Ivy-Ampio---397

รีวิวฉบับที่ 823 … ตั้งแต่ปี 2012 ที่ผมได้เข้าไปทำ Ivy Ampio รีวิว จนกระทั่งปีที่แล้วที่คุณโอ๋และคุณบูมได้ถ่ายทำ Duplex Battle ในรายการคิดเรื่องอยู่เป็นต้นมา วันนี้ผมก็ได้โอกาสเสียทีที่จะเข้าไปเก็บรีวิวฉบับสมบูรณ์ของตึก Ivy Ampio บนถนนใหญ่รัชดาภิเษก ใกล้ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ จากพฤกษา เรียลเอสเตท ครับ

Fact @ 16 April 2015

  • Ivy Ampio (ไอวี่ แอมพิโอ)
  • บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สามเสนใน
  • คอนโด High Rise 29 ชั้น 289 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 167 คันคิดเป็น  58% และ 198 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 68%
  • ที่ดินประมาณ 2-0-39 ไร่
  • สร้างเสร็จพร้อมอยู่: 2557
  • Studio 30 – 33 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 42 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 77 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms Duplex 114 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร / Duplex 6.6 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น (2015) 7 ล้านบาทหรือประมาณ 166,000 บาทต่อตารางเมตร
  • สร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • www.ivyampio.com
  • Call Center : 1739

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :  13.763204, 100.568268

เรื่องแผนที่และทำเลของ Ivy Ampio เนื่องจากเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่เราเคยนำเสนอไปแล้วในรีวิวฉบับก่อน Ivy Ampio รีวิว เราจึงขอข้ามไปในรีวิวฉบับนี้นะครับ


เจาะลึกตัวโครงการ

Ivy Ampio เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ของค่ายพฤกษาเรียลเอสเตท ที่ใช้แบรนด์ Ivy ในคอนโดระดับหรูที่สุดเริ่มตั้งแต่ Ivy ทองหล่อเป็นต้นมา

โดยตัวอาคารจะติดถนนใหญ่รัชดาภิเษกมีความสูง 29 ชั้นกับจำนวนยูนิต 289 ยูนิต ซึ่งจัดว่ามีความหนาแน่นไม่มาก สำหรับตึก High Rise ติดถนนใหญ่ ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรมตึกนี้

ฝั่งตรงข้ามของโครงการคอนโดมิเนียมเป็นอาคารสำนักงานรุ่นใหม่ อาทิ เช่น ตึก AIA ที่จะช่วยพัฒนาโซนรัชดา-พระราม 9 ให้เป็น New CBD ในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ย้อนไปเริ่มตั้งแต่การเปิดตัวของรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เมื่อหลายปีก่อน ส่งผลให้มีการเติบโตของคอนโดมิเนียมในรัศมีรถไฟฟ้าใต้ดิน และการมาเยือนของห้างสรรพสินค้า Esplanade และ Central พระราม 9 การพัฒนาอาคารสำนักงานอย่าง AIA, ตลาดหลักทรัพย์, G Land และคอนโดรุ่นใหม่บนถนนพระราม 9 ต่อเนื่องอโศกดินแดง และทั้งหมดนี้จะเห็นผลชัดเจนมากๆหากตึก Super Tower ที่บริเวณสี่แยกรัชดา-พระราม 9 สร้างเสร็จสมบูรณ์แบบจนกลายเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ก็จะกล่าวได้ว่าพื้นที่แถบนี้เป็นย่าน CBD อย่างแท้จริง

บริเวณด้านหน้าติดกับตัวตึกนั้นเป็นคลองเล็กๆ ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่าไม่มีกลิ่นเลย แต่โดยรวมเท่าที่ผมเดินสำรวจ สภาพก็ไม่ได้สร้างความน่ารำคาญใจให้กับผู้อยู่อาศัยและผู้ที่ทำงานในย่านแถวนี้

ตัวตึก Ivy Ampio นั้นหันด้านกว้างเข้าหาถนนพระราม 9 โดยตั้งใจบิดหลบตึก True ที่อยู่ด้านข้าง แต่ทั้งนี้มุมมองบางส่วนก็คงจะหนีไม่พ้นที่จะซ้อนทับกับอาคาร Noble Revolve รัชดาที่กำลังจะก่อสร้างขึ้นในอนาคต

ให้ชม Plot ที่ดินด้านหลังตึก Ivy Ampio นะครับ ว่าต่อไปก็คงจะถูกพัฒนาขึ้นมาแน่นอน

วิวที่โล่งๆแบบนี้ของทิศตะวันออกก็คงจะหนีไม่พ้นที่จะถูกบังในบางส่วน

โดยยังมีบางมุมของทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่หักหลบไปทางถนนพระราม 9 มองผ่านตึก Belle, LPN จนไปเห็น TC Green ที่มียอดทองๆตรงนั้น

ส่วนวิวทิศเหนือขนานกับถนนรัชดาไปทางลาดพร้าวก็ยังคงโล่งอยู่

อาคารสำนักงาน AIA ไม่ได้บังวิวอะไรมากมาย

แต่อาคารสำนักงานตลาดหลักทรัพย์ใหม่ทางฝั่งทิศตะวันตกก็เป็นปัญหานิดหน่อย บล็อคมุมไปบางส่วน

ส่วนมุมมองทิศใต้หันไปทางสี่แยกพระราม 9 นั้นก็โล่งอย่างที่เห็นครับ

ชั้นล่างของตึกถูกตกแต่งสวยงามเป็นอย่างดี ตั้งแต่ป้อมรักษาความปลอดภัยที่ประดับด้วยหินอ่อน ตลอดจนไปถึงพื้นผิวอาคารภายนอกแทบทั้งหมดของชั้น Ground Floor

ชั้นล่างมีที่จอดรถของ Visitors อยู่จำนวนหนึ่ง หากมากกว่านี้ก็ต้องวนขึ้นไปจอดชั้นบน ซึ่งที่จอดรถรองรับได้ทั้งสิ้น 198 คันรวมจอดซ้อนคัน หรือคิดเป็น 68% ของจำนวนห้อง สิทธิ์ในการจอดรถของห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedrooms จะเหมือนกันที่ 1 คันไม่ Fix ที่ แต่สำหรับห้อง Duplex นั้นจะได้สิทธิ์จอดรถ 2 คัน โดย 1 คันจะได้ Fix ที่จอด (แต่ไม่มีโฉนด) กับอีก 1 คันจะไม่ได้ Fix ที่จอดรถ

ชั้นล่างเป็น Lobby เพดานสูง ตกแต่งด้วยวัสดุหินแท้และโลหะสี Copper ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับโปรเจค ไม่แพ้ทางเข้า Lobby ของโรงแรม 4-5 ดาว

นอกจากทางเดินขึ้นบันไดแล้วยังมีทางลาดขึ้นด้วย สำหรับผู้ที่ต้องใช้รถเข็น ตลอดจนการขนของ ลากกระเป๋าเดินทาง ในการเรียก Taxi ไปสนามบิน

เพดาน Lobby ที่สูง 6-7 เมตรและการตกแต่ง Interior ด้วยผนังหินอ่อนที่ล้อกันมากับ Exterior ช่วยเสริมความหรูหราให้กับอาคาร Ivy Ampio ซึ่ง

ด้านข้าง Lobby นั้นมีที่นั่งค่อยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปยังพื้นที่ส่วนกลางที่เข้าได้จากชั้น Ground Floor ซึ่งจะเข้าใช้ได้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้น

ตั้งแต่ประตูบานนี้ไปจะต้องใช้ Key Card ในการเข้าออก ดังนั้น Ampio Lounge จึงเป็นสถานที่ที่คนนอกจะเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามาใช้งานไม่ได้

ภายใน Ampio Lounge ถูกตกแต่งให้หรูหราไม่แพ้ Lobby ของโรงแรมชั้นนำ มีการใช้วัสดุประเภทหนัง หินธรรมชาติ และวัสดุมันวาวโทนสี Copper

 

วัสดุทั้งหมดเน้นความหรูหราและการสร้างความกลมกลืน โดยที่นั่งจะแบ่งเป็นโต๊ะยาว โต๊ะสูงและชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งทานกาแฟ หรือเล่นคอมพิวเตอร์

Highlight ของห้อง Ampio Lounge นี้คงจะหนีไม่พ้นโต๊ะบาร์สูงตัวนี้ ที่ทำจากหินซ่อนไฟเรืองแสง วางอยู่ตรงกลางห้อง

ประดับโคมไฟดีไซน์แนว Crystal ห้อยลงมาจากเพดานสูง ช่วยขับเน้นให้บริเวณโต๊ะบาร์ดูโดดเด่นขึ้นไปอีก

และแน่นอนโต๊ะบาร์ก็คงจะขาดเครื่องดื่มไปไม่ได้ ด้านหลังทำเป็นตู้เก็บ Wine สำหรับลูกบ้าน สามารถเอามาฝากได้นะครับ

มองย้อนขึ้นไปด้านบนจะเห็นว่าไฟตรงนี้ทำออกมาได้ระยิบระยับ สวยงาม

โดยนอกจากห้อง Lounge แล้วยังมีห้องประชุม ที่ลูกบ้านสามารถมาขอใช้งานได้ เผื่อว่าจะมีการนัดคุยงาน ติดต่อธุรกิจของลูกบ้าน โดยสามารถใช้ Facility ในส่วนของคอนโดมิเนียมได้เลย

ถัดจาก Wine Cellar และห้องประชุมก็จะมีพื้นที่ด้านข้างๆทำเป็นจุดใช้งานคอมพิวเตอร์และ Internet โดยรวมแคบหน่อยแต่ถ้าจะเรียกว่าซอกก็น่าเกลียดไปนิดนึง

ลูกบ้านสามารถลงมาใช้งานคอมพิวเตอร์และ Internet ตรงนี้ได้ โดยจะมีบริการให้คล้ายๆกับ Business Center ของโรงแรม

เดินขึ้นมาเหนือห้องคอมพิวเตอร์ก็จะเป็นพื้นที่เหลาเต๊งหรือชั้นลอยของ Ampio Lounge ที่จะค่อนข้าง Private และเงียบสงบกว่าชั้นล่าง โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนคือ Quiet Room และ The Hustle

บริเวณ Quiet Room ก็ตรงตัว คือจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบเงียบๆ ใครจะมาใช้คอมพิวเตอร์หรือเล่น iPad บริเวณนี้ก็ได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้เสียง โทรศัพท์หรือคุยกันนะครับ

ถัดมาก็จะเป็นพื้นที่ตรงกันข้าม … The Hustle ที่เป็นโซนกิจกรรมส่วนตัว

ห้อง The Hustle ถูกออกแบบมาคล้ายๆกับ Party Room ให้มานั่งสังสรรค์กันได้ รองรับแขกเหรื่อได้มากพอสมควร ทั้งยังได้ความเป็นส่วนตัว ต่างจากห้องนั่ง Lounge ด้านล่าง

การตกแต่งภายในของ The Hustle ก็ต้องเรียกว่าเป็นอีกสไตล์ คือจะเพิ่มความ “เป็นกันเอง” และความ “สบาย” มากขึ้น ต่างกับห้องด้านล่างที่จะดูเป็นโรงแรมไปนิดนึง

จบส่วนของ Ampio Lounge แล้วนะครับ เดี๋ยวผมจะพาไปชมส่วนกลางอื่นๆกันต่อ ขอบอกว่าตึกนี้มีส่วนกลางให้เยอะมาก และเป็นส่วนกลางที่ค่อนข้างดีมาก เมื่อเทียบกับจำนวนห้องเพียงไม่ถึง 300 ห้องเท่านั้น

ส่วนกลางที่ขาดไม่ได้ของทุกตึกคงจะหนีไม่พ้นตู้จดหมายและห้องของนิติบุคคล

โดยตู้จดหมายที่นี่ถูกจัดไว้ตามกำแพงโค้ง สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก

และห้องสำนักงานนิติบุคคล ที่มี Counter ในการติดต่อเจ้าหน้าที่ พร้อมฆ้อง 1 ชิ้น สำหรับเคาะเรียกให้สัญญาณ … แหม่ เข้าใจคิด

ส่วนกลางสุดท้ายของชั้นล่างก็คงจะเป็นเรื่องของห้องน้ำ ที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดี ไม่ได้ทำขึ้นมาแบบไร้ Detail นะครับ

เราจะกด Lift ขึ้นไปชมส่วนกลางชั้นบนสุดกันต่อไป โดยโถง Lift ก็เป็นพื้นที่ที่สำคัญมาก เป็นหน้าเป็นตาของโครงการ และน่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ลูกบ้านได้ใช้กันบ่อยที่สุดแล้วละ

กดลิฟท์จากชั้น L ขึ้นไปชั้น C กันเลย

ชั้น C (Cloud @29) เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น จะแบ่งพื้นที่เป็นส่วนย่อยหลายๆส่วน และยังคงการตกแต่งด้วยวัสดุสีทองแดงเป็นหลักเช่นเดิม

ด้านบนมี Lobby เล็กน้อยก่อนจะแยกเป็นส่วนต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย Sky Gym, สระว่ายน้ำ และสนามซ้อมกอล์ฟเป็นหลัก

ห้องแรกที่จะพาไปชมคือ Sky Gym

เปิดเข้าไปแล้วผมนี่ชอบมาก การเล่นระดับลงไปให้สายตาเห็นมุมแนวสูงของกระจกทำให้สัมผัสได้ถึงคำว่า “Sky” อย่างแท้จริง

ฟิตเนสที่นี่เปิดแอร์ตลอดเวลา ทั้งยังมีขนาดใหญ่ อุปกรณ์ครบครัน แทบไม่ต่างกับฟิตเนสตามโรงแรมชั้นดี และได้ผนังกระจก 270 องศา

เครื่องเล่นครบทั้ง Strength Training, ลูวิ่ง, ปั่นจักรยานและ Free Weight

ของที่ใช้ก็ไม่ใช่ของห่วยนะครับ แทบทุกเครื่องเล่นมีหน้าจอ LCD พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆ ต่างจากฟิตเนสเดิมๆ

ทั้งขนาดของฟิตเนสและจำนวนเครื่องเล่นมากขนาดนี้จะตามฟิตเนสในคอนโดนั้นตอบได้เลยว่ายาก และถ้าลูกบ้านเป็นคนที่ไม่ต้องการเข้า Class ต่างๆ ของฟิตเนสชั้นนำ ผมว่าก็ไม่มีประโยชน์ที่จะไปสมัครฟิตเนสอีกแล้วละครับ ใช้งานที่บ้านสะดวกกว่า รวมไปในค่าส่วนกลางทั้งหมดแล้วด้วย จะไปจ่ายค่าฟิตเนสข้างนอกอีกทำไม … ถ้าใครติด Trainer ก็เรียกมาเทรนกันที่นี่เลยก็ได้ ค่าชั่วโมงแบบไม่ถูกฟิตเนสเก็บหัวคิวถูกกว่าอยู่แล้ว

ถัดมาของพื้นที่ CLOUD @ 29TH นั้นจะเป็น Sky Deck & Sky Pool หรือพื้นที่สระว่ายน้ำนั่นเอง ซึ่งพื้นที่นี้ก็จะต่อเชื่อมกับห้องอาบน้ำด้านในตัวตึก

สระว่ายน้ำและ Deck ด้านนอกเป็นสระ Outdoor ที่แบ่งเป็นสามส่วนคือสระเด็ก สระผู้ใหญ่และ Jacuzzi

ทันทีที่เดินออกมาสัมผัสกับโซนสระน้ำก็จะรู้สึกได้เลยว่าบรรยากาศเปลี่ยนไป วัสดุหรูหราอย่างหิน ทองแดง โลหะมันวาวหายไปทั้งสิ้น กลายเป็นพื้นที่แนวชิว Relax พักผ่อน ให้ความผ่อนคลายมากกว่า … แต่ถ้าใครติดความหรูหราจะบอกว่าความหรูนั้นลดลงไปไม่เหมือนข้างในก็คงจะตอบได้ว่าไม่ผิดนะครับ

ราวกันตกของพื้นที่ Sky Deck นั้นทำด้วยกระจกนิรภัย ทำให้สามารถมองทะลุออกไปได้ไม่บดบังสายตา วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเป็นของที่ใช้ Outdoor จึงสามารถตั้งวางด้านนอกได้ตลอดไม่ต้องกลัวแดดและฝน

สระว่ายน้ำขนาดยาวพอที่จะว่ายออกกำลังกายได้ แต่แนวต้นไม้อาจจะยังไม่โตให้ร่มเงาได้มากเท่าไร ก็คงเป็นข้อจำกัดของเรื่องต้นไม้บนอาคารที่ต้องทำใจกันทุกตึกไป

ใครว่ายน้ำเสร็จแล้วก่อนที่จะเข้าไปด้านในก็ต้องมาอาบน้ำล้างตัวกันตรงนี้ก่อน และทันทีที่เดินเข้าไปข้างในก็สามารถใช้ห้องน้ำด้านในได้ต่อเนื่องทันที

เปรียบเทียบรูปนี้กับรูปด้านบนก็จะเห็นถึงความแตกต่างของห้องอาบน้ำด้านในและด้านนอก ที่สะท้อนถึง Character ที่แตกต่างกันอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

ภายในห้องน้ำด้านในมี Facilities หลักๆอีกสองชุด คือห้อง Steam และ Sauna แยกชายหญิง

สุดท้ายคงจะหนีไม่พ้น Facilities ที่หาได้ยากในคอนโดที่ไหนก็ตาม แม้ว่าเป็นโรงแรม 5 ดาว ก็เถอะก็ยังไม่ค่อยมีกันเลย

นั่นคือห้อง Golf Simulator … ที่ติดตั้งระบบฉายภาพและคอมพิวเตอร์ประมวลผล ให้คุณลูกบ้านที่เป็นนักกอล์ฟมาซ้อมวงสวิงกันได้ละครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ แบ่งเป็นสระเด็ก ผู้ใหญ่ และ Jacuzzi
  • ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ SKY GYM
  • ห้อง Golf Simulator
  • Ampio Lounge
  • Meeting Room
  • Business Center
  • Quiet Room
  • The Hustle
  • Lobby ขนาดใหญ่
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อ/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 96 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถ 189 คันคิดเป็น 68% รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card


Product Walkthrough

ห้องแรกที่เราจะพาไปชมคือห้อง 48/106 หรือห้อง 1 Bedroom ขนาดมาตรฐาน ที่ 42 ตารางเมตร นะครับ

แปลนห้องจะเป็นห้องที่มีพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนระหว่างห้อนอนและห้องนั่งเล่น จุดเด่นคือ Double Access Bathroom, Walk-in Closet และ Bath Tub

ราคาขายปัจจุบันในวันที่เข้าไปเก็บข้อมูลนั้นรวมสิ่งต่างๆเหล่านี้แล้ว คือ

  1. ชุดเฟอร์นิเจอร์พร้อม Built-in
  2. ชุด Home Automation และ Digital Doorlock
  3. โคมไฟและชุดไฟ LED แบบหรี่ได้
  4. ชุดครัว พร้อมเตาและเครื่องดูดควัน ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้แช่ไวน์ ไมโครเวฟ ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า
  5. แอร์และวอลล์เปเปอร์

ดังนั้นราคาราว 160,000+ ต่อตารางเมตรที่เห็นในใบราคาได้รวมรายละเอียดทั้งหมดนี้ไปแล้วนะครับ

ครัวของที่นี่ได้เป็นรูปตัว L และพอต่อเข้ากับโต๊ะทานข้าวก็จะสามารถวางเป็นรูปตัว U ได้

ฝั่งตรงข้ามของครัวจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นและเตาไมโครเวฟแบบฝังดังภาพ

พื้นที่ทานข้าวอาจจะจำกัดหน่อย โดยทั่วไปไม่ควรใช้เกิน 2 คน แต่จากดีไซน์แล้วถ้ามีเพื่อนมาอีกคนหนึ่ง ก็สามารถเสริมเก้าอี้นั่งฝั่งตรงข้าม และใช้ Top ครัวบางส่วนแทนพื้นที่วางจานกับข้าวได้เช่นกัน

 

เก้าอี้สองตัวนี้ออกแบบมาสวยงาม เข้ากับโต๊ะ แต่การใช้งานเวลาเก็บเข้าด้านในจะสอดเข้าใต้โต๊ะจะสอดไม่ได้ทั้งหมดเพราะติดส่วนโต้งของพนักพิง ทำให้เปลืองพื้นที่อยู่เหมือนกันนะ

พื้นผิวของครัวนั้นมีไม่มาก แต่ใช้วัสดุที่ดีในการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นหินสังเคราะห์, กระจก Glasskote, หน้าบาน Glossy และการซ่อนไฟใต้ตู้

พื้นที่ด้านข้างก็ออกแบบให้วางกุญแจและเก็บของได้เต็มที่ ทั้งยังมีกระจกใสมากั้นน้ำบริเวณอ่างล้างจานไม่ให้กระเด็นออกมาด้วย

พื้นที่เท่านี้แม้ว่าจะใช้งานสองคนพร้อมกันไม่ได้ แต่ถ้าใช้งานทีละคนก็ต้องบอกว่าเหลือเฟือครับ

มองในมุมกลับก็จะเห็นว่ามีพื้นที่ห้องน้ำเชื่อมต่อกับครัวอยู่ด้วย เดี๋ยวเราค่อยไปชมกันนะครับ

เราไปดูพื้นที่เก็บของในครัวกันก่อน ว่าตู้ทั้งหมดเก็บอะไรได้มากน้อยขนาดไหน

… และหากพื้นที่เก็บของบริเวณครัวเกิดไม่พอขึ้นมา … ฝั่งตรงข้ามยังมีให้ใช้อีกเยอะ

 

ข้อสังเกตหนึ่งที่หลายๆคนอาจจะไม่ชอบสำหรับพื้นที่ครัวก็คือ พื้นห้องครัวไม่ได้แยกส่วนจากพื้นห้องทั้งหมด โดยจะใช้วัสดุลามิเนตเหมือนกับห้องนั่งเล่นและห้องนอน ความทนกรดทนด่างก็จะน้อยกว่าวัสดุประเภทกระเบื้องที่เราเห็นกันในคอนโดมิเนียมหลายๆแห่งนะครับ

เดินเข้าไปในห้องน้ำกันบ้างละ ห้องน้ำห้องนี้สามารถเข้าได้จาก 2 ทางนะครับ คือห้องครัวและห้องนอน แก้ปัญหาคนที่ชอบห้องน้ำอยู่ด้านในหรือบางคนที่ชอบให้ห้องน้ำอยู่ด้านนอก ปรับให้เข้าได้จากทั้งสองทาง

โดยห้องน้ำที่เข้าจากด้านนอกนั้นเอาไว้สำหรับผู้ที่มาใช้สุขาโดยเฉพาะ

มีอ่างล้างมือแยกต่างหากไว้ให้ด้วย

โดยจะมีบานเลื่อนกั้นแยกส่วนห้องน้ำด้านนอกและด้านใน ถ้าใครจะแยกส่วนตรงนี้ก็สามารถหาม่านหรือฟิล์มขุ่นมาปิดทับเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวได้

โดยห้องน้ำด้านในจัดพื้นที่สำหรับอาบน้ำมาให้ 2 ชุด ทั้งอ่างอาบน้ำและยืนอาบ พร้อมกับอ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ด้วย

จัดว่าครบครันทุกฟังก์ชั่นเลยทีเดียว

ดังนั้น … ห้องน้ำบ้านนี้ทางทฤษฎีสามารถใช้งานได้พร้อมกันจริงๆถึง 3 คน คือคนหนึ่งอาบน้ำในห้อง Shower Room อีกคนหนึ่งแช่อยู่ในอ่าง และอีกคนหนึ่งใช้งานห้องสุขา ส่วนทางปฏิบัตินั้นก็ต้องขึ้นอยู่ว่าอยู่กับใคร อย่างไร ละครับ

ส่วนถัดมาเป็นส่วนของโต๊ะนั่งเล่นและชุดโซฟาริมระเบียง ที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนของห้องนี้

โซฟาตัวไม่ใหญ่มาก นั่งได้เพียง 2 คนแต่รับรองว่านั่งสบาย มีที่วางแขนขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวก

ฝั่งตรงข้ามของโซฟาเป็นประตูเข้าห้องนอน ทำให้พื้นที่วางทีวีอาจจะเล็กไปหน่อย ดูจากระยะควรจะวางทีวีใหญ่กว่านี้นิดหนึ่งนะครับ

ระเบียงของที่นี่ได้เป็นระเบียงกว้าง 80 เซ็นติเมตร ใช้งานได้สะดวกโดยจะไม่มี Air Compressor มาวางให้เกะกะ เพราะทางโครงการได้แยกส่วนของ Air Compressor ออกไปวางต่างหากด้านนอก ไม่เกี่ยวกับตัวยูนิตในห้องเลยแม้แต่น้อย

ไปโน่นเลย คอมพ์แอร์ที่ไม่มีใครรัก … ช่วยให้ระเบียงเรามีพื้นที่เพิ่มขึ้นและใช้งานได้ดีขึ้นมาก

มองออกไปผ่านสวนข้างๆตลาดหลักทรัพย์ใหม่ โล่งดีเหมือนกันครับ

สุดท้ายของห้องนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นห้องนอนที่ออกแบบมาให้กว้างระดับหนึ่ง วางเตียง King Size พร้อมโต๊ะข้างเตียงได้สองชุดซ้ายขวา

หัวเตียงบุให้เรียบร้อยไม่ต้องกลัวกระแทกผนังคอนกรีต

และส่วนทีเด็ดอีกส่วนหนึ่งก็คือ Walk-in Closet เล็กๆพร้อมบานกระจกเต็มตัว เหมาะสำหรับคุณผู้ชายคุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวกัน

แม้ว่าพื้นที่เก็บเสื้อผ้าจะไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ได้เติมเต็มความรู้สึกที่อยากมีห้องแต่งตัวเล็กๆ แม้ว่าจะเป็นพื้นที่คอนโดเพียง 42 ตารางเมตรก็ตาม

โดยเวลาเดินจากห้องแต่งตัวก็จะสามารถทะลุไปยังห้องน้ำที่บอกได้ละครับ

เตียงนอนได้กระจกบานใหญ่โดยสามารถระบายอากาศผ่านบานกระทุ้งด้านข้างได้

จบกันที่ระบบ Home Automation และ Digital Doorlock ก่อนที่เราจะออกจากห้องนี้ไปยังห้องถัดไปกันละครับ

ห้องถัดไปเป็น Studio ขนาด 30 – 33 ตารางเมตร โดยจะใช้ห้อง 48/32 เป็นตัวแทนของห้อง Studio ของ Ivy Ampio นะครับ

ห้อง Studio มีพื้นที่จำกัด ทำให้ฟังก์ชั่นลดลงจาก 1 Bedroom พอสมควร กลายเป็นห้องเบสิกที่เน้นการอยู่อาศัยแบบพอเพียง เหมาะกับการอยู่คนเดียวหรืออย่างมากที่สุดก็คือ 2 คนเท่านั้นครับ

แทนที่จะแบ่งสรรปันส่วนอย่างดีเหมือนกับ 1 Bedroom … ห้อง Studio กลับไม่คิดอย่างนั้น เอาพื้นที่แทบทั้งหมดมารวมกันเป็น Open Space ขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้ห้องดูแคบ กลายเป็นการรวมตัวกันของห้องนอน ห้องนั่งเล่นและโต๊ะกินข้าว ได้พื้นที่รวมกว้างๆอย่างที่เห็น

ฟังก์ชั่นต่างๆวางอยู่ข้างๆกัน แยกเป็นโซนๆแบบไม่มีผนังกั้น

ส่วนที่แยกออกไปจาก Open Space ขนาดใหญ่ก็คือครัวและห้องน้ำที่จะเข้าจากประตูใต้แอร์ตัวนั้น

การออกแบบอย่างนี้ก็แก้ปัญหาห้องเล็กให้ดูใหญ่ขึ้นมาได้ทันที แต่ก็ต้องเป็นคนที่โอเคกับการใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยนะครับ เช่นบางคนรับไม่ได้กับการเอาอาหารเข้ามาทานในห้องนอน … แต่พอโต๊ะทานข้าวอยู่ในห้องนอนก็ไม่มีทางเลือกนะครับ

ส่วนที่กั้นออกมาเป็นสัดส่วนก็คือครัวและห้องน้ำ โดยครัวจะได้เป็นครัวรูปตัว I พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนกับห้อง 1 Bedroom แต่พื้นที่ผิวในการทำงานจะลดลงมาก

จุดเดียวที่ห้อง Studio ดีกว่าห้อง 1 Bedroom ก็คือวัสดุปูพื้นที่บริเวณครัวนั้นเป็นกระเบื้อง แยกต่างหากจากห้องนอนที่เป็นพื้นลามิเนต

ส่วนห้องน้ำนั้นก็จะเข้าได้จากด้านข้างห้องครัวและไม่มีอ่างอาบน้ำ มีเพียงห้องอาบน้ำเท่านั้นนะครับ

ตัวซิงก์ก็จะติดลอยๆแบบนี้ ไม่มี Counter โดยรอบ ต่างจากห้อง 1 Bedroom ที่มีพื้นที่วางของมากกว่าพอสมควร

พื้นที่อาบน้ำก็มีพอให้อาบได้ แต่เวลาพลิกตัวอะไรแบบนี้ก็จะแคบนิดนึง

ปลายสุดของ Counter ครัวก็จะเป็นพื้นที่ระเบียงขนาดเล็ก

ซึ่งค่อนข้างเล็กจริงๆนะครับ ใครจะตากผ้าหรือทำอะไรตรงนี้ก็ต้องดูดีๆละ

 

สุดท้ายนี้ใครที่สนใจห้อง Duplex ก็สามารถชมรายการ คิด.เรื่อง.อยู่ ได้ตามวีดีโอข้างบนได้เลย

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ April 2015

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Electrical Appliances
  • ค่ากองทุน 650 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

สรุปอีกครั้งหลังจากที่ไปชมตึกจริงๆมาก็ต้องบอกว่าค่อนข้างประทับใจกับโครงการ Ivy Ampio ในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางมากกว่าเรื่องอื่นๆ ซึ่งทำออกมาได้สมราคาเมื่อเทียบกับการวางตำแหน่ง Marketing Position ของตัวตึกเป็นระดับ High Class – Luxury Class ในช่วงเปิดขาย

ส่วนรายละเอียดอื่นๆผมก็ได้สรุปไปหมดแล้วทั้งในรีวิวฉบับก่อนและรีวิวฉบับนี้คงจะไม่กล่าวซ้ำอีก ปัจจุบันเมื่อตึกสร้างเสร็จใครอยากเข้าไปชมของจริงก็สามารถเข้าไปชมได้ และผมก็แนะนำว่าเมื่อมีตึกสมบูรณ์ๆให้ดูแล้ว ก็ควรจะไปให้เห็นห้องจริงๆก่อนนะครับถึงค่อยตัดสินใจ ไม่ว่าจะซื้อมือหนึ่งจากโครงการ หรือซื้อมือสองจากเจ้าของห้องคนเดิม

BOTTOM LINE

ใครชอบคอนโดมิเนียมติดถนนใหญ่รัชดาภิเษก ในย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ก็ควรจะรวม Ivy Ampio เป็นตัวเลือกหนึ่งเสมอ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )