Grand U เตรียมเปิด U Delight รัชวิภา เผยแผนปี 2558 ตั้งเป้า 5,000 ล้านบาท

Grand U เปิดเผยยอดรับรู้รายได้ปีที่ผ่านมาโต 10% เพราะพิษเศรษฐกิจและการเมือง ตั้งเป้าใหม่ปีนี้ขาย 6,000 ล้าน โอน 5,000 ล้าน เพื่อดันให้บริษัทโตขึ้น 40% ส่งคอนโดใหม่ติดถนนวิภาวดีรังสิต ‘ยู ดีไลท์ รัชวิภา’ มาเรียกเรตติ้งคืนจากลูกค้าเก่าย่านวิภา-พหลโยธิน หลังเคยเปิด 2 โครงการในย่านนี้แล้วต้องยกเลิกเพราะ EIA

นายเนรมิต สร้างเอี่ยม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด  (แกรนด์ ยู) เปิดเผยว่า ปี 2557 ที่ผ่านมา การเติบโตของบริษัทท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่คลุมเครือกว่า 3 ไตรมาสของปี  ส่งผลให้ผู้บริโภคก็ลังเลในการจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทำให้ยอดรับรู้รายได้ของ แกรนด์ ยู เติบโตขึ้น 10% น้อยกว่าที่ต้องการ ดังนั้น เพื่อให้บริษัทยังคงการเติบโตเพื่อเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในเรื่องคุณภาพและความเชื่อมั่นในระดับกลางบน ที่มียอดรับรู้รายได้ถึงระดับ 5 พันล้าน ปีนี้ แกรนด์ ยู จึงวางแผนการเติบโตขึ้น 40% จากการมียอดขายใหม่ 6,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 5,000 ล้านบาท โดยขณะนี้มีโครงการที่กำลังอยู่ในขั้นการตอนโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้น 4 โครงการ และรอโอนภายในไตรมาส 3 อีก 2 โครงการ ได้แก่ คอนโด ยู แคมปัส รังสิต-เมืองเอก และ ยู ดีไลท์ @ บางซ่อน สเตชั่น ซึ่งทุกโครงการล้วนอยู่ใน Concept สร้างเร็ว-คุณภาพดี ทั้งสิ้น

สำหรับแผนการขายในปีนี้ คาดว่าจะเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,500 – 4,000 ล้านบาท โดยโครงการแรกของปีนี้ ได้แก่ ยู ดีไลท์   รัชวิภา มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต ตรงข้ามวัดเสมียนนารี และสถานีรถไฟฟ้าวัดเสมียนนารีในอนาคต และไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน ในปัจจุบัน โดยโครงการนี้เกิดขึ้นจากการพยายามหาที่ดินในย่านวิภาวดีและพหลโยธิน เพื่อสร้างโครงการใหม่ขึ้นชดเชยกับ 2 โครงการที่ แกรนด์ ยู เคยเปิดขายไปเมื่อปี 2556 แต่ถูกยกเลิกไปเนื่องจากมีปัญหาความล่าช้าจากการขอความเห็นชอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทำให้ต้องคืนเงินแก่ลูกค้าที่จองซื้อไปทั้งหมด แต่ยังมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้าว่าต้องการคอนโดมิเนียมในย่านนั้นอยู่

โครงการ ยู ดีไลท์ รัชโยธิน ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ เป็นอาคารสูง 23 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 881 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้น 1 ห้องนอน 30 ตร.ม. – 2  ห้องนอน 66.5 ตร.ม.  โดยโครงการออกแบบภายใต้ Concept นิเวศวิทยาชุมชนเมือง (Urban Ecology) โดยมีการปลูกป่าพื้นถิ่น คัดสรรต้นไม้พื้นถิ่นอันทรงคุณค่าที่เคยเติบโตบนพื้นที่ย่านนี้ มาสร้างเป็นสวนป่าหน้าโครงการ และสร้างสวนผักส่วนกลาง เป็นสวน Organic พืชผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ เจริญเติบโตด้วยวิธีแบบธรรมชาติ ให้ลูกบ้านได้ร่วมกันดูแลและเก็บไปใช้ได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ลูกบ้านใช้จักรยาน โดยมีจุดจอดจักรยานขนาดใหญ่ ที่ปลอดภัย และออกแบบให้สวยงามเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลาง สร้างระบบแยกขยะเพื่อการ รีไซเคิลตามแนวคิด ‘คอนโดสร้างรายได้’ แยกขยะเพื่อขายและนำเงินเข้าสมทบส่วนกลางอีกด้วย โดยโครงการนี้คาดว่าจะได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับกระแสนิยมปัจจุบันที่ผู้คนหันกลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น

ปัจจุบันสถานะโครงการอยู่ระหว่างการยื่นขอ EIA และคาดว่าน่าจะเปิดขายอย่างเป็นทางการประมาณ มิ.ย. นี้ ราคาที่วางไว้เบื้องต้นประมาณ 2.4 ล้านบาท หรือ 80,000 บาท/ ตร.ม.