สวัสดีครับ รีวิวฉบับที่ 401 วันนี้ ผมนาย Tharis T. จะพาไปรีวิวโครงการ Condo U วิภา-ลาดพร้าว จาก Grand U กันครับ ซึ่งตัวนี้ก็จะเป็น Condo U โครงการที่ 4 แล้วนะครับ จาก Developer เจ้านี้ โครงการนี้เป็น คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ตั้งอยู่ใน ซอยวิภาวดี 20 หรือ ซอยทรงสะอาด อยู่ติดกับการบินไทยสำนักงานใหญ่เลยครับ ซึ่งซอยนี้ก็จะเป็นซอยที่ไปทะลุ ลาดพร้าว 18, 26 ได้, รัชดา 19 ก็ได้ ใครมีที่ทำงานอยู่ในย่าน วิภาวดี-ลาดพร้าว แถวๆนี้ (เช่น พนักงานการบินไทย :P) แล้วกำลังมองหาคอนโดอยู่ ก็เข้ามาอ่านกันซะนะ เผื่อจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ 🙂
Fact @ 31 July 2013
- Condo U วิภา-ลาดพร้าว
- Grand Unity Development (Grand U.)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 362 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 40% คิดค่าบริการรายเดือน
- ที่ดินประมาณ 3-0-3 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558
- 1 Bedroom 30 – 44 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 50 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 70,000 บาท
- http://www.grandu.co.th
- โทร 02-652-4000
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
แผนที่โครงการ Condo U วิภา-ลาดพร้าว (คลิกที่รูปเพื่อดูขนาดใหญ่ได้นะครับ)
ที่ตั้งของโครงการ Condo U วิภา-ลาดพร้าว ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ในซอยวิภาวดีรังสิต 22 หรือ ซอยทรงสะอาด ครับ ตัวซอยนี้จะอยู่ระหว่างห้าแยกลาดพร้าว กับ สี่แยกสุทธิสาร ติดกับสำนักงานใหญ่ของการบินไทย จากปากซอย 22 เข้าไปไม่ถึง 100 เมตรก็จะเจอตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ (หน้าปากซอยมีปั๊ม Petronas เป็นจุดสังเกต)
อันดับแรกขอพูดถึงสภาพแวดล้อมในรัศมีประมาณ 3 กม. ของทำเลนี้ก่อนนะครับ ด้วยความที่อยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นแยกใหญ่ เป็นแหล่งชุมชน เป็น Hub ของ กรุงเทพตอนบนก่อนที่จะเข้าไปสู่ตัวเมือง ก็จะมีความสะดวกสบายอยู่พอสมควร มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ เช่น ห้างสรรพสินค้า อย่างเซ็นทรัลลาดพร้าว หรือ โลตัสพหลโยธิน, มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือสวนจตุจักร (พร้อมตลาดนัด), สวนรถไฟ ที่อยู่ไม่ไกลนัก อยู่ในระยะที่สามารถไปใช้พักผ่อนได้, อยู่ใกล้สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2), มีตลาดสด อตก., มีโรงเรียนเซนต์จอห์น, โรงเรียนหอวัง และบริเวณนี้ก็อยู่ในจุดที่เป็นกึ่ง Commercial เพราะเป็นบริเวณที่มีอาคารสำนักงานใหญ่ๆมาตั้งอยู่ใกล้ๆเป็นจำนวนมากครับ 🙂 ทำให้เป็นทำเลที่มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้อีกแน่นอน
ส่วนสภาพแวดล้อมในบริเวณใกล้ๆกับโครงการนั้น ตัวโครงการอยู่ติดสำนักงานใหญ่การบินไทย ซึ่งอยู่ติดถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งวิภาวดีนี้ แทบจะไม่มีอะไรเลย เพราะเป็นถนนเส้นใหญ่ที่คนใช้ในการคมนาคม/สัญจรเป็นหลัก มีแต่สิ่งปลูกสร้างใหญ่ๆ เป็นพวกอาคารสำนักงานต่างๆที่ไม่ค่อยเหมาะกับการอยู่อาศัยนัก แต่ว่าถ้าจากถนนใหญ่เข้าไปแล้วเนี่ย จะไม่เหมือนกันละ เพราะ “หลังการบินไทย” นี้ก็คือ ตลาดลุงเพิ่ม, ตลาดป้าชู ที่อยู่ซอยวิภาวดี 22 เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญม้ากกกกกกของพนักงานออฟฟิศแถวๆนี้เลยแหละ คนแถวๆนี้ก็คงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยก็คิดว่าน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาไปเดินดูในส่วนต่อไปนะครับ ส่วนตัวซอยวิภาวดี 20 นี้ที่เป็นที่ตั้งของโครงการนี้ ยังจะไปเชื่อมกับ ซอยวิภาวดี 16 หรือ ซอยโชคชัยร่วมมิตร ที่เป็นซอยที่มีชุมชนใหญ่อีกจุดหนึ่งครับ มีร้านค้าของกินเยอะ มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควรเลย
วิธีการไปโครงการนั้น ไม่ว่าจะมาจากพหลโยธิน, ลาดพร้าว หรือ วิภาวดีรังสิต เราก็ต้องไปกลับรถที่ห้าแยกลาดพร้าวก่อนอยู่ดี ข้อเสียของตรงนี้คือ ห้าแยกลาดพร้าวเป็นแยกที่รถติดมาก ดังนั้นต้องเผื่อเวลากลับรถหน่อยนะครับ แต่ข้อดีของมันก็คือ โครงการตั้งอยู่วิภาวดีฝั่งขาเข้า เพราะฉะนั้นเวลาออกจากบ้าน สามารถวิ่งตรงไปขึ้นทางด่วนดินแดงได้เลยโดยไม่ต้องไปติดอยู่ตรงแยกให้เสียเวลา 🙂 สำหรับคนที่มาจากลาดพร้าว หรือ รัชดา สามารถใช้ทางลัด มาทางซอย ลาดพร้าว 18, 26 (ใกล้ MRT ลาดพร้าว) และ รัชดา 19 (ใกล้ MRT รัชดา) ได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นซอยที่เชื่อมมาออก วิภาวดี 20 ได้
จุดที่น่าเสียดายอีกจุดหนึ่งของโครงการนี้คือ เวลาวิ่งวิภาวดีขาเข้า จะไม่สามารถใช้โทลล์เวย์ได้ เพราะไม่มีทางขึ้น (ทางขึ้นสุดท้ายก่อนถึงดินแดงอยู่ตรงลาดพร้าว) ใช้โทลล์เวย์ได้เฉพาะขาออกเท่านั้น พอเป็นแบบนี้เวลาเราจะขึ้นทางด่วนดินแดง จะต้องวิ่งข้างล่างเท่านั้น ซึ่งรถก็ติดอยู่นะ :-\
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ โครงการนี้ ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าแต่อย่างใด แต่มี Shuttle Service ไปรับ ไปส่ง ถึง BTS หมอชิต/MRT จตุจักร ได้ครับ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเลยแหละ ทำให้ใช้รถไฟฟ้าได้สะดวกขึ้นเยอะ เทียบกับไม่มีรถรับส่ง แต่ว่าก็ไม่ได้ขึ้นฟรีนะครับ ต้องมีการเก็บค่าบริการกันนิดนึง เพื่อความยุติธรรมต่อคนที่ไม่ได้ใช้ Shuttle Service ครับ 🙂 เส้นทางการวิ่งของรถรับส่ง ผมเขียนให้ดูในแผนที่แล้ว ลองดูกันนะครับ ค่อนข้างไกลเหมือนกัน อาจจะไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้นนะครับ
ในกรณีที่ถนนวิภาวดีรถติด … แน่นอนว่า Shuttle Van ของโครงการก็ต้องเสียเวลาฝ่ารถติดไปด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นนอกเหนือจาก BTS หมอชิต และ MRT จตุจักร แล้ว เราอาจจะนั่งมอเตอร์ไซค์ในซอย ออกไปใช้ MRT ลาดพร้าว หรือ MRT รัชดาได้ด้วย ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร โดยออกไปทางซอยลาดพร้าว 26 และ รัชดา 19 ตามลำดับ หรือเวลากลับบ้านก็สามารถใช้เส้นทางนี้ได้เหมือนกันนะครับ
ส่วนการเรียก Taxi และ รถเมล์ บนถนนวิภาวดีรังสิตมีเพียบอยู่แล้ว และ Taxi ก็มีวิ่งผ่านไปผ่านมาในซอยด้วย ไม่น่าจะต้องห่วงอะไร วินมอเตอร์ไซค์มีประจำอยู่หลายจุด ทั้งต้นซอยและกลางซอย การเดินออกไปยังปากซอยก็ไม่น่าจะยากนักเพราะโครงการอยู่ห่างจากปากซอยไปแค่ 100 เมตร แต่อาจจะมีประเด็นว่าถ้าเป็นเวลากลางคืนจะดูเปลี่ยวสักหน่อย ไม่ค่อยจะแนะนำให้เดินไปเดินมานานๆ ให้พี่รปภ.เรียก Taxi ให้ดีกว่านะ หรือไม่ก็เรียก Shuttle Service ไปส่ง แต่ทั้งนี้ความเปลี่ยว ขึ้นอยู่กับ บุคลิก, หน้าตา, การแต่งกาย ของเราด้วยนะ ฮ่าๆ 😀
ลองไปดูทำเลโครงการด้วยกันครับ ผมเริ่มจากห้าแยกลาดพร้าว วิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า วิ่งผ่านหน้าสำนักงานใหญ่ ของการบินไทย สูงใหญ่ตั้งตระหง่านแบบนี้ สังเกตง่ายแน่นอน พอเจอการบินไทยแล้วชิดซ้ายไว้เลยนะครับ เดี๋ยวเลย
ผ่านการบินไทยมาจะเจอกับปั๊ม Petronas สีเขียวมินท์ตรงนี้ ซึ่งอยู่ติดกับซอย ใครจะแวะเติมน้ำมันก่อนเข้าบ้านก็ได้นะ
ติดกับปั๊มน้ำมันจะเป็นซอยวิภาวดี 20 เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย (สังเกตป้ายเขียว เขียนว่า ทางลัดไปลาดพร้าวซอย 18)
ถ้าไปช่วงนี้ คอนโดยูเขาจะปักป้ายสีเหลืองอันใหญ่ไว้เลย
เข้ามาในซอยแล้ว บรรยากาศในซอยช่วงต้นๆก็เป็นประมาณนี้ ด้านซ้ายเป็นรั้วของปั๊มน้ำมันนะครับ ถนนสองเลน มีไหล่ทางนิดหน่อย ไม่มีฟุตบาท สภาพไม่แย่ครับ
ด้านขวาผ่านอู่ซ่อมรถ Auto 4WD
ด้านซ้ายตรงนี้จะเห็นทางออกของปั๊ม Petronas ที่อยู่ในซอย จะสังเกตว่าในปั๊มมี B-Quik ด้วยนะครับ ใครมีรถเอาเข้ารับบริการได้ 🙂 ก็เป็นประโยชน์พอสมควร
มองเข้าไปในปั๊ม Petronas เป็นปั๊มที่ไม่เล็กนะครับ มีพื้นที่พอสมควรเลย
ด้านซ้ายนี่ที่เป็นแนวรั้วสีเขียวยาวๆ นี่แหละครับที่ดินของโครงการ Condo U ซึ่งอยู่ติดกับปั๊ม Petronas เลยครับ ส่วนอาคารสีน้ำเงินที่มองเห็นไกลๆ นั่นก็คือสำนักงานขายของโครงการ (ซึ่งไม่ได้อยู่ในพื้นที่โครงการนะครับ)
หลายๆคนอาจจะรู้ว่า จริงๆแล้ว ที่ดินตรงนี้เคยเป็นอาคารพาณิชย์มาก่อน นั่นก็คือ ศูนย์การค้าบัวสุวรรณพลาซ่า นั่นเองครับ ซึ่งเมื่อก่อนจะมี MaxValu Supermarket ด้วย แต่ตอนนี้ ที่ดินก็ถูก Grand U มาซื้อทำเป็นคอนโดมิเนียมซะแล้ว ชาวบ้านแถวๆนี้ต้องเสียดายแน่ๆเลย ฮ่าๆ แต่ไม่ต้องห่วงไปครับ ในอนาคต ตรงที่ดินข้างๆโครงการ ที่อยู่ติดกับสำนักงานขาย นั้น จะถูกทำเป็น 7-Eleven ในอนาคตครับ ซึ่งก็ได้ยินจากทางโครงการบอกมาว่า น่าจะดำเนินการเร็วๆนี้แล้วแหละ 🙂
ขวามือตรงข้ามกับแนวรั้วสีเขียวของโครงการ เป็นอพาร์ทเมนท์ Century House ครับ
แล้วก็มาถึงสำนักงานขายแล้วครับ เย่ สีน้ำเงินเข้มแบบนี้เลย
ลองมาดูสภาพแวดล้อมตรงนี้นิดนึงครับ ตัวแปลงที่ดินโครงการคือสีเหลืองๆนั่น ด้านหลังแปลงทางทิศเหนือติดกับการบินไทย แปลว่าห้องด้านนี้น่าจะโดน Block วิวแน่ๆแหละ แต่ยังไงเราก็เป็นตึกเตี้ย 8 ชั้น ก็คงไม่ต้องห่วงเรื่องวิวเท่าไหร่ละมั้ง ส่วนด้านทิศตะวันตก ติดกับปั๊ม Petronas ครับ ซึ่งในอนาคต ถ้าปั๊มถูกขายไปทำอย่างอื่น ก็อาจจะขึ้นเป็นตึกสูงได้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นปั๊มน้ำมันต่อไป ด้านทิศใต้ เป็นถนนซอย ไม่ติดอะไรแต่แปลงเยื้องๆกันเป็นที่เปล่า ทำเป็นที่จอดรถอยู่ครับ ส่วนแปลงที่อยู่ทางทิศตะวันออกเป็นบ้านคนที่ในอนาคตจะมี 7-Eleven มาตั้งอยู่หน้าบ้านครับ
ลองไปดูแปลงที่ดินของจริงกัน มองไปด้านหลังเห็นตึกของการบินไทยสูงเชียว ตรงนี้ไม่ใช่ตำแหน่งทางเข้าโครงการนะครับ
ภาพรวมของแปลงที่ดิน
วิวทิศใต้
ตำแหน่งของทางเข้าโครงการจะอยู่ตรงกับตึกสีส้มนี้เลยครับ ซึ่งก็คือ Century House
มองไปทางทิศตะวันตก
มองข้ามรั้วทิศตะวันตกไป จะเห็นว่าที่ดินติดกับปั๊ม Petronas และ B-Quik
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ทิศเหนือติดกับที่ของการบินไทยเลยครับ มีตึกสูงมาบัง ชัดเจน
ความสูงตึกการบินไทยก็ประมาณนี้…
ลงมาดูด้านทิศตะวันออก ของแปลงที่ดินบ้างว่ามีอะไร ติดกับแปลงที่ดินเป็นสำนักงานขายครับ ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่ของโครงการนะครับ ตอนนี้เช่าที่อยู่ชั่วคราว
ถัดจาสำนักงานขาย เราจะเห็นว่ามีบ้านหลังใหญ่ๆอยู่หลังหนึ่งครับ บ้านหลังนี้แหละที่เป็นเจ้าของที่ดินแปลงข้างหน้า ที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานขายตรงนี้ ด้านขวาที่เห็นเป็นเต้นท์ร้านอาหารตามสั่งนั่น เดี๋ยวในอนาคตจะมี 7-Eleven มาลงตรงนั้นแหละครับ
แปลงบ้านคนด้านหลัง
เต๊นท์จะกลายเป็น 7-Eleven…
ฝั่งตรงข้าม เยื้องๆสำนักงานขายจะเป็นที่เปล่าๆว่างๆนี่ ที่ตอนนี้ทำเป็นที่จอดรถเฉยๆ
ดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการมาพอสมควรแล้ว เดี๋ยวเราเข้าซอยต่อไปดีกว่า ดูซิว่าจากตรงนี้จะไปไหนได้บ้าง
พอเข้าซอยไปปุ๊บ จะเจอกับสามแยก เลี้ยวซ้ายไปซอยวิภาวดี 22 ครับ ส่วนเลี้ยวขวาจะไปออก วิภาดี 16 หรือ โชคชัยร่วมมิตร ทั้งสองทาง ไปลาดพร้าว 18 ได้ทั้งคู่นะครับ
โชคชัยร่วมมิตรนี้ไปไม่ยากครับ แค่เราเลี้ยวขวา แล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆเด๊๋ยวก็จะไปออกโชคชัยร่วมมิตรได้เอง ระยะทางประมาณ 800 เมตร แต่ผมขอไม่พาไปนะครับ เพราะเราจะไปตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทยกัน ซึ่งน่าสนใจกว่า
สำหรับตลาดหลังการบินไทยนั้น เราจะต้องไปทางซอยวิภาวดี 22 ครับ จากสามแยกเมื่อกี๊เราก็เลี้ยวซ้ายไป แล้วไปตามทางเรื่อยๆ (มีป้ายบอกตามแยกตลอด สังเกตหน่อย ไม่น่าจะหลงแน่นอน) ระยะทางก็ประมาณ 800 เมตรครับ เดินเอามันก็พอได้นะครับ แต่ก็รู้สึกว่าไกลเหมือนกัน ถ้าปั่นจักรยานนี่เหมาะเลย
ลองเดินในซอย ข้างหลังนี้ก็จะเงียบๆครับ เพราะเป็นบ้านคนส่วนใหญ่ ถ้าเดินตอนกลางคืนนี่เปลี่ยวแน่ ดูไม่ค่อยปลอดภัย แนะนำให้ปั่นจักรยาน หรือนั่งมอไซค์อย่างน้อยนะครับ ถ้าสังเกตก็จะเห็นว่าฟุตบาทค่อนข้างเตี้ย และ ตื้น เดินไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่ ต้องคอยหลบรถเรื่อยๆ
เข้าซอยต่อมาเรื่อยๆ
บรรยากาศเงียบๆ เป็นบ้านคนซะเยอะ
แล้วเราก็จะมาโผล่ตรง ประตูด้านหลัง ของการบินไทย จริงๆครับ ซึ่งตรงนี้ก็จะเข้าสู่เขต “หลังการบินไทย” แล้ว
มีอาคารสโมสรของการบินไทยตั้งอยู่ด้วย
มาถึง ตลาดลุงเพิ่มแล้วครับ
มีร้านค้าเพียบ ของกินเพียบ ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมมีพนักงานออฟฟิศแถวนี้จะตั้งใจมาช้อปปิ้งที่นี่โดยเฉพาะ ที่เห็นนี่คือเป็นร้านที่ติดถนนใหญ่นะครับ แต่ข้างในอาคารในร่มก็จะมีอีก
ตัวซอย 22 นี่ก็จะเป็นร้านค้าเรียงไปเลย
ด้านในอาคารก็จะเป็นร้านค้าเรียงรายแบบนี้ ดูๆไปก็คล้ายๆตลาดนัดจตุจักร หรือ แถวซอยละลายทรัพย์ อะไรแนวนั้นนะครับ ถ้านึกออก
สินค้าแฟชั่นตรงนี้นี่จริงจังเลยนะครับ ไม่ใช่เล่นๆทีเดียว ร้านค้าเยอะจริงๆ
มีที่จอดรถด้วยนะครับ แต่ไม่ค่อยเยอะ… แบ่งๆกันละกันครับ
ถัดมาจากตลาดลุงเพิ่ม เป็นตลาดป้าชูครับ แต่ถ้าใครมาเดินแบบไม่ได้สังเกตอะไรมาก จะไม่รู้ว่ามันต่างกันยังไงนะครับ เพราะหน้าตามันก็คล้ายๆกัน แต่วิธีดูคือตลาดป้าชูจะเป็นหลังคาจั่วแบบนี้ครับ
ด้านในตลาดป้าชู ด้วยความที่หลังคาสูง ก็จะโปร่งๆกว่านิดนึง
มีร้านค้าเยอะเหมือนกัน แผงร้านค้าตรงนี้จะติดแอร์ด้วยนะครับ ไม่ใช่แผงร้อนแบบตลาดลุงเพิ่ม
มุมนี้ก็มีอีกหลายร้าน
มีที่จอดรถค่อนข้างเป็นสัดเป็นส่วน
ด้านหลังของตลาดป้าชู มีทางออกด้วย มาโผล่ที่ซอยวิภาวดี 22 แยก 1-2-3
ตรงข้ามกับตลาดป้าชู เป็น Plaza One เป็นพื้นที่เช่าร้านขายของเหมือนกัน แต่จะดู Modern ทันสมัยหน่อย ออกแนวเจ๊เล้งๆ
เดี๋ยวก็จะมีพื้นที่ร้านค้ามาเปิดให้เช่าอีก
ด้วยความที่ร้านค้าตรงนี้เยอะมากๆ ทำให้มีรถติดในซอยนี้บ่อยๆ ซึ่งถนนซอยก็แคบ แล้วยังเป็น Two-Way ด้วยไม่ใช่ One-Way ทำให้ต้องหลบกันไปหลบกันมาบ่อยๆ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องวิ่งผ่านตรงนี้นะครับ อ้อมๆเอาหน่อยเร็วกว่า
กลับไปที่โครงการอีกรอบ คราวนี้ลองดูว่าจะไปออกลาดพร้าวยังไง
เราจะลองเลี้ยวซ้ายบ้าง
แถวๆนี้ส่วนใหญ่ในซอยก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่ เป็นบ้านคนทั้งนั้น
กลางๆซอยมี 7-Eleven ประปราย มีมอเตอร์ไซค์ มี Taxi เข้าออกซอยอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากเป็นทางลัด
แยกนี้ตรงไปออกรัชดา 19 ได้ แต่เราเลี้ยวซ้ายไปลาดพร้าว
ผ่านอนุบาลแย้มสอาด
โผล่มาที่ถนนใหญ่
ออกมาที่ซอยลาดพร้าว 26 แล้วครับ ความจริงจะไปออกซอย 18 ก็ได้นะครับ แต่ผมมาออกซอยนี้ เพราะมันใกล้ MRT มากกว่า
ออกมาจากซอยปุ๊บก็จะเจอ MRT เลย อยู่ไม่ไกล
ผ่านคอนโด Life ลาดพร้าว 18
เจอซอยลาดพร้าว 18 ซึ่งถ้าเรามาจากลาดพร้าว เราก็ไม่ต้องไปรถติดที่แยกนะครับ สามารถเลี้ยวเข้าซอยเพื่อลัดไปออกวิภา 20 กลับบ้านได้เลย
ในซอยลาดพร้าว 18 นี่ก็จะมีโครงการคอนโดมิเนียมมาสร้างเพียบ
ถึงกับมี Lotus Express อยู่ในซอยด้วยอ่ะ คิดดู
เวลาจะไปเซ็นทรัลลาดพร้าว เราออกมาทางนี้ก็จะใกล้กว่าทางวิภาวดีนะครับ เพราะถ้าไปทางวิภาวดีจะต้องไปกลับรถที่แยกสุทธิสารเลย แต่ไม่ได้แปลว่าใช้เวลาเร็วกว่านะ เพราะวิภาวดีส่วนใหญ่จะรถติดน้อยกว่าครับ
สุดท้ายคือ ถ้าจะไปออกรัชดา ก็จะสามารถไปออกทางรัชดา 19 ได้ครับ จะไปโผล่ใกล้ๆ MRT รัชดาพอดี ระหว่างทางในซอยมีป้ายบอกทางตลอด ไปเองไม่ยากครับ แต่เลี้ยวหลายทีหน่อย แล้วก็ซอยค่อนข้างแคบนิดนึง
เจาะลึกตัวโครงการ
มาดูตัวโครงการกันบ้าง คอนโด ยู วิภา-ลาดพร้าว เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 3-0-3 ไร่ โดยมีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 362 ยูนิตครับ
Fact @ 31 July 2013
- Condo U วิภา-ลาดพร้าว
- Grand Unity Development (Grand U.)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 362 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน 40% คิดค่าบริการรายเดือน
- ที่ดินประมาณ 3-0-3 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558
- 1 Bedroom 30 – 44 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 50 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 70,000 บาท
- http://www.grandu.co.th
- โทร 02-652-4000
เข้ามาภายในสำนักงานขาย
หน้าตาตึกประมาณนี้ครับ นี่เป็นภาพจำลองของทางโครงการ
มุมมองชั้นสระว่ายน้ำ ที่อยู่ชั้น 2 ถูกล้อมรอบด้วยตึกทั้งสอง
ดู Floor Plan กันก่อน ตัวโครงการวางตึกรูปตัว L สองตึกหันหน้าเข้าหากันแบบนี้ ตึก A คือตึกทางทิศเหนือ และตึก B คือตึกทางทิศใต้นะครับ แต่ละตึกมีส่วนโถงลิฟท์ที่แยกกัน ใช้ Key Card ของใครของมัน ซึ่งโถงลิฟท์ตรงนี้จะไม่ใช่สำหรับ Visitor ครับ แต่จะมี Lobby ต้อนรับสำหรับ Visitor อยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ ใต้ตึก B อันนี้ใช้ร่วมกันครับ อยู่ที่จุดเดียวกันกับ Office ของนิติบุคคล (บริเวณสีชมพูมุมขวาล่าง)
ชั้น G นี้ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นที่จอดรถล้วนๆครับ จอดรถได้ 40% รวมจอดซ้อนคัน แต่จะมีการเก็บค่าบริการที่จอดรถเพิ่มเติมเป็นรายเดือนครับ ซึ่งค่าบริการเท่าไหร่นั้นยังไม่มีข้อมูล แต่คิดว่าก็คงจะไม่ถึงกับขูดเลือดขูดเนื้อหรอกครับ ซึ่งผมก็คิดว่า ก็แฟร์ดีนะครับ สำหรับคนที่มีรถก็ต้องเสียค่าที่จอด ส่วนคนไม่มีรถ ก็จ่ายเงินขึ้น Shuttle Van ของโครงการไป ใครไม่ใช้อันไหนก็ไม่ต้องจ่าย ใช้สองอันก็ต้องจ่ายสองอัน ส่วนเงินที่เก็บไป เขาก็เอาไปเป็นเงินทุนในการบริหารงานของนิติอยู่แล้วครับ
ขึ้นมาชั้น 2 บ้าง ซึ่งจะเป็นชั้นพักอาศัยแล้ว ชั้นนี้จะพิเศษตรงที่จะมี Facilities ด้วย ที่เห็นเป็นติ่งยื่นออกมาจากตึก A นั่นแหละครับ ที่จะอยู่ตรงกลางระหว่างสองตึก โดยจะมีสระว่ายน้ำยาว 14 เมตร ซึ่งก็จะเป็นแบบ Outdoor อย่างที่เห็น กับ ห้องออกกำลังกายขนาดประมาณ 48 ตารางเมตร ถูกล้อมด้วยตึกสองด้าน อาจจะเขินๆหน่อยนะครับเวลาใช้งาน แต่ก็ดีกว่าไม่มีเนอะ เวลาจะใช้งาน Facilities นี้คนที่อยู่ตึก B จะเสียเปรียบคนที่อยู่ตึก A หน่อยนะครับ เพราะต้องเดินไปใช้ที่ตึก A ในขณะที่คนที่อยู่ตึก A กดลิฟท์ลงมาก็เดินมาใช้ได้เลย
สำหรับชั้น 3-8 Floor plan จะจัดออกมาเหมือนกันเลยครับ เป็นชั้นพักอาศัยล้วนๆ ซึ่งจะมีจำนวนยูนิตในแต่ชั้นอยู่ที่ 27 ห้องสำหรับตึก A และ 25 ห้องสำหรับตึก B ความหนาแน่นระดับนี้ถือว่าค่อนข้างมาก แต่ก็ยังไม่แตะ 30 ครับ ยังไม่ถือว่าหนาแน่นสุดๆ ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะขนาดของห้องเริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตรด้วย ไม่ได้ซอยห้องเล็กมากๆ 21-26 ตารางเมตรเหมือนหลายๆโครงการในปัจจุบัน
ลิฟท์ให้มาตึกละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว อัตราส่วนอยู่ที่ 90:1 ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ ไม่หนาแน่น โถงทางเดินเป็นรูปตัว L ตามแนวเดียวกับตึก มีช่องเปิดที่ปลายสุด ทำให้มีช่องแสงส่องเข้ามาในทางเดินได้ และไม่มีห้องแปลกพิศดารให้เห็น ก็ถือว่าทำออกมาค่อนข้างโอเคครับ สำหรับคอนโดระดับ Economy/Main Class แบบนี้
โมเดลโครงการครับ นี่เป็นด้านหน้า โมเดลนี้ยังไม่ Final นะครับ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้เล็กน้อย
ให้ดูทางเข้ากันชัดๆอีกรูป
มุมมองจากทิศตะวันออก
มองจากด้านบนบ้าง
อีกมุมนึง
ส่วน Facilities ที่อยู่ตรงกลาง บริเวณชั้น 2 และลานจอดรถที่ชั้น G
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ขนาด 14 เมตร ชั้น 2 ตึก A
- ห้องออกกำลังกาย พื้นที่ 48 ตร.ม. ชั้น 2 ตึก A
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่ออาคาร รวม 4 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 90:1
- ที่จอดรถ 40% รวมซ้อนคัน คิดค่าบริการที่จอดรถ
- Shuttle Service รับส่งถึง BTS หมอชิต/MRT จตุจักร คิดค่าบริการ
- ระบบ CCTV / Access Card / Proxy Elevator (ลิฟท์ล็อคชั้น)
Product Walkthrough
ต่อไปเป็นส่วนของห้องนะครับ ตัวห้องที่นี่จะมีอยู่ทั้งหมด 4 Type คือ 1 ห้องนอน 30/38/44 ตารางเมตร และ 2 ห้องนอน 50 ตารางเมตร ซึ่งที่สำนักงานขายมีให้ดูแค่แบบ 1-Bed 30 ตารางเมตร และ 2-Bed 50 ตารางเมตรครับ ห้องที่นี่จะขายแบบ Fully-Furnished ทั้งหมด โดยที่แต่ละห้องจะให้เฟอร์นิเจอร์มาจำนวนชิ้นไม่เท่ากันนะครับ ซึ่งทางโครงการจะมีแจ้งไว้ค่อนข้างละเอียดอยู่ที่สำนักงานขายอยู่แล้ว
เริ่มจากห้องมาตรฐาน 30 ตารางเมตรก่อนซึ่งเป็นแบบที่มีเยอะที่สุด ฟังก์ชั่นของห้องนี้ แบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆซ้าย-ขวา ลองดูตามรูปข้างบนนะครับ ด้านซ้ายจะเป็นส่วนของ Living ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน ส่วนด้านขวาจะเป็นครัว ที่มีห้องน้ำอยู่ในครัว ซ้ายกับขวานี้จะสามารถแยกส่วนจากกันได้โดยการกั้นบานเลื่อนนะครับ ห้องนี้เขาเอาครัวไปไว้อยู่ติดกับระเบียง เพื่อให้ใช้ทำอาหารได้สะดวกหน่อย เปิดหน้าต่างระบายกลิ่นได้ ระให้ระบายกลิ่นห้องน้ำออกไปทางระเบียงด้วย บางคนอาจจะไม่ชอบที่ต้องเดินเข้าห้องน้ำแบบผ่านครัวก่อน อันนี้แล้วแต่คนครับ ส่วนห้องนั่งเล่นกับห้องนอน กั้นด้วยผนังทึบ ไม่ได้ใช้บานเลื่อน แต่จะเจาะช่องแสงให้แสงส่องผ่านเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้เหมือนกัน คร่าวๆประมาณนี้ ลองดูของจริงกัน
เริ่มจากหน้าห้องกันเลย เข้ามาปุ๊บ First Impression ที่ได้จะเป็นแบบนี้ ที่นี่ขายแบบ Fully-Furnished นะครับ เฟอร์นิเจอร์ในห้องได้ตามนี้ ยกเว้น Prop ตกแต่ง ฝ้าเพดานสูง 2.40 เมตร
พื้นไม้ลามิเนต 8 มม.
ชั้นวางทีวี กับตู้เก็บรองเท้าได้แบบนี้
มุมมองจากบนโซฟา
ชั้นวางรองเท้า ให้มาตามนี้
หันไปดูทางโซฟาบ้าง
โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว วางชิดผนัง ให้มาแบบนี้เลยครับ
ให้ดูดีเทลของเฟอร์นิเจอร์นิดนึง ขาโต๊ะกินข้าว เขาดีไซน์เป็นรูปตัว T เพื่อให้ง่ายต่อการลุกเข้าลุกออกครับ ไม่เกะกะ ซึ่งจะเหมาะสำหรับการวางโต๊ะชิดผนังแบบนี้
ชุดโซฟา พร้อม Coffee Table ให้มาชุดนี้เลย โซฟาเป็นแบบ 2 ที่นั่งครับ
ส่วน Living Area นี้จะแยกจากห้องนอนโดยการกั้นผนัง ใส่ประตูบาน Swing ปกติ ไม่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อน Slide แต่ใช้การเจาะช่องแสงที่ผนังเข้ามุมแบบในรูปนี้ เพื่อให้แสงส่องจากหน้าต่างห้องนอนยเข้ามาที่ห้องนั่งเล่นได้ และยังเพิ่มมิติในการมอง ไม่ให้ห้องดูทึบแคบเกินไป ซึ่งตรงนี้ทำออกมาได้ดีครับ
จากบนโซฟา มองไปทางห้องครัว
ช่องตรงนี้เขาทำมาให้สามารถกั้นครัว/ห้องน้ำ แยกออกจาก Living Area ได้ ในกรณีที่เราอยากจะใช้พื้นที่ครัวแบบจริงจังหน่อย แต่ถ้าไม่กั้นก็จะได้มิติห้องที่ดูโล่งมากขึ้น และดูสบายๆมากขึ้น ก็จะสำหรับคนที่ไม่จริงจังเรื่องการทำครัวมากนัก
มีทางเข้าห้องน้ำอยู่ตรงนี้ ติดกับครัว
ช่องหน้าห้องน้ำตรงนี้ เขาใส่ Prop ไว้ให้ดู เพราะมันเจอตำแหน่งเสาพอดี เป็นผม มันอาจจะกลายเป็น ที่วางถังขยะ 555
วางตู้เย็นตรงนี้ อยู่ตรงกับเสาพอดีเลย ตู้เย็นจะดูยื่นๆนิดนึง ถ้าจะซื้อตู้เย็นขนาดใหญ่ อาจจะต้องดูระยะเปิดปิดนิดนึงนะครับ ใส่ใหญ่กว่านี้ได้ไม่เยอะล่ะ แต่ขนาดเท่านี้ก็ถือว่าโอเค
พื้นที่ครัว ปูกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.สีขาวไว้ให้
วาง Pantry ไว้ให้ด้วย อันนี้ให้มาแบบนี้เลยนะครับ ให้เฉพาะตัวเคาน์เตอร์ด้านล่าง ไม่มีตู้เก็บของด้านบน ต้องไปหามาใส่เอง
เตรียมตำแหน่งปลั๊กไฟไว้ตรงนี้เรียบร้อย
มีอ่างล้างมือ แต่ไม่มีเตาไฟฟ้า
ด้านล่างใส่ไมโครเวฟ
ด้านบนคงต้องไปหาตู้เก็บของมาใส่ จะได้มีพื้นที่เก็บของเยอะหน่อย
ออกไปที่ระเบียงบ้าง พื้นที่ระเบียงประมาณนี้ กว้างประมาณ 90 ซม. ปูกระเบื้องให้ด้วยเหมือนครัว
ราวกันตก
พื้นที่วางเครื่องซักผ้า ถ้าวางลงไปก็จะเหลือพื้นที่ระเบียงอีกนิดหน่อย
ติด Compressor 2 ตัว มี Grille ดันลมร้อนออกไปนอกระเบียง ดีครับ
เข้าไปดูห้องน้ำกันบ้าง
พื้นที่ในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง ปูกระเบื้อง 30×30 ซม.ที่พื้น
อ่างล้างหน้า แบบหล่อสำเร็จ ขนาดไม่ใหญ่นัก ไม่ค่อยมีพื้นที่วางของเท่าไหร่ ยี่ห้อ Victor
ติดกระจกบานเท่านี้มาให้ด้วย
หัวก็อกของ VRH
ด้วยความที่มีพื้นที่วางของน้อย เขาจึงไปหาตู้เล็กๆมาแปะไว้ข้างบน เพื่อเป็นจุดเก็บ Supplies ในห้องน้ำด้วย ส่วนตำแหน่งไฟ Downlight ตรงนี้ก็จะส่องมาที่หน้ากระจกพอดีครับ ซึ่งถ้าเป็นตำแหน่งนี้จริงก็จะดีเลย
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard
สายฉีดชำระ
ที่วางกระดาษทิชชู่
ติดฉากกั้นอาบน้ำไว้ให้ด้วยนะครับโครงการนี้ ซึ่งจะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งในห้องน้ำ ทำให้ห้องน้ำน่าใช้ขึ้นกว่าเดิม เป็นแบบ 3 ตอนแบบนี้
ชุด Hand Shower
หัวฝักบัว
ก็อกน้ำ
ติดชั้นวางสบู่ไว้ให้ด้วย ขนาดใหญ่ดี แต่ติดผิดที่ผิดทางไปหน่อย เพราะเอามาไว้ด้านข้าง ควรจะเอาไปไว้ด้านหน้ามากกว่า เพราะติดไว้ตรงนี้มันจะชนได้ ก็ย้ายได้นะครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
กระเบื้องผนัง แบบมีลาย
สุดท้ายเป็นส่วนของห้องนอน
เข้ามาแล้ว
วางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้
ผนังกระจกส่วนที่เชื่อมกับห้องนั่งเล่น วาง Bench ไว้ให้ตรงนั้นด้วย ได้แบบนั้นเลย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ใช้นั่งอ่านหนังสือ ทำโน่นทำนี่ได้ โดยไม่ต้องไปนั่งบนเตียงตลอดเวลา ใช้งานได้สะดวกกว่า
มองออกไปเห็นห้องนั่งเล่นลางๆ จะได้ดูโปร่งๆหน่อย เขาอุตส่าห์เจาะช่องไว้แบบนี้ อย่าเอาตู้มา Build ใส่ล่ะ เสียของ
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้มีเหลือนิดหน่อย พอให้เดินได้ไม่อึดอัด
วางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้
มองไปทางหน้าต่าง ช่องแสงมีประมาณนี้
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดหน้าต่างเหลือน้อยไปนิด จะขยับไปด้านโน้นอีกหน่อยก็พอได้นะ
ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาด้วย เป็นแบบลอยตัวครับไม่ได้ Build เต็มผนังนะ
ใส่เสื้อผ้าไม่พอหรอก เหนือตู้เก็บของได้อีกหน่อย
วางโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้ให้ด้วย ติดกระจกเอาไว้ สำหรับแต่งตัว
พื้นที่ปลายเตียงเหลืออีกหน่อย เดินไปเดินมาได้ ไม่เกะกะ
ต่อมาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 38 ตารางเมตร เป็นห้องมุมของตึก B ห้องนี้จะไม่มีห้องตัวอย่างนะครับ ตัว Unit Plan ของห้องนี้จะไม่เน้นครัวเท่าไหร่ เพราะเอาครัวมาไว้ใกล้ทางเข้าห้อง แล้วก็ไม่สามารถกั้นแยกครัวออกไปได้ แต่ว่าจะได้พื้นที่ส่วน Living Area ที่ใหญ่ขึ้นมา แถมอยู่ติดกับระเบียงด้วย ก็จะได้แสงธรรมชาติส่องมาที่ห้อง Living เต็มที่เลย ห้องน้ำอยู่ติดกับครัวเหมือนกัน แต่ว่า ก็อยู่หน้าห้องนอน จะไม่รู้สึกเหมือนเดินเข้าห้องน้ำจากในครัวเหมือนห้องที่แล้ว และในห้องน้ำน่าจะมีช่องเปิดระบายอากาศด้วย เพราะห้องนี้เป็นห้องมุม ส่วนพื้นที่ห้องนอนจะถูกกั้นออกไปเลย เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น วางทีวีในห้องนอนได้
ต่อมาก็จะเป็น ห้อง 1Bedroom ขนาด 44 ตารางเมตร ซึ่งห้องนี้ก็จะเป็นห้องมุมเช่นเดียวกัน Layout ของห้องนี้จะแยกฟังก์ชั่นทั้ง 4 ส่วนออกจากกันไปเลย เป็นห้องหน้ากว้างด้วย ครัวเป็นครัวแยกส่วน อยู่ติดกับระเบียง กั้นเป็นครัวปิดได้ ห้องน้ำอยู่ตรงข้ามครัว แต่ไมไ่ด้อยู่ในครัว พื้นที่ห้องน้้ำดูจากผังห้องดูอึดอัดไปหน่อย ห้องนั่งเล่นได้พื้นที่กว้าง มีช่องแสงเยอะ โต๊ะกินข้าวใส่ขนาดใหญ่ขึ้นได้ วางม้านั่งตรงโต๊ะกินข้าวได้ แต่ส่วนกินข้าวไม่ได้อยู่ใกล้กับครัว ทำให้อาจจะใช้งานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เวลายกอาหารเข้าออก ส่วนห้องนอนก็จะแยกส่วนไป ดูเป็นสัดส่วนดี วางทีวีในห้องนอนได้ ห้องนี้ก็ไม่มีห้องตัวอย่างให้ดูนะครับ
ส่วนห้องแบบสุดท้ายเป็นแบบ 2-Bedroom ขนาด 50 ตารางเมตร ห้องนี้เป็นห้องมุมหน้ากว้าง สี่เหลี่ยมผืนผ้าพอดิบพอดี เข้ามาในห้อง ส่วนแรกที่เจอจะเป็น Living Area ที่อยู่ตรงกลางระหว่าง ห้องนอนทั้งสองห้อง กับห้องครัวและห้องน้ำที่อยู่อีกฝั่ง ได้พื้นที่ส่วน Living กว้าง มีห้องน้ำอยู่หน้าห้อง เข้าจากทาง Living Area ได้ แต่ว่าอยู่ไกลจากห้องนอนไปหน่อย ห้องครัว เป็นครัวแยกส่วนเหมือนกัน (แต่ไม่ได้กั้นห้องให้นะ) ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง ก็จะขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ได้ฟังก์ชั่น โดยที่ห้องนอนเล็กจะมีระเบียงในตัวด้วย ห้องนี้มีห้องตัวอย่างให้ดูลองไปดูกัน
First Impression ที่เข้ามา เจอส่วน Living Area ก่อน มีโต๊ะกินข้าวอยู่ขวามือ ซ้ายเป็นห้องน้ำกับครัว ด้านในเป็นโซฟาดูทีวี
ชุดโต๊ะกินข้าวให้มาด้วย เป็นแบบ 4 ที่นั่ง โดยจะมีม้านั่งอยู่ตัวนึง ให้สามารถใช้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องใช้กินข้าวอย่างเดียว นั่งทำงาน นั่งเล่น อ่านหนังสือ อะไรก็ได้
ตรงข้ามโต๊ะกินข้าว คือทางเข้าห้องน้ำ กับตู้รองเท้า
ห้องน้ำวาง Space ไว้แบบนี้ โถสุขภัณฑ์ทางซ้าย ขวาเป็น Shower Box ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้า
ให้ดูอีกมุมหนึ่ง พื้นที่ค่อนข้างโอเค ไม่อึดอัด
ด้านล่างของอ่างล้างหน้า อาจจะต้องหาตู้มาวางเพื่อเก็บสิ่งของในห้องน้ำ …ใช้เป็นชั้นวางแบบนี้อาจจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ ดูญี่ปุ่นไปนิด…
ติดกระจกเงาไว้ บานไม่ใหญ่นัก พอใช้งานได้
Shower Box ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยเหมือนกัน แต่เป็นชิ้นใหญ่ขึ้น
พื้นที่ Shower Box ใหญ่ขึ้นจากห้องที่แล้ว
ด้านข้าง มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำด้วย วางได้เป็นสิบขวดเลย ตำแหน่งที่วางก็สะดวก
ออกมาหน้าห้องน้ำ
ตู้เก็บรองเท้า ใส่ได้เพิ่มจากห้องแรก 2 เท่า ตามจำนวนสมาชิก
ห้อง Living Area มี Space ค่อนข้างกว้าง มีช่องแสงขนาดใหญ่กลางห้อง พื้นที่ตรงนี้เล่นเกมส์ Nintendo สนุกเลย
ระยะดูทีวีเหลือเฟือ ชุดโซฟา และโต๊ะกลางได้ตามที่เห็นเลยครับ ประตูทางขวาคือ ประตูเข้าห้องนอนนะครับ
หันไปดูทางทีวีบ้าง ด้านหลังทีวีเป็นห้องครัว ได้ชั้นวางทีวีแบบที่เห็นเลย
หันกลับไปมองทางหน้าห้องที่เราเดินเข้ามา ประตูทางซ้ายคือประตูเข้าห้องนอนเล็ก
เข้าไปดูส่วนครัวกันบ้าง ทางเข้าครัวตรงกับตู้เย็น ด้านซ้ายเป็นตู้เก็บของ ที่ Built-in มาให้
ตู้เย็น และ เคาน์เตอร์ครัวให้มาเหมือนเดิม
พื้นที่ครัวประมาณเดิม
มองออกไปยังระเบียง
ระเบียงกว้าง 90 ซม.เท่ากับห้องเมื่อกี๊
มองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาที่ครัว
เข้ามาดูในห้องนอนเล็กกันบ้าง พื้นที่หน้าห้องประมาณนี้
วางตู้เสื้อผ้าเอาไว้หันหน้าไปทางเดียวกับเตียง
ให้ดูพื้นที่บริเวณหน้าห้องอีกที ตู้เสื้อผ้าความจริงควรจะวางชิดผนังด้านแคบมากกว่านะ … ที่เอามาวางตรงนี้อาจจะเป็นเพราะกลัวเปิดประตูห้องมาชนล่ะมั้ง แต่พื้นที่หน้าห้องดูจะเสียประโยชน์ไปหน่อย
วางเตียง 3.5 ฟุต เอาไว้
พื้นที่ข้างเตียงใส่โต๊ะหัวเตียงได้
มีระเบียงเล็กๆอยู่ในห้องนอนด้วย
มีเอาไว้สำหรับวางคอมฯแอร์โดยเฉพาะ กับวางกระถางต้นไม้เล็กๆ
อีกอันนึงแขวนด้านบน
สุดท้ายเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ เข้ามาในห้องแล้วจะเห็นแบบนี้
พื้นที่หน้าห้องเว้นให้เปิดประตูสะดวกๆ
ห้องนี้วางเตียง 5 ฟุตเอาไว้ มีทีวีปลายเตียง
ชั้นวางทีวีแบบนี้…ความจริงผมว่าเอาทีวีแขวนผนังไปเลยดีกว่านะ เพราะยื่นๆแบบนี้ ต้องมีซักวันที่เราเดินชนมันแน่ๆ
พื้นที่หัวเตียง
ตู้เสือ้ผ้าวางอยู่ด้านนี้ใกล้ทางเข้า
พื้นที่ข้างเตียง สำหรับขยับตัวไปมา เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งที่ติดหน้าต่าง เกือบจะชิดกำแพงเลย
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 31 July 2013
- ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลราคาที่แน่นอนออกมาครับ แต่ทางโครงการบอกว่า ราคาโปรโมชั่นเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท ทั้งนี้เดี๋ยวจะมีการ Update อีกครั้งนะครับ
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.4 เมตร
- จอง xxx บาท
- ทำสัญญา xxx บาท
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
… Coming Soon! …
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาประมาณ xxx บาทต่อตารางเมตร, 31/07/2013
- ทำเล xx/10 –
- เดินทางด้วยรถ xx/10 –
- ไม่ใช้รถ xx/10 –
- วัสดุ xx/10 –
- แบบ xx/10 –
- สาธารณูปโภค xx/10 –
- ECONOMY CLASS
- xx / 10.00
BOTTOM LINE
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ