OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สงครามโมเดิร์นเทรดสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าเกี่ยวกับบ้านในตลาดระดับกลางถึงล่างนั้นนับวันก็จะยิ่งทวีความรุนแรงและเข้มข้นมากขึ้น ล่าสุด บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HomePro จากค่าย Land & House) เปิดตัว “Mega Home” ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและสินค้าบ้านครบวงจร สาขาแรกที่รังสิต หวังตอบสนองกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาฯรายย่อย, เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดย่อม และ กลุ่มร้านค้าปลีกที่ซื้อสินค้าไปเพื่อขายต่อ ทั้งนี้เพื่อมาต่อกรกับสองเจ้าใหญ่ในตลาด คือ “ไทวัสดุ” จากเครือเซ็นทรัล และ “โกลบอลเฮ้าส์” ที่ถูกหนุนหลังโดยพี่ใหญ่อย่างเครือปูนซีเมนต์ไทย (SCG) และขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง จากเดิมที่มี HomePro คอยรองรับลูกค้าระดับ B+ ขึ้นไป

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ตัว Mega Home นี้จะมีรูปแบบสาขาเป็นโครงสร้างคลังสินค้าแบบเปิด มีการเก็บสินค้าและสต็อคเป็นปริมาณมาก เพื่อหวังจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก โดยวางขนาดพื้นที่ของ Store ไว้ในช่วง 15,000-20,000 ตารางเมตรสำหรับสาขาขนาดเล็ก และ 20,000 ตารางเมตรขึ้นไป สำหรับสาขาขนาดใหญ่ ไม่รวมพื้นที่ส่วนที่เป็นคลังสินค้า

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

กลุ่มสินค้าที่วางขายใน Mega Home จะประกอบไปด้วย 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ (1) สินค้าวัสดุก่อสร้าง (2) สินค้างานระบบอุปกรณ์ตกแต่งและซ่อมแซม (3) สินค้าตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และ (4) กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนและชีวิตประจำวัน โดยจะทำการ Source มาทั้งจากแหล่งผลิตในประเทศ และนำเข้า

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แบรนด์ที่นำมาวางขายส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์ระดับกลางถึงล่างเป็นหลัก ซึ่งก็อาจจะมีสินค้าบางตัว Overlap กับที่วางขายใน HomePro ด้วยเช่นกัน แล้วแต่ประเภทสินค้า และความเหมาะสมของกลุ่มเป้าหมาย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

รูปแบบของการขาย มีทั้งแบบค้าปลีกและค้าส่ง โดยที่จะในแต่ละสาขาก็จะมีการแบ่งโซนเป็นโซนค้าปลีกตามลักษณะปกติ และด้านหลังที่เป็นส่วนคลังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ ที่ลูกค้าสามารถมาสั่งของปริมาณมากได้

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สำหรับเป้าหมายทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปีแรกนี้ ทางผู้บริหารของเมก้าโฮม มีแผนที่จะเปิดสาขาที่ 2 ที่แม่สอด จังหวัดตาก ประมาณกลางเดือน พ.ย. 56 หวังยอดขายจาก 2 สาขารวม 400 ล้านบาท ในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. 56 ส่วนสาขาที่ 3 เตรียมเปิดที่หนองคายประมาณเดือน ก.พ.57 และในอนาคตก็มีแผนที่จะเปิดเพิ่มขึ้นปีละ 4-6 สาขา หวังได้ถึง 20 สาขา ภายใน 4 ปี โดยมียอดขายเฉลี่ยปีละ 700-800 ล้านบาทต่อสาขา