Knightsbridge Story: Harrods ห้างหรูระดับโลก ณ.ใจกลางกรุงลอนดอน

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่าน Think of Living จากคอลัมน์ที่พาเดินไปดูความเป็น vintage แบบสุดๆใน London: The original vintage กันมาแล้ว วันนี้อยากจะนำเสนอพื้นที่ด้านในของ London ซึ่งมีชื่อว่า Knightsbridge ที่นี่มีการผสมผสานกันระหว่างความเป็น vintage แบบเลิศหรู กับรูปแบบทันสมัยใน style modern อยู่อย่างมากมาย และมีเรื่องราวที่ประกอบออกมาสะท้อนความเป็น Knightsbridge ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จนผู้ที่มาที่ London ควรอย่างยิ่งที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่นี่ค่ะ

Knightsbridge คือใจกลางด้านในของลอนดอน ความกระการตา ความทันสมัย แต่ยังต้องมนต์เสน่ห์ของ Vintage style จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

Knightsbridge คือดินแดนแห่งความหรูหรามีระดับของลอนดอนชั้นใน เป็นที่พักอาศัยของผู้คนที่มีชื่อเสียง ศิลปิน นักแสดง และมหาเศรษฐีระดับโลกมากมาย มูลค่าที่ดินสูงติดอันดับโลก มีบ้านและร้านค้าหรูๆมากมาย รวมไปถึงห้างดังๆอย่าง Harrods และ Harvey Nicole นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ชนิดเดินกันจนหอบไปเลย เพราะกินเนื้อที่กว่า 875 ไร่เลยทีเดียว

Harrods เป็นห้างสรรพสินค้าหรูหราบนถนน Brompton ใน Knightsbridge ตราของ Harrods ยังนำไปใช้กับวิสาหกิจอื่นๆ ที่ดำเนินงานโดยกลุ่มบริษัท Harrods รวมถึง Harrods Bank, Harrods Estates, Harrods Aviation  และ Air Harrods

Harrods ห้างดังที่หรูหราในย่าน Knightsbridge สำหรับนัก Shop แล้วล่ะก็ ถ้าไม่เข้าห้างนี้ก็เหมือนมาไม่ถึง Knightsbridge เลยนะ

ห้างตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 18,000 ตารางเมตร มีพื้นที่จำหน่ายสินค้ากว่า 90,000 ตารางเมตรในร้านค้ากว่า 330 ร้าน ห้างที่ใหญ่เป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร อย่างห้าง Selfridges บนถนน Oxford มีพื้นที่จำหน่ายสินค้า 50,000 ตารางเมตร ยังมีขนาดน้อยกว่าถึงเกือบครึ่งหนึ่งของ Harrods ด้วยซ้ำไป เป็นการย้ำชัดเจนว่าเรื่องความใหญ่แล้ว Harrods แห่ง Knightsbridge ไม่เป็นสองรองใครจริงๆ

การ Design Logo ที่เป็นเอกลักษณ์ กับอาคารที่แสดงถึงความเป็น Vintage ติดหลอดไฟไว้ทั่ว ต้องมีโอกาสได้เห็นทั้งกลางวันและกลางคืน

แสงไฟยามค่ำคืน ส่องสว่างดูโดดเด่น

Motto ของห้าง Harrods คือ Omnia Omnibus Ubique – ทุกสิ่งสำหรับทุกคนในทุกแห่ง ร้านค้าหลายร้านภายในห้างมีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงแผนกคริสต์มาสตามเทศกาลและศูนย์อาหาร ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งสิ้น … ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือห้างสำหรับทุกๆคนในโลกนี้

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ Harrods ก็คือ The Harrods Food Hall ที่มีได้รับการยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็น Food Hall ที่หรูหรามากมีความหลากหลายของอาหารสูง

แม้ว่าจะผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ห้าง Harrods กลับมีเจ้าของรุ่นแล้วรุ่นเล่าเพียง 5 คนเท่านั้น โดยผู้ก่อตั้งคือ Henry Edward Harrod ก่อตั้งห้างขึ้นในปี 1824 โดยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น ธุรกิจของเค้าเริ่มต้นที่ทางใต้ของแม่น้ำ Themes ใน Southwalk ต่อมาในปี 1834 เขาได้ก่อตั้งร้านขายส่งใน Stepney ด้วยความสนใจด้านชาเป็นพิเศษ และในปี 1849 Harrods ได้ซื้อร้านค้าชนาดเล็กแห่งหนึ่งในเขต Knightsbridge บนที่ตั้งของห้างในปัจจุบันนี้ เพื่อหาผลประโยชน์จากการจัดนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแสดงผลงานด้านอุตสาหกรรมนานาชาติในสมัยนั้นที่จัดขึ้นใกล้กับ Hyde park ในลอนดอน โดยเริ่มต้นด้วยร้านค้าห้องเดียว มีผู้ช่วยสองคนและคนส่งเอกสารอีกหนึ่งคน ต่อมา Charles Digby Harrod ผู้เป็นบุตรชาย ได้ดำเนินกิจการจนธุรกิจค้าปลีกเติบโตเฟื่องฟู จำหน่ายยา น้ำหอม เครื่องเขียน ผลไม้ และผัก ห้าง Harrods ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในเวลาต่อมา ห้างมีพนักงานกว่า 100 คนในปี 1880

ห้าง Harrods ในสมัยก่อน

ในเดือนธันวาคมปี 1883 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้น สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่ Charles Harrods ยังคงบริการส่งสินค้าแก่ลูกค้าในเทศกาลคริสต์มาสในปีนั้น และทำกำไรได้เป็นอย่างดี อาคารได้ถูกสร้างใหม่บนตำแหน่งเดิม และในเวลาไม่นาน Harrods ก็ได้รับความเชื่อถือมากขึ้นจากลูกค้าชั้นนำมากมาย ปัจจุบันกิจการของห้าง Harrods เป็นของบริษัท Qatar Holding หลังจากที่ Mohamed Al Fayed ได้ขายกิจการให้ในปี 2010 ซึ่งมีมุลค่า £ 1.5 พันล้าน

Henry Edward Harrod ผู้ก่อตั้ง ห้าง Harrods

Charles Digby Harrods ผู้รับช่วงต่อจากพ่อ

ร้าน Harrods ในช่วงแรกที่ตั้งอยู่ที่ทางใต้ของแม่น้ำ Thames

 Harrods ในปี 1910

สินค้าและบริการของ Harrods ประกอบไปด้วย ร้านค้า 330 ร้านในห้างมีผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายประเภท อย่างเช่น เครื่องแต่งกายสำหรับลูกค้าทุกประเภท (สตรี บุรุษ เด็ก และทารก) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเพชรพลอย อุปกรณ์กีฬา เครื่องแต่งกายสำหรับแต่งงาน สัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ของเล่น อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพและความงาม ของขวัญบรรจุหีบห่อ เครื่องเขียน เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องเรือน ฯลฯ

ตัวอย่างของบริการในห้าง เช่น :

  • ร้านอาหาร 28 ร้านที่บริการอาหารทุกรูปแบบตั้งแต่ High tea, Tapas, Pub food ไปจนถึง Haute cuisine
  • รายการช่วยเลือกซื้อสินค้าเป็นส่วนตัวที่รู้จักในชื่อ “By Appointment”
  • บริการซ่อมนาฬิกาข้อมือ
  • ร้านตัดเย็บเสื้อผ้า
  • ร้านขายยา
  • ร้านเสริมสุขภาพและความงาม
  • ร้านทำผม
  • บริการทางการเงิน
  • ธนาคารแฮร์รอดส์
  • บริการวางแผนและออกแบบห้องน้ำโดย Ella Jade
  • บริการวางแผนและจัดเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยง
  • บริการส่งอาหาร
  • บริการไวน์
  • ตะกร้าปิกนิกและกล่องของขวัญตามสั่ง
  • เค้กตามสั่ง
  • น้ำหอมตามสั่ง

วันที่มีลูกค้าคับคั่งที่สุด จะมีลูกค้ามากถึง 300,000 คน จำนวนนี้รวมจำนวนที่สูงที่สุดของลูกค้าจากประเทศที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ มีพนักงานกว่าห้าพันคนจากกว่าห้าสิบประเทศที่ทำงานใน Harrods

แผนกเครื่องแต่งกายตกแต่งแบบอียิปต์ หลายส่วนในห้างจะตกแต่งภายในแบบอียิปต์โบราณ

 เรื่องความหรูหราไม่เป็นสองรองใคร ที่ห้างนี้มีชุดราตรีที่ออกแบบโดย Elie Saab สำหรับ Beyonce ด้วยนะ

 

ส่วนชุดนี้ออกแบบโดย Elie Saab สำหรับ Gwyneth Paltrow

ก็บอกแล้วว่าที่นี่มีของทั่วโลกจริงๆ กาแฟดอยช้างจากประเทศไทยก็มีร้านอยู่ในห้าง Harrods เช่นกัน

พวงกุญแจรูปหมีน้อย สัญลักษณ์ธงอังกฤษจำหน่ายที่ห้าง Harrods ยังคงเป็นของฝากที่น่าสนใจอยู่เสมอ

 

บางคนบอกว่าไม่กล้าซื้อของในห้าง แต่ขอซื้อกระเป๋าไว้ใส่ในเมืองไทยว่าเคยมา Harrods ก็ยังดี…

ทุกวันนี้ ห้าง Harrods ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สมัย ความร่วมสมัยของศิลปะแบบดั้งเดิม ผนวกกับความทันสมัยของกระแสนิยม จึงรวมตัวกันได้เป็นอย่างดี นี่อาจเป็นตัวอย่างสำคัญของความเป็น Modern Vintage ที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่ Knightsbridge

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Written by Vintage Hart

Vintage style by Origin