รีวิวฉบับที่ 1505 … ช่วงนี้คอนโดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ทยอยเปิดตัวกันอย่างคึกคัก ตัวสถานีต่างๆก็เห็นภาพกันชัดเจนขึ้นทุกวัน วันนี้ก็มีโครงการใหม่มาฝากกัน Metro Sky Vogue จรัญฯ 13 จาก Property Perfect ทำเลอยู่ติดถนนจรัญฯบริเวณตรงข้ามวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ใกล้ MRT สถานี จรัญฯ 13ในระยะเดินได้สบายๆ ประมาณ 150 ม. จุดเด่นอีกอย่างคือเป็นโครงการตึกสูงในย่านนี้ที่เปิดตัวกันในปีนี้ พร้อมส่วนกลางหลากหลายที่ชมวิวชั้นสูงด้วย

Fact @ 19 December 2017

  • Metro Sky Vogue Charan13 (เมโทร สกาย โวค จรัญ13)
  • Property Perfect PLC.
  • UPPER-HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางกอกใหญ่
  • คอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร 672 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 28 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 273 คันคิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 3-1-62.5 ไร่
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • เริ่มก่อสร้าง : Q1 ปี 2561
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q3 ปี 2564
  • Studio 22-25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 28-34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 43-84 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 120,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1375

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.738063, 100.470645

แผนที่จากทางโครงการ Metro Sky Vogue จรัญฯ13 อยู่ตรงข้ามกับวิทยาลัยเทคโนฯ สยาม และใกล้ MRT สถานี จรัญฯ 13 ในระยะประมาณ 150 ม. นับว่าเป็นระยะที่ใกล้มาก อีกทั้งในละแวกนี้ยังเป็นแหล่งสถานศึกษา โรงพยาบาล และตลาดสดอื่นๆมากมาย

โครงการ Metro Sky Vogue จรัญฯ13 ตั้งอยู่บนถนนหลักจรัญสนิทวงศ์ ระหว่างแยกไฟฉายกับแยกท่าพระ การเดินทางด้วยรถส่วนตัวนับว่าอยู่ในจุดที่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกมาก มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด ถ้าจะข้ามเมืองฝั่งพระนครก็สามารถใช้สะพานที่อยู่ใกล้สุดคือสะพานพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8, สะพานพระปกเกล้า, สะพานตากสิน และทีเด็ดคือซอยจรัญฯ 13 ที่อยู่ใกล้กับโครงการ สามารถลัดออกไปถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษกได้ เดิมแค่ซอยจรัญฯ 13 เส้นเดียวจะมีการจราจรที่ติดขัดสาหัสมาก แต่ตอนนี้มีถนนกาญจนาภิเษกโรจน์ที่ตัดเข้าหาถนนราชพฤกษ์เพิ่มมาอีกเส้นทางหนึ่งเพื่อช่วยเพิ่มทางลัดอีกเส้นทางครับ

เสริม “ถนนกาญจนาภิเษกโรจน์” เดิมชื่อถนนพระเทพฯ ตัดใหม่ เป็นถนนที่ตัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ระบายการจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์ เนื่องจากถนนจรัญฯ แต่เดิมเป็นถนนเส้นยาวที่ไม่มีแยกและทางลัดมากนัก จุดเริ่มต้นของถนนพระเทพฯตัดใหม่นี้ เริ่มจากบริเวณแยกไฟฉาย บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงมาเรื่อยๆตัดผ่านถนนราชพฤกษ์  ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ไปบรรจบกับ ถนนกาญจนาภิเษก  กินระยะทางประมาณ 7 กม.

ปัจจุบันถนนเส้นนี้สร้างเสร็จแล้ว และเปิดใช้อย่างเป็นทางการไปเมื่อปีเดือนธันวาคม ปี 58 นอกจากนี้บริเวณแยกไฟฉายก็มีการขุดเจาะอุโมงค์ลอดใต้แยกไฟฉายและทำสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่ ซึ่งถ้าถนนสายนี้เสร็จจะทำให้การจราจรบนถนนจรัญสนิทวงศ์คล่องตัวขึ้นมากทีเดียว

สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการนั้น บอกได้เลยว่าหายห่วงกันได้เลยทีเดียว เพราะถือว่าเป็นทำเลที่หาของทานง่ายมากๆ หรือต้องการที่ช้อปปิ้งก็มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นศูนย์การค้า และ Hypermarket แต่ส่วนตัวคิดว่าจุดเด่นสุดน่าจะเป็นเรื่องของตลาด ที่มีตลาดชื่อดังอยู่ในรัศมี 2-3 กม. ให้เลือกเดินกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ยังใกล้โรงพยาบาลดังอย่างศิริราช ใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) หรือจะเข้าไปทำงานในเมืองทั้งย่านสาทร ก็สามารถไปทางเรือได้

อย่างไรก็ตามแม้ทำเลของโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากสถานที่สำคัญต่างๆ แต่ก็ต้องคำนึงเรื่องรถติดกันสักหน่อย เพราะช่วงนี้แถวโครงการมีการก่อสร้างทั้งรถไฟฟ้า และอุโมงค์ตรงแยกไฟฉาย ทำให้รถติดมากขึ้นเป็นพิเศษ ก็ต้องเผื่อเวลากันสักหน่อย แต่โดยปกติโครงการคอนโดจะใช้เวลาสร้างประมาณ 2 ปี กว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ทั้งรถไฟฟ้าและอุโมค์ก็คงจะเสร็จแล้ว

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ

ในส่วนการเดินทางด้วยระบบสาธารณะนั้นถือว่าสะดวกพอสมควร สำหรับรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด คือ จรัญฯ 13 อยู่ในระยะเดินเพียง 150 ม. จากแผนของ MRTA จะอยู่บริเวณแยกไฟฉายพอดี ซึ่ง ..ตอนนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วง บางซื่อ – ท่าพระ กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้กันประมาณปี 2562-63

และอีกสถานีหนึ่งที่อยู่ถัดมาด้านล่าง ก็คือ สถานี ท่าพระ  ซึ่งสถานีนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นสถานี Interchange โดยในอนาคตอีกสักระยะนึงจะมีสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ และมีแผนที่จะเปิดใช้ใกล้ๆเคียงกับเส้นด้านหน้าเราประมาณปี 62-63

นอกจากนี้ การที่โครงการอยู่ติด “ถนนใหญ่” ทำให้เรียกรถสาธารณะด้านหน้าได้ง่าย ทั้งรถสองแถว ป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการนิดเดียว วินมอเตอร์ไซค์กับรถไฟฟ้าเพียง 150 เมตร และเรียก Taxi ที่ด้านหน้าโครงการได้เลยเป็นข้อดีของโครงการติดถนน

การเดินทางด้วยทางเรือ

นอกจากตัวช่วยในการเดินทางอย่างรถไฟฟ้าแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของพื้นที่ในทำเลนี้คืออยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีตัวช่วยในการเดินทางด้วย เรือด่วนเจ้าพระยา เพิ่มเข้ามาด้วย ก็ช่วยทุ่นเวลาให้เราไม่ต้องอยู่บนท้องถนนนานนัก ซึ่งท่าเรือด่วนเจ้าพระยาที่ใกล้โครงการที่สุดคือ ท่าวังหลัง ที่ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม. สามารถข้ามเรือไปหาร้านอาหารเด็ดๆ เจ้าดังๆ ทานที่ท่าพระอาทิตย์ หรือไปเรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ ก็สะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้เส้นทางเดินเรือยังสามารถนั่งไปได้ไกลถึงสาทร หรือขึ้นเหนือไปถึงนนทบุรีเลย คลิกดูรายละเอียดเส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ที่นี่

การเดินทางในวันนี้ โดยผมเริ่มมาจากในพื้นที่ย่านตัวเมืองเขตเศรษฐกิจอย่างสาทร วิ่งออกนอกเมือง ข้ามฝั่งด้วยสะพานตากสิน ตรงอย่างเดียวผ่านถนนกรุงธนบุรี และถนนราชพฤกษ์ หลังจากนั้นให้เราเลี้ยวขวาที่ “แยกรัชดา-ราชพฤกษ์” เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ตรงอย่างเดียวลอดอุโมงค์แยกท่าพระ โผล่ขึ้นมาก็เป็นถนนจรัญสนิทวงศ์แล้วให้ชิดซ้ายเอาไว้ หลักจากนั้นมองที่ป้าย จรัญสนิทวงศ์ 9/1 ก็ถึงที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือ

โดยผมเริ่มมาจากในพื้นที่ย่านตัวเมืองเขตเศรษฐกิจอย่างสาทร วิ่งออกนอกเมือง ข้ามฝั่งด้วยสะพานตากสิน มุ่งหน้าตรงอย่างเดียว

อยู่บนถนนกรุงธนบุรี วิ่งผ่านรถไฟฟ้าไปสองสถานีอย่าง กรุงธนบุรี และ วงเวียนใหญ่

หลังจากขึ้นสะพานข้ามแยกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินแล้ว ถนนที่เราตรงมานั่นแหละ จะเปลี่ยนเป็นถนนราชพฤกษ์แล้ว ก็ยังตรงต่อไปครับ

หลังจากนั้น เราจะผ่านสถานีรถไฟฟ้าอีกหนึ่งแห่ง คือ สถานีโพธิ์นิมิตร และเราจะเจอกับป้ายให้ออกทางขนาน

พอเราออกเลนซ้ายมาแล้ว ด้านหน้าจะเจอกับแยกใหญ่อย่าง “แยกรัชดา-ราชพฤกษ์” ที่ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเจอกับห้างเดอะมอลล์ท่าพระ แต่ให้เราเลี้ยวขวาที่ตรงนี้จะครับ (ผมวงเลนจราจรเอาไว้ให้แล้วดูประกอบได้)

พอเลี้ยวขวามาแล้วจะเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปท่าแยกท่าพระ เราจะไปถนนจรัญสนิทวงศ์

ให้เราชิดขวาเอาไว้ ด้านหน้าจะเป็นส่วนของอุโมงค์ทางลอดใต้แยกท่าพระ

เจออุโมงค์ทางลอดใต้แยกท่าพระ ลอดตรงไปเลย

พอขึ้นพ้นอุโมงค์มาแล้ว จะเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นซอยเลขคี่ และฝั่งขวามือเป็นฝั่งซอยเลขคู่

หลังจากผ่านซอย 1, 3, 5 และ 7 รันมาเรื่อยๆแล้ว ให้เราชิดซ้ายเอาไว้เลยครับ เพราะที่ตั้งโครงการเราอยู่ประมาณซอย 9/1

นี่ครับถึงแล้ว จุดสังเกตหลักก็คือ ติดกับที่ตั้งทางเข้าโครงการทางซ้ายมือคือ ภัตราคารแวร์ซาย และฝั่งตรงข้าม คือ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม / เดี๋ยวเราค่อยเข้าไปดูในพื้นที่โครงการนะ ขอเดินไปดูแถวๆตัว MRT สถานี จรัญฯ 13 ก่อนเพราะเห็นว่าใกล้แค่ 150 เมตรกว่าเท่านั้น

ฝั่งตรงข้าม คือ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ซึ่งเป็นสถานศึกษาชื่อดังหลักในย่านพื้นที่นี้ ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่และอาคารเรียนหลายอาคารทีเดียว ทำให้มีทั้งนักเรียน คุณครู บุคลากรทางการศึกษาที่อยู่ตรงนี้ไม่น้อย

เดินมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปทางสถานี เราจะเห็นส่วนฟุตบาททางเดินเท้าค่อนข้างกว้าง สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นตึกแถว ร้านค้า ธนาคาร รวงร้านทั่วไปต่างๆ

ร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ริมทางแบบนี้เห็นอยู่ 3-4 ร้าน ระหว่างทาง แถมตรงนี้ยังเป็นป้ายรถเมล์ด้วย เดินมาจากหน้าโครงการไม่กี่สิบเมตร

พวกร้านปรินท์ ซีร็อค พิมพ์งาน มีอยู่ใกล้ๆเพราะว่าใกล้แหล่งสถานศึกษา

พวกร้านยา คลีนิคทั่วไป ก็เห็นอยู่สองฝั่งข้างทางได้เหมือนกัน ตอนนี้ถึงตัวสถานีแล้วครับ เราจะเห็นว่าขาบันไดทางขึ้นลงถูกสร้างขึ้นชัดเจนแล้ว ทำให้เราวัดระยะได้

ตรงกึ่งกลางของบันไดสถานีทั้งสองฝั่ง จะเป็นซอยจรัญสนิทวงศ์ 11 อีกทั้งยังมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงนี้ด้วย

พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ตั้งของ 7-Eleven Premium ขนาดใหญ่ทีเดียวครับ ภายในมีทั้ง All Cafe และ ร้านขายยาในตัวอีกด้วยครับ

มองไปที่ตัวชานชาลาสถานีจากพื้นที่จอดรถใน 7-Eleven ชานชาลาสูงประมาณตึกแถว 4-5 ชั้น

ในละแวกของสถานี จะมีความอุดมสมบูรณ์ ของอาหารการกินมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่มีคนสัญจรผ่านมากกว่าข้างทาง ตามซอยทั่วไป

ออกมาอีกหน่อย เจอกับ 7-Eleven อีกละ ด้านหน้าเป็นพวกร้านค้าแผงลอย ร้านอาหารซื้อกลับบ้านทั่วไป จากตรงนี้เราจะเห็นสะพานลอย ขอขึ้นไปดูสภาพแวดล้อมมุมสูงซะหน่อย

ขึ้นมาบนสะพานลอยแล้ว มองย้อนกลับมาทางที่เราเดินมา ซ้ายมือเราจะเห็นปั๊ม ESSO ซึ่งด้านในมีมินิมาร์ทอย่าง Lotus Express

ภายในปั๊ม ESSO นอกจากจะแวะเติมน้ำมัน ด้านในมีมินิมาร์ทอย่าง Lotus Express, ร้านกาแฟ Habika และ KFC

เอาล่ะครับ กลับมาที่พื้นที่ดินโครงการกันแล้ว พื้นที่ด้านหน้าบริเวณติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ถูกแปลงเป็นพื้นที่ของ Sale Office Gallery และพื้นที่จอดรถรอบๆ

ส่วนของที่ดินเปล่าด้านหลัง อนาคตจะถูกวางเป็นตัวอาคารโครงการ ซึ่งจากที่ผมส่องดูแล้ว แทบไม่โดนบล็อควิว ณ ตอนนี้ (เดี๋ยวดูแผนที่ด้านล่างประกอบ)

ตัวอาคารจะมีระยะถอยห่างจากถนนหลักด้านหน้าประมาณ 70 เมตร อีกทั้ง การวางอาคารรับวิวทิศเหนือ-ใต้เป็นหลัก ทำให้ไม่โดนอาคารสูงจาก วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม มาบล็อควิว

เข้ามาดูด้านใน Sale Office Gallery สักหน่อย เพราะว่าตัวด้านในมี Theme Concept และ วัสดุ บางส่วนที่จะใช้เหมือนกับด้านใน Lobby ของจริง

Decorate Wall และโคมไฟตกแต่ง

ภายในถูกปูพื้นด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน พร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งรับรองหลายส่วน และส่วนโมเดลโครงการ ตั้งอยู่ใจกลาง

ที่นี่ทำห้องตัวอย่างออกมา 2 ห้องนะครับ แต่ว่าไม่ได้ทำผนังปิดในส่วนด้านหน้าทางเข้าแบบนี้

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ผมทำแผนที่สภาพแวดล้อมบริเวณรอบโครงการให้เห็นภาพรวมใกล้ๆกันสักหน่อย โดยตัวอาคารจะห่างจากถนนจรัญฯ ฝั่งทิศตะวันออกประมาณ 70 เมตร และฝั่งตรข้ามจะเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ถ้าดูจากแผนที่เราจะเห็นว่าปัจจุบันโครงการนี้ แทบจะไม่โดนบล็อควิวอาคารสูงจากทุกฝั่งรอบด้านเลย ส่วนใหญ่จะเป็นแนวตึกแถว ชุมชนบ้านพักอาศัยทั้งหมด (ไม่นับคนที่เลือกซื้อชั้น 2-4 นะครับ) อีกทั้งการวางตัวอาคารให้รับวิวทิศเหนือ-ใต้ เป็นหลัก ทำให้ได้ทั้งเป็นทางลมวิ่งผ่าน กับเลี่ยงความร้อนจากแสงแดดทั้งตอนสายและบ่ายเข้ามายังตัวห้องตรงๆได้ด้วย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • MRT สถานี จรัญ 13 ~ 150 เมตร
  • 7-Eleven Premium ปากซอยจรัญ 11 ~ 200 เมตร
  • วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ~ ฝั่งตรงข้ามโครงการ
  • Lotus Express, KFC ในปั๊ม ESSO ~ 340 เมตร
  • วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี ~ 800 เมตร
  • ตลาดท่าพระ ~ 2.1 กม.
  • ตลาดบางขุนศรี ~ 2.3 กม.
  • แม็คโครจรัญสนิทวงศ์ ~ 2.5 กม.
  • ตลาดพรานนก ~ 3 กม.
  • ตลาดบางขุนนนท์ ~ 3.1 กม.
  • ตลาดสดสหกรณ์น้ำเย็น ~ 3.3 กม.
  • รพ.พญาไท 3 ~ 3.3 กม.
  • รพ.ธนบุรี ~ 3.3 กม.
  • รพ.ศิริราช & วังหลัง ~ 3.6 กม.
  • เดอะมอลล์ท่าพระ ~ 3.7 กม.
  • ม.ราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา ~ 3.8 กม.
  • แพลตฟอร์มวงเวียนใหญ่ ~ 4.2 กม.
  • ตลาดเจริญรัถ & ตลาดวงเวียนใหญ่~ 4.6 กม.
  • รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ~ 5.6 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูโมเดลโครงการกัน ผมลองทำ Main Facility ส่วนที่สำคัญหลักๆต่างๆชี้จุดเอาไว้ให้ดูว่าเค้า กระจายไว้ตรงไหนบ้างแล้ว โดยจะมีที่ชั้น Ground, 10, 18-19, 29-30, 39 และ 40 ดาดฟ้า ซึ่งการที่โครงการถอยระยะตัวอาคารให้ห่างออกจากถนนหลักด้านหน้าประมาณ 70 เมตร ทำให้ขึ้นอาคารสูงได้ถึง 39 ชั้น นับว่าเป็นคอนโด High Rise ที่ปีนี้เปิดตัวมาสูงที่สุดในละแวกถ้าเทียบกับเพื่อนบ้าน

พอเข้ามาด้านในโครงการ จะเจอกับพื้นที่สีเขียวส่วนแรก อย่าง Welcome Garden ก่อน (ดูรูปตัวอย่างประกอบด้านล่างนะ) โดยพื้นที่สีเขียวในโครงการนี้ทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ ด้านหลังเป็น Lobby ในตัวอาคารที่ทำเป็น Double Volume สูงถึง 7 เมตรเลย

การเดินรถภายในโครงการจะเป็นแบบ ทูเวย์ รถสวนทางกันได้ และมุ่งหน้าเข้าไปสู่ตัวอาคารด้านในมีที่จอดรถจนถึงชั้น 9 / จะเห็นว่าส่วนของห้องพักอาศัยเริ่มมีตั้งแต่ชั้น 2 แล้ว ซึ่งห้องที่อยู่ชั้น 2-7 ก็จะมีราคาที่ไม่สูงมากนักเพราะไม่ได้วิวเท่าไร ถ้าใครมีงบมากหน่อย ชอบชมวิวจากห้องตัวเองเป็นหลักก็เลือกสูงกว่านั้น

ส่วนของพื้นที่จอดรถ มีการปิดผิว Facade ด้วยระแนงเหล็กพ่นสีน้ำตาลทองเป็นแนวตั้ง แต่ก็ยังมีช่องให้แสงและลมลอดผ่านเข้ามาได้

ขึ้นมาที่ชั้น 10 เหนือส่วนของพื้นที่จอดรถ โครงการจัดเป็นพื้นที่สีเขียวอีกจุดนึงที่มีชื่อว่า Step Garden ให้มานั่งเล่นพักผ่อน

ที่ชั้น 18-19 นั้นมี Sky Pool ที่ชั้น 18 เป็น Infinity Edge pool มองวิวฝั่งทิศตะวันออก(ถนนจรัญ) ตัวสระมีขนาดประมาณ 6 x 25 เมตร แยกสระเด็กและมีจากกุชชี่ จุดเด่นคือมีส่วนที่เป็นกระจกนิรภัยอย่างหนาพิเศษยื่นออกมาเกือบ 3 เมตร / ที่ชั้น 19-20 เป็น Sky Fitness ที่มองลงมาวิวสระ และห้อง Game Room, Kid Room

ที่ชั้น 29-30 มีพื้นที่ส่วนกลางอ่างบ่อ On-Sen กลางแจ้งหันออกด้านหน้าโครงการเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งจัด Landscape ลงสวนนิดหน่อย

ที่ชั้น 39 เป็นส่วนสุดท้ายที่มีห้องพักอาศัย และห้องชั้นนี้จะเป็น 2 Bedroom ทั้งหมด ด้านหน้าจะเป็นส่วนกลางอย่าง Co-Working Space และขึ้นมาด้านบนจะเป็น Sky Lounge ที่เพดานสูงโปร่ง(Double Volume) ถึง 6.2 เมตร และออกไปด้านนอกดาดฟ้ากลางแจ้ง จะถูกจัดเป็น Sky Garden

Sky Garden ที่อยู่ด้านหลังส่วน Facade ยอดอาคาร ทำให้ความรู้สึกปลอดภัยมีเซฟตี้รอบข้าง แต่ก็ยังมองลอดผ่านออกมาได้มาบ้าง

แต่ถ้าจะชมวิวจริงๆ ด้านหลังจะมีส่วนทางเดินออกมาเป็นจุดชมวิวเฉพาะเลย แบบนี้ครับ

มาพูดถึงแบรนด์กันบ้าง โครงการนี้ถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ถอดด้ามของทาง PF เลยนะ ก่อนหน้านี้เราจะเห็นแต่แบรนด์ The Sky,  Metrosky, Metroluxe, icondo และ The Lake ซึ่งแบรนด์นี้เค้าตั้งใจทำ Facilities ให้ดูดีขึ้นเพื่อเทียบเท่าคอนโดระดับ Top อย่างเช่นมี Onsen, Sparkling Star Pool, Golf Simulator, Sky Lounge etc.

ภาพจำลองภาพรวมของโครงการ Metro Sky Vogue จรัญฯ13 เป็นคอนโด High Rise 40 ชั้น 1 อาคาร 672 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ตัวอาคารเป็นสไตล์ Modern Contemporary ที่ใช้เฉดสีอาคารออกน้ำเงินเข้มตัดกับเส้นสายการตกแต่งแนวตั้งสีน้ำตาลทองให้ดูมีลูกเล่นหน่อย จุดเด่นของโครงการ คือ การจัดวาง Facility ส่วนต่างๆไว้หลายส่วน ทั้งสวนขนาดใหญ่บริเวณทางเข้า, Step Garden ที่ชั้น 10, Sky Pool & Fitness ที่ชั้น 18-19, Sky Garden ชั้น 29-30, Co-Working Space ชั้น 39 และ Sky Lounge ที่ชั้น 40 ดาดฟ้า

เริ่มจากพอเราเข้ามาในโครงการ จะเจอกับส่วนของ Welcome Garden ก่อน จัดเป็น Landscape  พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ประมาณ 1 ไร่ พร้อมทั้งมีที่นั่งพักผ่อนและลานวิ่งออกกำลังกาย หรือเป็นจุดนับพบ

ภายจำลองบรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง Welcome Garden อีกมุมนึง

ภาพจำลองบรรยากาศส่วนของ Step Garden ที่ชั้น 10 เหนือพื้นที่ส่วนจอดรถ ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งกลางแจ้ง พร้อมจัดโต๊ะนั่งเล่น นอนเล่นตามมุมต่างๆ

ภาพจำลองสวนส่วนกลาง Step Garden บนชั้น 10

ภาพจำลองบรรยากาศส่วนของ Sky Pool ที่ชั้น 18 เป็น Infinity Edge pool มองวิวฝั่งทิศตะวันออก(ถนนจรัญ) ตัวสระมีขนาดประมาณ 6 x 25 เมตร จุดเด่นคือมีส่วนที่เป็นกระจกนิรภัยอย่างหนาพิเศษยื่นออกมาเกือบ 3 เมตร / ที่ชั้น 19-20 เป็น Sky Fitness ที่มองลงมาวิวสระ

นี่ครับ ภาพจำลองบรรยากาศ ว่าถ้าเราอยู่ในส่วนที่ชั้น 19-20 เป็น Sky Fitness ที่มองลงมาวิวสระ และวิวเมือง

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณส่วนกลาง Premium Onsen ขยับขึ้นมาที่ชั้น 29-30

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Sky Lounge ของโครงการ ที่ชั้น 40

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Sky Lounge ของโครงการ ที่ชั้น 40

Facility ส่วนกลางของโครงการจะกระจายตัวอยู่ตามชั้นต่างๆ รวมถึงมีส่วนที่อยู่บนชั้น Rooftop จึงมีพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถขึ้นมาชมวิวเมืองในมุมสูงด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณ Sky Garden บนชั้น Rooftop

มาดูส่วนของแปลนโครงการกัน ที่ชั้น Ground Floor ฝั่งตะวันออกด้านหน้าโครงการคือถนนจรัญสนิทวงศ์นะครับ พอเราเดินเข้ามาด้านโครงการแล้วจะผ่านพื้นที่ส่วนกลางแรก ที่ชื่อว่า Welcome Garden ขนาดประมาณ 1 ไร่ และถัดไปเข้าสู่ตัวอาคารจะเจอกับ Lobby นะ ด้านในชั้นนี้ไม่มีอะไรมาก มีส่วนพื้นฐานอย่างห้องนิติฯ ห้องน้ำ โถงลิฟท์ และส่วนพื้นที่จอดรถในอาคาร โดยสามารถจอดได้ 40%(ไม่รวมจอดซ้อนคัน) / การเดินรถภายในโครงการจะเป็นแบบทูเวย์สวนกันได้ผมทำลูกศรประกอบไว้แล้ว

ส่วนของลิฟท์โดยสารที่นี่ให้มาถึง 4 ตัว กับจำนวนยูนิตทั้งหมด 672 ยูนิต เพราะฉะนั้นอัตราส่วนคือ 168:1 ถือว่าไม่มากและก้ไม่น้อยครับ อีกทั้งยังมี Service Lift ถูกแยกการใช้งานยกพวกของชิ้นใหญ่ออกไปอีก 1 ตัว

แปลนที่โครงการมีมาให้ผมนั้นกระโดดชั้นขึ้นไปที่ชั้น 10 เลย ซึ่งจริงๆแล้วมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 2 แล้วนะครับ โดยจะปนไปกับส่วนของพื้นที่จอดรถในตัวอาคารที่มีจนถึงชั้น 9 (แต่โครงการไม่มีแปลนมาให้ เลยต้องกระโดดมาดูที่ชั้น 10) (ย้อนขึ้นไปดูในโมเดลก้ได้นะ)

ที่ชั้น 10 ก็นับเป็น typical plan ที่มีห้องพักอาศัยเต็มจำนวนนะ โดยถ้าเราออกจาโถงลิฟท์มาทางขวา จะมีทางออกไปด้านนอกอาคาร ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Step Garden จัดแลนด์สเคปไว้ให้มานั่งพักผ่อนกันได้ โถงทางเดินด้านในอาคารเป็นเส้นตรงแนวยาว มีหน้าต่างช่องแสงที่ปลายทางเดินทั้งสองฝั่ง โดยเราจะเห็นส่วนของห้องพักที่ที่ส่นใหญ่จะเป็น Studio และ 1 ห้องนอน สลับกันไป โดยมีจำนวนความหนาแน่นต่อชั้นอยู่ที่ 28 ยูนิต

ขึ้นมาที่ชั้น 18 ส่วนของห้องพักอาศัยจะลดลงเหลือ 17 ห้องเท่านั้น โดยถ้าเราเลี้ยวขวาจากโถงลิฟท์ จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Sky Pool แบบมุมมอง Infinity Edge ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ มีทั้งสระจากุชชี่ และมีพื้นที่นั่งและนอนเล่น เราจะเห็นบันไดทางขึ้นไปที่ชั้น 19 ไปเชื่อมต่อกับ Sky Fitness อีกด้วย

ขยับขึ้นมาที่ชั้น 39 ชั้นนี้จะเป็นส่วนห้องพิเศษอย่าง 2 ห้องนอนทั้งหมด เพราะเป็นชั้นสุดท้ายที่มีห้องพักอาศัยแล้ววิวที่ได้ก็สูงพิเศษเช่นกัน อีกทั้งที่ฝั่งด้านหน้า ก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Co-Working Space ที่เป็นพื้นที่ Double Volume มีบันไดทางขึ้นไปเชื่อมต่อ Sky Lounge ชั้น 40 และด้านนอกที่เป็นส่วนดาดฟ้าเปิดโล่งอย่าง Sky Garden และมีจุดชมวิวอีกด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Welcome Garden / Lobby
  • ชั้น 9-10 : Step Garden
  • ชั้น 18 : Sparkling Star Pool ขนาด 6 x 25 เมตร ลึก 1.2 ม. และสระเด็ก ขนาด 5 x 5 เมตร ลึก 0.5 ม.
  • ชั้น 19-20 : Sky View Fitness, Play Room (Pool Table/Ball Room/Golf&Tennis Simulator Room)
  • ชั้น 29-30 : Steam, Yoga Room, On-Sen, Meeting Room
  • ชั้น 39 : Co-Working Space
  • ชั้น 40 : Sky Lounge(Double Volume) / Sunset Deck
  • Rooftop : Sky Garden
  • พื้นที่สีเขียวในโครงการทั้งหมดประมาณ 1 ไร่
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว / Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 168:1
  • ที่จอดรถประมาณ 273 คันคิดเป็น 40% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

รูปแบบการขายของที่นี่ จะเป็นแบบ Fully Fitted ได้อุปกรณ์ห้องน้ำพร้อมฉากกั้น, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เสื้อผ้า Built-In, ชุดครัวท๊อปหินสังเคราะห์ (แต่ไม่ได้ Ho&Hood) และ แอร์ 2-3 ตัว ตามขนาดห้อง / ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร

ห้องตัวอย่างแบบแรกคือ 1 Bedroom ขนาด 28.1 – 30.6 ตร.ม. โดยเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area ที่ก่อนเลย ขวามือหลังประตูเป๋นส่วนของห้องน้ำที่ได้ฉากกั้นแยกส่วนเปียกไว้ ถัดมาเป็นห้องนอนที่ถูกไว้ใกล้ผนังจะได้แสงธรรมชาติเต็มที่ ค่อนข้างให้น้ำหนักพื้นที่กับห้องนอนพอสมควรทำให้เดินได้รอบเตียงไม่อึดอัด ออกมาด้านนอกติดกับโซฟาจะมีทางเข้าครัว ซึ่งเป็นครัวปิด ด้านในก็มีพื้นที่ทานข้าวในตัว ด้านนอกเป็นระเบียง ทำให้แสงส่องผ่านทะลุถึงพื้นที่นั่งเล่นได้ อีกทั้งยังช่วยเรื่องระบายกลิ่นบริเวณครัวด้วย

ห้องตัวอย่างไม่ได้ทำผนังด้านหน้าอย่างที่บอกไปตอนต้น เลยเห็นพื้นที่ได้กว้างและสว่างกว่าปกติหน่อย เริ่มจากความสูงของห้องที่ให้มา 2.60 เมตร เข้ามาในห้องจะเป็นส่วนของ Living Area ก่อน แต่จะได้แสงธรรมชาติจากบริเวณประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน(ด้านในเป็นครัว) ระยะดูทีวีประมาณ 2.8 เมตร ต้องจัดทีวีประมาณ 40-50 นิ้ว

ตำแหน่งประตูทางเข้าห้องจริงๆ จะอยู่ตรงนี้นะ ตัวพื้นห้องเป็นพื้นลามิเนตลายไม้โทนสีอ่อน 8 mm.

ขวามือเป็นส่วนพื้นที่มุมวางโซฟา น่าจะได้แบบ 2 ที่นั่งกำลังดี ไม่เบียดเกินไป

ฝั่งซ้ายมือเป็นชั้นวางทีวี ถ้าเราเลือกแบบลอยขึ้นมานิดนึง จะสามารถใช้ด้านล่างของตู้เป็นที่เก็บรองเท้าได้ แล้วเอาทีวีแขวนผนัง ก็จะได้พื้นที่ชั้นวางของเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย ติดกันจะเป็นส่วนประตูห้องน้ำ และห้องนอน

เข้ามาดูในห้องน้ำกัน เจอกับส่วนอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ก่อน มีชุดตู้ใต้อ่างให้ และผนังด้านข้างมีการเซาะร่องเอาไว้เป็นชั้นเก็บของวางของใช้ได้ด้วย

ตัวพื้นห้องน้ำลดระดับลงจากห้องนั่งเล่นเล็กน้อย เพื่อช่วยในเรื่องเวลาทำความสะอาด มุมนี้เราจะเห็นพื้นที่การเดินค่อนข้างมาตรฐาน

พวกวัสดุในห้องน้ำเกือบทั้งหมดเลย จะได้เป็นของ COTTO ทั้งก๊อก อ่าง สุขภัณฑ์ หัวฉีด ที่แขวน เป็นต้น

ส่วนของพื้นที่เปียก(อาบน้ำ) โครงการให้ฉากกั้นกระจกนิรภัยมาแบบนี้เลย พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1 x 1 เมตร

หน้าตาของชุดฝักบัว, เครื่องทำน้ำอุ่น และ Rain Shower ที่โครงการให้มามาตรฐาน

ออกมาจากห้องน้ำ เข้ามาสู่ห้องนอนที่อยู่ติดกัน ค่อนข้างให้น้ำหนักพื้นที่กับห้องนอนพอสมควรทำให้เดินได้รอบเตียงไม่อึดอัด

ระยะพื้นที่ทางเดิน

ด้านข้างของเตียงสามารถเดินไปได้ทั้งสองฝั่ง ฝั่งชิดหน้าต่างยังสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้นะ

ระยะทางเดินปลายเตียง จะมีส่วนที่ร่นลงไปนิดนึง สามารถหาชั้นวางทีวีเข้าตำแหน่งแบบห้องตัวอย่างมาลงจะได้เข้ากับพื้นที่

มุมตู้เสื้อผ้า Built-In ที่โครงการทำให้มาตรฐาน หน้าบานครึ่งนึงเป็นกระจกเงา สูงจรดฝ้าเพดาน / ส่วนที่ยื่นออกมาเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งไม่ได้ทำให้นะ

ผมลองเปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูฟังก์ชั่นการเก็บของด้านในครับ

ช่องแสงธรรมชาติหน้าตาดูดีทีเดียว เฟรมเป็นอลูมิเนียมสีเทาค่อนข้างหนาดูแข็งแรง ช่องแสงถือว่ากว้างและสูง 2 เมตร สามารถเปิดออกได้จุดเดียว(ขวาบน) เป็นแบบบานกระทุ้ง

ลองเปิดออกให้ดูจะได้องศาประมาณนี้ ตัวกระจกจะได้เป็นสีน้ำเงินช่วยตัดกรองแสงและความร้อนได้ระดับนึง

ออกมาที่โถงนั่งเล่น พื้นที่ติดกับโซฟาได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเช่นนี้

เวลาเปิดจะได้พื้นที่กว้าง 2 ใน 3 แบบนี้ ที่เค้าเอาฝั่งบานเปิดไว้ทางขวาเพราะจริงๆ ซ้ายมือหลังประตูจะเป็นที่วางตู้เย็นนะครับ

เข้ามาด้านในพื้นที่ครัวแล้ว จะเป็นรูปแบบครัวปิดที่เหมาะกับการทำอาหารหนักได้ พื้นจะถูกเปลี่ยนเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีสว่าง ขวามือเป็นมุมรับประทานอาหาร ซ้ายมือเป็นที่วางตู้เย็นติดกันเป็นชุดครัว

มุมรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง ดึงเก้าอี้ออกก็สามารถใช้งานได้จริง

หน้าตาชุด Pantry ครัวที่โครงการให้มาจะเป็นแบบนี้มาตรฐาน ขาดก็แค่ Hob&Hood ที่ไม่ได้มาในภาพนี้

ด้านบนจะมีชุดตู้ชั้นลอยติดผนังอยู่ทั้งแบบมีหน้าบานและเปิดโล่ง ด้านบนยังมีพื้นที่เหลือทำตู้เพิ่มได้

ท๊อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาวมีเกล็ดประกายฝังนิดหน่อย(ในรูปมองไม่เห็น) เป็นแผ่นเดียวไปกับอ่างล้างจานแบบนี้ ของจริงด้านหลังผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสีนะ แนะนำให้ไปหาติดกระจกหรือกระเบื้องเอาไว้เผื่อสำหรับคนชอบทำอาหารทานเองจะได้ล้างทำความสะอาดง่าย

ชุดอ้างล้างจานที่เป็นเนื้อเดียวกับท๊อปครัว

ด้านล่างนอกจากจะมีช่องวางตู้เสื้อผ้าแบบฝาหน้าแล้ว ยังมีตู้เก็บของอีกบางส่วน

ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เชื่อมต่อไปกับทางออกระเบียงด้านนอก สามารถเปิดช่วยเวลาทำอาหารระบายกลิ่นและอากาศ

พื้นที่ระเบียงกว้างประมาณ 90 ซม. พร้อมราวกันตกเป็นเหล็กพ่นสีโปร่ง

หันไปทางซ้ายมือเราจะเห็นคอมแอร์ 2 ตัวที่แขวนติดกับผนัง ตัวลมร้อนจะพัดเข้าหา(ให้ไปหากริลล์บังคับทางลมเบี่ยงออกไปนอกอาคารได้) ตัวระแนงเหล็กจะบังสายตาตรงคอมแอร์ไว้ เวลาคนมองจากนอกอาคารจะมองไม่เห็นและดูเรียบร้อย

ห้องตัวอย่างอีกห้องเป็น 1 Bedroom เช่นกัน ขนาด 34.7 – 35.1 ตร.ม. โดยเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า เปิดมาเป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับโซนทานอาหาร นั่งเล่น และพื้นที่อเนกประสงค์ ตัวห้องนอนอยู่ฝั่งขวามือจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 4 ตอนสูงจรดฝ้าเพดานทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านหากันได้ ความพิเศษของห้องนี้มี 2 อย่างคือ 1)สามารถเข้าใช้งานห้องน้ำได้จากทั้งฝั่งห้องโถงและห้องนอน 2)ช่องแสงที่ติดกับผนังเป็นหน้าต่างเข้ามุมต่อเนื่องกันทำให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้มากพิเศษ

เปิดมาเป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับโซนทานอาหาร นั่งเล่น และพื้นที่อเนกประสงค์ / ขวามือเป็นประตูห้องน้ำ

ตำแหน่งของประตูห้องจริงๆจะอยู่ตรงนี้

ขวามือเป็นส่วนประตูทางเข้าห้องน้ำ

สามารถเข้าใช้งานห้องน้ำได้จากทั้งฝั่งห้องโถงและห้องนอน เผื่อแขกมาก็เข้าจากตรงนี้ได้เลยไม่ต้องผ่านห้องนอน, หรือตื่นมากลางคืนก็เข้าจากห้องนอนได้เลย สะดวกทีเดียว

ในห้องน้ำเนื้อที่ มุม ตำแหน่ง ฟังก์ชั่น จะเหมือนกับห้องก่อนหน้าที่พาไปดูแล้วเป๊ะๆเลยนะครับ ไม่อธิบายซ้ำละกัน

ออกจากห้องน้ำ มองไปฝั่งตรงข้ามไล่จากซ้ายมือสุด จะเป็นพื้นที่วางตู้เย็น, Pantry ชุดครัว(ยาวกกว่าห้องก่อนหน้าหน่อย) และขวามือสุดติดกันเป็นมุมโต๊ะทาอาหาร

ชุดครัวอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกันนะ แต่จะยาวกว่าเดิมเล็กน้อย(ทางขวามือสุดมีพื้นที่เก็บของเพิ่มขึ้นมา)

ลองเปิดหน้าบานตู้ด้านล่างถึงพื้นที่เก็บของให้ดูครับ การมีช่องวางเครื่องซักผ้าในห้อง ทำให้พื้นที่ระเบียงเราสามารถใช้งานอย่างอื่นได้เช่นตากผ้า หรือสวนกระถาง เป็นต้น

มุมโต๊ะทานอาหารสามารถเลือกโต๊ะมาวางตำแหน่งเดียวกับห้องตัวอย่างก็ได้ เป็น 2 ที่นั่งกำลังเหมาะสม

ถัดมาจะเป็นส่วนของ Living Area ที่ต้องเลือกโซฟาเป็นแบบทรงนี้ เพราะจะทำให้ห้องไม่ดูอึดอัด ประกอบกับเวลาใครนอนอยู่บนเตียง(ห้องนอนขวามือสุด) สามารถดูทีวีร่วมกันก็ได้

มุมนั่งเล่นดูทีวีเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อเนกประสงค์และนั่งทำงานด้านนอกที่ติดกับช่องแสงขนาดใหญ่

ส่วนที่ติดกับผนัง ขึ้นอยู่กับเราจะตกแต่งเป็นโทนสไตล์ไหน แต่เราสามารถใช้ประโยชน์จาก “พื้นที่ใช้สอยแนวตั้ง” ให้เต็มที่จากจุดนี้ได้

มุมพื้นที่อเนกประสงค์ ที่ในแปลนห้องจัดเป็นมุม Working Area มีความพิเศษตรงที่ว่าอยู่ติดกับหน้าต่างช่องแสงขนาดใหญ่ที่ยาวต่อเนื่องเป็น Bay Window (กระจกหน้าต่างเข้ามุม) ทำให้ได้มุมมองวิวที่เปิดกว้าง

ทำให้มุมนั่งอ่านหนังสือ ทำงาน ดูน่าใช้งานขึ้นมาทันตาเห็น

Bay Window (กระจกหน้าต่างเข้ามุม) ทำให้ได้มุมมองวิวที่เปิดกว้าง และยังเชื่อมต่อไปยังประตูกระจกบริเวณระเบียง

มาตรงกลางห้องอีกครั้ง มองไปยังด้านหลังของโซฟา เราจะเห็นส่วนของห้องนอน ที่ทางโครงการกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนถึง 4  ตอน แถมสูงจรดฝ้าเพดาน เลยทำให้แสงธรรมชาติส่องผ่านหากันได้เต็มที่ อีกทั้งเวลาเราเปิดประตูเชื่อมพื้นที่เข้าหากันแบบนี้ ทำให้ห้องทั้งสองดูโปร่งโล่งพิเศษอีกด้วย

ตัวประตูต้องทำเป็นแบบรางล่างที่พื้นนะครับ เพราะต้องรับน้ำหนักพอสมควร

ตำแหน่งการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และฟังก์ชั่นต่างๆดูจากห้องตัวอย่างได้เลย เพราะว่ามีการคิดออกแบบตำแหน่งไว้ค่อนข้างดีแล้ว

มุมทางขวามือเป็นมุมตู้เสื้อผ้า(ได้เหมือนกัน) และมุมแต่งตัว แต่งหน้า สามารถเข้าใช้ห้องน้ำจากตรงนี้ได้เลย

ตำแหน่งด้านข้างหัวเตียงทั้งสองฝั่งสามารถใช้ประโยชน์ได้และเหลือทางเดิน

ลองนอนบนเตียง ก็สามารถนอนดูทีวีจากตรงนี้ได้อยู่นะครับ

พื้นที่ทางเดินปลายเตียงค่อนข้างเหลือจำกัด ถ้าเราปิดประตูบานเลื่อน(เหลือราว 25 ซม.)

ส่วนของประตูทางออกไประเบียงอยู่ตรงฝั่งซ้ายของเตียง พอลองเปิดประตูกระจกบานเลื่อน เราจะเห็นถึงสีของตัวกระจกที่มาซ้อนกันชัดเลยว่าเป็นบานสีน้ำเงิน ที่จะช่วยเรื่องของกรองแสงแดดและลดความร้อนเข้ามาในตัวห้อง

พื้นที่ระเบียงห้องนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียว ( 0.90 x 2.25 เมตร ) สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นกึ่ง Outdoor, พื้นที่ตากผ้าจริงจัง หรือ สวนกระถางสวนแนวตั้งขนาดเล็ก

พื้นที่ระเบียงฝั่งซ้ายมือ และขวามือ

ปิดท้ายกันด้วยมุมนี้ครับ ยืนจากระเบียง มองเข้ามาในตัวห้อง ถือเป็นห้อง 1 Bedroom ที่ได้จัดโอเคเลย

Image 1/3
Studio 21-23 sq.m.

Studio 21-23 sq.m.

นอกจากนี้ยังมีห้องอีก 3 แบบ ที่ไม่ได้ทำห้องตัวอย่าง นั่นก็คือ ห้องขนาดที่เล็กสุดอย่าง Studio ขนาด 22-25 ตร.ม. (ซึ่งสามารถกั้นห้องครัวเป็นครัวปิดเพิ่มได้) / มีห้อง 2 Bedroom 2 Bath ไซส์กลางอย่าง 43.7 ตร.ม. และ ห้อง 2 Bedroom 2 Bath ไซส์ใหญ่หน้ากว้างพิเศษ พร้อมมีห้องอเนกประสงค์แยกเพิ่มมาอีกห้องด้วยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 December 2017

  • Studio 22-25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 28-34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 43-84 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.69 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ AVG 120,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted / ตู้เสื้อผ้า Built-In / แอร์ 2-3 ตัวตามขนาดห้อง
  • อุปกรณ์ห้องน้ำและฉากกั้น, เครื่องทำน้ำอุ่น, Rain Shower
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • Kitchen & Sink ท๊อปหินสังเคราะห์ (ไม่ได้ Hob & Hood)
  • จอง 10,000 – 20,000 บาท (แล้วแต่ขนาดห้อง)
  • ทำสัญญา 30,000 – 60,000 บาท (แล้วแต่ขนาดห้อง)
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 40 งวด (รวมผ่อนแบบบอลลูน 8 งวด)
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลและความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่บนถนนหลักจรัญสนิทวงศ์ ระหว่างแยกไฟฉายกับแยกท่าพระ สำหรับเรื่องความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการหายห่วงกันได้เลย เพราะถือว่าเป็นทำเลที่หาของทานง่ายมากๆ หรือต้องการที่ช้อปปิ้งก็มีให้เลือกทั้งแบบที่เป็นศูนย์การค้า และ Hypermarket แต่ส่วนตัวคิดว่าจุดเด่นสุดน่าจะเป็นเรื่องของตลาด ที่มีตลาดชื่อดังอยู่ในรัศมี 2-3 กม.ให้เลือกเดินกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ยังใกล้โรงพยาบาลดังอย่างศิริราช ใกล้มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) หรือจะเข้าไปทำงานในเมืองทั้งย่านสาทร ก็สามารถไปทางเรือได้

การเดินทางด้วยรถ นับว่าอยู่ในจุดที่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกมาก มีเส้นทางลัดเลาะได้หมด ถ้าจะข้ามเมืองฝั่งพระนครก็สามารถใช้สะพานที่อยู่ใกล้สุดคือสะพานพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8, สะพานพระปกเกล้า, สะพานตากสิน และทีเด็ดคือซอยจรัญฯ 13 ที่อยู่ใกล้กับโครงการ สามารถลัดออกไปถนนราชพฤกษ์และถนนกาญจนาภิเษกได้ เดิมแค่ซอยจรัญฯ 13 เส้นเดียวจะมีการจราจรที่ติดขัดสาหัสมาก แต่ตอนนี้มีถนนกาญจนาภิเษกโรจน์ที่ตัดเข้าหาถนนราชพฤกษ์เพิ่มมาอีกเส้นทางหนึ่งเพื่อช่วยเพิ่มทางลัดอีกเส้นทาง จะติดก็อย่างเดียวคือที่จอดรถโครงการให้มาน้อยไปหน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช่รถ ถือว่าสะดวกทีเดียว การที่โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ทำให้เรียกรถสาธารณะด้านหน้าได้ง่าย ทั้งรถสองแถว ป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการนิดเดียว วินมอเตอร์ไซค์กับรถไฟฟ้าเพียง 150 เมตร และเรียก Taxi ที่ด้านหน้าโครงการได้เลยเป็นข้อดีของโครงการติดถนน / หรือตัวเลือกเสริมอย่างเรือด่วนเจ้าพระยาแถววังหลัง และ รถไฟฟ้าสถานีหนึ่งที่อยู่ถัดมาด้านล่าง ก็คือ ท่าพระ ซึ่งอนาคตมีความพิเศษตรงที่เป็นสถานี Interchange สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพงบางแค อีกด้วย

วัสดุ รูปแบบการขายของที่นี่เป็นแบบ Fully Fitted ได้อุปกรณ์ห้องน้ำเป็น Cotto ยกเซ็ต พร้อมฉากกั้นและมี Rain Shower, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เสื้อผ้า Built-In, ชุดครัวท๊อปหินสังเคราะห์(แต่ไม่ได้ Ho&Hood) และ แอร์ 2-3 ตัว ตามขนาดห้อง / ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร ตัวพื้นในห้องได้เป็นลามิเนต 8 mm. ห้องน้ำเป็นแกรนิตโต้และระเบียงเป็นกระเบื้องไซส์ 30 cm. เฟรมวงกบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมค่อนข้างหนาแข็งแรง และกระจกเป็นสีน้ำเงินตัดแสง โดยรวมของได้มาตรฐานกับราคาที่จ่าย

การออกแบบ  ตัวอาคารเป็นสไตล์ Modern Contemporary ที่ใช้เฉดสีอาคารออกน้ำเงินเข้มตัดกับเส้นสายการตกแต่งแนวตั้งสีน้ำตาลทองให้ดูมีลูกเล่นหน่อย จุดเด่นของโครงการ คือ การจัดวาง Facility ส่วนต่างๆไว้หลายส่วนให้ชมวิว อีกทั้งการวางตัวอาคารให้รับวิวทิศเหนือ-ใต้ เป็นหลัก ทำให้ได้ทั้งเป็นทางลมวิ่งผ่าน กับเลี่ยงความร้อนจากแสงแดดทั้งตอนสายและบ่ายเข้ามายังตัวห้องตรงๆได้ด้วย

แบบของห้อง ที่นี่ทำห้อง Studio , 1-2 Bedroom โดยมีขนาดตั้งแต่ 22 – 84 ตร.ม. โดยถ้าดูจากฟังก์ชั้นในแปลนทั้ง 5 แบบ ถ้าจัดตาม Layout Furniture ของโครงการก็ค่อนข้างลงตัวกับพื้นที่ มีทั้งครัวปิดและครัวเปิดให้เลือก ถ้าอยากได้ห้องหน้ากว้างพิเศษจะเป็นแบบ 2 ห้องนอนซึ่งทำจำนวนห้องน้ำเท่ากับห้องนอนด้วย ไม่ต้องออกมาใช้รวมกัน โดยรวมแปลนทุกแบบจัดค่อนข้างดี

สาธารณูปโภค ค่อนข้างให้มาเยอะและหลากหลายทีเดียว พื้นที่สีเขียวรวมกันทั้ง Welcome&Step Garden กว่า 1 ไร่ อีกทั้งมีการใช้จุดเด่นที่เป็นอาคารสูง โดยวางพื้นที่ส่วนกลางเด็ดๆ กระจายไว้ตามชั้นต่างๆทั้งชั้น 19-20, 29-30, 39 และ 40 ดาดฟ้า และถ้าดูจากภาพตัวอย่างก็น่าใช้งานทีเดียว เทียบกับราคาค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม. ถือว่าคุ้มอยู่

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้ | ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาประมาณ 90,000 – 120,000 บาท/ตร.ม., 19 December 2017

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ มีลักษณะความเป็นชุมชนเดิม หาของกินง่าย ติดถนนใหญ่ 
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – อยู่ใกล้แยกใหญ่สำคัญๆ มีตัวช่วยในการเดินทางลัดอย่างจรัญฯ13 เสียตรงรถติดและที่จอดรถค่อนข้างน้อย
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 150 ., ติดถนนใหญ่ ใกล้ป้ายรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์, เรียก Taxi ง่าย มีรถสาธารณะให้เลือกหลากหลาย
  • วัสดุ 7.75/10 – อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของระดับราคาที่จ่าย 
  • แบบ 8/10 – แบบห้องเน้นขนาดเล็กกลาง อยู่ 1-3 คนได้สบาย ฟังก์ชันจัดมาลงตัว มีห้องหน้ากว้างพิเศษ
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ครบครันจัดเต็มหลากหลายและน่าใช้ ดึงจุดเด่นเอามาไว้ที่ชั้นสูงๆทำให้ได้ชมวิวไปด้วย
  • UPPER-HIGH CLASS
  • 7.76 / 10.00

BOTTOM LINE

Metro Sky Vogue จรัญฯ13 เหมาะสำหรับคนที่เคยชินกับสภาพความเป็นอยู่ของชาวฝั่งธนฯครอบครัวเดิมหรือสถานที่ทำงานอยู่แถวนี้ที่มีทั้งตลาด สถานศึกษา โรงเรียน โรงพยาบาล ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เดินสบายและติดถนนใหญ่ ชอบโครงการที่มี Facilities หลากหลาย และเน้นชมวิวได้ด้วย มีงบประมาณระดับ 2.3 – 5.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 16,000 – 41,000 บาท/เดือน