cover_web

รีวิวฉบับที่ 1257… สวัสดีครับ วันนี้พาไปรีวิวโครงการ Melanie Bangkok คอนโด Low Rise ในย่านถนนจันทน์ จากบริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ ทำเลตรงนี้อาจจะไม่ได้อิงแนวรถไฟฟ้ามากนัก แต่ก็ยังอยู่ใกล้กับพื้นที่ CBD โซนสาทรอยู่ และเป็นทำเลเฉพาะที่เชื่อมต่อมาจากพื้นที่ค้าขายเก่าแก่ริมน้ำเก่าอย่างเจริญกรุงนะครับ

Fact @ 20 December 2016

  • Melanie Bangkok (เมลานี แบงคอก)
  • บริษัท ไพร์มเกท เรียลตี้ จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ยานนาวา
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 123 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 63 คันคิดเป็น 51% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60%
  • ที่ดินประมาณ 1-0-42.6 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน 2560
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สิงหาคม 2562
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • 1 Bedroom  ขนาด 27 – 49 ตร.ม. จำนวน 85 ยูนิต เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท
  • 2 Bedroom  ขนาด 56 – 77 ตร.ม. จำนวน 38 ยูนิต เริ่มต้น 7 ล้านบาท
  • ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยประมาณ 110,000 – 130,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร(AVG)ทั้งโครงการ 120,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 092 925 2555

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.705563, 100.534930

แผนที่จากทางโครงการ ตั้งอยู่ต้นถนนจันทน์ (ปากซอย 9) ระยะทางประมาณ 200 เมตรจากโครงการไปถึงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระบบคมนาคมผ่านเข้าสู่ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนเจริญกรุง และอยู่ใกล้ทางขึ้นด่วนสำคัญสามจุดคือ ด่านถนนจันทน์ ด่านสาธุประดิษฐ์ และด่านนางลิ้นจี่ ระบบขนส่งสาธารณะก็มี รถเมล์บีอาร์ที รถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ หรือสถานีช่องนนทรี

ถนนจันทน์ เป็นถนนสายเล็กๆ ความยาว 7 กิโลเมตร ที่ต่อจากถนนเจริญกรุง และขนานไปกับถนนสาทร ถนนเส้นนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งค้าขาย และชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และเติบโตอย่างรวดเร็วหลังปี พ.ศ. 2500 จากการเข้ามาอาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนที่ขยายออกมาจากเยาวราช มายังย่านบางรักและบริเวณท่าเรือใกล้เคียง ซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นชาวไทยมุสลิม ก่อนที่คนจีนจะเข้ามาทำมาหากิน แล้วตามด้วยชาวอีสานและชาวต่างจังหวัดมากมายที่เข้ามาขายแรงงาน เพราะมีมัสยิด และกู่โบ (สถานที่ฝั่งศพของมุสลิม) อยู่ประมาณ 2-3 แห่งให้เห็น คนจีนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณถนนจันทน์นั้นเป็นจีนกวางตุ้ง และจีนแต้จิ๋วเข้ามาผสมผสานกลมกลืนกับคนไทย และชุมชนไทยมุสลิม จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ถนนจันทน์ถือเป็นชุมชนที่มีความหลากลายทางวัฒนธรรม และยังเป็นเขตที่พักอาศัยค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากความสะดวกสบายของการเดินทาง และอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ

แต่เดิมบริเวณย่านนี้ จะเป็นอาคารพาณิชย์ตึกแถวสูงไม่เกิน 5 ชั้นเรียงกันไปตามตรอกซอกซอย ซึ่งยังคงมีให้เห็นเป็นกลิ่นอายของย่านอยู่ถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อความเจริญเข้ามาการเดินทางที่สะดวกขึ้นด้วยถนนที่ตัดขยายใหม่ มี BRT ที่ขับผ่านบนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซึ่งสามารถไปเชื่อมต่อกับ BTS ที่สถานีช่องนนทรีได้ ทำให้ย่านนี้มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมา

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆ จะเป็นแหล่งชุมชนอาศัยเก่าแก่เป็นส่วนมากเป็นตึกแถวยุคเก่าที่ด้านล่างทำเป็นร้านค้าต่างๆ ดังนั้นเรื่องอาหารการกินในระยะใกล้นี่ไม่ต้องเป็นห่วง เดินลงมาหน้าโครงการฝั่งตรงข้ามก็เจอร้านของกินให้เลือกมากมาย แต่ถ้าจะเดินห้างใหญ่ๆหน่อย ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งจับจ่ายก็มีตั้งแต่ Tops, Vanilla Moon บนถนนจันทน์ เขยิบมาจะเป็น เอเชียทีค, โรบินสันบางรัก บนถนนเจริญกรุง และ เซ็นทรัลพระราม 3, The Up บนถนนพระราม 3 หรือถ้าจับจ่ายของสดของแห้ง เข้ามาที่ถนนจันทน์มีครบทุกอย่างเพราะเป็นแหล่งชุมชน มีทั้งตลาด วัด โบสถ์พราหมณ์ ตามชุมชนไปทั่ว โดยเฉพาะอาหารที่รสดีรสเด็ด ก็มีให้เลือกหลายเจ้าตั้งแต่เช้ายันเย็น

ใครเจ็บป่วยก็ยังโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ที่อยู่บนถนนสาทรครับ ส่วนใครที่เกิดทันช่วง 30-40 ขอเชคอายุกันหน่อยว่ารู้จัก “สุสานวัดดอน” หรือ “สุสานแต้จิ๋ว” กันไหม เป็นสถานที่อีกแห่งที่ไม่สามารถเรียกว่าสิ่งอำนวยได้เต็มปากแต่ เช้า เย็น ชาวบ้านก็ได้ใช้พื้นที่วิ่งเพื่อออกกำลังกายกันนะครับ  สำหรับโรงเรียนในย่านนี้ดังๆ ก็มีหลายที่ทีเดียวทั้ง อัสสัมชันบางรัก, สารสาสน์เอกตรา, สารสาสน์พิทยา, กรุงเทพคริสเตียนและเซนโยเซฟคอนเวนต์ อีกด้วย

การเดินทางมาโครงการสามารถเข้ามาได้จากหลายเส้นทางทั้ง ถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนนางลิ้นจี่ ที่ตัดผ่านกับถนนจันทน์นั่นเอง การที่ตัดผ่านกับถนนหลักต่างๆที่บอกมาทำให้แจกทางไปไหนมาไหนถือว่าสะดวก แต่จะมีปัญหาเรื่องรถติดหนักบ้างหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ข้อดีอีกอย่างของทำเลนี้คืออยู่ใกล้ทางด่วนโดยสามารถทะลุไปยังถนนจันทน์เพื่อไปขึ้นทางด่วนไปออกทั้งบางนาและดินแดง/แจ้งวัฒนะได้

การเดินทางแบบขนส่งสาธารณะ สำหรับย่านนี้มีรถสองแถวคอยให้บริการบนเส้นถนนจันทน์ มีพี่วินมอเตอร์ไซต์อยู่ตามปากซอยหลักๆ และรถเมล์ประจำทางที่ผ่านหน้าโครงการจะเป็นสาย 35 และ 62 / สำหรับคนที่ไม่ใช้รถแล้วจะใช้ BTS ถึงตรงนี้จะไม่ใช่ระยะเดิน แต่ทางโครงการจะมี Shuttle Service ส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีให้เพื่อทดแทนกันไป หรืออาจจะต้องอาศัยพี่วินหรือแท็กซี่เรียกเอาหน้าโครงการก็ได้เพราะติดถนนหลัก

มาว่ากันต่อกับการเดินทางด้วยรถยนต์บนทางด่วนเพื่อเข้าโครงการกัน ทางด่วนที่ขึ้น-ลงใกล้กับโครงการจะมีอยู่ 2 ทางก็คือทางพิเศษเฉลิมมหานครกับทางพิเศษศรีรัช โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วน 1 จะอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจะเข้าถึงโครงการได้ต้องเข้าถนนสาธุประดิษฐ์เพื่อเข้าถนนจันทน์ หากลงตรงจุดลงทางด่วน 2 จากทางพิเศษศรีรัช จะเข้าถึงโครงการได้โดยเข้าจากถนนเจริญราษฎร์แล้วเลี้ยวเข้าถนนจันทน์ และอีกทางสำหรับใครมาจากทางพระราม 9 หรือแจ้งวัฒนะ ก็สามารถลงตรงจุดลงทางด่วน 3 เข้าถนนเจริญราษฎร์แล้วเลี้ยวเข้าถนนจันทน์ได้เลย

โดยเส้นทางที่ผมใช้เดินทางมาในวันนี้ จะใช้ทางด่วนศรีรัชนี่ละครับ มาลงที่จุดลงทางด่วน 3 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนจันทน์ได้เลย ตรงมาอีกประมาณ 1.8 กิโลเมตร แล้วที่ตั้งโครงการอยู่ขวามือเลย

บนทางด่วนศรีรัช วิ่งตรงออกเมืองมาเรื่อยๆ โดยช่วงแรกๆจะตามป้าย (บางโคล่-บางนา-ดาวคะนอง) แต่พอเห็นทางลงของสีลมเมื่อไร ให้เตรียมชิดซ้ายเอาไว้ หลังจากนั้นเราจะเจอกับป้ายให้ลง “ถนนจันทน์” ให้ลงตรงนี้เลยครับ

ทีนี้พอลงมาแล้วจะเป็นถนนใต้ทางด่วน ลงมาจะเจอกับสี่แยกไฟแดง ตรงนี้ให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนจันทน์

พอเลี้ยวมาได้ไม่ไกลจะมี Community Mall ชื่อ Vanilla Moon อยู่ทางขวามือ พอจะเป็นแหล่งพึ่งพาของกินได้บ้าง / ภายในซอยนี้จะมีรถเมล์วิ่งกันหลายสายมากมีทั้ง รถสองแถวเล็ก สองแถวใหญ่ จะไปไหนก็ลองสังเกตป้ายหน้าหรือข้างรถก็ได้นะครับ อย่างรถสองแถวใหญ่ที่เห็นจะไปถึงสวนลุมพินี / ส่วนสองแถวเล็กก็วิ่งไปถึง BTS ได้เลย

ตามริมทางสองฝั่งซ้ายขวาตลอดเกือบทั้งเส้น จะพบกับอาคารพาณิชย์ตึกแถวเรียงกันไป ซึ่งจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านจิปาถะที่เป็นปัจจัยอยู่อาศัยต่างๆนาๆ และมีให้เห็นเป็นกลิ่นอายของย่านนี้ที่แสดงถึงเป็นชุมชนเก่าที่ชอบค้าขาย

ขับตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับแยกใหญ่ ที่ตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนสาธุประดิษฐ์สามารถวิ่งตรงไปสุดจนถึงถนนพระราม 3 ได้ ส่วนเราตรงไปนะครับ จะเห็นคอนโด High Rise อย่าง Fuse จันทน์-สาทรตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ให้เราขับเลยไปหน่อยนึง

นับตั้งแต่สี่แยกที่ลงทางด่วนมา จนถึงตรงนี้เป็นระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร จะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือ (ฝั่งซอยจันทน์เลขคี่) อยู่ติดกับซอย 9 และฝั่งตรงข้ามเป็นซอย 10

%e0%b9%81%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%a2%e0%b8%b0%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%8a%e0%b8%b4%e0%b8%94**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ผมลองเอาตัวตึกมาปะลงไปให้ดูว่าทิศทางแดดและวิวจะเป็นยังไงบ้าง เรื่องของวิวโดยรอบๆส่วนใหญ่จะเป็น อาคารตึกแถว 3-4 ชั้น บังอยู่บ้าง ฝั่งที่จะโดนบังวิวเตี้ยกว่าหน่อยจะเป็นฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเห็นหลังคาโกกังของ goodyear สูงประมาณตึก 2 ชั้นครึ่ง และก็ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเห็นบ้านพักอาศัยของคนในพื้นที่ โดยเลือกที่ประมาณชั้น 4 ก็ได้วิวเคลียหน่อยแล้วครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Top สาขาเซ็นหลุยส์
  • Asiatique The Riverfront
  • Central Plaza พระราม 3
  • The Up พระราม 3
  • Vanilla Moon
  • Makro สาทร
  • โรงเรียนพระแม่มารีย์
  • โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา
  • โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก
  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
  • โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
  • โรงพยาบาลเลิดสิน
  • โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์


เจาะลึกตัวโครงการ

อันนี้ผมยืนจากฝั่งตรงข้าม Sale Gallery ถ่ายตรงมา ซึ่งอนาคตตรงส่วนนี้จะเป็นทางเข้า-ออกของโครงการนะ ส่วนพื้นที่ถัดมาจะกลายเป็นอาคารออฟฟิศ 4 ชั้นของบริษัทไพร์มเกท(เจ้าของโครงการนี่แหละ) และติดกันจะเป็นจันทน์ซอย 9 ซึ่งยังเหลือเอาไว้แค่เป็นประมาณทางเดินเข้าออกเท่านั้น

ภายนอกของ Sale Gallery จะแต่งเป็นทูโทนสีเทาตัดกับสีครีม และติดชื่อป้ายสัญลักษณ์โครงการเป็นสีทอง ทำให้ดูเด่นขึ้นมา พอเข้ามาด้านในแล้วจะเจอกับเคาน์เตอร์ที่มีเซลล์ประจำให้ข้อมูลโครงการอยู่ มีจุดบริการเครื่องดื่มชา กาแฟ ตัวโมเดลตั้งเด่นอยู่ใจกลางห้อง และยังมีโต๊ะรับแขกรองรับอยู่หลายจุดด้วย

มาดูเรื่องของวิวกันหน่อยดีกว่า วิวที่นี่จะมีหลักๆ 4 ทิศทางตามแผนที่ประกอบ ผมลองเดินเข้าไปในผืนที่ดินโครงการที่จะเตรียมก่อสร้างและถ่ายมาให้ดูกัน โดยจะเริ่มจาก A ไปยัง D นะครับ

วิว A : คือฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ฝั่งนี้จะถูกบล็อควิวตรงกลางเป็นอาคารออฟฟิศของไพร์มเกทสูง 4 ชั้นในอนาคต และทางซ้ายมือเป็นตึกแถว 3 ชั้น พ้นไปจะเป็นถนนจันทน์ ซึ่งใครจะเอาวิวพ้นๆก็ต้องชั้น 4-5 ขึ้นไปล่ะครับ

วิว B : ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งนี้จะติดกับพื้นที่โกดังเก็บของของ GoodYear ที่ด้านหน้าเป็นโชว์รูม โดยความสูงจะอยู่ที่ประมาณ ตึกแถว 2 ชั้นครึ่ง ตลอดทั้งแนวเลย

วิว C : วิวทิศตะวันตกเฉียงใต้ ฝั่งนี้จะค่อนข้างสบายสุดถ้าเทียบกับด้านอื่นๆ โดยจะเห็นแค่บ้านพักอาศัยจากคนในพื้นที่สูง 2 ชั้น เพียง 2 หลังเท่านั้น

วิว D : วิวทิศตะวันตกเฉียงใต้ ฝั่งนี้จะติดกับด้านหลังของแนวกำแพงตึกแถวที่สูง 3-4 ชั้นสลับกันไปมา และช่วงท้ายๆซอยจะเป็นอพาร์ทเมนท์ที่สูงประมาณ 9-10 ชั้น แต่ว่าก็ไม่ได้มาบังอะไรเพราะมันเลยตัวตึกไปแล้ว (ย้อนขึ้นไปดูแผนที่ประกอบได้)

Melanie Bangkok (เมลานี แบงคอก) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 123 ยูนิต ที่ดินประมาณ 1-0-36.2 ไร่ ที่จอดรถประมาณ 63 คันคิดเป็น 51% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60% รูปแบบห้องพักอาศัยที่นี่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตลาดทั่วๆไปหน่อย 1 Bedroom  ขนาด 27 – 49 ตร.ม. จำนวน 85 ยูนิต และ 2 Bedroom ขนาด 56 – 77 ตร.ม. จำนวน 38 ยูนิต โดยจะเหมาะกับอยู่อาศัยได้ไม่อึดอัด

การออกแบบของที่นี่เป็นรูปแบบสไตล์ยุโรป โดยอาคารจะใช้สีทูโทนครีมกับกับสีเทา และก็การเก็บรายละเอียดตามขอบมุมต่างๆ ทำให้ดูโดดเด่นหน่อย เวลาผ่านไปมาจะจำได้ง่าย อีกทั้งตัวอาคาร 4 ชั้นที่อยู่ด้านหน้าของโครงการซึ่งเป็นของบ.ไพร์มเกท ก็ออกแบบตัวอาคารให้เข้ากับคอนโดด้วย ดูกลมกลืนกันทีเดียว แต่ว่าอาคารนี้ไม่เกี่ยวกับที่ดินโครงการนะ เค้าจะทำเป็นออฟฟิศแยกส่วนตัวไป

ลองมาดูโมเดลแบบใส่รายละเอียดรอบๆให้ดูกันบ้าง ด้านหน้าทางเข้าออกโครงการจะอยู่ติดกับถนนจันทน์เลย และติดกับเป็นอาคาร 4 ชั้นทรงยุโรปของไพร์มเกทและติดกันเป็นจันทน์ซอย 9 โดยพอเข้าไปในโครงการแล้วชั้น 1 และชั้นใต้ดินจะเป็นส่วนของที่จอดรถ แต่ที่ชั้น 1 มีทางเข้าไป Main Lobby และโถงลิฟท์ครับ

ด้านข้างอาคารฝั่งนี้ ใครอยู่ฝั่งนี้จะได้วิวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งนี้จะติดกับพื้นที่โกดังเก็บของของ GoodYear ที่ด้านหน้าเป็นโชว์รูม โดยความสูงจะอยู่ที่ประมาณ ตึกแถว 2 ชั้นครึ่ง ตลอดทั้งแนวเลย

ฝั่งด้านหลังโครงการ ที่เป็นวิวทิศตะวันตกเฉียงใต้ เห็นแค่บ้านพักอาศัยจากคนในพื้นที่ โดยจะมีห้องที่เป็น 1 Bedroom ไซส์ 35 ตร.ม. ได้ Bay Window แบบรับวิวมุมกว้างอยู่ด้วย ซึ่งก็คือห้องตัวอย่างในด้านล่างนั่นเองเดี๋ยวไปดูกัน

พออ้อมมาอีกด้านนึง จะเห็นว่ารูปทรงอาคารจะเป็นตัว U นะครับ โดยมีการวาง Facility หลักอย่างสระว่ายน้ำและสวนหย่อมเป็นตัวเชื่อมที่ชั้น 2 และชั้น 8

สระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 2 ระหว่างช่องว่างอาคาร โดยเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 3.9 x 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร ที่ริมสระมี Deck ระเบียงนั่งเล่นที่ด้านในอาคารเป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย / จะเห็นว่าห้องพักอาศัยฝั่งนี้จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ 2 Bed จะถูกเอาระเบียงมาวางไว้ด้านในคือจะไม่เห็นแนวตึกแถว 3-4 ชั้นที่อยู่ฝั่งด้านนี้ แต่เห็นกันเองแทน ถ้าก้มมาหน่อยก็คือวิวสระนั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศส่วนของ Main Lobby ที่อยู่ชั้น 1 ที่เชื่อมกับโถงลิฟท์ โดยพื้นที่จะเป็น Double Volume กินไปถึงชั้นสอง ถึงแม้จะเสียพื้นที่ห้องไปแต่ทำให้บริเวณนี้ดูสูงโปร่งขึ้นมาแทน การตกแต่งเป็นแนวโมเดิร์นที่มีกลิ่นอายรูปทรงของแนวยุโรปแฝงอยู่เหมือนกัน

ที่ชั้น 8 พื้นที่กลางแจ้ง จะเป็นส่วนของสวนหย่อมแบบนี้ (ภาพล่างเป็นภาพจำลองบรรยากาศส่วนของส่วน ในยามกลางคืน) โดยจะมีพื้นที่เก้าอี้นั่งเล่นให้ และมีศาลาทรงกลมตั้งอยู่ตรงกลางดูเด่นเลยทีเดียว

มาดูแปลนชั้น 1 กันหน่อย รูปแบบการจอดรถจะเป็นการจอดในช่องใต้อาคาร ลักษณะการเดินจะเป็นแบบทูเวย์สวนทางกันและออกทางเดิม ชั้นนี้จะไม่มีห้องพักอาศัยนะครับ มีทางลงรถไปยังชั้นจอดรถใต้ดินแต่ว่าไม่มีแปลนให้ดู ซึ่งถ้าใครจอดรถชั้นใต้ดินก็ต้องเดินขึ้นมาที่ชั้น 1 นี้เพื่อเข้าสู่ Main Lobby และเชื่อมต่อไปยังโถงลิฟท์ได้

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีห้องพักอาศัยแล้วจำนวน 15 ยูนิต ชั้นนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าอาคารเราเป็นรูปทรงตัว U ทำให้ Corridor(โถงทางเดิน) เป็นรูปแบบเดียวกัน แต่โครงการจัดห้องมาเต็มล้อมโถงทางเดินเลย ทำให้มีช่องแสงส่องเข้ามาแค่จุดเดียวคือบริเวณหน้าลิฟท์ อาจจะต้องอาศัยการเปิดไฟที่บริเวณนี้ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน ชั้นนี้ยังมี Facility หลักอย่าง Fitness ที่พอออกไปด้านนอกจะส่วนของสระว่ายน้ำ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างช่องว่างอาคาร / ห้องสีเหลืองจะเป็นพวก Type 1 Bed นะครับ ส่วนของสีน้ำตาลทองจะเป็น 2 Bed ซึ่งห้องที่อยู่ริมสระจะได้ระเบียงไซส์ใหญ่พิเศษด้วย

ตั้งแต่ชั้น 3 ถึงชั้น 7 จะเป็น Typical ซึ่งเป็นชั้นที่มีจำนวนห้องพักอาศัยแบบเต็มชั้น ความหนาแน่นอยู่ที่ 18 ยูนิต/ชั้น ซึ่งห้องที่อยู่ใจกลางตัว U จะถูกวางระเบียงเอาไว้ด้านในมองเห็นกัน (มีอยู่ 5 ห้องครับ) ซึ่งถ้าใครเลือกที่ชั้น 2-4 ถือว่าเป็นวิวสระน้ำได้นะ แต่ว่าที่ชั้น 5-7 มันจะต้องชะโงกก้มหน้าลงมาถึงจะเห็น

ที่ชั้น 8 เป็นอีกชั้นของ Facility อย่างสวนหย่อมลอยฟ้า เอามาเชื่อมกันเหมือนสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 โดยถ้าออกมาจากโถงลิฟท์จะมีทางออกไปยังพื้นที่สวนจะมีพื้นที่เก้าอี้นั่งเล่นให้ และมีศาลาทรงกลมตั้งอยู่ตรงกลางดูเด่นเลยทีเดียว ซึ่งใครที่มีระเบียงอยู่ตรงนี้(5 ห้อง) ก็จะได้วิวสวนแต่ต้องแลกกับการลดความเป็นส่วนตัวลงไปนิดหน่อยเวลามีใครมาใช้งาน

VDO Presentation จากทางโครงการ ที่แสดงที่คอนเซ็ปท์ แนวคิด และการออกแบบของโครงการ Melanie Bangkok

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Main Lobby แบบ Double Volume
  • ชั้น 2 : ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
  • ชั้น 2 : สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 3.9 x 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ชั้น 8 : สวนหย่อมลอยฟ้ากลางแจ้ง มีเก้าอี้นั่งเล่นและศาลาพักผ่อน
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 62 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 63 คันคิดเป็น 51% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 60%
  • ระบบ CCTV / Access Card / รปภ.24 ชม.


Product Walkthrough

 

ก่อนไปดูห้องตัวอย่างมาดูสเป็คและวัสดุคร่าวๆกันก่อน ที่นี่ขายแบบ Fully Fitted (แต่ว่ามี Built-In ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทานข้าวมาให้ เป็นแบบ Soft Closed ทั้งหมดด้วยของ RCD) แถมแอร์แล้วแต่ขนาดห้อง, Kitchen & Sink (Topครัวเป็นหินสังเคราะห์) + Hob & Hood(ของ TEKA), ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร โคมไฟในห้องทั้งหมดเป็นดาวน์ไลท์(ฝังฝ้า), วัสดุในห้องน้ำพวกก๊อกและสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ทั้งหมด ในห้องน้ำได้กระจกนิรภัยฉากกั้นแยกส่วนเปียก / พื้นในห้องโถง ครัว นั่งเล่น และห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนไซส์ 60 cm. ส่วนของห้องนอนเป็นลามิเนต 8 mm.

ห้องตัวอย่างที่นี่ทำมาแค่แบบเดียว Type A3-2 และเป็นแบบที่มีจำนวนเยอะคือ 1 Bedroom นั่นเอง โดยห้องนี้มีขนาด 35 ตร.ม. รูปทรงห้องเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าลึกเข้าไป เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวเปิดก่อนโดยมีการทำโต๊ะรับทานอาหารติดกับเคาน์เตอร์ครัว ตรงข้ามมีตู้เก็บรองเท้าด้วย และถัดมาจะเป็นโซนพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งติดกับประตูช่องแสงที่จะพาออกไปยังระเบียง เข้ามาในห้องนอนซี่งค่อนข้างใหญ่แต่เป็นแบบยาว ถ้าใครจะนอนดูทีวีต้องแขวนผนังเอาไม่งั้นเดินลำบาก จุดเด่นของห้องนี้คือพื้นที่ช่องแสงที่เป็นรูปแบบ Double Bay Window ได้มุมวิวที่กว้างและตรงนี้สามารถจัดพวกโซฟาเบดหรือทำเป็นมุมนอนเล่นอ่านหนังสือได้ ก่อนทางเข้าห้องน้ำมีการ Built-In ตู้เสื้อผ้าให้สองฝั่งซ้ายขวาเผื่อแยก His&Her สว่นในห้องน้ำฟังก์ชั่นมาตรฐานแยกส่วนแห้งเปียกด้วยกระจกฉากกั้น สามารถเข้าออกได้สองทางทั้งห้องนอนและโถงด้านนอก

เข้ามาในห้องแล้ว ทางขวามือจะเจอกับครัวเปิดก่อนโดยมีการทำโต๊ะรับทานอาหารติดกับเคาน์เตอร์ครัว พวกช่องเก็บตู้เย็นเค้าจะฟิคตำแหน่งและขนาดนี้เอาไว้เลยนะ พวกชุดตู้ครัวให้มาเยอะทีเดียว

หน้าบานจะเป็นไม้แต่มีการเคลือบให้ดูเงา มีการเซาะร่องเป็นลวดลาย และมีมือจับเปิดปิดเป็นลูกกลมๆสีทองให้เข้ากับคอนเซ็ปท์โครงการ

พวกหน้าบานพวกนี้ระบบการปิดจะเป็น Softing Closed ทั้งหมด และได้ของดีอย่าง RCD ซะด้วย

ที่ใต้ชุดตู้ด้านบนมีการติดไฟ LED ให้ตลอดแนว เพื่อช่วยเวลาประกอบอาหารให้ดูสว่าง เพิ่มความสวยงามอีก อีกทั้งที่ผนังมีการกรุกระจกให้เสร็จ สำหรับใครที่ประกอบอาหารตรงจุดนนี้จะช่วยมากในเรื่องการทำความสะอาด

Hob & Hood ได้ของ TEKA / Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว แต่โดนไฟในห้องเลยดูออกเป็นสีเหลือง

ด้านล่างก็มีพวกชุดตู้เก็บของใช้อีก และมีช่องวางไมโครเวฟที่ด้านล่างด้วย ซึ่งเอาไว้ด้านล่างจะดีกว่าไว้ชั้นบนๆเพราะไม่ต้องเอื้อมมือไปอุ่นอาหาร เวลาหยิบจับเข้าออกก็ต้องระวังมากกว่าธรรมดา

ผมลองวัดพื้นที่ความยาวของเคาน์เตอร์ครัว ยาวถึง 2.0 เมตรพอดี ทีนี้ โครงการเค้า Built ชุดโต๊ะรับประทานอาหารต่อเนื่องกับตัวเคาน์เตอร์มาให้แบบนี้เลย

ซึ่งไอ้เจ้าโต๊ะตัวนี้ดันทำขาแบบล็อกติดเอาไว้เลย พับเก็บลงไม่ได้นะครับ หน้าตาขาเป็นขาเดี่ยวแบบนี้ ชุบอลูมิเนียม

ส่วนของด้านข้างโต๊ะทานอาหาร ใต้ Pantry จะมีหน้าบานตู้ ซึ่งพอเปิดออกมาจะเป็นที่สำหรับเก็บเครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบนี้ ดูจากขนาดไซส์แล้วคงได้แบบซักได้ไม่เกิน 8 กิโลซึ่งเพียงพอกับคนอยู่ห้อง 1 Bed ครับ

ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะทานอาหาร มีการ Built ชุดตู้หน้าตาเหมือนกัน อยู่ระหว่างประตูเข้าห้องน้ำ และห้องนอน ดูเรียบร้อยเป็นสัดส่วนดี

ซึ่งภายในตู้มีการแบ่งชั้น ช่องขนาดไม่เท่ากัน เอาไว้ให้เก็บของต่างๆอาทิช่องรองเท้า ถุงไม้กอล์ฟ ร่ม กระเป๋า ฯลฯ เป็นต้น

ถัดมาจากโซนครัวแล้ว จะเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น โดยมีระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร

การเลือกวางโซฟาคงได้แบบ 2 ที่นั่งเท่านั้น ไม่งั้นจะไปติดหน้าบานของตู้ซักผ้าครับ ระยะห่างกับชั้นวางทีวีสามารถวางโต๊ะกลางและเดินผ่านไปมาได้อยู่ แต่ไม่ควรเลือกขนาดใหญ่จนเกินไปอาจจะเดินติดๆขัดๆได้

มุมชั้นวางทีวีนี้ไม่ได้ให้มาแต่ว่าทำเป็นตัวอย่างให้ดูครับ ถ้าเราเอาทีวีแขวนผนังก็จะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น อีกทั้งการติดตั้งเชลฟ์ชั้นวางด้านบนก็ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้คุ้มค่า

ช่องแสงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทางออกไประเบียง โดยให้แค่ความสูงประมาณ 2.2 เมตร แต่สีของวงกบสวยดีนะครับ เป็นอลูมิเนียมพาวเดอร์โค๊ทสีซาฮาร่า (น้ำตาลทองด้าน) บานเลื่อนสามารถเปิดออกได้ทั้งสองฝั่งซ้ายขวา

ความกว้างของระเบียงอยู่ที่ประมาณ 80 ซม. พื้นจะลดระดับลงมานิดหน่อย กันเวลาฝนตกแล้วสาดเข้ามาในห้อง ส่วนของกันตกเป็นสีเทาอ่อนให้เข้ากับสีด้านนอกของอาคาร

ตรงส่วนนี้ ผมไม่แน่ใจ ถ้าดูจากในแปลน Room Layout จะเอาคอมแอร์หันลมมร้อนเข้าหาในตัวเพราะว่าติดเรื่องตัวอาคารมันทึบบังไว้ (อันนี้สำหรับเฉพาะห้อง Type A3-2 แบบห้องตัวอย่างเท่านั้น) แต่ว่าถ้าเป็นห้อง 1 Bedroom แบบอื่น ตัวคอมแอร์จะถูกหันออกนอกอาคารแบบในรูปครับ

เข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกัน เปิดประตูมาจะเจอกับพื้นที่ทางเดินค่อนข้างกว้าง ที่อยู่ทางฝั่งด้านซ้ายของเตียง ตำแหน่งแอร์ก็จะอยู่บริเวณนี้ด้วย

ห้องนอนที่นี่เป็นแบบแนาวยาว สามารถวางเตียง KingSize ได้ และเดินไปมาได้สบาย แต่ส่วนของปลายเตียงจะเหลือแค่ประมาณ 40-60 ซม.(แล้วแต่การเลือกเตียง) คงต้องเอาทีวีแขวนผนังอย่างเดียวถ้าใครชอบนอนดูทีวีครับ

มุมที่ติดกับหน้าต่างช่องแสงซึ่งเป็นไฮไลท์ของห้องนี้ สามารถ Built ชุดโซฟา แบบห้องตัวอย่างทำเป็นมุมนั่งนอนเล่นพักผ่อนอ่านหน้างสือได้

ไฮไลท์ของห้องนี้คือ Double Bay Window ที่ได้ความกว้างของวิวแบบเต็ม

มองย้อนกลับไปในห้องจะเห็นทางเดินไปยังห้องน้ำ โดยที่สองฝั่งซ้ายขวาติดกับประตูห้องน้ำมีการ Built ชุดตู้เสื้อผ้าเอาไว้ให้ครับ

ชุดตู้ฝั่งขวา ทำเต็มความสูงจากพื้ถึงฝ้าเพดาน

ภายในชุดตู้ฝั่งขวาด้านบน มีตัวสวิทช์ไฟอัตโนมัติเวลาเปิดปิดตู้

ด้านล่างก็เป็นชั้นราวแขวน 2 ชั้นแบบนี้

มาดูฝั่งซ้ายกันบ้างครับ

ด้านบนทำเป็นช่องๆเก็บของไว้ 4 ช่อง

ฝั่งซ้ายเหมือนแขวนผ้าได้นิดเดียว เดียวไปที่ผ้าพับๆไว้เอาไว้ตามลิ้นชัก ตามช่อง ที่ทำมาให้เป็นสัดส่วนมากกว่า

ประตูทางเข้าของห้องน้ำฝั่งห้องนอนทำเป็นแบบบานเลื่อนแบบนี้นะครับ

ตัวพื้นของห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนเหมือนกับห้องโถงและนั่งเล่น

ชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำอย่างก๊อกและสุขภัณฑ์ Kohler ทั้งหมด

ด้านหลังผนังมีการทำเป็น Low Wall ส่วนของงานระบบ แต่ก็ทำให้เราสามารถทำเป็นชั้นวางของใช้บริเวณนี้ได้ โดยจะไม่ได้แค่ชุดตู้ใต้อ่าง

ฝั่งที่ติดกับโถสุขภัณฑ์จะมีประตูทางเข้าออกของฝั่งห้องโถง เผื่อสำหรับเข้าออกได้สองทางแบบนี้

หน้าตาพวกอุปกรณ์ก๊อก, หัวฉีด, ฝักบัว, ที่แขวนกระดาษ เป็นของ Kohler ทั้งหมด

นี่เป็นแปลนห้อง 1 Bed Type A2 ที่รูปแบบจะคล้ายกับห้องตัวอย่างเลย จะแตกต่างกันนิดหน่อยบริเวณระเบียงเรื่องการหันคอมแอร์ฯออกด้านนอก และก็ได้ Bay Window แค่ด้านเดียว และก็ตำแหน่งของการวางตู้เสื้อผ้าครับ

เอาแปลนของ 2 Bedroom Type B4-1 ขนาด 77 ตร.ม. ซึ่งห้องแบบนี้จะเป็นแบบระเบียงใหญ่พิเศษที่อยู่ด้านในตัว U ระหว่างอาคาร ถ้าใครเลือกประมาณชั้น 2-4 ก็จะได้วิวสระน้ำด้วย รูปทรงของห้องเป็นสี่เหลี่ยม แบ่งการใช้งานฟังก์ชั่นครึ่งๆระหว่างห้องนอน โดยมีการไปเน้นที่ระเบียงหน่อย เหมาะสำหรับคนต้องการใช้งาน Balcony อย่างจัดสวน พื้นที่สังสรรค์เล็กๆ

นอกจากนี้ยังมีห้องแบบต่างๆให้เลือก ตามความต้องการของเจ้าของห้อง ลองไปดูได้ทาง Official Website คลิกที่นี่

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 December 2016

  • 1 Bedroom ขนาด 27 ตร.ม. เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 118,518 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 56 ตร.ม. เริ่มต้น 7 ล้านบาท หรือเฉลี่ยราคาเฉลี่ย 125,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร(AVG)ทั้งโครงการ 120,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Fitted (Built-In ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทานข้าว) แถมแอร์แล้วแต่ขนาดห้อง
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink + Hob & Hood
  • จอง 1 Bed 50,000 บาท, จอง 2 Bed 70,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% ของราคาซื้อขาย
  • ค่ากองทุน 45 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 500 บาท/ตร.ม./เดือน

Promotion ณ วันเข้าสำรวจ

  • ชำระเงินจองพร้อมทำสัญญา รับ iphone 7 ขนาด 32GB 1 เครื่อง
  • ฟรี Furniture Package สูงสุด 350,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลย่านถนนจันทน์ จะเป็นแหล่งชุมชนอาศัยเก่าแก่เป็นส่วนมากเป็นตึกแถวยุคเก่าที่ด้านล่างทำเป็นร้านค้าต่างๆ ดังนั้นเรื่องอาหารการกินในระยะใกล้นี่ไม่ต้องเป็นห่วง บริเวณหน้าโครงการโดยรอบตามตึกแถวอาคารพาณิชย์จะมีร้านของกินให้เลือกมากมาย แต่ถ้าจะเดินห้างใหญ่ๆหน่อย ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งจับจ่ายก็มีตั้งแต่ Tops, Vanilla Moon บนถนนจันทน์ เขยิบมาจะเป็น เอเชียทีค, โรบินสันบางรัก บนถนนเจริญกรุง และ เซ็นทรัลพระราม 3, The Up บนถนนพระราม 3 หรือถ้าจับจ่ายของสดของแห้ง เข้ามาที่ถนนจันทน์มีครบทุกอย่างเพราะเป็นแหล่งชุมชน มีทั้งตลาด วัด โบสถ์พราหมณ์ ตามชุมชนไปทั่ว โดยเฉพาะอาหารที่รสดีรสเด็ด ก็มีให้เลือกหลายเจ้าตั้งแต่เช้ายันเย็น อีกทั้งในละแวกนี้ยังมีโรงพยาบาลสำคัญให้เลือกได้ และมีโรงเรียนในย่านนี้ดังๆ ก็มีหลายที่ทีเดียว

การเดินทางมาโครงการสามารถเข้ามาได้จากหลายเส้นทางทั้ง ถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนสาธุประดิษฐ์, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์และถนนนางลิ้นจี่ ที่ตัดผ่านกับถนนจันทน์นั่นเอง การที่ตัดผ่านกับถนนหลักต่างๆที่บอกมาทำให้แจกทางไปไหนมาไหนถือว่าสะดวก แต่จะมีปัญหาเรื่องรถติดหนักบ้างหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ข้อดีอีกอย่างของทำเลนี้คืออยู่ใกล้ทางด่วนโดยสามารถทะลุไปยังถนนจันทน์เพื่อไปขึ้นทางด่วนไปออกทั้งบางนาและดินแดง/แจ้งวัฒนะได้ ส่วนเรื่องที่นี่เมื่อไม่ได้อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าเลยทำให้มีที่จอดรถมาดีหน่อยอยู่ที่ประมาณ 60% รวมจอดซ้อนคัน

การเดินทางแบบขนส่งสาธารณะ สำหรับย่านนี้มีรถสองแถวคอยให้บริการบนเส้นถนนจันทน์ มีพี่วินมอเตอร์ไซต์อยู่ตามปากซอยหลักๆ และรถเมล์ประจำทางที่ผ่านหน้าโครงการจะเป็นสาย 35 และ 62 / สำหรับคนที่ไม่ใช้รถแล้วจะใช้ BTS ถึงตรงนี้จะไม่ใช่ระยะเดิน แต่ทางโครงการจะมี Shuttle Service ส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีให้เพื่อทดแทนกันไป หรืออาจจะต้องอาศัยพี่วินหรือแท็กซี่เรียกเอาหน้าโครงการก็ได้เพราะติดถนนหลัก

การออกแบบของที่นี่เป็นรูปแบบสไตล์ยุโรป โดยอาคารจะใช้สีทูโทนครีมกับกับสีเทา และก็การเก็บรายละเอียดตามขอบมุมต่างๆ ทำให้ดูโดดเด่นหน่อย เวลาผ่านไปมาจะจำได้ง่าย อีกทั้งตัวอาคาร 4 ชั้นที่อยู่ด้านหน้าของโครงการซึ่งเป็นของบ.ไพร์มเกท ก็ออกแบบตัวอาคารให้เข้ากับคอนโดด้วย ดูกลมกลืนกันทีเดียว แต่ว่าอาคารนี้ไม่เกี่ยวกับที่ดินโครงการนะ เค้าจะทำเป็นออฟฟิศแยกส่วนตัวไป / แบบห้องของที่นี่เน้นไปที่ 1 Bedroom ซึ่งโดยรวมจัดฟังก์ชั่นในห้องได้มาตรฐานดีอยู่แล้วเพราะมีขนาดใหญ่กว่าห้องในท้องตลาดทั่วไปที่เอามาซอยเป็นห้องเล็กๆ / จะติดอยู่หน่อยก็คือเรื่อง Corridor (โถงทางเดินที่เป็นรูปตัว U) มืดทึบไม่มีช่องแสงส่องผ่านทำให้ดูทึบและต้องเปิดไฟช่วยเอาทั้งกลางวันกลางคืน

วัสดุของที่นี่ ค่อนข้างดีหน่อยค่อยเข้ากับราคา 110 – 130 แสนบาท/ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted (แต่ว่ามี Built-In ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทานข้าวมาให้ เป็นแบบ Soft Closed ทั้งหมดด้วยของ RCD) แถมแอร์แล้วแต่ขนาดห้อง, Kitchen & Sink (Topครัวเป็นหินสังเคราะห์) + Hob & Hood(ของ TEKA), ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร โคมไฟในห้องทั้งหมดเป็นดาวน์ไลท์(ฝังฝ้า), วัสดุในห้องน้ำพวกก๊อกและสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ทั้งหมด ในห้องน้ำได้กระจกนิรภัยฉากกั้นแยกส่วนเปียก / พื้นในห้องโถง ครัว นั่งเล่น และห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนไซส์ 60 cm. ส่วนของห้องนอนเป็นลามิเนต 8 mm.

สาธารณูปโภคของโครงการเป็นรูปแบบ Low Rise ก็จะมีไม่เยอะและใหญ่เทียบกับ High Rise ไม่ได้ ข้อดีคือมีการแชร์การใช้กันน้อยกว่าหลายเท่าตัว เริ่มจากชั้น 1 : Main Lobby แบบ Double Volume, ชั้น 2 : ออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง และสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 3.9 x 13 เมตร ลึก 1.2 เมตร สุดท้ายที่ชั้น 8 : สวนหย่อมลอยฟ้ากลางแจ้ง มีเก้าอี้นั่งเล่นและศาลาพักผ่อน

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยพิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVG ประมาณ 120,000 บาท/ตร.ม., 20 December 2016

  • ทำเล 7.75/10 – แหล่งชุมชม หาของกินง่าย อุดมสมบูรณ์ แต่ไม่ได้อยู่ในระยะรถไฟฟ้า
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวก ใกล้ทางขึ้น-ลงทางด่วนหลายจุด มีที่จอดรถให้มาพอสมควร
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่มีระบบขนส่งอื่นๆที่ต่อไปรถไฟฟ้าได้ง่าย และมี Shuttle Service ไปส่งที่ BTS ช่องนนทรี
  • วัสดุ 8/10 – วัสดุให้มาคุณภาพตามราคา เป็น Fitted แต่ Built-In มาหลายจุด
  • แบบ 8/10 – อาคารมีคอนเซ็ปท์ออกแบบสวย จัดพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาไม่เยอะไม่น้อยสำหรับ LowRise แต่ว่าออกแบบมาน่าใช้งาน

  • HIGH CLASS
  • 7.82 / 10.00

 

BOTTOM LINE

Melanie Bangkok เหมาะกับใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นหลัก คุ้นเคยและผูกผันกับย่านเมืองเก่า (จันทน์-สาธุ-เจริญราษฎร์-เจริญกรุง) หรือทำงานแถบสาทร นราธิวาส สีลม ไม่เน้นทำเลที่ต้องติดรถไฟฟ้า แต่ห้องมีขนาดเหมาะสมกับการใช้อยู่จริงไม่อึดอัด มีงบประมาณ 3.2 – 7 มีกำลังผ่อนที่ 22,400 – 49,000 บาท/เดือน