เมื่อถึงเวลาย่างเข้าฤดูหนาว หลายๆคนก็คงอยากจะมาเที่ยวเขาใหญ่กัน โดยส่วนใหญ่ก็จะพักผ่อนตามโรงแรมที่อากาศดีๆสักสามสี่คืน พอชาร์ตแบตเต็มแล้วก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ แต่ถ้าติดใจอยากจะอยู่นานๆ มาบ่อยๆ ให้ได้ความเป็นส่วนตัวก็ต้องเลือกที่จะซื้อบ้านหรือคอนโดเอาไว้พักผ่อน … ครั้งนี้ทางเวปไซต์ของเราได้มาเยือน บ้านสีตวัน อีกครั้ง หลังจากที่ Mr. Boom ได้ทำการรีวิวไปแล้วเมื่อปีก่อน พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศใหม่ๆมาให้ชมครับ
ครั้งนี้ผมคงจะไม่พาไปรีวิวทุกรายละเอียดอีก เพราะ รีวิวฉบับที่ 533 ได้ทำเอาไว้ค่อนข้างละเอียดเกือบทุกมุมแล้ว แต่ผมจะพามาดูภาพจากบางมุมที่ผมเก็บมาเพิ่มเติม อัพเดทบรรยากาศที่หมู่บ้านแห่งนี้ให้ชมครับ
เริ่มจากบ้านหลังเล็กกันก่อน เป็นบ้านขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 238 ตารางเมตร บนที่ดิน 100 ตารางวา ถ้าใครคันมืออยากจะเก็บไว้เป็นเจ้าของก็ต้องจ่ายประมาณ 13 ล้านบาทขึ้นไป
โชคดีที่วันนี้ฝนตกแป๊ปเดียวแดดก็ออก ทำให้เราสามารถเก็บภาพหลังฝนตกกันได้ก่อนแสงอาทิตย์หมดพอดี ต้นไม้ใบหญ้าค่อนข้างชุ่มน้ำ บริเวณเฉลียงชั้นล่างของบ้านหลังนี้
จุดเด่นของบ้านพักคือระเบียงหน้าห้องนอนบนชั้นสอง ที่จัดทำเป็นพื้นที่นั่งชมวิว ออกแบบมาให้นั่งได้พอดีด้วยเก้าอี้สองตัวและม้านั่งโดยรอบ แต่ถ้าอยากจะรู้สึกปลอดภัยมากกว่านี้ หรือบ้านไหนมีเด็กเล็ก ก็ควรติดตั้งราวกันตกเอาไว้ด้วย ถ้าใช้กระจก Tempered Glass ก็จะช่วยเรื่องความปลอดภัยได้และไม่บังวิวทิวทัศน์ด้วยครับ
เวลานั่งลงบนเก้าอี้วิวที่เห็นก็จะเป็นแบบนี้นะครับ ทิวเขาซ้อนกันไปมาสวยงามๆ
ก่อนจะไปดูบ้านถัดไป ผมจะพามาดูบรรยากาศแถวๆสโมสรกันก่อน จุดเด่นอยู่ที่ต้นไม้ต้นนี้ … เป็นต้น Original ที่อยู่บนที่ดินผืนนี้ก่อนพัฒนาเป็นหมู่บ้าน แผ่กิ่งก้านสาขาสวยงามมาก ซึ่งถ้าหมู่บ้านไหนได้ที่ดินที่มีต้นไม่ใหญ่ๆแบบนี้มาก่อนจะพัฒนา ก็ควรที่จะเก็บไม้ใหญ่ไว้นะครับ เพราะมันจะช่วยให้หมู่บ้านดูดี ร่มรื่นขึ้นมากเลย
สโมสรที่เราเห็นกันนี้ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน ลูกบ้านสามารถมาใช้งานกันได้
โดยตัวสโมสรจะมี 2 ชั้น ชั้นล่างเป็น Lobby และสระว่ายน้ำ ส่วนชั้นบนเป็นฟิตเนส
แม้อยู่บนสระว่ายน้ำก็มองวิวทิวเขาได้นะครับ เพราะที่ดินตรงนี้เป็นเนิน Contour ลงไป
ฟิตเนสชั้นสองเปิดวิว 360 องศา ด้วยกระจกทั้ง 4 ด้าน
ด้านหลังสโมสรเป็น Linear Garden สร้างเป็นสวนไปจนสุดโครงการ
บ้านข้างๆที่ติดกับสโมสรก็เลยโชคดีไปครับ ได้ทั้งฟังก์ชั่นการใช้สอยและร่มเงาต้นไม้ไปเต็มๆ
ถัดมาเราจะมาดูบ้าน 3 ห้องนอนกันบ้างนะครับ กับพื้นที่ใช้สอย 296 ตารางเมตร บนที่ดิน 117 ตารางวาขึ้นไป และราคาขาย 17 ล้านบาท ++
โดยตัวบ้าน 3 ห้องนอนนี้มีการวางแปลนสองแบบ เป็นหน้ากว้างรูปตัว U อย่างหลังด้านบน และหน้าแคบรูปตัว C แบบภาพก่อนหน้านะครับ
โดยส่วนตัวผมชอบแบบหน้ากว้างรูปตัว U มากกว่า เพราะจะมีพื้นที่ตรงกลางคอร์ทหันเข้าหาถนน มองสวนหน้าบ้านและวิวได้อย่างเต็มๆแบบนี้
ในขณะที่บ้านตัว C ห้องนั่งเล่นจะมองไปด้านข้าง ซึ่งก็จะได้พื้นที่สีเขียว 3 ด้าน หรือ 270 องศา เป็นจุดเด่น
อีกด้านที่ไม่ติดสวนก็คือครัว โดยครัวที่นี่มีให้พร้อม ที่ไม่คิดว่าจะให้ก็คือโต๊ะไม้ตัวใหญ่ตัวนี้ที่มาแทน Island และใช้งานได้สะดวกมาก
Court ตรงกลางบ้านของบ้านที่วางเป็นรูปตัว C ก็จะช่วยให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าแบบตัว U
แต่ไม่ว่าเป็นบ้านตัว C หรือตัว U ก็จะมีระเบียงใหญ่มโหฬารแบบนี้ทั้งหมด โดยจะจัดเอาไว้ที่บริเวณหลังคาของห้องนั่งเล่น เชื่อมกับพื้นที่หน้าห้องนอนชั้นสองพอดิบพอดี
พื้นที่ระเบียงของบ้าน 3 ห้องนอนใหญ่กว่าแบบ 2 ห้องนอนมาก วางเตียงกันได้จริงๆจังๆเลย
วิวที่มองออกไปก็จะเป็นแบบนี้ … ส่วนที่ดินเปล่าแปลงด้านหน้านั้นก็เตรียมจะทำเป็นสวนของบ้านที่อยู่ข้างหน้าเราครับ
ให้ดูตำแหน่งชมวิวนะครับ
มองออกไปแบบนี้ในยามเย็นๆพระอาทิตย์ใกล้จะตก
สบายครับ ลมเย็น อากาศดี ดีกว่าอยู่กรุงเทพฯเยอะ
ถ้าใครอยากทำหลังคาเอาไว้เผื่อฝนตกผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่ต้องระวังเพราะถ้าทำเยอะไปมันจะบังวิวและมุมมองของตัวเอง
รอจนเย็นถ่ายพระอาทิตย์ตก
มาช่วงบ่ายว่าสวยแล้วผมว่าช่วงเย็นตอนก่อนพระอาทิตย์ตกนี้สวยกว่าเยอะ
แน่นอนว่าอากาศก็เย็นลงทันที ยิ่งเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนอย่างนี้
ทริปถ่ายภาพที่บ้านสีตวันก็ขอจบด้วยภาพสโมสรและบ้านเดี่ยวยามค่ำคืนของอำเภอปากช่อง ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครับ