granada-featured-384p

รีวิวฉบับที่ 816 … สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผม Mr.Boom มีความยินดีม้ากกกก ที่จะได้เข้าไปรีวิวโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Ultimate มาให้ทุกคนได้ดูกัน เพราะโครงการแบบนี้นานๆๆๆๆที ถึงจะมีมาให้ทีมงานได้เข้าไปรีวิวกันซักครั้งนึง ที่ที่ผมจะพาไปดูวันนี้คือโครงการ GRANADA ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม บ้านหรูจาก SC Asset ครับ ซึ่งแบรนด์ Granada นี้เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ระดับท้อปสุดของซี่รี่ส์บ้านเดี่ยวจากเครือ SC เลย ตัวบ้านมีราคาค่าตัวสูงลิ่วอยู่ในระดับ 50-140 ล้านบาท และมีผู้ที่จะได้เป็นเจ้าของเพียงแค่ 36 ครอบครัวเท่านั้น แน่นอนว่าบ้านที่นี่จะต้องแตกต่างจากโครงการทั่วๆไปที่เราจะได้พบเห็นพบเจอกันแน่นอน แต่ภายในจะมีอะไรบ้าง และจะสมกับที่เป็นบ้านเดี่ยวที่แพงที่สุดของ SC รึเปล่า อ่านได้จากในรีวิวฉบับนี้เลยครับ

Fact @ 16 April 2015

  • Granada Pinklao-Phetkasem (กรานาด้า ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม)
  • SC Asset Corporation
  • Segment : Ultimate (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่บน: ถนนกาญจนาภิเษก เขตบางแค
  • เนื้อที่โครงการ 36-2-12.3 ไร่
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 36 หลัง
  • Grand Harold: ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 177 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 685 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน
  • Grand Alexander: ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 225 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 786 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน
  • ราคาเริ่มต้น 50 – 140 ล้านบาท
  • เริ่มก่อสร้าง: ปี 2558
  • ก่อสร้างแล้วเสร็จ: ปี 2560
  • www.scasset.com/house
  • Call Center: 1749
  • พิกัด: 13.724249, 100.405399

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.724421, 100.405589

granada maps 1

ที่ตั้งของโครงการ Granada จะอยู่บนถนนกาญจนาภิเษกครับ โดยจะอยู่ช่วงใกล้ๆกับจุดที่ถนนกาญจนาภิเษกตัดกับถนนเพชรเกษม ซึ่งบริเวณที่ถนนสองเส้นตัดกันตรงนี้ เป็นที่ตั้งของห้าง The Mall บางแค พอดี อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตรนิดๆ

การเดินทางในบริเวณนี้ ถึงแม้จะอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองชั้นในพอสมควร แต่ว่าใกล้ๆโครงการมีถนนใหญ่ให้เลือกใช้ได้หลายเส้น มีถนนเพชรเกษม, ถนนบรมราชชนนี, ถนนกัลปพฤกษ์ ที่ใช้วิ่งเข้าตัวเมืองได และตัวถนนกาญจนาภิเษกเองก็เป็นถนนเส้นหลักที่ใช้วิ่งบริเวณฝั่งตะวันตก-ฝั่งใต้ของกรุงเทพฯอยู่แล้ว ใช้วิ่งลงใต้ไปเชื่อมกับพระราม 2 ได้ หรือจะวิ่งขึ้นเหนือไปทางบางใหญ่/บางบัวทองก็ได้เหมือนกัน นอกจากนี้การออกต่างจังหวัดไปทางภาคตะวันตกหรือภาคใต้ก็ทำได้สะดวกมากด้วย

แต่ถึงอย่างไรนะครับ ก็ต้องบอกว่านี่เป็นทำเล “ฝั่งธน” ของกรุงเทพฯ คืออยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รถที่จะวิ่งเข้า-ออกเมืองทุกคันนั้นเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผ่านสะพานข้ามแม่น้ำ ไม่ว่าจะเป็น สะพานสาทร, สะพานปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8, สะพานซังฮี้, สะพานกรุงเทพ ฯลฯ ดังนั้น รถมันจะติดมากกก ในช่วงเวลาที่รถแห่กันมาวิ่งข้ามสะพานทั้งขาเข้าและขาออก แต่คนที่อยู่ฝั่งนี้ก็จะรู้กันดีอยู่แล้วว่าควรออกจากบ้านเวลาไหน กลับบ้านเวลาไหน รถถึงจะโล่ง ถ้าใครคิดจะย้ายมาอยู่ฝั่งนี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยละกันครับ เพราะอาจจะต้องปรับตัวให้ชินกับสภาพการจราจรที่ต้องข้ามสะพานทุกวัน แต่สำหรับคนที่ชีวิตประจำวันไม่ต้องขับรถข้ามสะพานไปอีกฝั่งนี่ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมากครับ เพราะจะเดินทางสะดวกกว่าม้ากก

Map GDPP

สำหรับความเจริญ และความอุดมสมบูรณ์ของทำเลบริเวณนี้ ในระยะเดินเท้านี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไรนัก เน้นการใช้รถเป็นหลัก ห้างที่ใกล้ที่สุดคงจะหนีไม่พ้น The Mall บางแค นะครับ อยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโล รวมระยะทางกลับรถ ตัวโครงการอยู่ใกล้สะพานกลับรถอยู่แล้ว ไปไม่ลำบาก ทำเลแถวๆนี้ส่วนใหญ่ก็จะมี Community Mall อยู่กระจายๆกันเป็นจุดๆ ใกล้สุดมี The Paseo ที่อยู่ฝั่งเดียวกันกับโครงการ ห่างออกไปประมาณ 4-5 กิโลเมตร ไกลกว่านั้นหน่อย ก็จะเป็นห้าง Seacon บางแค/HomePro/Big C บนถนนเพชรเกษมแถวๆพุทธมณฑลสาย 3 ครับ ห่างออกไปประมาณ 6-8 กม. ส่วนพวกที่เกิน 10 กม.ขึ้นไปก็จะเป็นพวก The Circle/The Crystal/The Walk บนถนนราชพฤกษ์ หรือไม่ก็ออกไปอีกเป็น เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ไปเลย ซึ่งก็จะอยู่ห่างไป 16-17 กม. แล้ว

granada maps 2

ตำแหน่งที่ดินของโครงการจะอยู่ตรงข้ามกับสถานีสูบจ่ายน้ำเพชรเกษม/ประปาภาษีเจริญครับ เยื้องๆกับหมู่บ้าน Royal Greenpark และที่ดินของโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่แบบนี้ โดยจะอยู่บนทางคู่ขนานก่อนถึงซอยกาญจนาภิเษก 7 (ทางออกคู่ขนานอยู่ก่อนถึงทางเข้าโครงการด้วย ไม่ต้องกลัวขับเลย) ถ้าขับรถเลยหน้าโครงการไปหน่อยประมาณ 400 ม. จะเจอสะพานกลับรถ เวลาออกจากบ้านเราสามารถขึ้นสะพาน U-Turn ไปทางเพชรเกษม/กัลปพฤกษ์ได้ทันที

Granada Location TOL-1

การเดินทางไปโครงการในครั้งนี้ ผมขับรถมาจากถนนบรมราชชนนีครับ วิ่งต่อมาเข้าเส้นกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าบางแค พอวิ่งมาเรื่อยๆ เราจะเจอป้ายทางออกถนนเพชรเกษมแบบนี้ครับ

Granada Location TOL-2

ให้เรายึดป้ายบางแค เหมือนจะไปทางเดอะมอลล์นั่นแหละครับ

Granada Location TOL-3

พอออกมาคู่ขนานแล้ว ก็ให้ยึดป้ายบางแคต่อไป วิ่งตรงไปเรื่อยๆ

Granada Location TOL-5

พอถึงตรงนี้ แล้วเราจะเจอจุดกลับรถอยู่ทางขวาครับ เขียนว่ากลับรถไปบางบัวทอง (ทางซ้ายจะวิ่งเข้าถนนเพชรเกษม ไปบางแค)

Granada Location TOL-6

เราก็กลับรถใต้สะพานแบบนี้

Granada Location TOL-7

กลับรถเสร็จแล้ว ก็ให้วิ่งคู่ขนานไปเรื่อยๆนะครับ ไม่ต้องเข้าทางหลัก

Granada Location TOL-8

เราจะเจอปั๊ม Caltex ก่อน ตรงนี้จะใช้แวะเติมน้ำมันก่อนกลับบ้านได้

Granada Location TOL-9

เสร็จแล้วจะเจอกับ ศูนย์รวมรถยนต์ PJ Car ซึ่งเป็นเต้นท์รถยนต์ขนาดใหญ่ หลากหลายยี่ห้อ หลายร้าน เป็นจุดสังเกต ก่อนที่จะถึงตัวโครงการ

Granada Location TOL-10

ก่อนถึงทางเข้าโครงการ จะเจอกับสะพานเล็กๆ คือสะพานข้ามคลองขี้แก้ง (แทบจะไม่รู้สึกว่าขับข้ามสะพาน เพราะตัวถนนกาญจนาภิเษกก็สูงกว่าระดับคลองเยอะแล้ว) แล้วพอเห็นสะพานลอยอันนี้ ก็จะเจอทางเข้าจะอยู่ก่อนถึงสะพานลอยนิดเดียวครับ

TRS_6222

ป้ายทางเข้าโครงการ ประดับด้วยน้ำพุเตี้ยๆ เล่นระดับ

TRS_6215

ทางเข้าโครงการะจะอยู่ทางด้านนี้ แต่เราจะยังไม่เข้าไปดูตอนนี้ครับ ไปเดินดูรอบๆกันก่อน

TRS_8325

ด้านหน้าโครงการมีสะพานลอยอยู่ด้วย ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่หลายๆคนมองข้ามนะครับ เพราะที่ตั้งโครงการไม่ได้อยู่บนถนนเส้นเล็กๆ แต่นี่คือถนนกาญจนาภิเษก ความกว้างของถนนร่วม 10-12 เลน การที่จะเดินข้ามไปโดยไม่มีสะพานลอยเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แล้วถามว่าใครจะใช้สะพานลอยอันนี้? โอเค คนที่อยู่บ้านระดับนี้คงจะมีรถขับ หรือมีคนขับรถกันหมดทุกคนนั่นแหละครับ แต่ว่าลองนึกถึงคุณแม่บ้าน หรือคนงาน, คนรับใช้ที่อยู่ในบ้านเราด้วย เค้าอาจจะไม่มีรถ เวลาเค้าเดินทางไปไหนมาไหน ก็ต้องพึ่งพาการเดิน พึ่งพาการเรียกแท็กซี่ ถ้าสามารถเดินข้ามสะพานไปเรียกฝั่งตรงข้ามได้ ไม่ต้องเสียเวลากลับรถ สะพานลอยนี้ก็จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีให้กับคนอยู่ได้นะครับ

TRS_8320

ข้างๆโครงการ ที่อยู่ติดถนนใหญ่เหมือนกัน ตรงนี้จะเป็นพวกตึกแถว ร้านขายของ

TRS_8324

ลักษณะของร้านค้าตึกแถวใกล้ๆก็ตามนี้ฮะ ป้ายใหญ่มาก คงไม่ต้องโฆษณาให้นะ ชุมชนแถวนี้ ก็จะทำการค้าในลักษณะตึกแถวขายของแนวนี้ซะเยอะ

TRS_8321

ถัดมาอีกหน่อยไม่ถึงร้อยเมตรจากโครงการจะมี 7-Eleven อยู่ด้วย สาขานี้ไม่ได้มีที่จอดรถเป็นกิจลักษณะขนาดนั้น แต่ก็พอจะจอดรถข้างทาง แล้วเดินลงไปซื้อของได้ หรือขี่จักรยาน/มอเตอร์ไซค์มาซื้อของก็ได้ เซเว่นสาขานี้ก็ถือว่าของเยอะใช้ได้นะครับ พอเอาตัวรอดได้

TRS_8323

ข้างๆเซเว่นจะมีทางเข้าหมู่บ้านตรีจุฑา 1 ซึ่งก็เป็นซอยสาธารณะแหละ ตรงปากซอยจะมีร้านอาหาร เจียงลูกชิ้นปลา อยู่ด้วย ตรงข้ามกับเซเว่น วันไหนขี้เกียจออกจากบ้านไกลๆ อยากจะนอนขี้เกียจอยู่บ้าน แต่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรกิน (ทุกคนมีวันแบบนี้ ผมเชื่อ) ก็ยังพอจะเดินออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวตรงนี้กลับไปกินได้นะ

นอกเหนือจากนี้ รอบๆโครงการก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้วครับ ก็เป็นพวกร้านค้า/ตึกแถวสำนักงาน แบบ Local หน่อย หรือไม่ก็เป็นบ้านพักอาศัยทั่วๆไป ถ้าอยากได้ดีกว่านี้ก็คงต้องขับรถเอานะครับ ส่วนตอนนี้เรากลับไปดูรายละเอียดภายในโครงการกันดีกว่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • The Mall บางแค
  • Seacon บางแค
  • Big C Extra / HomePro (เพชรเกษมขาเข้า)
  • Big C / Index / HomeWork (เพชรเกษมขาออก)
  • The Paseo
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค
  • โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า (เพชรเกษม)
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน
  • สำนักงานประปาภาษีเจริญ
  • สถานีสูบจ่ายน้ำเพชรเกษม


เจาะลึกตัวโครงการ

  • Granada ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม by SC Asset
  • เนื้อที่โครงการ 36-2-12.3 ไร่
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 36 หลัง
  • Grand Harold: ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 177 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 685 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน
  • Grand Alexander: ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 225 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 786 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 2 ห้องแม่บ้าน
  • ราคาเริ่มต้น 50 – 140 ล้านบาท

DJI_0005.Still002 copy

โครงการ Granada ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม นี้จะมีรูปแบบเป็นโครงการบ้านเดี่ยวจัดสรรครับ มีเนื้อที่ดินทั้งหมดประมาณ 36 ไร่ แบ่งแปลงบ้านทั้งหมด 36 ยูนิต ถือว่าเป็นจำนวนที่หลวมมาก เพราะเทียบเป็นสัดส่วนได้ประมาณ 1 ไร่ต่อ 1 ยูนิตเลยก็ว่าได้ ถามว่าจำนวนเท่านี้หนาแน่นน้อยแค่ไหน? ลองจินตนาการดูถึงโครงการบ้านเดี่ยวราคา 5-7 ล้านบาทที่มีที่ดินขนาดเท่าๆกันสิครับ เค้าน่าจะจัดได้เป็นหลัก 100-150 ยูนิตเลยแหละ แต่นี่ทำออกมาเป็นบ้านแค่ 36 แปลงเท่านั้น แต่ละแปลงเริ่มต้นที่ 177 ตารางวา ซึ่งนับว่าเป็นบ้านในหมู่บ้านจัดสรรที่มีขนาดใหญ่มากนะครับ เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวทั่วๆไปที่มีขนาดเริ่มต้นประมาณ 50-60 ตารางวา คือใหญ่กว่ากันเกือบ 4 เท่าหรือมากกว่า ถ้าเอาที่ดินเดียวกันมาซอยแบ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ ก็แบ่งขายทำกำไรได้ 3-4 แปลงเลย เป็นเหตุผลว่าทำไมบ้านของที่นี่ถึงได้ราคาสูงด้วย

granada master plan**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

แผนผัง Master Plan ของโครงการหน้าตาประมาณนี้ครับ ด้านหน้าโครงการ (ทิศตะวันออก) มีทางเข้า-ออกอยู่ทางฝั่งถนนกาญจนาภิเษก ถ้าดูจากในภาพจะเห็นว่า จะมีที่ดินส่วนท้ายๆของโครงการทางทิศเหนือ ที่อยู่ติดกับซอยกาญจนาภิเษก 7 ที่อยู่ข้างๆด้วย หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าตรงนี้จะมีทางเข้าอีกจุดหนึ่งหรือเปล่า ก็ตอบได้ว่าไม่มีนะครับ เพราะเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัยและการดูแลลูกบ้าน (แต่ช่วงแรกๆนี้ถ้าใครขับเข้าไปที่ Site ก่อสร้างของโครงการ เค้าจะเปิดให้รถวิ่งผ่านเข้ามาได้เพื่ออำนวยความสะดวกในการก่อสร้างและการรองรับลูกค้าที่เข้ามาชมโครงการ แต่ต่อไปก็จะก่อรั้วขึ้นมาปิดครับ) ส่วนทิศใต้และทิศตะวันตกของที่ดินโครงการจะอยู่ติดกับคลองบางขี้แก้งครับ ซึ่งก็เป็นลำรางระบายน้ำเล็กๆทั่วไป ไม่ได้ใช้คมนาคม จากที่ผมเข้าไปสำรวจมาก็ไม่ได้ส่งกลิ่นอะไรนะครับ ไม่น่าจะต้องกังวลไป

ปัจจุบัน ภายในโครงการตอนนี้มีบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วทั้งหมด 9 หลัง ด้านหน้าสุดที่อยู่ติดกับทางเข้าจะเป็น Club House และบริเวณตรงกลางโครงการจะเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะส่วนกลางของหมู่บ้าน ภายในโครงการมีรายละเอียดเยอะมาก เข้าไปดูกันเลยดีกว่า

TRS_8317

ทางเข้าด้านหน้าโครงการ ทำเป็นซุ้มประตูยาว แบ่งฝั่งทางเข้า-ทางออก ตามปกติ มีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง

TRS_8330

ลักษณะของประตูรั้วที่นี่จะไม่มีการใช้รั้วกั้นไม้กระดกนะครับเพราะมันพังทำลายง่าย ที่นี่จะใช้รั้วเหล็กเปิด-ปิดไฟฟ้าทั้งหมด รปภ.ที่นี่จะเข้มงวดมาก โดยจะมีการแลกบัตรผู้มาติดต่อ ระบุบ้านเลขที่ชัดเจน รวมถึงถามชื่อคนที่จะเข้าพบ และจะมีการยืนยันตัวตนกับเจ้าของบ้านก่อน ถ้าตรงกันถึงจะปล่อยให้ผ่านเข้าไปได้ บริเวณด้านหน้าก็จะมีการติดกล้อง CCTV ถ่ายหน้าคนขับรถ ถ่ายเลขทะเบียนรถด้วย มาตรฐานเดียวกับในห้างเลย

TRS_8329

ส่วนถ้าเป็นรถของลูกบ้าน รปภ.จะรู้ทันทีตั้งแต่ยังไม่ถาม เพราะว่าลูกบ้านจะมี Key Card ซึ่งเป็นระบบ RFID ตรวจจับสัญญาณจากระยะไกล เพียงแค่ลูกบ้านขับรถเข้ามาใกล้ ประตูรั้วก็จะเปิดเองอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเปิดกระจกยื่นมือออกมาแตะบัตรแต่อย่างใด ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็จะคล้ายๆกับ Easy Pass บนทางด่วนนั่นแหละครับ แล้วก็เริ่มมีให้เห็นในโครงการหมู่บ้านเกรดบนๆกันหลายที่แล้วเหมือนกัน

TRS_8334

เมื่อผ่านพ้นประตูรั้วชุดแรกเข้ามาแล้ว ก็จะเจอกับประตูรั้วชุดที่สอง ก่อนที่จะเข้าไปยังโซนบ้านพักอาศัยแบบนี้ ถ้าเจ้าของบ้านอนุญาตให้เข้าไปพบที่บ้านได้ รปภ.ถึงจะเปิดประตูชุดที่สองนี้ให้ แต่ถ้าเจ้าของบ้านให้มาพบที่สโมสรด้านหน้า ประตูนี้ก็จะยังปิดเอาไว้

TRS_8337

ระหว่างประตูรั้วที่ 1 กับ 2 จะเป็นจุดที่ตั้งของอาคารสโมสรของหมู่บ้าน หลักๆแล้วก็คือเป็นที่ทำงานของนิติบุคคลของหมู่บ้าน และเป็นสถานที่สำหรับใช้ต้อนรับแขกได้ด้วย ซึ่งจะแยกออกมาจากโซนบ้านพักอาศัย เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน

TRS_8339

ด้านข้างสโมสรจะมีจุด Drop-Off และที่จอดรถอีกจำนวนหนึ่ง ให้สำหรับผู้มาติดต่อ รวมถึงมีรถกอล์ฟประจำที่เอาไว้คอยให้บริการ

TRS_8341

ด้านหน้าสโมสรจะมีน้ำพุเล็กๆ และจัดสวนเป็นไม้พุ่มเตี้ยๆเอาไว้เป็นการตกแต่ง

TRS_8343

ปัจจุบันตัวสโมสรจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายของโครงการด้วย เราเข้าไปดูข้างในกัน

TRS_8346

เข้ามาปุ๊บ จะเจอกับโถงต้อนรับด้านหน้าก่อน มีโต๊ะ Reception และโซฟารับแขกวางไว้หนึ่งชุด สำหรับพนักงานต้อนรับ และให้แขกนั่งรอซักพัก ก่อนที่จะเข้าไปด้านใน

TRS_8349

ตัวอาคารนี้จะยกเพดานขึ้นสูงแบบ Double Volume ครอบคลุมพื้นที่ส่วนด้านหน้าทั้งหมด เพื่อความโอ่อ่า หรูหรา เป็นหน้าเป็นตาของเจ้าบ้าน เวลามารับแขกตรงนี้ ส่วนพื้นที่ชั้น 2 จะมีแค่ประมาณครึ่งเดียวของพื้นที่ตึกเท่านั้นเอง ใช้เป็นห้องทำงานของนิติบุคคล (ส่วนปัจจุบันเป็นห้องของพนักงานขาย)

TRS_8352

ถัดจากส่วนโถงต้อนรับ เข้ามาด้านในก็จะเป็น Lounge ขนาดใหญ่ที่วางอยู่ด้านใน วางชุดโต๊ะ-เก้าอี้เอาไว้หลายชุด กระจายๆกันอยู่ เพื่อรองรับการใช้งานได้หลายๆกลุ่มพร้อมกัน

TRS_8353

พื้นที่ต้อนรับแขกที่สโมสรนี้ เอาเข้าจริงๆแล้วก็อาจจะไม่ได้ใช้บ่อยนะครับ เพราะคนที่อยู่ที่นี่ส่วนใหญ่ก็คงอยากจะนัดแขกที่มาพบให้เข้าไปเจอที่บ้านเลยมากกว่า (อย่างน้อยๆก็คงอยากจะอวดโฉมบ้านของตัวเองด้วยแหละ) แต่ก็ต้องถือว่าโครงการลงทุนตกแต่งพื้นที่ตรงนี้ให้แล้วก็ทำออกมาได้ดี น่าใช้เลยทีเดียว นอกจากจะใช้เป็นที่รับแขกได้แล้ว ในอนาคตเมื่อมีลูกบ้านเข้าอยู่กันครบ ก็น่าจะกลายเป็นที่ประชุมของลูกบ้านไปโดยปริยายด้วย หรืออาจจะใช้จัดงาน จัดกิจกรรมบางอย่าง ที่ลูกบ้านและนิติบุคคลอยากจะร่วมกันจัดก็ได้

TRS_8357

ออกจากสโมสร เดินผ่านประตูรั้วชุดที่ 2 เข้ามาแล้ว โซนนี้ก็จะเป็นโซนของลูกบ้านแล้วครับ ถนนภายในโครงการที่เป็นถนนหลัก จะกว้าง 16 เมตร ครับ แล้วจะค่อยๆลดลงเหลือ 12 เมตร และ 9 เมตรตามลำดับ

TRS_8359

ความกว้างของถนนในหมู่บ้านแพงๆแบบนี้ก็ถือเป็นประเด็นที่สำคัญนะครับ เพราะคนซื้อบ้านระดับนี้ ก็ชอบชวนเพื่อนฝูง ญาติมิตรมาที่บ้าน ลำพังที่จอดรถในบ้านจอดรถของเจ้าของบ้านอย่างเดียวก็คงจะเต็มหมดแล้ว คนอื่นๆก็คงต้องจอดรถบนถนนด้านนอก ถ้าถนนกว้าง 12-16 เมตรนี่แปลว่า สามารถจอดรถได้สองฝั่งของถนน แล้วยังมีพื้นที่เหลือพอให้ตรงกลางรถสามารถวิ่งสวนกันได้สบายๆครับ แต่ถ้าถนนซอยที่กว้าง 9 เมตร ก็อาจจะจอดได้แค่ด้านเดียวของถนน

TRS_8360

ที่นี่นอกจากเรื่องถนนแล้ว ยังมีเรื่องของ “ทางเท้า” ด้วยนะครับ ที่เค้าให้ความสำคัญ เพราะทางเท้าของที่นี่กว้างมาก โดยปกติ จะทำไว้แค่ให้ได้ระยะตามที่กฎหมายกำหนด เอาแค่พอมีทางเดิน แค่นั้น แต่ที่นี่เค้าจะทำทางเท้าให้กว้างกว่าปกติ อย่างน้อยๆก็ประมาณ 2 เมตรได้ เพื่อลงต้นไม้ใหญ่บนทางเท้าด้วย เพื่อที่จะให้ต้นไม้เหล่านี้เติบโตเป็นร่มเงาให้กับลูกบ้านต่อไปในอนาคต

TRS_8361

หน้าบ้านบางบ้าน จะมีระยะ Set Back ไกลมาก อย่างแปลงนี้ประมาณ 4-5 เมตรเลย นี่ใช้สำหรับทำทางเท้า และปลูกต้นไม้ล้วนๆเลยนะ ความจริงทางโครงการจะร่นระยะรั้วบ้านเข้ามาอีกก็ได้ เพื่อเพิ่มขนาดที่ดินให้กับตัวบ้าน ให้บ้านมีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วเอาต้นไม้ใหญ่ไปอยู่ในบ้านก็ได้ แต่เค้าไม่ทำ ส่วนหนึ่งเพราะว่า พื้นที่ทางเท้านี้จะได้เป็นทรัพย์ส่วนกลางให้กับลูกบ้านทุกคน ถ้าเอาต้นไม้ไปไว้ในบ้านก็ไม่แน่ว่าต่อไปเจ้าของบ้านจะยังดูแลมันอยู่รึเปล่า

TRS_8364

แนวรั้วบ้านจะถูกร่นเข้ามาแบบนี้ มีประตูสำหรับนคนเดินเข้าออกตรงนี้ สังเกตว่าแนวรั้วบ้านทุกหลัง จะมีการปลูกไม้พุ่มขึ้นมาทับแนวรั้วเหล็กอีกทีหนึ่ง เพื่อให้รั้วบ้านดูเนียนตา กลืนไปกับบริเวณสวนที่อยู่ด้านหน้า และเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านด้วย

TRS_8371

บริเวณทางเท้าจะมีไฟส่องถนนตั้งอยู่เป็นระยะ สำหรับให้แสงสว่างในเวลากลางคืน

TRS_8373

ไฟส่องถนนจะมีทั้งแบบสูงและแบบเตี้ยนะครับ วางสลับกันไป แต่จะเห็นว่าที่นี่ไม่มีเสาไฟฟ้า เพราะว่าเค้าเดินระบบสายไฟฟ้าไว้ใต้ดินทั้งหมดแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ทั้งโครงการดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นเยอะ

TRS_8377

กล้องวงจรปิด วางอยู่กระจายๆกัน ทั่วทั้งโครงการ โดยเฉพาะบริเวณหัวมุมถนน แยกต่างๆ นอกจากนี้ก็มีภายในบ้านด้วย

TRS_8456

จากบริเวณหน้าโครงการเข้ามาหน่อย จะเจอกับวงเวียนแบบนี้อยู่ตรงกลางถนน ก่อนที่จะแบ่งไปเป็นซอยย่อยด้านข้าง ตรงกลางวงเวียนลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้อีกหนึ่งต้น เพื่อความร่มรื่น

TRS_8459

ด้านหนึ่งของวงเวียนเค้าจะทำเป็นพื้นที่สวนสาธารณะเล็กๆ คั่นระหว่างแปลงบ้านเอาไว้ ไม่ให้บ้านสองหลังซ้าย-ขวามาอยู่ประชิดกัน

TRS_8385

พื้นที่สวนตรงนี้ไม่ได้ใหญ่มาก จัดเป็นลานน้ำพุ ให้ลูกบ้านมาเดินเล่น ผ่อนคลายได้

TRS_8412

พอเดินต่อเข้ามาอีกหน่อย ตรงนี้ถนนจะค่อยๆแคบลงเหลือ 12 เมตรละ

TRS_8418

โซนนี้จะเป็นโซนที่อยู่บริเวณใจกลางของตัวหมู่บ้านเลย เป็นโซนสวนสาธารณะ ที่โครงการเรียกว่า “Majestica Park” ที่ต้องมีชื่อเรียก เพราะว่าที่นี่สวนหย่อมเยอะเหลือเกิน มีกระจายหลายจุดมาก ถ้าเรียกสวน Majestica ก็คือเข้าใจตรงกันว่าหมายถึงสวนที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ตรงกลาง (แหม่)

TRS_8420

บริเวณด้านหน้าสุดของสวนจะเป็นลานน้ำพุขนาดใหญ่ เล่นระดับเป็นขั้นบันได ด้านในสุดจะมีศาลา มีพื้นที่นั่งเล่นชมสวนอยู่ด้านใน

TRS_8422

ตรงศาลานี้จะเป็นพื้นที่แบบกึ่ง Indoor จัดวางชุดมานั่ง-โต๊ะกาแฟเอาไว้ สำหรับมานั่งเล่นพักผ่อนตรงนี้ได้ แบบไม่โดนแดด

TRS_8452

บริเวณด้านหน้าของสวนมีการตกแต่งด้วยโคมไฟแบบนี้ เพื่อเพิ่มความสวยงาม และให้แสงสว่างในยามค่ำคืน

TRS_8423

ถัดจากบริเวณศาลาตรงกลาง เข้ามาจะมีทางเดินเชื่อมยังส่วนที่เป็นสวนอีกโซนหนึ่ง ตัวทางเดินจะวางคู่ขนานไปกับธารน้ำเล็กๆ ปลูกดอกหญ้าริมทางเอาไว้ เพื่อสร้างบรรยากาศอีกแบบที่หายากในหมู่บ้านลักษณะนี้

TRS_8424

มีการประดับพื้นที่สวนด้วย Art Object ขนาดใหญ่ด้วย เพื่อเพิ่มความ Grand ให้กับสวน

TRS_8449

พื้นที่สวนตรงนี้จะมีการวางต้นไม้ใหญ่เอาไว้ตลอดทาง ตอนนี้ต้นไม้พึ่งลง อาจจะยังไม่ร่มรื่นเท่าไหร่ แต่ไปอีกซักพักน่าจะให้ร่มเงาได้ สวนจะได้น่าใช้งานมากขึ้น

TRS_8425

ระหว่างทางเดินตรงนี้ จะมีแท่นสำหรับตั้งศาลพระภูมิด้วย ในอนาคตคงจะมีการทำพิธีตั้งศาลกันเป็นกิจลักษณะอีกที

TRS_8426

จากบริเวณศาลพระภูมิ จะมีทางเดินเชื่อมเข้าไปยังโซนสวนด้านใน ซึ่งเค้าจัดออกมาเป็นสไตล์ยุโรปเลย เราเดินเข้าไปดูด้านในกัน

TRS_8431

เข้ามาข้างในปุ๊บจะเจอกับสะพานข้ามลำธารที่เราเดินเลียบมาวางอยู่ตรงนี้

TRS_8432

เราสามารถมาเดินเล่น ชมวิวจากสะพานได้

TRS_8441

พอเดินเข้ามาถึงด้านในสุดก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีโดมตั้งอยู่ด้านใน ตรงนี้จะไม่ได้ใส่หลังคาเอาไว้นะครับ เพราะเค้าต้องการให้แสงแดดส่องลงมากระทบ แล้วเกิดเป็นเงาที่มีลวดลายลงไปบนพื้น อย่างที่เห็นในภาพแบบนี้ (แต่ก็จะร้อนน่าดูเลยครับ ต้องแลกเอาว่าจะเอาสวย หรือจะเอาสบาย)

TRS_8444

พื้นที่สวนยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ดูสวยงามก็จริง แต่ว่าการดูแลรักษาก็ต้องถึงด้วยนะครับ ซึ่งมันก็จะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลพอสมควร ถ้าในอนาคตปล่อยให้ต้นไม้ตาย ปล่อยให้น้ำเสีย พื้นที่ตรงนี้จะไม่น่าใช้เลย ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกบ้านในอนาคตแล้วนะครับ ^^

TRS_8390

จบจากสวนสาธารณะส่วนกลางแล้ว ทีนี้เราจะเข้าไปดูโซนที่เป็นซอยย่อย ก่อนที่จะเข้าไปยังตัวบ้านนะครับ ซอยย่อยพวกนี้จะมีความกว้างประมาณ 9 เมตรนะครับ แต่ความรู้สึกจะดูเหมือนกว้างกว่า 9 เมตรของหมู่บ้านทั่วๆไป เพราะอย่าลืมว่าที่นี่เค้ามีระยะร่นสำหรับทางเท้าที่กว้างกว่าที่อื่นด้วย ความรู้สึกมันก็จะแตกต่างครับ

TRS_8393

บริเวณซอยย่อพวกนี้ จะมาทางเชื่อมเข้าไปยังส่วนของหลังบ้านแต่ละหลังด้วย เพราะว่า …

TRS_8394

แปลงบ้านของที่นี่ ที่เป็นบ้านโซนที่อยู่ด้านหน้า เค้าจะไม่เอาหลังบ้านมาอยู่ประชิดกันครับ โดยจะมีการทำสวน Strip Garden คั่นระหว่างกัน ความกว้างของสวนประมาณ 3-4 เมตร การทำเช่นนี้เพื่อให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านแต่ละหลัง จะเห็นว่ามีการปลูกต้นไม้เพื่อบังสายตากันด้วย และตรงนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางนะครับ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่สวนตรงนี้จะยังเป็นแบบนี้ต่อไป เพราะถ้ากลายเป็นพื้นที่ภายในบ้านแล้ว ลูกบ้านอาจจะแอบต่อเติมอะไรเพิ่มก็ได้

TRS_8400

บริเวณตรงนี้จะมีประตูทางเข้า-ออกเล็กๆหลังบ้านด้วย สำหรับเปิดออกมาที่สวนหลังบ้าน

TRS_8395

บริเวณสวน Strip Garden ตรงนี้ก็จะมีทั้งไม้พุ่มเตี้ยๆ และไม้ยืนต้น มีทำทางเดินเอาไว้ และมีการเล่นระดับของ Landscape ให้เป็นเนิน มีส่วนเว้าส่วนโค้ง เพื่อความสวยงาม

TRS_8401

เดินมาจนถึงสามแยกด้านในสุดของซอย

TRS_8402

ตรงนี้จะมีกล้องวงจรปิด ตั้งอยู่ที่สามแยกพอดีเลย มี 3 ตัว ส่องรอบด้านเลย

TRS_8406

บ้านในซอยด้านในสุดตรงนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวมาก เพราะหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามไม่ติดกับใครเลย มีบ้านแค่ด้านเดียวของถนน ลักษณะของบ้านที่นี่ เค้าจะพยายามทำให้บ้านมีลักษณะเป็นบ้านแปลงมุมเกือบทั้งหมด มีการเว้นระยะห่างแต่ละบ้านอย่างตั้งใจ

TRS_8410

ส่วนรั้วรอบๆโครงการจะเป็นรั้วทึบสูง 3 เมตร แล้วต่อระแนงไม้เป็นรั้วโปร่งขึ้นไปอีกประมาณ 1.50 เมตร รวมเป็น 4.50 เมตรครับ

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สโมสรด้านหน้าโครงการ พร้อม Lounge ต้อนรับ
  • สระว่ายน้ำภายในบ้านทุกหลัง
  • สวนสาธารณะภายในโครงการ
  • สวนหย่อม Strip Garden กั้นระหว่างแปลงบ้าน
  • ถนนหลักกว้าง 16 ม. ถนนรองกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร
  • วางระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดิน
  • ระบบ CCTV รอบโครงการ และภายในบ้าน หลังละ 3 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3.00 เมตรและรั้วระแนงบังสายตาต่อเพิ่ม 1.50 เมตร
  • Key Card Access ระยะไกลแบบ RFID
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน (Double Gate Security)
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง

 


Product Walkthrough

แบบบ้านของที่นี่จะมี 2 แบบด้วยกัน คือ หลังเล็ก Grand Harold ขนาด 685 ตารางเมตร และหลังใหญ่ Grand Alexander ขนาด 786 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นส่วนใหญ่ใกล้เคียงกัน แต่จะมีบางส่วนที่แตกต่างนะครับ

Granada House Plans-3

แบบแรก Grand Harold จะเป็นบ้าน 2 ชั้น ขนาด 685 ตารางเมตร ที่ดินขนาดเริ่มต้น 177 ตารางวา ฟังก์ชั่นเป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 2 ห้อง Living 2 ห้องแม่บ้าน มีครัวไทยแยกส่วน และมีสระว่ายน้ำในตัว

เริ่มตั้งแต่ด้านหน้าสุด ที่จอดรถของตัวบ้านจะเป็นส่วนแยกจากตัวบ้าน สามารถจอดรถคันใหญ่ๆในร่มได้ 3 คันสบายๆ และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับจอดเพิ่มได้อีก 3-4 คันด้านหน้า รวมๆแล้วสามารถจอดรถได้ถึง 7 คันแบบซ้อนๆกันได้เลย แต่ถ้าจะเอาแบบ เข้า-ออกสะดวกหน่อย แบบไม่ต้องเลื่อนรถหลายรอบเวลาจะเข้าจะออก ก็จอดประมาณ 5 คันพอ

ภายในบ้านชั้นล่างจะแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็นส่วน Living & Dining ฝั่งหนึ่ง และส่วน Maid & Kitchen อีกฝั่งหนึ่ง โดยที่นี่จะมี 2 Living Room เพื่อแยกส่วนรับแขกกับส่วนที่สมาชิกในบ้านใช้นั่งเล่นดูทีวีออกจากกัน, ส่วน Living จะเชื่อมต่อออกไปยังสระว่ายน้ำด้านนอกได้ เพื่อให้สามารถใช้งานเชื่อมกันได้, ส่วนห้องรับประทานอาหารจะเป็นจุดศูนย์กลางหลัก อยู่ตรงกลางของบ้าน เชื่อมมาจากห้อง Living และต่อออกไปยังส่วนครัวที่อยู่ด้านหลัง, ครัวของที่นี่จะแบ่งครัวไทย-ครัวฝรั่งออกจากกัน มีครัวไทยอยู่หลังบ้าน ต่อกับโซนแม่บ้าน และลานซักล้าง โดยที่ห้องแม่บ้านจะมีมาให้ 2 ห้องแยกกัน เผื่อกรณีเป็นห้องคนขับรถห้องหนึ่ง ห้องแม่บ้านห้องหนึ่ง สามารถแยกกันนอนได้,​ และสุดท้ายคือที่ชั้นล่างจะมีห้องนอนเตรียมไว้หนึ่งห้อง ที่อยู่ติดกับห้องรับประทานอาหาร ซึ่งอาจจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขกก็ได้ หรือสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ มีห้องน้ำในตัว

Granada House Plans-4

ส่วนชั้น 2 ของบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอนเกือบทั้งหมด หลังเล็กจะมีห้องนอนชั้นล่าง 1 ห้อง และชั้นบน 3 ห้อง รวมเป็น 4 ห้อง ห้องนอนชั้นบนทุกห้องจะมีห้องน้ำและห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet เป็นของตัวเองทุกห้อง และแต่ละห้องจะมีมุมเป็นที่เป็นเหมือนส่วน Living Area ภายในห้องนอนด้วย

ตรงโถงบริเวณชั้นสองจะมี Family Room ซึ่งเป็นเหมือน Common Area ที่สมาชิกแต่ละคน สามารถมาใช้ร่วมกันตรงกลางได้ แต่ยังอยู่บริเวณชั้น 2 อยู่ ไม่ได้ลงไปรบกวนคนที่อยู่ข้างล่าง

สุดท้ายคือห้อง Master Bedroom ที่จัดฟังก์ชั่นมาสมบูรณ์มาก เรียกว่าจบในตัวเลย เพราะภายใน Master Bedroom จะมีส่วน Living Area, Walk-in Closet ที่สามารถกั้นออกเป็นห้องต่างๆได้ รวมถึงตัวห้องนอนก็สามารถกั้นแยกออกไปต่างหากได้ด้วย และจะมีห้องน้ำที่สมบูรณ์กว่าห้องอื่นๆ คือมีอ่างอาบน้ำแบบ Jacuzzi ให้ในตัวอีก

TRS_8463

ตัวบ้าน Grand Harold จะหน้าตาแบบนี้ครับ อันนี้เป้นบ้านตัวอย่างที่เค้าแต่งให้ดู เลยจะยังไม่ได้ใส่ประตูรั้วนะครับ

TRS_8466

พื้นที่ที่จอดรถ และประตูทางเข้าหลักของบ้าน

TRS_8468

ตรงกลางด้านหน้าบ้าน มีพื้นที่พอให้สามารถใส่น้ำพุแบบนี้เข้าไปได้ เพื่อเพิ่มความอลังการของสวนหน้าบ้าน

แต่ไหนๆเรามารีวิวที่นี่กันทั้งที ผมจะไม่ได้พาไปดูหลังเล็กนะครับ แต่จะพาไปดูหลังใหญ่เลย นั่นก็คือ Grand Alexander ซึ่งจะเป็นบ้าน 2 ชั้นเหมือนกัน มีพื้นที่ใช้สอย 786 ตารางเมตร บนที่ดินขนาดเริ่มต้น 225 ตารางวา ซึ่งถ้าเทียบกันกับหลังเล็กแล้ว จะได้ที่ดินเพิ่มมาอีกประมาณเกือบๆ 50 ตารางวา แล้วได้พื้นที่ใช้สอยในบ้านเพิ่มมาอีกประมาณ 100 ตารางเมตรครับ

ฟังก์ชั่นของบ้านหลังใหญ่ จะเป็น 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 3 จอดรถ 1 ห้องรับรอง กล่าวคือ หลังเล็กมีอะไรเอามาให้หมดทุกอย่าง แต่จะเพิ่มอะไรบ้างเรามาดูกันทีละชั้น

ชั้นล่างของหลังใหญ่นี้ หลักๆแล้วพื้นที่จะเหมือนกับหลังเล็กเลย ทั้งส่วนห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ส่วนแม่บ้าน เรียกว่าใกล้เคียงกันมาก แต่จะมีส่วนที่แตกต่างคือ สระว่ายน้ำของหลังใหญ่จะเพิ่มอ่าง Jacuzzi มาให้ด้วย, ติดกับสระว่ายน้ำจะมีห้องที่เพิ่มเข้ามาที่เขียนในแปลนบ้านว่า Living Room 3 ซึ่งก็คือส่วนของเรือนรับรองที่เพิ่มเข้ามานั่นเอง มีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ, ส่วนห้องนอนชั้นล่างจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีส่วน Walk-in Closet เพิ่มมาให้, และสุดท้ายคือ ลิฟท์! ที่อยู่ภายในบ้าน ที่จะมีให้เฉพาะหลังใหญ่เท่านั้น ซึ่งหลักๆแล้วลิฟท์นี้จะใช้สำหรับผู้สูงอายุ ที่อาจจะขึ้นบันไดลำบาก หรือต้องมีรถเข็น เป็นต้น

Granada House Plans-2

ส่วนที่ชั้น 2 ของบ้านหลังใหญ่นี้ ฟังก์ชั่นหลักๆ ก็จะเหมือนกับหลังเล็กแหละครับ แต่จะมีห้องนอนที่เพิ่มมาให้อีกหนึ่งห้อง มีห้องน้ำในตัว เป็นห้องนอนที่มีระเบียงรับวิวสระว่ายน้ำของบ้าน, ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆของห้องนอนที่เหลือ รวมถึง Family Room ก็จะเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงครับ

TRS_8472

บ้าน Grand Alexander จะหน้าตาใกล้เคียงกับ Grand Harold เลยนะครับ ดูแต่ด้านหน้านี่แยกไม่ค่อยออก เพราะว่าจริงๆแล้วส่วนที่เพิ่มเข้ามาคือมันขยายออกด้านข้างมากกว่า

TRS_8414

ประตูรั้วของบ้าน ในบ้านตัวอย่างไม่ได้ใส่ไว้ ผมเลยไปถ่ายมาจากบ้านจริงที่เค้าขายมาให้ดูกันนะครับ เวลาปิดประตูบ้านจะเป็นแบบนี้ จะสังเกตว่ามีระยะร่นจากถนนเข้ามาที่ตัวบ้านเยอะพอสมควรเลย

TRS_8416

ประตูรั้วก็จะเป็นแบบ เปิด-ปิดไฟฟ้านะครับ ควบคุมด้วยรีโมท

TRS_8491

พื้นหน้าบ้าน จะปูด้วยสแตมป์คอนกรีต ทำเป็นลวดลายเรียบๆแบบนี้ครับ มีการเว้นระยะเป็นช่วงๆ เพื่อรองรับการขยาย การหดตัวของวัสดุพื้น ไม่ให้เกิดรอยร้าว และโรยหินเอาไว้ระหว่างรอยต่อ

TRS_8521

ลานจอดรถของตัวบ้าน จะแอบอยู่ด้านข้างแบบนี้ สามารถจอดรถได้ 3 คัน จอดคันใหญ่ๆได้สบายๆ ถ้าไม่พอก็จอดซ้อนข้างหน้าได้อีก

TRS_8492

ตัวลานจอดรถจะยกสูงกว่าพื้นที่ดินนิดหน่อย มีการปรับ Slope ให้เรียบร้อย

TRS_8523

ภายในผนังของโรงรถจะมีห้องเก็บของเล็กๆด้วย สำหรับเก็บพวกอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับงาน Outdoor เช่น อุปกรณ์ล้างรถ เครื่องมือจัดสวน

TRS_8536

ถ้าเก็บไม่พอ อีกด้านหนึ่งของผนังก็จะมีห้องเก็บของมาให้อีกชุดหนึ่ง

TRS_8529

หลอดไฟในโรงรถ รวมถึงในตัวบ้าน เป็นหลอดแบบ LED ทั้งหมดนะครับ ติดมาให้เรียบร้อย

TRS_8533

ที่ฝ้าเพดานของโรงรถ จะติดอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือ Motion Sensor มาให้ด้วยครับ เวลาเราขับรถเข้ามาในบ้าน ไฟในโรงรถจะติดขึ้นเองอัตโนมัติ

TRS_8534

ภายในบ้านติดกล้องวงจรปิด CCTV เอาไว้ให้เรียบร้อย และมีอยู่ในส่วนอื่นของบ้านอีกทั้งหมด 3 จุด

TRS_8537

ก็อกน้ำสำหรับเสียบสายยางล้างรถก็เตรียมไว้ให้แล้ว

TRS_8525

จากส่วนของโรงรถ เดินออกไปด้านข้างบ้าน บริเวณรั้ว จะมีทางเชื่อมออกไปยังจุดทิ้งขยะหน้าบ้านได้

TRS_8527

ซึ่งบริเวณเดียวกันนี้ จะเป็นจุดที่เค้าเดินสายไฟฟ้า จากใต้ดิน ขึ้นมาภายในบ้านด้วย สามารถมาเปิดช่องตรงนี้เพื่อ Maintenance ได้

TRS_8528

จุดทิ้งขยะ จะเป็นช่องแบบนี้ มีหน้าบ้าน Aluminium ปิดมิดชิด ไม่ต้องกลัวหนู แมลง หรือสัตว์เลี้ยงคลานจะเข้าไปนะครับ สามารถล็อคจากภายในได้

TRS_8363

ตัวถังขยะ, ตู้ไฟ และตู้จดหมาย จะเชื่อมออกมายังบริเวณรั้วหน้าบ้านแบบนี้ได้ครับ ซึ่งสามารถเปิดได้จากบริเวณนอกบ้าน ไม่ต้องเข้าไปในตัวบ้านด้วยครับ

TRS_8483

ทางเข้ารองของบ้าน จะอยู่ติดกับส่วนลานจอดรถแบบนี้ ตรงนี้จะเปิดเข้าไปเจอกับห้องรับประทานอาหารครับ

TRS_8484

Step บันไดทางขึ้น ปูด้วยหินอ่อน

TRS_8486

ด้านข้างตรงนี้ จะมีส่วนที่เป็นเฉลียงหน้าบ้าน ที่เรียกว่า Foyer เป็นพื้นที่ที่ถูกยกระดับขึ้นมาจากพื้นหน้าบ้าน แต่ยังไม่ได้เข้าไปในตัวบ้านครับ และจะมีชายคาอยู่ด้านบนสำหรับกันแดด กันฝน

TRS_8488

พื้นที่ตรงนี้เราสามารถตั้งโต๊ะน้ำชา ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น อ่านหนังสือพิมพ์ จิบกาแฟตอนเช้า ตอนที่แดดไม่ร้อนมาก ยังอยู่ในร่มเงาของบ้านอยู่ เป็นส่วนที่ออกมาใช้นั่งผ่อนคลายได้

TRS_8539

บริเวณหน้าบ้านตรงนี้ เค้าจะติดโคมไฟแบบนี้มาให้ด้วย และบริเวณผนังภายนอกบ้านส่วนนี้จะตกแต่งด้วยหินประดับ เพื่อเพิ่ม Texture ให้กับผนังบ้านด้วยครับ

TRS_8474

ต่อมาเรามาดูส่วนทางเข้าหลักของบ้านบ้าง ซึ่งจะอยู่อีกด้านหนึ่ง

TRS_8477

พื้นที่ด้านหน้าทางเข้า จะมีการปูกระเบื้องเอาไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นทางเดินเชื่อมจากตัวบ้าน ไปยังสวนที่อยู่ด้านข้าง

TRS_8242

ที่พื้นตรงนี้จะมีการฝังหลอดไฟ LED เอาไว้ด้วย เป็นการจัดแสงให้เกิดเป็น Lighting Effect ในเวลากลางคืน

TRS_8498

ทางเดินจากหน้าบ้าน จะเชื่อมไปยังสวนที่อยู่ด้านข้างของตัวบ้าน

TRS_8500

บ้านทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำในตัวอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าที่คลับเฮาส์นั้นไม่ได้มีสระว่ายน้ำมาให้ ซึ่งก็จะมีทั้งข้อดีข้อเสียนะครับ ข้อดีคือ บ้านแต่ละหลังก็จะได้จะได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้สระว่ายน้ำ ไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่น ว่ายได้ไม่ต้องอายใคร สบายใจ จะชวนเพื่อนมา Pool Party ที่บ้านก็ทำได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนใครรึเปล่า

TRS_8502

แต่ข้อเสียของการมีสระว่ายน้ำในบ้านก็คือ ตัวสระว่ายน้ำมันก็จะมีขนาดที่จำกัด อย่างที่นี่ขนาดมันจะแค่ประมาณ 4×8 ตารางเมตรเท่านั้นเอง (ไม่นับส่วน Jacuzzi) การที่จะว่ายน้ำแบบออกกำลังกายจริงจังอาจจะทำไม่ได้ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ แต่ละบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสระว่ายน้ำของตนเองนะครับ จะได้ใช้ ไม่ได้ใช้ก็อีกเรื่องหนึ่ง

TRS_8517

ตัวสระว่ายน้ำของบ้านหลังใหญ่จะพิเศษกว่าหลังเล็กตรงที่จะมี Jacuzzi มาให้ด้วยนะครับ แล้วบันไดสำหรับเดินลงสระน้ำ ก็จะไม่ใช่บันไดราวเหล็กแบบปกติที่เค้าใช้กันตามสระน้ำทั่วๆไปนะครับ แต่จะเป็นบันไดแบบก่อปูน ปูกระเบื้อง ให้สามารถเดินลงสระได้ง่ายๆ

TRS_8504

พื้นที่สวนข้างบ้าน ถึงแม้จะใส่สระว่ายน้ำลงไปแล้ว ก็ยังพอมีเหลือให้ทำอะไรได้อีกนะครับ จะทิ้งไว้เป็นพื้นที่จัดสวนแบบนี้ก็ได หรือถ้าบ้านไหนมีเด็ก จะไปซื้อเครื่องเล่นเด็ก มาให้เด็กปีนป่ายเล่นก็ได้นะ

TRS_8505

รั้วบ้าน อย่างที่ได้อธิบายไปตอนแรก คือเค้าจะปลูกต้นไม้มาคลุมรั้วเหล็กเอาไว้อีกทีนะครับ เพื่อให้ดูเนียนตา กลืนไปกับพื้นที่สวนของบ้านเลย

TRS_8508

ข้างๆบ้านตรงนี้ มีทางเดินเล็กๆ เชื่อมจากตัวบ้าน ออกมายังศาลาที่อยู่ด้านข้างด้วย

TRS_8511

ศาลาตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น ชมสวน กรณีที่เราอยากจะออกมาผ่อนคลาย รับแสงแดด รับลมบ้าง ซึ่งอันนี้ตัวบ้านจริงๆเค้าไม่ได้ทำเอาไว้ให้นะครับ แต่ทำให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ ใครที่ชอบพื้นที่แบบนี้ก็สามารถทำตามได้ ถ้าที่ดินภายในบ้านมีเหลือเพียงพอ

TRS_8513

มุมเล็กๆตรงนี้เราอาจจะใช้เป็นมุมออกมานั่งจิบเครื่องดื่ม ชมสวน ในลักษณะนี้ก็ได้

TRS_8480

จบจากพื้นที่รอบๆตัวบ้านแล้ว เราจะเข้าไปดูภายในบ้านกันครับว่า ฟังก์ชั่นภายในเค้าจัด และตกแต่งออกมาเป็นอย่างไร

TRS_8541

ประตูทางเข้าบ้าน จะเป็นประตูไม้จริงนะครับ เป็นแบบบ้านคู่อย่างที่เห็น มือจับเป็นทองเหลืองรมดำ ของ Baldwin

TRS_8546

เปิดประตูหน้าออกปุ๊บ เราจะเจอกับพื้นที่ที่เป็น Foyer ด้านหน้าตรงนี้ก่อน  ซึ่งเป็นเหมือนกับโถงต้อนรับ แยกออกมาจากส่วนรับแขก

TRS_8548

พื้นที่ตรงนี้จะได้ผนังกระจก สามารถให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ เราอาจจะวางตู้รองเท้าเล็กๆ และเก้าอี้อีกตัว สำหรับนั่งถอดรองเท้า ใส่รองเท้าตรงนี้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องออกไปใส่ๆถอดๆ นอกบ้าน หรือ ในห้องรับแขก

TRS_8608

พื้นด้านหน้าตรงนี้จะปูด้วยหินอ่อนธรรมชาตินะครับ ตกแต่งเป็นลวดลายอย่างที่เห็น

TRS_8551

เข้ามาด้านใน จะพบกับห้องรับแขกก่อนเป็นอันดับแรก ขนาดของห้องรับแขกนี้ใหญ่มาก เดิมทีตัวบ้านจะไม่ได้มีการกั้นผนังมาให้ เราสามารถเลือกที่จะกั้นพื้นที่แบบไหนก็ได้ตามใจเรา แต่อันนี้เค้าแบ่งส่วน Living Room ออกเป็น 2 ส่วน แยกเป็นส่วนรับแขก กับส่วนที่สมาชิกในบ้านใช้งานเอง

TRS_8553

ห้องรับแขกนี้จะวางอยู่ตำแหน่งด้านหน้าของตัวบ้าน มีผนังกระจกรอบด้าน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และสามารถรับวิวสวนรอบๆบ้าน หรือสระว่ายน้ำได้เลย พื้นที่ของห้องรับแขก ใหญ่พอที่จะใส่โซฟาได้รอบด้านแบบนี้ พร้อมทั้งวางโต๊ะกลางได้อีก 1-2 ตัวด้วย รองรับการใช้งานได้ 10-15 คนสบายๆ ขึ้นอยู่กับการจัด

TRS_8557

ผนังด้านหน้าสุดของบ้าน จะดีไซน์ออกมาเป็นหน้าต่างเข้ามุม แบบ Bay-Window แบบเฉียงๆ ซึ่งเราสามารถ Built-in โซฟาโค้งลักษณะนี้ ใส่เข้าไปได้เลย ซึ่งก็จะได้เป็นพื้นที่นั่งรับแขกที่สมบูรณ์

TRS_8560

พื้นที่อีกส่วนหนึ่ง ก็อาจจะจัดโซฟา ผสมกับ Armchair และม้านั่ง รวมๆกันแบบนี้ เพื่อให้สามารถนั่งได้หลายแบบ แล้วแต่ว่าผู้อยู่อาศัยจะอยากได้แบบไหน ตรงกลางสามารถวางโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้เลย

TRS_8610

พื้นบ้าน บริเวณชั้นล่างนี้ จะปูด้วยหินสังเคราะห์ครับ ซึ่งจะเป็นวัสดุที่ทนทาน มีความแข็งแรงมากกว่าหินอ่อน และทนกรด ทนด่าง ทนของเหลว และยังให้ความหรูหราได้ไม่แพ้กันด้วย

TRS_8565

ความสูงพื้นถึงฝ้าของตัวบ้าน จะอยู่ที่ 3.00 เมตรครับ ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ในบางจุดที่มีการดรอปฝ้าจะสูงขึ้นไปอีก 20 cm แอร์ที่ให้ภายในบ้าน จะเป็นแบบ Cassette Type 4 ทิศทางแบบนี้ทั้งหลัง หลังเล็กจะได้แอร์ 10 เครื่อง หลังใหญ่ได้ 12 เครื่อง ติดตั้งไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ตามจุดต่างๆ

TRS_8555

ถัดจากส่วนรับแขกเข้ามาด้านใน ตรงบริเวณโถงด้านหน้าบันไดตรงนี้ จะสามารถมีห้องนั่งเล่นได้อีกหนึ่งจุดครับ โดยจะอยู่เชื่อมกับห้องรับประทานอาหาร

TRS_6134

พื้นที่ตรงนี้ หลักๆแล้วจะไม่ได้ใช้เป็นส่วนรับแขกซักเท่าไหร่นะครับ จะเห็นว่าจะมีทีวีวางไว้ด้วย เพราะเค้าตั้งใจจะให้เป็นพื้นที่สำหรับคนในบ้านได้มาใช้มากกว่า เช่น มานั่งเล่นระหว่างรออาหาร หรือสมาชิกภายในบ้านใช้เป็นที่นั่งดูทีวีด้วยกัน เป็นมุมที่ให้ความรู้สึกสบายๆชิลๆมากกว่า ไม่ดูเป็นทางการเท่ากับห้องรับแขก เป็นบริเวณที่อยู่ตรงกลาง ระหว่างห้องรับแขกกับห้องรับประทานอาหารและเชื่อมพื้นที่ทั้งสองเข้าด้วยกัน

TRS_8570

พื้นที่ Living Room 2 ตรงนี้จริงๆขนาดก็ไม่ได้เล็กนะครับ สามารถวางโซฟาตัวขนาด 3-4 ที่นั่งได้สบายๆ ระยะดูทีวีเหมาะสม จัดทีวีขนาด 50-60 ได้ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางได้อีกตัว โดยที่ไม่มาเกะกะขวางทางเดินด้วย

TRS_8575

แล้วบริเวณด้านข้าง จะมีประตูทางออก เชื่อมออกไปยังพื้นที่ Deck ที่อยู่ด้านข้างบ้านด้วย

TRS_8582

เมื่อเปิดประตูจากห้อง Living Room 2 ออกมาปุ๊บ เราจะพบกับบริเวณที่เป็น Deck ริมสระว่ายน้ำ ซึ่งพอเชื่อมออกมาแบบนี้แล้ว จะทำให้การใช้งานห้อง Living Room กับสระว่ายน้ำนั้นทำได้ง่าย เราสามารถจัด Pool Party ตรงนี้ได้ แล้วเดินเข้า-ออกตัวบ้านได้สะดวก เปิดประตูเชื่อมพื้นที่ถึงกันได้หมด

TRS_8595

วัสดุของพื้นด้านนอกจะเป็นไม้เทียมครับ ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกเหมือนไม้ แต่จะทนความชื้น ทนแดด ทนฝนได้ดีกว่าไม้ธรรมชาติ

TRS_8579

ตัวประตูจะวางอยู่บนธรณีนะครับ ซึ่งยกระดับสูงนิดนึง เพราะตรงนี้จะเป็นพื้นที่ภายใน กับพื้นที่ภายนอก ทำแบบนี้ดีแล้ว แต่ว่าเวลาเดินเข้าเดินออกก็ต้องระวังไม่ให้สะดุดนะครับ

TRS_8284

ตัวชุดประตูบานเลื่อนที่ใส่มาให้ จะเป็นวัสดุแบบ Aluminium อบสีขาวนะครับ ตัวบานประตูมีการ Seal ขอบ เพื่อกันเสียง กันฝุ่น กันแมลงด้วย

TRS_8287

บริเวณประตู/หน้าต่าง ทุกบาน จะมีการติดสัญญาณกันขโมย แบบ Shock Sensor และ Magnetic Sensor มาให้ด้วยเป็นมาตรฐานครับ

TRS_8585

ด้านข้างบ้านนี้ จะมีประตูซึ่งเปิดเข้าไปยังส่วนที่เป็นห้องรับรอง ที่อยู่บริเวณด้านข้างของสระว่ายน้ำด้วยนะครับ

TRS_8586

ห้องรับรองอันนี้ เป็นห้องเอนกประสงค์ที่มีห้องน้ำในตัวครับ เราสามารถใช้เป็นห้อง Living Room อีกจุดหนึ่ง สำหรับใช้เป็นห้อง Party เป็นห้องรับแขกแบบพิเศษก็ได้ เพราะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

TRS_8587

อย่างในห้องนี้เค้าจะจัดเป็นห้อง Home Entertainment ครับ เราจะใส่เครื่องเสียงไว้ พาเพื่อนมาร้องคาราโอเกะที่บ้านก็ได้

TRS_8589

ขนาดของห้องนี้ ใหญ่พอที่จะจัดเป็นห้องนอนอีกห้องได้ด้วย เพราะยังไงมีห้องน้ำในตัวอยู่แล้ว สามารถรองรับฟังก์ชั่นได้หลายรูปแบบครับ

TRS_8593

ที่ห้องนี้ เราเปิดประตูออกมา ก็จะเจอกับสระว่ายน้ำทันที ได้บรรยากาศอีกแบบ

TRS_8598

เรามาดูห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนี้กันซักนิดนึงครับ

TRS_8604

ห้องน้ำภายในห้องรับรอง จะได้เป็นห้องแบบที่มี Shower Box ด้วยนะครับ สามารถใช้อาบน้ำได้เลย ตัวห้องน้ำติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ ตลอดแนวผนังห้องน้ำ มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ และสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้

TRS_8599

พื้นที่ภายในห้องน้ำขนาดไม่เล็กเลย ถ้าเทียบว่านี่คือห้องเอนกประสงค์ สามารถวางฟังก์ชั่นทุกอย่างได้โดยไม่อึดอัด ใช้งานได้ปกติ

TRS_8600

วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำ เป็นสุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งหมด เคาน์เตอร์ท้อปเป็นหินสังเคราะห์ ปูกระเบื้องแบบกันลื่นมาให้เรียบร้อย

TRS_8606

จบจากห้องรับรองแล้ว เรากลับเข้าไปดูภายในบ้านกันต่อ ใกล้ๆกับห้องรับรองนี้ จะมีประตูอีกบานหนึ่ง สำหรับเปิดเข้าไปยังตัวบ้านนะครับ

TRS_8605

ลูกบิดประตู และกลอน ยังคงเป็นทองเหลืองรมดำจาก Baldwin อยู่นะครับ ให้ความรู้สึกที่แข็งแรง หรูหรา กว่า Stainless Steel ทั่วๆไปมาก

TRS_8572

ต่อมาเราจะไปดูห้องรับประทานอาหารกันบ้าง ซึ่งจะอยู่เชื่อมกับส่วน Living Area 2 นะครับ โดยเค้าจะใส่ประตูกระจกกั้นเอาไว้ เพื่อแยกฟังก์ชั่นออกจากกัน แต่เราจะไม่กั้นแล้วเปิดเป็นพื้นที่โล่งๆที่เชื่อมต่อกันก็ได้ แล้วแต่เราเลย

TRS_8612

เข้ามาในห้องรับประทานอาหารปุ๊บ ตัวห้องจะแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็นสองส่วนครับ คือส่วนที่เป็น Pantry ครัวฝรั่งอยู่ด้านที่ติดกับผนังหลังบ้าน และส่วนที่เป็นโต๊ะรับประทานอาหาร วางอยู่ติดฝั่งผนังหน้าบ้าน ตรงกลางเว้นเอาไว้เป็นทางเดิน เพื่อให้เดินต่อไปยังส่วนครัวที่อยู่หลังบ้านได้

TRS_8616

พื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร เราสามารถใส่โต๊ะยาวขนาด 10 ที่นั่งแบบนี้ได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือ สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะกลมก็ได้ แล้วแต่ชอบนะครับ

TRS_8618

ด้านข้างของโต๊ะกินข้าว มีประตูเปิดออกไปยังส่วนที่เป็นเฉลียงข้างบ้านแบบนี้ด้วย สามารถออกไปนั่งเล่นจากทางนี้ได้

TRS_8643

และตรงนี้ก็จะเป็นประตูทางเข้ารองของบ้าน เปิดออกไปเจอกับส่วนลานจอดรถ

TRS_8623

อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะกินข้าว จะเป็นส่วนที่วางเคาน์เตอร์ครัวฝรั่งครับ ซึ่งจะมีพื้นที่ให้สำหรับวางโต๊ะ Island ได้อีก ใช้สำหรับเป็นโต๊ะนั่งทานอาหารเช้า กินขนมเล็กๆน้อยๆได้ อันนี้เค้าจัดให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ ของจริง เราอาจจะเอาเตาไฟฟ้า และที่ดูดควัน มาติดตรงกลาง แล้วทำเป็นเคาน์เตอร์ครัวสไตล์ฝรั่งในอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้

TRS_8626

ส่วนเคาน์เตอร์ครัววางติดอยู่กับผนังด้านหลังบ้าน ซึ่งมีพื้นที่ให้เราสามารถจัดเป็นเคาน์เตอร์ยาวตลอดแนวผนังแบบนี้ได้ ตัวครัวฝรั่งนี้เค้าไม่ได้แถมมาให้นะครับ แล้วแต่ว่าจะจัดแบบไหน แต่จะมีการเดินท่อ วางระบบก็อกน้ำเอาไว้ให้แล้ว

TRS_8628

ตรงนี้จะมีหน้าต่างอยู่ด้วย ทำให้บริเวณครัวมีแสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามาได้ สามารถเปิดระบายอากาศได้ ถ้ามีการทำครัวเกิดขึ้น

TRS_8630

และบริเวณด้านข้างของแพนทรี่ตรงนี้ จะมีอุปกรณ์อีกอย่างที่ใส่มาให้เฉพาะบ้านหลังใหญ่เท่านั้น นั่นก็คือ ลิฟท์! ภายในบ้านนั่นเองครับ

ลิฟท์อันนี้มีมาให้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุที่อาจจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองไม่ไหว หรือคนป่วยที่อาจจะต้องใช้รถเข็นครับ เพื่อให้สามารถขึ้นลงระหว่างชั้นบนกับชั้นล่างได้สะดวก

TRS_8635

หลักการทำงานของลิฟท์ก็ไม่มีอะไรมากครับ มีอยู่ปุ่มเดียว กดปุ๊บลิฟท์ก็จะเลื่อนลงมารับเรา ระหว่างที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนที่ลงมา ประตูอันนี้ก็จะล็อคอยู่ครับ เปิดไม่ได้ เพื่อความปลอดภัย

TRS_8637

ขนาดของลิฟท์ไม่ได้ใหญ่อะไร แค่พอให้คน 1-2 คน เข้าไปได้แค่นั้น

TRS_8640

ด้านในมีปุ่มอีกสองปุ่ม ก็คือชั้น 1 กับชั้น 2  มีราวจับมาให้เกาะระหว่างที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนที่

TRS_8641

ตัวลิฟท์รับน้ำหนักได้เต็มที่ 250 kg ครับ หรือคนประมาณ 2 คน (เพราะมีที่ยืนแค่นั้น) มีปุ่มหยุดฉุกเฉินมาให้ด้วย

ตัวลิฟท์นี่คนทั่วๆไปก็คงจะไม่ได้จำเป็นต้องใช้หรอกครับ เพราะลิฟท์มันช้ามาก เมื่อเทียบกับลิฟท์ในห้าง เดินขึ้นเอาเร็วกว่า เพราะบ้านแค่ 2 ชั้น ลำพังแค่บันไดก็คงไม่ได้เหนื่อยอะไรมาก แต่ถ้าเอาไปใส่ไว้ในบ้าน 3-4 ชั้น นี่จะมีผลมากขึ้นเยอะเลย

TRS_8646

ต่อจากส่วนรับประทานอาหาร ตรงนี้จะมีประตูอีกสองบานครับ ทางซ้ายเปิดไปยังส่วนครัวไทยและส่วนแม่บ้านที่อยู่ด้านหลัง ส่วนประตูทางขวาเป็นทางเข้าห้องนอนชั้นล่าง เราจะไปดูทางซ้ายกันก่อน

TRS_8649

ประตูทางซ้ายเปิดออกมาปุ๊บจะเจอกับโถงทางเดินที่จะแจกไปยังห้องต่างๆ ที่เป็นส่วนของแม่บ้านครับ ประตูแรกสุดทางซ้ายจะเป็นห้องครัวไทย และด้านหลังจะเป็นห้องแม่บ้าน

TRS_8653

ครัวไทยจะเป็นห้องครัวปิด ที่แยกส่วนออกมาจากตัวบ้าน สามารถมาประกอบอาหารอย่างจริงจังตรงนี้ได้เลย

ชุดครัวที่เค้าแถมมาให้จะหน้าตาไม่ได้เหมือนในบ้านตัวอย่างนะครับ และจะมีเฉพาะตู้ และเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง ส่วนตู้ลอยด้านบนต้องไปติดเพิ่มเอง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่แถมก็จะมี เตาแก๊ส และ ที่ดูดควันของ Siemens แถมมาให้เลย (แต่ทำไมในบ้านตัวอย่าง ติดของ Teka มาให้ดูก็ไม่รู้ ไม่ได้แถม)

TRS_8655

ห้องครัวที่เค้าจะให้มา มีพื้นที่ให้สามารถใส่ตู้เย็นขนาดใหญ่แบบนี้ได้ จะให้มี 2 ตู้ก็ยังได้ มีพื้นที่พอ

TRS_8661

อีกด้านหนึ่งเป็นตำแหน่งของเตา, เตาอบ, ที่ดูดควัน และพื้นที่เตรียมอาหาร

TRS_8654

พื้นครัวเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิโต้ปกติ ขนาด 60×60 ใครไม่ชอบสีนี้ ก็เปลี่ยนเองได้เลยจ้า

TRS_8657

อ่างล้างจานของ Teka มีมาให้เป็นมาตรฐาน

TRS_8659

ตัวหัวก็อกสามารถปรับ Jet ของน้ำได้ ให้น้ำไหลออกกว้างๆ หรือ แคบๆ

TRS_8662

ถัดจากห้องครัว จะเป็นห้องนอนแม่บ้าน/พ่อบ้าน (หรือคนสวน หรือคนขับรถ แล้วแต่เลย) มีมาให้ 2 ห้องแยกกัน

TRS_8665

ภายในห้องนอนก็ไม่มีอะไรมาก เป็นแค่ห้องสี่เหลี่ยมโล่งๆ มีหน้าต่างบานนึง วางเตียง 3.5 ฟุต กับตู้เสื้อผ้าลงไป ก็เต็มแล้ว ใครจะไม่ให้แม่บ้านนอนที่นี่ แล้วใช้เป็นห้องเก็บของก็ได้นะ

TRS_8668

ห้องน้ำของแม่บ้านมีห้องเดียว แชร์กันใช้ระหว่างสองห้อง ฟังก์ชั่นมาตรฐาน มีอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, และ Shower Box แต่ยังไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งผมคิดว่า ถึงเค้าจะเป็นแม่บ้าน แต่ถ้าติดให้มันก็ดีกว่านะครับ ใช้งานส่วนเปียกส่วนแห้งแยกกันได้ เพราะห้องน้ำนี้ไม่ได้ใช้แค่คนเดียว เราอาจจะมาใช้ด้วยก็ได้ เวลาทำครัว หรือเวลาซักผ้า อะไรแบบนี้

TRS_8675

ออกมาด้านหลังสุดของบ้าน (ซึ่งจริงๆแล้วอยู่ด้านข้างของตัวบ้าน) จะเป็นลานซักล้างครับ ซึ่งตรงนี้จะเป็นโครงสร้างเดียวกันกับตัวบ้านเลย ตัวลานซักล้าง ปูกระเบื้องมาให้แล้วเสร็จสรรพ พร้อมใช้งาน

TRS_8676

บริเวณตรงนี้ เดินท่อน้ำ สำหรับติดเครื่องซักผ้ามาให้ 2 จุด ด้านข้างมีพื้นที่เหลือสำหรับวางพวกเครื่องอบผ้าได้อีก

TRS_8673

ตัวลานซักล้างจะมีทางเดินเชื่อมออกไปยังส่วนของที่จอดรถด้วย เวลาเราไปซื้อของ กลับมาจาก Super Market เราสามารถให้คุณแม่บ้าน ขนของลงจากรถ แล้วขนของเข้ามาเก็บหลังบ้าน เข้าไปยังส่วนครัวได้เลย โดยที่ไม่ต้องผ่านตัวบ้านครับ

TRS_8674

ปั๊มน้ำในบ้าน ติดมาให้แล้ว เป็นยี่ห้อ Hitachi กำลังไฟ 400 W แยกชั้นบนชั้นล่าง น้ำแรงแน่นอนไม่ต้องห่วง ส่วนถังน้ำจะแถมเป็นถัง 2000 ลิตรมาให้นะครับ

TRS_8679

กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง นี่เรายังอยู่ชั้นล่างอยู่เลยนะ ฟังก์ชั่นอีกอย่างหนึ่งของชั้นล่างนี้ก็คือ ห้องนอนที่ 5 ครับ ซึ่งเข้าได้จากทางห้องรับประทานอาหาร

TRS_8681

ห้องนอนชั้นล่างนี้ ออกแบบมาสำหรับใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่อยากจะเดินขึ้นชั้น 2 และจะได้อยู่ใกล้ๆกับสมาชิกในบ้านมากขึ้น หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพักที่บ้านก็ได้ กรณีที่ในบ้านอาจจะไม่ได้มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย

TRS_8682

ขนาดของห้องนอนนี้ ถึงจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง แต่ก็ไม่เล็กเลย มีพื้นที่เหลือเฟือ อยู่ 2 คนได้โดยไม่อึดอัด

TRS_8686

ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้  โดยที่มีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง

TRS_8684

พื้นที่ปลายเตียง เหลือพอที่จะวางชั้นวางทีวีแบบนี้ จะใส่ก็ได้ หรือไม่ใส่ก็ได้ เพราะยังมีพื้นที่เหลือปลายเตียงอยู่

TRS_8690

ส่วนห้องน้ำจะมีทางเข้าอยู่ด้านหลังหัวเตียงอีกที โดยจะมีห้องแต่งตัว Walk-in Closet วางอยู่ด้านหน้าก่อนเข้าห้องน้ำแบบนี้

TRS_8692

ตัวห้องน้ำก็จะจัดออกมาคล้ายๆกับห้องน้ำที่อยู่ในห้องรับรองเอนกประสงค์นะครับ มีฟังก์ชั่นต่างๆคล้ายกัน ต่างกันที่ตำแหน่งการวางโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้า

TRS_8699

Spec ของวัสดุ ยังคงเป็น Cotto เหมือนเดิม

TRS_8708

พื้นที่ในห้องน้ำมีประมาณนี้

TRS_8696

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือขนาดมาตรฐาน มีช่องสำหรับเก็บของใต้อ่าง

TRS_8697

หัวก็อกของ Cotto ในห้องน้ำวางระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นเอาไว้แล้ว แต่ไม่ได้ติดเครื่องทำน้ำร้อนมาให้ครับ ต้องไปซื้อมาติดเอง

TRS_8709

กระจกเงาบานใหญ่ ตลอดแนวผนังห้องน้ำ

TRS_8710

ก่อนที่เราจะขึ้นไปดูที่ชั้นสอง เรามาดูฟังก์ชั่นบริเวณโถงใต้บันไดกันซักหน่อยครับ

TRS_8711

บริเวณใต้บันไดจะมีห้องอยู่ 3 ห้องนะครับ ทางขวาสองห้อง จะเป็นห้องเก็บของ และทางซ้ายสุดจะเป็นห้องน้ำ Powder Room ครับ ส่วนตรงกลางที่อยู่ตรงตำแหน่งเสานั่นไม่ใช่ห้องนะครับ เป็นแค่ตู้งานระบบที่มีหน้าบานปิดไว้เฉยๆ

TRS_8712

ห้องเก็บของใต้บันได จะแบ่งออกมาเป็นสองห้อง สำหรับแยกประเภทของที่จะเก็บ ห้องเก็บของห้องแรกจะมีขนาดเล็กกว่า และเตี้ยกว่าครับ เป็นห้องทึบๆเลย

TRS_8713

ส่วนห้องเก็บของห้องที่สอง จะเป็นห้องที่สูงกว่า มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศได้ อาจจะใช้เก็บของที่ต้องการห้องที่มีอากาศถ่ายเท

TRS_8714

ภายในห้องนี้เค้าจะติดจอมอนิเตอร์สำหรับกล้อง CCTV เอาไว้ให้ดูครับ จะเป็นกล้องภายในบ้าน 3 ตัว และอีกตัวจะอยู่ที่บริเวณป้อมรปภ.ที่ทางเข้าหมู่บ้าน สำหรับดูแขกที่มาหา ถ้าเป็นใครไม่รู้ รปภ.ก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้เข้ามาในหมู่บ้านได้ครับ

TRS_8715

บริเวณตรงเสาใต้บันได จะมีส่วนที่เก็บตู้ไฟ และงานระบบต่างๆเอาไว้ ส่วนไฟฟ้าภายในบ้านจะเป็นไฟ 3 เฟส 30/150 ครับ

TRS_8718

ถัดมาตรงนี้เป็นฟังก์ชั่นสุดท้ายของตัวบ้านชั้นล่างครับ นั่นก็คือ ห้องน้ำ Powder Room นั่นเอง ซึ่งจะเป็นห้องน้ำสำหรับห้องรับแขก และห้องรับประทานอาหาร คนที่อยู่ชั้นล่างก็คือมาใช้ห้องน้ำนี้หมด รวมถึงแขกที่มาที่บ้านด้วย ห้องน้ำห้องนี้เลยจะมีการอัพเกรด Spec วัสดุ ให้ดูดีกว่าห้องน้ำห้องอื่นๆอยู่พอสมควร

TRS_8719

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือเป็นเคาน์เตอร์ยาว แล้วด้านบนจะมีชั้นวางของเล็กๆสีดำ สำหรับวางของใช้ในห้องน้ำ พวกสบู่, กระดาษทิชชู่ ได้อีก

TRS_8720

ผนังและพื้นห้องน้ำห้องนี้ จะปูด้วยหินอ่อน ไม่เหมือนห้องอื่นที่เป็นแค่กระเบื้อง

TRS_8722

โถสุขภัณฑ์ก็จะเกรดที่ดีกว่า มีขนาดใหญ่กว่าด้วย เพราะห้องน้ำห้องนี้ก็เป็นหน้าเป็นตาของบ้านเหมือนกัน

TRS_8724

โอเค ได้เวลาขึ้นไปชั้นสองซะที กว่าจะจบที่ชั้นล่างนี่เล่นเอาเหนื่อยเลย

TRS_8728

วัสดุพื้นบันไดจะเป็นพื้นไม้จริง มีชานพักบันไดสี่เหลี่ยมแบบมาตรฐาน

TRS_8727

โถงบันไดเจาะช่องหน้าต่างขนาดใหญ่เอาไว้ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ โดยไม่ต้องเปิดไฟมากนักในเวลากลางวัน

TRS_8730

วัสดุราวบันได ใช้ไม้ และเหล็กดัด

TRS_8731

บัวพื้นบันไดแบบสองชั้น เป็นลักษณะนี้

TRS_8733

เวลาเดินขึ้นบันไดต่อไปยังชั้นสอง จะสังเกตเห็นฝ้าเพดานที่เค้าจะดรอปฝ้า และซ่อนไฟหลืบเอาไว้ เราจะทำตามแบบนี้ก็ได้นะครับ เพื่อความสวยงามของตัวบ้าน

TRS_8735

พอมาถึงชั้นสองปุ๊บ เราก็จะเจอกับโถงทางเดินชั้นสองแบบนี้ ก่อนที่จะเข้าไปสู่ยังห้องนอนห้องต่างๆ ส่วนวัสดุพื้นของชั้นสองนี้จะเป็นพื้นปาเก้ไม้มะค่าครับ ซึ่งจะเป็นพื้นแบบนี้ทั้งชั้นเลย (ยกเว้นห้องน้ำกับระเบียงนะ)

TRS_8737

บริเวณด้านหน้าของชั้นสองตรงนี้จะเป็นห้อง Family Room ซึ่งเป็น Common Area ที่สมาชิกในบ้านที่อยู่ชั้นสอง สามารถมาใช้พื้นที่ตรงนี้ร่วมกัน โดยจะจัดเป็นห้องดูทีวี หรือเป็นห้องอ่านหนังสือตรงนี้ก็ได้ และตรงนี้จะเป็นตำแหน่งของลิฟท์ที่ขึ้นมาจากชั้นล่างด้วย พอเปิดลิฟท์ออกมาก็จะได้เจอกับส่วนของ Family Room เลย

TRS_8739

แต่เราจะสังเกตอย่างหนึ่งนะครับว่า บ้านที่นี่ Family Room จะไม่ได้ใหญ่มาก ทั้งๆที่บ้านเป็นบ้านหลังใหญ่ จริงๆแล้วเพราะว่า ในห้องนอนแต่ละห้องของที่นี่ จะมีมุมที่เป็นมุมแบบ Living Area ส่วนตัวภายในห้องอยู่แล้ว ความจำเป็นของ Family Room จึงลดลงไป และห้องนั่งเล่นด้านล่างก็มีให้ถึง 2 จุดแล้วด้วย ให้สมาชิกในบ้านลงไปนั่งข้างล่างด้วยกันน่าจะสะดวกกว่า

TRS_8740

ถัดจาก Family Room จะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้องครับ เราจะมาดูห้องนอนที่ “เล็กที่สุด” ของบ้านหลังนี้กันก่อน (ไม่นับห้องนอนชั้นล่างนะครับ)

ห้องนอนห้องนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นห้องนอนที่เล็กที่สุดของบ้านหลังนี้ แต่ก็เรียกได้ว่าใหญ่กว่า Master Bedroom ของบ้านหลายๆหลังเลยก็ว่าได้ พื้นที่ในห้องนี่จัดมาให้ดูแบบเหลือเฟือเลย

TRS_8741

พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตเอาไว้ได้ แล้วยังมีพื้นที่เหลือสองฝั่ง ความจริงถ้าห้องนี้นอนคนเดียว เราใส่แค่เตียง 5 ฟุตก็พอครับ เพื่อให้เหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกหน่อย เอาไว้วางเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นได้

TRS_8745

ผนังฝั่งที่อยู่ด้านหน้าห้อง สามารถใส่ตู้เก็บของ หรือโต๊ะทำงานเพิ่มได้ โดยที่ไม่เกะกะ

TRS_8744

ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวีได้ และเป็นส่วนที่อยู่ติดกับหน้าต่าง

TRS_8746

หัวเตียงไม่ได้วางได้แค่โต๊ะหัวเตียงนะครับ แต่สามารถใส่อาร์มแชร์อีกตัวได้สบายๆ เผื่อใครอยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้สำหรับทำอย่างอื่น จะเอาโต๊ะเอนกประสงค์มาวางที่ผนังฝั่งนี้ก็ได้

TRS_8748

ตู้เสื้อผ้าของห้อง สามารถกั้นให้เป็น Walk-in Closet แยกออกไปได้ มีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้ด้วย

TRS_8750

ส่วนห้องน้ำภายในห้องนี้ ขนาดก็จะใกล้เคียงกับห้องน้ำในห้องนอนอื่นๆ ฟังก์ชั่นก็เหมือนกัน

TRS_8751

แต่ขนาดของเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ จะได้เป็นเคาน์เตอร์ยาว ตลอดแนวผนังของห้องน้ำครับ ส่วนโถสุขภัณฑ์จะอยู่ปลายสุดอีกด้านหนึ่ง ส่วน Spec วัสดุของห้องน้ำห้องนี้ ก็เรียกว่าใกล้เคียงกับห้องอื่นๆ อาจจะมีรูปแบบ ลวดลายของกระเบื้อง ที่แตกต่างกันออกไปบ้าง

TRS_8754

ส่วนพื้นที่ Shower Box ของห้องนี้ ก็จะคล้ายๆกับห้องอื่นครับ ขนาดใช้งานได้สะดวก ในห้องน้ำมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศ เช่นเดียวกัน

TRS_8757

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กห้องที่สองครับ ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย

TRS_8760

ห้องนอนเล็กห้องที่สอง จะมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาเป็นโซนโซฟานั่งเล่น ที่เป็นเหมือน Living Area ภายในห้อง เพิ่มเข้ามาอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องนอน ตรงนี้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ ที่เราสามารถจัดฟังก์ชั่นได้หลากหลาย จะเอาโซฟามาตั้งอย่างที่เห็นในภาพก็ได้ หรือจะจัดเป็นมุมโต๊ะทำงาน หรือเพิ่มปริมาณตู้เสื้อผ้าในห้องนี้ก็ได้

TRS_8762

เตียงนอนในห้อง ใส่เป็นขนาด 5 หรือ 6 ฟุตก็ได้ ตามใจชอบเลย แล้วแต่ว่าห้องนี้อยู่กี่คน ถ้าใครพอใจที่ 3.5 ฟุต ก็ทำได้ ซึ่งก็จะเหลือพื้นที่หัวเตียงอีกเยอะเลย

TRS_8766

พื้นที่ปลายเตียง กว้างพอที่จะวางเคาน์เตอร์ชั้นวางทีวีได้ และมีพื้นทีเ่หลือให้สำหรับโซฟาที่อยู่ปลายเตียง หรือจะวางเก้าอี้อีกตัวสำหรับทำโต๊ะทำงานที่อยู่ปลายเตียง แบบในบ้านตัวอย่างก็ได้

TRS_8768

ปลายเตียงของห้องนี้ เค้าใส่เคาน์เตอร์ยาวตลอดแนวผนังห้องให้ดูว่าสามารถทำแบบนี้ได้ ซึ่งจริงๆแล้วบนผนังห้อง ยังเหลือพื้นที่สำหรับแขวนตู้ลอยได้อีกหลายบานเลย ส่วนทีวีปลายเตียงจะเอาขึ้นแขวนผนัง หรือจะเอาวางบนชั้นวางก็ได้นะ

TRS_8770

ถัดเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วนห้องแต่งตัว Walk-in Closet ก่อนที่จะเข้าสู่ห้องน้ำ พื้นที่ของ Walk-in Closet นี้ ถ้าเห็นว่าไม่พอ ก็สามารถเพิ่มตู้เสื้อผ้าด้านนอกได้อีกนะ

TRS_8773

ส่วนปลายสุดของห้องแต่งตัว จะมีพื้นที่เหลือ ที่เราสามารถจัดเป็นมุมสำหรับ วางตู้เก็บของ แขวนกรอบรูป ในลักษณะนี้ได้ ในกรณีที่เราคิดว่า ตู้เสื้อผ้าแค่นี้น่าจะเพียงพอแล้ว ซึ่งการทำแบบนี้ บางทีก็ดีนะครับ เพราะมันทำให้บ้านไม่ดูแออัดยัดเยียดและเต็มไปด้วยฟังก์ชั่น ยังพอมีมุมให้ “หายใจ” ได้บ้าง เป็นมุมที่เราจะสร้างสรรค์ ทำอะไรกับมันก็ได้

TRS_8775

ส่วนพื้นที่ภายในห้องน้ำห้องนี้ จะใกล้เคียงกับ ห้องน้ำภายในห้องนอนเล็กห้องแรกที่พาไปดูนะครับ ผมก็จะขอข้ามไปเลย เพราะ Spec วัสดุต่างๆ และพื้นที่ในห้องน้ำ ก็เรียกว่าใกล้เคียงกัน

TRS_8783

เราเดินออกจากห้องนอนทั้งสอง ผ่านห้อง Family Room มาอีกด้านหนึ่งของโถงชั้นสอง เราจะเจอกับ ห้องนอนอีก 2 ห้องที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน

TRS_8785

พื้นที่หน้าห้องนอนตรงนี้ มีมุมสำหรับวางตู้โชว์ หรือแขวนกรอบรูปหน้าห้องได้ด้วย เป็นฟังก์ชั่นที่ทำให้บ้านดูแกรนด์มากขึ้น

TRS_8787

ต่อมาเราเดินเข้ามายังห้องนอนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนของลูกคนโปรด เข้ามาปุ๊บเราจะเจอโถงทางเดินก่อน และฟังก์ชั่นแรกที่จะเห็นก็คือห้องแต่งตัว ที่วางอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าห้องเลย อยู่ก่อนถึงเตียงนอนด้านใน

TRS_8789

ห้องแต่งตัวของห้องนี้ เราจะเลือกที่จะกั้นห้องเป็นผนังโปร่งแบบนี้ก็ได้ หรือจะใส่ผนังทึบเข้าไปก็ได้ แล้วแต่การจัด แต่พื้นที่ของ Walk-in Closet ของห้องนี้ก็จะใหญ่ขึ้นมาอีก เมื่อเทียบกับสองห้องแรก เพราะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้ง และกว้างพอที่จะใส่โต๊ะ Island เล็กๆตรงกลางห้องได้เลย

TRS_8792

จาก Walk-in Closet ต่อมาก็จะเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำห้องนี้ก็จะได้พื้นที่ใหญ่ตามไปด้วยเหมือนกัน แต่ฟังก์ชั่นและวัสดุยังคงเหมือนเดิม ความจริงแล้ว ผมว่าห้องน้ำห้องนี้ก็น่าจะได้อ่างอาบน้ำด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่พื้นที่ยังไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก เพราะรูปร่างของห้องน้ำห้องนี้จะเป็นแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ออกแบบได้ยากกว่า เทียบกับห้องน้ำห้องอื่นๆ

TRS_8799

เดินเข้ามาด้านในสุดจะเป็นส่วนของห้องนอนแล้วครับ ซึ่งพื้นที่ของห้องนี้กว้างพอที่จะแบ่งให้มีฟังก์ชั่นเตียงนอนครึ่งนึง วางคู่กับโซฟาอีกครึ่งนึงแบบนี้ได้

TRS_8802

พื้นที่ปลายเตียงมีเหลือเฟือ จะใส่ทีวีปลายเตียงก็ได้ หรือจะทำเป็นตู้เก็บของ เป็นชั้นหนังสือก็ได้ มีพื้นที่ให้เดินผ่านได้สบายๆ

TRS_8804

ส่วนพื้นที่อีกครึ่งหนึ่งของห้องนอนห้องนี้ ในบ้านตัวอย่างเค้าจัดให้ดูเป็นพื้นที่สำหรับวางโซฟาเอาไว้นั่งดูทีวี ซึ่งจริงๆผมคงไม่ต้องบอกว่าพื้นที่ที่เหลืออยู่ตรงนี้จะเอาไปทำอะไรได้บ้าง เพราะมันเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ แถมอยู่ติดกับหน้าต่าง สำหรับเปิดออกไปยังระเบียงได้ด้วย หลายๆคนคงจะมีในใจอยู่แล้วว่าถ้าตัวเองมีพื้นที่แบบนี้อยู่ภายในห้องนอนจะเอาไปทำอะไร

TRS_8810

ห้องนอนห้องนี้จะมีระเบียงส่วนตัวด้วย ซึ่งในโครงการจะมีเฉพาะบ้าน Type นี้เท่านั้นที่มีพื้นที่ระเบียงแบบนี้ในห้องนอน

TRS_8812

พื้นที่ระเบียงตรงนี้เราสามารถเอาม้านั่ง หรือชุดโต๊ะเก้าอี้น้ำชา ออกมาตั้งไว้ข้างนอน สำหรับออกมานั่งชมสวนจากบริเวณชั้นสองแบบนี้ได้ ซึ่งมองลงไปก็จะเห็นสระว่ายน้ำในบ้านของตัวเองด้วย ซึ่งโอเค เราอาจจะไม่ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้ทุกวัน แต่มีไว้ก็ดีกว่าไม่มีนะครับ ถ้าไม่ได้ออกมานั่งที่ระเบียง เราอาจจะตกแต่งระเบียง เป็นสวนกระถางส่วนตัวภายในห้องนอนเราก็ได้นะ

TRS_8816

บริเวณประตูทางออกระเบียงจะมีจุดสังเกตอย่างหนึ่งคือเค้าจะไม่ได้ก่อธรณีประตูขึ้นมานะครับ แต่จะปรับระดับพื้นที่ระเบียง ให้ลดต่ำลงไปจากพื้นห้อง เพื่อให้เราสามารถเดินเข้า-ออกระเบียงได้สะดวกกว่า ไม่มีสะดุด

TRS_8826

ส่วนสุดท้าย ที่เป็น Highlight ของบ้านหลังนี้ ก็คือห้อง Master Bedroom แบบที่ผมอยากจะเรียกว่า Grand Master Bedroom เลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นห้องนอนใหญ่ที่รวมฟังก์ชั่นเอาไว้สมบูรณ์มาก มีห้องน้ำ มีห้องนั่งเล่น มีห้องแต่งตัวครบภายในตัวเอง แถมมีผนังกั้นส่วนต่างๆให้แยกออกจากกันอีกด้วย เรียกว่าถ้าใส่ครัวเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้อง Penthouse ห้องหนึ่งที่อยู่อาศัยด้วยตัวเองได้เลย

เมื่อเปิดประตูเข้ามา เราจะพบกับโถงทางเดินตรงกลางอีกอันหนึ่ง ถ้าเราเดินตรงเข้าไปจะเป็นส่วนของเตียงนอน ส่วนซ้ายขวาที่เห็นนั่นคือ Walk-in Closet ทั้งสองด้าน และมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องแต่งตัวอีกทีหนึ่ง

TRS_8833

ดูอีกมุมหนึ่งจะเห็นห้องแต่งตัวในลักษณะนี้ และเตียงนอนจะอยู่ด้านใน

TRS_8828

ห้องแต่งตัวที่มีมาให้ทั้งสองห้อง ก็ขนาดไม่ได้เล็กเลย ฟังก์ชั่นครบ มีโต๊ะแต่งตัว มีกระจกบานใหญ่เต็มตัว และมีที่นั่งที่เป็น Island ตรงกลางด้วย แต่บอกก่อนว่าพวกนี้เค้าไม่ได้ให้นะครับ แต่เค้าจัดให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ ว่าเราสามารถทำตามเค้าได้ และพื้นที่มันมีให้จัดได้แบบนี้

TRS_8832

ห้องแต่งตัวอีกด้านหนึ่ง เป็นทางเชื่อมจากห้องนอน ไปยังห้องน้ำ โดยเราจะต้องเดินผ่านพื้นที่ส่วนนี้ก่อน … โดยปกติแล้ว ตู้เสื้อผ้าพวกนี้ เกินครึ่งก็คงจะเป็นของคุณภรรยานะครับ ส่วนคุณสามี เอาไปแค่ หนึ่งในสาม หรือหนึ่งในสี่ก็พอ

อ้อ… แล้วอีกอย่างหนึ่งที่อยากจะเสริมก็คือ ในห้องแต่งตัวนี้ เราสามารถมี “ช่องลับ” เพิ่มได้นะครับ เช่นเราอาจจะซ่อนตู้เซฟ หรือทำช่องเอาไว้สำหรับเก็บสิ่งของสำคัญๆที่เราไม่อยากให้ใครรู้เอาไว้ในนี้ได้ แบบที่เราเห็นในหนังนั่นแหละ แต่ผมเชื่อว่าในชีวิตจริง คนที่ซื้อบ้านระดับราคานี้ เค้าต้องการความเป็นส่วนตัวสูง และเป็นคนที่อาจจะมีสิ่งของมีค่าที่อยากจะซ่อนเยอะพอสมควร ดังนั้น การเผื่อพื้นที่สำหรับใส่ตู้เซฟในบ้านนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

TRS_8840

เข้ามาถึงห้องน้ำ Master Bathroom ของบ้านหลังนี้ครับ โดยห้องนี้จะเป็นห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดของบ้านโดยไม่ต้องสงสัย เมื่อเข้ามาปุ๊บ สิ่งแรกที่เราจะสังเกตได้คือ ห้องน้ำมันเย็นครับ เพราะว่าเป็นห้องน้ำที่ติดแอร์ด้วย !!! แอร์ที่ติดเอาไว้ในห้องน้ำ ไม่ได้ทำหน้าที่ทำให้ห้องน้ำเย็นนะครับ เพราะเราคงจะอาบน้ำกันหนาวน่าดู แต่ว่ามันมีไว้เพื่อทำให้ห้องน้ำมันไม่ร้อนครับ เคยมั้ยครับเวลาอาบน้ำเสร็จ แต่งตัวเสร็จแล้ว แต่งหน้าเสร็จแล้ว เหงื่อออกเต็มเลย เพราะอากาศบ้านเรามันร้อนเหลือเกินครับ และห้องน้ำที่ติดแอร์จะทำหน้าที่ไล่ความชื้นออกไปจากห้องน้ำด้วย ซึ่งจะทำให้การแต่งตัว (โดยเฉพาะวันที่ต้องแต่งหล่อแต่งสวยไปงาน) ทำได้สะดวกขึ้น แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า แอร์ตัวนี้จะทำงานหนักพอสมควร เพราะในห้องน้ำจะมีความชื้นสูงกว่าในห้องปกติมาก ดังนั้นก็อาจจะเปิดเฉพาะเวลาที่จำเป็นครับ

TRS_8837

วัสดุที่ตกแต่งภายในห้องน้ำใหญ่ จะอัพเกรดจากห้องน้ำห้องอื่นๆด้วย โดยผนังและพื้นก็จะปูด้วยหินอ่อน เหมือนห้อง Powder Room ด้านล่าง

TRS_8839

โถสุขภัณฑ์จะมีขนาดใหญ่ขึ้น และเผื่อพื้นที่รอบด้านเอาไว้กว้างกว่าเดิม

TRS_8843

ที่ผนังห้องน้ำ มีการเตรียมปลั๊ก และช่องเสียบสายสัญญาณทีวีเอาไว้ให้เรียบร้อย สำหรับติดทีวีที่ใช้ดูภายในห้องน้ำได้

TRS_8844

อ่างล้างหน้าแบบ His & Her เป็นอ่างแบบ Integrated ฝังลงไปในเคาน์เตอร์ ที่ทำจากหินสังเคราะห์ครับ หัวก็อกน้ำและวาล์วเปิด-ปิด ก็จะเป็น Cotto รุ่น Premium ทั้งหมด

TRS_8845

ส่วนอาบน้ำจะแบ่งออกมาเป็นสองฟังก์ชั่น คือ อ่างอาบน้ำ และ Shower Box วางอยู่คู่กันแบบนี้

TRS_8848

ตัวอ่างอาบน้ำจะมีการทำขั้นบันไดเอาไว้ เพื่อให้สามารถ “ลงอ่าง” ได้ง่าย

TRS_8849

ตัวอ่างเป็นอ่างอาบน้ำแบบ Jacuzzi แบบนี้ ยี่ห้อก็ใช้ของ Cotto รุ่น Premium ทั้งหมด

TRS_8850

หน้าตาของหัวก็อกที่อยู่ข้างๆอ่าง ก็จะเป็นแบบนี้

TRS_8847

ส่วน Shower Box ก็มีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำห้องอื่นๆขึ้นมานิดหน่อย และอยู่แยกจากอ่างอาบน้ำนะครับ ไม่ได้รวมกัน

TRS_8853

หัวก็อกสำหรับเปิด-ปิดน้ำ มีสามอัน อันตรงกลางใช้เปลี่ยนให้น้ำไปออกที่ Hand Shower หรือ Rain Shower

TRS_8854

หน้าตาของหัวฝักบัวจะเป็นแบบนี้ ปรับระดับสูง-ต่ำได้ ตามปกติ

TRS_8855

ติด Rain Shower แบบปรับองศาและทิศทางได้

TRS_8856

ส่วนสุดท้ายจะเป็นส่วนของเตียงนอน ภายในห้อง Master Bedroom ครับ ซึ่งจัดออกมาอลังการมาก เพราะพื้นที่ในห้องนี้มีเหลือเฟือแบบจับเฟอร์นิเจอร์ยัดใส่ทิ้งๆขว้างๆได้เลย

TRS_8864

เริ่มจากเตียงนอนที่ใส่มาเป็นขนาด 6 ฟุต แต่สูงกว่ามาตรฐานขึ้นมาเกือบ 30-40 ซม.ได้ พื้นที่ข้างๆเตียง ใส่โต๊ะหัวเตียงเข้าไปแล้วยังหลวมอยู่เลย

TRS_8858

ผนังทางด้านปลายเตียง สามารถวางชั้นวางทีวีใส่เต็มผนังได้เลย และด้วยระยะขนาดนี้ ถ้าใครจะใส่จอทีวีขนาดใหญ่ระดับ 70 นิ้ว สำหรับนอนดูบนทีวี ก็ไม่ใช่เรื่องเดือดร้อน

TRS_8860

แต่จะให้นอนดูทีวีบนเตียงอย่างเดียว ก็อาจจะไม่สะดวกสำหรับหลายๆคน พื้นที่ปลายเตียงตรงนี้สามารถวางโซฟาขนาดกลางๆได้อีกตัว สำหรับนั่งดูทีวีที่ปลายเตียงได้

TRS_8870

ผนังด้านข้างของห้องนอน จะเป็นส่วนที่อยู่ติดกับผนังหน้าบ้าน ที่เป็นหน้าต่างเข้ามุมแบบ Bay Window ซึ่งตรงนี้ เราสามารถใส่โซฟาโค้ง ลักษณะเดียวกันกับห้องรับแขก เพื่อใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวภายในห้องนอนแบบนี้ก็ได้ และมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะกลางเพิ่มได้อีกตัวอีก (แต่แอบเสียดายที่พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้อยู่เซ็นเตอร์กับทีวี ไม่งั้นนั่งดูทีวีจากโซฟาตรงนี้สบายเลย)

TRS_8872

ทั้งนี้พื้นที่ภายในห้องนอนนี้เราสามารถจัดใหม่ได้หมด เปลี่ยนวิธีการกั้นผนัง หรือการกั้นห้องใหม่ก็ได้ เพราะของจริงเค้าไม่ได้ใส่ผนังภายในมาให้ ยังไงก็ต้องมากั้นเองอยู่ดี ซึ่งพื้นที่ขนาดนี้ มันเปิดโอกาสให้เราเลือกที่จะมีฟังก์ชั่นแปลกๆภายในห้องนอนส่วนตัวของเรา (และภรรยา) ได้ตามใจเราเลยครับ

TRS_8191

และนี่ก็คือรายละเอียดของบ้านแบบ Grand Alexander จากโครงการ Granada ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม โครงการล่าสุด ตัวท้อปสุด จาก SC Asset ที่ผมเอามาฝากกันในวันนี้ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 14 April 2015

  • บ้านแบบ Grand Harold ขนาดที่ดินเริ่มต้น 177 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 685 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 55 ล้านบาท
  • บ้านแบบ Grand Alexander ขนาดที่ดินเริ่มต้น 225 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 786 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นประมาณ 77 ล้านบาท
  • แอร์ทั้งหลัง/Wallpaper/สัญญาณกันขโมยและกล้อง CCTV ภายในบ้าน/จัดสวน/สระว่ายน้ำทุกหลัง/ปั๊มน้ำ/ถังน้ำ/ครัวไทย/ลิฟท์ภายในบ้าน
  • ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการ Granada ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม เป็นทำเลบ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่กาญจนาภิเษก โดยจะอยู่ระหว่างถนนเพชรเกษมและถนนบรมราชชนนี ค่อนไปทางฝั่งเพชรเกษมมากกว่า ทำเลตรงนี้มีความสะดวกในการเดินทางในโซนกรุงเทพฝั่งตะวันตกและฝั่งใต้ ย่านพุทธมณฑล, บางแค ราชพฤกษ์, หรือปิ่นเกล้าได้สะดวก หลายๆคนที่อยู่แถวๆนี้ก็คงจะรู้กันการคมนาคมแถวๆนี้ดี

สภาพแวดล้อมของโครงการ อยู่ใกล้ห้างเดอะมอลล์บางแค รอบๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกพอประมาณ อยู่ในระยะที่ขับรถถึง ซึ่งก็จะเป็นทำเลแบบกรุงเทพชั้นนอกนะครับ จะหวังให้มีความสะดวกสบายแบบกรุงเทพชั้นกลาง หรือชั้นในก็คงจะไม่ได้ คงจะต้องรอให้ทำเลนี้เติบโตกว่านี้อีกซักพักเลย แต่คนที่นี่จะเน้นการขับรถเข้าเมืองที่สะดวกมากกว่า เพราะอยู่ใกล้กับถนนใหญ่สายหลักหลายเส้น เลือกใช้ได้หลายเส้นทาง

คำถามคือ ราคาบ้านระดับ 50 ล้านขึ้นไปกับทำเลตรงนี้ ถามว่าไกลจากเมืองไปมั้ย ผมก็คงต้องตอบว่ามันมีที่ที่ใกล้ตัวเมืองกว่านี้แน่ๆแหละ เผลอๆก็คงได้บ้านพร้อมที่ดินที่ขนาดใหญ่กว่านี้ด้วย แล้วไม่ต้องออกไปอยู่ถึงเส้นกาญจนาภิเษกหรอก แต่คำตอบมันไม่ได้จบแค่นั้นน่ะสิครับ เพราะมันต้องถามต่อว่าโครงการลักษณะนี้ บนทำเลแบบนี้ มันหาได้หรือเปล่า ก็อาจจะเหลือตัวเลือกไม่มากนัก ยิ่งเป็นโครงการใหม่ๆที่สร้างเสร็จแล้ว ให้เราซื้อแล้วเข้าอยู่ได้เลยด้วย ไม่ต้องสร้างเอง ไม่ต้องคุมงานเอง มีคนทำให้แล้ว แถมเป็นของใหม่ปี 2015 ก็ต้องชั่งใจกันดูครับ

ตัวโครงการ Granada นี่เรียกว่าวางรูปแบบโครงการมาได้ดีมาก เริ่มจากขนาดที่ดินใหญ่ระดับ 36 ไร่ครึ่ง จัดออกมาให้มีบ้านแค่ 36 หลัง คือมีจำนวนยูนิตน้อยมากๆ แค่ประมาณ 1/3 หรือ 1/4 ของโครงการบ้านเดี่ยวทั่วๆไปเท่านั้นเอง ซึ่งความหนาแน่นถือเป็นจุดขายสำคัญของโครงการนี้ เพราะคนที่เค้าซื้อที่นี่ไม่ได้อยากจะมาอยู่แบบแออัดยัดเยียด ไม่ได้อยากจะอยู่ร่วมกับคนเยอะๆ และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง นอกจากจำนวนยูนิตที่น้อยแล้ว การแบ่งแปลงบ้านแต่ละหลังจะมีการเว้นระยะให้บ้านแต่ละแปลงมีระยะที่อยู่ห่างจากกันพอสมควร มีการร่นระยะตัวบ้านจากแนวถนน และเพิ่มขนาดความกว้างของทางเท้า เพื่อไม่ให้บ้านอยู่ประชิดแนวถนนเกินไป และมีการใช้สวน Strip Garden เพื่อคั่นแปลงบ้านแต่ละโซนออกจากกันด้วย ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าโครงการให้ความสำคัญกับเรื่อง Privacy ของผู้อยู่อาศัยมาก

นอกจากนี้ก็จะเป็นประเด็นที่พบเห็นได้ในบ้านหรูระดับ Hi-End ทั่วไป เช่น มีถนนภายในโครงการที่กว้าง, มีการจัดสายไฟลงดิน, เพิ่มจำนวนไฟส่องถนน, มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด, Double-Gate Security, กล้อง CCTV รอบโครงการไปจนถึงภายในตัวบ้าน ฯลฯ พวกนี้จัดมาเป็นมาตรฐาน แต่ที่เห็นจะเน้นมากกว่าโครงการอื่นๆ คือเรื่องพื้นที่สีเขียว ซึ่งที่นี่ใส่ต้นไม้ใหญ่เอาไว้เยอะมาก และเห็นได้ชัดว่าพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณสวนสาธารณะ หรือแม้แต่สวนหย่อมเล็กๆข้างๆบ้าน ก็ยังพยายามใส่ต้นไม้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้แต่รั้วบ้านแต่ละหลังยังมีการปลูกไม้พุ่มทับรั้วเหล็กเอาไว้ให้ด้วย เรียกว่าจัดเต็มเรื่องพื้นที่สีเขียวมาก

ส่วนตัวบ้าน ในเรื่องของขนาดบ้าน ถ้าจะว่ากันตรงๆแล้ว ด้วยเงินจำนวนนี้ถือว่าได้บ้านที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนะครับ เพราะที่ดินที่ได้ก็มีขนาดประมาณ 200 ตารางวาเท่านั้นเอง แต่เราต้องเข้าใจว่าเงินที่เราจ่ายไปส่วนหนึ่งมันไม่ได้อยู่ในตัวบ้าน แต่มันจ่ายให้กับตัวโครงการโดยรวมด้วย ลองคิดถึงในมุมมองคนขาย ว่าเค้าสามารถแบ่งบ้านที่นี่แปลงหนึ่ง ออกเป็นบ้านสี่แปลงเล็กๆราคาไม่แพง แล้วขายบ้านสี่หลังได้ แต่เค้าเลือกที่จะรวมที่ดินตรงนั้นแล้วสร้างบ้านหลังใหญ่หลังเดียว ราคามันก็คูณตามๆกันไปนั่นแหละครับ

แต่เทียบกับขนาดแล้ว ฟังก์ชั่นภายในบ้าน ก็เรียกว่าจัดออกมาได้สมกับที่เป็นบ้านแบรนด์ท้อปสุดของ SC Asset ทุกอย่างในบ้านคือ Over-sized เกือบหมด มีฟังก์ชั่นรองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่หลาย Generation ได้ และมีพื้นที่พอที่จะรองรับแขก, ญาติมิตร, เพื่อนฝูงของเจ้าของบ้านที่จะมาเยือนได้จำนวนหนึ่งเลย, และภายในบ้านก็มีพื้นที่มากพอที่ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพื้นที่ ให้เป็นพื้นที่ตามที่ตัวเองต้องการได้เยอะพอสมควร ยกตัวอย่างเช่นส่วนเรือนรับรองที่สามารถจัดฟังก์ชั่นได้หลายรูปแบบ หรือห้องนอนแต่ละห้อง ที่ไม่ได้แค่มีไว้นอน แต่เผื่อพื้นที่บางส่วน ให้เจ้าของห้องนอนนั้นๆ มีมุมสำหรับกิจกรรมส่วนตัวของตัวเองได้ ซึ่งตัวบ้านก็เปิดโอกาสให้รองรับ Lifestyle ได้หลากหลาย

วัสดุอุปกรณ์ภายในบ้าน ก็จัดเอาของเกรดพรีเมี่ยมมาไว้ในนี้หมด มีทั้งหินอ่อน, หินสังเคราะห์, ไม้เทียม, พื้นปาเก้ไม้มะค่า, มือจับประตูแบบทองเหลือง, ติดแอร์แบบ 4 ทิศทางให้ในบ้านทั้งหลังไปจนถึงในห้องน้ำ, ราวบันไดเหล็กดัด, วัสดุประตู, หน้าต่าง, วงกบ, รวมถึงการออกแบบโครงสร้าง, คุณภาพการเก็บงาน ก็คือส่วนใหญ่แล้วจัดเต็มมาสมราคาแหละครับ แต่ถ้าถามว่ามีอะไรที่ผมคิดว่าน่าจะได้ดีกว่านี้ได้มั้ย น่าจะเป็นเรื่องห้องน้ำครับ ไม่ได้บอกว่าของที่ให้มาไม่ดีนะครับ แต่เรากำลังพูดถึงบ้าน 70 ล้าน ของในห้องน้ำก็น่าจะเป็นแบรนด์ที่เหนือกว่านี้ได้ เช่นพวก Hansgrohe/ Duravit หรือ Villeroy & Boch ที่เรามักจะเห็นในคอนโด หรือโรงแรมหรูๆ, และห้องน้ำ Master ดูแบ่งชนชั้นกับห้องน้ำห้องอื่นๆมากไปหน่อย จัดมาซะเต็ม ห้องน้ำห้องอื่นดูธรรมดาไปเลย เช่น ห้องนอน 2 อย่างน้อยๆก็น่าจะได้อ่างอาบน้ำด้วย อย่างนี้เป็นต้น

ส่วนเรื่องสาธารณูปโภคภายในโครงการนั้น ตัวโครงการก็จะมีสโมสร มีสวนสาธารณะ มีระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆให้ ซึ่งที่เค้าไม่ได้ใส่มาให้เยอะๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วฟังก์ชั่นพวกนี้มันตอบโจทย์อยู่ในบ้านอยู่แล้ว สระน้ำก็มีส่วนตัวในบ้าน, เครื่องเล่นฟิตเนสก็เอามาใส่ในบ้านเองได้, เวลาจะต้อนรับแขกก็มักจะต้อนรับกันที่บ้าน ไม่ค่อยได้ใช้หรอกสโมสรน่ะ, ที่ให้มาก็เรียกว่าสมเหตุสมผลกับการใช้งานของลูกบ้านที่นี่ ซึ่งมีแค่ 36 หลัง แต่ถ้าต้องเพิ่มสาธารณูปโภคอะไรอีก ค่าส่วนกลางอาจจะแพงกว่านี้มากก็ได้นะครับ ซึ่งที่นี่ลำพังเก็บอยู่ที่ 42 บาท/ตารางวา/เดือน อยู่แล้ว ถ้าบ้านหลังหนึ่งมีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา ก็คือต้องจ่ายเดือนละ 8400 บาทต่อเดือน หรือประมาณ 100,800 บาทต่อปีนะครับ ซึ่งแค่นี้ก็เป็นราคาที่สูงมากแล้วสำหรับค่าส่วนกลางของบ้านหลังหนึ่ง แต่ถ้าเวลาผ่านไปสามารถดูแลจัดการให้สภาพส่วนกลางยังดูดีอยู่ได้ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลครับ

และสุดท้าย ด้วยความที่ตัวบ้านราคาสูงระดับเกิน 50 ล้าน เรียกได้ว่าคนที่มีเงินระดับนี้ แทบจะไม่มีข้อจำกัดในการเลือกที่อยู่อาศัยเลย คือมีตัวเลือกหลายที่มาก ตั้งแต่คอนโดขนาดใหญ่ในเมือง จนถึงการไปซื้อที่ดินปลูกบ้านเป็นของตัวเอง แต่คนที่เลือกที่จะมาอยู่ในหมู่บ้านแบบนี้ ในทำเลลักษณะนี้ คงจะไม่ได้มองเฉพาะความสะดวกสบาย หรือฟังก์ชั่นในการอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงการใช้ชีวิตหลังจากที่ซื้อบ้านไปแล้วด้วย เพราะมีคนจำนวนเพียงแค่ 36 ครอบครัวเท่านั้นที่จะมาอยู่ที่นี่ และการตั้งราคาบ้านระดับนี้ก็เป็นการคัดเลือกผู้อยู่อาศัยไปในตัว คนที่อยู่ที่นี่จึงไม่ได้ซื้อแต่บ้านหรือที่ดิน แต่เสมือนเป็นการซื้อสังคมการอยู่อาศัยระดับท้อป ที่หาได้ยากจากการอยู่อาศัยในรูปแบบอื่นๆครับ

Judgement

โครงการระดับ Ultimate Luxury Project ในลักษณะนี้ เราจะไม่มีการให้คะแนนนะครับ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความ Uniqueness สูง การตัดสินใจซื้อ อาศัยความชอบส่วนบุคคล และความคุ้มค่าทางจิตใจเป็นปัจจัยสำคัญ และไม่สามารถประมาณความคุ้มค่าทางด้านการเงินได้ครับ

BOTTOM LINE

Granada เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน และกำลังมองหาบ้านที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่มีการดูแลและมีสังคมการอยู่อาศัยระดับท้อป, มีความ Privacy สูง, ชอบพื้นที่สีเขียวเยอะๆ และตัวบ้านมีพื้นที่กว้าง สามารถรองรับการอยู่อาศัยของคนหลาย Generation ในราคา 50 ล้านบาทขึ้นไปครับ

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ