de Zone แจ้งวัฒนะ คอนโด Low Rise 8 ชั้น ใกล้เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จาก PS Asset [รีวิวฉบับที่ 1189]

รีวิวฉบับที่ 1189 วันนี้จะพาไปชมตึกเสร็จกับโครงการ de ZONE แจ้งวัฒนะ (เดอ โซน แจ้งวัฒนะ) จากปกาสิต แอนด์ ซัน แอสเซท ทำเลโครงการอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 23 ห่างจากปากซอยประมาณ 400 เมตร อยู่ในระยะที่สามารถเดินข้ามสะพานลอยไปยังเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะได้ โดยมี Century 21 เป็นตัวแทนทำหน้าที่ขาย ซึ่งตอนนี้โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใครที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่ในย่านแจ้งวัฒนะ ตามไปชมกันเลยค่ะ

สำหรับโครงการนี้คุณบีมเคยทำรีวิวเอาไว้ในช่วง Presale คลิกอ่านที่นี่ ได้เลยค่ะ

Fact @ 5 October 2016

• de ZONE แจ้งวัฒนะ (เดอ โซน แจ้งวัฒนะ)
• บริษัท ปกาสิต แอนด์ ซัน แอสเซท จำกัด
• ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : ปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี
• คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 147 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 21 ยูนิต
• ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 30 %
• ที่ดินประมาณ 0-3-51 ไร่
• สร้างเสร็จพร้อมอยู่
• 1 Bedroom 26-36 ตร.ม. 
• ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 1.55 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการประมาณ 62,000 บาท/ตร.ม.
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 53,000 – 68,000 บาท/ตร.ม.
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร  : 02-789-9993

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.907110, 100.531600

แผนที่จากทางโครงการ de ZONE แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ในซอย แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 23 บน ถนนแจ้งวัฒนะ หน้าปากซอยมีโรงแรม Best Western Wanda ฝั่งตรงข้ามซอยเยื้องๆไปหน่อยจะเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จากตัวโครงการอยู่ในระยะที่สามารถเดินข้ามสะพานลอยไปเซ็นทรัลได้

ถนนแจ้งวัฒนะเป็นถนนอีกเส้นหนึ่งที่ใช้เชื่อมกรุงเทพฯไปยังจังหวัดนนทบุรีได้ และยังตัดกับถนนสายสำคัญอีกหลายสาย เช่นถนน พหลโยธิน ถนนวิภาวดี – รังสิต ถนนเลียบคลองประปา และ ถนนติวานนท์ เป็นต้น โดยบริเวณหน้าโครงการในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูผ่าน ซึ่งเป็นสายที่นำเอาคนจากทางฝั่ง แคราย-ปากเกร็ด-หลักสี่-มีนบุรี เข้าเมือง โดยสายสีชมพูจะไปตัดกับ สายสีเขียว(สะพานใหม่ – คูคต) , สายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต) และ สายสีม่วง (เตาปูน – บางบัวทอง)

การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าถึงได้โดยใช้ถนนแจ้งวัฒนะ การเดินทางส่วนใหญ่ยังคงต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะอย่างรถเมล์ รถตู้ รถสองแถวกันไปก่อนเพราะรถไฟฟ้ายังไม่มีท่าทีว่าจะมาหาในเร็วๆนี้ แต่ถ้าใช้รถก็สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกเพราะถนนแจ้งวัฒนะสามารถใช้ออกไปยังถนนสายสำคัญอื่นๆได้หลายสาย ถ้าอยากเข้าเมืองก็ใช้ถนนวิภาวดีหรือถนนประชาชื่นตรงยาวเข้ารัชดา – ลาดพร้าวได้ หรือใช้เส้นติวานนท์เข้าจังหวัดนนทบุรี  สำหรับทางด่วนอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก โดยอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร ขับรถซักพักก็ถึงแล้ว สภาพการจราจรโดยรวมถือว่าค่อนข้างติดโดยเฉพาะเวลาเช้าและเย็น ส่วนใหญ่จะติดเป็นพิเศษช่วงบริเวณหน้าศูนย์ราชการ และเมืองทองธานี

ส่วนคนที่ไม่มีรถก็ยังเดินทางได้ไม่ลำบากเพราะโครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก เดินออกมาประมาณ 400 เมตรก็ถึงแล้วจึงค่อนข้างสะดวก บริเวณหน้าซอยเดินมาทางเซ็นทรัลหน่อยก็มีทั้ง รถเมล์ รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์ และ รถตู้ที่มีหลายสายมากมายทั้งไปปิ่นเกล้า งามวงศ์วาน จัตุจักร เกษตรฯ หัวลำโพง สีลม ที่คอยให้บริการ นอกจากนี้ในอนาคตบริเวณหน้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะก็จะมีสถานีรถไฟฟ้าตั้งอยู่พอดิบพอดี พอถึงเวลานั้นการเดินทางไปยังที่ต่างๆคงจะสะดวกขั้น  รวมถึงความเจริญรอบโครงการก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

ในย่านแจ้งวัฒนะนั้นมีสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญและแหล่งความอุดมสมบูรณ์อยู่มากมายนะคะ ส่วนที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนย่านนี้หลักๆเลยก็จะมี

• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – แหล่งงานขนาดใหญ่ในย่านนี้
• เมืองทองธานี – ศูนย์แสดงสินค้าและสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่มีการจัดงานอยู่ตลอดปี
• เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ – ศูนย์การค้าและที่เดินเล่นช้อปปิ้งหลักๆของย่าน

นอกจากนี้ยังมี Big C, Lotus, The Avenue และ Makro ให้คนย่านนี้ได้ช้อปปิ้ง กิน เที่ยวกัน ส่วนแหล่งงานก็ยังมีอาคารสำนักงานและสถานที่ราชการอีกหลายแหล่ง เช่น อาคารสำนักงาน Software Park, อาคาร CP All, สถาบันปัญญาภิวัฒน์, กรมสอบสวนคดีพิเศษ , กรมการกงสุล และ ศาลปกครองค่ะ

นอกจากนี้ถนนแจ้งวัฒนะยังมีโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย เป็นรถไฟฟ้าสายสีชมพูแบบรางเดี่ยว หรือ โมโนเรล เส้นทางเริ่มจาก แคราย วิ่งไปเลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านถนนรามอินทรา ไปสิ้นสุดที่ มีนบุรี โดยมีระยะทางรวม 36 กิโลเมตร แต่เดิมมี 24 สถานี แต่ภายหลังได้มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 30 สถานี เนื่องจากความเจริญของพื้นที่แตกต่างจากเดิมค่อนข้างมาก โดย สถานี แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 28 (หน้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ) ซึ่งใกล้กับโครงการมากที่สุด ก็เป็น 1 ใน 6 สถานีที่มีการเพิ่มเข้ามา รถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้คาดว่าน่าจะเสร็จประมาณปี 2563 (ข้อมูลจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย)

อย่างไรก็ตามต้องติดตามความคืบหน้ากันอีกทีนะคะ โดยถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จ สถานีที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 28 ซึ่งอยู่บริเวณหน้าศูนย์การค้า เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ คาดว่าน่าจะห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร

เนื่องจากรีวิวโครงการช่วง Presale คราวที่แล้ว พี่บีมพาไปดูเส้นทางที่มาจากทางศูนย์ราชการกันแล้ว รีวิวตึกเสร็จวันนี้จะพามาดูเส้นทางที่มาจากทางด่วนกันบ้าง การเดินทางในวันนี้เราจึงเริ่มจากทางลงทางด่วนศรีรัช เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะผ่านหน้าเซ็นทรัล แล้วไปกลับรถเพื่อไปยังซอยแจ้งวัฒนะ 23 ที่เป็นที่ตั้งโครงการ มีระยะทางทั้งหมด 4.6 กม. ค่ะ

เริ่มจากบนทางด่วนศรีรัช ให้ชิดซ้ายเลือกทางออกถนนแจ้งวัฒนะค่ะ

ลงมาจากทางด่วนแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแจ้งวัฒนะ มีจุดสังเกตคือซ้ายมือจะเป็นไทวัสดุ

เข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะแล้วก็ตรงยาวๆไป จากตรงนี้สามารถออกขวาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกไปได้เลย ก็จะไม่ต้องติดแยกที่จะเลี้ยวไปเมืองทอง แต่วันนี้เราจะวิ่งด้านล่างกัน เพื่อดูบรรยากาศรอบๆนะคะ

ตรงมาเรื่อยๆจะผ่านโรงเรียนคลองเกลือ ถัดไปเป็นคอนโดรุ่นพี่อย่าง The Key แจ้งวัฒนะ ของ Land & Houses ที่พี่บีมเคยไปรีวิวไว้ตั้งแต่ปี 2011

ถัดมาไม่ไกลจะมีแยกทางขวา ถ้าต้องการไปเมืองทองก็เลี้ยวขวาตรงนี้ได้เลย ฝั่งซ้ายจะเป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าสำเพ็ง Thai Mart อยู่ตรงกับแยกเลย จากแยกนี้เราจะตรงไปนะคะ

ตรงต่อมาอีกหน่อยซ้ายมือจะผ่าน CP All Academy เป็นอาคารเรียนและศูนย์ประชุม 16 ชั้น ติดกันคือสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เป็นสถาบันการศึกษาภายใต้การบริหารงานของบริษัท ซีพี ออลล์ ค่ะ ส่วนอาคารสูงฝั่งขวาที่เห็นไกลๆนั่นคือ โรงแรม Best Western ที่จะอยู่หน้าซอยแจ้งวัฒนะ 23 เป็นซอยที่ตั้งของโครงการ ติดกันเป็น Astro Condo และอาคารสำนักงาน Software Park ซึ่งเป็นตึกสูงในย่านนี้ค่ะ

ถัดไปจะผ่าน Central แจ้งวัฒนะ ศูนย์การค้าใหญ่ของคนในย่านนี้ ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัลมีเต็นท์ขายอาหาร เราจะต้องตรงไปเพื่อกลับรถไปฝั่งตรงข้ามนะคะ

ถัดจาก Central ไปหน่อยจะผ่านโรงพยาบาล World Medical Center

ขับผ่านโรงพยาบาลมาอีกหน่อย เราต้องกลับรถที่บริเวณหน้าโชว์รูมรถ BMW

กลับรถมาเรียบร้อยฝั่งซ้ายจะผ่านบริษัท สแปนชั่น ที่มีรั้วบริษัทยาวไปจะถึงสะพานลอยเลยค่ะ ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตและประกอบผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

ติดกันเป็นปั๊มน้ำมันบางจาก สำหรับลูกบ้านที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักก็หาเติมน้ำมันได้ง่าย เพราะปั๊มนี้เป็นทางผ่านก่อนเข้าซอยโครงการอยู่แล้วค่ะ

ถัดไปจะผ่านสถานที่ราชการดุริยางค์ตำรวจ เป็นองค์กรของข้าราชการตำรวจฝ่ายดนตรี ติดกันเป็นอาคารสำนักงาน Software Park

ถัดมาจะผ่านสะพานลอยที่เชื่อมมาจาก Central ลงบันไดไปก็จะเจอตลาดนะคะ ของกินเพียบ ไม่ต้องห่วงเรื่องอดข้าวแน่ๆ ตลาดตรงนี้จัดเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนในตึก Software Park เลย นอกจากนี้บริเวณใต้สะพานลอยยังมีคิวรถตู้, ที่จอด Taxi รวมไปถึงป้ายรถเมล์ … อนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาลงตรงนี้อีกค่ะ

ถัดไปก็จะผ่านตึก Astro Condo เป็นอาคารสูงเด่นอีกอาคารในย่านนี้ที่คู่กับ Software Park จากตรงนี้เราก็เตรียมชิดซ้ายเพราะใกล้ถึงซอยที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ

ถัดมาอีกนิดก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 23 เลยค่ะ

ก่อนพาเข้าไปชมบรรยากาศในซอย ขออธิบายถึงสภาพโดยรวมของซอยให้พอเห็นภาพกันก่อนนะคะ ซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ จะมีซอย แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 19 , 21 , 23 เรียงกันอยู่ 3 ซอย แต่ละซอยทะลุถึงกันได้ โดยภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็น อพาร์ทเมนท์ , คอนโด Low Rise และที่ดินเปล่ารอการพัฒนา มีบ้านพักอาศัยน้อยมาก  ซึ่งที่ตั้งโครงการ de Zone อยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 23 เข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร เป็นแปลงหัวมุมที่ติดกับซอยตันด้านในค่ะ

แม้ว่าที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอย 23 ที่ดูจะเป็นซอยเงียบๆ มีที่ดินเปล่าและโครงการกำลังก่อสร้างมากกว่าซอยข้างเคียง แต่เนื่องจากซอยทั้ง 3 เชื่อมถึงกันได้ คนที่อยู่โครงการนี้ก็สามารถเลือกเดินผ่านซอย 19หรือ 21 แทน เพื่อไปกินข้าว ไป 7-11 ได้ หรือถ้าต้องการเดินไปเซ็นทรัลก็มีทางเลือกโดยเดินมาทางซอย 19 จะเป็นซอยตรงข้ามเซ็นทรัลพอดิบพอดีค่ะ

เรามาเดินทางเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 23 กันต่อ เป็นซอยเล็กๆที่เป็นย่านพักอาศัยของแหล่งงานที่อยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ บรรยากาศจะค่อนข้างเงียบๆ ยังไม่อุดมสมบูรณ์เท่าซอยข้างๆ แต่อีกไม่นานคงจะคึกคักกว่านี้ ในซอยก็จะมีทั้งโรงแรม คอนโด อพาร์ทเมนต์หลายโครงการ อย่างฝั่งซ้ายเป็นโรงแรม Best Western Wanda Hotel สูง 20 ชั้น

ถัดมา ทางฝั่งซ้ายจะเป็น Fitness ไว้รองรับผู้อยู่อาศัยในอพาร์ทเมนต์ย่านนี้ซึ่งก็มีหลายอาคารทีเดียว ติดกันเป็นอพาร์ทเมนต์ธนภัทร เพลส ส่วนฝั่งขวาเป็น คอนโด ADDERA สูง 8 ชั้น ที่ทางเว็บฯเคยไปทำรีวิวมาแล้วเช่นกัน

พื้นที่บางแปลงภายในซอยยังคงเป็นที่ดินเปล่า ทำให้การเดินเข้าซอยในเวลากลางคืนบางช่วงก็ไม่น่าเดินนัก แต่อนาคตก็คงจะคึกคักขึ้น อย่างช่วงกลางซอยจะมีโครงการกำลังก่อสร้างอยู่ 2 โครงการคืออพาร์ทเมนต์และ คอนโด Proud 3 หากโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะมีผู้คนมาอยู่อาศัยในซอยเพิ่มขึ้น ทำให้ซอยคึกคักน่าเดินมากขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ก็คงจะมากขึ้นด้วย

ตรงมาอีกหน่อยฝั่งซ้ายจะผ่านร้านอาหาร ซึ่งเป็นร้านที่ใกล้โครงการที่สุด ส่วนโครงการ de Zone คือตึกสีเทาทางขวา ที่อยู่ตรงข้าม เชอริชอพาร์ทเมนต์ และอยู่ติดกับ T2B อพาร์ทเมนต์ค่ะ

ถัดมาอีกหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ คอนโด de Zone จะอยู่ทางฝั่งขวาเป็นแปลงหัวมุม อยู่ตรงข้ามกับเชอริชอพาร์ทเมนต์และอู่ซ่อมรถค่ะ

เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกัน ภายในเส้นประสีเหลืองเป็นพื้นที่ของโครงการ de Zone ซึ่งทางซ้ายที่ติดกับโครงการคืออพาร์ทเมนต์ T2B ที่มีความสูง 8 ชั้นเท่ากัน ก็จะเป็นอาคารที่บังวิวในระยะประชิดฝั่งทิศใต้นะคะ

มาดูทางทิศตะวันตกกันบ้าง ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารเชอริช อพาร์ทเมนต์ 7 ชั้น

ภาพรวมของตึกเต็มๆค่ะ ที่แม้จะเป็นอาคาร 7 ชั้น แต่ด้วยความที่มีระยะเพดานค่อนข้างสูงทำให้มีความสูงเท่าอาคาร 8 ชั้น อพาร์ทเมนต์นี้ก็จะบังวิวในระยะประชิดทางทิศตะวันตกค่ะ

เนื่องจากโครงการเป็นแปลงหัวมุม จึงติดถนน 2 ฝั่ง เดี๋ยวจะพาเดินตรงเข้าไปในซอยบริเวณหน้าอู่ซ่อมรถจึงจะเห็นด้านข้างอาคารอีกฝั่งหนึ่งนะคะ

ด้านข้างโครงการอีกฝั่งหนึ่งเป็นรั้วโครงการยาวติดริมถนนฝั่งขวา ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นอู่ซ่อมรถและบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการไล่เข้าไปด้านในซอยตันก็จะเป็นอู่แจ้งวัฒนะ 23

ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น

และติดกันบ้านพักอาศัยอีกหลังหนึ่ง ส่วนด้านในซอยลึกเข้าไปอีกก็จะเป็นอพาร์ทเมนต์และกลุ่มบ้านพักอาศัยด้านใน โดยซอยนี้เป็นซอยตันทำให้ผู้อยู่อาศัยด้านในเวลาจะเข้าออกก็ต้องผ่านถนนข้างโครงการ บริเวณที่ตั้งโครงการจึงมีคนเดินและพี่วินผ่านไปมาตลอดค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งขอบเขตของโครงการคือเส้นประสีเหลืองด้านขวา ส่วนแปลงที่ดินที่ติดกันฝั่งซ้ายของโครงการเป็นที่ดินเปล่าล้อมรั้วไว้มีขนาดใหญ่พอขึ้นอาคาร 8 ชั้นได้ ซึ่งในอนาคตก็ต้องรอดูกันว่าจะขึ้นโครงการอะไร

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินเปล่าและอพาร์ทเมนต์ 8 ชั้น ด้วยโครงการ de ZONE เป็นตึกที่วางตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ดังนั้นหน้าต่างห้องทั้งหมดจะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ก็เป็นข้อดีที่ทำให้ได้ห้องทางทิศใต้ที่ไม่ร้อนเท่าไร เพราะทางทิศใต้ทั้งแผงนั้นก็ถูกอพาร์ทเมนต์บังอยู่แล้ว ส่วนทางทิศเหนือตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปวิวก็เปิดโล่งแล้ว สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการสรุปได้ดังนี้ค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ถนนซอย 2 เลน ฝั่งตรงข้ามเป็นอู่ซ่อมรถและบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ อพาร์ทเมนต์ T2B Maison สูง 8 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่าในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเป็นโครงการใหม่ๆเกิดขึ้น
• ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนซอย 2 เลน ฝั่งตรงข้ามเป็นเชอริชอพาร์ทเมนต์สูง 7 ชั้น

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• โรงแรม Best Western Wanda – 400 เมตร
• อาคาร Software Park – 550 เมตร
• ฟู๊ดพลาซ่า – 600 เมตร
• เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ – 650 เมตร
• สถาบันปัญญาภิวัฒน์ – 800 เมตร
• ทางด่วนแจ้งวัฒนะ – 2 กิโลเมตร
• เมืองทองธานี – 4 กิโลเมตร
• Makro – 2.7 กิโลเมตร
• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – 4.5 กิโลเมตร

เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ de Zone แจ้งวัฒนะ เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 147 ยูนิต ตัวอาคารใช้โทนสีเทาสลับน้ำตาลในการตกแต่ง ชั้น 1 ของอาคารนอกจากจะเป็นชั้นจอดรถ, Lobby, สำนักงานนิติบุคคล,ห้องซักรีดแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ Facilities หลักของโครงการได้แก่ สระว่ายน้ำและFitness ส่วนชั้น 2-8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งชั้น และจะมีชั้นดาดฟ้าเป็นสวนหย่อมส่วนกลางอีกตำแหน่งหนึ่ง ไปชมรายละเอียดในแต่ละชั้นกันค่ะ

เริ่มกันที่ผังชั้น 1 กันค่ะ โครงการ de Zone แจ้งวัฒนะ มีทางเข้าออก 2 ทาง โดยแยกกันระหว่างทางเข้าออกของคนเดินและทางเข้าออกรถยนต์นะคะ โดยทางเข้าออกคนเดินจะเข้าจากทางซอยแจ้งวัฒนะ 23 ส่วนทางเข้าออกรถยนต์จะเข้าจากทางซอยตันค่ะ

ชั้น 1 ของโครงการไม่มีห้องพักอาศัยนะคะ จะเป็นพื้นที่ของลานจอดรถซึ่งมีช่องจอดรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 30 % ไม่ Fix ช่องจอด เส้นทางเดินรถในอาคารเมื่อขับเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการ จะเป็นเส้นทางเดินรถแบบสวนทางกัน แต่ไม่สามารถขับวนรอบโครงการได้นะคะ ถ้าขับเข้าไปด้านในแล้วช่องจอดเต็มต้องกลับรถออกทางเดิมค่ะ นอกจากที่จอดรถแล้วที่ชั้นนี้ยังมี Lobby ของโครงการ, สำนักงานนิติฯ, ห้องซักรีด, สระว่ายน้ำ, Fitness และโถงลิฟท์ค่ะ สำหรับความปลอดภัยนั้นจะเริ่มใช้ Key Card ตั้งแต่ประตูทางเข้า Lobby เลยนะคะ แขกของลูกบ้านไม่สามารถเข้ามานั่งรอใน Lobby ได้จะต้องมีลูกบ้านมาเปิดประตูรับเท่านั้นค่ะ

• ประตูทางเข้าอาคาร —>ต้องใช้ Key Card แขกของลูกบ้านไม่สามารถเข้ามารอในส่วน Lobby ได้
• ลิฟท์ —>ไม่ใช้ Key Card เป็นแบบไม่ล็อกชั้น

เดี๋ยวเราจะพาไปดูทางเข้าโครงการทั้ง 2 ทางก่อนนะคะแล้วค่อยเข้าอาคาร ฝั่งนี้เป็นบริเวณหน้าโครงการฝั่งทางเข้าของคนเดินที่ติดถนนซอยแจ้งวัฒนะ 23

จากหน้าโครงการเดินมาอีกฝั่งของอาคารที่ติดกับถนนซอยตัน

จะมีทางเข้าของรถยนต์แยกไว้อีกทางหนึ่ง โดยบริเวณด้านข้างอาคารก็มีที่จอดรถสำหรับแขกของลูกบ้านที่ไม่มี Key Card ก็สามารถมาจอดตรงนี้ได้ ประมาณ 8 คัน

ทางเข้ารถยนต์จะมีไม้กั้นผ่านด้วยระบบ Key Card เแบบเดียวกับที่ใช้เข้าอาคาร นอกจากนี้จะมีพี่ยามคอยดูแลด้วยค่ะ

หน้าตาของที่แตะบัตร Key Card ค่ะ ส่วนด้านบนติด CCTV บริเวณทางเข้าออกไว้

ผ่านไม้กั้นเข้ามาแล้วจะเจอช่องจอดรถซึ่งสามารถเลี้ยวไปจอดฝั่งซ้ายมือนี้หรือจะเลี้ยวขวาไปหาช่องจอดรถก็ได้ ซึ่งถ้าจอดด้านขวาก็จะใกล้กับทางเข้าอาคารหน่อยนะคะ ที่จอดรถนี้สามารถจอดแบบซ้อนคันได้ 40 กว่าคัน คิดเป็น 30% ซึ่งเป็นที่จอดแบบไม่ Fix ช่องจอดนะคะ

พื้นที่ด้านในสุดของโครงการมีปลูกต้นไม้ตลอดแนวรั้วค่ะ

ช่องจอดบางช่องถูกใช้เป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ไปค่ะ

พื้นที่ด้านหลังของอาคารมีระยะถอยร่นจากเขตที่ดินประมาณ 3 ม. ทำให้ช่องจอดรถด้านนอกที่ติดกับกำแพงโครงการ ครึ่งหนึ่งของช่องจะไม่ได้อยู่ในร่มทั้งหมด ทางโครงการจึงทำกันสาดเพิ่มเติมทำให้ช่องจอดรถใต้อาคารเป็นที่ร่มทั้งหมดค่ะ

นอกจากกันสาดแล้ว ก็จะมีต้นไม้กระถางปลูกไว้ตลอดแนวรั้วค่ะ

มาดูพื้นที่จอดรถอีกฝั่งหนึ่งกันบ้าง ก็จะมีช่องจอดรถซ้ายขวาเช่นกัน แต่ที่จอดรถทางฝั่งนี้จะอยู่ใกล้ทางเข้าอาคารมากกว่าค่ะ

จากที่จอดรถจะติดกับประตูทางเข้าออกอาคาร ทำให้สามารถเข้าอาคารจากทางที่จอดรถได้เลยไม่ต้องอ้อมไปเข้าด้านหน้า ซึ่งต้องใช้ Key Card ผ่านเข้าออกเช่นกันค่ะ

กลับมาที่ด้านหน้าอาคารฝั่งทางเข้าคนเดินนะคะ ต่อไปจะพาไปชมด้านในอาคารโดยเริ่มจากประตูทางเข้าอาคารซึ่งถูกยกระดับขึ้นจากถนน ตัวประตูเป็นประตูกระจกเปิดเข้าออก ซึ่งต้องใช้ Key Card เข้าอาคารตั้งแต่ตรงนี้เลยนะคะ

เข้ามาภายในจะมีเคาน์เตอร์สำหรับติดต่อ ด้านหลังที่เป็นห้องกระจกคือส่วนของสำนักงานนิติฯ ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของ Lobby บรรยากาศดูสบายๆ ตรงนี้จะมีชุดโซฟารับแขกไว้ให้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนที่ชั้นล่าง

Lobby ได้กระจกบานใหญ่ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในอาคาร ห้องจึงดูโปร่งโล่งและอบอุ่นค่ะ

ด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นรับแขกจะมีประตูอีกชั้นหนึ่งที่กั้นพื้นที่รับแขกด้านหน้ากับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆของชั้นนี้ไว้

ผ่านประตูเข้ามาด้านในฝั่งซ้ายจะเป็นตู้จดหมายของลูกบ้าน ฝั่งขวาจะเป็นลิฟต์ของอาคาร ถัดไปด้านในจะมีส่วนของสระว่ายน้ำ Fitness และตรงข้ามกับสระว่ายน้ำจะเป็นห้องซักผ้า ส่วนประตูด้านในสุดคือทางเข้าออกที่เชื่อมกับพื้นที่จอดรถค่ะ

เดินผ่านตู้จดหมายของลูกบ้านไป จะมีห้องกระจกทางฝั่งซ้ายที่เป็นทางเข้าสระว่ายน้ำและ Fitness

ประตูทางเข้าสระว่ายน้ำทำเป็นประตูกระจกพ่นทรายไว้ เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ลูกบ้านที่ใช้งานภายใน แต่ก็ไม่ได้พ่นทรายทึบทั้งบานยังเปิดช่องด้านบนไว้เพื่อให้แสงจากภายนอกสามารถผ่านเข้ามาในช่องทางเดินได้ ทำให้ทางเดินในอาคารได้แสงจากภายนอกด้วยค่ะ

จากประตูทางเข้าแล้วหันมาทางขวา จะมีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระค่อนข้างกว้างพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่กึ่ง Outdoor คืออยู่ใต้ชายคา แต่ก็ยังได้รับแสงธรรมชาติ โดยจะมีแนวต้นไทรบังสายตาระหว่างพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระและพื้นที่ภายในสระว่ายน้ำไว้ค่ะ เดี๋ยวเราจะพาชมทีละส่วนนะคะ

ส่วนแรกเลยคือห้องน้ำแยกหญิงชายมีอยู่อย่างละห้องนะคะ ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำมีป้ายติดแยกห้องหญิงชายไว้เรียบร้อยค่ะ

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเอาไว้ มีอ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่ห้องอาบน้ำเอาไว้สำหรับล้างตัว หรืออาบน้ำ ผนังด้านหลังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านกันลื่นค่ะ ส่วนห้องผู้ชายจะมีโถปัสสาวะเพิ่มขึ้นมาค่ะ

ด้านข้างสระอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่สำหรับนั่งเล่นริมสระ ติดกันเป็นสนามหญ้า

จากพื้นที่ริมสระด้านในมองออกมาที่ประตูทางเข้า จะมีห้อง Fitness อยู่ติดกับประตูทางเข้าฝั่งซ้าย แม้ว่าห้องจะมีขนาดไม่ใหญ่นักแต่โครงการก็ทำเป็นห้องกระจกทำให้ห้องดูไม่อึดอัดค่ะ

เครื่องออกกำลังกายภายใน Fitness ประกอบด้วยเครื่องออกกำลังกาย 4  เครื่อง และอุปกรณ์โยคะ

เครื่องเล่นตั้งอยู่ริมหน้าต่างได้วิวสระน้ำพอดีค่ะ

มาดูสระว่ายน้ำกันบ้าง เป็นสระระบบเกลือมีขนาด 4.6 x 12.7 เมตร ลึก 1.2 เมตรค่ะ ริมสระทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นแนวต้นไม้กระถางและแนวกำแพงต้นไม้ ไม่ได้มีห้องพักวิวสระน้ำทำให้การใช้งานสระว่ายน้ำค่อนข้างจะได้ความเป็นส่วนตัวมาก ส่วนการวางตำแหน่งสระว่ายน้ำ ทางโครงการเลือกวางไว้ทางทิศเหนือมีข้อดีที่อาคารจะช่วยบังแสงในช่วงบ่าย ทำให้พื้นที่สระว่ายน้ำตรงนี้สามารถใช้งานตั้งแต่ช่วงบ่ายๆเลยค่ะ

ทางโครงการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในการใช้สระว่ายน้ำมากเลยนะคะ เพราะพื้นที่โดยรอบสระจะถูกกั้นด้วยต้นไทรไว้ตลอดแนว

ส่วนทางขึ้นลงสระว่ายน้ำมีราวแสตนเลสไว้จับกันลื่น

ภายในสระมีจุดนั่งชิวในสระนะคะ ถ้าไม่ชอบว่ายน้ำหนักๆ ก็มานั่งชิวตามขอบสระได้ค่ะ

ออกมาจากห้องสระว่ายน้ำ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องซักผ้า

ภายในห้องซักผ้า มีเครื่องซักผ้าให้บริการ 3 เครื่อง สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการซื้อเครื่องซักผ้าก็สามารถใช้บริการห้องซักผ้านี้ได้ค่ะ

กลับมาที่โถงลิฟท์ของอาคารจะมีโถงลิฟท์ตำแหน่งเดียวค่อนมาทางด้านหน้าอาคาร มีลิฟท์ทั้งหมด 2 ตัว ซึ่งการจัดตำแหน่งไว้ค่อนมาทางด้านหน้าทำให้ห้องพักด้านในจะต้องเดินไกลจากลิฟท์สักนิดนะคะ

บริเวณหน้าลิฟท์จะมีป้ายบอกชั้น และแผงปุ่มกดลิฟท์

ภายในลิฟต์สว่างพอสมควรทีเดียว ด้านในติดกระจกไว้ ทำให้ในลิฟต์ไม่อึดอัดค่ะ

ปุ่มกดภายในลิฟท์สามารถกดชั้นได้เลยไม่ต้องใช้ Key Card และไม่ล๊อกชั้นค่ะ

ชั้น 2-8 จะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งชั้น โดยมีห้องพักอาศัย 21 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroomทั้งหมด โถงลิฟท์มีตำแหน่งเดียวอยู่ค่อนไปทางด้านหน้าอาคารทำให้ห้องที่อยู่ฝั่งด้านหลังมีระยะห่างจากโถงลิฟท์มากกว่าโดยห้องที่อยู่ไกลจากลิฟท์ที่สุดมีระยะประมาณ 45 ม.ค่ะ ซึ่งในโถงจะมีลิฟท์ 2 ตัวนะคะ มีอัตราส่วนลิฟท์ 74 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ไม่มากค่ะ ส่วนอาคารจะมีบันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งกระจายตัวอยู่ทั้งฝั่งซ้ายขวาของอาคาร ซึ่งบันไดทั้ง 2 ตัวสามารถลงไปยังลานจอดรถที่ชั้น 1 ได้ค่ะ

โถงทางเดินของอาคารเป็นเส้นตรงจากห้องแรกไปถึงห้องสุดท้ายแบบ Double Corridor คือเป็นห้องพักขนาบ 2 ฝั่งทางเดิน โดยโครงการมีการเก็บรายละเอียดที่ดีโดยออกแบบให้ประตูแต่ละยูนิตถูกจัดไม่ให้ตรงกัน การจัดวางจะจัดห้องที่ใหญ่กว่าให้อยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ถูกบังวิว ส่วนห้องเล็กขนาด 26 ตารางเมตรนั้นจะอยู่ทิศใต้ ซึ่งจะติดกับอพาร์ตเมนต์ตลอดแนวเลยนะคะ

บรรยากาศทางเดินแบบ Double Corridor บนชั้นพักอาศัย 2-8 ทางเดินปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ส่วนผนังทั้ง 2 ฝั่งทาสีขาวดูสะอาดตาดีค่ะ เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปชมพื้นที่ส่วนกลางอีกตำแหน่งหนึ่งบนดาดฟ้าอาคารนะคะ

ติดกับลิฟท์ชั้น 8 จะมีทางออกบันไดหนีไฟ ซึ่งเป็นทางไปสวนชั้นดาดฟ้าค่ะ

ออกมาทางบันไดหนีไฟจะมีทางเดินขึ้นมาที่ทางออกไปชั้นดาดฟ้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งจะปิดประตูไว้แบบนี้ค่ะ

ออกจากประตูมาก็เป็นพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้า มีม้านั่งให้สำหรับนั่งเล่น ชมวิว ได้สบายๆเลยค่ะ แต่ช่วงกลางวันแดดจะร้อนสักนิดหนึ่ง น่าจะต้องขึ้นมารับลมตอนเย็นๆแทน หรือถ้าอยากมาเดินเล่นหรือวิ่งเหยาะๆ ยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย ก็มีเส้นทางโดยรอบชั้นดาดฟ้าที่โครงการเตรียมไว้ให้

ชั้นดาดฟ้ามีข้อดีที่นอกจากจะใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ที่ลูกบ้านทุกห้องจะได้ขึ้นมาชมวิวด้านบนแล้ว ยังเป็นหลังคาของโครงการที่ทำให้ห้องพักอาศัยบนชั้น 8 ไม่ได้รับแดดจากหลังคาโดยตรงเพราะมีดาดฟ้าคลุมไว้อีกชั้นหนึ่งด้วยนะคะ

บรรยากาศอีกมุมหนึ่งของสวนบนชั้นดาดฟ้านะคะ โดยรอบชั้นดาดฟ้ามีการปลูกต้นไม้ไว้ให้เกิดบรรยากาศร่มรื่นขึ้น

ต่อไปจะพาชมวิวจากชั้นดาดฟ้าของโครงการซึ่งเป็นวิวที่สูงที่สุดในโครงการนะคะ จากทางทิศเหนือเป็นด้านที่หันเข้ามาในซอยนะคะ เป็นวิวของบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ทำให้ไม่มีอาคารมาบังวิวในระยะประชิดนะคะ ส่วนวิวในระยะไกลจะเห็นอาคารสูงของเมืองทองธานีอยู่ไกลๆค่ะ

ส่วนทางทิศตะวันออกส่วนใหญ่จะเป็นวิวบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นเช่นกัน แต่วิวจะไม่โล่งเท่าทิศเหนือเพราะก็จะมีอาคารอพาร์ทเมนต์ 6 ชั้นที่อยู่ไม่ไกล

ทางทิศใต้ของโครงการเป็นด้านที่ติดกับ T2B Maison อพาร์ทเมนต์ตลอดแนว ทำให้ถูกบล็อกวิวในระยะประชิดค่ะ

ส่วนทางทิศตะวันตกจะถูกบล็อกวิวเช่นกันโดยอาคาร เชอริช อพาร์ทเมนต์ แต่จะไม่ได้ประชิดเหมือนทางทิศใต้ เพราะถูกคั่นด้วยถนนซอยอีกทีหนึ่งค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำชั้น G ระบบเกลือ ขนาด 4.6 x 12.7 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• ห้องออกกำลังกายชั้น G ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 4 เครื่อง และอุปกรณ์โยคะ
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 1:74
• Service Lift ไม่มี
• ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 30%
• ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

แบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 3 แบบนะคะ คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 26, 32 และ 36 ตร.ม. ห้องตัวอย่างในรีวิวของพี่บีมที่พามาชมเมื่อตอนที่เป็น Sale Office จะมีห้องครบทั้ง 3 แบบของโครงการเลย สำหรับรีวิวตึกเสร็จวันนี้ โครงการมีห้องตัวอย่างอยู่ 2 ห้อง คือแบบ 1 Bedroom ขนาด 26และ 32 ตร.ม. ตามไปดูกันเลยค่ะว่าจะเป็นอย่างไร

ไปชมห้องแรกกันเลยค่ะ เป็นห้อง 1 bedroom ขนาด 26 ตร.ม. ซึ่งเป็นแบบห้องส่วนใหญ่ของโครงการ  ภายในประกอบด้วย 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องนอน และ 1 ห้องน้ำ ขายเป็นแบบ Fully Furnished จากประตูทางเข้าหลักจะเปิดมาเจอพื้นที่ครัวที่เป็นแบบ Pantry ฝั่งตรงข้ามพื้นที่ครัว เป็นตำแหน่งวางตู้เย็นและโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งใช้ประโยชน์ได้หลากหลายทั้งเป็นทั้งพื้นที่รับแขก นั่งเล่น ทานอาหารและพื้นที่ทำงาน ด้านในสุดของส่วนห้องนั่งเล่นจะถูกกั้นกับระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ห้องนั่งเล่นได้รับแสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนด้วย ส่วนระเบียงขนาดไม่กว้างมาก พอสำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าเล็กๆได้ค่ะ

ซีกขวาของห้องจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งเชื่อมกันด้วยโถงทางเดินเล็กๆหน้าห้อง โดยประตูห้องนอนจะอยู่ทางซ้ายของโถงหน้าห้อง และประตูห้องน้ำจะอยู่ทางขวา ห้องนี้จึงมีห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน แต่สามารถเดินเข้าจากห้องนอนได้สะดวก มีข้อดีคือในกรณีที่มีเพื่อนๆหรือแขกมาหาก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา สามารถเข้าจากห้องนั่งเล่นได้ และการวางแปลนมาให้แบบนี้ยังมีข้อดีที่ผู้ใช้สามารถดัดแปลงห้องเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำอยู่ในตัวก็ได้ โดยการเอาประตูห้องนอนออกแล้วมากั้นประตูตรงโถงหน้าห้องแทน เปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยเลือกตำแหน่งห้องน้ำได้ ว่าจะให้อยู่ในห้องนอนหรือในห้องนั่งเล่น

ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ แต่โต๊ะหัวเตียงจะวางได้ฝั่งเดียวคือฝั่งที่ติดกับตู้เสื้อผ้า ส่วนภายในห้องน้ำจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านในของอาคารจึงไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆค่ะ

เริ่มจากประตูหน้าห้องเป็นบานไม้อัดสักสีขาวสูง 2 เมตร จากความสูงภายในห้อง 2.6 เมตร ด้านหน้าห้องมีติดป้ายบอกเลขห้องไว้เรียบร้อยค่ะ

ที่จับประตูแบบคันโยก ด้านล่างมีกลอนล็อกแบบหมุนบิดจากด้านใน คลายล็อกด้วยการใช้ลูกกุญแจไขจากปุ่มด้านนอกค่ะ

พื้นห้องมีการยกระดับขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเวลาแม่บ้านทำความสะอาดโถงทางเดิน กวาดฝุ่นผงก็จะช่วยไม่ให้ฝุ่นเข้ามาในห้อง

เข้ามาภายในห้องจะเจอ Pantry ครัวทางด้านขวา ฝั่งตรงข้ามเป็นตำแหน่งสำหรับวางชุดโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ถัดไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟา 2 ที่นั่งซึ่งติดกับประตูกระจกสไลด์ที่เปิดเชื่อมไประเบียงด้านนอกซึ่งเวลากลางวันแสงธรรมชาติจะเข้ามาในห้องนั่งเล่น ช่วยให้บรรยากาศในห้องไม่มืดทึบ

จากด้านในห้องมองกลับมา ห้องทางฝั่งซ้ายที่อยู่ติดกับชั้นวางทีวีคือทางเข้าห้องนอนและห้องน้ำ พื้นห้องจะปูด้วยลามิเนต 8 มม. ตั้งแต่ทางเข้าห้อง ส่วนของ Pantry ครัว พื้นที่นั่งเล่น และภายในห้องนอนนะคะ ซึ่งเวลามีคราบสกปรกที่เกิดจากการทำครัวก็จะทำความสะอาดยากกว่ากระเบื้องค่ะ

ด้านหลังประตูมี Doorstop ติดไว้เรียบร้อย ทำให้เวลาเปิดประตูแล้วไม่ชนกับตู้เย็นด้านข้างค่ะ

ต่อไปจะเริ่มอธิบายแต่ละส่วนของห้องพักอาศัยนะคะ เริ่มจากส่วนของ Pantry ครัวและตู้ลอย ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แถมมาให้กับห้อง Fully Furnished สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีโปรโมชั่นที่แถมให้บางชิ้น อย่างในห้องครัวนี้จะได้ไมโครเวฟด้วยค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวจาก Modernform มีขนาด 1.2 x 0.6 ม. วัสดุเป็นโครงไม้กรุลามิเนต Top เป็นลามิเนต ด้านล่างมีตู้บานเปิดปิดและลิ้นชักใส่ช้อนส้อม ส่วนตู้ใต้อ่างล้างจานไว้ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจานค่ะ ซึ่งบานพับเปิดปิดเป็นแบบธรรมดา ก็ระวังหน้าบานกระแทกนิดนึงค่ะ

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้ช่องเคาน์เตอร์มา 2 ช่องนะคะ ช่องหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกช่องเป็นเคาน์เตอร์โล่งเตรียมไว้ให้เผื่อลูกบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้เตาทำอาหาร ก็จะเหลือพื้นที่เตรียมอาหารตรงนี้นะคะ แต่ถ้าเจ้าของห้องต้องการจะติดเตาเพิ่มก็สามารถซื้อมาติดได้ แต่จะไม่ค่อยมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารเหลือ ทำให้ทำอาหารหนักๆ อย่างที่ต้องใช้เขียงหั่นนู่นนี่ไม่ค่อยสะดวกนะคะ ส่วน Backsplash ด้านหลังจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไม่ได้ติดกระเบื้องไว้ให้ทำให้เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ยาก ถ้าทำอาหารหนักๆคงต้องติดเพิ่มเองค่ะ

ถัดไปเป็นซิงค์ล้างจานยี่ห้อ Teka มีขนาดพอจะใส่แก้วได้ 6 – 7 ใบ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ

ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้ช่องโล่ง 2 ตู้ ไว้สำหรับวางไมโครเวฟ และวางของใช้เล็กๆน้อยๆในครัว ซึ่งไมโครเวฟทางโครงการก็แถมให้นะคะ

มุมที่ติดประตูอีกฝั่งเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็น ทางห้องตัวอย่างจัดไว้ที่ขนาด 7.4 คิว ซึ่งโครงการก็มีโปรโมชั่นที่จะแถมตู้เย็นให้แต่เป็นขนาดเดียวกับห้องตัวอย่างรึเปล่าต้องสอบถามกับโครงการในวันที่จะซื้อ หรือถ้าจะเลือกซื้อตู้เย็นขนาดใหญ่กว่านี้ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดพื้นที่วางด้วยนะคะ

ถัดมาเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้วางชิดผนัง ได้โต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง จากขนาดโต๊ะดูจะเล็กไปซะหน่อย ถ้าวางจานกับข้าวด้วยก็คงไม่พอ ห้องไหนอยู่อาศัย 2 คนควรเปลี่ยนเป็นโต๊ะทานอาหารที่สามารถขยายแบบพับเก็บได้ค่ะ จะทำให้มีพื้นที่ให้วางจานอาหารเพิ่มขึ้น

ถัดมาในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นมีการจัดวางชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่น มีระยะห่างประมาณ 1.75 เมตร มีขนาดทีวีที่เหมาะสมอยู่ที่ 42 นิ้ว ซึ่งทีวีที่โครงการแถมให้ก็มีขนาด 42 นิ้วเช่นกัน ส่วนชั้นวางทีวีที่โครงการให้ก็จะ Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยนะคะ

พื้นที่ที่เหลือระหว่างโซฟากับผนังติดทีวี นอกจากจะเป็นทางเดินไปพื้นที่ระเบียงด้านในแล้ว ถ้าต้องการวางโต๊ะเขียนหนังสือ แนะนำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือที่มีล้อเคลื่อนที่ได้ ซึ่งสามารถปรับเป็นโต๊ะอเนกประสงค์สำหรับทานข้าวได้ ตัวล้อสามารถสอดเข้าไปใต้เก้าอี้ได้จึงไม่เปลืองพื้นที่ค่ะ

ชุดโซฟาที่โครงการให้ก็มีหน้าตาแบบนี้เลย ขนาด 2 ที่นั่ง กว้าง 1.4 ม. ส่วนของตกแต่งบนผนังด้านหลังโซฟาจะไม่ใช่แบบนี้นะคะ จะเป็นกรอบรูปแทนค่ะ

ชั้นวางทีวีที่ได้ของ Modernform ห้องจริงก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ใต้ชั้นวางทีวีเป็นตู้เก็บของ 2 ตู้ ตู้บนเป็นบานปิดแบบเลื่อนปิดฝั่งเดียว ส่วนตู้ด้านล่างมีหน้าบานเปิดปิด 2 ฝั่ง ซึ่งบานพับเปิดปิดเป็นแบบธรรมดา ก็ระวังหน้าบานกระแทกนิดนึงค่ะ

ติดกับกับห้องรับแขกมีประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อเปิดออกไประเบียงค่ะ วงกบประตูเป็นอลูมิเนียมอบสีดำ ตัวล็อกจะเป็นตัวล็อกแบบฝังกับประตูบานละ 1 ตำแหน่ง ถ้าต้องการให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นสามารถติดตัวล็อกแบบก้นหอยตรงกลางระหว่างประตู 2 บาน ได้อีก 1 ตำแหน่งค่ะ

ธรณีประตูกั้นระหว่างพื้นห้องและพื้นระเบียง มีความสูงประมาณ 13 ซม. ตัวรางของประตูบานเลื่อนจะอยู่บนขอบประตูธรณีอีกชั้นหนึ่ง เวลาเดินเข้าออกก็ระวังสะดุด พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ซึ่งทำให้ทำความสะอาดง่าย มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม และผิวหน้ากระเบื้องจะป้องกันการลื่นได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.9 x 1.7 ม. ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับวางราวตากผ้านะคะ ขอบระเบียงถูกกั้นราวกันตกไว้เรียบร้อย วัสดุเป็นเหล็กทาสีดำไว้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงที่ได้เป็นที่เปล่าไม่ได้แถมเครื่องซักผ้าให้ ที่พื้นได้เดินท่อระบายน้ำไว้ให้ในกรณีฝนตก หรือตากผ้าแล้วทำระเบียงเปียกก็สามารถระบายน้ำลงไปทางท่อได้ค่ะ มีตำแหน่งของปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบติดตั้งไว้เรียบร้อย

บนเครื่องซักผ้าเป็นที่ตั้งของคอมเพลสเซอร์ แอร์ 2 ตัวซึ่งเป็นแบบแขวน หันด้านที่ปล่อยลมเข้าหาระเบียง ลูกบ้านควรติดกิลเป่าลมออกด้านนอกเพิ่ม จะช่วยระบายความร้อนออกจากระเบียงได้ค่ะ

กลับเข้ามาด้านในห้องที่โถงทางเดินเล็กๆระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ โดยห้องทางซ้ายเป็นห้องนอน ส่วนห้องทางขวาเป็นห้องน้ำ ซึ่งการวางแบบห้องแบบนี้มีข้อดีอย่างหนึ่ง คือผู้ใช้สามารถดัดแปลงห้องเป็นห้องที่มีห้องน้ำอยู่ในห้องนอนก็ได้ โดยการเอาประตูห้องนอนออกแล้วมากั้นทางเดินส่วนนี้แทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยเลือกตำแหน่งห้องน้ำได้ ว่าจะให้อยู่ในห้องนอนหรือในห้องนั่งเล่นค่ะ

ประตูทางเข้าห้องนอน บานประตูไม้อัดสักทาสีขาว พร้อมประตูมือจับแบบลูกบิดธรรมดาค่ะ

พื้นระหว่างห้องจะมีตัวจบพื้น เหมือนแบบประตูทางเข้าห้องนะคะ

ด้านในห้องนอนมีขนาดพอสำหรับวางFurniture ต่างๆได้แก่ เตียงขนาด 5 ฟุตวางไว้ชิดหน้าต่าง ทำให้มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือฝั่งเดียวและด้านข้างโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ที่ผนังฝั่งที่เหลือค่ะ

ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่กว้าง 45 ซม. ใช้เป็นทางเดินเข้าไปที่ชั้นวางของด้านในได้ ส่วนพื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับหน้าต่างเหลือช่องไว้หน่อยให้เป็นพื้นที่สำหรับม่านค่ะ

พื้นด้านข้างเดียงอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่เหลือให้สำหรับเดินขึ้นเตียงและเปิดตู้เสื้อผ้าได้ โดยมีความกว้างประมาณ 1.1 ม. และยังเป็นพื้นที่สำหรับเปิดลิ้นชักใต้เตียงด้วยค่ะ

สำหรับหน้าต่างในห้องนอนทางโครงการติดตั้งมาให้มีขนาดใหญ่พอสมควร แม้ว่าจะไม่ได้เป็นบานใหญ่บานเดียวแต่ก็เป็นช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ โดยหน้าต่างให้เป็นกระจกตัดแสง จะเป็นบานผสมระหว่างบาน Fix และบานเลื่อน โดยจะมีบานที่เลื่อนได้ 2 บานอยู่ด้านบน มีตัวล็อกที่ฝังอยู่ในวงกบประตูแบบเดียวกับประตูบานเลื่อนสำหรับออกไประเบียงค่ะ

ปลายเตียงมีชั้นวางทีวีเล็กๆอยู่ฝั่งที่ติดกับหน้าต่าง ถ้าวางทีวีตรงนี้เวลาดูจะต้องดูเอียงๆหน่อย วิธีแก้คือใช้เป็นทีวีแบบแขวนติดบนผนังห้องแทน ส่วนชั้นวางทีวีตรงนี้ก็เป็นชั้นวางของไปแทนค่ะ

จากฝั่งด้านหน้าต่างมองกลับมาทางตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้จะเป็นตู้บานเลื่อน 2 บาน หน้าบานของตู้เป็นหน้าบานทึบ ถ้าลูกบ้านอยากได้กระจกเต็มตัวก็สามารถกรุผนังด้านข้างได้นะคะ

ตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้จะเป็นตู้บานเลื่อน 2 บาน ด้านในของตู้จะมีราวแขวนผ้า ซึ่งแขวนได้ทั้งแบบเสื้อผ้าตัวสั้นและตัวยาวนะคะ และมีลิ้นชักเก็บของอีก 1 ช่อง และช่องเก็บของแบบช่องโล่งไม่มีหน้าบานปิดอีก 2 ช่อง รวมถึงยังมีช่องเก็บของด้านบน ซึ่งสามารถใช้เก็บผ้านวมผืนใหญ่ๆหรือกระเป๋าเดินทางได้เลยค่ะ

เพดานห้องเป็นแบบไม่มีฝ้านะคะ จึงเห็นกล่องไฟดาวไลท์ชัดเจน

ออกมาจากห้องนอน ฝั่งตรงข้ามคือทางเข้าห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 3 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ

ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยขอบธรณีและฉากกั้นอาบน้ำ ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมดค่ะที่แตกต่างกันคือพื้นภายในห้องน้ำจะเป็นแบบด้าน เพื่อช่วยกันลื่นภายในห้องน้ำค่ะ

ผนังด้านหลังอ่างล้างมือ ทางโครงการติดกระจกไว้ให้ขนาดพอสมควร ซึ่งจะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ

อ่างล้างหน้าของ American Standard หรือเทียบเท่า มีขนาดไม่ใหญ่มาก และมีความลึกของตัวอ่างไม่มาก ทำให้เวลาล้างมือล้างหน้าน้ำอาจจะกระเด็นนะคะ ควรหาผ้าเช็ดเท้ามาวางที่พื้นซักผืนก็จะช่วยให้พื้นส่วนแห้งไม่เปียกได้ค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบ 2 ชิ้นยี่ห้อ American Standard หรือเทียบเท่า ส่วนที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระตามมาตรฐานโครงการ ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่พอสมควรเพื่อให้สะดวกในการหยิบทิชชู่ แต่ถ้าติดที่แขวนกระดาษชำระไว้ฝั่งขวาจะใช้งานง่ายขึ้น เพราะอยู่ฝั่งเดียวกับสายฉีดชำระค่ะ

ต่อไปมาดูพื้นที่ส่วนเปียกกันบ้าง จะถูกกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจก ซึ่งเป็นแบบเปิดเข้าออก มีมือจับสามารถจับเปิดได้สะดวก ช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งค่ะ

ธรณีที่ถูกยกขึ้นจากพื้นประมาณ 10 ซม. ทำให้น้ำในพื้นที่อาบน้ำไม่ไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้งนะคะ

หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ห้องตัวอย่างติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ แต่ห้องจริงที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะมีการเดินระบบไว้ให้เท่านั้น ส่วนพื้นที่วางของทางโครงการจะเจาะช่องวางสบู่ไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

หน้าตาของฝักบัวและก๊อกเปิดปิดของ American Standard นะคะ มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.9 x 0.75 เมตร ค่อนข้างเล็กหน่อยแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้ค่ะ

ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ภายในห้องฝั่งที่ติดกับโถงทางอาคาร ทางโครงการจึงติดตั้งพัดลมระบายอากาศไว้ให้ เนื่องจากห้องน้ำแบบนี้ไม่มีหน้าต่างระบายอากาศค่ะ ไฟในห้องห้องน้ำที่ได้จะเป็นดาวไลท์แบบที่เห็นนะคะ

ปลั๊กไฟและสวิตซ์ไฟได้ของ Siemens ค่ะ

ต่อไปมาดูแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.ใหญ่ขึ้นมาจากห้องแรก โดยห้องนี้จะได้ห้องครัวที่แยกจาห้องนั่งเล่นเป็นสัดส่วนขึ้น ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัว

จาก Layout ห้องมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในห้องให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะแยกออกจากกันชัดเจนและยังต้องการเน้นแบบบรรยากาศแบบห้องโปร่งอยู่สบายๆ จึงวางห้องนอนและห้องนั่งเล่นติดผนังฝั่งที่มีหน้าต่าง ทำให้มีช่องรับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในพื้นที่พักอาศัยได้ ห้องนี้จะมีความลึกของห้องที่มากขึ้น ทำให้มีพื้นที่อเนกประสงค์ระหว่างพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีกับประตูระเบียงเกิดขึ้น ซึ่งก็สามารถใช้งานได้หลากหลายทั้งเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานหรือทำเป็นตู้เก็บของ Built-in เพิ่มขึ้นมาก็ได้ ส่วนห้องครัวจะอยู่ติดกับทางเข้าหน้าห้องได้มาเป็นครัวปิด ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ฝั่งด้านในอาคารทำให้ไม่มีหน้าต่าง ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ ส่วนห้องน้ำสำหรับแบบนี้จะไปอยู่ด้านในห้องนอนเลยนะคะ

ต่อไปมาดูภายในห้องกันค่ะ จากประตูห้องเปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่ทานข้าวมีโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ถัดเข้าไปเป็นชุดโซฟา สำหรับนั่งเล่น ดูทีวี ถัดไปเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ได้เพิ่มขึ้นมาเพราะห้อง Type นี้จะมีความลึกของห้องที่มากขึ้น และด้านในสุดเป็นพื้นที่ระเบียง

จากระเบียงมองกลับไปยังประตูจะเห็นห้องทางฝั่งซ้ายชัดขึ้น คือห้องนอนและห้องครัวที่ขนาบชั้นวางทีวีเอาไว้

มาดูห้องที่ให้เพิ่มขึ้นมาก่อนนะคะ คือห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนกั้นแยกกับส่วนนั่งเล่น เป็นบานเลื่อน 2 ตอน เวลาเปิดจะสามารถเปิดได้ฝั่งเดียวทำให้เหลือพื้นที่สำหรับเดินเข้าออก 0.7 ม. เวลาเดินถือหม้อก็ต้องระวังหน่อย แต่ข้อเสียของห้องครัวนี้ก็คือ มันไม่มีหน้าต่าง ไม่มีทางระบายอากาศ และทำให้ต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศของอาคารล้วนๆ เลย

รางประตูสูงขึ้นมาจากพื้นหน่อย เวลาเดินระวังสะดุดนะคะ

การจัดวางพื้นที่ภายในห้องครัว ชุดครัวแบบตัว I คือจัดเป็นเส้นตรงทางเดียว ในสุดเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น

ส่วนของเคาน์เตอร์ที่ให้มาจะได้สเปคเหมือนกับห้องแรกเลย ต่างกันที่ขนาดจะได้เคาน์เตอร์ที่ใหญ่ขึ้น ตู้เก็บของด้านล่างก็มีเพิ่มมาตู้หนึ่งค่ะ

ที่ได้เพิ่มมาก็คือเตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควัน โครงการให้เตาไฟฟ้าขดลวดแบบ 2 หัวของ Teka มาค่ะ ซึ่งเตาไฟฟ้าขดลวดเป็นเตาที่ค่อนข้างจะกินไฟมาก การให้ความร้อนค่อนข้างช้า มีข้อแนะนำเวลาใช้คือให้ดับไฟตอนใกล้ๆจะทำอาหารเสร็จเพื่อประหยัดไฟ เพราะความร้อนจะยังคงอยู่กับเตาอีกนาน แล้วเมื่อทำอาหารเสร็จก็ระวังมือไปโดนด้วยนะคะ ถ้ากลัวเปลืองไฟให้ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแทนซึ่งกินไฟน้อยกว่าแต่ก็มีราคาเตาที่แพงกว่าค่ะ สำหรับห้อง  Type นี้จะได้มาเป็น Set พร้อมพัดลมดูดควัน ระบบหมุนเวียนค่ะ

ตู้ลอยแบบช่องโล่งที่ได้มาขนาดจะเล็กกว่าห้องแบบแรกหน่อย ส่วนตู้บานปิดตรงนี้ไม่ใช่ตู้เก็บของเป็นตู้สำหรับติดตั้งเครื่องดูดควันค่ะ

ส่วนด้านในสุดคือที่วางตู้เย็น ตู้เย็นที่จัดให้ดูเป็นตู้ขนาด 13 คิวนะคะ แต่ก็ยังเหลือพื้นที่ 2 ฝั่งตู้เย็น หมายความว่าถ้าต้องการตู้เย็นที่ใหญ่กว่านี้ก็สามารถขยายได้ แต่ต้องลองวัดพื้นที่กันให้แน่นอนค่ะเดี๋ยวจะวางไม่ได้

ถัดมาเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งซึ่งตามที่ห้องตัวอย่างจัดมาให้ดูก็โล่งๆดี ไม่อึดอัด

พื้นที่รอบโต๊ะทานข้าว เหลือพื้นที่ไว้พอสมควรเลยค่ะ ทำให้สามารถดึงเก้าอี้ออกมานั่งทานข้าวได้อย่างสบายๆ ถ้าห้องไหนอยู่คนเดียวก็สามารถวางตู้หนังสือหรือชั้นวางของเพิ่มได้นะคะ

พื้นที่นั่งเล่นในห้องตัวอย่างจัดวางชุดโซฟาไว้มีขนาด 2 ที่นั่ง ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่น มีระยะห่างประมาณ 1.85 เมตร มีขนาดทีวีที่เหมาะสมอยู่ที่ 46 นิ้วพอๆกับห้องแรก

โซฟาที่โครงการแถมให้ก็จะเป็นโซฟาขนาดเดียวกับในห้องแบบแรกเลยนะคะ แต่กรอบรูปที่ตกแต่งให้ด้านหลังโซฟาจะเป็นกรอบรูปที่มีขนาดเล็กกว่านี้นะคะ

ชั้นวางทีวีที่ได้ของ Modernform มาเป็นชุดกับชั้นวางของเหนือทีวี ห้องจริงก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ตัวตู้จะเป็นตู้โล่ง 2 ช่อง และเป็นลิ้นชัก 2 ช่องค่ะ

ถัดจากตำแหน่งวางโซฟาไปด้านในจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถไว้วางโต๊ะทำงานหรือทำเป็นชั้นวางของได้ ระเบียงของห้องจะอยู่ด้านในสุดติดกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งตัวประตูบานเลื่อนจะเป็นสเปคเดียวกับห้องแรกเลยค่ะ

พื้นที่อเนกประสงค์ตรงนี้มีขนาด 1 x 2.35 ม. จะใช้วางโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ หรือวางโซฟาก็แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านเลย แต่ก็อย่าให้บังทางเข้าออกระเบียงนะคะ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 0.9 x 2 ม. ซึ่งมีความยาวของระเบียงมากกว่าห้องแรกหน่อย ทำให้ได้พื้นที่สำหรับวางราวตากผ้าที่กว้างขึ้น ขอบระเบียงถูกกั้นราวกันตกไว้เรียบร้อย วัสดุเป็นเหล็กทาสีเทาค่ะ

จากระเบียงภายนอกมองกลับเข้ามาในห้องนะคะ ติดกับชั้นวางทีวีจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน บานประตูเป็นบานไม้อัดสักทาสีขาวเช่นเดียวกับประตูหน้าห้อง พร้อมลูกบิดประตูแบบหัวกลมธรรมดา ส่วนพื้นระหว่างห้องจะมีตัวจบพื้นเหมือนแบบประตูทางเข้าห้องเช่นกัน

ด้านในห้องนอนมีขนาดที่กว้างขึ้นกว่าห้องแรก แต่ก็ยังต้องวางเตียงขนาด 5 ฟุตวางไว้ชิดหน้าต่าง ทำให้มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือฝั่งเดียว

ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ให้วางชั้นวางทีวีได้ แล้วก็จะเหลือพื้นที่ทางเดิน 40 ซม. สำหรับหน้าต่างในห้องนอนทางโครงการติดตั้งมาให้เป็นกระจกตัดแสง เป็นบานผสมระหว่างบาน Fix และบานเลื่อนเหมือนแบบห้องแรกนะคะ

ส่วนพื้นที่ติดทีวีสำหรับห้องนี้จะลงตัวกว่าห้องแบบแรก ถ้าติดทีวีแบบแขวนก็จะทำให้ได้พื้นที่วางของเพิ่มขึ้น

พื้นด้านข้างเดียงอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่เหลือให้สำหรับเดินขึ้นเตียงและเปิดตู้เสื้อผ้าได้ โดยมีความกว้างประมาณ 0.7 ม. และยังเป็นพื้นที่สำหรับเปิดลิ้นชักใต้เตียงด้วยค่ะ

จากฝั่งด้านหน้าต่างมองกลับมาทางตู้เสื้อผ้าที่ถูก Built-in ไว้จะเป็นตู้บานเเลื่อน 2 บาน สเปคเดียวกับห้องแรกเลยนะคะ ส่วนประตูด้านข้างคือประตูทางเข้าห้องน้ำ สำหรับ Type นี้จะเข้าได้จากทางห้องนอนเท่านั้นค่ะ

ภายในห้องน้ำจะเหมือนห้องน้ำแบบห้องแรกเลย สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำก็เป็นสเปคเดียวกันค่ะ

ส่วนเปียกภายในห้องน้ำ ก็จะมีขอบธรณีที่ยกขึ้นไว้กั้นไม่ให้น้ำในส่วนเปียกไหลออกไปส่วนแห้งเช่นกันค่ะ

แต่ขนาดพื้นที่ส่วนอาบน้ำจะกว้างกว่าห้องแบบแรกเล็กน้อย มีขนาด 0.7 x 1.1 ม. ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 5 October 2016

• 1 Bedroom ชั้น 5 ห้อง 77 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1,557,284 บาท หรือ 60,150 บาท/ตร.ม. ส่วนลด 50,000 บาท เหลือ 1,507,284 บาทหรือ 58,219 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 13 เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1,578,857 บาท หรือ 61,650 บาท/ตร.ม. ส่วนลด 50,000 บาท เหลือ 1,528,857 บาทหรือ 59,698 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 112 เนื้อที่ 32 ตร.ม. ราคา 2,215,168 บาท หรือ 69,550 บาท/ตร.ม. ส่วนลด 50,000 บาท เหลือ 2,165,168 บาทหรือ 67,980 บาท/ตร.ม.
• Fully Furnished
• ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
• Kitchen & Sink
• Hob & Hood
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
• Promotion ของแถมพิเศษ เฟอร์นิเจอร์ครบชุด, วอลเปเปอร์, ผ้าม่าน, TV LED 42″,ตู้เย็น, ไมโครเวฟ, ครัว Built-in+เครื่องดูดควัน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้คะ

เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ de Zone ตั้งอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ –  ปากเกร็ด 23  บนถนนแจ้งวัฒนะซึ่งเป็นถนนอีกเส้นที่ใช้เดินทางออกไปยังจังหวัด นนทบุรี ถึงแม้ว่าจะอยู่นอกเมืองออกมาหน่อยและยังไม่มีการสร้างรถไฟฟ้าในเร็วๆนี้ แต่ถนนเส้นนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์และมีคนอาศัยอยู่เยอะพอสมควร โดยช่วงต้นของถนนจะมีสถานที่ราชการที่สำคัญอยู่คือ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศาลปกครอง กรมการกงสุล และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นอกจากนั้นยังมี TOT ไปรษณีย์ และ CAT ถัดมาบริเวณใกล้ๆทางด่วนจะมีเมืองทองธานี ศูนย์จัดแสดงสินค้า และ คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ข้างในมีหมู่บ้านและคอนโดมิเนียมอยู่ด้วย สำหรับ Hyper market ถนนเส้นนี้มีทั้ง Big C , Tesco Lotus และ Makro ส่วนสถานที่ช้อปปิ้ง มี The Avenue และ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของคนในย่านนี้ คือ เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ

ที่ตั้งของโครงการต้องเดินเข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร  ซึ่งไม่ไกลมากแต่สภาพแวดล้อมบริเวณกลางๆ ถึงท้ายซอยยังเป็นที่ดินเปล่าอยู่เยอะ จึงค่อนข้างเปลี่ยว โดยเฉพาะในเวลากลางคืน จากซอยที่ตั้งโครงการสามารถลัดไปออกซอย แจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 21 และ 19 ได้ โดยทั้ง 3 ซอยนี้ส่วนมาก สิ่งปลูกสร้างในซอยจะเป็น อพาร์ทเมนท์ และ คอนโด Low Rise เป็นส่วนใหญ่ มีบ้านพักอาศัยน้อยมาก โดยความอุดมสมบูรณ์ของทั้ง 3 ซอย ซอย 19 ซึ่งเป็นซอยที่อยู่ตรงข้ามเซ็นทรัลพอดีจะมีมากที่สุด หน้าปากซอย 19 จะมีเต๊นท์ขายอาหาร และ ฟู๊ดพลาซ่า เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนละแวกนี้รวมถึงพนักงานในตึก Software Park ซึ่งคนจากซอย 23 และ 21 ก็มีเดินไปทานข้าวที่ซอยนี้

การเดินทางโดยใช้รถ – ค่อนข้างสะดวกเพราะถนนแจ้งวัฒนะสามารถใช้เส้นทางเชื่อมไปยังถนนอื่น ๆ ได้หลายสาย เช่นใช้ถนนวิภาวดี – รังสิตเข้าเส้นลาดพร้าว หรือ ไปทางรังสิต , ใช้ถนนติวานนท์ ขับไปออกจังหวัดนนทบุรี  การจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนค่อนข้างติดขัด โดยเฉพาะบริเวณหน้า ศูนย์ราชการ เมืองทองธานีเวลาจัดงาน และ สะพานพระราม 4 ยาวไปถึงชัยพฤกษ์ แต่ยังดีที่โครงการยังใกล้ทางด่วน พอออกจากซอยมาขับรถมาประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเจอกับทางด่วนแล้ว แต่ถ้าลงจากทางด่วนจะต้องขับเลยเซ็นทรัลไปก่อนแล้วไปกลับรถหน้าโชว์รูม BMW จึงจะเข้าซอยได้ ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนก็ใช้เวลานานพอสมควร ข้อเสียหลักๆของคนขับรถในย่านแจ้งวัฒนะก็คือปัญหารถติดนี่แหละค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 400 ม. ทำให้ยังสามารถเดินออกมาเรียกรถโดยสารได้ไม่ยาก หรือใครไม่อยากเดินก็สามารถโบกพี่วินออกไปได้ โดยบริเวณหน้าซอย แจ้งวัฒนะ –  ปากเกร็ด 19 จะมีแหล่งรวมรถตู้ และ มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ ส่วนรถไฟฟ้ายังคงต้องรอไปก่อน โดยในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานี แจ้งวัฒนะ –  ปากเกร็ด 28 อยู่บริเวณหน้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะพอดี ซึ่งสถานีนี้เป็นสถานีที่เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมจาก 24 สถานีเป็น 30 สถานีเนื่องจากพื้นที่ในย่านนี้เจริญขึ้นมากกว่าตอนที่วางแผนแรกๆมาก โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูคาดว่าน่าจะได้ใช้กันประมาณ ปี 2563 ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง(โดยส่วนตัวคาดว่าน่าจะไม่ทัน) ซึ่งเราคงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไปค่ะ

วัสดุ -วัสดุภายในห้องได้มาตามมาตรฐานของโครงการในระดับนี้ ด้วยราคาต่อตร.ม. ที่เริ่มต้น 58,000 บาท และเฉลี่ยที่ประมาณ 62,000 บาท/ตร.ม. โครงการขายแบบ Fully Furnished พื้นห้องได้เป็นลามิเนต 8 mm. ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.6 เมตร (ไม่มีฝ้า)โคมไฟดาวไลท์ อุปกรณ์ในห้องน้ำของ American Standard ส่วนครัวได้เคาน์เตอร์ Modernform พร้อมซิงค์ล้างจานของ Teka ส่วน Top เป็นลามิเนต ห้องนั่งเล่นให้โซฟา, ชั้นวางทีวีของ Modernform เน้นการออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์มีฟังก์ชั่นพิเศษสามารถเก็บของได้ ในห้องนอนมีเตียง Built-in มาให้ และใต้เตียงมีตู้เก็บของ มาพร้อมตู้เสื้อผ้าแบบมีบานเลื่อน

การออกแบบ – โครงการสร้างเต็มที่ดินโครงการ 0-3-51 ไร่ เป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้าง่ายๆ ตัว Facilities ส่วนกลางแยกชั้นไม่ให้อยู่ชั้นเดียวกับชั้นพักอาศัย ทำให้ชั้นพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวค่ะ ห้องพักมีความสูง 2.6 ม. ทำให้ห้องดูโปร่งดีค่ะ ส่วนการออกแบบภายในห้อง ออกแบบมาใช้ได้ แต่ก็มีบางจุดที่ยังไม่ลงตัวอย่างชั้นวางทีวีในห้อง Type 26 ตร.ม. ที่ไม่ได้อยู่ตรงกลาง หรือครัวปิดที่ไม่มีทางระบายอากาศตามธรรมชาติ แต่ก็สามารถแก้ได้โดยการติดพัดลมดูดอากาศและเครื่องดูดควัน

เรื่องของวิวบนตึก de ZONE นั้น ก็ต้องยอมรับว่าทิศเหนือดีกว่าทิศใต้อย่างเห็นๆ เพราะฝั่งใต้มี T2B อพาร์ทเมนต์คอยบังไว้ในระยะประชิด ถ้ามีงบหน่อยคิดว่าควรจะเลือกทิศเหนือจะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่ทิศใต้ห้องที่ได้จะเป็นห้องเล็ก 26 ตารางเมตร ขายในราคาล้านกลางๆ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด แต่ในขณะเดียวกัน ทิศเหนือจะวางห้องใหญ่ 32 – 36 ตารางเมตร ตกสองล้านต้นๆ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่งบประมาณของแต่ละคนค่ะ

สาธารณูปโภค – มีให้ครบ แต่ขนาดค่อนข้างเล็กไปหน่อย มีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 1, ฟิตเนส, สวนบนชั้นดาดฟ้า มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 74 : 1 ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 30%  แต่เนื่องจากด้านหน้าโครงการยังไม่มีรถไฟฟ้า คนเดินทางจำเป็นต้องมีรถจึงมองว่าที่จอดรถค่อนข้างน้อยไปหน่อย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 53,000 – 68,000 บาท/ตร.ม., 5 October 2016

• ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 23 เข้าซอยไปประมาณ 400 เมตร ฝั่งตรงข้ามเป็น เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ทำเลอยู่นอกเมืองมาหน่อย แต่อุดมสมบูรณ์พอสมควร
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ถนนแจ้งวัฒนะออกได้หลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วน มีที่จอดรถ 30%
• ไม่ใช้รถ (กรณียังไม่มีรถไฟฟ้า) 7.5/10 –  ปากซอยมีรถสาธารณะให้บริการอยู่เยอะ แต่การออกมาจากซอยต้องเดินหรือโบกพี่วินออกมา
• ไม่ใช้รถ (กรณีรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ) 8/10 – สะดวกเพราะสถานีรถไฟฟ้าจะอยู่หน้าซอย ห่างจากโครงไปประมาณ 650 เมตร
• วัสดุ 8/10 – เฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully furnished วัสดุให้ค่อนข้างโอเคเมื่อเทียบกับราคา
• แบบ 8/10 – ออกแบบได้ดีพอสมควร
• สาธารณูปโภค  7.5/10 – ตามมาตรฐานทั่วไปถือว่าให้มาครบ แต่ขนาดอาจจะเล็กทำให้ความน่าใช้งานน้อยค่ะ

• ECONOMY CLASS
• 7.63 / 10.00  (กรณียังไม่มีรถไฟฟ้า)
• 7.7 / 10.00 (กรณีรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ)

BOTTOM LINE

โครงการเหมาะกับคนโสด หรือคู่แต่งงานใหม่ที่กำลังมองหาคอนโดพร้อมอยู่หรือทำงานในย่านแจ้งวัฒนะ อยู่ห่างจากเมืองออกมาหน่อย แต่ก็ยังอยากได้ทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ใกล้ศูนย์การค้า มีงบประมาณ 1.55-2.2 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 15,000 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )