Modiz Station คอนโด Low rise ติดถนนพหลโยธิน ใกล้สถานีพหลโยธิน59 (สายสีเขียว) จาก Asset Wise [รีวิวฉบับที่ 1149]

รีวิวฉบับที่ 1149 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมห้องตัวอย่างของคอนโด Modiz Station จาก Asset Wise ที่อยู่บนถนนพหลโยธินในย่านสะพานใหม่ โดยที่ดินติดกับสถานีพหลโยธิน 59 ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดย Pre-sale จะเปิดในวันที่ 10-11 กันยายนนี้

Fact @ 11 August 2016

• Modiz Station (โมดิซ สเตชั่น)
• Asset Wise
• UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางเขน
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 246 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 37 ยูนิต
• ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 41%
• ที่ดินประมาณ 1-3-3 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง : ปี 2560
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2561
• 1 Bedroom 23.27 – 23.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 – 2.49 ล้านบาท
• 1 Bedroom Extra 26.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.09 – 2.69 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus 30.27 – 36.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 – 3.49 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 48.12 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.09-4.39 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 90,000 บาท/ตร.ม.
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 85,000 – 107,000 บาท/ตร.ม.
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร  : 089-3311-777

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.881831, 100.600079

รีวิวพาชมทำเลโครงการ Modiz Station ฉบับเต็ม : คลิกที่นี่

แผนที่โครงการของโครงการคอนโด Modiz Station ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินตรงข้าม Tesco lotus ตัดกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม(สถานีพหลโยธิน 59)

ที่ตั้งของโครงการ Modiz Station ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินฝั่งแยกรามอินทรามุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่ ระหว่างซอยพหลโยธิน 57 และ 59 เยื้องๆกับ Tesco lotus โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ เป็นสถานีของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่วิ่งต่อมาจากสถานีหมอชิตบนถนนพหลโยธินยาวขึ้นไป ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

ทำเลแยกรามอินทราเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยเก่า ใกล้เขตทหาร ใกล้สนามบินดอนเมือง และเมื่อมีแผนพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าขึ้นมาแถวกรุงเทพตอนเหนืออย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่ต่อจากสถานีบางซื่อวิ่งมาตามถนนพหลโยธินเลยมีการยกระดับความเจริญ โดยเฉพาะที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ เนื่องจากเป็นทำเลในอนาคตที่เส้นทางรถไฟฟ้ายังอยู่ในการก่อสร้างทำให้อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัดมาก แต่ปัจจุบันก็รถติดมากอยู่แล้วเนื่องจากเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยในซอยพหลโยธินย่อยต่างๆ มีกรมทหารราบ 11 ทีโอที และ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ล้วนเป็นแหล่งงานที่มีคนอยู่หลายพันคน อีกทั้งยังถือว่าไม่ไกลจากแหล่งสถานศึกษาทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอาทิเช่น รร.ไผทอุดมศึกษา รร.เจริญผลวิทยา ม.ราชภัฏพระนคร ม.เกริก ม.ศรีปทุม และม.เกษตรศาสตร์ รวมถึงโรงพยาบาล

แหล่งอาหารการกินใกล้ที่สุดคือข้ามสะพานลอยมาที่ Tesco lotus ฝั่งตรงข้าม หรือจะขับรถไปหน่อยจะเจอ BigC ติดกับถนนรัตนโกสินทร์สมโภช เลยไปหน่อยคือตลาดยิ่งเจริญ ส่วนบนถนนแจ้งวัฒนะมีตลาด Market Today ซอยวิภาฯ64 มีของกินและมินิมาร์ท ร้านค้า ร้านอาหารตามสั่ง ร้านรถเข็น ส่วนอีกจุดนั่นคือ Max Value ภายในก็จะมีซูปเปอร์มาร์เก็ต Mcdonald เปิดตลอด 24 ชม. และห้างที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้คือ Central Plaza รามอินทรา ที่อยู่เลยม.เกริกไปนิดนึง

ทำเลแยกรามอินทราคือวงเวียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เป็นวงเวียนของจุดตัดถนนใหญ่ๆตั้งแต่ถนนพหลโยธินที่วิ่งขนานกับถนนวิภาวดีรังสิต ถนนแจ้งวัฒนะ และถนนรามอินทรา โดยจากถนนแจ้งวัฒนะไปถนนรามอินทราจะมีสะพานข้ามวงเวียน แต่จากถนนรามอินทราไปถนนแจ้งวัฒนะก็ต้องเข้าวงเวียนปกติ ส่วนถนนพหลโยธินถ้ามาจากแยกรัชโยธินมุ่งหน้าสะพานใหม่ก็จะมีทางลอดใต้วงเวียนช่วยลดรถติดไปได้เยอะพอสมควร

การเดินทางโดยใช้รถโดยใช้ทางด่วน ด่านทางขึ้นที่ใกล้ที่สุดคือทางยกระดับอุตรภิมุข(ดอนเมืองโทลล์เวย์) ที่ต้องไปกลับรถ วนเข้าวงเวียนแยกรามอินทราแล้วเข้าถนนแจ้งวัฒนะแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีก็เจอเลย ส่วนถ้าออกนอกเมืองไปทางรังสิตให้ไปกลับรถแถวหน้าทีโอทีก่อนถึงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วกลับเข้ามาวิภาวดีรังสิตอีกครั้งก็เจอทางขึ้นฝั่งออกเมือง

ส่วนการเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ที่แยกรามอินทรามีเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สายตัดกันคือสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) วิ่งบนถนนพหลโยธินที่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้างและสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วิ่งจากถนนแจ้งวัฒนะไปยังถนนรามอินทรากำลังอยู่ในช่วงแผนรอเสนออนุมัติ ปัจจุบันมีการปรับตำแหน่งที่ตั้งสถานีไปแล้วหลายครั้ง โดยสายสีเขียวเข้มและสายสีชมพูจะสามารถเปลี่ยนสถานีได้ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (สายสีเขียวเข้ม) และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (สถานีวงเวียนหลักสี่) สายสีชมพู ซึ่งถือเป็นทำเลที่ดีในการเดินทางเข้า-ออกเมือง รวมถึงข้ามไปนนทบุรีและรามอินทรา รวมถึงมีจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีสีแดงเข้มไปรังสิต (กำลังก่อสร้าง)

• คอนโด Modiz Station ตัดสถานีพหลโยธิน 59(สายสีเขียวเข้ม) สามารถเข้า mrta official website ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ได้ที่นี่

นอกจากระบบรางอย่างรถไฟฟ้าแล้ว การเดินทางโดยการไม่ใช้รถส่วนตัวแบบอื่นๆก็ยังสะดวกอยู่อย่างรถเมล์ที่มีบนถนนใหญ่อยู่แล้ว ป้ายรถเมล์ไม่ไกล และมีที่ฝั่งตรงข้ามเพียงข้ามสะพานลอย รวมถึงรถตู้และแท๊กซี่หาง่ายเนื่องจากติดถนนใหญ่ทั้งสองโครงการ

มาดูพื้นที่รอบข้างของโครงการ Modiz Station กันบ้างค่ะ ที่ดินโครงการติดถนนพหลโยธินขาออกระหว่างซอยพหลโยธิน 57 และ 59 สามารถเข้าได้จากทั้งวงเวียนและทางลอดแยกรามอินทราถ้ามาจากถนนพหลโยธินแยกรัชโยธิน โดยปัจจุบันเป็นบ้านพักอาศัยส่วนตัวมีบริเวณ  ทางใต้เป็นคลีนิกหมอฟัน ส่วนทางเหนือคือที่ดินว่างเปล่า ร้านอาหารชั้นเดียว และอาคารพาณิชย์ติดถนนใหญ่ ภายในซอยแยกย่อยจากพหลโยธิน 59 เข้าไปเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมสูง 3-4 ชั้น

โครงการจะขึ้นคอนโดแบบ Low rise สูงไม่เกิน 8 ชั้น ไม่มีตึกในระยะประชิด ในพื้นที่บางเขนจะอยู่ใกล้สนามบินดอนเมืองและเขตทหารหลายจุด ทำให้ถูกควบคุมเรื่องความสูงของอาคาร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• Tesco Lotus 300 เมตร
• วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร 900 เมตร
• โรงพยาบาลเซ็นทรัล เยนเนอรัล 1.2 กิโลเมตร
• สำนักงานเขตบางเขน 1.3 กิโลเมตร
• Max Valu 1.6 กิโลเมตร
• Central รามอินทรา 1.7 กิโลเมตร
• ตลาดยิ่งเจริญ 1.9 กิโลเมตร
• BigC Supermarket 2.1 กิโลเมตร
• กรมทหารราบที่ 11 2.6 กิโลเมตร
• ม.ศรีปทุม 3.8 กิโลเมตร
• โรงเรียนสารวิทยา 4.2 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 5 กิโลเมตร
• ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ 5.5 กิโลเมตร
• สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ 6.1 กิโลเมตร
• Major รัชโยธิน 7.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลวิภาวดี 7.3 กิโลเมตร
• ‘สนามกอล์ฟราชพฤกษ์ 8 กิโลเมตร
• สนามบินดอนเมือง 9.6 กิโลเมตร
• Central ลาดพร้าว 10.8 กิโลเมตร

 

เจาะลึกตัวโครงการ

โมเดลของโครงการ Modiz Station คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 246 ยูนิต ตัวอาคารเป็นรูปตัว I หันหน้าโครงการออกถนนพหลโยธินขาออก ตัวอาคารใช้โทนสีขาว-เทาตกแต่ง จากทางเข้าโครงการเป็นป้อมยาม สวนหน้าโครงการ ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถที่ใต้อาคารและรอบอาคาร ส่วนการขึ้นอาคารจะใช้ลิฟท์และบันได โดย Lobby จะอยู่ที่ชั้น 2 มีบันไดขึ้นตรงไปถึง โดย Lobby จะเป็นแบบ Double Volume คือกินพื้นที่ชั้น 2 เต็มชั้นและมีที่ชั้น 3 อีกครึ่งหนึ่ง ห้องพักจะเริ่มที่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 โดยมีชั้น 4-7 เป็นชั้น Typical floorplan แต่ที่ชั้น 8 จะแบ่งส่วนหน้าของโครงการเป็นพื้นที่ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ จากชั้น 8 สามารถเดินบันไดขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าที่เป็นพื้นที่ Facility กลางแจ้งอย่างพื้นที่ออกกำลังกายอย่างโยคะ พื้นที่ทำงาน พื้นที่สังสรรค์ต่างๆ

ทางเข้า-ออกโครงการจากถนนพหลโยธินขาออก โดยต่อไปจะมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อขยายวิ่งผ่าน โดยปัจจุบันอยู่ในช่วงการก่อสร้างนะคะ

จากหน้าโครงการจะมีป้ายโครงการ ป้อมพี่ยามอยู่ทางขวามือของทางเข้า หลังป้อมก็จะเป็นพื้นที่สีเขียวก่อนจะถึงตัวอาคาร โดยสามารถขึ้นบันไดไปยัง Lobby ชั้น2 ได้เลย ส่วนคนที่ขับรถมาก็สามารถตรงเข้าไปจอดรถที่ชั้น 1 ทั้งใต้อาคารและรอบอาคาร

มาดูมุมด้านข้างของโครงการกันบ้าง แปลงที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฝั่งที่ติดถนนพหลโยธินจะแคบกว่าทำให้รูปร่างอาคารเมื่อสร้างแบบเต็มพื้นที่ จึงมีลักษณะยาวเป็นตัว I แบบนี้ ชั้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดคือชั้น 3 – 7 ที่มีจำนวน 37 ยูนิต โดยการตกแต่งอาคารภายนอกที่เห็นเป็นส่วนสีขาวหน้าโครงการกับสีทึบหน่อยตรงกลางและด้านหลังเป็นอาคารเดียวกันนะคะ

ส่วนหน้าโครงการชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถทั่วไป เดินบันไดขึ้นมาที่ชั้น2 จะเจอกับ Lobby ที่เป็นแบบ Double volume กินพื้นที่ชั้น 3 ไปด้วย ส่วนชั้น 4-7 จะเป็นห้องพัก ส่วนชั้น 8 จะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำกลางแจ้งค่ะ โดยจะสังเกตว่าที่ส่วนหน้าอาคารห้องพักจะไม่มีระเบียงแต่จะเป็น Fin อาคารออกมาเพื่อบังแดดด้านข้างให้กับช่องแสงภายในห้องพัก

ภายนอกของอาคารส่วนตรงกลางและท้ายอาคารเป็นห้องพักทั้งหมดตั้งแต่ชั้น 2-8 โดยจะมีระเบียงของห้องพักตามปกติ

ขึ้นมาด้านบนที่ชั้น 8 สามารถขึ้นลิฟท์แล้วออกมาที่สระว่ายน้ำส่วนหน้าโครงการได้เลย โดยสระว่ายน้ำเป็นแบบกลางแจ้ง ระบบเกลือ มีขนาด 4.3 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก โดยมีพื้นที่ข้างสระอยู่ฝั่งใกล้กับลิฟท์

ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารที่จะต้องเดินบันไดขึ้นมาจากชั้น 8 อีกที เป็นพื้นที่เปิดโล่งตกแต่งพื้นที่ให้มีประโยชน์ใช้สอยแบบตามใจฉัน คือทางโครงการวางรูปแบบการใช้งานคร่าวๆไว้ แต่ก็ไม่ได้ Fix ว่าจะต้องทำกิจกรรมนี้ที่พื้นที่นี้เท่านั้น โดยส่วนที่ออกแบบมาให้ เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่โยคะ พื้นที่ BBQ พื้นที่ทำงานด้านหลัง และเก้าอี้สำหรับการนั่งเล่น

โดยแต่ละจุดก็จะมีการตั้งโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้แบบต่างๆไว้ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่

ที่ท้ายโครงการส่วนชั้น 1 ก็จะเป็นพื้นที่สีเขียวตามปกติ ส่วนอาคารจะเป็นห้องพักสองฝั่ง ตรงกลางเป็นช่องแสงของทางเดินตรงกลางระหว่างห้องพัก

ด้านข้างของโครงการฝั่งทิศเหนือ

เร่ิมกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ Modiz Station เข้าได้จากถนนพหลโยธินฝั่งขาออกระหว่างซอย 57 และ 59 พื้นที่โครงการเป็นรูปตัว I รูปทรงอาคารสร้างตามรูปร่างแปลงที่ดินเช่นกันคือรูปตัว I มีแคบลงหน่อยที่ส่วนหน้า ตัวคอนโดสูง 8 ชั้น จากหน้าโครงการจะมีพื้นที่สีเขียว ป้อมพี่ยาม ขับรถเข้ามาจอดได้ที่ชั้น 1 ส่วนใต้อาคารและรอบอาคารโดยมีที่จอดรถรวมซ้อนคันประมาณ 41% ที่ดินติดกับสถานีรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 ทำให้อาจจะมีบางส่วนของผู้พักอาศัยที่ไม่ขับรถบ้าง ที่ส่วนหน้าอาคารจะมีบันไดเดินขึ้นไปที่ Lobby ที่เป็นแบบ Double Ceiling Height ของชั้น 2-3 ชั้น 2 ก็จะมีห้องนิติบุคคลและห้องซักผ้าให้ และที่ชั้น 2-8 จะเป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัย โดยการขึ้น-ลงอาคารจะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ของทั้งโครงการอยู่ที่ 124:1 ทั้งอาคารจะมีบันไดหนีไฟทั้งหมด 2 จุด ตามกฎหมาย

ที่ชั้น 3 ส่วนหน้าอาคารจะมีส่วน Lobby ที่เป็นพื้นที่โล่งส่วน Double Volume และส่วนที่เป็นพื้นที่ใช้งานโดยมีบันไดวนจาก Lobby ชั้น 2 ขึ้นไปได้โดยตรง ส่วนตรงกลางและด้านหลังจะเป็นห้องพักทั้งหมด 34 ยูนิต

ส่วนที่ชั้น 4 จะเป็นชั้น Typical Floorplan เหมือนกับชั้น 5-6-7  โดยการจัดวางห้องพักจะเป็นแบบ Double Corridor หรือมีห้องพักที่ฝั่งตรงข้าม โดยมีห้องพักทั้งหมด 37 ยูนิต แบ่งออกเป็นห้องพักฝั่งเหนือและฝั่งใต้ โดยฝั่งเหนือจะเป็นห้องพักที่ได้แสงธรรมชาติและแสงแรงน้อยกว่าทิศใต้ และปัจจุบันยังไม่มีทิศไหนที่โดนบังในระยะประชิดนะคะ ส่วนหน้าของอาคารน่าจะได้ยินเสียงรถไฟฟ้าวิ่งบ้าง แต่จะได้วิวเปิดโล่งมากกว่า

ชั้น 8 เป็นชั้นที่มีห้องพักที่ส่วนกลางของอาคารและท้ายอาคาร ส่วนหน้าจะเป็นห้องฟิตเนสที่อยู่ตรงข้ามกับลิฟท์โดยสาร จากลิฟท์ก็สามารถเดินไปสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 4.3 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร โดยวิวที่ได้จะเป็นถนนพหลโยธินและน่าจะมีส่วนของรางรถไฟฟ้าที่ต่ำกว่าระดับสระว่ายน้ำหน่อย

ชั้นดาดฟ้าเป็นชั้นที่สามารถเดินบันไดขึ้นมาได้จากชั้น 8 โดยเป็นพื้นที่ของ Facilities แบบเปิดโล่งโดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สีเขียวของสนามหญ้าและไม้พุ่ม โดยแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นส่วนต่างๆ ได้แก่ bbq terrace, yoga deck, exercise area, co-working space และ พื้นที่นั่งเล่น ส่วนด้านหลังสุดของอาคารจะเป็นส่วนของงานระบบนะคะ

Sales office ของโครงการอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามกับที่ดินโครงการหรือบนถนนพหลโยธินขาเข้าเมือง โดยอยู่ติดกับ Tesco lotus โดยเปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้วตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ

ใครที่ขับรถมาก็สามารถนำรถเลี้ยวเข้ามาจอดภายในบริเวณได้เลย

ทางขวามือจะเป็นอาคาร Sales office โดยทางเข้าจะอยู่ด้านหน้า

ประตูหลักทางเข้าอาคาร ทำซะสวย เลยต้องพาชมกันหน่อย

ภายในจะมีส่วนเคาท์เตอร์ของพี่เซลล์ ด้านหน้ามีโมเดลของอาคารให้ชมกัน รวมถึงด้านในมีห้องตัวอย่างให้ชมกันถึง 3 ห้อง โดยเป็นแบบ 1 ห้องนอนทั้งหมดค่ะ

ส่วนฝั่งขวามือก็จะมีชุดโต๊ะและเก้าอี้ต่างๆสำหรับผู้ที่สนใจ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1 – ที่จอดรถใต้อาคารและกลางแจ้งรวมจอดซ้อนคันประมาณ 41%
• ชั้น 1 – สวนหน้าโครงการ
• ชั้น 2  – Double Volume Lobby
• ชั้น 8 – สระว่ายน้ำกลางแจ้ง 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4.3 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก
• ชั้น 8 – ห้องออกกำลังกาย
• ชั้นดาดฟ้า – Skylight Chill-out Area, Co-working Space, Exercise Area, Yoga Deck และ BBQ Terrace
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 123 :  1
• ระบบ CCTV / Access Card

 

Product Walkthrough

เริ่มจากห้องตัวอย่างของโครงการห้องแรกกันนะคะ คือแบบ 1 Bedroom Extra ขนาด 26.2 ตารางเมตร โดยเป็นขนาดกลางของแบบห้อง 1 ห้องนอนนะคะ แบบห้องเป็นรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ โดยมีพื้นที่ Living อยู่ที่ส่วนหน้า และมีห้องนอนอยู่ส่วนหลัง ขนาดใกล้เคียงกัน เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอพื้นที่ครัวอยู่ทางขวามือเป็นเคาท์เตอร์ล่างและบน ทางซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ตรงเข้าเป็นพื้นที่นั่งเล่นทางซ้ายมือที่มีชุดโซฟา ข้างโซฟาจะมี Bluetooth sound system ที่เปิด-ปิดลำโพง 2 จุดคือห้องนั่งเล่นและห้องนอน ส่วตรงข้ามเป็นโต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ 2 ตัว ห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ภายในห้องนอนวางเตียง 5 ฟุต ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in พร้อมระบบทีวี ข้างๆเตียงเป็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานและประตูบานเลื่อนออกระเบียง

เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูเป็นบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มาพร้อมที่เปิดประตูแบบคันโยกซึ่งตัวชิ้นแยกออกจาก Digital Doorlock ที่ให้มาจาก Samsung แอบสังเกตว่าไม่มีตาแมว

Digital Doorlock จาก Samsung เป็นรุ่นที่สามารถเปิดได้ด้วย Keycard แตะบัตรและแบบกดพาสเวิด โดยจากด้านในสามารถบิดเปิดล็อกได้เลย

พื้นห้องเป็นพื้นสมาร์ทไวนิล โดยมีธรณีกั้นระหว่างทางเดินหน้าห้องและขอบเขตห้องพัก เพื่อที่ฝุ่นหรือน้ำจะไม่เข้ามาภายใน ด้านหลังของประตูทางเข้าห้องชุดมี Door Stop ให้ด้วย เรียบร้อยดีนะคะ เพราะไม่งั้นเปิดไปตรงๆจะไปชนเฟอร์นิเจอร์ด้านใน

ส่วนแรกจากทางเข้าทางขวามือหลังประตูทางเข้าคือเคาท์เตอร์ครัว ข้างๆเคาท์เตอร์ครัวคือที่วางตู้เย็นและโต๊ะพร้อมเก้าอี้ทานข้าว ส่วนทางซ้ายมือคือทางเข้าห้องน้ำ ด้านหลังห้องน้ำคือพื้นที่นั่งเล่นวางโซฟาและชั้นวางทีวี ด้านในคือห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนและในสุดคือพื้นที่วางโต๊ะทำงานอันออกนอกหน้าต่างและระเบียง

รายการการขายที่ในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลจะเป็นไปแบบ Fully Furnished คือให้ชุดเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่เห็นภายในห้องตัวอย่าง แต่ก็จะมีบางชิ้นเล็กๆน้อยๆที่เป็นชิ้นตกแต่ง เดี๋ยวก็จะบอกเป็นชิ้นๆไปนะคะ พร้อมทั้งยังมีแอร์และ Bluetooth Sound system ตามโปรโมชั่นการขาย แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างทีวี ตู้เย็น หรือไมโครเวฟนะคะ

เข้ามาภายในห้อง หันกลับไปทางประตูทางเข้าห้อง ซ้ายมือจะเป็นส่วนครัว ส่วนขวามือเป็นทางเข้าห้องน้ำ

จากประตูที่อยู่ทางขวามือ ที่ติดกันเลยคือตู้รองเท้าหรือตู้เก็บของแบบเปิดได้ ด้านในมีการแบ่งช่องวางของให้เรียบร้อย ตรงกลางเป็นเคาท์เตอร์ครัวล่างและบน โดยด้านล่างจะมีอ่างล้างจานและ Hobs and hood จาก Mex แบบ 2 หัว ด้านล่างเป็นลิ้นชักและตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน พร้อมกับจุดวางไมโครเวฟ ด้านบนเป็นบานปิดไว้เก็บของในครัว

เคาท์เตอร์ลึก 60 เซนติเมตร ทางขวามือคืออ่างล้างจานแบบ 1 หลุม ติดกันคือ Hobs and hood จาก Mex ไม่มีที่เตรียมอาหารเท่าไร ข้างๆมีปลั๊กแต่ไม่มีที่ครอบกันน้ำ ด้านบนสามารถแขวนอุปกรณ์เครื่องครัวได้ตามใจชอบ

ซ้ายมือของเคาท์เตอร์คือที่วางตู้เย็น

ต่อไปจะไปดูห้องน้ำที่อยู่ทางขวามือ บานประตูที่ห้องตัวอย่างไม่ได้ใส่เข้ามาด้วยเป็นแบบบาน UPVC แบบเปิดเข้าไปทางขวา

พื้นปูด้วยกระเบื้องลายไม้แบบด้านขนาด 30 x 60 เซนติเมตร และลดระดับพื้นที่ห้องน้ำลงนิดเดียว มีวัสดุปิดผิวลามิเนตให้นิดหน่อย การจบงานระหว่างวัสดุในห้องตัวอย่างไม่น่ารักเท่าไร

ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์สีขาวสะอาดจาก American Standard แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกแบบยืนอาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นแบบ 3 ตอน ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีน้ำตาลอ่อนขนาด 30 x 60 เซนติเมตร

เร่ิมกันจากอ่างล้างหน้าเดี่ยวๆ มีตู้ด้านล่างมาให้แต่เป็นแบบไม่มีหน้าบานปิด เวลาย้ายเข้าอยู่จริงนอกจะวางของอ่างล้างหน้าได้แล้วก็ยังสามารถวางในตู้ด้านล่างด้วย

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard พร้อมสายฉีดชำระ และที่ใส่ม้วนทิชชู

กระจกบานใหญ่ติดที่ผนัง

ส่วนในสุดเป็นพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำ มีฉากกั้นอาบน้ำสูง 2 เมตรเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอนติดตั้งให้เรียบร้อย แต่ก็จะมีช่องว่างด้านบนเหลือ ความสูงพื้นถึงฝ้าของห้องน้ำจะเหลือ 2.3 เมตร จากความสูงปกติที่ห้องด้านนอก 2.4 เมตร

พื้นที่เปียกขนาด 0.7 x 1 เมตร ปูกระเบื้องแบบเดียวกับพื้นที่แห้งในห้องน้ำ คือกระเบื้องแบบด้านลายไม้ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร ไม่ลดระดับลงไป แต่ก็จะมีตัวคั่นเป็นความสูงของกรอบฉากกั้นก็ประมาณ 3 เซนติเมตร

กั้นพื้นที่แห้งและเปียกด้วยความสูงของกรอบบานเลื่อน

ส่วนผนังมีการก่อปูนเว้นพื้นที่ไว้สำหรับการวางขวดแชมพูและสบู่ โดยระหว่างผนังปูนและที่กั้นอาบน้ำจะมีช่องที่เป็นพื้นที่ว่างประมาณ 3 เซนติเมตร

ฝักบัวจาก American Standard เป็นแบบหัวก๊อกหัวเดียว ไม่มีเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ มาพร้อมกับที่วางสบู่ 1 จุด

ดูหัวฝักบัวกันชัดๆ ขนาดกำลังดี เหมาะมือ แบนๆ

ออกมาจากห้องน้ำ มาต่อกันที่ห้องนั่งเล่น ข้างๆกันกับพื้นที่วางตู้เย็นคือโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ด้านบนเหนือขึ้นไปเป็นตำแหน่งแอร์ของห้องนั่งเล่น ส่วนผนังในห้องที่ได้จริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวปกติ

ชุดโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัวจะไม่ใช่สเปกที่เห็นในห้องตัวอย่างนะคะ แต่จะเป็นแบบที่ทึบกว่านี้หน่อย

ต่อมาที่ฝั่งตรงข้ามคือมุมห้องนั่งเล่น ประกอบด้วยโซฟาตัวยาว 1.8 เมตร ตรงกลางเป็นโต๊ะกลาง ฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวี โดยจะไม่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้นะคะ ที่ผนังฉาบเรียบทาสีขาวข้างๆกับโซฟาจะมีจุดควบคุม Bluetooth Sound System มาให้สำหรับจุดลำโพงห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ชั้นวางทีวีมีบานปิด 3 บาน โดยสามารถเปิดเก็บของได้

Bluetooth Sound System และตำแหน่งลำโพง 2 จุดที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้านใน

ภาพรวมของห้องนั่งเล่นและพื้นที่ครัวด้านหน้า

ต่อมาเราจะมาดูครึ่งหลังที่เป็นห้องนอนกัน โดยจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนแบบเต็มความสูงที่ 2.4 เมตร กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำ กรอบเป็นกระจกใสเลื่อนเปิดไปทางซ้ายที่เป็นบาน Fixed

ห้องนอนก็ยังเป็นปูด้วยวัสดุเดียวกับห้องนั่งเล่นคือสมาร์ทไวนิล

ภายในห้องนอนประกอบไปด้วยเตียง 5 ฟุต ทางซ้ายมือ ผนังฝั่งตรงข้ามเป็นงานระบบของทีวีและตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่ซ่อนอยู่เนียนๆ ส่วนด้านในเป็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานและระเบียงแบบ 3 ตอนที่วัดขนาดเครื่องซักผ้าว่าผ่านแน่ๆมาแล้ว โดยมีตำแหน่งแอร์อยู่ที่เหนือประตูระเบียงเป่าส่วนขาพอดีเวลานอน ผนังของห้องนอนก็จะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวเช่นกันนะคะ

ข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 30 เซนติเมตร สามารถลุกนั่งได้สบายๆ

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ 80 เซนติเมตร เดินผ่านได้สบายๆเช่นกัน

ส่วนผนังปลายเตียงนอกจากจะมีงานระบบทีวีติดผนังไว้เหมือนห้องนอนปกติแล้ว ยังเป็นบานตู้เสื้อผ้าที่เปิดออกมาจะเจอช่องเก็บของต่างๆทั้งในส่วนราวเสื้อผ้าที่ไว้แขวน ด้านบนเป็นพื้นที่เก็บเครื่องนอนได้ โดยทางโครงการออกแบบมาให้เป็น His and hers คือบางช่องเหมาะกับการใช้งานของผู้หญิง บางช่องเหมาะกับการใช้งานของผู้ชาย

ข้างเตียงฝั่งขวามือหรือด้านในมีพื้นที่เหลือ 50 เซนติเมตร

โดยฝั่งข้างเตียงด้านในจะเป็นพื้นที่ของการวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยชุดโต๊ะทำงานที่เห็นจะไม่อยู่ในรายการขายนะคะ ส่วนช่องแสงจะมีทั้งแบบบาน Fixed ที่เป็น Bay window ซึ่งทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นมากและทำให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้มากขึ้นด้วย ส่วนทางซ้ายมือเป็นบานกระทุ้งบานใหญ่หน่อย ส่วนทางขวามือเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่ระเบียง

วิวมุมโต๊ะทำงานภายในห้องนอน

ประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนที่จะออกไปยังระเบียงมีกรอบเป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำ ลูกฟักคือกระจกสีเขียวตัดแสง พอเลื่อนเปิดจนสุดแล้วจะสามารถนำเครื่องซักผ้าออกไปไว้ที่นอกระเบียงได้

ระหว่างห้องนอนและระเบียงจะมีธรณียกสูงขึ้นมารวมกับความสูงของกรอบประตูอยู่ที่ราวๆ 6 เซนติเมตร ซึ่งสูงพอสมควรที่จะทำให้น้ำไม่เจิ่งนองเข้ามาภายในห้อง

ระเบียงขนาด 0.9 x 2 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแบบด้านสีเทากลางขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

ระเบียงมีราวจับกันตกและส่วนที่บัง Condensing unit ที่ติดตั้งไว้ที่ส่วนระเบียง

Condensing Unit ทั้งสองตัวเป็นของห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยมีช่องแขวนแบบหันหน้าเป่าลมออกนอกระเบียงพร้อม Grill บังคับทิศทางให้

นอกจากนั้นที่ระเบียงก็มีก๊อกน้ำพร้อมกับไฟส่องสว่างที่บนเพดานอีกด้วย

ห้องตัวอย่างห้องที่สองเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 30.27 – 36.7 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องเอนกประสงค์ รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบเหมือนเดิม เมื่อเข้าสู่ตัวห้องจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อน คือมีชุดโซฟาและโต๊ะกลางอยู่ที่ด้านหนึ่ง ขวามือเป็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนอีกด้านจะเป็นชั้นวางทีวีแบบชิดผนัง กั้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ภายในห้องนอนมีเตียง ฝั่งตรงข้ามเป็น Walk-in closet ด้านในเป็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานและระเบียงเหมือนเดิม ระหว่างในห้องนั่งเล่นข้างๆกับห้องน้ำจะมีประตูบานเลื่อนอีกจุดหนึ่งเพื่อเข้าห้องครัว โดยมีเคาท์เตอร์และโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ ด้านในจะมีประตูเข้าห้องเอนกประสงค์ที่ห้องตัวอย่างจะจัดเป็นห้องนอนเล็กวางเตียง 3 ฟุตครึ่ง และมีห้องต่างบาน Fixed แบบ Bay window

เริ่มจากทางเข้าห้องนะคะ ประตูเป็นบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มาพร้อมที่เปิดประตูแบบคันโยกซึ่งตัวชิ้นแยกออกจาก Digital Doorlock ที่ให้มาจาก Samsung ไม่มีตาแมว

เปิดเข้ามาในส่วนแรก เหมือนกับแบบห้องที่แล้วเลยนะคะ ส่วนแรกจากทางเข้าทางขวามือหลังประตูทางเข้าคือทางเข้าห้องน้ำ และทางเข้าห้องครัวซึ่งจะเข้าไปยังห้องเล็กอีกที ส่วตรงหน้าคือห้องนั่งเล่นกั้นด้วยประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ก่อนจะเข้าห้องนอนและระเบียงด้านในสุด

เฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆที่ได้ในห้องแต่ละแบบตามรายการขายแบบ Fully furnished ก็จะไม่แตกต่างกัน อย่างในห้องนั่งเล่นก็จะมีโซฟาตัวยาว 1.8 เมตร นั่งได้ 2 คนสบายๆวางอยู่หน้าประตูบานเลื่อนก่อนเข้าห้องนอน

ห้องตัวอย่างเอาแบบที่เป็นห้องมุมมาให้ดู ทำให้ด้านข้างเป็นช่องแสงขนาดใหญ่มีทั้งแบบบาน Fixed และแบบบานกระทุ้ง โดยข้างๆโซฟาก็จะมีเครื่องบังคับ Bluetooth Sound System มาให้พร้อมลำโพงติดฝ้า ซึ่งจะอยู่ในรายการขายจ่ายเงินจองพร้อมค่าทำสัญญานะคะ

ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาคือชั้นวางทีวี สเปกแบบมีบานปิดเหมือนกับห้องที่แล้ว โดยด้านบนเป็นตำแหน่งแอร์ที่อยู่ในโปรโมชั่นเช่นเดียวกัน ผนังที่ได้จะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวที่ต่างจากห้องตัวอย่างไปซักหน่อย

ผนังฝั่งขวามือจากประตูหลักของห้องพัก จะเป็นทางเข้าห้องน้ำ และข้างๆกันเป็นประตูบานเลื่อนเข้าห้องครัว ที่ภายในห้องครัวจะมีประตูเข้าห้องเอนกประสงค์เล็กอีกทีหนึ่ง

ภายในห้องน้ำ สุขภัณฑ์สีขาวสะอาดจาก American Standard แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกแบบยืนอาบน้ำ กั้นด้วยฉากกั้นแบบ 3 ตอน ผนังกรุด้วยกระเบื้องลายสีน้ำตาลอ่อนขนาด 30 x 60 เซนติเมตร  ความสูงฝ้าที่ 2.3 เมตร ระดับเตี้ยลงมาหน่อยจากห้องด้านนอกที่ 2.4 เมตร

ต่อมาเราจะมาดูครึ่งหลังที่เป็นห้องนอนกัน โดยจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนแบบเต็มความสูงที่ 2.4 เมตร กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำ กรอบเป็นกระจกใสเลื่อนเปิดไปทางซ้ายที่เป็นบาน Fixed

ภายในห้องนอนประกอบไปด้วยเตียง 5 ฟุต ทางซ้ายมือ ผนังฝั่งตรงข้ามเป็นงานระบบของทีวีและตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ที่ซ่อนอยู่เนียนๆ ส่วนด้านในเป็นพื้นที่วางโต๊ะทำงานและระเบียงแบบ 3 ตอนที่วัดขนาดเครื่องซักผ้าว่าผ่านแน่ๆมาแล้ว โดยมีตำแหน่งแอร์อยู่ที่เหนือประตูระเบียงเป่าส่วนขาพอดีเวลานอน ผนังของห้องนอนก็จะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวเช่นกันนะคะ

ข้างเตียงฝั่งซ้ายเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 60 เซนติเมตร สามารถลุกนั่งได้สบายๆ

ปลายเตียงเหลือพื้นที่ 1 เมตร เดินผ่านได้สบายๆเช่นกัน

ส่วนผนังปลายเตียงนอกจากจะมีงานระบบทีวีติดผนังไว้เหมือนห้องนอนปกติแล้ว ยังเป็นบานตู้เสื้อผ้าที่เปิดออกมาจะเจอช่องเก็บของต่างๆทั้งในส่วนราวเสื้อผ้าที่ไว้แขวน ด้านบนเป็นพื้นที่เก็บเครื่องนอนได้ โดยทางโครงการออกแบบมาให้เป็น His and hers

ข้างเตียงฝั่งขวามือเว้นระยะไว้เข้าพื้นที่โต๊ะทำงานได้

ฝั่งข้างเตียงด้านในจะเป็นพื้นที่ของการวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ โดยชุดโต๊ะทำงานที่เห็นจะไม่อยู่ในรายการขายนะคะ ส่วนช่องแสงจะมีทั้งแบบบาน Fixed ที่เป็น Bay window ซึ่งทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นมากและทำให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้มากขึ้นด้วย ส่วนทางซ้ายมือเป็นบานกระทุ้งบานใหญ่หน่อย ส่วนทางขวามือเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่ระเบียง

เลื่อนประตูเปิดแบบ 3 ตอนออกมาจะเจอกับระเบียงขนาด 0.9 x 2 เมตร ปูด้วยกระเบื้องแบบด้านสีเทากลางขนาด 30 x 30 เซนติเมตร พร้อมราวกันตกและที่บัง Condensing unit

Condensing Unit ทั้งสองตัวเป็นของห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยมีช่องแขวนแบบหันหน้าเป่าลมออกนอกระเบียงพร้อม Grill บังคับทิศทางให้ โดยเมื่อมองผ่านไปจะสังเกตว่าจะเจอกับ Bay window ของห้องเอนกประสงค์เล็กที่ติดกับห้องครัว

ภาพรวมห้องนั่งเล่นและห้องนอน

จากห้องนั่งเล่น มองไปทางขวามือจะเจอกับประตูบานเลื่อนอีกจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัว ซึ่งภายในห้องครัวจะมีทั้งพื้นที่ทานข้าวพร้อมเก้าอี้ เคาท์เตอร์ครัว ที่วางตู้เย็น ที่วางเครื่องซักผ้า ไปจนถึงเป็นทางไปยังห้องเอนกประสงค์เล็กด้านใน

พื้นไม่ได้ลดระดับแต่เป็นการวางกรอบประตูไว้บนพื้นเลย โดยห้องครัวก็ยังเป็นปูด้วยวัสดุเดียวกับห้องนั่งเล่นคือสมาร์ทไวนิล

ผนังด้านในจะเป็นที่วางตู้เย็น เคาท์เตอร์ครัวล่างและบน คราวนี้ขยายขนาดเพราะมากับพื้นที่เตรียมอาคารซ้ายสุด ส่วนโต๊ะทานข้าวจะเข้ามุมอยู่ทางซ้าย ปลายทางเดินห้องครัวจะเป็นทางเข้าห้องเอนกประสงค์เล็ก

โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ ในห้องตัวอย่างจะทำมาแบบเข้ามุมนะคะ ซึ่งเราอาจจะยกออกไปทานข้าวที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ โดยเก้าอี้ที่ให้มาจะมีทั้งหมด 2 ตัวเข้าชุดกัน

ตำแหน่งวางตู้เย็นอยู่ทางขวาสุด

นอกนั้นเป็นพื้นที่ของเคาท์เตอร์ครัว ข้างๆกับตู้เย็นเป็นอ่างล้างจาน ตรงกลางเป็น  Hobs and Hood ส่วนซ้ายสุดคือพื้นที่เตรียมอาหาร ด้านล่างเป็นบานเปิดของพื้นที่วางของใต้อ่างล้างจาน ลิ้นชัก ที่วางไมโครเวฟและเครื่องซักผ้า ส่วนด้านบนเป็นชั้นวางของและตู้เก็บข้าวของพร้อมบานปิด

เวลาเปิดตู้ใต้เคาท์เตอร์ก็จะบังทางเดินเข้า-ออกห้องเอนกประสงค์เล็กนิดหน่อยนะคะ

โดยประตูห้องเอนกประสงค์เล็กเป็นบานไม้ปิดผิวลามิเนตแต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ใส่มาให้ดู พื้นปูต่อเนื่องจากห้องครัวเป็นสมาร์ทไวนิล

ภายในห้องนอนจะมีเตียง 3 ฟุตครึ่งวางอยู่มุมด้านใน และจะมีตู้เสื้อผ้าอยู่ที่ปลายเตียงทางขวามือ แทนส่วนโต๊ะและเก้าอี้แบบไม่มีผนัง ในส่วนของที่แขวนผ้าเหนือเตียงตรงนั้นจะไม่มีนะคะ พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 40 เซนติเมตรพอเดินได้

ความจริงแล้วก็สามารถปรับห้องนี้เป็นห้องทำงาน ห้องงานอดิเรก หรือห้องเก็บของ เก็บชั้นวางหนังสือแทนที่จะเป็นห้องนอนเล็กก็ได้นะคะ

ตำแหน่งปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าแทนที

แม้แต่ห้องเอนกประสงค์เล็กก็มี Bay window แต่ต่อกับระเบียงนิดหน่อยพออนุโลม

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 11 August 2016

• 1 Bedroom 23.27 – 23.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.89 – 2.49 ล้านบาท
• 1 Bedroom Extra 26.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.09 – 2.69 ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus 30.27 – 36.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 – 3.49 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 48.12 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.09-4.39 ล้านบาท

• Fully Furnished 
• ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• จอง 10,000 – 20,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 – 50,000 บาท 7 วันหลังจากวันจอง
• ถ้าจองพร้อมทำสัญญา มีโปรโมชั่นแอร์และ Bluetooth Sound System ภายในห้องพัก
• ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 15 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Modiz Station อยู่ในทำเลระหว่างย่านสะพานใหม่และแถบอนุสาวรีย์หลักสี่ที่เป็นเขตทหารซะส่วนใหญ่ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเพื่อรองรับการขยายตัวของระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งที่ดินอยู่ใกล้กับสถานีพหลโยธิน 59 บนถนนพหลโยธิน ซึ่งสายสีเขียวนี้เป็นเส้นทางที่ต่อเนื่องจากสถานี Interchange หมอชิต ภายในพื้นที่ชานเมืองฝั่งเหนือของกรุงเทพส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ที่อยู่บนสองข้างทางของถนนใหญ่พหลโยธิน ตัวโครงการอยู่ริมถนนใหญ่พหลโยธินระหว่างซอยพหลโยธิน 57 และ 59 ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในคอนโดที่เปิดตัวภายในบริเวณย่านนี้ บริเวณใกล้เคียงภายใน 5 กิโลเมตรก็จะมีสิ่งปลูกสร้างประเภทเกื้อกูลการอยู่อาศัยภายในชีวิตประจำวันอย่างโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล, Tesco Lotus, BigC Supercenter, ตลาดยิ่งเจริญ วัดและโรงเรียนต่างๆ รวมถึงเป็นพื้นที่ของสถานที่ราชการอย่างทหาร ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนทหาร หอประชุม และสโมสร ซึ่งปกติแล้วความเจริญจะมาตามระบบขนส่งซึ่งในอนาคตน่าจะมีเพิ่มอีกหลายแห่ง ทำให้มีความคึกคักและปริมาณรถตรงเส้นพหลโยธินเยอะขึ้นไปอีก

การเดินทางโดยใช้รถ โครงการตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้า-ออกได้จากถนนพหลโยธินที่มีปริมาณรถสัญจรไปมาตลอดวัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนเข้าทำงานและช่วงเย็น ข้อดีคือติดถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอยใดๆเพื่อจะเข้าสู่ตัวโครงการ และถนนพหลโยธินเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมต่อได้จากถนนหลักหลายๆสาย ไม่ว่าจะเป็นทางที่ขนานกันมาอย่างถนนวิภาวดีรังสิตที่มีสะพานกลับรถและทางขึ้น-ลงทางด่วนโทลล์เวย์ และนอกจากนั้นยังมีเส้นรามอินทราจากทางทิศใต้ และเส้นสายไหมจากทางทิศเหนือ นอกจากนั้นยังมีถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-รัตรโกสินทร์สมโภชที่ตัดจากถนนพหลโยธินไปยังแถววัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่กำลังจะเปิดใช้งานเร็วๆนี้ ในช่วงเวลาปกติที่ไม่ใช่ช่วงเช้าเย็นก็ยังติดนะคะ แม้จะไม่ใช่เวลาเข้า-เลิกงานก็ตามที

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ปัจจุบันที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวที่กำลังก่อสร้าง มีขนส่งสาธารณะประเภทอื่นๆให้ใช้งานอย่างรถเมล์ที่มีตลอดถนนพหลโยธินทั้งขาเข้าและขาออก มีสะพานลอยข้ามไม่เกิน 400 เมตรจากโครงการ นอกจากนั้นตัวถนนใหญ่เองก็สามารถเรียกแท๊กซี่, รถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งไปเข้าเมืองไปอนุสาวรีย์ หมอชิต หรือจะขึ้นเหนือไปรังสิต ปทุมธานี และภายในอีก 5 ปี เราคงจะได้ฤกษ์ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ที่ดินโครงการใกล้กับสถานีพหลโยธิน 59 ซึ่งมีสถานี Interchange กับสายสีชมพูอยู่ที่สถานีวัดพระศรีฯ ซึ่งเป็นสถานีถัดไป สามารถเดินทางไปตามถนนรามอินทราทางตะวันออก หรือจะเข้านนทบุรีช่วงศูนย์ราชการไปทางตะวันตก

วัสดุของโครงการตามราคาและรายการโปรโมชั่นวันที่เข้าไปรีวิว มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบชุดตามรูปแบบการขายอย่าง Fully Furnished แอร์และ Bluetooth Sound System นั้นเป็นส่วนของโปรโมชั่นจองพร้อมทำสัญญา ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องครัวในบางแบบเป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลอ่อนหนา 8 มิลลิเมตร ห้องน้ำและระเบียงด้านนอกเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 60 เซนติเมตร และ 30 x 30 เซนติเมตรตามลำดับ ฝ้าสูง 2.4 เมตรแต่ในห้องน้ำจะลดลงมาหน่อย ผนังเป็นฉาบปูนเรียบ ไม่มี Wallpaper ห้องครัวเคาท์เตอร์ครบพร้อม Hob and Hood จาก Mex บาง Type ไม่ได้กั้นห้องแยกออกมาเป็นสัดส่วนทำให้ไม่เหมาะกับการประกอบอาหารอย่างจริงจังอุปกรณ์ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ American Standard มี Digital Doorlock จาก Samsung ให้พร้อม ในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเตียงพร้อมระบบทีวีซึ่งใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดี โดยรวมถือว่าให้มาครบแบบออกแบบให้พอดีกับห้อง

ออกแบบตัวอาคารเป็นรูปตัว I ยาวๆ สร้างอาคารเต็มพื้นที่แปลงที่ดินที่หน้าหันออกไปทางถนนพหลโยธินค่อนข้างแคบ ทั้งอาคารมี 246 ยูนิต จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นที่ Typical floorplan ชั้น 3-7 คือ 37 ยูนิต มีโถงลิฟท์โถงเดียวที่ส่วนค่อนมาด้านหน้าโครงการ ประกอบไปด้วยลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ไม่มี Service Lift  มีบันไดหนีไฟ 2 จุด มีทางเดินตรงกลางยาวเข้าห้องพัก ถ้าดูจากภาพด้านข้างของโมเดลโครงการ ถือว่าแน่นพอสมควร

การวางผังห้องภายในชั้นๆหนึ่งเป็นแบบ Double Corridor มีห้องทั้งหมด 4 แบบ ขนาดห้องตั้งแต่ 23.27 – 48.12 ตารางเมตร เน้นไปที่ห้องขนาด 1 ห้องนอนทั้งแบบธรรมดา แบบ plus และแบบ Extra ห้องแต่ละแบบก็เลือกได้ตามความต้องการขึ้นกับจำนวนคนและรูปแบบการอยู่อาศัย เพราะห้องบาง Type จะแยกห้องครัวออกเป็นสัดส่วนมีประตูบานเลื่อนกันเหมาะสำหรับการทำอาหาร บางห้องจะมีพื้นที่ครัวอยู่รวมกับห้องรับแขกพื้นที่เดียว ที่ห้องนอนจะมีส่วน Bay window ซึ่งทำให้นอกจากห้องจะดูกว้างแล้วยังทำให้แสงธรรมชาติเข้าตัวห้องได้ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนพื้นที่รอบข้างตอนนี้ยังไม่มีอาคารในระยะประชิด เป็นบ้านพักอาศัยที่ทางทิศใต้และพื้นที่ว่างทางทิศเหนือ

สาธารณูปโภคส่วนกลาง ตามแบบฉบับคอนโด Low rise ที่พยายามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชั้น 1 เป็นพิ้นที่จอดรถทั้งหมดรวมซ้อนคันประมาณ 41% โดยดัน Lobby ที่ปกติจะอยู่ชั้นล่างขึ้นไปไว้ชั้น 2 โดยมีบันไดหน้าโครงการสามารถเดินถึงได้เลย Lobby ออกแบบให้เป็น Double Volume กินพื้นที่ชั้น 3 ไปด้วย โดยมีครึ่งชั้นที่เป็นพื้นที่ใช้สอยด้วยการขึ้นบันไดวน มีห้องซักผ้า ห้องนิติบุคคลที่ชั้น 2 จากนั้นก็จะขึ้นไปที่ชั้น 8 เป็นห้องฟิตเนสและสระว่ายน้ำหน้าโครงการระบบเกลือ ขนาด 4.3 x 15 เมตร ไม่มีสระเด็ก ส่วนชั้นดาดฟ้าที่ต้องเดินบันไดขึ้นไปจะเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่แบ่งการใช้งานไว้ให้เป็นจุดๆ เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่ทำงาน พื้นที่นั่งเล่น เป็นต้น

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 98,000 บาท/ตร.ม., 11 August 2016

• ทำเล 7.5/10 – ทำเลติดถนนใหญ่และติดสถานีรถไฟฟ้า Tesco lotus เยื้องกัน แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ดูจะมีทางเลือกที่หยิบจับคอนโดในเมืองกว่านี้ได้
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนพหลโยธิน มี U-turn เป็นระยะ เดินทางสะดวกยกเว้นช่วงเวลารถติด
• ไม่ใช้รถ ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ในจุดที่เรียกรถง่ายมาก ปลอดภัยและไม่เปลี่ยว
• ไม่ใช้รถ เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ 8.5/10 – ติดรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 สะดวกดี
• วัสดุ 7.75/10 – Fully furnished ให้ครบ แอร์เป็นโปรโมชั่น ไม่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นลามิเนต 8มม. เฟอร์นิเจอร์ที่ให้จริงบางชิ้นไม่เหมือนในห้องตัวอย่าง
• แบบ 7.25/10 – มีห้อง 4 แบบ ขนาดห้อง 23 – 48 ตารางเมตรให้เลือกตามจำนวนผู้อยู่อาศัยและการใช้งาน แบบห้องปกติทั่วไป
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – จอดรถ 41% Facility ที่ชั้น2, 8 และดาดฟ้า ครบตามแบบฉบับคอนโด Low rise แต่ขนาดไม่ใหญ่

• UPPER CLASS
• 7.59 / 10.00 คะแนน ณ ปัจจุบันที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า
• 7.7 / 10.00 คะแนน เมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ

 

BOTTOM LINE

Modiz Station เป็นโครงการติดถนนพหลโยธินใกล้ทำเลค้าขายย่านสะพานใหม่ ที่เกาะเส้นรถไฟฟ้าสายใหม่สถานีพหลโยธิน 59 เหมาะสำหรับคนที่อาศัยหรือทำงานในพื้นที่ย่านนี้อยู่แล้ว มีรถใช้ส่วนตัว และคาดหวังจะใช้รถไฟฟ้าเป็นหลักในอนาคต มีงบประมาณราว 2.0 – 4.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 14,000- 31,500 บาท

 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )