รีวิวฉบับที่ 1385 … สวัสดีค่ะ วันนี้พาไปชมบ้านเดี่ยวย่านรังสิตกับโครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern English บนถนนเลียบคลอง 3 จากมานะ พัฒนาการ ที่เน้นออกแบบบ้านแบบหน้ากว้าง ดูโปร่งโล่ง และจัดเต็มกับวัสดุที่ให้มาเยอะและเกรดดีทีเดียว เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวขนาดใหญ่ มีสมาชิกในบ้านถึง 5-6 คน บนทำเลรังสิตนี้ ในราคาเริ่มต้น 5.7 ล้านบาท ใครสนใจตามมาอ่านรีวิวกันค่ะ

 

Fact @ 04 July 2017

  • Baranee Residence Rangsit Klong 3 (บารานี เรสซิเดนซ์ รังสิตคลอง 3)
  • บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
  • เนื้อที่โครงการ 34-1-34ไร่ จำนวน 140 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

  • Earl Grey ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Darjeeling ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • ราคาเริ่มต้น 5.7 ล้านบาท
  • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 39,000 บาท
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย : 02-901-0100
  • ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 14.055518, 100.663247

    โครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลอง 3 ระหว่างถนนใหญ่อย่าง ถนนรังสิต-นครนายกและถนนบางขันธ์-คลองหลวง ซึ่งตัวโครงการจะอยู่ค่อนไปทางถนนบางขันธ์-คลองหลวงนะคะ การเดินทางบนถนนเส้นนี้ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักในการเดินทาง ซึ่งถือว่ามีความสะดวกในการเดินทางพอสมควร มีตัวเลือกในการเดินทางทั้งถนนบางขันธ์-คลองหลวง และถนนรังสิต-นครนายก เพื่อวิ่งเข้าตัวเมืองผ่านถนนพหลโยธิน หรือใครเน้นใช้ Motorway (ถนนกาญจนาภิเษก) ก็สะดวกเช่นกันค่ะ

    สำหรับที่ตั้งโครงการนั้นเน้นการเดินทางหลักๆ เลยไปที่ถนนบางขันธ์-คลองหลวง ทั้งวิ่งเข้าเมืองผ่านเส้นพหลโยธินและวิ่งขึ้น Motorway จะสะดวกที่สุด เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ค่อนมาทางถนนบางขันธ์-คลองหลวงมากกว่า ข้อดีของถนนเส้นนี้คือการจราจรไม่ติดขัดเท่าถนนรังสิต-นครนายกที่จัดเป็นถนนสายฮอตฮิต และเป็นสายหลักในการเดินทางของใครหลายคน เนื่องจากถนนเส้นนี้ตัดผ่าน Node ใหญ่ในย่านรังสิต เช่นห้าง Future Park รังสิต และใกล้สนามบินดอนเมืองมากกว่า ทำให้ถนนรังสิต-นครนายกการจราจรจะหนาแน่นเกือบตลอดทั้งวันเลยค่ะ และอีกอย่างที่ถนนบางขันธ์-คลองหลวงได้เปรียบเรื่องการเดินทางคือปัจจุบันมีสะพานข้ามบริเวณหน้าวัดธรรมกายและตลาดไท เพื่อลดการจราจรติดขัดมากขึ้น ไม่ต้องติดไฟแดง สามารถวิ่งยาวๆ เข้าเส้นพหลโยธินได้เลย

    ส่วนใครเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้นต้องออกมาบนถนนรังสิต-นครนายกแล้วต่อรถอีกทีนะคะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งรถเมล์ รถตู้ และแท็กซี่มากมายค่ะ ถ้าเป็นภายในถนนเลียบคลอง 3 เองนั้นก็ต้องอาศัยพี่แท็กซี่จะสะดวกสุด

    สำหรับใครที่เน้นพึ่งพาถนนกาญจนาภิเษก (มอเตอร์เวย์) เป็นหลักจัดว่าสะดวกนะคะ เพราะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์มากนัก มีระยะห่างประมาณ 5 กม. จัดเป็นระยะที่ขับรถได้สะดวก

    ความอุดมสมบูรณ์ละแวกโครงการเรียกว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงเลยก็ว่าได้ แค่ในถนนเลียบคลอง 3 เองก็มีครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วค่ะ ทั้ง Hyper Market อย่าง Big C และตลาดสด 2 ตลาดหลักๆ อย่างตลาดสมบูรณ์ไทยและตลาดพระยาสมาน รวมไปถึงร้านค้าร้านอาหารรายย่อยต่างๆ ก็มีให้เลือกเยอะมากตามริมถนนกันเลย ไม่ต้องออกไปไหนไกลเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนบนถนนเลียบคลอง 3 อีกหลายโรงเรียนมากๆ เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ปกครอง ให้ลูกหลานเรียนโรงเรียนใกล้ๆ บ้านได้ ไม่ต้องตื่นเช้า รถติดหรือเสียเวลาไปรับ-ส่งเลยค่ะ

    และสำหรับใครที่มองหาห้างสรรพสินค้า เดิน กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง ดูหนังในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เป็นศูนย์กลางหลักๆ เลยก็จะเป็นบริเวณแยกต่างระดับรังสิต ที่มีห้างดังย่านรังสิตอย่าง Future Park รังสิต, Zpell ที่ตอบโจทย์ได้ครบทั้งหมดเลย

    สำหรับการเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มต้นจากถนนรังสิต-นครนายก บริเวณใกล้กับถนนเลียบคลอง 3 นะคะ จากนั้นกลับรถเข้าถนนเลียบคลอง 3 เพื่อดูบรรยากาศบนถนนกันค่ะว่าเป็นอย่างไร จากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 6.5 กม. นับจากหน้าปากซอย ก็จะถึงหน้าโครงการที่อยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

    เริ่มต้นกันบนถนนรังสิต-นครนายกฝั่งมุ่งหน้าไปทางถนนพหลโยธินนะคะ ด้านขวามือจะเป็น M Park ที่มี McDonald’s เปิดขายอยู่ด้านใน บริเวณ M Park นี้จะอยู่ใกล้กับทางเข้าถนนเลียบคลอง 3 เลยค่ะ โดยเราจะตรงเลยไปก่อนแล้วหาที่กลับรถที่ใกล้ที่สุดกันนะคะ

    ขับตรงมาอีกหน่อยผ่าน Pure Place เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดกะทัดรัด ภายในมี Maxvalu และร้านค้าปลีกให้มาเดินซื้อของกันได้ค่ะ

    ตรงมาอีกหน่อยก็เจอจุดกลับรถเลยค่ะ จุดสังเกตคืออยู่ใกล้กับศูนย์รถยนต์ Toyota นั่นเองค่ะ

    เมื่อกลับรถมาแล้ว ขับตรงมาอีกสักหน่อย สังเกตว่าก่อนถึงสะพานลอยที่ติดป้ายใหญ่ๆ ว่าสุดเขตเทศบาลรังสิตขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ก็เตรียมเบี่ยงซ้ายเข้าซอยได้เลยค่ะ

    เข้าซอยมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายต่อเลย บริเวณนี้คือปากทางถนนเลียบคลอง 3 นั่นเองค่ะ

    บนถนนคลอง 3 จะคึกคักเกือบตลอดทั้งเส้นเลยนะคะ เนื่องจากบนถนนนี้มีหมู่บ้านอยู่เยอะมากทีเดียว นับๆ ก็หลายพันครัวเรือนเห็นจะได้สบายๆ ดังนั้นร้านค้าต่างๆ ก็พากันมาเปิดเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างเยอะมากในถนนเส้นนี้ จะเห็นร้านค้าเปิดเรียงรายเต็มถนนฝั่งซ้ายมือเลยนะคะ ส่วนฝั่งขวานั้นจะอยู่ติดกับคลอง 3 และส่วนใหญ่ก็จะเป็นหมู่บ้านต่างๆ ที่มีสะพานข้ามคลองเชื่อมมาเข้าถนนเลียบคลอง 3

    ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นโรงเรียนต่างๆ ที่มาเปิดบนถนนเส้นนี้ค่ะ

    ถัดมาก็จะเป็นโรงเรียนรัฐบาลอย่างสามัคคีราษฎร์บำรุง

    ถัดมามีตลาดพระยาสมานและโรงเกลือ ไว้ให้จับจ่ายซื้อของกันได้ค่ะ

    ถัดมาคือศูนย์กลางความเจริญบนถนนเลียบคลอง 3 เลย นั่นก็คือ Big C นั่นเองค่ะ จัดเป็น Hyper Market ที่ใกล้โครงการมากที่สุดนะคะ โดยอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 2.5 กม.

    ขับตรงมาก็เจอตลาดไทยสมบูรณ์ค่ะ ซึ่งภายในมีทั้งตลาดสดและศูนย์อาหารด้วยนะ

    ผ่านวัดเกิดการอุดมมา

    ขับตรงมาเรื่อยๆ อีกหน่อยก็จะเจอทางเข้าโครงการฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ และไม่ไกลจากนี้ฝั่งขวามือที่มีหลังคาเป็นโดมสีแดงนั้นคือโรงเรียนสารสาสน์วิเทศคลองหลวงค่ะ โดยห่างจากโครงการไปเพียง 400 ม.เท่านั้นเอง ใครมีลูกหลานก็มาฝากเรียนที่นี่ได้นะ ไม่ต้องขับรถไปรับ-ส่งไกล เสียเวลาการเดินทางด้วย

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    สภาพแวดล้อมโครงการส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบสลับกับพื้นที่ดินเปล่า ซึ่งจัดเป็นทำเลที่มีความสงบพอสมควรนะคะ จะมีคึกคักในช่วงต้นๆ ติดถนนเลียบคลอง 3 ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการดูโล่งๆ สบายๆ ซึ่งสรุปได้ดังนี้ค่ะ

    • ทิศเหนือ : พื้นที่ดินเปล่า สลับกับบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น
    • ทิศตะวันออก : ถนนเลียบคลอง 3
    • ทิศใต้ : พื้นที่ดินเปล่า
    • ทิศตะวันตก : ถนนขนาด 2 เลน

     

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • รร.สารสาสน์วิเทศคลองหลวง ~ 400 เมตร
    • วัดเกิดการอุดม ~ 750 เมตร
    • Whizio ~ 1.1 กม.
    • ตลาดไทยสมบูรณ์ ~ 1.3 กม.
    • บิ๊กซี รังสิตคลอง 3 ~ 2.58 กม.
    • วัดพระธรรมกาย ~ 3 กม.
    • ตลาดพระยาสมาน ~ 3.1 กม.
    • Botany Life style Mall ~ 3.2 กม.
    • รร.สิวลี 2 ~ 3.9 กม.
    • ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ~ 7 กม.
    • รพ.เอกปทุม ~ 8.1 กม.
    • Pure Place ~ 8.1 กม.
    • รร.โชคชัยรังสิต ~ 8.2 กม.
    • ม.กรุงเทพ ~ 8.4 กม.
    • ตลาดไท ~ 9 กม.
    • Tara Avenue ~ 9.2 กม.
    • พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ~ 9.5 กม.
    • ม.นอร์ท กรุงเทพ รังสิต ~ 10 กม.
    • บุญถาวร รังสิต ~ 10.1 กม.
    • Dream World ~ 11 กม.
    • Central M (โครงการ) ~ 11.1 กม.
    • ไทวัสดุ รังสิต ~ 11.3 กม.
    • Mega รังสิต(โครงการ) ~ 11.5 กม.
    • Future Park รังสิต / Zpell  ~12.8 กม.
    • Major รังสิต ~12.8 กม.
    • รพ.ธัญญารักษ์ ~ 12.9 กม.
    • รพ.ปทุมเวช ~13.4 กม.
    • รพ.แพทย์รังสิต ~ 14.5 กม.
    • รพ.ธัญบุรี ~ 14.6 กม.
    • ม.อีสเทิร์น เอเชีย ~ 15.4 กม.
    • เซียร์รังสิต ~ 15.6 กม.
    • รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ~ 18.6 กม.

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    Master Plan โครงการ Baranee Residence ลักษณะเป็นที่ดินแบบยาว โดยด้านหน้าโครงการหรือทิศตะวันออกนั้นติดกับถนนเลียบคลอง 3 ยาวไปถึงถนนด้านหลังที่สามารถไปเชื่อมเข้าถนนคลองหลวงได้ค่ะ ทำให้ทางเข้า-ออกของตัวโครงการสามารถเปิดทางเข้า-ออกได้ทั้งจากถนนเลียบคลอง 3 และถนนด้านหลังโครงการ ช่วยเพิ่มช่องทางการเดินทางได้มากขึ้น ซึ่งหากถนนหลักอย่างเลียบคลอง 3 รถติดนั้น เราก็ยังมีถนนหลังโครงการที่สามารถไปทะลุออกถนนคลองหลวงได้อีกเช่นกันค่ะ

    และเนื่องจากผังโครงการที่เป็นแบบหน้าแคบยาวนั้น ก็มีข้อดีคือตำแหน่งของตัวบ้านที่หันหน้าเข้าหาถนนหลักเลย ไม่มีซอยย่อย ทำให้การสัญจรภายในโครงการค่อนข้างสะดวกทีเดียวค่ะ ส่วนขนาดของถนนหลักนั้นก็มีความกว้างถึง 16 ม. และมีบางส่วนที่ลดลงมาเหลือ 12 ม. ซึ่งก็ยังจัดว่ามีขนาดความกว้างพอสมควรเลยค่ะ รถสวนไปมาได้สะดวก ในส่วนของตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น และ Club House นั้นจะอยู่บริเวณโซนกลางๆ ค่อนไปทางด้านหลังโครงการนะคะ ซึ่งการวางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนกลางไว้บริเวณนี้ก็เพื่อที่จะให้ลูกบ้านภายในโครงการทั้งโซนด้านหลังและด้านหน้าได้มาใช้งานได้ง่าย และได้บรรยากาศที่ค่อนข้างสงบ ไม่คึกคัก เหมือนบริเวณด้านหน้าโครงการ แต่ก็แลกมากับพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่จะไม่ได้ใช้งานในเชิงของการเป็นเสมือนพื้นที่ต้อนรับแขกของลูกบ้าน เหมือนพื้นที่ส่วนกลางที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าโครงการนะคะ

    ในส่วนของตำแหน่งหน้าบ้านนั้น จะหันไปทางทิศเหนือ-ใต้ทั้งหมดเลยค่ะ โดยทั้ง 2 ทิศนี้จัดเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วกับการวางหน้าบ้านนะคะ แต่ก็จะมีข้อดีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกบ้านว่าให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากกว่ากัน อย่างทิศเหนือนั้น จุดเด่นเลยคือเรื่องของทิศทางแดด

    จากด้านหน้าโครงการมีตกแต่งด้านหน้าออกมาได้สวยงามทีเดียวค่ะ โดยมีน้ำพุตกแต่งบริเวณด้านหน้าก่อนที่จะเซตพื้นที่เข้ามาภายในโครงการเล็กน้อยก่อนจะเข้าสู่ซุ้มทางเข้าโครงการ การเซตทางเข้า-ออกโครงการลึกเข้ามาในที่ดิน และห่างจากถนนระดับนึงนั้นเสียพื้นที่ขายไปอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ทางโครงการก็ยอมที่เสียพื้นที่ขายบางส่วนเพื่อแลกกับรูปลักษณ์โครงการที่ดูสวยงาม รวมทั้งบริเวณด้านหน้านี้ก็สามารถใช้เป็นจุด Drop-Off หรือจุดรับ-ส่งลูกบ้านได้ด้วยค่ะ

    ซุ้มโครงการจัดออกมาให้ดูสวยงามทีเดียวค่ะ มีหลังคาด้านบนช่วยกันแดดและกันฝนได้ดีทีเดียว ส่วนลักษณะการเข้า-ออกจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง แยกทางเข้า-ออกจากกัน และตรงกลางเป็นป้อมยาม ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ง่ายจากทั้ง 2 ฝั่ง

    สำหรับที่นี่นั้นจะเน้นเรื่องความปลอดภัยหรือ Security เป็นสำคัญนะคะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการเลยที่จะได้แบบ Double Gate คือมีทั้งไม้กระดกอัตโนมัติและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ รวมทั้งมีจุดสแกนบัตรเข้า-ออก ด้วย Keycard Access แบบระยะใกล้นะคะ ซึ่งประตูสำหรับลูกบ้านที่ใช้เดินเข้า ที่อยู่ด้านข้างของประตูใหญ่ก็ต้องใช้บัตรทาบเพื่อเข้าโครงการเช่นเดียวกันนะคะ ยังไม่รวมถึงกล้อง CCTV ที่จะติดให้บริเวณหน้าโครงการและตลอดถนนหลักในโครงการเลยค่ะ

    เข้ามาภายในโครงการ ลักษณะของถนนจะเป็นแบบ Boulevard หรือมีเกาะกลางแบ่งทางเข้าและทางออกชัดเจน ช่วยให้การสัญจรภายในโครงการเป็นระเบียบ ลดอุบัติเหตุได้ดี โดยความกว้างถนนในช่วงนี้จะมีความกว้างอยู่ที่ 16 ม. นะคะ ดูกว้างขวางดีเลย

    บรรยากาศถนนร่มรื่นมาก ที่นี่จัดสวนมาให้เต็มที่ทีเดียวค่ะ

    สำหรับโครงการที่ออกแบบให้หน้าบ้านหันหน้าเข้าหากันแบบนี้นั้น ในการใช้ชีวิตในบ้านจริงๆ เราอาจจะต้องปิดม่านบ้างเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวต่างๆ นะคะ เนื่องจากมองออกไปนอกหน้าต่างก็สามารถเห็นเพื่อนบ้านยืนยิ้มได้เลย แต่ที่นี่จะไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้เสียทีเดียวนะ เนื่องจากเกาะกลางถนนที่ทางโครงการทำมาให้นี้ปลูกต้นไม้ใหญ่มาให้เยอะมาก ซึ่งข้อดีในการจัดพื้นที่สีเขียวให้ขนาดนี้เลย นอกจากความร่มรื่น หรือสบายตาเมื่อมองออกมาหน้าบ้านแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้นด้วยนะ แทนที่เราจะมองไปเห็นบ้านฝั่งตรงข้าม

    ตลอดด้านข้างถนนนั้นก็ปลูกต้นไม้แบบยืนต้นให้เช่นกันนะคะ ทำให้ลูกบ้านแต่ละหลังได้อานิสงค์ความร่มรื่นจากพื้นที่ส่วนกลางกันไปแบบเต็มๆ

    ถัดเข้ามาอีกหน่อยถนนจะแคบลงมาเหลือความกว้างอยู่ที่ 12 ม. ซึ่งก็เหมือนตัดเกาะกลางถนนออกไปแค่นั้นเอง เพราะความกว้างของถนนยังเท่าเดิมเลยจริงๆ ในความรู้สึก

    เดินมายังโซนกลางๆ ค่อนไปทางด้านหลังโครงการนั้นก็จะเจอพื้นที่ส่วนกลางกันแล้วนะคะ

    ซึ่งด้านข้างของพื้นที่ส่วนกลางนี้มีการจัดฟุตบาทให้เดินได้ง่ายดีมากๆ

    เข้ามาบริเวณพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะเจอกับสนามเด็กเล่นกันก่อนเลยค่ะ

    ภายในสนามเด็กเล่นจะมีบ่อทราย ที่ไม่ใช่เพียงบ่อทรายทั่วไปนะ ยังมีเกมส์ให้เด็กๆ ได้ใช้ทักษะกันอีกด้วยค่ะ ส่วนประตูที่กั้นอยู่นั้นก็ตั้งใจออกแบบมาเพื่อกันไม่ให้สุนัขเข้ามาใช้งานได้นั่นเอง

    ถัดจากบ่อทรายก็จะเป็นพื้นที่สนามเด็กเล่น ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องเล่นใหญ่พร้อมสไลเดอร์ 1 ชุด และม้าโยกอีก 3 ตัว บริเวณพื้นส่วนนี้ดูด้วยวัสดุกันลื่นและค่อนข้างนุ่มเพื่อลดแรงกระแทกของเด็กๆ ในเวลาวิ่งเล่นหรือหกล้มจะได้ไม่เจ็บมากนะ

    เลี้ยวมาทางฝั่งซ้ายกันต่อ บริเวณนี้จัดพื้นที่สวนออกมาได้สวยทีเดียวค่ะ น่าเดินเล่นมากๆ รอบๆ ทางเดินก็มีจัดพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ให้ไว้นั่งเล่นนั่งคุยกันได้ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น

    บริเวณพื้นที่นั่งเล่นออกแบบด้วยไม้เป็นหลัก โดยส่วนหลังคาพื้นที่นั่งเล่นนั้นถูกออกแบบให้พอกันแดดได้บ้างนะแต่ไม่สามารถกันฝนได้นะคะ ภายในมีจัดเก้าอี้และโต๊ะสนามมาด้วย

    ถัดจากสวนสาธารณะมานั้นจะเป็นส่วน Club House ค่ะ ซึ่งที่นี่ทำออกมาได้สวยและน่าใช้งานทีเดียวค่ะ รูปแบบการออกแบบเน้นความ Modern ชัดเจน ด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำแบบ Outdoor และด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor เพื่อให้ได้นั่งเล่นกันชิลๆ ในร่มค่ะ ส่วนชั้นบนนั้นเป็นส่วนห้องฟิตเนสค่ะ ซึ่งได้กระจกที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียว สามารถมองวิวสวนขณะออกกำลังกายได้ดีเลยค่ะ

    เราเดินมาที่ทางเข้าส่วน Club House จากสวนสาธารณะกันต่อนะคะ บริเวณทางเดินนี้ก็มีการออกแบบได้น่าสนใจและดูสวยงามดีทีเดียวค่ะ โดยเริ่มจากการทำเส้นทางเดินด้วยแผ่นหินขนาดใหญ่ เข้ามาที่ Approach หรือทางเข้าแบบเป็นทางแคบเพื่อให้ทางเดินดูน่าสนใจ มีเส้นทางที่ชัดเจน รวมทั้งเล่นด้านข้างด้วยระแนงไม้ และด้านบนติดไฟตลอดทางเดินดูสวยงามดีทีเดียวค่ะ

    ด้านข้างทางเดินเป็นสระว่ายน้ำที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวดูสะอาดสวยงามดีค่ะ แต่ก็อาจจะมีข้อเสียตรงที่ลื่นง่าย เวลาเดินขึ้นขอบสระตกระวังมากเป็นพิเศษหน่อย ด้านข้างของสระออกแบบเป็น Water Feature มีน้ำพุพุ่งออกมาทำให้ตัวสระดูมีชีวิตชีวาดี และในส่วนของขนาดสระว่ายน้ำนั้นมีขนาด 11.9×5.9 เมตร ลึก 1.2 ม. จัดเป็นสระขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มากแต่สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้ ส่วนสระเด็กที่อยู่ด้านในมีขนาด 3.5 x 4.85 เมตร

    ส่วนที่ติดกับสระว่ายน้ำนั้นจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ที่วาง Day Bed ไว้ให้นั่งเล่นได้ ด้านบนติดตั้งระแนงไม้ ซึ่งสามารถกันแดดได้ระดับนึงนะคะ แต่ไม่สามารถกันฝนได้นะ

    วิวจากส่วน Day Bed มองไปยังสระว่ายน้ำและสวนสาธารณะด้านหลัง ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

    ถัดเข้ามาด้านในหลังส่วน Day Bed นั้นจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นเช่นเดียวกันค่ะ แต่นั่งได้สบายหน่อยและมีหลังคาชัดเจน ในส่วนนี้ติดพัดลมบนเพดานให้ด้วยนะคะ

    บริเวณนี้วางชุดที่นั่งโซฟาให้ได้นั่งชิล สบายๆ กันเลยค่ะ บรรยากาศบริเวณนี้ดีมากทีเดียวค่ะ เนื่องจากการออกแบบที่เป็นแบบ Semi-Outdoor ทำให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นเสมือนช่องลมไปในตัว มีลมพัดผ่านดีมากทีเดียวค่ะ

    ด้านหลังของพื้นที่นั่งเล่นนั้นจะกั้นด้วยระแนงไม้เป็นฉากเพื่อบังสายตาส่วนของห้องน้ำค่ะ ลักษณะของทางเข้าห้องน้ำเลยจะเป็นโถงทางเดินแบบนี้อยู่ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่นนั้นเอง โดยห้องน้ำที่นี่จะแบ่งชาย/หญิง ให้เรียบร้อย ภายในมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้อง Stream ด้วยนะคะ

    สำหรับห้องน้ำนั้นเราจะขอพาไปดูเพียงห้องน้ำผู้หญิงนะคะ เพราะห้องผู้ชายกับห้องผู้หญิงมีการตกแต่งและสุขภัณฑ์เหมือนกันเลย เมื่อเข้ามาภายในห้องน้ำจะเห็นว่าภายในดูโปร่งโล่ง และสว่างดีทีเดียวค่ะ เนื่องจากภายในได้หน้าต่างบานกระทุ้งและกระจกแบบฝ้า ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าได้ระดับนึง รวมทั้งสามารถระบายความชื้นภายในห้องน้ำได้ ซึ่งทำให้ห้องน้ำไม่อับอีกด้วยนะคะ

    ในส่วนของอ่างล้างมือนั้นมีให้ทั้งหมด 3 อ่างด้วยกัน ด้านหลังติดกระจกเงาขนาดใหญ่ให้เรียบร้อย และด้านข้างก็มีบริการไดร์เป่าผมรวมไปถึง คัตตอนบรัช และสำลีด้วยนะ เป็นบริการที่พร้อมมากค่ะ

    ด้านข้าง Built-in Locker ไว้ให้พร้อมสำหรับลูกบ้านสามารถเก็บสัมมาระตัวเองได้

    ภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำตกแต่งสวยงามน่าใช้งานค่ะ

    และในห้องน้ำทั้งชายและหญิงนั้นจะมีห้อง Stream ด้วยนะคะ ภายในสามารถจุคนได้ประมาณ 5 คนพร้อมๆ กันเลยค่ะ

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันต่อนะคะ

    เมื่อขึ้นมาแล้วด้านหน้าจะเห็นห้อง fitness เลย

    และบริเวณด้านข้างนั้นทำเป็นระเบียงเล็กๆ ให้ออกมายืนสูดอากาศกันได้ค่ะ

    อีกฝั่งนึงติดกับห้อง Fitness จัดให้เป็นห้องสำนักงานของนิติบุคคลในอนาคตนะคะ แต่ปัจจุบันยังเป็นห้องสำนักงานช่างอยู่

    ภายในห้อง Fitness จัดมาให้ใหญ่ทีเดียวค่ะ โดยวางเครื่องออกกำลังกายให้ทั้งหมด 8 เครื่อง ไม่รวมโซนเวทเทรนนิ่งอีก ซึ่งยี่ห้อเครื่องออกกำลังกายที่ใช้นั้นคือยี่ห้อ Matrix นะคะ เป็นยี่ห้อท็อปๆ ของเครื่องออกกำลังกายเลย บรรยากาศภายในโปร่งโล่งมากเพราะได้กระจกใหญ่และยาวตลอดผนังเลยทีเดียวค่ะ ส่วนด้านหลังนั้นติดกระจกเงาขนาดใหญ่ให้เพื่อที่สามารถดูและเช็คร่างกายตัวเองได้ ส่วนพื้นในห้อง Fitness นี้จะเป็นพื้นยางนะคะ พื้นผิวจะนุ่มหน่อยเพื่อกันการกระแทกได้ดี

    วิวจากเครื่องออกกำลังกาย ได้วิวสวนสาธารณะเต็มๆ ดูสบายตาดี

    ออกมาจากส่วน Club House กันแล้วนะคะ จะให้ดูทางเข้าอีกจุดของ Club House คือจากถนนหลักเลย เมื่อกี้นี้เราพาเดินเข้าจากสวนสาธารณะ สำหรับรูปด้านอาคารในด้านนี้ก็สวยไม่แพ้รูปด้านอาคารฝั่งที่หันไปทางสวนสาธารณะเลย

    สุดด้านหลังโครงการจะมีอีกทางเข้า-ออกนึง เป็นทางเข้า-ออกรองนะคะ ซึ่งสามารถออกไปยังถนนขนาดเล็กๆ ที่สามารถเชื่อมไปออกถนนคลองหลวงได้เลย ทำให้ลูกบ้านในโครงการมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น

    สำหรับทางเข้า-ออกด้านหลังโครงการนั้นจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนอัตโนมัติปกติค่ะ มีจุดสแกนบัตรแบบ Keycard Access ระยะใกล้เช่นเดิม และใครที่จะเดินออกนั้นก็มีประตูเล็กให้ใช้เช่นเดียวกันนะคะ และก็ต้องสแกนบัตรเช่นเดียวกับประตูใหญ่

    ออกมาจะเป็นถนนขนาดเล็ก สวนกัน 2 เลน ซึ่งความสำคัญของถนนนี้ก็คือเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนคลองหลวงได้ง่าย รถไม่ติด ไม่เหมือนกับถนนเลียบคลอง 3 เป็นตัวเลือกในการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน ไม่อยากรถติดค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาทั่วไปนั้นใช้ถนนเลียบคลอง 3 ก็จะดีกว่าค่ะ

     

    สิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งสระเด็กลึก และ สระผู้ใหญ่ลึก
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
    • สวนสาธารณะสไตล์ Tropical
    • Steam Room
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
    • รั้วรอบโครงการสูง 4 ม.
    • Key Card Access ระยะใกล้
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ เลื่อนไฟฟ้า
    • สัญญาณกันขโมย
    • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และกว้าง 12 ม.

     


    Product Walkthrough

    มาดูตัวบ้านของโครงการกันต่อนะคะ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ แบ่งออกเป็น

    • แบบบ้าน Earl Grey ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • แบบบ้าน Darjeeling ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

    โดยบ้าน Type แรกที่เราจะพาไปดูนั้นคือ Type Darjeeling ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม. บนเนื้อที่ดินมาตรฐาน 60 ตร.วา ลักษณะบ้าน Type นี้จะเป็นบ้านหน้ากว้าง ซึ่งข้อดีของบ้านแบบหน้ากว้างคือทำให้ภายในตัวบ้านดูโปร่งโล่ง กว้างขวาง เนื่องจากได้ช่องแสงขนาดใหญ่และเยอะ จากหน้าบ้าน รวมทั้งสามารถจัดฟังก์ชันได้ง่าย การออกแบบตัวบ้านนั้นออกมาในรูปแบบ Modern English ใช้โทนสีเข้ม Monotone ตัดด้วยสีน้ำตาลเข้ม ดูคลาสสิคสวยงาม

    ในส่วนของโครงสร้างบ้านนั้นใช้รูปแบบการสร้างแบบ Conventional หรือระบบเสา-คาน ซึ่งระบบ Conventional นี้นั้นจะนิยมเฉพาะบ้านที่มีราคาสูง เนื่องจากราคาค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างค่อนข้างสูง และกินเวลากว่าบ้านสำเร็จรูป ซึ่งก็แลกมากับ ความคงทนและอายุการใช้งานของโครงสร้างที่มากกว่าระบบสำเร็จรูป (ไม่ใช่เรื่องความแข็งแรงนะคะ) รวมทั้งสามารถดัดแปลงหรือจะต่อเติมบ้านได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของบ้านที่ใช้ระบบสำเร็จรูปนะคะ

    แปลนชั้น 1 – บริเวณด้านหน้าบ้านนั้นจะเป็นส่วนที่จอดรถ 2 คัน มีทางเข้าบ้านจากส่วนที่จอดรถได้เลย ส่วนทางเข้าหลักของบ้านนั้นจะอยู่อีกด้านซึ่งให้พื้นที่ทางเข้าเป็นเฉลียงหน้าบ้านขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ชมวิวสวนชิลๆ ได้เลย เข้ามาภายในบ้านจะเจอส่วนพื้นที่รับแขกหรือพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารเลย ด้วยลักษณะตัวบ้านที่เป็นบ้านหน้ากว้าง ทำให้ได้พื้นที่นี้ขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ ส่วนด้านหลังที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารนั้นจะเป็นห้องครัวชัดเจนเป็นสัดส่วน เหมาะกับการทำอาหารหนักได้ดี แต่ได้ขนาดครัวกะทัดรัดไม่ใหญ่มากนักค่ะ ถัดจากครัวนั้นจะเป็นโถงทางเดินไปยังส่วนลานซักล้างหลังบ้าน

    มาที่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านนั้นจัดให้เป็นห้องนอนสำหรับรองรับผู้สูงอายุในบ้าน ซึ่งภายในห้องนอนก็มีห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อยเลยค่ะ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีผู้สูงอายุภายในบ้านด้วย

    แปลนชั้น 2 – ขึ้นมาที่ชั้น 2 จากโถงบันไดที่ออกแบบมาเป็นรูปแบบบันไดวน เพื่อให้การขึ้นบันไดง่ายขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทำชานพักบันได เมื่อขึ้นมาชั้นบนนั้นจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นก่อน ซึ่งพื้นที่นั่งเล่นนี้ออกแบบมาให้เป็นเสมือนพื้นที่อเนกประสงค์นะคะ ลูกบ้านสามารถจัดฟังก์ชันในส่วนนี้ได้ตามต้องการเลย ยกตัวอย่างที่ทางโครงการจัดไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นนั้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่ต้องใช้พื้นที่นั่งเล่นด้านล่างต้อนรับแขกอยู่บ่อยๆ ก็เหมาะกับที่จะจัดพื้นที่นั่งเล่นชั้นบนสำหรับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้มีพื้นที่นั่งเล่นแบบส่วนตัวมากขึ้น หรือหากใครที่ต้องการห้องนอนเพิ่มก็สามารถกั้นเป็นห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้องได้เช่นกันค่ะ

    จากพื้นที่นั่งเล่นตรงกลางจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งของบ้าน โดยฝั่งซ้ายนั้นเป็น Master Bedroom มีห้องน้ำภายในตัวค่ะ ส่วนจุดเด่นเพิ่มเติมนั้นคือในห้องนี้จะมีมุมที่ยื่นออกมาเล็กน้อย ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดกะทัดรัดได้ แทนการทำเป็นพื้นที่ระเบียง ซึ่งมีอยู่แล้วบริเวณห้องนอนกลางนะคะ โดยทางโครงการออกแบบมาให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นแทนเนื่องจากการทำเป็นระเบียงอีกระเบียงนั้นน่าจะไม่ได้ใช้งานมากนัก แต่เปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในแทนไปเลยจะได้สามารถใช้งานได้จริงๆ

    อีกฝั่งนั้นแบ่งเป็นห้องนอนกลางอยู่บริเวณหน้าบ้าน และห้องนอนเล็กอยู่บริเวณหลังบ้าน โดยทั้ง 2 ห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกันค่ะ

    เริ่มจากบ้านมาตรฐานที่ได้กันก่อนนะคะ โดยเราจะพาไปดูรอบๆ บ้านว่าเป็นอย่างไรบ้าง ได้อะไรบ้าง แล้วค่อยพาไปดูบรรยากาศภายในบ้านจากบ้านตัวอย่างกันค่ะ เร่ิมจากบริเวณหน้าบ้านนั้น จะมีพื้นที่สีเขียวส่วนกลางจัดให้ด้วย ทั้งสนามหญ้าเล็กและต้นไม้ใหญ่ แม้จะไม่ใช่พื้นที่ของเราโดยตรงแต่บ้านเราได้อานิสงค์ความร่มรื่นจากพื้นที่ส่วนกลางโดยตรงเลย นอกจากนี้ยังช่วยให้หน้าบ้านดูสวยงามมากขึ้นด้วยนะคะ ถือเป็นข้อดีของโครงการที่จัดพื้นที่สีเขียวภายในโครงการมาให้

    ส่วนรั้วบ้านนั้นใช้เป็นรั้วเหล็กโปร่งพ่นสีน้ำตาล ลักษณะเป็นบานเลื่อนใช้งานได้ง่าย หรือใครจะไปติดตั้งรีโมทเปิด-ปิดประตูบ้านอัตโนมัติก็ได้นะคะ ส่วนด้านข้างฝั่งขวานั้นติดเลขที่บ้าน และกริ่งมาให้เรียบร้อย ฝั่งซ้ายมีประตูขยะเปิดจากหน้าบ้านได้เลย สำหรับระดับพื้นตัวบ้านนั้นมีการยกระดับพื้นขึ้นสูงเล็กน้อยและทำเป็นทางลาดให้เรียบร้อย สามารถกันน้ำไหลย้อนเข้าบ้านได้ดี

    เข้ามายังส่วนที่จอดรถ สามารถจอดได้ 2 คันพอดีๆ ค่ะ โครงสร้างพื้นที่นี่ทำออกมาได้ดี เพราะใช้เป็นพื้น Slab on Beam มีเสาเข็มเรียบร้อย ช่วยลดการทรุดตัวได้ของโครงสร้างได้ค่ะ และด้านบนนั้นมีการทำระแนงยื่นออกมาจากกันสาดสามารถกันแดดได้ระดับนึง แต่ไม่สามารถกันฝนได้นะคะ หากใครต้องการหลังคาที่กันแดดและกันฝนกับรถได้นั้นก็ง่ายมาก แค่ติดหลังคาแบบ Polycarbonate บนระแนงได้เลย

    หันมาที่ฝั่งซ้ายของที่จอดรถ จะเป็นถังขยะจากในตัวบ้านเลย และมีประตูเปิดออกจากทางหน้าบ้าน คือสะดวกในการใช้งานดีมาก เพราะทิ้งจากในบ้านได้เลยค่ะและเป็นส่วนตัวไม่ต้องแชร์ถังขยะหน้าบ้านกับบ้านหลังอื่นๆ เหมือนโครงการสมัยก่อนหรือโครงการแบบทาวน์โฮม ส่วนกำแพงบ้านด้านข้างนั้นมีความสูงเท่าๆ กับรั้วหน้าบ้านเลยค่ะ สูงประมาณ 1.5 ม. ถือว่าเตี้ยไปหน่อย

    อีกฝั่งนั้นจะเป็นทางเข้าบ้านนะคะ ซึ่งด้านหน้านั้นออกแบบให้เป็นสวนหน้าบ้าน ซึ่งทางโครงการจะจัดสวนมาให้เป็นมาตรฐานแบบนี้เลยค่ะ โดยถือว่าที่นี่จัดสวนมาให้สวยทีเดียวนะคะ มีทั้งต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม และสนามหญ้าด้วย ซึ่งถือว่าพิเศษกว่าโครงการอื่นๆ ที่ขายในราคา 5-7 ล้านบาททั่วไปนะ เพราะส่วนใหญ่จะเห็นว่าสวนที่ให้ก็จะเป็นการปูหญ้าเท่านั้นเอง

    ด้านข้างนั้นก็ปลูกไม้พุ่มและสนามหญ้าให้แบบนี้เลยค่ะ

    ฝั่งหลังบ้านนั้นเดินมาก็จะเจอลานซักล้างก่อนเลยนะคะ ซึ่งดูจะเปียกๆ หน่อย เนื่องจากวันที่ไปโครงการเป็นช่วงหลังฝนตกพอดีเลย ส่วนลานซักล้างนี้ก็ใช้โครงสร้าง Slab on Beam ซึ่งเชื่อมกับโครงสร้างของตัวบ้านเลยนะคะ ข้อดีคือไม่ทรุดตัวแยกตัวบ้าน ทำให้ไม่เป็นรูโหว่ระหว่างตัวบ้านกับลานซักล้างนะคะ ส่วนรั้วหลังบ้านที่ติดกับที่ดินข้างเคียงนั้นจะมีความสูงรั้วอยู่ที่ประมาณ 4 ม.ค่ะ

    ถัดจากลานซักล้างนั้นก็จะเจอระเบียงเล็กๆ ที่เชื่อมจากห้องนอนผู้สูงอายุค่ะ

    อีกฝั่งนึงปูหญ้ามาตรฐานเนื่องจากมีพื้นที่ด้านข้างไม่เยอะมาก ซึ่งรั้วที่ติดกับบ้านข้างเคียงนั้นจากที่บอกว่าสูงประมาณ 1.5 ม. นั้นคือรั้วในช่วงหน้าบ้าน แต่พอมาโซนด้านข้างขยับเข้ามาอีกหน่อยจะมีความสูงมากขึ้นอยู่ที่ประมาณ 3 ม.

    มาดูที่บ้านตัวอย่างกันต่อนะคะ บริเวณหน้าบ้านนี้จะมีทางเข้าบ้านอยู่ 3 ประตูด้วยกัน โดยประตูแรกเข้าจากส่วนที่จอดรถเลยค่ะ ซึ่งจะง่ายและสะดวกกับคนที่ขับรถมาจอดแล้วเข้าบ้านเลย ไม่จำเป็นต้องเดินไปหน้าบ้านอีก ส่วนอีก 2 ประตูฝั่งหน้าบ้านนั้นก็จะเข้าไปยังส่วนพื้นที่รับแขกและพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ

    สำหรับประตูทางเข้าจากที่จอดรถนั้นมีการทำทางเข้าค่อนข้างสวยนะคะ โดยทำเป็น Foyer เล่นระดับขนาดกะทัดรัด ฝ้าเพดานด้านบนตกแต่งด้วยระแนงไม้ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้สวยงามค่ะ ส่วนประตูทางเข้านั้นทำจากไม้แท้ทั้งบานเลยนะคะ สวยดีทีเดียว ด้านข้างเป็นกระจกบาน Fixed ให้แสงสว่างเข้ามาในตัวบ้านได้ระดับนึง

    ที่พิเศษจริงๆ คือมี Digital Door Lock จาก Samsung ให้ด้วยนะคะ จัดว่าทางโครงการตั้งใจจะให้ของมาเยอะเหมือนกันนะ เพื่อเหมาะสมกับราคาจ่ายมากขึ้น เนื่องจากในทำเลนี้โครงการนี้จัดว่ามีราคาสูง เล่นตลาดบนๆ ในย่านนี้เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ

    ด้านข้างที่จอดรถมีบันไดเล็กๆ ขึ้นไปยังส่วนเฉลียงหน้าบ้าน

    ซึ่งบริเวณทางเดินเฉลียงนี้ก็จะกั้นด้วยรั้วเล็กๆ สูงประมาณ 50 ซม. ไม่สามารถกันตกได้ เพียงแต่ได้กั้นเป็นสัดส่วนมากกว่า

    เชื่อมกับทางเดินเฉลียงนั้นจะเป็นส่วนเฉลียงหน้าบ้านขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ มีทำทางขึ้นจากสวนให้ด้วยเรียบร้อยและด้านบนนั้นก็มีระแนงไม้ที่ทับด้วยหลังคา Polycarbonate ทำให้สามารถกันแดดและกันฝนได้ดีเลยค่ะ

    บริเวณเฉลียงหน้าบ้านนี้ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ภายในสามารถวางโต๊ะเก้าอี้สนามมานั่งเล่น ชมสวนชิลๆ ได้เลยค่ะ ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเข้าสู่ภายในตัวบ้าน

    เข้ามาภายในบ้านกันนะคะ บริเวณหน้าบ้านเลยจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นหรือพื้นที่รับแขกที่เชื่อมเข้ากับพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งในบ้านมาตรฐานบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โล่งๆ เลยค่ะ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว และฝ้าเพดานตกแต่งเป็นฝ้าหลุมให้ดูสวยงามค่ะ

    สำหรับส่วนพื้นที่นั่งเล่นนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้โซฟา และโต๊ะกลางได้สบายๆ ค่ะ ในส่วนของระยะห่างระหว่างทีวีและโซฟานั้นอยู่ที่ประมาณ 3 ม. สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ 50″-60″ ได้สบาย

    บริเวณด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารนั้นเป็นประตูบานเลื่อนทางเข้าบ้าน ที่เรียงไปตามความกว้างของหน้าบ้าน ผนวกกับความสูงฝ้าเพดานสูงสุดถึง 2.8 ม. ทำให้บริเวณนี้โปร่งโล่งและแสงสว่างเข้ามาได้ดีทีเดียวค่ะ

    ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นนั้นจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสามารถรองรับจำนวนได้ถึง 6 ที่นั่ง กำลังพอดีเลยค่ะ ด้านข้างพื้นที่รับประทานอาหารจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่อยู่ด้านข้างด้วย ช่วยระบายอากาศได้และให้แสงเข้าเพิ่มมาอีกทางนึง

    ย้อนกลับมาไปดูฝั่งพื้นที่นั่งเล่นกันอีกครั้งนะคะ ซึ่งถัดจากพื้นที่นั่งเล่นไปอีกหน่อยจะเป็นลักษณะโถงทางเดินลึกเข้าไปอีกหน่อย

    บริเวณฝั่งซ้ายมือนั้นจะเป็นทางเข้าบ้านจากส่วนที่จอดรถค่ะ ฝั่งขวาเป็นตู้เก็บรองเท้า และตรงกลางคือห้องนอนในชั้นล่างนั่นเองค่ะ ตามไปดูกันต่อ

    สำหรับส่วนตู้เก็บรองเท้าบริเวณหน้าทางเข้าฝั่งที่จอดรถนั้นจะไม่ได้ Built-in มาให้เหมือนในบ้านตัวอย่างนะคะ แต่จะเว้นพื้นที่เข้าไปให้เพื่อที่ลูกบ้านสามารถ Built-in ชั้นเก็บรองเท้าขนาดใหญ่เองได้

    เข้ามาภายในห้องนอนชั้นล่างนี้ ถูกออกแบบให้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ มีห้องน้ำภายในตัวเรียบร้อยค่ะ ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในนั้นสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้กำลังดีนะคะ หรือหากบ้านไหนที่ไม่มีสมาชิกในบ้านเป็นผู้สูงอายุหรือมีจำนวนสมาชิกไม่มากนักก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ได้ เช่นห้องทำงาน ห้องดูหนัง เป็นต้นค่ะ

    หันมาดูฝั่งที่หันหน้าไปทางหลังบ้านนั้นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกให้ เพื่อให้ได้แสงสว่างจากภายนอกได้ดีค่ะ รวมทั้งด้านนอกก็มีระเบียงยื่นออกมาเล็กน้อยให้สามารถลงไปเดินสวนได้ด้วย ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ได้มีเวลามองหรือลงไปชมสวนภายนอกได้ โดยไม่ต้องเดินออกไปยังหน้าบ้านแล้วเดินอ้อมไปยังพื้นที่สวนด้านหลังบ้านอีกทีนะคะ

    สำหรับประตูบานเลื่อนนี้ใช้บานกรอบอลูมิเนียมสีธรรมชาติ fitting ที่ได้ค่อนข้างแข็งแรงดีทีเดียวค่ะ

    หันกลับมาอีกฝั่ง ด้านขวามีหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่ช่วยให้แสงสว่างเข้ามาได้ดี รวมทั้งช่วยระบายอากาศภายในห้องได้ดีอีกด้วย ส่วนฝั่งซ้ายของรูปนั้นเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนี้ค่ะ

    ห้องน้ำภายในห้องนั้นแบ่งเป็นโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจน โดยบริเวณโซนแห้งนั้น ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ด้านหลังทำ Low Wall ไว้สำหรับวางของเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีค่ะ และติดกระจกเงาบานใหญ่สูงจาก Low Wall ไปถึงฝ้าเพดานเลยทีเดียวค่ะ

    สุขภัณฑ์ที่ใช้ทั้งหมดมาจาก American Standard นะคะ

    ถัดมาที่พื้นที่อาบน้ำแม้ไม่ได้ให้ฉากกั้นกระจกมาแต่ก็มีการก่อผนังพร้อมกรุกระเบื้องให้บริเวณใกล้ฝักบัวเพื่อกันน้ำกระเด็นออกมายังโซนแห้งได้เล็กน้อยนะคะ แต่ก็ไม่สามารถกั้นโซนเปียกและแห้งได้ดีเหมือนฉากกั้นกระจกนะ ซึ่งใครที่อยากกั้นเป็นสัดส่วนจริงๆ วิธีง่ายสุดและประหยัดสุดคือซื้อม่านพลาสติกมาแขวนกับราวนะคะ เนื่องจากความกว้างของพื้นที่อาบน้ำหักลบกับผนังที่ก่อมาให้นั้นไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ ติดตั้งฉากกั้นกระจกจะไม่เหมาะนัก เพราะเข้า-ออกไม่สะดวก

    ระดับพื้นที่อาบน้ำลดระดับจากพื้นโซนแห้งเล็กน้อยค่ะ ภายในมีขนาดกำลังดีสำหรับอาบน้ำ

    ฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard

    ถัดมาที่โซนหลังบ้านอีกจุดนะคะ ก่อนจะขึ้นไปชั้นบนกัน ในส่วนบริเวณหลังบ้านที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารนั้นจะมีโถงทางเดินเชื่อมไปยังห้องครัวและลานซักล้างหลังบ้าน

    สำหรับประตูหลังบ้านนั้นออกแบบให้เป็นประตูบานเปิดกระจกใสเลยค่ะ ในแง่ของความปลอดภัยนั้นอาจจะแย่กว่าประตูบานทึบทั่วไปนะ แต่ทางโครงการก็ยอมเพื่อให้ตัวบ้านได้มีช่องแสงส่องเข้ามาภายในบ้านมากขึ้น และกลบจุดอ่อนเรื่องความปลอดภัยด้วยการติดตั้งสัญญาณกันขโมยให้เป็นมาตรฐานในทุกหลังเลยค่ะ ส่วนฝั่งขวามือนั้นจะเป็นส่วนห้องครัว

    ภายในห้องครัวมีขนาดกะทัดรัดนะคะ ไม่ได้ใหญ่มาก สามารถจัดวาง Pantry เป็นรูปตัว U ได้ค่ะ โดยในบ้านมาตรฐานจะไม่ได้ให้ Pantry มาด้วยนะคะ แต่จะมีการเตรียมระบบท่อต่างๆ และปลั๊กไฟไว้ให้เรียบร้อยค่ะ สำหรับตำแหน่งที่เหมาะสมกับการวาง Sink นั้นคือจุดที่ติดกับหน้าต่างบานเลื่อนนั่นเอง เนื่องจากบริเวณ Sink นั้นมีความชื้นสูง หากอยู่ใกล้หน้าต่างก็ช่วยให้สามารถระบายความชื้นต่างๆ ได้ดีขึ้นค่ะ และการวางตำแหน่งเตาควรจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตำแหน่งตู้เย็น หรือมีตำแหน่ง Sink คั่นกลาง เหมือนตามบ้านตัวอย่างเลย ซึ่งถือเป็นการจัดครัวที่เหมาะสม

    ความกว้างของพื้นที่ครัวเมื่อวาง Pantry แล้วจะเหลือทางเดินอยู่ไม่มากนะคะ และไม่แนะนำให้ติดประตูห้องครัวเป็นบานเปิดเพราะจะยิ่งทำให้พื้นที่เล็กลงไปอีก ทางที่ดีคือทำประตูบานเลื่อนแบบรางบนไว้หน้าห้องครัวจะสะดวกในการใช้งานมากที่สุดค่ะ

    มาที่บริเวณโถงบันไดนะคะ ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำรับแขก ตรงกลางออกแบบเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่ ซึ่งก็มีติดสัญญาณกันขโมยให้ และฝั่งขวาถัดจากทางขึ้นบันไดนั้นเป็นห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ

    สำหรับห้องน้ำรับแขกนั้นจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room หรือห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำค่ะ การออกแบบทั้งวัสดุกระเบื้อง และยี่ห้อสุขภัณฑ์ เหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างเลยค่ะ

    ส่วนภายในห้องเก็บของใต้บันไดถือว่าได้ขนาดใหญ่อยู่เหมือนกันนะคะ สามารถเก็บของได้พอสมควรเลย

    มาที่โถงบันไดกันต่อนะคะ สำหรับโถงบันไดบ้าน Type นี้ถือว่าทำออกมาได้ดีนะคะ ด้วยความที่ฝ้าเพดานของชั้นล่างค่อนข้างสูงทำให้ต้องซอยขั้นบันไดหลายขั้นพอสมควร แต่ทางโครงการก็ไม่ได้ออกแบบให้มีขั้นบันไดแบบสามเหลี่ยม และยังมีชานพักที่ได้พักเท้าได้ดีด้วย แลกมากับการใช้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านไปกับส่วนโถงบันไดมากหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาว่าไปเบียดฟังก์ชันอื่นๆ เท่าไหร่เนื่องจากเป็นบ้านหน้ากว้างนั่นเองค่ะ ในส่วนของวัสดุพื้นลูกนอนนั้นใช้เป็นพื้นไม้ประสาน

    บริเวณโถงได้หน้าต่างบานกระทุ้งและกระจกบาน Fixed ติดมาด้านล่าง เพิ่มพื้นที่ให้แสงสว่างเข้ามาสู่โถงบันไดได้ดีระดับนึงค่ะ และยังสามารถช่วยระบายอากาศได้ด้วย

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 นั้นจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลยค่ะ ซึ่งด้วยความที่เป็นบ้านหน้ากว้างนั้นทำให้พื้นที่บริเวณนี้ไม่แคบและดูกว้างขวางมากๆ ขนาดที่สามารถกั้นเป็นห้องนอนอีกห้องเลยก็ยังได้นะคะ

    อย่างที่บ้านตัวอย่างได้จัดไว้เป็น Sofa Bed ขนาดใหญ่ก็พอทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลยทีเดียวนะ ส่วนบริเวณหน้าบ้านก็มีประตูบานเลื่อนกระจกออกไปยังระเบียงหน้าบ้านได้ค่ะ

    จากพื้นที่นั่งเล่นนี้จะแบ่งทางเดินเป็น 2 ฝั่งนะคะ โดยเราจะไปดูฝั่งขวากันก่อนนะคะ

    ในฝั่งขวาจากพื้นที่นั่งเล่นนั้นแบ่งออกเป็น 3 ห้องด้วยกัน โดยห้องนอนกลางจะอยู่ฝั่งซ้ายมือหรือบริเวณหน้าบ้านค่ะ ตรงกลางเป็นทางเข้าห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน และฝั่งขวามือจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้องนะคะ

    มาดูห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับห้องนอนทั้ง 2 ห้องกันค่ะ ภายในตกแต่งเหมือนห้องน้ำในชั้นล่างเลยค่ะ มีการแบ่งโซนเปียกและแห้งไว้เรียบร้อย โดยการลดระดับพื้นที่อาบน้ำและก่อผนังขึ้นมากั้นบางส่วนนะคะ ซึ่งภายในห้องน้ำบริเวณพื้นที่อาบน้ำนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งแบบฝ้าติดตั้งให้ด้วย เพื่อให้สามารถระบายความชื้นได้ดีและให้แสงสว่างเข้ามาภายในห้องน้ำได้ดีเช่นกันค่ะ ในส่วนของยี่ห้อสุขภัณฑ์นั้นใช้ Amercan Standard เดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ

    มาที่ห้องนอนกลางที่อยู่บริเวณหน้าบ้านกันนะคะ ในห้องนี้จะได้ช่องเปิดเยอะมากจากทั้งทางหน้าบ้านและด้านข้างเลยค่ะ

    ซึ่งภายในห้องนี้จะเหมาะกับการวางเตียงขนาดประมาณ 5 ฟุต จะเหมาะสมที่สุดค่ะ

    ด้านข้างเตียงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและมีเนื้อที่สำหรับวางโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้

    บริเวณหน้าบ้านได้ประตูบานเลื่อนออกไปยังส่วนระเบียงหน้าบ้าน

    ขนาดของระเบียงหน้าบ้านที่ได้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่ชอบนั่งเล่นชิลๆ ริมระเบียงห้องนอน นั้นก็สามารถวางโต๊ะเก้าอี้แบบ Outdoor มานั่งเล่นได้นะ

    ส่วนระเบียงที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นด้านนอกนั้นจะมีพื้นที่ไม่มากนักและเป็นตำแหน่งที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วยเลยไม่เหมาะกับการใช้งานจริงเหมือนระเบียงจากห้องนอนกลางค่ะ

    มาดูห้องนอนเล็กกันบ้างนะคะ สำหรับห้องนอนเล็กนี้เหมาะกับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือ Single Bed นะคะ ด้วยขนาดห้องที่ไม่มากนัก

    แต่ข้อเสียของห้องนี้คือ เมื่อวางเตียงและไม่มีพื้นที่ปลายเตียงและพื้นที่ทางเดินอีกด้านนึงนะคะ ต้องดันไปติดกับหน้าต่างเลย

    ส่วนอีกฝั่งของห้องนั้นเหมาะกับการจัดเป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าค่ะ

    ต่อมาที่ห้องนอนใหญ่กันบ้างนะคะ

    ภายในห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยค่ะ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ เลย และบนฝ้าเพดานนั้นก็มีการทำฝ้าหลุมให้ดูสวยงามด้วยนะคะ

    ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีได้ หรือจะ Built-in ชั้นวางทีวีขนาดใหญ่เลยก็ได้ค่ะ

    จุดเด่นของห้องนอนใหญ่นี้คือพื้นที่นั่งเล่นริมหน้าต่างนี้เลยค่ะ ซึ่งทางโครงการได้ปรับเปลี่ยนจากพื้นที่ระเบียงด้านนอกเป็นพื้นที่ภายในแทน ซึ่งน่าจะได้ใช้งานมากกว่าการทำเป็นระเบียงนะคะ โดยมุมนี้สามารถจัดเป็นมุมอ่านหนังสือโดยวาง Sofa Bed ได้หรือเป็นมุมทำงานโดยวางโต๊ะทำงานแทนได้ค่ะ ซึ่งหน้าต่างบริเวณนี้จะเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ด้านข้างเป็นกระจกเข้ามุมด้วย ช่วยเปิดมุมมองบริเวณนี้ได้ดีทีเดียวค่ะ

    หันมาโซนด้านหลังบ้านของห้องนอนใหญ่นั้นจะเป็นส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำภายในห้องนอนนี้ค่ะ

    พื้นที่ Walk-in Closet นั้นสามารถวางตู้เสื้อผ้าหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้สบายเลยค่ะ

    เข้ามาส่วนห้องน้ำภายในห้องนอนกันต่อนะคะ การตกแต่งห้องน้ำและยี่ห้อสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องน้ำทุกห้องนะคะ จะแตกต่างเล็กน้อยตรงการจัดวางเท่านั้นค่ะ แต่อย่างไรก็ตามนั้นในห้องน้ำทุกห้องก็มีการแยกโซนเปียกและแห้งให้เรียบร้อยค่ะ

    ตรงข้ามกับส่วนแห้งนั้นจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งลดระดับลงไปเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนออกมาโซนแห้งได้ดี

    ด้านข้างติดฝักบัวสายอ่อน จาก American Standard เช่นเดิมค่ะ

    มาดูบ้านอีก Type นึงของโครงการกันต่อนะคะ คือบ้าน Type Earl Grey ขนาดจะเล็กลงมาหน่อยจาก Darjeeling นะคะ โดยมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 220 ตร.ม. บนที่ดินมาตรฐาน 54 ตร.วา

    สำหรับบ้าน Type นี้จะเป็นแบบหน้าแคบลึกนะคะ แตกต่างกับบ้าน Type แรกที่เป็นบ้านหน้ากว้าง โดยในชั้นล่าง บริเวณหน้าบ้านเลยจะสามารถจอดรถได้ 2 คันเช่นกันค่ะ และมีเฉลียงหน้าบ้านเหมือนบ้านหลังแรกเพียงแต่มีขนาดกะทัดรัดลงมาหน่อย เข้ามาภายในจะเจอส่วนพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร ส่วนด้านหลังเป็นส่วนห้องครัวและลานซักล้างค่ะ ส่วนอีกฝั่งจัดเป็นห้องนอนให้เรียบร้อย ส่วนห้องน้ำในชั้นนี้นั้นจะมีห้องเดียวนะคะ โดยแบ่งกันใช้ทั้งแขกและห้องนอนในชั้นล่างเลยค่ะ

    ชั้น 2 – ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นโถงทางเดินแจกไปยังห้องนอนทั้ง 3 ห้อง และห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันในชั้นนี้ค่ะ

    เริ่มจากหน้าบ้านบริเวณส่วนที่จอดรถนะคะ สำหรับพื้นที่จอดรถของบ้าน Type นี้ก็สามารถจอดได้ 2 คันและใช้โครงสร้างแบบ Slab on Ground รวมทั้งเป็นพื้นคอนกรีตมาตรฐานเช่นเดียวกับบ้านหลังแรกเลยค่ะ ส่วนหลังคาระแนงยื่นออกมาจากกันสาดนั้นก็จะได้ตามมาตรฐานเช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งข้อดีของบ้านรูปแบบหน้าแคบลึกนั้นก็ดีตรงที่ได้หลังคายื่นค่อนข้างยาวสามารถกันแดดกันฝนให้รถได้เกือบเต็มคันเลยค่ะ และสำหรับบ้านไหนที่ใช้แต่รถคันเล็กนะคะ พื้นที่จอดรถนี้ก็สามารถจอดซ้อนแบบ 2+2 ได้เลยนะ

    ลึกเข้ามาภายในส่วนจอดรถจะเป็นทางเข้าบ้านจากที่จอดรถค่ะ มีการทำทางเข้าน่ารักดีนะคะ โดยทำเป็นขั้นบันไดเล็กๆ มีม้านั่งให้ด้วยเผื่อลูกบ้านออกมาใส่รองเท้าก่อนออกจากบ้านได้ ส่วนสเป็คของประตูพร้อม Digital Door Lock นั้นจะได้ตามบ้านหลังแรกเลยค่ะ

    มาดูส่วนทางเข้าหลักของบ้านกันบ้างนะคะ โดยทางเข้าหลักนั้นจะผ่านเฉลียงหน้าบ้านก่อนนะ

    พื้นที่เฉลียงได้ขนาดใหญ่เหมือนบ้านหลังแรกเลยค่ะ สามารถวางโต๊ะเก้าอี้ขนาดใหญ่มานั่งเล่นชิลๆ ได้เลยค่ะ

    ส่วนทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดออกทั้ง 2 ด้าน ส่วนผนังด้านบนติดเป็นดวงโคมแบบติดผนังให้เรียบร้อยค่ะ

    เข้ามาด้านในบ้านเป็นพื้นที่นั่งเล่นก่อน และเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารในโซนด้านหลังค่ะ ซึ่งบริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้จะมีการทำฝ้าหลุมให้ด้วยนะคะ ดูสวยงามดี

    หันมาบริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งดีทีเดียวนะคะ เพราะได้ช่องเปิดพอสมควรเลย ในส่วนระยะห่างทีวีและโซฟานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 ม. จึงสามารถวางขนาดทีวีใหญ่ได้เลยค่ะ

    ภายในพื้นที่นั่งเล่นนี้สามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมเก้าอี้โซฟาและโต๊ะกลางได้สบายๆ ค่ะ

    ถัดมาที่พื้นที่รับประทานอาหารนั้นสามารถรองรับสมาชิกในบ้านได้ถึง 6 คนเลยค่ะ ด้านข้างของโต๊ะรับประทานอาหารนั้นเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังสวนภายนอกได้ค่ะ

    ซึ่งในบ้านตัวอย่างนั้นมีการต่อเติมพื้นที่ระเบียงรอบนอกพร้อมสระว่ายน้ำให้ดูสวยงามเป็นไอเดียกับลูกบ้านนะคะ แต่ในบ้านมาตรฐานบริเวณนี้จะเป็นส่วนของสวนรอบบ้านนั่นเองค่ะ

    สำหรับบ้านมาตรฐานทุกหลังจะได้สัญญาณกันขโมยพร้อมตำแหน่งควบคุมจาก Galaxor ตามในรูปเลยค่ะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกบ้านนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการเลยก็ว่าได้ค่ะ

    ถัดมาฝั่งขวาจะเป็นประตูออกไปยังที่จอดรถ และประตูที่ใกล้กับโถงบันไดนั้นจะเป็นห้องเก็บของค่ะ ส่วนห้องนอนในชั้นล่างนั้นจะอยู่ฝั่งซ้ายมือนั่นเองค่ะ เดี๋ยวเราไปดูกัน

    ภายในห้องนอนชั้นล่าง มีขนาดกะทัดรัดนะคะ เหมาะกับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต จะกำลังดีที่สุดค่ะ เนื่องจากขนาดห้องที่ไม่ใหญ่มากนัก หรือจะปรับฟังก์ชันเป็นห้องทำงานเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ได้เช่นกันนะคะ

    ติดกับด้านหลังบ้านก็เป็นประตูบานเลื่อนกระจกนั้นเป็นระเบียงขนาดเล็กๆ ไว้สำหรับออกไปยืนชมสวนได้ค่ะ

    ติดกับห้องนอนชั้นล่าง จะเป็นส่วนห้องน้ำค่ะ ซึ่งในชั้นนี้จะมีห้องน้ำเพียงห้องเดียว ไม่เหมือนกับบ้านหลังแรกนะคะ เนื่องจากขนาดบ้านที่กะทัดรัดขึ้น ซึ่งการใช้งานก็ไม่ได้ลำบากนะ เพราะเค้าจัดให้ห้องน้ำอยู่ใกล้กับห้องนอน เดินออกมาใช้งานก็สะดวก ไม่ต่างจากมีห้องน้ำในห้องนอนมากนักค่ะ ซึ่งห้องน้ำห้องนี้ก็จะใช้สำหรับรับแขกด้วยนะคะ

    จึงทำให้ห้องน้ำห้องนี้มีพื้นที่อาบน้ำพ่วงมาด้วย ไม่เหมือนกับห้องน้ำรับแขกที่มักจะเป็นแบบ Powder Room หรือไม่มีพื้นที่อาบน้ำค่ะ

    ภายในพื้นที่อาบน้ำจัดให้เป็นสัดส่วนดีเช่นเดียวกับห้องน้ำในบ้านหลังแรก

    ถัดมาฝั่งตรงข้ามของห้องน้ำนั้นจะเป็นส่วนครัวค่ะ ขนาดครัวจัดเป็นขนาดที่ค่อนข้างกะทัดรัดพอสมควรนะคะ แต่ยังสามารถวาง Pantry รูปตัว L ได้ค่ะ ซึ่งตำแหน่งการจัดวางเตา sink และตู้เย็นนั้นดูตัวอย่างจากบ้านตัวอย่างได้เลยเนื่องจากทางโครงการได้จัดวางมาในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว สำหรับบ้านมาตรฐานนั้นจะเหมือนกับบ้านหลังแรกนะคะ คือได้พื้นที่ครัวเป็นพื้นที่โล่งๆ เลยมีเดินท่อและเดินงานระบบไว้ให้เท่านั้นค่ะ

    งงล

    พื้นที่ภายในครัวเมื่อวาง Pantry เรียบร้อยจะเหลือพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้สะดวกนะคะ ทำครัวกันประมาณ 2 คนกำลังดี

    มาที่บริเวณโถงบันไดกันอีกรอบค่ะ ซึ่งใต้บันไดนี้จะเป็นประตูทางเข้าห้องเก็บของ

    ภายในห้องเก็บของได้ขนาดใหญ่ทีเดียวนะคะ สามารถเก็บของขนาดใหญ่ได้สบาย ภายในติดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ให้เรียบร้อยค่ะ

    สำหรับโถงบันไดของบ้าน Type นี้ก็ทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกันนะคะ ลักษณะบันไดเป็นรูปตัว U มีชานพักให้ชัดเจนเดินได้ง่ายมาก

    บริเวณโถงนั้นจะได้กระจกบาน Fixed 2 จุดจากหน้าบ้านและหลังบ้าน ซึ่งเราไม่ค่อยจะเห็นแบบนี้เท่าไหร่นะ ส่วนใหญ่จะเป็นกระจกบานใหญ่อยู่ด้านข้างของตัวบ้านเลย ซึ่งการทำกระจกจากหน้าบ้านและหลังบ้านนั้นมีข้อดีคือ เราสามารถเปิดให้แสงสว่างภายนอกเข้ามาได้จริงๆ ไม่ต้องปิดม่านเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว เหมือนกระจกที่อยู่ด้านข้างตัวบ้าน เนื่องจากระยะห่างของตัวบ้านเราและเพื่อนบ้านมีไม่มากนัก ยิ่งกระจกใหญ่ก็ยิ่งมองเห็นกันง่ายมากขึ้น สุดท้ายก็ต้องปิดม่านเพื่อความเป็นส่วนตัวและทำให้ไม่ได้แสงสว่างจากภายนอกเต็มที่

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินตรงกลางบ้านก่อนเลยค่ะ ซึ่งโถงนี้จะแจกไปทั้งหมด 5 ห้องด้วยกัน ประกอบด้วยห้องนอน 4 ห้องและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันอีก 1 ห้อง ซึ่งโถงที่ได้นี้จัดมาให้ค่อนข้างใหญ่เหมือนกันนะคะ สามารถ Built-in ชั้นหรือตู้โชว์ของได้ รวมทั้งจัดเป็นพื้นที่พระเล็กๆ ได้เช่นกันค่ะ

    มาดูที่ฝั่งหน้าบ้านกันนะคะ ฝั่งที่ติดกับโถงบันไดบริเวณหน้าบ้านถูกจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นในชั้นบน สำหรับลูกบ้านที่ต้องต้อนรับแขกในชั้นล่างบ่อยๆ จึงเหมาะกับการมีพื้นที่พักผ่อนอีกจุดให้กับลูกบ้านคนอื่นๆ ในชั้นบน เพื่อได้สามารถพักผ่อนได้เป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ และยังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นห้องอื่นๆ ได้นะคะ ตามความเหมาะสมและไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่แตกต่างกัน เช่นสามารถจัดให้เป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องเก็บสะสมงานอดิเรกก็ได้เช่นกัน

    ซึ่งภายในพื้นที่นั่งเล่นนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรนะคะ แม้จะไม่เท่ากับพื้นที่นั่งเล่นชั้นบนของบ้านหลังแรก แต่ก็สามารถจัดชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 3 ที่นั่งได้สบายเลยค่ะ ด้านข้างติดดั้งหน้าต่างบานกระทุ้งให้ และด้านหน้าเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเชื่อมเข้าระเบียงหน้าบ้าน โดยห้องนี้จะไม่มีการกั้นเป็นห้องชัดเจนนะคะ มีเพียงก่อ Low Wall มาให้เห็นพื้นที่เป็นสัดส่วนเท่านั้น ซึ่งใครที่ต้องการความสงบหรือเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยก็สามารถก่อผนังเพิ่มแล้วติดประตูเพิ่มเติมเองได้ค่ะ

    มุมมองจากระเบียงภายนอกหันเข้ามาด้านในพื้นที่นั่งเล่น จะเห็นว่าระยะห่างจากทีวีและโซฟามีพอสมควรทีเดียวค่ะ จึงสามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้สบายเลย

    ออกมาส่วนระเบียงด้านนอก จะไม่ได้เน้นขนาดพื้นที่กว้างมากนักที่จะเหมาะกับการใช้งานเช่นออกมานั่งชิลได้ แต่เน้นไปที่สามารถทำเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ อย่างประตูบานเลื่อนได้ เพื่อให้แสงเข้าไปในตัวบ้านได้ดี รวมทั้งรับลมจากหน้าบ้านได้ดีเช่นกันค่ะ

    ถัดมาที่ห้องนอนใหญ่ที่อยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นนะคะ ภายในห้องนอนขนาดค่อนข้างกว้างขวางทีเดียวค่ะ รวมทั้งบริเวณหน้าบ้านก็ได้ช่องเปิดเยอะทีเดียวช่วยให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งดี

    ภายในห้องนี้เหมาะกับวางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้พอดีๆ เลยค่ะ และมีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้ง่าย

    ส่วนด้านข้างเตียงก็จะมีมุมติดหน้าต่าง ให้วาง Sofa Bed ได้ หรือจะวางโต๊ะทำงานก็ได้นะคะ ได้บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ เพราะเป็นมุมหน้าต่างบานเลื่อนและกระจกเข้ามุมด้วย

    บริเวณปลายเหลือพื้นที่พอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีเพิ่มได้เลยค่ะ จะวางเป็นชุดโซฟาขนาด Love Seat ยังได้เลยค่ะ

    อีกด้านข้างของเตียงนั้นจะเป็นโถงทางเดินไปยังส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำในห้องนอนค่ะ

    สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet นั้นจะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ นะคะ ลูกบ้านสามารถวางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เองได้เลยค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามของตู้เสื้อผ้านั้นจะเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอนค่ะ โดยจะแบ่งเป็นโซนเปียกและโซนแห้งเช่นเดิม โดยฝั่งหลังอ่างล้างมือนั้นจะมี Low Wall และกระจกเงาขนาดใหญ่สูงถึงฝ้าเพดาน

    ฝั่งตรงข้ามของอ่างล้างมือจะเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ค่ะ ขนาดพื้นที่รอบข้างโถอยู่ที่ประมาณ 1.2 ม. ถือว่ามีความกว้างกำลังดีเลยค่ะ นั่งได้สบายๆ

    ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำซึ่งมีการลดระดับพื้นลงไปเล็กน้อยเช่นเดิม

    พื้นที่อาบน้ำติดฝักบัวสายอ่อนให้เรียบร้อย และฝั่งตรงข้ามก็ได้หน้าต่างบานกระทุ้งขนาดใหญ่ให้ พร้อมเป็นกระจกแบบฝ้า จึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดี และแสงสว่างก็ยังสามารถเข้าสู่ภายในห้องน้ำได้เช่นกันค่ะ

    มาที่โซนฝั่งหลังบ้านกันต่อ โดยจะแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ซ้าย-ขวา และตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันค่ะ

    ภายในห้องน้ำมีการจัดวางโดยใช้แนวคิดแบ่งพื้นที่โซนแห้งและโซนเปียกเหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆ เลยค่ะ โดยเข้ามาจะเป็นโซนแห้งก่อน และโซนเปียกซึ่งเป็นพื้นที่อาบน้ำนั้นจะอยู่ด้านในสุด มีผนังยื่นออกมาเล็กน้อยกั้นพื้นที่โซนแห้งและโซนเปียกออกจากกันได้ระดับนึงค่ะ

    เข้ามาภายในห้องนอนเล็กกันก่อนนะคะ ขนาดของห้องนอนเล็กนั้นจะเหมาะกับการวางเตียงแบบ Single Bed หรือ 3.5 ฟุต ซึ่งจะมีพื้นที่เหลือด้านข้างให้สามารถเดินได้ง่าย รวมทั้งมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งหากใครที่มีจำนวนสมาชิกในบ้านไม่มากนักก็สามารถจัดห้องนอนนี้เป็นห้องทำงานเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ได้เช่นกันค่ะ

    ถัดมาที่ห้องนอนกลางนั้นมีพื้นที่ใช้สอยภายในเพิ่มขึ้นมาจากห้องนอนกลางระดับนึง จึงสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยค่ะ โดยด้านหลังเตียงและด้านข้างเตียงจะมีช่องเปิดขนาดใหญ่หน่อย ช่วงให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งได้ดีทีเดียวค่ะ

    ด้านข้างเตียงอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่วางหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้านะคะ ซึ่งเมื่อวางเตียงไปแล้วจะเหลือพื้นที่ทางเดินไม่มากนัก ดังนั้นหากจะซื้อหรือ Built-in ตู้เสื้อผ้านั้นเหมาะจะใช้เป็นบานเลื่อนจะเหมาะสุด เพราะไม่ไปกินพื้นที่ทางเดิน ให้เกะกะค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 04 July 2017

    • บ้านแบบ Earl Grey แปลงที่ 12 ขนาดที่ดิน 57.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ราคา 5.77 ล้านบาท
    • บ้านแบบ Darjeeling แปลงที่ 137 ขนาดที่ดิน 66.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 240 ตร.ม. ราคา 6.79 ล้านบาท

    • จอง+ทำสัญญา 10,000 บาท
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 39,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี (ไม่เสียค่าใช้จ่าย จัดเป็นโปรโมชั่นทางโครงการ)
    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย จัดเป็นโปรโมชั่นทางโครงการ)

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนถนนเลียบคลอง 3 ที่มีจุดเด่นของโครงการเด่นๆ เลยคือ ตัวโครงการที่จัดออกมาได้ดี ทั้งเรื่องของความปลอดภัย บรรยากาศที่ร่มรื่น พร้อมทั้ง Facilities ครบครัน และที่ตัวบ้านที่ให้วัสดุต่างๆ มาค่อนข้างดีคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย แม้ตัวโครงการจะมีราคาค่อนไปทางสูงบนทำเลนี้ แต่หากใครมีงบประมาณถึงและมีจำนวนสมาชิกในบ้าน 5 คนก็คุ้มค่าที่จะซื้อค่ะ

    ทำเล – ทำเลโครงการจัดว่าอยู่ในทำเลที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่จึงหมดห่วงเรื่องความอุดมสมบูรณ์นะคะ เพียงบนถนนเลียบคลอง 3 ก็มีให้เลือกครบครันอยู่แล้วทั้ง Big C ที่เป็น Hyper Market และตลาดสด 2 ตลาด ยังไม่รวมกับร้านค้าร้านอาหารอีกหลายร้านมากๆ ที่มาเปิดริมถนนเลียบคลอง 3 กัน ส่วนใครที่อยากเดินศูนย์การค้า ช็อปปิ้ง ดูหนัง ก็มี Future Park รังสิต, Zpell ที่เปิดอยู่บริเวณแยกต่างระดับรังสิตค่ะ

    การเดินทาง – การเดินทางด้วยรถยนต์จัดว่าสะดวก ด้วยตัวโครงการอยู่ค่อนไปทางถนนบางขันธ์-คลองหลวงซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมเข้าถนนพหลโยธินเพื่อเข้าเมืองได้ ประกอบกับมีสะพานยกระดับข้ามไฟแดง วัดธรรมกายและตลาดไท ซึ่งทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกมากขึ้นและรถติดน้อยกว่าถนนรังสิต-นครนายก อีกฝั่งของถนนบางขันธ์-คลองหลวงนั้นเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ ซึ่งมีจุดขึ้น-ลงอยู่ไม่ไกลจากโครงการมากนัก จึงค่อนข้างสะดวกในการเดินทางทั้งเข้าเมืองและออกนอกเมืองค่ะ นอกจากนี้ทางโครงการมีการทำทางเข้า-ออกให้ทั้ง 2 ฝั่งทั้งหน้าและหลังโครงการ เพื่อให้มีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น เช่นวันไหนรถติดที่ถนนเลียบคลอง 3 ก็สามารถเลือกใช้ถนนหลังโครงการไปออกถนนบางขันธ์-คลองหลวงแทนได้

    โครงการ – ภาพรวมโครงการทำออกมาได้ดีทีเดียวค่ะ บรรยากาศโครงการร่มรื่นน่าอยู่ ด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ทั้งเกาะกลางและตลอด 2 ฝั่งข้างทาง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับลูกบ้านมากๆ ทีเดียวค่ะ นอกจากนี้คือเรื่องความปลอดภัยที่ทำให้โครงการน่าอยู่มากขึ้น ซึ่งในเรื่องความปลอดภัยนี้ทางโครงการค่อนข้างในความสำคัญพอสมควรนะคะ เห็นได้จากการทำประตูแบบ Double Gate, CCTV หน้าโครงการและตลอดถนนหลัก ยังไม่รวมถึงการติดสัญญาณกันขโมยให้ลูกบ้านทุกหลังเป็นมาตรฐานอีกด้วยค่ะ

    แบบ – แบบบ้านโดยรวมทั้ง 2 แบบจัดมาให้ค่อนข้างดีนะคะ ทั้ง 2 แบบนั้นให้ความสำคัญกับผู้สูงวัย ด้วยการจัดห้องนอน 1 ห้องอยู่ชั้นล่าง เผื่อสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย รวมทั้งการคำนึงถึงช่องเปิดภายในบ้านที่ให้มาขนาดใหญ่และพยายามให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ภายในบ้านดูโปร่งโล่งค่ะ ซึ่งสิ่งที่ 2 แบบแตกต่างกันนอกจากเรื่องพื้นที่ใช้สอย และจำนวนห้องนั้นก็คือ ตัวบ้านหน้ากว้างและหน้าแคบ โดยบ้านหน้ากว้างหรือ Type Darjeeling นั้นมีจุดเด่นของบ้านหน้ากว้างเลยคือ ภายในตัวบ้านจะดูโปร่งโล่ง กว้างขวาง เนื่องจากได้ช่องแสงขนาดใหญ่และเยอะ จากหน้าบ้าน รวมทั้งสามารถจัดฟังก์ชันได้ง่าย แต่บ้านหลังนี้มีข้อด้อยอยู่หน่อยคือห้องนอนเล็กชั้นบนที่ค่อนข้างเล็กไปสำหรับการทำเป็นห้องนอน ส่วนบ้าน Type Earl Grey นั้นจัดออกมาได้ลงตัวดี

    วัสดุ – ในเรื่องวัสดุถือว่าให้มาดี สมราคาทีเดียวนะคะ สิ่งที่พิเศษจากโครงการอื่นๆ ที่ขายในราคาใกล้เคียงกัน คือการให้ Digital Door Lock, สัญญาณกันขโมย รวมไปถึงการทำหลังระแนงให้ในส่วนพื้นที่จอดรถและเฉลียงนั่งเล่น ส่วนอื่นๆ นั้นก็มาตรฐานค่ะ อย่างพื้นชั้นล่างจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ชั้นบนใช้ไวนิล ห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิก ฝ้าเพดานฉาบเรียบและแบบหลุมบางพื้นที่ ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก American Standard ค่ะ

    สาธารณูปโภค – สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ถือว่าให้มาดีทีเดียวและครบครันจัดเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการที่ดึงดูดกลุ่มคนที่ชอบใช้ Facilities ในโครงการ ซึ่งสาธารณูปโภคที่โครงการจัดให้ก็มีทั้งสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น พื้นที่นั่งเล่น รวมทั้ง Club House ที่มีทั้งสระว่ายน้ำและ Fitness ประกอบกับห้องน้ำแยกชาย/หญิงพร้อมห้อง Steam ภายใน

     

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 5.7 – 7 ล้านบาท, 04 July 2017

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.0/10 – ติดถนนเลียบคลอง 3 มีความอุดมสมบูรณ์สูง
    • ความปลอดภัย 8/10 – Double Gate, Keycard Access, CCTV หน้าโครงการและถนนหลัก, สัญญาณกันขโมย
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – จัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในได้ดี
    • วัสดุ 8/10 – ให้มาค่อนข้างเยอะ คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – ร่มรื่น น่าอยู่
    • สาธารณูปโภค 8/10 – มีครบครัน สวยน่าใช้งาน
    • 7.58 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ Baranee Residence รังสิตคลอง 3 เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ มีงบประมาณ ให้ความสำคัญในเรื่องบรรยากาศโครงการร่มรื่นน่าอยู่ และความปลอดภัยชอบใช้ Facilities ต้องการบ้านขนาดเพียงพอกับสมาชิกครอบครัว 5-6 คน มีงบประมาณตั้งแต่ 5.7 – 7 ล้านบาท