FEATURE_IDEO

รีวิวฉบับที่ 770 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมรีวิวคอนโดของอนันดา กับโครงการ IDEO สาทร-ท่าพระ เป็นคอนโด High Rise 31 ชั้น ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับ ถนนราชพฤกษ์ ใกล้ BTS สถานี โพธิ์นิมิตร (S9) เป็นรีวิวฉบับเต็ม ตึกเสร็จอัพเดตจากเดิมที่ Mr.Oe เคยพาเราไปดูทำเลและห้องตัวอย่างกันแล้วนะครับ วันนี้ผมจะพาไปอัพเดตรอบๆโครงการว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง หน้าตาส่วนกลางที่สร้างเสร็จแล้ว และวิวของจริงที่เห็นจะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยดีกว่าครับ

 

Fact @ 10 February 2014

  • IDEO SATHORN THA-PHRA 
  • ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ
  • Ananda Development.,Plc
  • UPPER  CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร 1339 ยูนิต + ร้านค้า 5 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 53 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  454 คัน คิดเป็น 34% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 37%
  • ที่ดินประมาณ 5-3-19 ไร่
  • Studio 21 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 30 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 45 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.5 ล้านบาท หรือประมาณ 119,428 บาทต่อตารางเมตร
  • http://www.ananda.co.th/condo/ideo/sathorn-thaphra/
  • โทร 02-316-2222

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.717063 , 100.482252

แผนที่จากทางโครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ถ้ามาจากสาทร เมื่อลงจากสะพานตากสินให้เบี่ยงซ้ายวิ่งเข้าเส้นคู่ขนาน จะพบแยกไฟแดงให้วิ่งตรงไปจากแยกไฟแดงประมาณ 500 เมตร จะเห็นสถานี BTS โพธิ์นิมิตร ให้วิ่งตรงไปอีกประมาณ 320 เมตร จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

แผนที่ระยะไกล

IdEO สาทร-ท่าพระ ทำเลที่ตั้งโครงการ ตั้งอยู่ที่ฝั่งธนฯครับ ใกล้แยกราชพฤกษ์-รัชดาฯ แต่ไม่ถึงกับติดซะทีเดียว ถนนด้านหน้าโครงการคือถนนเส้นหลักอย่าง ถนนราชพฤกษ์ ถึงจะเป็นถนนเส้นหลักแต่ช่วงบริเวณด้านหน้าโครงการ นับว่าเป็นโซนที่อยู่อาศัยและมีการค้าขายเบาบางนะ เนื่องจากทำเลที่ชาวบ้านอยู่อาศัยหนาแน่นนั้นจะอยู่กันในซอยส่วนมาก เพราะที่ดินติดถนนนั้นมีมูลค่าสูง แต่ถึงแม้ว่าจะมีความคึกคักน้อยแต่นับว่าเป็นจุดที่เดินทางโดยใช้ถนนสะดวกนะ เนื่องจากไม่ห่างจากแยกราชพฤกษ์-รัชดาฯ ที่สามารถใช้ไปออกฝั่งปิ่นเกล้า หรือ พุทธมณฑลได้ ถ้าจะเข้าเมืองข้ามฝั่งแม่น้ำไปทางสะพานตากสิน อาจจะต้องทนติดหน่อยในช่วงเช้าเย็น หรือจะเข้าเมืองข้ามไปทางสะพานพระราม 3 โดยวิ่งผ่านถนนรัชดาภิเษกก็ได้นะ แต่ก็ติดไม่ตากกับสะพานตากสินเท่าไร

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ คงต้องอาศัยพึ่งพา The Mall ท่าพระ แทบจะเป็นหลัก หรืออีกห้างที่ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่พึ่งพาได้ เปิดมานานแล้วเช่นกัน คือ โรบินสัน ลาดหญ้า (แต่ก่อนเป็นเซนทรัล) ส่วนเมอรรี่คิงก็ปิดเงียบ ร้างไปนานแล้ว ในระยะเดินสะดวกไม่เกิน 300 เมตร นี่ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นร้านซ่อมรถ สำนักงานอยู่ริมถนน มีร้านอาหารเป็นเพิงเล็กๆอยู่ 1-2 ร้าน ยังดีที่มี 7-Eleven อยู่ติดถนนใหญ่ด้านหน้าโครงการ Parkland TT และด้านหน้าเซเว่นมีร้านอาหารรถเข็นอยู่ 3-4 ร้าน และก็มีผับ bar & restaurant อยู่ติดกันด้วย ถือว่ายังมีแหล่งอาหารการกินเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง แต่ถ้าต้องการของสดอาหารทะเลเยอะ อาจจะต้องขับรถหรือต่อรถเมล์ไปที่ตลาดเทอดไท ตลาดวัดกลาง ตลาดพลูก็ได้ครับ อันนี้ฝากท้องสบาย

แผนที่BTS

ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ระหว่าง สถานีรถไฟฟ้าโพธิ์นิมิตร S9 กับสถานีตลาดพลู S10  ถ้านั่ง BTS มานี่จะง่ายมาก คือลงที่สถานี โพธิ์นิมิตร S9 ออกทางลงที่ 2 แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 320 เมตร ก็จะถึงโครงการ

S9_update

แผนที่รอบๆสถานีโพธิ์นิมิตรจาก BTS ครับ (คลิกที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)

ป้ายสถานี BTS โพธิ์นิมิตร ซึ่งรหัสของสถานีนี้คือ S9 นะครับ

จากสถานีจะมองเห็นโครงการ Ideo สาทร-ท่าพระ ได้เด่นชัด อยู่หลัง The Room นั่นแหละ

ทางออกไปโครงการให้ลงที่ทางออก 2 นะครับ

ทางลงทางขึ้นด้านนี้ เป็นบันไดธรรมดานะ ไม่ใช่บันไดเลื่อน

พอลงมาปุ๊บก็เจอพี่วิน มีให้เรียกใช้ตลอด ถ้ากลางวันก็เดินไปโครงการได้ แต่ถ้ากลางคืนแนะนำให้ใช้พี่วินจะดีกว่า เพราะถนนแถวนี้มันมีต้นไม้ใหญ่ ทำให้มืด และกลางคืนคนยังเดินไม่เยอะด้วยครับ

Price List by P’WIN อัตราค่าโดยสารมาตรฐานของพี่ๆเค้า

อุปสรรค การเดินทางโดยรถยนต์ สำหรับโครงการคือ “เกาะกลางถนน” ซึ่งมีทางเข้าออก เป็นช่วงๆ และโครงการตั้งอยู่ในจุดที่เข้าออกไม่สะดวก จึงต้องวิ่งทางขนาน ด้านซ้ายของเกาะกลางเท่านั้น

ฟุตบาท ทางเดิน จาก BTS ไปโครงการ เดินง่าย สบายครับ สำหรับตอนกลางวัน

ริมฟุตบาทจะมีเพิงร้านอาหารตามสั่ง แหล่งที่แวะพักทานอาหารของพวกพี่วินและพี่แท็กซี่ทั้งหลาย

คลองสำเหร่ ซึ่งเป็นเครือข่ายคลองย่านนี้  สภาพเหมือนคลองในเมืองทั่วไป คือน้ำเสียและมีกลิ่นครับ

เดินผ่านโรงเรียนเล็กๆ โรงเรียนมณีวิทยา ก่อนถึง The Room

ที่หน้าโรงเรียนมณีวิทยา มีสะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งได้ ซึ่งลูกบ้าน Ideo ก็คงต้องใช้สะพานนี้ถ้าจะข้ามไปฝั่งตรงข้าม

ผมอยู่บนสะพาน มองย้อนกลับไปสถานี BTS  และให้ดูสถาพทางเดินด้านขวาสุด ที่เพิ่งเดินผ่านมา จะเห็นว่า มีต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง ซึ่งดีสำหรับกลางวันเดินสบายไม่ร้อน แต่พอกลางคืนมันจะมืดมากครับ

มองไปทางโครงการ จะเห็นว่า มีเกาะกลางถนนยาววววไปจนเกือบจะถึงสะพานข้ามแยก ทำให้รถที่ชิดขวา วิ่งข้ามสะพานข้ามแยกวงเวียนใหญ่มา ไม่สามารถมีช่องทางเลี้ยวเข้าโครงการได้

โครงการ The Room สาทร ตากสิน ที่อยู่มาก่อน

การที่มีโครงการเพื่อนบ้านอยู่ก่อนเรา ทำให้แนวทางเดิน ซึ่งปลอดภัยขึ้น มีรปภ. หน้าโครงการคอยดูแล

ถัดจาก The Room มา เงยหน้ามองก็จะเห็นโครงการเราแล้ว ว่าแต่เจ้าสายไฟนี่มันช่างเกะกะสายตาจริงๆนะ

ก่อนถึงทางเข้ายังมีบ้านเก่าๆอยู่ข้างทาง และก็อาคารพาณิชย์ 4 ชั้นมีชั้นลอย ติดกับทางเข้าโครงการ ซึ่งตรงแนวนี้จะมีรถมาจอดเยอะหน่อยเพราะเป็นพวกร้านซ่อมรถ และริมฟุตบาทไม่ใช่แนวขาวแดง

20

พ้นอาคารพาณิชย์มาก็จะถึงทางเข้าโครงการแล้ว

สำนักงานขาย นี่อยู่เลยแนวเกาะกลางมา อย่างที่บอกไปแล้ว ถ้าจะเข้าโครงการต้องวิ่งมาจากทางขนานช่วงสถานีโพธิ์นิมิตรมาเท่านั้น

เลยโครงการมานิดเดียวก็จะเจอ pub & restaurant เจ้าเก่า CUBE นั่นเอง

ถัดมาหน่อยก็จะเป็น 7-11 หน้าโครงการ Parkland TT และร้านอาหารรถเข็นอีกสามร้าน เอ๊ะๆ เฮ้ย!! ก๋วยเตี๋ยวเว้ยเฮ้ย…

มีร้านอาหารตามสั่งเล็กๆอีกร้านเปิดตั้งแต่เที่ยง แล้วก็ร้านข้าวมันไก่โว้ย น่าจะเปิดตอนเย็น

ติดกันก็เป็น pub & restaurant อีกเจ้า

เดินมาอีกหน่อยก็ถึงทางเข้าโครงการรุ่นพี่เราอีกแห่ง Parkland Taksin-Thapra

หน้าตาโครงการ Parkland Taksin-Thapra มี 2 ตึก A-B ติดกับเราฝั่งทิศตะวันตกครับ

แผนที่ระยะใกล้

บริเวณรอบๆ โครงการ Ideo สาทร-ท่าพระ ด้านหน้าของเราจะติดถนนใหญ่ ถนนราชพฤกษ์ ฝั่งตรงข้ามส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว และตึกแถวประมาณ 3-4 ชั้น รวมถึงอพาร์ทเมนท์ด้วย บริเวณริมทางถนนจะมีร้านค้า ร้านอาหารรถเข็น pub & restaurant แต่ก็ไม่ได้เยอะมาก ด้านข้างซ้าย-ขวาจะถูกขนาบด้วยโครงการรุ่นพี่ก่อนหน้าเราคือ The Room และ Parkland TT ซึ่งทำให้เราโดนบังวิวไปบ้างแต่ก็ไม่มากนัก การที่มีโครงการอยู่ใกล้เราทำให้มีรปภ.เพื่อนบ้านช่วยกันสอดส่องเพิ่มความปลอดภัยริมถนนเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย

ด้านหลังของโครงการจะเป็นแนวของชุมชน 200 ห้อง(ซอยตากสิน 22) ชุมชนเก่าแก่ของคนพื้นที่นี้ ซึ่งจะมีทั้งบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นยาวตลอดทั้งแนวซอย ซึ่งใครอยู่ชั้นเตี้ยหน่อยอาจจะได้วิวพวกนี้ไปเต็มๆ ซึ่งซอยตากสิน 22 สามารถไปทะลุกับโรงพยาบาล สมเด็จพระปิ่นเกล้า และออกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ ย่านนี้ถือเป็นแหล่งชุมชนนะ ไม่ไกลจากโครงการประมาณ 320 ม. ตามแนวรถไฟชานเมือง หรือถ้าเลยไปอีกประมาณ 850 ม. เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษกก็เป็นห้าง เดอะมอลล์ท่าพระ ซึ่งเป็นห้างหลักและใกล้ที่สุดในละแวกนี้เลย ถือว่าสะดวกพอสมควรนะกับเรื่องอาหารการกินในย่านนี้

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

แผนที่กระจายทิศ

โครงการนี้ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2 เลยนะ ทางฝั่ง Lobby B ทำให้ คนที่อยู่ชั้นเตี้ยกว่าประมาณชั้น 7 ต้องทำใจเรื่องโดนบล็อกวิวทั้งทิศเหนือและใต้ด้วยแนวอาคารพาณิชย์หน้า-หลังนะ และโดนตึกสูงสองตึกขนาบข้างซ้ายขวา ด้านซ้ายทิศตะวันตก จะเป็น Parkland TT ในระยะประชิดเลย บังหมดนะ ส่วนด้านขวามือทิศตะวันออก จะติดกับ The Room ซึ่งบังแค่บางส่วน ถ้าอยากได้วิวดีหน่อย เผื่อไว้ก็เลือกชั้น 10 ขึ้นไปครับ ด้านหน้าอาคารคือทิศเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เปิดโล่ง เป็นด้านที่ติดถนนราชพฤกษ์ ส่วนด้านหลังเป็นทิศใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ เปิดโล่ง ไม่มีอะไรบัง และมีโบนัสคือถ้าเลือกชั้น 20 ขึ้นไปอาจจะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยนะ

ใครเล็งห้องมุมด้านไหน จะได้พอเดาๆได้ว่า วิวด้านไหนปลอดภัย ด้านไหน เสี่ยงต่อการโดนบังวิวบ้าง… ด้านหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามถนน เป็นคลองคู่ แถมอยู่ท่ามกลางชุมชนดั้งเดิมที่สภาพแวดล้อมไม่ค่อยดีเท่าไร วิวคงจะยังเป็นแบบนี้ไปอีกนานหน่อย เพราะพัฒนาได้ยาก ส่วนด้านหลังโครงการติดคลองเล็กๆ และเป็นชุมชนดั้งเดิม ซึ่งถนนในนี้เล็กมากๆ จนยากที่จะขึ้นโครงการอะไรได้ คงต้องมีการขยายถนนก่อนครับ ผมทำแผนผังวิวรอบด้านของโครงการมาให้ดูทีละจุด ลองมาดูตามกันที่ละหมายเลขกันครับ(วิวถ่ายจากชั้นดาดฟ้านะ)

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

วิวหมายเลข 1 (ทิศเหนือ) ด้านหน้าติดกับถนนราชพฤกษ์ วิวยังเป็นพวกอยู่อาศัยแนวราบอยู่ สลับกับอพาร์ทเมนท์และก็วัด

วิวหมายเลข 2 (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) ด้านล่างจะเป็นชุมชนชาวบ้าน ชุมชนสองร้อยห้อง ส่วนวิวไกลๆ ก็เป็น City View  ด้านทิศใต้ ก็จะเป็นวิวที่ยังเปิดโล่งนะครับ  วิวทิศใต้ ข้อดีคือในชั้นสูงๆ สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

ชุมชนสองร้อยห้องแบบชัดๆครับ เป็นซอยที่เต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์ 2 ฝั่งซ้ายขวาติดกันยาวไปหมด ส่วนหลังคาสีแดงๆเป็นบ้านชั้นเดียวและ 2 ชั้น ชุมชนเก่าเช่นกัน ส่วนอาคาร 5 ชั้นที่มีอยู่ 4 ตึก คือ แฟลตทหารเรือครับ วิวตรงนี้ใครได้ชั้นต่ำๆมาก อาจจะเห็นแนวอาคารพวกนี้นะครับ

วิวหมายเลข 3 (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) ด้านล่างๆยังเห็นพวกแนวอาคารพาณิชย์อยู่ แต่ถ้าชั้นสูงหน่อยวิวไกลๆจะเห็นพื้นที่สีเขียวที่ยังไม่ได้พัฒนา คอนโดอื่นๆ และห้างเดอะมอลล์ท่าพระ

วิวหมายเลข 4 (ทิศตะวันตก) ครึ่งซีกซ้ายจะถูกบังไปด้วยโครงการเพื่อนบ้าน Parkland TT ฝั่งขวาจะเป็น City วิวที่สามารถมองเห็นรถไฟฟ้าได้ชัดเจน

วิวหมายเลข 5 (ทิศตะวันออก) ตรงกลางจะถูกโครงการ The Room บังตรงๆ แต่ก็ยังเห็นพื้นที่สีเขียวจากในซอยตากสิน 22 ฝั่งขวาอยู่บ้าง ฝั่งซ้ายเป็นวิวอยู่อาศัยแนวราบที่เห็นวัดโพธิ์นิมิตรครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • 7-Eleven ~ 100 ม.
  • โรงเรียนมณีวิทยา ~ 300 ม.
  • โรงเรียนดรุณวิทยา ~ 650 ม.
  • วัดโพธิ์นิมิตร ~ 800 ม.
  • เดอะมอลล์ท่าพระ ~ 850 ม.
  • รพ.สมิติเวช ธนบุรี ~ 1.2 กม.
  • รพ.สมเด็จประปิ่นเกล้า ~ 2.1 กม.
  • วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ~ 2.6 กม.
  • วัดอัปสรสวรรค์ ~ 2.8 กม.
  • Robinson ~ 2.8 กม.
  • สินธร ทาวเวอร์ ~ 2.9 กม.
  • วัดปากน้ำ ~ 3 กม.
  • เดอะริเวอร์ ~ 4 กม.
  • รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ~ 4.1 กม.
  • รพ.ตากสิน ~ 4.4 กม.
  • Asiatique ~ 4.8 กม.
  • อัสสัมชัญ บางรัก ~ 5.6 กม.
  • เซ็นเตอร์พอยท์สีลม ~ 5.8 กม.
  • โรงแรม โอเรียนเท็ล ~ 6.1 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

masterplan

Master Plan ชั้น G มี Lobby และร้านค้า รวมทั้งที่จอดรถส่วนหนึ่งที่ชั้นนี้ ที่ Lobby A (ฝั่งขวา)จะมีห้อง Metting Room กับห้องนิติบุคคลและห้องน้ำส่วนสำหรับแขกผู้มาติดต่อ

plan2-6

ชั้น 2 -6 นี่เริ่มมีห้องพักแล้วนะครับ จะแยกมาอยู่ด้านปีกซ้ายของอาคาร แต่ละชั้นมี 14 ห้อง ลิฟท์โดยสารฝั่งนี้มี 2 ตัว แปลว่าฝั่งปีกด้านนี้ จะมีห้องมาแชร์ใช้ลิฟท์ ร่วม 406 ห้อง ดังนั้นอัตราส่วนลิฟท์ ของปีกนี้คือ 203 ห้อง ต่อลิฟท์  1 ตัว ถือว่าหนาแน่นเกินมาตรฐานไปร่วม 2 เท่า ดังนั้นในชั่วโมงเร่งด่วนรอลิฟท์นานแน่นอน… ห้องชั้น 2-4 นี่แทบจะเห็นแค่แนวรั้วกับแนวอาคารพาณิชย์ครับ ส่วนชั้น 5-6 นี้ยังพอเห็นวิวบ้าง

plan7

ชั้น 7 เป็นชั้น Facility หลัก พวกสระว่ายน้ำ สวน Fitness และ Library ชั้นนี้มีห้องพักขยับไปเป็น 39 ห้องต่อชั้น ห้องส่วนที่เป็นปีกขวา จะอยู่ใกล้ลิฟท์โซนปีกขวาซึ่งมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และ service ลิฟท์ (ลิฟท์ดับเพลิง) 1 ตัว ห้องที่ต้องใช้ลิฟท์ฝั่งนี้คือ 933 ห้อง อัตราส่วนคือ 311 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว เท่ากับอัตราส่วนลิฟท์โดยสารทั้งหมดคือ 1339:4 ตัว หรือนับเป็น 335:1 ตัว รับรองว่าในชั่วโมงเร่งด่วน รอกันนานแน่ๆครับ … ห้องชั้น  7 เป็นห้องที่สะดวกต่อการใช้สระ สวน ห้องสมุด และ Fitness แต่ต้องแลกมากับความพลุกพล่านที่เพื่อนบ้านทุกห้องต้องมาใช้ด้วยนะ วิวได้ด้านเหนือใต้ ถือว่าดีทั้งคู่ แต่ด้านใต้จะสงบกว่า เพราะด้านเหนือเป็นด้านหน้าที่ติดถนนครับ

plan8-28

ชั้น 8-28 เป็นชั้นที่เริ่มจะได้วิวสวยๆ แต่ก็ต้องแลกกับความหนาแน่นมาก เพื่อนบ้านเยอะ ชั้นนี้มีห้องอยู่ 53 ห้องต่อชั้น อัตราส่วนลิฟท์ปีกซ้ายยังคงเป็น 203 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ส่วนลิฟท์ปีกขวาคือ 311 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ชั้น 8-28 จะมีห้องวิวตะวันออก ซึ่งโดน The Room บังวิว และ ตะวันตกซึ่งโดน Parkland บังวิว แต่ตะวันตกจะแย่กว่า เพราะตึก จะอยู่ค่อนข้างประชิดครับ ส่วนวิวทิศเหนือค่อนข้างปลอดภัยโล่งๆ วิวทิศใต้ ชั้น 20 ขึ้นไปน่าจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆแล้ว

plan29

ชั้น 29 กลับไปเป็นผังรูปตัว I เหมือนชั้น 7 แต่ได้วิวที่สวยกว่ามากทั้ง เหนือและใต้

plan30-31

 

ชั้น 30-31 เหมือนชั้น 29

plan32

ดาดฟ้าจัดเป็นสวนครับ ทิศทางลมของประเทศไทยส่วนใหญ่ลมจะมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ ส่วนในหน้าหนาวลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าหน้าโครงการ มีรปภ.คอยโบกรถเข้าออกอยู่ 1 นาย ป้ายชื่อโครงการอยู่ขวามือ

DSCF2547

สีภายนอกของอาคารใช้โทนสีเทาตัดกับกระจกเขียวตัดแสง ดูออกแนวกลืนไปทั้งตึกนิดหน่อย แต่สีเทาก็ดีที่มันดูไม่เก่าง่ายนะไม่ต้องทาสีภายนอกซ่อยบ่อย ตัวอาคารเป็นรูปตัว T แบ่งฝั่งซ้ายขวา แยก Lobby A และ B

ด้านหน้าจะมีบ่อน้ำพุโชว์อยู่ติดกับป้ายโครงการ ส่วนด้านหลังตอนนี้เป็น Sale Gallery อยู่นะครับ ซึ่งอีกหน่อยจะทำเป็นซุปเปอร์มาร์เกต Maxvalu

มีป้ายติด Coming Soon Max Valu Tanjai ขนาดจะเล็กกว่า Max Valu ปกติ แต่เรื่องของกินก็ยังคงมีเพียบ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านอย่างมากที่มีมินิซุปเปอร์มาร์เกตมาตั้งแบบนี้

เดินเข้ามาจะเจอต้นไม้สองข้างทาง บริเวณพื้นทางเข้าเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamp Concrete) ตรงไปในสุดจะมีไม้กระดกก่อนเข้าอาคารจอดรถ

ฝั่งขวามือที่เห็นเป็นอาคารจอดรถชั้น 2-6 ส่วนด้านล่างชั้น 1 เป็นร้าน true coffee

true coffee พี่เค้าออกแบบใช้กระจกโค้งแบบนี้…  สวยสุดๆ ช๊อบชอบ

truecoffee

ภายในร้าน ไม่ใหญ่มากเท่าไรแต่รับแสงด้านนอกได้เยอะดี มีโต๊ะประมาณ 5-6 โต๊ะครับ

กลับมาที่ทางเข้าบ้าง จะมีป้อมรปภ.อยู่ทางซ้ายมือ ปกติจะมีประจำการอยู่ 2 คน ตรงไม้กระดกเป็นตัวสแกน key card และมีกล้องวงจรปิดทั้ง 2 ฝั่ง

พ้นรั้วไม้กระดกมาจะเริ่มเป็นส่วนของที่จอดรถรอบๆอาคารชั้น 1

พื้นที่จอดรถจะปูด้วยอิฐบล็อคแทนนะครับ และก่อฐานกันชนหลังเอาไว้ มีที่จอดรถสำหรับคนพิการเอาไว้เข็นรถเข็นขึ้นทางเข้า Lobby ได้

มาดูฝั่งซ้ายกัน ถนนฝั่งนี้เค้าจะลาดยางและจะปลูกต้นไม้ตามแนวทางเดินไว้ข้างหลัง

แนวทางเดินคอนกรีตติดกับส่วนที่จอดรถ มีจุดที่นั่งพักตอนเย็นๆไว้ลงมาเดินเล่น ถ้าอีกหน่อยต้นไม้โตแล้วคงจะร่มรื่นอยู่

เดินถัดมาอีกหน่อยจะเจอศาลานั่งพัก ไว้เป็นจุดนัดพบก็ได้ โทนสีเดียวกับอาคาร แต่ยังไม่ได้เอาพวกชุดเก้าอี้มาลงนะ

14 (1)

ด้านข้างกับศาลาก็จะเป็นสวนหย่อมเล็กๆ มีกล้อง CCTV ให้ด้วยนะ ที่เห็นแนวรั้วด้านหลัง(วิวทิศใต้) เราจะเห็นแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นบางห้องก็ต่อเติมดาดฟ้าซึ่งใครที่อยู่ชั้นเตี้ยหน่อยนี่โดนบล็อกวิวแน่นอน

อ้อมมาดูด้านหลังตึกกันบ้างฝั่งนี้ถนนจะเป็นคอนกรีตแล้ว มีช่องจอดรถตามใต้อาคารอย่างที่เห็น ฝั่งขวาก็จะมีลงพวกต้นไม้ใหญ่ตามแนวริมรั้ว

รั้วด้านนี้ติดกับแนวชุมชนเก่าด้านหลัง ทำเป็นรั้วครึ่งทึบครึ่งโปร่ง ระแนงเหล็ก แต่ปลูกพวกต้นไม้บังสายตาเอาไว้แทน

ถัดมาอีกหน่อย ก็ถึงทางโค้งเข้าอาคารจอดรถ ซึ่งเป็นด้านข้างโครงการฝั่งที่ติดกับ Parkland TT  เลี้ยวขวาขึ้นไปขึ้นไปจะเข้าสู่อาคารจอดรถ หรือจะตรงไปแล้วเลี้ยวก็จะมีที่จอดรถตามแนวใต้อาคารอยู่อีกหน่อย

รั้วฝั่งนี้ที่ติดกับโครงการ Parkland TT จะสูงกว่าด้านหลังนะครับ ต่อเติมจากรั้วคอนกรีตทึบเป็นไม้ระแนงรวมแล้วสูง 4.5 เมตร

ทางขึ้นอาคารจอดรถระยะที่รถสวนทางกันขึ้นลงค่อนข้างมาตรฐาน ถือว่าไม่แคบครับ

เข้ามาก็สามารถจอดได้เลยทั้ง 2 ฝั่ง

21 (1)

ทางขึ้นลงในแต่ละชั้น จะมี CCTV ด้วยนะ

แนวกำแพงกั้นบางส่วนปลูกต้นไม้เอาไว้ตามแนวรั้วระแนง เพื่อให้สีอาคารภายนอกที่มีแต่สีเทาตัดกับสีเขียวบ้าง ไฟเพดานที่จอดรถมีมาให้เยอะดีครับ ถือว่าสว่างใช้ได้

ขึ้นมาที่ส่วนที่ติดกับด้านหลังอาคาร จะมีทางเข้า เชื่อมกับโถงลิฟท์

โถงลิฟท์ที่ติดกับที่จอดรถฝั่งซ้ายจะเป็น Fireman Lift ฝั่งขวาเป็น Passenger Lifts พื้นยังไม่ได้ทำความสะอาดเพราะอยู่ในช่วงกำลังเก็บงานส่วนที่จอดรถบางส่วนครับ

25

มาดูส่วนของ Lobby ทางเข้ากันบ้าง ตัวอารคารมีทางเข้า 2 จุดคือซ้ายมือเป็น B ขวามือเป็น A

ด้านหน้าทางเข้า Lobby B มีบ่อน้ำพุเล็กๆอยู่ 2 จุดซ้ายขวา ประตูทางเข้าเป็นกระจกบานคู่ ที่สแกนบัตรอยู่ซ้ายมือ

เข้ามาด้านในฝั่งจะมีชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งพักอยู่ 2 จุด และก็เคาน์เตอร์หินอ่อนสำหรับต้อนรับ

ประตูทางเข้าส่วนของ Lift หน้าตาเป็นแบบนี้… เพราะว่าลิฟท์ด้านนี้ใช้ร่วมกับ Fire Man Lift ซึ่งมันมีกฏหมายว่าต้องมีประตูกันไฟอยู่ พอมาอยู่ในทางเข้าเดียวกับลิฟท์โดยสารลูกบ้าน คงเลยต้องทำออกมาแบบนี้

กลับมาดูส่วนของทางเข้า Lobby A กันบ้าง หน้าตาก็จะคล้ายกัน แต่บานกระจกจะมีมากกว่า

lobby

เข้ามาฝั่งซ้ายจะเป็นโต๊ะ 4 ที่นั่ง 2 ชุด อยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์หินอ่อน ผนังด้านข้างเป็นกระจกแบบ floor to ceiling รับแสงจากธรรมชาติได้เต็มที่

หันมาทางขวาเป็น โถง Lobby ที่มีขนาดกว้าง มีชุดโซฟ้าชิดตามเสาผนัง เพดานทำเป็นเล่นระดับตัดกับลวดลายสีดำ พื้นเป็นกระเบื้องยางลายไม้ มีไฟทางเดินมาให้ด้วยนะ

มีส่วนของ Meeting Room มาให้ด้วย แต่ภายในยังไม่เรียบร้อยอยู่ระหว่างตกแต่งครับ

ห้องที่เห็นประตูบานกระจกพ่นฝ้าจะเป็นห้องนิติบุคคล

ติดกันจะเป็นห้องน้ำสำหรับส่วนผู้มาติดต่อบริเวณ Lobby นี้

ประตูทางเข้าภายในโถงทางเดินลิฟท์ ต้องใช้ Key Card อีกครั้ง อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ผู้มาติดต่อ

letter

เข้ามาในประตูฝั่งซ้ายจะเป็นห้องจดหมาย หน้าตาแบบนี้ มีเก้าอี้นั่งพักอยู่ตรงกลาง เผื่อนั่งแกะจดหมายดูได้

ถัดมาฝั่งขวาจะเป็นส่วนของด้านหน้าโถงลิฟท์โดยสารลูกบ้าน ซ้ายมือมีประตูหนีไฟอยู่

ภายในลิฟท์เป็นพื้นแกรนิตโต้สีดำ ทำให้เห็นรอยเลอะค่อนข้างง่าย ยิ่งช่วงนี้คนเดินมาดูห้องกันบ่อยๆ เหนื่อยแม่บ้านหน่อยละ

ลิฟท์เป็นของ OTIS ครับ ระบบ  key card ไปได้แค่ชั้นเรา และชั้นส่วนกลาง

พามาดูส่วนของโถงทางเดินที่ชั้นแปดกันบ้าง โถงทางเดินในแต่ละชั้นปูด้วยพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวออกครีม ผนังหน้าห้องสีขาวปกติ

ประตูเข้าห้องเป็นและวงกบเป็นสีเทาอ่อนๆ เป็นบานไม้มีเส้นแนวเซาะร่อง ส่วนมือจับเป็นคันโยก ระบบกลอนล็อคธรรมดา น่าเสียดายที่โไม่มี Digital Door Lock ให้  ป้ายเลขห้องเป็นเทาอ่อน ใต้ป้ายเลขห้องเป็นกริ่งครับและมีตาแมวให้ทุกห้อง

ทางออกประตูบันไดหนีไฟติดกับปุ่มกดกริ่งฉุกเฉิน และตู้อัคคีภัยฉุกเฉิน

Fireman Lift ฝั่งนี้ อยู่ติดกับห้องทิ้งขยะ

มาที่ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลาง Facility ของโครงการครับ ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยด้วยนะครับ เป็นชั้นที่สะดวกต่อการใช้สระว่ายน้ำ สวน ห้องสมุด และ Fitness แต่ต้องแลกมากับความพลุกพล่านที่เพื่อนบ้านทุกห้องต้องมาใช้ด้วยนะ

เข้ามาจะเจอส่วนของประตูกั้นเป็นจุดๆ ฝั่งขวาจะเป็นทางเข้าส่วนของสระว่ายน้ำ ตรงกลางเป็นส่วนของ Fitness ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องน้ำ สตรีม

42 (1)

ติดกับทางเข้าสระว่ายน้ำจะเป็นห้องซักผ้า มีตู้ซักผ้าแบบหยอดเหรียญขนาดเล็ก 2 ตู้ ขนาดใหญ่ 1 ตู้ และก็มีตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญด้วย

ออกมาที่ส่วนของสระว่ายน้ำ จะเจอกับส่วนของสระเด็กเลย ข้างๆมีปลูกต้นไม้ไว้ด้วยแปลกดีนะ เผื่อรอต้นไม้โตเอาไว้หลบแดด

swim

สระว่ายน้ำเป็นสระว่ายน้ำมาตรฐาน ระดับ Half Olympic เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ (Salt Pool)

ทางเดินรอบสระฝั่งนี้เป็นทางเดินแผ่นคอนกรีตตัดให้น้ำไหลผ่าน

มีเตียงริมสระ 7 เตียง นอนเล่นอาบแดดได้

ที่ล้างตัวมีมาให้จุดเดียวนะครับ

ริมสระติดกับฝั่งทิศเหนือมีศาลานั่งเล่นชมวิวมาให้

มีชุดเก้าอี้วางมาให้ตัวเดียว แต่ด้านข้างก่อปูนปูกระเบื้องเอาไว้ให้นั่งได้เป็นแนวยาวตามศาลา

มองไปด้านนอกศาลาเห็นวิวฝั่งทิศเหนือ ถนนราชพฤกษ์ และรถไฟฟ้า BTS

ริมสระอีกฝั่งนึงมีเก้าอี้นั่งเล่นอีก 2 ตัว พื้นปูหญ้าไว้ให้

กลับเข้ามาในส่วนของห้องโถง Fitness กันบ้าง เข้ามาก็จะเจอชุดโซฟารับแขก 4 ตัวอยู่ชิดผนังด้านสระว่ายน้ำ ส่วนห้องฟิตเนสเป็นผนังกระจกทั้งหมดสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย

fitness

ห้อง Fitness วางเครื่องเล่นออกกำลังกายไว้ 8 เครื่อง

วิวมองออกไปยังสระว่ายน้ำสบายๆ แต่เห็นโครงการ The Room เต็มๆเช่นกัน

ครัวส่วนกลาง

ด้านนอกห้อง Fitness เป็น Living Area แบบทานอาหารเบาๆหรือเครื่องดื่มได้นะ เพราะห้องนี้ มี Pantry จัดเป็น Function ครัวเล็กๆ มีตู้เย็น โต๊ะเก้าอี้นั่งเตรียมอาหาร และโต๊ะอเนกประสงค์ที่นั่งทานอาหารร่วมกันได้

มีชุดโต๊ะให้เล่นหมากรุกด้วย 2 โต๊ะ

ติดกันก็เป็นชุดโซฟานั่งเล่นดูทีวี 2 ตัว หันหลังชนกัน ถ้าร้อนหรือแดดแยงตาก็ดึงม่านลงมาได้นะ

ถัดมาก็จะมีโต๊ะพลูมาให้ มีโซฟานั่งพักติดกันหันหลังให้แดดครับ

มาดูส่วนของ library Room กันบ้าง ทางเข้าก็ต้องใช้ Key Card แตะอยู่ทางขวามือนะครับ

เข้ามาในห้อง หันมาทางซ้ายก็จะเป็นชั้นวางหนังสือ Built-in แบบนี้ ติดไฟเพดานมาให้เยอะอยู่ พื้นปูเป็นพรม

หันมาทางขวาจะมีห้องกระจกเล็กๆกั้นอีก 2 ห้องเผื่อเอาไว้คุยติดต่องานต้องการความเงียบ ฝั่งซ้ายเป็นโต๊ะแนวยาว มีปลั๊กไฟให้ทุกจุดเผื่อเอาโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงาน ตากแอร์ ชมวิวได้ด้วย

ผนังเป็นกระจกบานปิดตาย เห็นวิวทิศเหนือ รถไฟฟ้า วัดโพธฺ์นิมิตร

หน้าประตูทางเข้าห้องน้ำครับ

เข้ามาในส่วนห้องน้ำชาย เปิดประตูมาปุ๊ปเจอกับห้อง Steam เลย นั่งได้ 2 คน เกินกว่านี้ไม่ไหวละ

ขวามือเป็นห้องอาบน้ำ 2 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ และชุดโถปัสสาวะชาย อย่างละ 3 ชุด ทางซ้ายมือเป็นตู้ Locker มีมาให้ 26 ช่อง

ห้องอาบน้ำเป็นประตูบานกระจก พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้

มาดูส่วนของสวนหย่อมกันบ้าง ประตูทางเข้าหันหน้าชนกับประตูทางเข้าสระว่ายน้ำ มีบานประตูเปิดได้ 2 บาน

garden

สวนลอยฟ้าโซนนี้ จะอยู่ติดกับฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งปกติถ้าเรามาเดินเล่นตอนบ่ายนี้คงเดินไม่ได้เพราะมันร้อนมาก แต่เนื่องจากทิศตะวันตกเราถูกบังด้วยพี่ใหญ่อย่างโครงการ Parkland TT ทำให้ช่วงบ่ายเนี่ยแทบไม่โดนแดดเลย ภายในสวนตรงกลางก็จะปูหญ้าไว้ให้สลับกับทางเดินคอนกรีตเป็นลวดลาย ห่วงแต่หญ้าที่ปลูกไว้ ถ้าระบายน้ำไม่ดี หรือดูแลไม่ถึง มันจะไม่สวยงามครับ และผู้ปกครองอย่าให้เด็กมาวิ่งเล่นเตะบอลนะ นอกจากหญ้าจะเละแล้ว ผนังห้องทางซ้ายเป็นกระจก อันตรายครับ ช่วยกันดูแลด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 10 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ, สวนหย่อมลอยฟ้าชั้น 7, สวนหย่อมชั้นดาดฟ้า
  • Passenger Lift 4 / Fireman Lift 2
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 311:1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 203:1
  • ที่จอดรถประมาณ  454 คันคิดเป็น  34% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 37%
  • ระบบ CCTV รวมทั้งหมด 170 ตัว / Access Card

 


Product Walkthrough

plan_stu

ผังห้อง Studio 21 ตารางเมตร ของ IDEO สาทร-ท่าพระ ห้องนี้กั้นเป็นห้อง 1 Bed ยากนะครับ แนะนำให้เปิดไว้แบบนี้แหละ ห้องนี้พื้นที่ค่อนข้างจำกัด ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าไปแล้ว จึงดูทีวีได้จากโซฟาเท่านั้น  ครัวแยกไปอยู่ติดระเบียง ซึ่งตัวระเบียงก็มีขนาดค่อนข้างเล็ก พอวางคอมแอร์แล้ว เหลือพื้นที่นิดเดียว … โต๊ะทานข้าวไม่มีที่วาง อาจจะต้องใช้แบบพับได้ หรือนั่งทานที่โซฟาครับ

เข้ามาในห้อง ที่เห็นจากบริเวณหน้าประตูนะครับ กระจกบานใหญ่ด้านหลังห้องนอนเป็นจุดเด่นที่สุดในห้องนี้ แม้ว่าจะไม่ได้บานเต็มความสูงจากพื้นถึงฝ้าแต่ก็ใกล้เคียง ห้องนี้เพดานสูง 2.5 เมตร เป็น Studio ที่ไม่มีบานกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 mm. แต่ห้องนี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้นะครับ ขายเป็น Fully Fitted

ตำแหน่งโซฟาถ้าจะวางให้นั่งสบาย ก็ควรจะใช้โซฟาแบบที่ไม่มีพนักแขน ไม่อย่างนั้นความกว้างของโซฟาก็จะต้องถูกตัดลงอีกนิดหนึ่ง

ระยะดูทีวีนะครับ ห่างประมาณ 1.8 เมตร ชั้นวางทีวีวางชิดประตูด้านหน้า ขนาดนี้ประมาณ 32 นิ้วก็พอ ตำแหน่งแอร์อยู่เหนือโซฟา แอร์ได้นะครับ ได้ขนาด 12,000 BTU เนื่องจากห้องนั้นเล็ก เลยใช้พื้นที่แนวดิ่งมาช่วยเก็บของ อย่างมุมนี้ ที่เพดานสูง 2.5 เมตร ก็ติดชั้นวางหรือตู้แขวนได้บางส่วน

พื้นที่โต๊ะทานอาหารและนั่งทำงาน ถ้าวางตำแหน่งแบบนี้จะนั่งได้คนเดียว ถ้าจะนั่ง 2 คนต้องดึงถอยออกมา ลำบากพอสมควร แต่คนที่อยู่ห้อง Studio ส่วนใหญ่จะอยู่คนเดียวอยู่แล้วนะ

ปลายเตียงจัดเป็นตู้เสื้อผ้า Build-In ระยะทางเดินเหลือประมาณ 40 ซม.

กรอบกระจกสามารถเปิดได้สองบานกลาง มือจับเซาะร่อง วงกบอลูมิเนียมสีดำครับ

ด้านข้างจะเป็นทางเดินไปครัว จะเจอกับพื้นที่วางตู้เย็นก่อน ด้านบนตู้เย็นยังมีพื้นที่เหลือ สามารถทำตู้แขวนเพิ่มเองได้นะ

ต่อมาเป็นครัวนี้ครับ ขนาดไม่ใหญ่นัก ได้ฟังก์ชั่นค่อนข้างครบ

มีเครื่องดูดควันติดตั้งให้ของ MEX ด้านบนสามารถวางไมโครเวฟได้อีกหนึ่งที่

Top ของครัวเป็น High Pressure Laminate เครื่องซักผ้าวางด้านล่างใต้เตานะ

อ่างล้างจานเป็นแบบสแตนเลสของ MEX เช่นกัน เทียบกับขนาดฝ่ามือให้ดูครับ

เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 2 หัว Hot Plate

ประตูระเบียงเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน วงกบอลูมิเนียมสีดำ

มือจับเซาะร่องเหมือนกัน

พื้นที่นั่งเล่นระเบียงโครงการเค้าจัดเป็นชุดนั่งพักผ่อนชมวิวไว้ให้ดู แต่ถ้าจะวางเป็นราวแขวนผ้าเล็กๆก็ได้

ระเบียงเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม.

คอมแอร์แขวนอยู่ด้านบน มีกริลปิดเรียบร้อย มองจากด้านนอกจะไม่เห็นเต็มๆ มีไฟกิ่งระเบียง 1 จุด

ภาพรวมพื้นที่ห้องน้ำ ค่อนข้างเล็กกระทัดรัดมาก

ทางเข้าห้องน้ำ ธรณีเป็นหินสังเคราะห์อย่างที่เห็นในภาพ ป้องกันชื้นได้ดี สูงประมาณ 5 ซม.

โถสุขภัณฑ์เป็นรุ่น SCG Eco ประหยัดน้ำ … ทิชชู่แดงด้วย  ส่วนอ่างล้างมือไม่มีการ Built-in ตู้ด้านล่างให้ หัวก๊อกใช้ของ Prema

เทียบขนาดอ่างล้างมือกับฝ่ามือชายให้ดู เล็กไปนิดนะ

พื้นห้องอาบน้ำใช้กระเบื้องรุ่นเดียวกับด้านนอก พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.4 x 1.85 เมตร ธรณีเป็นหินสังเคราะห์สูงประมาณ 4 ซม. ค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวสำหรับห้อง Studio

ประตูเป็นบานกระจกนิรภัย ด้ามจับเปิดปิดแบบนี้

หน้าตาสวิทช์ไฟของ schneider และโคมไฟภายในห้องครับ

plan-onebeed

ผัง ห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตร อันนี้ค่อนข้างลงตัวหน่อยนะครับ ห้องลักษณะนี้ เป็นจุดเด่นของ Ideo มาหลาย generation แล้ว ครัวอยู่ด้านหน้า ที่นั่งทานข้าวอยู่ติดกัน โซฟานั่งดูทีวีอยู่ติดระเบียง ซึ่งระเบียงใช้งานได้เต็มที่เพราะมีกระจกหน้าต่างสองชั้น ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ แยกไว้ในห้องต่างหาก สามารถเปิดระเบียงเชื่อมต่อกับ Living Area เป็นพื้นที่ภายในได้บางโอกาส ห้องน้ำเข้าออกในห้องนอน ตัวห้องนอนเสียพื้นที่ผนังส่วนรับวิวไปครึ่งหนึ่ง ให้กับที่วางคอมแอร์

ห้องนี้ 30 ตารางเมตร มีการแบ่งส่วนชัดเจน ห้องนั่งเล่นและห้องนอน แต่จะได้ครัวอยู่ติดประตู ไม่ใช่ติดหน้าต่างแบบห้อง Studio

ครัวเป็นชุดเดียวกับห้อง Studio แต่มีการขยายความกว้างขึ้นเล็กน้อย ทำให้มีลิ้นชักเพิ่มขึ้นตรงกลางได้ Top ของครัวเป็น High Pressure Laminate เหมือนกัน

สวิทช์คัทเอาท์ไฟอยู่ด้านในชั้นตู้เก็บของด้านบนนะ ลองเปิดให้ดู บานพับไม่ได้แบบ Soft Close เป็นแบบธรรมดาแบบนี้

ด้านตรงข้ามจัดเป็นที่วางตู้เย็นแบบนี้ ที่มีพื้นที่เหลือทางซ้ายเผื่อไว้สำหรับเก้าอี้ชุดทานอาหารจะได้เลื่อนถอยออกมาได้นะ ฝั่งขวาชิดกับผนังสามารถทำ Build-In เป็นตู้เก็บรองเท้าแบบนี้ได้

ชุดนี้เราไม่ได้นะครับ ถ่ายให้ดูเป็นไอเดียครับ ว่าจะสามารถใส่ได้พอกับความต้องการเราไหม

โต๊ะรับประทานอาหารจัดเป็นแบบนี้ หันหน้าเข้าผนังคู่กับโซฟา ตัวโต๊ะค่อนข้างตื้น วางอาหารจานเดียว ส่วนด้านบนนั้นจัดเป็นพื้นที่เก็บของ ใช้พื้นที่ในแนวดิ่งให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ถัดมาดูส่วนของพื้นที่นั่งเล่นกันบ้าง

โซฟาเป็นแบบเดียวกับห้อง Studio มีพนักแขน อย่างที่บอกไปแล้วว่าด้วยพื้นที่จำกัดแบบนี้แนะนำแบบไม่มีพนักแขนจะดีกว่าจะได้พื้นที่นั่งเพิ่มขึ้น

ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร  ต้องจัดทีวีซักประมาณ 40 นิ้วกำลังดี ถ้าเราอยากให้ชั้นวางของใต้ทีวีมีพื้นที่ในการวางของมากขึ้นก็ควรจะเอาทีวีแขวนผนังนะ

ประตูทางออกไประเบียงเป็นแบบกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดได้ค่อนข้างกว้าง สบายๆ

พื้นระเบียงเป็นธรณีก่อขึ้นมาสูงประมาณ 4 ซม.ครับ

พื้นที่ระเบียงภายนอก อันนี้ทำออกมาได้ดี วางของได้สบาย ไม่มีคอมพ์แอร์มาเกี่ยวข้อง ตามเอกลักษณ์ของห้อง IDEO ที่เป็นห้องแบบระเบียงสองชั้น คือมีส่วนที่เป็น Indoor และ Semi-Outdoor

ด้านซ้ายคือหน้าต่างสองชั้น ด้านหลังคือประตูห้องเก็บคอมพ์แอร์

มิดชิด เรียบร้อย มีประตูกันเสียงและความร้อน ดีมากครับ

หน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอนที่ติดกับด้านนอกอาคารครับ มีรั้วกันตกให้ด้วยสูง 1.5 เมตร ถือว่าสูงทีเดียวเซฟตี้ปลอดภัย

มาดูส่วนของห้องนอนกันบ้างโครงการเค้าวางเตียง 5 ฟุตให้ดู ได้สบายๆ ระยะปลายเตียงเหลือประมาณ 40 ซม.

พื้นที่ติดหน้าต่างวางเป็นโต๊ะทำงานด้วย มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนอยู่ข้างๆรับแสงธรรมชาติได้

ด้านข้างโต๊ะสามารถวางตัวโต๊ะหัวเตียงชุดเล็กๆได้นะ

ระยะนอนดูทีวีประมาณ 2 เมตร

ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้าอยู่หน้าห้องน้ำแบบนี้

หน้าตาภายในห้องน้ำฟังก์ชั่นและอุปกรณ์ที่ได้เหมือนเดิม

แต่ห้องนี้พื้นที่อาบน้ำเล็กลง ขนาดประมาณ 1.2 x 1.5 เมตร

พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำของ Panasonic

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 February 2014

  • Studio เนื้อที่ 21 ตร.ม. ชั้น 16 ราคา 2.50 ล้านบาท หรือ 119,428  บาท/ตารางเมตร
  • 1 Bedroom เนื้อที่ 30 ตร.ม. ชั้น 17 ราคา 3.55 ล้านบาท หรือ 116,393  บาท/ตารางเมตร
  • 2 Bedroom เนื้อที่ 45 ตร.ม.ชั้น 18 ราคา 5.39 ล้านบาท หรือ 119,911  บาท/ตารางเมตร

  • ขายแบบ Fully Fitted
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • CCTV 170 ตัว
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา  30,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตารางเมตร/เดือน
  • Promotion บัตร gift voucher furniture 100,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

IDEO สาทร-ท่าพระ เป็นโครงการที่อยู่ติดถนนราชพฤกษ์นะครับ ทำเลโครงการอยู่เลยสะพานสาทรมาประมาณ 3 กิโลเมตร เกาะแนวรถไฟฟ้า BTS โดยมีสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีโพธิ์นิมิตร (S9) อยู่ห่างจากโครงการ 320 เมตร ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ คงได้พึ่งร้านค้าอย่าง Max Value ที่ด้านล่างอาคารเป็นหลัก เพราะแถวๆนี้ ในระยะเดินเท้ามีแค่ 7-11 และรถเข็นขายอาหารไม่กี่เจ้าเอง ส่วน The Mall ท่าพระ ก็ออกจะไกลเกินระยะเดินสบาย เพราะอยู่ห่างไปประมาณ 800 เมตร  สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ด้านทิศตะวันตกจะอยู่ติดกับโครงการ Parkland TT (ตากสิน-ท่าพระ) แบบประชิด วิวด้านนี้จึงถูก Block สนิท ส่วนด้านทิศใต้จะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาในระยะไกล  รอบๆโครงการทางด้านหลังเป็นชุมชนชาวบ้านดั้งเดิม และชุมชนสองร้อยห้อง เป็นตรอกซอกซอยทะลุถึงกันหมด สำหรับจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์นะครับ

การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว ไม่ไกลเมืองนะครับ เข้าสาทร สีลม พระราม 3 นี่ใกล้มาก แต่น่าเสียดายที่รถติดมาก ทั้งเช้าและเย็นในวันทำงาน เพราะเป็นคอขวดตรงสะพานข้ามแม่น้ำ แทบจะทุกสะพาน โครงการอยู่ในจุดที่ติดเกาะกลางถนน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยวเข้าโครงการ เมื่อขึ้นสะพานข้ามแยกได้ ดังนั้น จึงต้องติดไฟแดงและวิ่งเลนซ้ายมาตลอด ตั้งแต่ลงสะพานสาทรมานะครับ ซึ่งตรงจุดนี้ แม้จะเป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อย แต่สร้างความแตกต่างพอสมควร เมื่อเทียบกับ Parkland TT ที่อยู่ติดกัน รั้วชนกัน เพราะ Parkland TT สามารถเลี้ยวเข้าโครงการได้พอดี แม้จะขึ้นสะพานข้ามแยกมาก็ตาม  ตำรวจจราจรย่านนี้ค่อนข้างเข้มงวดนะครับ ดังนั้น เรื่องจำนวนที่จอดรถ ถ้าไม่พอแล้วล้นออกมาด้านนอกนี่ มีปัญหาแน่นอน

การเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัว ค่อนข้างสะดวกมาก เพราะติดถนนใหญ่ เรียกรถง่าย มี Taxi ผ่านตลอด มีป้ายรถเมล์ มี BRT มีพี่วินและเดินไปแค่ 320 เมตร ก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้ ตอนกลางวันเดินสบาย มีร่มไม้มีผู้คนตลอดทาง ไม่เปลี่ยว แต่ตอนกลางคืนจะมืด เพราะเงาต้นไม้นั่นแหละ เดินยากและไม่น่าเดินคนเดียว โชคดีที่มีพี่วินให้บริการตลอด ใช้บริการพี่วินนะครับจะปลอดภัยกว่า

การออกแบบโครงการ ทำมาค่อนข้างแน่นมาก โครงการเลือกทำห้องเล็ก 1,339 Unit ถือว่าเยอะมากเมื่อมาอยู่ในตึกเดียวที่สูง 31 ชั้น หลายชั้นจึงมีเพื่อนบ้านร่วมชั้นระดับ 53 ห้องเลยทีเดียว โครงการออกแบบมาโดยเน้นห้อง Studio 21 ตารางเมตร และห้อง 1 Bedroom 30 ตารางเมตร เป็นหลัก ห้อง 30 ตารางเมตร เป็นอะไรที่ลงตัวอยู่แล้วของ IDEO เค้า ทั้งมีระเบียงที่เป็นหน้าต่างสองชั้นด้วย ก็ใช้งานและใช้พื้นที่ได้คุ้มครับ

แต่ห้อง Studio 21 ตารางเมตร จะแตกต่างจากห้อง ตระกูล “MOBI” นะครับ อย่าเข้าใจว่าเหมือนกัน ห้อง Studio นี้ออกแบบมายังไม่ลงตัว ได้ครัวติดระเบียง ส่วนห้องขนาด 1 และ 2 ห้องนอนมีเพิ่มออฟชั่นระเบียงแบบ Semi-Outdoor ให้โดยการทำกระจกบานเลื่อนอีกชั้นนึงที่รั้วระเบียงด้านนอกซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยที่มีอย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์มากขึ้น และแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะมีห้องน้ำให้แค่ห้องเดียวซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสียคือได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นแต่หากมีความต้องการใช้ห้องน้ำพร้อมกันก็ต้องต่อคิวล่ะครับ  ข้อดีคือห้องเล็กราคาห้องจะหยิบง่ายหน่อย

อ้อ โครงการเขาออกแบบ มาเป็นปีกซ้ายปีกขวานะครับ ดูเผินๆ ไม่มีอะไร แต่คนอยู่ปีกซ้ายชั้น 2-4 พอจอดรถ (ที่จอดรถอยู่ปีกขวา) แล้ว ต้องลงลิฟท์มาชั้น 1 เดินย้อนไปปีกซ้าย แล้ว ถึงจะกดลิฟท์ขึ้นห้องตัวเองได้นะครับ

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มาเมื่อเทียบกับราคา ตารางเมตรละ 100,000 บาทในย่านนี้แล้วถือว่า น่าผิดหวังนะครับ ขายแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์บางชิ้น พื้นลามิเนต 8 มม. กระเบื้องพื้นและผนังแผ่นเล็กแถมหน้าตาสามัญมาก กระจกธรรมดา ห้อง 21 ตรม ระเบียงธรรมดาไม่ได้หน้าต่างสองชั้นนะ ชุดครัวเคาน์เตอร์ Top ลามิเนต Sink สแตนเลส วัสดุน่าจะได้อะไรๆ ที่มันดูดีกว่านี้ โดยเฉพาะในห้องน้ำ ซึ่งมีพื้นที่เล็กอยู่แล้วน่าจะจัดวัสดุมาให้มากกว่านี้หน่อย

สาธารณูปโภคที่ให้มา จัดสวยน่าใช้งาน แต่เมื่อลองมองดูเพื่อนร่วมอาคาร ที่มีถึง 1,339 ยูนิตแล้ว ถือว่าอัตราส่วน Facility เมื่อเทียบกับจำนวนลูกบ้านที่มหาศาลขนาดนี้แล้วไม่น่าจะพอ ลองเทียบกับ Facility ที่ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวทางปีกซ้าย 3 ตัวทางปีกขวา ดูแล้ว เจออัตราส่วนลิฟท์ต่อห้อง ร่วม 260 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว เวลาเร่งด่วน น่าจะรอนานมาก โครงการจัดที่จอดรถมาให้ 34% ซึ่งถ้าไม่พอ จะเป็นปัญหาใหญ่มาก เพราะ ถ้ามีคน 10% ที่ไม่สามารถหาที่จอดรถได้ มันรถคือ 130 คัน เลยนะครับ การบริหารจัดการจะลำบากมาก ต้องไปลุ้นกันเอาว่า น่าจะมีคนไม่ใช้รถเยอะ เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า  ส่วน Facility อื่น อย่างสระ และ Fitness แม้จะน่าใช้ แต่ขนาด ไม่น่าจะเพียงพอ ต่อจำนวนห้องที่เยอะขนาดนี้

 

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 119,000 บาทต่อตารางเมตร, 10 February 2014

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลดีสำหรับคนย่านนี้ แต่ค่อนข้างขาดความอุดมสมบูรณ์ เมื่อเทียบกับระดับราคาแล้ว
  • เดินทางด้วยรถ 6.75/10 – เดินทางเข้าออกเมืองสะดวกไม่ไกล เสียแต่รถติดมาก และที่จอดรถให้มาในระดับน่าเป็นห่วง เมื่อเทียบกับระดับราคา ซึ่งน่าจะมีรถกันได้ทุกคน
  • ไม่ใช้รถ 8.0/10 – ติดถนนใหญ่ เรียกรถง่าย ไม่ต้องเข้าซอยเปลี่ยว ใกล้รถไฟฟ้า
  • วัสดุ 7/10 – Spec มาตรฐานเมื่อเทียบกับราคาปัจจุบัน … ได้ของมาน้อยไปนิด
  • แบบ 6.75/10 – ออกแบบพยายามให้ยูนิตฝั่งที่เยอะได้วิวเต็มที่ แบบห้องมีดีมีด้อยปนกันหลายจุด โครงการ Unit เยอะ แน่นก็จริง แต่มีข้อดีตรง หยิบง่าย เป็นเจ้าของง่ายเช่นกัน
  • สาธารณูปโภค 6.75/10 –ให้มาครบทุกฟังก์ชั่น น่าใช้  แต่ไม่น่าจะเพียงพอต่อจำนวนลูกบ้าน

  • UPPER  CLASS
  • 7.12 / 10.00

BOTTOM LINE

IDEO สาทร-ท่าพระ เหมาะกับคนมองหาบ้านย่านฝั่งธน หรือคนทำงานย่านสาทร สีลม ที่เบื่อกับการจราจร คนที่หาบ้านหลังที่สองสำหรับวันทำงาน ต้องการหาบ้านใกล้รถไฟฟ้า เป็นคนชอบของ Brand Name เลือกซื้อของต้องหยิบ Brand ที่คุ้นหูถึงจะดูมั่นใจ มีงบประมาณระดับ 2.5 – 6 ล้านบาท หรือมีงบผ่อนรายเดือนอยู่ที่ 19,000 – 46,000 บาท

 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ด้านล่างนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สามารถสมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่   Think Of Living