รีวิวฉบับที่ 534 … วันนี้ทีมงานจะพาไปชมโครงการที่มีชื่อว่า Golden Village บางนา-กิ่งแก้ว โครงการหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมืองกันนะคะ โครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดที่อยู่ติดถนนใหญ่กิ่งแก้วใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อสร้างด้วยระบบ Precasting Concrete ใน Concept ที่ว่า Extra Living ที่เค้าบอกว่าใหญ่ทั้งพื้นที่ใช้สอยและส่วนกลาง … เราอย่ารอช้าค่ะมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะใหญ่แบบที่ Concept ได้บอกไว้รึเปล่า
Fact @ 13 February 2014
- Golden Village บางนา-กิ่งแก้ว (โกลเด้น วิลเลจ บางนา-กิ่งแก้ว)
- บริษัท Golden Land Property Development PLC.
- Segment : MAIN CLASS
- เนื้อที่โครงการ 40-1-20.80ไร่
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ 132 หลัง และบ้านแฝด 1 แบบ 32 หลัง รวม 186 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว Type Pearl พื้นที่ใช้สอย 198 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 60 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 6.69 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว Type Lapis พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 50 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 5.49 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว Type Opal พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 50 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท
- บ้านแฝด Type Topaz พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 36 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 3.19 ล้านบาท
- ที่ดินแปลงมาตรฐาน 36 ตารางวาขึ้นไปสำหรับบ้านแฝด และ 50 ตารางวาขึ้นไปสำหรับบ้านเดี่ยว
- http://www.goldenlandresidence.com/
- โทร 02-170 7800
โครงการแจ้งปรับราคาเริ่มต้น ณ วันที่ 13/7/2558 ตามรายการด้านล่างครับ
- บ้านเดี่ยว Type Pearl ราคาเริ่มต้นที่ 7.49 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว Type Lapis ราคาเริ่มต้นที่ 6.49 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว Type Opal ราคาเริ่มต้นที่ 5.39 ล้านบาท
- บ้านแฝด Type Topaz ราคาเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด 13.644345,100.713623
แผนที่จากโครงการ
ทำเลโครงการ Golden Village บางนา-กิ่งแก้ว ตั้งอยู่บนถนนกิ่งเเก้ว ห่างจากถนนบางนาตราดประมาณ 1.2 กิโลเมตร ตัวถนนเชื่อมระหว่างลาดกระบัง บางนาตราด และเทพรักษ์ ต่อไปยังสมุทรปราการได้ เป็นถนนขนาด 4-8 ช่องทางจราจร หมู่บ้านละแวกนี้เกือบทั้งหมดเป็นบ้านเดี่ยวค่ะ สำหรับคนที่ทำงานชานเมืองหรือจังหวัดใกล้ๆเดินทางจากจุดนี้สะดวกทีเดียว และตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจากทางขึ้น-ลงทางด่วนบูรพาวิถี และมอเตอร์เวย์ การเดินทางต้องพึ่งรถยนต์เป็นหลักค่ะ เส้นกิ่งแก้วนี่จะไม่มีห้างแบบ Magnet ต้องขยับมาเส้นบางนา ที่มีตั้งแต่ห้างเล็กๆ จนห้างใหญ่ ศูนย์รวมวัสดุต่างๆ โรงพยาบาล ค่อนข้างครบครัน รถราที่วิ่งบนถนนกิ่งแก้ว นอกจากรถยนต์แล้วก็มีรถบรรทุกที่วิ่งเส้นนี้ใช้เป็นเส้นทางขนส่งไปยังโรงงานต่างๆตามชานเมือง
โดยโครงการจะไม่อยู่ติดถนนแต่เป็นทางเข้าที่เข้ามาจนข้ามคลองค่ะ โดยป้อมยามของโครงการจะอยู่ด้านหน้าสะพานข้ามคลอง ซึ่งเมื่อข้ามคลองมาเเล้วก็จะเจอกันโครงการเลยค่ะ ด้านข้างทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับโรงงาน และอีกด้านเป็นบ้านพักอาศัย ส่วนตำเเหน่งที่ตั้งโครงการทิศเหนือและทิศตะวันออกติดกับที่พักอาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวไม่เกิน 3 ชั้นค่ะ ทิศใต้ติดกับที่ดินเปล่า
การเดินทางวันนี้เส้นทางหลักใช้ถนนบางนา-ตราด เริ่มจากขับรถมาจากเส้นสุขุมวิทเเล้วเข้าเส้นบางนา-ตราดค่ะ
ถนนบางนา-ตราดเป็นถนนใหญ่ที่มีรถบรรทุกสินค้าวิ่งอยู่เป็นประจำ สองข้างทางมีห้างและเเหล่งชอบปิ้งใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลบางนา Mega Bangna,IKEA,Big C,โลตัส
ขับมาเรื่อย ๆ ตามเส้นทางเลยนะคะ ด้านบนจะเป็นทางด่วนบูรพาวิถีค่ะ
จุดนี้คือโลตัสที่อยู่ไม่ไกลจากวงเเหวนกาญจนาฝั่งตะวันออกหรือถ้าจำง่าย ๆก็ไม่ไกลจาก Mega Bangna นั่นเองค่ะ
ขับตรงผ่านวงเวียนไม่นานจะเริ่มเห็นป้ายชี้ทางเข้าถนนกิ่งเเก้ว ซึ่งจะต้องเข้าทางคู่ขนานบางนา-ตราด
เข้าทางคู่ขนานบางนา – ตราดเพื่อเข้าถนนกิ่งเเก้วค่ะ ถ้าเลยจุดนี้ไปก็ต้องไปอ้อมไกลทีเดียว
ลักษณะถนนคู่ขนานก็มีร้านค้า ที่พักอาศัยอยู่มากทีเดียว
เริ่มเห็นป้ายร้านต่าง ๆ ที่บอกว่าเป็นกิ่งเเก้วกันแล้วนะคะ จุดนี้จะเป็นทางลงทางด่วนบูรพาวิถี ถ้าใครใช้ทางด่วนประจำก็ต้องลงทางลงลาดกระบัง-บางพลี
เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนกิ่งเเก้วค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกิ่งเเก้ว เนื่องจากจุดนี้เป็นทางเข้าถนนเเคบทำให้การจราจรจะมาติดขัดตรงนี้ค่ะ ยิ่งช่วงเวลาเร่งด่วนหรือเลิกงานติดหนักทีเดียวค่ะจุดนี้ ตรงถนนเส้นนี้ก็จะเริ่มเห็นรถบรรทุกสินค้ามากมายทีเดียว เนื่องจากถนนกิ่งเเก้วเป็นเส้นทางผ่านในการขนบรรทุกสินค้าและมีโกดังสินค้า อยู่หลาย ๆ เเห่งจึงมีพี่ใหญ่อย่างรถบรรทุกมาเเวะเวียนเเทบจะตลอดทั้งวันค่ะ
เริ่มเข้ามาถนนกิ่งเเก้ว จะเห็นว่ามีร้านค้ามากมายเลยทีเดียว
พี่ใหญ่ของเราก็มีจอดข้างทางบ้างเป็นระยะ แต่โชคดีที่พอเริ่มเป็นถนนกิ่งเเก้วก็จะเป็นถนน 6 เลนทำให้ลดเรื่องรถติดไปได้บ้างค่ะ
เเละเนื่องจากถนนกิ่งเเก้วมีร้านค้าและที่พักอาศัยอยู่เยอะ ดังนั้นสภาพการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนก็จะติดกันมากทีเดียวค่ะ อีกทั้งตอนขับรถใช่ว่าจะต้องระวังแต่พี่ใหญ่รถบรรทุกอย่างเดียว ต้องระวังน้องเล็กอย่างมอเตอร์ไซค์เเบบนี้ บางทีก็มีย้อนศรมาให้เห็นเหมือนในภาพค่ะ เมื่อเข้าถนนกิ่งเเก้วมาประมาณ 1 กิโลเมตรจะเห็นโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ เมื่อเห็นโครงการให้เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถนะคะ จะเห็นว่าถนนกิ่งเเก้วมีบ้านพักและร้านค้าเยอะพอควร อีกทั้งยังมีโครงการบ้านพักใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดขายหรือกำลังก่อสร้างค่ะ สังเกตได้จากป้ายโฆษณาทีมีตลอดเส้นทาง
พอเรากลับรถมา 100 เมตรก็จะเห็นโครงการทางซ้ายมือ เตรียมชิดซ้ายไว้เลยรนะ ทางเข้าโครงการติดถนนกิ่งเเก้วเลยค่ะ
เจาะลึกตัวโครงการ
เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเป็นถนนก่อนเข้าโครงการสองข้างทางเเบบนี้ค่ะ คือ 2 เลน แต่ในอนาคตจะเป็นถนน 4 เลนค่ะ ต้นไม้ที่เห็นด้านขวามือจะเป็นเกาะกลางกั้นระหว่างขาเข้า-ขาออก
ขับมาไม่ไกลจะเจอป้อมยามที่ดูเก๋ไม่เบาเลยค่ะ ประตูทางเข้าเป็นไม้กระดก
ผ่านป้อมยามมาจะเป็นสะพานข้ามคลองค่ะ ซึ่งได้ระบุตำเเหน่งในเเผนที่ข้างต้นไว้
เมื่อผ่านป้อมยามเข้ามาส่วนแรกที่เจอและเด่นที่สุดคือส่วนกลางที่ดูกว้างมากทีเดียว เพื่อเข้ากับ Concept ของโครงการที่ว่า Extra Living ซึ่งส่วนกลางจุดนี้จะมีคลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ พื้นที่พักผ่อน และสวนสาธารณะค่ะ
สระว่ายน้ำของโครงการจะอยู่ติดกับคลับเฮ้าส์เเละสวย และเป็นส่วนด้านหน้าสุดของโครงการค่ะ
สระเเบ่งเป็นสระเด็กเเละสระผู้ใหญ่โดยมีขนาดอยู่ที่ สระเด็ก 9 x 4.8 ม. สระผู้ใหญ่กว้าง 9 x 20 สระจะต่อเชื่อมกัน ซึ่งความกว้างขนาดนี้แม้จะไม่ใหญ่เท่าสระมาตรฐานขนาดเล็ก แต่ก็ถือว่าสามารถว่ายออกกำลังกายได้เลยค่ะ วิวที่ได้ก็จะเป็นวิวหน้าโครงการ และมีPool Deck กว้าง ให้นั่งเล่นได้เยอะทีเดียวเลยค่ะ
ก่อนลงสระอย่าลืมล้างตัวก่อนนะคะ
ส่วนนี้จะเป็นคลับเฮ้าส์ ลูกบ้านท่านใดที่พาลูก ๆ มาเล่นน้ำก็มานั่งรอสบาย ๆ ตรงนี้ได้นะคะ
ทางเดินด้านข้างจะเป็นทางลงไปส่วนนั่งเล่นอีกส่วน และห้องน้ำค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนสาธารณะ
- สระว่ายน้ำ สระเด็กขนาด 9 x 4.8 ม. สระผู้ใหญ่ขนาด 9 x 20
- คลับเฮ้าส์พร้อมส่วนพื้นที่พักผ่อนริมสระ
- ระบบ CCTV ด้านหน้าตรงป้อมยาม
Product Walkthrough
บ้านตัวอย่างที่พาไปชมวันนี้คือบ้านแบบ Pearl ซึ่งเป็นบ้านเเบบที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดค่ะนั่นคือ 198 ตร.ม. เป็นบ้านแบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
หน้าตาบ้าน Type Pearl นี้จะเป็นลักษณะบ้านหน้ากว้างค่ะจากภายนอกจะเห็นชัดว่ามีการออกแบบที่เน้นหน้าต่างและประตูที่เป็นกระจกบานกว้างแทบจะทั้งหมด ซึ่งทำให้ภายในบ้านได้รับเเสงธรรมชาติ ตอนกลางวันก็เเทบไม่ต้องเปิดไฟกันเลยทีเดียวค่ะ แต่หน้าต่างและประตูแบบนี้คงต้องมีผ้าม่านแน่นอนเพราะเรื่องความร้อนหรือบางเวลาอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อีกทั้งคงต้องติดมุ้งลวดกันหน่อยนะคะไม่งั้นวันไหนอยากเปิดรับลมสบาย ๆ ยุงอาจเข้ามาปิคนิคกันในบ้านเลยทีเดียวค่ะ
หันมาดูอีกด้านของบ้านกันค่ะ บ้านจะเรียบ ๆ ใช้โทนสีไม่ฉูดฉาด ประตูด้านข้างบ้านที่เห็นอยู่ทางซ้ายมือของรูปคือห้องแม่บ้าน
พื้นที่จอดรถ สามารถจอดได้ 2 คันค่ะพื้นส่วนนี้จะไม่ฝั่งเสาเข็มแต่เป็นพื้นปูบนดินไปเลย ซึ่งอาจมีปัญหาภายหลังเรื่องการทรุดของดิน ถ้าเป็นพื้นที่ดินอ่อนและน้ำหนักที่ลงตรงนี้เยอะ(ซึ่งก็น่าจะเเน่นอนอยู่แล้วว่าน้ำหนักตรงนี้จะเยอะเพราะเป็นที่จอดรถ)ก็อาจมีการทรุดที่เร็วกว่าตัวบ้านค่ะ ตรงส่วนจอดรถจะมีประตูเข้าบ้านซึ่งเป็นประตูที่เข้าไปแล้วจะเจอกับส่วนทานอาหารเป็นส่วนแรกค่ะ
ทางเดินเข้าหน้าบ้านจะเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. ถ้าฝนตกคงต้องเปียกกันหน่อยเพราะทางเดินระหว่างที่จอดรถกับประตูหน้าบ้านไม่มีหลังคานะคะ ดังนั้นส่วนใหญ่น่าจะใช้ประตูที่อยู่ติดกับที่จอดรถ
ประตูหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานใหญ่เต็มบานค่ะ แต่ด้านข้าง ๆ จะเห็นว่าเป็นบานปิด จะเปิดได้เฉพาะบานเลื่อนสองบานตรงกลาง
พื้นจะมีธรณีประตูยกระดับขึ้นมาเล็กน้อยค่ะ ประตูจะเปิดได้ไม่กว้างนัก ในภาพจะเห็นระยะว่าประตูเปิดได้มากสุดแค่ไหนนะคะ เวลามีเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ที่ต้องขนเข้าบ้านอาจต้องคิดกันหน่อยค่ะว่าจะตะเเคงยังไงให้เข้าบ้านได้สะดวก ส่วนพื้นภายในเป็นแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม.
เข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ซึ่งมีขนาดไม่กว้างนักถ้าเทียบกับเป็นบ้านแบบ 4 ห้องนอนที่อาจมีผู้อยู่อาศัยมากถึง 6 คน แต่การจัดวางโซฟาแแบบนี้คงต้องเอียงข้างดูทีวีกันทั้งหมดเลยค่ะ
เมื่อเข้ามาอีกส่วนของบ้านจะเป็นพื้นที่ทานอาหารและครัวค่ะ ด้านซ้ายจะเป็นบันไดและห้องนอนเล็ก ประตูสีขาวที่เห็นคือประตุที่เปิดไปจะเป็นที่จอดรถค่ะ
พื้นที่ทานอาหารก็ยังคงสว่างเพราะหน้าต่างกระจกบานใหญ่เช่นเดียวกัน พื้นที่กว้างค่ะ สามารถวางโต๊ะใหญ่ ๆ ได้เลย
ส่วนของห้องครัวจะอยู่ติดกับพื้นที่ทานอาหารค่ะ โดยมีหน้าต่างกระจกทำให้ห้องครัวไม่ทึบ สามารถเปิดมาเพื่อวางอาหารบนเคาน์เตอร์เพื่อนำไปวางบนโต๊ะได้ด้วยค่ะ
พื้นห้องครัวจะลดระดับจากพื้นห้องนั่งเล่นลงมาเล็กน้อยนะคะ
ภายในห้องครัวมีขนาดที่ใหญ่ทีเดียวจึงสามารถวางเคาน์เตอร์ตัว L ได้ยาวเเบบนี้เลยค่ะจึงได้พื้นที่เตรียมอาหารเยอะทีเดียวและตู้เก็บของ ห้องครัวแบบนี้ควรมีที่ดูดควันถ้าทำอาหารกันหนัก ๆ ในนี้แล้วไม่อยากต่อเติมครัวไทย เพราะหน้าต่างที่ติดภายนอกมีเพียงหน้าต่างบานเล็กตรงนี้ เพราะด้านที่เป็นเตาการปูเป็นกระเบื้องจะทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าค่ะ
มองอีกมุมของห้องครัวค่ะ ด้านที่ติดกับห้องทานอาหาร
อีกด้านของห้องครัวค่ะ จะมีเคาน์เตอร์เล็ก ๆ ตรงนี้และหน้าต่าง ประตูด้านขวาเป็นประตูที่เปิดไปด้านนอกนะคะ
เปิดออกไปจะเจอส่วนซักล้างเล็ก ๆ ค่ะ ระยะห่างจากหลังบ้านกับกำเเพงบ้านข้าง ๆประมาณ 2 เมตรหรือมากกว่านั้นแล้วแต่ขนาดที่ดินของแต่ละเเปลงนะคะ จะเห็นว่าแนวกรวดแบ่งตัวบ้านกับลานซักล้างเอาไว้ แยกโครงสร้างและไม่ติดกับตัวบ้านค่ะ
พื้นที่ส่วนซักล้างและการวางถังเก็บน้ำค่ะ บ้านตัวอย่างที่เห็นจะยังไม่มีกำเเพงกั้นระหว่างหลังนะคะ เลยทำให้ดูกว้างแบบนี้
คราวนี้เรามาดูอีกส่วนของชั้นล่างกันค่ะ ส่วนที่ติดกับบันไดขึ้นชั้น 2 เป็นห้องครัว ส่วนประตูด้านขวาที่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นห้องนอนเล็กค่ะ
ห้องน้ำพื้นจะลดระดับจากพื้นห้องนั่งเล่น ปูด้วยกระเบื้องขนาด 40×40 ซม.
ภายในห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำหน้าเเคบ มีหน้าต่างเล็ก ๆ จุดนี้แต่ก็ให้เเสงสว่างมากทีเดียว อ่างล้างหน้ามีพื้นที่ให้วางของไม่มากแต่สามารถวางตรงขอบผนังได้เยอะทีเดียวค่ะ ภายในห้องนี้มีส่วนอาบน้ำด้วยนะคะ ใครเห็นแล้วบ้างค่ะเนี้ย 🙂
ตำเเหน่งของโถสุขภัณฑ์ ด้านซ้ายที่เห็นคือส่วนอาบน้ำนั่นเองค่ะ เเหมมาเเอบหลบมุมอยู่ตรงนี้เอง
ส่วนอาบน้ำนี้จะไม่มี Shower Box ให้นะคะเพราะไม่งั้นคงเข้าออกลำบากเนื่องจากพื้นที่มีไม่มากนัก ส่วนนี้กั้นขอบมาเล็กน้อยค่ะ เวลาอาบน้ำอย่างน้อยน้ำก็จะไม่ไหลเลอะเทอะมากนัก บานเปิดก็เปิดเข้าอย่างเดียวเพราะไม่มีพื้นที่เปิดออก
ความสูงตรงจุดนี้อาจจะไม่มากเท่าไหร่เพราะเป็นตำเเหน่งที่อยู่ใต้บันไดพอดีค่ะ ตรงนี้มีช่องให้วางของเล็ก ๆ นะคะ ซึ่งคงต้องหาชั้นวางมาติดตั้งเพิ่มแน่นอนค่ะ
ออกจากห้องน้ำมาดูห้องนอนเล็กชั้นล่างกันดีกว่าค่ะ พื้นห้องปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ไม่มีธรณีขั้น
ภายในห้องจะสว่างทีเดียว เพราะมีหน้าต่างถึงสองด้านและเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ค่ะ เตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตได้ค่ะ ปลายเตียงวางตู้เก็บของและมีพื้นที่ให้เดินผ่านได้สบาย ๆ ค่ะ
ด้านนี้สามารถวางโต๊ะทำงานเล็กๆ และตู้เสื้อผ้าได้คะแต่คงต้องเป็นห้องนอนเด็กเพราะไม่งั้นคงใส่เสื้อผ้าไม่พอแน่ค่ะ หรืออาจทำเป็นห้องนอนเเขกก็ได้ค่ะ
หน้าต่างห้องนี้เป็นกระจกบานใหญ่มากทีเดียว เป็นบานเลื่อนเปิดกว้างค่ะ แต่แน่นอนว่าต้องหาผ้าม่านมาติดนะคะ
ต่อไปอย่ารอช้า ขึ้นไปดูชั้นบนกันดีกว่าค่ะ บันไดตรงชานพักแน่นอนว่าต้องมีหน้าต่างตรงนี้เนื่องจากจะได้ไม่ทึบค่ะ
เดินขึ้นมาส่วนที่จะเจอส่วนแรกคือพื้นพื้นที่นั่งเล่นส่วนที่ 2 ของบ้านพื้นเป็นลามิเนต มีพื้นที่กว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ ๆ ได้อีกด้วย และโซหาก็วางตรงไม่ต้องเอียงข้างดูทีวีเหมือนด้านล่างด้วยนะคะ 😉 ตรงส่วนนี้ก็มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่เช่นเดียวกัน ทำให้ไม่ทึบและได้รับเเสงธรรมชาติค่ะ ถ้าจะปรับส่วนนี้เป็นพื้นที่ทำงานก็ไม่เลวนะคะ
ด้านนี้จะเป็นห้องนอนกลางเเละห้องนอนเล็กค่ะ ซึ่งพื้นห้องก็ปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องจากส่วนนั่งเล่นตรงนี้เลยค่ะ
ห้องนอนเล็ก มีขนาดเท่ากับห้องนอนเล็กชั้นล่างเลยนะคะ เหมาะสำหรับห้องเด็กค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้ แต่ถ้าวางเตียงติดผนังแบบนี้แม้จะได้พื้นที่ด้านขางเพิ่มแต่คงลำบากเวลาปูผ้าปูนะคะ
ด้านนี้มีตู้เสื้อผ้าเล็กๆ และมุมโต๊ะเครื่องเเป้งหรือโต๊ะทำงานค่ะ
ส่วนปลายเตียงจะมีมุมโต๊ะวางทีวี
ห้องนอนกลาง พื้นปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องมาจากส่วนนั่งเล่นเลยค่ะ
เข้ามาภายในห้องจะเห็นว่าห้องสว่างทีเดียวเนื่องจากมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เปิดไปจะเป็นระเบียง ในห้องสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ค่ะ หัวเตียงมีหน้าต่างกระจกอีก ทำให้ห้องยิ่งดูสว่างค่ะ
ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีหรือเก็บของได้ และยังมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สบาย ๆค่ะ
ด้านข้างเตียงอาจทำเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องเเป้งและตู้เสื้อผ้า แต่ขนาดจะไม่ใหญ่แต่ก็พอดีสำหรับ 1 คนค่ะ
เตียงวางชิดประตูทำให้พื้นที่ด้านข้างตุ้เสื้อผ้าเหลือเยอะแต่การวางอย่างนี้จะทำให้ปูเตียงและทำความสะอาดลำบากค่ะ แต่นาน ๆ ปูทีคงไม่เป็นไรยอมมีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มอาจดีกว่าค่ะ
ออกมานอนห้องนอนกลางมาดูอีกฝังกันดีกว่า ซึ่งอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนใหญ่ห้องเดียวเลยค่ะทำให้ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้างขวาง ด้านนี้จะมีห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องนอนกลางอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่ค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปเล็กน้อยค่ะ
ภายในห้องน้ำค่ะ จะมีหน้าต่างเล็ก ๆ ด้านบนเพื่อให้เเสงธรรมชาติได้เข้ามา ห้องนี้ก็ไม่มี Shower Box นะคะแต่ขอบตรงส่วนอาบน้ำกั้นขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อน้ำจะได้ไม่ไหลเลอะเทอะออกมาค่ะ
อ่างล้างหน้าไม่ใหญ่นักและพื้นที่วางมีไม่มาก จึงต้องมีขบอสำหรับวางของตรงผนังให้แบบนี้ค่ะ
ห้องสุดท้ายที่จะพาชมคือห้องนอนใหญ่ค่ะ พื้นก็ปูด้วยลามิเนตเช่นเดียวกัน
ภาพเเรกที่มองเข้าไปในห้องค่ะ ด้านซ้ายจะเป็นเตียงด้านขวาคือส่วนแต่งตัวและห้องน้ำ
เตียงสามารถวางขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะและยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้วางเก้าอี้ปลายเตียงเเบบนี้ได้อีกนะคะ
ห้องนี้ก็มีหน้าต่างให้ความสว่าง พื้นที่ข้างเตียงเหลือเยอะทีเดียวค่ะ
ซึ่งอาจวางเก้าอี้พักผ่อนเก๋ ๆ ซักตัวตรงนี้ได้ค่ะ
ปลายเตียงมีพื้นที่ให้ติดตั้งทีวีและชั้นวางของ
โดยระยะห่างปลายเตียงกับตู้มีเหลือพอควรเลยค่ะ เดินผ่านได้สะดวก แต่ไม่สามารถวางเป็นโซฟานั่งดูทีวีได้นะคะ ไม่งั้นคงได้ดูแบบคมชัดติดตาระยะห่างน้อยแน่ค่ะ :p
ด้านข้างเตียงจะอยู่ติดกับระเบียงที่เป็นประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่ ทำให้แม้หน้าต่างตรงหัวเตียงจะเล็กก็ได้รับเเสงธรรมชาติตรงจุดนี้เเทนค่ะ
ออกมานอกระเบียงมองไปก็จะเห็นระเบียงของห้องนอนกลางด้วยนะคะ ส่วนพื้นที่ระเบียง สามาระวางเก้าอี้ไว้นั่งเล่นได้เลยค่ะ
คราวนี้หันกลับไปดูอีกด้านกันดีกว่า ด้านนี้จะเป็นส่วนแต่งตัวตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in closet แต่อย่าลืมนะคะว่าถ้าอยากได้แบบนี้คงต้องหาช่างมาทำเอง โครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้ โดยส่วนนี้ก็จะเป็นเพียงพื้นที่โล่ง ๆให้ลูกบ้านได้ตกเเต่งกันเองค่ะ
ด้านหน้าห้องน้ำมีพื้นที่ให้วางลิ้นชักเก็บของได้ค่ะ
ห้องน้ำไม่กว้างมาก แต่ก็ไม่เเคบจนน่าอึดอัด พื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย
ส่วนอาบน้ำมีพื้นพื้นที่กั้นขอบขึ้นมา แม้น้ำจะไม่ไหลเลอะเทอะออกมาส่วนเเห้ง แต่เวลาอาบน้ำคงต้องมีกระเด็นออกมากันบ้างค่ะ
ห้องน้ำนี้ก็มีหน้าต่างกระจกที่รับเเสงธรรมชาติเข้ามาให้ความสว่าง อ่างล้างหน้ามีขนาดเท่ากับห้องอื่น ๆ ดังนั้นคงต้องพึ่งพื้นที่วางของตรงขอบผนังแบบที่เห็นในรูปค่ะ
บ้านแบบต่อไปที่จะพาชมคือแบบ Lapis พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 50 ตร.วา โดยหลังนี้คือบ้านขนาดรองลงมาจากแบบเเรกค่ะ ซึ่งแตกต่างกันที่แบบ Pearl จะเป็นแบบหน้ากว้าง มีประมาณ 3 ช่วงเสาทำให้บ้านดูกว้างไม่อัดอัด แต่ช่วงลึกจะลึกน้อยกว่าแบบ Lapis ที่เป็นบ้านแบบ 2 ช่วงเสา โดยมีห้องนอนเล็กด้านล่าที่ยื่นออกไปต่างหากค่ะ หลังนี้ช่วงลึกจะลึกกว่ามากทีเดียว
หน้าตาบ้านแบบ Lapis ยังคงคุมโทนสีและรูปแบบไม่ไม่หวือหวา อีกทั้งยังมีหน้าต่าง ประตูที่เป็นกระจกบานใหญ่ไว้อยู่ค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถลงเเปลนบ้านให้ได้ชม จึงขออธิบายเเปลนบ้านไว้ก่อนพาเข้าชมนะคะ ชั้น 1 เป็นชั้นที่ส่วนนั่งเล่นหรือรับแขก โดยจะอยู่ส่วนแรกจากประตูทางเข้า(ที่เป็นกระจก เห็นได้ในรูปนี้นะคะ) โดยถัดกันนั้นจะมีส่วนทานอาหารอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ติดกันนั้นด้านซ้ายมือของโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องนอนเล็ก ด้านซ้ายของโต๊ะทานอาหารคือห้องครัว ติดกันเป็นห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้นสองค่ะ ขึ้นมาชั้นสอง จะเจอส่วนนั่งเล่นเล็ก ๆ ด้านบนซึ่งเป็นส่วนที่ติดกับระเบียงบ้าน และชั้นนี้จะมีห้องนอน 3 ห้องค่ะ
มุมด้านข้างของบ้านค่ะ
อีกด้านหนึ่งของบ้าน ด้านนี้จะเห็นห้องนอนเล็กที่ยื่นออกมาจากตัวบ้านหลัก
พื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คันค่ะ พื้นส่วนนี้จะไม่ฝั่งเสาเข็มเช่นเดียวกัน(บ้านทุกหลังพื้นที่จอดรถจะไม่มีเสาเข็ม)แต่เป็นพื้นปูบนดินไปเลย ซึ่งอาจมีปัญหาภายหลังเรื่องการทรุดของดิน ถ้าเป็นพื้นที่ดินอ่อนและน้ำหนักที่ลงตรงนี้เยอะ(ซึ่งก็น่าจะเเน่นอนอยู่แล้วว่าน้ำหนักตรงนี้จะเยอะเพราะเป็นที่จอดรถ)ก็อาจมีการทรุดที่เร็วกว่าตัวบ้านค่ะ ตรงส่วนจอดรถจะมีประตูเข้าบ้านซึ่งเป็นประตูที่เข้าไปแล้วจะเจอกับส่วนทานอาหารเป็นส่วนแรกค่ะ
ทางเข้าบ้าน บ้านนี้ทางเข้าจะต่อกับพื้นที่จอดรถโดยมีหลังคาคลุมค่ะทำให้เวลาฝนตกไม่ต้องกลัวจะเปียก สามารถเข้าบ้านทางด้านหน้าได้ เลยค่ะ
ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ค่ะ แต่เปิดได้ไม่กว้างนักเพราะด้านข้างทั้งสองด้านจะเป็นกระจกบานปิด ดังนั้นเวลามีเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ ๆ จะเอาเข้าบ้านคงต้องตะเเคงหามุมกันหน่อยนะคะ
ภาพเเรกเมื่อก้าวเข้ามาในบ้านค่ะภายในบ้านชั้น 1 จะปูด้วยเเกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ส่วนนี้คือส่วนนั่งเล่น ถัดไปติดหลังบ้านคือโต๊ะทานอาหาร ด้านขวาจะเห็นประตูกระจกคือห้องนอนเล็ก ด้านซ้ายประตูคือประตูเข้าห้องครัวค่ะ ด้านข้างครัวคือห้องน้ำและทางไปขึ้นบันไดบ้านค่ะ
ส่วนนั่งเล่น อาจดูพื้นที่ไม่มากเท่าบ้านหลังใหญ่เมื่อกี้แต่พื้นที่ดูลงตัวกว่าค่ะ ทั้งการจัดวางโซฟาที่สามารถวางตรงกับทีวีได้ และการที่พื้นที่มีเพียงพอจะวางโซฟาตัว L ที่ใหญ่กว่านี้ได้ค่ะ มุมนี้จะอยูติดประตูและหน้าต่างที่เป็นกระจกบานใหญ่ ดังนั้นเเสงส่องเข้ามาได้มากทีเดียวทำให้ห้องไม่ดูทึบค่ะ
ตำเเหน่งตั้งทีวีค่ะ ตรงนี้บ้านจริงที่ได้จะเป็นผนังเปล่า ๆ ไม่มีการต่อเติมชั้นวางให้แบบนี้นะคะ ระยะห่างระหว่างโต๊ะหน้าทีวีกับทีวีมีระยะให้เดินผ่านได้สะดวกค่ะ
โต๊ะทานอาหาร มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะสำหรับ 6 คนได้เลยค่ะ ส่วนนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ทำให้ได้รับเเสงธรรมชาติเช่นเดียวกันค่ะ
ด้านนี้เป็นห้องนอนเล็กค่ะ โดยเป็นประตูกระจกฝ้าบานเลื่อน ซึ่งส่วนนี้จะยื่นออกไปต่างหาก พื้นเป็นเเกรนิตโต้เช่นเดียวกับด้านนอกค่ะ ในภาพ ระยะห่างระหว่างโซฟากับโต๊ะทานอาหารถือว่าเดินผ่านได้สะดวกค่ะ แต่ะจะเดินผ่านง่ายกว่าถ้านำโต๊ะชิดผนังด้านหน้าต่างค่ะ
ภายในห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต่ได้ค่ะ พื้นที่พอให้วางตู้เสื้อผ้าบานเล็กกับโต๊ะทำงานได้ค่ะ
มุมโต๊ะทำงานกับตู้เสื้อผ้า ซึ่งถือว่าใส่ได้สบาย ๆ สำหรับห้องเด็กค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างสองด้านคือด้านนี้กับด้านที่ติดกับเตียง เป็นหน้าต่างกระจกทำให้ห้องสว่างดูไม่อึดอัดแม้ขนาดจะไม่ใหญ่มากนัก
ปลายเตียงวางลิ้นชักเก็บของหรือชั้นวางทีวีก็ได้ค่ะ
อีกด้านของบ้าน ด้านขวาสุดจะเห็นประตูเข้าห้องครัว ติดกันนั้นคือห้องน้ำที่ใช่ร่วมกันระหว่างพื้นที่ชั้นล่างกับห้องนอนเล็ก ถัดไปเป็นบันไดค่ะ
ห้องครัว พื้้นปูด้วยแกรนิตโต้ ลดระดับลงไปเล็กน้อย ประตูเป็นกระจกบานเลื่อนค่ะ
ภายในห้องครัวมีพื้นที่กว้างทีเดียว สามารถวางเคาน์เตอร์ยาว ๆและตัว L เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้ค่ะ
มุมเคาน์เตอร์ครัว ตำเเหน่งนี้ถ้าทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L จะทำให้มีพื้นทีใช้สอยเยอะทีเดียวค่ะ ซึ่งห้องครัวของหลังนี้ก็ยังคงต้องมีเครื่องดูดควันเช่นเดียวกัน ไม่งั้นคงอับแย่เลยค่ะ เพราะหน้าต่างมีให้ไม่มากนัก
อีกมุมของครัวค่ะ ประตูที่เห็นคือประตูที่เปิดออกไปหลังบ้านส่วนซักล้างค่ะ พื้นที่ในครัวจุดนี้ถ้าไม่วางเคาน์เตอร์สามารถวางโต๊ะทานอาหารเล็ก ๆ ในมุมนี้ได้นะคะ ก็จะสะดวกดีเวลาหิวมาม่าตอนดึก ๆ แล้วมาต้มทาน 🙂
ออกมาจากห้องครัวก็มาดูห้องน้ำที่อยู่ติด ๆ กันค่ะ ห้องน้ำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย
ห้องน้ำจะมีครบค่ะทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ส่วนอาบน้ำ ห้องนี้มีหน้าต่างตรงเหนือโถสุขภัณฑ์ ซึ่งตรงกับที่อาบน้ำนะคะ ตอนกลางคืนถ้าอาบคงต้องหามู่ลี่มาบังตาซะหน่อย เพราะอาจจะเห็นเงา ๆ ตอนอาบน้ำอยุ่ค่ะ
ส่วนอาบน้ำจะอยู่มุมนี้ซึ่งไม่ได้เป็น Shower Box เวลาอาบน้ำแม้ตรงพื้นจะมีขอบกั้นขึ้นมาแต่ช่วยเพียงให้น้ำไม่ไหลมาเลอะเทอะ เวลาอาบน้ำจริง ๆ คงต้องมีกระเด็นออกมาบ้างเเน่นอนค่ะ
หน้าตาฟักบัวและช่องวางของค่ะ ซึ่งมีให้ไม่มากนักคงต้องหามาติดตั้งเพิ่ม ส่วนนี้มีราวเเขวนผ้าเช็ดตัวติดฝักบัวขนาดนี้ ผ้าเช็ดตัวคงเปียกแน่ ๆ ค่ะ ถ้าบ้านจริงได้ตำเเหน่งนี้ แนะนำว่าย้ายตำเเหน่งค่ะ เพราะไม่งั้นใช้งานลำบากแน่นอน
ด้านข้างห้องน้ำ จะเป็นบันไดที่อยู่ติดกับประตูซึ่งเปิดออกไปจะเป็นที่จอดรถค่ะ
เปิดออกไปตรงประตู จะมีขั้นบันได 1 ขั้นเล็ก ๆ ค่ะ
เดินขึ้นบันได ซึ่งเเน่นอนส่วนนี้ก็มีกระจกเพื่อให้บันไดดูไม่ทึบค่ะ ซึ่งช่วยประหยัดไฟในตอนกลางวันได้อีกด้วย
เมื่อเดินขึ้นไปส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่หน้าห้องนอนทั้ง 3 ห้องค่ะ และด้านขวาจะเป็นส่วนนั่งเล่น ส่วนชั้นบนจะปูด้วยลามิเนตโทนสีเดียวกันทุกส่วนค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นชั้น 2 จะอยู่ติดกับระเบียงบ้าน พื้นที่อาจไม่ใหญ่มากแต่ก็พอดีสำหรับส่วนพักผ่อนส่วนที่ 2 ของบ้านค่ะ ซึ่งตรงนี้อาจทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือโต๊ะอ่านหนังสือของเด็ก ๆ ก็ได้ค่ะ
ด้านตรงข้ามสามารถติดตั้งทีวีได้ค่ะ ชั้นวางของส่วนนี้บ้านจริงทางโครงการไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้นะคะดังนั้นจะเป็นผนังเปล่าค่ะ
พื้นที่ระเบียงค่ะ
ด้านข้างส่วนนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ
ห้องนอนใหญ่ของบ้านหลังนี้ไม่ใหญ่มากนัก แต่พื้นที่ปลายเตียงมีมากกว่าบ้านแบบ Pearl ค่ะคือวางเก้าอี้ก็ยังมีพื้นที่เหลือ สามารถทำอีกด้านเป็นโต๊ะทำงานก็ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้ค่ะ พื้นห้องเป็นลามิเนต ห้องนี้ก็มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่เช่นเคย
เตียง สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ค่ะ หัวเตียงมีหน้าต่างกระจกบานเล็กให้เเสงสว่างได้เข้ามา ข้างเตียงมีพื้้นที่เหลือพอให้วางโต๊หัวเตียงเเละเก้าอี้สำหรับพักผ่อนได้ค่ะ
หันไปดูอีกด้าน ส่วนนี้จะเห็นส่วนตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำค่ะ ตู้เสื้อผ้าถือว่าพอดีสำหรับ 2 คนค่ะแต่ถ้าคุณผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวแล้วมีเสื้อผ้าเยอะละก็ ไม่พอใส่ในตุ้เเน่ ๆ ค่ะ เเละพื้นที่ข้างเตียงจะเห็นว่ายังพอมีพื้นที่เหลืออาจทำเป็นเคาน์เตอร์วางเครื่องสำอางค์ได้นะคะ
ทางเดินตรงนี้ไม่กว้างนัก ถ้าอีกคนกำลังเปิดตู้ใช้งานคงต้องเบียด ๆ กันหน่อยนะคะ
ห้องน้ำเป็นเหมือน ๆ กันค่ะ พื้นเป็นกระเบื้องสีเทาน้ำตาล มีหน้าต่างด้านบนให้เเสงสามารถเข้ามาได้
อ่างล้างหน้าไม่ใหญ่นัก แต่มีพื้นที่วางของให้ตรงขอบผนังค่ะ
ส่วนอาบน้ำไม่มี Shower Box แต่พื้นมีขอบกั้นขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าใครจะทำกระจกกั้นเป็น Shower Box คงต้องดูพื้นที่ดี ๆ นะคะเพราะอาจจะอึดอัดไปหน่อยถ้ากั้นส่วนอาบน้ำ
คราวนี้เรามาดูอีกส่วนของบ้านค่ะ ด้านตรงข้ามกับห้องนอนใหญ่ ประตูทางซ้ายมือที่เห็นคือห้องนอนเล็ก ตรงกลางคือห้องห้องที่ห้องนอนกลางเเละเล็กจะใช้ร่วมกัน ด้านขวามือคือห้องนอนกลางค่ะ
ห้องน้ำพื้นลดระดับจากด้านนอกลงไปเล็กน้อยค่ะ โทนสีและสุขภัณฑ์ที่ใช้เหมือนกับห้องน้ำห้องอื่น ๆ ส่วนอาบน้ำอยุ่ด้านใน พื้นที่ขนาดเท่า ๆ กับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เลยค่ะ และการจัดวางสุขภัณฑ์ก็เหมือนกันด้วยคือเจออ่างล้างหน้าก่อน ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ ในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ
อ่างล้างหน้าเหมือนกันค่ะ พื้นที่วางของไม่มากอาศัยวางขอบผนังเอา
ห้องนอนเล็ก พื้นเป็นลามิเนตต่อเนื่องมาจากด้านนอกห้องเลยค่ะ
ภายในห้องนอน พื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก พอดีสำหรับห้องเด็กที่ของใช้ยังไม่เยอะค่ะ สามารถวางเตียง ตุ้เสื้อผ้าเล็ก ๆ เเละโต๊ะอ่านหนังสือได้ค่ะ ห้องนี้มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ถึงสองมุมด้วยกันค่ะทำให้ห้องดูไม่อึดอัด
มุมโต๊ะอ่านหนังสือและตุ้เสื้อผ้าค่ะ ที่ต้องเว้นระยะด้านซ้ายมือเพราะจะเป็นระยะเปิดประตูนะคะ
ห้องสุดท้ายในบ้านหลังนี้ที่จะพาชมค่ะ นั่นก็คือห้องนอนกลาง พื้นเป็นลามิเนตต่อเนื่องมาจากด้านนอกเเบบเดียวกันนี้ค่ะ
ห้องนี้พื้นที่ใช้สอยเเทบไม่ต่างกับห้องนอนเล็กเลย แต่ดูเหมือนใหญ่กว่าเพราะการจัดวางเตียงเเละฟอนิเจอร์ที่ทำให้รู้สึกว่าวางของได้เยอะกว่าค่ะ และมีพื้นที่ปลายเตียงเพิ่มขึ้นมาค่ะ ห้องน้ำมีหน้าต่างสองด้านก็จริง แต่หน้าต่างตรงหัวเตียงจะเป็นหน้าต่างบานเล็ก ๆ ค่ะ ซึ่งต่างจากห้องนอนเล็กที่ห้องนอนเล็กจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ทั้งหมด
พื้นที่ปลายเตียงที่มีเพิ่มมา สามารถวางชั้นวางทีวีได้ค่ะ
ด้านข้างเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่บานเล็กทีเดียวค่ะ ถ้าห้องน้ำเป็นของวันรุ่นหรือวันทำงานตู้เเค่นี้คงไม่พอเเน่ ๆ ค่ะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 February 2014
- บ้านเดี่ยว Type Pearl พื้นที่ใช้สอย 198 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 60 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 6.69 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว Type Lapis พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 50 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 5.49 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว Type Opal พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 50 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 4.59 ล้านบาท
- บ้านแฝด Type Topaz พื้นที่ใช้สอย 120 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ดินเริ่มต้นที่ 36 ตร.วา ราคาเริ่มต้นที่ 3.19 ล้านบาท
- ส่วนกลาง 36 บาท/ตร.วา
- โครงการนี้มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มี 186 ยูนิต ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตคร่าวๆอยู่ที่ 5.36 ล้านบาท* ข้อมูลจาก Press Release
- @24 February 2014 ส่วนที่เปิดขาย(เฟส 1 ) ช่วง Pre -Sale ตอนนี้ sold out เรียบร้อยแล้วค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
Golden Village บางนา-กิ่งแก้ว เป็นโครงการที่อยู่ในทำเลชานเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่พักอาศัยแบบชุมชน จึงทำให้ย่านนี้ความอุดมสมบูรณ์ครบครันค่ะทั้งร้านค้า ร้านอาหาร การเดินทางเข้าออกนั้นไปได้หลายทาง ค่อนข้างสะดวก แต่จะมีปัญหารถที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนเนื่องจากเป็นย่านพักอาศัย โกดังสินค้า ทำให้มีรถบรรทุกวิ่งเป็นระยะค่ะจึงทำให้จุดที่จะเข้าเส้นบางนา-ตราดไม่คล่องตัวมากนัก เนื่องจากจุดนั้นเป็นช่วงเลี้ยวเเคบ รถใหญ่อย่างบรรทุกต้องมีระยะเลี้ยวกว้างดังนั้นคงต้องระวังกันหน่อยนะคะ
ทางเข้าโครงการนั้นอยู่ติดถนนใหญ่ก็จริงแต่ตัวบ้านนั้นอยู่ลึกเข้าไป เป็นถนนทางเข้าจากหน้าโครงการวิ่งข้ามคลองลาดกระบังเข้ามาผ่านวงเวียนหน้า Club House แล้วจึงจะแจกออกเป็นตัวหมู่บ้าน ส่งผลให้บ้านจริงๆไม่ติดถนนใหญ่ เรื่องเสียงจากรถยนต์และฝุ่นละอองก็จะลดลงไปตามลำดับ ส่วนเรื่องเสียงเครื่องบิน เท่าที่สังเกตตอนถ่ายภาพทำรีวิวอยู่หลายชั่วโมง ก็ไม่ได้ยินเสียงเครื่องบินนะคะ ตรงนี้อยากจะขอ Confirm จากเพื่อนๆพี่ๆที่เป็นคนแถวนั้นหน่อยค่ะ ว่ามีเสียงเครื่องบินไหม เพราะถ้าเป็นทำเลแยกกิ่งแก้วช่วง HomePro – Lotus จะได้ยินค่อนข้างชัดเจน แตกต่างกับฝั่งนี้ค่ะ
ราคาของบ้านที่นี่จัดว่าไม่แพงเท่าไร หากเทียบกับหมู่บ้านในละแวกเดียวกันที่เคยเปิดเมื่อหลายปีก่อน เช่น The Plant บางนา, มัณฑนา บางนา, สีวลี บางนา ก็จัดอยู่ในระดับราคาใกล้เคียง อันเป็นราคาที่ตลาดยอมรับ และเสริมสินค้าบ้านขนาดเล็กเข้าไป ด้วย Topaz Type ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร บนที่ดิน 36 ตารางวา จัดเป็นบ้านแฝดติดถนนใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในบริเวณใกล้กัน ทำราคาลงไปแตะได้ที่ 3 ล้านต้นๆ ทำให้หยิบจับได้ง่าย
การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นตัวเลือกหลักๆในถนนละแวกนี้ค่ะ แม้จะเป็นถนนใหญ่ 6 เลน แต่จะมีบางช่วงของเวลาที่จะต้องเจอกับรถบรรทุกสินค้าที่ผ่านถนนเส้นนี้เป็นประจำ บางครั้งจากถนนกิ่งเเก้วจะเข้าเส้นบางนา-ตราดอาจใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงได้เลยค่ะ เพราะว่าจะต้องรอเข้าคิวกลับรถขึ้นสะพานหน้า HomePro – Lotus แต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆในแต่ละวันนะคะ เช่นเดียวกับการจราจรบนถนนกิ่งเเก้วที่จะไปใช้มอเตอร์เวย์เพื่อเข้าพระราม 9 ตรงนี้ก็จะติดมากถ้าเราวิ่งในเวลาเดียวกันกับรถใหญ่ค่ะ
แต่หากมองในภาพรวม ถ้าเรายอมเสียเงินค่าด่านทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์เป็นประจำ การเดินทางนั้นจะค่อนข้างสะดวกเนื่องเพราะใกล้ทางด่วนบูรพาวิถีและไม่ไกลมากจาก เส้นวงแหวนและ Motorway สามารถขึ้นทางลอยฟ้าไปลงในเมืองตามจุดต่างๆที่เราต้องการได้ ด้วยต้นทุนการเดินทางในชีวิตประจำวันที่สูงกว่าค่ะ
กับ Concept ที่ว่า Extra Living ไม่อาจบอกได้ว่า Extra ได้ทุกส่วน มีเพียงบางส่วนและบ้านหลังใหญ่เท่านั้นที่เรียกได้ว่า Extra ค่ะ เพราะแบบบ้านของที่นี่ออกแบบมาหลายเเบบมีตั้งแต่สำหรับ 3-4 คนไปจนถึง 6-7 คนเลยทีเดียว ทุกแบบมีพื้นที่เเละฟังก์ชั่นการใช้สอยแตกต่างกันไป สำหรับบ้านเเบบ Pearl ส่วนนั่งเล่น(รับแขก)ชั้น 1 อาจจะดูเล็กไปหน่อยถ้ามีเเขกมาหลายคนและสมาชิกในบ้านเยอะ แต่บ้านทุกแบบจะมีห้องครัวที่กว้างค่ะ ดังนั้นใครที่มักจะทำอาหารทานกันเองคงถูกใจตรงจุดนี้มากทีเดียว ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด ไม่มีห้องไหนใหญ่เป็นพิเศษ สำหรับห้องนอนเล็กจะเหมาะกับเด็กนะคะเพราะพื้นที่ใช้สอยภายในไม่มากนัก และการออกแบบให้บ้านมีหน้าต่างและประตูเป็นกระจกบานใหญ่ลูกบ้านคงต้องเผื่องบตรงนี้ด้วยนะคะ
โครงการขายแบบบ้านเปล่า แต่วัสดุของโครงการที่ให้นี้ใช้ถือว่ามาตรฐานค่ะทั้งวัสดุปูพื้นที่เป็นลามิเนต และแกรนิตโตที่ชั้น 1 โคมไฟก็มีทั้งซาลาเปาและดาวน์ไลท์ ห้องน้ำวัสดุมาตรฐาน แต่ส่วนพื้นที่จอดรถที่ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ ในอนาคตคงต้องรอดูกันค่ะว่าพื้นดินด้านนอกจะทรุดมากน้อยเเค่ไหน แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องเป็นปัญหาต่อตัวบ้านนะคะ เพราะที่จอดรถนั้นแยกออกจากตัวบ้าน ตัดแยกออกจากกันบริเวณกระเบื้องและคอนกรีตบริเวณโรงรถ ถ้าใครไม่อยากให้ทรุด (เพราะดินแถวสมุทรปราการ-บางพลีนี้การันตีได้ว่าทรุดอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมชาติ) ทางเราก็แนะนำให้รื้อแล้วตอกเข็มปูพรมตั้งแต่ช่วงตกแต่งบ้านค่ะ
สาธารณูปโภคของที่นี่มีสวนสาธารณะที่อยู่ตำเเหน่งเดียวกับสระว่ายน้ำแม้พื้นที่สีเขียวจะอยู่ตรงส่วนกลางและหน้าโครงการ โดยรอบจะไม่มีพื้นที่สีเขียวของโครงการ นอกจากต้นไม้ใหญ่ในแต่ละบ้านที่ปลูกมอบความร่มรื่นแก่กัน กับต้นไม้บนทางเท้าของถนน Main ซึ่งเมื่อต้นไม้โตก็จะช่วยให้หมู่บ้านร่มรื่นและเขียวขจีมากขึ้น คงใช้เวลาสัก 2 ปีเป็นอย่างน้อยนะคะ ซึ่งโดยรวมแล้วสาธารณูปโภค ตอนนี้ถือว่ามีเยอะทีเดียวค่ะ ทั้งสระที่กว้างแบบสามารถว่ายเล่นได้สบาย ๆ และมีส่วนพักผ่อน พร้อมคลับเฮ้าส์ ที่จัดว่าเป็นหน้าเป็นตาของหมู่บ้านค่ะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3.5– 7 ล้านบาท @ 13 February 2014
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน ไปได้หลายเส้นทาง แต่มีรถบรรทุกสินค้าวิ่งเยอะหน่อย
- ความปลอดภัย 7.25/10 – รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมงและ CCTV
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ฟังก์ชั่นครบ ใช้งานได้จริง ห้องครัวใหญ่เหมาะสำหรับบ้านเดี่ยว
- วัสดุ 7.5/10 – ให้มาเเบบมาตรฐาน
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – พื้นที่สีเขียวให้มาไม่เยอะนัก ต้นไม้ยังไม่โต โครงการสะอาดสะอ้าน เรียบร้อย
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – คลับเฮ้าส์และสระที่ให้มาแบบใช้งานได้จริง
- 8.11 / 10.00
BOTTOM LINE
Golden Village บางนา-กิ่งแก้ว เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยย่านชุมชนชานเมือง เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลักสามารถไปได้หลายเส้นทาง มีงบประมาณที่ 4-7 ล้านบาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
