casa cover post

รีวิวฉบับที่ 944 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Casa Premium พระราม 2 จาก Q.House ที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบกับวงแหวนกาญจนาทางฝั่งใต้ ระหว่างถนนท่าข้ามและถนนพุทธบูชา ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นทั้งโครงการ มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 52 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท 

Facts @ 7 October 2015

  • Casa Premium Rama2 (คาซ่า พรีเมี่ยม พระราม2)
  • บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
  • เนื้อที่โครงการ 30 กว่าไร่ จำนวน 116 ยูนิต
  • Blossom (Size S) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 241 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องพระ 4 ที่จอดรถ
  • Blush (Size M) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 221 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 4 ที่จอดรถ
  • Bloom  (Size L) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 260 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องพระ 4 ที่จอดรถ
  • ที่ดินแปลงมาตรฐาน 52, 52 และ 62 ตร.วา
  • ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท หรือ 133,650 บาท/ตร.วา
  • โครงการเปิดโครงการ : เดือนตุลาคม ปี 2557
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 092-273-7138, 091-575-4115
  • Call Center : 1388

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.628243, 100.456363

Re Map (express way)

แผนที่โครงการ โครงการบ้านเดี่ยว Casa premium พระราม2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ หรือที่เรียกว่าเส้นมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ระหว่างถนนท่าข้ามและถนนพุทธบูชาที่ตัดผ่านมาจากถนนพระราม2

MAP 1

Casa premium พระราม2 ตั้งอยู่ในเขตบางขุนเทียน ตอนใต้ของกรุงเทพ ทางเข้าโครงการอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ขนานกับเส้นมอเตอร์เวย์  ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ สามารถเดินทางได้จากถนนใหญ่สองเส้นคือจากเส้นสุขสวัสดิ์ทางตะวันออก และเส้นพระราม2 ทางตะวันตก นอกจากนั้นเส้นย่อยๆที่สามารถตัดตรงมาจากเส้นพระราม 2 ได้คือมีถนนบางขุนเทียน ซอยท่าข้ามแล้วเลี้ยวเข้าซอยอนามัยเจริญงาม และเส้นพุทธบูชาเข้าเส้นประชาอุทิศ ใกล้เส้นไหนมากกว่าก็เข้าเส้นนั้น ส่วนถ้ามาจากทางใต้แถวพันท้ายนรสิงค์ก็สามารถเข้าที่เส้นบางขุนเทียนได้เลย การจราจรบนถนนเลียบวงแหวนก็เดินทางได้เรื่อยๆ เพราะเดินรถเลนเดียว ไม่ติดมาก ส่วนถ้ามาจากในซอยลัดต่างๆก็ค่อนข้างคดเคี้ยวทีเดียว

สำหรับคนไม่ใช้รถ ในปัจจุบันยังไม่มีเส้นทางที่จะเข้าถึงตัวโครงการได้อย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินต่างๆ แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นสถานี BTS ตลาดพลู และวงเวียนใหญ่ ที่ต้องต่อรถอีกทีเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตรงมาเข้าถนนสุขสวัสดิ์ ส่วนการเรียกรถ Taxi แถวหน้าโครงการก็ถือว่ายากพอสมควร เนื่องจากปริมาณรถและปริมาณผู้อยู่อาศัยก็ไม่ได้เยอะ และถือว่าไม่ใช่ถนนที่เป็นเส้นทางหลัก ส่วนพี่วิน รถตู้ สองแถวมีให้เห็นบ้างนานๆครั้ง

MAP 2 places

ส่วนทางขึ้น-ลงทางด่วนที่ใกล้ที่สุด คือด่านตรงถนนสุขสวัสดิ์ใกล้ Major Hollywood ที่เป็นทางขึ้นที่ไปบรรจบกับสะพานพระราม 9 ได้ตรงไปก็จะมีทางแยกซ้าย-ขวา ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปแถวพญาไท ส่วนถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปแถวบางนา-สมุทรปราการ ส่วนอีกจุดนึงคือที่เส้นพระราม 2 ก็จะมีทางวนขึ้นไปยังสะพานพระราม 9 เหมือนกัน ส่วนการขึ้น-ลงเส้นวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้ หรือถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 นั้นจะอยู่ที่จุดเชื่อมระหว่างถนนสุขสวัสดิ์และถนนเลียบวงแหวน

บริเวณที่ตั้งโครงการนี้ถือว่าเป็นย่านที่มีการจับจองพื้นที่ของโครงการหมู่บ้านแนวราบซะเยอะ แต่ไม่ค่อยมีห้างร้านให้ได้จับจ่ายใช้สอยเท่าไร ดีหน่อยก็จะมี 7-11 ให้พึ่งพิงตามซอย จะมีความอุดมสมบูรณ์ดีๆก็ที่ตรงเส้นพระราม 2 เป็นหลัก ดังนั้นทางที่เราจะเข้าถึงได้ก็จะต้องผ่านจากซอยย่อยๆอย่างซอยท่าข้ามหรือถนนพุทธบูชาไป ตรงนั้นจะมีทั้ง Central พระราม2,  BigC และ Lotus ส่วนโรงพยาบาลแถวนี้เยอะมากๆ มีทั้งโรงพยาบาลบางปะกอก1 หรือ9 หรือโรงพยาบาลนครธน และบางมด โรงเรียนที่ใกล้เคียงก็จะมีโรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรีที่คอร์สแบบอินเตอร์ด้วย โตไปหน่อยก็จะมีสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ

MAP 3 route

เส้นทางที่เราจะเดินทางกันวันนี้ คือเส้นทางจากถนนใหญ่สุขสวัสดิ์ ใกล้กับจุดที่ตัดกับทางด่วนเฉลิมมหานครที่อยู่เหนือขึ้นไป ผ่านทางลงทางด่วน และทางขึ้นทางด่วน ตรงมาเรื่อยๆ ผ่าน Major Hollywood อยู่ทางขวามือ ตรงมาจนสุดเลยวงแหวนด้านบนมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 74 เพื่อออกไปยังถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านโรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรี เลยมาอีกซัก 1.5 กิโลเมตร จะเจอทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือนะคะ

เริ่มกันเลยค่ะที่ถนนสุขสวัสดิ์ จะเห็นได้ว่าเป็นถนนที่กว้างมาก มีหลายเลน เพื่อรอบรับรถใหญ่อย่างรถบรรทุกที่จะเลี้ยวขึ้นวงแหวนกาญจนาเพื่อไปยังแถวบางนา-สมุทรปราการที่เป็นแหล่งโรงงาน ส่วนเราจะตรงไปเรื่อยๆบนถนนสุขสวัสดิ์นะคะ

สะพานเหนือขึ้นไปคือทางด่วนเฉลิมมหานครที่พาดผ่านพอดี เราก็จะลอดกันไป

ตรงมาหน่อยก็จะมี Major Hollywood อยู่ทางขวามือ ตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ

สองฝั่งของถนนสุขสวัสดิ์แถวนี้ก็จะเร่ิมเป็นพื้นที่ชุมชนมากขึ้น มีตึกแถวเรียงกันไปเรื่อยๆ ทางซ้ายก็จะมีปั้มนำ้มัน BigC ที่เป็นห้างสามัญประจำบ้านใกล้ๆที่อยู่ของทุกคน

บนถนนสุขสวัสดิ์ก็จะมีทางกลับรถอยู่ทุกๆ 2 กิโลเมตร ซ้ายมือจะเห็นว่ามีรถตู้แบบประจำทางรับส่งตลอดเส้น

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับป้ายบอกทางที่ถ้าชิดซ้ายก็จะมีทางขึ้นเส้นวงแหวนกาญจนาทางใต้

จะเห็นว่าด้านหน้าจะมีทางแยกซ้ายออกไปทางขึ้นวงแหวนเรียบร้อย ส่วนทางขวามือเป็นโรงพยาบาลบางปะกอก3

ตรงมาเรื่อยๆอีกหน่อยก็ชิดขวา เพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 74 เพื่อไปตัดออกถนนเลียบวงแหวนกาญจนา ตรงนี้ปริมาณรถเลี้ยวขวาเข้าซอยจะเยอะมาก

หน้าซอยสุขสวัสดิ์ 74 จะมีป้ายวัดชมนิมิตรอันใหญ่ให้ได้สังเกตกัน ซึ่งพื้นที่วัดจะอยู่ประมาณกลางๆซอย ปากซอยสองฝั่งเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3-4 ชั้น

เข้ามาในซอย ความกว้างก็จะเพียงพอให้รถสวนทางกันได้ทั้งเข้า-ออก เราก็ตรงไปเรื่อยๆตามทาง

ผ่านเข้ามาซักครึ่งซอยก็จะเห็นพื้นที่วัดชมนิมิตรที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่

ผ่านมาหน่อยก็จะเป็นพื้นที่โรงงานกำแพงสูง ตรงนี้ค่อนข้างเงียบ เพราะอยู่ในเวลางาน

เข้ามาตามทางเรื่อยๆจนสุดซอยก็จะมีทางบังคับเลี้ยวซ้าย

เลี้ยวซ้ายออกมาจากซอยก็จะมีป้ายสัญญาณจราจรบอกว่าจะมีทางบังคับเบี่ยงไปทางฝั่งขวาของเส้นกาญจนาหน่อย

ลอดผ่านวงแหวนกันไป

โผล่มาอีกทีก็มาอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ เป็นถนน 2 เลน สามารถสวนทางกันได้ฝั่งละเลน ทางขวาจะเป็นพื้นที่ดิน ส่วนทางซ้ายที่เป็นทางยกระดับขึ้นมาหน่อยจะเป็นเส้นวงแหวนกาญจนา หรือที่เรียกว่าเส้นมอเตอร์เวย์หมายเลข9 จากตรงนี้ไปเราจะตรงกันไปยาวๆเลยค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับ 4 แยกไฟเขียว-ไฟแดงเล็กๆ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นถนนประชาอุทิศ ที่สามารถไปเชื่อมกับเส้นพุทธบูชาเพื่อออกถนนพระราม2 หรือว่าจะไปที่ม.พระจอมเกล้าธนบุรีก็ได้ ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะเป็นถนนประชาอุทิศฝั่งใต้ ที่จะมีตลาดวัดทุ่งครุ ส่วนเราตรงต่อไปค่ะ

ผ่านมาเรื่อยๆปริมาณรถก็จะเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ ฝั่งขวาก็ยังเป็นพื้นที่ดิน ที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า พื้นที่ส่วนบุคคล หรือว่าพื้นที่โครงการหมู่บ้านแนวราบ ส่วนทางซ้ายก็จะเป็นทางยกระดับวงแหวนกาญจนาเหมือนเดิม

 

 

จากนั้นก็ตรงมาเรื่อยจะเจอโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรีอยู่ทางขวามือ จากหน้าโรงเรียนเราจะต้องตรงไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรถึงจะถึงทางเข้าโครงการ

ผ่านมาอีกนิดนึงก็จะมีศาลาพักรถ มีคนลงจากแท๊กซี่แล้วก็สามารถเป็นจุดรอแท๊กซี่ได้บ้าง

ผ่านมาเรื่อยๆก็จะเจอเสาไฟฟ้าแรงสูงเหนือขึ้นไปจากบนถนน

อีกนิดนึงก็จะมาถึงทางเข้าโครงการแล้วค่ะทางขวามือ

MAP surrounding

เรามาดูเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันนะคะ ทางทิศใต้เป็นทางเข้าโครงการที่เข้าจากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาทางใต้ ถัดไปหน่อยเป็นทางตรงของมอเตอร์เวย์เส้นยาวๆ ซ้าย-ขวาใกล้กับทางเข้าโครงการเป็นพื้นที่ว่างเปล่าผืนใหญ่ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการหมู่บ้านแนวราบของโครงการใกล้เคียง ส่วนทางเหนือเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอีกแปลง ส่วนทางฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่โครงการหมู่บ้านแนวราบใกล้เคียงอีกโครงการ

ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าโครงการหรือทางทิศใต้เป็นถนนเลียบเส้นกาญจนาภิเษก 2 เลน แบบสวนกันได้ฝั่งละเลน ไกลออกไปหน่อยเป็นเส้นมอเตอร์เวย์ฝั่งใต้ เป็นเส้นยาวๆจากจังหวัดสมุทรสาครไปยังสมุทรปราการทางตะวันออก ที่เห็นเป็นแผ่นสีฟ้าๆที่ติดอยู่ที่ขอบทางของถนนมอเตอร์เวย์คือแผ่นกันเสียง ที่เวลารถใหญ่ๆขับผ่านหรือรถที่ใช้ความเร็วจะทำให้เกิดเสียงรบกวนพื้นที่รอบข้าง

หันไปทางทิศตะวันตกหรือทางซ้ายของทางเข้าโครงการก็จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ สังเกตว่าจะไม่เห็นอาคารสูงเท่าไรเลย

เช่นเดียวกับทางขวาของทางเข้าโครงการหรือทางทิศตะวันออกก็จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเช่นกันค่ะ

MAP 4 route

เส้นทางอีกทางหนึ่งที่จะแนะนำคือเส้นทางจากถนนพระราม2 เป็นทางลัดที่ไว้ใช้ตัดระยะทางที่จะได้ไม่ต้องเลยไปถึงถนนใกญ่บางขุนเทียนหรือว่าที่ถนนสุขสวัสดิ์ แต่เข้าที่ซอยท่าข้าม แล้วเลี้ยวเข้าที่ซอยอนามัยเจริญงามแล้วมาออกที่ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • โรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรี – 1.7 กิโลเมตร
  • BigC พระราม 2 – 4.9 กิโลเมตร
  • Central พระราม 2 – 6.6 กิโลเมตร
  • Lotus พระราม 2 – 7.3 กิโลเมตร
  • สถาบันพระจอมเกล้าธนบุรี – 8.4 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลนครธน – 8.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางมด 1 – 8.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลบางปะกอก 9 – 12.2 กิโลเมตร
  • Major Hollywood – 12.8 กิโลเมตร

 


เจาะลึกตัวโครงการ

MAP masterplan

โครงการ Casa Premium พระราม2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น รวมจำนวนทั้งหมด 116 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 30 กว่าไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ ปัจจุบันเป็นโครงการที่แล้วเสร็จประมาณ 25% หรือสองซอยซ้ายมือบวกกับส่วน Facility ตัวบ้านในส่วนที่สร้างเสร็จแล้วมีการโอนกรรมสิทธิ์แล้วก็มีลูกบ้านเข้าอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง

การจัดสัดส่วนของโครงการจากทางเข้าก็จะมีซุ้มโครงการที่มีป้อมพี่ยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ Keycard ระยะใกล้ ต้องเปิดกระจกออกมาตี๊ดบัตร เพื่อให้ไม้กั้นเปิดออก มี CCTV ตรงด้านหน้า 2 จุด ผ่านซุ้มทางเข้าไป ก็จะเป็นถนนตรงกลางกว้าง 12 เมตร ทางฝั่งซ้ายจะเป็นรั้วโครงการที่สูง 3 เมตร ส่วนฝั่งขวาเป็นซอยย่อยของโครงการ ไล่ตั้งแต่ซอย 1 เข้าไปเรื่อยๆ สองฝั่งริมถนนก็จะมีพื้นที่สีเขียวและปลูกต้นไม้ไหญ่ยาวเข้าไป จนฝั่งตรงข้ามกับซอย 5 ก็จะมีซอยเพิ่มขึ้นคือซอย 6 ทางซ้ายมือ และเลยไปหน่อยจะเป็นวงเวียน ภายในซอย 8 สุดซอยจะเป็นที่ตั้งของ Clubhouse และสวนสาธารณะข้างๆ ตัว Clubhouse เป็นอาคารสูง 2 ชั้นรูปทรงแตกต่างจากที่อื่น ด้านในประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่นที่เป็น Double Ceiling Height ห้องน้ำแยกชาย-หญิง ชั้นบนคือฟิตเนส โดยพื้นที่ที่เป็นกลางแจ้งก็จะมีสระว่ายน้ำแบ่งออกเป็นทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่พร้อมพื้นที่ข้างสระอยู่พื้นที่เดียวกัน

การจัดวางตัวบ้านอย่างที่กล่าวไปคือจะมีถนนหลักโครงการอยู่ตรงกลางเลาะเข้าไปเรื่อยๆ และทางขวา-ซ้ายจะเป็นซอยย่อยกว้าง 9 เมตร โดยในซอยก็จะมีบ้านทั้งซ้าย-ขวามือ จำนวนหลังภายในแต่ละซอยก็จะขึ้นกับความลึก โดยจะแบ่งออกเป็นบ้านแบบใหญ่สุดคือ Bloom, Blush และ Blossom ตามลำดับ ภายในซอยๆหนึ่งก็จะสลับขนาดกันไปเรื่อยๆ ที่ท้ายซอยจะมีพื้นที่ส่วนกลางที่ปลูกเป็นพื้นที่สีเขียวปูหญ้า  ไม่ใช่พื้นที่ขาย ทำให้สามารถเดินตัดจากซอยหนึ่งไปยังอีกซอยหนึ่งได้

โครงการเปิดตัวมาประมาณ 1 ปีเต็ม เป็นการขายแบบสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มีการออกแบบบ้านมา 3 แบบ แต่เนื่องจากความต้องการของลูกค้ามีการปรับเปลี่ยนบ้าง ทำให้บ้านล็อตหลังๆที่สร้างขึ้นจะมีการปรับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านบ้างนิดหน่อย อย่างการเพิ่ม-ลดจำนวนห้องนอน และห้องน้ำนิดหน่อย แต่ภายนอกของตัวบ้านก็ยังจะคงสภาพเหมือนกับต้นแบบ ยกเว้นสีสันนิดๆหน่อยๆ ปัจจุบันมีส่วนที่เปิดขายคือซอย 7 และ 8 ซึ่งบ้านส่วนต้นซอยหน่อยก็จะมีความพลุกพล่านกว่าเพราะว่ามีบ้านตัวอย่างด้วย แต่ที่ท้ายซอยก็จะเงียบลงมาหน่อย การวางตัวบ้านจะเป็นแบบหันทิศเหนือ-ใต้ ขึ้นกับความชอบเลยว่าจะชอบหน้าบ้านที่แสงธรรมชาติตลอดวัน หรือว่าชอบแดดแรงขึ้นมาแต่มีลมเข้ามากกว่า

ซุ้มทางเข้าโครงการทำเป็นแบบครอบตัวทางเข้า-ออกไปทั้งหมดเป็นหลังคา ดูยิ่งใหญ่ดี โดยด้านหน้าก็จะมีจุดวนรถนิดหน่อยแบ่งทางเลี้ยวรถเข้า-ออกนิดหน่อย ใต้ซุ้มโครงการจะแบ่งช่องทางเข้า-ออกโครงการเป็น 3 ช่อง คือทางเข้า 2 ช่อง และทางออก 1 ช่อง

โดยทางเข้ารถจะแบ่งเป็นทางเข้าลูกบ้านทางซ้ายมือ ที่สามารถติ๊ด Keycard ระยะใกล้แล้วไม้กั้นอัตโนมัติก็จะเปิดออก ส่วนช่องทางขวาเป็นทางเข้าของผู้มาติดต่อโครงการ หรือเพื่อนลูกบ้านที่ต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนจะเข้าไปในพื้นที่โครงการด้านใน

เครื่องรับสัญญาณของระบบ Keycard Access ระยะใกล้ สำหรับลูกบ้านที่ถือ Keycard อยู่แล้ว

พอตี๊ดบัตรกับเครื่องรับสัญญาณ ไม้กั้นด้านหน้าก็จะเปิดขึ้น เราก็ขับเข้าโครงการไปสวยๆ

ส่วนผู้มาติดต่อทั้งกับโครงการและกับลูกบ้านก็จะต้องมาติดต่อกับพี่ยามที่นั่งอยู่ในป้อมตรงกลางเพื่อแลกบัตร

โดยที่อยู่ใกล้กับป้อมพี่ยามก็จะมีกล้อง CCTV ทั้งหมด 2 ตัว ส่องที่ใบหน้าคนขับตัวนึง อีกตัวนึงจับทีป้ายทะเบียนรถ

ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการเข้ามาก็จะเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร โดยที่ช่วงต้น ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นรั้วโครงการสูง 3 เมตร ส่วนทางขวาเป็นซอยย่อยต่างๆไล่ตั้งแต่ซอย1 ไปเรื่อยๆ แต่ว่าส่วนนี้ยังเป็นส่วนก่อสร้างนะคะ

หน้าซอยของทุกซอยก็จะมีพื้นที่สีเขียวทั้งในส่วนพื้นที่ปูหญ้า แล้ววางตัวแผ่นหินที่ทำเป็นทางเดิน หรือว่าจะเป็นพุ่มไม้ที่ตัดเป็นที่กั้นสายตาสีเขียวๆ

เดินถัดจากซอย1 มาก็จะเจอซอย2 จะเห็นว่าเป็นซอยที่ลึกไม่มาก มีทางเดินด้านหน้า ส่วนท้ายซอยก็จะมีรั้วโครงการปิดเรียบร้อย

เดินเลยซอย 4 มาก็จะเจอกับที่จอดรถชั่วคราวของผู้มาติดต่อและคนทำงานด้านในอยู่ทางขวามือ

ส่วนทางซ้ายมือตรงข้ามกับซอย 5 ก็จะเป็นซอย 6 ที่เป็นซอยแรกทางฝั่งซ้ายมือสร้างเสร็จเรียบร้อย ความกว้างของซอยอยู่ที่ 9 เมตร สามหลังทางขวาจะเป็นบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งพร้อมให้เข้าชม ส่วนหลังอื่นๆเป็นหลังที่กำลังเปิดขาย

บ้านตัวอย่างทางฝั่งขวามือจะเห็นว่าไม่มีการกั้นรั้วปิดระหว่างกัน โดยหลังแรกที่ต้นซอยจะเปิดเป็น Sales office ด้วย

ส่วนหลังทางฝั่งซ้ายก็จะเป็นบ้านที่ลูกบ้านย้ายเข้าอยู่แล้วบางส่วน มีการต่อเติมให้เหมาะสมกับการใช้งานอย่างที่เห็น เรียงกันไปเรื่อยๆ

ระหว่างพื้นที่บ้านบางหลังก็จะมีพื้นที่กลับรถ ก็จะมีป้ายเขียนกำกับอีกทีวางห้ามจอดถาวร

เดินมาสุดซอยก็จะเจอกับรั้วโครงการที่สูง 3 เมตร พื้นที่ปูหญ้าสีเขียวที่เห็นท้ายซอยของทุกซอยก็จะเป็นส่วนกลาง ไม่เหมือนโครงการส่วนใหญ่ที่จะรวมพื้นที่ท้ายซอยตรงนี้เป็นพื้นที่ขายแปลงท้ายซอยไปเลย พื้นที่ตรงนี้มีพี่คนสวนคอยดูแลตัดแต่ง ซึ่งสามารถใช้เดินตัดจากซอยหนึ่งไปอีกซอยได้ ถือว่าเป็นประโยชน์กับบ้านส่วนท้ายซอยด้วย เนื่องจากไม่ต้องเดินอ้อมไปยังต้นซอยเพื่อไปซอยอื่นๆ ทั้งยังเหมือนได้พื้นที่ข้างบ้านสีเขียวๆที่มีคนดูแลให้เรียบร้อย เพราะถ้าเทียบดูว่าบ้านที่อยู่ช่วงต้นซอยและกลางซอยก็จะไม่เดินมาใช้พื้นที่ตรงนี้เท่าไร

พื้นที่ท้ายซอยที่เป็นพื้นที่สีเขียวส่วนกลาง มีป้อมพี่ยามที่จะเป็นเวรกลางคืนด้วย

เดินเลาะจากท้ายซอย 6 ไป 7 ได้ง่ายๆ ปูด้วยพื้นหญ้า

พี่คนสวนที่นี่ขยันขันแข็ง สภาพโครงการถือว่าเรียบร้อยมากๆ หญ้าเต็มทุกจุด

แล้วเราก็มาออกที่ท้ายซอย 7 ได้เลย

กลับมาที่ถนนหลักโครงการหน้าวงเวียนหน่อยนะคะ ฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนบ้านที่สร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมขาย และส่วนที่เป็น Facility ส่วนฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่ก่อสร้าง กั้นรั้วกันอยู่เลย

เราจะเดินไปฝั่งซ้ายกันนะคะ ทางซ้ายมือคือซอย 7 ที่เราเดินลัดไปท้ายซอยกัน ส่วนซอยถัดมาหน่อยเป็นซอย 8 ที่เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะและ Clubhouse ที่ถือเป็น Main Facility ของที่นี่

สวนสาธารณะที่อยู่ต้นซอย 8 ไล่ยาวไปถึงข้างๆกับ Clubhouse

ภายในซอย 8 ฝั่งซ้ายก็จะเป็นพื้นที่ขายเหมือนซอยอื่นๆ แต่ปัจจุบันยังถือเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ส่วนฝั่งขวาเป็นส่วนของ Clubhouse ใครที่ซื้อบ้านในซอยนี้ก็จะถือว่าอยู่ใกล้ Facility ที่สุด มีความเป็นไปได้ที่จะได้ใช้งานบ่อยที่สุด แต่ก็อาจจะมีเพื่อนบ้านเดินผ่านหน้าบ้านบ่อยกว่าซอยอื่นๆ

ถึงแล้ว Clubhouse ที่สูง 2 ชั้น เข้าได้จากสองทางคือทางที่เป็นทางปูแผ่นหินเป็นทางเดินตรงนี้ ขึ้นส่วนลานไปเรื่อยๆจนไปเจอสระว่ายน้ำ Outdoor และพื้นที่ข้างสระ ส่วนทางเข้าอีกทางหนึ่งคือต้องเดินลึกเข้าซอย 8 ไปหน่อย จะเป็นส่วนที่เจอกับพื้นที่นั่งเล่นเข้าตึกมากกว่า

เดินตามแผ่นหินมาก็จะเจอกับบันไดขึ้นไปยังลานที่ปูด้วนพื้นหญ้า ก่อนจะถึงส่วนที่เป็น Deck ไม้พื้นที่ข้างสระและสระว่ายน้ำ

หันหน้ามาทางด้านหลังหน่อยก็จะเจอกับส่วนท้ายโครงการ

อีกมุมหนึ่งของ Clubhouse สวยแปลกดีไหมคะ ฝั่งขวาจะเป็นอาคาร 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่มีทั้งในอาคารและนอกอาคาร มีห้องน้ำแยกชาย-หญิงและที่ล้างตัว ส่วนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของฟิตเนสที่ได้วิวสระว่ายน้ำข้างล่าง

เราเดินมาเข้าทางเข้าอีกทางของ Clubhouse กันคือเดินเข้ามาด้านในหน่อย ทางเข้าก็จะรายล้อมไปด้วยพืชดอกเต็มแน่นไปหมด

หันหน้าเข้าไปทางทางเข้าก็จะเจอกับส่วนที่เป็นน้ำไหลตรงกลางของ Clubhouse น้ำที่ไหลลงมาคือน้ำจากสระว่ายน้ำที่ทำเป็นแบบสระน้ำล้น ส่วนที่ล้นมาก็จะไหลตามทางลาดมาส่วนทางเข้าลงรางข้างล่างแล้วจะไปหมุนเข้าระบบอีกที

ทางซ้ายของทางเข้าก็จะเป็นห้องนั่งเล่นที่จัดพื้นที่เป็นเก้าอี้ตัวๆ ความจริงแล้วน่าจะจัดเป็นพื้นที่ที่ดูเป็นสัดส่วนกว่านี้ซักนิด เช่นการใส่โต๊ะตัวใหญ่ให้มานั่งทำงานหรือสังสรรค์ได้ ประตูสองบานทางซ้ายตอนที่เข้าไปเก็บข้อมูลปิดล็อกอยู่นะคะ แต่เท่าที่ส่องดู ห้องหนึ่งเป็นห้อง Pantry ที่เหมือนเป็นห้องครัวส่วนกลางเล็กๆ ส่วนอีกห้องเป็นห้องเก็บของ

เดินมาสุดทางของห้องนั่งเล่น เปิดประตูออกมาก็จะเจอส่วนที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ที่มีการวางชุดโต๊ะ-เก้าอี้ให้สองจุด ตรงกลางเป็นบันไดที่ขึ้นไปยังพื้นที่ข้างสระว่ายน้ำและที่ล้างตัว ตรงกลางคือห้องน้ำแยกชาย-หญิงพร้อมล็อกเกอร์ ส่วนบันไดทางซ้ายคือบันไดที่ขึ้นไปยังชั้น 2 ที่มีห้องฟิตเนสห้องเดียว

เดินเข้ามาส่วนที่เป็นห้องน้ำแยกนะคะ เราจะมาฝั่งที่เป็นห้องน้ำหญิงกัน ส่วนหน้าที่เดินเข้าไปจะเจอกับล็อกเกอร์เก็บของก่อนที่จะเจอกับประตูห้องน้ำทางขวามือ

เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปทางซ้ายก็จะเป็นพื้นที่อ่างล้างหน้าและกระจกบานใหญ่ ทางซ้ายเป็นห้องน้ำ 3 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้องที่อยู่ในสุด ส่วนตรงกลางเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งบานเล็กไว้ระบายอากาศ

ออกมาจากห้องน้ำหันไปทางขวาก็จะเจอกับสระว่ายน้ำกลางแจ้ง มีบันไดจากส่วนนั่งเล่น Outdoor ไปยังพื้นที่ข้างสระ

ข้างๆกับบันไดทางขึ้นไปก็จะเป็นที่ล้างตัว 1 จุด

หันมาที่สระว่ายน้ำตรงทางเข้าก็จะเจอกับพื้นที่เล่นระดับกับสระว่ายน้ำแบบน้ำล้น ซึ่งถือว่าเป็นความแปลกอย่างหนึ่งของ Facility ในหมู่บ้านจัดสรร เพราะปกติแล้วจะไม่เห็นที่ไหนมีลูกเล่นแบบนี้ แต่จากการสอบถาม Function นี้ก็เป็นส่วนที่สร้างขึ้นเพื่อความสวยงามเท่านั้น เพราะค่อนข้างอันตรายอยู่เหมือนกันสำหรับเต็กเล็กๆ

เดินมาจนสุดอีกฝั่งของพื้นที่ข้างสระ จะเป็นส่วนสระเด็กที่ความสูง 0.6 เมตร รอบๆเป็นส่วนพื้นไม้สำเร็จทั้งสามด้าน ฝั่งซ้ายที่อยู่ใต้หลังคาก็จะเป็นส่วนที่มีชุดเก้าอี้สนาม และ Daybed จัดให้นั่ง

ต่อมาที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 ขึ้นมาจนสุดก็จะเป็นส่วนของห้องฟิตเนสห้องเดียวเลย

ภายในห้องฟิตเนสบนชั้น 2 ก็จะมีเครื่องเล่นประมาณ 12 เครื่อง วางตามพื้นที่ทางยาวไป เดี๋ยวเราจะพาเดินไปจนสุดอีกฝั่งนะคะ

เดินมาสุดอีกฝั่งก็จะมีเก้าอี้ให้นั่งพัก และมีส่วนที่เป็นกระจกที่สามารถมองลงไปยังพื้นที่ันั่งเล่นที่เป็น Double Ceiling Height ได้

วิวจากห้องฟิตเนสมองลงไปยังพื้นที่ Outdoot ด้านล่างส่วนสระว่ายน้ำ

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Clubhouse 2 ชั้น
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบคลอรีน ขนาด n/a เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 12 เครื่อง
  • สวนสาธารณะประมาณ 1 ไร่ และมีสวนหย่อม 1 จุดข้างๆนิติบุคคล
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate 2 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

 


Product Walkthrough

planSS

บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ แบบแรกที่เป็นบ้านตัวอย่างคือ Blossom เป็นบ้านขนาดเล็กที่สุดของโครงการ ขนาดที่ดินมาตรฐาน 52 ตร.วา บ้าน 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 241 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องพระ 4 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้านตามโปรโมชั่น จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากสองทางหลัก คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านทางห้องรับแขก และประตูเปิด-ปิดหลังบ้านจากส่วนซักล้างเข้ามาเจอครัว

จากทางเข้าหลักหน้าบ้านส่วนห้องรับแขกและพื้นที่ทานข้าว ที่ภายในบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทานข้าวขนาดใหญ่ ลึกเข้าไปคือห้องครัวที่มีประตูเปิดออกไปยังหลังบ้านและห้องน้ำ เดินไปทางซ้ายจะเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง และมีห้องเก็บของใต้บันไดขนาดค่อนข้างใหญ่

บนชั้น 2 ขึ้นบันไดมาจะอยู่ส่วนกลางบ้านด้านหลัง จะเจอกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่อีกห้องหนึ่ง ที่มีห้องน้ำแยกออกมาให้เลย เหมาะสำหรับเป็นห้องพักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวในวันที่มีแขกด้านล่าง หรือว่าเป็นห้องให้เพื่อนๆมานั่งเล่น ข้างๆกันเป็นห้องนอนใหญ่ที่อยู่บนชั้น 2 มีห้องน้ำในตัว และส่วน Walk-in Closet เป็นพื้นที่เผื่อไว้ให้

บนชั้น 3 เดินขึ้นมาจากบันไดจะเจอกับพื้นที่เอนกประสงค์ที่ส่วนใหญ่แล้วจะจัดเป็นห้องพระตรงกลาง ซ้าย-ขวามีประตูฝั่งละบานเป็นห้องนอนขนาดกลางๆพอดีๆ ภายในห้องนอนทั้งสองห้องก็จะมีขนาดใกล้เคียงกัน มีห้องน้ำในตัว และมีพื้นที่ Walk-in Closet จัดเผื่อไว้ให้

ถือว่าการขยับจากบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น นอกจากจะได้พื้นที่ใช้สอยโดยรวมเยอะขึ้นแล้ว พื้นที่ภายในห้องต่างๆยังเยอะขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ที่สามารถใช้เป็นห้องพักผ่อนภายในครอบครัว ห้องที่ใช้ทำกิจกรรมงานอดิเรก ส่วนห้องนอนใหญ่ที่อยู่บนชั้น 2 ก็เรียกได้ว่าเป็นห้องนอนใหญ่จริงๆ ห้องนอนเล็กที่อยู่ชั้น 3 ก็มีห้องน้ำในตัวเป็นของตัวเองหมด ซึ่งเป็นข้อดีในการใช้งาน

งานดีไซน์ภายนอกของบ้านออกเรียบง่ายใช้สี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบไปซะหมด จุดสังเกตแรกเลยคือตัวบ้านดูสูงแปลกจากปกติ เพราะเป็นบ้าน 3 ชั้น จุดต่อมาคือ ไม่มีระเบียงหน้าบ้านที่ชั้น 2 และชั้น 3 เลย แม้ว่าจะเป็นห้องนอนก็ตาม จากหน้าบ้านเลยทำให้บ้านดูเหมือนกล่องไปหน่อย การตกแต่งตกแต่งด้วยสีฟ้าอมเทา ตัดด้วยสีเหลืองที่ Facade ของตัวบ้าน หน้าต่างทุกบานส่วนหน้าบ้านลูกฟักเป็นกระจกเขียวตัดแสงสีออกเขียวๆ

ขอตัดภาพมาที่บ้านมาตรฐานที่ขายให้กับลูกบ้านจริงๆนะคะ ดังนั้นสิ่งที่เพิ่มเติมมาคือรั้วบ้านรอบๆ มีประตูเลื่อน และภายในจะเป็นบ้านแบบเปล่า ไม่มีการตกแต่ง

เริ่มเลยที่ประตูเลื่อนหน้าบ้าน จะเป็นแบบเลื่อน 1 ตอนยาวทีเดียวเข้าไปเก็บที่หลังกำแพง ตัวประตูค่อนข้างหนักทีเดียว เลื่อนที่ก็ใช้เวลาเอาการถ้าจะเปิดเวลาฝนตก ประตูเป็นประตูแบบโปร่งๆไม่ได้ป้องกันการมองเห็น แต่เหมือนเป็นการกั้นพื้นที่ธรรมดา พื้นที่จอดรถด้านในจอดได้ 4 คันถ้วน

หน้าบ้านก็จะมีทั้งกริ่งหน้าบ้าน ไฟหน้าบ้าน มาตรน้ำ และเสาไฟฟ้า หลังบ้านเลขที่เปิดออกมาก็จะเป็นกล่องจดหมาย

กล่องจดหมายส่วนภายในบ้าน สามารถบิดเปิดได้

หน้าบ้านก็จะปลูกหญ้าและแผ่นหินให้เดินผ่านได้ แต่ปกติก็จะนิยมเดินกันบนเส้นทางรถอยู่แล้ว

อีกฝั่งของบ้านก็จะเป็นที่ทิ้งขยะ ที่คนเก็บจากด้านนอกก็จะเปิดตู้ตรงนี้หยิบไปได้ ส่วนด้านในก็จะเป็นเหมือนตู้ให้หย่อนลงไปเหมือนปกติ

รอบบ้านด้านหน้าก็จะมีเฉลียงทางเข้ากว้างประมาณ 80 เซนติเมตร มีประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเป็นทางเข้าหลัก ข้างๆก็จะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ และข้างบ้านก็จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดที่เล็กลงอีกบานที่สามารถส่องดูพื้นที่จอดรถได้

พื้นที่ข้างบ้านฝั่งขวาก็จะปูด้วยสนามหญ้า บางจุดก็จะมีการลงต้นไม้และปลูกไม้พุ่มให้เรียบร้อย

พื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นทางเข้าบ้านอีกจุดหนึ่งจากลานซักล้าง ก็จะมีการปูกระเบื้องความกว้างประมาณ 60 เซนติเมตรไว้ให้ ด้านหลังก็จะมีก๊อกน้ำ ปั้มน้ำ แท๊งค์น้ำให้ตามโปรโมชั่น

ข้างๆกับประตูหลังบ้านก็จะมีพื้นที่ที่เจาะช่องเว้าเข้าไปเป็นพื้นที่ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า หรือไว้สำหรับวางของใช้ จะได้ไม่ตากแดดตากฝนมากเกินไป

ส่วนมุมบ้านก็จะเป็นพื้นเทคอนกรีตในส่วนของที่จอดรถ ที่ด้านบนจะมีไฟซาลาเปาให้ความสว่างตอนมืดๆ รั้วที่กั้นระหว่างบ้านไม่สูงมากนะคะ อยู่ที่ประมาณ 1.6 เมตรเท่านั้นเอง

กลับมาที่บ้านตัวอย่างกันต่อ เราจะตัดสลับภาพไปเรื่อยๆระหว่างบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งสวยงามและบ้านมาตรฐานที่ขายจริงให้ได้เห็นความแตกต่างและไอเดียวการตกแต่งนะคะ

เริ่มเลยๆ เฉลียงหน้าบ้านขนาดประมาณ 80 เซนติเมตร มีประตูบานเลื่อนที่เปิดเข้าสู่ตัวบ้านอยู่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายเป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่ เนื่องจากการวางตัวบ้านเป็นแบบ เหนือ-ใต้ ดังนั้นใครที่เลือกหน้าบ้านเข้าหาทิศเหนือก็จะได้แสงธรรมชาติ ส่วนใครเลือกทิศใต้ก็จะได้แสงที่แรงกว่าแต่ได้ลมดีกว่า

ประตูบานเลื่อนเปิดออกได้ทั้งสองฝั่ง กรอบประตูเป็นอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสงออกสีเขียว มีโคมไฟเล็กๆติดผนังทั้งสองฝั่ง

ที่จับจากภายนอกจะเว้าให้เป็นช่องเพื่อเลื่อน ส่วนจากด้านในจะตีร่องให้พอเกี่ยวได้

จุดที่บานประตูทั้งสองบานเกี่ยวกันไว้จากภายนอกจะมีช่องล็อกด้วยกุญแจ ส่วนภายในก็จะมีที่เลื่อนกดขึ้นลงเพื่อล็อกชั้นแรก และล็อกชั้นสองก็เป็นแบบเกี่ยวตะขอปกติ

ที่หน้าบ้านก็จะมีสิ่งนี้ติดอยู่ สิ่งนี้เรียกว่าที่เปิด-ปิดระบบสัญญาณกันขโมยที่จะติดให้ทุกๆบ้านอยู่แล้ว

ระบบสัญญาณกันขโมยก็จะติดตามช่องเปิดทุกบาน ไม่ว่าจะเป็นประตูหรือหน้าต่าง ดังนั้นใครเปิดบานไหน เปิดเข้าหรือเปิดออก คนในบ้านก็จะได้ยินเสียงติ๊งต๊องตลอดเวลา

เปิดเข้ามาในบ้านก็จะเจอกับห้องทานอาหารที่วางเป็นโต๊ะทานข้าวและเก้าอี้ 6 ตัวด้านใน ความจริงสามารถเพิ่มหัว-ท้ายได้อีก 2 ตัว รวมเป็น 8 แต่ในผังบ้านก็จะแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวาคือส่วนที่วางโต๊ะทานข้าวและส่วนห้องนั่งเล่นวางโซฟาวางทีวีเหมือนปกติ

พื้นห้องนั่งเล่นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องขนาน 60 x 60 เซนติเมตร สีอ่อนทั้งหมด เพดานด้านบนจะทำเป็นฝ้าหลืบออกมาทำให้ดูหรูหราขึ้นมา ติดโคมไฟเข้าไปอลังการอีก

แต่ในบ้านมาตรฐานก็จะเป็นเพดานเรียบเท่ากันทั้งหมด ด้านบนติดเป็นไฟซาลาเปาให้

มองจากมุมด้านในของห้องทานข้าวออกไปยังส่วนหน้าบ้าน จะเห็นได้ว่าแสงจากหน้าบ้านสามารถส่องเข้ามายังภายในตัวบ้านได้ดี เพราะช่องเปิดมีขนาดใหญ่และมีอยู่รอบบ้าน

มาถึงส่วนด้านหลังของชั้น 1 จะเป็นห้องครัวที่ในบ้านตัวอย่างจะติดเป็นประตูบานเลื่อนบานใหญ่เต็มความสูงมากั้นพื้นที่ ทำให้สามารถกันกลิ่นที่จะออกมาได้ ทั้งที่ติดเป็นแบบกระจกใสจะได้มีความต่อเนื่องของการมองเห็นรอบบ้านและทำให้บ้านดูกว้างขวาง

ประตูบานเลื่อนที่ติดมาเป็นแบบเปิดได้ทั้งสองฝั่ง เป็นแบบรางบนรางเดียว ไม่มีรางล่าง

บ้านมาตรฐานที่ได้จริงๆก็จะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีประตูบานเลื่อนกั้นพื้นที่ให้ ถ้าใครที่จะทำอาหารอย่างจริงจังก็อาจจะต้องติดเพื่อป้องกันกลิ่นเข้าสู่ตัวบ้านโดยรวม แต่ถ้าใครทำอาหารเบาๆก็อาจจะทำเป็นเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L แล้วใส่เก้าอี้สตูลเก๋ๆนั่งทานข้าวตอนเช้า

ประตูบานเลื่อนกั้นเป็นแบบรางบนรางเดียว ไม่มีรางล่าง ทำให้พื้นกระเบื้องที่ปูไปไม่เสียและต้องปรับระดับอะไร

พื้นที่ภายในห้องครัวเป็นรูปตัว L ฝั่งซ้ายจะเป็นเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว I ยาวไปตลอดแนว ส่วนทางขวาเป็นตู้เก็บของและที่วางตู้เย็น

เคาท์เตอร์ครัวทางซ้ายมือสามารถจัดเต็มได้ทั้งเคาท์เตอร์ล่างและบน ความยาวเอื้ออำนวยสุดๆ ในบ้านตัวอย่างก็จะจัดเป็น 3 ส่วน ทั้งอ่างล้างจานแบบหลุมเดียว มีพื้นที่เตรียมอาหารอยู่ตรงกลางและขวาสุดคือ Hob and Hood แบบ 4 เตา ด้านล่างยังทำเป็นช่องและชั้นเก็บของและอุปกรณ์ทำอาหารได้ ส่วนในสุดเป็นตู้เก็บของที่เป็นบานเปิดซ้าย-ขวา

หันหลังมาก็จะมีพื้นที่ว่างอีกหนึ่งผนัง ฝั่งขวาเป็นชั้นวางของและลิ้นชัก ส่วนทางซ้ายเป็นพื้นที่วางสำหรับวางตู้เย็น สามารถใส่แบบตู้เย็นใหญ่ 2 ฝาได้ซ้าย-ขวา

ด้านในมีประตูสองบาน บานขวาเป็นประตูเข้าห้องน้ำของชั้น 1 ส่วนบานทางซ้ายเป็นบานประตูออกหลังบ้านไปยังส่วนซักล้าง

ประตูห้องน้ำเป็นแบบบาน UPVC ผลักเข้าไป ที่เปิด-ปิดเป็นแบบลูกบิดปกติ ล็อกได้จากด้านใน สังเกตว่าบานประตูจะเป็นแบบทึบ ไม่มีเกล็ดระบายอากาศด้านล่าง

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าติดผนัง และส่วนที่เป็นโถสุขภัณฑ์ ระดับห้องน้ำเท่ากันหมด มีช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนทางหลังบ้าน อาจจะดูเปิดเผยไปหน่อยต้องติดม่านเหมือนในบ้านตัวอย่างแน่ๆ

ระดับพื้นห้องน้ำลดลงมาจากระดับปกติประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแบบด้านขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

อ่างล้างหน้าจาก American Standard มาพร้อมกับกระจกส่องหน้าบานไม่ใหญ่ มีการเซาะร่องออกไว้สำหรับวางสบู่ล้างมือ หรือโลชั่นได้นิดหน่อย

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นกัน ข้างๆมีสายฉีดชำระ ที่ใส่ม้วนทิชชู และท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมห้อง

หน้าต่างบานหลังบ้านเป็นแบบบานเลื่อนขนาดพอสมควรเลย ซึ่งถือว่าใหญ่ไปสำหรับการใส่เป็นช่องเปิดของห้องน้ำ ปกติแล้วจะเป็นแบบานกระทุ้งที่เจาะช่องอยู่เหนือระดับสายตาขึ้นไป ทำหน้าที่แค่การระบายอากาศเท่านั้น

ต่อมาเป็นประตูบานเปิดออกไปยังส่วนหลังบ้าน ที่เปิดเป็นแบบลูกบิดเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือกลอนประตูสองจุดคือด้านล่างและด้านบนเพื่อเพิ่มความแน่นหนาขึ้นไปอีก

จากพื้นกระเบื้องส่วนห้องครัวออกไปเป็นลานซักล้างหลังบ้านปูด้วยกระเบื้องขนาดเล็กลงสีแดงอ่อน ตรงขอบๆก็จะมีหินขนาดใหญ่โรยไว้ให้เป็นส่วนที่รองรับน้ำฝนหรือท่วมได้นิดหน่อย

บรรยากาศหลังบ้านที่ออกมาจากประตูหลังบ้านมองซ้ายมองขวา

กลับมาที่ในบ้าน ก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 ข้างๆก็จะมีประตูบานเปิดเป็นห้องเก็บของใต้บันได

ห้องเก็บของใต้บันไดขนาดค่อนข้างใหญ่ และเพดานค่อนข้างสูง ลึกประมาณ 2.5 เมตร กว้างประมาณ 1 เมตร

บันไดขึ้นชั้น 2 มีรูปร่างแบบตัว U ลูกตั้งเป็นทาสีขาวธรรมดา ส่วนลูกนอนปูด้วยไม้ลามิเนต มีราวจับที่ฝั่งซ้ายฝั่งเดียว

ชานพักบันไดขนาดใหญ่พอสมควร

ขึ้นมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย สีลูกนอนของบันไดกับสีของพื้นชั้น 2 มีความใกล้เคียงกันอยู่ แต่จะมีตัวจบคั่นที่นูนขึ้นมา ทำให้เวลาเดินจะรู้สึกถึงความไม่เรียบเท่าไร

มองจากชั้น 2 ลงไปดูรูปทรงของบันไดที่เป็นรูปตัว U ที่ชานพักมีหน้าต่างบานเลื่อน และโคมไฟติดไว้ให้

จากบันไดพื้นที่ที่จะเจอส่วนแรกคือห้องนั่งเล่นบนชั้น 2 ที่มีขนาดกว้างขวางมาก ใส่โซฟารูปตัว L ขนาดใหญ่เข้าไปเหมือนในบ้านตัวอย่างได้เลย ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นชั้นวางทีวี พื้นที่ตรงนี้สามารถทำเป็นห้องดูหนัง หรือเป็นห้องทำกิจกรรมภายในครอบครัวได้ ช่องแสงมีทั้งจากส่วนหน้าบ้านและจากข้างบ้าน ฝ้าเพดานในบ้านตัวอย่างมีการทำเป็นฝ้าหลืบ แต่ของจริงจะเป็นฝ้าเรียบๆเท่าๆกัน

ช่องแสงจากหน้าบ้านจะมีด้วยกัน 2 แบบผสม คือทั้งแบบบานเลื่อนที่เลื่อนเปิดได้ฝั่งเดียว และแบบที่เป็นบาน Fixed ด้านล่าง

หันไปทางมุมด้านในของชั้น 2 ก็จะเจอกับทางเข้าห้องน้ำที่แยกออกมา

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง คือส่วนที่เป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าติดผนัง และส่วนที่เป็นโถสุขภัณฑ์ ระดับห้องน้ำเท่ากันหมด มีช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนทางหลังบ้าน ต้องติดม่านกันเขินนิดนึง สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

ออกมาจากห้องน้ำหันหน้าไปยังห้องนอนใหญ่ของชั้น หรือที่เรียกว่า Master bedroom ของบ้านหลังนี้

ประตูทางซ้ายเป็นประตูจากบ้านมาตรฐานที่จะไม่มีกรอบประตูมาให้ ประตูเป็นบานสำเร็จเปิดเข้า ส่วนทางขวาเป็นประตูห้องนอนของบ้านตัวอย่าง ก็จะมีกรอบปิดสวยงาม

ภายในห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆอยู่ตรงกลางระหว่างบานกระทุ้งข้าง ได้ช่องแสงจากหน้าบ้านที่เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ไฟด้านบนเป็นไฟซาลาเปากลมๆ

หน้าต่างบานกระทุ้งแบบเปิดข้างที่อยู่ตรงผนังฝั่งหัวเตียง

ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้เดินสบายๆ ชิดผนังสามารถใส่ได้ทั้งชั้นวางทีวี ชั้นวางของหรือว่าโต๊ะทำงาน

หันหน้าออกหน้าบ้าน มีแค่หน้าต่าง ไม่มีระเบียง

หันหน้าเข้ามาในบ้านบ้าง ทางซ้ายมือจะเป็นช่องที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ จะติดประตูบานเลื่อนใสๆกั้นพื้นที่หรือจะไม่ติดปล่อยเป็นโล่งๆไปก็ได้ ส่วนทางขวาเป็นห้องน้ำของห้องนอนใหญ่

ภายในพื้นที่ที่เผื่อไว้ให้เป็นที่วางตู้เสื้อผ้า ก็สามารถวางเป็นรูปตัว L ได้ หรือจะวางแค่แบบเป็นตัว I แล้วใส่โต๊ะเครื่องแป้งเข้าไปเหมือนในบ้านตัวอย่าง

ประตูทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ตรงกลางคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าติดผนัง ฝั่งซ้ายคือโถสุขภัณฑ์ และฝั่งขวาคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืนลดระดับลงไปนิดหน่อย ไม่มีฉากกั้นหรือว่าม่านมาให้

ระดับพื้นของห้องน้ำก็จะลดต่ำลงจากระดับพื้นห้องนอนนิดหน่อย เปลี่ยนจากการปูด้วยไม้ลามิเนตเป็นกระเบื้องขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สีขาวๆเรียบๆ

โถสุขภัณฑ์จาก American Standardข้างๆมีสายฉีดชำระ ที่ใส่ม้วนทิชชู และท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมห้อง

อ่างล้างหน้าจาก American Standard มาพร้อมกับกระจกส่องหน้าบานไม่ใหญ่ มีการก่อปูนยื่นออกมาให้วางของได้เล็กน้อย

ทางขวาเป็นส่วนยืนอาบน้ำ

พื้นลดระดับลงไปนิดหน่อย ขนาดประมาณ 1.0 x 1.5 เมตร

ฝักบัวหัวขนาดไม่ใหญ่มาก น้ำหนักเบา

มาต่อที่บันไดจากชั้น 2 ขึ้นไปชั้น 3 ก็จะมีราวจับบันได้ทางซ้าย ข้างๆกับผนังทางเข้าจะเห็นว่ามีอุปกรณ์ติดอยู่

ตรงนี้คือส่วนเปิด-ปิดระบบสัญญาณกันขโมยอีกจุดหนึ่ง เป็นแบบ Magnetic Censor

เงยหน้าจากบันไดขึ้นไปยังชานพักบันไดระหว่างชั้น สองฝั่งจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดไม่ใหญ่มาก 2 บาน ระดับบานกระทุ้งสามารถจับหมุนเปิดได้ ไม่เหมือนบางที่ที่อยู่สูงเกินเอื้อม

บนชั้น 3 ตรงกลางจะเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ ที่ส่วนใหญ่ลูกบ้านนิยมจะจัดเป็นห้องพระ สองฝั่งมีประตูทางเข้าห้องนอนขนาดกลาง ที่แต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัวเรียบร้อย

casa houseSL 88

เราจะเข้ามาที่ห้องทางซ้ายมือกันก่อน การจัดวางและขนาดก็จะใกล้เคียงกับห้อง Master Bedroom ของชั้น 2 แต่ขนาดจะกว้างน้อยกว่านิดนึง มีหน้าต่างบานกระทุ้งสองบานขนาบกับหัวเตียง มีช่องแสงบานใหญ่จากหน้าบ้าน

ฝั่งตรงข้ามกับเตียงก็จะสามารถจัดเป็นชั้นวางทีวี ชั้นวางของ โต๊ะทำงานได้เหมือนปกติ สามารถสร้างแบบเต็มผนังได้เลย

หันย้อนกลับไปด้านใน ทางซ้ายมือจะเป็นช่องที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ จะติดประตูบานเลื่อนสีชากั้นพื้นที่หรือจะไม่ติดปล่อยเป็นโล่งๆไปก็ได้ ส่วนทางขวาเป็นห้องน้ำในตัว

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ขนาดและการจัดวางเหมือนกับห้องน้ำของห้องนอนใหญ่เป๊ะๆ

ต่อมาเป็นห้องนอนฝั่งขวาของชั้น 3 บ้าง

ภายในห้องก็จะมีสภาพที่เหมือนกับห้องนอนอีกฝั่งเลย ต่างกันแค่หัวเตียงของห้องนอนนี้จะไม่มีบานกระทุ้ง แต่จะมีหน้าต่างบานเปิดที่ปลายเตียงแทน

หันย้อนกลับไปด้านใน ทางขวามือจะเป็นช่องที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ จะติดประตูบานเลื่อนสีใสกั้นพื้นที่หรือจะไม่ติดปล่อยเป็นโล่งๆไปก็ได้ ส่วนทางซ้ายเป็นห้องน้ำในตัว

casa houseSL 98

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ขนาดและการจัดวางเหมือนกับห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ทุกห้องของบ้านแบบนี้

planM

บ้านตัวอย่างหลังที่สองคือ Blush เป็นบ้านขนาดกลางของโครงการ ขนาดที่ดินมาตรฐาน 52 ตร.วา บ้าน 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 221 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 4 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้าน จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากสามทางหลัก นอกจากหน้าบ้านและหลังบ้านตามปกติแล้วก็ยังมีส่วนข้างบ้านที่เข้าได้จากประตูบานเลื่อนข้างที่จอดรถที่เปิดเข้ามาจะเจอบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำชั้น 1

จากทางเข้าหลักหน้าบ้านเดินเข้ามาคือห้องนั่งเล่น ด้านในเป็นพื้นที่ทานอาหารที่อยู่ส่วนเดียวกับห้องครัวที่มีประตูบานเปิดออกไปยังพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน เดินไปทางซ้ายจะเป็นห้องน้ำชั้น 1 ประตูบานเลื่อนออกไปยังพื้นที่จอดรถและบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 สังเกตว่าพื้นที่ใช้สอยจะดูเล็กกว่าแบบ Blossom หน่อย แต่จะมีความเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่า

บนชั้น 2 ขึ้นบันไดมาส่วนหน้าบ้านตรงกลาง ทางซ้ายมือจะเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องหนึ่ง นอกนั้นก็จะเป็นห้องนอนใหญ่ที่อยู่ทางขวามือ และตรงกลางเป็นห้องน้ำ ที่มีประตูเปิดได้จากสองฝั่งคือจากทางเดินตรงกลางและจากห้องนอนเล็กทางซ้าย ต่างจากแบบที่แล้วที่ห้องนั่งเล่นจะมีขนาดใหญ่กว่านี่เท่าตัว แต่แบบนี้จะแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งไปเป็นห้องนอนเล็กอีกห้อง

บนชั้น 3 เดินขึ้นมาจากบันไดจะเจอกับประตูรวมกัน 4 บาน คือห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำที่อยู่ตรงกลางที่เจ้าของห้องนอนเล็กสองห้องต้องใช้ร่วมกัน ต่างจากแบบที่แล้วที่มีห้องนอนกลางสองห้องขนาดใกล้เคียงกันมีห้องน้ำในตัวเป็นของตัวเองเลย

แบบ Blush จะค่อนข้างจะต่างกับอีกสองแบบตรงที่พื้นที่ใช้สอยในบ้านน้อยที่สุด แต่มีจำนวนห้องนอนเยอะที่สุดคือ 5 ห้อง ซึ่งถ้าจะแบ่งจริงๆคือห้องนอนใหญ่ 2 ห้องและห้องนอนเล็กอีก 3 ห้อง ที่แบ่งพื้นที่มาจากห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านเยอะหน่อยและต้องการแยกห้องกันไปเลย

งานดีไซน์ภายนอกของบ้านออกเรียบง่ายใช้สี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบเหมือนเดิม สิ่งที่ต่างจากบ้านแบบที่แล้วคือบันไดเปลี่ยนจากอยู่ตรงกลางหลังบ้าน เป็นตรงกลางของหน้าบ้าน ทำให้หน้าต่างเปลี่ยนไปเป็นขนาดที่เล็กลงและเป็นแบบบาน Fixed ไม่มีระเบียงหน้าบ้านที่ชั้น 2 และชั้น 3 เหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นห้องนอนก็ตาม

ขอตัดภาพมาที่บ้านมาตรฐานที่ขายให้กับลูกบ้านจริงๆนะคะ ดังนั้นสิ่งที่เพิ่มเติมมาคือรั้วบ้านรอบๆ มีประตูเลื่อน และภายในจะเป็นบ้านแบบเปล่า ไม่มีการตกแต่ง เริ่มเลยที่ประตูเลื่อนหน้าบ้าน จะเป็นแบบเลื่อน 1 ตอนยาวทีเดียวเข้าไปเก็บที่หลังกำแพง พื้นที่จอดรถด้านในจอดได้ 4 คันถ้วน

หน้าบ้านก็จะมีทั้งกริ่งหน้าบ้าน ไฟหน้าบ้าน มาตรน้ำ และเสาไฟฟ้า หลังบ้านเลขที่เปิดออกมาก็จะเป็นกล่องจดหมาย อีกฝั่งของบ้านก็จะเป็นที่ทิ้งขยะ ส่วนด้านในก็จะเป็นเหมือนตู้ให้หย่อนลงไปเหมือนปกติ

รอบบ้านด้านหน้าก็จะมีเฉลียงทางเข้ากว้างประมาณ 80 เซนติเมตร มีประตูบานเลื่อนหน้าบ้านเป็นทางเข้าหลัก

ข้างบ้านก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อนอีกสองจุด พื้นปูด้วยสนามหญ้า บางจุดก็จะมีการลงต้นไม้และปลูกไม้พุ่มให้เรียบร้อย

พื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นทางเข้าบ้านอีกจุดหนึ่งจากลานซักล้าง ก็จะมีการปูกระเบื้องความกว้างประมาณ 80 เซนติเมตรไว้ให้ ด้านหลังก็จะมีก๊อกน้ำ ปั้มน้ำ แท๊งค์น้ำให้ตามโปรโมชั่น

casa houseM 10

ส่วนมุมบ้านก็จะเป็นพื้นเทคอนกรีตในส่วนของที่จอดรถ

casa houseM 11

ส่วนที่จอดรถ ด้านบนจะมีไฟซาลาเปาให้ความสว่างตอนมืดๆ รั้วที่กั้นระหว่างบ้านไม่สูงมากนะคะ อยู่ที่ประมาณ 1.6 เมตรเท่านั้นเอง ช่องทางการเข้าบ้านที่เพิ่มเข้ามาในส่วนของแบบ Blush คือส่วนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อน เข้าได้จากพื้นที่จอดรถ

กลับมาที่บ้านตัวอย่างกันต่อ เราจะตัดสลับภาพไปเรื่อยๆระหว่างบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งสวยงามและบ้านมาตรฐานที่ขายจริงให้ได้เห็นความแตกต่างและไอเดียวการตกแต่งนะคะ

เริ่มเลยๆ เฉลียงหน้าบ้านขนาดประมาณ 80 เซนติเมตร มีประตูบานเลื่อนที่เปิดเข้าสู่ตัวบ้านอยู่ฝั่งขวา มีไอเดียว่าถ้าอยากทำบ่อน้ำหน้าบ้านนิดหน่อยก็ได้

เปิดเข้ามาในบ้านก็จะเจอกับห้องนั่งเล่น ฝั่งซ้ายวางชุดโซฟาและฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ลึกเข้าไปเป็นห้องครัวและที่วางโต๊ะทานข้าวในบริเวณเดียวกัน และมีประตูออกไปยังหลังบ้านได้ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำของชั้นล่าง ประตูออกไปยังที่จอดรถ และบันไดขึ้นชั้น 2

จากส่วนกลางบ้านมองออกไปยังหน้าบ้าน ด้านบนเป็นฝ้าหลืบ แต่บ้านจริงเป็นดวงไฟซาลาเปาธรรมดา

มองกลับมาส่วนที่เป็นห้องครัวด้านใน แต่ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นพื้นที่ทานข้าวซะมากกว่าเพราะวางซะ 6 ที่นั่ง ส่วนเคาท์เตอร์ครัวจะเป็นในส่วนผนังฝั่งซ้ายมือและผนังส่วนหลังบ้าน ก็ต้องจัดสรรพื้นที่ให้ดี ประตูตรงกลางที่อยู่ระหว่างเคาท์เตอร์เป็นประตูที่เปิดออกไปยังหลังบ้าน

จากพื้นกระเบื้องส่วนห้องครัวออกไปเป็นลานซักล้างหลังบ้านปูด้วยกระเบื้องขนาดเล็กลงสีแดงอ่อน ตรงขอบๆก็จะมีหินขนาดใหญ่โรยไว้ให้เป็นส่วนที่รองรับน้ำฝนหรือท่วมได้นิดหน่อย

บรรยากาศหลังบ้านที่ออกมาจากประตูหลังบ้านมองซ้ายมองขวา

กลับเข้ามาส่วนกลางบ้านมองไปทางซ้ายก็จะเจอกับทางเดินตรงกลาง สุดทางมีประตูบานเลื่อนออกไปยังที่จอดรถ ส่วนทางซ้ายเป็นห้องน้ำของชั้นล่าง และฝั่งซ้ายเป็นบันไดขึ้นชั้น2 และห้องเก็บของใต้บันได

 

ประตูห้องน้ำเป็นแบบผลักเข้า บานเป็นบานสำเร็จ ไม่มีบานเกล็ดด้านล่างระบายอากาศ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงนิดหน่อยตามปกติ พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีขาวขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าติดผนัง และส่วนที่เป็นโถสุขภัณฑ์ ระดับห้องน้ำเท่ากันหมด มีช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนทางหลังบ้าน อาจจะดูเปิดเผยไปหน่อยต้องติดม่านเพิ่มเติม

อ่างล้างหน้าจาก American Standard มาพร้อมกับกระจกส่องหน้าบานไม่ใหญ่ มีก่อปูนยื่นออกมานิดหน่อยไว้วางข้าวของเครื่องใช้

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นกัน ข้างๆมีสายฉีดชำระ ที่ใส่ม้วนทิชชู และท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมห้อง

ในบ้านมาตรฐานที่เปิดประตูเข้ามา ตัวประตูจะไปชนกับโถสุขภัณฑ์ แม้ว่าจะมี Doorstop ก็ตาม

กลับมาที่ในบ้าน ก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 ข้างๆก็จะมีประตูบานเปิดเป็นห้องเก็บของใต้บันได

ห้องเก็บของใต้บันไดขนาดค่อนข้างใหญ่ และเพดานค่อนข้างสูง ลึกประมาณ 2.5 เมตร กว้างประมาณ 1 เมตร

มองจากชั้น 2 ลงไปดูรูปทรงของบันไดที่เป็นรูปตัว U ที่ชานพักมีหน้าต่างบานเลื่อน และโคมไฟติดไว้ให้

บันไดขั้นสุดท้าย สีลูกนอนของบันไดกับสีของพื้นชั้น 2 มีความใกล้เคียงกันอยู่ แต่จะมีตัวจบคั่นที่นูนขึ้นมา ทำให้เวลาเดินจะรู้สึกถึงความไม่เรียบเท่าไร

จากบันไดหันมาทางซ้ายมือจะเจอกับห้องนั่งเล่น ที่มีขนาดเล็กกว่าแบบที่แล้วประมาณครึ่งนึงอยู่ส่วนหน้าบ้าน ฝั่งหนึ่งก็จะเป็นการวางชุดโซฟา โต๊ะกลาง

ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะวางชั้นวางทีวี ชั้นวางของปกติ

มาที่ห้องนอนเล็กที่อยู่ส่วนหลังของห้องนั่งเล่นนะคะ

ภายในห้องนอนเล็กก็จะวางเตียงชิดมุมด้านใน พื้นที่ข้างเตียงก็จะเป็นโต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า และทางเข้าห้องน้ำ ส่วนปลายเตียงก็จะเป็นโต๊ะทำงานได้ ตำแหน่งแอร์อยู่ข้างเตียงด้านใน ช่องแสงมีจากทั้งข้างบ้านและหลังบ้าน

ปลายเตียงในห้องนี้จัดแบบเรียบๆ ความจริงแล้วก็จะมีตู้ มีชั้นวางหนังสือเพิ่มเติมอีกก็จะดูไม่แน่นไป

ส่วนมองจากภายในห้องออกไปยังประตูทางเข้าก็จะเห็นว่ามี 2 ประตู บานที่เปิดอยู่คือบานที่เราเปิดเข้ามาจากทางเดินตรงกลางของชั้น 2 ส่วนประตูบานที่ปิดอยู่ทางซ้ายมือคือบานที่เปิดจากห้องน้ำตรงกลาง โดยห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำที่มี 2 ประตู เข้าได้จากทั้งห้องนอนนี้และจากทางเดินตรงกลาง

ทางเข้าห้องน้ำมีทั้งจากห้องนอนเล็กที่เราเข้าไปเมื่อซักครู่คือบานทางขวา และบานทางซ้ายคือบานที่เปิดจากทางเดินตรงกลางชั้น 2 ถ้าเป็นบ้านที่ไม่มีแขกมามมากมายก็สามารถปิดประตูจากทางเข้าตรงกลางไปได้ เปิดให้เข้าได้แค่จากห้องนอน

ภายในห้องน้ำจะออกเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมหน่อย จึงมีการจัดวางพื้นที่ใช้สอยตามมุมต่างๆ อย่างมุมทางซ้ายเป็นอ่างล้างหน้า มุมด้านในคือโถสุขภัณฑ์ และมุมทางขวาคือส่วนพื้นที่อาบน้ำ มีช่องแสงจากหลังบ้านเป็นบานเลื่อน

อ่างล้างหน้าจาก American Standard มาพร้อมกับกระจกส่องหน้าบานไม่ใหญ่ มีการก่อปูนยื่นออกมาให้วางของได้เล็กน้อย

โถสุขภัณฑ์จาก American Standardข้างๆมีสายฉีดชำระ ที่ใส่ม้วนทิชชู และท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมห้อง

พื้นลดระดับลงไปนิดหน่อย ขนาดประมาณ 1.0 x 1.4 เมตร ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้

จากนั้นเราก็จะเปลี่ยนมาดูห้องนอนใหญ่ที่อยู่บนชั้น 2 หรือที่เรียกว่าห้อง Master bedroom จากบันไดขึ้นมาชั้นสองทางเข้าจะเป็นบานประตูทางขวาสุด

ภายในห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ ช่องแสงข้างบ้านเป็นบ้านเลื่อนตรงกลางและได้ช่องแสงจากหน้าบ้านที่เป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่กว่า ไฟด้านบนเป็นไฟซาลาเปากลมๆ

หันหน้าออกหน้าบ้าน มีแค่หน้าต่าง ไม่มีระเบียง

หันหน้าเข้ามาในบ้านบ้าง ทางซ้ายมือจะเป็นช่องที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ จะติดประตูบานเลื่อนใสๆกั้นพื้นที่หรือจะไม่ติดปล่อยเป็นโล่งๆไปก็ได้ ส่วนทางขวาเป็นห้องน้ำของห้องนอนใหญ่

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แบ่งเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา ฝั่งขวาคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าติดผนังและโถสุขภัณฑ์ และฝั่งซ้ายคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืนลดระดับลงไปนิดหน่อย ไม่มีฉากกั้นหรือว่าม่านมาให้ มีช่องแสงจากส่วนข้างบ้านเป็นบานเลื่อน

อ่างล้างหน้ามาพร้อมกับกระจกส่องหน้าบานไม่ใหญ่ มีการก่อปูนยื่นออกมาให้วางของได้เล็กน้อยตลอดความยาวผนัง โถสุขภัณฑ์ข้างๆมีสายฉีดชำระ ที่ใส่ม้วนทิชชู และท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมห้อง ทั้งสองส่วนมาจาก American Standard

ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืน มีฝักบัวมาให้ ขนาดพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 1.0 x 1.8 เมตร

จบจากพื้นที่ใช้สอยของชั้น 2 เราก็มาต่อกันที่บันไดจะขึ้นไปยังชั้น 3 กันเลย

เงยหน้าขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นว่าเป็นส่วนช่องแสงจากหน้าบ้านตรงกลาง ที่บอกว่าเป็นบาน Fixed

จากชานพักมองขึ้นไปบนทางเดินตรงกลางของชั้น 3 ก็จะมีด้วยกัน 4 ประตู ทางขวาคือห้องนอนกลาง และทางซ้ายสองบานคือห้องนอนเล็ก ส่วนบานตรงกลางคือห้องน้ำที่คนอยู่อาศัยของห้องนอนเล็กจะต้องใช้ห้องน้ำนี้ร่วมกัน

เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนกลางทางขวามือกันก่อนนะคะ แล้วค่อยไล่ไปทางซ้ายเรื่อยๆ

ภายในห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆ ช่องแสงข้างบ้านเป็นบ้านเลื่อนตรงกลางและได้ช่องแสงจากหน้าบ้านที่เป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่กว่า ไฟด้านบนเป็นไฟซาลาเปากลมๆ

ปลายเตียงสามารถทำเป็นตู้วางของแบบ Built-in ได้เต็มผนัง หรือว่าจะเพิ่มโต๊ะทำงานด้วยก็ได้

หันหน้าเข้ามาในบ้านบ้าง ทางซ้ายมือจะเป็นช่องที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้ จะติดประตูบานเลื่อนใสๆกั้นพื้นที่หรือจะไม่ติดปล่อยเป็นโล่งๆไปก็ได้ ส่วนทางขวาเป็นห้องน้ำของห้องนอนกลาง

ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 3 ส่วน แบ่งเป็นสองฝั่งซ้าย-ขวา ฝั่งขวาคืออ่างล้างหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าติดผนังและโถสุขภัณฑ์ และฝั่งซ้ายคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืนลดระดับลงไปนิดหน่อย ไม่มีฉากกั้นหรือว่าม่านมาให้ มีช่องแสงจากส่วนข้างบ้านเป็นบานเลื่อน

ต่อมาเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่มุมด้านใน ที่มีประตูเปิดมาเจอกับห้องน้ำตรงกลางได้เลย

ภายในห้องนอนเล็กก็จะวางเตียงชิดมุมด้านใน พื้นที่ข้างเตียงก็จะเป็นโต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า และทางเข้าห้องน้ำ ส่วนปลายเตียงก็จะเป็นโต๊ะทำงานได้ ตำแหน่งแอร์อยู่ข้างเตียงด้านใน ช่องแสงมีจากทั้งข้างบ้านและหลังบ้าน

วนมองจากภายในห้องออกไปยังประตูทางเข้าก็จะเห็นว่ามี 2 ประตู บานทางขวาคือเข้าได้จากทางเดินตรงกลางของชั้น 2 ส่วนประตูบานทางซ้ายมือคือบานที่เปิดจากห้องน้ำตรงกลาง โดยห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำที่มี 2 ประตู เข้าได้จากทั้งห้องนอนนี้และจากทางเดินตรงกลาง

ภายในห้องน้ำจะออกเป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมหน่อย จึงมีการจัดวางพื้นที่ใช้สอยตามมุมต่างๆ อย่างมุมทางซ้ายเป็นอ่างล้างหน้า มุมด้านในคือโถสุขภัณฑ์ และมุมทางขวาคือส่วนพื้นที่อาบน้ำ มีช่องแสงจากหลังบ้านเป็นบานเลื่อน

ต่อมาเป็นห้องนอนเล็กบนชั้น 3 อยู่ส่วนหน้าบ้าน แต่ในบ้านตัวอย่างจะแต่งเป็นห้องทำงานนะคะ

มุมจากประตูทางเข้า

มีช่องแสงจากทั้งหน้าบ้านและข้างบ้าน

planL

แบบบ้านสุดท้ายเป็นแบบบ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการคือแบบ Bloom ขนาดที่ดินมาตรฐาน 62 ตร.วา บ้าน 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 260 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องพระ 4 ที่จอดรถ โดยบ้านแบบนี้จะคล้ายกับบ้านแบบ Blossom หรือแบบที่ขนาดเล็กที่สุด โดยมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือห้องนอน 4 ที่อยู่บนชั้น 1 ของบ้าน ซึ่งนั่นทำให้ห้องนอนใหญ่บนชั้น 2 มีรูปร่างเป็นตัว L ใหญ่ขึ้นไปอีก ส่วนชั้น 3 พื้นที่ใช้สอยก็จะเหมือนเดิม

บ้านแบบนี้เหมาะสมกับคนที่ชอบบ้านแบบ Blossom แต่ต้องการเนื้อที่ดินรอบบ้านที่เยอะขึ้นมาอีก เลยขยับมาที่แบบ Bloom หรือมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่นอนชั้น 1 ได้โดยไม่ต้องขึ้นบันได ความจริงห้องที่เพิ่มเข้ามาก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์เล็กๆได้อีกห้องหนึ่ง

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 7 October 2015

  • แบบ Blossom (Size S) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 52.3 ตารางวา ราคา 6.99 ล้านบาท หรือ 133,650 บาท/ตารางวา
  • แบบ Blush (Size M) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 54.3 ตารางวา ราคา 7.29 ล้านบาท หรือ 134,250 บาท/ตารางวา
  • แบบ Blush (Size M) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 52.3 ตารางวา ราคา 7.29 ล้านบาท หรือ 139,380 บาท/ตารางวา
  • แบบ Bloom (Size L) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ขนาดที่ดิน 61.3 ตารางวา ราคา 8.49 ล้านบาท หรือ 138,500 บาท/ตารางวา

  • โปรโมชั่น
  • ฟรี แอร์ทั้งหลัง Size S – 5 เครื่อง, Size S – 6 เครื่อง และ Size L – 6 เครื่อง
  • ฟรี Wallpaper ทั้งหลัง
  • ฟรี ระบบสัญญาณกันขโมยจับความเคลื่อนไหวภายในบ้านและประตู-หน้าต่าง
  • ฟรี จัดสวนรอบบ้าน
  • ฟรี ปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำตามมาตรฐานโครงการ

  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% ของราคาขาย-50,000 บาท (ภายใน 7 วันหลังจากวันจอง)
  • ไม่มีผ่อนดาวน์ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ทันที
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

Casa Premium พระราม2 ตั้งอยู่บนเขตบางขุนเทียน ที่อยู่ทางใต้ของกรุงเทพ ใกล้กับจังหวัดสมุทรสาคร เข้าโครงการได้จากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งใต้ พื้นที่รอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา และหมู่บ้านจัดสรรแนวราบทั้งจากเจ้าใหญ่ๆและเจ้าท้องถิ่น สิ่งปลูกสร้างนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยจะหาได้ยากจากถนนเลียบวงแหวนนี้ นอกจากจะเข้าซอยท่าข้าม ซอยอนามัยเจริญงาม หรือถนนประชาอุทิศถึงจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัย และมีหมู่บ้านจัดสรรพักอาศัยที่ขนาดที่ดินเล็กลงแทรกอยู่บ้าง สามารถเข้า-ออกเมืองได้จากซอยลัดไปออกถนนพระราม 2 ถนนสุขสวัสดิ์ หรือว่าจะเป็นเส้นวงแหวนหรือทางด่วน ความอุดมสมบูรณ์ก็จะมีอยู่แถวพระราม 2 เลย ไม่ว่าจะเป็น Central พระราม2, BigC, Lotus ส่วนโรงพยาบาลก็มีทั้งนครธร บางปะกอกหลายสาขา และโรงเรียนทั้งสวนกุหลาบธนบุรี และม.พระจอมเกล้าธนบุรี

การเดินทางโดยใช้รถ สามารถเข้า-ออกได้จากทั้งถนนใหญ่และซอยลัดหลายเส้นทาง แต่ทุกเส้นทางก็จะมาบรรจบกันที่ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกทั้งหมด การเดินทางถ้ามาจากทางด่วนที่ข้ามมาจากสะพานพระราม9 ฝั่งพระนครก็ลงที่สุขสวัสดิ์ แล้วขับลงใต้มาเรื่อยๆเข้าที่ซอยสุขสวัสดิ์ 74 เพื่อเข้าถนนเลียบวงแหวน หรือว่าถ้ามาจากวงแหวนจากทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกก็สามารถลงได้ที่ฝั่งตรงข้ามกับ Major Hollywood แล้วขับเส้นทางเดียวกัน หรือว่าถ้ามาจากถนนพระราม 2 ก็จะตัดเข้าที่ซอยท่าข้ามแล้วเข้าซอยอนามัยเจริญงาม หรือว่าจะมาจากทางถนนพุทธบูชาแล้วเข้าที่เส้นประชาอุทิศอีกทีนึง เส้นทางที่ใช้ลงใต้ไปสมุทรสาครก็จะต้องใช้เส้นบางขุนเทียนที่สามารถไปได้ทั้งอัมพวาและพันท้ายนรสิงค์

วัสดุของโครงการนี้ใช้โครงสร้างแบบอิฐมวลเบาฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง และ Wallpaper สีเรียบให้มาตามโปรโมชั่น พื้นที่ชั้นล่างส่วนใหญ่จะได้เป็นกระเบื้องสีอ่อนขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้นบนที่เป็นส่วนนั่งเล่นและห้องนอนพื้นจะได้พื้นไม้ลามิเนต รวมถึงลูกนอนของบันไดด้วย พื้นระเบียงและพื้น-ผนังภายในห้องน้ำจะได้กระเบื้องเซรามิคขนาดต่างๆกันไปปูถึงฝ้าเพดาน หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมสีขาว ประตูห้องนอนและห้องน้ำเป็น UPVC มือจับเป็นลูกบิดทั้งหมด ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard หรือเทียบเท่า

การออกแบบของโครงการ เริ่มจากพื้นที่โครงการเป็นรูปร่างออกจะแปลกๆ ทำให้ซอยย่อยแต่ละซอยมีความลึกไม่เท่ากัน จำนวนยูนิตก็จะไม่เท่าตามไปด้วย แต่ความลึกตั้งแต่ทางเข้าไปจนสุดโครงการไม่มาก ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นไปได้ง่ายขึ้น ส่วนพื้นที่สีเขียวตั้งแต่ทางเข้าก็จะเห็นได้ว่าสมบูรณ์ดี หญ้าเขียวขึ้นเต็ม ต้นไม้กำลังโต Facility ที่ย้ายเข้าไปอยู่ท้ายโครงการที่สุดซอย 8 ทำให้การเข้าถึงของผู้พักอาศัยไม่กองอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง ท้ายซอยแต่ละซอยสามารถผ่านกันได้ ทำให้ไม่เป็นทางตันและดูเงียบเหงา พื้นที่ท้ายซอยบางส่วนที่เป็นพื้นที่สีเขียวก็เป็นส่วนกลางของโครงการ ไม่ใช่พื้นที่ขาย 

บ้านภายในโครงการเป็นบ้านแบบ 3 ชั้น มีทั้งหมด 3 แบบ พื้นที่ใช้สอยจะเยอะมากกว่าแบบ 2 ชั้นอยู่แล้ว จำนวนห้องต่างๆอาจจะแตกต่างกันไม่มาก แต่ว่าขนาดห้องแต่ละห้องจะชัดเจนกว่าใหญ่กว่าเยอะ ห้องนอนทุกห้องก็พยายามที่จะมีห้องน้ำในตัวเกือบหมด ห้องนั่งเล่นก็มีขนาดใหญ่ และมีห้องเอนกประสงค์เพิ่มมาอีกจุดหนึ่ง ใครที่ชอบแบบห้องใหญ่ จำนวนห้องน้อยหน่อยก็จะเหมาะกับห้องแบบ Blossom และ Bloom ส่วนใครที่ครอบครัวใหญ่ มีจำนวนสมาชิกเยอะ ไม่มายด์ห้องขนาดเล็กลงมาหน่อยก็จะเหมากับบ้านแบบ Blush ช่วงโปรโมชั่นนอกจากจะแถมแอร์ทั้งบ้าน แล้วก็ยังติด Wallpaper จัดสวนให้รอบบ้าน และติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้ด้วย

สาธารณูปโภค จากซุ้มหน้าโครงการถือว่าใหญ่มากๆ มีป้อมพี่ยามและไม้กั้นอัตโนมัติกระดกเปิด-ปิดที่ใช้ Keycard Access ระยะใกล้ในการเปิดแล้วก็มีระบบ CCTV ที่ Main Gate 2 จุด และที่ท้ายโครงการซอย 8 ก็จะมีสวนสาธารณะอยู่ข้างๆกับส่วน Clubhouse ที่เป็นอาคาร 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องนั่งเล่นที่มีห้อง Pantry อยู่ด้านใน มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง และบันไดขึ้นไปชั้น2 ที่เป็นห้องฟิตเนส ส่วนพื้นที่ Outdoor ด้านนอกก็จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำที่มีสระเด็กด้วย ข้างสระก็จะปูด้วยไม้สำเร็จเป็นพื้นที่นั่งเล่นทั้งชุดเก้าอี้และแบบ Daybed นอกจากดีไซน์ที่แปลกใหม่ของอาคาร Clubhouse แล้วก็ยังมีลูกเล่นน้ำไหลเล่นกับพื้นที่อยู่ที่ทางเข้าของ Facility ที่เป็นการหมุนเวียนเอาน้ำจากสระว่ายน้ำแบบน้ำล้นมาเล่น 

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 7 October 2015

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ทางเข้าโครงการติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ ค่อนข้างเงียบ
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – Keycard Access ระยะใกล้เปิดที่กั้นไม้กระดก รปภ.หลายจุด และสัญญาณกันขโมย
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.25/10 – แบบบ้าน 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเยอะ ไม่มีระเบียงหน้าบ้านเลย
  • วัสดุ 7.25/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – โครงการเรียบร้อย ดูแลพื้นที่สีเขียวดีมาก หน้าซอยและท้ายซอยมีพื้นที่สีเขียวที่ไม่ใช่พื้นที่ขาย 
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ออกแบบ Clubhouse แปลกตา สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่นั่งเล่นพร้อม
  • 7.31 / 10.00

BOTTOM LINE

Casa Premium พระราม2 ถือว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ทางฝั่งตะวันตอนใต้ของกรุงเทพ เหมาะสำหรับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยับขยายครอบครัว หรือคนทำงานในแถบนั้นอยู่แล้ว สำหรับคนที่สนใจต้องมีงบประมาณ 7 – 8.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 49,000 – 60,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )