รีวิวฉบับที่ 630 … วันนี้จะพาไปดูบ้านเดี่ยวย่านรามคำแหงค่ะ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในชื่อโครงการ KC Natural City รามคำแหง บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซึ่งหลาย ๆ คนที่ผ่านย่านรามคำแหงบ่อย ๆ อาจจะพอคุ้นหูมาบ้าง โดยตอนนี้โครงการได้เริ่มเปิดเฟสใหม่ เป็นเฟสที่อยู่ด้านในสุดของพื้นที่ดินค่ะ โดยแบบบ้านมีให้เลือกหลายขนาดรวมแล้ว 8 แบบและมีบ้านตัวอย่างก็มีให้ชมทั้งหมด 5 หลังค่ะ อย่ารอช้าไปอ่านรายละเอียดและเข้าชมโครงการกันดีกว่า
Fact @ 17 July 2014
- K.C. Natural City Ramkhamhaeng (เค.ซี. เนเชอรัล ซิตี้ รามคำแหง)
- บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : สะพานสูง
- เนื้อที่โครงการ 51-1-78 ไร่
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 200 ยูนิต
- พื้นที่ใช้สอย 117-270 ตร.ม.
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 50 ตารางวา
- ราคาเริ่มต้น 4.79 ล้านบาท หรือ 78,565 บาทต่อตารางวา
- ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นตารางวาละ 40,000 บาท
- เริ่มก่อสร้าง 2550
- http://www.kcproperty.co.th/project-info-en.asp?project_id=25
- สำนักงานขาย : 02-729 2951-2
ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเราได้นะคะ 😀
New ! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้ค่ะ
พิกัด : 13.774663,100.691035
แผนที่จากทางโครงการค่ะ KC Natural City รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนเลียบทางด่วนกาญจนาภิเษกค่ะ
KC Natural City รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนเลียบทางด่วนกาญจนาภิเษก อยู่ไม่ไกลจาก ซอยราษฏร์พัฒนา ถนนสายสำคัญของโครงการคือถนนรามคำแหงค่ะ อยู่ห่างจากแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยถนนช่วงรามคำแหงจากแยกลำสาลี จนถึงแยกตัดกับถนนสุวินทวงศ์ ถนนช่วงนี้มักจะคุ้นในชื่อของถนนสุขภิบาล 3 มีความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร เริ่มต้นจากแยกลำสาลีในเขตบางกะปิ ซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ มีทิศทางมุ่งไปทางทิศใต้ ตัดกับถนนพ่วงศิริ ผ่านแยกบ้านม้า (จุดตัดกับถนนศรีบูรพา) เข้าพื้นที่เขตสะพานสูง ตัดกับถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก) เข้าพื้นที่เขตมีนบุรี ผ่านแยกลาดบัวขาว (จุดตัดกับถนนมีนพัฒนา) และแยกรามคำแหง-ร่มเกล้า (จุดตัดกับถนนร่มเกล้า) ไปสิ้นสุดที่แยกรามคำแหง-สุวินทวงศ์ค่ะ
และเนื่องจากเป็นถนนเส้นยาวที่เชื่อมต่อกับถนนหลักหลาย ๆ สายทั้งลาดพร้าว ,ศรีนครินทร์และกาญจนาภิเษก ทำให้เส้นรามคำแหงจะมีร้านค้า แหล่งชอปปิ้งทั้งใหญ่และเล็ก ถ้านับจากม.รามคำแหงมา ก็มีให้เลือกมากมายค่ะ
ตามแผนงานจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีแผนเปิดบริการภายในปี 2562 ค่ะ ต้องรอกันหน่อยนะ ประมาณ5-6 ปีค่ะ สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม คลิกที่นี่ โดยโครงการจะอยู่ระหว่าง 2 สถานีซึ่งจะสะดวกต่างกันคือสถานี 24 สถานีน้อมเกล้า และสถานีที่ 23 สถานีสัมมากร
นอกจากนี้คลองแสนแสบที่วิ่งขนานกับถนนรามคำแหงยังมีโครงการบริการเดินเรือคลองแสนแสบในเส้นทางต่อขยาย 14 ท่าเรือ ที่ทาง กทม. ได้เปิดเส้นทางตั้งแต่ ท่าเรือวัดศรีบุญเรืองไปจนถึงท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี ซึ่งใช้เวลาเพียง 25-30 นาที เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อการลดการจราจรที่ติดขัดบนถนน เปิดให้ใช้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อปีที่แล้วค่ะ (ปี 2556) อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ คลิก>> Captain Boat เป็นเฟซบุ้คของทาง กทม. นะคะ เห็นมีการจัดเสวนาที่ชื่อ คลองแสนแสบทศวรรษใหม่ ควรพัฒนาอย่างไร ที่มีคนในชุมชนไปร่วมด้วยหลายครั้งที่เดียว สนใจดูคลิป คลิกที่นี่ ส่วนท่าเรือที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือ ท่าเรือ หลอแหลใหญ่ ค่ะ
ภาพด้านบนเป็นภาพของสถานีโครงการบริการเดินเรือคลองแสนแสบในเส้นทางต่อขยาย 14 ท่าเรือ ที่ทาง กทม. ได้เปิดเส้นทางตั้งแต่ ท่าเรือวัดศรีบุญเรืองไปจนถึงท่าเรือสำนักงานเขตมีนบุรี ค่ะ ที่ใส่กรอบแดงไว้คือท่าเรือที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดคือท่าเรือ หลอแหลใหญ่ ค่ะ
วันนี้เราเริ่มเดินทางกันมาจากถนนพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหงค่ะ พอถึงถนนรามคำแหงก็ขึ้นทางยกระดับข้ามแยกลำสาลีไปเพื่อเลี่ยงรถติด แล้วขึ้นทางยกระดับอีกที แล้วตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านแยกยกต่างระดับเลยมาประมาณ 200 เมตรให้เตรียมเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนกาญจนาภิเษกค่ะ
พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรามคำแหงมา จะเห็นฝั่งซ้ายมือมี Foodland ค่ะ
ขับมาสักพักก็จะเห็นเดอะมอลล์รามคำแหง ขนาบ 2 ฝั่งถนนแบบนี้ค่ะ เดอะมอลล์รามคำแหงอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 10.8 กิโลเมตรนะ
ขับมาซักพักพอเห็นป้ายไป ถ.ศรีนครินทร์ ก็ชิดขวาเตรียมขับขึ้นสะพานยกระดับ นะคะ
บนทางยกระดับจะเห็นว่ามีสัญญาณไฟ x สีแดง ฝั่งขวาเพื่อรองรับปริมาณรถขาเข้าเมืองช่วงเช้าค่ะ เราก็ชิดซ้ายไว้นะคะ เพราะเลนขวาจะมีรถขาเข้าที่วิ่งสวนมาเปลี่ยนเป็นถนนฝั่งขวา(จะเห็นว่ามีรั้วมาวางบล๊อคทางไว้ด้วย) พอช่วงเย็นก็จะปิดฝั่งตรงข้าม 1 เลนเพื่อระบายรถขาออกค่ะ
ลงมาจากสะพานยกระดับก็ขับตรงมาซักพัก ก็ให้ชิดขวาและเตรียมขึ้นสะพานข้ามแยกลำสาลี
ตรงขึ้นสะพานข้ามแยกลำสาลี
ลงจากสะพานแล้วขับมาเรื่อยๆฝั่งซ้ายมือจะเห็น ปั๊มEsso และตึกAmway
ขับต่อมาจะเห็นแยกบ้านม้า ที่เลี้ยวซ้ายไปถนนศรีบูรพา แต่เราตรงต่อไปนะ
ขับมาต่อมาจะเห็นโรงเรียนนานาชาติรามคำแหง และ Big C extra
ขับต่อมาจะเห็นแมคโดนัลด์และ The Paseo community mall
ขับต่อมาจะเห็นป้าย Tops market ซึ่งตรงนี้คือ Siam Future เป็นแหล่งชอปปิ้ง ร้านค้าร้านอาหาร มีทั้ง Mk ร้านภูฟ้า ให้มาจับจ่ายค่ะ ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กิโลเมตร
ขับไปซักพักจะเห็นป้ายบอกทาง เราตรงไปทางมีนบุรีต่อไปค่ะ เพราะถ้าจะเลี้ยวเข้ากาญจนาภิเษกต้องเลยตรงแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 ตรงนี้ก่อนค่ะถึงจะมีทางเลี้ยวขวาให้เข้ากาญจนาภิเษก
ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอแยกที่ตัดกับถนนกาญจนาภิเษกแล้วค่ะ ด้านขวาคือถนนกาญจนาภิเษกค่ะแต่ตรงนี้ไม่มีทางเลี้ยวเข้าไปนะคะ ต้องตรงไปก่อน เพราะทางด้านขวาจะทางที่รถวิ่งจากกาญจนาภิเษกเข้ามารามคำแหง แต่ไม่สามารถเข้าเส้นกาญจนาภิเษกจากตรงนี้ได้
ตรงไปผ่านทางต่างระดับค่ะหรือแยกต่างระดับสุขาภิบาล 3 นั่นเอง
เลยแยกมาประมาณ 200 ม.ให้เตรียมเลี้ยวขวา
เลี้ยวขวามาจะเป็นเส้นทางเลียบเข้าถนนกาญจนาภิเษก
โครงการจะอยู่บนถนนคู่ขนานกับถนนกาญจนาภิเษกดังนั้นให้เลี้ยวซ้ายไว้ค่ะ
โครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ หาไม่ยากเพราะป้ายหน้าโครงการใหญ่เห็นได้ชัด
KC Natural City รามคำแหง ถนนทางเข้าอยู่ติดกับถนนเลียบกาญจนาภิเษก เข้าไปประมาณ 70 ม.จะเป็นป้อม รปภ.ของโครงการค่ะ โดยรอบโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2-3 ชั้นมีหมู่บ้านที่่อยู่ติดถนนรามคำแหงและซอยราษฏร์พัฒนาทำให้ซอยนั้นมีร้านค้า ร้านอาหารและคึกคักกว่าหน้าโครงการค่ะ
สำหรับโครงการนี้มีมาตั้งแต่ปี 2547 แล้วค่ะจึงทำให้มีลูกบ้านเข้าอยู่อาศัยแทบจะครบทุกหลังที่ขายแล้ว และทำให้เราได้เห็นสภาพแวดล้อมของโครงการว่าปัจจุบันเป็นอย่างไรค่ะ เนื่องจากต้นไม้ของโครงการ และต้นไม้ของแต่ละหลังก็โตพอให้ร่มเงาได้แล้วค่ะ
เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเห็นป้อมรปภ. ถนนเป็นถนน 4 เลนค่ะ
แต่เมื่อมาตรงถึงป้อมจะเป็นทางแคบลงเหลือ 2 เลน ตรงป้อมจะมี CCTV
เมื่อผ่านป้อมยามแล้วเลี้ยวซ้ายมาจะเจอกับสำนักงานขายทั้งซอยเลยค่ะ เพราะที่นี่มีบ้านตัวอย่างให้ดูถึง 5 หลังเลย
มาในโครงการถนนหลักจะกว้าง 12 ม. ส่วนถนนย่อยในซอยกว้าง 9 ม.ค่ะ
ในซอยโครงการ เนื่องจากเป็นโครงการที่ก่อสร้างเสร็จมาได้ระยะพอสมควรแล้ว ทำให้ต้นไม้ของบ้านต่าง ๆ โตขึ้นพอที่จะให้ร่มเงา และความร่มรื่นในตัวโครงการ สำหรับสองข้างทาง ต้นไม้โครงการจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ ดังนั้นจะพึ่งความร่มรื่นหลัก ๆ ก็มาจากบ้านแต่ละหลังเลยค่ะ
สำหรับส่วนกลางจะอยู่ไม่ไกลจากป้อมรปภ.ค่ะ เข้ามาจะเจอกับClub house และสวนของโครงการ
สวนและทางเดินออกกำลังกายรอบสวนค่ะ
Club house เป็นอาคาร 2 ชั้น แต่ตอนนี้ชั้นบนไม่ได้มีการใช้งานอะไรค่ะ
เข้ามาข้างในจะมีพื้นที่นั่งเล่นนิดหน่อยค่ะ ส่วนตรงนี้ไม่ได้ติดแอร์นะคะ พื้นปูด้วยแกรนิตโต้และกระเบื้องสีทำเป็นลวดลาย
และชั้นนี้ก็จะวางเครื่องเล่นไว้ตรงนี้กันเลย
ติดกันนั้นก็เป็นประตูที่ไปยังส่วนถัดไปค่ะ ด้านซ้ายจะเป็นห้องเล็ก ๆ มีโต๊ะประชุมตั้งอยู่ภายในค่ะ
ด้านขวาออกมาจะเป็นส่วนที่ติดกับสวนและสระว่ายน้ำของโครงการ
มุมห้องน้ำแยก ชาย-หญิง
สระว่ายน้ำค่ะ มีพื้นที่ล้างตัวและมุมนั่งเล่น
อีกมุมของสระ จะเห็นพื้นที่นั่งเล่นริมสระอยู่ทางขวามือ สระว่ายน้ำของโครงการกว้าง 10×15 ม.เป็นระบบคลอรีน
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีล ขนาด 10×15 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- สวนสาธารณะ 725 ตร.วา
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 8 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- Key Card Access ระยะใกล้
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ส่วนของ Club House มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือค่าสมาชิกปีละ 8,900 บาท หรือต่อครั้งฟิตเนส 100 บ./ครั้ง,สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ 80 บาทและเด็ก 40 บ./ครั้ง
ก่อนอื่นจะขอบอกก่อนนะคะว่า เฟสใหม่ที่เปิดขายจะมีวัสดุบางอย่างที่ไม่เหมือนบ้านตัวอย่างค่ะ เนื่องจากบ้านตัวอย่างเป็นบ้านตั้งแต่ช่วงแรกที่เปิดขาย เมื่อมีเฟสใหม่ทางโครงการได้ปรับให้พื้นบ้านชั้นบนจากปาร์เก้เป็นลามิเนต นอกจากบางหลังที่สร้างมาก่อนจะมีนโยบายส่วนนี้ ดังนั้นลูกบ้านที่จะเข้าไปจับจอง อย่าลืมถามนะคะว่าบ้านที่สนใจวัสดุเป็นอะไรอย่างไรค่ะ : )
SAPPHIRE บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาด 188 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เนื่องจากเป็นบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ 188 ตร.ม.จึงจัดพื้นที่ใช้สอยได้แบบหลวม ๆ ไม่แออัดค่ะ ชั้น 1 พื้นที่ตรงส่วนห้องนั่งเล่นก็มีขนาดกว้างประมาณ 3.75×5.70 ม. ทำให้วางโซฟาชุดตัวใหญ่ได้ ติดกันนั้นเป็นมุมทานอาหาร แต่มุมนี้อยู่ไกลจากส่วนครัวไปหน่อย คือต้องเดินผ่านห้องน้ำและบันไดจึงจะถึงส่วนของครัวค่ะ เวลายกอาหาร หรือลืมหยิบเครื่องปรุงก็เดินไกลหน่อย ด้านหลังก็มีส่วนครัวไทยแยกให้ต่างหากค่ะ สำหรับชั้นบนจะมีห้องนอน 3 ห้องโดยห้อง Master bedroom จะกินพื้นที่ด้านหน้าบ้านทั้งหมดค่ะ ดังนั้นจะมีขนาดกว้าง ส่วนห้องนอนกลางและเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมค่ะ และหลังนี้จะมีห้องพระให้ด้วย
บ้านจะตกแต่งและทาสีโทนสีขาว ครีมและน้ำตาลอ่อน
พื้นที่จอดรถปูด้วยกระเบื้องโทนสีน้ำตาลเข้มเว้นร่องระหว่างช่วงด้วยทรายล้างเพื่อให้ให้พื้นลื่นเกินไปเวลาฝนตกค่ะ ด้านข้างซ้ายจะเห็นว่ามีช่องตรงผนัง สามารถเก็บของหรือทำเป็นชั้นรองเท้าได้ค่ะ และตรงนี้ก็จะมีประตูที่เปิดเข้าไปเจอกับส่วนครัวของบ้าน
ประตูหน้าบ้านจะมีเฉลียงปูด้วยแกรนิตโต้พร้อมกระเบื้องสีเข้มเป็นกรอบ พื้นยกระดับจากพื้นดินสุงหน่อยโดยมีบันไดเล็ก ๆ 1 ขั้นค่ะ เวลาลงจากรถจะเข้าตรงหน้าบ้านก็ไม่ต้องตากฝน เพราะด้านบนมีหลังคาคลุมไว้
ประตูหน้าบ้านเป็นกระจก กรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว มือจับทั้งด้านในและด้านนอกเป็นแบบคันโยก กระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง
พื้นในบ้านจะยกระดับจากพื้นเฉลียงเล็กน้อยค่ะ
ด้านในชั้นนี้จะปูด้วยแกรนิตโต้ทั้งหมด เข้ามาในบ้านภาพแรกที่เห็นคือภาพนี้ค่ะ จะเห็นเกือบทุกส่วนของตัวบ้านเลย บ้านจะขายแบบบ้านเปล่านะคะ สำหรับบ้านตัวอย่างจะมีการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built in ไว้ให้ดูเป็นไอเดียแต่งบ้านค่ะ
ด้านซ้ายเข้ามาจะเป็นตำแหน่งติดตั้งทีวีนะคะ
้ด้านขวาจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องทานอาหาร
มุมนั่งเล่นได้มุมกว้าง ๆ เลยค่ะ คือสามารถวางโซฟาตัวใหญ่กว่านี้สำหรับสมาชิกในบ้านและเผื่อแขกมาเที่ยวหาได้เลย แต่จริง ๆ ควรหันโซฟาเข้าทีวีหน่อยนะคะ 🙂 ถ้าวางอย่างงี้เมื่อยคอแย่เลย มุมนี้จะสว่างเพราะมีหน้าต่างอยู่ชิดกัน 2 จุดแบบนี้ค่ะ
ส่วนพื้นที่นั่งทานอาหาร มีพื้นที่กว้างค่ะ วางโต๊ะใหญ่ได้ หรือจะวางตู้ ทำPantry ตรงนี้ก็ได้ค่ะเพราะส่วนนี้อยู่ไกลจากครัวไปหน่อย คือต้องเดินไปมาบ่อยๆ ดังนั้นถ้ามี Pantry ตรงนี้ก็จะสะดวกกว่า อย่างเวลาเช้า ๆ อยากดื่มกาแฟแค่นั้นก็นั่งทานมุมนี้ได้เลย
คราวนี้หันมาดูอีกส่วนของบ้านค่ะ ตรงนี้ก็จะมีบันได ห้องน้ำ และส่วนของครัว
เราขยับเลยบันไดกันไปก่อนนะคะ มาดูส่วนครัวก่อน โดยก่อนถึงครัวจะเห็นประตูอยู่ 2 บาน บานซ้ายเป็นประตูเปิดไปเจอกับพื้นที่จอดรถ บายขวาเป็นประตูห้องน้ำค่ะ
บานซ้ายเปิดไปจะเป็นแบบนี้ค่ะ พื้นลดระดับลงไปประมาณ 15 ซม.หรือประมาณ 1 ขั้นบันไดค่ะ แล้วก็จะลงไปเจอกับเฉลียงเล็กๆ ก่อนถึงพื้นที่จอดรถ
ส่วนห้องน้ำ พื้นจะลดระดับลงมาเล็กน้อย
ภายในปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.
เคาน์เตอร์ห้องน้ำปูหินแกรนิตสีดำ พร้อมฝังอ่างล้างหน้า ทำให้บริเวณรอบอ่างมีพื้นที่วางของได้เยอะค่ะ เหนืออ่างจะมีกระจกเงาบานใหญ่ให้แบบนี้
บ้านจริงจะได้โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
ข้างกันนั้นจะเป็นส่วนอาบน้ำค่ะ โดยตรงนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆ ทำให้ห้องน้ำไม่ทึบและช่วยระบายอากาศได้ ตรงนี้ฝักบัวอยู่ตรงข้ามกับราวแขวน ซึ่งการใช้งานจริงจะไม่ค่อยสะดวกนักเพราะเปิดน้ำมา ผ้าที่แขวนอยู่ได้เปียกแน่ ๆ แต่ก็แก้ไขไม่ยากค่ะ แค่ย้ายที่ก็เรียบร้อย ไม่มีปัญหา
พื้นตรงส่วนอาบน้ำจะลดระดับลงไปเล็กน้อยค่ะ
ส่วนของครัวก็จะสว่างเพราะมีหน้าต่างอยู่ 2 บาน ทำให้มุมนี้สว่าง แต่ครัวจะทำเคาน์เตอร์ยาวได้ด้านเดียวค่ะแบบนี้ เพราะด้านที่ติดกับที่จอดรถ มีหน้าต่างบานยาว ถ้าทำเคาน์เตอร์ก็จะเลยขอบหน้าต่าง มองจากภายนอกอาจไม่ค่อยสวนนัก ดังนั้นตรงนี้ต้องออกแบบหรือทำด้านหลังเคาน์เตอร์ดี ๆ นะคะ
ซึ่งตรงครัวนี้จะเป็นเหมือน Pantry มากกว่าค่ะเพราะประตูด้านขวามือที่เห็นเปิดไปหลังบ้านจะมีครัวไทยแยกไว้ให้
ออกมาด้านนอกจะเจอกับพื้นที่ครัวไทยซึ่งอยู่ติดกับลานซักล้างด้านหลังบ้านแบบนี้ค่ะ
หันกลับไปดูครัวไทย โครงการจะมีเคาน์เตอร์ครัวพร้อมกระเบื้องตกแต่งให้แบบนี้
เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต มีอ่างล้างจานให้ค่ะ
อีกด้านจะเป็นเคาน์เตอร์ยาว ๆ ให้แบบนี้
คราวนี้ขึ้นไปชั้นบนกันบ้างดีกว่าค่ะ บันไดบ้านเป็นปาร์เก้ แต่บ้านโซนใหม่จะเป็นพื้นลามิเนตนะคะ
ชานพักจะมีหน้าต่างบานใหญ๋ทำให้ตรงบันไดไม่ทึบค่ะ
มองกลับมาดูตรงบันได ชานพักจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำให้เดินสะดวก
ขึ้นมาตรงโถงบันไดจะเป็นตัวแจกจ่ายไปยังห้องต่าง ๆ ตรงหน้าที่เห็นคือ Master bedroom ด้านซ้ายจะมีห้องนอนเล็ก ด้านขวาเป็นห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับพื้นที่อเนกประสงค์ ในสุดคือห้องนอนกลางค่ะ สำหรับชั้นนี้พื้นจะปูด้วยปาร์เก้สำหรับบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ส่วนบ้านโซนใหม่จะปูด้วยลามิเนต หรือแกรนิตโต้แล้วแต่แบบบ้านค่ะ
เมื่อขึ้นบันไดแล้วหันมาด้านขวา จะเป็นแบบนี้ค่ะ ด้านซ้ายเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ จะกั้นห้องหรือทำเป็นห้องพระก็ได้ค่ะ ตรงกลางคือห้องนอนกลาง ด้านขวาคือห้องน้ำซึ่งเป็นห้องน้ำที่ห้องนอนเล็ก 2 ห้องใช้ร่วมกัน
ส่วนด้านซ้ายมือจากบันได จะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ ในภาพนี้ประตูทางขวามือที่เห็นคือประตูของ Master bedroom
พื้นห้องเป็นปาร์เก้ต่อเนื่องมาจากโถงบันได
ภายในห้องนอนเล็กค่ะ แม้จะเป็นห้องเล็กสุดในบ้านแต่พื้นที่การใช้งานสามารถวางเฟอร์นิเจอร์จำเป็นต่าง ๆ ได้ครบค่ะ ทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้า พื้นที่ปลายเตียงก็มีให้วางชั้นหรือจะทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ ในห้องมีหน้าต่าง 2 บานทำให้ห้องสว่าง
เตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตได้
พื้นที่ข้างเตียงก็เหลือให้วางโต๊ะตัวเตียงเล็ก ๆ ได้ค่ะ หรือจะวางเตียง 5 ฟุตแต่ไม่เอาโต๊ะหัวเตียงก็ทำได้เช่นกัน
มุมข้างเตียงก็สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ หรือจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็แล้วแต่ชอบเลย
เพราะถ้าย้ายตู้เสื้อผ้ามาปลายเตียงก็จะสามารถวางตู้ได้ใหญ่กว่าค่ะ หรือถ้าใครชอบดูทีวี ตรงนี้ติดตั้งทีวีไว้และแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะทำงานก็สามารถทำได้
ระยะห่างระหว่างปลายเตียงและโต๊ะทำงานเหลือให้สบาย ๆ วางเก้าอี้ก็มีพื้นที่นั่งไม่อึดอัด
มาดูห้องติด ๆ กันนั้นบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับ Master bedroom พื้นเป็นปาร์เก้เช่นเดียวกัน
ภานในห้องก็จะสว่างหน่อยค่ะ ห้องนี้จะมีระเบียงส่วนตัวด้วยนะคะ
เตียงวางขนาด 6 ฟุตได้สบาย ๆค่ะ
หัวเตียงและด้านข้างมีหน้าต่างกระจกอยู่ มุมเตียงเลยโปร่ง
ปลายเตียงจะทำเป็นโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และวางทีวีแบบนี้ก็ได้ค่ะ เพราะพื้นที่เหลือเยอะเลย
หันกลับมาดูอีกด้าน บ้านจริงตรงนี้ก็จะโล่ง ๆ นะคะไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ให้ ตรงนี้สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ ซึ่งทำเป็นตู้ใหญ่ ๆ ได้สบาย ๆ เลย
ข้างกันนั้นจะมีประตูระเบียงห้อง
กรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง พื้นลดระดับลงเล็กน้อย
พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. มีราวกันตกเป็นอลูมิเนียมสีดำ
ถัดจากมุมแต่งตัวก็จะเป็นกระตูห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำบ้านนี้จะกว้างและสว่างมาก เพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ 2 บานแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเซ็กซี่ไม่น้อย ตรงนี้ต้องติดมู่ลี่เพิ่มแน่นอนค่ะเพราะกระจกใสแจ๋วเชียว ส่วนมุมที่ติดกับโถสุขภัณฑ์ ตามแบบแล้วตรงนั้นจะเป็นตำแหน่งของอ่างอาบน้ำค่ะ
เข้ามาด้านซ้ายมือเป็นอ่างล้างหน้า เคาน์เตอร์เป็นแกรนิตแบบนี้ทำให้วางของได้เยอะค่ะ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
พื้นที่อเนกประสงค์มุมนี้ จะเจาะเป็นช่องกว้างค่ะไม่ได้มีประตูให้
ภายในขนาดกำลังพอดีที่จะทำห้องพระเลยค่ะ วางโต๊ะหมู่บูชาก็มีที่ให้สามารถนั่งสมาธิ นั่งไหว้พระได้
คราวนี้มาดูห้องนอนกลางกันดีกว่า ห้องนี้จะเป็นห้องแนวยาว
เตียงสามารถวางขนาด 5-6 ฟุตได้ค่ะ พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงได้
ปลายเตียงบ้านจริงจะเป็นช่องยาวไปจนถึงผนังนะคะ แต่บ้านตัวอย่างกั้นไว้ให้ดูว่า สามารถทำเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet ได้
พื้นที่ภายในตู้ค่ะ
สามารถกั้นส่วนของตู้เสื้อผ้า และช่องวางได้แบบนี้เลยคะ
อีกด้านของห้องจะมีห้องน้ำ ห้องนี้จะสะดวกหน่อยเพราะสามารถเข้าห้องน้ำจากห้องตัวเองได้เลย
ภายในห้องน้ำก็สว่างเล็กน้อยจากหน้าต่างบานกระทุ้งเล็ก ๆ ที่อยุ่ตรงส่วนอาบน้ำค่ะ
ห้องน้ำนี้เนื่องจากใช้ร่วมกันระหว่างห้องเล็ก 2 ห้องจึงได้ทำประตูที่เปิดเข้าได้จาก 2 ทาง พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปเล็กน้อยค่ะ ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.
อ่างล้างหน้าห้องนี้ก็ได้เคาน์เตอร์เป็นแกรนิตค่ะ
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
ส่วนอาบน้ำพื้นจะลดระดับลงไปเล็กน้อยค่ะ
LAZULI บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาด 193 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีห้องแม่บ้านและครัวไทยใหญ่ขึ้นมาหน่อยแต่มีการจัดพื้นที่ใช้สอยบางส่วนต่างกันจึงนำมาให้ชมค่ะ โดยบ้านแบบนี้มีพื้นที่ของห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านเพิ่มเข้ามา พื้นที่ตรงส่วนนั่งเล่นจึงเล็กกว่าหลังเมื่อกี้ค่ะ ชั้นล่างจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ส่วนทานอาหาร และส่วนครัวในบ้านที่กว้างขึ้นมา ด้านหลังมีส่วนของครัวไทย พื้นที่ซักล้างและห้องแม่บ้าน ชั้นบน ขนาดห้องแต่ละห้องต่างกันไม่มากนัก เพียงแต่ว่า Master bedroom มีห้องน้ำส่วนตัวและระเบียงเพิ่มเข้ามาจึงกลายเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดค่ะ สำหรับชั้นนี้จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานได้อีกด้วย
คราวนี้มาดูบ้านหลังใหญ่สุดในบ้านตัวอย่างเป็นบ้านแบบ ลาซูลี่ ขนาด 193 ตร.ม. บ้านจะตกแต่งและทาสีโทนเดียวกันค่ะคือสีขาว ครีมและน้ำตาลอ่อน
ส่วนจอดรถ สามารถรถได้ 2 คน ตรงนี้จะกว้างประมาณ 5.25×5.25 ม. มีประตูที่เปิดเข้าในตัวบ้านได้เลย ด้านขวามือก็มีช่องสามารถทำเป็นชั้นรองเท้าหรือชั้นเก็บของได้ค่ะ
ด้านข้างอีกมุมค่ะ
ข้างนี้จะเห็นส่วนของครัวไทยและประตูห้องน้ำของแม่บ้าน ส่วนหน้าต่างเล็ก ๆ คือหน้าต่างห้องแม่บ้านค่ะ
ด้านซ้ายของตัวบ้านค่ะ จะเห็นว่ามีหน้าต่างกระจกเยอะทีเดียว ซึ่งทำให้ตัวบ้านไม่ดูทึบค่ะ
ประตุหน้าบ้านก็จะต่อกับที่จอดรถแบบนี้เลย เวลาฝนตกก็ไม่เปียกเพราะมีหลังคาคลุมไปจนถึงประตู ก่อนถึงประตูจะมีเฉลียงที่ยกระดับจากพื้นดิน
ส่วนตัวบ้านก็ยกระดับจากพื้นเฉลียงอีกเล็กน้อยค่ะ ประตูบ้านเป็นกรอบอลูมิเนียมสีขาว แต่หลังนี้จะเป็นประตูบานเลื่อนนะคะ
เข้าไปในบ้านภาพแรกที่เห็นคือแบบนี้ค่ะ หลังนี้ส่วนแรกเมื่อเปิดเข้าไปจะเป็นมุมของห้องนั่งเล่น
ด้านนี้ก็จะเป็นตำแหน่งติดตั้งทีวีค่ะ
มุมนี้ก็จะสว่างหน่อยเพราะติดกับประตูและหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 มุม สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ได้ค่ะ
เพราะระยะห่างระหว่างโซฟากับโต๊ะทานอาหารจะมีพื้นที่เปล่าตรงนี้ ดังนั้นจะวางโซฟาเลยมาส่วนนี้ก็ยังได้ค่ะ แต่มุมนี้อาจจะดูทีวีเยื้อง ๆ ซักหน่อย
ถัดไปเป็นส่วนของโต๊ะทานอาหารและครัว
มุมนี้ก็ยังสว่างเพราะมีหน้าต่างกระจก 2 มุมค่ะ ตรงนี้จะวางโต๊ะใหญ่กว่านี้สำหรับบ้านที่มักมีแขกมาบ่อยก็ได้นะคะ
หันไปทางหลังบ้าน ก็จะเป็นส่วนของ ครัวและห้องน้ำ สำหรับประตูที่เห็นคือประตูที่เปิดไปยังหลังบ้านค่ะ
มุมนี้แม้จะสว่างน้อยกว่าบ้านหลังแรกที่พาไปชม เพราะไม่ได้มีหน้าต่างกระจก แต่ทำเคาน์เตอร์ได้ยาวกว่า มีพื้นที่มากกว่า เพราะทำเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ได้สามารถกั้นพื้นที่ตรงนี้แยกส่วนครัวออกจากบ้านได้เลยค่ะ
ด้านหลังจะติดกับห้องน้ำและประตูหลังบ้าน
ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างเล็ก ๆ อยู่ค่ะ สำหรับการตกแต่งและกระเบื้องที่ใช้ในห้องน้ำแต่ละหลังจะแตกต่างกันนะคะ ตรงนี้ก็สามารถขอรายละเอียดจากสำนักงานขายได้เลย
พื้นลดระดับลงมาเล็กน้อย
ภายในห้องนีได้กระจกบานใหญ่เต็มบาน เคาน์เตอร์อ่างก็มาแบบเต็ม ๆ อย่างงี้เลยค่ะ
ห้องนี้มีพื้นที่แบ่งไว้สำหรับเป็นส่วนอาบน้ำด้วยค่ะ พื้นจะลดระดับลงเล็กน้อย แต่เวลาอาบน้ำจริงน้ำคงมีกระเด็นรอบห้องบ้างค่ะ
มุมนี้ติดกับที่แขวนผ้าแบบนี้ แน่นอนว่าถ้าใช้งานจริงผ้าคงเปียกแน่ แต่แก้ไม่ยากค่ะ ย้ายไปอีกฝั่งได้ค่ะจะไว้ใต้หน้าต่างก็เป็นจุดที่เหมาะสม
ประตูหลังบ้านเปิดไปเป็นส่วนของครัวไทยที่จะอยุ่ติดกับส่วนซักล้างค่ะ
พื้นและผนังตรงครัวไทยจะเป็นกระเบื้องสีน้ำตาล โครงการทำเคาน์เตอร์ครัวตรงนี้ให้ค่ะ ด้านซ้ายที่เห็น บ้านจริงจะมีประตูซึ่งเป็นห้องแม่บ้านค่ะ
มุมครัวไทยจะมีหน้าต่างบานเล็ก ๆ ให้ค่ะ
ภาพโดยรวมของส่วนนี้ค่ะ ห้องแม่บ้านจะมีหน้าต่างเล็ก ๆ อยู่ ติดกันนั้นก็เป็นห้องน้ำของแม่บ้าน
ต่อไปก็ขึ้นไปดูชั้น 2 กันค่ะ สำหรับบันไดจะเป็นไม้ปาร์เก้ บ้านโซนใหม่จะเป็นลามิเนต ใต้บันไดจะมีห้องเก็บของเล็ก ๆ ให้ค่ะ ด้านขวาคือประตูเปิดไปเป็นที่จอดรถ
เปิดประตูมาก็จะเจอเฉลียงเล็ก ๆ ก่อนจะถึงพื้นที่จอดรถ
เมื่อขึ้นบันไดมาตรงชานพักจะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ค่ะ
ก้มลงไปมองบันได ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบนี้ค่ะ
เมื่อขึ้นมาจะเป็นพื้นที่โถงบันไดเล็ก ๆ ด้านซ้ายเป็นห้องนอน 2 ห้องนั่นคือ Master Bedroom และห้องนอนกลาง ด้านขวาจะเป็นห้องนอนเล็กและพื้นที่นั่งเล่นหรือส่วน Family room พื้นชั้นนี้ก็ยังคงเป็นปาร์เก้นะคะ
Family room ตรงนี้จะทำเป็นห้องนั่งเล่น หรือมุมทำงานก็ได้ค่ะ
ตรงข้ามก็มีพื้นที่ติดดั้งทีวีถ้าหากจะทำเป็นห้องนั่งเล่น
รูปอีกมุมจะเห็นขนาดความกว้างว่าพื้นที่ประมาณ 3.5×3.25 ม. จะมีระยะนั่งโซฟาแบบนี้ ตรงนี้กว้างพอจะทำเป็นมุมอ่านหนังสือ มุมทำงานของลูก ๆ ก็ได้ค่ะ เหมาะสำหรับอ่านหนังสือด้วยเพราะมีหน้าต่างกระจก 2 ด้านทำให้ได้รับแสง ห้องไม่ทึบ
คราวนี้ไปดูห้องนอนกันค่ะ เริ่มจากห้อง Master Bedroom ก่อนแล้วกัน
ภายใน Master Bedroom ตรงส่วนห้องนี้จะดูแคบกว่าหลังเมื่อกี้ค่ะ คือจริง ๆ แล้ว Master Bedroom ขนาดตรงส่วนห้องนอนแทบไม่ต่างกับห้องนอนกลางเลย เพียงแต่จะมีห้องน้ำส่วนตัวและระเบียงห้องค่ะ
เตียงวางขนาด 5-6 ฟุตได้ พื้นที่ข้างเตียงเหลือให้เดินผ่านได้สบาย หัวเตียงมีหน้าต่างกระจก
ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ แต่ขนาดก็จะได้ไม่ใหญ่มากถ้าแบ่งพื้นที่ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
ข้างเตียงก็จะเป็นประตูเปิดไปยังระเบียงห้อง
ระเบียงห้องปูด้วยกระเบื้อง มีพื้นที่ประมาณ 1.75×1.25 ม.
พื้นที่ในห้องน้ำค่ะ ห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำให้
หน้าต่างกระจกทำเป็นหน้าต่างเข้ามุมอยู่เหนือส่วนอาบน้ำค่ะ
เหนือโถสุขภัณฑ์ก็มีหน้าต่างกระจกบานเล็ก ๆ อยู่ และมี Low wall ทำให้มีพื้นที่วางของเพิ่มค่ะ
อ่างอาบน้ำ Stand alone
ต่อไปก็มาดูห้องนอนกลางกันค่ะ ห้องนี้ส่วนห้องนอนเท่ากับ Master bedroom เลย มีหน้าต่าง 2 ด้านห้องเลยสว่าง
เตียงวางขนาด 5-6 ฟุตได้
ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานแบบนี้ได้ค่ะ
ห้องนี้จะมีอีกมุมที่วางตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้ ติดกันนั้นจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับห้องนอนเล็ก
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม ลดระดับลงไปเล็กน้อย
ด้านขวาจะเป็นอ่างล้างหน้ามีเคาน์เตอร์เป็นแกรนิต มีพื้นที่วางของได้เยอะค่ะ
ด้านซ้ายเป็นส่วนอาบน้ำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย ตรงนี้มีที่วางสบู่เล็ก ๆ ให้ค่ะดังนั้นต้องซื้อที่วางของมาติดตั้งเพิ่มกันหน่อย
มุมโถสุขภัณฑ์ ด้านบนจะมีหน้าต่างกระจกบานเล็ก ๆ ค่ะ และจะอยู่ติดกับประตูที่เชื่อมกับห้องนอนเล็ก
ภายในห้องนอนเล็กดูโปร่งเพราะมีหน้าต่างกระจก 2 บาน
หัวเตียงถ้าวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตก็จะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานได้ค่ะ
ปลายเตียงอาจทำเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้
พื้นที่โดยรวมของห้องค่ะ ห้องขนาดประมาณ 3.25×3.5 ม.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 July 2014
- บีว่า พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม. 61 ตร.วา 3 นอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.79 ล้านบาท หรือ 78,656 ต่อตร.วา
- บราวน์นี่ พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 60 ตร.วา 3 นอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.97 ล้านบาท หรือ 82,916 ต่อตร.วา
- อมิทิสต์ พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 79 ตร.วา 3 นอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.44 ล้านบาท หรือ 81,530 ต่อตร.วา
- คาร์นิเลียน พื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. 63.8 ตร.วา 3 นอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.81 ล้านบาท หรือ 91,097 ต่อตร.วา
- แซฟไฟร์ พื้นที่ใช้สอย 188 ตร.ม. 61.9 ตร.วา 3 นอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.07 ล้านบาท หรือ 98,158 ต่อตร.วา
- ลาซูลี่ พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. 60 ตร.วา 3 นอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.07 ล้านบาท หรือ 101,291 ต่อตร.วา
- เอ็มเมอร์รัล พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม. 68 ตร.วา 3 นอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.84 ล้านบาท หรือ 100,588 ต่อตร.วา
- โทปาส พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. 79.9 ตร.วา 3 นอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.96 ล้านบาท หรือ 99,687 ต่อตร.วา
- จอง 40,000 บาท และสัญญา 40,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 40,00 บาท
- โปรโมชั่นเดือนกรกฎาคม เครื่องปรับอากาศ 3 ตัว,ปั๊มน้ำ,แท็งค์น้ำ
- ค่าส่วนกลาง 12 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 5 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
KC Natural City รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก เป็นทางเลียบทางด่วนกาญจนา โดยตัวโครงการอยู่บนทำเลที่ถนนเชื่อมไปได้หลายเส้นทาง คือถนนรามคำแหง ซึ่งสามารถวิ่งไปออกได้หลายเส้นทางตั้งแต่ พระราม9, รัชดา, ลาดพร้าว, ศรีนครินทร์, พัฒนาการ นอกจากนี้ถ้าวิ่งเส้นรามคำแหงมาทางคลองตันก็สามารถตัดเข้าสุขุมวิทได้อีกด้วย.. ป้ายรถเมล์มีรถเมล์ผ่านหลายสาย มีวินรถตู้ผุดขึ้นมาให้เห็นบ้างแล้ว การเดินออกนอกเมืองสะดวก ไปได้หลายทาง แต่รถค่อนข้างติดนะคะ เนื่องจากมีหลายแยกอยู่บนถนนเส้นนี้ค่ะ ไม่ไกลจากตัวโครงการจะเป็นทางเข้าไปยังซอยราษฏร์พัฒนา ซึ่งซอยนั้นเชื่อมกับถนนเคหะริ่มเกล้าซึ่งวิ่งไปออกลาดกระบังได้
ตามแผนงานจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีแผนเปิดบริการภายในปี 2562 ค่ะ ต้องรอกันหน่อยนะ ประมาณ5-6 ปีค่ะ โดยโครงการจะอยู่กึ่งระหว่างสถานีค่ะ อย่างถ้าจะไปขึ้นรถไฟฟ้าสามารถเลือกสถานีสัมมากรโดยหาทางกลับรถตรงถนนกาญจนาภิเษก หรือจะลัดเข้าซอยราษฏร์พัฒนา เพื่อไปขึ้นสถานีราษฏร์พัฒนาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าจะลงจากรถไฟฟ้าก็ลงสถานีน้อมเกล้าแล้วนั่งแท็กซี่เข้าโครงการก็จะใกล้ที่สุด และยังมีอีกทางเลือกท่าเรือคลองแสนแสบ ใช้เรือหนีรถติดได้ ต้นสายคือท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ วิ่งไปถึงปลายสายคือสถานีสุวินทวงศ์ค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารการกินคงต้องไปพึ่งเส้นรามคำแหงที่จะมีทั้ง Lotus , ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย,The mall , Major หรือจะเข้าซอยราษฏร์พัฒนา ซึ่งซอยนั้นอาหารการกินจะเยอะหน่อยค่ะจะมีทั้งตลาดสด ร้านค้า Big c mini เพราะซอยนี้มีโครงการพักอาศัยอยู่เยอะ และยังมีเคหะร่มเกล้า ทำให้ซอยนี้คึกคักและก็รถติดตามช่วงเวลาค่ะ
สำหรับการออกแบบ เป็นบ้านที่จัดพื้นที่ใช้สอยได้กว้างค่ะเนื่องจากเป็นบ้านช่วงประมาณปี 2550 ซึ่งแน่นอนจะต่างกับบ้านสมัยนี้ที่บางหลังพื้นที่จะไม่มากนัก แต่สำหรับโครงการนี้ทุกหลังจะมีครัวไทยให้ค่ะ ซึ่งก็เหมาะกับวิถีชีวิตของคนไทย คือไม่จำเป็นต้องไปต่อเติมครัวหลังบ้านเพิ่มอีก ห้องนอนก็แบ่งพื้นที่ได้ไม่อึดอัดนักค่ะ แต่ก็ยังมีบางจุดที่ติดขัดค่ะอย่างห้องน้ำมักจะวางของใช้อย่าง อย่างที่แขวนผ้าตรงกับฝักบัว แต่ตรงนี้แก้ไขไม่ยากค่ะหรือห้องน้ำบางห้องให้หน้าต่างบานใหญ่และใสแจ๋วมา เมื่อใช้งานจริงตรงนี้กติดมู่ลี่เพิ่มแน่นอน โดยแต่ละแบบก็มีการจัดวางพื้นที่ใช้สอยที่ต่างกันออกไปบางแบบจัดวางเหมือนกันแต่ขนาดต่างกันไม่กี่ตารางเมตร หรือบางแบบพื้นที่ต่างกันไม่กี่ตารางเมตร แต่จัดวางห้องไม่เหมือนกัน ดังนั้นอย่าลืมเลือกดูกันดี ๆ นะคะ
สำหรับวัสดุต้องแยกออกพิจารณาเนื่องจากจะมีโซนบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่ โซนนี้จะได้วัสดุเหมือนบ้านตัวอย่างทั้งพื้นปาร์เก้ บันไดไม้ และสุขภัณฑ์ของ Mogen แต่สำหรับโซนใหม่ที่กำลังเปิดขายพื้นเป็นลามิเนต หรือบางหลังอย่างหลังบีว่าที่เป็นแบบบ้านที่เล็กที่สุดจะเป็นพื้นแกรนิตโต้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2 และสุขภัณฑ์โซนนี้จะเป็นของ American Standard ซึ่งสองโซนมีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างโซนแรกเป็นโซนที่ได้วัสดุดีกว่าแต่ก่อสร้างเสร็จมานานแล้ว ส่วนโซนหลังจะเป็นโซนใหม่ที่เพิ่งก่อสร้างแต่วัสดุจะด้อยกว่าค่ะ
สาธารณูปโภคให้มาทั้งClub house สระว่ายน้ำและสวนสาธารณะ แต่ตรงส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมคือค่าสมาชิกปีละ 8,900 บาท หรือต่อครั้งฟิตเนส 100 บ./ครั้ง,สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ 80 บาทและเด็ก 40 บ./ครั้ง สำหรับขนาดสระกว้าง 10×15 ม.ซึ่งสามารถว่ายเล่นได้ด้านข้างมีโต๊ะและเก้าอี้ให้นั่งเล่น สำหรับพื้นที่และความสะอาดในโครงการตรงนี้เราจะเห็นชัดเนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างเสร็จและมีลุกบ้านเข้ามาอยู่แล้ว ถ้าเข้ามาก็จะเห็นว่ว่าโครงการได้รับการดูแลเรื่องความสะอาด ถนนเรียบร้อย แต่บางจุดอาจยังดูแลได้ไม่ดี เช่นตรงสนามหญ้ารอบๆ Club Hosue ที่มีหญ้ารก….. และอีกจุดคือบริเวณรอบๆสระว่ายน้ำที่ วัสดุต่างๆเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา อาจต้องรอการบำรุงรักษาครั้งใหญ่จากนิติของโครงการนะคะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5 – 8 ล้านบาท, 17 July 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.25/10 – ติดถนนใหญ่เเชื่อมต่อหลายเส้นทางแต่กลับรถไกล
- ความปลอดภัย 7.25/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV 8 จุด
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – พื้นที่ใช้สอยลงตัว อาจมีติดขัดบ้างบางส่วน
- วัสดุ 7.5-7.75/10 – แล้วแต่แบบบ้านที่ได้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ดูแลความเรียบร้อยในโครงการได้ดี แต่มีบางส่วนที่อาจต้องดูแลเพิ่มเติม
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ครบทั้งสระว่ายน้ำ สวน ฟิตเนส แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- 7.43-7.45 / 10.00
BOTTOM LINE
KC Natural City รามคำแหง เหมาะสำหรับคนที่ทำงานหรือมองหาบ้านเดี่ยวย่านรามคำแหงหรือบริเวณใกล้เคียง ชอบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้าง มีครัวไทย นิยมใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือคิดเผื่อรถไฟฟ้าที่มีในอนาคต มีงบประมาณ 5-8 ล้านบาท
ชอบกด Like ใช่กด Share เลยนะคะ 😉