รีวิวฉบับที่ 1732 … หลายคนเคยได้ยิน Royal House ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านบนที่ดินกันมายาวนานแล้วนะครับ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปดูโครงการคอนโดมิเนียมตัวแรก จากบริษัทในเครือเดียวกันกับ Royal House อย่าง Royal House Eleven ครับ … โครงการ COCOON พระราม 9 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 146 ยูนิต ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 59 ใกล้ห้าง The Nine และจุดขึ้นลงทางด่วน มาแบบ Fully Furnished ด้วยราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท.. ไปชมรายละเอียดกันเลยครับ

Fact @ 12 November 2018 

  • COCOON RAMA 9 (โคคูน พระราม 9)
  • Royal House Eleven (เครือเดียวกันกับ บริษัท Royal House “สร้างบ้านด้วยสมอง”)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 146 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 21 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 52 คันคิดเป็น 35% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ที่ดินประมาณ 1-0-57 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ไตรมาศ 2 ปี 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาศ 3 ปี 2563
  • 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom plus ขนาด 33 – 35 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 42-44 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 74,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Official Facebook : คลิกที่นี่
  • Line@ : COCOONCONDO
  • โทร  : 092-323-9323

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด

ตัวโครงการ : 13.748955, 100.636589 (พระราม9 ซอย 59)  |   Sale Gallery : ปากซอยพระราม9 ซอย 57/2

แผนที่จากทางโครงการครับ

ที่ตั้งโครงการ Cocoon พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 59 เลียบกับทางด่วนศรีรัช ทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในย่านพระราม 9 ช่วงระหว่างแยกรามคำแหง – แยกพัฒนาการ ซึ่งบริเวณนี้เป็นที่รู้จักกันดีและค่อนข้างคึกคัก และยังไม่ไกลกับ The Nine Center พระราม 9 คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ในย่านนี้ นอกจากนั้นยังวิ่งเข้าเส้นรามคำแหงตอนต้นไปตัดเพชรบุรีเข้าไปยังทองหล่อ-เอกมัยได้สะดวก ส่วนด้านบนของที่ตั้งมีถนนหัวหมาก (ซอยรามคำแหง 24) ที่สามารถทะลุออกได้เช่นกัน มีความอุดมสมบูรณ์สูง ไม่ว่าจะเป็นช่วงถนนหัวหมากเอง (หลังราม) หรือบริเวณแยกกรุงเทพกรีฑา-หัวหมาก ที่เป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้อีกมากมายเลย

การเดินทางเข้าถึงโครงการใช้รถยนต์สะดวกสุดครับ โดยใช้เส้นทางหลักคือถนนพระราม 9 หรือจะเข้าทางถนนหัวหมากก็สะดวกเช่นกัน ข้อดีของการอยู่ในซอย ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างหลากหลาย ถนนพระราม 9 เส้นนี้วิ่งเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ในส่วนของถนนหัวหมาก จะวิ่งเข้าเส้นรามคำแหงที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงอีกเช่นกันก็ไม่ยากครับ นอกจากนี้ยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัชอีกด้วย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะยังไม่จัดว่าสะดวกมากนักเนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนเสียทีเดียวนะ รถสาธารณะมักไม่ผ่านมามากนัก แต่บริเวณถนนศรีนครินทร์ ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการ กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า Monorail สายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีศรีกรีฑา และ ยังสามารถไปเชื่อมกับเส้นรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม(ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) บริเวณ สถานีแยกลำสาลี โดยโครงการรถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จและเปิดใช้บริการประมาณปี 2566 อีกทั้งในปัจจุบันยังมี Airport Rail Link (พญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ) สถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานีหัวหมาก

ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการถือว่ามีค่อนข้างหลากหลาย เริ่มที่ใกล้ที่สุดที่ส่วนของโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ที่มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย เช่น Starbucks และในวันพุธจะมีตลาดที่โรงพยาบาลด้วยนะ หรือจะกระเถิบออกไปสักนิดที่ฝั่งพระราม 9 ซึ่งมี The Nine Center พระราม 9 คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ในย่านนี้ รอบข้างก็มีทั้งร้านคาเฟ่น่ารัก บรรยากาศดีหลายร้าน ร้านอาหารขนาดเล็ก-ใหญ่ริมถนนมากมาย ส่วนใครเน้นราคาย่อมเยาหน่อยก็ขยับไปกินบนถนนหัวหมากได้เลย เพราะมีร้านอาหารย่อยริมทางมากมาย จะคึกคักมากๆ ในช่วงเย็น-ดึกเลยทีเดียว ขยับออกไปอีกหน่อยความอุดมสมบูรณ์ก็จะอยู่แถบถนนรามคำแหง ซึ่งมี Hyper Market ศูนย์การค้า ให้จับจ่ายซื้อของ ช็อปปิ้ง ดูหนังกันได้ครับ โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว รวมถึงยังมีโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนคริทร์อยู่ติดกับตัวโครงการ

วันนี้ผมจะพาไปโครงการทางถนนพระราม 9 นะครับ วิ่งมาจาก ถนนรามคำแหง หรือจะเรียกว่า เริ่มจาก Airport Link รามคำแหงก็ได้ มุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังแยกรามคำแหง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 9 ตรงไปประมาณ 3.5 กิโลเมตร จะพบทางเบี่ยงซ้าย บริเวณหน้าซอย พระราม 9 ซอย 57 แต่เมื่อเห็นพระราม 9 ซอย 55 ก็ชิดซ้ายได้เลย จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยพระราม 9 ซอย 59 ตรงเข้าไปประมาณ 750 เมตร ก็จะพบโครงการ Cocoon พระราม 9 อยู่ทางซ้ายมือครับ

วิ่งมาเรื่อยๆบนถนนรามคำแหงนะครับ ในภาพคือพึ่งจะผ่าน Airport Link รามคำแหงมาเอง กำลังมุ่งหน้าไปทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง ตรงต่อไปเลยครับ

เมื่อตรงมาจะเจอแยกรามคำแหง ซึ่งเป็นแยกขนาดใหญ่ มีรถค่อนข้างเยอะ ให้เราเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพระราม 9 เลยครับ

ตรงไปเรื่อยๆเลยนะครับ บนถนนพระราม 9 รถเยอะหน่อย แต่ก็ตรงอย่างเดียวขับสบาย มุ่งหน้าไปทางถนนศรีนคริทร์ครับ

ขับมาเรื่อยๆก็อย่าพึ่งเพลินมากนะครับ ดูซอยข้างๆไว้ด้วยเพราะทางเข้าโครงการของเราต้องเข้าทางเบี่ยงซ้ายมือครับ เมื่อถึงซอยพระราม 9 ซอย 55 ให้เริ่มชะลอความเร็ว และชิดซ้ายไว้รอเลยครับ ดูรถหลังดีๆนะครับ ผมเป็นห่วง

ตรงเลยมาอีกนิดก็เข้าทางเบี่ยงซ้ายมือแบบนี้เลยครับ จะมีระยะจากแยกรามคำแหงสู่ทางเบี่ยงตรงนี้ ประมาณ 3.5 กิโลเมตรครับ

เข้ามาในทางเบี่ยง จะมีซอย พระราม 9 ซอย 57 เลยมาอีกก็จะเป็น ซอยพระราม 9 ซอย 57/2  ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานขายของเรานั่นเอง ภายในรูปมีสำนักงานขายที่กำลังก่อสร้างอยู่นะครับ ตำแหน่งจะอยู่บริเวณปากซอยพระราม 9 ซอย 57/2 เลยครับ สังเกตได้ง่ายจากถนน ตามรูปเลยครับ

แต่ตัวโครงการเนี่ย ต้องเลยมาอีกซอยนึงนะครับ จะอยู่ภายในซอยซอยพระราม 9 ซอย 59

เมื่อเข้ามาภายในซอย ก็ตรงยาวเลยครับ ภายในเป็นถนน 2 เลนกว้าง รถสวนกันได้ แต่จะมีรถจอดริมถนนค่อนข้างเยอะ บริบทรอบข้างส่วนใหญ่ช่วงต้นซอยจะเป็นอาคารสำนักงาน ส่วนภายในซอยจะเป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัย ค่อนข้างเงียบสงบครับ

เมื่อตรงเข้ามาภายในซอยพระราม 9 ซอย 59 ประมาณ 750 เมตร ก็จะพบตัวโครงการ Cocoon พระราม 9 อยู่ทางซ้ายมือครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

บริบทโดยรอบโครงการถือว่าค่อนข้างเงียบสงบครับ เนื่องจากอยู่ในช่วงในสุดของซอยพระราม 9 ซอย 59 พื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัย จะมีบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น ค่อนข้างเยอะ แทรกบ้างด้วยอาคารสำนักงาน แต่ก็เป็นระดับ 1-2 ชั้นทั้งหมด จะมีอาคารสูงบ้างก็โรงพยาบาลสมิติเวช ซึ่งอยู่ติดถนนศรีนครินทร์ แต่มีทางเข้าออกด้านหลังอยู่ตรงข้ามโครงการเรา สนามฟุตบอลหญ้าเทียมอยู่ภายในซอยพระราม 9 ซอย 59 ก่อนถึงโครงการจะมีแยกเข้าไปภายในซอยวิเศษสุข 1 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถไปทะลุกับซอยพระราม 9 อื่นๆ ได้ นอกเหนือจากนั้นยังสามารถลัดเลาะออกถนนหัวหมาก รามคำแหง 24 ได้อีกด้วยครับ ไปดูรายละเอียดพื้นที่ที่ติดกับโครงการในแต่ละทิศกันครับ

  • ทางทิศเหนือ : ตัวโครงการติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ปัจจุบันเป็นป่ากล้วยขนาดประมาณ 1-2 ไร่ได้
  • ทางทิศตะวันออก : เป็นถนน พระราม 9 ซอย 59 ซึ่งจะเป็นทางเข้าออกของโครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงาน 1-2 ชั้น และทางเข้าออกหลังโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ภายในมีร้านอาหาร ร้านค้าค่อนข้างเยอะ ให้ใช้บริการได้ วันพุธมีตลาดนัดขนาดย่อมเยาด้วยนะเออ หรือสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยก็ถือว่าปลอดภัยเลยล่ะครับ
  • ทางทิศใต้ : ติดกับบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล สูงประมาณ 2 ชั้นครับ ต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างหนาทึบ ช่วยเป็นเหมือนกำแพงอีกชั้นในการแบ่งส่วนความเป็นส่วนตัวให้กับตัวบ้านเองและเราด้วยเช่นกัน
  • ทางทิศตะวันตก : เป็นอาคารพักอาศัย 1-2 ชั้น ซึ่งจะมีทางเข้าออกอยู่ทางซอยด้านหลัง ส่วนที่ติดกับเราเป็นบริเวณหลังบ้าน ทำให้ในมุมสูง เราก็ไม่ต้องกระทบเรื่องการเข้าออกของรถ หรือความเคลื่อนไหวอะไรมากนัก

หน้าพื้นที่โครงการปัจจุบันยังไม่ได้มีการปรับพื้นที่ มีร้านอาหารเปิดอยู่ครับ ซึ่งได้เริ่มมีการล้อมรั้วแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้เราก็จะได้เห็นโครงการเริ่มดำเนินการแล้วครับ

ฝั่งซ้ายมือของโครงการเป็นถนน 8 เมตร ยาวเข้าไปเป็นซอยตันครับ ซึ่งภายในมีรถจอดขนาบซ้ายขวาค่อนข้างเยอะ

ฝั่งขวามือคือบริษัท บ้านเลขที่ ๑ เป็นอาคาร สำนักงาน สูงประมาณ 1-2 ชั้น ในช่วงเวลากลางวัน มีรถเข้าออกเรื่อยๆครับ

ส่วนฝั่งตรงข้ามของโครงการคือประตูทางเข้าออกด้านหลังของโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ซึ่งทางนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงนะ

ฝั่งด้านขวามือเป็นบ้านพักอาศัยประมาณ 3 ชั้น ซึ่งที่รั้วของตัวบ้าน มีต้นไม้ใหญ่ ค่อนข้างหนา มีร้านค้าอยู่ตามรั้วด้วยครับ

ฝั่งตรงข้ามของบ้านพักอาศัยคือเพิงร้านอาหารง่ายๆ

กลับไปทางต้นซอยพระราม 9 ซอย 59 สังเกตุว่าบริบทรอบข้างจะเป็นแหล่งชุมชน มีรถจอดริมสองข้างทางค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

เมื่อตรงมาอีกนิดดจะพบซอยวิเศษสุข 1 ซึ่งเป็นซอยสามารถทะลุไปถนนพระราม 9 เพื่อไปซอยแยกย่อยอีกมากมาย หรือไปฝั่งหัวหมาก รามคำแหง ก็ทางนี้นี่แหละครับ

บรรยากาศภายในซอยก็เป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัยเช่นเดิมครับ บ้านเดี่ยวพักอาศัย ไม่มีอาคารสูง จะมีร้านค้า ร้านอาหารแทรกเป็นระยะ และรถจอดริมสองข้างทางประปรายครับ

มาดูที่ภายในโครงการกันครับ นี่คือบรรยากาศภายในพื้นที่โครงการฝั่งทิศตะวันตกซึ่งจะติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ทางด้านหลัง วิวชั้นสูงค่อนข้างโล่งเลยทีเดียว

พื้นที่ฝั่งทิศเหนือของโครงการ เป็นพื้นที่ว่างเปล่า มีต้นไม้ขึ้นหนาพอสมควร มีอาคารให้เห็นบ้างรำไร แต่ถือว่าน้อยครับ

ด้านฝั่งทางทิศใต้ หรือหันไปทางถนนพระราม 9 ก็คือบ้านพักอาศัย 3 ชั้น ที่พาเดินไปชมกันเมื่อสักครู่ ต้นไม้ค่อนข้างหนา แต่ในวิวชั้นสูงก็ยังถือว่าโล่งครับ โดยรวมแล้วตั้งแต่ชั้น 2 ชั้นไป จะได้รับวิวค่อนข้างโล่งทีเดียว ซึ่งอาคารจะมีห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 2 เป็นต้นไปครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 600 m.
  • ราชมังคลากีฬาสถาน ~ 2.0 km.
  • ม.รามคำแหง ~ 2.1 km.
  • St.Mark International School  ~ 2.3 km.
  • The Nine พระราม 9 ~ 2.5 km.
  • Airport Link หัวหมาก ~ 2.6 km.
  • สนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา ~ 3.6 km.
  • Home Pro พระราม 9 ~ 4 km.
  • The Mall รามคำแหง ~ 5 km.
  • Airport Link รามคำแหง ~ 5.1 km.
  • Major Hollywood ~ 5.6 km.
  • ตลาดเสรีมาร์เก็ท ~ 8 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการมีขนาดพื้นที่ประมาณไร่กว่าๆ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ มีขนาดได้ใหญ่มากนัก แต่มีการออกแบบพื้นที่ภายในค่อนข้างดี โดยมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ตั้งแต่ภายนอกอาคาร ภายในอาคาร และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ทั้งหมดได้ออกแบบภายใต้แนวคิด “Simple Sensibility” หรือความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ตั้งใจให้เป็นเสมือนพื้นที่พักผ่อนรับรองใช้ชีวิตของคนเมือง ด้วยความอบอุ่นจากธรรมชาติ ตั้งแต่งานเฟอร์นิเจอร์ไม้แท้ พื้นหิน โคมไฟหวายที่ถอดรูปทรงมาจากรูปทรงของรังไหมที่เป็นแนวคิดของโครงการ รวมไปถึงดีไซน์ต่างๆของอาคารที่ออกแบบให้รับแสงธรรมชาติให้ได้มากที่สุด 

เป็นโครงการ Low Rise โครงการไม่ใหญ่มากจำนวนยูนิตเพียง 146 ยูนิต จึงได้เรื่องความเป็นส่วนตัว เน้นอยู่อาศัย แต่ก็จัดพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ให้ครบเลือกใช้ได้เช่นกัน โครงการมีห้องทั้งหมด 2 แบบหลักๆ คือ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms โดยที่ชั้น 1 ภายนอกอาคารถูกจัดเป็นส่วนจอดรถใต้อาคารภายในอาคารจัดเป็นส่วน Lobby พื้นที่ต้อนรับที่สามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนของห้องนิติบุคคล และพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสระว่ายน้ำ โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 ที่ชั้น 2 จะมีส่วนของพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วน เช่น ห้องออกกำลังกาย ห้อง Co-working Space และห้องประชุม ส่วนที่ดาดฟ้ามีสวนให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วยครับ

บรรยากาศบริเวณทางเข้าหน้าโครงการ จะสังเกตได้ว่าตัวโครงการทั้งหมดออกแบบให้เกิดความสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเป็นรั้วทางเข้า ตัวกรอบอาคาร และตัวอาคารภายใน ซึ่งเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติ ใช้วัสดุที่ดูกลมกลืนกัน อบอุ่น ตัวรั้วโครงการสูง 3 เมตร มีการทำเว้นร่อง แทรกด้วยแนวต้นไม้ ทำให้ดูไม่ทึบตัน มีจังหวะของความเป็นธรรมชาติแทรกลงไป ส่วนตัวอาคารก็เช่นกัน เน้นความเขียวสบายตา มาพร้อมกรอบอาคารระแนงไม้แนวตั้ง ให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นกันเอง ส่วนตัวอาคารด้านในก็ใช้สีที่ค่อนข้างคุมโทน มีกระจกแทรกตามจุดต่างๆ สะท้อนท้องฟ้าให้เห็น ไปด้วยกันแล้วดูกลมกลืนทีเดียวครับ

ภาพจำลองพื้นที่ Co-working Space หรือทางโครงการให้ชื่อว่า The Co-Coon Space ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ภายในมีเพดานห้องที่สูงเป็น Double Volume Ceiling และโต๊ะทำงานหลายหลากรูปแบบ เพื่อให้เลือกตามลักษณะการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเล็ก หรือกลุ่มใหญ่ ฝั่งหนึ่งมีหน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติและบรรยากาศจากภายนอก ส่วนอีกฝั่งเป็นผนังที่มีการเล่นระดับ ภายในทั้งหมดใช้วัสดุสี Earth Tone ดูเป็นธรรมชาติสบายตา

ภาพจำลองส่วน The Private Coon ซึ่งเป็นเสมือนห้องประชุม หรือพื้นที่ทำงานที่มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น มีรูปแบบการตกแต่งในสไตล์เดียวกันกับพื้นที่ The Co-Coon Space เมื่อสักครู่ เนื่องจากมีตำแหน่งที่ต่อเนื่องกันด้วย แต่ฝ้าเพดานจะไม่ได้เป็นแบบ Double Volume Ceiling แล้ว

ภาพจำลองส่วน The Cocoon Fitness พื้นที่ออกกำลังกายที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร มีพื้นที่ 33 ตร.ม. ซึ่งจะมาในรูปแบบห้องที่มีเพดานสูง Double Volume Ceiling เพื่อเปิดรับช่องแสงค่อนข้างเยอะ เป็นกระจกทั้งสองระดับ บน-ล่าง นอกจากผนังอีกฝั่งยังมีกระจก ทำให้ห้องดูสว่างและกว้างมากขึ้นไปอีก ภายในมีอุปกรณ์ค่อนข้างครบครัน ทั้งเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอ 

สระว่ายน้ำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 15 x 5 เมตร ระบบเกลือ และสระ Jacuzzi ภายในตัว ที่บริเวณชั้น Ground Floor ล้อมรอบด้วยแนวอาคารซึ่งตกแต่งด้วยสวนต่างๆ ทั้งต้นไม้พุ่มและไม้ใหญ่ พร้อมโซนที่นั่งริมสระรับบรรยากาศ บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่เป็นวิวและบรรยากาศให้กับอาคารที่หันเข้าภายในโครงการ ซึ่งออกแบบมาได้ค่อนข้างอบอุ่นทีเดียว

เรามาดูโมเดลกันครับโครงการ  Cocoon พระราม 9 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น มีพื้นที่ไร่นิดๆ การจัดวางผังอาคารเป็นตัว U มีพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางซึ่งเป็นสระว่ายน้ำอยู่ระหว่างแนวอาคาร เน้นการรับบรรยากาศภายในพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ตรงกลางของโครงการ โดยจัดเป็นพื้นที่สีเขียวและสระว่ายน้ำ ด้านหน้าของโครงการ ทางเข้า-ออกหลักจะอยู่ติดกับซอยพระราม 9 ซอย 59 ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย ตรงข้ามกับประตูทางเข้าออกด้านหลังของโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนคริทร์ รั้วด้านหน้าอาคารมีการปลูกแนวต้นไม้เพื่อเพิ่มความร่มรื่นและช่วยพรางสายตาจากบุคคลภายนอก ทำให้ชั้นด้านล่างของอาคารที่เป็นส่วน Lobby และพื้นที่ส่วนกลาง มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัวอาคารตกแต่งด้วยวัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติ ตามแนวคิดในการออกแบบของโครงการ ที่เน้นใช้วัสดุที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ให้รู้สึกอบอุ่น และช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับโครงการได้ดี

บริเวณทางเข้าออกหนึ่งเดียวของโครงการ ซึ่งจะมีป้ายโครงการและป้อมรปภ.อยู่บริเวณด้านหน้าด้วย รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร มีอาคารด้านหน้าสูง 3 ชั้น ยื่นออกมาเป็นชายคารับรถที่เข้าออกโครงการ ซึ่งก็คือตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 นั่นเอง เป็นแนวกระจกโปร่งโล่งสูง ภายในส่วนบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ Co-working Space และ Fitness สามารถมองเห็นได้จากบริเวณนี้ครับ

เมื่อเข้าไปภายใน จะมีถนนภายในโครงการประมาณ 7.5 เมตร รถจะวนใต้อาคารทั้งหมด โดยเป็นการเดินรถแบบ 2 เลน สวนกันได้ ส่วนพื้นที่จอด จะอยู่ตามแนวรั้วอาคาร ดังเช่นในภาพครับ ข้อดีคือทำให้ทางเข้าออก และทางเดินริมอาคารภายในดูโล่ง ปลอดภัย แต่ก็มีข้อเสียถ้าหากฝนตกก็อาจจะเปียกได้จังหวะที่ต้องเข้า-ออกรถ แนะนำให้พกร่มไว้ในรถด้วยครับ

เมื่อเข้าไปภายในก็เช่นกัน รถขาเข้าโครงการวนทางขวาทั้งหมด เป็นตัว U ส่วนขาออกก็ออกทางเดิมครับ ซึ่งจะมีพื้นที่ให้นั่งเล่น อยู่ตามมุม สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งคอยได้ครับ ส่วนตัวผมมองว่า ด้วยขนาดพื้นที่ดินแค่ประมาณ 1 ไร่นิดๆ ทำให้มีพื้นที่จอดรถ 52 คันคิดเป็น 35% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าจัดให้มาไม่มากเท่าไหร่  แต่ทางโครงการได้ออกแบบสิ่งอื่นมาทดแทน ด้วยการจัดการพื้นที่ภายในและวัสดุ ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้ไปดูกันภายในส่วนห้องพักอาศัยอีกทีครับ

มาดูที่ส่วนพื้นที่ส่วนกลางกันบ้างครับ บริเวณด้านหน้าสุดที่ทางเข้าออกโครงการ อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วข้างบน ว่าจะมีพื้นที่ยื่นออกมาเป็นชายคารับรถเข้า-ออก นั่นก็คือห้อง Co-Working Space และ พื้นที่ Fitness จริงๆมีแค่ที่ชั้น 2 ครับ แต่ที่ดูมีความสูงมากกว่า 2 ชั้น ก็เป็นเพราะภายในเป็น Double Volume Ceiling ซึ่งจะมีความสูงไปถึงชั้น 3 สามารถรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เปิดมุมมองทั้งภายนอกและภายใน

พื้นที่ส่วนกลางส่วนต่อมาคือสระว่ายน้ำที่มีตำแหน่งอยู่ที่ชั้น 1 บริเวณกลางโครงการ ถูกขนาบข้าง ด้วยพื้นที่พักอาศัยทั้ง 3 ด้าน โดยมีขนาด 15 x 5 เมตร ล้อมรอบด้วยสวนหย่อมและต้นไม้ รวมถึงยังมีพื้นที่พักผ่อนริมสระอีกด้วย

ตัวสระว่ายน้ำมีพื้นที่พักผ่อนริมสระ และแนวทางเดินที่กลมกลืนกับธรรมชาติอยู่ด้านข้าง ถูกออกแบบให้มีความใกล้ชิดกัน เป็นมุมมองให้กับอาคารด้านหลัง ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญ คือ การวางแนวกระจกด้านหลังของอาคารภายในรูป มีตำแหน่งอยู่ระหว่างกลางอาคาร ซึ่งทางโครงการลดจำนวนห้องพักลง เพื่อเปิดมุมมองนี้แก่ระเบียงทางเดินภายในชั้นพักอาศัย ทำให้สามารถได้รับแสงธรรมชาติ และบรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางในทุกๆชั้น

พื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนคือชั้นดาดฟ้า จะถูกจัดไว้เป็นสวนเพื่อรับวิวโดยรอบโครงการ มีที่นั่งที่ค่อนข้างหลากหลายประเภทหลายมุม ใช้การเล่นระดับพื้นเพื่อแบ่งประเภทกิจกรรม เหมาะสำหรับนั่งชิล หรือทำกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหรือเดี่ยวก็ได้ครับ

มาดูกันต่อที่ส่วน Floor Plan นะครับ โครงการ COCOON พระราม 9 เป็นโครงการคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 146 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1-0-57 ไร่ มีลักษณะการวางตัวอาคารเป็นตัว U โอบล้อมสระว่ายน้ำที่ชั้น 1 มีทางเข้าออก 1 ทาง ภายในสามารถวนรถได้ 2 ทาง จอดตามใต้แนวอาคาร เป็นตัว U เช่นกัน โดยภายในอาคารที่ชั้น 1 ประกอบไปด้วย ส่วนพื้นที่ต้อนรับ ที่เชื่อมต่อไปยังห้องนิติบุคคล และ โถงลิฟต์ จากนั้นมีประตูเชื่อมออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้คือส่วนสระว่ายน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 15 x 5 เมตร ระบบเกลือ ล้อมรอบด้วยสวน ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นวิวภายในห้องให้แนวห้องพักของอาคารด้วย ตกแต่งได้สวยงามทีเดียว ส่วนพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 นะครับ

บริเวณชั้น 2 นี้ เป็นชั้นพักอาศัย ที่มีพื้นที่ส่วนกลางด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีประตูกั้นแบ่งส่วนชัดเจน ทำให้ผู้พักอาศัยชั้นอื่นก็จะเข้าได้เฉพาะพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้เท่านั้น มีตำแหน่งอยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร ติดกับถนนพระราม 9 ซอย 59 เป็นส่วนของห้อง Co-Working Space และ Fitness ที่มาแบบ Double Volume Ceiling อีกทั้งยังมีห้องประชุม อยู่ภายในด้วยครับ ส่วนพื้นที่โถงลิฟต์จะได้รับวิว The Cocoon Pool ตรงกลางโครงการในทุกๆชั้นเลยครับ

ส่วนห้องพักอาศัย ของชั้นนี้มี 20 ห้องครับ โดยมีการวางห้องพักแบบ 2 Bedrooms และ 1 Bedroom Plus ไว้ที่มุมต่างๆของอาคาร และพื้นที่ที่หันเข้าด้านในอาคารจะเป็นห้อง 1 Bedroom 30 ตร.ม. ทั้งหมด ซึ่งจะได้รับวิวของ The Cocoon Pool ตรงกลางโครงการ ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาดเล็กสุด 26 ตร.ม. จะหันหน้าออกนอกโครงการ ภายในชั้นมีแนวทางเดินเป็นแบบ Double Corridor คือจะมีห้องสองฝั่งตลอดทางเดิน ด้วยตัวอาคารที่เป็นตัว U แต่มีโถงลิฟต์อยู่ที่ฝังเดียวของอาคาร ทางทิศใต้ จึงทำให้มีบางห้องที่ต้องเดินไกลสักหน่อย แต่ทางโครงการก็ได้ออกแบบมาให้ช่วงกลางแนวอาคารมีการเปิดช่องแสงรับวิวสระว่ายน้ำเต็มๆ (บริเวณที่ทำเส้นประสีแดงไว้) เหมือนที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านี้ในส่วนของโมเดล โดยสำหรับห้องที่อยู่ไกลโถงลิฟต์ก็จะได้เดินผ่านวิวบริเวณนี้ อีกด้านฝั่งในสุดก็มีช่องเปิดรับแสงที่ปลายทางเดิน ทำให้ถึงแม้จะอยู่ห่างจากโถงลิฟต์แต่ก็มีบรรยากาศทางเดินที่รับวิวสระว่ายน้ำภายนอกที่สวยงามมาแทนนะครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยทั้งชั้น ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางแล้ว แตกต่างก็เพียงแต่จะมีแนวผนังที่เป็นส่วน Double Volume Ceiling ของพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 เมื่อสักครู่ ซึ่งชั้นนี้จะมีพื้นที่ห้องพักอาศัยเพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง เป็น 21 ห้องต่อชั้นครับ

มาต่อที่ชั้น 4 ซึ่งจะเป็นชั้นที่มีแต่พื้นที่พักอาศัยทั้งหมด เช่นเดียวกันกับชั้น 5 จนถึงชั้น 7 เพียงแต่ชั้น 4 ในผังพื้นจะแสดงให้เห็นพื้นที่หลังคาของอาคารด้านหน้า 3 ชั้น ที่เป็นชั้นส่วนกลางครับ ซึ่งบริเวณนั้นที่เป็นอาคาร ก็จะมีช่องแสงเข้ามาที่โถงทางเดินภายในแทนครับ ส่วนของชั้น 5-7 ก็จะโล่งตลอดแนวเลย

พื้นที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของชั้นพักอาศัยซึ่งจะมีลักษณะทั้งจำนวนห้องและตำแหน่งของแต่ละห้องเหมือนกับชั้นพักอาศัยอื่นๆที่ผ่านมาครับ แต่จะมีบันไดเพื่อขึ้นไปยังสวนดาดฟ้า และที่ชั้นนี้จึงมีแนวประตูกั้นให้เข้าออกด้วยคีย์การ์ด เพื่อให้ผู้พักอาศัยชั้นอื่นก็จะเข้าได้เฉพาะพื้นที่เชื่อมต่อไปชั้นบนของชั้นนี้เท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว เช่นเดียวกันกับชั้น 2 ครับ

พื้นที่ส่วนกลางบริเวณดาดฟ้าของโครงการ ซึ่งจะขึ้นมาจากบันไดของชั้น 8 ด้านบนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จัดเป็นที่นั่งหลายรูปแบบ มีการเล่นระดับพื้น ได้มุมมองที่แตกต่าง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 15×5  เมตร มีสระ Jacuzzi ภายใน
  • The Cocoon Fitness  ขนาด 33 ตร.ม.
  • The Co-Coon Space
  • The Private Coon
  • สวนดาดฟ้า
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 73 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 52 คันคิดเป็น 35% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง


Product Walkthrough

มาดูรายละเอียดในห้องพักอาศัยกันเลย ซึ่งห้องพักของที่นี่ผมว่ามีจุดเด่นหลายที่เลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของการวางผังพื้นที่ภายใน พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีการแบ่งส่วนพื้นที่ภายในค่อนข้างชัดเจน มีประตูกั้นในทุกๆส่วนเลย แต่แสงธรรมชาติยังสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ภายในห้อง วัสดุภายในก็ให้มาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ไปดูกันเลยครับ

เริ่มกันที่ห้องแรก 1 Bedroom 26.70-27.40 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Furnished ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 ม. รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลัก เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวและระเบียงซักล้าง แต่ละพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ห้องลักษณะนี้เนื่องจากผนังที่กั้นไม่ใช่แบบทึบจึงมีข้อดีตรงที่เราจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องไม่มืดทึบจนเกินไป อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องครัวและห้องน้ำ ห้องครัวเป็นครัวปิด มีประตูเลื่อนมา แถมยังมีตำแหน่งติดกับระเบียง ง่ายแก่การระบายอากาศ ในครัวมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งให้เราได้นั่งทานข้าวได้เป็นสัดส่วน ห้องน้ำแบ่งพื้นที่มาให้มีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก มีประตูอยู่กลางห้อง เข้าใช้งานง่ายจากทุกพื้นที่ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติดริมอาคาร อาจจะมีปัญหาเรื่องความชื้นบ้าง แต่ทางโครงการติดตั้งเครื่องระบายอากาศมาให้ครับ หายห่วง ทีนี้ก็ไปดูภายในห้องกันเลยครับ

ประตูหน้าห้องเป็น HDF ขนาด 2.20 x 0.9 m. ขนาดสูงกว่าประตูปกติ โดยมีระบบเข้าแบบ Digital Door Lock ของ Icon นำเข้าจากเกาหลี ใช้ได้ทั้ง Password , Key Card และกุญแจ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.4 เมตร พื้นเป็นไม้ลามิเนต มีคุณสมบัติผิวหน้าสามารถทนทาน ต่อรอยขูดขีด แรงกดกระแทกได้ดี ภายในห้องจัดมาให้แบบ Fully Furnished พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในห้องตัวอย่างเลย พื้นที่ภายในถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ห้องนอนมีฉากกั้นกระจกกั้นอยู่ ซึ่งมีข้อดีเชื่อมต่อมาถึงส่วนห้องนั่งเล่นส่วนแรกนี้คือ เป็นพื้นที่ติดริมอาคาร ทำให้มีช่องแสงทะลุฉากกั้นเข้ามาสู่ตัวห้องนั่งเล่นด้วยเช่นกัน

ส่วนพื้นที่นั่งเล่น มีขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียวครับ ซึ่งเราจะได้ส่วนของโซฟามาด้วยนะครับ แต่โต๊ะตรงกลางนี้ไม่ได้นะ

ส่วนอีกฝั่งคือชั้นวางทีวีและทางเข้าของประตูห้องน้ำครับ ซึ่งส่วนชั้นวางทีวีเนี่ย เราจะได้มาทั้งหมดตามที่เห็นเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นชั้นวางของด้านล่างและชั้นวางของติดผนังด้านบนด้วย ผมแนะนำให้ใช้ทีวีติดผนัง เพื่อให้มีพื้นที่วางของด้านล่างมากยิ่งขึ้นครับ ผนังส่วนนี้มีพื้นที่ 1.40 เมตร โดยระยะขนาดนี้ สามารถติดทีวีได้ถึง 60 นิ้วเลยทีเดียวครับ บริเวณนี้มีทางเข้าห้องน้ำอยู่ข้างๆด้วยครับ

ชั้นวางของด้านล่างมีขนาด 140 x 40 ซม. โดยจะเป็นชั้นใส่รองเท้า และลิ้นชักเก็บของครับ โดยเป็นหน้าบานเปิดด้านล่างแบบในรูปเลยครับ เป็นบาน Solf Close ทั้งหมดเลยครับ ซึ่งถ้าใช้เป็นทีวีแขวนผนังแบบในห้องตัวอย่าง จะเหลือพื้นที่วางของได้ค่อนข้างเยอะเลย ที่ผนังมีสวิทช์ไฟติดตั้งไว้ให้ด้วยนะครับ

โซฟาที่เราจะได้มาด้วยนั้นมีขนาด 150 x 80 ซม. สามารถนอนได้เลยทีเดียวครับ ด้านล่างเป็นโครงสร้างไม้แข็งแรงเลยครับ นั่งนอนสบาย ผมเองนี่เกือบหลับเลยทีเดียว

อีกจุดเด่นนึงของห้องนี้คือมีพื้นที่หน้าห้องค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวครับ สามารถจัดพื้นที่ได้หลากหลาย อีกอย่างคือมีระยะทีวีที่กว้าง อยู่ที่ 2.9 เมตร ควรใช้ทีวีขนาดใหญ่ได้ประมาณ 55-60 นิ้วครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 4 ดวงครับ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบบานอลูมิเนียมสีดำ กระจกใส เป็นบานเปิดแบบ Double Slice สองตอนไปรวมที่ด้านขวา พอเลื่อนเปิดสุดแล้วจะมีระยะประมาณ 1.6 เมตร ขนาดกว้างเลยทีเดียว ทำให้ได้พื้นที่ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น อีกทั้งยังช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องทำให้ห้องไม่มืดจนเกินไป ช่วยประหยัดไฟตอนกลางวันได้

ประตูมีตัวจับติดตั้งพร้อมรางเลื่อนสไลด์ด้านล่างมาให้ครับ จะเดินเข้าออกต้องระวังหน่อยนะครับ อาจจะสะดุดได้ ผมเป็นห่วง

ส่วนต่อไปเป็นส่วนห้องนอนวางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุต ทางโครงการแถมเตียงให้แต่ไม่ได้รวมฟูก ผนังข้างเตียงเป็นหน้าต่างบ้าน Fix ด้านล่างและมีบานเลื่อนไว้สำหรับเปิดรับลมระบายอากาศอีกด้วย แถมยังเป็นช่องแสงให้กับพื้นที่ภายในห้อง ปลายเตียงยังมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ส่วนข้างเตียงก็มีโต๊ะเครื่องแป้ง Built-in มาให้ในสไตล์เดียวกัน

พื้นที่ข้างเตียงมีขนาดกว้างพอสมควรสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้

บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่ประมาณ 50 ซม. สำหรับเดินได้รอบ และใช้งานตู้เสื้อผ้าสบายๆเลย

ฝั่งริมหน้าต่างมีโต๊ะเครื่องแป้ง ขนาด 70 x 40 ซม. เท่ากับระยะห่างระหว่างเตียงและผนัง เดินเข้าออก หรือจะยืนสูดอากาศ ก็ทำได้ สบายๆครับ

บริเวณปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ ขนาดตู้กว้าง 1 เมตร สูงจากพื้นถึงฝ้าเลยเลยทีเดียว มีหน้าบานกระจกดำ มีกรอบบานอลูมิเนียมสำหรับจับได้ถนัดมือ

ตู้เป็นบานสไลด์เปิดได้ 2 ด้าน ช่วยทำให้ใข้งานง่ายแม้จะมีพื้นที่หน้าตู้ไม่เยอะ แต่เปิดได้ทีละบานนะ ภายในมี 3 ชั้น ชั้นล่างสุดเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บของแยกประเภท ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่โล่ง สำหรับเก็บของขนาดใหญ่ ส่วนกลางเป็นราวแขวนเสื้อต่างๆ ส่วนชั้นบนสุดเป็นชั้นวางของครับ

ส่วนที่ริมผนังมีหน้าต่าง ด้านล่างเป็นกระจกบาน fix สำหรับรับแสงสว่าง ส่วนด้านบนเป็นบานสไลด์สามารถเปิดได้ขนาดรวม 160 x 120 ซม. ใหญ่ทีเดียวครับ เปิดได้ทีละบาน บานละ 80 ซม.

มีตัวล็อคติดตั้งให้พร้อมครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง ที่สำคัญให้เครื่องปรับอากาศมาด้วยครับ ของ Daikin 12,000 btu.

มาดูส่วนต่อไป ซึ่งเป็นส่วนครัวครับโดยจะมีตำแหน่งระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำครับ ทางโครงการให้บานสไลด์มาให้ ซึ่งที่สำคัญคือเป็นแบบรางแขวนด้านบน ทำให้พื้นข้างล่างเรียบ เดินเข้าออกสะดวกไม่ต้องกลัวสะดุด ซึ่งจะมีระยะเข้าออกเมื่อเปิดประตูสุดประมาณ 75 ซม. เดินถืออาหารเข้าออกสะดวกครับ

มีที่จับและตัวล็อค(จากภายในครัว) มาให้ ที่พื้นที่การเปลี่ยนจากพื้นไม้ลามิเนต เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ง่ายต่อการทำความสะอาดครับ นอกจากนั้นอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าบานเลื่อนบริเวณนี้ไม่มีรางที่พื้น เป็นระบบแขวนด้านบน ทำให้เดินเข้าออกสะดวก ไม่ต้องกลัวสะดุดครับ

ภายในห้องครัวมีลักษณะเป็นครัวปิด อย่างที่บอกไปว่ามีบานสไลด์ปิดกั้นแบ่งส่วน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นหรือควันที่เกิดจากการประกอบอาหารจะไปรบกวนส่วนอื่นๆภายในห้อง อีกทั้งยังมีตำแหน่งอยู่ริมระเบียง ทำให้สามารถระบายอากาศได้ง่ายอีกด้วยครับ ภายในครัวมีเคาน์เตอร์ Built-in มาให้ครับ พร้อมกับโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ ครบเซทเลย

เคาน์เตอร์ที่ให้มามี 3 ระดับ ตู้ต่างๆเป็นหน้าบานลามิเนต Top ครัว เป็นลามิเนตเช่นกัน ด้านบนสุดเป็นตู้เก็บของ มีหลายช่อง แบ่งเก็บของได้ค่อนข้างหลากหลายครับ

ชุดครัวชั้นกลางมีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดอากาศมาให้ครับ ผนังครัวด้านในเป็นผนังฉาบเรียบทาสี แนะนำให้หาวัสดุผิวมันมาติดนะครับ จะทำให้ผนังห้องไม่สกปรก และง่ายแก่การทำความสะอาดด้วย

อ่างล้างจานแสตนเลสแบบหลุมเดียวของ MEX ขนาด 50 x 50 ซม.

เตาไฟฟ้า 2 หลุม พร้อมเครื่องดูดอากาศจาก MEX เช่นกัน ซึ่งเป็นระบบดูดอากาศแบบหมุนวนภายใน แนะนำให้เปิดประตูระเบียงช่วยนะครับ ห้องจะได้ไม่เหม็นอับ

ส่วนด้านล่างมีช่องเก็บของหลายรูปแบบ ทั้งส่วนของใต้อ่างล้างจานมีช่องเก็บของค่อนข้างใหญ่ สามารถเก็บได้เยอะทีเดียว พร้อมลิ้นชักใส่อุปกรณ์รับประทานอาหารครับ ส่วนเตาไฟฟ้าด้านล่างทางโครงการไม่ได้ให้นะครับ

อีกจุดหนึ่งที่ผมชอบคือส่วนรับประทานอาหาร ที่ทางโครงการให้โต๊ะและเก้าอี้ที่เป็นชุดเดียวกันมาให้ ออกแบบมาให้เข้ามุมบริเวณนี้พอดิบพอดี เป็นการใช้พื้นที่ที่คุ้มค่าทีเดียว โต๊ะมีขนาด 70 x 70 ซม. ส่วนเก้าอี้มีฟูกมาให้นุ่มสบาย

พื้นที่ภายในครัว มีทางเดินสะดวกครับ ระยะประมาณ 1 เมตร สามารถยืนปรุงอาหารและนั่งรับประทานอาหารไปพร้อมกันได้

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวง ครับ

ส่วนระเบียงมีประตูเป็นส่วนเชื่อมต่อครับ เปิดได้ทางเดียวนะ เป็นกระจกใส พร้อมกรอบบานอลูมิเนียมนะครับ

ประตูมีตัวจับติดตั้งพร้อมลางเลื่อนสไลด์ด้านล่างมาให้ครับ ยกขอบสูง 2 เซนติเมตร

ภายนอกระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีพื้นที่ 1 x 1.6 เมตร พร้อมราวกันตกเหล็ก

มีสวิทช์ไฟติดตั้งให้ด้วยครับ พร้อมทั้ง Water Proof เรียบร้อย ไม่ต้องกลัวน้ำเข้าครับ

ด้านนอกมีไฟกิ่ง 1 ดวงให้ครับ พร้อมแขวน cdu. ให้เรียบร้อย ยังเหลือพื้นที่ด้านล่างสำหรับเก็บของได้บ้าง แต่ต้องระวังเรื่องแดดและความชื้นด้วยครับ

กลับเข้ามาภายในห้องนะครับ มาดูส่วนพื้นที่สุดท้ายกัน คือส่วนของห้องน้ำ ตำแหน่งห้องน้ำอยู่ภายในตัวห้อง มีประตูทางเข้าอยู่กลางห้อง เข้าง่ายจากพื้นที่ต่างๆ ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ด้านในจะต้องระวังเรื่องการระบายอากาศและความชื้น โดยโครงการจะมีพัดลมดูดอากาศมาให้

พื้นที่ภายในห้องน้ำขนาดกำลังพอดี มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไป มีการจัดสรรสัดส่วนชัดเจน มีการเรียงส่วนอาบน้ำ ส่วนโถสุขภัณฑ์ และ ส่วนอ่างล้างมือ พื้นและผนังภายในเป็นกระเบื้องเซรามิกทั้งหมดครับ

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาวตามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของห้อง มีพื้นที่ภายในแบ่งส่วนชัดเจนอย่างที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ ภายในส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะครับ นอกนั้นได้ตามนี้ทั้งหมดเลย ทางเข้าลดระดับลง 4 ซม.

อ่างล้างหน้ามีกระจกเงาติดผนังมาให้ด้วยครับ ขนาด 80 x 60 ซม.

อ่างล้างหน้าของ Cotto มีขนาด 55 x 45 ซม. ครับ ด้านบนมีพื้นที่วางของด้วย

อีกจุดเด่นของห้องน้ำนี้ครับ คือโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ของ Prema ซึ่งข้อดีของโถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวนอกจากสวยและดูดีกว่า ก็คือไม่มีรอยต่อระหว่างตัวหม้อน้ำกับฐาน ทำให้ปัญหาน้ำรั่วน้ำซึมจะน้อยกว่าแบบสองชิ้น อีกทั้งยังไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคระหว่างรอยต่อหม้อน้ำกับฐานอีกด้วยครับ ซึ่งติดตั้งมาพร้อมกับสายชำระ และที่ใส่กระดาษชำระครับ

สายชำระแสตนเลสจับถนัดมือครับ มาพร้อมกับที่ใส่กระดาษชำระพร้อมแผงปิดน้ำ ช่วยป้องกันไม่ให้กระดาษชำระเปียก

ส่วนอาบน้ำ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้คือไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะครับ แต่สามารถติดตั้งเองได้ครับ

พื้นที่ภายในมีการลดระดับพื้นลงประมาณ 3 ซม. ซี่งมีขนาดพื้นที่ 0.9 x 1 เมตร มีจุดระบายน้ำอยู่ที่มุมครับ

ระบบอาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower ขนาดใหญ่สะใจเลยทีเดียว สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลายระดับ ที่ผนังมีช่องสำหรับใส่อุปกรณ์อาบน้ำ ขนาด 30 x 25 ซม. สองชั้นครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มาพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง ห้องจริงจะมีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยนะครับ

ห้องที่ 2 ที่จะพาไปชมกันต่อคือ ห้อง 1 Bedroom 30.30 – 31.20  ตร.ม. เป็นห้องที่ขนาดใหญ่กว่าเดิม จัดมาให้แบบ Fully Fitted เช่นเดียวกัน พื้นห้องปูด้วยลามิเนต ภายในห้องความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.4 m. รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลักๆเป็น 5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัวและระเบียงซักล้าง แต่ละพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน

เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องครัว กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน และมีผนังกั้นเป็นกระจกใสจึงมีข้อดีตรงที่เราจะได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วย นอกจากนี้ในครัวมีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งให้เราได้นั่งทานข้าวได้เป็นสัดส่วน แถมยังมีตำแหน่งติดกับระเบียง สามารถระบายอากาศได้ดีอีกด้วยครับ อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องนอนอยู่ที่ริมผนังเช่นกัน ได้รับแสงธรรมชาติภายในห้อง มีประตูทึบเป็นส่วนเข้าออกชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าของห้องที่แล้วที่เป็นกระจกใส อีกส่วนหนึ่งคือห้องน้ำ แบ่งพื้นที่มาให้มีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก ภายในคล้ายกับห้องเมื่อสักครู่ มีประตูอยู่กลางห้อง เข้าใช้งานง่ายจากทุกพื้นที่ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ติดริมอาคาร อาจจะมีปัญหาเรื่องความชื้นบ้าง แต่ทางโครงการติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้ครับ ทีนี้ก็ไปดูภายในห้องกันต่อเลยครับ

ประตูห้องเป็นแบบเดิมเหมือนห้องที่แล้วนะครับ เข้า-ออกด้วย Digital Door Lock แบบเดียวกัน เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่น ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.4 เมตร ผนังเป็นแบบฉาบเรียบทาสีพร้อมบัวเชิงผนังสูงประมาณ 8 ซม. พื้นเป็นไม้ลามิเนต ภายในห้องจัดมาให้แบบ Fully Furnished เหมือนในห้องตัวอย่าง พื้นที่ภายในถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ห้องครัว มีฉากกั้นกระจกกั้นอยู่ ซึ่งมีข้อดีเชื่อมต่อมาถึงส่วนห้องนั่งเล่นส่วนแรกนี้คือ เป็นพื้นที่ติดริมอาคาร ทำให้มีช่องแสงทะลุฉากกั้นเข้ามาสู่ตัวห้องนั่งเล่นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีประตูแบ่งไปยังส่วนของห้องนอน และห้องน้ำครับ

พื้นที่นั่งเล่น มีขนาดใหญ่กว่าห้องเมื่อสักครู่เล็กน้อย  โดยจะมีระยะและพื้นที่ใช้งานที่มากขึ้น สามารถวางโซฟาได้ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งทางโครงการก็จัดมาให้ เป็นชุดโซฟาลักษณะเดิม แต่ใหญ่กว่าเดิมนั่นเองครับ ส่วนโต๊ะตรงกลางนี้ไม่ได้ให้นะครับ

ส่วนอีกฝั่งยังมีลักษณะเหมือนเดิมนะครับ สำหรับชั้นวางทีวีและระยะต่างๆ รวมถึงตำแหน่งห้องน้ำด้วยครับ แต่มีลักษณะแตกต่างจากเดิมนิดหน่อย ระยะข้างห้องน้ำก็มีขนาดใหญ่ขึ้นนะครับ พร้อมเครื่องปรับอากาศ 9,000 btu. มาให้ครับ

ชั้นวางของที่บอกได้มาขนาด 140 x 40 ซม. โดยจะเป็นชั้นใส่รองเท้า และลิ้นชักเก็บของครับ โดยเป็นหน้าบานเปิดด้านล่างแบบในรูปเลยครับ

เฟอร์นิเจอร์จากทางโครงการที่เขาให้มาทั้งหมด ที่มีบานเปิดจะเป็นบาน Solf Close ทั้งหมดเลยครับ แถมยังไม่มีตัวจับ แต่เป็นแบบทำมุมให้จับง่ายมาให้ ทำให้หน้าบานเรียบตลอดครับ ส่วนช่องใส่รองเท้าเป็นระบบปิดแบบแม่เหล็กนะครับ

ระยะหน้ากว้างห้องนี้เป็นกับห้องที่แล้วเลยครับ สามารถจัดพื้นที่ได้หลากหลาย มีระยะทีวีที่กว้าง อยู่ที่ 2.9 เมตร ใช้ทีวีขนาดใหญ่ได้ประมาณ 55-60 นิ้วเลยครับ

มาดูส่วนต่อไปของห้องกันครับ มีประตูแยก 3 ประตูเลย ด้านข้างซ้ายคือห้องน้ำ อยู่บริเวณข้างๆชั้นวางทีวี ส่วนด้านในติดระเบียงมี 2 ส่วน คือห้องนอน กับ ห้องครัว ซึ่งห้องนอนมีประตูทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องครัวเป็นประตูกระจกซึ่งจะทำให้แสงจากระเบียงเข้ามาถึงพื้นที่ภายในของห้องครับ

ส่วนต่อไปเป็นส่วนห้องนอน ด้วยระยะแล้วจริงๆสามารถวางเตียงได้ประมาณ 6 ฟุตเลยทีเดียว ทางโครงการแถมเตียงให้แต่ไม่ได้รวมฟูก ผนังข้างเตียงเป็นหน้าต่างบ้าน Fix ด้านล่างและมีบานเลื่อนไว้สำหรับเปิดรับลมระบายอากาศ ปลายเตียงยังมีโต๊ะทำงาน Built-in มาให้แต่คนละแบบกะห้องที่แล้วนะครับ รอบนี้มาเป็นโต๊ะยาวริมผนังเลย ส่วนข้างเตียงก็มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ในสไตล์เดียวกัน

พื้นที่ปลายเตียงมีขนาดประมาณ 1 เมตร ค่อนข้างกว้าง เดินผ่านได้สบาย หรือจะมีเก้าอี้วางใต้ชั้นวางก็สามารถครับ

โต๊ะตัวนี้มีขนาด 180 x 40 ซม. มีลิ้นชัก 3 ช่อง เป็น Solf Close ทั้งหมดครับ พร้อมทั้งหน้าบานมีการทำมุมจับให้สะดวกเลยครับ หน้าบานเรียบ จะเดินผ่านก็ไม่ต้องกลัวโดนเกี่ยว แต่เก้าอี้ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ

อีกด้านฝั่งติดผนังมีระยะประมาณ 50 ซม. เดินเข้าออกสะดวก มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้ครับ

อีกฝั่งเป็นด้านที่มีตู้เสื้อผ้า ซึ่งมีพื้นที่ยืน หมุนตัว ได้เลย พร้อมทั้งวางโต๊ะข้างเตียงได้ด้วย เพราะตู้เสื้อผ้าเป็นหน้าบานสไลด์ ไม่เปลืองพื้นที่หน้าตู้ครับ

ที่ริมผนังมีแนวกระจกใหญ่ลักษณะเดียวกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ เปิดระบายอากาศรับลมก็ได้

ตู้เสื้อผ้าไฮไลท์ของห้อง เป็นกระจกชาดำ มีขนาด 220 x 140 ซม. หน้าบานบานละ 70 ซม. เปิดได้ทีละฝั่ง มีตัวจับมาให้ ถนัดมือครับ

ฝ้าเพดานมาแบบฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง มีเครื่องปรับอากาศ 9,000 btu. มาให้ครับ

กลับออกมาดูต่อที่ห้องครัวครับ ทางเข้ามีบานอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสมีระยะเปิด 60 ซม. นะครับเดินเข้าออกได้สะดวก

มีที่จับและตัวล็อค(จากภายในห้องนั่งเล่น) มาให้ ที่พื้นที่การเปลี่ยนจากพื้นไม้ลามิเนต เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ง่ายต่อการทำความสะอาด มีรางที่พื้นยกสูงขึ้นประมาณ 2 ซม. เดินต้องระวังกันหน่อยนะครับ ผมเป็นห่วง

ภายมีที่ทางเดินตรงกลาง แบ่งออกเป็นฝั่งซ้ายมือคือโต๊ะ built-in มาให้ ส่วนอีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์ครัว ด้านในสุดคือส่วนของระเบียงครับ ซึ่งก็จะมีประตูบานอลูมิเนียมสีดำ กระจกใส เป็นตัวเข้าออกเช่นกันครับ

พื้นที่ภายในไม่กว้างมากนัก แต่ก็ถือว่าใช้งานได้ครับ สามารถยืนทำครัว พร้อมนั่งทานข้าวได้ เนื่องจากระยะแนวโต๊ะทานข้าวยาวเลือกนั่งได้หลายที่ครับ โดยมีระยะจากโต๊ะถึงเคาน์เตอร์ครัวประมาณ 90 ซม. ครับ

ฝั่งเคาน์เตอร์ครัว มีหน้าบานและวัสดุปิดผิวเป็นลามิเนต ส่วนผนังด้านในเป็นฉาบเรียบทาสีปกติ เรียกได้ว่าขนาดและวัสดุเหมือนห้องที่แล้วเลยครับ

ชั้นบนมีชั้นวางของหลายช่องทีเดียว พร้อมหน้าบานเปิดแบบ solf close พื้นที่ด้านล่างของหน้าบานทำมุมเอียงเป็นที่จับ ทำให้หน้าบานเรียบครับ

ส่วนช่วงกลางของเคาน์เตอร์ครัวประกอบไปด้วย อ่างล้างจาน 1 หลุมของ MEX ขนาด 50 x 50 ซม. และเคาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมที่ดูดอากาศของ MEX เช่นกันครับ

ส่วนด้านล่างมีช่องเก็บของหลายรูปแบบ ทั้งส่วนของใต้อ่างล้างจานมีช่องเก็บของค่อนข้างใหญ่ พร้อมลิ้นชักใส่อุปกรณ์รับประทานอาหารครับ

พื้นที่รับประทานอาหารตามภาพในห้องตัวอย่างนี้ ได้มาหมดเลยครับ เป็นโต๊ะขนาด 140 x 40 ซม.  พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว และที่ชั้นบนมีชั้นวางของขนาด 120 x 20 ซม. สองชั้น

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 ดวงครับ

ส่วนทางออกระเบียง ประตูมีตัวจับติดตั้งพร้อมลางเลื่อนสไลด์ด้านล่างมาให้ครับ ยกขอบสูง 2 เซนติเมตร

ภายนอกระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีพื้นที่ 1.1 x 2 เมตร พร้อมราวกันตกเหล็ก มีลักษณะเช่นเดียวกันกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ

ที่ผนังมี cdu. แขวน 2 ชั้นครับ ด้านล่างเหลือพื้นที่เก็บของเล็กน้อย ส่วนราวระแนงก็มีการทำปิส่วนแขวน cdu. ด้วย ออกแบบได้เรียบร้อยรอบคอบครับ

ด้านนอกมีไฟกิ่ง 1 ดวงให้ครับ พร้อมฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี

มาต่อกันที่ห้องสุดท้ายคือส่วนของห้องน้ำ มีทางเข้าที่เดิมข้างชั้นวางทีวี ภายในมีลักษณะโดยรวมเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ พื้นที่ภายในห้องน้ำขนาดกำลังพอดี มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไป มีการจัดสรรสัดส่วนชัดเจน มีการเรียงส่วนอาบน้ำ ส่วนโถสุขภัณฑ์ และ ส่วนอ่างล้างมือ พื้นและผนังภายในเป็นกระเบื้องเซรามิคทั้งหมดครับ

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาวตามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าของห้อง ภายในส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะครับ นอกนั้นได้ตามนี้ทั้งหมดเลย ทางเข้าลดระดับลง 4 ซม.

อ่างล้างหน้าของ Cotto มีขนาด 55 x 45 ซม. ครับ ด้านบนมีพื้นที่วางของด้วย เหมือนห้องก่อนหน้านี้ครับ

โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว ของ Prema เช่นเดิม ติดตั้งมาพร้อมกับสายชำระ และที่ใส่กระดาษชำระครับ

ส่วนอาบน้ำ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้คือไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะครับ แต่สามารถติดตั้งเองได้ครับ เป็นแบบ Hand Shower  พร้อมทั้งมีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำขนาด 30 x 25 2 ชั้น มาให้  

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 110 x 90 ซม. ครับ พื้นที่ภายในมีการลดระดับพื้นลงประมาณ 3 ซม. มีจุดระบายน้ำอยู่ที่มุมครับ

ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี มาพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง ห้องจริงจะมีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยนะครับ

สวิทช์ไฟในห้องทั้งหมดเป็นของ Panasonic ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะครับ ถือว่าได้วัสดุค่อนข้างดีเลยทีเดียว

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 November 2018 

  • 1 Bedroom (CO-MMOM) เนื้อที่ 26.50-27.40 ตร.ม. ราคา 1.69-2.09 ล้านบาท
  • 1 Bedroom (CO-MFORT) เนื้อที่ 30.40-31.20 ตร.ม. ราคา 2.04-2.47 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus (CO-NNect) เนื้อที่ 33.50-35.20 ตร.ม. ราคา 2.40-2.79 ล้านบาท
  • 2 Bedroom (CO-MPASS) เนื้อที่ 42.20-44.90 ตร.ม. ราคา 2.82-3.58 ล้านบาท
  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 20,000-30,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000-50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา VIP Day ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – ที่ตั้งโครงการ Cocoon พระราม 9 ตั้งอยู่ภายในซอย ไม่ติดถนนใหญ่ แต่ก็สามารถเข้าออกได้ถึงหลายเส้นทาง มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างเยอะ อยู่ใกล้กับถนนหลัก 3 สาย พระราม9, หัวหมาก, ศรีนครินทร์ ซึ่งแต่ละเส้นมีความเจริญสูง และสามารถเชื่อมต่อไปเส้นทางอื่นๆได้ ที่สำคัญคือใกล้กับจุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช จัดว่าสะดวกในการเดินทาง ส่วนความอุดมสมบูรณ์ถือว่ามีค่อนข้างหลากหลาย ใกล้ที่สุดที่ร.พ.สมิติเวชศรีนครินทร์ มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย หรือออกไปที่ฝั่งพระราม 9 มี The Nine Center พระราม 9 คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ในย่านนี้ รอบข้างก็มีทั้งร้านคาเฟ่น่ารัก บรรยากาศดีหลายร้าน ร้านอาหารขนาดเล็ก-ใหญ่ริมถนนมากมาย ส่วนใครเน้นราคาย่อมเยาหน่อยก็ไปถนนหัวหมาก มีร้านอาหารย่อยริมทางมากมายคึกคักมากๆ ในช่วงเย็น-ดึกเลยทีเดียว ขยับออกไปอีกหน่อย ถนนรามคำแหง มี Hyper Market ศูนย์การค้า ให้จับจ่ายซื้อของ ช็อปปิ้ง ดูหนังกันได้ครับ โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าอยู่ในทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงทีเดียว

การเดินทางโดยใช้รถ – ถือว่าเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดครับ เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอย โดยใช้เส้นทางหลักคือถนนพระราม 9 หรือจะเข้าทางถนนหัวหมากก็สะดวกเช่นกัน ข้อดีของการอยู่ในซอย ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างหลากหลาย ถนนพระราม 9 เส้นนี้วิ่งเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ในส่วนของถนนหัวหมาก จะวิ่งเข้าเส้นรามคำแหงที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงอีกเช่นกันก็ไม่ยากครับ นอกจากนี้ยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัชอีกด้วย แต่ข้อเสียคือทางโครงการมีที่จอดรถไม่มากนัก โดยมีที่จอดรถประมาณ 52 คันคิดเป็น 35% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ไม่อย่างนั้นก็ต้องไปจอดตามซอยต่างๆด้านนอก ซึ่งก็มีรถจอดให้เห็นกันตลอด เพียงแต่จะมีปัญหาไม่มีคนดูแลความปลอดภัยให้เท่านั้นเองครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนเสียทีเดียว ต้องเข้าซอยไปประมาณ 750 เมตร จึงไม่มีรถสาธารณะไม่ผ่าน แต่จะมีวินมอเตอร์ และแท็กซี่ผ่านไปมาบ้างในเวลากลางวัน ส่วนรถไฟฟ้าในตอนนี้บริเวณถนนศรีนครินทร์ ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการ กำลังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้า Monorail สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโลง) ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีครีกรีฑา แต่ที่สามารถใช้ได้เลยปัจจุบันมี Airport Rail Link (พญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ) สถานีที่ใกล้โครงการที่สุด คือ สถานีหัวหมาก ห่างจากโครงการประมาณ 2.7 กิโลเมตร

การออกแบบโครงการ – จัดเป็นโครงการขนาดเล็ก เน้นอยู่อาศัย มีส่วนกลางหลักๆให้ครบ และจำนวนยูนิต ที่ไม่มากด้วย ได้ความเป็นส่วนตัว โครงการตั้งในซอย จุดเด่นคือไม่พลุกพล่าน ทำเลเงียบสงบ โดยรอบเป็นบ้านพักอาศัย ไม่มีอาคารสูง มาบังวิว เลือกอยู่ชั้น 2 ขึ้นไปก็มองพ้นหลังคาบ้านโดยรอบ ได้วิวแน่นอน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีของโครงการ เพราะอาคาร Low rise โดยทั่วไปจะไม่ค่อยได้วิวหรือเน้นวิวซักเท่าไหร่ การวางผังอาคารตัว U โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ได้วิวและมุมมองภายใน 3 ฝั่งภายนอกรอบทิศทาง 4 ด้านเลย

การออกแบบภายในห้อง – ถือว่าจัดแบ่งส่วนการใช้งานห้องชัดเจน ส่วนตัวชอบที่มีส่วนปิดกั้นกับทุกพื้นที่ ทำให้สามารถจัดการพื้นที่ง่าย ได้ในเรื่องของความเป็นส่วนตัว และพื้นที่หน้าห้องค่อนข้างเยอะระยะดูทีวีกว้าง จัดสรรพื้นที่ได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากันทั้งหมด ดูเป็นส่วนเดียวกัน ทำให้ตกแต่งห้องไม่ยาก ภายในห้องมีช่องแสง หน้าต่างและบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ช่วยให้ห้องโปร่งโล่งได้เแสงธรรมชาติ ส่วนครัวติดกับระเบียง ช่วยในเรื่องการระบายอากาศและความชื้นจากการทำอาหารได้ดี และมีห้องที่มีรูปแบบครัวปิดให้เลือก เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหาร แต่ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ด้านในของตัวห้อง ต้องระมัดระวังเรื่องความชื้นและการระบายอากาศ เน้นการใช้พัดลมดูดอากาศที่โครงการมีมาให้

วัสดุ – ส่วนตัวผมมองว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ ถ้าเทียบกับราคาแล้ว คุณภาพวัสดุในห้องได้มาค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีการใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่การที่ขายในรูปแบบ Fully Furnished และได้ออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องสอดคล้องกับพื้นที่ภายในโครงการ ทั้งภายนอกและภายใน แต่ละอย่างที่ได้มีคุณภาพค่อนข้างดีเลย ใข้วัสดุมีราคา รู้สึกได้เลยว่าเขาคิดมาแล้ว ไม่ได้ให้มาเล่นๆ นอกจากนั้นแล้ว ส่วนพื้นที่ต่างๆภายในห้อง ก็มีวัสดุและอุปกรณ์ที่ได้ค่อนข้างมีคุณภาพ เช่น พื้นลามิเนต และพื้นแกรนิตโต้ โถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียว ของ Prema ในส่วนของห้องน้ำ, ประตูภายในห้อง Oversize และระบบ Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้า, บานเปิดต่างๆเป็น Solf Close ทั้งหมด, เครื่องปรับอากาศ, หรือหน้าบานตู้เสื้อผ้า ที่เป็นกระจกดำ ราคาสูงเหมือนกัน

สาธารณูปโภค – ถือว่าก็ไม่น้อย เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต และมีการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังคำนึงถึงมุมมองของแต่ละจุดของพื้นที่ส่วนกลาง ให้ได้รับทัศนียภาพที่เหมาะสม หลักๆคือให้มาครบ สามารถเลือกใช้งานได้ สระว่ายน้ำตั้งอยู่ด้านในโครงการ คนนอกโครงการไม่สามารถมองเห็นได้เวลาใช้งาน ได้ความเป็นส่วนตัว การแบ่งโซนส่วนกลางใช้งานไว้เป็นสัดส่วน ไม่รบกวนกับส่วนพักอาศัย มีชั้นดาดฟ้าจัดเป็นสวน ให้ขึ้นไปพักผ่อนรับวิวมุมสูงได้ อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 73 :  1 ถือว่าไม่หนาแน่นใช้งานสบายๆ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคา AVG 74,000 บาท/ตร.ม., 12 November 2018 

  • ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอย สามารถเข้าออกได้หลายทาง มีความเจริญรอบด้าน
  • เดินทางด้วยรถ 7.5 /10 – สามารถเข้าออกได้หลายทาง ใกล้ทางด่วน แต่ที่จอดรถน้อย
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – ไม่ไกล Airport Like และใกล้รถไฟฟ้าในอนาคต แต่ไม่มีรถสาธารณะ นานๆทีจะมีวินหรือแท็กซี่ผ่านเข้ามา
  • วัสดุ 8.00/10 – ถือว่าดี Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์คุณภาพ วัสดุภายในดี Digital Door Lock, โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียว
  • แบบ 8/10 –  วางผังได้ดี ออกแบบเข้ากันทุกส่วน ห้องได้พื้นที่ส่วนพักผ่อนเยอะ มีการแบ่งส่วนพื้นที่ภายในชัดเจน
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – พื้นที่ส่วนกลางครบเพียงพอต่อการใช้งาน เทียบกับจำนวนยูนิต

  • MAIN CLASS
  • 7.55 / 10.00

BOTTOM LINE

Cocoon พระราม 9 เหมาะกับคนที่มองหาที่อยู่ในทำเลย่านพระรามเก้า-รามคำแหง ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ได้คอนโดโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก จำนวนยูนิตไม่มากได้ความเป็นส่วนตัว จัดพื้นที่ภายในห้องลงตัว วัสดุดีมีคุณภาพ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่เลย ส่วนกลางหลักๆมีให้ครบ มีงบประมาณระดับ 2-4 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 35,000 บาท/เดือน