“โฟร์พัฒนา” บริษัทรับสร้างบ้านที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2524 จากการรวมตัวของหุ้นส่วนสำคัญ 4 คน ได้แก่ สุวัตร ชินเวโรจน์, ก่อเกียรติ แย้มมีศรี, อภัย หน่อพยัคฆ์ และ ปราโมทย์ ธีรกุล ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” ให้เป็นที่ยอมรับ
หากย้อนไปประมาณ 30 ปีที่แล้ว “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” ค่อนข้าง “ใหม่” สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย เนื่องจากความรับผิดชอบในการสร้างบ้านแต่ละหลัง ส่วนมากอยู่ในกลุ่มของผู้รับเหมารายย่อยเป็นหลัก การสร้างความแตกต่างระหว่างบริษัทรับสร้างบ้าน ถือเป็นความท้าทายสำหรับบริษัทเปิดใหม่อย่าง “โฟร์พัฒนา” ซึ่งกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนในการวางรากฐานธุรกิจรับสร้างบ้านมาจนถึงปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “โฟร์พัฒนา” ได้สะสมประสบการณ์และชื่อเสียงจนก้าวมาถึง “แถวหน้า” แห่งธุรกิจรับสร้างบ้าน และมีบริษัทในเครือกว่า 6 บริษัท ประกอบด้วย
1 Four Pattana Landscape บริษัทรับจัดสวน
2 Four Pattana Interior บริษัทรับออกแบบภายในให้ลูกค้าของบริษัทแม่
3 Four Extra Build บริษัทรับสร้างบ้านตามแบบ
4 Four Develop บริษัทรับสร้างบ้านในเครือโฟร์พัฒนา
5 Joint Venture การร่วมทุนระหว่างเจ้าของที่ดิน กับบริษัทโฟร์พัฒนา เพื่อพัฒนาที่ดินให้เป็นหมู่บ้านจัดสรร โดยทางบริษัทฯ จะเป็นผู้ก่อสร้างและทำการตลาดให้
6 Four Pattana Colorline บริษัทพัฒนาการตลาด
ปัจจุบัน “โฟร์พัฒนา” อยู่ภายใต้การบริหารงานของ “คุณปราโมทย์ ธีรกุล” กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน และปัจจุบันยังนั่งแท่นกรรมการกิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ อีกด้วย
วันนี้ทีม Think of Living มีโอกาสได้เข้าสัมภาษณ์ คุณปราโมทย์ เพื่อพูดคุยถึงภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้าน และ “โฟร์พัฒนา” ส่วนรายละเอียดลึกๆ จะเป็นยังไงนั้น ตามอ่านได้ในบทสัมภาษณ์เลยค่ะ ^^
1. สวัสดีค่ะ คุณปราโมทย์ เนื่องจาก Think of Living เป็นเว็บไซต์ที่เน้นรีวิวตามโครงการเป็นหลักๆ กลุ่มผู้อ่านหลักๆ ของเรา จะยังไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่างบริษัทรับสร้างบ้าน และพัฒนาอสังหาฯ ทางเราอยากให้คุณปราโมทย์ช่วยเล่าถึงภาพรวมของบริษัทรับสร้างบ้าน และ “โฟร์พัฒนา” หน่อยค่ะ
ผมขอใช้คำว่า “บ้านสร้างเอง” คือ คุณมีที่ดินของตัวเอง ออกแบบเอง แต่หาผู้รับเหมามาทำ อย่างโฟร์พัฒนาถือเป็น Customer Service ในธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะเราครอบคลุมหมดทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่แบบบ้านมาตราฐาน กระบวนการก่อสร้าง จนถึงบริการหลังการขาย เรารับประกัน 5-10 ปี แม้กระทั่งสินเชื่อในการปลูกบ้าน มีหลายธนาคารที่ผูกไว้กับเรา ยินดีที่จะปล่อยกู้ 100% เพราะเขาค่อนข้างมั่นใจว่าลูกค้าจะไม่ทิ้งบ้าน ไม่เกิดเป็นหนี้สูญแน่นอน
2. สัดส่วนตลาดของ ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 50,000 ล้าน แยกเป็นผู้ประกอบการนิติบุคคล อย่างโฟร์พัฒนาแค่ 11,000 ล้าน ประมาณ 20% ส่วนที่เหลือ 40,000 ล้าน จะอยู่ในกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย แค่ “Contractor” เท่านั้น
โฟร์พัฒนา เป็น “Home Builder” ประกอบไปด้วย Designer, Contractor, และ Service กระบวนการสร้างบ้าน เริ่มตั้งแต่ การออกแบบ การคำนวณราคา การขออนุญาตปลูกสร้าง การก่อสร้าง การบริการหลังการขายและสินเชื่อ ซึ่งอย่างที่ผมพูดไปแล้วเบื้องต้น ถ้าคุณมากู้ผ่านเรา ได้ดอกเบี้ยถูกแน่นอน เพราะธนาคารมั่นใจว่า บริษัทรับสร้างบ้านมีโอกาสประสบความสำเร็จ 100% ไม่ทิ้งงาน แต่ถ้าคุณออกแบบเอง แล้วหาผู้รับเหมารายย่อยมาทำ อาจสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ ถ้าไม่สำเร็จ ธนาคารก็แย่
3. อยากให้คุณปราโมทย์ช่วยเล่าย้อนถึงความเป็นมาของ “โฟร์พัฒนา” ให้ฟังคร่าวๆ หน่อยนะคะ
ก็เริ่มตั้งแต่ปี 2524 ประมาณ 33 ปีที่แล้ว ตอนนั้นโฟร์พัฒนา เป็นบริษัทแรกๆ ที่เริ่มมาจับธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างจริงจัง จุดเด่นของเราจะคือการแบ่ง segment ระดับราคาของบ้านที่ชัดเจน ประกอบด้วย
1 Young Exclusive Series ราคา 4-7 ล้านบาท
2 Premium Series ราคา 7-20 ล้านบาท
3 Green Series ราคา 5-8 ล้านบาท เน้นวัสดุที่ไม่ทำลายธรรมชาติ
4 Elegant Series ราคา 23-32 ล้านบาท
5 Premium Elegant Series พิเศษที่สุด เราออกแบบบ้านให้เฉพาะ ซึ่งจะกลายเป็นลิขสิทธิ์ของลูกค้าเลย ราคาอยู่ที่ 10 ล้านขึ้นไป
สำหรับบ้านแบบมาตราฐาน เรามีสถาปนิกคอยดูแล ปรับฟังก์ชั่นให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า จุดแข็งของเราคือเราใช้สถาปนิกดูแลด้านการขาย บริการหลังการขาย เพราะเขาสามารถสร้างความเข้าใจให้ลูกค้า และตอบคำถามในเชิงลึกได้
หลังจากทำไปซักพัก เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เราก็อยากลองมาจับราคาตลาด ก็เลยเริ่มแตกลายมาเป็น Four D House ใช้ผู้รับเหมาช่วง ซึ่งเราเอาเด็กของเราที่เติบโตขึ้นมาออกไปทำเอง แล้วก็ทำบ้านในระดับไม่เกิน 5 ล้านบาท ลด Spec ของวัสดุบางส่วนลงไป
ผ่านไประยะนึง เราก็เริ่มหันมาจับ interior เกิดเป็น Four Pattana Interior รับตกแต่งภายใน เพื่อให้ธุรกิจของเราเป็น One Stop Service
ปัจจุบันนี้ โฟร์พัฒนา มีบริษัทลูกหลายๆ บริษัท แต่ทุกอย่างก็ยังอยู่ในมาตรฐาน มีแบบบ้านหลักๆ ให้ดู มีสถาปนิกดูแลลูกค้า คอยให้คำปรึกษา มีช่างของเราเองเป็นคนสร้าง เรื่อยไปจนถึงการขอสินเชื่อ และบริการหลังการขาย
ล่าสุด เราเพิ่งผ่าน ISO ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เราเพิ่มเรื่องรับประกันโครงสร้างจาก 5 เป็น 10 ปี และออกแบบ “บ้านต้านแผ่นดินไหว 6.9 ริกเตอร์” ขึ้นมา
4. เนื่องจากโฟร์พัฒนา มีบริษัทลูกหลายบริษัท คุณปราโมทย์มีเทคนิคในการบริหารทีมยังไงค่ะ
ปัจจุบันเรามีพนักงานประมาณ 500 คน มีคนที่ทำงานเกิน 20 ปี มากกว่า 50% ทำงานเกิน 15 ปี ประมาณ 70% ส่วนที่เหลือก็ลดหลั่นกันไป…เทคนิคในการบริหารทีมของผมก็คือ การทำให้พนักงานรักในองค์กร โดยใส่ “ความรู้สึกเป็นเจ้าของ” ลงไป ผมแบ่งหุ้น 40% ของบริษัทฯ ให้พนักงาน เพื่อให้มีกำลังใจที่จะทำงานอย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดทุกอย่างก็จะกลับไปอยู่ที่ตัวเขาเอง
5. คำถามสุดท้าย อยากให้คุณปราโมทย์แนะนำเทคนิคในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านคะ
ประเด็นแรกที่สำคัญมากคือ งบประมาณ ต้องรู้ก่อนว่าเรามีเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็เลือก บริษัทรับสร้างบ้าน (ในสมาคม) ที่รับได้กับงบประมาณของเรา ประมาณ 5 บริษัท แล้วมาพิจารณา แบบบ้าน แบบไหนตรงใจเรามากที่สุด หลังจากเลือกได้แล้ว ผมแนะนำ ให้คุณไปที่ไซต์งานจริงของบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีบ้านที่กำลังสร้างอยู่ ดูทั้ง 3 ขั้นตอนเลย คือ 1) โครงสร้าง 2) ก่ออิฐ-ฉาบปูน 3) Furnishing วัสดุเป็นอย่างไร… อาจใช่เวลาค่อนข้างนานนะ แต่รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง เพราะคุณจะได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง แล้วค่อยนำมาพิจารณาอีกที…
สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้าน อย่าลืมนำเทคนิคนี้ไปใช่นะคะ อาจฟังดูยุ่งยาก แต่อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับ “บ้าน” เป็นเรื่องละเอียดอ่อนคะ ไม่ว่าจะ “เลือกซื้อ” หรือ “เลือกสร้าง” ก็ต้องคิดเยอะๆ ทั้งนั้น ^^
เราขอปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วย “แบบบ้านต้านแผ่นดินไหว” ใหม่ล่าสุดจากโฟร์พัฒนาค่ะ
