OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) คอนโด Low Rise ราคาเข้าถึงง่ายสุดในย่าน ใกล้โรงพยาบาลราชพฤกษ์ ขอนแก่นเพียง 250 ม. จาก Ocean Property

OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น)  ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2568

Highlight

• ใกล้โรงพยาบาลราชพฤกษ์ : ทำเลเอาใจคนรักสุขภาพ หรือบุคลากรทางการแพทย์ เพราะห่างกับโรงพยาบาลเพียง 250 เมตร จะเดินหรือขับรถไปก็สะดวกทั้งนั้น
• เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง : จากถนนหน้าโครงการ เชื่อมต่อกับถนนได้ 3 เส้น ทั้งถนนหลักอย่างถนนมิตรภาพ , ถนนมะลิวัลย์ และถนนรองอย่างถนนกัลปพฤกษ์
• ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น : ในช่วง 2 กิโลเมตรมีทั้งตลาด 62 Blocs ขอนแก่นและ Central ลูกบ้านออกไปหาของกินของใช้ได้สะดวก นอกจากนี้ในอนาคตยังจะมี Central 2 มาเปิดอีกด้วย ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร เช่นกัน
• ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น : เดินทางไปมหาวิทยาลัยได้หลายเส้นทาง ทั้งจากถนนกัลปพฤกษ์ และถนนมิตรภาพ ในระยะ 3-4 กิโลเมตร

พิกัด Google Maps : 16.447831995265158, 102.82843802670766
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
Sales Gallery : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) ค่ะ

ถ้าพูดถึงหัวเมืองใหญ่ของภาคอีสาน หลายคนคงนึกถึงจังหวัดขอนแก่น เพราะเป็นทั้งศูนย์รวมการศึกษาและโรงพยาบาลใหญ่ๆ ซึ่งทำเลของโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) ก็ตั้งอยู่บนทำเลที่เอาใจทั้งบุคลากรของโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะโครงการตั้งอยู่ในซอยหมอชาญอุทิศ ซึ่งอยู่ข้างๆกับโรงพยาบาลราชพฤกษ์ โรงพยาบาลชื่อดังของขอนแก่น แพทย์ , พยาบาลหรือบุคคาลากรทางการแพทย์จึงสามารถเดินทางไปทำงานได้ในระยะเพียง 250 เมตรเท่านั้นเอง ไม่ว่าจะขับรถส่วนตัวหรือเดินไปก็สะดวกทั้งนั้น

นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลอีกหลายแห่งด้วยนะ เช่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่เป็นโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยขอนแก่น และโรงพยาบาลกรุงเทพ-ขอนแก่น ซึ่งทั้ง 2 แห่งก็อยู่ในระยะห่างประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ราวกับว่าโครงการอยู่บนทำเลที่เป็นศูนย์กลางของโรงพยาบาลเลย

ข้อดีของซอยหมอชาญอุทิศคือสามารถเข้า-ออกได้จากถนนหลายเส้น นอกจากถนนหลักอย่างถนนมิตรภาพ ที่เป็นทางเข้าหลักของโครงการแล้ว เรายังสามารถลัดเลาะไปยังถนนมะลิวัลย์และถนนกัลปพฤกษ์ได้ด้วยนะ เราจึงมีตัวเลือกในเรื่องเส้นทางการเดินทางที่หลากหลาย

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งในรั้วมหาวิทยาลัยก็ยังมีโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่นอีกด้วย ถ้าใครต้องการไปคณะสัตวแพทย์ , คณะมนุษยศาสตร์ , วิทยาลัยนานาชาติ มข. หรือโรงเรียนสาธิต (มอดินแดง) แนะนำให้ไปทางถนนมิตรภาพ ส่วนคณะอื่นๆรวมถึงโรงเรียนสาธิต (ศึกษาศาสตร์) แนะนำให้ใช้เส้นกัลปพฤกษ์นะ

ส่วนเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะ เพราะใกล้ๆโครงการมีตลาด 62 Blocs ขอนแก่นเป็นตลาดนัดกลางคืน ให้เรามาหาของกินเวลาดึกๆดื่นๆได้ หรือใครที่ชอบเดินห้างก็จะมี Central อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ลูกบ้านออกไปซื้อของกินของใช้สะดวกมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคต ช่วงปี 2569 จะมี Central 2 มาเปิดตรงแยกมิตรภาพ-กัลปพฤกษ์ ทำให้เราลูกบ้านสามารถไปช้อปปิ้งได้ใกล้กว่าเดิมอีกนะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัย 8 ชั้น , อาคารพาณิชย์ 1-2 ชั้น , ชุมชนบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา ด้านข้างโครงการฝั่งทิศตะวันออก จะมีถนนภาระจำยอมอยู่ ซึ่งเป็นตัดผ่านเข้าไปพื้นที่ด้านใน เพื่อรองรับการพัฒนาที่ว่างในอนาคต เรียกง่ายๆว่าพื้นที่หลังโครงการนั่นแหละ ซึ่งเรามองว่ามีโอกาสพัฒนาไปเป็นคอนโด , อพาร์ทเม้นท์ได้อีกนะคะ สรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 1-2 ชั้น , อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , ชุมชนบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัย 8 ชั้น , ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศตะวันตก ติดกับ สนามเทนนิส , ที่ว่างรอการพัฒนา

ในซอยหมอชาญอุทิศเป็นซอยที่เต็มไปด้วยอาคารพักอาศัย มีคอนโดรุ่นพี่ของ Ocean Property อยู่เดิม 2 แห่งและคอนโดเพื่อนบ้านอีก 1 แห่ง ส่วนท้ายซอยเป็นชุมชนดั้งเดิม มีบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นของคนพื้นที่อยู่ ทำให้บริเวณนี้มีคนเข้า-ออกตลอดเวลา ไม่เปลี่ยวเลย แต่ก็ไม่พลุกพล่านจนเกินไป

หน้าโครงการมีร้านกาแฟ , คลินิกและร้านซักอบอยู่ เรามองว่าเป็น Benefit ของลูกบ้านที่สามารถออกมาใช้บริการต่างๆได้สะดวกกว่าโครงการอื่นๆ

Sales Gallery ของโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) อยู่ติดถนนมิตรภาพ ก่อนถึงซอยหมอชาญอุทิศเล็กน้อย สังเกตได้ง่ายจากถนนใหญ่ หรือไปตาม พิกัดนี้ ได้เลย ภายใน Sale Gallery มีห้องตัวอย่างให้ดู 3 แบบคือ ห้อง Studio Type A พื้นที่ใช้สอย 23.5 ตร.ม., 1 Bedroom Type C พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. และห้อง 1 Bedroom Plus Type D พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีโมเดลของโครงการให้ดูด้วยนะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาด 62 Blocs ขอนแก่น ~ 1.6 km.
• Central ขอนแก่น 2 (เปิดในอนาคต) ~ 1.8 km.
• Central ขอนแก่น ~ 2 km.
• ตึกคอม ~ 3.4 km.
• Big C  ~ 4.1 km.
• Fairy Plaza ~ 4.3 km.
• ตลาดต้นตาล ~ 4.9 km.
• Lotus Extra ~ 5.1 km.
• Home Pro ~ 5.2 km.
• Lotus  ~ 6.2 km.
• Makro  ~ 8.2 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลราชพฤกษ์ ~ 250 m.
• โรงพยาบาลกรุงเทพฯ-ขอนแก่น ~ 1.4 km.
• โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ~ 2.6 km.
• โรงพยาบาลขอนแก่นราม ~ 3 km.

สถานศึกษา

• มหาวิทยาลัยขอนแก่น ~ 2.5 km.
• โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ~ 2.9 km.
• โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) ~ 3.3 km.
• โรงเรียนกัลยาณวัตร ~ 3.6 km.
• โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มอดินแดง) ~ 4.1 km.

การเดินทาง

• สนามบินขอนแก่น ~ 7.5 km.

สถานที่สำคัญอื่นๆ

• ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (KICE) ~ 6.6 km.

Highlight

• อาคาร Clubhouse แยกตัวจากอาคารพักอาศัย : ไม่รบกวนลูกบ้านที่อยู่ในโซนพักอาศัย ถือว่าได้ความเป็นส่วนตัว
• วางผังอาคารล้อมส่วนกลาง : การันตีวิวให้ห้องที่หันเข้าด้านในโครงการว่าจะได้วิวสวนส่วนกลางแบบเต็มๆ
• ห้อง Type ใหญ่อยู่หัวมุมอาคาร : ได้วิว 2 ฝั่ง และได้แสงสว่างมากกว่าห้องอื่นๆ

โครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) เป็นโครงการของ Ocean Property ตัวใหม่ล่าสุดในขอนแก่น  ถัดจากคอนโดรุ่นพี่อย่าง OCEAN GRAND RESIDENCE และ OCEAN RESIDENCE MITTRAPHAP – KHON KAEN ที่ Sold Out หมดไปเป็นที่เรียบร้อย โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และอาคาร Clubhouse 1 อาคาร บนพื้นที่  3-1-1.8 ไร่ รวมทั้งหมด 441 ยูนิต โดยแบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 203 ยูนิต อาคาร B จำนวน 238 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต

มาเริ่มกันที่ Master Plan ของ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) กันเลยค่ะ  มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกบ้าน แขกที่มาเยี่ยมเยือนก็ต้องผ่านซุ้มประตูโครงการก่อน ตัวซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาในโครงการเล็กน้อย เพื่อให้รถยนต์มีที่รอเวลาแลกบัตรเข้าโครงการ ทำให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด โครงการใช้ระบบสแกนป้ายทะเบียน ทำให้ลูกบ้านเข้า-ออกได้สะดวก ส่วนแขกที่มาเยี่ยมต้องแลกบัตรเอานะ เส้นทางเดินรถเป็นแบบ One Way  สามารถวนรถส่งคนได้ก่อนขับออกไป แต่ต้องระวังรถที่วิ่งสวนเข้ามาภายในโครงการนิดนึงนะคะ สำหรับที่จอดรถ 30% ของโครงการจะอยู่บริเวณชั้น 1 ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดแบบใต้ชายคาเต็มคัน ทำให้รถของเราไม่ต้องตากแดดตากฝน

ชั้น 1 เป็นพื้นที่ของส่วนกลางทั้งหมด ไม่มีห้องพักอาศัยอยู่เลย  ซึ่งเรามองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากชั้น 1 ค่อนข้างพลุกพล่าน ทั้ง 2 อาคารมี Lobby เป็นของตัวเอง ทำให้ลูกบ้านมีพื้นที่รองรับแขกที่ไม่สะดวกให้ขึ้นห้อง ต่างกันตรงที่อาคาร A จะมีพื้นส่วนอื่นๆ เช่น Co-Working Space อยู่ด้วย จึงคึกคักกว่าเล็กน้อย หากใครชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำให้อยู่อาคาร B นะ ถัดจากอาคาร A และ B ยังมี Fitness ให้ใช้งานอีกด้วย แต่เพื่อนๆไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยนะคะ เพราะทุกฟังก์ชันส่วนกลางมี Access Control ต้องใช้ Key card หรือสแกนหน้าก่อนเข้าไป จึงมีแต่ลูกบ้านที่เข้าไปใช้งานได้ค่ะ ส่วนแขกที่อยากจะมานั่งรอลูกบ้านจะรอได้แค่ตรงสวนส่วนกลางเท่านั้น

ทั้ง 2 อาคาร มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว หรืออัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 102 : 1 ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงนะ ลูกบ้านขึ้น-ลงลิฟต์ได้รวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วน เราแนะนำให้เผื่อเวลากันสักหน่อยนะคะ ส่วนอาคาร B มีอัตราส่วนลิฟต์ 119 : 1 สัดส่วนสูงขึ้นมาหน่อย อาจใช้เวลารอลิฟต์นานกว่าอาคาร A ค่ะ

เนื่องจากชั้น 1 เป็นชั้นที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด โครงการจึงนำพื้นที่ของ Shop 70 ตร.ม. มาไว้ด้านหน้าโครงการ บริเวณหัวมุมที่ดิน เพื่อให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานพื้นที่ร้านค้าได้ แต่โครงการแยกทางเข้า Shop กับทางเข้าอาคารกันอย่างชัดเจน ทำให้คนนอกเข้ามาในโครงการไม่ได้ ในขณะเดียวกันลูกบ้านจะต้องเดินออกจากโครงการก่อน แล้วเดินเข้า Shop ได้เช่นกัน ซึ่งประตูจะอยู่ติดกันเลยค่ะ ส่วน Shop ยังไม่แน่ใจว่าจะเปิดเป็นร้านอะไร แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน และในซอยยังไม่มีร้านค้าขายของชำหรือร้านสะดวกซื้อเลย จึงเป็นไปได้ว่าร้านสะดวกซื้อเป็นที่ต้องการของคนบริเวณนี้

อาคาร A รวมพื้นที่ Lobby และ Co-Working Space ไว้ด้วยกัน ลูกบ้านสามารถมานั่งพักผ่อน ทำงานเปลี่ยนบรรยากาศ ภายในมีทั้งพื้นที่ทำงานแบบเดี่ยวและกลุ่มให้เลือกใช้งาน หรือใครที่ไม่สะดวกให้แขกขึ้นไปบนห้อง จะใช้พื้นที่ตรงนี้พบปะพูดคุยกันก็ได้นะ ใครที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง  แนะนำให้อยู่อาคาร A นะคะ

ถัดจาก Lobby เข้ามาเป็นสวนส่วนกลางที่ถูกล้อมด้วยอาคารพักอาศัย พื้นที่ตรงนี้จะได้ร่มเงาอาคารฝั่งตรงข้ามจึงมาใช้งานได้เกือบทั้งวัน  โครงการจัดมุมนั่งพักผ่อนให้หลายจุด แขกที่มารอลูกบ้านสามารถมาใช้งานพื้นที่บริเวณนี้ได้ เราชอบที่โครงการมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นและจรรโลงใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้อากาศภายในโครงการไม่ร้อนนัก เราจึงคิดว่าพื้นที่ตรงนี้จะร่มรื่นและเย็นเป็นพิเศษ

ห้อง Fitness ของโครงการมีขนาดใหญ่พอสมควร อยู่ด้านในโครงการถัดจากสวน เราจึงสามารถออกกำลังกายพร้อมชมวิวสวนส่วนกลางไปด้วย ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ

ชั้น 2 มีทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัย แต่อยู่คนละอาคาร จึงมีการแยกสัดส่วนอย่างชัดเจน ลูกบ้านไม่เสียความเป็นส่วนตัว ด้านบนอาคาร Clubhouse เป็นสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำ เราต้องเดินขึ้นบันไดจากชั้น 1 เพื่อไปใช้บริการ เรามองว่าการเอาสระว่ายน้ำมาไว้ชั้น 2  ช่วยหลีกเลี่ยงสายตาจากลูกบ้านที่ใช้งานส่วนกลางชั้น 1 ทำให้คนที่มาว่ายออกกำลังกายไม่เคอะเขิน ได้ความเป็นส่วนตัว

ชั้น 2-8 ของอาคาร A , B  เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งเรามองว่ามีโซนที่น่าสนใจอยู่ 4 โซนด้วยกัน

• โซนในกรอบเส้นประสีเหลือง : เป็นห้องพักอาศัยที่อยู่ฝั่งคอร์ทส่วนกลาง ลูกบ้านโซนนี้จึงได้ทั้งวิวสระว่ายน้ำ , สวนส่วนกลางชั้น 1 และ 2 ซึ่งคอนโด Low Rise จะเน้นบรรยากาศภายในโครงการอยู่แล้ว
• โซนในกรอบเส้นประสีน้ำเงิน :  อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด
• โซนในกรอบเส้นประสีแดง :  เป็นห้อง Type ใหญ่อยู่หัวมุมอาคาร จึงได้วิว 2 ฝั่งและยังได้แสงธรรมชาติมากกว่าห้องอื่นๆอีกด้วย
• โซนในกรอบเส้นประสีเขียว : อยู่ทิศเหนือและทิศตะวันออก ทำให้ห้องไม่ร้อน แล้วยังติดกับสนามกีฬาและอาคารพาณิชย์ที่สูงเพียง 1-2 ชั้น เป็นการการันตีว่าจะไม่มีอาคารสูงๆมาบังวิวเราในระยะประชิด

ตัวสระว่ายน้ำกลางแจ้งมีขนาด 25 x 5 เมตร พร้อมสระเด็กและโซน Jacuzzi ลูกบ้านว่ายน้ำออกกกำลังกายได้อย่างจริงจัง สระว่ายน้ำได้ร่มเงาจากอาคารพักอาศัยที่โอบล้อมอยู่ จึงสามารถว่ายได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายๆเลยค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าคอนโด Low Rise ที่มี Sky Facility หาได้ยากทีเดียวสำหรับโซนนี้ แต่โครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) จัดให้ชั้นดาดฟ้าฝั่งอาคาร A มี Sky Facility ประกอบไปด้วย สวนส่วนกลาง , Sky Playground , Sky Gym และโซนนั่งพักผ่อน ส่วนฝั่งอาคาร B ก็มีโซนพักผ่อนเช่นกัน เราสามารถมาพักผ่อนรับลมชมวิวเมือง , ออกกำลังกายกลางแจ้งหรือพาลูกหลานมาพบปะกันได้

Sky Facility เป็นแบบเปิดโล่ง เห็นวิวเมือง 360 องศา เพราะตึกโซนนี้สูงสุดที่ 8 ชั้น และยังไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิด  นอกจากนี้ยังได้วิวส่วนกลางภายในโครงการด้วยนะ

เรามี Presentation จากโครงการมาฝากกันด้วยค่ะ : คลิกที่นี่

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5 x 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.6 เมตร พร้อมโซน Jacuzzi
• ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่
• Lobby A , B
• Co-Working Space
• Sky Gym
• Sky Playground
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 110 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 102 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 119 : 1
• ที่จอดรถคิดเป็น 30%
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / ระบบจดจำป้ายทะเบียน
• ระบบ Access Control เข้าถึงอาคาร Face Scan / Keycard

Highlight

• กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ : แยกฟังก์ชันกันอย่างชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว คนที่ใช้งานห้องนอนกับห้องนั่งเล่นไม่รบกวนกัน
• ห้องครัวแบบปิด ติดระเบียง : เปิดระบายกลิ่นและอากาศ ขณะทำอาหารในห้องครัวได้ แล้วยังป้องกันไม่ให้กลิ่นลอยไปโซนอื่นของห้องอีกด้วย
• มีห้อง Type ใหญ่ให้เลือก : ซึ่งถือว่าหาได้ยากในย่านนี้ ไม่ใช่ว่าทุกโครงการจะมีนะคะ

ห้องพักอาศัยของโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) จะขายแบบ Fully Fitted คือได้ Built-in ห้องครัวและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเท่านั้น ทำให้เรามีโอกาสได้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งตามสไตล์ของตัวเอง โดยที่ห้องพักของโครงการมีราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆรอบข้างที่มักจะมีราคาตั้งแต่ 1.49-2.39 ล้านบาท จึงเรียกได้ว่าห้องพักของโครงการนี้มีราคาเป็นมิตรที่สุดแล้ว

โครงการเน้นเป็นห้องพักอาศัยขนาดเล็กแบบ Studio และ 1 Bedroom เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน ในขณะเดียวกันก็ยังมีห้อง Type ใหญ่ขึ้นมาอย่าง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ที่หาได้อยากในโซนนี้ให้เลือกเช่นกัน

ปัจจุบันโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) มีห้องในเลือกดังนี้

• Studio Type A พื้นที่ใช้สอยภายใน 23-24 ตร.ม.
• 1 Bedroom Type B  พื้นที่ใช้สอยภายใน 25-26 ตร.ม.
• 1 Bedroom Type C พื้นที่ใช้สอยภายใน 30-32 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Type D พื้นที่ใช้สอยภายใน 34-35 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Type E พื้นที่ใช้สอยภายใน 45-47 ตร.ม.

สรุปวัสดุภายในห้อง

• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• วัสดุพื้นส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้น SPC ความหนา 5 มิลลิเมตร
• วัสดุพื้นส่วนระเบียง : กระเบื้อง Porcelain ขนาด 60×60 cm.
• เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Daikin หรือเทียบเท่า
• บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีน้ำตาลอ่อน (Teak Brown)

ห้องครัว

• ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์คริสตัลไวท์ นาโน (Crystal White Nano)
• Sink  & Tap จาก HAFELE
• Hood ระบบดูดออกสู่ภายนอก จาก HAFELE (เฉพาะห้องครัวที่ไม่ติดระเบียง)
• บานปิดตู้ผิวลามิเนต
• วัสดุพื้นปูกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60×60 cm.

ห้องน้ำ

• อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Cotto
• ฝักบัวจากยี่ห้อ Cotto
• โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto
• สายชำระยี่ห้อ Cotto
• ฉากกั้นอาบน้ำ
• วัสดุปูพื้นกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60×60 cm.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom  ขนาด 30 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่างแรกที่เราจะพาไปชมคือห้อง 1 Bedroom (Type C) ขนาด 30 ตร.ม. ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัวแบบปิด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน

• ได้ครัวปิดแถมติดระเบียง : เปิดระบายกลิ่นและอากาศ ขณะทำอาหารในห้องครัวได้ แล้วยังป้องกันไม่ให้กลิ่นลอยไปโซนอื่นของห้องอีกด้วย
• ห้องครัวมีขนาดใหญ่ รวมกับพื้นที่รับประทานอาหาร : ใช้งานพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง ทำอาหารและทานในพื้นเดียวกัน
• กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ :  เจ้าของห้องได้ความเป็นส่วนตัว หากอยู่อาศัยกัน 2 คน ทำให้คนที่ใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
• ห้องนอนมีขนาดใหญ่ : หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าพื้นที่ห้องนอนใหญ่กว่าห้องนั่งเล่นซะอีก พอจะใส่โต๊ะทำงานหรือจัดเป็นมุมแต่งตัวได้อย่างเป็นสัดส่วน
• ห้องน้ำเข้าถึงได้จากห้องนอน : ลุกมาใช้งานได้สะดวก เวลาดึกดื่นๆ แต่ก็อาจทำให้เสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย เวลามีแขกมาเยี่ยม

โซนแรกของห้องเป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดกลางๆ เชื่อมต่อกับห้องครัวแบบปิดด้วยกระจกบานเลื่อน ทำให้แสงธรรมชาติยังเข้าถึงบริเวณนี้ได้ ช่วยให้ห้องดูโปร่งและโล่งขึ้น พื้นเป็น SPC หนา 5 มม. ซึ่งจะแข็งแรงกว่าแบบ 4 มม. ที่ใช้กันเป็นมาตรฐาน ส่วนฝ้าสูงกว่ามาตรฐานทั่วประมาณ 10 เซนติเมตร อยู่ที่ 2.5 เมตร เวลาเดินอยู่ในห้องจึงไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

บริเวณใกล้ๆกับประตูมีพื้นที่ให้เราทำ Built-in หรือวางตู้เก็บรองเท้า เพื่อให้เราหยิบหรือถอดได้สะดวกเวลาเข้า-ออกจากห้องพัก หากใครมีรองเท้าไม่เยอะนัก แนะนำให้ทำด้านบนตู้รองเท้าเป็นชั้นเก็บของ สำหรับเก็บของที่เราจะหยิบใช้ก่อนออกจากห้องบ่อยๆ เช่น กุญแจห้อง , กุญแจรถ เป็นการกันลืมก่อนออกไปด้านนอกด้วยค่ะ

สำหรับพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็ก สำหรับวางน้ำและขนมไว้กินเพลินๆขณะดูทีวีได้สบายๆ ระยะดูทีวีของโซนนี้อยู่ 2.55 เมตร แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัด เราแนะนำให้ติดตั้งชั้นวางของเหนือทีวีสูงสักหน่อยนะ เพราะป้องกันการเดินชนเวลาเดินงัวเงียออกมาจากนอน สำหรับห้องนั่งเล่น โครงการจะให้แอร์ Wall Type ของ Daikin ขนาด 9,000 BTU มาให้

บริเวณข้างๆโซฟายังเหลือพื้นที่ให้จัดเป็นมุมทำงานอย่างเป็นสัดส่วน สามารถวางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ได้ 1 ตัว สะดวกในการใช้งาน เราไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะทานข้าวในการทำงาน แล้วต้องคอยเก็บโน๊ตบุ๊คหรือเอกสารต่างๆ เวลาจะทานอาหารจริงๆ

ห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับห้องครัว ซึ่งเป็นครัวแบบปิด มีประตูกระจกกั้นเป็นสัดส่วน เวลาที่เราต้องการความโปร่งโล่งก็สามารถเปิดประตูกระจกเพื่อเชื่อมพื้นที่เข้าหากัน

ประตูกั้นห้องครัวเป็นบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน อีกทั้งรางประตูยังถูกฝังให้เรียบเสมอไปกับพื้น เดินเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าจะสะดุดล้ม ครัวแบบปิดช่วยให้เราทำอาหารได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นควันจะลอยไปโซนอื่นๆของห้อง

ภายในห้องครัวมีขนาดประมาณ 2.55×2.2 เมตร  ตัวพื้นปูกระเบื้อง Porcelain ขนาด 60×60 เซนติเมตร คงทนและทำความสะอาดคราบต่างๆง่าย โครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวให้ฝั่งหนึ่ง เวลาที่เราทำครัวก็ยังเหลือพื้นที่ให้อีกคนเดินผ่านไปมาได้สบายๆ ส่วนอีกฝั่งก็เป็นพื้นที่รับประทานอาหาร เราสามารถวางโต๊ะทานข้าวได้ 2 ที่นั่ง

แม้ว่ามุมรับประทานอาหารจะอยู่ในห้องครัว แต่เราก็สามารถเปิดประตูกระจกเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นได้ เพื่อให้พื้นที่ในห้องดูกว้างขวาง เราจะได้นั่งกินข้าวอย่างสบายๆไม่อึดอัด  หรือใครชอบกินข้าวพร้อมหาอะไรฟังไปด้วย เช่น เพลง , ข่าวหรือพอดแคสต์ก็สามารถทำได้เช่นกัน

ภายในห้องครัวมีเคาน์เตอร์ครัว Built-in มาให้พร้อมกับเว้นพื้นที่ด้านข้างให้เราวางตู้เย็น เวลาประกอบอาหารจะได้หยิบวัตถุได้สะดวก ทำให้การใช้งานต่อเนื่องดีค่ะ  เราดูจากขนาดพื้นที่แล้วก็พอให้คนช่วยกันทำครัว 2 คนกำลังดี

ใต้เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกบริเวณใต้ซิงค์ล้างจาน เป็นช่องเก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาดห้อง  ส่วนที่สองเป็นลิ้นชักเก็บของบน-ล่าง เราสามารถใช้เก็บอุปกรณ์เครื่องครัว เช่น กระทะ , จาน , ช้อน , ส้อม ทำให้เราหยิบอุปกรณ์มาใช้ได้สะดวก  ส่วนสุดท้ายเป็นช่องใส่ไมโครเวฟ เรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ตรงนี้ จะช่วยให้เราระมัดระวังเวลาหยิบของร้อนออกมาได้มากกว่าการที่ต้องเขย่งไปหยิบของจากไมโครเวฟด้านบนเคาน์เตอร์

บานเปิดตู้เก็บของเป็นแบบเซาะร่อง ทำให้เราจับพอดีมือ เปิดตู้ได้สะดวก ตัวบานเป็น MDF กันชื้น ปิดผิวด้วยลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้น

Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนซิงค์ล้างจานและส่วนเตรียมอาหาร ใครชอบทำอาหารจริงๆสามารถซื้อเตาไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะมาใช้งานได้นะ แล้วเราก็แนะนำให้กรุกระเบื้องที่ Backsplash เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ ส่วนซิงค์ล้างจานก็มีความลึกเป็นพิเศษ เราล้างจานได้ถนัดโดยน้ำไม่กระเด็นออกมา

ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้เก็บของที่มีบานปิดให้เรียบร้อย  มือจับตู้เก็บของด้านบนเป็นแบบเซาะร่อง พอดีกับมือเวลาจับ ทำให้เราเปิดได้สะดวก

ห้องครัวของห้อง Type นี้ติดระเบียงมีประตูบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน เราจึงเดินเข้า-ออกได้สะดวก  เวลาทำอาหารกลิ่นฉุนๆ ก็เปิดระบายอากาศ เราชอบที่ขอบอลูมิเนียมของประตูทำสีน้ำตาลอ่อน ดูเข้ากับตัวห้องที่ตกแต่งด้วยไม้ และไฟสี Warm white

ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 2.55×0.8 เมตร โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ ถ้าเราไม่อยากส่งผ้าไปซักด้านนอก ก็สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าบริเวณนี้ได้นะ เราแนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติม เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ

สำหรับห้องนอนเข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่นเช่นกัน ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ให้เราแบ่งสัดส่วนในการใช้งานภายในห้องได้

เริ่มจากโซนแรกสามารถ Built-in ชั้นวางของไว้สำหรับเก็บของส่วนตัว หรือของสำคัญได้ เช่น กระเป๋าตังค์ , กระเป๋าสะพาย , นาฬิกา

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.5×4.3 เมตร สามารถแบ่งเป็นโซนพักผ่อนและโซนแต่งตัวได้นะ โซนพักผ่อนสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง แล้วยังเหลือพื้นที่พอให้เดินรอบเตียงได้เล็กน้อย ใครชอบดูทีวีก่อนนอนแนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนเพื่อประหยัดพื้นที่นะคะ

ห้องนอนมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่  ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ทุกมุม ห้องจึงดูสว่าง ส่วนหนึ่งของหน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง เปิดระบายอากาศได้ ข้อดีคือกันเวลาฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างแบบบานเลื่อนหรือบานเปิด

บริเวณหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้เราจัดเป็นมุมแต่งตัวได้อีก สามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมตู้เสื้อผ้าได้ เวลาเราอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้ทันที ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง

ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ทำให้ใช้งานได้ง่าย  เราชอบที่โครงการก่อกำแพงด้านหลังโถสุขภัณฑ์ไว้ครึ่งหนึ่ง ให้เรามีพื้นที่วางของได้ด้วย

พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย กันน้ำไหลย้อน ทำให้เราทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกสู่ตัวห้องนอน

ภายในห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ต่างๆของ Cotto ไว้ครบครันเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของให้ด้วย เอาไว้เก็บอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้ เช่น สบู่ , แชมพูและทิชชู

โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะ เป็นบานสวิง มีมือจับแบบยาวใช้แขวนผ้าขนหนูได้ เวลาเราอาบน้ำเสร็จ ก็เช็ดตัวได้เลย ไม่ต้องเดินตัวเปียกไปหยิบผ้าขนหนูจากราวแขวนบริเวณอ่างล้างหน้า

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 0.95 เมตร อาบน้ำได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีที่นั่งอาบน้ำมาให้ด้วยนะ ไม่ต้องยืนอาบน้ำให้เมื่อยขาเลย หรือจะใช้เป็นพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำก็ได้เช่นกัน

ห้องตัวอย่าง Studio  ขนาด 23.5 ตร.ม.

สำหรับห้อง Studio ขนาด 23.5 ตร.ม. เราว่าน่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะผังแบบนี้เราไม่ค่อยได้เห็นในห้องแบบ Studio มากนัก ฟังก์ชันภายในมีให้ครบตามมาตรฐาน  รวมพื้นที่พักผ่อนกับพื้นที่นั่งเล่นไว้ด้วยกัน พร้อม 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัวแบบปิด เราว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียวมากกว่า หรือเต็มที่ก็ 2 คน

• รวมพื้นที่พักผ่อนกับพื้นที่นั่งเล่นไว้ด้วยกัน : ทำให้พื้นที่ภายในห้องดูกว้างขวางและโล่งมากกว่าเดิม แต่ก็เหมาะกับคนที่ไม่มีแขกมาเยี่ยมบ่อยนะ
• ห้องครัวแบบปิด ติดระเบียง : เปิดระบายกลิ่นและอากาศ ขณะทำอาหารในห้องครัวได้ แล้วยังป้องกันไม่ให้กลิ่นลอยไปโซนอื่นของห้องอีกด้วย

เมื่อเข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับโซนเตียงนอน ที่ถูกดันไปไว้ด้านในสุดติดหน้าต่าง จากโซนพื้นที่นั่งเล่นจึงมองเห็นวิวได้แบบไกลๆ แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องเยอะ ทำให้ตัวห้องดูโปร่งและโล่ง พื้นที่บริเวณนี้เป็น SPC หนา 5 มม. ซึ่งเป็นความหนาที่มากกว่ามาตรฐานเล็กน้อย ทำให้แข็งแรงและทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่า ส่วนความสูงฝ้าของห้องอยู่ 2.5 เมตร เวลาเดินอยู่ภายในห้องจึงไม่รู้สึกอึดอัด หากใครต้องการความเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนแนะนำให้ทำฉากกั้นเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้คนที่ใช้งานพื้นที่นั่งเล่นและส่วนนอนไม่รบกวนกัน

บริเวณใกล้ๆประตูจะมีพื้นที่สำหรับ Built-in หรือวางตู้เก็บของ สำหรับเก็บของที่เราต้องหยิบใช้บ่อยๆเวลาออกจากห้อง เช่น กุญแจห้อง , กุญแจรถหรือ Accessory ต่างๆ

สำหรับพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดไม่กว้างมากนัก สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางเล็กๆสำหรับวางของกิน และมีระยะดูทีวี 2.5 เมตรเหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว เพื่อการรับชมที่ชัดเจน

ห้องน้ำอยู่ใกล้ทั้งพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่พักผ่อน ไม่ว่าจะอยู่บริเวณไหนของห้องก็มาใช้ห้องน้ำได้สะดวกทั้งนั้น ผังห้องน้ำมาเหมือนของห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ แยกส่วนเปียก-แห้งชัดเจน ใช้งานได้สะดวก

ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของไว้เก็บอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้ แต่ที่เราชอบคือโครงการออกแบบให้ที่ใส่ทิชชูอยู่ด้านข้างโถสุขภัณฑ์ ทำให้เราหยิบทิชชูง่าย ไม่ต้องเอี้ยวตัวไปหยิบเลยค่ะ

โครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ จึงอาบน้ำได้โดยไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะกระเด็นมายังโซนแห้ง ราวจับฉากกั้นอาบน้ำใช้แขวนผ้าขนหนูได้ หยิบใช้งานได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.05 x 0.9 เมตร อาบน้ำได้สะดวก พร้อมมีที่นั่งอาบน้ำให้ด้วยนะ เวลาเมื่อยหรือขี้เกียจยืน ก็นั่งอาบน้ำได้สบายๆ

เนื่องจากพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่พักผ่อนเชื่อมต่อกัน หากต้องการแยกพื้นที่แบบเป็นสัดส่วน แนะนำให้ทำ Built-in ตู้เตี้ยๆหรือโต๊ะทำงาน มาแบ่งสัดส่วนระหว่างทั้ง 2 พื้นที่นะ

โซนพักผ่อนอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเต็มที่ หากใครชอบตื่นสายๆไม่อยากให้แสงสว่างมารบกวน แนะนำให้ติดม่านแบบ Black Out นะ หรือเลือกตำแหน่งห้องทางทิศใต้ , ตะวันตกจะเหมาะกว่า พื้นที่ตรงนี้มีขนาดใหญ่พอจะวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ แล้วยังมีที่ว่างให้เราวางตู้เสื้อผ้าบริเวณข้างๆเตียงได้อีก ถ้าชอบความโล่งแนะนำให้ทำเป็นราวแขวน แบบไม่มีบานติดแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ แต่ก็จะเหมาะกับคนที่มีเสื้อผ้าไม่เยอะนัก หรือมาพักที่นี่เป็นครั้งคราว

หน้าต่างบริเวณใกล้ๆเตียงนอนเป็นแบบบานกระทุ้ง ใช้เปิดระบายอากาศได้ แล้วยังกันฝนสาดหรือฝุ่นจากภายนอกได้ดีกว่าหน้าต่างบานเปิดหรือบานเลื่อน

จริงๆแล้วโครงการจะให้ฉากกั้นบานเลื่อนบริเวณทางเข้าห้องครัวมาด้วย เพื่อกันกลิ่นควันไม่ให้ลอยไปรบกวนโซนอื่นๆของห้อง ขณะที่เราทำอาหาร ห้องครัวมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก พอให้ยืนทำครัว 1-2 คน แต่ถ้ามีคนจะเดินผ่านไปยังระเบียง อาจต้องเบี่ยงตัวสักหน่อยนะ

ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง มือจับตู้เก็บของเป็นแบบเซาะร่อง ทำให้เราจับพอดีมือ เปิดตู้ได้สะดวก ตัวบานเป็น MDF กันชื้น ปิดผิวด้วยลามิเนต ทนต่อรอยขีดข่วนและความชื้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น

ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ เคลือบเมลามีนแข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนเตรียมอาหาร ส่วนที่สองซิงค์ล้างจานที่มีความลึกเป็นพิเศษ ช่วยลดน้ำกระเด็นออกมาได้ โครงการให้ Backsplash เป็นผนังปูนทั่วไป เราแนะนำให้กรุกระเบื้อง เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย หากใครชอบทำอาหารจริงจังแนะนำให้ติดตั้งเตาไฟฟ้าแบบตั้งโต๊ะเพิ่มเติมนะ

ด้านบนมีตู้เก็บของที่มาพร้อมบานปิดตู้ดูเรียบร้อยดี แล้วยังช่วยกันฝุ่นควันจากการทำอาหารไปเลอะของด้านใน ส่วนอีกฝั่งเป็นชั้นวางของ มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟได้พอดี เรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ด้านบน ใช้งานสะดวก ไม่ต้องก้มๆเงยๆ หยิบอาหารจากไมโครเวฟ

ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เราสามารถเดินเข้า-ออกได้สบายๆ แล้วยังได้แสงธรรมชาติจากภายนอกเต็มๆ

ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.3 × 0.8 เมตร โครงการติดตั้ง Condensing Unit ไว้เป็นแบบแขวน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ แนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติม ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับพื้นลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม.

แม้ว่าห้อง Type นี้จะมีจำนวนไม่เยอะนัก แต่ก็อยู่ในตำแหน่งที่เห็นวิวส่วนกลางทั้งหมด สำหรับผังห้องเราว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะห้องครัวอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจาก Type อื่นๆที่เราเคยเห็นกันมา แล้วยังออกแบบให้มีกระจกเข้ามุม ทำให้ห้องดูโล่งขึ้นมา ห้องนี้จัดฟังก์ชัน 1 ห้องนอน , 1 ห้องน้ำ , 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องอเนกประสงค์ค่ะ

• ห้องครัวอยู่โซนด้านใน มีกระจกเข้ามุม : เราสามารถมองเห็นห้องครัวได้จากภายนอก แล้วยังทำให้ห้องดูโล่ง นอกจากนี้โครงการยังให้ที่ดูดควันแบบดูดออกไปด้านนอก มาอีกด้วย
• พื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่ : จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นและมุมทานอาหารได้
• ห้องอเนกประสงค์ใหญ่ๆเกือบเท่าห้องนอน  : สามารถจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเล็กได้
• ห้องน้ำอยู่ใกล้ห้องนอน และเข้าถึงได้จากห้องนั่งเล่น : ทำให้เรามาใช้ห้องน้ำได้สะดวก ไม่ว่าจะอยู่บริเวณไหนของห้อง และไม่เสียความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาใช้ห้องน้ำ

OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) ราคา ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2568

• Studio Type A พื้นที่ใช้สอยภายใน 23-24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hood / ของยี่ห้อ HAFELE (เฉพาะห้องครัวไม่ติดระเบียง)
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 25,000 บาท
• ดาวน์ 15% ผ่อนดาวน์ 24 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) อยู่ในซอยหมอชาญอุทิศ ห่างจากโรงพยาบาลราชพฤกษ์แค่ 250 เมตรเท่านั้นเอง ใครทำงานอยู่โรงพยาบาลนี้เดินไปทำงานได้สะดวกมากๆ จากซอยโครงการสามารถเชื่อมต่อกับถนนได้หลายเส้น ทั้งถนนหลักอย่างถนนมิตรภาพ แล้วยังลัดเลาะไปยังถนนมะลิวัลย์และกัลปพฤกษ์ได้ด้วย ทำให้เราสามารถไปโซนต่างๆของเมืองได้ง่ายขึ้น รวมถึงโซนมหาวิทยาลัยขอนแก่นด้วย นอกจากนี้ยังไปหาของกินได้ง่ายอีกด้วยนะ เพราะในระยะ 2 กิโลเมตรมีทั้ง Central และตลาด 62 Blocs ลูกบ้านออกไปหาของกินของใช้ได้ง่าย

การเดินทางโดยใช้รถ : โครงการเชื่อมกับถนนได้หลายเส้น มีเส้นทางลัดเลาะเข้ามหาวิทยาลัยได้ง่าย จึงเหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่า ซึ่งโครงการเตรียมที่จอดรถไว้ให้ลูกบ้าน 30 %

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ที่อยู่โรงพยาบาลราชพฤกษ์เรามองว่าสามารถเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงานได้เลย ในขอนแก่นมีรถสาธารณะเยอะพอสมควรเลยนะ จะเรียกรถผ่าน Application ก็สะดวก

วัสดุ : โครงการขายแบบ Fully Fitted  ให้เฟอร์นิเจอร์ชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เหมาะกับคนที่ชอบตกแต่งและเลือกซื้อเฟอร์ฯ เองตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ส่วนพื้นครัวปูกระเบื้องมาให้เหมาะกับการใช้งาน พื้นห้องเป็นพื้น SPC 5 มิลลิเมตรทนต่อการใช้งาน มากกว่ามาตรฐานทั่วไปที่มักหนา 4 มิลลิเมตร เฉพาะห้องครัวที่ไม่ติดกับระเบียงโครงการจะให้ที่ดูดควันแบบดูดออกด้านนอกมาด้วย วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานราคานี้

การออกแบบโครงการ : โครงการเป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร และอาคาร Clubhouse 1 อาคาร โดยวางผังให้อาคารพักอาศัยโอบล้อมอาคาร Clubhouse ช่วยให้ห้องที่หันเข้าด้านในโครงการก็ได้วิวสวนส่วนกลางแบบเต็มๆ  การแยกอาคาร Clubhouse ออกมาต่างหาก ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะการใช้งานไม่ปะปนกัน สำหรับอาคาร A จะมี Facility ส่วนกลางอื่นๆอยู่บ้าง จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้ส่วนกลาง ส่วนอาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบความสงบหน่อย

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : โครงการเน้นห้องขนาดเล็ก จึงมีจำนวนห้อง 1 Bedroom , Studio มากตามลำดับ รองรับการอยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน แต่ก็มีห้อง Type ใหญ่อย่าง 2 Bedroom ให้เลือกอีก ซึ่งถือว่าหาได้ยากในย่านนี้ ฟังก์ชันภายในห้องจัดมาได้เป็นสัดส่วน ห้อง Studio , 1 Bedroom ได้ครัวปิดติดระเบียงทำอาคารได้เต็มที่ ห้องตั้งแต่ 1 Bedroom ขึ้นไปจะกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวสูง

สาธารณูปโภค : โครงการมี Facility มาให้ครบตามมาตรฐาน แต่ละอาคารมี Lobby ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมี Co-Working Space ให้ใช้งานพร้อมชมวิวสวนส่วนกลาง ส่วนอาคาร Clubhouse ที่แยกออกมาต่างหาก ช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน มี Main Facility อย่างสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic และ Fitness นอกจากนี้ยังมี Sky Facility บนดาดฟ้า ซึ่งหาได้ยากในโซนนี้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 67,000 บาท/ตร.ม., 18 กรกฎาคม 2568

• ทำเล 7.75/10 – ใกล้โรงพยาบาล ไม่ไกลจากแหล่งความอุดมสมบูรณ์และมหาวิทยาลัย
• เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เดินทางเข้า-ออกได้ง่ายสะดวก เชื่อมต่อถนนได้หลายเส้น
• ไม่ใช้รถ 7/10 – ไปโรงพยาบาลได้ง่าย หากจะไปโซนอื่นๆของเมืองต้องเรียกรถจาก Application
• วัสดุ 7.5/10 – โครงการขายแบบ Fully Fitted วัสดุมาตรฐานเหมาะกับการใช้งาน
• แบบ 8/10 – ฟังก์ชันจัดเป็นสัดส่วน กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ เน้นห้องขนาดเล็ก ราคาจับต้องง่าย
• สาธารณูปโภค 8/10 – มีอาคาร Clubhouse แยกจากอาคารพักอาศัย ส่วนกลางน่าใช้งาน

• ECONOMY CLASS
• 7.72 / 10.00
  **คะแนนนี้สำหรับบุคคลทั่วไป แต่ถ้าหากเป็นบุคลากรของโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จะได้ Benefit เรื่องทำเลและการเดินทางแบบไม่ใช้รถ ทำให้คะแนน Part ทำเลเป็น 8.5/10 และไม่ใช้รถ 8.25/10 ทำให้คะแนนรวมเป็น 8.17 / 10.00

OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) เหมาะกับใคร

ดูจากทำเลโครงการ OCEAN OASIS KHON KAEN (โอเชี่ยน โอเอซิส ขอนแก่น) คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตอบโจทย์กลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลมากที่สุด แต่ก็ยังเหมาะกับคนที่หาคอนโดไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย แต่อยากหลีกเลี่ยงความวุ่นวายและพลุกพล่านของโซนมหาวิทยาลัย  เข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ไม่ยาก เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ชอบโครงการที่แยก Clubhouse ออกจากโซนพักอาศัยโดยเฉพาะ มีส่วนกลางที่สวยงามให้ใช้งาน ห้องพักมีหลายขนาดรองรับคนได้ 1-4 คน ชอบตกแต่งห้องเป็นสไตล์ของตัวเองใครที่มีงบประมาณระดับ 1.39 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 9,730 บาท/เดือนก็สามารถจับจองโครงการนี้ได้แล้วค่ะ

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน 

• dcondo campus  ขอนแก่น
• RI-NÉ ขอนแก่น
• SOū& ขอนแก่น
• Origin Place ขอนแก่น-กัลปพฤกษ์

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่