City Home ศรีนครินทร์ คอนโดต่ำกว่าล้านในซอยสุขุมวิท105 (ลาซาล) ใกล้ถนนศรีนครินทร์ จาก ศุภาลัย[รีวิวฉบับที่ 588]

รีวิวฉบับที่ 588 …วันนี้เราจะแวะไปดู City Home ศรีนครินทร์ กันค่ะ โครงการหมู่ตึกคอนโด Low Rise 12 ชั้น 5 อาคาร แนว Modern Spanish & Mexican style ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล ) จากศุภาลัย ค่ะ โครงการนี้สร้างเสร็จและเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว (ปี 2553) ตอนนี้ก็มีลูกบ้านย้ายเข้าไปอยู่กันจนเต็มไปหลายตึกแล้วค่ะ มาดูรายละเอียดกันนะคะ ว่าโครงการนี้เป็นยังไง : )

Fact @ 29 May 2014 

• City Home @ Srinakarin (ซิตี้โฮม ศรีนครินทร์)
• บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
• SUPER ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
• คอนโด Low Rise 12 ชั้น 5 อาคาร 1,100 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิตที่อาคาร Allamanda 4
• ที่จอดรถคิดเป็น  50% ของทั้งโครงการ รวมจอดซ้อนคัน 
• ที่ดินประมาณ 11 ไร่
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.พ. 2553
• 1 Bedroom 29.90 – 32.12 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 899,000 บาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
• ราคาเริ่มต้นประมาณ 0.899 ล้านบาทหรือประมาณ 30,067 บาทต่อตารางเมตร
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ  34,900 บาท
• เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS แบริ่ง ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS แบริ่ง
• http://www.supalai.com/project/condominium/ซิตี้โฮม-ศรีนครินทร์.html
• โทร 02-349-4555 หรือ 1720 กด 85

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ 😀

New ! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.655412,100.647542

แผนที่จากทางโครงการค่ะ จะเห็นว่าในแผนที่โครงการมีเส้นจุดเหลืองบนถนนศรีนครินทร์อยู่นะคะ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) ก่อสร้างเป็นรถไฟฟ้ายกระดับ ต่อเนื่องจากแนวเส้นทางสีเหลืองอ่อนไปตามแนวถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาเข้าถนนเทพารักษ์ และสุดเส้นทางที่สำโรง และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS ส่วนต่อขยาย อ่อนนุช-แบริ่ง)ค่ะ แต่ก็คงต้องรอหน่อยนะ ลองหาข้อมูลดูยังไม่เห็นกำหนดเสร็จนะคะ แต่เห็นกำหนดสร้างเป็นปลายปีนี้ (2557) หรือ ต้นปีหน้า (2558) ค่ะ โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดคือ สถานี ศรีลาซาล ค่ะ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ www.mrta-yellowline.com

City Home ศรีนครินทร์  เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยลาซาล(สุขุมวิท 105) ที่มาของชื่อซอยลาซาลนั้นมาจากชื่อโรงเรียนลาซาลซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนเก่าแก่ ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนสหศึกษามาได้สิบกว่าปีแล้วค่ะ ชื่อเดิมเป็นภาษาฝรั่งเศส La Salle มาจากชื่อของนักบุญฌ็อง-บาติสต์ เดอ ลา ซาล ซึ่งเป็นองค์อุปถัมภ์ของโรงเรียน ซอยลาซาลเป็นซอยที่อยู่ติดกับ BTS แบริ่งเลยค่ะ แค่ลงบันได BTS มาก็ถึงปากซอยแล้ว อยู่ใกล้BTSแบริ่งมากกว่าซอยแบริ่งเองซะอีกค่ะ  ระหว่างซอยลาซาลกับแบริ่งถือเป็นส่วนต่อระหว่างกรุงเทพฯกับจังหวัดสมุทรปราการนะคะ คือซอยลาซาลจะอยู่ในกรุงเทพฯ และซอยแบริ่งจะอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการค่ะ

ซอยลาซาลเป็นซอยเชื่อมระหว่างสุขุมวิท – ศรีนครินทร์ – บางนาตราดค่ะ สำหรับคนใช้รถต้องขอเตือนว่าช่วงเช้ากับเย็นรถจะติดหน่อยนะคะ เนื่องจากย่านนี้มีโรงเรียนอยู่เยอะค่ะ ในซอยจะมีร.ร. นานาชาติบางกอกพัฒนากับร.ร.ลาซาลอยู่ค่ะ บวกกับถนนจากทางด้านต้นซอยฝั่งBTSแบริ่งจะเป็นถนนสองเลนก็จะติดเยอะหน่อยค่ะ จะเริ่มคล่องตัวขึ้นตอนผ่านสามแยกในซอยมาจะเป็นถนนสี่เลนจนออกถนนศรีนครินทร์ค่ะ ช่วงสามแยกจะมีทางลัดออกเส้นบางนา-ตราดไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ด้วยค่ะ

สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากต้นซอยฝั่งBTSแบริ่งจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการแล้ว(ไปหน้าโครงการ 50 บาท) เดินเข้าไปในซอยลาซาลประมาณ 100 เมตร  จะมีอู่รถสองแถวอยู่ฝั่งขวามือค่ะ เป็นวินรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดงค่ะ วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย(นี่ก็ส่งถึงหน้าโครงการเลยค่ะ ประหยัดดี) ระยะทางจากปากซอยลาซาลฝั่งBTSแบริ่งจนถึงโครงการประมาณ 5 กิโลเมตรค่ะ ก็อยู่เกือบสุดซอยน่ะนะ แต่ข้อดีจากตำแหน่งโครงการที่อยู่ตรงนี้คือ อยู่ใกล้แยกลาซาลค่ะ สำหรับคนขับรถก็วิ่งออกถนนศรีนครินทร์ที่ตัดผ่านได้ง่าย ไม่ต้องไปเจอรถติดแน่นเอี้ยดในซอยลาซาลฝั่งโซนโรงเรียน(ฝั่งก่อนถึงแยกลาซาล) สามารถตัดออกไปบางนา-ตราด ขึ้นทางด่วนได้เลย ประหยัดเวลาไปได้เยอะ

ความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินซอยลาซาลก็จะมีกระจายอยู่ทั่วซอยนะคะ ที่เห็นเด่นๆ จะมี ตลาดนัดต้นซอย, ตลาดสดลาซาล บริเวณซอยลาซาล 29, ตลาดดวงพลอย บริเวณซอยลาซาล 33 เปิดช่วงเวลาเย็น, ตลาดคลองถม บริเวณซอยลาซาล 36, ร้านก๋วยเตี๋ยวดงมูลเหล็ก, ร้านอาหารตามสั่ง ยศข้าวต้ม แถวโรงเรียนอนุบาลพัสวี และก็โซนใกล้โรงเรียนต่างๆจะมีอาหารการกินให้ซื้อหามากมายค่ะ ตรงข้ามเยื้องๆโครงการ โซนร.พ.ศิครินทร์จะมีโรงอาหารของโรงพยาบาลและแฟมิลี่มาร์ทอยู่ค่ะ

โครงการสามารถเข้าถึงได้หลายทางค่ะตัวอย่างเช่น

– มาจากถนนบบางนา  จากฝั่งเซ็นทรัล บางนา มุ่งหน้ามาถ.ศรีนครินทร์ ถึงทางแยกไปวัดศรีเอี่ยมให้ตรงเลยไปแล้วชิดซ้ายเบี่ยงซ้ายไปทางป้ายที่บอกว่าไปเทพารักษ์, สมุทรปราการ โค้งไปตามทางแล้วตรงข้ามถ.บางนา-ตราด ตรงมาตามถ.ศรีนครินทร์ มุ่งหน้าไปปากน้ำ  อีกประมาณ 1 กิโลเมตร (ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยก) ตรงชิด 2 เลนซ้ายมา เจอสี่แยกลาซาล เลี้ยวซ้ายไปอีก 500 เมตร ผ่านรพ.ศิครินทร์ เจอโครงการอยู่ซ้ายมือ  

– มาจากสมุทรปราการ-ปากน้ำ  ตรงมาผ่านแยกถ.เทพารักษ์ (ข้ามสะพานข้ามแยกได้) ผ่านแยกหนามแดง  (ข้ามสะพานข้ามแยกมาได้) ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแม็คโคร , บิ๊กซี อยู่ขวามือแล้วชิดซ้ายไม่ต้องขึ้นสะพาน ตรงมาเจอสี่แยกลาซาล แล้วเลี้ยวขวา ตรงเข้าไปอีก 500 เมตร ผ่านรพ.ศิครินทร์ เจอโครงการอยู่ซ้ายมือ

– อันนี้เป็นทางที่เราใช้คราวนี้ค่ะ คือมาจาก BTS แบริ่ง เข้าสุขุมวิท 105 ซ.ลาซาล ตรงมุ่งหน้ามายังถ.ศรีนครินทร์ เจอสี่แยกลาซาล ให้ตรงเลยสี่แยกขึ้นมา อีกประมาณ 500 เมตร ผ่านรพ.ศิครินทร์ เจอโครงการอยู่ซ้ายมือ ในไดอะแกรมข้างบนคือจากจุด A ไป B นั่นเองค่ะ ไปดูกันเลย

วันนี้เราจะเริ่มกันจาก BTS แบริ่งค่ะ ภาพข้างบนเป็นวิวถนนสุขุมวิทจากบนBTSแบริ่งค่ะ ซอยลาซาลก็อยู่ทางขวามือตามภาพนะคะ เดี๋ยวจะพาไปเดินดูฝั่งตรงข้ามซอยก่อนเข้าซอยกันหน่อยนะคะ

ทางลง BTS ฝั่งตรงข้ามพอลงมาจะเจอ APT Bearing Mall ค่ะ จะเป็นเหมือนยกพื้นที่รวมร้านหลายๆร้านไว้ด้วยกัน ส่วนมากขายเสื้อผ้ารองเท้าค่ะ เห็นมีร้านกาแฟอยู่ร้านนึงด้านใน

ด้านหน้าตัวRetailจะเป็นแผงขายอาหาร, น้ำปั่น, ขนม จะมาเปิดกันเยอะหน่อยช่วงเช้ากับเย็นค่ะ ไปตอนบ่ายเลยดูเงียบๆหน่อย ด้านหลังแผงอาหารของภาพข้างบนเป็น Outlet ของ รองเท้าแบรนด์ Crazy Step ค่ะ

ถัดมาเป็น 7-11 ค่ะ

ถัดมาเป็นซอยสุขุมวิท 70/5 ซึ่งอยู่ติดกับปั๊ม Esso และ Tesco Lotus Express

ต้นซอยสุขุมวิท 70/5 จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วยค่ะ ถามราคาพี่วินเข้าซอยลาซาลจากฝั่งนี้อยู่ที่ 30 บาท นะคะ (แอบฮาชื่อวิน)

ย้อนกลับมาที่ทางขึ้นBTS จะเป็นลานจอดรถของร้านหมูกะทะชื่อสมบัติหมูกะทะนะคะ จะเห็นว่าตอนกลางวันรถที่จอดอยู่เยอะๆ ส่วนมากเป็นรถของชาวสมุทรปราการที่มาจอดไว้ และต่อ BTS แบริ่งเข้าตัวเมืองค่ะ

ทางเข้าซอยลาซาลมี7-11  อยู่ต้นซอยฝั่งซ้ายด้วยค่ะ เข้าซอยกันเลยดีกว่า

ฝั่งขวามือจะเป็นที่ว่างผืนใหญ่ติด  BTS อันนี้ต้องรอดูกันนะคะว่าต่อไปที่ตรงนี้จะกลายเป็นอะไร

เข้าซอยมาก็จะเห็นวินปากซอยลาซาลค่ะ

ที่วงสีแดงเอาไว้ คือโรงพยาบาลศิครินทร์ที่อยู่ตรงข้ามโครงการ city home ศรินครินทร์ที่จะไปดูกันวันนี้ค่ะ  ถ้านั่งวินไปก็ 50 บาท

ถัดมาก็จะเป็นตึก Centerpoint ที่ใช้ถ่ายทำรายการ The Voice Thailand ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามสำนักงานขายโครงการจะเป็นอู่รถแดง วิ่งจนสุดซอยลาซาล (ข้ามถนนศรีนครินทร์ไปอีก) 7 บาท ตลอดสายนะคะ รถแดงนี่ส่งถึงหน้าโครงการเลยนะ

เข้าไปดูซอยโครงการกันดีกว่าค่ะ

สภาพอาคารรอบๆจะเป็นห้องแถวดูเก่าๆหน่อย บางตึกดัดแปลงเป็นอพาร์ทเมนต์ และมีทางเดินเท้าข้างถนน เดินไปมาสะดวก

เดินมาซักพักพอเจอเต้นท์ที่เป็นตลาดนัดขวามือ ในตลาดนัดก็จะมีแผงอาหารให้เลือกหลายหลายค่ะ ช่วงเย็นๆก็จะคึกคักมากเป็นพิเศษ

ตรงมาก็จะเจอ  7-11

ตรงข้าม 7-11หน้าซอยจะเป็นแฟมิลี่มาร์ท, CP โฮมเฟรชมาร์ท

ฝั่งซ้ายมือเป็นโรงงาน UTAC ค่ะ แถวนี้เลยมีร้านสะดวกซื้อกับร้านข้างทางเยอะหน่อย เราตรงต่อไปนะ

เลี้ยวซ้ายตามทาง

ตรงไปเรื่อยๆจนถึงสามแยก

เจอสามแยกเลี้ยวขวา

ถนนสี่เลนขาออกไปศรีนครินทร์ ขาเข้าไปเส้นสุขุมวิทค่ะ ถนน 4 เลน มีเกาะกลางปลูกต้นไม้ตลอดทาง

มีธนาคาร และมีมินิบิ๊กซีอยู่ฝั่งตรงข้ามธนาคารด้วยค่ะ

ถัดมาจะมีตลาดสดชื่อ “ตลาดสดลาซาล” ขายของสดในตอนเช้า จะเห็นเซเว่นอยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ สังเกตสภาพห้องแถว ทาวน์เฮ้าส์แถวนี้สภาพจะดูโอเคกว่าทางต้นซอยนะคะ

โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนาค่ะ ตอนนี้อยู่ประมาณซอยลาซาล  39 แล้ว อ้อ มีปั๊มปตท.ติดกับโรงเรียนนี้ด้วยนะคะ ส่วนโรงเรียนลาซาลที่มาของชื่อซอยต้องเลยไปอีก อยู่ฝั่งขวามือแถวๆซอยลาซาล48 ค่ะ

มีทรูคอฟฟี่อยู่ข้างหน้าโรงเรียนบางกอกพัฒนา

สังเกตว่าบรรยากาศโดยรวมฝั่งนี้จะดูร่มรื่นและเจริญกว่าฝั่งทางเข้าจากถนนสุขุมวิท สังเกตป้ายตรงไปเป็นถนนศรีนครินทร์ เลี้ยวขวาสามารถทะลุซอยแบริ่งข้างๆค่ะ ฝั่งตรงข้ามมีปั๊มน้ำมันเชลล์ค่ะ

ขับออกมาเรื่อยๆก็จะถึงปากทางออกถนนศรีนครินทร์กันแล้วค่ะ (ตรงนี้เรียกกันว่าแยกลาซาลนะ)ซ้ายไปทางบางนา-ตราด จะมีห้างซีคอนสแควร์และพาราไดซ์ เลี้ยวขวาไปทางเทพารักษ์ จะมีห้างแมคโคร แต่เราตรงต่อไปนะ

เจอสี่แยกลาซาล ให้ตรงเลยสี่แยกขึ้นมา อีกประมาณ 500 เมตรก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ เรามาดูบรรยากาศซอยลาซาลฝั่งนี้กัน

ซอยลาซาลฝั่งท้ายซอยนี้พ้นจากรถติดโซนโรงเรียนของซอยลาซาลก่อนถึงสี่แยกลาซาลไปแล้วค่ะ สภาพในซอยก็ดูเป็นย่านอยู่อาศัยที่อุดมสมบูรณ์ดี จะเห็นกลุ่มร้านอาหาร ตลาดนัด ร้านสะดวกซื้อ กระจายตัวอยู่เป็นระยะๆ

มีทางเดินเท้าและปลูกต้นไม้ริมสองข้างทาง จะเห็นอาคารที่พักอาศัย  ร้านอาหารอยู่เรื่อยๆ ฝั่งขวามือคือร้านอาหาร ปังขิง

 

ร้านอาหารเรือนปังขิงค่ะ

 

ถัดจากเรือนปังขิงเป็นเหมือนศูนย์รวมร้านอาหาร(ไม่เห็นป้ายชื่อนะ ไม่รู้ชื่ออะไรเหมือนกัน) แต่ด้านในจะรวมอาหารไทยสี่ภาคเอาไว้หลายร้านค่ะ

บรรยากาศด้านในค่ะ

แบบเป็นกลุ่มร้านก็มี แบบเป็นศาลาที่รวมหลายๆร้านก็มี

 

โซนร้านอาหารทางเหนือค่ะ

 

 

 

กลับออกมาด้านนอก ฝั่งซ้ายมือของถนน ตรงข้ามร้านปังขิงเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเทวดา ร้านดังร้านนึงของซอยค่ะ มีเจ้าถิ่นบอกมาว่าร้านนี้เด็ดค่ะ

 

ถัดจากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเทวดาเป็น 7-11 ค่ะ ถัดมาเป็น คลินิกพยาบาล โรงพยาบาลศิครินทร์

ขับมาอีกหน่อยก็จะเห็นโรงพยาบาลศิครินทร์อยู่ฝั่งขวามือ หน้าโรงพยาบาลมีโรงอาหารและแฟมิลี่มาร์ทอยู่ค่ะ ฝั่งซ้ายมือเยื้องๆกันไปหน่อยก็จะเห็นโครงการ City Home ศรีนครินทร์แล้วค่ะ

ก่อนทางเข้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามจะเห็นวินรถแดงอยู่ค่ะ เพราะแถวนี้คือสุดซอยลาซาลแล้วนะคะ ถ้าไม่มีรถนี่ก็ใช้รถแดงนี้ได้สะดวกดีค่ะ  ก่อนเข้าไปชมในโครงการเราขอพาไปชมบรรยากาศรอบๆที่ตั้งโครงการกันก่อนนะคะ

ด้านหน้าทางเข้าโครงการค่ะ ตัวอาคารทาสีโทนส้มอ่อน เหลืองอ่อน ค่อนข้างเด่นถ้าเทียบกับอาคารรอบๆน่ะนะ

ฝั่งซ้ายมือก่อนถึงโครงการ เป็นที่โล่งเทคอนกรีตทำเป็นลานจอดรถ

   

ถัดมาหน่อยซอยฝั่งซ้ายมือติดรั้วโครงการ เห็นมีรถบรรทุกวิ่งเข้าออกด้วย

เราเดินไปดูฝั่งขวามือของโครงการกันบ้าง อาคารชั้นเดียวสีส้มฝั่งขวามือในภาพเป็น Sales Office ของโครงการค่ะ

 

ฝั่งขวามือของโครงการถัดจาก Sales office เป็นซอยที่มีกำแพงทึบขนาบสองด้านแบบนี้ค่ะ กำแพงฝั่งซ้ายเป็นของโครงการค่ะ สูงประมาณ 1.7 m. กำแพงฝั่งขวาเป็นของ ส.เบญจพัฒน์ (บริษัทขนส่งสินค้า)

เราแวะไปส่องเพื่อนบ้านหรือ พื้นที่ของบริษัท ส.เบญจพัฒน์ กันหน่อยดีกว่า

ข้างในเป็นแบบนี้ค่ะ โล่งๆเงียบๆหน่อย มีรถจอดประปราย

แถวด้านหน้าก็มีเพิงขายอาหาร รถเข็นขายอาหาร อย่างส้มตำ ไก่ย่าง อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ขายอยู่  ถัดไปก็จะสุดซอยลาซาลแล้วค่ะ เราข้ามไปดูถนนฝั่งตรงข้ามโครงการกันต่อดีกว่า

ทางเท้าฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่จอกรถของโรงพยาบาลศิครินทร์ค่ะ จะเห็นกลุ่มรถแดงจอดอยู่ รถแดงนี่เราว่าช่วยให้เข้าออกซอยลาซาลนี่ได้ง่ายขึ้นเยอะนะคะ เพราะวิ่งจากวินรถแดงต้นซอยลาซาลฝั่งBTS แบริ่ง มาจนสุดซอยหรือแถวโรงพยาบาลศิครินทร์ ที่อยู่แถวตรงข้ามโครงการด้วย

หน้าตาก็จะมีทั้งแบบที่เป็นรถสองแถวแบบนี้ และแบบที่เป็นรถเมล์คันเล็กนะคะ

ค่าโดยสาร 7  ตลอดสายค่ะ ถ้าเทียบกับนั่งพี่วินมอเตอร์ไซค์มา 50 บาท ก็ถูกกว่ากันเยอะนะ

ลงจากการสำรวจรถแดง เดินไปดูโรงพยาบาลศิครินทร์กันต่อ แดดช่วงบ่ายร้อนจริงๆค่ะ โชคดีนะ สองข้างทางแถวนี้มีปลูกต้นไม้ให้หลบเข้าร่มกันบ้าง

 

ถึงแถวหน้าโรงพยาบาลศิครินทร์แล้วค่ะ

 

เดินเข้าไปดูก็จะเห็นทางเข้า ศิครินทร์อาคาร 3 และ แฟมิลี่มาร์ทอยู่ขวามือ

   

ซ้ายมือเป็นโรงอาหารของโรงพยาบาลค่ะ เรากลับไปชมโครงการกันดีกว่า

หน้าโครงการซิตี้โฮม ศรีนครินทร์ค่ะ:)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• โรงพยาบาลศิครินทร์ 120 m.
• เมกะบางนา 7.7 k.m.
• ตลาดสดลาซาล  3.8 k.m.
• โรงเรียนลาซาล 1.7 k.m.
• โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา 2.9 k.m.
• The Coast Village 6.4 k.m.
• ไบเทคบางนา 6.1 k.m.
• Central Plaza บางนา 5 k.m.
• BTS แบริ่ง 5.5 km.

 

เจาะลึกตัวโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

จากสี่แยกลาซาล (ที่ถนนศรีนครินทร์ตัดผ่าน) เข้ามาประมาณ 500 เมตรจะถึงโครงการแล้วค่ะ ทางเข้าโครงการอยู่ติดถนนสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาล ถนนในซอยเป็นแบบ 4 เลนค่ะ ส่วนด้านข้างทั้งสองฝั่งของโครงการติดขนาบด้วยลานจอดรถคอนกรีตค่ะ ส่วนด้านหลังของโครงการเป็นที่ดินเปล่าค่ะ

 

รูปร่างของโครงการวางตัวคล้ายสีเหลี่ยมผืนผ้าค่ะ จริงๆตามแผนโครงการตอนแรกคือจะมี 6 ตึกนะคะ แต่สรุปก็ไม่สร้างตึก 1 แต่สร้างตึก 2,3,4,5,6 จนเสร็จ ตึกวางตัวตามหมายเลขที่เห็นในไดอะแกรมนะคะ ส่วนตำแหน่งตึก 1 ที่ว่างก็เป็นลานจอดรถกลางแจ้งไป  Sales office เป็นอาคารชั้นเดียวอยู่ขวามือของซุ้มทางเข้าค่ะ เรื่องพื้นที่ส่วนกลาง สระว่ายน้ำกับฟิตเนสที่นี่อยู่ข้างล่าง ตั้งอยู่ระหว่างตึก 6กับ ตึก 5 ค่ะ แต่จะติดมาทางตึก 6 นะ  นิติบุคคลอยู่ชั้นล่างของตึก 5  และห้องซักผ้าอยู่ชั้นล่างของตึก 3 ค่ะ ติดด้านหน้าของตึก3 มีพื้นที่สีเขียววางตัวตามแนวยาวของตึกค่ะ

แปลนชั้น 2-12 นั้นเหมือนกันค่ะ  คือเป็นโถงทางเดินยาวแจกตามห้อง สุดโถงทางเดินฝั่งขวาเป็นบันไดหนีไฟขนาดตามกฏหมาย โถงลิฟต์และโถงบันไดหนีไฟขนาดกว้างกว่า และเป็นจุดทิ้งขยะอยู่ติดกันทางฝั่งซ้าย ถัดจากห้องมุม สุดโถงทางเดินฝั่งซ้ายเจาะช่องแสง แต่เนื่องจากโถงทางเดินแคบและยาว แสงช่องเดียวจึงไม่สามารถส่องได้ทั่วถึง ต้องเปิดไฟที่โถง 24 ชั่วโมงนะคะ ดูจากผังมีการเว้นระยะห่างจากตัวลิฟต์ถึงตัวห้องที่พักอาศัยพอสมควร (คั่นด้วยโถงลิฟต์และโถงบันได) ซึ่งช่วยตัดเรื่องเสียงรบกวนไปได้พอควร  สังเกตยูนิตมี 3 สี  ห้องมุมสีเทาตัวย่อ SR มาจากแบบห้อง Srinakarin Suite ขนาด 32.16 ตร.ม.  ห้องมุมสีส้มตัวย่อ SUมาจาก Sukhumvit Suite 31.98 ตร.ม. ห้องสีเหลืองทั้งหมดเป็นตัวย่อ LS มาจาก Lasalle Suite 30 ตร.ม. เราไปดูของจริงกันเลยดีกว่าค่ะ

จากทางเข้านะคะ เราเข้าไป Sales office ฝั่งขวามือกันก่อนเลย

เป็นอาคารสีส้มชั้นเดียว เหมือนโครงการจะบอกว่าเค้าออกแบบตามแนวคิด Modern Spanish & Mexican style นะคะ

เข้าไปดูข้างในกันหน่อย

ก็เป็น Sales office โล่งๆแบบนี้ค่ะ นอกจากเคาน์เตอร์ก็มีข้อมูลติดให้ดูที่ผนัง แต่ก็เป็นข้อมูลที่หาได้ในเว็บไซต์ของโครงการนั่นแหละค่ะ เข้าไปดูในโครงการกันเลยดีกว่าค่ะ

 

ทางเข้าออกโครงการเป็นแบบไม้กระดกและ Access key card  แบบแตะค่ะ มีกล้อง CCTV ติดที่ทางเข้าออก

เข้าไปก็จะเป็นถนน 2 เลน ล้อมรอบด้วยอาคารที่พักอาศัย

ป้ายนี้เป็นป้ายบอกทางค่ะ

ตึก 4 เป็นตึกใหม่ที่กำลังเปิดขายอยู่ตอนนี้ค่ะ เท่าที่ดูตึกอื่นมีคนย้ายเข้าไปอยู่เกือบหมดแล้วน่ะนะ

ตรงข้ามตึก 4 คือ ตึก 3 ที่มีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านหน้า เห็นมีม้าหินให้นั่งอยู่ 2 ชุด

ถัดมาเราไปดูสระว่ายน้ำและฟิตเนสกันดีกว่า สระว่ายน้ำกับฟิตเนสที่นี่อยู่ข้างล่าง ตั้งอยู่ระหว่างตึก 6กับ ตึก 5 ค่ะ แต่จะติดมาทางตึก 6 นะ ตรงสวนข้างหน้าในภาพที่ปลูกต้นมะพร้าวค่อนข้างแน่นนั่นแหละ

ทางเดินเข้าหลักหันไปทางฝั่งตึก 5

เดินเข้าไปดูสระว่ายน้ำกัน

ทางเดินเป็นแผ่นปูนคั่นสนามหญ้า ฝั่งขวามือเลียบสระมีไม้พุ่มปลูกล้อมไว้แน่น ปักษาสวรรค์หรือต้นข่าไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ

ฝั่งซ้ายมือเป็นสนามหญ้า มีม้านั่งหิน2 ชุด ปลูกต้นมะพร้าวไว้เป็นแนว มีไม้พุ่มอย่างเช่นเฟิร์นเป็นขอบ

เลี้ยวขวาไปตามทางเดิน ก็จะเจอทั้งทางลาดและยกพื้นขึ้นไปสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำกว้าง 8 x 16.8 เมตรค่ะ ลึก 1.1 เมตร เป็นระบบเกลือค่ะ รอบสระมีระแนงไม้สีน้ำตาลกั้นเป็นรั้ว  อาคารที่เห็นด้านหลังสระน้ำเป็นฟิตเนสค่ะ

   

ข้างสระจะเห็นชุดโต๊ะเก้าอี้ให้ ประมาณ 3 ชุด พื้นเป็นทรายล้างลายอิฐค่ะ จะเห็นว่าตัวรางระบายน้ำตรงขอบสระก็ดูเป็นโทนอิฐเหมือนกัน กระเบื้องในสระเป็นสีน้ำเงินสด ตัดกับตัวผนังอาคารสีส้มสด

มุมมองสระว่ายน้ำอีกฝั่งค่ะ ถ้าจะเปรียบเทียบขนาดของ Facility กับจำนวนยูนิตในโครงการแล้วถือว่ามีความหนาแน่นที่ค่อนข้างสูงมาก … แต่ ถ้าเทียบกับราคาขายเฉลี่ยที่ 34,900 แล้วถือว่าให้มาดีกว่าไม่ให้นะครับ

 

ข้างหน้าเป็นฟิตเนส ถัดไปเป็นห้องน้ำหญิงและชายค่ะ

  

ตรงข้ามกับทางเข้าฟิตเนสเป็นจุดล้างตัวค่ะ

ไปดูห้องน้ำส่วนกลางกัน จะเห็นว่าสีสันอาคาร การตกแต่งเจาะเซาะร่องผนัง กรอบโค้ง (Arc) ของทางเข้าคือออกแบบมาให้ได้ตามธีม  Modern Spanish & Mexican style นะคะ (จริงๆน่าจะปลูกกระบองเพชรด้วยนะ จะได้ดูเข้าธีมมากขึ้น แล้วให้พนักงานขายใส่หมวกคาวบอยเดินไปเดินมาไรงี้ 555+  คือตอนนี้อาคารจะบอกว่าเป็นโมเดิร์น สแปนิชกับเม็กซิกันพอไปได้นะ แต่ตัวแลนด์สเคปนี่ดูไม่ใช่เท่าไหร่นะ)

เข้าไปดูในห้องน้ำกันเถอะค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางนี่ถือว่ากว้างใช้ได้เลยล่ะ เข้ามาโซนแรกเป็นกระจกไว้แต่งหน้า ไดร์ผม มีเต้าเสียบไว้ให้

  

ขวามือจะเห็นล็อคเกอร์ ม้านั่งไม้ และกระจกเงาเอาไว้แต่งตัวอยู่

เข้าไปดูโซนด้านใน

มีห้องอาบน้ำ 3  ห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้อง

ห้องอาบน้ำค่ะ

ห้องโถสุขภัณฑ์ค่ะ

โซนห้องน้ำมีอ่างล้างมือ 2 อ่างค่ะ

เข้าไปดูฟิตเนสกันต่อเลยค่ะ

ทางเข้าเป็นระบบสแกนนิ้วนะ

โอเค ผลักเข้าไปดู ที่นี่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ใช้บริการห้องออกกำลังกายนะคะ

ฟิตเนสค่อนข้างหลาหลายเลยค่ะ แต่ก็มีเครื่องเล่นให้เยอะพอสมควร มีบาร์ดัมเบล เครื่องซิทอัพ ลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยาน เครื่องเพาะกล้าม

ผนังฝั่งนึงเป็นกระจกเงา

อีกฝั่งมองผ่านลู่วิ่งเห็นวิวสระว่ายน้ำ

เราออกมาดูส่วนอื่นต่อกันดีกว่าค่ะ

นี่เป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างตึก 5 และ ตึก 6 ที่เป็นโซนสระน้ำและฟิตเนสนะคะ ปูกระเบื้องอิฐสีส้มไว้ แต่เราจะไปดูใต้อาคารตึก 3 ข้างหน้ากันนะคะ ที่มีพื้นที่สีเขียวข้างตึกในภาพ เป็นตึกที่มีห้องซักผ้าข้างล่างค่ะ

ด้านใต้อาคารของทุกตึกทำเป็นที่จอดรถแบบนี้ค่ะ ไม่ฟิกซ์ที่นะคะ

ประตูทางเข้าหลักของที่นี่ติดป้ายลิฟต์ดับเพลิงทุกอันเลย แต่ก็คือเป็นทางเข้าอาคารหลักน่ะแหละ เข้าด้วยระบบสแกนนิ้ว

สุดทางอีกฝั่งเป็นห้องซักผ้าค่ะ ตู้กดน้ำด้านหน้ามีทุกใต้ตึกนะคะ แต่ห้องซักผ้ามีแค่ตึก 3 นี้นะ

     

ข้างในห้องเครื่องซักผ้าค่ะ      

ออกไปดูที่จอดรถด้านหลังโครงการกันต่อค่ะ

อาคารสีส้มนั่นแบ่งเป็นส่วนงานระบบไฟฟ้าและส่วนเครื่องสูบน้ำค่ะ คนที่จอดรถกลางแดดในวันร้อนๆแบบนี้ ขึ้นรถไปคงร้อนน่าดูเลย

มองไปสุดฝั่งกำแพงจะเห็นอาคารสีขาวอยู่ เป็นจุดพักขยะของโครงการนะคะ จะมีรถขยะขับเข้ามารับไปอีกที

 

กำแพงด้านหลังโครงการฝั่งนี้เป็นที่ดินเปล่าค่ะ ต้นไม้ขึ้นรกอย่างที่เห็น กำแพงโครงการสูงประมาณ 1.7 เมตร

ฝั่งขวามือเป็นตึกร้างของด้านหลังโครงการเป็นตึกร้างสูง 8 ชั้นค่ะ

กลับไปดูอาคารที่พักอาศัยกันต่อดีกว่า

 

ใต้อาคารตึก 5 ถัดจากทางเข้าเป็นนิติบุคคลและห้องประชุมนะคะ

ห้องประชุมและนิติบุคคลค่ะ

 

ทางเข้าหลักของอาคารค่ะ เป็นแบบสแกนนิ้วนะคะ ด้านบนประตูทางเข้าหลักติดว่าลิฟต์ดับเพลิง ดีไซน์ประตูไม่โมเดิร์น ไม่สแปนิช ไม่เม็กซิกันใดๆทั้งสิ้น

ที่นั่งพักรอที่โถงลิฟต์ค่ะ ตกแต่งโทน เหลือง ส้ม น้ำตาล

 

ลิฟต์มี 2 ตัวค่ะ ตัวนึงเป็นลิฟต์โดยสารปกติ อีกตัวเป็น Service lift ด้วย

 

ขึ้นไปดูข้างบนกัน หน้าตาปุ่มลิฟต์ค่ะ

หน้าตาในลิฟต์ค่ะ เป็นสีเหลืองทั้งข้างนอกข้างในค่ะ

ปุ่มกดลิฟต์ด้านในค่ะ

  

หน้าตาโถงลิฟต์ชั้นบนค่ะ มีตู้จดหมายสีขาวอยู่ แปลนชั้น 2-12 เหมือนกันหมดนะคะ

  

ตรงโถงลิฟต์มีหน้าต่างเจาะช่องแสงสว่างไสวดี

ในโถงลิฟค์มีผังแสดงทางออกฉุกเฉินอยู่ค่ะ

ออกมาที่โถงทางเดิน จะเห็นว่าสุดฝั่งทางเดินไม่ใช่หน้าต่างแต่เป็นบันไดหนีไฟนะคะ ทำให้ฝั่งนี้ต้องเปิดไฟไว้ เพราะไม่มีแสงธรรมชาติเข้ามาค่ะ

สุดทางอีกฝั่งมีช่องแสงค่ะ ประตูที่เห็นฝั่งขวามือเป็นบันไดหนีไฟเช่นกัน

เข้าไปดูกันหน่อย

มองไปทางขวามือจะเป็นจุดทิ้งขยะและท่องานระบบค่ะ ก็คือในตัวอาคารไม่ได้ทำห้องทิ้งขยะไว้นะ ถังขยะวันที่เห็นไม่มีฝาปิดด้วย โถงบันไดอาจมีปัญหาเรื่องกลิ่นได้ และดูมีที่น้อยไปหน่อยสำหรับยูนิต 20 ห้องต่อชั้นนะ

บันไดกว้างดีค่ะ เจาะช่องแสงไว้ให้สว่างดี สำหรับคนที่ไม่ชอบลิฟต์และอยากออกกำลังกายก็ดูเวิร์คดีนะ แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือเรื่องความปลอดภัย ของการเจาะช่องแสงใหญ่แบบนี้ ชั้นล่างคนปีนเข้าปีนออกเข้ามาได้นะ

เอาช่องแสงชั้นล่างด้านนอกมาให้ดูค่ะ เป็นช่องโล่งๆแบบนี้ปีนเข้าปีนออกได้นะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 16.8 เมตร ลึก 1.1 เมตร
• ฟิตเนสใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
• สวนหย่อมรอบโครงการ
• ลิฟท์โดยสาร  1 ตัวต่ออาคาร
• Service Lift 1 ตัว ต่ออาคาร
• ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น  50%
• ระบบ Access Card ที่ซุ้มทางเข้า
• Finger scan ที่ทางเข้าอาคาร

 

Product Walkthrough

  

เริ่มจากห้องใหญ่สุดของโครงการก่อนนะคะ (โครงการนี้มีเฉพาะห้องแบบ 1  Bedroom นะ) ห้องมุมสีเทาตัวย่อ SR มาจากแบบห้อง Srinakarin Suite ขนาด 32.16 ตร.ม. ค่ะ ตัวห้องแต่ละส่วนมีการแบ่งผนังเต็มกั้นสัดส่วนอย่างชัดเจนค่ะ  คือ โซนห้องนั่งเล่นและทานอาหาร, โซนห้องครัว, โซนห้องนอน ห้องน้ำและระเบียงอยู่ในห้องนอนนะคะ ข้อดีของแปลนแบบนี้คือกันกลิ่นรบกวนจากอาหาร มีความเป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัว มีผนังให้ใช้งานมากขึ้น(อย่างต่อชั้นหรือแขวนรูป) ข้อเสียคือพื้นที่จะไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควรค่ะ เรื่องการจัดพื้นที่ใช้งานก็จะฟิกซ์ตามพื้นที่ไป และเรื่องแอร์ที่จริงๆแล้วก็เป็นสองแง่เหมือนกัน ข้อดีของการกั้นห้องแบบนี้คือประหยัดไฟค่าแอร์ค่ะ ใช้แอร์ตัวเล็ก BTU ต่ำๆได้เพราะกั้นเหลือแต่ส่วนห้องนอน แต่ข้อเสียคืออาจต้องติดแอร์เพิ่มถ้าเป็นคนขี้ร้อน เนื่องจากไม่มีหน้าต่างเชื่อมกับห้องนั่งเล่นโดยตรงนะ น่าจะต้องเปิดประตูบานเลื่อนห้องครัวแล้วรับลมจากหน้าต่างห้องครัวอีกทีนะ  วันร้อนๆส่วนห้องนั่งเล่นคงอึดอัดเหมือนกันเพราะไม่มีลมเข้า 

 

ถัดมาเป็นห้องมุมสีเทาตัวย่อ SU มาจากแบบห้อง Sukhumvit Suite ขนาด 31.98 ตร.ม. ค่ะ การจัดโซนนิ่งเป็นแบบเดียวกัน คือตัวห้องแต่ละส่วนมีการแบ่งผนังเต็มกั้นสัดส่วนโซนห้องนั่งเล่นและทานอาหาร, โซนห้องครัว, โซนห้องนอน แต่ห้องนี้ระเบียงอยู่ในห้องนอน ประตูห้องน้ำอยู่ในห้องนั่งเล่นนะคะ เราว่าแบบนี้ดีกว่านะสำหรับห้อง 1  bedroom แบบนี้ ทั้งเวลาใช้งานปกติและเวลาคนนอกมาเยี่ยมที่ห้อง โซนห้องนั่งเล่น ที่วางทีวีค่อนข้างแคบนะ เนื่องจากระยะผนังมีน้อย โต๊ะทานอาหารดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ คือไกลครัว และ ที่นั่งทานใกล้ประตูเข้าออกห้องทำให้รู้สึกนั่งไม่ค่อยสบาย แถมทั้งสองที่นั่งหันหน้าชนผนังอีก เวลากินข้าวอึดอัดแน่นอน

ห้องสีเหลืองทั้งหมดเป็นตัวย่อ LS มาจาก Lasalle Suite 30 ตร.ม.ค่ะ  ประมาณ 80% ของโครงการเป็นห้องแบบนี้ค่ะ การจัดโซนนิ่งของห้องเหมือนกับห้องแบบแรก หรือ Srinakarin Suite เลยค่ะ แต่ขนาดย่อมลงมา และเปลี่ยนผนังที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นฉากสูงประมาณ 2 เมตรแทน ให้ใช้แอร์ตัวเดียวสองห้องได้ค่ะ รวมทั้งใช้ประตูบานเลื่อนแบบสองบานซึ่งประหยัดพื้นที่ในการใช้งานมากกว่าด้วย  ห้องตัวอย่างที่ไปชมกัน ตัวแปลนห้องจะกลับด้านกับแปลนที่อธิบายนะคะ เป็นแปลน Mirror ค่ะ  คือประตูทางเข้าอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน  เราไปดูห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่าค่ะ

 

ประตูทางเข้าเป็นประตูไม้สีขาว มีตาแมว มือจับลูกบิด

พื้นด้านนอกโถงทางเดินกับในตัวห้องเหมือนกันค่ะ เป็นกระเบื้อง Cotto 30×30  สีครีม ยาแนวสีขาว ผนังห้องฉาบปูนเรียบทาสีขาว มีบัวปิดขอบพื้นลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

เข้ามาก็จะเจอส่วนห้องนั่งเล่นแบบนี้ค่ะ ห้องมีทั้งห้องเปล่าและ fully furnished นะคะ ห้องที่เป็น fully furnished จัดมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ของ Index และชุดครัวของ Tattoo ค่ะ  ห้องนั่งเล่นระยะห่างระหว่างโซฟากับชั้นวางทีวีโอเคค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าโซนห้องนอนห้องน้ำ ตรงไปที่เห็นในภาพเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 2 บานของห้องครัว ไฟเป็นแบบซาลาเปานะ

โซฟาแบบ 2 ที่นั่ง หนังเทียมสีดำ ถัดไปเป็นชุดโต๊ะกินข้าวสีขาวเก้าอี้แบบโมเดิร์นสีดำ ธีมสีเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำที่โครงการเลือกมาทำให้ห้องดูเล็กลงนะ ดีไซน์โซฟาทั้งความโค้งของเบาะหลัง ความสูงของที่วางแขน เบาะไม่ทำแยกสองที่นั่งมา โดยรวมคือนั่งไม่สบายค่ะ แต่ก็ตามเรตราคาน่ะนะ ถ้าเป็นเราเราเอาห้องเปล่าเพราะคุ้มดีแล้วหาเฟอร์นิเจอร์เองดีกว่าค่ะ ผนังด้านหลังทั้งสองฝั่งข้างโซฟามีเต้าเสียบปลั๊กอยู่

เต้าเสียบอีกฝั่งอยู่ใกล้ชุดโต๊ะทานอาหารค่ะ  โต๊ะทานอาหารดูไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ คือไกลครัว แถมทั้งสองที่นั่งหันหน้าชนผนังอีก เวลานั่งทานข้าวค่อนข้างอึดอัด

ตรงข้ามโซฟาเป็นชั้นวางทีวีค่ะ เป็นmdfสีดำเข้มตามธีมเฟอร์นิเจอร์สีขาวดำตามที่เห็น ด้านหลังเป็นฉากกั้นห้องกระจกฝ้างระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น เป็นบานประตูเลื่อนแบบ 2 บาน

เข้าไปดูในห้องครัวกันต่อค่ะ ประตูบานเลื่อนกระจกเป็นแบบ 2 บาน กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ ตัวรางเป็นแบบฝังพื้นค่ะ 

ชุดครัวเป็นของ Tattoo ค่ะ ตัวชั้นเป็นไม้อัดmdfสีขาว ท้อปเป็นเมลามีนลายแกรนิตสีดำ

อ่างล้างจานเป็นสแตนเลสค่ะ เป็นแบบ 1 อ่าง มีที่พักจานด้านข้าง

  

ลองเปิดชั้นให้ดูระยะค่ะ ด้านข้างอ่างล้างจานมีที่พอให้วางเตาไฟฟ้าหรือไมโครเวฟได้นะ เห็นมีเต้าเสียบที่ผนังด้านหลัง ส่วนเวลาเตรียมอาหารอาจต้องทำโต๊ะพับได้ติดผนังด้านหลังหรือหากระดานวางทับอ่างล้างจานเอา  เแล้วตู้เย็นจะไปวางตรงไหนนะ.. ออ ดูจากระยะกับเต้าเสียบตู้เย็นน่าจะวางข้างประตูบานเลื่อนถัดออกมาในห้องนั่งเล่นค่ะ ก็คือข้างโซฟานะ

 

ชั้นด้านบนค่ะ มีเต้าเสียบมาให้ด้านบนสำหรับเตาไมโครเวฟ ความสูงระดับนี้สำหรับคนที่ไม่ค่อยสูงนักอาจจะมีปัญหาเวลาอุ่นน้ำแกงจะหยิบเข้า/ออกลำบากหน่อย

หน้าต่างเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมแบบสองบาน วิวนอกหน้าต่างเป็นลานคอนกรีตของบริษัทขนส่งสินค้าข้างๆ

กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมสีธรรมชาติค่ะ ร่องจับมีล็อกเปิดปิด

เข้าไปดูโซนห้องนอนกันนะคะ จะเห็นฉากประตูบานเลื่อนกระจกฝ้าแบบ 2 บาน สูงประมาณ 2 เมตร กั้นระหว่างโซนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเพื่อความเป็นสัดส่วน  แต่จะเห็นว่ามีระยะเว้นระหว่างฉากกั้นกับเพดาน ให้ใช้แอร์ได้ทั้งสองฝั่ง

ตำแหน่งติดแอร์ค่ะ ฉากกั้นอยู่ตรงกลางพอดี แอร์เป็นของ Trane นะคะ เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อดีกว่า ประตูห้องน้ำอยู่ข้างในห้องนอนนะคะ

ลดระดับพื้นห้องน้ำลงไปประมาณ 5 เซนติเมตรค่ะ มีจบพื้นเป็นหินแกรนิต

ห้องน้ำค่ะ สุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ Cotto นะคะ พื้นกับผนังส่วนเปียกเป็นโทนสีครีมยาแนวสีขาวเหมือนกัน หน้าต่างห้องน้ำบานกระทุ้ง กรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ

 

ฝักบัวและแฮนด์เปิดเป็นสแตนเลสค่ะ

 

พื้นมียกขอบขึ้นมาจิ๊ดนึง(~1 เซนติเมตร) คือกันน้ำไหลออกพื้นส่วนอื่นน่ะนะ เวลาใช้งานจริงไม่ค่อยช่วยอะไรมากเพราะนอกจากขอบกั้นจะตื้นแล้วระยะกั้นขอบค่อนข้างแคบด้วย เวลาอาบน้ำก็กระเซ็นออกมาข้างนอกอยู่ดี แต่จะเห็นว่าทำระบายน้ำ(Floor drain)มาให้ทั้งสองจุดค่ะ 

อ่างล้างหน้าไม่ค่อยมีที่วางของเลย คงต้องหาชั้นเพิ่มนะ ลืมบอกไปว่าฝ้าเพดานห้องน้ำเป็น T-Bar นะคะไม่ใช่ฝ้าฉาบเรียบ

โถสุขภัณฑ์ติดตั้งอยู่ข้างๆโซนอาบน้ำ ถ้าไม่อยากให้บริเวณนี้เปียกก็ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำนะค่ะ จะได้ใช้งานสะดวกๆ ส่วนตำแหน่งที่แขวนทิชชู่ถือว่าดีใช้งานสะดวกและไกลจากโซนอาบน้ำจะได้ไม่เปียกง่ายๆ

 

ออกมาเป็นห้องนอนค่ะ เฟอร์นิเจอร์เป็นโทนสีดำเหมือนเดิม ทั้งเตียงโต๊ะข้างเตียง โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า

โต๊ะเครื่องแป้งค่ะ เลื่อนสตูลออกมาให้เห็นระยะโอเคไม่อึดอัดนะคะ  ด้านข้างมีเต้าเสียบสำหรับเสียบไดร์เป่าผม เครื่องนวดหน้า

 

ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน มีกระจกเงาติดทั้งสองบาน ติดไม่เต็มบานนะ

มองไปฝั่งระเบียงและห้องน้ำ เป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติแบบสองบานค่ะ

ระยะรอบๆเตียงค่ะ

ระยะข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนออกไประเบียงค่ะ มีโต๊ะวางข้างเตียงให้มาอันนึง

เปิดออกไปดูกันนะ เป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติแบบสองบานค่ะ

ด้านนอกมีแอร์คอมเพรสเซอร์แขวนอยู่ เป็นการติดแบบเป่าเข้าผนังระเบียง ถ้าอยากใช้พื้นที่ระเบียงแบบไม่ร้อนก็แนะนำให้ติดตะแกรงเปลี่ยนทิศทางลมเพื่อให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ค่ะ

 

พื้นระเบียงด้านนอกปูกระเบื้องสีขาวกว้างประมาณ 1.5 เมตรพอใช้วางราวตากผ้าได้แล้วไม่แคบจนเกินไป พวกงานระบบต่างๆจะเรียงเอาไว้ด้านขวามือทั้งหมด ถือว่าไม่แกะกะพื้นที่ระเบียงดี ราวกันตกเป็นเหล็กสีดำค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29 May 2014

• 1 Bedroom  Lasalle Suite 29.90 – 30.18 ตารางเมตร ราคา 959,000 – 1,028,000 บาท  หรือ 32,800 บาท/ตารางเมตร
• Fully Furnished / Standard Room (ถ้าเลือกแบบ Standard Room ได้ส่วนลด 60,000 บาท)
• 1 Bedroom  Sukhumvit Suite 32.07  ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1,164,000 บาท  หรือ 36,500 บาท/ตารางเมตร
• 1 Bedroom Srinakarin Suite 31.91 – 32.12 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1,164,000 บาท  หรือ 36,500 บาท/ตารางเมตร
• Standard Room
• เพดานสูง 2.6 เมตร

 Promotion (ระยะเวลาสอบถามทางโครงการนะคะ ไม่มีระบุมา)

สำหรับห้องแบบ Lasalle Suite , มีสิทธิ์เลือกส่วนลด 60,000 บาท หรือเฟอร์นิเจอร์ครบชุด (เฉพาะยูนิตที่บริษัทกำหนด) รายการของแถมมี เครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type พร้อมรีโมทไร้สาย, ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว, ประตูเลื่อนกั้นห้องนอน

• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 5,000 บาท
• ค่ากองทุน 200 บาทต่อตารางเมตร
• ค่าส่วนกลาง 20 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

City Home ศรีนครินทร์  เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยลาซาล(สุขุมวิท 105) โดยซอยลาซาลนี้เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิท – ศรีนครินทร์ – บางนาตราดค่ะ ต้องขอเตือนว่าช่วงเช้ากับเย็นซอยนี้รถจะติดหน่อยนะคะ เนื่องจากย่านนี้มีโรงเรียนอยู่เยอะค่ะ ในซอยจะมีร.ร. นานาชาติบางกอกพัฒนากับร.ร.ลาซาลอยู่ค่ะ บวกกับถนนจากทางด้านต้นซอยจะเป็นถนนสองเลนก็จะติดเยอะหน่อยค่ะ จะเริ่มคล่องตัวขึ้นตอนผ่านสามแยกในซอยมาจะเป็นถนนสี่เลนจนออกสี่แยกลาซาลถนนศรีนครินทร์ ขับมาอีก 500 เมตรจนถึงโครงการค่ะ   ซึ่งข้อดีจากตำแหน่งโครงการที่อยู่ตรงนี้คือ อยู่ใกล้แยกลาซาลค่ะ สำหรับคนขับรถก็วิ่งออกถนนศรีนครินทร์ที่ตัดผ่านได้ง่าย ไม่ต้องไปเจอรถติดแน่นเอี้ยดในซอยลาซาลฝั่งโซนโรงเรียน(ฝั่งก่อนถึงแยกลาซาล) สามารถตัดออกไปบางนา-ตราด ขึ้นทางด่วนได้เลย ประหยัดเวลาไปได้เยอะ

สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากต้นซอยฝั่งBTSแบริ่งจะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการแล้ว(ไปหน้าโครงการ 50 บาท) แต่ถ้าเดินเข้าไปในซอยลาซาลประมาณ 100 เมตร  จะมีอู่รถสองแถวอยู่ฝั่งขวามือค่ะ เป็นวินรถแดงที่ใหญ่กว่ารถสองแถวทั่วไป เป็นรถ 6 ล้อ และ บ้างทีก็เป็นรถ mini bus สีแดงค่ะ วิ่งสุดซอยลาซาล 7 บาทตลอดสาย(นี่ก็ส่งถึงหน้าโครงการเลยค่ะ ประหยัดดี) ระยะทางจากปากซอยลาซาลฝั่งBTSแบริ่งจนถึงโครงการประมาณ 5 กิโลเมตรค่ะ ก็อยู่เกือบสุดซอยน่ะนะ 

ความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินซอยลาซาลก็จะมีกระจายอยู่ทั่วซอยนะคะ ที่เห็นเด่นๆ จะมี ตลาดนัดต้นซอย, ตลาดสดลาซาล บริเวณซอยลาซาล 29, ตลาดดวงพลอย บริเวณซอยลาซาล 33 เปิดช่วงเวลาเย็น, ตลาดคลองถม บริเวณซอยลาซาล 36, ร้านก๋วยเตี๋ยวดงมูลเหล็ก, ร้านอาหารตามสั่ง ยศข้าวต้ม แถวโรงเรียนอนุบาลพัสวี และก็โซนใกล้โรงเรียนต่างๆจะมีอาหารการกินให้ซื้อหามากมายค่ะ ถ้าในบริเวณใกล้ๆโครงการ ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆโครงการ โซนร.พ.ศิครินทร์จะมีโรงอาหารของโรงพยาบาลและแฟมิลี่มาร์ทอยู่ค่ะ ถัดจากหน้าโรงพยาบาลไปนิดหน่อยก็จะมี Food Garden เป็นโซนร้านอาหารอยู่หลายร้าน ฝั่งตรงข้ามกันมีร้านหมูตุ๋นเทวดา ส่วนตรงหัวมุมบริเวณสี่แยกที่ตัดศรีนครินทร์มีร้านหัวปลาช่องนนทรีค่ะ

วัสดุของโครงการถือว่าดีสำหรับราคานี้ พื้นห้อง,พื้นห้องน้ำ,โถงทางเดินด้านนอกเป็นกระเบื้องCotto 30 x 30 เคลือบผิวด้าน, สุขภัณฑ์ใช้ของ Cotto, แอร์ของ Trane, เฟอร์นิเจอร์ตู้ โต๊ะ เตียง โซฟา เก้าอี้ ชุดครัว ชั้นวางทีวี ทั้งหมดเป็นของ Index ค่ะ ถ้าเทียบกับราคาเริ่มต้นที่ 30,067 บาทต่อตารางเมตร ทำเลที่เข้าถึง BTS แบริ่งได้ง่ายบวกกับมีแผน BTS สายสีเหลืองสถานี ศรีลาซาล (แต่ต้องรอหน่อยนะ) ที่อยู่ห่างไป 500 เมตร   ถือว่าได้ราคาค่อนข้างดีเลยถ้าเทียบราคากับคอนโดใน segment เดียวกันในทำเลใกล้ๆกันดู

Facility ของที่นี่มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 16.8 เมตร ลึก 1.1 เมตร , ฟิตเนสใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง,สวนหย่อมรอบโครงการ,ลิฟท์โดยสาร  2 ตัวต่ออาคาร,ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น  50%,ระบบ Access Card ที่ซุ้มทางเข้า,Finger scan ที่ทางเข้าอาคาร

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 34,900 บาทต่อตารางเมตร, 29 May 2014

• ทำเล 8/10 –  ติดถนนสุขุมวิท 105(ลาซาล) ทำเลที่เข้าถึง BTS แบริ่งได้ง่ายบวกกับมีแผน BTS สายสีเหลือง (สถานี ศรีลาซาล) ในอนาคต ทำเลอยู่ในย่านชุมชนมีอาหารการกินและรถรับจ้างหลากหลายที่หน้าซอย เข้าออกสะดวก
• เดินทางด้วยรถ 8/10 -อยู่ใกล้แยกลาซาล วิ่งออกถนนศรีนครินทร์ที่ตัดผ่านได้ง่าย ไม่ต้องไปเจอรถติดแน่นเอี้ยดในซอยลาซาลฝั่งโซนโรงเรียน(ฝั่งก่อนถึงแยกลาซาล) สามารถตัดออกไปบางนา-ตราด ขึ้นทางด่วนได้เลย
• ไม่ใช้รถ 7.5 /10 – มีวินรถแดงอยู่ตรงข้ามโครงการรับส่งถึงต้นซอยฝั่งสุขุมวิท (BTS แบริ่ง) เดินทางไปมาสะดวก
• วัสดุ 7.75/10 – ถือว่าให้มาเยอะดีสำหรับราคานี้ แต่คุณภาพก็ตามราคานะค่ะ
• แบบ 7.5/10 – การจัดผังห้องมีการวางฟังก์ชั่นได้ครับ แต่ระยะดูทีวีแคบไปนิด โต๊ะกินข้าวเข้ามุมไม่ค่อยสะดวกในการใช้งานเท่าไหร่
• สาธารณูปโภค 7.5/10 -มีสระว่ายน้ำ, Fitness และสวนหย่อม ที่จอดรถ 50% รวมซ้อนคัน
• SUPER ECONOMY CLASS

• 7.79 / 10.00

BOTTOM LINE

City Home ศรีนครินทร์ เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด ต้องการคอนโดที่อยู่ในรัศมีรถไฟฟ้าในราคาประมาณ 1 ล้านบาท ในทำเลบางนา-แบริ่ง 

ชอบกด Like ใช่กด Share เลยนะคะ 😉