สวัสดีค่ะ รีวิวฉบับที่ 1604 กันเเล้วนะคะ  วันนี้เรามีโครงการบ้านใกล้เเนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาฝากกันกับ Iconature รามอินทรา บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนพระยาสุเรนทร์ หรือถนนรามอินทรา 109 ห่างจากถนนรามอินทรา 200 เมตร ใกล้สถานีบางชัน ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2563 ค่ะ โดยมีแบบมาให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ เป็นบ้านเดี่ยว 2 แบบ และบ้านแฝด 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 37.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 131 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 5 June 2018

  • Iconature Ramintra (อิคอนเนเจอร์ รามอินทรา)
  • บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : มีนบุรี
  • เนื้อที่โครงการ 40-3-33 ไร่ จำนวน 209 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

  • i-Merry ที่ดินเริ่มต้น 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • i-Breezy ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • บ้านแฝด 2 ชั้น
    • i-Sunny ที่ดินเริ่มต้น 37.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
    • i-Delight ที่ดินเริ่มต้น 39.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 37 และ 40 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2556
  • โครงการแล้วเสร็จ ธันวาคม 2558
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่  
  • โทร  : 02-540-1989 , 083-989-1857
  • Call Center : 1753
  • เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะคะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.814958, 100.699757

    แผนที่จากทางโครงการค่ะ

    โครงการ Iconature รามอินทราตั้งอยู่บนถนนรามอินทราไปทางมีนบุรี โครงการจะเข้าไปในซอยรามอินทรา 109 อีกประมาณ 200 เมตร ซึ่งซอยรามอินทรา 109 นี้จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าถนนพระยาสุเรนทร์ ซึ่งเป็นถนนกว้าง 6 เลน สามารถใช้เพื่อเดินทางไปยังถนนปัญญาอินทราหรือลัดไปยังถนนเลียบคลอง 2 ได้ นอกจากนั้น ทำเลนี้อยู่ใกล้ฝั่งมีนบุรี ซึ่งสามารถใช้ถนนรามอินทราเชื่อมไปยังเสรีไทยไปยังลาดพร้าวหรือถนนรามคำแหงเพื่อไปพัฒนาการได้ ส่วนถนนรามอินทราเองสามารถใช้ไปยังเส้นเกษตร- นวมินทร์ และเลียบทางด่วนรามอินทราได้ นอกจากนี้ทำเลนี้มีทางด่วนวงแหวนกาญจนาที่ห่างออกไปประมาณ 3 กม. ใช้เดินทางไปยังอยุธยาปากเกร็ดได้ และทางด่วนฉลองรัช ใช้เดินทางไปพระรามเก้าเข้าเมืองได้เช่นกัน โดยทางด่วนจะอยู่ห่างออกไป 8 กม.

    ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบทำเลนี้จะมีทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างFashion Island มี Community mall อย่างAmorini ,The Promenade อีกทั้งยังมี Hypermarket อย่าง Makro หรือ Tesco Lotus มีตลาดมีนบุรี อยู่ใกล้ๆด้วย นับว่าเรื่องอาหารการกิน และการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างสะดวกสบายมากสำหรับทำเลนี้ นอกจากนี้ทำเลนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้านสถานที่สำหรับทำกิจกรรม อย่างสนามกอล์ฟ , สวนสยาม, ซาฟารีเวิร์ล และวันเดอร์เวิร์ล อยู่ใกล้เคียง ส่วนโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆค่ะ

    ความน่าสนใจของทำเลนี้อีกอย่างหนึ่งคือถนนรามอินทรานี้เป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านถนนอย่างติวานนท์-แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ได้ค่ะ โครงการคาดว่าจะสร้างเสร็จพร้อมใช้งานภายในปี 2563 ระหว่างนี้ผู้อยู่อาศัยโดยรอบอาจต้องทนกับการก่อสร้างที่สร้างปัญหารถติดกันไปก่อนนะคะ

    ตัวอย่างเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นจากหน้า The Promenade ขับรถไปตามถนนรามอินทรา มุ่งหน้าไปยังมีนบุรีนะคะ เรามาดูกันดีกว่าว่า ระหว่างเส้นทางนี้มีอะไรอยู่รอบๆกันบ้าง

    เราเริ่มจากหน้า The Promenade นะคะ มุ่งหน้าไปยังมีนบุรีเลย ถนนบริเวณนี้จะเป็นถนนใหญ่ฝั่งละ 4 เลน ทางซ้ายมือเราจะเป็นห้างThe Promenade

    เลย The Promenade มาจะเป็นห้าง Fashion Island ที่อยู่ติดๆกันเลย ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนสนุกวันเดอร์เวิลด์ ที่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่สำหรับจัดงานอีเวนท์ เช่นเทศกาลดนตรีอย่าง CAT EXPO หรือ Dropzone

    ตรงมาจะเจอร้านขายวัสดุและอุปกรณ์แต่งบ้านอย่าง Grand Home Mart

    บริเวณถนนรามอินทรานี้จะเป็นถนนที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็มีสะพานลอยเอาไว้ให้คนข้ามฝั่งอยู่เรื่อยๆ

    ตรงมาจะเจอกับปั๊มน้ำมันปตท.อยู่ซ้ายมือ ตรงนี้จะเป็นปั๊มใหญ่ที่มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร 7-elevenอยู่ข้างในปั๊ม

    ขับตรงมาจะเจอโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐตั้งอยู่ซ้ายมือ

    เราขับตรงไปอย่างเดียวเลยนะคะ

    ขับมาเรื่อยๆจะเจอ Makro อยู่ฝั่งขวามือ นอกจากนี้เราจะเห็นบริเวณเกาะกลางถนนกำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ค่ะ

    พอเลย Makro ให้เราสังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระยาสุเรนทร์

    ให้เลี้ยวซ้ายแยกนี้เลยค่ะ ทางเข้าจะอยู่หน้าสะพานลอยนะคะ

    เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระยาสุเรนทร์หรือรามอินทรา 109 เลย

    เลี้ยวมาเราจะเจอร้าน 7-eleven อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ ตอนนี้ให้เราขับรถชิดขวาเลยนะคะ

    จากปากซอยเข้ามาประมาณ 200 เมตร จะเจอทางเข้าโครงการเเล้วค่ะ

    เลี้ยวขวาเข้าโครงการเลยค่ะ

    ทางเข้าโครงการจะอยู่ห่างจากถนนรามอินทรามาประมาณ 200 เมตร ตัวโครงการจะอยู่ลึกเข้าไปจากทางเข้าลึกไปอีกประมาณ 200 เมตร ทำให้ตัวโครงการจะมีความสงบ ไม่มีเสียงรบกวนจากถนนใหญ่ แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงถนนใหญ่ได้โดยง่ายค่ะ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันนะคะ โครงการ Iconature รามอินทรา เป็นโครงการที่อยู่ลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ พื้นที่โดยรอบโครงการยังเป็นพื้นที่พักอาศัย 1-2 ชั้น และที่ดินเปล่าเป็นส่วนมาก ทำให้ภายในโครงการมีความเงียบสงบ ไม่มีเสียงรถยนต์หรือเสียงดังจากพื้นที่ข้างเคียงเข้ามารบกวนภายในโครงการเท่าไรนัก นอกจากนี้รอบโครงการยังมีแนวรั้วสูง 3 เมตรที่มีต้นไม้เลียบรั้ว สามารถช่วยกรองฝุ่น เสียง และบังสายตาจากบริเวณรอบๆอีกด้วย

    • ทิศเหนือ ติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
    • ทิศใต้  ติดกับที่ดินเปล่าเเละบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
    • ทิศตะวันออก ติดกับที่ดินเปล่าเเละบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
    • ทิศตะวันตก ติดกับที่ดินเปล่าและสำนักงาน

    ทิศตะวันตก ทางเข้าโครงการ ติดกับถนนพระยาสุเรนทร์ หันหน้าเข้าโครงการ ทางขวามือเป็นร้านค้าและที่พักอาศัยสูง 1-2 ชั้น

    ทิศตะวันตก หันหน้าเข้าโครงการทางซ้ายมือเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ด้วยความที่ตัวบ้านภายในโครงการนั้นอยู่ลึกถัดเข้าไปอีก ดังนั้นระดับความสูงของอาคารหลังนี้ไม่มีผมอะไรต่อโครงการค่ะ

    ทิศตะวันตก  จากโครงการมองมายังปากซอบถนนพระยาสุเรนทร์ มีแนวดึกแถวสูง 4 ชั้นอยู่ ตึกแถวเหล่านี้ถูกดัดแปลงให้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อเช่น 7-eleven ด้วยนะคะ

    ทิศตะวันตก ฝั่งตรงข้ามโครงการมีร้านอาหารอิสลามและโครงการ The Cube Station ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ เป็นคอนโด Low rise 8 ชั้น

    ทิศตะวันตก ติดกับ The Cube มี 7-eleven อีกแห่งข้างๆกันเลยค่ะ ใน7-elevenนี้จะมีพื้นที่สำหรับนั่งทานข้าวภายใน มีลานด้านหน้าไว้ให้จอดรถซื้อของ ด้านหน้าช่วงเวลาเย็นๆมีร้านบะหมี่ขายด้วยค่ะ

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • แหล่งช้อปปิ้ง

    • MAKRO รามอินทรา ~ 1.5 km.
    • Amorini ~ 1.7 km.
    • Big C supercenter ~ 2.8 km.
    • แฟชั่น ไอซ์แลนด์ ~ 3.3 km.
    • The Promenade ~ 3.4 km.
    • ตลาดมีนบุรี ~ 3.8 km.
    • ปัญญา วิลเลจ ~ 5.6 km.
    • Tesco Lotus สาขาสุขาภิบาล 1 ~ 6.4 km.
    • ตลาดหทัยมิตร ~ 7.9 km.
    • ตลาดถนอมมิตร ~ 9.2 km.
    • The Walk ~ 9.3 km.
    • นวมินทร์ ซิตี้ Avenue ~ 10.8 km.

  • โรงพยาบาล
    • โรงพยาบาลนพรัตน์ ~ 1.7 km.
    • โรงพยาบาลเสรีรักษ์ มีนบุรี ~ 5.5 km.
    • โรงพยาบาลสินเเพทย์ ~ 5.5 km.
    • โรงพยาบาลศรีสยาม ~ 5.9 km.
    • โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 6.3 km.

  • สถานศึกษา
    • ม.เกษมบัณฑิต ~ 7.5 km.
    • ร.ร.สาธิตพัฒนา ~ 8.1 km.
    • ร.ร. เลิศหล้า ~ 8.1 km.
    • ม.นิด้า ~ 12.2 km.
    • ม.เกริก ~ 14.7 km.
    • ม.ราชภัฏพระนคร ~ 15.2 km.

  • อื่นๆ
    • สวนสยาม 2.8 km.
    • ปัญญาสปอร์ต คอมเพล็กซ์ ~ 5.0 km.
    • สนามกอล์ฟปัญญา-รามอินทรา ~ 5.9 km.
    • ซาฟารีเวิล์ด 6.7 km.
    • เดอะเลกาซี่ กอล์ฟคลับ ~ 8.7 km.


    เจาะลึกตัวโครงการ

     

    โครงการ Iconature รามอินทรา เป็นโครงการประเภทบ้านแนวราบ สูง 2 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 40 กว่าไร่ มีทั้งหมด 209 ยูนิต โดยแบบบ้านจะมีทั้งหมด 4 แบบ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว (i-Marry และ i-Breezy) และแบบที่เป็นบ้านแฝด (i-Sunny, i-Delight) โครงการจะอยู่ลึกเข้าไปจากถนนหลัก(ถนนพระยาสุเรนทร์) ตามภาพ โดยเข้ามาจะเจอกับบ้านเดี่ยวก่อน ซึ่งทำให้เดินทางเข้า-ออกไปสู่ถนนใหญ่ได้ง่ายกว่า และส่วนที่เป็นบ้านแฝดจะอยู่ลึกเข้าไปท้ายโครงการซึ่งมีข้อดีตรงที่จะมีความสงบและความเป็นส่วนตัวมากกว่า โดยจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางระหว่างแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ทำให้ลูกบ้านทั้ง 2 แบบสามารถใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ทัดเทียมกัน นอกจากนั้น สำหรับตำแหน่งของแบบบ้านเดี่ยวจะอยู่ติดกับถนนหลักของโครงการที่มีความกว้าง 12 เมตร เดี๋ยวเราไปดูบรรยากาศภายในโครงการและพื้นที่ส่วนกลางของ Iconature รามอินทรา กันดีกว่าค่ะ

    ทางเข้าโครงการถูกออกแบบให้มีลวดลายธรรมชาติ มีเส้นสายที่เเสดงถึงใบไม้ และมีการใช้น้ำตกเป็นองค์ประกอบหนึ่งของทางเข้าโครงการ

    ทางเข้าโครงการเเบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเข้า-ออกชัดเจน โดยมีป้อมยามอยู่ตรงกลาง หลังป้อมยามมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์และจักรยานให้บริการอยู่ เหมาะสำหรับคนที่อยู่บ้านฝั่งด้านใน จะออกมาใช้รถสาธารณะก็สามารถขี่จักรยานมาฝากไว้บริเวณนี้ได้

    การเข้า-ออกจะใช้ประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติ และระบบ Easy Pass Access เข้าโครงการ

    ทั้งสองฝั่งของทางเข้าจะมีจุดสแกนและกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนที่เข้า -ออกโครงการค่ะ

    ข้างๆประตูเลื่อนอัตโนมัติ มีประตูเล็กสำหรับคนเดินเท้าไว้ให้ด้วย

    เมื่อเข้ามาในโครงการจะเจอถนนใหญ่กว้าง 12 เมตร ทั้งสองฝั่งจะมีรั้วสูง 3 เมตรและปลูกต้นไม้ตลอดเเนว สร้างความร่มรื่นเเละความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยภายในโครงการ

    ทั้งสองข้างทางจะมีทางเท้ามาให้ โดยทางเท้าทั้งสองฝั่งนั้นจะมีร่มเงาต้นไม้ตลอดทาง โดยวัสดุพื้นจะเป็นแผ่นๆแยกออกจากกัน ทำให้เหมาะกับการเดินเท้าอย่างเดียว สำหรับคนที่มีกระเป๋าลากหรือคุณแม่บ้านที่เข็นรถเข็นเล็กๆออกไปซื้อของ อาจจะต้องลากบนถนนเเทนนะคะ

    จากทางเข้าโครงการมาประมาณ 200 เมตร จะเป็นส่วนที่พักอาศัย ทางขวามือจะเป็น Sale gallery และบ้านตัวอย่าง ทางซ้ายจะเป็นบ้านเดี่ยว ซึ่งแบบบ้านเดี่ยวภายในโครงการนั้น Sold out เรียบร้อยเเล้ว ตรงเกาะกลางมีพื้นที่สวนที่ปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้คาดว่าเมื่อต้นไม้โตเต็มที่จะทำให้เกิดร่มเงา สร้างบรรยากาศภายในโครงการให้ร่มรื่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

    ถัดจากส่วนที่เป็นบ้านเดี่ยวเเละบ้านตัวอย่าง เลี้ยวซ้ายมาตามทาง เราจะยังอยู่ในโซนบ้านเดี่ยวกันอยู่ โดยแบบบ้านเดี่ยวภายในโครงการนี้นั้นจะอยู่ติดกับถนนหลักทุกหลัง ซึ่งโครงการจะติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวฯถนนหลักภายในโครงการไว้ กระจายทั่วโครงการค่ะ

    ตรงมาจนสุดโซนนั้นเลี้ยวขวาตามทางมา ถนนเส้นนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางเเล้วค่ะ บ้านที่อยู่ติดพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นแบบบ้านเดี่ยว พื้นที่ส่วนกลางจะมีสวน (จากภาพซ้ายมือ) มีแนวต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง

    ตรงมาจนสุดเลี้ยวซ้ายจะมีสะพานข้ามคลอง ผนังโครงการตรงแถบนี้ทั้งหมดจะมีเเนวต้นไม้ปลูกเต็ม ทำให้โครงการดูร่มรื่นมากขึ้น และด้วยความสูงที่สูง 3 เมตร ทำให้คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามายังภายในโครงการได้ค่ะ ภายในก็จะค่อนข้างสงบเลย

    ข้ามสะพานมา โซนนี้ทั้งหมดจะเป็นโซนบ้านแฝดเเล้ว

    ถนนหลักจะกว้าง 12 เมตร ถนนในซอยย่อยจะกว้าง 9 เมตร หน้าบ้านทุกหลังจะมี Landscape ตกแต่งให้อยู่เเล้ว มีทั้งทางเดิน พุ่มไม้รอบรั้ว และต้นไม้ใหญ่  มีป้ายบอกชื่อซอยชัดเจน

    ถนนในซอยย่อยจะกว้าง 9 เมตร

    กลับมาดูพื้นที่ส่วนกลางกันนะคะ พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Iconature รามอินทรานั้น จะตังอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่กว่าๆ เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของโครงการ Iconature นั้นคือต้นไม้ หรือความเป็นธรรมชาติที่แทรกตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ อย่างทางเข้า Clubhouse ยังซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ทำให้เวลาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่เคอะเขินเมื่อลงเล่นน้ำเเล้วมีรถขับผ่านไปมาเห็น

    มีทางเดินไปยังสวน สามารถใช้เดินออกกำลังกายได้ สวนตกแต่งแบบ Resort Garden ทำให้มีต้นไม้สูงมาก ปลูกไว้หนาแน่น

    Clubhouse จะเป็นอาคารชั้นเดียว ยกระดับจากพื้นขึ้นไปประมาณหนึ่ง ทำให้ระดับสายตาของคนที่ใช้งานกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาข้างนอกต่างกัน มีความเป็นส่วนตัวเวลาใช้งานมากขึ้น

    ข้างๆบันไดมีทางลาดสำหรับผู้สูงอายุหรือคุณแม่ลูกอ่อนที่ต้องใช้รถเข็น ให้บริการด้วยค่ะ

    ขึ้นมาภายในตัวอาคารจะเป็นห้องฟิตเนส มีอุปกรณ์ให้ประมาณนี้ สามารถเปิดม่านสุดรับวิวสวนและสระว่ายน้ำได้

    อีกมุมนึงของห้องFitness ค่ะ

    ข้างห้องFitness จะเป็นสระว่ายน้ำ โครงการมีทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ไว้ให้บริการ สระเด็กมีขนาด 2.90×4.80 เมตร ลึก 60 ซม. ส่วนสระผู้ใหญ่มีขนาด 7.00×16.00 เมตร ลึก 1.50 เมตร

    สระว่ายน้ำและ Fitness จะเห็นวิวสวนที่มีต้นไม้ใหญ่เเบบนี้

    ข้างสระมีจุดล้างตัวไว้ให้สำหรับคนที่มาใช้สระว่ายน้ำ

    จุดล้างตัวมีให้ 1 จุด หน้าตาแบบนี้

    ลองมองย้อนจากปลายสระกลับไปตัวอาคาร ทางซ้ายมือของอาคารจะเป็นทางเดินไปยังส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

    ทางเข้าจะอยู่ข้างๆจุดล้างตัวเลย โดยขวามือจะเป็นห้องน้ำหญิง และซ้ายมือเป็นห้องน้ำชาย

    ภายในห้องน้ำหญิงประมาณนี้ มีทั้งอ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำและห้องน้ำมาให้

    มีแยกห้องอาบน้ำและห้องน้ำออกจากกัน

    ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำได้เเบบนี้ค่ะ

    ต่อมาเป็นภายในห้องน้ำชาย

    ห้องน้ำชายจะมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำอย่างละห้องค่ะ

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำกว้าง 7 เมตร ยาว 16 เมตร ลึก 1.50 เมตร สระเด็กกว้าง 2.9 เมตร ยาว 4.8 เมตร ลึก 0.60 เมตร
    • สวนสาธารณะรูปแบบ Resort Garden ขนาดประมาณ 1 ไร่ครึ่ง
    • Fitness
    • ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ 
    • ประตูรั้วโครงการเเบบเลื่อนไฟฟ้า 
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม.
    • เข้า-ออกโครงการโดยระบบ Easy Pass Access (2ใบต่อ 1 หลัง)
    • ระบบ CCTV 
    • รั้วรอบโครงการสูง 3.00 เมตร
    • ถนนหลักกว้าง 12.00 เมตร และถนนภายในกว้าง 9.00 เมตร


    Product Walkthrough

    โครงการ Iconature รามอินทรา มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

    • i-Merry ที่ดินเริ่มต้น 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • i-Breezy ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • บ้านแฝด 2 ชั้น
    • i-Sunny ที่ดินเริ่มต้น 37.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ
    • i-Delight ที่ดินเริ่มต้น 39.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

    โดยบ้านที่เราจะพาไปชมกันจะเป็นเเบบ i-Delight กับ i-Sunny ซึ่งเป็นบ้านแฝดที่มีพื้นที่รอบๆบ้านเหมือนกันกับบ้านเดี่ยวเลยค่ะ แต่ด้วยความที่กฏหมายนิยามคำว่าบ้านเดี่ยวไว้ว่าต้องตั้งอยู่บนที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป แต่ทั้งสองแบบนี้ตั้งอยู่บนที่ดินไม่ถึง 50 ตร.วา จึงจัดอยู่ในประเภทบ้านเเฝดไป ส่วนที่เชื่อมต่อกันของบ้านแฝดนั้นจะอยู่บริเวณโครงสร้างของพื้นที่ซักล้างชั้นใต้ดินค่ะที่เรามองไม่เห็น ดังนั้นเมื่อมองจากภายนอกแทบจะไม่เห็นความเป็นบ้านเเฝดเลย ระหว่างบ้านเเฝดด้วยกันก็มีรั้วกันระหว่างหลังให้เรียบร้อย เดินลัดเลาะและจัดสวนรอบๆบ้านได้สบายเลยค่ะ

    แบบบ้านแรกที่เราจะพาไปชมนั้นเป็นแบบบ้านแฝดที่มีชื่อว่า i-Delight จะเป็นบ้านแฝดที่มีพื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. บนที่ดินเริ่มต้น 39.8 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 5.89 ล้านบาท แบบนี้สามารถจอดรถได้ 2 คัน โดยทางเข้าจะเข้าทางข้างๆฝั่งที่จอดรถ เมื่อเข้ามาพื้นที่ใช้งานจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนนั่งเล่นรับประทานอาหารที่เข้ามาจากทางเข้าหลัก และอีกฝั่งที่เป็นส่วนห้องน้ำ บันได ห้องครัว และพื้นที่ซักล้างจะอยู่ฝั่งที่จอดรถ มีประตูทางเข้าส่วนครัวแยกออกมาเฉพาะอีกทางหนึ่ง ห้องน้ำชั้นล่างนี้จะได้เป็นแบบ Powder room คือไม่มีพื้นที่ส่วนอาบน้ำ เมื่อขึ้นมาชั้นสองจะเป็นห้องนอน 2 ห้องที่ใช้ห้องน้ำร่วมกันกับห้องนอนใหญ่ที่มีพื้นที่สำหรับ walk-in closet และมีห้องน้ำในตัว

    หน้าบ้านจะมีแนวพุ่มไม้หน้ารั้วช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านอีกชั้น (เนื่องจากประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนกระจก ถ้าไม่มีแนวพุ่มไม้นี้กั้น คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะสามารถมองเข้าไปภายในตัวบ้านได้เลย)

    ภายนอกบ้านแฝดจะเห็นได้ว่า ผนังบ้านไม่ได้ชิดกัน ทำให้มีพื้นที่โดยรอบตัวบ้านที่มีลักษณะคล้ายกันบ้านเดี่ยว สามารถจัดสวย ปลูกต้นไม้ได้รอบบ้านค่ะ

    ภายนอกบ้านออกแบบโดยเน้นสีขาว ฟ้า เทา เเละเน้นเส้นเเนวตั้งทั้งรูปร่างของหน้าต่าง เเละแนวครียตกแต่งผนังตรงทางเข้า ทำให้บ้านดูสูงขึ้นและมีมิติมากขึ้นค่ะ

    ทางเข้าบ้านจะมีกริ่งและกล่องรับจดหมายให้แบบนี้ทุกหลัง โดยบ้านเลขที่จะติดอยู่กับกล่องรับจดหมายตรงนี้ ตำแหน่งจะอยู่ระหว่างรั้วทางเข้าที่จอดรถกับประตูสำหรับคนเดินเข้าค่ะ

    อีกฝั่งนึงของบ้านจะมีที่ทิ้งขยะให้แบบนี้ ด้านนอกเป็นประตูบานเปิดออก ด้านในมีตัวถังที่มีพื้นปูรองรับไว้แบบนี้

    รั้วเป็นประตูบานเลื่อนเก็บข้างสำเร็จรูปตามภาพ วัสดุเป็นโครงเหล็กเน้นเส้นตั้งและไม้ ช่วยกันเรื่องคนปีนข้ามรั้วได้ค่ะ

    ที่จอดรถจะเป็น Slope ขึ้นไปเล็กน้อยจากถนนหน้าโครงการ พื้นเป็นซีเมนต์ปาดเรียบ ขนาดพื้นที่จอดรถที่มีหลังคาปกคลุมอยู่ที่ประมาณ 4.80 x 3.30 ม. คือเมื่อจอดรถเเล้วจะมีรถครึ่งคันที่อยู่ในร่มและอีกครึ่งคันโดนแดดค่ะ

    เลาะมาทางซ้ายมือจะเจอพื้นที่ซักล้างเเละประตูทางเข้าครัว พื้นจะปูด้วยพระเบื้องเซรามิกให้ค่ะ และมีเเท๊งก์น้ำของ DOS ให้มาพร้อมตัวบ้าน

    ด้านหลังบ้านจะปูหญ้าไว้ให้แบบนี้ ส่วนผนังรอบบ้านจะเป็นแบบนี้สีนี้เลยค่ะ

    ตัวบ้านภายนอกจะมีการทาสีผนังสลับสีขาวกับสีฟ้าแบบนี้

    กลับมายังอีกด้านนึงของบ้านก็จะปูหญ้าไว้ให้แบบนี้เช่นกัน

    รั้วข้างบ้านด้านหน้าฝั่งที่ติดกับข้างบ้านจะมีก่อทึบด้านล่างเเละเป็นรั้งเหล็กโปร่งเเนวตั้งด้านบนดังภาพ

    วกกลับมาอีกทีเป็นพื้นที่สวนเล็กๆหน้าบ้านแบบนี้

    มาดูทางเข้าบ้านกันบ้าง ทางเข้าจะอยู่ข้างๆที่จอดรถ ด้านขวามือตรงข้ามกับทางเข้ามีพื้นที่สำหรับเก็บรองเท้าไว้ให้

    ตู้เก็บรองเท้าที่โครงการให้มามีทั้งหมด 3 ชั้น ได้แบบนี้ดังภาพ แต่สำหรับบ้านไหนที่คุณผู้หญิงมีรองเท้าเยอะ เราก็สามารถทำ Built-in ตรงนี้เพิ่มให้เต็มพื้นที่และความสูงได้เลย

    เฉลียงหน้าบ้านมีขนาดประมาณ 3.50×1.20 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ซึ่งสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

    ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน เปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง วัสดุเป็นบานกรอบ UPVC พร้อมกระจกเขียวตัดแสง ซึ่งเป็นกระจกที่ช่วยกรองแสงแดดบางส่วนจึงทำให้ภายในบ้านไม่ร้อน

    ตัวล็อคได้เเบบนี้ค่ะ

    เข้ามาภายในบ้านจะเป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนก่อนเลย และถัดไปเป็นพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร

    เทียบกับแบบบ้านเปล่า จะเป็นว่าบ้านโดยรวมค่อนข้างโปร่ง เน้นโทนสีขาว ฝ้าฉาบเรียบหมด ไฟจะมีบางจุดได้เป็นดาวน์ไลท์บางจุดได้เป็นไฟซาลาเปา

    พื้นที่ส่วนรับแขกสามารถวางโซฟาได้2-3 ที่นั่ง หรือจะวางเป็นโซฟาตัว L แบบในบ้านตัวอย่างก็ได้

    พื้นที่ดูทีวีมีระยะประมาณ 3.30 เมตร สามารถเลือกทีวีขนาด 55 นิ้วมาดูได้เลย

    ฝั่งชั้นดูทีวีมีหน้าต่างเล็กสูงขนาบข้าง ทำให้เเสงเข้ามาในตัวบ้านได้มาก ตรงกลางสามารถทำ Built-in ชั้นวางทีวี หรือชั้นเก็บของได้ทั้งบนและล่างทีวี

    มองย้อนกลับมายังส่วนนั่งเล่นพักผ่อน จะเห็นได้ว่ามีความโปร่ง โล่งสว่าง จากระยะความสูงของฝ้า 2.7 เมตร และการเจาะช่องประตูหน้าต่าง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นส่วนตัวจากแนวพุ่มไม้ริมรั้วที่ทางโครงการปลูกไว้ให้

    ถัดจากส่วนนั่งเล่นมาทางซ้ายมือก่อนส่วนรับประทานอาหารจะเป็นทางไปห้องน้ำชั้นล่างเเละทางขึ้นชั้น 2 ข้างๆพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นพื้นที่สำหรับ Pantry

    ส่วนรับประทานอาหารสามารถจัดโต๊ะทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่งเลยโดยพื้นที่บรอเวณนี้จะติดกับหน้าต่างที่สองด้าน ที่มองออกไปยังด้านนอกที่เป็นสวนภายในบ้านได้ ตัวหน้าต่างจะเป็นหน้าต่างบ้านเลื่อน 4 ตอน สูงจากพื้น 55 ซม.และมีความสูงของหน้าต่างประมาณ 1.50 เมตร ทำให้ได้วิวและเเสงเต็มที่

    พื้นที่หัวโต๊ะทั้งสองฝั่งก็กว้างประมาณ 80-100 ซม. เดินเข้าออกได้สะดวก และสามารถวางเก้าอี้เพิ่มที่หัวโต๊ะได้อีกทั้ง 2 ฝั่ง

    ระยะเมื่อเลื่อนเก้าอี้ออกมาก็ยังไม่ชนกับผนังนะคะ นับว่าพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควร

    ต่อมาเป็นพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารหรือ Pantry ที่ในบ้านจริงจะให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่มีพื้นที่ประมาณ 3.15 x 1.75 เมตร สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

    ตัวอย่างการ Built-in ส่วน Pantry ของบ้านตัวอย่าง ฝั่งนี้จัดเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร เเละตู้วางไมโครเวฟหรือจะทำเป็นตู้เก็บของทั้งแนวเลยก็ได้

    อีกฝั่งสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L มีชั้นวางของริมผนังด้านบนแบบนี้ก็ได้

    ประตูทางเข้าครัวจะอยู่ลึกเข้าไป เป็นประตูบานเลื่อนฝากผนัง กระจกฝ้า กั้นเเยกออกไปทำให้กลิ่น ควันจากการทำอาหารไม่ลอยมายังพื้นที่รับประทานอาหารหรือนั่งเล่น

    ภายในครัวจะกว้างประมาณ 2.3 x 3.0 เมตร วางเคาน์เตอร์ทำอาหาร เตา เครื่องซักผ้า ตู้เย็นไว้ได้ทั้ง 2 ฝั่ง

    พื้นที่ใช้สอยภายในก็กว้าง เมื่อมีคนทำอาหารอยู่ก็ยังสามารถเดินผ่านได้อย่างสบายๆ

    มีหน้าต่างบานเลื่อนให้มาเพื่อระบายอากาศ

    และมีประตูบานเปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้าง

    พื้นที่ซักล้างภายนอกลดระดับลงมา มีแยกพื้นตัวบ้านกับพื้นส่วนซักล้างออกจากกัน กันรอบร้าวที่เกิดจากการทรุดตัวของบ้าน

    มองย้อนออกมาจากครัวมายังพื้นที่ส่วนรับประทานอาหารค่ะ ภายในโปร่งเเละดูอยู่สบาย

    มายังทางขึ้นชั้น 2 กันบ้างค่ะ ทางขึ้นจะอยู่ระหว่างพื้นที่ส่วนนั่งเล่นและพื้นที่ส่วนเตรียมอาหาร มีห้องน้ำอยู่ใต้บันไดทางขึ้น

    ทางเข้าห้องน้ำจะตรงไปเลย ส่วนทางซ้ายมือใต้บันไดมีห้องเก็บของอยู่ ในบ้านจริงจะเป็นประตูบานเปิดนะคะ

    เนื่องจากห้องน้ำจะอยู่ใต้บันได ดังนั้นตัวห้องน้ำจะถูกลดระดับลงไปจากพื้นปกติ 2 ขั้นขั้นละประมาณ  12.50 ซม. เพื่อทำให้ความสูงภายในห้องน้ำไม่เตี้ยเกินไป แต่การลดระดับเเบบนี้ทำให้บ้านแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะสำหรับผู้สูงอายุเท่าไหร่ เนื่องจากการใช้งานมีระดับพื้นที่ขึ้น-ลงหลายขั้น

    ตัวห้องน้ำชั้นล่างจะเป็น Powder Room คือมีเฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.25 เมตรค่ะ

    พื้นที่ภายในห้องน้ำก็ไม่คับเเคบ ใช้งานหมุนตัวได้สะดวก เพราะสุขภัณฑ์วางอยู่คนละแนวกันเลยทำให้มีพื้นที่เหลือ

    อ่างล้างมือได้แบบนี้ ของ American Standard

    ตัวโถสุขภัณฑ์ก็ได้ของ American Standard  มีอุปกรณ์เช่นสายฉีดชำระ ที่ใช่ทิชชู่มาให้ครบ

    ด้านบนโถสุขภัณฑ์มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ใช้รับแสงธรรมชาติทำให้ไม่ต้องเปิดไฟขณะใช้งานในช่วงกลางวัน และใช้ระบายอากาศได้อีกด้วย

    มาที่ตัวบันไดกันบ้าง ตัวบันไดจะมีช่องเเสงติดกับผนังแบบนี้ ช่วยให้โถงบันไดสว่างแทบไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวันเลยค่ะ

    โครงสร้างตัวบันไดเป็นปูน วัสดุลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูปแบบนี้ เวลาเดินจะได้ยินเสียงไม้ให้อารมณ์เหมือนบ้านไทยสมัยก่อนค่ะ

    ราวกันตกและมือจับได้ดีไซน์แบบในภาพเลย

    บันได้เป็นรูปตัว U ค่ะ ชานพักกว้างดีเดินได้สะดวก

    ในบ้านจริงจะมีโคมไฟมาให้เช่นกัน แต่ไม่ใช่รุ่นนี้นะคะ

    พอขึ้นมาถึงชั้น 2 จะเป็นห้องนอน โดยไล่จากซ้ายไปขวาจะเป็นห้องนอน 1 ,ห้องน้ำ ,ห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว และห้องนอน 2 บนชั้น 2 นี้พื้นจะได้เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม.ค่ะ ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.7-2.8 ม.

    มาดูห้องนอนเเรกที่อยู่ชิดบันไดกันก่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้องที่อยู่ทางด้านหลังบ้าน มีหน้าต่างด้านเดียว แต่หน้าต่างที่ได้นั้นเป็นหน้าต่างบานเลื่อน 4 ตอนและมีบาน Fixed อยู่ด้านล่าง ทำให้โดยรวมเเล้วเป็นหน้าต่างบานใหญ่เลย รับเเสงและระบายอากาศได้เต็มที่

    เทียบห้องตัวอย่างกับห้องจริงนะคะ จะได้แบบนี้

    ห้องนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ เมื่อวางเตียงชิดผนังผนังทำให้มีพื้นที่ด้านข้างและปลายเตียงเยอะพอสมควร เดินผ่านได้สบายๆ

    ข้างๆเตียงยังมีพื้นที่เหลืออยู่สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ หรือเราจะเอาเตียงชิดผนังฝั่งกระจกเลยก็ได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้มากขึ้น

    เมื่อวางตู้เสื้อผ้าเเล้วยังสามารถเลือกตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดได้อยู่

    ปลายเตียงสามารถทำ Built-in เป็นชั้นวางทีวี ที่นั่งทำงานอ่านหนังสือเพิ่มเติมได้ค่ะ

    ต่อมาเป็นห้องน้ำรวมชั้นบน ที่ต้องใช้ร่วมกันระหว่าง 2 ห้องนอน ภายในพื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ตัวผังเป็นแนวลึกเข้าไป ทางเดินชิดริมฝั่งเดียว มีการเเยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน แต่ไม่มีฉากกันให้นะคะ

    ชุดอ่างล้างมือและกระจกได้แบบนี้

    อ่างล้างมือของAmerican Standard

    โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน มีการก่อขอบผนังยื่นออกมาเพื่อใช้วางอุปกรณ์แปรงฟัน อาบน้ำ เพิ่มเติมได้

    พื้นที่ทางเดินก็ค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้สะดวก เพราะวางสุขภัณฑ์ในแนวเดียวกัน

    พื้นที่อาบน้ำจะติดกับกระจกที่เป็นบานกระทุ้งคู่ ด้านล่างเป็นกระจกบาน Fixed  ช่วยให้เเสงเข้ามาอย่างเต็มที่ และไม่ใช่ช่องระบายอากาศห้องน้ำที่เหมือนทั่วๆไปที่จะต้องอยู่ด้านบนเท่านั้น

    ขนาดพื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ 0.80 x1.60 เมตร ใช้งานได้สะดวก

    มีการก่อธรณี ขึ้นมาเพื่อเเยกส่วนเปียกกับส่วนเเห้งออกจากกัน เมื่ออาบน้ำเสร็จ น้ำก็จะไม่กระจายไปทั่วทั้งห้อง

    ชุดฝักบัวได้แบบนี้ด้านล่างฝักบัวมีก๊อกน้ำซักล้างไว้ให้ รวมถึงมีการเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

    ตัวฝักบัวได้แบบนี้ ค่อนข้างเล็กไปนิด

    ต่อมาเราขอพาไปดูห้องนอนเล็กอีกห้องกันก่อน ห้องนี้ภายในห้องได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังเเละฝ้าเพดานฉาบเรียบ ส่วนไฟได้เป็นไฟซาลาเปา

    ห้องนี้จะมีหน้าต่างสองฝั่งนะคะ ช่วยให้ระบายอากาศได้ดี

    สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตเข้ามุมห้องได้แบบนี้

    ปลายเตียงจะทำเป็นชั้นวางของติดผนังหรือจัดแบบในห้องตัวอย่างก็ได้เช่นกันค่ะ

    พื้นที่ระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าจะตรงกันกับช่องหน้าต่างพอดี

     

    ฝั่งนี้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่สูงเกือบจรดพื้น ช่วยให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ดีขึ้น

    ด้านนอกเป็นหลังคาที่จอดรถค่ะ สามารถปูหญ้าหรือวางไม้กระถางเบาๆได้ แต่ไม่แนะนำให้วางของหนักหรือต่อเติมออกไปเนื่องจาก กฏหมายอาคารบ้านแฝด ช่องเปิดระหว่างบ้านต้องห่างกัน 4 ม. และอีกเรื่องคือโครงสร้างเป็นโครงสร้างที่สร้างไว้สำหรับเป็นหลังคาที่จอดรถเท่านั้นค่ะ

    ต่อมาเป็นห้องสุดท้ายของบ้านนี้ คือ Master  Bedroom ค่ะ จากประตูทางเข้า ทางขวามือจะเป็นส่วนนอนพักผ่อน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็น Walk-in Closet กับห้องน้ำ

    พื้นที่ห้องนอนจะมีหน้าต่างสองฝั่งผนัง และถูกออกแบบช่องเปิดไว้สำหรับอยู่ข้างหัวเตียงขนาด King Size พอดี

    เทียบบ้านตัวอย่างกับบ้านเปล่าที่ให้ จะเห็นได้ว่าภายในห้องนอนนี้มีการเล่นระดับฝ้าเพดานไว้ให้ และไฟภายในห้องจะได้เป็นไปดาวน์ไลท์

    สามารถวางเตียงขนาด King Size ได้ โดยมีพื้นที่รอบๆไม่อึดอัด

    หัวเตียงฝั่งตรงข้ามกับประตูเข้าห้อง มีพื้นที่สำหรับจัดวางเป็นที่ทำงาน หรือตั้งโซฟาสำหรับอ่านหนังสือได้

    อีกฝั่งนึงของหัวเตียงก็สามารถวางโต๊ะหัวเตียง หรือเราจะ Built-in ชั้นวางของไว้ล่างหน้าต่างได้ ทำเป็นที่นั่งเตี้ยๆ ได้เพิ่มอีกตรงนี้

    ปลายเตียงก็มีพื้นที่ที่สามารถทำเป็นชั้นวางทีวี ชั้นเก็บของ โต๊ะทำงาน หรือชั้นวางหนังสือก็ได้ค่ะ

    มองย้อนกลับมาอีกฝั่งหนึ่งของห้องน้ำเป็นพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet กับห้องน้ำ ภายในห้องตัวอย่างได้ทำBuilt-in พื้นที่ตรงนี้โดยมีประตูบานเลื่อนกระจกเปิด-ปิดส่วนนี้เอาไว้ ซึ่งการใช้วัสดุที่เป็นกระจกเงานั้น นอกจากประโยชน์ใช้สอยทางด้านการใช้งานแล้วยังช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกค่ะ

     

    พื้นที่สำหรับ Walk-in Closet สามารถจัดได้ทั้ง 2 ฝั่ง

    ในห้องตัวอย่างจะเป็นฝั่งหนึ่งสำหรับคุณผู้หญิง อีกฝั่งหนึ่งสำหรับคุณผู้ชาย

    ระดับพื้นจากห้องนอนใหญ่เข้ามายังห้องน้ำมีการลดระดับลงมากันน้ำไหลย้อน

    มาดูห้องน้ำภายใน Master Bedroom กันบ้างนะคะ ตัววัสดุและสุขภัณฑ์ยังคล้ายๆกับห้องอื่นๆของตัวบ้าน มีผังต่างออกไปเล็กน้อย คือฝั่งขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ตรงกลางมีหน้าต่างบานกระทุ้งและบาน Fixed กระจกฝ้า ไว้รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ

    จากประตูเข้าห้องน้ำ หันมาทางซ้ายและขวาตามลำดับค่ะ จะเห็นว่าห้องน้ำมีการกั้นแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วนแต่ไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ

    ฝั่งที่เป็นอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มีการก่อขอบผนังไว้สำหรับวางของใช้ อุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ

    อ่างล้างมือได้แบบนึ้ ของ American Standard

    โถสุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน ได้สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่มาพร้อมกัน

    พื้นที่อาบน้ำมีก่อพื้นขึ้นมาเพื่อแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกัน แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้มานะคะ แนะนำให้ติดม่านหรือฉากกั้นเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกในการใช้งาน น้ำจะได้ไม่กระเด็นออกนอกพื้นที่ไปเปียกส่วนอื่นๆภายในห้องน้ำค่ะ พื้นที่อาบน้ำของห้องนี้ก็จะอยู่ที่ 0.80 x 1.60 เมตร เช่นกัน

    มีราวเเขวนผ้าตรงข้ามฝักบัว ตอนอาบต้องระวังไม่ให้น้ำพุ่งมายังผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อผ้าที่เเขวนนิดนึง

    มุมมองจากภายในห้องน้ำออกไปห้องนอนใหญ่ค่ะ

    แบบสุดท้ายที่เราจะพากันไปชมในรีวิวนี้จะเป็นบ้านแฝดอีกแบบนึงที่มีชื่อว่า i-Sunny ที่ดินเริ่มต้นที่ 37.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 131 ตร.ม. การออกแบบผังโดยรวมจะค่อนข้างคล้ายกับแบบ i-delight แต่พื้นที่ใช้สอยจะกระชับกว่า โดยชั้นล่างจะสามารถจอดรถได้ 1 คัน มีฟังก์ชันการใช้สอยเหมือนกัน คือมีพื้นที่ส่วนนั่งเล่นพักผ่อน ต่อเนื่องไปกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร  มีpantry และห้องครัวอยู่ตำแหน่งเดิมสามารถเข้ามาในครัวตรงประตูส่วนซักล้างได้ มีข้อแตกต่างเล็กน้อยจากแบบi-delight ตรงที่ห้องน้ำชั้นล่างจะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำรวมอยู่ด้วยค่ะ เนื่องมาจากชั้นบน ห้องนอนทั้ง 3 ห้องนั้นต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันหมดห้องเดียวนั่นเอง ในส่วนของชั้น 2 ตำแหน่งของห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกันนั้นจะอยู่ตรงกลางตรงกับทางขึ้น-ลงบันไดพอดี ส่วนห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้องจะอยู่ด้านหลังค่ะ

    การออกแบบภายนอกอาคารจะดีไซน์คล้ายกับแบบ i-Delight มีโทนสีเดียวกัน แต่ในบ้านตัวอย่างวางบ้านไว้บนที่ดินขนาด 50 ตร.วานะคะ ดังนั้นพื้นที่รอบข้างบ้านจะมีความกว้างกว่าในเเปลงปกติ ซึ่งจะมีที่ดินโดยรอบประมาณ 2 เมตร

    บรรยากาศหน้าบ้านให้อารมณ์เหมือนบ้านเดี่ยวค่ะ ดูไม่เหมือนบ้านแฝดเลย

    สามารถจอดรถได้ 1 คัน ด้านข้างบ้านจัดเป็นสวนหย่อมได้ แต่ในบ้านจริงที่ขาย ขนาดรอบๆบ้านจะเล็กกว่านี้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถจอดรถได้ 2 คันอยู่ดีค่ะ

    ด้านข้างของบ้านเป็นพื้นที่ลานซักล้าง และสามารถจัดสวนบริเวณโดยรอบตัวบ้านได้ ตัวบ้านจริงจะไม่มีต้นไม้ให้ในบ้าน แต่จะมีหญ้าปลูกไว้ให้ค่ะ

    พื้นที่ซักล้างที่มีประตูเข้าออกห้องครัวค่ะ โครงการมีให้เเทงก์น้ำของ DOS รั้วด้านข้างได้แบบนี้

    พื้นที่หลังบ้านมีช่องเเสง ในบ้านจริงจะปูพื้นหญ้าให้

    เดินมายังอีกฝั่งนึงของตัวบ้าน สังเกตุได้ว่าบนกระจกภายนอกบ้าน จะมีขอบก่อนออกมา ตรงนี้จะช่วยไม่ให้น้ำฝนที่ไหลลงมาจากผนังไหลย้อนเข้ามาในตัวบ้าน และไม่มีคราบน้ำไหลติดกระจกค่ะ

    มองย้อนกลับไปจะเห็นว่าเฉลียงทางเข้าบ้านนั้น นอกจากจะเข้าจากที่จอดรถเเล้ว ยังสามารถเข้าจากสวนด้านข้างได้เช่นกันนะคะ

    เฉลียงทางเข้าเหมือนเดิม วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิก

    ประตูเข้าบ้านเป็นบานเลื่อน 2 ฝั่ง กรอบบาน UPVC กระจกเขียวตัดเเสง

    มีแถมตู้เก็บรองเท้าให้เหมือนเดิม

    ภายในตัวบ้านการจัดวางพื้นที่ใช้สอยคล้ายๆเดิมค่ะ ระดับฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร

    มีกระจกทั้ง 3 ด้าน ทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้น ประหยัดไฟในเวลากลางวันอีกด้วย

    สามารถจัดชุดโซฟาแบบนี้ได้

    ระยะทางเดินเมื่อวางโซฟาเดี่ยวฝั่งตรงข้ามประตูเเล้ว ยังเหลือทางเดินอีกประมาณ 1 เมตรค่ะ

    ตำแหน่งวางทีวีสามารถทำ Built-in เป็นชั้นระหว่างหน้าต่างสองฝั่งได้

    บรรยากาศส่วนรั่งเล่นพักผ่อนเมื่อมองจากในบ้านออกไปยังหน้าบ้านค่ะ

    ต่อมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4-6 ที่นั่งเช่นกัน มุมมองที่ได้เหมือนแบบ i-delight ค่ะ หน้าต่างที่มี 2 ฝั่งก็จะช่วยเรื่องระบายอากาศด้วยค่ะ

    ความแตกต่างจะอยู่ที่ขนาดของ Pantry และครัวจะเล็กลง

    พื้นที่สำหรับPantry จัดเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ได้แบบนี้

    แต่ประตูเข้าครัวจะเป็นบานเลื่อน 2 ตอนกระจกเขียวตัดเเสงแทน

    ภายในครัวก็จะเล็กลง เหลือพื้นที่ประมาณ 1.9 x 2.3 เมตร สามารถวางเคาน์เตอร์และอุปกรณ์ต่างๆได้เหมือนเดิม แต่ทางเดินจะเเคบลง

    จากประตูเข้าห้องครัวมองไปทางซ้ายเเละขวาการจัดว่างต่างๆเหมือนเดิมนะคะ ยังมีกระจกบานเลื่อนคู่ตำแหน่งบนซิงค์น้ำล้างจานพอดี

    มาดูในส่วนของห้องน้ำเเละบันไดทางขึ้นชั้น 2 กันบ้างนะคะ

    ตัวพื้นไปยังห้องน้ำยังคงลดระดับลงไปอยู่

    และมีห้องเก็บของอยู่ใต้บันได

    ห้องน้ำวางตัวสุขภัณฑ์ชิดกำแพงเรียงกันแบบนี้

    ชุดอ่างล้างมือกับกระจกได้เหมือนเดิม

    สุขภัณฑ์ของ American Standard

    พื้นที่หน้าโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือก็ไม่คับแคบไป

    พื้นที่ส่วนอาบน้ำแยกส่วนเปียกและส่วนเเห้งออกจากกัน และจะได้กระจกทรงสูงด้านบนเป็นบานกระทุ้งส่วนครึ่งล่างเป็นบาน Fixed

    ตัวบันไดเป็นรูปตัว U แต่ทางขึ้นมีการหักเลี้ยวนิดหน่อยแบบนี้

    ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ตรงช่วงหักมุมมีขั้นสามเหลี่ยมอยู่ ต้องระวังเวลาขึ้น-ลงเล็กน้อย

    พื้นที่ชานพักมีช่องเเสงขนาดใหญ่ ช่วยให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในเวลากลางวัน ทำให้โถงบันไดไม่มืดค่ะ

    มองลงไปจะเห็นบันไดเป็นรูปตัว U นะคะ

    สำหรับชั้น 2 นี้ เมื่อขึ้นมา ฝั่งซ้ายของบันไดจะเป็นห้องนอน 2 ห้อง ส่วนทางขวาจะเป็น Master Bedroom ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ต้องใช้รวมกันค่ะ

     

    บรรยากาศห้องนอนเเรกสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้

    มีพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งเเละยังสามารถเลือกตู้เสื้อผ้าเเบบบานเปิดได้เช่นกัน

    อีกห้องนอนหนึ่ง จะมีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่งของผนัง ดังนั้นควรวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตเข้ามุมห้องจะสะดวกต่อการใช้งานมากกว่าค่ะ

    ปลายเตียงเหลือพื้นที่เดินเข้าออกได้ แต่ถ้าอยากมีชั้นวางของหรือชั้นดูทีวี แนะนำให้ติดชั้นวางแบบลองตัวหรือเลือกทีวีแบบแขวนผนังเเทนดีกว่าค่ะ

    มาดูห้องน้ำกันบ้าง รูปแบบการดีไซน์ยังคงเหมือนเดิม การวางผังฝั่งขวาจะเป็นอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนอาบน้ำค่ะ

    ยังคงมีขอบผนังก่อขึ้นมาสำหรับวางของ ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard

    พื้นที่เดินกว้างพอประมาณ

    พื้นที่ส่วนอาบน้ำได้แบบนี้ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนแต่ไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้

    ระยะภายในส่วนอาบน้ำอยู่ที่ 1.60×0.80 เมตร กระเบื้องพื้นเเละผนังภายในห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก

    สุดท้ายมาดูที่ห้องนอนกันบ้างค่ะ ห้องนี้จะได้หน้าต่างค่อนข้างมาก รวมทั้งหัวเตียงด้วย

    สามารถวางเตียง King Size ได้อย่างสบายๆ

    พื้นที่ข้างเตียงก็กว้าง สามารถเอาโซฟามานั่งอ่านหนังสือได้

    ปลายเตียงทำชั้นวางทีวีหรือชั้นวางของได้เลยค่ะ

    อีกฝั่งนึงของห้องเป็นพื้นที่ Walk-in Closet

    ในบ้านตัวอย่างมีประตูบานเลื่อนเปิดปิด หน้าบานกรุด้วยกระจกเงา ไว้เช็คตัวเองระหว่างการแต่งตัวได้ค่ะ

    ตัวอย่างWalk-in Closet ภายในห้อง

    ใช้แขวนเสื้อผ้า เก็บของ หรือเก็บกระเป๋าเดินทางก็ได้ค่ะ

    มองจากWalk-in Closet กลับมาภายในห้องอีกที ฝ้าเพดานหลุมนี้ทางโครงการให้มาเเบบนี้นะคะ


    ในส่วนของแบบบ้านเดี่ยวนั้น ทางโครงการ Iconature รามอินทรา ก็ขายหมดไปเรียบร้อนเเล้ว เราจึงมีแต่รูปทัศนียภาพภายนอกและผังพื้นมาให้ชมกันค่ะ

    i-Merry ที่ดินเริ่มต้น 53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 204 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

    ผังบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ชั้นล่างจากทางเข้าขวามือจะมีห้องนอน 1 ห้อง สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์หรือเอาไว้รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ มีห้องน้ำอยู่ข้างๆกัน  เมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารอยู่ต่อเนื่องกัน บริเวณส่วนรับประทานอาหารมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังสวนข้างๆบ้านได้ ซึ่งพื้นที่สวนนี้จะถูกโอบล้อมด้วยตัวบ้านเเละรั้ว ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน ถัดมาทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Pantry และห้องครัวที่เป็นครัวปิด แยกออกไปชัดเจน ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นเข้ามารบกวนภายในบ้าน เเละมีพื้นที่ซักล้างอยู่นอกอาคารถัดจากครัวออกไป บันไดทางขึ้นจะอยู่ข้างๆส่วน Pantry เป็นบันไดรูปตัว U มีพื้นที่สำหรับเก็บของอยู่ใต้บันได ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ห้องนอนทั้งหมด บนชั้น 2 นี้จะมีห้องนอน 2 ห้องและห้อง Master Bedroomอีก 1 ห้อง ทุกห้องจะมีห้องน้ำภายในตัว ห้องนอนด้านหลังจะสามารถวางเตียง King size ได้ มีพื้นที่สำหรับจัดเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องเเป้ง มีพื้นที่สำหรับ Built-in  walk-in closet อยู่หน้าห้องน้ำ ห้องนอนต่อมาจะอยู่ตรงกลาง จะมีขนาดเล็กลงมา สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ มีพื้นที่รอบเตียงเดินสะดวก และมีห้องน้ำภายในตัว ส่วนห้องสุดท้าย Master Bedroom จะอยู่ทางหน้าบ้าน มีขนาดค่อนข้างกว้าง มีห้องนำ้ในตัว มีwalk-in closet ขนาดใหญ่ มีระเบียงมี่ค่อนข้างกว้าง

    i-Breezy ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

    ผังพื้นของแบบ i-Breezy นั้นจะมีการออกแบบคล้ายๆกับแบบ i-Merry แต่หน้ากว้างของตัวบ้านจะเล็กกว่าทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องต่างๆเล็กลงเล็กน้อย ชั้น 1 การจัดวางห้องเเละพื้นที่ใช้สอยต่างๆยังคงตำแหน่งเดิมค่ะ ส่วนชั้น 2 จะต่างออกไป โดยห้องนอน 2 ห้องจะไม่มีห้องน้ำภายในตัว ต้องมาใช้ร่วมกันที่ห้องน้ำตรงทางขึ้น-ลงบันได ส่วนพื้นที่ใช้สอยนั้น ห้องนึงสามารถวางเตียง king size ได้ แต่พื้นที่สำหรับ walk-in closet จะหายไป ส่วนอีกห้องสามารถจัดได้คล้ายๆเดิมค่ะ คือสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ มีชั้นวางทีวีปลายเตียง มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องเเป้งอยู่ข้างเตียง ส่วนห้องMaster Bedroomนั้น จะมี layout ต่างออกไปเล็กน้อย คือห้องน้ำและ walk-in closet จะอยู่ข้างๆกัน แต่ยังคงมีระเบียงและพื้นที่ใช้สอยที่สามารถจัดมุมนั่งอ่านหนังสือ หรือโต๊ะทำงานได้ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 June 2018

    • i-Sunny พื้นที่ดิน 37.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 131 ตร.ม. ราคา 5.39 ล้านบาท หรือประมาณ 145,300 บาท/ตร.วา

    • จอง 20,000 บาท
    • ทำสัญญา 50,000 บาท

  • i-Delight พื้นที่ดิน 40.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ราคา 5.89 ล้านบาท หรือประมาณ 145,800 บาท/ตร.วา
    • จอง 10,000 บาท
    • ทำสัญญา 40,000 บาท

    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล Iconature รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนพระยาสุเรนทร์หรือถนนรามอินทรา 109 ห่างจากถนนรามอินทราประมาณ 200 เมตร ซึ่งเลียบถนนรามอินทรานั้นจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ (ณ วันที่ไปทำรีวิว กำลังก่อสร้างอยู่) และปากซอยพระยาสุเรนทร์จะเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าบางชัน ดังนั้น โครงการนี้จึงใกล้กับเเนวรถไฟฟ้าในระยะเดินถึงประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบนับว่าคึกคักตลอดเส้นรามอินทราเลยทีเดียว มีทั้งห้องใหญ่อย่าง Fashion Island หรือ Community Mall อย่าง The Promenard และ Aomori มีHypermarket อย่าง Makro, Lotus หรือตลาดอย่างตลาดมีนบุรี มีโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และยังเป็นทำเลที่โดดเด่นที่มีสถานที่สำหรับทำกิจกรรมอย่าง สวนสยาม หรือซาฟารีเวิร์ลอยู่ใกล้เคียงอีกด้วย

    การเดินทางโดยใช้รถ สำหรับโครงการนี้นับว่าสะดวกเลยทีเดียว เนื่องจากถนนรามอินทราตอนปลายนี้ มุ่งหน้าไปยังมีนบุรี สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเสรีไทย เพื่อไปลาดร้าวหรือรามคำแหงได้ หรือภายในซอยพระยาสุเรนทร์เอง ก็ใช้เชื่อมต่อไปยังถนนปัญญาอินทรา เพื่อไปสายไหมหรือรังสิตได้เช่นกัน ทางด่วนที่ใกล้ก็จะมีทางด่วนวงเเหวนกาญจนาภิเษก ที่ใช้ไปยังรังสิตหรืออยุธยาได้ ระยะทางจากโครงการไปยังทางด่วนประมาณ 3 กม. และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ที่ใช้เพื่อเข้าเมืองมายังพระราม 9 ก็อยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 6กม.

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ การที่โครงการอยู่ห่างจากถนนรามอินทราหลักอยู่ประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้นั้น ทำให้โครงการสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะอย่างป้ายรถเมล์ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาต่อวินมอเตอร์ไซค์ มีรถแท๊กซี่ขับผ่านไปมาตลอด เรียกไม่ยาก อีกทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้น เมื่อเปิดใช้งานในอนาคตจะมีสถานีบางชันตั้งอยู่ตรงปากทางเข้าซอยพระยาสุเรนทร์เลย สามารถใช้เชื่อมต่อไปยังสายสีส้มที่สถานีมีนบุรี ที่ใช้เดินทางมาตลิ่งชันผ่านรามคำแหง เพชรบุรี สนามหลวงได้อีกด้วย เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้วการเดินทางเพื่อเข้ามาในเมืองจะสะดวกมากยิ่งขึ้น

    วัสดุ ภายในบ้านได้มาตรฐาน คือพื้นชั้นล่างได้กระเบื้องพอซเลน ขนาด 60×60 ซม. ห้องน้ำได้กระเบื้องเซรามิค พื้นที่จอดรถเป็นซีเมนต์ปาดเรียบ ส่วนชั้น 2  เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังได้เป็นฉาบเรียบ ทาสี ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบทาสีเช่นกัน ตัวบันได้เป็นโครงสร้างปูน ลูกตั้งและลูกนอนใช้ไม้สำเร็จรูป ประตูหน้าต่างกรอบบานเป็น UPVC Coat สีขาวให้ความเเข็งเเรงมากกว่าอลูมิเนียมทั่วไป กระจกเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard ไฟที่ได้มีทั้งแบบซาลาเปาและดาวน์ไลท์ค่ะ

    การออกแบบ โครงการภายใต้แบรนด์ Iconature นั้นจะเน้นความใกล้ชิดธรรมชาติมาก จะเห็นได้จากการออกแบบLandscape โดยรอบที่มีต้นไม้ใหญ่มาก ทางเดินก็จะใช้แผ่นปูนแยกชิ้นเพื่อให้มีหญ้าขึ้นเเซมช่วยลดความร้อน หรือรอบๆบ้านทางโครงการก็มีแนวไม้พุ่มริมรั้วและต้นไม้ปลูกเอาไว้ โดยที่โครงการดูเเลตัดแต่ง ทำความสะอาดให้ ส่วนตัวบ้านมีให้เลือกทั้ง บ้านเดี่ยวเเละบ้านแฝด ถึงแม้ว่า Product ที่เป็นบ้านเดี่ยวเองจะขายหมดไปเรียบร้อยเเล้ว แต่แบบบ้านแฝดนั้น ก็มีพื้นที่ใช้สอยเทียบเท่ากับบ้านเดี่ยวในโครงการข้างเคียง และมีพื้นที่ว่างรอบๆตัวบ้านเหมือนบ้านเดี่ยวเช่นกัน ภายในตัวบ้านก็ออกแบบได้ค่อนข้างลงตัว มีความสูงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร บวกกับหน้าต่างและช่องเเสงที่ยาวสูง ทำให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งและสว่าง เห็นวิวสวนโดยรอบมากขึ้นค่ะ

    สาธารณูปโภค ถนนโดยรอบโครงการมีต้นไม้ตลอดเเนว ถนนหลักกว้าง 12 เมตร ถนนรองกว้าง 9 เมตร มีทางเดินข้างทางแยกออกมาจากตัวถนนอีกที พื้นที่ส่วนกลางมีสวนหย่อมที่เน้นต้นไม้ใหญ่สร้างความร่มรื่น มีสระว่ายน้ำทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ มีฟิตเนสให้บริการ

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 5 – 7 ล้านบาท, 5 June 2018

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – จากทางเข้าโครงการใกล้ถนนรามอินทราในระยะเดินถึง ในอนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีบางชันห่างออกไปประมาณ 200 เมตร เดินทางง่ายทั้งรถส่วนตัวเเละรถสาธารณะ
    • ความปลอดภัย 7.75/10 – ประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ รปภ.หน้าหมู่บ้าน CCTV ทางเข้าและถนนหลักภายในโครงการ รั้วสูง 3 เมตร
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – ออกแบบได้ลงตัว มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างใช้งานได้พอดี
    • วัสดุ 7.5/10 – ตามมาตรฐานทั่วไป มีพิเศษบางจุดเช่นมีฝ้าเพดานบางห้อง Drop ไว้ให้ บันไดใช้พื้นไม้สำเร็จรูป และกระเบื้องพอซเลน
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – โครงการขนาดกลางมีถนนกว้างและมีพื้นที่สีเขียวตลอดทั้งโครงการ
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวน ให้บริการ
    • 7.84 / 10.00 

    BOTTOM LINE

    Iconature รามอินทรา บ้านแฝดที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเดี่ยว เหมาะสำหรับคนที่คุ้นเคยทำเลแถบนั้นและต้องการบ้านสำหรับครอบครัวขนาดกลางๆ อยู่ได้ 3-5 คน มีพื้นที่โดยรอบบ้าน ในทำเลที่เดินทางสะดวกเเละมีรถไฟฟ้าให้ใช้บริการ มีงบประมาณ 5-7 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 37,730 – 45,000 บาท