สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 204 … วันนี้เราจะแวะไปดู dcondo รามอินทรากันนะครับ สำหรับโปรเจคดีคอนโดจากแสนสิรินี้เป็นหมู่ตึกคอนโดมิเนียม Low Rise 4 ตึก ติดถนนใหญ่รามอินทราที่สร้างเสร็จไปซักพักแล้วครับ มีการโอนไปเยอะพอสมควร แล้วก็มีลูกบ้านเข้าอยู่เป็นตัวเป็นตนกันเยอะมากแล้ว รวมไปถึงห้องที่กำลังตกแต่งเตรียมย้ายเข้าด้วยครับ :>

Fact @ 25 July 2012

  • dcondo รามอินทรา
  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
  • SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร 825 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  311 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 38%
  • ที่ดินประมาณ 9-1-49.67 ไร่
  • Studio/2 Bedrooms
  • พื้นที่ใช้สอย 29 และ  58 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.1 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 40,000 บาท
  • สร้างเสร็จพร้อมอยู่

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

dcondo รามอินทรา เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนใหญ่รามอินทราครับ บริเวณแยกที่เป็นทางขึ้น-ลง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับแยกที่จะเข้า ถนนวัชรพลครับ ประมาณรามอินทรา กม. 5 นั่นเอง บริเวณเดียวกันนี้ในอนาคต(อันยาวไกล) จะมีสถานีรถไฟฟ้า วัชรพล สายสีชมพูมาตั้งอยู่ใกล้ๆครับ ลูกบ้านที่อยู่ที่นี่ก็คงได้เฮไปตามๆกัน

ภาพตำแหน่งแปลงคอนโด Satellite Image โดยอากู๋ Google ครับ เช่นเคยครับ เป็นอย่างคร่าวๆนะครับ อย่าไปใช้อ้างอิงจริงๆล่ะ 😛

การเดินทางด้วยรถยนต์ของคอนโดนี้ต้องยอมรับว่าสะดวกจริงๆครับ อยู่ห่างจากทางขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์แค่ราว 300 เมตรเท่านั้น เพียงเลี้ยวซ้ายออกจากโครงการก็เจอเลย และทางขึ้นนี้ก็สามารถไปได้ทั้งขาเข้า-ขาออกเลยด้วยครับ แล้วจะเชื่อมต่อไปด่วนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ก็ง่ายนิดเดียวครับ

ส่วนการเดินทางเข้าโครงการ โดยปกติถ้าวิ่งมาจากในตัวเมืองใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ก็คงจะเป็นทางที่สะดวกที่สุดนะครับ แต่ปริมาณรถในช่วงเวลาเร่งด่วนก็มีจำนวนมหาศาลเหมือนกัน ต้องดูเรื่องเวลาดีๆครับอยู่แถวนี้ เพราะบางทีแม้จะเป็นเวลาหัวค่ำฟ้ามืดแล้ว บนเส้นเลียบทางด่วนรถก็ติดได้เหมือน

ทางด่วนเส้นนี้วิ่งผ่านหมู่บ้านเยอะมาก เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่ส่งรถยนต์จำนวนมหาศาลจากสุขุมวิทตอนปลาย เอกมัย ตลอดจนพระราม 9 เข้าไปสู่เกษตร-นวมินทร์, ลาดพร้าวและรามอินทรา แถมยังมีจุดที่เป็น Community Mall, Night Lifestyle เช่น The Crystal, Nawamin Avenue ตลอดจน CDC ที่หลายๆคนใช้เป็นที่เฮฮา ปาร์ตี้ ทานอาหาร ในยามคำคืน

ความเจริญบนถนนรามอินทราก็อย่างที่หลายๆคนทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ ตั้งแต่มีทางด่วนมาลงชุมชนโดยรอบมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมาวางพาดยาวเลย แต่ความเจริญตรงนี้ก็คงจะยังเทียบไม่ได้กับ บนเส้นเลียบทางด่วน (ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม) หรือเกษตร-นวมินทร์ (ถ.ประเสริฐมนูกิจ) ครับ

ศูนย์การค้าและ Supermarket ใกล้เคียงก็จะมีคร่าวๆดังนี้ครับ

  • Lotus Express – 700 เมตร บนถนนวัชรพล
  • Foodland – 1.2 กม. บนถนนรามอินทรา
  • Big C Extra – 2 กม. บนถนนรามอินทรา
  • Central รามอินทรา – 4 กม. บนถนนรามอินทรา
  • Fashion Island – 5.5 กม. บนถนนรามอินทรา
  • The Crystal Park – 5.5 กม. บนถนนเลียบทางด่วน
  • CDC – 6.8 กม.บนถนนเลียบทางด่วน

การเดินทางไป dcondo รามอินทราวันนี้ ผมมาจากถนนพหลโยธินครับ จากวงเวียนบางเขน (หลักสี่) ก็ไม่มีอะไรมาก วิ่งตรงๆมาทางถนนรามอินทราโลด

เจอ Big C Extra อยู่ทางขวามือไกลๆก่อนนะครับ

ถัดมาก็จะเป็น Foodland ที่เปิด 24 ชม. ยามค่ำคืนนี่มีฟู้ดแลนด์ก็ช่วยได้เยอะครับ ขาด-เหลืออะไร มาเติมที่นี่ได้ตลอด

ถัดมาเป็นปั๊มน้ำมัน Esso ครับ

ก่อนถึงโครงการ เราก็จะเจอ กองบินตำรวจ นะครับ จุดสังเกต จะมีเครื่องบินจำลองอยู่ข้างหน้าเลย แล้วตรงมาอีกนิดเดียวก็จะถึงทางเข้าโครงการตามลูกศรสีส้มแล้วครับ

ป้ายด้านหน้าโครงการครับ เดี๋ยวเรายังไม่เลี้ยวเข้านะครับ เราจะขับเลยไปดูก่อนว่า เวลาออกจากตัวโครงการจะเป็นยังไง

พอวิ่งต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอป้าย กับทางเบี่ยงแบบนี้ครับ ถ้าเราเบี่ยงซ้ายไปมันจะไปเข้าถนนวัชรพลครับ ถ้าเราเลือกที่จะตรงต่อไป ก็จะไปเจอ Fashion Island ไปมีนบุรีครับ แต่เดี๋ยวเราจะเลือกวิ่งตามป้ายสีน้ำเงินไปครับ ก็คือวิ่งขนานถนนวัชรพลไป แต่อยู่ทางด้านนอกครับ (อยู่เลนนี้แหละ)

เลี้ยวซ้ายไปเลย จะเห็นป้าย “ไปสุวรรณภูมิ” (จากตรงไหนของกทม.ก็ไปสุวรรณภูมิได้ มีป้ายทุกที่)

แล้วเราจะมาถึงแยกที่เราจะเลือกได้ว่า เราจะวิ่งออกซ้ายไปวงแหวน หรือขึ้นสะพานกลับรถไปลงถนนเลียบทางด่วน เพื่อที่จะไปขึ้นทางด่วนขาเข้า ไปเอกมัย พระราม 9 บางนา ดาวคะนองตามรูปครับ เดี๋ยวเราไปทางขวากันครับ

ลงมาถนนเลียบทางด่วนแล้วนะครับ เส้นนี้ก็คงจะเป็นถนนหลักที่ใช้เข้าสู่ตัวเมืองโดยอาศัยทางด่วนครับ อ้อ ลืมบอกไปว่า ทางด่วนตรงนี้อาจจะต้องโดนค่าผ่านทาง 2 ต่อนะครับ แล้วแต่ว่าเราจะเลือกไปลงตรงไหน

จากตรงนี้ ตรงต่อไปอีกประมาณ 5-6 กม. ก็จะไปเจอ CDC ครับ แต่ถ้าอยากไป Crystal Park ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ต้องไปกลับรถข้างหน้า ระยะทางพอๆกันครับ จะมองเห็น Crystal Park ก่อน CDC ครับ :> เจาะลึกทำเลก็คงจะประมาณนี้ครับ เราไปดูตัวโครงการกันต่อ

เจาะลึกตัวโครงการ

สำหรับโปรเจ็คนี้จะประกอบไปด้วย หมู่ตึกคอนโด Low Rise 8 ชั้น จำนวน 4 อาคารครับ ได้แก่ Tower A, B, C และ D ดังที่เห็นตามภาพด้านบน จำนวนยูนิต ตึก A มี 140 ยูนิต ตึก B มี 226 ยูนิต ตึก C มี 230 ยูนิต และตึก D มี 229 ยูนิต รวม 825 ยูนิตครับ

สระว่ายน้ำมีด้วยกัน 2 สระ สระแรกจะอยู่ระหว่างตึก B และ ตึก C ส่วนสระที่สองจะอยู่บริเวณตึก D ครับ ส่วนห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง จะอยู่ติดกับสระน้ำสระละ 1 ห้องครับ มองจากด้านบนแล้วจะเห็นว่าปริมาณพื้นที่สีเขียวดูจะน้อยไปหน่อย เทียบกับพื้นที่กว้างๆแบบนี้ (กลายเป็นที่จอดรถไปหมด)

มาดูเรื่องทิศกันบ้างครับ ตัวแปลงที่ดินวางตัวแนว ตะวันออก-ตะวันตกครับ จากรูปด้านบน ทิศเหนืออยู่ทางขวามือไป 90 องศาเลยครับ และเป็นทิศที่ไม่มีอะไรมาบังด้วย เนื่องจากพื้นที่เหนือคอนโดขึ้นไปจะเป็นพื้นที่ของกองบินตำรวจ ซึ่งไม่สามารถมีอาคารสูงมาอยู่ใกล้ๆบริเวณนี้ได้อยู่แล้ว ก็เป็นโชคดีของห้องด้านทิศเหนือของตึก D ที่จะได้วิวโซนนี้ไปครับ แถมยังได้วิวสระว่ายน้ำกับสวนหย่อมอีกต่างหาก

สำหรับทิศตะวันตกนั้น แดดเข้าเต็มๆเลยครับ เพราะแปลงข้างๆไม่มีตึกสูงมาบังแดดให้เราเลย ส่วนวิวก็จะมองเห็นเป็นพื้นที่ของกองบินตำรวจเช่นกันครับ ซึ่งก็คงจะมองเห็นเฉพาะชั้น 7-8 เท่านั้น ทิศตะวันออก เราจะมองเห็นเป็นวิวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ครับ ซึ่งตึก A กับ ตึก C และตึก B บางส่วน ก็จะได้ไปครับ (ชั้นสูงๆ) ส่วนทิศใต้นั้นก็จะเป็น City View ธรรมดาครับ คงจะมองทางด่วนแทบจะไม่เห็นเนื่องจากความสูงไม่พอ สำหรับตึก B และ C ยูนิตด้านที่หันหน้าเข้าหากัน มองออกหน้าต่างไปก็คงจะเจอหน้ากันทุกวันล่ะครับ แต่ก็ยังโชคดีหน่อยที่ได้วิวสระว่ายน้ำ และพื้นที่สวนหย่อมตรงกลาง มาช่วยคลายความอึดอัดให้ได้บ้าง

 

ที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้นหนึ่งของแต่ละตึกครับ แต่จะมีข้อแตกต่างระหว่างแต่ละตึกนิดหน่อย คือ ตึก A นั้นชั้นหนึ่งจะเป็นลานจอดรถล้วนๆเลย ในขณะที่ตึก B, C และ D จะมีส่วนที่เป็นยูนิตติดสระว่ายน้ำด้วย ก็นอกจากจะได้วิวสระว่ายน้ำ จะเข้าบ้านก็ไม่ต้องเดินขึ้นบันไดไปชั้นอื่นๆด้วย

สระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายของตึก D นั้น ตำแหน่งเหมาะมากที่จะให้ลูกบ้านจากตึก D ยึดไปใช้โดยปริยาย ในขณะที่ตึก B กับ C ดูจะต้องแบ่งกันใช้สระกลาง (และห้องออกกำลังกายด้วย) ซึ่งก็อาจจะมีลูกบ้านจากตึก A มาแจมด้วย เนื่องจากคนที่อยู่ตึก A เดินไกลมากหากจะมาถึงตึก D เพื่อมาใช้พื้นที่ส่วนกลางบริเวณนั้น เว้นแต่ว่าคนใช้เยอะจริงๆ

ชั้น 2-8 ของแต่ละตึกก็จะเป็นห้องพักล้วนๆครับ แต่ละตึกมีลิฟท์ 2 ตัว และไม่มีลิฟท์ขนของแยกนะครับ ใช้ร่วมกัน อัตราส่วนลิฟต์ ประมาณ 115:1 สำหรับตึก B, C และ D และ 70:1 สำหรับตึก A สำหรับสามตึกแรก ถือว่า อยู่ในระดับที่ดีสำหรับคอนโดระดับ Super Economy Class แต่สำหรับตึก A นี่ถือว่าดีมากเลย

พอขับรถเข้ามาก็เจอพี่ยามวิ่งเข้ามา เสียงดัง เข้มแข็งดีครับ ยามสองคน คนหนึ่งดูกระตือรือร้น อีกคนหนึ่งเหมือนเป็นเด็กใหม่ ยังไม่คล่องแคล่วเท่าไร

มองจากทางเข้าเข้าไปครับ

ขับรถเข้าไปก็จะเห็นสภาพถนนรอบๆโครงการเป็นแบบนี้ครับ จะเห็นว่าโดยรอบจะล้อมรั้วด้วยต้นไม้ตลอด เพื่อเติมความเขียวให้กับโครงการหน่อย (เพราะดูจะมีไม่เยอะเท่าไหร่)

แท็งค์น้ำสำรองอยู่ท้ายโครงการครับ หัวมุมลานจอดรถ เข้าใจว่าอยากจะเอาต้นโมกมาวางเก็บไว้ แต่มันเกะกะไปหน่อย ไม่ค่อยเป็นระเบียบ

หัวมุมอีก ก็จะเป็นโรงเก็บขยะกลาง ภาพนี้เบลอไปนิดนึง

มาจอดรถกันก่อนครับ ก่อนที่จะไปลุยกันต่อ ลานจอดจะอยู่ตามชั้นหนึ่งของอาคารแบบนี้แหละครับ

แอบไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันหน่อย นี่เป็นสระน้ำกลางระหว่างตึก B กับ C นะครับ เหมือนกำลังปรับปรุงอะไรบางอย่าง น้ำหายหมดเลย … ไม่เป็นไร เราเดินไปดูสระที่ตึก D ก็ได้

สระฝั่งตึก D ที่อยู่ท้ายแปลงหน้าตาเป็นแบบนี้

ดีไซน์ทำออกมาดูสวยครับ มีการแบ่งสระตื้น สระลึกไว้ด้วย ดูชัดเจนดีครับ สำหรับคอนโด Super Economy ทำออกมาได้แบบนี้จัดว่าโอเคมาก

พื้นที่รอบๆสระก็ทำเป็นสวนหย่อมแบบนี้แหละครับ มีการตกแต่งด้วยทางเดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดเป็นชิ้นๆ เข้ากับสไตล์ Modern

สุดทางเดินของสวนหย่อมเราก็จะเจอทางเข้าห้องออกกำลังกายครับ ห้องนี้เป็นอาคารชั้นเดียวแยกต่างหากออกมาจากตัวตึก รอบอาคารเป็นกระจกเขียวตัดแสง ให้มองเห็นด้านนอกในขณะที่ออกกำลังกาย ไม่อึดอัด

และบันไดลงสู่สระน้ำที่อยู่ติดกัน พื้นสระว่ายน้ำก็ปูกระเบื้องเป็นลายสี่เหลี่ยมผืนผ้าในลักษณะเดียวกันกับพื้นรอบๆสระว่ายน้ำ และพื้นทางเดินที่สวน เป็นลวดลาย Concept ของโครงการที่ออกแบบเข้ากันดี

ด้านในห้องออกกำลังกายครับ

หน้าห้องน้ำมีตู้ Locker เก็บของให้ใช้บริการได้

ด้านในห้องน้ำก็จะเป็นแบบนี้ครับ มีห้องอาบน้ำตามปกติมาตรฐาน

แล้วเราก็เดินมาถึง Lobby ของตึกครับ

ถ่ายให้เห็นอีกมุมหนึ่ง

ปลายสุดก่อนที่จะเป็นโถงลิฟท์ก็จะเจอกับ Mailbox ครับ

ขึ้นลิฟท์มากันแล้ว ถ้าใครไปช่วงนี้ (ก.ค. 55) อย่าพึ่งตกใจกับลิฟท์นะครับ เขาปิดไม้ป้องกันรอยขีดข่วนเอาไว้ ในกรณีที่ลูกบ้านมีการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ลูกบ้านหลายห้องกำลังตกแต่ง เพื่อเตรียมเข้าอยู่กันครับ

ถ่ายให้ดูโถงลิฟท์ครับ เรียบๆไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก

โถงทางเดินขนาดกว้าง 1.50 เมตร ปูกระเบื้องเซรามิคธรรมดา ขนาด 12″ x 12″

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 2 สระ
  • ห้องออกกำลังกาย 2 ห้อง
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ ตึก A 70:1 ตึก B, C, D ประมาณ 115:1
  • ระบบ CCTV / Access Card

Product Walkthrough

เริ่มจากห้อง Studio กันก่อนครับ อันนี้เป็นห้องตัวอย่างนะครับ

เริ่มจากประตูทางเข้ากันก่อนเลย เป็นประตูสีขาวแบบมาตรฐานครับ กลอนประตูเป็นแบบกุญแจไขธรรมดา

เปิดเข้ามาเป็นมุมพักผ่อน วางชั้นวางทีวี ประตูที่เห็นนั่นคือออกไปสู่ห้องครัวครับ

ฝั่งตรงข้ามทีวีก็แน่นอนครับ โซฟา กับโต๊ะรับแขก

พื้นจะเป็นลามิเนต หนา 8 มม. ครับ

ไฟจะเป็นแบบกลมๆแบบนี้ครับ กล่องผ้าม่านนั่น ห้องจริงจะไม่มีให้นะครับ

สวิตช์ไฟ Clipsal

ห้องตัวอย่างจะมีการกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่นออกจากกันด้วยบานเลื่อน ดังรูปครับ แต่ห้องจริงจะไม่มีให้ จากการถามพนักงานขาย ก็ทราบว่าลูกบ้านหลายๆรายก็ซื้อติดเพิ่มเองกันเยอะอยู่ มี Contact ช่างกันอยู่แล้วครับ ราคาที่โครงการทำให้อยู่ที่ 2 หมื่นกว่าบาท ทำเองน่าจะถูกกว่านั้น หรืออาจจะทำเป็นบาน Slide 3 ตอนก็ได้ เวลาเลื่อนจะได้เลื่อนไปทางเดียว และดูโปร่งกว่าแบบนี้

ห้องนอนครับ

ถ่ายให้เห็นอีกมุมหนึ่งบ้าง

ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า กับโต๊ะเครื่องแป้ง

ผ้าม่านที่ไม่มีให้

เปิดออกก็จะเป็นแบบนี้

ต่อไปจะข้ามไปเป็นครัวครับ มีธรณีประตูสูงเหมือนกันนะ จะหกล้มเอาได้นะเนี่ย

ครัวก็จะเป็นลักษณะนี้ครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มีให้นะครับ แต่ก็จะมีอ่างล้างมือ กับตู้แบบนี้มาให้ ท๊อปครัวเป็นลามิเนต

พื้นครัวเป็นกระเบื้องขนาด 12×12 นิ้วครับ สีขาวเรียบ

เปิดออกไประเบียงด้านนอก

Compressor Air แขวนไว้ด้านข้างแบบนี้ครับ เป่าใส่ระเบียง ออกไปยืนจะร้อนๆ

บานเลื่อน พร้อมที่ล็อกอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

ห้องน้ำจะต้องเดินผ่านครัวเข้าไปครับ ข้างในก็จะเป็นแบบนี้ ที่อาบน้ำเป็น Hand Shower ดังรูป

กระเบื้องผนังและพื้นห้องน้ำเป็นขนาด 12×12 นิ้วครับ แต่คนละสี มีกระจกให้ด้วยตามมาตรฐาน มีช่องระบายอากาศเปิดออกไปที่ครัวครับ อาจจะส่งกลิ่นไปยังห้องนอน หรือห้องนั่งเล่นได้ ถ้าไม่ปิดประตูครัวให้ดี

อ่างล้างมือ และก็อกน้ำ

โถสุขภัณฑ์จาก GHM

ประตูห้องน้ำเป็นประตูเรียบสีขาวครับ

ต่อไปเป็นห้องแบบ Combined Unit ครับ ซึ่งก็คือการยุบห้อง Studio สองห้องเข้าด้วยกัน

เปิดเข้าห้องมาก็จะเป็นห้องนั่งเล่นก่อน ห้องนี้เป็นห้องจริงนะครับ เฟอร์นิเจอร์จะได้อย่างที่เห็นเลยครับ

โซฟา และ โต๊ะรับแขก

โต๊ะกินข้าว กับชุดเก้าอี้ 4 ที่นั่งครับ

เดินต่อมาด้านซ้ายของห้องนั่งเล่น เป็นห้องนอนใหญ่ครับ เตียงให้มา แต่ไม่มีที่นอนให้ มีชั้นวางทีวีให้ด้วยครับ

ตู้เสื้อผ้า และกระจกแต่งตัว ประตูด้านข้าง คือจุดที่จะเดินต่อไปเป็น Walk-in Closet และระเบียงครับ

มีเตียงเดี่ยวให้มาอีกตัวด้วยครับ

ถัดมาเป็น Semi Walk-in Closet ครับ

ชั้นวางเป็นแบบนี้ครับ ด้านซ้ายบนนั่นคือช่องระบายอากาศของห้องน้ำ

ห้องน้ำ Spec เหมือนกับห้อง Studio ครับ

โถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างมือ

ถ่ายให้ดูหัวก็อกแบบชัดๆอีกที

Zoom-in หัวฝักบัว Hand shower

และหัวก็อกน้ำ

มีหัวก็อกอีกอันนึงมาให้ด้วย อยู่ด้านล่างลงมา เอาไว้เปิดล้างโน่นล้างนี่

สายฉีดชำระในห้องน้ำ

บานกระจกครับ จะสังเกตว่ากระเบื้องจะตกแต่งโมเสกด้วยนะ

ถัดมาอีกฟากหนึ่งจะเป็นครัว และระเบียงอีกด้านหนึ่งครับ หน้าตาเหมือนข้างบน แค่เอาเครื่องใช้ไฟฟ้าออก

เปิดออกไปที่ระเบียงจะมีเต้ารับเสียบปลั๊กไฟด้วย สำหรับเครื่องซักผ้าครับ

3 พื้นครับ / บน: พื้นห้องนอน ลามิเนต 8 มม. / ซ้าย: พื้นห้องน้ำ กระเบื้องสีดำ ขนาด 12×12 นิ้ว / กลาง: พื้นครัว กระเบื้องสีขาว ขนาด 12×12 นิ้ว

บานเลื่อนกั้นระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น มองไปข้างบนจะเห็นกล่องมาจาก Compressor Air นะครับ วางอยู่นอกผนัง

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25/07/2012

  • Studio อาคาร A ชั้น 6 ห้อง 602 เนื้อที่ 29.70 ตารางเมตร ราคา 1.194 ล้านบาท หรือ 40,202 บาทต่อตารางเมตร
  • Studio อาคาร A ชั้น 6 ห้อง 603 เนื้อที่ 29.70 ตารางเมตร ราคา 1.253 ล้านบาท หรือ 42,202 บาทต่อตารางเมตร
  • ราคาขายต่อห้องมือสองอยู่ประมาณเดียวกันไม่หนีกันมาก 1 – 1.3 ล้านบาท

  • Fully Furnished
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 15,000 บาท
  • ค่ากองทุน 300 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 25 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของดีคอนโดอยู่นอกเมืองหน่อยแล้ว เป็นทำเลของโซนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แต่ด้วยราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้น แปลงที่ดินตำแหน่งดีๆก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมได้ อาทิเช่น LPN รามอินทรา ที่อยู่ติดกับเซ็นทรัลรามอินทรา, dcondo รามอินทรา และน้องใหม่สุด LPN ที่ต้นถนนลาดปลาเค้า ซึ่งดูทรงแล้วในอนาคตอันใกล้ ที่ดินติดถนนใหญ่รามอินทราจะกลายเป็นทำเลคอนโดมิเนียมอย่างเต็มตัว ส่วนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ราคาแพงจะถูกขยับเข้ามาอยู่ในซอยต่างๆแทน เช่นมัยลาภ, นวลจันทร์, ลาดปลาเค้า หรือขยับออกไปอยู่ในโซนถนนตัดใหม่ รัชดา-รามอินทรา

ห้างสรรพสินค้าตลอดจนร้านอาหารใกล้บ้านมีมากมาย ที่ขาดไม่ได้คงจะเป็น Central รามอินทรา, Foodland, Big C Extra และ Fashion Island เชื่อว่าหลายๆคนที่ชินกับทำเลรามอินทราจะรู้จักเป็นอย่างดี ตรงๆตัวไม่มีอะไรมาก

การคมนาคมด้วยรถยนต์ถือว่าเป็นหัวใจหลักของทำเลรามอินทรา ซึ่งทางที่สะดวกที่สุดคงจะหนีไม่พ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ที่สามารถวิ่งตรงรวดเดียวเข้าสู่ตัวเมืองได้ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างก็คิดเหมือนๆกันหมด และการที่ทางด่วนรามอินทราปัจจุบันยาวไปถึงจตุโชติ วัชรพลและวงแหวนตะวันออก ก็ทำให้มีปริมาณรถยนต์มากขึ้นตามลำดับ แต่ด้วยความที่ดีคอนโดอยู่ติดทางขึ้นทางด่วนเลย ก็จัดว่าการคมนาคมด้วยรถยนต์สะดวกมาก

การคมนาคมโดยไม่ใช้รถยนต์ทำได้พอประมาณ มีป้ายรถเมล์อยู่ถัดไปจากหน้าตึกนิดหน่อย เรียก Taxi ได้สบายๆ แต่หากจะใช้เดินทางเป็นจริงเป็นจังก็ต้องพึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะมาถึงในอนาคตอันยาวไกล ไม่รู้ว่าปี 2560 จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างหรือไม่ อันนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไป ยังไม่ใช่ปัจจัยสนับสนุนในการซื้อคอนโดสร้างเสร็จแล้วอย่างโครงการนี้

วัสดุอุปกรณ์ใช้อย่างที่ประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังคงใช้งานได้จริงและดูแล้วไม่น่าเกลียด เหมาะกับตลาด 1 ล้านกว่าบาท ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาพูดกันตรงๆก็คือไม่พอหรอกครับ มีชิ้นหลักๆให้ ส่วนชิ้นรองๆก็ต้องหาเสริมเอาเอง ถ้าประหยัดหน่อย เดินเข้า Index, SB เลือกแบรนด์อย่าง Winner, Koncept ใช้เงิน 5-6 หมื่นบาท ห้องคงจะฟูและอยู่ได้จริง

การออกแบบโดยรอบทำได้ดี แม้ว่าจะเป็นคอนโดชั้น Super Economy ทางแสนสิริก็ยังคงจุดเด่นเรื่องความสวยเอาไว้ได้ (เมื่อเทียบกับโครงการ ตารางเมตรละ 4 หมื่นกว่าบาทในรุ่นเดียวกัน) มี Theme เป็นลวดลาย Modern ที่เป็นเหลี่ยมๆ เหมาะกับคนยุคใหม่ วัยรุ่นๆหน่อย และสามารถคุมต้นทุนได้ง่ายกว่า Theme อื่น

สาธารณูปโภคมีสระว่ายน้ำสองแห่ง ฟิตเนสสองที่ สวนรอบโครงการน้อยไปหน่อย มีเฉพาะสวนแถวๆตึก D ที่ใหญ่พอที่จะใช้งานได้จริง เมื่อเทียบกับราคาและจำนวนยูนิต 800 กว่ายูนิตแล้ว ก็จัดว่าพอไปได้ครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 42,000 บาทต่อตารางเมตร, 25/07/2012

  • ทำเล 7.5/10 – ราคานี้เหมาะกับทำเลนี้
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – สะดวก ทางด่วนอยู่ข้างๆเลย ที่จอดรถอาจไม่พอ
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ เรียกรถง่าย อนาคตอันไกลๆจะมีรถไฟฟ้า
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐาน มีเฟอร์ให้
  • แบบ 9/10 – ขนาดห้องไม่เล็กเกินไป ลวดลายการออกแบบภายนอกทำได้สวยงาม
  • สาธารณูปโภค 8/10 – มีครบ ใช้งานได้

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.85 / 10.00

BOTTOM LINE

ดีคอนโด รามอินทรา เป็นที่อยู่อาศัยราคาประหยัด ไม่ไกลจาก Foodland เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถยนต์เพราะมีทางด่วนอยู่ใกล้ๆ ขึ้นลงง่าย และมีงบประมาณล้านต้นๆครับ

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ