Feature Image ต้นฉบับ (1)

รีวิวฉบับที่ 767 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมโฮมออฟฟิศแนวโมเดิร์นโทนเข้มขรึมกัน โครงการนี้มีชื่อว่า DISTRICT Sriwara จาก AP Property ตัวโครงการนั้นขายแบบ Bare Shell เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น พร้อมที่จอดรถ 6 คัน มีทำเลอยู่ติด ถนนศรีวรา ในย่านรามอินทรา-เลียบทางด่วน ใจกลาง ทาวน์ อิน ทาวน์ ซึ่งที่ DISTRICT Sriwara นี้เค้าจะทำเป็นรูปแบบ “บ้านแฝด” แทนที่จะเป็นโครงการ “ทาวน์เฮ้าส์” แบบที่หลายๆที่ในย่านนี้เค้าชอบสร้างกัน ทำให้ฟังก์ชั่นของแต่ละยูนิตสามารถจัดออกมาให้มีพื้นที่ใช้สอยได้ค่อนข้างเยอะ เพราะมีขนาดที่ดินใหญ่ รายละเอียดจะเป็นอย่างไร อ่านได้ในรีวิวเลยครับ

Fact @ 3 February 2015

  • DISTRICT – Sriwara (ดิสทริค – ศรีวรา)
  • บริษัท เอพี(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • Segment : LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : วังทองหลาง
  • เนื้อที่โครงการ 6-3-03.9 ไร่ จำนวน 36 ยูนิต
  • บ้านแฝด 4 ชั้น
  • Type C พื้นที่ใช้สอย 460 ตารางเมตร หน้ากว้าง 8.8  เมตร  7 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 48 ตารางวา
  • Type B พื้นที่ใช้สอย 490 ตารางเมตร หน้ากว้าง 10.8 เมตร  7 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 51 ตารางวา
  • Type D พื้นที่ใช้สอย 540 ตารางเมตร หน้ากว้าง 10.8 เมตร  7 ห้องน้ำ 6 ที่จอดรถ ที่ดินเริ่มต้น 57 ตารางวา
  • ราคาเริ่มต้น 25.9 ล้านบาทหรือ 520,833 บาท/ตร.วา
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี 2557
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2558
  • http://goo.gl/NQrtl6
  • Call Center : 1623
  • สำนักงานขาย : 02-5399387

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.767309, 100.604488

แผนที่โครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนนศรีวราที่อยู่ระหว่างถนนประชาอุทิศ(รามคำแหง 39) หรือ ซอยวัดเทพลีลา กับถนนอินทราภรณ์ อยู่ใกล้กับโครงการทาวน์ อิน ทาวน์ และใกล้ถนนหลักอย่างถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) ในแผนที่จะแสดงสถานที่สำคัญต่างๆไว้เช่น

แผนที่ระยะไกล

ทำเลของโครงการนั้นอยู่บนถนนศรีวรา ใกล้กับแยกศรีวราและแยกประชาอุทิศ ถนนหลักที่ใกล้ที่สุดคือถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) เนื่องจากถนนศรีวราเป็นแหล่งที่ตั้งของเหล่าอาคารสำนักงานทั้งหลายมากมาย เพราะมีโครงการบุกเบิกอย่างทาวน์ อิน ทาวน์ ซึ่งเป็นโครงการแรกบนถนนเส้นนี้ที่ทำเป็นโฮมออฟฟิศ ทำให้มีผู้คนอยู่อาศัยในบริเวณนี้มากมาย รวมถึงโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร และ Community Mall อย่าง the SCENE และ Tesco Lotus ที่อยู่บนถนนศรีวราเลย ถนนแถวนี้ยังสามารถลัดเลาะเชื่อมต่ออกไปถนนใหญ่ได้หลายเส้นเช่น ไปถนนรามคำแหงผ่านทางถนนประชาอุทิศ(รามคำแหง 39) หรือไปถนนลาดพร้าวผ่านทางถนนอินทราภรณ์เชื่อมซอยลาดพร้าว 94, 112 ได้ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทราอีกด้วย

รถสาธารณะบนเส้นศรีวรานั้นไม่มีนะครับ จากการสอบถามคนพื้นที่มา แต่ด้วยที่ว่าตัวโครงการของเราอยู่ใกล้กับแยกศรีวราห่างกันประมาณ 150 เมตร ยังถือว่าพอเดินได้เพราะเส้นประชาอุทิศ(รามคำแหง 39) นั้นมีรถกระป๊อครับ เจ้ารถกระป๊อนี่วิ่งอีกเส้นนึงคือถนนอินทราภรณ์ไปถึงถนนรามคำแหงครับ นอกจากนี้ยังมีเรือโดยสารคลองแสนแสบที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วย

แผนที่ท่าเรือ

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการเดินทางอีกแบบนึงสำหรับที่คนต้องการหลีกเลี่ยงรถติดแล้วมาแถวศรีวรานี้ นั้นคือเส้นทางของ “เรือด่วนแสนแสบ” ใครที่กลัวรถติดก็เลี่ยงมาใช้บริการเค้าได้ครับ แต่ในชั่วโมงเร่งด่วนจะมีผู้โดยสารหนาแน่นหน่อยนะ จากแผนที่เส้นทางเรือโดยสารคลองแสนแสบสายนิด้า ท่าเรือที่ใกล้โครงการคือ ท่าเรือวัดเทพลีลา ซึ่งถ้าเรามาลงท่าเรือนี้จะอยู่ในพื้นที่ของวัดเทพลีลาซึ่งติดกับถนนประชาอุทิศ(รามคำแหง39) และสามารถนั่งสองแถวหรือมอเตอร์ไซต์รับจ้างได้เลย ระยะห่างจากวัดเทพลีลาไปถึงตัวโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร

แผนที่การเดินทาง

การเดินทางในวันนี้ ผมเริ่มจากถนนลาดพร้าว จุดเริ่มต้นบริเวณสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว และก็ขับตรงยาวมาเรื่อยๆ จนเจอสี่แยกตัดทางด่วนรามอินทรา ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) หลังจากนั้นวิ่งไปประมาณ 1.7 กิโลเมตรจะเจอจุดกลับรถ (สังเกตุ Tesco Lotus Extra อยู่ซ้ายมือ) พอกลับรถมาแล้วให้เราวิ่งตรงมาแล้วขึ้นสะพานข้ามแยกถนนลาดพร้าว ตรงไปเรื่อยๆตามป้ายถนนประชาอุทิศ และจุดสังเกตสุดท้ายคือโรงแรม SC Park Hotel ให้ชิดซ้ายสุดเจอแยกประชาอุทิศ แล้วเลียวซ้ายไปประมาณ 140 เมตรเจอกับแยกศรีวรา เลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าสู่ถนนศรีวรา ประมาณ 150 เมตร ก็จะเจอตัวซุ้มโครงการอยู่ฝั่งขวามือครับ

แผนที่แยกประชาอุทิศ

จากตรงนี้ “แยกประชาอุทิศ” ผมทำแผนที่ให้ดูไปจนถึงโครงการ พอเลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาอุทิศประมาณ 140 ม. จะเจอกับแยกศรีวรา แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที ก็จะเจอกับตัวโครงการแล้วอยู่ฝั่งขวามือ  เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ

เริมต้นจากถนนลาดพร้าวด้านหน้าเป็นแยกรัชดา-ลาดพร้าว มุ่งหน้าตรงไปเขตบางกะปิ

ให้เราตามป้ายรามอินทราไปนะครับ ตรงอย่างเดียวเลย

จุดสังเกต ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) คือป้ายซอยลาดพร้าว 71

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) แล้วขับตรงไปประมาณ 1.7 กิโลเมตร เพื่อกลับรถ

ระหว่างขับมาจะเจอกับ HOMEPRO อยู่ซ้ายมือ

ถึงจุดกลับรถแล้ว มีป้ายสังเกตคือห้าง Tesco Lotus Extra อยู่ซ้ายมือ เป็น Lotus ที่มีที่จอดขนาดกว้างมากๆ

พอกลับรถมาแล้วให้ขับยึดตามป้าย “ประชาอุทิศ”

ชิดขวาเตรียมขึ้นสะพานข้ามแยกลาดพร้าว

ขึ้นสะพานมาแล้วก็ขับตรงไปเลยยาวๆครับ

สภาพแวดล้อมริมถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนรามอินทรา) ช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ปั๊มน้ำมัน สวนอาหาร โรงแรม เป็นต้น การจราจรจะค่อนข้างหนาแน่นหน่อยนะครับ เนื่องจากเป็นช่วงเดินทางเข้าตัวเมืองไปทางพระราม 9 และเพชรบุรี อีกทั้งอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนด้วย

ขับตรงมาเรื่อยๆครับ ตามป้าย

เจอ Health Land อยู่ซ้ายมือ เผื่อใครชอบนวดนะครับ

ป้ายบอกทางก่อนถึงแยกประชาอุทิศ ของเราต้องเลี้ยวซ้ายนะครับ เตรียชิดซ้ายไว้เลย

เจอโรงแรม SC PARK แล้วอยู่เลนซ้ายสุดไว้เลยครับ

เส้นทางที่เราจะเลี้ยวซ้ายเป็นเส้นทางลัดไปออกถนนรามคำแหง นั้นคือถนนประชาอุทิศเชื่อมกับซอยรามคำแหง 39 (วัดเทพลีลา) นั้นเอง ถ้าเลี้ยวขวาจะไปสี่แยกเหม่งจ๋าย รัชดาภิเษก ห้วยขวาง ตรงไปเป็นพระราม 9 นะ

ถึงแยกประชาอุทิศแล้ว เลี้ยวซ้ายเลยครับ

พอเลี้ยวมาเจอป้ายบอกทาง ให้เราเตรียมชิดซ้ายไว้

เจอกับสี่แยกศรีวรา ให้เราเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนศรีวรา หัวมุมซ้ายมือเป็น 7-Eleven

สภาพแวดล้อมฝั่งซ้ายมือจะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น มีชั้นลอยเป็นร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ ร้านซ่อมรถ ตัดเย็บเสื้อผ้า ขายผลไม้ ส่วนฝั่งขวานั้นเป็นพวกเพิงร้านค้าและบ้านชั้นเดียวตรงส่วนนี้เรียกว่าชุมชนน้อมเกล้าเป็นที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตัวถนนเป็นถนนลาดยาง 4 เลน ริมฟุตบาทจอดรถได้ซ้ายขวา

ขับมาเพียงนิดเดียวก็เจอกับโครงการเราแล้วอยู่ฝั่งขวามือ ด้านหน้าจะมี Family Mart ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ และสนง.ขายครับ แต่เดี๋ยวผมจะขอขับพาไปดูบนถนนศรีวราจนสุดเส้นก่อน ว่าบนถนนเส้นนี้มีความเจริญอะไรบ้าง

แผนที่ไปสุดศรีวรา

เริ่มจากหน้าโครงการเราจะวิ่งไปจนสุดแล้วเจอสามแยกตัดกับถนนอินทราภรณ์นะครับ

เยื้องๆกับโครงการเราฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าโรงแรม SC Park ฝั่งถนนศรีวรา

ฝั่งขวามือที่เห็น เป็นโฮมออฟฟิศเหมือนกัน Habitat ศรีวรา

เลยมาอีกหน่อยจะเป็นทางเข้าโครงการทาวน์ อิน ทาวน์ ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้ง โฮมออฟฟิศเจ้าในแรกๆบนถนนเส้นนี้  เห็นไหมว่าบนถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยแหล่งออฟฟิศต่างๆมากมายจริงๆ เวลาเลิกงานคงรถติดน่าดูทีเดียว

มีไปรษณีย์ ศรีวรา ให้ใช้บริการกันด้วยนะ

ขับมาเจอกับสามแยกถ้าเลี้ยวซ้ายเป็นทางไปออกถนนเลียบด่วนรามอินทราได้ ส่วนฝั่งขวามือนั้นเป็น เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ J.W. Boulevard ครับ

ตรงมาอีกหน่อยฝั่งขวาจะเป็นร้านอาหารเจ้าดังบนถนนเส้นนี้ “อบอร่อย” เห็นว่าใครที่อยู่แถวนี้รู้จักกันเกือบทุกคน ตรงข้ามเป็นธนาคารธนชาตินะ

ซ้ายมือจะเป็นทางเข้าโรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์นะครับ มีพี่วินตั้งประจำการอยู่

เลยโรงแรมมานิดเดียวฝั่งขวาจะเป็นห้างใหญ่ของถนนเส้นนี้คือ the SCENE  ส่วนฝั่งตรงข้ามห้างจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ร้านต่างๆ

ขับมาจนสุดถนนศรีวรากันแล้วเป็นสามแยกที่ตัดกับถนนอินทราภรณ์ หัวมุมฝั่งขวาเป็นทางเข้าห้าง Tesco Lotus ครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เลี้ยวขวาจะไปถนนรามคำแหง หรือทางลัดออกถนนลาดพร้าวได้

แผนที่รอบข้าง

มาดูเรื่องวิวรอบๆโครงการกันบ้าง โดยทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้านหน้าโครงการจะติดกับ แนวบ้านแฝด 3 ชั้น แต่ช่วงตรงกลางถึงสุดท้ายโครงการจะเป็นวิวที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น และเห็นตัวอาคารโฮมออฟฟิศของทาวอินทาวน์ไกลๆ ส่วนฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับแนวคลองวัดตึกกว้างประมาณ 20-30 เมตร ด้านหลังคลองอีกฝั่งจะติดกับโฮมออฟฟิศของทาวอินทาวน์เช่นกัน ส่วนของทิศใต้ทั้งหมดจะติดกับชุมชนน้อมเกล้า ซึ่งเป็นที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทั้งผืน ด้านหน้าจะเป็นเพิงร้านค้าและบ้านชั้นเดียว ตรงกลางจะเป็นห้องแถว 2 ชั้น(หลังคาน้ำเงิน) ช่วงท้ายๆจะเป็นบ้านเดียวชั้นเดียว ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือฝั่งด้านหน้าโครงการเราจะติดกับถนนศรีวราและแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นบังทั้งหมด เดี๋ยวเราไปดูพื้นที่รอบๆของจริงกันดีกว่า

**รูปแผนที่รอบโครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือส่วนที่ติดกับรั้วโครงการเราจะเป็นซอยส่วนบุคคลนะครับ ด้านหน้าโครงการจะติดกับ แนวบ้านแฝด 3 ชั้น(อาคารสีขาว) แต่ช่วงตรงกลางถึงสุดท้ายโครงการจะเป็นวิวที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น แต่ยังไม่ทราบว่าจะพัฒนาเป็นอาคารแบบไหน

ส่วนของทิศใต้ทั้งหมดจะติดกับชุมชนน้อมเกล้า ด้านหน้าจะเป็นเพิงร้านค้าและบ้านชั้นเดียว ตรงกลางจะเป็นห้องแถว 2 ชั้น เต็มไปหมด ช่วงท้ายๆจะเป็นบ้านเดียวชั้นเดียว ซึ่งเห็นแบบนี้แล้วแน่นไปหมดเลย

ฝั่งทิศตะวันตกด้านหน้าของโครงการจะติดกับแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ทั้งหมด เต็มไปด้วยร้านต่างๆที่กล่าวไปตอนต้น

แนวอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามจะยาวไปจนถึงแยกศรีวราเลยนะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Family Mart ~ หน้าโครงการ
  • 7-Eleven ~ 130 ม.
  • SC park Hotel ~ 180 ม.
  • ทาวน์ อิน ทาวน์ ~ 230 ม.
  • ไปรษณีย์ศรีวรา ~ 550 ม.
  • โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ ~ 850 ม.
  • the SCENE ~ 850 ม.
  • โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร ~ 900 ม.
  • TESCO LOTUS ~ 1.1 กม.
  • โรงเรียนอุดมศึกษา ~ 1.2 กม.
  • วัดเทพลีลา ~ 1.5 กม.
  • โรงเรียนบดินทรเดชา ~ 2 กม.
  • Big C รามคำแหง ~ 2.2 กม.
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 2.5 กม.
  • Big C ลาดพร้าว ~ 2.6 กม.
  • ราชมังคลากีฬาสถาน ~ 3.3 กม.
  • สนง.เขตวังทองหลาง ~ 3 กม.
  • รพ.ลาดพร้าว ~ 4.1 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

Master_Plan_Final 8.10.14 PM

เริ่มจากเรามาดู Master Plan ก่อน  ด้วยความที่ที่ดินของโครงการเป็นลักษณะแคบลึก ทางโครงการก็จัดผังง่ายๆโดยให้มีถนนเส้นหลักกว้าง 9 เมตร อยู่ตรงกลางหมู่บ้าน และวางแปลงบ้านเอาไว้สองฝั่งตลอดแนวที่ดิน มีจุดกลับรถ 4 จุดอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งก็ทำให้เข้าใจง่ายดี ขับรถเข้าไปตรงๆอย่างเดียวก็เจอบ้านทุกหลังแล้ว ท้ายโครงการติดกับคลองวัดตึกมีสวนสาธารณะของโครงการอยู่ด้วย จากด้านหน้าถึงด้านหลังโครงการบริเวณสวนหย่อม มีความลึกราวๆ 260 เมตร ด้านหน้าจะเป็น Shop Family Mart ส่วนกลาง อยู่ติดกับซุ้มทางเข้า และก็มี Sale Office ที่หลังจากปิดการขายแล้วแจ้งว่าจะเป็นอาคารนิติบุคคล

เริ่มกันจากซุ้มทางเข้าโครงการ มีทำทางเดินเท้าเข้าโครงการแยกจากทางเข้า-ออกรถอีกทีทางซ้ายมือ

ระบบความปลอดภัยทางเข้าออกเป็น Access card ระยะใกล้ มีรั้วกั้นไม้กระดก 2 ฝั่งขาเข้า – ออก มี CCTV 4 จุด บริเวณพื้นทางเข้าเป็นพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamp Concrete)  มีรปภ.รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.หน้าโครงการ 2 คน

ด้านหน้าโครงการฝั่งขวา เป็น Family Mart ส่วนกลางที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้เผื่อหาของกิน หรือของใช้เล็กๆน้อย สะดวกดี

ส่วนฝั่งซ้ายเป็น Sale Office โทนสีเทา เน้นกระจก ซึ่งถ้าอีกหน่อยปิดการขายจะกลายเป็นนิติบุคคล

ทางขึ้น Sale Office เป็นบันไดปูนขัดมันฝังด้วยไฟส่องทางเดิน

พอเข้ามาจะเป็นอาคารรับรองลูกค้า ภายในโทนสีขาว มีเก้าอี้นั่งรอได้ประมาณ 4-6 คน

มีห้องน้ำรับรองแขกให้ใช้ 1 ห้อง เป็นห้องน้ำรวม

ภายในห้องน้ำเป็นผนังปูนเปลือยขัดมัน พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาๆคล้ายๆผนัง

ชั้นบนตอนนี้เป็น Sale Office อีกหน่อยจะเป็นส่วนนิติบุคคลครับ

มาดูถนนภายในโครงการกันบ้าง พอพ้นรั้วกั้นจะเจอถนนคอนกรีต กว้างประมาณ 9 เมตร เป็นแนวยาวตลอดจนถึงท้ายโครงการ ลักษณะของตัวบ้านก็จะหน้าตาแบบนี้ครับ เป็นบ้านแฝด วางเรียงกันเป็นคู่ๆ สองฝั่ง ยาวเข้าไปถึงด้านในสุดเลย ด้วยความที่ได้ถนนหลักกว้าง 9 เมตร ถ้ามีใครมาจอดรถหน้าบ้านกันทั้ง 2 ฝั่งอาจจะเกิดปัญหาได้ คงต้องให้ทางนิติบุคคลจัดการระเบียบให้ดี แต่ก็ยังดีที่โครงการออกแบบมีจุดกลับรถไว้ให้

ข้อสังเกตอีกอย่างคือ เสาไฟฟ้าภายในโครงการ วางไว้แค่ฝั่งเดียวของถนนนะครับ ซึ่งจะเป็นฝั่งซ้ายมีเสาไฟฟ้าวางอยู่หน้าบ้าน ส่วนบ้านที่อยู่ฝั่งขวาจะไม่มีเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน ทำให้เวลามองดูแล้วจะสะอาดตามากกว่า แบบนี้ครับ

จุดกลับรถภายในโครงการ กว้างประมาณ 2.5 เมตร มีอยู่ 4 จุด ตามฝั่งทางซ้าย ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณบ้านแบบ C

ปัจจุบันตอนที่เข้าไปรีวิว โครงการยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ทำให้เข้าไปถ่ายได้แค่ส่วนด้านหน้าที่สร้างเสร็จแล้ว ส่วนกลางๆจนถึงด้านหลังยังไม่สามารถเข้าไปได้ ก็จะมีรูปให้ดูเท่านี้ก่อน ส่วนที่เป็นสวนสาธารณะเค้ามีแผนที่จะสร้างทีหลังสุด หลังจากสร้างตัวบ้านเสร็จทั้งหมดก่อน แต่ถ้าดูจากมุมสูงนี้จะเห็นว่าภาพรวมโครงการก็สร้างไปเยอะแล้วพอสมควร ในส่วนของข้อกำหนดธุรกิจในการเปิดก็มีกฏข้อห้าม ธุรกิจประเภทบันเทิง, ส่งเสียงดัง และห้ามส่งกลิ่นเหม็นรบกวนผู้อื่น ส่วนข้อกำหนดเรื่องการติดตั้งป้ายทางโครงการแจ้งว่าต้องรอจัดตั้งนิติบุคคลก่อนแล้วจะแจ้งรายละเอียดอีกที ปัจจุบันยังไม่ได้กำหนดอะไรครับ

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะบริเวณท้ายโครงการ เนื้อที่ 109.9 ตารางวา
  • รั้วรอบโครงการคสล.สูง 2.5 เมตร แล้วรั้วไม้ระแนงต่อเติมเพิ่มอีก 2 เมตร
  • กล้องวงจรปิด CCTV หน้าโครงการ 4 จุด ภายในโครงการอีก 11 จุด
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก  Access card ระยะใกล้
  • ถนนหลักกว้าง 9 เมตร จุดกลับรถภายในโครงการ 4 จุด
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • Family Mart ด้านหน้าโครงการ

 

 


Product Walkthrough

1PlanB

มาดูแบบแปลนอาคารกัน บ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูกัน เป็นบ้าน Type B ครับ (ฝั่งซ้าย) ตัวบ้านจะขายแบบ Bare-shell คือ ไม่มีอะไรให้เลย เป็นห้องเปล่าๆ เปล่าๆจริงๆ ไม่ได้กั้นห้อง ไม่มีผนัง ตัวอาคารหน้ากว้าง 10.8 เมตร ชั้น 1 จะทำเป็นส่วนจอดรถครึ่งนึง(ฝั่งที่ติดกับหลังข้างๆ) สามารถจอดได้สูงสุด 6 คัน โดยจอดซ้อนแถวละ 2 คัน 3 แถว มีห้องเก็บของอยู่ด้านข้างที่จอดรถ ด้านข้างที่ติดกับรั้วบ้านจะปูหญ้าไว้ให้ มีประตูห้องเก็บของด้านข้าง และประตูบันไดหนีไฟ ด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นคอนกรีตเปล่า ด้านหน้ามีเฉลียงอยู่ก่อนเข้ามาในตัวบ้าน ภายในจะเป็นห้องโถงเล็กๆเอาไว้สำหรับส่วนมาติดต่อ ซึ่งมีห้องน้ำให้ 1 ห้องติดกับทางขึ้นบันได ความสูงจากพื้นถึงคานชั้น 1,3,4 ประมาณ 2.8 เมตร

ส่วนชั้น 2 ก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆที่ไม่ได้กั้นผนังเช่นเดียวกั้น มีแต่ห้องน้ำ 2 ห้อง โดยที่ห้องน้ำของชั้น 2 – 3 จะไม่มีฟังก์ชั่นสำหรับอาบน้ำ แต่จะเพิ่มโถปัสสาวะชายมาให้ สำหรับการใช้งานแบบออฟฟิศ และมีประตูทางออกบันไดหนีไฟ ความสูงจากพื้นถึงคานประมาณ 3.15 เมตร ส่วนชั้น 3 จะเหมือนกับชั้น 2 ทุกอย่างต่างที่ความสูงจากพื้นถึงคานเท่านั้น ชั้น 4 ก็เหมือนกับชั้น 2 และ 3 ที่ต่างกันก็จะมีทำฝ้าเพดานยิปซั่มบอร์ดมาให้ และก็ชั้นนี้จะมีระเบียงมาให้ ที่กั้นด้วยกระจกนิรภัย

บ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูกัน เป็นบ้าน Type B ครับ (ฝั่งซ้าย) ซึ่งแบบบ้าน Type B นั้นจะติดกับแบบ Type C ทุกยูนิตอยู่ฝั่งซ้ายนะครับภายนอกโทนสีที่ใช้เป็นสีเทาตัดกับสีปูนเปลือยเน้นบานกระจกรับแสงเพื่อให้ดูโปร่งไม่อึดอัด เราสามารถใช้ตรงนี้เป็น Window Display ให้กับหน้าร้านได้ด้วย ส่วนชั้น 3 จะมีระแนงกั้นสายตาไว้ครึ่งนึง ตัวบ้านเป็นบ้านแฝด 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 490 ตารางเมตร บนที่ดินขนาดประมาณ 51.2 ตารางวา หน้าอาคารกว้าง 10.8 เมตร ที่จอดรถ 6 คัน ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ ยูนิตแต่ละแปลงของที่นี่มีขนาดที่ดินร่วม 50 ตารางวา คือเกือบจะเป็นบ้านเดี่ยวได้แล้ว แต่เค้าเลือกที่จะสร้างเป็นบ้านแฝด เพื่อให้ได้พื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้นแทน ซึ่งนับว่าน่าสนใจ เพราะบ้าน 50 ตารางวา ได้พื้นที่ใช้สอยเกือบๆ 500 ตารางเมตร นี่ถือว่าพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก

ทางเข้าบ้านเราเป็นแบบนี้เลยนะครับ พื้นหน้าบ้านจะมีการเท Slope เอาไว้นิดนึงด้วย เพื่อไม่ให้น้ำขังภายในลานจอดรถ และให้รถสามารถถอยเข้า-ออกได้ง่าย ไม่มีประตูรั้วหน้าบ้านแบบนี้ ทำให้ตัวบ้านชั้น 1 ดูกว้างและโล่ง แต่ข้อเสียคือมันเสียไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร ใครไม่ชอบอาจจะต้องติดรั้วเพิ่มเติมครับ และอีกสาเหตุที่โครงการไม่ทำรั้วมาให้เพราะจะได้สามารถนำรถเข้าจอด หรือออกจากบ้านได้ง่าย และพร้อมกันหลายๆคัน ด้วยลักษณะที่เป็นบ้านแบบกึ่งสำนักงาน อาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดประตูรั้วหน้าบ้านตลอดเวลาอยู่แล้ว เพื่อต้อนรับลูกค้า

ส่วนของพื้นที่จอดรถจะเป็นพื้นคอนกรีตขัดมันมาให้ ความกว้าง 5.65 เมตร

ที่จอดรถจะมีไฟมาให้ 3 จุดเป็นแบบหลอดนีออนยาว ไม่มีฝ้าเพดานเป็นคานเปลือยทาสีเทา

ด้านข้างมีห้องเก็บของเล็กๆไว้ให้

ด้านหลังบ้านห่างจากแนวรั้วกำแพงบ้านประมาณ 1.5 เมตร มีช่องหน้าต่างบานรับแสงของบันไดหนีไฟ

ส่วนด้านข้างบ้านที่ติดกับรั้วอีกฝั่ง เป็นรั้วคอนกรีตครึ่งทีบครึ่งโปร่งสลับกับเหล็กสูงประมาณ 2 เมตร จะปูหญ้าไว้ให้ ของจริงได้หญ้าจริงนะครับในบ้านตัวอย่างเป็นหญ้าเทียม

ด้านหลังจะมีประตู 2 บาน ทางขวาจะเป็นประตูห้องเก็บของบานอลูมิเนียมสีชา ด้ามจับเป็นแบบก้านมีตัวล็อกกุญแจให้ ข้างผนังมีก๊อกน้ำเล็กๆไว้ให้ 1 จุด ส่วนประตูทางซ้ายเป็นประตูบันไดหนีไฟ

ด้านหน้าบ้านจะมีเฉลียงยกสูงจากพื้นบ้านมาประมาณ 6 ซม.ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม.มาให้ ผนังของฝั่งหน้าบ้านจะใส่เป็นผนังกระจกเกือบทั้งหมด เพื่อให้เกิดความโปร่งโล่ง และดึงแสงสว่างภายนอกเข้ามาภายในบ้านได้มากๆ ด้วยความที่เป็นบ้านแบบกึ่งสำนักงาน อาจจะต้องทำชั้นหนึ่งเป็นส่วนต้อนรับผู้มาติดต่อ หรือทำเป็นหน้าร้าน จึงไม่ใช้ผนังทึบในส่วนของหน้าบ้าน แต่ก็อาจจะต้องทนร้อนหน่อยนะครับ ทางที่ดีหาม่าน, มูลี่ หรือ ฟิล์มลดความร้อนมาติดเพิ่มจะดีที่สุด  ส่วนในแง่ของความปลอดภัย การใส่ผนังกระจกย่อมไม่แน่นหนาเท่ากับการใช้ผนังทึบ ดังนั้นก็อาจจะต้องหาพวกสัญญาณกันขโมย, กล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆมาติดเพิ่มด้วยนะครับ

หน้าตาตู้จดหมายเป็นแบบนี้นะครับ ด้านข้างติดตั้งกริ่งกดเรียกไว้ ด้านบนมีไฟส่องตู้จดหมายไว้ให้

เข้ามาจะเจอส่วนของห้องโถงส่วนนี้เอาไว้ทำเป็นห้องรับรองแขก เป็นส่วนแรกของ Office เอาไว้ติดต่อประสานงานเป็นหลัก อย่างที่บอกไว้ตอนต้นนะครับ โครงการนี้ขายแบบบ้านเปล่า เน้นให้ไปตกแต่งเองนะ พื้นที่ได้จะเป็นคอนกรีตขัดมันทุกชั้น คานที่เห็นด้านบนจะทาสีเทาให้ครับ โคมไฟทั้งหลายเตรียมสายไว้ให้ต้องหามาติดตั้งเองนะ

ด้วยความที่เป็นบ้านแฝด ทุกหลังก็จะเป็นแปลงมุมทั้งหมด ทำให้ได้ผนังเปิดโล่งทั้งด้านหน้า และด้านข้าง พื้นที่ด้านในก็จะได้แสงสว่างเยอะหน่อย ส่วนนี้สามารถตกแต่งสวนด้านหน้าและด้านข้างเพิ่มได้นะ

ส่วนของแอร์ที่เราจะได้มีทั้งหมด 7 ตัวนะเป็นของ Daikin ทั้งหมด โดยชั้น 1 จะได้ 1 ตัว 24,000 BTU / ชั้น 2 จะได้ 2 ตัว ขนาด 36,000 BTU / ส่วนชั้น 3 และ 4 จะได้ชั้นละ 2 ตัว ขนาด 30,000 BTU ครับ

ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องน้ำ และทางขึ้นบันได

ห้องน้ำพื้นปูกระเบื้องขนาด 60 x 60 ซม.มาให้ ด้ามจับเป็นแบบก้านมีตัวล็อกกุญแจมาให้ อ่างล้างหน้า, สุขภัณฑ์ที่ได้ของ KOHLER ทั้งหมด มีพัดลมดูดอากาศของ mitsubishi

บันไดเป็นคอนกรีตขัดมันเช่นเดียวกัน ขอบบันไดติดกันลื่นไว้ให้ ส่วนราวจับกันตกเป็นเหล็กพ่นสีดำ

ชานพักบันได้ชั้น 1 ขึ้นมาชั้น 2 จะมีแบบสามเหลี่ยมแต่ขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่ ยังไงก็ต้องเดินระวังหน่อย

ความกว้างของบันได เดินสวนกันขึ้น-ลง ถือว่าสบายไม่เบียดกัน ทางเข้าสู่พื้นที่ชั้นสองจะเป็นผนังโล่งๆ ไม่ได้กั้นผนังแบบนี้

ขึ้นมาส่วนของชั้น 2 โครงการเค้าตกแต่งมาให้ดูเป็นสไตล์ Loft ซึ่งเน้นความโปร่งโล่งและความดิบของวัสดุ และเน้นการจัดวางของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เคลื่อนที่ หรือเคลื่อนย้ายได้สะดวก เราจึงสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตลอดเวลาก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งนะครับ ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีความสูงจากพื้นถึงคานมากที่สุดคือ  3.15 เมตร  โดยบริเวณชั้น 2 จะเป็นผนังกระจกตลอดแนว เราสามารถใช้ตรงนี้เป็น Window Display ให้กับหน้าร้านได้ด้วย แต่อาจจะต้องติดฟิล์มลดความร้อนเพิ่มด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้ฟิล์มใสๆ ที่ลดอุณหภูมิได้มีเยอะแยะ

พื้นที่ของชั้น 2 เค้าจัดมาให้ดูทำเป็นห้องทำงานแบบโล่งๆ ที่ไม่ได้กั้น Partition โดยจะเป็นเหมือนห้องทำงานรวม ที่ทุกคนอยู่ในห้องเดียวกัน มีโต๊ะกระจุกตัวรวมอยู่ตรงกลาง แล้วให้มีพื้นที่รอบๆโต๊ะ ส่วนบ้านของจริงเราสามารถกั้นพื้นที่ได้ตามใจชอบอยู่แล้ว อันนี้โครงการก็ทำให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆครับ

ด้านหลังจะม่านส่วนนี้จะเป็นห้องน้ำ 2 ห้องและประตูบันไดหนีไฟครับ

ประตูห้องน้ำเป็นบานไม้ HDF

ฟังก์ชั่นของห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้องน้ำชั้น 1 เลย พัดลมดูดอากาศของ mitsubishi

พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากพื้นห้องโถงประมาณ 5 ซม.

เทียบขนาดของอ่างล้างมือให้ดูครับ ในรูปเป็นของ American Standard นะครับ โครงการแจ้งว่าจะได้เป็นของ KOLHER หรือเทียบเท่าครับ

ส่วนห้องน้ำอีกห้องนึง(ฝั่งขวา)ก็เหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ แต่จะมีเพิ่มมาในส่วนโถปัสสาวะชาย คาดว่าทำไว้สำหรับแยกห้องน้ำชายและหญิง

ส่วนของทางเดินขึ้นบันไดไปชั้น 3 ครับ

คราวนี้ได้เป็นชานพักบันไดแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส 2 จุด ดีขึ้นกว่าเดิมครับ

ขึ้นมาชั้น 3 โครงการเค้ากั้นผนังไว้เพื่อจัดฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนให้ดูเป็นตัวอย่างครับ

พื้นที่ชั้น 3 กับชั้น 2 นี่เรียกว่าเหมือนกันเลยก็ว่าได้ครับ แตกต่างเรื่องของความสูงจากพื้นถึงคานชั้นนี้สูงประมาณ 2.8 เมตร บ้านตัวอย่างนี้เค้าใส่โต๊ะทำงานแบบยาวไว้ 2 ชุด

อีกฝั่งนึงจะจัดฟังก์ชั่นเป็นห้องทำงานของห้องผู้บริหาร เนื่องจากผนังกระจกด้านนอกอาคารส่วนนี้มีตัวระแนงกั้นสายตามีความเป็นส่วนตัวอยู่ ทำให้ไม่สามารถมองมาข้างในได้ ส่วนผนังก้ัน Partition ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่เอาไว้สำหรับมองมาห้องทำงานรวมได้

ในส่วนของห้องผู้บริหารตกแต่งมาหน้าตาแบบนี้ครับ ดูไว้เป็นไอเดียตัวอย่างในการตกแต่งก้ได้นะครับ

มุมนี้ถ่ายย้อนไปทางเดินบันได จะเห็นว่าโครงการ Build-In ผนังเป็นตู้ไว้เก็บเอกสารและของต่างๆ

ส่วนด้านหน้าประตูหนีไฟ โครงการจัดเป็นพื้นที่ครัวเล็กๆ เอาไว้เตรียมเครื่องดื่มของว่างหรืออาหารเบาๆ

ฝั่งซ้ายทำเป็นชั้นเก็บของต่าง มีช่องเก็บตู้เย็น และโต๊ะทานอาหารเล็ก 2 ที่นั่ง ส่วนฝั่งขวาทำเป็นชุดเตาน์เตอร์ครัวเล็ก มีอ่างล้างจาน 1 จุด ชั้นวางของด้านบน และตู้ด้านล่าง พวกนี้เราไม่ได้นะครับ ให้ดูเป็นตัวอย่างเฉยๆ ส่วนของงานระบบไฟฟ้า โครงการทำตัวร้อยท่อเหล็กรอไว้ให้ และมีสวิทช์คัทเอาท์

ฝั่งขวามือด้านหลังห้องผู้บริหาร เป็นส่วนของห้องน้ำ

ห้องน้ำเหมือนกับฟังก์ชั่นชั้น 2 ทุกประการครับ

ส่วนของห้องน้ำชาย

ชานพักบันไดที่ขึ้นมาชั้น 4 อันนี้ได้เป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มพื้นที่ เป็นรูปแบบชานพักที่ดี เดินขึ้นลงได้เต็มฝ่าเท้า

มาดูชั้น 4  กันบ้าง พื้นสีดำๆเนี่ยเป็นอีพ็อกซี่นะครับ โครงการทำเป็นตัวอย่างให้ดู ไอ้เจ้าพื้นอีพ็อกซี่มันสามารถทำเป็นสีอะไรก็ได้นะครับ ข้อดีของมันคือดูแลทำความสะอาดง่าย สะดวก ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว พื้นอีพ็อกซี่เหมาะสำหรับคลังสินค้า, พื้นที่ผลิตอุตสาหกรรมหนัก, โชว์รูม แกลเลอรี่ และห้องอาหาร สามารถใช้ได้หลายรูปแบบ ถ้าสนใจก็ทำเองได้นะครับ

ชั้นนี้โครงการกั้นผนังครึ่งนึงด้วยกระจกพ่นทราย เอาไว้เป็นช่องแสงให้ถึงทางเดินบันไดและกั้นแนวสายตาคนเดินขึ้น-ลงไปมาได้ด้วย

ส่วนนี้ทำเป็นผนังประตูไม้ปิดเปิดบังประตูหนีไฟ โทนสีผนังและชุดโต๊ะเป็นสีเทาตัดพื้นสีดำครับ

หลังจากที่เราขึ้นมาที่ชั้น 4 เราจะเจอกับห้องนั่งเล่นเลย โดยที่ไม่มีผนังกั้นส่วนห้องนั่งเล่น กับส่วนโถงบันไดหน้าห้อง ทีนี้มันอาจจะเปลืองแอร์ได้นะครับ แนะนำให้ใส่ผนังกระจกที่เลื่อนปิดได้ เพื่อเป็นการเลื่อนปิดพื้นที่ตรงนี้ เวลาเราเปิดแอร์แอร์จะได้ไม่ทำงานหนัก และห้องจะได้เย็นเร็วด้วย

ฝั่งขวาเค้าจัดมาให้ดูทำเป็นห้องทำงานแบบโล่งๆ โดยจะเป็นเหมือนห้องทำงานรวม ถ้าสังเกตุดีๆชั้นนี้เราจะได้ฝ้ายิปซั่มบอร์ดมานะครับ ส่วนแอร์ที่ได้จะไม่ใช่แบบนี้นะครับ ขอจริงจะเป้แบบแขวนครับ

ถ่ายย้อนให้ดูส่วนที่จัดฟังก์ชั่นโต๊ะทำงานให้ดูเป็นตัวอย่างครับ

ฝั่งซ้ายจัดไว้เป็นโซนนั่งเล่นรับแขกมีชุดโซฟา 3 ที่นั่ง และทำเป็นเหมือนสตูดิโอเอาไว้สำหรับถ่ายรูปคนหรือสินค้าครับ

ส่วนของบานหน้าต่างจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 จุด วงกบอลูมิเนียมสีดำ ด้านบนล่างขนาบด้วยหน้าต่างกระจกปิดตายไว้ มือจับหน้าต่างเป็นแบบเซาะร่องเล็กๆ และตัวล็อกเป็นแบบก้นหอยนะ

ชั้นบนนี้เป็นชั้นเดียวที่มีระเบียงนะครับ ประตูเป็นแบบบานเลื่อน มือจับเปิดเป็นแบบเซาะร่องเช่นเดียวกัน

พื้นที่ระเบียงประมาณนี้ครับ ด้านนอกระเบียงมีร่องระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำขัง และกระจกนิรภัยกันตก ราวจับเป็นเหล็กครับ

ส่วนของพื้นที่ระเบียงพื้นลดระดับลงมาประมาณ 6 ซม.

ด้านบนเป็นหลังคาระแนงเหล็ก พอจะใช้กันแดดได้บางส่วน แต่ไม่กันฝนนะครับแบบนี้ โครงการคงอยากให้มีช่องแสงให้ส่องลงมาได้

มาดูส่วนของห้องน้ำชั้นนี้กันบ้างครับ

เริ่มจากห้องฝั่งซ้ายกันก่อน ฟังก์ชั่นที่มีเพิ่มมาคือส่วนของพื้นที่อาบน้ำ

พื้นจากห้องน้ำลดระดับมาเพียง 2 ซม.

ชุดอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์เหมือนกัน

ส่วนของพื้นที่อาบน้ำพื้นที่ประมาณ 0.8 x 1.35 เมตร กรุผนังกระเบื้องล้อมรอบ

ขนาดของฝักบัวถ้าเทียบกับฝ่ามือ และหัวก๊อกของ COTTO

ห้องน้ำฝั่งขวา เหมือนกับฝั่งซ้ายเป๊ะ แค่สลับด้าน

ออกมาพื้นที่บันไดหนีไฟชั้น 4 ด้านหลังครับ มีหน้าต่างบานกระทุ้งเป็นช่องแสงอยู่ และมีไฟทางเดินหลอดนีออนอยู่ด้านบน (สูงขนาดนี้หลอดไฟขาดเปลี่ยนทีลำบากแย่เลย)

ด้านหลังประตูมีหน้าต่างบานกระทุ้งเป็นช่องแสงอยู่ และมีไฟทางเดินหลอดนีออนขนาดเล็กอยู่

บันไดเป็นชานพักสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่อนข้างดี ช่องตู้ที่เห็นแง้มๆอยู่นั้นเป็นส่วนของงานระบบท่อน้ำครับ

แต่ส่วนของชั้น 2 จะลงไปชั้น 1 จะไม่ได้เป็นบันไดวนแล้ว จะเป็นทางลงยาวลงไปเลยนะครับ

ถึงประตูทางออกไปส่วนข้างบ้านแล้ว เจอหน้าต่างบานกระทุ้งรับแสง อยู่ข้างประตู

1PlanD

แบบแปลน อีกหลังที่จะพาไปดูเป็นบ้าน Type D ครับ (ฝั่งซ้าย) บ้านหลังนี้เป็นแบบบ้านเปล่าที่เราจะได้แบบนี้นะครับ เหลือแค่งานส่วนติดตั้งสุขภัณฑ์และแอร์ครับ ส่วนของฟังก์ชั่นภายในนี้เหมือนกับแบบ B ทุกชั้น จะต่างกันตรงที่แบบ Type D นี้จะมีความยาวของตัวบ้านมากกว่าทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในมากกว่า แต่ข้อเสียของมันคือต้องแลกกับการที่มีเสากลางภายในบ้านเพิ่มขึ้น เดี๋ยวไปดูกันดีกว่าครับ

หน้าตาภายนอกไม่ต่างกัน ของเราหลังซ้ายนะครับ แปลงนี้เนื้อที่ดิน 55.8 ตารางวา เนื้อที่ใช้สอย 540 ตร.ม. ครับ

ทางเข้าหน้าบ้านเหมือนกันทุกหลัง ของจริงจะมีกำแพงคอนกรีตทึบสูง 2 เมตร(ขวามือ)กั้นส่วนที่จอดรถกับหลังแฝดของเรา

พื้นที่จอดรถ 6 คันเท่ากัน

งานท่อระบบน้ำที่เชื่อมมาจากทุกชั้น

ห้องเก็บของส่วนของที่จอดรถ

ภายในห้องเก็บของอยู่ใต้บันไดหนีไฟครับ

ด้านหลังแนวกำแพงแบบชัดๆ รั้วกำแพงเป็นแบบคอนกรีตทึบสูง 2.5 เมตรและต่อเติมไม้ระแนงเพิ่มอีก 2 เมตร

ส่วนด้านข้างของจริงจะปูหญ้าจริงแบบนี้ไว้ให้

ถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำอยู่มุมประตูหนีไฟ อันนี้โครงการให้นะครับ

ประตูทางเข้าด้านหน้าครับ

เข้ามาจะเจอส่วนของห้องโถงเปล่าๆ คานที่เห็นด้านบนจะทาสีเทาให้ครับ เตรียมเดินระบบไฟไว้ให้พร้อมครับ

ถ่ายย้อนกลับไปทางด้านหน้าทางเข้าครับ เหลืองานส่วนติดตั้งแอร์ครับ

ส่วนของห้องน้ำ เหมือนกับบ้านตัวอย่าง เหลือแค่งานส่วนติดตั้งสุขภัณฑ์ครับ ของ KOLHER หรือเทียบเท่า

รูปแบบชานพักบันไดเหมือนกันชั้น 2 เป็นสามเหลี่ยม

ขึ้นมาส่วนของชั้น 2  จะเจอโถงโล่งแบบนี้ เห็นประตูหนีไฟเลยอยู่ซ้ายมือ

อย่างที่บอกไปแล้วส่วนของฟังก์ชั่นภายในนี้เหมือนกับแบบ B ทุกชั้น จะต่างกันตรงที่ ความยาวครับ แบบ Type D นี้จะมีความยาวของตัวบ้านมากกว่าทำให้มีเสากลางภายในบ้านเพิ่มขึ้น เห็นแท่งโดดๆกลางบ้านไหมครับ

มุมนี้ถ่ายย้อนกลับไปทางโถงขึ้นบันได และหน้าห้องน้ำ

ห้องน้ำชั้น 2-3 ภายในเหมือนกัน(ฝั่งซ้าย)

ห้องน้ำฝั่งขวา ที่มีโถปัสสาวะชายครับ

ส่วนของงานไฟฟ้า โครงการทำตัวร้อยท่อเหล็กรอไว้ให้ และมีสวิทช์คัทเอาท์ด้วยทุกชั้น

ชานบันไดของชั้น 2 ขึ้นชั้น 3 ก็เหมือนกัน

ฝั่งซ้ายคือส่วนของห้องผู้บริหารที่พูดถึงในบ้านตัวอย่างแบบก่อนหน้านี้ เพราะว่าจะมีระแนงกั้นสายตา เป็นจุดที่มีความส่วนตัวมากกว่าจุดอื่น ที่เป็นกระจกเกือบทั้งหมด

ชานพักบันไดขึ้นมาชั้น 4 เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มแผ่น

ชั้นบนสุดก็หน้าตาเหมือนกัน มีระเบียงขนาดเท่ากัน แต่ที่แปลกตาอยู่อย่างคือฝ้าเป็นยิปซั่มบอร์ด T-Bar ถามโครงการเค้าบอกจะได้เป็นยิปซั่มบอร์ดแผ่นเรียบนะ

ส่วนของบันไดหนีไฟด้านหลังก็เหมือนกันทุกอย่าง ทั้งความสูง ความกว้าง ตำแหน่งหน้าต่างรับแสง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 03 February 2015

  • Type C แปลง C02 ที่ดิน 48.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 460 ตารางเมตร ราคา 25.9 ล้านบาท หรือ 520,833 บาท/ตร.วา
  • Type B แปลง B02 ที่ดิน 51.1 ตร.วา  พื้นที่ใช้สอย 490 ตารางเมตร ราคา 27.9 ล้านบาท หรือ 545,988 บาท/ตร.วา
  • Type D แปลง P01 ที่ดิน 56.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 540 ตารางเมตร ราคา 29.9 ล้านบาท หรือ 525,483 บาท/ตร.วา

  • จอง 100,000 บาท
  • ทำสัญญา 300,000 บาท
  • ดาวน์ 100,000 ผ่อนดาวน์ 5 งวด
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 200,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 100 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของ DISTRICT Sriwara ตั้งอยู่บนถนนศรีวรา ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของเหล่าอาคารสำนักงานทั้งหลายมากมาย อีกทั้งยังเป็นย่านของโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร และ Community Mall  และถนนแถวนี้ยังสามารถลัดเลาะเชื่อมต่ออกไปถนนใหญ่ได้หลายเส้นเช่น ไปถนนรามคำแหงผ่านทางถนประชาอุทิศ(รามคำแหง 39) หรือไปถนนลาดพร้าวผ่านทางถนนอินทราภรณ์เชื่อมซอยลาดพร้าวได้ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทราอีกด้วย

การเดินทาง ถ้ามีรถนี่ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลย เพราะทางลัดเลาะเยอะ แต่ถ้าไม่มีรถอาจจะลำบากหน่อยเพราะน่าจะต้องพึ่งแท็กซี่เป็นประจำ เพราะเส้นศรีวราจะไม่มีรถสาธารณะจะมีก็มีแต่เส้นประชาอุทิศ(รามคำแหง 39) และถนนอินทราภรณ์ไปถึงถนนรามคำแหงมีรถกระป๊อครับครับ นอกจากนี้ยังมีอีกเส้นทางคือเรือโดยสารคลองแสนแสบที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ

ตัวโครงการจัดออกมาเป็นโครงการบ้านแฝดจำนวน 36 ยูนิต บนที่ดินขนาด 6-3-03.9 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่มีความหนาแน่นค่อนข้างต่ำ แต่อย่าลืมว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านรูปแบบโฮมออฟฟิศ แปลว่าบ้านแต่ละหลังน่าจะมีคนมาใช้งานมากกว่าแค่สมาชิกในครอบครัว แล้วตอนกลางวันก็น่าจะมีความพลุกพล่านสูงและมีรถจอดเยอะกว่าหมู่บ้านปกติแน่นอน และด้วยถนนหลักโครงการตรงกลางกว้าง 9 เมตร ถ้ามีรถยนต์จอดข้างทางทั้งสองฝั่งถนน ตรงกลางถนนจะทำใรถวิ่งสวนกันได้ลำบาก ต้องให้นิติบุคคลช่วยกันดูแลครับ

การวางแปลนโครงการ ด้วยความที่ลักษณะของที่ดินเป็นแบบที่ดินยาวๆ ไม่ได้เป็นที่ดินกว้างๆ ทำให้คนที่ขับรถเข้ามาในโครงการมองเห็นบ้านแต่ละหลังไม่เท่ากัน บ้านที่อยู่ใกล้ๆถนนใหญ่ย่อมจะมองเห็นง่ายกว่า ส่วนบ้านแปลงท้ายๆโครงการนี่ถ้าเราไม่ได้ขับรถเข้าไปถึงข้างในคงจะไม่มีโอกาสมองเห็นเลย ดังนั้นในแง่ของการประกอบกิจการ อาจจะต้องดูนิดนึงว่าธุรกิจของเราเป็นประเภทไหน ถ้าเป็นแบบที่เป็นธุรกิจบริการ หรือพวกร้านค้า, ร้านอาหารที่ต้องมีหน้าร้านสำหรับดึงดูดให้คนเดินผ่านเห็นเยอะๆ ก็คงจะไม่เหมาะที่จะเข้าไปอยู่ด้านใน ต้องมาอยู่ด้านหน้าใกล้ๆถนนหน่อย หรือถ้าอยู่ติดถนนใหญ่ได้ก็ยิ่งดี ส่วนแปลงท้ายๆก็น่าจะเหมาะกับทำเป็นสำนักงานทั่วๆไปมากกว่า ที่ไม่ต้องมีหน้าร้านจริงจังสำหรับต้อนรับลูกค้าบ่อย หรือที่ผู้มาติดต่อมักจะรู้อยู่แล้วว่าออฟฟิศเราอยู่ตรงไหน แบบนี้ก็จะเหมาะสมกว่าครับ

ด้านความปลอดภัยของโครงการ ก็จะมีเป็นมาตรฐานคล้ายๆกับโครงการอื่นๆ คือ จัดให้มีรปภ.เฝ้ารักษาความปลอดภัย 24 ชม. มีกล้อง CCTV ประจำตามจุดต่างๆทั้งหมด 15 จุด , มีรั้วโครงการสูง 4.5 เมตร, และมีทางเข้าแบบรั้วกั้นไม้กระดก

ส่วนตัวบ้านออกแบบพื้นที่ใช้สอยมาจัดเต็มมาก ทำเป็นบ้านแฝด 4 ชั้น มี 4 แบบขนาดให้เลือก คือ 460, 490, 540 และ 650 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นบ้านที่ได้พื้นที่เยอะมาก เมื่อเทียบกับขนาดที่ดิน ระยะพื้นถึงคานของชั้น 2 จะสูงกว่าอื่นคือ 3.15 เมตร ชั้นอื่นจะอยู่ที่ 2.8 เมตร ทุกหลังจะมีบันไดหนีไฟอยู่ด้านหลังด้วย แต่ทีเด็ดของบ้านอยู่ที่จำนวนที่จอดรถ ที่ทำได้ 6 คัน ในบ้านหลังเดียว ถ้าซื้อบ้านสองหลังติดกัน แล้วทุบรวมกันกลายเป็นบ้านหลังใหญ่ จะกลายเป็นบ้านที่จอดรถได้มากถึง 12 คันเลยด้วย และได้บ้านที่มีพื้นที่ร่วม 900 – 1,000 ตารางเมตร ซึ่งจะทำให้การจัดฟังก์ชั่นทำได้หลากหลายมากขึ้นอีก แต่ด้วยการที่ทำเป็นรูปแบบโฮมออฟฟิศในสมัยนี้จริงๆน่าจะมีฟังก์ชั่นลิฟท์มาให้ด้วยนะครับ

การจัดฟังก์ชั่น นั้นคงจะต้องเลือกตกแต่งเองตามใจชอบเนื่องจากโครงการขายแบบ Bare Shell คือ เป็นแบบห้องเปล่าๆ เพราะว่าโครงการต้องการให้ผู้ซื้อนั้นได้ตกแต่งในไลฟ์สไตล์ของธุรกิจที่แตกต่างกัน ดังนั้นมันอยู่ที่แต่ละคนมากกว่าว่าจะจัดออกมาเป็นแบบไหนนะครับ

วัสดุที่ได้มาส่วนใหญ่เกรดมาตรฐานปานกลางปกติทั่วไป ประตูและหน้าต่างภายนอกเป็นวงกบอลูมิเนียมสีดำบานกระจกใส ประตูห้องน้ำเป็นบานไม้ HDF ประตูบันได้หนีไฟเป็นเหล็กชนิดทนไฟ ส่วนที่ปูกระเบื้องให้มีเฉลียงหน้าบ้านและห้องน้ำกระเบื้องขนาด 60 × 60 ซม. ชุดอ่างล้างมือและสุขภัณฑ์ที่ได้เป็นของ KOLHER เป็นต้น อย่างไรก็ดีอย่าลืมว่าเราจะเทียบราคาบ้านกับวัสดุตรงๆอย่างเดียวไม่ได้นะครับ เพราะราคาบ้านที่สูงขึ้นเกิดจากการที่ตัวบ้านมี 4 ชั้นด้วย ซึ่งย่อมจะมีต้นทุนค่าก่อสร้างที่แพงกว่าบ้าน 2 หรือ 3 ชั้นทั่วๆไปในเกรดเดียวกันอยู่แล้วด้วยครับ

สุดท้ายคือเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ก็ไม่ได้มีอะไรมาก มีแค่สวนสาธารณะที่อยู่ตรงท้ายโครงการและ Family Mart ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการ ต้นไม้ในโครงการก็ไม่ได้เยอะมาก ไม่มีสโมสร ไม่มีสระว่ายน้ำหรือฟิตเนสแต่อย่างใด ซึ่งถ้าจะเอาไปเทียบกับโครงการบ้านจัดสรรทั่วๆไปก็ย่อมจะเสียเปรียบอยู่แล้ว เพราะราคาบ้านแต่ละยูนิตก็สูงเกินหลัก 25 ล้านไปแล้ว แต่ด้วยความที่เน้นเป็นโครงการลักษณะโฮมออฟฟิศ ที่ทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร และ Community Mall นี่ก็เป็นเรื่องปกติ

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 25-35 ล้านบาท, 03 February 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนศรีวรา, ใกล้ทางด่วน, ลัดเลาะออกถนนหลักได้หลายทาง, อุดมสมบูรณ์อาหาร ธนาคาร โรงแรม ไปรษณีย์ ห้าง โรงเรียน มีครบ
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV 15 จุด, รั้วโครงการสูง 4.5 เมตร
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – พื้นที่ใช้สอยเยอะถ้าเทียบกับขนาดที่ดิน จอดรถ 6 คัน มีบันไดหนีไฟให้
  • วัสดุ 7/10 – โดยรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั่วไปแต่ขายแบบ Bare Shell เลยได้มาน้อยไปหน่อย
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – ได้ถนนกว้าง 9 เมตรตลอดแนวโครงการ จุดกลับรถ 4 จุด แต่มีต้นไม้ไม่เยอะเท่าไหร่
  • สาธารณูปโภค 6.75/10 – สวนสาธารณะท้ายโครงการ และ Family Mart หน้าโครงการ
  • 7.20 / 10.00

BOTTOM LINE

DISTRICT – Sriwara เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านแบบโฮมออฟฟิศ ในย่านเลียบทางด่วน,รามอินทรา โซนทาวน์ อิน ทาวน์ โดยใช้ประโยชน์หลักในแง่ของการเป็นสำนักงาน ยูนิตของที่นี่จะเน้นมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะและยืดหยุ่นสามารถออกแบบพื้นที่ได้ตามใจ  มีพื้นที่มากพอที่จะรองรับพนักงานได้ 20-30 คน จอดรถได้ 6 คัน และไม่ได้เน้นกิจการที่ต้องมีหน้าร้านสำหรับรับลูกค้าตลอดเวลา โครงการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีกำลังผ่อนเดือนละ 207,000 – 240,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

สามารถสมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่   Think Of Living