนบุรี จนถึงแยกนาหลวงให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพุทธบูชาก็จะเจอโครงการอยู่ทางขวามือ

เรามาเริ่มที่จุดลงทางด่วนสุขสวัสดิ์ บนถนนสุขสวัสดิ์กันนะคะ

เมื่อลงจากทางด่วนมาเราจะเจอศูนย์ True และสะพานลอยข้างหน้า ซึ่งเป็นจุดจอดรถเมล์ รถตู้ ที่ลงมาจากทางด่วน ช่วงเย็นๆตรงนี้จะมีรถแท็กซี่จอดรถรับคนที่ลงจากรถโดยสารเหล่านี้ค่อนข้างเยอะ

เราขับตรงมาจะเจอป้ายบอกทางตรงไปสามารถไปยังสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ได้

ตรงไปเรื่อยๆจะเห็นสะพานลอยข้างหน้า ซึ่งเป็นแยกวัดสนที่เราสามารถไปกลับรถได้ค่ะ เดี๋ยวเราจะชิดขวาเพื่อเตรียมกลับรถกัน

กลับรถมาเลยยย

เมื่อกลับรถแล้วให้เราตรงไปเรื่อยๆจะเห็นทางด่วนอยู่ข้างหน้า หากตรงไปจะสามารถไปราษฏร์บูรณะได้ แต่เราจะเบี่ยงซ้ายไว้เพื่อหาซอยที่จะไปถนนประชาอุทิศ

เราเบี่ยงซ้ายมาจะเจอ Family Mart ข้างหน้าให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 50 ที่อยู่ข้าง Family Mart เลยค่ะ โดยซอยนี้จะสามารถไปทะลุถนนประชาอุทิศได้

โดยบริเวณนี้เรียกว่ากิโล 9 เป็นพื้นที่ใต้ทางด่วนที่เป็นจุดจอดรถเมล์ รถตู้ที่มารับคนเพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ โดยจะมีรถตู้ไปส่งหลายที่ เช่น แยก อสมท. , รามคำแหง, จุฬาลงกรณ์, เซนต์จอห์น(ห้าแยกลาดพร้าว) เป็นต้น รวมทั้งรถเมล์หลายสาย ตอนเช้าบริเวณนี้จึงมีคนมารอรถเพื่อไปทำงานเยอะมาก ส่วนเราจะเลี้ยวซ้ายตรงนี้เข้าซอยสุขสวัสดิ์ 50 กัน

ซอยสุขสวัสด์ 50 เป็นซอยเลี้ยบทางด่วนเงียบๆ เคยเดินผ่านกลางคืนก็เปลี่ยวเหมือนกันนะ

ตรงมาเรื่อยๆสุดทางจะมาทะลุถนนประชาอุทิศ หากเลี้ยวขวาจะไปยังถนนสุขสวัสดิ์ได้ แต่เราจะเลี้ยวซ้ายเพื่อไปโครงการกัน

ตอนนนี้เรามาอยู่บนถนนประชาอุทิศแล้ว สองข้างทางของถนนเส้นนี้จะเป็นโรงเรียน ตึกแถว บ้านพักอาศัย และสำนักงานขนาดเล็กถึงกลางซะส่วนใหญ่

เราขับมานิดเดียวจะเจอวิทยาลัยพณิชยการเชตุพนอยู่ทางขวามือ

ถนนเส้นนี้จะมีปริมาณรถผ่านไปมาค่อนข้างเยอะตลอดวัน ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล แล้วยังมีรถประจำทางหลายรูปแบบทั้งรถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสองแถว รถกระป๊อ

ส่วนรถเมล์ เช่น สาย 75 ในภาพนี้จะไปส่งถึงหัวลำโพงเลย ถ้าใครต้องการไป BTS สะพานตากสิน หรือไป MRT หัวลำโพงก็สามารถใช้บริการได้ แต่รถจะไม่ผ่านหน้าโครงการนะคะ ต้องนั่งรถกระป๊อแล้วมาขึ้นต่ออีกที

เราขับรถเข้ามาเรื่อยๆยิ่งใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ก็จะเริ่มเห็นคอนโด Low Rise กันแล้ว อย่างทางซ้ายมือนี้เป็น The Privacy คอนโดของพฤกษา

ไม่ไกลกันมี The Cube ประชาอุทิศ

เลยมาอีกหน่อยก็มี Librery Houze ประชาอุทิศ ซึ่งคอนโดเหล่านี้ล้วนขึ้นมาเพื่อรองรับคนที่ทำงานหรือใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้และนักศึกษา ม.พระจอมเกล้าธนบุรีค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆเราจะเจอ Mall เล็กๆชื่อลานไม้อยู่ทางขวามือ ภายในจะมีร้านขายอาหาร ร้านเสื้อผ้าเล็กๆ ซึ่งจากตรงนี้สภาพแวดล้อมจะยิ่งคึกคักขึ้นเรื่อยๆ

บรรยากาศสองข้างทางเป็นตึกแถวที่ใต้ตึกมีทั้งร้านขายเฟอร์นิเจอร์ราคาเบาๆที่ใช้ในหอพัก ร้านอินเตอร์เนต ร้านคอมพิวเตอร์ ร้านอาหาร ร้านนม หลากหลายมาก

ทางซ้ายมือเป็นเวิ้งเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยอาคารพาณิชย์ ซึ่งพื้นที่ตรงกลางเป็นพื้นที่ใช้เช่าสำหรับขายอาหาร มีอาหารให้เลือกหลากหลายและคึกคักมากในช่วงเย็น คนที่มากินส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษาเพราะตรงนี้อยู่ในโซนหน้ามอแล้ว

ไม่ไกลกันจะเจอ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี อยู่ทางขวามือค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็นเต้นท์ขายอาหารเล็กๆที่มีของกินขายตลอดวัน

เราตรงมาอีกนิดจะเจอป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไปครุใน ส่วนเราจะเลี้ยวขวาจะไปทางพุทธบูชา, พระราม 2 เพื่อไปยังโครงการกันนะคะ

สุดทางจะเป็นแยกนาหลวงซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนประชาอุทิศและพุทธบูชา หากเลี้ยวซ้ายจะสามารถไปตลาดทุ่งครุ 61, Max Valu, Tesco Lotus ได้ ส่วนเราจะเลี้ยวขวาไปทางพุทธบูชา, พระราม 2 เพื่อไปโครงการกัน

พอเลี้ยวขวามาเราก็จะเจอโครงการ Parque พุทธบูชา 48 อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ โดยโครงการจะอยู่ติดกับตึกแถว 3 ชั้น ซึ่งจากตรงนี้จะเห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับแยกนาหลวงมาก เวลาเลี้ยวขวาจากแยกนาหลวงแล้วต้องรีบชิดเลนซ้ายไว้เพื่อเตรียมเข้าโครงการนะคะ

ลองถ่ายภาพจากด้านบนอาคารลงมาให้ดูจะเห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับแยกนาหลวงมาก ซึ่งแยกนี้เป็นแยกที่ตัดระหว่างถนนประชาอุทิศและถนนพุทธบูชาจึงมีปริมาณรถผ่านหนาแน่น การจราจรด้านหน้าโครงการจึงจะติดขัดเป็่นช่วงๆแบบนี้ตลอดทั้งวัน ดังนั้นเวลาจะขับรถออกจากโครงการเพื่อไปประชาอุทิศต้องรอจังหวะดีๆนะคะ สำหรับใครที่มาจากในเมืองทางถนนประชาอุทิศต้องเลี้ยวเข้าแยกนาหลวงมาถึงโครงการ ซึ่งมีระยะค่อนข้างใกล้แต่ก็เลี้ยวได้ไม่ยากค่ะ

ตัวโครงการจะอยู่บนถนนพุทธบูชา ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4 ชั้น ถัดไปเป็นโรงเรียนนาหลวง และ ม.พระจอมเกล้าธนบุรีที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตร

ข้างๆโครงการจะติดกับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ ที่ด้านหน้าจะมีป้ายรถเมล์ที่มีศาลาให้มารอรถได้สะดวก

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

โครงการอยู่ใกล้กับแยกนาหลวงที่สภาพแวดล้อมจะเป็นตึกแถวซะเป็นส่วนใหญ่ ภายในตึกแถวจะมีทั้งร้านขายอาหาร ขนม และขายของใช้ภายในบ้านคละๆกันไป เขยิบออกไปหน่อยจะเป็นโซนการศึกษาที่มีทั้ง ม.พระจอมเกล้าธนบุรี โรงเรียนนาหลวง โรงเรียนดรุณสิกขาลัย โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร มีศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติที่อยู่ติดกับโครงการและยังมีสวนสาธารณะอย่างสวนธนบุรีรมย์ที่อยู่ห่างจากโครงการแค่ 550 เมตร สามารถเดินไปได้ไม่ไกลนัก ส่วนอาณาเขตที่ติดต่อกับโครงการ ทิศตะวันออกและทิศใต้จะติดกับตึกแถว 3 ชั้นของหมู่บ้านสินทวีสวนธน ทิศตะวันตกติดกับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติที่จะได้วิวพื้นที่สีเขียวในศูนย์กีฬาด้วย ส่วนทางทิศเหนือจะติดกับถนนพุทธบูชาซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ โดยฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกแถว 4 ชั้นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนนาหลวง ~200 เมตร
  • ศูนย์ฝึกกีฬา กรุงเทพมหานคร ~200 เมตร
  • มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ~300 เมตร
  • ตลาดใหม่ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 61 ~550 เมตร
  • สวนธนบุรีรมย์ ~550 เมตร
  • Tesco Lotus ~1.2 กิโลเมตร
  • Max Valu ~1.2 กิโลเมตร
  • เซนทรัล พระราม 2 ~9.5 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Parque พุทธบูชา 48 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A และ B โดยโครงการจะมีร้านค้าอยู่ด้านหน้าทั้งหมด 6 ร้าน ส่วนการวางฟังก์ชั่นอาคารโดยรวมจะให้ชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถใต้อาคาร ล็อบบี้ ส่วนของห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 โดยด้านบนอาคารมี Pocket Garden และห้องสมุดอยู่ด้วยค่ะ  ตัวอาคารออกแบบโดยสถาปนิกจากบริษัท A 49 ที่หลายคนคงคุ้นชื่อกันดี ส่วนการออกแบบภายในเป็นของ n7a และ Landscape จาก Landscape Tectonix หน้าตาอาคารโดยรวมค่อนข้างทันสมัย มีการใช้โทนสีครีม-น้ำตาล และยื่นพื้นออกมาเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้ Facade (เปลือกอาคาร)

ซึ่งการยื่นพื้นอาคารนี้นอกจากจะทำให้ Facade ดูมีลูกเล่นแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น Fin บังแดดให้อาคารอีกด้วย โดยสังเกตได้ง่ายๆในเวลาที่แดดตกกระทบอาคารจะไม่สามารถสาดไปถึงหน้าต่างห้องแต่จะมีเงาตกลงมาเป็นมุมเฉียงพอดี เนื่องจากมีชั้นพื้นของอาคารเป็นตัวบังแดด ช่วยให้ห้องไม่ร้อนค่ะในเวลาเจอแสงแดด

มาดูผังรวมของโครงการกันก่อนนะคะ โครงการมีทางเข้า-ออกหลักอยู่ที่ถนนพุทธบูชา เมื่อเข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับอาคาร A และ B รูปตัว L วางล้อมกันเป็นวงกลมโดยมี Facilities อย่างสระว่ายน้ำและศาลานั่งเล่นที่อยู่ตรงกลาง ทำให้ลูกบ้านมาใช้งานร่วมกันได้ง่าย เส้นทางเดินรถเป็นแบบ One Way เข้าทางอาคาร B ก่อนแล้วออกมาทางอาคาร A ที่จอดรถจะอยู่ที่ใต้อาคารทั้งหมด เป็นช่องจอดประมาณ 134 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขจากการปรับผังใหม่แต่ถ้านับจากผังที่เห็นนี้จะได้ประมาณ 117 คัน โดยโครงการจะมีร้านค้าจำนวน 6 ร้านอยู่ด้านหน้าโครงการติดกับถนนพุทธบูชาด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปในอนาคตนะคะว่าจะเป็นร้านอะไร

ทางเข้าออกหลักของโครงการอยู่ติดกับถนนพุทธบูชา โดยซุ้มทางเข้าโครงการมีป้าย Parque พุทธบูชา 48 ชัดเจนและยังมีป้อม รปภ. ด้านหน้าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ลูกบ้านอีกด้วย ด้านหน้าโครงการมีร้านค้าจำนวน 6 ร้านและมีฟุตบาทสามารถเดินผ่านไปมาได้ง่าย

โดยร้านค้าของโครงการจะมีจำนวน 6 ร้าน  เรียงกันเป็นแนวยาว

เดินเข้ามาที่ฟุตบาทด้านในจะเป็นทางเข้าของร้านค้าทั้ง 6 ร้าน มีการปลูกต้นไม้ริมทางร่มรื่นดี

โดยปัจจุบันด้านในยังเป็น Sales Gallery อยู่ ก็ต้องรอดูกันว่าในอนาคตจะมีร้านอะไรมาลงนะคะ

เดินเลียบฟุตบาทหน้าร้านค้ามาสุดทางจะมีทางเดินลงไปที่ฟุตบาทด้านหน้าที่ติดกับถนนพุทธบูชาได้เลย

ถัดไปเราจะผ่านซุ้มโครงการไปดูด้านในกันบ้าง โดยซุ้มใหญ่ของโครงการจะไม่มีรั้วกั้นไม้กระดกใดๆ มีเพียงพี่ รปภ. ที่คอยดูแลเท่านั้นนะคะ

แต่เมื่อเข้ามาด้านในโครงการ จะเจอกับรั้วกั้นไม้กระดกทางเข้าอยู่ที่ตึก B วนเป็น One way ใต้อาคารแล้วมาออกที่ตึก A ด้านหน้าอาคารเป็นลานจอดรถปูพื้นด้วยคอนกรีตแสตมป์

ที่รั้วโครงการฝั่งที่ติดกับตึกแถวข้างๆ จะเป็นรั้วสูง 3 เมตร ที่มีการซ่อนไฟรูปใบไม้ตามโลโก้โครงการ มีการทาสีกำแพงและตึกแถวข้างๆเป็นสีครีมช่วยเพิ่มทัศนียภาพได้ดีเลยหละ

ระหว่างตึก A และตึก B จะเป็น Facilities หลักอย่างสระว่ายน้ำ ศาลานั่งเล่น และสวน

เมื่อเข้ามาดูใกล้ๆจะเห็นว่าสวนนี้ร่มรื่นมากทีเดียว เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันอีกทีนะคะ

แต่ตอนนี้เราจะพาเดินดูที่จอดรถและทางเข้า Lobby ของชั้น 1 ก่อน โดยการจอดรถของอาคารจะต้องเข้าทางอาคาร B แล้ววนเป็น One way ออกทางอาคาร A ผ่านรั้วกั้นไม้กระดกที่ใช้การสแกนคีย์การ์ดเพื่อผ่านเข้า-ออก

เข้ามายังที่จอดรถอาคาร B จะแบ่งการจอดรถออกเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา ตรงกลางเป็นทางเดินรถกว้างประมาณ 6 เมตร พื้นลานจอดรถเป็นคอนกรีตแสตมป์ทั้งหมดแม่ว่าจะเข้ามาในอาคารแล้ว ต่างจากที่อื่นๆที่มักเห็นพื้นลานจอดรถใต้อาคารเป็นพื้นคอนกรีตขัดมันธรรมดา ซึ่งถือว่าใส่ใจเรื่องดีไซน์ที่ดีค่ะ

เดินมาจนสุดทางเราจะเห็น Lobby ของตึก B อยู่ทางขวามือ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาไปตามอาคารนะคะ

เมื่อเลี้ยวขวามาก็จะเห็น Lobby ของอาคาร B อยู่ทางขวามือ

โดย Lobby ของอาคาร B จะมีทางเข้าเป็นประตูกระจก เข้า-ออกโดยการสแกนคีย์การ์ด ข้างๆกันเป็นบันไดทางขึ้นไปยังสระว่ายน้ำและทางขึ้นไปยังฟิตเนสที่อยู่ชั้น 2

จาก Lobby ตึก B เราเดินมาเรื่อยๆจนสุดทางจะมีทางโค้ง ให้เราเดินไปตามลูกศร

เมื่อเลี้ยวโค้งมาจะเห็นที่ว่างระหว่างอาคาร A และ B

เมื่อมองไปทางขวามือก็จะเห็นพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำตรงกลางโครงการค่ะ

เราเดินมาที่อาคาร A กันต่อ พื้นที่ใต้อาคาร A ก็จะไม่ต่างกับอาคาร B มากนัก

เดินมาตรงนี้จะเห็นห้องนิติบุคคล Lobby และมีป้อม รปภ. อยู่ตรงสุดทางคอยรักษาความเรียบร้อยให้ลูกบ้าน

หน้าตา Lobby ของตึก A  เป็นแบบนี้ค่ะ

เมื่อเลี้ยวขวามาตามทางก็จะไปทะลุทางออกซึ่งกั้นด้วยรั้วไม้กระดกเหมือนกับทางเข้า ลูกบ้านสามารถใช้คีย์การ์ดสแกนออกได้เลยค่ะ

เรากลับมาที่ Lobby ของตึก A จะเป็นประตูบานเปิด เข้าออกด้วยการสแกนคีย์การ์ด

หน้าตาตัวสแกนคีย์การ์ดที่ประตูค่ะ เอาบัตรแตะตรงนี้ประตูก็จะเปิด

เข้ามาใน Lobby ขนาดไม่ใหญ่มากแต่ดูดีเลยหละ ภายในห้องนี้จะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว

รวมทั้งมีโซฟามาให้ 2 ตัว เผื่อให้มานั่งรอเพื่อน ทางขวามือเป็นทางเดินไปสู่ตู้จดหมายและประตูทางออกไปยังสระว่ายน้ำตรงกลางโครงการ

ตรงทางออกมีป้ายบอกทางไปยังบันไดและสระว่ายน้ำ น่ารักดี

เมื่อเข้าประตูมาแล้วมองไปทางซ้ายมือจะเป็นตู้จดหมาย

ส่วนทางขวามือจะเป็นประตูทางออกไปยังบันไดขึ้นชั้น 2 และทางไปยังสระว่ายน้ำ

เมื่อเปิดประตูออกมาเราจะเจอกับบันได ซึ่งจะพาเราไปยังสระว่ายน้ำหรือจะขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็ได้ โดยเราจะพาไปดูสระว่ายน้ำกันนะคะ

เมื่อขึ้นบันไดมาจะเจอศาลาเล็กๆที่ล้อมรอบไปด้วยสวนที่ร่มรื่นทีเดียว

รอบๆสวนจะมีทางเดินให้สามารถเดินเล่นหรือวิ่งจ๊อกกิ้งได้ ตรงกลางสวนจะเป็นสระว่ายน้ำและศาลานั่งเล่น ซึ่งใต้ศาลาจะเป็นทางเดินลงไปยังห้องน้ำสาธารณะที่อยู่ชั้นใต้ดินค่ะ

เมื่อเราเดินมาดูจะเห็นว่ามีบันไดลงไปยังห้องน้ำได้

โดยที่พื้นห้องน้ำจะมีรางระบายน้ำกันน้ำขัง ลวดลายสวยดี

เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะมีอ่างล้างมือพร้อมห้องสุขาและส่วนล้างตัวให้เรียบร้อยค่ะ

ขึ้นมาที่ศาลาริมสระว่ายน้ำที่ด้านหน้ามี Pool Deck พร้อม Day bed มาให้ 4 ตัว

ตัวศาลาจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมสไตล์โมเดิร์น ด้านบนมีชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางให้นั่งเล่นชิลๆ ตัวศาลาจะยกสูงกว่าสระว่ายน้ำจึงต้องขึ้นบันไดไป โดยมีการปลูกไม้พุ่มล้อมรอบศาลาช่วยให้บรรยากาศโดยรวมร่มรื่นขึ้นมาก

เมื่อศาลาอยู่สูงจึงทำให้เห็นสระว่ายน้ำและบรรยากาศโดยรอบได้แบบนี้ค่ะ โดยสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีขนาด 6 x 20 เมตร ลึก 1.3 เมตร

ข้างๆสระจะมีบันไดทางลง มีจากกุซซี่ และมีโซฟาริมสระให้นั่งเล่นกันได้

ที่ปลายสระอีกด้านจะมีสนามหญ้าเทียมที่มีลักษณะลาดเอียงแบบนี้ โดยโครงการจะทำร่องให้น้ำไหลและมีการติดไฟ LED ที่ร่องน้ำเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้สระ

ไฟ LED ที่ร่องน้ำค่ะ

จากสนามหญ้าเทียมจะมีบันไดทางลงจากสระได้ พื้นบันไดเป็นทรายล้างที่พื้นผิวขรุขระลดความเสี่ยงในการลื่นค่ะ

เมื่อยืนอยู่ที่บันไดตรงสนามหญ้าเทียมจะเห็นบรรยากาศของสระว่ายน้ำทั้งหมด โดยเราจะเห็นว่า Facilities ทั้งหมดนี้ถูกโอบล้อมด้วยตึกทั้งอาคาร A และ B ดังนั้นจึงจะมีห้องพักที่อยู่ใกล้กับ Facilities มากๆ อย่างห้องพักที่อยู่ชั้น 2 ซึ่งมีข้อดีตรงที่ห้องชั้นนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำเต็มๆแต่ก็มีข้อเสียตรงที่ห้องเหล่านี้จะมีความ Privacy น้อยกว่าห้องในชั้นอื่นๆทั้งในเรื่องเสียง ความปลอดภัย และการถูกมองเห็น

ซึ่งโครงการได้แก้ปัญหาด้วยการปลูกต้นไม้มาให้เป็น Buffer ที่จะช่วยเรื่องความ Privacy ได้ส่วนหนึ่ง

ถัดไปเราจะขึ้นบันไดไปดูห้องฟิตเนสที่ชั้น 2 ของตึก B กันบ้าง

ภายในห้องฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกาย 7 เครื่อง ในขณะที่ออกกำลังกายก็สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ด้วย

วิวที่ได้ขณะออกกำลังกายค่ะ

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจากสระว่ายน้ำจะมีทางเข้าห้องน้ำชายอยู่ทางซ้ายและห้องน้ำหญิงอยู่ทางขวามือ โดยทางขวามือสุดจะเป็นประตูที่สามารถเดินไปยังโถงทางเดินในอาคารที่ชั้น 2 ได้

มาดูห้องน้ำในห้องฟิตเนสกันบ้าง โดยประตูทางเข้าห้องน้ำจะเป็นแบบนี้

ภายในห้องน้ำก็จะมีอ่างล้างมือ ห้องสุขา และสำหรับห้องน้ำชายก็จะมีโถปัสสาวะชายให้ค่ะ

เมื่อเดินออกมาจากห้องฟิตเนสจะเจอโถงทางเดินชั้น 2 ที่ปลายทางเดินจะมีกระจกบานใหญ่ช่วยให้แสงเข้ามาในอาคารได้ดีค่ะ

Parqueพุทธบูชา_Plan_2nd_3

ผังอาคารชั้น 2 ห้องของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอนขนาด 26 – 38 ตร.ม. วางคละกันไป ห้อง 2 ห้องนอนขนาด 51 – 57 จะอยู่ที่หัวมุมของอาคารเท่านั้น เรื่องทิศแดดก็ดูง่ายค่ะเพราะทิศของอาคารค่อนข้างตรงกับทิศแดด ห้องฝั่งนอกอาคาร B ที่ติดกับหมู่บ้านสินทวีจะได้แดดเช้า ส่วนห้องอาคาร A ริมนอกฝั่งติดกับศูนย์กีฬาจะได้แดดเย็น ส่วนห้องที่ติดถนนพุทธบูชาจะโดนแดดน้อยสุดเพราะอยู่ทางทิศเหนือแต่จะเป็นยูนิตที่อยู่ด้านฝั่งถนนอาจเจอฝุ่นและเสียงจากรถเยอะกว่าด้านอื่นหน่อย ตัวอาคารเป็นรูปตัว L หันหน้าเข้าหากัน มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 91 : 1

Parqueพุทธบูชา_Plan_3rd_3

ผังอาคารชั้น 3 อาคาร B จะมี Pocket Garden แทรกอยู่ทำให้จำนวนห้องพักในชั้นนี้ลดลงเหลือ 25 ยูนิต จากปกติที่ 27 ยูนิต

Parqueพุทธบูชา_Plan_4th_3

ผังอาคารชั้น 4 ชั้นนี้จะเริ่มมีห้องขนาดใหญ่กว่า 30 ตร.ม.มากขึ้น(ห้องสีชมพูและสีฟ้า)

Parqueพุทธบูชา_Plan_5th_3

ผังอาคารชั้น 5 ชั้นนี้เป็นชั้นที่ Pecket Garden เยอะที่สุด เพราะมีที่อาคาร A 1 จุดและอาคาร B 2 จุด

เราพาขึ้นลิฟต์มาดูที่ชั้น 5 ของอาคาร A ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยของโครงการและเป็นชั้นที่มี Pocket Garden ด้วย โดยที่โถงลิฟต์จะมีผนังกระจกบานใหญ่ช่วยให้แสงเข้าดี โถงลิฟต์จึงสว่างและไม่อับ ฝั่งตรงข้ามลิฟต์จะเป็นบันไดหนีไฟของอาคารค่ะ

จากโถงลิฟต์หากเราเดินเลี้ยวไปทางขวามือจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด

ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเป็นห้องพักอาศัยและมี Pocket Garden อยู่ทางขวามือ

เข้ามาภายใน Pocket Gerden จะเป็นพื้นที่ Semi-outdoor ที่มีชุดโซฟานั่งเล่นประมาณ 4 ชุด มีการปูหญ้าเทียมและโรยหินเป็นสวนเล็กๆ เหมาะจะเป็นพื้นที่มานั่งเล่นหรือคุยงานได้ โดย Pocket Garden จะเปิดให้บริการ 08.00 – 22.00 น. นะคะ

วิวจาก Pocket Garden มองออกไปจะเห็นศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตรงนี้เป็นฝั่งคลองที่มีการปลูกต้นไม้รอบๆ ทำให้มองออกไปจะได้พื้นที่สีเขียวพอดี

Parqueพุทธบูชา_Plan_6th_3

ผังอาคารชั้น 6 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยอาคาร A และอาคาร B จะมีห้องพักจำนวน  27 ห้องเท่ากัน

ผังอาคารชั้น 7 ที่อาคาร B จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ส่วนอาคาร A จะเป็นห้องพักอาศัย รวมทั้งมีห้องสมุดและ Pocket Garden อยู่ด้วย

ต่อไปเราขึ้นมาดูที่ชั้น 7 กันบ้าง

จากโถงลิฟต์ เราเลี้ยวซ้ายมาจะเจอโถงทางเดินที่จะพาไปยังห้องพักอาศัย โดยจะมีห้องสมุดอยู่ทางซ้ายมือและ Pocket Garden อยู่ทางขวามือ โดยทั้งห้องสมุดและ Pocket Garden จะเปิดให้บริการในเวลา 08.00-22.00 น.

เข้ามาดูในห้องสมุดโทนสีขาว-น้ำตาล มีการปูพื้นหญ้าเทียมให้บรรยากาศของห้องดูผ่อนคลายขึ้น ห้องนี้จะมีทั้งโซฟานั่งเล่น โต๊ะทำงาน และมีชั้นหนังสือที่โครงการจะวางนิตยสารรวมทั้งหนังสืออ่านเล่นไว้ให้ด้วย อนาคตหากลูกบ้านมาอยู่ก็สามารถนำหนังสือมาสมทบเพื่อแบ่งปันให้เพื่อนๆในคอนโดอ่านด้วยได้ค่ะ

ภายในห้องมีมุมนั่งเล่นเล็กๆที่มีฉากกั้นให้ สำหรับคนหรือกลุ่มที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหน่อย

อีกฝั่งก็จะมีทั้งโซฟานั่งเล่นและโต๊ะนั่งทำงานแบบบาร์สูงไว้ให้ รอบๆห้องมีชั้นพร้อมหนังสือไว้ให้เรียบร้อยสามารถหาเวลาว่างมาอ่านหนังสือเล่นๆก็ได้

ชั้นหนังสือด้านหลังโซฟาก็เป็นอีกจุดที่มีหนังสือไว้ให้มาอ่านเล่นกันได้

ถัดไปเป็น Pocket Garden อีกจุด

การวางฟังก์ชั่นของ Pocket Garden ที่ชั้น 7 นี้ก็จะเหมือนกันกับชั้น 5 บรรยากาศจึงคล้ายๆกัน..

แต่ที่ต่างกันก็คือวิวของชั้น 5 จะได้วิวพื้นที่สีเขียวมากกว่า ในขณะที่ชั้น 7 นี้จะได้วิวอาคารของศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติมาแทน

 

Parqueพุทธบูชา_Plan_8th_3

ผังอาคารชั้น 8  จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยที่ตึก A และ B จะมีห้องพักจำนวน 27 ห้องเท่ากัน แต่ที่ชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาด 30 ตร.ม. ขึ้นไปค่ะ

มาดูวิวจากชั้นดาดฟ้าของโครงการกันบ้าง เริ่มจากทิศเหนือของโครงการจะติดถนนพุทธบูชา ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว  4 ชั้นและเห็นอาคารเรียนของโรงเรียนนาหลวง

วิวทางทิศตะวันออกจะเห็นตึกแถว 3 ชั้นของหมู่บ้านสินทวีสวนธน

ทางทิศใต้ก็จะเห็นตึกแถวของหมู่บ้านสินทวีสวนธนเช่นกัน

ส่วนทางทิศตะวันตกจะเห็นอาคารของศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติเป็นหลังคาทรงแหลมแบบนี้

ส่วนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจะเห็นถนนพุทธบูชา อาคารเรียนของโรงเรียนนาหลวงและถัดไปจะเป็นอาคารเรียนของ ม.พระจอมเกล้าธนบุรีค่ะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 20 ม. ลึก 1.3 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดประมาณ 50 ตร.ม. ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
  • สวนหย่อมระหว่างอาคาร
  • Pocket Garden สวนหย่อมตามชั้นต่างๆ ภายในอาคาร
  • ห้องสมุด พร้อม Free Wi-Fi
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/1 อาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 91 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์อาคาร A 91:1
  • อัตราส่วนลิฟท์อาคาร B 90.5:1
  • Service Lift : ไม่มี
  • ที่จอดรถ 134 คันคิดเป็น 36.91% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 44%
  • ระบบ Video Door Phone

 


Product Walkthrough

ห้องพักในโครงการจะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom ซะเป็นส่วนใหญ่ รายการการขายที่ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลจะเป็นไปแบบ Fully Furnished คือให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ รวมทั้งห้องทุกห้องของที่นี่ยังมี VDO Door Phone, Digital Door Lock และ ปุ่มฉุกเฉิน ที่ทำงานคล้ายกับในโรงพยาบาล เมื่อมีเหตฉุกเฉินแล้วเรากดปุ่มจะมีการแจ้งไปยังนิติบุคคลและรปภ.ตรงนี้ก็ถือเป็นลูกเล่นใหม่ที่เป็นประโยชน์กับลูกบ้าน ช่วยให้ผู้หญิงที่อยู่คนเดียวหรือมีผู้สูงอายุอยู่ด้วยอุ่นใจขึ้นเยอะค่ะ โดยห้องพักของโครงการประกอบด้วย

  • 1 Bedroom ขนาด 26 – 30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 33.64 –  38.66 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาด 51 – 57 ตร.ม.

โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปเจาะลึกกันเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.64 – 38.66 ตร.ม. และห้องแบบ 2 Bedrooms 51 – 57 ตร.ม. ค่ะ

มาเริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom  ขนาด 33.64 – 38.66  ตารางเมตร  เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเราจะเจอกับ Living Area ที่โครงการจัดพื้นที่มาให้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องรับประทานอาหารได้ โดยจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบทั้งชุดโซฟาพร้อมโต๊ะวางทีวี พื้นที่ครัวเปิดที่มีการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเป็น Pantry ประกอบอาหาร พร้อมชุดโต๊ะนั่งรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง โดยห้องนี้จะมีผนังกระจกบานใหญ่ให้มองวิวได้เต็มๆจากในห้องและยังเชื่อมต่อกับระเบียงอีกด้วย ถัดไปเป็นห้องนอน ที่โครงการจัดเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ นอนได้ 1-2 คนกำลังดี โดยในห้องจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งมีข้อดีตรงที่เข้าห้องน้ำกลางดึกสะดวก แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เวลาเพื่อนมาห้องจะต้องเข้าห้องน้ำผ่านทางห้องนอนทำให้ขนาดความเป็นส่วนตัว

สรุปเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ : แอร์ โซฟา โต๊ะวางทีวี  เตียง ตู้เสื้อผ้า ชุดครัว ที่มีอ่างล้างจานแต่ไม่มีเตาและที่ดูดควัน โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 4 ตัว  เรียกได้ว่าหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย

ประตูห้องใช้บานประตูสำเร็จรูป HDF สีขาว มีตาแมวให้ กลอนประตูเป็น Digital Door Lock และมีหมายเลขห้องติดมาให้ที่ประตูแบบนี้ทุกห้อง

Digital Door Lock ใช้การสแกนคีย์การ์ดหรือกด Password เมื่อเข้า-ออกห้อง มือจับเป็นสแตนเลสก้านโยกใช้ง่าย

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าจะมี Door Stop ที่ช่วยกันประตูกระแทกผนังระหว่างปิด-เปิดมาให้ พร้อม Video door phone การใช้งานคือลูกบ้านสามารถดูหน้าตาคนที่มาหาเราได้เลย ถ้าเป็นคนที่เรามาหาก็บอกรปภ.ให้อนุญาตเข้ามาได้

พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ มีการปิดคิ้วรอยต่อระหว่างพื้นห้องและพื้นทางเดินอาคารเรียบร้อยดี

เปิดประตูมาจะเจอ Living area ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร สำหรับฟังก์ชั่นในห้องนี้โครงการจัดพื้นที่ให้เป็นครัวเปิด ส่วนรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น บรรยากาศโดยรวมของห้องจะค่อนข้างโปร่งเนื่องจากมีหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดี

ส่วนนั่งเล่นนี้โครงการจะให้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง หากเราจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบห้องตัวอย่างจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่  2  เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด  46″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ

โซฟาที่โครงการให้เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง หุ้มเบาะสีครีมผิวกำมะหยี่

โต๊ะวางทีวีสีดำมีช่องใส่ของ 3 ตอน

หากใครอยากได้ตู้ Built-in ที่ผนังแบบห้องตัวอย่างก็สามารถสอบถามกับทางโครงการเพื่อ Built-in ตู้เต็มผนังแบบนี้ได้ค่ะ

นอกจากนี้ส่วนนั่งเล่นของโครงการยังมีระบบ Sound system ที่โครงการจะติดตั้งหน้าจอที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth สามารถเปิดเพลงฟังได้ผ่านลำโพงที่โครงการติดตั้งมาให้บนฝ้าเพดานค่ะ

ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารและห้องครัว

โดยส่วนรับประทานอาหารนี้โครงการจะให้ชุดโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้  4 ตัว หน้าตาแบบนี้ ระหว่างนั่งทานข้าวก็มองวิวไปด้วยชิลดี

เมื่อลองเอาเก้าอี้ออกมาวางในระยะนั่งจะเห็นว่าหากจัดพื้นที่แบบห้องตัวอย่างก็ยังเหลือที่รอบๆโต๊ะกินข้าวอยู่ นั่งได้ไม่อึดอัด

ตรงข้ามกันเป็น Pantry ครัวที่โครงการ Built-in มาให้ถึงฝ้าเพดานแบบนี้เลย  เคาน์เตอร์ครัวทั้งด้านบนและด้านล่างมีหน้าบานปิดผิวด้วยเมลามีนสีขาว ด้านบนมีตู้บานเปิดให้สามารถเก็บของเล็กๆน้อยได้ ส่วนเคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีลิ้นชักใส่ของและพื้นที่ใต้อ่างล้างจาน ที่สามารถเอาไว้เก็บน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอกหรือของใช้ในครัว ทางซ้ายมือโครงการวางตู้เย็นมาให้แบบนี้เลย

ท็อปเคาน์เตอร์ครัวประกอบไปด้วยอ่างล้างจานรูปทรงสี่เหลี่ยมไม่มีเตาและที่ดูดควัน เหมาะกับคนที่ไม่ชอบทำอาหารหนักๆ ซึ่งด้วยพื้นที่ที่เป็นครัวเปิดแบบนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะกับการทำอาหารหนักอยู่แล้วเพราะกลิ่นจะตลบอบอวลไปทั่วห้อง หากจะมีการประกอบอาหารก็อาจจะใช้ไมโครเวฟอุ่นหรือปรุงอาหารง่ายๆซะมากกว่า ตรงผนังเคาน์เตอร์ครัวปิดผิวด้วยกระจก ที่สามารถทำความสะอาดคราบสกปรกขณะล้างจานได้ดี

อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสทรงโค้ง

มือจับตู้ตามภาพด้านบน ส่วนบานพับเป็นแบบ Soft closed ทั้งหมดนะคะ

โดยพื้นที่ Living Area นี้ จะมีผนังกระจกขนาดใหญ่ถึงฝ้าเพดาน ช่วยให้เราสามารถมองวิวได้จากในห้องได้เลย โดยจะมีประตูทางออกระเบียงอยู่ทางขวามือ

จาก Living room จะมีพื้นยื่นออกไปด้านหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Facade อาคารและเป็น Fin บังแดดให้อาคารไปในตัว ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่ระเบียงที่มีการยกธรณีขึ้นมา รวมกับรางเลื่อนประตูรวมแล้วประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อกันน้ำไหลเข้ามาในห้อง พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคผิวด้าน ราวระเบียงเป็นราวเหล็กโปร่งสูงประมาณ 1 เมตร

มองไปทางขวามือจะมีการติดตั้งงานระบบเพื่อให้สามารถวางเครื่องซักผ้าใต้  CDU แอร์ได้ค่ะ ที่พื้นจะมีธรณียื่นขึ้นมากั้นระหว่างส่วนระเบียงและจุดติดตั้ง CDU + วางเครื่องซักผ้า ในกรณีที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเปียกจะได้ไม่ไหลไปเปื้อนซึ่งกันและกัน

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะมีไฟติดตั้งมาให้  1 ดวง

โดยห้องตัวอย่างจะอยู่ที่ตึก A  ทางทิศเหนือ ฝั่งด้านในที่สามารถมองเห็นวิวสวนได้ด้วยค่ะ บรรยากาศดีทีเดียว

จากระเบียงเรากลับเข้ามาดูในห้องกันต่อ ถัดจาก Living areaไปจะเป็นห้องนอน

ภายในห้องนอนโครงการจะวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมติดตั้งตู้วางทีวี Built-in และตู้เสื้อผ้ามาให้

โครงการติดตั้งตู้วางทีวีลักษณะนี้มาให้ที่ผนังปลายเตียง โดยเราจะเลือกวางทีวีบนตู้หรือจะติดตั้งทีวีติดผนังก็ได้นะคะ โดยโครงการติดตั้งเต้ารับและสายเคเบิลมาให้เรียบร้อย

ตู้วางทีวีเป็นลิ้นชักแบบสามตอน สามารถเปิดออกมาใส่ของแบบนี้ได้

พื้นที่จากเตียงถึงผนังมีระยะประมาณ 0.6 เมตร สามารถวางโต๊ะหัวเตียงแบบห้องตัวอย่างได้

และที่ผนังข้างเตียงนี้ก็เป็นกระจกบานใหญ่ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดี พร้อมมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยให้เปิดระบายอากาศได้ แนะนำให้หาผ้าม่านสองชั้นมาติดเพื่อความเป็นส่วนตัวและช่วยกรองแสงแดดที่เข้ามาในห้องนะคะ

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ส่วนทางขวามือเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in ที่โครงการติดตั้งมาให้แบบนี้เลย

โดยด้านหน้าห้องน้ำจะมี ปุ่มฉุกเฉิน(Emergency) เป็นปุ่มแจ้งเตือนเหมือนในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับคนที่อยู่ห้องคนเดียว หากมีอุบัติเหตุก็สามารถกดปุ่มนี้ แล้วสัญญาณก็จะดังไปที่ รปภ. ให้เข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ส่วนฟังก์ชั่นภายในตู้เสื้อผ้าก็ค่อนข้างครบ มีทั้งพื้นที่แขวนผ้าและพับผ้า ตู้ด้านบนก็พอให้วางหมอนวางผ้านวมได้

เข้ามาภายในห้องนำ้ที่จัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงเล็กน้อย มีการปิดรอยต่อระหว่างพื้นห้องน้ำและห้องนอนด้วยแกรนิตโตสีขาว พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทา

อ่างล้างหน้าลอยตัวพร้อมท็อปกระเบื้อง มีผนังที่ก่อขึ้นมา ( Low wall ) ยื่นออกไปถึงส่วนโถสุขภัณฑ์ให้วางของเล็กๆน้อยๆได้ ทางซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมขนาดปานกลาง พร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสแบบก้านโยก

ข้างๆอ่างล้างหน้ามีการติดตั้งที่แขวนผ้าพร้อมเต้ารับแบบกันน้ำไว้ให้เผื่อเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น ไดร์เป่าผม มาให้ด้วย

โถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้เรียบร้อย

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นพื้นที่อาบน้ำที่มีฉากกั้นกระจกนิรภัยติดตั้งมาให้เรียบร้อย

ที่พื้นส่วนอาบน้ำไม่มีการยกระดับ แต่จะยื่นธรณีเพื่อกันน้ำไหลจากส่วนเปียกไปสู่ส่วนแห้ง

ที่ผนังติดตั้งฝักบัวอาบน้ำ พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย

ฝักบัวขนาดพอดีมือ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้และมีไฟดาวน์ไลท์ให้2 ดวง ที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง แสงสว่างกำลังดี

ปิดท้ายกันที่ห้อง 2 Bedroom ขนาด 52.56 ตารางเมตร ที่เป็นแบบหน้ากว้างรับแสงธรรมชาติได้เยอะทำให้ห้องดูโปร่งและน่าใช้งานมากขึ้นกว่าห้องแบบหน้าแคบ ขนาดห้องเหมาะกับการพักอาศัย 3-4 คน เมื่อเข้าห้องมาจะเจอกับ Living room ที่สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่น รับประทานอาหาร และห้องครัวได้ โดยห้องนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียง ห้องนอนเล็ก ห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว โดยห้องนี้จะอยู่ในตำแหน่งห้องมุม จึงมีผนังหน้าต่างเข้ามุมให้ที่ห้องนอนใหญ่ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดี

ประตูห้องใช้บานประตูสำเร็จรูป HDF สีขาว มีตาแมวให้ กลอนประตูเป็น Digital Door Lock และมีหมายเลขห้องติดมาให้ที่ประตู

พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ มีการปิดคิ้วรอยต่อระหว่างพื้นห้องและพื้นทางเดินอาคารเรียบร้อยดี

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Living area ที่เชื่อมต่อกับห้องนอน

เมื่อมองกลับไปที่ประตูทางเข้าทางซ้ายมือ ตัวประตูจะมี Door stop และมี Video door phone ติดตั้งมาให้เหมือนห้องแบบแรก ข้างๆกันเป็นครัวเปิดที่เหมาะกับการทำอาหารเบาๆ โดยโครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L มาให้แบบนี้ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าเตาไมโครเวฟ  ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าจะให้แล้วแต่โปรโมชั่น สามารถสอบถามกับทางโครงการได้ค่ะ

ฟังก์ชั่นของตู้ครัวทั้งด้านบนและด้านล่างจะมีชั้นวางของให้ค่อนข้างเยอะ โดยเคาน์เตอร์ด้านล่างจะมีที่วางช้อน ส้อม มีช่องที่ทำไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าขนาด 7 Kg ส่วนทางขวามือเป็นที่ว่างสามารถวางตู้เย็นแบบนี้ได้

ตรงผนังเคาน์เตอร์ติดกระจกฝ้ามาให้ สามารถทำความสะอาดคราบต่างๆได้ง่ายดี  มีการติดตั้งอ่างล้างจาน ไม่มีเตาและที่ดูดควันแต่มีไมโครเวฟมาให้นะ เอาไว้อุ่นอาหารหรือทำอาหารเบาๆอย่าง มาม่าต้ม ไข่ตุ๋นง่ายๆได้

อ่างล้างจานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดปานกลางพร้อมก๊อกน้ำสแตนเลสทรงโค้ง

ถัดไปเป็นส่วนนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร

โดยส่วนนั่งเล่นนี้โครงการจะติดตั้งชั้นวางทีวีติดผนังมาให้พร้อมโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง หากวางฟังก์ชั่นแบบห้องตัวอย่างจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 2 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 46″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ

โดยที่ผนังห้องจะติดตั้งระบบ Sound system พร้อมลำโพงมาให้เรียบร้อย

ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารที่โครงการจะมีโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 4 ตัวมาให้นะคะ แต่หน้าตาของโต๊ะและเก้าอี้จะเหมือนกับห้องแบบแรกตามภาพด้านขวาล่าง ไม่ใช่แบบห้องตัวอย่างนะ

ห้องนี้จะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียงที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน

พื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นกับระเบียงมีรางเลื่อนยื่นขึ้นมาเล็กน้อย พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคผิวหยาบ

ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ สูงประมาณ 1 เมตร ที่ผนังด้านหนึ่งเป็นผนังทึบ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นพื้นที่วาง CDU แอร์ทั้งสามตัวเรียบร้อย

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะมีไฟติดตั้งมาให้  1 ดวง

จากระเบียงมองกลับเข้ามาใน Living area จะเห็นพื้นที่ในห้องทั้งหมด โดยทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนทางขวามือจะแยกไปยังห้องน้ำรวมและห้องนอนเล็ก เดี๋ยวเราจะไปดูทางขวามือกันก่อนนะคะ

เราเดินเข้ามาในห้อง แล้วมองไปทางขวามือจะเป็นโถงเล็กๆที่แยกไปทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำรวม ส่วนทางขวาเป็นห้องนอนเล็ก โดยโครงการได้ติดตั้งตู้และชั้นวางของที่โถงมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนของจริงจะเป็นผนังปูนทาสีธรรมดานะคะ

เรามาดูในห้องน้ำรวมกันก่อน ห้องนี้มีขนาดประมาณ 1.5 x 2 เมตร ใช้โทนสีครีม ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย

อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมเคาน์เตอร์ยาวปิดผิวด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ที่ผนังติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้ ตรงผนังทางซ้ายมือติดตั้งที่แขวนผ้าพร้อมเต้ารับที่มีฝาครอบกันน้ำมาให้เรียบร้อย

ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมติดตั้งสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่มาให้เรียบร้อย

ตรงข้ามกันเป็นพื้นที่อาบน้ำที่มีฉากกั้นกระจกนิรภัยติดตั้งมาให้เรียบร้อย

ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ  1.3 x 0.9 เมตร พื้นส่วนอาบน้ำไม่มีการยกระดับ แต่จะยื่นธรณีเพื่อกันน้ำไหลจากส่วนเปียกไปสู่ส่วนแห้ง

ที่ผนังติดตั้งฝักบัวอาบน้ำ พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดาน ติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้และมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำรวมจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ

เข้ามาในห้องนอนเล็กขนาดประมาณ 3.1 x 2.45 เมตร ขนาดห้องไม่ใหญ่มาก แต่ที่ผนังห้องเป็นกระจกเต็มบานช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น และแสงธรรมชาติเข้าดีมาก แนะนำให้หาผ้าม่าน 2 ชั้นมาติดตั้งแบบห้องตัวอย่างนะคะ โดยในห้องนี้โครงการจะให้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้ามาให้

โครงการให้เตียงขนาด 5 ฟุตหน้าตาแบบนี้ ไม่รวมฟูกและหัวเตียงนะคะ

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้มีฟังก์ชั่นค่อนข้างครบและเพิ่มเติมขึ้นมาจากห้องแบบ 1 Bedroom คือลิ้นชักเปิดปิดตู้ นอกจากนั้นก็มีพื้นที่แขวนผ้าและพับผ้า ส่วนตู้ด้านบนก็พอให้วางหมอนวางผ้านวมได้

ระยะจากเตียงนอนถึงตู้เสื้อผ้าประมาณ 0.7 เมตร ก็เป็นพื้นที่ยืนแต่งตัวที่โอเคไม่แคบจนเกินไป

มองขึ้นไปบนเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ตัว พร้อมแอร์ 1  เครื่อง

ถัดไปเราจะไปดูห้องนอนใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันบ้าง

เข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ขนาดประมาณ 3.1 x 3.26 เมตร โครงการวางเตียง 5 ฟุตมาให้พร้อมตู้เสื้อผ้า จุดเด่นของห้องนี้คือเป็นห้องมุมและมีหน้าต่างเข้ามุมมาให้ด้วย ช่วยให้ห้องดูโปร่งดี และมีห้องน้ำในตัว

โดยพื้นที่ตรงหน้าต่างเข้ามุมจะมีพื้นยื่นออกไปอีกเล็กน้อยจึงไม่ต้องกลัวหวาดเสียวเวลามองลงไปจากห้อง หากวางเฟอร์นิเจอร์แบบห้องตัวอย่างจะมีระยะจากผนังกระจกถึงเตียงประมาณ 0.9  เมตร ซึ่งมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการเดินขึ้นลงเตียงและยังวางโต๊ะหัวเตียงขนาดประมาณ 0.5-0.6 เมตร สบายๆ

ที่ปลายเตียงมีการติดตั้งชั้นวางทีวีมาให้ พร้อมเต้ารับและที่เสียบสายเคเบิลมาให้เรียบร้อย ด้านบนติดตั้งแอร์มาให้ 1 ตัว

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ ข้างๆกันเป็นตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in มาให้แบบนี้

โดยด้านหน้าห้องน้ำจะมี ปุ่มฉุกเฉิน(Emergency) มาให้เหมือนกับห้องนอนแบบแรก

เข้ามาในห้องน้ำขนาดประมาณ 1.75 x 2.62 เมตร ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น

อ่างล้างหน้าลอยตัวพร้อมท็อปกระเบื้อง มี Low wall ที่ยื่นออกไปถึงส่วนโถสุขภัณฑ์ให้วางของเล็กๆน้อยๆได้ ทางซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่

ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องอาบน้ำที่กั้นด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัย พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ  1 x 1.12 เมตร

ที่พื้นส่วนอาบน้ำไม่มีการยกระดับ แต่จะยื่นธรณีเพื่อกันน้ำไหลจากส่วนเปียกไปสู่ส่วนแห้ง

ภายในห้องอาบน้ำจะติดตั้งชุดฝักบัวพร้อม  Rain Shower มาให้พิเศษกว่าห้องอื่น

ฝักบัวขนาดพอดีมือ

ปลั๊กไฟ สวิตซ์ และเต้ารับภายให้โครงการจะใช้รุ่นนี้ทั้งหมดนะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 November, 2016

  • 1BR อาคาร A  ชั้น 4 ห้อง A420 เนื้อที่ 26.31 ตร.ม. ราคา 2.161 ล้านบาท หรือ 82,149 บาท/ตร.ม.
  • 1BR อาคาร B  ชั้น 5 ห้อง B509 เนื้อที่ 26.72 ตร.ม. ราคา 2.195 ล้านบาท หรือ 82,169 บาท/ตร.ม.
  • 1BR อาคาร A  ชั้น 6 ห้อง A611 เนื้อที่ 30.05 ตร.ม. ราคา 2.492 ล้านบาท หรือ 82,950 บาท/ตร.ม.
  • 2BR อาคาร B  ชั้น 2 ห้อง B223 เนื้อที่ 51.92 ตร.ม. ราคา 4.257 ล้านบาท หรือ 81,999 บาท/ตร.ม.
  • 2BR อาคาร A  ชั้น 3 ห้อง A324 เนื้อที่ 52.21 ตร.ม. ราคา 4.312 ล้านบาท หรือ 82.595 บาท/ตร.ม.
  • 2BR อาคาร A  ชั้น 4 ห้อง A409 เนื้อที่ 55.51 ตร.ม. ราคา 4.658 ล้านบาท หรือ 83.916 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • จอง 5,000 – 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 – 50,000 บาท
  • ดาวน์ประมาณ 10% ผ่อนดาวน์ 12 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • ค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด ผู้จะซื้อและผู้จะขาย ชำระคนละครึ่ง
  • ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า น้ำประปา ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

 


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Parque พุทธบูชา 48 มีจุดเด่นตรงที่อยู่ใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี ประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นระยะเดินได้สบายๆ ตัวโครงการในโซนหลังม. ที่เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์พอๆกับฝั่งหน้ามอที่มี Mall เล็กๆ มีร้านอาหาร ของกิน ของใช้ค่อนข้างคึกคักพอๆกัน แต่ฝั่งหลังม. ณ ที่ตั้งโครงการนี้จะได้เปรียบกว่าตรงที่มีศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติและสวนธนบุรีรมย์ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายเพราะจากโครงการสามารถเดินไปได้ง่ายมาก นอกจากนี้ในโซนใกล้ๆยังมีตลาดทุ่งครุ 61, Max Valu, Tesco Lotus ที่สามารถนั่งรถกระป๊อ หรือขับรถส่วนตัวไปได้แป๊บเดียวก็ถึง ภาพรวมของทำเลนี้จึงมีความอุดมสมบูรณ์มาก

จากความอุดมสมบูรณ์ดังกล่าวทำให้ทำเลโซนใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี มี Developer มาปักหมุดทำโครงการกันมากขึ้น โดยคอนโดติดแบรนด์ในละแวกนี้ก็จะมีทั้ง Library Houze ประชาอุทิศ (450 เมตรจากประตูหน้าม.), Privacy ประชาอุทิศ(1.4 กิโลเมตรจากประตูหน้าม.) และ The Cube ประชาอุทิศ (550 เมตรจากประตูหน้าม.) ซึ่งทั้งสามที่นี้ล้วนอยู่บนถนนประชาอุทิศทั้งสิ้น ในขณะที่ Parque พุทธบูชาเองจะอยู่บนถนนพุทธบูชาในโซนหลังม. ( 300 เมตรจากประตูหลังม.) ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้กว่าโครงการอื่นๆที่กล่าวถึงแต่ประตูหลังม.นี้บรรยากาศจะเงียบกว่าหน้าม.หน่อยนะ สำหรับราคา 82,000 บาท/ตร.ม. สำหรับ Parque พุทธบูชา เป็นราคาที่แพงกว่าคอนโดในโซนนี้ ซึ่งตัวทำเลเนี่ยอย่างที่บอกไปว่าหน้ามอกับหลังม.ไม่ต่างกันมากอยู่ที่ความชอบของบรรยากาศ แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือหน้าตาอาคารและ Facilities ที่น่าใช้ วัสดุที่ให้ค่อนข้างโอเคกว่าคอนโดอื่นๆ ดังนั้นคนที่เลือกที่นี่จึงสามารถแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มนะคะ กลุ่มแรกคือนักศึกษาที่ชอบคอนโดบรรยากาศดีๆมีงบประมาณมากหน่อย อีกกลุ่มคือคนวัยทำงานที่อยากได้คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยและชื่นชอบดีไซน์ของโครงการนี้เป็นพิเศษ

ตัวโครงการเองอยู่ใกล้แยกนาหลวงเกือบจะตรงกับสามแยกเลย ทำให้เวลาเข้าเมืองมาจากประชาอุทิศแล้วเลี้ยวข้ามแยกมาเข้าโครงการค่อนข้างกระชั้นชิด บวกกับแยกนาหลวงเป็นแยกที่รถติดตลอดทั้งวันทำให้รถจะไปออกันอยู่บริเวณหน้าโครงการ จึงต้องทำใจกันสักหน่อยสำหรับคนที่ใช้รถยนต์ แต่ภาพรวมการใช้รถค่อนข้างสะดวกทั้งการใช้เส้นทางไปถนนประชาอุทิศ สุขสวัสดิ์ พระราม 2 บางขุนเทียน-ชายทะเล หรือถนนเลียบวงแหวนใต้(ทางด่วนบางพลี – สุขสวัสดิ์) จากความสะดวกในการเชื่อมต่อเหล่านี้บวกกับโซนพุทธบูชา-ประชาอุทิศมีบ้านพักอาศัยและโรงเรียนค่อนข้างเยอะ ทำให้มีปริมาณรถต่อวันค่อนข้างสูง อาจต้องทำใจหน่อยเรื่องรถติดภายในถนนพุทธบูชาและประชาอุทิศเอง เวลาไปไหนมาไหนต้องเผื่อเวลากันหน่อยนะคะ

การเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางถือว่าสะดวกมากๆ ด้านหน้าโครงการมีรถสาธารณะวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ ทั้งรถเมล์ รถสองแถว และรถกระป๊อ( Subaru เล็ก) เส้นทางก็มีให้เลือกทั้งที่ไปวิ่งบนเส้นพุทธบูชาและเส้นประชาอุทิศ ไป ม.พระจอมเกล้าธนบุรีแล้วออกถนนสุขสวัสดิ์ หรือใครจะไปลงใต้ทางด่วนเพื่อขึ้นรถเมล์อีกต่อเพื่อเข้าเมืองก็ได้ค่ะ รถเมล์สายที่ผ่านหน้าโครงการแล้วจะใช้ได้ประจำคือสาย 75 สามารถนั่งตรงไปลง BTS สะพานตากสิน หรือไปสุดสายที่ MRT หัวลำโพงได้

วัสดุของโครงการให้มาเยอะดี ส่วนคุณภาพก็มีสมราคาและไม่สมราคาบ้างปะปนกันไป พื้นห้องได้เป็นพื้นกระเบื้องยาง เคาน์เตอร์ครัวได้ขนาดใหญ่กำลังดีกับตัวห้องมีอ่างล้างจานแต่ไม่มีเตาและที่ดูดควันให้ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. ได้ฉากกระจกกั้นและชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto  สิ่งที่พิเศษหน่อยคือได้ประตู Digital Door Lock, VDO Door Phone, Bluetooth Sound System, และปุ่ม Emergency ที่ทำงานคล้ายกับในโรงพยาบาล พอกดแล้วมันจะแจ้งเตือนมายังนิติบุคคลและรปภ.โครงการ ระบบนี้ก็ช่วยให้ลูกบ้านอุ่นใจได้เวลามีเหตุการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ทั้งไมโครเวฟ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวจำพวกโต๊ะกินข้าว โซฟา ตู้วางทีวี เตียง เหมาะกับคนที่ต้องการหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย

การออกแบบโครงการแบ่งเป็น 2 ตึกล้อม Facilities ตรงกลาง โดยมีลูกเล่นกับการวางผังอาคารนิดหน่อย โดยการใส่สวนหย่อมและห้องสมุดไว้ตามส่วนต่างๆของอาคารส่งผลให้รูปด้านของอาคารดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น รูปร่างหน้าตาของโครงการนี้ออกแบบมาได้สวยดี โดยเฉพาะการออกแบบ Facade ที่มีการยื่นพื้นออกไปเพื่อตกแต่งอาคารและเป็น Fin บังแดดไปด้วยในตัวช่วยให้ห้องไม่ร้อน ส่วนแบบห้องพักก็จัดมาได้ลงตัวดี โดยหลักๆจะเน้นให้ห้อง Living area เป็นพื้นที่ที่แบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเป็น 3 ส่วนคือเป็นส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และครัวเปิด ซึ่งโครงการให้ไมโครเวฟแต่ไม่ได้ติดตั้งเตาและที่ดูดควันมาให้ จึงเหมาะกับคนที่ชอบทานข้าวนอกบ้าน ไม่ค่อยทำอาหารทานเอง อาจจะมีอุ่นอาหารหรือทำกับข้าวเบาๆเช่น ต้มมาม่า ทำไข่ตุ๋น หรืออาหารอบง่ายๆ

สาธารณูปโภคของโครงการให้มาพอสมควร ได้สวนหย่อมตรงกลางระหว่างอาคารพร้อม สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 6 x 20 เมตรลึก 1.3 เมตร, ห้อง Fitness ขนาดประมาณ 50 ตร.ม. ที่ชั้น 2 อาคาร B, ห้องสมุดพร้อม Free Wi-Fi และส่วนหย่อม (Pocket Garden) ตามอาคารทั้ง 2 อาคาร ถ้าใครชอบเล่น Fitness แนะนำให้เลือกอาคาร B เพราะจะได้ไม่ต้องเดินข้ามตึก  ความหนาแน่นลิฟต์ที่ 91:1 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆค่อนไปทางดีสำหรับราคานี้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 82,000 บาท/ตร.ม., 30 Nov 2016

  • ทำเล 7.0 – 8.0/10 – คะแนนทำเลขอแบ่งเป็น 2 ส่วนเพราะสำหรับคนที่ทำงานหรือเรียนแถวประชาอุทิศถือว่าสะดวกและมีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ถ้าใครอยากซื้ออยู่เพื่อทำงานในเมืองจะต้องเดินทางไกลหน่อย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางลัดให้เลือกเยอะ แต่รถติดไปหน่อย ห่างจากถนนใหญ่พอสมควร
  • ไม่ใช้รถ 8.0/10 – มีป้ายรถเมล์ติดกับโครงการและมีรถสาธารณะวิ่งผ่านเยอะ
  • วัสดุ 7.5/10 – วัสดุให้มาค่อนข้างดี ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย
  • แบบ 8.0/10 – แบบอาคารภายนอกทำมาสวย ห้องพักให้ฟังก์ชั่นมาครบ
  • สาธารณูปโภค 8.0/10 – ได้ครบทั้งสระว่ายน้ำ, Fitness, ห้องสมุด และ Pocket Garden

  • MAIN CLASS
  • 7.53 – 7.88 / 10.00

 

BOTTOM LINE

โครงการ Parque ประชาอุทิศ 48 เหมาะสำหรับนักศึกษาหรือคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนพุทธบูชา ใกล้ ม.พระจอมเกล้าธนบุรี  มีรถสาธารณะผ่านหลายสาย หรือจะเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็สะดวกดี ชอบทานข้าวนอกบ้านเนื่องจากทำเลมีความอุเมสมบูรณ์สูง หาของกินง่าย ชอบโครงการดีไซน์สวยและให้ Facilities ครบ มีงบประมาณประมาณ 2 – 4.6 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 14,000 – 32,200 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )