FB-Cover2-3-4

รีวิวฉบับที่ 879 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมรีวิวแถวศรีราชากันบ้าง กับโครงการที่ชื่อว่า 123 Residence Sriracha เป็นคอนโด Low Rise ที่สูงแค่ 8 ชั้น 3 อาคาร ที่อยู่ห่างจากถนนหลักอย่างสุขุมวิท(ทล.3) ประมาณ 210 เมตร โครงการอยู่ติดถนนเขาน้ำซับ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์ศรีราชา อ่าวอุดม และนิคมแหลมฉบังครับ อีกทั้งถนนเขาน้ำซับยังสามารถทะลุไปยังถนนเก้ากิโล และซอยทุ่งสุขลาได้อีกด้วย เราไปดูกันเลยดีกว่า

Fact @ 17 July 2015

  • 123 Residence Sriracha (123 เรสซิเดนซ์ ศรีราชา)
  • บริษัท ฟิฟธ์ ดีเวลลอปเมนท์
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในอำเภอศรีราชา ต.ทุ่งสุขลา จ.ชลบุรี
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร A 187 ยูนิต, อาคาร B 168 ยูนิต, อาคาร C 158 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 26 ยูนิตที่อาคาร A,  23 ยูนิตที่อาคาร B,  23 ยูนิตที่อาคาร C
  • ที่จอดรถรวมทุกอาคารประมาณ 175 คันคิดเป็น 34% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 41%
  • ที่ดินประมาณ 8-0-92.1 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปลายปี 2559
  • Studio 25.83 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 30.28 – 35.39 ตารางเมตร 
  • 1 Bedrooms Plus 50.86 ตารางเมตร 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.58 ล้านบาทหรือประมาณ 61,169 บาทต่อตารางเมตร
  • http://www.123residence-sriracha.com/
  • สำนักงานขาย : 090-640-4559

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.129863, 100.921189

Print

แผนที่จากทางโครงการครับ จะเห็นว่าโครงการตั้งอยู่ติดถนนเขาน้ำซับใกล้กับถนนสุขุมวิทเส้นหลักเลย ด้านหลังสามารถทะลุไปถนนหลักอย่างเก้ากิโล และไปถนนมอเตอร์เวย์(ทล.7)ได้ ส่วนโครงการนั้นใกล้กับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มาก ประมาณกิโลเดียว และใกล้กับนิคมแหลมฉบังด้วย ห้างที่ใกล้ที่สุดก็มี 2 ห้างคือ โรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค) และ ฮาร์เบอร์ มอลล์ครับเดินทางโดยถนนสุขุมวิทอย่างเดียวติดถนนหลักทั้งคู่

แผนที่

มาดูแผนที่ระยะไกลที่ผมทำกันบ้าง (ถ้าต้องการดูแบบใหญ่ให้กดคลิ๊กที่แผนที่) ตั้วโครงการตั้งอยู่ถนนรองอย่างเขาน้ำซับก็จริง แต่ก็ไม่ได้ไกลจากถนนหลักอย่างถนนสุขุมวิท(ทล.3)เลย แค่ประมาณ 210 เมตรจากทางเข้าหลักโครงการเท่านั้นเอง อีกทั้งถนนเขาน้ำซับ ยังใช้เป็นทางลัดเลาะไปย่านชุมชนอยู่อาศัยอย่างถนนเก้ากิโล และซอยทุ่งสุขลา และออกถนนกรุงเทพ-พัทยา(มอเตอร์เวย์ได้ด้วย) จากแผนที่นี้แสดงให้เห็นถึงสถานที่สำคัญต่างๆในละแวกไม่ไกลมากเช่นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา โรงเรียนต่างๆเช่นเซนต์ปอลคอนแวนต์ อัสสัมชัญ ดาราสมุทร

ส่วนห้างแหล่งกินเที่ยวถ้าอิงถนนหลักอย่างสุขุมวิทก็จะมีห้างโรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค) และห้างฮาร์เบอร์ มอลล์ อีกทั้งยังมีห้างเก๋ๆสไตล์ญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดมาไม่นานมากอย่าง J PARK ให้เปลี่ยนบรรยากาศอีกด้วย ในอนาคตจะมีอีกห้างที่กำลังก่อสร้างอยู่แถวอัสสัมชัญคืออิออน ศรีราชาครับ ส่วนพวกตลาดนัด ตลาดสดนี่ก็มีให้เลือกหลายที่แล้วแต่สะดวกและชินทำเลไหนนะครับเช่น ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดสดศรีราชา ตลาดวรกิจ เป็นต้น

จุดที่เป็นแหล่งการขนส่งหลักจากเรือในแทบบริเวณนี้ก็จะมีท่าเรือศรีราชาฮาเบอร์, เคอรี่ สยาม ซีพอร์ต และที่สำคัญที่สุด นิคมแหลมฉบัง ครับ อ้อ ยังมี บมจ.ไทยออยล์ ที่เป็นอุตสาหกรรมปิโตรมาอีกเจ้า พวกแหล่งที่ผมพูดถึงพวกนี้ เป็นบริษัทและท่าเรือทั้งหลายที่สำคัญในโซนนี้ ที่มีแรงงาน บุคลากรมากมายทำงานอยู่ มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทำให้ชุมชนศรีราชาถึงขยายและเติบโตในเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วมากๆในระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ถึงขนาดที่ว่าราคาที่ดินแนวราบบางจุดแถวนี้ใน 3 ปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้นเกือบเท่าตัวจากเดิมเลย และทำให้เกิดตลาดลงทุนคอนโดเกิดขึ้นมานั่นเอง

แผนที่การเดินทางวันนี้2

การเดินทางในวันนี้ ผมมาจากถนนเลี่ยงเมืองชลบุรีนะครับ แถวแยกชลบุรีบ้านบึง ตรงเพื่อจะมาออกถนนสุขุมวิท(ทล.3) บริเวณใกล้กับเซ็นทรัลชลบุรี ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักของชลบุรี จะวิ่งตรงๆไปเรื่อยๆเลยนะครับ ผ่านอ่างศิลา > บางแสน > หนองมน > บางพระ > ศรีราชา และพอเห็นจุดสังเกตุก่อนถึงโครงการคือ ฝั่งซ้ายมือเป็นศรีราชา อารีนา สปอร์ตคลับ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเขาน้ำซับประมาณ 210 เมตรและก็ถึงโครงการทางซ้ายมือครับ

เริ่มต้นจากถนนเลี่ยงเมืองชลบุรี ฝั่งขาเข้าเมือง ตรงตามป้ายของบางแสนเอาไว้

ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่มีรถพ่วง เยอะมากๆครับ เพราะเป็นทางที่รถออกมาจากนิคมอมตะนครชลบุรีและใช้ไปมายังนิคมปิ่นทอง และนิคมปลวกแดง

เราเน้นตามป้ายนี้เลยนะครับ บางแสน, ศรีราชา และจะมีทางให้เบี่ยงซ้าย

หลักจากตามป้ายศรีราชานี้ จะเป็นโค้งบังคับเลี้ยว เพื่อไปบรรจบกับถนนหลักอย่างสุขุม(ทล.3)

เข้าสู่ถนนหลักอย่างสุขุมวิทแล้ว เป็นถนนเส้นหลักของจังหวัดชลบุรีที่ตัดผ่านสถานที่สำคัญๆอย่าง ตัวเมืองชล อ่างศิลา หนองมน บางพระ ศรีราชา แหลมฉบัง พัทยา จนไปถึงสัตหีบเลยครับ หลังจากนี้เราก็ตรงอย่างเดียวเลยนะครับ แต่จะมีอธิบายว่าผ่านชุมชนไหนบ้าง ตามริมถนนสุขุมวิทนี้

ตามป้ายศรีราชาโลด แยกที่จะถึงข้างหน้าเป็นแยกอ่างศิลา ที่ขึ้นชื่อเรื่องครกหิน มาแสนนาน

ผ่านหน้า บิ๊กซี และ Homepro ทางซ้ายมือ

ตรงนี้ครับ แยกอ่างศิลาที่บอก แยกอ่างศิลาเนี่ยทางเลี้ยวลงไปมีหมู่บ้านเยอะมากๆนะครับ เพราะมีทางเชื่อมไปได้ทั้งบางแสน, ริมทะเล และถนนพระยาสัจจาเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองชลบุรีได้ ทำให้ตอนเย็นแถวนี้รถติดไม่ใช่เล่นเลย

แยกข้างหน้า ทางซ้ายมือจะมีทางไปสวนสัตว์เขาเขียว แหล่งท่องเที่ยวของชลบุรีอีกที่นึง และมีถนนเลี่ยงตลาดหนองมนไปโผล่แทบบางพระได้ด้วย แต่เราตรงอย่างเดียวครับ

ก่อนถึงแยกลงหาดบางแสน จะมีป้ายบอกทางชัดเจน เป็นเส้นเดียวกับมหาวิทยาลัยบูรพาอีกด้วย

ผ่านสามแยกไฟแดงลงหาดบางแสนครับ

พอพ้นไฟแดงมานิดเดียวก็จะเข้าสู่ตลาดหนองมน ที่มีร้านขายของฝากเต็มข้างทางตลอดทั้งสองฝั่งยาวมากๆ ของขึ้นชื่อก็คงเป็นข้าวหลาม ขนมจาก และอาหารทะเลแห้งครับ

พ้นตลาดหนองมน จะเจอกับสี่แยกวัดตาลล้อมครับ ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไปวัดตาลล้อมตามชื่อแยก ส่วนถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นถนนเนตรดี ที่ไปโผล่ประตูหลังม.บูรพา และลงไปสู่ชายหาดวอนนภาได้นะ

ตอนนี้เราหลุดจากโซนของบางแสน และหนองมนแล้วนะครับ สภาพแวดล้อมริมทางจะเงียบๆลงหน่อย เป็นที่ดินเปล่าเสียส่วนใหญ่ มุ่งหน้าตรงต่อไปจะเป็นตำบลบางพระนะครับ บางพระเนี่ยถือว่าเข้าสู่อำเภอศรีราชาแล้วนะ

ผ่านปัญญา รีสอร์ททางซ้ายมือ ซึ่งเป็นทั้งสนามกอล์ฟและหมู่บ้าน ข้างในมีเนื้อที่ดินเยอะมากๆครับ ใครสนใจมาลองตีกอล์ฟดูได้

เข้าตัวใจกลางบางพระแล้ว ริมถนนหลักจะเป็นอาคารพาณิชย์เดิมเสียส่วนใหญ่ บริเวณนี้เป็นสามแยกไฟแดง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะสามารถไปอ่างเก็บน้ำบางพระได้ และมีวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกบางพระด้วยนะ ฝั่งขวามือบริเวณสะพานลอยจะเป็นตลาดสดบางพระ

ตรงต่อมา บริเวณจะเป็นเนินเขา คนแถวนี้จะเรียกว่าคอเขาบางพระ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปอ่างเก็บน้ำบางพระ ฝั่งขวามือถ้ากลับรถและเลี้ยวเข้าซอยไปจะมีวัดเขาพระพุทธบาทด้วยนะ เวลามีงานวัดจะครึกครื้นมาก

หลังจากที่ตรงมา ซ้ายมือจะเจอกับโรงเรียนใหญ่อย่างดาราสมุทร ศรีราชา

พอสิ้นสุดเขตของรร.ดาราสมุทร จะเป็นสามแยกไฟแดงที่ถ้าเลี้ยวขวานั้นจะไปสวนสุขภาพเกาะลอย, รพ.สมิติเวช ครับ

ตรงมาอีกแยกนึงจะเจอกับสี่แยกวังหิน ที่เรียกว่าแยกวังหินเพราะถ้าเลี้ยงซ้ายจะมีวัดวังหิน วัดเก่าแก่ของคนแถวนี้นั่นเอง

ถัดมาจะเจอกับห้างสรรพสินค้าหลักของคนศรีราชานั่นเอง นั่นคือห้าง โรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค) ซึ่งด้านหลังห้างนั่นคือ “ศรีราชานคร” เป็นชุมชนทั้งอยู่อาศัยและค้าขายมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารมากมาย อีกทั้งโรงแรม และโรงพยาบาลพญาไทด้วย แต่เดิมบริเวณนี้สามารถเลี้ยวขวาเพื่อเข้าห้างได้เลย แต่เกิดปัญหาจราจรติดขัดและอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งก็เลยเปลี่ยนใหม่ปิดห้ามเลี้ยวอย่างที่เห็น ต้องตรงไปข้างหน้าเพื่อกลับรถแทน

ตรงมาอีกหน่อยจะเจอะกับสะพานลอยคลาสสิค แยกนี้เค้าเรียกกันว่าแยกไฟแดงเก่าครับ ปัจจุบันไม่มีไฟแดงแล้ว ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นถนนสุรศักดิ์ 1

ต่อเลยนะครับ แยกไฟแดงข้างหน้าคือแยกเก้ากิโลนั่นเอง ถนนเก้ากิโลเป็นถนนที่เชื่อมไปสู่ถนนมอเตอร์เวย์ และไปสิ้นสุดแถวเครือสหพัฒน์ครับ ทำให้มีชุมชนอยู่อาศัยค่อนข้างมากอยู่พอสมควร และที่สำคัญยังมีทางลัดเลาะไปออกถนนเขาน้ำซับที่เป็นถนนผ่านหน้าโครงการเราอีกด้วย

พอเลยตึกคอมมาแล้ว ก็ตรงอย่างเดียวเลยครับ ผ่านหน้าศูนย์ Honda ฝั่งตรงข้าม

ถัดมาช่วงนี้ จะเป็นเชิงเขานะครับ ขวามือจะมีศาลปู่เจ้าสมิงดำที่เป็นที่สักการะบูชาของคนที่ผ่านไปมาแถวนี้ ถ้าใครขับรถผ่านช่วงนี้แล้วเจอรถยนต์หลายๆคันบีบแตรกันไม่ต้องตกใจนะ คนแถวนี้รู้กันว่าเป็นการทำความเคารพท่านครับ

พอพ้นโค้งเชิงเขามาแล้ว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นศูนย์โตโยต้า ให้เราเริ่มชิดเลนซ้ายสุดได้แล้วครับ

ตรงนี้ใกล้ถึงทางเลี้ยวเข้าถนนเขาน้ำซับแล้วนะครับ จุดสังเกตใหญ่ก็มีฝั่งขวามือคือป้ายของ Kerry Saim Seaport ขนาดใหญ่ และซ้ายมือที่เห็นเป็นหลังคาโดมนั้นคือ ศรีราชา อารีนา สปอร์ตคลับนั่นเอง

พอพ้นไฟแดงมา จะเป็นจุดกลับรถพอดี จะเห็นถนนเขาน้ำซับทางซ้ายมือแล้ว

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเขาน้ำซับเลย

พอเลี้ยวมาแล้ว จะเห็นโดมของ ศรีราชา อารีนา สปอร์ตคลับ มี 2 ชั้น

พอพ้นสปอร์ตคลับมาแล้ว ก็ถึงที่ตั้งโครงการแล้วครับ

แผนที่ระยะประชิด**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูแผนที่รอบๆใกล้ๆโครงการกันบ้างครับ คือขอบเขตของที่ดินภายในโครงการของ 123 Residence Sriracha นั้น นอกจากคอนโดแล้วยังมีบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวเฮ้าส์เป็นแนวราบด้วยนะครับ ซึ่งจะอยู่ฝั่งทิศตะวันตก(ของส่วนคอนโด)ทั้งหมดเลย ส่วนรอบทิศที่เหลือทุกด้านจะเป็นที่ดินเปล่าทั้งหมด ซึ่งฝั่งทิศเหนือจะเป็นแนวเชิงเขาครับ เรียกว่ามองไปทางไกลๆ ทั้งหมดจะเห็นเป็นสีเขียวของต้นไม้สบายๅตา

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 600 เมตร
  • รพ.แหลมฉบัง 1.7 กม.
  • ไทยออยล์ 2.4 กม.
  • ตึกคอมศรีราชา 4.6 กม.
  • รพ.สมเด็จฯ 5.0 กม.
  • โรบินสัน(แปซิฟิคพาร์ค) 5.4 กม.
  • สวนสุขภาพเกาะลอย 5.5 กม.
  • รพ.พญาไท 5.7 กม.
  • นิคมอุตสาหกรรมท่าเรือแหลมฉบัง 6.0 กม.
  • รร.อัสสัมชัญ 6.2 กม.
  • J Park 10 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

รูปตีฟภาพรวมโครงการแต่งแล้วกด “คลิ๊กที่รูป” เพื่อขยายภาพขนาดใหญ่

โครงการ 123 เรสซิเดนซ์ ศรีราชา มีส่วนผสมของอาคาร 3 รูปแบบ รวม 1,444 ยูนิต เพื่อสร้างความหลากหลาย ให้กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกันได้เลือกสรร ได้แก่ อาคารที่พักอาศัยแนวราบ ที่แบ่งออกเป็นบ้านแฝด 66 หลัง และบ้านเดี่ยว 5 หลัง อาคารชุดสูง 8 ชั้น 7 อาคาร รวม 1,333 ห้อง และอาคารพาณิชย์ 40 หลัง โดยเฟส แรกนี้ บริษัทฯ เปิดขายในส่วนบ้านแฝด 26 หลัง และบ้านเดี่ยว 2 หลัง ในราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ก่อสร้างไปแล้วกว่า 60% และจะสามารถทยอยโอนได้ในช่วงปลายไตรมาสสอง และมีแผนที่จะเปิดจองเฟสสอง ที่มีทั้งแนวราบและอาคารชุดในช่วงไตรมาสสุดท้าย ในส่วนอาคารชุดแรกจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1.58 ล้านบาท (เริ่มเปิดขายก่อนที่ตึก A B และ C) แบ่งออก เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ห้องสตูดิโอ ขนาด 26 ตรม. หนึ่งห้องนอน 30 ตรม. หนึ่งห้องนอนขนาดพิเศษ 35 ตรม. และ สองห้องนอน 51 ตรม. ส่วนอาคารพาณิชย์จะเริ่มก่อสร้างในปี 2561

master_planทำแล้ว

Master Plan แบบขอบเขตที่ดินของโครงการทั้งหมด ผมเอามาให้ดูแค่ส่วนของคอนโด ที่เริ่มเปิดขายก่อนนั้นคืออาคาร A B C นะครับ จะเห็นว่าถ้าเข้าจากถนนเขาน้ำซับและเข้าถนนภายในโครงการไปจนถึงส่วนของทางกั้นเข้าออกจะอยู่ที่ประมาณ 140 เมตร จะเจอกับอาคาร A ก่อนที่มี Facility แยกเดี่ยวออกมาเลย แต่อาคาร B และ C นั้นจะมีการใช้ Facility ร่วมกันเลยทำให้มีขนาดที่ใหญ่กว่านั่นเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบความเป็นส่วนตัวหน่อยก็เลือกอาคาร A แต่อยากได้พื้นที่ Facility เยอะๆก็ต้องใช้ร่วมกันคนอื่นนั่นเอง

ภาพจำลองบรรยากาศ ภายนอกอาคาร โทนสีของอาคารเป็นสีน้ำตาลเข้ม ตัดกับลวดลายแนวตั้งอย่าง FIN ที่บังคอมเพรสเซอร์แอร์สีออกน้ำตาลทอง ภาพนี้เป็นส่วนของอาคาร A ที่มองเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลาง แยกสระเด็กเอาไว้ด้วย มี deck นอนเล่นอาบแดดเอาไว้ให้

ภาพจำลองบรรยากาศ ภายนอกอาคาร อีกมุมนึง ถ้าของจริงปลูกต้นไม้แบบนี้ก็ชิวดีนะครับ

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของ Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของ Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของ Letter Room

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของห้องน้ำ Lobby

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของ โถงลิฟท์ มีช่องแสงกรอบกระจกบานใหญ่แบบ fix 2 บาน

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ภายในลิฟท์โดยสาร

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของ Fitness Room

ภาพจำลองบรรยากาศภายในอาคาร ส่วนของ Fitness Room

F1

มาดู Floor Plan ของอาคาร A กันบ้างครับ อาคารของที่นี่ทุกตัวจะเป็นรูปตัว L นะครับ ซึ่งชั้น 1 นี่จะมีทั้งที่จอดรถใต้อาคาร และ Facility ก็อยู่ชั้นนี้ด้วยได้แก่ Lobby, Fitness, Letter Room และสระว่ายน้ำอยู่นอกอาคาร ชั้นนี้ก็มีส่วนของห้องพักแล้วนะครับ กั้นด้วยประตูที่ต้องใช้ Key Card แตะถึงจะเข้าไปได้ ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 7 ยูนิต

F2

Corridor เป็นตัว L ตามรูปทรงเดียวกับอาคาร เริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไปจะเป็นชั้นอยู่อาศัยแบบจริงจัง ซึ่งมีจำนวนยูนิตพักอาศัยสูงสุดอยู่ที่ 24 ยูนิตครับ มีบันไดหนีไฟอยู่ 3 จุด และห้องทิ้งขยะอยู่ใกล้กับที่รอลิฟท์

F8

ชั้น 3-8 แค่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งกับรูปแบบห้องนิดหน่อย มีจำนวนยูนิตพักอาศัยสูงสุดอยู่ที่ 26 ยูนิต

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ อาคาร A 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 17.5 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร แบ่งสระเด็กขนาด 3 x 5 เมตร ลึก 0.6 เมตร
  • สระว่ายน้ำ อาคาร B,C 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 25 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร แบ่งสระเด็กขนาด 7 x 10 เมตร ลึก 0.6 เมตร
  • ห้องออกกำลังกายขนาดเล็กอาคาร A และขนาดปานกลางอาคาร B
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ 1 อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 513 : 6
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 187 : 2
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 168 : 2
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก C 158 : 2
  • ไม่มี Service Lift
  • ที่จอดรถรวมทุกอาคารประมาณ 175 คันคิดเป็น 34% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 41%
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • Wifi – Lobby และ สระว่ายน้ำ

 


Product Walkthrough

plan1bed

เริ่มจากห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตารางเมตรกันก่อน อันนี้เป็นห้องตัวอย่างนะครับ โดยการออกแบบพื้นที่จะผลักส่วน Service ให้มาอยู่ติดกับผนังส่วนทางเดิน ส่วนผนังอีกด้านโครงการทำช่องเปิดให้ทั้งประตูออกสู่ระเบียง และหน้าต่างในห้องนอน ทำให้ห้องนี้มีช่องเปิดที่ช่วยถ่ายเทอากาศ รับแสงธรรมชาติในตอนกลางวันได้ รวมทั้งสามารถมองวิวด้านนอกได้ชิวๆ โดยเมื่อเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่จะเห็นเลยคือส่วนครัวที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและมีระเบียงให้ด้วย ถัดไปเป็นห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำที่เข้าจากทางห้องนอนได้ทางเดียว ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะมีฉากบานเลื่อนกั้นให้ เพื่อให้สามารถใช้งานทั้งสองฟังก์ชั่นได้พร้อมๆกัน อ้อ..ทางโครงการ ขายแบบ Fully-Furnished นะครับ ให้ทุกอย่างยกเว้น พร็อพตกแต่งจุกจิก, ฟูกที่นอน, ผ้าม่าน และก็เครื่องใช้ไฟฟ้า ยกเว้นแอร์ที่ได้นะ

ประตูห้องเป็นบานสำเร็จรูปปูด้วยลามิเนตลายไม้

ประตูให้ Digital door lock ของ Yale

พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ หนา 8 มิลลิเมตร มีการปิดคิ้วเรียบร้อย

เมื่อเข้ามาในห้อง จะเจอกับส่วนครัว ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและระเบียง

ลองมองย้อนกลับไปที่หน้าประตูทางเข้าจะเห็นห้องครัวทั้งห้อง โดยทั้งชุดครัว Built-in และชั้นวางของทั้งหมดในห้องที่เห็นนี้ทางโครงการจะให้แบบนี้เลยนะครับ

ตรงประตูทางเข้ามีตัวกันกระแทกมาให้ด้วย ส่วนผนังด้านนี้ติดตั้งชั้นวางของให้ด้วยทั้งชั้นล่างและชั้นบนเลยครับ

ซูมกันให้ดูชัดๆ หน้าตาชั้นวางของที่ได้จะเป็นแบบนี้ ทั้งด้านล่างและด้านบน

มาดูชุดครัว Built-in กันบ้าง โดยจะประกอบด้วยเคาท์เตอร์ครัว โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้

ชุดครัวด้านบนมีทั้งชั้นวางของ ตู้ และช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟได้

ผนังด้านหลังเคาท์เตอร์ครัว ปูด้วยกระเบื้องสีขาวทำความสะอาดง่ายดีครับ ท๊อปครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ

อ่างล้างมือและก็อกน้ำให้ของ Teka ลองใส่จานให้ดู อ่างขนาดกำลังดีไม่เล็กเกินไป

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว และที่ดูดควันให้ของ TEKA

ชั้นเคาท์เตอร์ครัวด้านล่างก็ให้แบบนี้เลยนะครับ พวกแจกกันดอกไม้ไม่เกี่ยวนะ 😀

โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง ติดกับเคาท์เตอร์ครัว เวลาใช้งานจะเป็นแบบนี้

ซึ่งตอนที่ยังไม่ได้รับประทานอาหารก็สามารถพับเก็บได้ ทำให้พื้นที่ห้องโล่งขึ้นครับ

เก้าอี้ก็แถมให้ด้วยนะ 2 ตัว รูปทรงเก๋ดี ขาไม้ โครงเหล็ก

ถัดไปเป็นโซนนั่งเล่นหรือรับแขก โครงการจัดวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะวางทีวีมาให้ ระยะดูทีวีประมาณ 1.7 เมตร โดยสามารถวางทีวีขนาดประมาณ 43-47 นิ้วจะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาครับ

โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางให้มาแบบนี้

โต๊ะวางทีวีขนาดเล็กนี้โครงการให้มาด้วย โดยพื้นที่ด้านข้างจะว่างพอที่จะหาชั้นเก็บของมาวางได้เพิ่มอีกนะ หรือถ้ามีงบมากพอแนะนำให้ Built ชุดตู้ติดผนังด้านบนทีวีเพิ่มไปด้วยเลยก็ดี จะได้คุ้มค่าต่อพื้นที่ใช้สอย

เมื่อเปิดตู้ออกมาแล้ว ชั้นด้านในจะโล่งแบบนี้สามารถใส่ของได้อเนกประสงค์ครับ

ถัดจากห้องรับแขกไปจะประตูบานเลื่อนกระจกใส กรอบอลูมิเนียมสีดำ กั้นพื้นที่ระหว่างห้องรับแขกกับระเบียงห้อง

โดยโครงการติดตั้งแอร์ของ Panasonic มาให้ 12,000 BTU

เปิดประตูออกไปดูระเบียงห้องกัน โดยระเบียงห้องมีขนาดประมาณ 0.9 x 2.1 เมตร พื้นมีการลดระดับเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ามาในห้อง โดยพื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร รั้วระเบียงอลูมิเนียมของอัลเน็กซ์ สูงประมาณ 1.0 เมตร

ระเบียงด้านซ้ายมือจะเป็นจุดติดตั้ง Compressor แอร์ โดยเป่าลมร้อนออกนอกอาคาร ทำให้ระเบียงไม่ร้อน สามารถมายืนชมวิวได้ Facade ด้านนี้จะติดระแนงช่วยพรางสายตา โดยหากเรามองจากนอกอาคารเข้ามาจะไม่เห็น Compressor แอร์ชัดเจนนัก ช่วยให้หน้าตาอาคารดูดีมากขึ้น ส่วนด้านขวามือจะเป็นราวระเบียงเข้ามุม ไปยืนรับลมเล่นที่ด้านนี้ได้

จากระเบียงเราเข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ โดยห้องนี้จะทำประตูซ่อนในผนังให้ด้วย เผื่อการใช้งาน 2 ฟังก์ชั่น คือพื้นที่ห้องรับแขกและห้องนอนไปพร้อมกันได้สบายๆ โดยประตูกั้นห้องนอนจะเป็นประตูบานเลื่อนปูด้วยลามิเนตลายไม้

เข้ามาในห้องนอน ห้องนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนให้ 1 บาน ได้แสงธรรมชาติดีพอสมควร ได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in ทั้งหมดในห้องจะให้แบบนี้เลยนะครับ ทั้งเตียงขนาด 5 ฟุตครึ่ง, ชั้นวางของ, โต๊ะเขียนหนังสือ รวมทั้งแอร์ติดผนังด้วยของ Panasonic

พื้นที่ปลายเตียงเหลือระยะเดินไม่เยอะมาก ประมาณ 45 เซนติเมตร โดยโครงการติดตั้งเต้ารับและที่เสียบสายเคเบิลมาให้ จึงสามารถติดตั้งทีวีแขวนผนังในส่วนนี้ได้ครับ แต่ไม่แนะนำทีวีที่วางบนชั้นนะ ควรเป็นทีวีติดผนังมากกว่าจะได้เหลือพื้นที่เดินผ่านไปผ่านมาปลายเตียงอยู่บ้าง

พื้นที่ข้างเตียงด้านที่ติดกับหน้าต่าง โครงการได้ Built-in ชั้นวางของยาวเต็มพื้นที่เลย ทำให้เวลาที่เราจะเปิด-ปิดหน้าต่างนี่ก็สามารถเปิด-ปิด จากบนเตียงนอนได้เลยนะ รวมทั้งหากใครจะหาผ้าม่านมาติดตั้งควรวัดระยะดีๆ จะได้พอดีกับความสูงของตู้พอดีครับ

ตู้นี่ไม่ธรรมดา เปิดใส่ของจากด้านบนได้ด้วย เต็มความยาวตู้เลย

หน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 ตอน กรอบอลูมิเนียมสีดำ ด้านล่างเป็นบาน Fix นะครับ

เตียงที่โครงการ Built-in มาให้ ด้านล่างเป็นช่องให้สามารถใส่หนังสือหรือของกระจุกกระจิกได้ด้วย

อีกด้านหนึ่งของห้องนอนจะเป็นห้องน้ำในตัว พื้นที่หน้าห้องน้ำโครงการได้ Built-in โต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆ พร้อมตู้เสื้อผ้าให้ด้วย

ชั้นวางของด้านบน ที่มีตัวแขวนเล็กๆให้สามารถห้อยของกระจุกกระจิกได้ครับ

ส่วนพื้นที่หัวเตียง โต๊ะวางโคมไฟสีขาวๆนั้นไม่ได้มีให้นะครับ แต่จะให้โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้มา หรือจะทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

ตู้เสื้อผ้าบานเปิด-ปิด หน้าบานเป็นกระจกส่องได้ทั้งตัว เมื่อเปิดออกมาก็จะเป็นตู้แขวนเสื้อผ้าว่างๆ ด้านบนเป็นชั้นวางของ ส่วนด้านล่างเป็นลิ้นชัก เก็บเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ครับ

ต่อมาเป็นห้องน้ำพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้าน ฟังก์ชั่นครบ ทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ รวมทั้งห้องอาบน้ำที่มีฉากกั้นให้ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน

ชุดเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า ที่ผนังส่วนนี้ติดตั้งกระจกเงามาให้ด้วยครับ เป็นบานเรียบๆ ข้างๆอ่างล้างหน้ามีที่แขวนผ้าเช็ดตัว และสวิตซ์เปิด-ปิดไฟในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมและก็อกน้ำให้ของ Kohler หรือเทียบเท่า อ้อ..จะเห็นว่าบริเวณใต้กระจกเงาจะเป็นผนัง Low Wall เล็กๆเอาไว้วางของใช้ได้ด้วยครับ

โถสุขภัณฑ์ สายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ ให้ของ Kohler

ฉากกั้นอาบน้ำเป็น Tempered Glass มือจับค่อนข้างใหญ่

มีตัวกันกระแทกให้ด้วย พื้นมีการยกธรณีประตูขึ้นเล็กน้อยประมาณ 3 ซม. เพื่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.0 x 1.4 เมตร

ชุดฝักบัวอาบน้ำของ Kohler พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นของ Panasonic ข้างๆมีที่วางสบู่สแตนเลสให้ด้วยครับ

ฝักบัวขนาดใหญ่ดีนะ มีที่ปรับรูปแบบน้ำได้ด้วย

โดยห้องน้ำนี้มีหน้าต่างกระจกใส ให้สามารถมองออกไปเห็นห้องนอนได้ด้วย เซกซี่ดีไหมหละ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบหวิวๆแบบนี้ ก็สามารถหาม่านมาติดตั้งแบบนี้ได้นะครับจะได้เพิ่มความเป็นส่วนตัวหน่อย

สวิตซ์และปลั๊กไฟที่โครงการให้ จะมีลักษณะแบบนี้ทั้งห้องเลยครับ ของ Panasonic

plan2bed

มาดูที่ห้อง 1 Bedroom plus ขนาด 51 ตารางเมตรกันบ้าง ห้องนี้จะมีฟังก์ชั่นค่อนข้างครบ ส่วนครัว ส่วนรับแขก- นั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และห้องนอน ซึ่งจริงๆแล้วทางโครงการจัดพื้นที่ให้เป็น 2 ห้องนอนนะครับ แต่ผมรู้สึกว่าอีกห้องค่อนข้างเล็ก และเป็นห้องที่ใช้ฉากบานเลื่อนกั้น ดังนั้นห้องนี้จึงสามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ

ความพิเศษของห้องนี้จะคล้ายๆกับห้อง 1 Bedroom คือ การผลักส่วน Service มาไว้ด้านในทำให้พื้นที่พักผ่อน ทั้งส่วนนั่งเล่นและห้องนอนมีช่องเปิดที่สามารถให้แสงธรรมชาติเข้า และ  Take view ได้ รวมทั้งการใช้บานเลื่อนกั้นห้องมาใช้ในการแบ่งแยกพื้นที่ ทำให้ฟังก์ชั่นค่อนข้างลื่นไหล สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามความต้องการได้ง่าย

เข้ามาในห้องจะเจอส่วนของห้องรับประทานอาหาร ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นที่มีระเบียงด้วย ส่วนผนังไม้ที่เราเห็นทั้งซ้าย-ขวานั้นเป็นส่วนของห้องนอนทั้งคู่ครับ

ลองมองย้อนกลับไปที่ทางเข้า จะได้เห็นพื้นที่กันได้ชัดๆนะครับ โดยเข้าประตูมาเราจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหาร ที่ด้านซ้ายเป็นห้องครัว ส่วนทางขวามือเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับห้องนอนหลัก ซึ่งเราจะพาไปดูที่ส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัวกันก่อนนะครับ เฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และลอยตัวในห้อง โครงการจัดมาให้แบบนี้เลย

ข้างประตูด้านบนเป็นชั้นวางของที่มีที่แขวนของกระจุกกระจิก อย่างเช่นพวงกุญแจหรือร่ม มาให้ด้วย สะดวกเวลาเข้า-ออกห้อง ส่วนด้านล่างเป็นตู้รองเท้า ด้านบนสามารถวางของได้อเนกประสงค์

พอเปิดตูออกมาแล้ว จะเห็นว่าชั้นภายในมีความลาดเอียง เป็นตู้สำหรับวางรองเท้าโดยเฉพาะ

โต๊ะรับประทานอาหาร พร้อมเก้าอี้ 4 ที่นั่ง โครงการให้มาหน้าตาแบบนี้

ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นโครงการวางโซฟาขนาด 2  ที่นั่งมาให้ พร้อมตู้วางทีวี ระยะดูทีวีประมาณ 1.6 เมตร แอร์อยู่บนประตูระเบียงพอดี

โซฟาขนาด 2 ที่นั่งที่โครงการจัดมาให้ ด้านหลังเป็นตู้เก็บของที่สามารถเปิดใช้งานได้เมื่ออยู่ในห้องนอนครับ

อีกด้านเป็นตู้วางทีวีพร้อมชั้นวางของด้านบน ชั้นวางทีวีเล็กไปนิดนึง หาตู้มาเพิ่มก็ได้ครับ จะได้ไม่โล่งจนเกินไป

หน้าตาตู้วางทีวี เหมือนห้อง 1 Bedroom เลยครับ

ถัดไปเป็นส่วนของประตูทางออกระเบียง เป็นบานเลื่อนกระจกเต็มบาน กรอบอลูมิเนียมสีดำ

พื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างดีครับ สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นแบบนี้ได้สบายๆเลย พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เมตร ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ สูง 1.0 เมตร เช่นเดียวกับห้อง 1 Bedroom

ระเบียงด้านหนึ่ง มีพื้นที่ยาวเข้าไป เป็นจุดที่ติดตั้ง Compressor แอร์ทั้งสามตัวที่หันลมร้อนออกนอกอาคาร โดยรวมแล้วพื้นที่ระเบียงค่อนข้างกว้างมากเหมือนกันนะเนี่ย

พื้นระเบียงมีการลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย

ไปดูส่วนครัวกันบ้างครับ โครงการ Built-in ชุดครัวและชั้นวางของให้แบบนี้เลย

ชุดครัวโดยรวมหน้าตาประมาณนี้ครับ คล้ายๆกับแบบห้อง 1 Bedroom มีทั้งเคาท์เตอร์ด้านบนและด้านล่าง ผนังตรงกลางปูกระเบื้องช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย

เคาท์เตอร์ครัวด้านบนเมื่อเปิด-ปิดแล้วจะได้หน้าตาแบบนี้

ผนังตรงเคาท์เตอร์ครัวปูกระเบื้องสีขาวลายอิฐ มีการติดตั้งอ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมและก็อกน้ำทรงโค้งของ Teka รวมทั้งเตาและที่ดูดควันของ Teka เช่นกัน สเปคเหมือนห้อง  1 Bedroom ครับ แค่มีขนาดและพื้นที่มากกว่า

ตู้เคาท์เตอร์ครัวด้านล่าง ลองเปิด-ปิดให้ดู

ส่วนผนังด้านที่ว่างโครงการวางตู้เย็นมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งของจริงจะไม่มีให้ พื้นที่ค่อนข้างเหลือนะครับ

ถัดมาเราไปดูห้อง Plus หรือห้องนอนเล็กกันดีกว่า โครงการกั้นพื้นที่ให้โดยใช้ฉากกั้นห้องเป็นประตูบานเลื่อนลามิเนตลายไม้ ส่วนด้านขวามือสุดเป็นผังกระจกบาน Fix สามารถมองจากห้องนอนออกมาได้

พอเลื่อนเปิด ก็จะเห็นพื้นที่ด้านในห้องแบบนี้ครับ จะเห็นว่าพื้นห้องที่ส่วนประตูกั้นเป็นพื้นเรียบไปเลย ไม่มีรางเลื่อน

ก็เพราะว่าโครงการได้ติดตั้งรางเลื่อนมาให้ด้านบนฝ้าเพดานแบบนี้ครับ ซึ่งวางรางเลื่อนเข้ามุมกันเป็นมุมป้านแบบนี้เป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ให้ห้องนี้ได้เล็กน้อย เลยได้ Space ของห้องเป็นรูปร่างห้าเหลี่ยม แปลกตาดี บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ทรงสี่เหลี่ยมมาให้ด้วยจำนวน 2 ดวงนะครับ

ห้องนี้ถ้าจะจัดเป็นห้องนอนก็คงเหมาะกับเด็กเล็ก หรือไม่ก็ทำเป็นห้องนั่งเล่นก็ได้ครับเพราะพื้นที่ค่อนข้างเล็ก  ช่องเปิดมีให้ 1 จุด เป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่เลย ด้านบนเป็นบานเลื่อนซ้ายขวา ส่วนด้านล่างเป็นบาน Fix เฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็น Built-in ที่โครงการติดตั้งมาให้ ประกอบด้วยเตียงเล็กไม่รวมฟูก ชั้นวางของทั้งด้านล่างและด้านบน รวมทั้งแอร์ก็ให้ด้วย ของ Panasonic

ชั้นวางของข้างๆเตียงเล็ก มีช่องสำหรับใส่ของและลิ้นชักที่เปิด-ปิดจากทางด้านบนได้ เหมือนห้อง 1 Bedroom

ชั้นวางของติดผนังก็มีให้หน้าตาแบบนี้เลยครับ ส่วนด้านขวามือเป็นตู้เสื้อผ้า หน้าบานเป็นกระจกเงาทั้งสองด้าน

เปิดออกมาด้านในตู้จะมีที่แขวนผ้า ชั้นวางของและลิ้นชักให้เหมือนห้องก่อนหน้า

ผนังกระจกบาน Fix มองออกไปจะเห็นมุมหนึ่งของห้องครัว แบบนี้เลยครับ เชื่อว่าคงมีไว้เพื่อไม่ให้อยู่ในห้องทึบๆแล้วรู้สึกอึดอัดเกินไป และแอบเห็นได้ด้วยว่าใครมาแอบกินขนมของเรา 😀

ส่วนตู้ที่อยู่หลังโซฟาในห้องนั่งเล่น พอมาอยู่ด้านนี้ จะมีหน้าบานให้สามารถเปิด-ปิด เก็บของได้สบายๆ

ถัดจากห้องนี้สามารถเข้าห้องน้ำได้จากทางนี้ครับ ส่วนประตูข้างๆห้องน้ำนั้นเป็นประตูห้องนอนใหญ่ เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปดูกันครับ

ห้องนอนใหญ่ โครงการติดตั้งเตียงขนาด 5 ฟุตครึ่งมาให้ไม่รวมฟูก ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ Built-in ในห้องนี้จะมีรายละเอียดต่างๆเหมือนกับของห้อง 1 Bedroom เลยครับ รวมไปถึงหน้าต่างช่องเปิดก็ไม่ต่างกัน

ตู้ Built-in ข้างๆเตียง สามารถเปิดลิ้นชักขึ้นมาเก็บของได้

ผนังอีกด้านเป็นส่วนแต่งตัว โดยโครงการ Built-in โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางของด้านบน รวมทั้งตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยครับ สเปคเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ทุกประการ ถัดไปเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ

ภายในห้องประกอบด้วยเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ด้านริมผนังทำเป็น Low Wall แนวยาว เอาไว้วางของใช้ได้ รวมทั้งตู้อาบน้ำกั้นฉากกระจกนิรภัยมาให้ ฟังก์ชั่นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน

เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า ทำเป็น Low wall ยาวไปถึงส่วนของโถสุขภัณฑ์ ซึ่งทั้งอ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์, สายชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่ ให้ของ Kohler

ถัดไปเป็นส่วนของห้องอาบน้ำที่โครงการกั้นมาให้เป็น Tempered Glass มีมือจับขนาดใหญ่ เหมือนกับห้อง 1 Bedroom

พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.0 x 1.2 เมตร

ชุดฝักบัวให้ของ Kohler พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นของ Panasonic ด้านข้างติดตั้งที่วางสบู่สแตนเลสมาให้ เหมือนกัน

ภายนอกอาคารใช้โทนสี น้ำตาล-ครีม มองมาทางระเบียงของห้อง Type นี้ เป็นแบบนี้ครับ จะเห็นว่าช่องเปิดที่เป็นกระจกค่อนข้างกว้างช่วยให้ห้องดูโปร่ง รวมทั้งการเล่น Facade ที่เป็นระแนงตรงที่วาง Compressor แอร์  ทำให้ให้หน้าตาอาคารดูดีกว่าวาง Compressor ลอยๆ โดยระแนงนี้ช่วยพรางสายตาได้เป็นอย่างดีเลยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 July 2015

  • 1 Bedroom อาคาร A ห้อง 326 เนื้อที่ 30.28 ตร.ม. ราคา 1.847 ล้านบาท หรือ 60,997 บาท/ตร.ม.
  • Studio อาคาร A ห้อง 507 เนื้อที่ 25.38 ตร.ม. ราคา 1.614 ล้านบาท หรือ 63,593 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom อาคาร A ห้อง 804 เนื้อที่ 50.86 ตร.ม. ราคา 3.433 ล้านบาท หรือ 67,499 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% ของราคาขาย แบ่งจ่ายได้ 3 งวด
  • ผ่อนดาวน์ทั้งหมด 15 งวด โดยงวดที่ 1-14 จ่ายงวดละ 3% ส่วนงวดที่ 15 จ่ายงวดละ 2%
  • ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่าบริการที่จอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน
  • ค่าบริการที่จอดรถจักรยานยนต์ 100 บาท/คัน/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเลของโครงการตั้งอยู่ถนนรองอย่างเขาน้ำซับ ห่างจากถนนหลักอย่างสุขุมวิทประมาณ 210 เมตร ดูผิวเผิน เขาน้ำซับจะค่อนข้างเปลี่ยวเงียบก็จริง แต่เมื่อทำเป็นโครงการล้อมรอบด้วยรั้ว มีรปภ. ดูแลความปลอดภัย ผมกลับมองว่ากลายเป็นทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย เพราะเป็นที่ดินใกล้เชิงเขา มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว อีกทั้งถนนเขาน้ำซับก็เป็นเส้นทางใช้ลัดเลาะออกไปยังทางหลักอย่างถนนเก้ากิโล และซอยทุ่งสุขลาออกมอเตอร์เวย์(ทล.7) ได้อีกด้วย แต่ตอนกลางคืนจะเปลี่ยวหน่อยนะครับ ถือว่าค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว

เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในการกิน เริ่มจากใกล้ๆโครงการก่อน ต้องบอกก่อนเลยว่า เงียบมากๆแทบไม่มีร้านค้าอะไรเลยบนถนนเขาน้ำซับ อีกทั้งถนนสุขุมวิทช่วงด้านหน้าก็ไม่มีเช่นกัน เพราะมันเป็นที่แถวเชิงเขานั่นเอง ถ้าต้องการออกไปหาร้านอาหารของกิน ที่ใกล้ที่สุดคงต้องไปแถวแยกอ่าวอุดม หรือซอยทุ่งสุขลาซึ่งมีร้านอาหารเอาใจเด็กมหาลัยอยู่เยอะพอสมควร ถ้าขยับออกมาเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้สุดก็ไปโน่นเลยฮาเบอร์มอลล์ ไม่ก็โรบินสัน ตึกคอมศรีราชา หรือเบื่อๆอยากไปกินร้านเก๋ๆสไตล์ญี่ปุ่นให้วิ่งออกมอเตอร์เวย์เลย ไปเข้าถนนศรีราชาหนองค้อมีห้าง J PARK นั่นเอง

การเดินทางโดยรถยนต์เนี่ยถือว่าสะดวกนะ ถ้าดูจากแผนที่ระยะไกลที่ผมทำเอาไว้ เห็นว่าโครงการอยู่ระหว่างตัวเมืองศรีราชากับอ่าวอุดมแหลมฉบัง และใกล้ถนนหลักด้วย หรือวันไหนต้องไปพัทยาหรือกรุงเทพ ก็ลัดเลาะไปออกด้านหลังนิดเดียว แต่ถ้าจะไปกลับโครงการโดยเน้นรถสาธารณะก็มีรถเมลล์นะแต่ตรง Sriracha Arena Sport Club ไม่น่าจะมีป้ายจอด คงไปจอดแถวม.เกษตรเลย ที่จะยอมจอดให้คงเป็นรถสองแถวเท่านั้นและก็ต้องเดินต่อเข้ามาโครงการประมาณ 3-400 เมตร ซึ่งทำเลแถวนี้มันเงียบสงบไม่ค่อยแนะนำให้เดินลำพังเลย ไม่มีพี่วินด้วย

การออกแบบที่ทำมาไม่อึดอัดมากนะครับสำหรับพื้นที่บริเวณคอนโด เน้นให้ทางฝั่งของคอนโดได้รับวิวพื้นที่สิเขียวจากเชิงเขา ส่วนอีกฝั่งจะเป็นวิวสระ รูปแบบภายนอกของอาคารจะเรียบๆเป็นโทนสีน้ำตาลทอง ตัดกับ fin ระแนงบังคอมแอร์สีครีมทอง การจัดวาง Layout ห้องทำออกได้ดีสำหรับ studio และ 1 bed แต่ติดแค่ห้อง 1 bed ขนาดใหญ่ 51 ตร.ม. ตรงโซนครัวพื้นที่เหลือไปนิดหน่อย

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นคือให้แบบ Fully Furnished และค่อนข้างดีเป็น Built-In สลับกับเฟอร์ลอย เอาเป็นว่าของทุกอย่างที่เห็นในห้องได้หมดยกเว้นแค่พร็อพจุกจิกแต่งห้อง, ฟูกที่นอน, ผ้าม่าน, เครื่องใช้ไฟฟ้า (แต่แอร์กับเครื่องทำน้ำอุ่นได้) พื้นในห้องได้แบบลามิเนต 8mm. และกระเบื้องแกรนิตโต้ โคมไฟดาวน์ไลท์ Digital door lock – YALE เคาน์เตอร์ครัวกรุผนังข้าง top หินแกรนิต Hob&Hood ถือว่าได้ของดีและคุ้มค่าแล้วครับ

โดยสัดส่วนของ Facility และส่วนกลาง เรื่องของขนาดสระว่ายน้ำและฟิตเนสได้มาปกติมาตรฐานโอเคอยู่นะ แต่ที่น่าเป็นห่วงเห็นจะเป็นที่จอดรถยนต์มากกว่า จอดรถรวมทุกอาคารประมาณ 175 คันคิดเป็น 34% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 41% น่าเสียดายที่ที่จอดรถให้มาน้อยไปหน่อย เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าตจว.ที่เน้นพนักงานแรงงานในพื้นที่ส่วนใหญ่น่าจะมีรถยนต์กันอยู่แล้ว และก็อีกอย่างที่ผมสังเกตเห็นคือเรื่องค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม./เดือน ราคานี้เป็นเรทที่ถือว่าไม่แพงนะครับ แต่ส่วนของที่จอดรถนั้นเก็บแยกอีกทีค่าบริการที่จอดรถยนต์ 300 บาท/คัน/เดือน, จอดรถจักรยานยนต์ 100 บาท/คัน/เดือน

 

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 61,000 บาท/ตร.ม., 17 July 2015

  • ทำเล 7.75/10 – อยู่ออกมาจากตัวเมืองศรีราชาก็จริง แต่ไม่ไกลจากแหล่งนิคมและท่าเรือและโรงงานที่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ไม่ไกลจากแหล่งกินเที่ยว และจุดสำคัญต่างๆ
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ค่อนข้างสะดวก ใกล้กับถนนหลักสุขุมวิท และลัดเลาะออกเก้ากิโล และมอเตอร์เวย์ได้
  • ไม่ใช้รถ 7.0/10 – ค่อนข้างลำบาก มีรถเมล์และสองแถวผ่านหน้าสุขุมวิทจริง แต่จอดยาก และไม่มีวินหรือสองแถวบนถนนเขาน้ำซับ
  • วัสดุ 8.5/10 – ให้มาแบบจัดเต็ม Fully Furnished คุ้มค่ากับราคาอยู่
  • แบบ 7.75/10 – แบบทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัวนะ ประยุกต์ได้ด้วยสำหรับ แบบ 2 ห้องนอน จะเปลี่ยนเป็นห้องอ่านหนังสือแทนก็ได้
  • สาธารณูปโภค 7.0/10 – สำหรับตึก A ให้มาปานกลางพอๆกับจำนวนยูนิต แต่ตึก B และ C กว้างขวางดี น่าเสียดายที่ที่จอดรถให้มาน้อยไปหน่อย เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าตจว.ที่เน้นพนักงานแรงงานในพื้นที่ส่วนใหญ่น่าจะมีรถยนต์กัน

  • ECONOMY CLASS
  • 7.75 / 10.00

BOTTOM LINE

123 Residence Sriracha เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดพร้อมเข้าอยู่ได้เลย เพราะเป็นแบบ Fully Furnished รองรับกลุ่มจำนวนแรงงานที่ย้ายเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งชาวไทยและนักธุรกิจญี่ปุ่นที่ต้องมาทำงานในโซนอุตสาหกรรมย่านนี้ ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยสูงขึ้นตามระดับ ต้องการความ Private ระดับนึง หนีออกมาจากตัวเมืองแออัดหน่อย มองไปทางไหนไม่วุ่นวายกับตึกเมืองมาก ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก มีงบประมาณระดับ 1.5 – 3.3 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 25,000 บาท/เดือน 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )