รีวิวฉบับที่ 1476 … kawa HAUS เป็นคอนโดตัวใหม่ล่าสุดของแบรนด์ HAUS โครงการที่อยู่ใน T77 จาก Sansiri โดยตัวนี้เป็นคอนโด  Low Rise ตัวที่ 2 ที่อยู่ติดริมคลองพระโขนงทางแสนสิริเลยจัดเต็มในส่วนกลาง เน้นการออกแบบ Facilities และตัวอาคารให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ซึ่งแนวคิดนี้ได้ถูกใช้กับผังของโครงการและรูปด้านตัวอาคารอย่างชัดเจนเลยครับ

Fact @ 18 November 2017

  • kawa HAUS (คาวะ เฮาส์)
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : สุขุมวิท 77 เขตวัฒนา
  • คอนโด Low Rise 7 ชั้น 3 อาคาร 546 ยูนิต
  • อาคารคลับเฮาส์ 2 ชั้นและที่จอดรถใต้ดิน
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิตที่อาคาร B1
  • ที่จอดรถประมาณ 250 คันคิดเป็น 45% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 6 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  ก.ย. 61
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ต.ค. 63
  • 1 Bedroom 1 Bathroom 29.75 – 43.75 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom 50.5 – 60 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 2 Bathroom 59.75 – 78.75 ตร.ม.
  • Villa 54 – 72 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 155,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1685
  • ถ้าใครสนใจโครงการเข้าไปลงทะเบียน รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท
  • เปิดตัวเร็วๆนี้  (พ.ย. 2560)

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

kawa HAUS นั้นจัดอยู่เป็นกลุ่มคอนโดใน T77 ที่ Sansiri ปั้นพื้นที่นี้จนกลายเป็นแหล่งที่พักอาศัยขนาดใหญ่ไปแล้ว ทำเลนี้ถูกพัฒนาไปเรื่อย ๆ โดยกลุ่มแรกคือ blocs77, Garden Square และ The Base ต่อมาก็เป็นกลุ่มคอนโดรอบ ๆ Habito ที่เป็น Community Mall คือ The Base park west และ The Base park east และกลุ่มถัดมาคือแบรนด์ HAUS ต่างๆ hasu HAUS, mori HAUS แล้วน้องสุดท้องก็คือ “kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri” ที่อยู่ด้านในสุด

การเดินทางใน T77 โดย Sansiri นี้สามารถเข้าออกจากโครงการได้ 2 ทางหลัก ๆ ครับ ทางแรกคือ ทางสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ที่ทางเข้าอยู่ระหว่าง Blocs และ The Base77 และอีกทางคือสุขุมวิท 71 โดยเข้ามาทางซอยปรีดีพนมยงค์ 2 จากนั้นรอดใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ จะเจอทางเข้าและผ่าน The Base Park west และทางเข้าถัดไปจะอยู่ถัดจากโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ใครที่ไม่ใช่รถก็ไม่ต้องห่วงครับเพราะใน T77 โดย Sansiri จะมี Shuttle bus ให้บริการทุก ๆ 20 นาที จาก Habito Mall ไป BTS อ่อนนุช

โครงการ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri ตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเดินทางโดยใช้รถยนต์ได้อย่างสะดวก เพราะมีทางเข้าออกหลายทาง ถ้าจะเข้าเมืองใช้ถนนสุขุมวิทไปเอกมัย ทองหล่อ อโศกก็ไม่ไกลมาก แต่ถ้ารถติดใช้ทางออกฝั่งสุขุมวิท 71 จะดีกว่า เพราะมีซอยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถทะลุออกเอกมัยได้หลายซอย หรือถ้าจะไปถนนเพชรบุรี-พระราม 9 ก็ใช้ซอยอ่อนนุช 17 ไปทะลุลงอุโมงค์ได้ครับ

นอกจากนี้ ยังมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจุดขึ้นทางด่วนนี้อยู่ห่างจากโครงการ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri เพียงแค่ 1 กม. เท่านั้น เหมือนออกจากบ้านมาก็ขึ้นทางด่วนได้เลย และจุดขึ้นทางด่วนอีกจุดที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก เป็นทางด่วนเฉลิมมหานครจะอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 62 ห่างจากโครงการ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri ประมาณ 3.7 กม. หรือจะมาขึ้นตรงแถวม.กรุงเทพกล้วยน้ำไทก็ได้นะ โดยวิ่งผ่านถนนพระรามสี่เข้ามาแล้วเลี้ยวเข้าถนนกล้วยน้ำไท ห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม. ซึ่งเป็นทางด่วนเส้นเดียวกับตรงซอยสุขุมวิท 62 คือทางด่วนเฉลิมมหานคร การเดินทางโดยรถยนต์สะดวกพอสมควรนะ แต่ปัญหาคือรถติดทุกเส้นที่ได้กล่าวมา แม้บนทางด่วนก็ติดครับในช่วงเวลาเร่งด่วนอยู่แถวนี้จะไปทำงานต้องเผื่อเวลาด้วยครับ

เรื่องความอุดมสมบูรณ์แถว T77 โดย Sansiri นี้ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เนื่องจากแถวนี้เป็นแหล่งชุมชนอยู่อาศัยเลยมีห้างร้านต่าง ๆ มากมายมาขึ้นกันเพียบ นอกจาก Habito ที่เป็น Community mall ใกล้ ๆ โครงการแล้ว ยังมี Big C และ Tesco Lotus อยู่ระหว่างทางไป BTS อ่อนนุชด้วย ตลาดสดก็มีอยู่ตรงข้าม Big C เรียกว่าครบเครื่องเลยครับ

ส่วนในอนาคตบริเวณใกล้ ๆ T77 โดย Sansiri นี้จะคึกคักขึ้นไปอีก เพราะมี Century Movie Plaza อ่อนนุชที่กำลังก่อสร้างอยู่ข้าง ๆ สถานี BTS อ่อนนุช ถ้าสร้างเสร็จจะเป็นตัวเพิ่มความหลากหลายของแหล่งเดินเที่ยวในย่านนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะคนแถวนี้ถ้าจะดูหนังต้องไป Major ตรงเอกมัยหรือไม่ก็ไปห้างเลย ถ้าที่นี่สร้างเสร็จก็ไม่ต้องไปไกลแหละ

Community Mall อีกจุดที่ใกล้กับ T77 ของ Sansiri คือ Summer Hill ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ น่าจะได้เดินเที่ยวปลายปีนี้แน่นอน ซึ่งอยู่ติดสถานี BTS พระโขนงเลย เอาไว้เป็นตัวเลือกหาอะไรกินเดินเล่นก่อนกลับบ้านได้ครับ พื้นที่พัฒนาโครงการเกือบ 5 ไร่ มีจำนวนร้านค้าประมาณ 40 ร้านได้ ซึ่งในตอนนี้ Starbucks เปิดให้บริการแล้วนะครับ

สิ่งนึงที่ยืนยันได้ว่าแถวนี้เป็นเริ่มมีการพัฒนามากเรื่อยๆ ก็คือการที่มีโครงการคอนโดมิเนียมมาเปิดอยู่เรื่อยๆ แถมทำเลในที่มาเปิดก็กระจุกตัวอยู่แถว BTS อ่อนนุช ถ้าลองนับดูจากระยะการเดินทางมา BTS อ่อนนุช ประมาณ 1 กม.รอบๆสถานีจะมีคอนโดอยู่เยอะมาก มีทั้งแบบ High Rise และ Low Rise หลากหลายรูปแบบและราคา ทำให้พื้นที่แถวนี้เลยกลายเป็นชุมชน Expat ขนาดใหญ่ไปแล้ว

การเดินทางจาก BTS ผมขอนำเนื้อหาบางช่วงของรีวิวในย่านอ่อนนุชมาใช้นะครับ เพราะเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ ๆ กันเลยและผมจะ Update ความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ใน T77 จาก Sansiri ให้ดูเพิ่มเติม แต่ยังเดินไปที่ดินของโครงการไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้ตัดถนนอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง Park Court ที่เป็นโครงการข้างเคียงอยู่ ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ ผมมีแผนที่ขอบเขตที่ดินมาให้ดูกันคร่าว ๆ แบบเข้าใจได้ไม่ยาก

วันนี้ผมยังคงใช้วิธีเดินไปโครงการคอนโดใน T77 จาก Sansiri อยู่นะครับ จะได้เห็นว่าบริเวณนี้และรอบ ๆ สถานีมีการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ทางออกที่ใช้จะเป็นทางออก 1

แต่ก่อนลงสถานีถ่ายมาให้ดูว่าในรูปที่เห็นยืนรอแลกเหรียญกับที่ตู้ซื้อบัตรนี่เป็นชาวต่างชาติหมดเลยนะครับ

ภายในสถานีจะมี SuperRich ไว้แลกเงิน ตั้งอยู่ภายในสถานีเลย อย่างที่บอกไปนะครับว่าย่านนี้ Expat (ชาวต่างชาติที่มาอยู่ในไทย) เยอะจริงๆ

บนสถานีนี้จะมีร้านขายของกินแบบนี้ ทั้ง อาหาร ทั้งขนม และเครื่องดื่ม มีครบหมด

ฝั่งตรงข้ามทางเดินไปโครงการ จะเป็น Tesco Lotus ที่มีทางเชื่อมกับ BTS เลย

Century Movie Plaza ตอนนี้สร้างไปได้เยอะแล้วเหมือนกัน ถ่ายรูปมา Update ให้ดูกันครับ สร้างเสร็จแล้วก็จะมีหน้าตาเหมือนในรูปที่ให้ดูไปก่อนหน้านี้

 

สำหรับทางขึ้นสถานี BTS จะเป็นบันไดเลื่อน ด้านที่เดินมาจากทางโครงการถ้าใครนั่งรถ Shuttle Bus เค้าก็จะมาส่งตรงนี้แหละครับ

ภาพคนเดินมาสถานี BTS อ่อนนุช พร้อมทั้งกระเป๋าเดินทางดูจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนแถวนี้ไปซะแล้ว

เดินมาเรื่อยๆ ผ่านปากซอย สุขุมวิท 79 จะเห็น 7 Eleven ที่เป็นสาขาขนาดใหญ่

ด้านในมีอาหารพร้อมทานขายเยอะเป็นพิเศษ

และยังมีโซนขายกาแฟกับขนมปังเพิ่มมาด้วย ด้านซ้ายมือจะเป็นที่นั่งอยู่ฝั่งหน้าร้านเอาไว้ให้นั่งทานอาหารได้เลย จริงๆมีมุมขายมือถืออยู่อีกฝั่งด้วยเอาไว้รองรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะเลยครับ

เดินต่อมานิดเดียวจะเจอซอย สุขุมวิท 77/1 ซอยนี้แหละครับที่เป็นแหล่งของกินอร่อยๆ ในราคาย่อมเยา

ตอนเช้าจะมีคนขายของพอสมควร แต่ช่วงกลางวันจะเริ่มลดลงไปบ้าง

ส่วนช่วงเย็นๆถึงหัวค่ำจะคึกคักกว่ามากกกก เพราะคนกลับจากทำงานแล้วแวะซื้อของกินกัน มีของกินให้เลือกหลายอย่างเหมือนกัน

เดินเข้ามาจนสุดซอยจะเป็นทางเข้าด้านหลังห้าง Big C ซึ่งพอสามทุ่มทางห้างเค้าจะปิดประตูให้เหลือเฉพาะคนเดินผ่านได้ครับ ดึกๆ สี่ทุ่มก็ยังมีคนเดินเข้าอยู่นะ ไม่ได้เปลี่ยวมากนัก

เดินเข้ามาในพื้นที่ของห้างแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนนะครับ เพราะมีเต็นท์ขายของอยู่ข้างๆตัวห้าง อาศัยเดินหลบร่มในนี้ได้

ให้เราเดินมาจนทะลุหน้าห้างแล้วเดินผ่านหน้าห้างต่อไป

ตรงข้ามกับ Big C Extra จะเป็นตลาดอ่อนนุช ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดกลางในพื้นที่ย่านนี้และถือว่าใกล้กับโครงการคอนโดใน T77 จาก Sansiri มากที่สุด

ด้านในตลาดก็มีขายทั้งอาหารสด อาหารแห้ง แบบตลาดสดทั่วไป โดยตลาดนี้จะเปิดขายตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงเย็นๆ

มีที่จอดรถด้านหลังตลาดสำหรับใครที่เอารถมาก็ถือว่าสะดวกดี เข้าไปในตัวตลาดก็จะมีร้านอาหารตามสั่งให้นั่งแวะทานอาหารได้

เดินเข้ามาในถนนอ่อนนุช ก็จะเริ่มเจอกับโครงการพักอาศัยต่างๆ สลับกับพวกอาคารพาณิชย์ ร้านค้าต่างๆ

โครงการ Blocs 77 เป็นคอนโด  High rise สูง 28 ชั้น (ทางซ้าย) ที่อยู่ติดกันเป็น โครงการ The Base Sukhumvit 77 เป็นคอนโด  High rise สูง 39 ชั้น (ทางขวา)

ซึ่งจะมีเส้นทางลัดสามารถขับไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ อยู่ระหว่าง โครงการ Blocs 77 และโครงการ The Base Sukhumvit 77

3

ก่อนจะเข้าไปในโครงการคอนโดของ T77 จาก Sansiri เดี๋ยวจะพาไปดูทางออกฝั่งพระโขนงที่ต้องผ่านกลุ่ม T77 community เสียหน่อยและจะได้แวะดูคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Habito ด้วย ถ้าใครเดินมาถึงตรงนี้ไม่ต้องเดินต่อนะครับ เค้ามีรถกอล์ฟคอยบริการวิ่งสัญจรภายในโครงการให้

เนื่องจากซอยนี้สามารถไปเชื่อมออกซอยสุขุมวิท 71 และขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้เลย จึงมีการเก็บค่าผ่านทางเพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัย มีบริษัทเอกชนเป็นคนเก็บค่าผ่านทาง เฉพาะคนภายนอกที่ไม่ได้เป็นลูกบ้านของ The Base Prak East, The Base Park West, Garden Square, hasu HAUS, mori HAUS และ kawa HAUS ต้องเสียค่าผ่านทาง ลูกบ้าน Blocs 77 และ The Base77 ก็ต้องเสียนะครับ

มียามตลอด 24 ชม. ค่าผ่านทาง 30 นาทีแรก รถยนต์ 20 บาท/เที่ยว จักรยานยนต์ 10 บาท/เที่ยว ถ้าเกิน 30 นาทีคิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 100 บาท เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง โดยขาเข้าจะต้องรับบัตร จ่ายเงินตอนขาออก

4

ผ่านป้อมยามเข้ามาจะเจอสะพานแสนสำราญที่ทางแสนสิริสร้างขึ้น เพื่อข้ามคลองพระโขนงไปยังพื้นที่อีกฝั่งของแสนสิริ

5

สะพานเป็น 2 เลนรถวิ่งสวนกัน มีทางเดินเท้าให้ทั้ง 2 ฝั่งและมีราวแยกถนนกับทางเดินเรียบร้อย มีไฟริมราวสะพานให้ด้วย ตอนกลางคืนเปิดไฟสวยน่าใช้ ช่วงปลายปีพื้นที่ของ T77 โดย Sansiri จะใช้จัดงาน Sansiri Winter Fes Market รวมถึงตัวสะพานนี้ด้วย

คลองที่เห็นเป็นคลองพระโขนงนะ คลองนี้จากการสอบถามลูกบ้านส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไร่ จะมีบ้างเป็นบางช่วงเวลาที่เปิดทางกั้นน้ำเพื่อระบายทางเดินน้ำออกเป็นบางครั้ง

ยืนอยู่กลางสะพานมองย้อนกลับไปจะเห็นโครงการ The Base 77 และ ด้านขวามือจะเห็น Blocs 77

เริ่มลงสะพาน ด้านขวามือเป็น Habito คอมมูนิตี้มอลล์ที่ทางแสนสิริสร้างเสร็จแล้ว จะเห็นว่าลูกบ้านที่อยู่โครงการด้านในจะใช้รถกอล์ฟนั่งไปตรงปากทางเข้าด้วย

ลงสะพานมามีซุ้มแบบนี้อีก ซ้ายมือจะเจอ The Base Park West ส่วนตรงสุดจะเจอ The Base Park East ที่สร้างเสร็จแล้วเช่นกัน

หน้าตาภายนอกโครงการ The Base Park West จะเห็นได้ชัดว่าจำนวนยูนิตจะเยอะกว่า Park East นะ

ฝั่งตรงข้ามจะเป็น Habito เป็น Community mall ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ภายในหลากหลายสไตล์ มีธนาคาร มี 7Eleven และมีศูนย์บริการของ AIS ด้วยนะ การที่มีร้านต่าง ๆ เยอะขึ้นและมีการหลากหลายของร้านค้า จะช่วยให้ลูกบ้านความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งเราจะไม่ได้เห็นโครงการลักษณะนี้บ่อย ๆ นะ เพราะหาที่แปลงใหญ่ ๆ ใกล้แนวรถไฟฟ้ายาก

ด้านนอกพื้นที่จอดรถมีร้าน PAPA SHABU FARM

ร้านกาแฟ TOM N TOMS อยู่ชั้น 1 ติดกับสวน แอบเข้าไปข้างในมาคนเพียบเลย

ข้างในมีธนาคาร SCB ด้วยนะ และก็มีพวก shop ร้านค้าเริ่มเปิดแล้ว

 

ภายในมีเก้าอี้เป็นจุดนั่งพักนั่งรอแบบนี้ มีต้นไม้มาตกแต่งทำให้ดูไม่ทึบจนเกินไป

พวกร้านต่างๆในนี้ก็เปิดเยอะแล้วนะ ส่วนใหญ่เป็นร้านของกิน และก็มี Shop AIS ด้วย จากที่ดูๆก็เปิดไปเกิน 70% แล้ว ส่วนที่เหลือก็คงใช้เวลาอีกไม่นานน่าจะเปิดได้ครบ เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆพัฒนากันไปยาวๆครับ การจะสร้างชุมชนต้องใช้เวลา

สุดท้ายที่ชั้น 3 มี Co Working Space เจ้าดังมาเปิดอย่าง HUBBA TO เอาใจคนชอบทำงานนอกสถานที่และพบปะสังสรรค์เจอผู้คนใหม่ๆ

เดินมาสุดทางจะเจอ 3 แยกที่มี The Base Park East อยู่ด้านหน้า ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปซอยปรีดีพนมยงค์ 2 หรือเราสามารถขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ แต่ถ้าจะไปโครงการ kawa HAUS ใน T77 โดย Sansiri ต้องเลี้ยวขวาไปตามทางนะครับ

ถ้าเลี้ยวซ้ายมาจะเจอป้อมยามแบบนี้ เก็บเงินค่าผ่านทางเข้า-ออกเหมือนกัน (ทางเข้า-ออกฝั่งพระโขนง) ถ้าออกไปแล้วเลี้ยวซ้ายเป็นทางเข้า-ออกอีกทางไปออกซอยปรีดีพนมยงค์ 2 หรือเราสามารถขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้ด้วย

DSCF1227

เลี้ยวขวามาตามทาง สองข้างทางจะปลูกต้นไม้ไว้ตลอดเส้นทางให้ความรู้สึกร่มรื่นดี

DSCF1228 DSCF1230

เข้ามาเรื่อยๆจะเจอกับโครงการ Garden Square สุขุมวิท 77 ภายในเป็นโครงการแนบราบ  เป็นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้นของแสนสิริเช่นกัน

ถัดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ของโครงการโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep International school ซึ่งตอนนี้ได้เปิดแบบ Soft Launch ไปแล้ว ส่วนระดับชั้นเรียนของที่นี่จะเทียบเท่ากับมัธยมปลายประมาณ เกรด 9-12  ปริมาณนักเรียนประมาณ 900 กว่าคน แต่ตอนนี้ Soft Launch เลยมีนักเรียนประมาณ 400 คน

ตรงเข้ามาจะเจอกับทางแยกไปยังโครงการต่างๆ ถ้าจะไป mori HAUS จะต้องไปทางซ้าย ส่วนทางขวามือจะเป็น hasu HAUS และ ด้านในสุดเป็น Park Court ของ มั่นคงเดหะการ

ถ้าใครมาแล้วงงดูตามป้ายได้เลยครับ

ถ้าจะไป kawa HAUS โครงการใน T77 จาก Sansiri ต้องมาทางนี้นะ เดินผ่าน hasu HAUS และ Park Court เข้าไปด้านใน ซึ่งในตอนนี้ยังเดินเข้าไปไม่ได้นะครับ เพราะยังไม่มีถนนไปถึงหน้าที่ดินยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ผมมีขอบเขตที่ดินมาให้ดูว่าตัวโครงการอยู่ตรงไหน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ตำแหน่งของโครงการ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri นั้นจะอยู่ด้านในสุด จะผ่านสะพานข้ามคูน้ำไปก่อนถึงจะเป็นที่ดินของโครงการ ตัวที่ดินของโครงการนี้มีข้อดีตรงที่อยู่บริเวณช่วงโค้งของคลองทำให้ได้บรรยากาศที่ดีและมีหน้ากว้างที่ติดคลองค่อนข้างยาวช่วยให้ได้บรรยากาศสงบร่มรื่น เหมาะกับแนวรีสอร์ทเน้นการพักผ่อนมาก ๆ ครับ

สำหรับสำนักงานขายของโครงการนี้จะอยู่ที่ Habito Mall ชั้น 3 ติดกับ HUBBA-TO ถ้าใครจะมาดูก็ไม่ต้องเข้าไปถึงตรง Bangkok Prep นะครับ

ใครที่ยังดูไม่ออกเค้ามีทำโมเดลภาพรวมของ T77 จาก Sansiri เอาไว้ให้ดูว่าโครงการอยู่ตรงไหน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Habito Mall
  • Big C Extra
  • ตลาดอ่อนนุช
  • โลตัสอ่อนนุช
  •  BTS อ่อนนุช
  • Century Movie Plaza อ่อนนุช
  • Summer Hill
  • โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
  • Gateway เอกมัย
  • เมเจอร์เอกมัย
  • โรงพยาบาลสุขุมวิท


เจาะลึกตัวโครงการ

ในปีนี้แสนสิริได้เปิดโครงการแบรนด์ HAUS ทั้งหมด 3 ตัว คือ taka HAUS อยู่ตรงเอกมัย 12 oka ตรงพระราม 4 เลยอาคารมาลีนนท์มาหน่อย และน้องคนสุดท้องของแบรนด์ HAUS ในปีนี้ kawa HAUS อยู่ใน T77

โดยตัว kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri นี้มีความพิเศษตรงที่มีผืนที่ดินใหญ่ถึง 6 ไร่ เลยสามารถรวมเอาข้อดีของรุ่นพี่ทั้ง 2 โครงการมาใส่ได้ ต้องเล่าย้อนกลับไปนิดหน่อยว่าแนวคิดการออกแบบของ hasu จะเน้นการพักผ่อน Slow Life ได้พื้นที่ส่วนกลางติดริมน้ำสวย ๆ ส่วน moriไม่ได้ติดริมน้ำจึงเน้นไปที่การให้พื้นที่ส่วนกลางเยอะประมาณ 3,000 ตร.ม. ทีนี้ kawa มี 6 ไร่ติดริมคลองเลยจัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางมาประมาณ 6,000 ตร.ม. และหน้ากว้างที่ติดคลองยาวกว่า 150 เมตรซึ่งยาวกกว่า hasu ที่มีพื้นที่ติดคลองแค่ 75 เมตร

Concept ของ kawa HAUS ใน T77 โดย Sansiri จึงเป็น Living as a part of Nature เน้นไปที่การพักผ่อนแบบยุคใหม่ คือได้ความสงบ ๆ บรรยากาศชิล ๆ แบบพื้นที่ติดริมคลอง และมีการให้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มากับโครงการ ทั้งในส่วนกลางและภายในห้องพักอาศัยด้วย เดี๋ยวเราค่อยดูรายละเอียดไปพร้อม ๆ กันนะครับ

มาดูที่ส่วนแรกกันก่อน หน้าตาตัวอาคารต้องบอกว่าไม่ธรรมดาอีกแล้วครับ เพราะแสนสิริต้องการรออกแบบให้ตัวอาคารกลมกลืนไปกับธรรมชาติ เลยเล่นกับการออกแบบ Facade (รูปด้านของอาคาร) โดยเอาเส้นโค้งของไม้ไผ่มาแรงบันดาลใจ

ดังนั้นระเบียงของที่นี่จะได้เป็นแบบโค้งทั้งหมดเลย ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้นอกจากจะทำให้หน้าตาของอาคารดูดีขึ้นแล้ว ยังได้ประโยชน์ในเรื่องของการซ่อน CDU อีกด้วย เราจะไม่เห็น CDU ของแอร์เลย เพราะระแนงที่อยู่ตามโค้งของระเบียงจะทำมุมบิดไม่เท่ากัน ช่วยบังสายตา Facade ดูกลมกลืนกันไปตลอดแนวอาคาร นอกจากนี้ทุกยูนิตจะเน้นเรื่องการเห็นวิวได้ด้วยกระจกบานใหญ่จากพื้นถึงฝ้าและเปิดได้กว้าง เพื่อให้ได้อารมณ์เหมือนอยู่รีสอร์ท

ห้องนี้คือ Lounge ที่ได้พื้นที่แบบ Double volume และส่วนที่เป็น Signature ของแสนสิริและขาดไม่ได้เลยก็คือผนังหินนั่นเองครับ สำหรับโครงการนี้ได้แผ่นใหญ่พอสมควรเลยนะครับ โดยหินที่เลือกมาให้เข้ากับชื่อโครงการ kawa ที่แปลว่าน้ำ จะต้องดูคล้ายๆกับมีกระแสน้ำไหลอยู่ในตัวหิน โดยหินนี้มีชื่อว่า Cipollino Ondulato Verde

ลักษณะความโค้งของไม้ไผ่ไม่ได้ถูกใช้กับแค่ตัวอาคารเท่านั้นนะครับ แต่ส่วนกลางก็ยังคงใช้แนวคิดเดียวกันด้วย ห้องนี้คือ Co Creative Space ที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่เพื่อให้ได้วิวสวนรอบๆแบบเต็มตา

ส่วนกลางของ kawa HAUS ใน T77 โดย Sansiri จะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เสริมเข้ามาเรื่อย ๆ นะครับ อย่างห้องนี้คือ Co-working Space กับ Co Pantry ที่มี Farm Shelf เอาไว้ปลูกผักโดยใช้มือถือควบคุมได้ สิ่งเหล่านี้คือผลพวงของการที่แสนสิริเพิ่งลงทุนใน 6 แบรนด์ชั้นนำของโลก อ่านข่าวคลิกที่นี่

นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีการนำเอาเทคโนโลยี มาใช้ในโครงการอีกหลายอย่างเช่น Sansiri AI BOX ที่มีหลักการทำงานคล้ายๆ กับ Alexa แต่ทาง Sansiri ได้ร่วมมือกับ Amazon พัฒนาเพิ่ม เพื่อให้สามารถสนทนาภาษาไทยได้ ถือว่าเป็นข้อดีที่ช่วยให้ลูกบ้านใช้งานได้สะดวกมากขึ้นเยอะเลยครับ ส่วนการทำงานหลักๆของ Sansiri AI BOX จะมีตามนี้ครับ

  • Relay คุมไฟในห้อง Master + Living
  • IR Hub คุมแอร์, TV : ในห้อง Living สำหรับ 1BR
  • IR Hub คุมแอร์, TV : ในห้อง Master, Living สำหรับ 2BR

ส่วนเทคโนโลยี Technology Smart Access ตั้งแต่ระบบ Video Door Phone บริเวณ Lobby, Lift Lobby, และ One Time Password เป็นระบบใน Digital Door Lock ของ igloohome ที่ใช้ได้ทั้งกุญแจ รหัส และเชื่อมต่อผ่านทาง Application ที่สามารถเปิดประตูรับเพื่อน ด้วยการส่ง QR Code ที่กำหนดระยะเวลาได้ ทำให้เราไม่ต้องก้าวออกจากห้องไปปลดล็อกประตู โครงการนี้ก็ให้มาเช่นกัน และเทคโนโลยีสุดท้ายคือ การเชื่อมต่อ Smartphone กับ Gate ทำให้เวลาลูกบ้านขับรถเข้าโครงการ ไม้กั้นจะเปิดให้ผ่านอัตโนมัติจากการเชื่อมต่อกับมือถือ

ระยะของพื้นที่ติดริมน้ำของ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri จะยาวกว่าตัว hasu HAUS โดยมีความยาวถึง 150 ม. และเป็นช่วงโค้งด้วย ได้บรรยากาศชิล ๆ แน่นอน

สำหรับสระว่ายน้ำจะเป็นแบบ Free Form คือไม่ได้มีรูปร่างเหมือนสระว่ายน้ำทั่วไป เพราะเค้าเน้นให้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ แต่ก็มีขนาดใหญ่พอสมควรนะครับ ระยะที่กว้างที่สุดอยู่ที่ 16.5 ม. และช่วงที่ยาวที่สุดประมาณ 32 ม. มีสะพานข้ามตัวสระไปยังโซนจากุชชี่ซึ่งแบ่งเป็นทั้งแบบร้อนและเย็น โดยจากุชชี่ที่เป็นแบบเย็นนี่คือเย็นเลยนะ ไม่ใช่อุณหภูมิของสภาพแวดล้อม อารมณ์น่าจะคล้าย ๆ เวลาแช่ออนเซ็น ร้อนกับเย็นสลับกัน และเป็นแบบ Out Door ซึ่งจากุชชี่แบบนี้ถูกใช้ในโครงการ The XXXIX ตรงพร้อมพงษ์ด้วยนะ

มาดูผังโครงการ kawa HAUS ใน T77 โดย Sansiri กันต่อครับ ตัวโครงการนี้จะแบ่งเป็น 3 อาคารและมี Facility อยู่รอบ ๆ อาคาร ส่วน Facility หลัก ๆ จะอยู่บริเวณริมน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำและโซนจากุชชี่ร้อน-เย็น ห้อง Lounge, ห้อง Fitness ซึ่งสูงถึง Double Volume ส่วนในอาคาร Facility จะมี Function ที่ค่อนข้าง Private หน่อย เช่น พวก ห้อง Co-Working, Co-Pantry การจอดรถสามารถจอดได้ที่ใต้อาคารทั้งหมดและที่จอดรถชั้นใต้ดิน

 

การวางแนวอาคารถือว่าวางได้ค่อนข้างดี เพราะเค้าพยายามให้ตัวอาคารมีการบังวิวกันเองน้อยที่สุด วิวของห้องส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ได้วิวคลองก็ได้วิวส่วนกลาง แต่ห้องที่ได้วิวด้อยกว่าเพื่อนหน่อยจะอยู่ตรงอาคาร B2 ด้านในที่หันไปทาง B1 และ B3 จำนวนยูนิตของตึก B1 เยอะกว่าเพื่อนหน่อยมีจำนวนที่ 191 ยูนิต ส่วน B2 และ B3 อยู่ที่ 176

ผังชั้นพักอาศัยที่เหลือจะมีลักษณะคล้ายๆกันหมด ตำแหน่งห้องไม่แตกต่างกัน สิ่งที่แตกต่างกันก็คือพื้นที่เว้าตรงระเบียงแค่นั้นเอง ผมเลยเอาชั้น 3 แบบ Master plan มาให้ดูจะเห็นตำแหน่งของห้องได้ทุกอาคาร สำหรับห้องที่เป็น 1 Bed คือสีฟ้าและ 2 Bed คือสีเหลืองส้ม จะเห็นว่าถ้าอยากได้วิวคลองกับส่วนกลางส่วนๆต้องไปเลือกห้อง 2 Bed ที่ตึก B3 หรือ 2 Bed ที่ตึก B2 ส่วนห้อง 1 Bed มีแค่ไม่กี่ห้องได้วิวคลองแบบเต็มๆ ส่วนใหญ่จะเน้นวิวภายในโครงการมากกว่า แต่ละอาคารจะได้ลิฟต์มา 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการอยู่ที่ 91:1 ก็หลวมๆ กำลังดีไม่แน่นไป

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ แบบ Free Form ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 16.5 x 32 เมตร แบ่งสระเด็ก
  • จากุชชี่แบบร้อนและเย็น
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดประมาณ 150 ตร.ม.
  • พื้นที่ทำงานส่วนกลาง
  • พื้นที่ครัวส่วนกลาง
  • พื้นที่พักผ่อนริมน้ำ
  • อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับโถงต้อนรับ, เล้าจ์ และพื้นที่พักผ่อน, ห้องออกกำลังกาย, บริเวณสระว่ายน้ำ, พื้นที่ทำงานส่วนกลาง, และพื้นที่เตรียมอาหารส่วนกลาง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 91 : 1
  • ระบบ CCTV / Access Card

อื่นๆ    

  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
  • กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น 45% รวมจอดซ้อนคัน n/a คัน คิดเป็น n/a%

 


Product Walkthrough

Unit Type ของ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri จะเน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom ซะเยอะตามความต้องการของตลาด อย่าง mori HAUS ตอนนี้ก็เหลือขายแต่ห้องแบบ 2 Bedroom ห้องแบบ 1 Bedroom ขายหมดแล้ว ซึ่งในตอนนี้ kawa HAUS จะเปิดให้จองเพียงแค่ 30% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดนะครับ และเปิดขายยูนิตที่เหลือทั้งหมดในปีหน้า

สำหรับห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 ห้อง ห้องแรกคือ 1 Bed 1 Bath ขนาด 32.5 ตร.ม อย่างที่บอกไปตอนแรกนะครับ ว่าการออกแบบห้องของ kawa HAUS จะใช้แนวคิดแบบรีสอร์ท ดังนั้นเราจะได้กลิ่นอายการจัดวางผังห้องแบบตากอากาศติดมาด้วย สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือผนังกระจกกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น สามารถเลื่อนเปิดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ได้ทั้งห้อง

เนื่องจากขนาดห้องที่ให้มาค่อนข้างใหญ่กำลังดีสำหรับ 1 Bedroom ทำให้การจัดวางฟังก์ชันลงตัวดีแต่ละพื้นที่มีระยะใช้งานได้สบายไม่ว่าจะเป็นส่วนครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำก็กว้างพอให้ใช้งานได้สะดวก จุดเด่นของห้องนี้คือบรรยากาศของห้องที่ดูกว้างเพราะได้ช่องเปิดรับแสงธรรมชาติเยอะมากกกได้เกือบเต็มหน้ากว้างของห้อง พอรวมกับความสูงฝ้า 2.7 แล้ว ตัวห้องจะดูโปร่งและกว้างมาก

ลักษณะการขายเป็นแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Built-in ที่มีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มมาให้ หน้าบ้านตู้ครัวปิดผิวด้วย Thermal Laminate กันน้ำมี Soft Close ให้หมด Top เคาน์เตอร์ เป็นหินแกรนิตดำอินเดีย Back Splash ได้กระจกเงา ส่วนตู้เสื้อผ้า kawa HAUS มีให้นะครับ เป็นตัวแรกของแบรนด์ HAUS ที่ให้ตู้เสื้อผ้าแถมมีลูกเล่นมาด้วย วัสดุพื้นส่วนครัวกับห้องน้ำเป็นกระเบื้องลายหิน 60 x 60 ซม. พื้นห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม.

ส่วนแรกของห้องจะเป็นส่วนครัว ซึ่งเราจะได้เคาน์เตอร์และ Built-in ทั้ง 2 ฝั่งทำให้การลูกบ้านมีพื้นที่ใช้งานเยอะขึ้น ถ้าอยู่กัน 2 คนก็ช่วยกันทำครัวได้สบายๆ เพราะมีระยะช่องทางเดินกว้าง ฝ้าเพดานส่วนนี้ยังสูงแค่ 2.5 นะ ส่วนอื่นๆ ของห้องจะสูงขึ้นเป็น 2.7 ประตูของโครงการนี้ไม่ได้ติดมาให้ดูแต่กลอนได้แบบ Digital Door Lock ของ Igloo Home ที่มีระบบ One Time Password นะครับ

เรามาดูุชุดเคาน์เตอร์ฝั่งที่มีตู้เย็นก่อนนะครับ ชุด Built-in ที่ให้มาจะได้ทั้งชดที่เห็นนะครับยกเว้นพร๊อบตกแต่งและตู้เย็น เคาน์เตอร์ชุดบนจะมีไฟซ่อนมาให้ด้วย

ชุดอ่างล้างจานจะได้ของ MEX มีขนาดกลาง Top ได้เป็นหินแกรนิตดำ

นอกจากชั้นวางของแล้ว ราวแขวนจะมีที่พักจานมาให้ด้วย การแขวนแบบนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ทำครัวได้อีกด้วย ส่วน Back Splash จะเป็นกระจกเงาแบบให้ห้องตัวอย่าง

ตู้ชุดล่างจะได้รางเลื่อนและถังขยะแบบ Built-in มาให้ด้วย หน้าบานตู้ทั้งหมดจะปิดผิวด้วย Thermal Laminate

หน้าบานเปิดง่ายด้วยการทำร่องซ่อนไว้ในตู้

ตู้ชุดบนมีเป็นที่เก็บของและตู้ Consumer Unit

ชุดตู้ฝั่งตรงข้ามจะเป็นเคาน์เตอร์วาง Hob&Hood พร้อมโต๊ะทานอาหาร ส่วนหน้าห้องเป็นชั้นวางของกับชั้นวางรองเท้าอยู่ด้านใน

มือจับบานเปิดยาวตลอดแนวดูเรียบร้อยดี

ชุด Built-in ด้านในมีลูกเล่นในการกตกแต่งอยู่เหมือนกันนะ ด้านนอกตกแต่งเป็นลายไม้แต่ภายในจะเป็นสีออกฟ้าเขียว เพื่อให้เข้ากับชื่อโครงการ kawa ที่แปลว่าน้ำ ที่ชอบอีกอย่างคือด้านข้างมีราวไว้แขวนไม้กวาด ไม้ถูพื้นต่างๆ

ชุดตู้ด้านล่างเป็นลิ้นชักกับช่องเก็บของแยกที่มีแบ่งช่องมาให้เรียบร้อย

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้แบบ 2 หัววางแนวนอนเป็นของ MEX เช่นกัน

ตู้ชุดบนแบ่งของเก็บได้อีกเล็กน้อย

โต๊ะกินข้าวด้านข้างสามารถเลื่อนให้นั่งได้ 1 -2 คน หรือจะเอาไว้วางวัตถุดิบตอบทำอาหารก็ได้ พอดีโครงการทำ Built-in มาให้เหลือที่พอนั่งคนเดียว แต่ของจริงจะเลื่อนได้ยาวกว่านี้พอนั่ง 2 คน

ถ่ายรายละเอียดงานพื้นมาให้ดูว่า รอยต่อของพื้นครัวที่เป็นกระเบื้องกับห้องนั่งเล่นที่เป็นลามิเนตมีคิ้ว Stainless มาให้ด้วย ถือว่าดีนะครับช่วยให้งานดูเรียบร้อยขึ้นเยอะ

เอาหละ… มาถึงพระเอกของห้องนี้แล้ว ห้องนั่งเล่นที่ได้กระจกบานใหญ่ 3 ตอนช่วยให้ห้องดูโปร่งและกว้างมากขึ้น

ระยะดูทีวีที่ประมาณ 2.2 เมตร ใส่ทีวีขนาด 55″ ได้ แต่ตำแหน่งการติดตั้งถ้าใครอยากดูจากห้องนอนด้วย ก็ต้องติดสูงขึ้นไปนิดหน่อย จะได้ไม่โดนโซฟาบัง ส่วนใครที่อยากได้พื้นที่ทานอาหารเพิ่มแนะนำให้ทำ Built-in ที่เปิดโล่งด้านล่างฝั่งที่ติดครัวไว้ จะได้เลื่อนโต๊ะทานอาหารให้ยาวพอนั่ง 2 คนได้

ส่วนประตูกระจกกั้นที่อยู่ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นจะเลื่อนมาเก็บเข้าช่องในกำแพงได้เลย

สำหรับใครที่กังวลเรื่องระยะห่างระหว่างหลังโซฟาจะแคบ ผมถ่ายรูปนี้มาให้ดูว่ามีระยะปลายเตียงเหลือพอให้เดินได้สบายๆ

หน้าต่างของห้องนี้จะกว้างเกือบสุดหน้ากว้างของห้อง โดยส่วนที่เป็นแนวกำแพงด้านซ้ายจะบัง CDU และเครื่องซักผ้า

ไหน ๆ โครงการ kawa HAUS ใน T77 โดย Sansiri นี้ก็ทำมาแบบรีสอร์ทแล้วต้องเอาให้สุดครับ พื้นระเบียงคอนโดส่วนใหญ่เราจะเห็นเป็นกระเบื้อง แต่โครงการนี้ได้เป็นทรายล้างและมีกระเบื้องวางเป็น pattern มาให้เพื่อให้ได้อารมณ์เหมือนอยู่รีสอร์ท ถ้าห้องที่ระเบียงเล็กกว่านี้จะให้เป็นทรายล้างหมดเลยไม่มีกระเบื้องมาให้ ส่วนระแนงที่บัง CDU กับเครื่องซักผ้าของจริงระแนงจะบิดเฉียงไม่เหมือนในห้องตัวอย่างเพื่อบังไม่ให้เราเห็นภายในนั้น

ข้อดีของหน้าต่างห้องนี้คือเปิดได้กว้างมาก ระยะเปิดสุดในภาพคือสุดแนวห้องนั่งเล่นเลยช่วงไหนอากาศดีๆ เปิดรับลมไม่ต้องเปิดแอร์ได้เลย

พื้นที่ห้องนอนถ้าวางเตียง 5 ฟุตแบบในห้องตัวอย่างจะมีพื้นที่เหลือรอบๆเตียงให้เดินได้สบายๆนะ แต่ถ้าอยากวาง 6 ฟุตก็ยังวางได้อยู่แต่ระยะรอบๆเตียงจะเหลือน้อยหน่อย

ระยะดูทีวีจากเตียงก็จะได้ประมาณนี้ แนะนำว่าถ้าใครงบถึงก็จัดทีวี 55″-60″ มาเลยก็ได้นะ จะได้นอนดูทีวีได้

ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ได้จะได้ 3 บานเปิดขนาดใหญ่ ช่วยให้ไม่กินพื้นที่ข้างเตียง บานนึงจะได้เป็นกระจกเงา ภายในตู้จะมีไฟซ่อนด้านข้างมาให้

ในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบและมีระยะที่ใช้งานได้พอดีๆ กระจกที่ให้มาจะ Built-in พร้อมตู้ซ่อนด้านหลังด้วยเป็นกระจกซ้อนกระจกอีกที ลูกเล่นของตู้นี้คือมีเซนเซอร์ไฟส่องสว่างที่กระจกเงามาให้ด้วยเพียงแค่ปาดมือผ่านใต้ตู้ไฟรอบๆตู้ก็จะสว่างขึ้น

ห้องน้ำโครงการนี้ตกแต่งไม่เหมือนใครอีกแล้วครับ ได้อ่างล้างหน้าแบบสีเดียวกับด้านในของตู้ Built-in ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง แสนสิริ กับ Cotto ทำสีพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะเก๋ไปอีกแบบ ส่วน Top เคาน์เตอร์เป็นหิน Quartz ตัวก๊อกน้ำได้ของ Cotto และโครงการเดินท่อน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้แล้ว ลูกบ้านหาเครื่องทำน้ำร้อนมาติดตั้งได้เลย

ตู้ใต้อ่างได้เป็นลิ้นชัก พร้อมแบ่งช่องใส่ของช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้น

ชุดสุขภัณฑ์ได้ของ Cotto ซึ่งเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติเหมือนที่ให้มาในโครงการ taka และ oka ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

พื้นที่ห้องน้ำมีขนาดกำลังดีอาบน้ำหมุนตัวไปมาได้สบายๆ กระเบื้องตกแต่งด้วยลายหินในส่วนของพื้นและผนัง จัดโทนสีมาดูดีนะครับ

ชุดอาบน้ำได้แบบมี Rain Shower เป็นของ Cotto เช่นกัน

ขนาดฝักบัวใหญ่ดี ด้านข้างได้ชั้นวางสบู่มาเล็กไปหน่อย

ห้องที่ 2 ที่จะพาไปดูเป็นแบบ 2 Bed 1 Bath หน้ากว้างถึง 9.5 เมตร ห้องนี้จะได้ครัวปิดช่วยให้ทำอาหารหนักได้ และห้องนั่งเล่นกับห้องนอนทุกห้องได้ระเบียงรับแสงธรรมชาติ ห้องน้ำจะออกแบบให้เข้าได้ทั้ง 2 ทาง (Double Access) ทั้งจากห้องนอนและโซนทานอาหาร สำหรับพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวจะวางแบบ 4 ที่นั่งได้ หน้าต่างของห้องนี้จะมีทั้ง 2 แบบนะ แบบปกติและแบบที่เป็น Signature ของ HAUS เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆ กันครับ

ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่ทานอาหาร จริงๆ จะวางโต๊ะแบบสี่เหลี่ยมก็ได้ยังพอมีที่เหลือ ห้องนี้ถึงแม้จะไม่ได้กระจกบานใหญ่เหมือนห้อง 1 Bed แต่จะได้พื้นที่ใช้งานที่ดีขึ้นตัวห้องมีความลึกมากขึ้น

หันกลับไปหน้าห้องด้านซ้ายมือจะเป็นครัวและห้องนอนเล็ก ส่วนด้านขวามือเป็นห้องน้ำกับห้องนอนใหญ่ ตู้เก็บรองเท้าหน้าห้องโครงการให้มาด้วยนะ

ตรงกลางจะมีช่องเก็บของเอาไว้เวลากลับบ้าน เปิดประตูมาวางของได้เลย ด้านล่างเป็นชั้นวางรองเท้า

ด้านข้างของตู้เอาไว้เก็บของที่ยาวๆ พวกไม้กวาดไม้ถูพื้น ในตู้มีตะขอแขวนมาให้ด้วย

สำหรับประตูห้องครัวของจริงจะได้แบบที่ดีกว่านี้นะทางโครงการจะ upgrade เป็น 3 ตอนให้ เวลาเปิดจะเปิดได้กว้างกว่านี้

รายละเอียดวัสดุต่างๆ จะได้เหมือนกับ 1 Bed แต่เครื่องซักผ้าย้ายตำแหน่งมาอยู่ด้านในนี้แล้ว

ห้องนี้ยังคงได้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแค่ 2 หัว แต่ถ้าเป็นห้องแบบ 2 Bed 2 Bath จะได้เตา 4 หัว

พื้นที่ห้องนั่งเล่นวางโซฟาได้ 2 ตัวเลยนะ เพราะมีความลึกในระดับนึง ส่วนระยะดูทีวีประมาณ 2.5

มุมห้องนั่งเล่นที่ติดกับหน้าต่างจะได้กระจกรอบด้านเลยถ้าใครชอบอ่านหนังสือ วางโซฟาแล้วตกแต่งดีๆตรงนี้จะน่านั่งมาก ที่พื้นที่ตรงนี้ดูดีได้เพราะผลจากการได้หน้าต่างเต็มระยะจากพื้นถึงฝ้า

ซึ่งหน้าต่างนี้เป็น Signature ของ HAUS ที่เปิดตัวบานไว้รับลมได้ และเพื่อความปลอดภัยก็มีราวกันตกมาให้ด้วย

บานกระจกด้านข้างที่ติดกับห้องนอนเล็ก จะเป็นประตูเพื่อไประเบียงได้ จะเห็นว่าพื้นระเบียงตรงนี้ไม่มีกระเบื้องแล้วนะครับ เพราะมีขนาดระเบียงเล็กกว่าห้องแบบ 1 Bed

หันกลับมาถ่ายมุมในห้องให้ดูว่าพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ แล้วยังมีระยะเหลือให้เดินได้ไม่อึกอัด

ต่อไปเรามาดูห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกับห้องครัวกัน

ห้องนี้มีขนาดเล็กหน่อยพอวางเตียงได้แค่ขนาด 3.5 ฟุต ถ้าใครไม่จำเป็นต้องทำเป็นห้องนอนจะแปลงเป็นห้องทำงานก็ได้นะ เพราะโครงการไม่ได้ให้ตู้เสื้อผ้ามาด้วย

ห้องนี้เป็นแบบ 1 Bath แต่ออกแบบให้เข้าได้ทั้ง 2 ทาง ช่วยให้การใช้งานจากห้องนอนใหญ่มีความเป็นส่วนตัวและใช้งานได้สะดวกขึ้น

ภายในห้องน้ำยังคงได้ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์เหมือนกับห้อง 1 Bed

ห้องนอนใหญ่ไม่ได้ใหญ่มากนัก วางเตียง 5 ฟุตจะเหมาะกับขนาดของห้องมากกว่า 6 ฟุต

หน้าต่างได้แบบเต็มหน้ากว้างห้องเพราะไม่มีพื้นที่วาง CU ช่วยให้ได้แสงธรรมชาติมากขึ้น

ระเบียงของห้องนอนใหญ่จะไม่สามารถเดินไปห้องนั่งเล่นได้นะ ไม่เหมือนห้องนอนเล็กที่เดินทะลุไปมาได้

ภายในห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เช่นกัน แต่ตู้เสื้อผ้าในห้องแบบ 2 Bedroom จะมีลูกเล่นพิเศษให้เป็น Side Wardrobe สำหรับห้อย Accessories ต่างๆไว้ใช้หยิบมาลองแต่งหน้า/แต่งตัวได้ สาวๆน่าจะถูกใจฟังก์ชันนี้นะครับ ^_^

ปิดท้ายด้วยผังห้อง 1 Bedroom อีกแบบนึงที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย 37 – 37.75 ตร.ม. ห้องนี้จะได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น ได้ทั้งครัวปิดและ Walk in closet ระเบียงได้แบบโค้งครึ่งนึงส่วนตรงห้องนั่งเล่นได้หน้าต่างแบบ Signature ของ HAUS ไว้เปิดรับลม

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 November 2017

  • 1 Bedroom เนื้อที่ 29.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท หรือ 120,672 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom เนื้อที่ 50.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 8.86 ล้านบาท หรือ 175,445 บาท/ตร.ม.
  • Fully Fitted
  • ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ส่วนครัวสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไป BTS อ่อนนุช ทุกๆ 20 นาที
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 67 บาท/ตร.ม./เดือน

วันเสาร์ที่ผ่านมาสำนักงานเปิดให้เข้าชมแล้วนะครับ ส่วนงาน Presale จะจัดที่สยามพารากอนในงาน Sansiri Live Comes Home 2017 ในวันที่ 24 – 26 พ.ย. นี้ มีโปรโมชั่นจองและทำสัญญาในงาน รับฟรี iPhone X

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ทำเลของโครงการ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri ถือว่าเป็นทำเลที่แตกต่างจากคอนโด Low Rise ทั่ว ๆ ไปในย่านนี้ เพราะการอยู่ใน T77 ถือเป็นข้อดีในเรื่องสภาพแวดล้อมที่ทางแสนสิริหมายมั่นปั้นออกมาให้ดูดีและน่าใช้งาน ลักษณะของโครงการแบบนี้จึงไม่ได้หาได้ทั่ว ๆ ไปนะครับ เพราะต้องมีที่ดินที่ใหญ่มากพอ สำหรับทำเลติดริมคลองพระโขนงนั้น จากรูปร่างและตำแหน่งของแปลงที่ดินจะได้วิวริมน้ำที่สวยกว่า mori แน่ ๆ เพราะอยู่ตรงช่วงโค้งพอดี ซึ่งถ้าใครต้องการคอนโดที่ไม่วุ่นวาย เน้นการพักผ่อนแบบสงบ ๆ ทำเลนี้ถือว่าเหมาะสมแล้วครับ ยิ่งโครงการออกแบบมาในสไตล์รีสอร์ทเน้นการพักผ่อน โครงการนี้จึงเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่โครงการที่ติดคลองและตอนสร้างเสร็จจะได้บรรยากาศที่พักผ่อนดีกว่าตัวอื่น ๆ

ความอุดมสมบูรณ์ในย่านอ่อนนุชมีสูง เพราะมีแหล่งชุมชนอยู่ในถนนอ่อนนุชยาว ๆ ไป ทำให้คนมาต่อรถที่ถนนนี้เยอะและตอนนี้ย่านนี้กลายเป็นชุมชน Expat ขนาดใหญ่จนต้องมี Super Rich ให้แลกเงิน ข้าวของต่าง ๆ ใน Lotus Big C ก็จะมีของนำเข้ามากกว่าปกติเพื่อรองรับชาวต่างชาติ ร้านอาหารใน Lotus ก็เน้นขายชาวต่างชาติ ใน 7Eleven มีบูทขายมือถือพร้อมเปิด sim มาให้บริการ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกที่ชัดเจนถึงความเป็นเอกลักษณ์แบบ Expat ของอ่อนนุช

การเดินทางโดยใช้รถ – สำหรับโครงการ kawa HAUS ใน T77 โดย Sansiri ถือว่าเดินทางได้สะดวก ถึงแม้จะมีระยะเข้ามาใน T77 ที่ไกลกว่าเพื่อนแต่ถ้าขับรถระยะแค่นี้ถือว่าไม่ได้เป็นประเด็นอะไร การเดินทางค่อนข้างสะดวกเพราะโครงการนี้อยู่ใน T77 ไม่ต้องเสียค่าผ่านทางเวลาจะไปขึ้นทางด่วนหรือถ้าสุขุมวิทรถติดมาก ๆ ใช้ซอยย่อยในสุขุมวิท 71 มาทะลุเข้าบ้านได้ไม่ต้องไปรอรถติดที่ถนนใหญ่ แต่เสียดายให้ที่จอดรถน้อยไปหน่อย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – มีความสะดวกประมาณนึง ที่ต้องบอกแบบนี้ก็เพราะโครงการจะมีรถตู้บริการส่งถึงสถานี BTS อ่อนนุชไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ขากลับต้องกลับเองซึ่งถ้าเป็นขยันเดินหน่อยก็ไม่เป็นปัญหาอะไร เดินมาถึงหน้าทางเข้า T77 ระยะประมาณ 700 เมตร จะมีรถกอล์ฟวิ่งรับเข้าไปที่ Habito ส่วนรถสาธารณะอื่น ๆ ก็มีอยู่เยอะมีทั้งพี่วิน รถสองแถว และ taxi ให้ใช้บริการ แต่ต้องมาขึ้นที่หน้าทางเข้า T77 นะครับ

วัสดุ – โครงการ kawa HAUS ใน T77 จาก Sansiri นี้ให้ของมาค่อนข้างดีนะและแตกต่างจากรุ่นพี่ mori และ hasu อยู่พอสมควร ถึงแม้จะเป็นการขายแบบ Fully Fitted แต่ก็ให้ตู้เสื้อผ้ามาเพิ่ม และชุด Built-in ที่ให้มาก็ออกแบบมาน่าใช้งาน ที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้จะเป็นเรื่องของหน้าต่างที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.7 เมตร ได้หน้าต่างบานใหญ่เน้นเปิดกว้างรับลมและได้วิวเยอะขึ้นด้วย ส่วนลูกเล่นที่น่าสนใจอีกจุดคือการทำสีอ่างล้างหน้าและเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับชื่อโครงการ kawa ถือว่าเก๋และกล้าทำดี เคาน์เตอร์ครัวได้หินแกรนิตพร้อม Back Splash กระจกเงา ในห้องก็ได้เทคโนโลยีใหม่มาด้วยไม่ว่าจะเป็น Sansiri AI BOX หรือไฟเปิดปิดอัตโนมัติในห้องน้ำและโถสุขภัณฑ์แบบกึ่งอัตโนมัติ

การออกแบบ – ที่ดินของโครงการนี้มีถึง 6 ไร่และติดริมคลอง ทำให้โครงการตัดสินใจที่จะออกแบบมาในแนวรีสอร์ทซึ่งถือว่าเหมาะแล้วกับทำเลที่ได้ติดช่วงโค้งของคลองและมีความยาวถึง 150 เมตร มีการนำแนวคิดจากรูปทรงของไม้ไผ่มาใช้อย่างจริงจังกับตัวอาคารและการวางผังของส่วนการ เพื่อให้ตัวอาคารดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ พยายามให้รายละเอียดกับหน้าตาอาคารโดยที่มีฟังก์ชันช่วยบังสายตาการวาง CDU ในแต่ละยูนิตด้วย ในส่วนของการออกแบบห้อง ผมชอบห้องแบบ 1 Bed นะเพราะออกมาแล้วดูกว้างโดยที่ฟังก์ชันในแต่ละจุดยังใช้งานได้ดีอยู่ไม่ได้ดูแน่นจนเกินไป

สาธารณูปโภค – พื้นที่ส่วนกลาง (Facilities) จัดมาหลายอย่างและครบตามมาตรฐานของคอนโดในยุคนี้ สิ่งที่โครงการคอนโดใน T77 จาก Sansiri แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ก็คือการออกแบบเน้นไปที่การพักผ่อนแบบรีสอร์ท นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสระว่ายน้ำจึงต้องมีรูปร่างแบบอิสระ (Free Form) ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมเหมือนทั่ว ๆ ไป ให้พื้นที่จากุชชี่แบบแยกน้ำร้อนน้ำเย็นซึ่งเราจะไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อย ๆ พื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ จะเน้นให้มีความทันสมัยด้วยเทคโนโลยีที่แสนสิริลงทุนไป ซึ่งของต่าง ๆ เล่านี้จะให้เล่าแบบเห็นภาพชัดเจนคงลำบาก เนื่องจากโครงการยังสร้างไม่เสร็จ ต้องอาศัยจินตนาการพอสมควร แต่สิ่งนึงที่เป็นจุดเด่นของแสนสิริก็คือการลงทุนกับพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งถ้าใครเคยเข้าไปดูคอนโดแสนสิริที่สร้างเสร็จแล้ว จะพอเข้าใจว่าเค้าเก่งเรื่องการสร้างบรรยากาศส่วนกลางให้ดูดีได้จริง ๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับระดับราคา 140,000 บาท/ตร.ม., 18 November 2017

  • ทำเล 7.25/10 – ทำเลใน T77 จาก Sansiri สงบ ปลอดภัย น่าอยู่ ของกินเยอะ บรรยากาศริมคลอง แต่เข้าซอยลึกไปหน่อย
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวกเข้าออกสองเส้นทาง ใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.0/10 – ไกลจากรถไฟฟ้า มีรถตู้ไปส่งแต่ไม่รับกลับ ขากลับต้องใช้รถสาธารณะ
  • วัสดุ 8.0/10 – ให้ของมาค่อนข้างดี ได้หน้าต่างบานใหญ่แบบพื้นถึงฝ้า
  • แบบ 8.5/10 – ออกแบบดี มีรายละเอียด เน้นการพักผ่อนสไตล์รีสอร์ท
  • สาธารณูปโภค 8./10 – ให้มาหลากหลายและออกแบบมาน่าใช้งาน

  • HIGH CLASS
  • 7.6 / 10.00

BOTTOM LINE

kawa HAUS โครงการคอนโดในพื้นที่ T77 จาก Sansiri เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดไว้พักผ่อนแบบสงบๆ ไม่วุ่นวาย ชอบบรรยากาศโครงการที่ดูดีน่าใช้งาน อยากได้ที่พักอารมณ์รีสอร์ทติดริมน้ำ เน้นใช้ส่วนกลางสวยๆ ชอบเล่นน้ำ แช่น้ำ เป็นคนขยันเดินประมาณนึง ชอบของมีแบรนด์ มีงบประมาณระดับ 3.6-9 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 25,000 – 72,000 บาท/เดือน