Formosa Ladprao 7 คอนโด Low Rise จาก ไทย – วัน พร็อพเพอร์ตี้ [รีวิวฉบับที่ 782]

รีวิวฉบับที่ 782 … สวัสดีครับวันนี้ ผมจะพาไปชมคอนโดที่ชื่อว่า Formosa Ladprao 7 ของบริษัท ไทย – วัน พร็อพเพอร์ตี้ ตัวโครงการเป็นคอนโดแบบ Low Rise สูง 8  ชั้นมีจำนวนยูนิต 97 ยูนิต เป็นโครงการขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 7 ตามชื่อโครงการ ห่างจากถนนลาดพร้าวประมาณ 70 เมตร และติดกับห้าง Big C Extra และ HomePro เลย เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

Fact @ 3 March 2015

• Formosa Ladprao 7 (ฟอร์โมซ่า ลาดพร้าว 7)
• บริษัท ไทย – วัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่: ซอย ลาดพร้าว 7 ถนน ลาดพร้าว  เขตลาดพร้าว
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 97 ยูนิต
• พื้นที่โครงการประมาณ 1-0-30.2 ไร่
• 1 Bedroom ขนาด 31.72 – 41.86 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาด 63.41 – 77.89 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.89 ล้านบาท
• หรือประมาณ 81,000 บาท /ตร.ม.
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ  49 คันคิดเป็น  51% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 64%
• ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
• EIA : Approved
• เริ่มก่อสร้าง: Q2/ 2558
• คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ: 2560
• www.formosacondo.com
• สำนักงานขาย : 02-712-2552

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.81029,100.567699

แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว ซอย 7 ติดกับห้าง Big C Extra และ HomePro แนวรถไฟฟ้าจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง MRT สถานีพหลโยธินและสถานีลาดพร้าวครับ

Formosa Ladprao 7 เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอย แต่ก็ไม่ได้ไกลจากถนนหลักอย่างลาดพร้าวมากเข้าไปแค่ประมาณ 70 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรอบใกล้เคียงแหล่งช็อปปิ้งที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็นห้าง BigC Extra , HomePro ที่เดินได้แบบระยะประชิดเลย ส่วนห้างที่ขยับออกมาในละแวกใกล้ๆนี้หน่อยก็คงจะเป็น Union Mall ,Central ลาดพร้าว, Lotus, Index Living Mall, เมเจอร์ รัชโยธิน อีกทั้งยังมีตลาดเดินช้อปให้เลือกอีกคือสวนจตุจักร ตลาดอ.ต.ก. และสวนลุมไนท์ฯรัชดาที่จะเปิดในอนาคต ถือว่าอุดมสมบูรณ์ในระดับนึง

ผมทำแผนที่ความอุดมสมบูรณ์รอบๆใกล้เคียงบนถนนลาดพร้าวมาให้ดูประกอบครับ Minimart และร้านอาหารริมทางใกล้สุดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามข้ามสะพานลอยมา มี 7-Eleven ร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ อาหารตามสั่ง ร้านตัดผม เต็มไปหมด มีร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า Espresso Galery ที่อยู่ริมถนนลาดพร้าวด้านหน้าคอนโด Issara ด้วยคนมาใช้บริการกันเยอะมาก และยังใกล้กับธนาคาร ไปรษณีย์ และปั๊มน้ำมันอีกด้วย การเดินทางโดยใช้รถช่วงเช้า กลางวันจะค่อนข้างคล่องตัว และเดินทางไปไหนจะค่อนข้างสะดวกเช่นไปลาดพร้าวตอนปลาย รัชดาฯ รัชโยธิน พหลโยธิน และวิภาวดีรังสิต แต่จะมาติดหนักประมาณช่วงเย็นหลังเลิกงานเวลาประมาณ 18.00 – 20.00 น. นี่สิ.. และจะติดฝั่งเดียวกับหน้าโครงการเราซะด้วย ช่วงระหว่างห้าแยกลาดพร้าวกับแยกรัชดา-ลาดพร้าว ใครจะเดินทางกลับช่วงเลิกงานก็วางแผนเวลากันหน่อยนะ(ในเจาะลึกทำเลจะมีรูปภาพประกอบให้ดู)

แผนที่การเดินทางของสถานีรถไฟฟ้าโดยรวมครับ จะเห็นว่าเราอยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่าง MRT สถานีพหลโยธินและสถานีลาดพร้าว โดยถ้าเดินไปทางพหลโยธินจะประมาณ 670 ม. และเดินไปลาดพร้าวประมาณ 800 เมตร ครับ ไม่ถือว่าใกล้เท่าไรแต่ก็เป็นตัวเลือกเผื่อใช้ได้ครับ อีกทั้งโครงการเค้าจะทำ Shuttle Bus มาเสริมในส่วนนี้ให้ด้วย โดยที่รถจะวิ่งตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม วิ่งไปที่ MRT ลาดพร้าวแล้วไปกลับรถรัชดาวิ่งกลับมาที่ MRT พหล แล้วกลับรถใต้สะพานกลับมาที่โครงการ

การเดินทางในวันนี้ผมเดินทางด้วย MRT มาลงสถานีพหลโยธินครับ ระยะเดินประมาณ 670 เมตร ไม่ถือว่าใกล้หรอกนะครับ แต่จะพาชมข้างทางไปด้วยว่าแถวๆนี้ริมทางมีอะไรบ้าง

แผนที่รอบๆสถานีพหลโยธินจาก MRT ครับ (คลิกที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)

สถานีพหลโยธิน มีประตูทางออกอยู่ทั้งหมด 5 ประตู

ประตู 1 : ปากซอยลาดพร้าวซอย 4
ประตู 2 : หน้ามหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นเก่า
ประตู 3 : เซ็นทรัล ลาดพร้าว หน้าสวนสมเด็จย่า
ประตู 4 : บริเวณห้าแยกลาดพร้าว
ประตู 5 : หน้ายูเนี่ยนมอลล์  ปากซอยลาดพร้าวซอย 1

การเดินทางวันนี้มาเริ่มต้นจาก สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน บริเวณทางออกที่ 5 หน้าห้างยูเนียน มอลล์

ออกจากสถานี จะเจอทางเชื่อมบันไดเลื่อนขึ้นห้างได้เลยนะ แต่พอดีผมมาก่อนห้างเปิด ประตูเลยยังไม่เปิดครับ

ข้างๆสถานีติดถนนลาดพร้าวเป็นป้ายรถเมล์พอดี และเป็นจุดรับผู้โดยสารแท็กซี่ด้วย

ริมทางเดินฟุตบาทมือเที่ยง กับมื้อเย็นจะมีร้านรถเข็นริมทางแบบนี้เพียบ

ส่วนใหญ่มื้อเที่ยงจะเป็นเซ็ทข้าวกล่องหิ้วกลับ เน้นซื้อง่ายขายเร็ว

เดินข้ามมาลาดพร้าวซอย 1 เป็นทางม้าลาย ต้องระวังรถทางขวาด้วยนะเพราะ ซอยนี้ใช้เป็นทางเข้า-ออกของห้างยูเนียนมอลล์ด้วยเช่นกัน

เนี่ยครับ ซอยลาดพร้าว 1 ช่วงต้นๆรถก็จะเยอะหน่อย ข้างในซอยก็จะเป็นชุมชนอยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่นเพราะมีตลาดกับอพาร์ทเมนท์เยอะ มีพี่วินประจำการอยู่ตรงนี้ด้วยนะครับ ผมเดินมาเห็นตอนเย็นๆคนต่อแถวรอพี่วินกันให้บริการกันไม่ทันเลยช่วงเลิกงาน

เดินต่อมา ริมฟุตบาทช่วงนี้จะมีผลไม้มาขายทุกวัน แทบไม่มีวันหยุดนะ

เดินมาอีกนิดเดียวจะเจอกับร้าน ” โจ๊กมัลลิกา ” ที่ขายกันมา 30 กว่าปีเห็นจะได้ โจ๊กที่นี่มีเครื่องสารพัดให้เลือกเชียว

สภาพแวดล้อมช่วงต้นๆก็จะเป็นแบบนี้ ร้านกุญแจ ร้านผลไม้ ร้านดอกไม้ ร้านขนมไทย เยอะจริง

ตรงนี้มีสะพานลอยพอดี ฝั่งตรงข้ามทางลง เป็น 7-Eleven ด้านหน้าเป็นป้ายรถเมล์

ถัดมา ริมทางเดินฟุตบาทตรงนี้ที่ผมลงสีไว้ ช่วงเย็นๆของทุกวันจะเป็นร้านอาหารริมทางมาตั้งโต๊ะ เปิดขายเต็มพื้นที่เลยนะ ทีเด็ดคือร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ซึ่งคนแถวนี้คงรู้จักกันเกือบหมด ต้องลองมาแล้วจะรู้ครับ

เดินข้ามถนนซอยลาดพร้าว 1/1 แถวนี้กลางคืนก็ยังอยู่ในบริเวณที่ขายของกินข้างทางอยู่นะ

ซอยลาดพร้าว 1/1 เป็นทางลัดเชื่อมไปยังซอยลาดพร้าว 1 โผล่ออกตลาดพอดี

เลยซอย 1/1 มาก็จะมาเป็นซอย 3 ครับ ซ้ายมือจะมีศาลที่คนแถวนี้นิยมมากราบไหว้กัน และจะมีอาคารพร้อมพันธ์ุ 2 อยู่หน้าปากซอย ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานและอพาร์ทเม้นท์ครับ

เดินมานิดเดียวก็จะเจอกับร้าน “แป๊ะ เม้ง อร่อยรอบดึก” รอบดึกจริงๆครับร้านนี้เปิดมื้อเย็นยันตี 4 ครับโผ๊ม

เดินมาอีกหน่อยจะเจอจุดพักของพี่วินหน่วยย่อยครับ หน้าอาคารสำนักควบคุมประพฤติ

หันไปมองฝั่งตรงข้ามจะเป็นซอยลาดพร้าว 8 ที่คนนิยมลัดเลาะไปออกถนนวิภาวดีรังสิตครับ

เดินต่อมาจะเจอกับป้ายรถเมลล์ ซ้ายมือเป็นบ้านขนาดใหญ่ชื่อว่าบ้านพร้อมพันธุ์ บ้านนี้จะปลูกต้นไม้ใหญ่เยอะมากๆ ทำให้ตอนกลางคืนทางเดินช่วงนี้จะมืดหน่อย ขนาดกลางวันยังเงียบขนาดนี้ กลางคืนแถวนี้ไม่แนะนำให้ผู้หญิงเดินคนเดียวนะ…

มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโด High Rise เจ้าแรกๆบนถนนลาดพร้าวช่วงนี้คือ The Light และติดกันเป็นปั๊ม ESSO ครับ

ถัดมาซ้ายมือเป็นคอนโด IDEO ลาดพร้าว 5 ริมฟุตบาทแถวนี้จะเดินง่ายหน่อยครับสบายตา แต่แลกกับกลางวันก็ร้อนหน่อยนะ

ป้ายของโครงการ IDEO ลาดพร้าว 5

บริเวณนี้เป็นจุดยูเทิร์นรถทั้ง 2 ฝั่งนะครับ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นธนาคาร Kbank , SCB มีที่เลี้ยวเข้าไปให้จอดรถใช้บริการได้

ติดกับ Ideo เป็นซอยลาดพร้าว 5 ในซอยเป็นซอยตัน มีพวกอพาร์ทเมนท์และบ้านพักอาศัยไม่มากเท่าไรนัก

ถัดมาจะเป็นร้านซูชิเปิดใหม่หมาดไม่ถึงเดือน Jirafu Sushi เดิมที่ดินแปลงนี้เป็นปั๊ม ESSO เก่า

ข้ามซอยลาดพร้าว 5/1 ซึ่งเป็นซอยตันของหมู่บ้านนาราปาร์ค

บริเวณฝั่งตรงข้ามมีไปรษณีย์สามแยกลาดพร้าว คนใช้บริการเยอะทุกวัน

เดินมาอีกหน่อยจะเจอ condo low rise รุ่นพี่ แต่ทางเข้าติดถนนลาดพร้าวชื่อว่า Z2 Condominium

ซ้ายมือเป็นส่วน Maintenance ของ MRT ริมฟุตบาทช่วงนี้ค่อนข้างเดินง่าย และได้อานิสงค์ร่มเงาจากต้นไม้ริมทางอยู่นะ

ใกล้ถึงปากซอยลาดพร้าว 7 ละ หัวมุมตรงนี้จะเป็นส่วนของคอนโด High Rise ที่ติดกับเราฝั่งทิศตะวันตก The Zest Condominium

ป้ายคอนโด The Zest อยู่ติดกับป้อมตำรวจ แต่เอ๊ะ นั่นไม่ใช่ตำรวจนี่นา…

คอนโด The Zest เป็น High Rise ที่ติดกับเราฝั่งทิศตะวันตก คงจะบังแสงแดดยามเย็นโครงการเราไปเยอะเลยละ

ถึงปากซอยลาดพร้าว 7 แล้วจะมีป้ายบอกอยู่ปากซอยนะครับ ถ้าข้ามซอย 7 ไปติดกันเลยจะเป็น BigC Extra

สภาพภายนอกลาดพร้าวซอย 7 ครับ เดี๋ยวเราจะกลับมาในซอยอีกที ขอเดินเลยไปดูหน้าห้าง BigC Extra ที่ติดกันก่อน

เดินมานิดเดียว ริมทางฟุตบาทก็จะเจอรวงร้านรถเข็นข้างทางเต็มไปหมด พี่ขายไก่ย่างแกท่าจะชอบกล้องนะ…

จากที่ผมถามพวกพี่เค้า จะมาตั้งขายกันประมาณ 10 โมงถึงบ่ายสาม แต่บางร้านก็อยู่ถึง 1 ทุ่มเลย

ที่ดินผืนใหญ่แปลงนี้เดิมเคยเป็นโรงเรียนปานะพันธุ์วิทยาเก่า แล้วต่อมาก็เป็นห้างคาร์ฟูร์ ปัจจุบันเป็นห้าง BigC Extra ที่มี HomePro อยู่ด้วย สาขานี้ถึง 23.00 น.เชียว

ด้านหน้ามีทางขึ้นสะพานลอย

ใต้สะพานลอยมีที่จอดรถจักรยาน วันไหนขี้เกียจเดินมาห้างก็นี่ละ มีที่ล็อคล้อด้วย

ฝั่งตรงข้าม บริเวณสะพานลอย จะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นที่เป็นแนวร้านอาหารมากมาย เช่นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แล้วข้าวมันไก่เจ้าเก่าแก่ ร้านกาแฟ, ร้านตัดผม เซเว่น มีตัวเลือกมากกว่าฝั่งนี้

ยืนจากบนสะพานลอย  ถ่ายมุม Big C Extra, HomePro แบบกว้างๆ ด้านหลังมีพื้นที่จอดรถเยอะมาก ที่สำคัญที่นี่จอดรถฟรี ทำให้มีคนมาใช้บริการกันค่อนข้างมาก

ตรงข้ามกับ Big C Extra เป็นคอนโด High Rise ที่สูงที่สุดในย่านลาดพร้าวนี้ The Issara Ladprao

มุมนี้ผมยืนบนสะพานลอย มองไปทางห้าแยกลาดพร้าว จะเห็นปากซอยลาดพร้าว ซอย 7 ซึ่งช่วงกลางวันการจราจรคล่องตัวสบายๆ

พอดีวันที่ไปถ่ายรูปผมอยู่แถวนี้จนถึง 1 ทุ่ม เลยมีรูปการจราจรช่วงเลิกงาน ที่เค้าว่ากันว่าแถวนี้จะติดหนักเป็นพิเศษ เวลาใครจะกลับบ้านก็ต้องกะเรื่องเวลากันหน่อย

มุมนี้มองไปทางแยกรัชดา-ลาดพร้าว ไม่น่าเชื่อว่ากลางวันจะขับได้ชิลๆแบบนี้

ช่วงเลิกงาน 19.00 น. ครับ ฉายาแยกนี้ “แยกรัชดาลาดพร้าว ลงเดินเท้าไปไวกว่า”

ถ้าเดินทางด้วยรถยนต์แล้วมาจากทางแยกรัชดา-ลาดพร้าว มุ่งหน้าไปห้าแยกลาดพร้าว พอเราถึงสะพานลอยที่ผมยืนถ่ายอยู่บนนี้ ให้ชิดขวาเตรียมกลับรถได้เลยนะครับ กลับรถแล้วเตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าลาดพร้าวซอย 7 เลย

กลับมาที่ลาดพร้าว ซอย 7 อีกทีนะ ซอยนี้เป็นซอยส่วนบุคคลนะ แต่เจ้าของซอยมีการจดภารจำยอมเรื่องให้ใช้ทางเข้า-ออกได้ปกติแล้ว รวมถึงที่ดินแปลงเราด้วย

ทางซ้ายมือเป็นแนวกำแพงของคอนโด The Zest สูงประมาณ 2.2 เมตร ส่วนขวามือตอนต้นจะเป็นบริษัท O.C.S

บริษัท O.C.S ก็จะเป็นอาคารออฟฟิศสูงประมาณ 3-4 ชั้น (อยู่แนวทิศใต้ติดกับโครงการเรา)

ติดกับบริษัท O.C.S ขวามือก็จะเป็นบ้านหมอหญิงสัตวแพทย์

บ้านหมอหญิงสัตวแพทย์ เป็นบ้านเดี่ยวคสล.สูง 3 ชั้น ติดกับโครงการเราทางทิศใต้เช่นเดียวกัน อยู่บริเวณหน้าๆโครงการเรา

ด้านหน้าแปลงที่ดิน

ด้านข้าง(ทิศเหนือ) ล้อมรั้วไว้ทุกด้านแล้ว ซ้ายมือจะเป็นแนวบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น เป็นซอยตัน ที่สุดซอยจะเป็นแนวรั้วของห้าง BigC

มีร้านอาหารตามสั่งอยู่ 1 ร้าน ชื่อร้าน “มุมสบาย ซอย 7” ผมเห็นคนที่อยู่ในคอนโด The Zest เดินมาซื้ออยู่บ้าง เปิดขายสายๆถึงบ่ายเกือบเย็น

สภาพภายในแปลงที่ดินมีการปรับถมอัดหน้าดินไว้เรียบร้อยแล้ว โครงการแจ้งว่าได้ใบอนุญาติก่อสร้างเรียบร้อย

สภาพภายในที่ดิน ฝั่งที่ติดกับแปลง BigC Extra , HomePro เป็นทิศตะวันออก

ฝั่งทิศใต้ช่วงหน้าๆโครงการเรา เห็นบ้านหมอหญิงสัตวแพทย์ บ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น

ด้านในที่ดิน ฝั่งทิศใต้ของเราจะติดกับบริษัท OCS ทั้งแปลง ได้วิวโล่งบางส่วน มองไปไกลๆเห็น The Issara Ladprao Condo

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการครับ ทิศเหนือโครงการติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น และแปลงข้างๆเป็นที่ดินเปล่าขนาดปานกลางไม่ใหญ่มากมีต้นไม้ในที่ดินค่อนข้างมาก ถ้ายังไม่ได้สร้างอะไรใครได้วิวฝั่งนี้ก็จะเป็นฝั่งเดียวที่เห็นพื้นที่สีเขียว ถัดมาทางฝั่งด้านขวาทั้งหมด(ทิศตะวันออก)เป็นส่วนของพื้นที่ห้าง BigC Extra, HomePro ทั้งหมด เป็นห้าง 2 ชั้น ส่วนของฝั่งทิศใต้จะติดกับที่ดิน 2 แปลงคือบ้านหญิงสัตวแพทย์เป็นบ้านพักอาศัยสูง 3 ชั้น และแปลงของบริษัท OCS ที่มีบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้นและตัวบริษัทสูง 4 ชั้น (แต่ถ้าใครเลือกตำแหน่งห้องดีๆจะไม่โดนบล็อควิวนะเห็นวิวถนนลาดพร้าวกับคอนโด The Issara สุดท้ายทิศตะวันตกเป็นส่วนของด้านหน้าโครงการติดกับซอยลาดพร้าวซอย 7 ซึ่งฝั่งนี้จะถูกบังวิวด้วยคอนโด High Rise คือ The Zest ซึ่งคงจะบังแดดยามเย็นพระอาทิตย์ตกดินด้วยทำให้ไม่ร้อนมากเท่าไร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• Big C Extra ~ 100 ม.
• 7-Eleven ~ 120 ม.
• Espresso Gallery ~ 180 ม.
• ยูเนียนมอลล์ 670 ม.
• MRT พหลโยธิน ~ 670 ม.
• MRT ลาดพร้าว ~ 800 ม.
• เซ็นทรัลลาดพร้าว ~ 1.1 กม.
• สวนสมเด็จย่า ~ 1.1 กม.
• สวนลุมไนท์ฯ รัชดา 1.1 กม.
• โรงเรียนหอวัง ~ 1.4 กม.
• Tesco Lotus ~ 1.6 กม.
• สวนจตุจักร ~ 1.6 กม.
• สวนรถไฟ ~ 2.5 กม.

 

เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวอาคารจะเป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ด้านหน้าโครงการติดซอยลาดพร้าว ซอย 7 ตัวอาคารเป็นรูปตัว S หน้าตาภายนอกอาคารดูเรียบๆ ออกแบบโทนสีขาว ครีม ตัดกับน้ำตาลครับ

ทางเข้าของโครงการจะอยู่ติดกับฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งติดกับคอนโด High Rise อย่าง The Zest

ส่วนกลางส่วนของสระว่ายน้ำ, ห้อง Fitness จะอยู่ที่ชั้น 2 นะครับ โดยที่บริเวณของสระว่ายน้ำจะอยู่ติดกับด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันตก พื้นที่สระว่ายน้ำเป็นแบบ Double Volume ทำให้ดูไม่อึดอัด สระทิศตะวันตกข้อเสียคือร้อน ใครว่ายน้ำตอนเย็นก็ได้รับแดดเต็มๆแต่ข้อดีอยู่ตรงที่มีหลังคาคลุมให้ ช่วยได้บ้าง ด้านซ้ายขวาของสระ มีการสร้างแนวบังสายตาเพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวแต่มีข้อเสียคือ จะอึดอัด เพราะเหมือนโดนล้อมด้วยผนัง 3 ด้าน ที่ปลายสระด้านหน้าโครงการจะกั้นกันตกด้วยกระจกนิรภัย รั้วกำแพงฝั่งทิศเหนือเป็นแบบทึบคสล.สูงประมาณ 3 เมตร เรื่องทางเข้าออกโครงการจะทำแยกเป็น 2 ส่วนระหว่างทางเดินรถยนต์และทางเดินเท้าตามรูปนี้เลยครับ

การเดินรถจะใช้วิธีวิ่งริมชิดกำแพงฝั่งทิศเหนือสวนทางกันได้ สามารถจอดรถบริเวณรอบๆอาคารของชั้น 1 ได้ และมีช่องทางลงไปส่วนของที่จอดรถชั้นได้ดินได้ด้วย ที่จอดรถแบบช่องจอด 49 คัน คิดเป็น 51% รวมซ้อนคันคิดเป็น 64% ถือว่าได้มาไม่มากไม่น้อย

ส่วนของชั้นดาดฟ้าทั้งหมดจะทำเป็น Roof Garden ประมาณนี้นะครับ ต้องรอดูของจริงว่าสร้างเสร็จแล้วจะทำออกมาเหมือนแบบนี้ไหม

มาดูผังโครงการกันดีกว่า เริ่มต้นที่ชั้นใต้ดินกันนะครับ ชั้นใต้ดินเป็นส่วนของพื้นที่จอดรถอย่างเดียว รถที่วิ่งเป็นทางสวนกัน 2 ทาง ถ้านับแต่ช่องจอดไม่รวมซ้อนคันจะมีช่อง 23 คัน และจะเชื่อมต่อกับส่วนของโถงที่เข้าบันไดหนีไฟและลิฟท์ครับ

ชั้น 1 นั้นก็จะมีพื้นที่จอดรถเป็นช่องจอดใต้ตัวอาคาร และเป็นช่องจอดแบบรอบๆด้านข้างอาคารอีกนิดหน่อย ถ้านับช่องจอดไม่รวมซ้อนคันจะมีช่อง 26 คัน ด้านหน้าทางซุ้มทางเข้าโครงการ(ทิศตะวันตก) นั้นมีน้ำพุตกแต่งอยู่ทางเข้า และช่องทางเดินเท้ากับทางเดินรถยนต์ทำแยกกันไว้ ทางโครงการจะมีรั้วกั้นแยกกันอย่างชัดเจน และมีป้อม รปภ. นะจุดทางเข้าโครงการ ใช้ระบบ Key Card Accessอย่างชัดเจน ส่วนของ Lobby นั้นขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ทำเป็นพื้นที่ Double Volume จึงทำให้ไม่ดูอึดอัดมาก และมีห้องอ่านหนังสืออยู่เชื่อมกันด้วย ส่วนของริมแนวรั้วติดกับฝั่งทิศใต้โครงการแจ้งว่าจะทำรั้วสูงกว่าฝั่งทิศอื่นคือประมาณเกือบ 6 เมตรและปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้บังแนวสายตา ไม่ให้เห็นในส่วนที่ประชิดกับบริษัท OCS

 

แปลนชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้น Main Facility กับชั้นเริ่มต้นห้องพักอาศัย ชั้น 2 นี้มีสระว่ายน้ำ และห้องฟิตเนส ห้องพักอาศัยนับได้ทั้งหมด 9 ยูนิต มีลิฟท์ 2 ตัว ไม่มีลิฟท์ service ให้นะ บันไดหนีไฟมี 2 จุด ห้องที่เป็นแบบระเบียงใหญ่พิเศษ อาจจะโดนบล็อควิวด้วยบ้านหญิงสัตวแพทย์สูง 3 ชั้นนะ ต้องชั้น 4 เป็นต้นไปถึงจะไม่โดนบัง

ส่วนของชั้น 3 ก็จะเหมือนกับชั้น 2 ทางทิศเหนือและมีห้องเพิ่มมาอีก 3 ห้อง รวมทั้งหมดเป็น 13 ยูนิต เนื่องจากพื้นที่บางส่วนยังกินบริเวณของ Double Volume สระว่ายน้ำชั้น 2 ปกติห้องที่อยู่แบบเหลี่ยมแปลกๆจะดีต่อเมื่อ ขายแบบ Fully Furnished เพราะจะจัดพื้นที่ใช้สอยยาก ทำให้กลายเป็นพื้นที่ๆได้ไม่ค่อยนำไม่ใช้ประโยชน์ แต่โครงการนี้ขายแบบ Fully ก็ดีไป

ผังชั้น 4 – 8 จะเป็นส่วนที่ใช้ความคุ้มค่าของพื้นที่เยอะสุดจะมียูนิตห้องเต็มทั้งชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 15 ยูนิตต่อชั้น แตกต่างกันแค่แบบ Type ห้องนิดหน่อย Type 2 ห้องนอนจะอยู่ส่วนมุมอาคาร ที่เหลือจะเป็น 1 ห้องนอนครับ Corridor จะเป็นรูปตัว S ตามแนวตัวรูปร่างอาคาร ช่วงด้านหน้าลิฟท์จะกว้างหน่อย และเล็กลงตามทางเดินหน้าห้อง มีลิฟท์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัวเป็น ต่อยูนิตทั้งหมด 97 ยูนิต

ชั้นดาดฟ้าทำเป็น Roof Garden ครับ มีศาลาและที่นั่งให้เป็นจุดๆตามผัง ชั้นนี้ต้องเดินขึ้นมาจากชั้น 8 นะ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด  3.8 x 11.28 เมตร ลึก 1.1 เมตร และมีที่นั่งใต้น้ำ jacucci ขนาด 0.75 x 6  เมตร ลึก 0.35  เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดกลาง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
• สวนหย่อมรอบโครงการ และชั้นดาดฟ้า
• ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 97 : 2
• ที่จอดรถช่องจอด 49 คัน คิดเป็น 51% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 64%
• ระบบ CCTV / Access Card

 

Product Walkthrough

Type ห้องโครงการนี้มี 1Bedroom, 2Bedroom โดยที่นี่ขายเป็นแบบ Fully Furnished ครับ

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูเป็นแบบห้อง 1 Bedroom แบบ 1B2 ขนาด 40.69 ตร.ม. จะแยกสัดส่วนของแต่ละฟังก์ชั่นไว้อย่างชัดเจน โดยจะวางโซนห้องครัวและห้องน้ำไว้ด้านหน้าสุด เป็นแบบครัวเปิด(เสริมให้หน่อยว่าตำแหน่งของห้องครัวยังพอที่จะกั้นประตูทำเป็นโซนปิดได้เพราะแนวกำแพงเอื้อให้ทำได้ไม่ยาก) ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นจะอยู่โซนตรงกลาง และมีพื้นที่นั่งทานอาหารด้วย ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร ห้องนั่งเล่นจะกั้นกับส่วนของห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่เป็นแบบ floor to ceiling

สำหรับห้องนอนเป็นห้องที่โครงการให้น้ำหนักในการวางผังพอสมควรเพราะวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆให้เดินได้ทุกด้าน ด้านซ้ายขวามีโต๊ะหัวเตียงทั้งคู่ ปลายเตียงระยะเกือบ 1.5 เมตร และมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน และชุดโต๊ะขนาดเล็กอยู่ ส่วนทางออกไประเบียงก็จะได้ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่เป็นแบบ floor to ceiling เช่นเดียวกับตอนแรก และด้านนอกระเบียงมีพื้นที่เก็บคอมแอร์แยกกั้นประตูไว้ มีราวกันตกเป็นโครงคอนกรีตล้อมรอบบานกระจกนิรภัย โครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบตามห้องตัวอย่างยกเว้นพร็อพที่ตกแต่ง เดี๋ยวผมพาไปดูห้องตัวอย่างดีกว่าครับจะได้มองภาพออกง่ายๆ

เริ่มที่หน้าห้องเปิดประตูมาจะเจอกับเคาน์เตอร์ครัวอยู่ด้านซ้ายมือ ฝั่งตรงข้ามเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำหันหน้าชนกัน พื้นภายในห้องทุกจุดจะเป็น Engineer Wood หนา 14 mm.

เคาน์เตอร์ครัวชุดนี้ของ Starmark นะครับได้ตามนี้เลย ยกเว้นพร็อพจุกจิกนะ หน้าบานตู้วันสดุเป็น High Gloss สีขาวครับ

ผมลองเปิดตู้ให้ดูว่ามีฟังก์ชั่นเก็บของประมาณไหนนะ หน้าบานทุกอันมีติด Soft Close มาให้สำหรับบาน Swing จะเป็นแบบเปิด 45 องศาไปแล้ว Soft Close ถึงจะทำงานนะ

ผนังส่วนทำครัวโครงการติดกระจกแผ่นกระจก Back Splash ไว้ให้เวลาทำครัวจะได้เช็ดทำความสะอาดง่าย มีไฟใต้ตู้ด้านบนเพิ่มแสงสว่างเวลาทำครัว ท๊อปเคาน์เตอร์ได้เป็นหินสังเคราะห์

เตาไฟฟ้าและดูควันได้ของ MEX เป็นแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว

อ่างล้างจานขนาดค่อนข้างมาตรฐานลองใส่จานลงไปและเทียบกับขนาฝ่ามือให้ดู ของ MEX เช่นกัน แต่หัวก๊อกดูธรรมดาไปนิดนึง ใครชอบแบบเก๋ๆก็เปลี่ยนเองได้ไม่ใช่ปัญหา

ด้านล่างเป็นช่องใส่ตู้ไมรโครเวฟและเครื่องซักผ้าวางแล้วพอดีเป๊ะๆ

ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร แต่จะมีช่วงด้านหน้าบริเวณประตูทางเข้าจะสูง 2.3 เมตรลดลงมานิดนึงเนื่องจากติดส่วนของงานระบบ

ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำโครงการเค้า Buil เป็นผนังไม้ให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ ของจริงจะเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีธรรมดา สวิทช์และปลั๊กไฟทั้งห้องเป็นของ Panasonic ครับ

มาดูส่วนของห้องน้ำภายในกันบ้าง เข้ามาก็จะเจอแบบนี้ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.

พื้นห้องน้ำธรณีจบเป็น Engineer Wood แบบเดียวกับห้องโถง ห้องตัวอย่างไม่ได้ทำลดระดับลงมา แต่ทางโครงการแจ้งว่าของจริงจะลดลงมาประมาณ 3 ซม.

ทางซ้ายมือจะได้กระจกเงาบานใหญ่ แบบมีไฟฝังอยู่ด้านหลังทั้งด้านบนและด้านล่าง แต่เสียดายที่ไม่ได้เป็นตู้เก็บของได้ด้วย

เคาน์เตอร์ที่วางของเป็นหินแกรนิตสีขาว วางของใช้ได้ประมาณตามรูป ส่วนของอ่างล้างหน้าและก๊อกเป็นของ American Standard ครับ

ด้านล่างของอ่างจะมีพื้นที่เหลือตามนี้ ถ้าใครอยากจะทำเป็นตู้เก็บของเพิ่มก็ทำได้นะ เพิ่มหน้าบานติดเข้าไป

ฝั่งขวาเป็นส่วนของสุขภัณฑ์ มีที่แขวนทิชชู่ และราวแขวนผ้าขนหนูมาให้ ทุกอย่างของ American Standard ทั้งหมด

มาดูส่วนของพื้นที่อาบน้ำกันบ้าง มีฉากกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ของ Perane หนา 10 มม. ค่อนข้างหนาแข็งแรงดี

ส่วนของพื้นทำเป็นธรณีก่อขึ้นมาสูงประมาณ 5 ซม. / พื้นที่อาบน้ำระยะประมาณ 0.85 x 1.65 เมตร

หน้าตาของชุดฝักบัว American Stndard เช่นกัน มีที่วางสบู่เล็กๆมาให้ 1 จุด

ขนาดของฝักบัวถ้าเทียบกับฝ่ามือลองจับดู(ตรงปลายนิ้วโป้งมีที่ปรับระดับน้ำด้วย)

ไฟในห้องน้ำเราจะได้ 2 แบบนี้นะ ส่วนปลั๊กไฟมีกล่องครอบกันน้ำมาให้ด้วย พัดลมดูดควันในห้องได้ของ Panasonic

ถัดมา ทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นและโต๊ะทานอาหาร ส่วนขวามือจะเป็นส่วนของ Living Room

พื้นที่วางตู้เย็นผมลองวัดดูความกว้างประมาณ 90 cm. และโครงการเค้าวางชุดโต๊ะทานอาหารไว้แบบ 2 ที่นั่งแบบนี้(ชุดโต๊ะเก้าอี้นี่เราได้นะครับ แต่โคมไฟด้านบนไม่ได้จ้า)

ส่วนของ Living  Room นี่จะได้แอร์ของ Daikin Inverter 9,000 BTU ครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่นั่งเล่น รับแขก อ่านหนังสือ ดูทีวี แต่โครงการเค้าไม่ได้ติดทีวีไว้เป็นตัวอย่างให้ดู(บริเวณที่เป็นรูปโชว์ใหญ่ๆ ขวามือ)  ส่วนผนังไม้และกระจกเนี่ยเค้าทำเป็นตัวอย่างให้ดูเฉยๆ

ชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่งและโต๊ะกลางจิ๋ว อันนี้เราได้นะครับ (โครงการแจ้งมาว่าของจริงอาจจะเปลี่ยนแบบนิดหน่อย)

ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร ค่อน ผมลองนั่งดูฟีลจะประมาณนี้ครับ ควรจัดทีวีซักประมาณ 40 นิ้ว จะได้ไม่ต้องเพ่งครับ

ชุดโต๊ะวางทีวีเนี่ยเราก็ได้นะ แต่ของจริงจะไม่ได้ knock down ติดผนังให้ เป็นแบบลอยตัวครับ

ปลั๊กไฟ และชุดเสียบสายเคเบิ้ล อยู่ใกล้ๆชั้นวางทีวี

ส่วนของห้องนอนนั้นถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนขนาดใหญ่เป็นแบบ floor to ceiling ทำให้แสงแดดธรรมชาติจากระเบียงส่งเข้ามาในห้องตอนเช้าได้เต็มที่ และห้องจะดูโปร่งโล่งมากไม่อึดอัด

ทีเด็ดคือพื้นเค้าทำแบบไม่มีรางเลื่อนอยู่ด้านล่าง ทำให้เดินไม่ต้องกลัวสะดุด เตะ…(มันช่าง ดี๊ ดี) ส่วนตัวประตูและวงกบนั้นเป็นอลูมิเนียมสีดำด้าน มีซีลกันเสียงด้วย มีตัวล็อกอยู่ฝั่งด้านในห้องนอน วันไหนคุณแฟนทะเลาะกันให้ไปนอนโซฟาด้านนอกและล็อคห้องซะเลย (^_^)

เข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้าง ขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียว โครงการเค้าวางเตียงแบบ 5 ฟุตไว้ให้ (ฐานเตียงเราได้ด้วยนะ แต่ผ้าม่านไม่ได้) ระยะปลายเตียงจนถึงตู้เสื้อผ้าประมาณ 1.45 เมตร เดินสบายเลย

ฝั่งผนังของหัวเตียงของจริงจะเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีนะ แต่โต๊ะหัวเตียงสองฝั่งซ้ายขวานี่เราได้ด้วย ทางโครงการเค้าแจ้งมาว่า ถ้าอยากให้เปลี่ยนเป็นฐานเตียงแบบ 6 ฟุต ก็ได้นะ แต่จะลดเหลือโต๊ะหัวเตียง 1 ตัวครับ (ไฟเพดานได้ตามนี้เลย 3 จุด ให้มาเยอะดี นอนอ่านหนังสือได้เลย)

พื้นที่ด้านข้างที่วางโต๊ะหัวเตียง จะเหลือฝั่งละ 70 cm. เดินได้สบายไม่ต้องเบี่ยงตัว

ปลายเตียงฝั่งซ้ายมือจะเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ หรือจะนั่งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ บนหัวมีแอร์ Daikin 9,000 BTU หนึ่งตัว / ขวามือเป็นชุดตู้เสื้อผ้า Build-In มาให้ วัสดุหน้าบานเป็น High Gloss แบบเดียวกับชุดครัว

ตัวโต๊ะมีลิ้นชักเก็บของได้ มีติดกระจกเงาให้ และมีปลั๊กไฟให้ 1 จุด

ภายในตู้เสื้อผ้าฟังก์ชั่นเก็บของจะเป็นแบบนี้มีติด Soft Close มาให้เช่นกัน

ส่วนของระเบียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนขนาดใหญ่เป็นแบบ floor to ceiling เช่นกัน แตกต่างกับภายในห้องคือเรื่องสีและวัสดุ

ตัวมือจับเป็นแบบเซาะร่อง วัสดุวงกบและกรอบบานจะเป็นสีเทาด้านแบบนี้ มีตัวซีลกันเสียงมาให้เช่นกันนะ

ส่วนของระเบียงจะเป็นธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 4 ซม.

พื้นระเบียงจะเป็นกระเบื้องลายไม้แบบนี้แผ่นนึงขนาด 9 x 15 cm. ห้องแต่ละ Type ขนาดระเบียงไม่เท่ากันนะ ส่วนของห้องนี้กว้างประมาณ 90 cm.

ข้างผนังมีติดสวิชท์ไฟไว้ให้ 1 จุด (แต่ผนังไม้แบบนี้ไม่ได้นะ)

พื้นที่เก็บคอมแอร์มีประตูบานเปิด-ปิดให้เรียบร้อยแบบนี้

วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีเทาด้านแบบนี้

ส่วนของราวกันตกระเบียงผมขอทำเป็นภาพประกอบให้ดูนะครับ จะได้อธิบายทีละส่วนคือ พื้นด้านล่างเนี่ยทำเป็นแบบก่อปูนสูงขึ้นมา 40 ซม. แล้วจะตีล้อมกรอบให้เหลือพื้นที่ตรงกลางไว้ให้ติดเป็นกระจกนิรภัย(ที่ทำเป็นพื้นที่สีฟ้า) รวมแล้วความสูงทั้งหมดจะประมาณ 1 เมตรครับ

ไฟระเบียงได้มา 1 จุดหน้าตาแบบนี้

ประตูทางเข้าเราได้ Digital Door Lock ของ YALE ครับ

โครงการนี้จะมีแบบ 2 ห้องนอน แบบพิเศษอยู่แบบนึงคือแบบ 2X ขนาด 77.89 ตร.ม. คือพอเราเปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนที่เป็นระเบียงทางเดินส่วนตัว ก่อนจะเข้าสู่ส่วนพักอาศัย ทำให้เพิ่มความส่วนตัวจากเสียงรบกวนหน้า Corridor อีกระดับนึง และสามารถทำเป็นสวนแขวนผนังบริเวณนี้ได้ด้วยนะ พอเข้ามาในห้องจะเป็นส่วนของ Living Room ที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนแบบ floor to ceiling รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ห้องนั่งเล่นนี่เชื่อมกับส่วนของครัวเปิด ติดกับพื้นที่ทานอาหาร และตรงข้ามเป็นห้องน้ำที่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำไว้ให้ด้วย ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ ไม่มีระเบียงในตัว ส่วนของ Master Bedroom พื้นที่ค่อนข้างกว้างวางเตียง king size ได้ มีชุดวางทีวีอยู่ปลายเตียงเหลือพื้นที่เดินได้สบาย มีห้องน้ำในตัวด้านหน้าห้องน้ำเป็นส่วนของพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและมีประตูออกไประเบียงขนาดเล็กให้พอยืนชมวิวได้

ห้องตัวอย่างแบบนี้โครงการเค้าทำมาให้ดูแค่ส่วนนึงเท่านั้น (ตามเส้นปะ) คือพื้นที่ระเบียงทางเข้าหน้าห้องที่ติดกับ ที่เชื่อมกับ Living Room ครับ

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับส่วนที่เป็นระเบียงทางเดินส่วนตัว ซึ่งปูด้วยกระเบื้องลายไม้แบบนี้ ส่วนผนังด้านข้างของจริงจะเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสี เท็กเจอร์ เหมือนภายนอกอาคาร (อันนี้โครงการเค้าแต่งให้ดูเฉยๆ) ส่วนนี้สามารถทำเป็นสวนแขวนผนังแบบนี้ได้ด้วยนะ

มองย้อนเข้าไปทางเดินระเบียงนี้เชื่อมกับส่วนของทางเข้าห้อง Living Room แบบนี้ กระจกเข้ามุมด้วย เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนแบบ floor to ceiling รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ วงกบอลูมิเนียมสีเทา ผิวซาฮาร่า

ส่วนของบริเวณระเบียงด้านนอกตรงนี้ มีพื้นที่เก็บคอมแอร์แบบเป็นสัดส่วน 2 ตัว เหมือนกับแบบห้อง 1 Bedroom

**สามารถดูแบบห้องทั้งหมดได้ที่ Official Website (คลิ๊ก) ของโครงการได้ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 March 2015

• Type 1B3 / ทิศ S / ชั้น 2 / เนื้อที่ 39.85 ตร.ม. / ราคา 3.39 ล้านบาท หรือ 85,250 บาท/ตร.ม.
• Type 1B1 / ทิศ S / ชั้น 4 / เนื้อที่ 40.18 ตร.ม. / ราคา 3.58 ล้านบาท หรือ 89,250 บาท/ตร.ม.
• Type 1B3 / ทิศ S / ชั้น 5 / เนื้อที่ 40.18 ตร.ม. / ราคา 3.62 ล้านบาท หรือ 90,250 บาท/ตร.ม.
• Type 2X / ทิศ S,W / ชั้น 5 / เนื้อที่ 77.89 ตร.ม. / ราคา 7.09 ล้านบาท หรือ 91,100 บาท/ตร.ม.
• Type 1C2′ / ทิศ N / ชั้น 8 / เนื้อที่ 32.39 ตร.ม. / ราคา 3.29 ล้านบาท หรือ 101,650 บาท/ตร.ม.
• Type 2Y / ทิศ S,E / ชั้น 8 / เนื้อที่ 63.80 ตร.ม. / ราคา 6.00 ล้านบาท หรือ 94,150 บาท/ตร.ม.

 

• Fully Furnished
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• เพดานสูง 2.4 เมตร
• จอง 10,000 บาท
• ทำสัญญา 50,000 บาท
• ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 10 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตารางเมตร/เดือน (ชำระล่วงหน้า 12 เดือน)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

เจาะลึกรวบยอด

สำหรับโครงการ Formosa Ladprao 7 ถ้าให้เทียบกับโครงการรอบๆ หนึ่งในตัวเปรียบเทียบที่กำลังจะปิดการขาย คงจะเป็น Lugano Ladprao18 ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในซอยประมาณ 600 เมตร แต่มีดีที่ว่าซอยลาดพร้าว 18 นั้นจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งร้านอาหารริมทางยาวเกือบทั้งซอย และเป็นซอยทะลุออกได้หลายทาง ราคาเฉลี่ยเลยไปตกอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 79,000 บาท ซึ่งเมื่อเทียบราคาพอๆกันดูแล้ว ของเราจะเฉลี่ยอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 87,000 บาท แต่วัสดุถ้าเปรียบเทียบกันเราได้ค่อนข้างดีกว่า และใกล้ถนนหลักมากกว่า

Formosa Ladprao 7 อยู่ในทำเลลาดพร้าวตอนต้นฝั่งซอยเลขคี่ที่มีความสะดวกในการเดินทาง มีแหล่งของกินของใช้มากมาย ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว เป็นทำเลที่เหมาะสำหรับคนทำงานในบริเวณเส้นวิภาหรือแถวๆห้าแยกลาดพร้าว หรือถนนรัชดาช่วงไม่ไกลจากแยกรัชดาลาดพร้าวมากนัก ซอยลาดพร้าว 7  นี่เป็นซอยตันซึ่งตัวโครงการอยู่เข้าไปแค่นิดเดียว ข้อดีคือมันจะไม่พลุกพล่ายวุ่นวายสงบ ข้อเสียคือภายในซอยจะไม่มีแหล่งของกิน ต้องออกมาถนนลาดพร้าวเท่านั้น บนถนนลาดพร้าวมีทั้ง ร้านสะดวกซื้อ, ตลาดสด ศูนย์การค้า ตลาดนัดสุดสัปดาห์ พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยในแนวราบและมีคอนโด High Rise ในระยะประชิดด้วย

โครงการอยู่ในซอยประมาณ 70 เมตร ถือว่าไม่ลึกเท่าไรเดินได้ สำหรับคนที่ไม่ใช้รถส่วนตัวมากนัก จะมีรถไฟใต้ดิน 2 สถานีในบริเวณใกล้เคียง ทั้งสถานีพหลโยธิน และ ลาดพร้าว แต่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดเดินสบายระยะทางทั้งสองฝั่งคือ 670 และ 800 เมตร ทางโครงการเค้ามี Shuttle Bus มาเสริมในส่วนตรงนี้ คือรถจะวิ่งตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม วิ่งไปที่ MRT ลาดพร้าวแล้วไปกลับรถรัชดาวิ่งกลับมาที่ MRT พหล แล้วกลับรถใต้สะพานกลับมาที่โครงการ หรือถ้าจะใช้บริการพี่วิน, รถเมล์, Taxi ที่อยู่หน้า BigC ก็ได้นะครับ ใกล้ดีแค่ประมาณ 100 เมตร

เอาจริงๆทำเลแถวนี้การเดินด้วยรถยนต์และระบบสาธารณฯจะสะดวกมากกว่า ซึ่งมันสารถเชื่อมต่อกับเส้นทางหลายๆทางเช่นไปลาดพร้าวตอนปลาย รัชดาฯ รัชโยธิน พหลโยธิน และวิภาวดีรังสิต แต่จะมาติดหนักมากๆประมาณช่วงเย็นหลังเลิกงานเวลาประมาณ 18.00 – 20.00 น. และจะติดฝั่งเดียวกับหน้าโครงการเราซะด้วย ช่วงระหว่างห้าแยกลาดพร้าวกับแยกรัชดา-ลาดพร้าว ใครจะเดินทางกลับช่วงเลิกงานก็วางแผนเวลากันหน่อย

วัสดุของโครงการนี้จัดมาเต็มที่คือขายแบบ Fully Furnished พร้อมตกแต่งเรียกว่ามาครบพร้อมยกกระเป๋าจริง เริ่มจากได้ Digital Door Lock ของ YALE พื้นส่วนครัวและพักอาศัยเป็น Engineer Wood 14mm. ระเบียงเป็นกระเบื้องลายไม้ ห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. สุขภัณฑ์และก๊อกเป็นของ American Standard ติดเครื่องทำน้ำร้อนแบบท่อฝังผนังมาเรียบร้อย ชุดครัวเป็นของ Starmark ได้ทั้งเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน พื้นเคาท์เตอร์ท็อปเป็นหินสังเคราะห์ หน้าบานเป็น High Gloss บานปิดแบบ Soft Close หรือห้องที่ Fully Furnished ผนังกั้นห้องนอนและระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่วงกบอลูมิเนียมแบบ floor to ceiling ด้วย

การออกแบบ ตัวตึกออกแบบมาดี ใช้โทนสีขาว ครีม ตัดน้ำตาล มีชั้นจอดรถใต้ดินและชั้น 1 ที่จอดรถประมาณ  49 คันคิดเป็น  51% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 64% ส่วน Facility จะมีห้อง Libraly ติดกับ Lobby ชั้น 1 ส่วนของ Swimming Pool , jacucci และ Fitness อยู่ที่ชั้น 2 ดาดฟ้ามีสวน Garden Roof ทั้งหมด การแบ่งซอยห้องต่างๆเกิดจากรูปร่างของอาคาร ทำให้ซอยห้องออกมาเป็นหลายแบบ แต่ละแบบก็เหมาะสมกับผู้พักอาศัยแต่ละสไตล์

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 81,000 บาทต่อตารางเมตร, 3 March 2015

• ทำเล 7.5/10 – ทำเลย่านลาดพร้าวตอนต้น อยู่ในซอยแต่ไม่ได้ลึกมาก อยู่ตรงกลางระหว่างทุกจุดสำคัญ ติดกับห้าง ใกล้แหล่งอาหารการกินริมถนนช่วงด้านหน้า
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ค่อนข้างสะดวกอยู่ใกล้ถนนหลัก ช่วงเช้ากลางวันการจราจรคล่องตัว แต่จะติดสาหัสช่วงเลิกงานบริเวณห้าแยกฯ และแยกรัชดา-ลาดพร้าว
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ไม่อยู่ในระยะเดินไปสถานีของระบบขนส่วนมวลชน แต่มี shuttle bus รับส่งสถานีมาเสริม หน้า BigC มีจุดให้เรียกพี่วิน, รถเมล์ และ Taxi
• วัสดุ 8.25/10 – วัสดุได้มาแบบจัดเต็มและค่อนข้างดีถ้าเปรียบเทียบกับราคาโครงการแถวนี้ ได้แบบ Fully Furnished พร้อมตกแต่งนี่ยกกระเป๋าเข้าอยู่ได้จริงๆเลย
• แบบ 8/10 – แบบห้องหลากหลาย ทำให้ขนาด Function แต่ละห้องมีทั้งลงตัวและไม่ลงตัวไปบ้าง จำนวนยูนิตรวมไม่เยอะมาก อยู่กันแบบสบายๆ ไม่อึดอัด มี Privacy และลงทุนมีที่จอดรถชั้นใต้ดินและยก Facility ไปอยู่ชั้น 2 และบนดาดฟ้าเป็นสวน
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาค่อนข้างครบทุกฟังก์ชั่น สำหรับคอนโด Low Rise, Facility หลักอยู่ชั้น 1-2 ชั้นบนสุดดาดฟ้าเป็นสวน

• MAIN CLASS
• 7.75 / 10.00

BOTTOM LINE

Formosa Ladprao 7 เหมาะกับคนที่ชินอยู่กับโซนพื้นที่เดิมแถวลาดพร้าวตอนต้น อยู่ไม่ไกลจากห้างและแหล่งของกินในระยะเดินมากนัก เดินทางโดยรถยนต์และรถสาธารณะ เป็นหลัก สามารถใช้รถไฟฟ้าบ้างเป็นครั้งคราว มองหาโครงการที่อยู่ในซอยไม่ไกลจากถนนใหญ่มาก เงียบสงบหน่อยไม่สนวิวรอบข้างเท่าไรนัก มีงบประมาณระดับ 2.9 – 6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนราว 20,000 – 42,000 บาท

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ