รีวิวฉบับที่ 1356 … สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชมโครงการ Homeplace The Park วงแหวน-พระราม 9 โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่กำลังจะเปิดเฟส 4 ให้จับจองกัน ทำเลโครงการอยู่ในย่านลาดกระบัง ที่สามารถเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่ายและยังเข้าเมืองได้ง่ายด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ ตัวบ้านมีให้เลือกทั้งแบบ Modern และแบบ Contemporary ในราคาเริ่มต้น 4.6 – 7 ล้าน จะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ

Fact @ 30 May 2017

  • Homeplace The Park (โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9)
  • บริษัท โฮมเพลส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขต ลาดกระบัง
  • เนื้อที่โครงการ 42-3-80 ไร่ จำนวน 202 ยูนิต
  • แบบ Simply A พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Simply B พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Simply F พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ GEN X พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ GEO พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ OLI พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • เพดานชั้น 1 สูง 2.6 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.6 – 3 เมตร
  • ราคาเริ่มต้น 4.6 – 7 ล้านบาท
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง : ปี 2554 (ตอนเปิดเฟส 1 และทยอยสร้างมาเรื่อยๆ)
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ปี 2561
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • สำนักงานขาย : 02-557-2236-7

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.746474, 100.716339

แผนที่จากทางโครงการ โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9 โครงการอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และใกล้รถไฟฟ้า Airport Rail link การเดินทางสะดวก เข้าได้ถึง 4 เส้นทาง ได้แก่ 

ทางเข้าที่ 1 ถนนมอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ – ชลบุรี)

ทางเข้าที่ 2 ถนนร่มเกล้า

ทางเข้าที่ 3 ถนนรามคำแหง

ทางเข้าที่ 4 ถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (คาดแล้วเสร็จ ปลายปี2560)

ที่ตั้งโครงการ โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9 ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาชนบท 3 ในโซนชานเมืองหน่อยแต่ก็ยังสามารถเข้าเมืองได้ไม่ยากด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ จุดเด่นของทำเลโครงการนี้คืออยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและย่านอุตสาหกรรมใหญ่อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังที่อยู่บนถนนฉลองกรุง สำหรับถนนพัฒนาชนบทเส้นนี้จะมีการพัฒนาในอนาคต ที่มีแผนจะไปเชื่อมกับถนนร่มเกล้าและถนนกรุงเทพกรีฑา ทำให้สามารถลัดไปถนนรามคำแหง และถนนกรุงเทพกรีฑาได้

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือเป็นการเดินทางหลักๆ ของโครงการนี้ สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ค่อนข้างสะดวกพอสมควรค่ะ สำหรับการเข้าเมืองสามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ไปพระราม 9 หรือจะเข้าถนนลาดกระบังไปทะลุออกถนนอ่อนนุชเพื่อเข้าไปยังถนนสุขุมวิทชั้นใน รวมทั้งลัดไปออกถนนรามคำแหงโดยเข้าถนนเคหะร่มเกล้าไปทะลุออกถนนราษฎร์พัฒนาหรือที่รู้จักกันในชื่อ ซอยมิสทีน ส่วนออกนอกเมืองก็สามารถขึ้นมอเตอร์เวย์ออกไปทางฉะเชิงเทรา บางประกงได้เช่นกันค่ะ

ส่วนการเดินทางโดยพึ่งพิงระบบสาธารณะนั้น คงจะต้องพึ่งพาพวก Taxi ที่ผ่านมาหน้าโครงการ ส่วนเรื่องของระบบรางที่ใกล้ที่สุดคือ Airport Rail Link ลาดกระบัง โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5 กม.ค่ะ ซึ่งในอนาคตก็จะมีทางเลือกให้มากขึ้นหน่อยสำหรับระบบรางโดยจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีมีนบุรี บริเวณซอยรามคำแหง 192 ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. โดยสถานีนี้มีจุดจอดแล้วจร (Park and Ride) ซึ่งสามารถจอดรถได้ประมาณ 2,000 คัน รวมไปถึง Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มอีกด้วยค่ะ ซึ่งใครที่จะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถขับรถออกจากโครงการไปจอดแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปได้เลย ซึ่งกำหนดการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จจะอยู่ในปี 2563


เนื่องจากทำเลโครงการนั้นเรียกว่าสามารถใช้ทางพิเศษได้ค่อนข้างใกล้และหลากหลาย เลยจะขอเจาะรายละเอียดส่วนนี้สักหน่อยว่าสามารถใช้ทางไหนได้บ้าง

การใช้มอเตอร์เวย์เพื่อ “เข้าเมือง” – จริงๆ จากโครงการก็เข้าเส้นมอเตอร์เวย์ได้ไม่ยาก แต่จะต้องไปกลับรถที่แยกต่างระดับร่มเกล้า แล้วจึงวนรถกลับเข้าเมือง มีระยะจากโครงการประมาณ 6.6 กม. แล้วพอเข้าถนนมอเตอร์เวย์มาได้แล้ว ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นถนนพระราม 9 แล้วค่ะ

การใช้วงแหวนกาญจนาภิเษก – จะใช้เส้นทางเหมือนกับการเข้ามอเตอร์เวย์เลย แต่พอวิ่งมอเตอร์เวย์มาสักพัก ก็ออกซ้ายเข้าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้เลย โดยเส้นวงแหวนฯ นี้ จะเป็นเส้นที่วิ่งรอบเมือง ไปทางพระราม 2, พระราม 3 ได้สะดวกค่ะ

การเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ – ค่อนข้างสะดวกทีเดียว สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆ มีระยะจากโครงการประมาณ 9.6 กม. โดยวิ่งจากโครงการมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาที่แยกร่มเกล้า ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าสนามบินสุวรรณภูมิแล้วค่ะ

ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ในซอยพัฒนาชนบท 3 นั้นมีให้พึ่งพิงได้บ้างในช่วงต้นซอย ก็จะมีอย่างพวกร้านอาหาร, คาเฟ่, Familymart และ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะเดินได้นะคะ ต้องขับรถไปนิดหนึ่ง แต่ถ้าขับรถทะลุมาที่ถนนร่มเกล้า ก็จะพอมีร้านอาหารให้เห็นคึกคักหน่อยบริเวณโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า และจุดตัดกับถนนเจ้าคุณทหารค่ะ หรือจะเข้าไปบนถนนเคหะร่มเกล้าเลยไปจนถึงซอยมิสทีนซึ่งเป็นชุมชนในซอยขนาดใหญ่ก็จะมีร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ และตลาดให้เลือกกินเลือกซื้อหลากหลายดี

สำหรับห้างฯ ในละแวกนี้จะอยู่บนถนนร่มเกล้า บริเวณจุดตัดกับถนนรามคำแหง อย่าง Big C ร่มเกล้าค่ะ หรือจะเข้ามาทางรามคำแหงอีกหน่อยก็จะมี HomePro และ Tesco Lotus หรือถ้าอยากไปช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าใหญ่ที่สะดวกสุดก็จะเป็น Mega Bangna ที่สามารถใช้เส้นวงแหวนฯ มาได้อย่างสะดวก ส่วนสถานศึกษาบนถนนเส้นนี้ก็มีโรงเรียนดังๆ ในย่านนี้อย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า และมหาวิทยาลัยอย่างมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่มเกล้าค่ะ

เส้นทางที่เราจะพาไปเดินไปโครงการวันนี้ จะเริ่มเดินทางจากถนนมอเตอร์เวย์แล้วกลับรถเพื่อเข้าเส้นเลียบมอเตอร์เวย์ ตรงไปเรื่อยๆ แล้วค่อยเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพัฒนาชนบท 3 แล้วจะพาไปดูแหล่งพึ่งพิงในซอยใกล้ๆ โครงการ โดยมีระยะจากจุดเริ่มต้นประมาณ 5.1 กม. ตามมาดูกันเลยค่ะ 🙂

เริ่มต้นบนถนนมอเตอร์เวย์ วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ตามป้ายถนนร่มเกล้า แล้วชิดซ้ายเพื่อเตรียมกลับรถค่ะ

จากนั้นก็กลับรถข้างหน้าเพื่อเข้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์ค่ะ

กลับรถมาแล้วก็ตรงตามทางไปเรื่อยๆ เป็นทางบังคับเข้าสู่ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ค่ะ

ตรงมาเรื่อยๆ บรรยากาศ 2 ข้างทางของถนนเลียบมอเตอร์เวย์จะผ่านพวกโครงการทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศอยู่หลายโครงการ ทำให้เกิดความคึกคักในละแวกนี้อยู่พอสมควรเลย

ตรงมาเรื่อยๆ ให้เลี้ยวขวาเข้า ซอย พัฒนาชนบท 3 ค่ะ

เลี้ยวเข้ามาในซอยเรียบร้อยจะเป็นถนน 2 เลน สวนกันไปกลับ ซึ่งถนนเส้นนี้ไม่ใช่ซอยตันนะคะ เป็นซอยที่ไปเชื่อมออกถนนร่มเกล้าได้ และในอนาคตมีแผนที่จะไปเชื่อมออกถนนกรุงเทพกรีฑาได้ด้วย

เข้ามาอีกหน่อยในช่วงต้นซอย จะมีพวกร้านอาหารและคาเฟ่ ให้เห็นอยู่บ้าง พอให้พึ่งพิงได้

ถัดเข้ามาก็จะมี Family Mart ทางฝั่งซ้าย ซึ่งบริเวณนี้ก็มีพื้นที่ให้จอดรถเพื่อแวะซื้อของได้สะดวกนะคะ

ถัดมาอีกหน่อยก็จะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 อีกร้านหนึ่งด้วยค่ะ ส่วนตัวโครงการจะถัดจาก 7-11 นี้เข้าไปอีกประมาณ 1 กม.

วิ่งเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านหมู่บ้านและพื้นที่โล่งๆ มา ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ

ถึงแล้วค่ะ โครงการอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ หน้าโครงการจะติดชื่อโครงการไว้เรียบร้อย ว่า “โฮมเพลส The Park” ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

Homeplace The Park เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่ติดถนนพัฒนาชนบท 3 พื้นที่โดยรอบในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการหมู่บ้านสลับกับที่ดินเปล่าเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการดูโล่งๆ สบายๆ ซึ่งสรุปได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือของโครงการ ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ของโครงการ ติดกับ ที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันออกของโครงการ ติดกับ ถนนพัฒนาชนบท 3 ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นหมู่บ้าน The Plant พระราม 9 – วงแหวน 2
  • ทิศตะวันตกของโครงการ ติดกับ คลองแม่จันทร์

เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกันนะคะ พื้นที่ที่ติดกับโครงการ Homeplace The Park เป็นที่ดินเปล่า

หน้าโครงการจะติดกับถนนพัฒนาชนบท 3 โดยตรงตลอดแนว บรรยากาศโดยรวมจากด้านหน้าโครงการก็ดูร่มรื่นดีค่ะ

ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง..พื้นที่ของโครงการอยู่ในเส้นประสีเหลือง ส่วนที่ดินด้านข้างที่ติดกันจะเป็นที่ดินเปล่าค่ะ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 9.6 กม.
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้า ~ 6.9 กม.
  • ตลาดสดเกรียงไกร ~ 2.7 กม.
  • โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า ~ 8.8 กม.
  • Big C Market เคหะร่มเกล้า ~ 3.3 กม.
  • วัดลาดกระบัง ~ 6.4 กม.
  • นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ~ 12 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ~ 9.3 กม.
  • Big C ร่มเกล้า ~ 10 กม.
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 12 กม.
  • HomePro สุขาภิบาล 3 ~ 11 กม.
  • ตลาดมีนบุรี ~ 12.4 กม.
  • Mega Bangna ~ 20 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูที่ตัวโครงการ โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 202 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 42-3-80 ไร่ โดยโครงการเปิดเป็นเฟส 4 แล้ว ปัจจุบันเริ่มทยอยสร้างเสร็จและโอนไปบางหลังแล้วแล้ว และจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการในปี 2561 ส่วนพื้นที่ส่วนกลางนั้น เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานได้เลยค่ะ

ที่ดินของตัวโครงการมีด้านยาวติดถนนประมาณ 100 ม. เป็นระยะที่ค่อนข้างยาวทีเดียวจึงสามารถสังเกตหน้าโครงการได้ง่าย จากถนนหลักตรงเข้ามาในโครงการจะผ่านสโมสรของโครงการซึ่งเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำ Fitness และสวนส่วนกลาง ซึ่งการแยกพื้นที่คลับเฮ้าส์ออกมาไว้ใกล้ทางเข้าโครงการ มีข้อดีตรงที่ในกรณีที่ลูกบ้านไม่อยากรับแขกที่บ้านก็สามารถใช้พื้นที่สโมสรในการต้อนรับแขกได้สะดวก ผ่านประตูเข้าโครงการที่เป็นแบบ Double Gate เข้ามา ทั้งฝั่งซ้ายและขวาจะเป็นบล็อกบ้านที่หันหน้าเข้าถนนหลักขนาด 12 ม. และถนนรองขนาด 9 ม. สำหรับซอยย่อยส่วนใหญ่จะเป็นซอยที่สามารถวนถึงกันได้ ซึ่งก็มีข้อดีที่ทำให้มีเส้นทางเข้าออกบ้านได้หลากหลาย แต่ก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปได้เหมือนกัน

การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนภายในโครงการ มีทั้งที่หันเข้าถนนหลัก 12 ม. และถนนซอยที่กว้าง 9 ม. ส่วนการเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการค่ะ

สำหรับทิศของบ้านในโครงการส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมในการเลือกบ้านเลยทีเดียว บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่แรงกว่าและลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านของโครงการเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด 6 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่มีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆและมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกบ้านหลังมุมก็ได้ค่ะ

ภาพรวมด้านหน้าโครงการดูร่มรื่นมากด้วยต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่ม มีการตกแต่งด้วยรั้วสีขาว ตกแต่งด้วยรูปปั้นนกบินเพื่อเืิ่มบรรยากาศ ส่วนหน้าโครงการมีป้ายชื่อติดไว้เรียบร้อย

ความกว้างถนนบริเวณหน้าซุ้มประตูกว้างประมาณ 12 ม. แบ่งเป็นทางเข้าออก 2 ฝั่งและเกาะกลางอีก 2 ม. ซึ่งป้อม รปภ.จะอยู่บริเวณเกาะกลางเพื่อแยกฝั่งรถเข้า-ออกโครงการ

ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะมีป้อมยามสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออก โดยจะมี รปภ. ประจำอยู่ตลอด ประตูทางเข้าจะอยู่ตรงบริเวณป้อมยามเป็นไม้กระดกกั้นไว้ สำหรับลูกบ้านจะต้องมีสติ๊กเกอร์ติดที่รถเพื่อให้พี่ยามเปิดไม้กระดกให้ ตรงทางเข้านี้จะมีกล้อง CCTV ติดไว้ 2 ตัว โดยจะส่องบริเวณทางเข้าและส่องทะเบียนรถค่ะ

ผ่านเข้ามาด้านในฝั่งซ้ายจะเป็นคลับเฮาส์ของโครงการ

เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงส่วนของ Clubhouse ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมือนอยู่รีสอร์ทเลยนะคะ

ห้องแรกที่อยู่ด้านหน้าเลยคือสำนักงานขาย ที่ทำเป็นห้องกระจก ซึ่งพอปิดโครงการแล้วห้องนี้ก็จะกลายเป็นของลูกบ้าน สำหรับมานั่งเล่น ใช้รับรองแขกได้ ส่วนทางเดินด้านขวาเป็นทางไปสระว่ายน้ำค่ะ

ภายในสำนักงานขาย เป็นห้องที่ดูโปร่งโล่ง จัดชุดโซฟาไว้รับแขก

มีมุมสำหรับนั่งชม Presentation ของโครงการ

ออกจากสำนักงานขายมาก็พามาชมในส่วนของสระว่ายน้ำกันต่อ ..เป็นสระว่าบน้ำแบบกลางแจ้ง ถูกล้อมด้วยรั้วและไม้พุ่มสูงทีเดียวทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในบริเวณนี้

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 7 x 12 เมตร ลึก 1.2 ม. และแยกพื้นที่สระเด็กไว้มีขนาด 3 x 3 ม. ลึก 0.5 ม.

ภายในสระว่ายน้ำถูกออกแบบให้มีที่นั่งเล่นในน้ำด้วย สำหรับใครที่ไม่ชอบว่ายน้ำหนักๆ ก็สามารถมานั่งเล่น นั่งพัก ในมุมนี้ได้

ตัวสระถูกออกแบบให้เป็น Over flow คือแบบน้ำล้น ทำให้มีน้ำไหลออกมาจากสระอยู่เสมอ เป็นม่านน้ำตกเล็กๆ

ด้านข้างสระว่ายน้ำมีจัดชุดที่นั่งพักผ่อนเอาไว้ให้หรือจะเอาไว้สำหรับนั่งรอเพื่อนหรือลูกๆเล่นน้ำก็ได้

มาต่อกันที่ด้านหลังของอาคารคลับเฮ้าส์ จะมีห้องน้ำแยกไว้ต่างหาก และแบ่งเป็นห้องน้ำหญิงและชายไว้เรียบร้อย

พามาดูบรรยากาศภายในห้องน้ำหญิง ดูโปร่ง โล่ง ดีค่ะ

มีทั้งส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พอว่ายน้ำ หรือออกกำลังเสร็จก็มาล้างเนื้อล้างตัวก่อนกลับเข้าบ้านได้

ภายในแต่ละห้องก็ดูสะอาด เรียบร้อย นะคะ

อีกฝั่งหนึ่งคลับเฮ้าส์จะเป็นห้อง Fitness ซึ่งพอเดินผ่านสำนักงานมาก็ให้เลี้ยวขวา แล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนค่ะ

ขึ้นบันไดไปตามทางนี้เลย จะมีบอร์ดที่ติดเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่างๆ ของโครงการแจกแจงเอาไว้ และยังใช้ประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ

ขึ้นมาชั้นบนแล้วจะเจอห้อง Fitness ที่เป็นห้องกระจก

ภายในห้อง Fitness จะมีเครื่องออกกำลังกายอยู่ 7 – 8  เครื่อง

จากเครื่องออกกำลังกายมองผ่านกระจกออกไป จะเห็นวิวในส่วนของสระว่ายน้ำ

บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่งดีนะคะ และติดแอร์ไว้ให้ด้วย

ผ่านเข้ามาที่ประตูชั้นที่ 2 จะเข้าสู่โซนพักอาศัยกันแล้วนะคะ โดยประตูนี้จะปิดในช่วงกลางคืน โดยพี่ รปภ. จะเป็นคนเปิดให้เอง เพื่อความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งค่ะ

ตรงเข้ามานิดเดียวก็จะเป็นพื้นที่เกาะกลางที่แบ่งทางเดินรถออกเป็น 2 ฝั่ง อย่างชัดเจน เดี๋ยวจะพาไปชมสวนส่วนกลางกันก่อนนะคะ

พื้นที่ของสวนส่วนกลางจะอยู่ไม่ไกลจากประตูชั้นที่ 2 ค่ะ แค่เลี้ยวซ้ายมาตามทางเรื่อยๆ ก็จะถึงแล้ว

สวนส่วนกลางจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ บรรยากาศของถนนส่วนกลางช่วงนี้ดูร่มรื่นมาก ด้วยต้นไม้ใหญ่ 2 ฝั่ง ที่ทางโครงการปลูกขนาบทางเท้ามาเลยนะคะ

ทางเข้าสวนส่วนกลางจะอยู่ทางซ้ายมือ

พื้นที่ภายในสวนส่วนกลางถูกจัดไว้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่ม โดยจะมีทางเดินภายในสวนให้สามารถเดินเล่นได้สะดวก

นอกจากนี้ภายในสวนยงมีเครื่องเล่นให้คุณน้องๆ หนูๆเล่นสนุกกันด้วยค่ะ

ตามถนนเข้ามาในโครงการเรื่อยๆ ตามซอยในโครงการ ก็จะมีต้นไม้ปลูกขนาบ 2 ด้าน ทำให้ดูร่มรื่นตลอดทางค่ะ

 

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ ขนาด 7 x 12 ม. มีความลึก 1.2 ม. แยกเป็นสระเด็ก ขนาด 3 x 3 ม. ลึก 0.5 ม.
  • Fitness
  • Lobby (ในอนาคตสำนักงานขายเดิมจะกลายเป็น Lobby)
  • สนามเด็กเล่น
  • สวนส่วนกลาง
  • ประตูเข้าออก 2 ชั้น
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • CCTV ที่ประตูทางเข้า – ออก
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม

 


Product Walkthrough

โครงการ โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งหมด 202 หลัง มีทั้งหมด 6 แบบ ดังนี้ค่ะ

  • แบบ Simply A พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Simply B พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ Simply F พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ GEN X พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ GEO พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • แบบ OLI พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

เราจะพาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังคือ บ้านแบบ GEN X และแบบ GEO ซึ่งในแบบของ Gen X จะพาไปดูบ้านตกแต่งเปรียบเทียบกับบ้านเปล่า ส่วนในแบบของ GEO จะพาไปชมเฉพาะบ้านเปล่านะคะ

แบบแรกที่เป็นบ้านตัวอย่างคือ Gen X เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์น มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 203 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ จอดได้ 2 คัน และมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านโดยจะลงหญ้า ไม้พุ่ม และไม้ใหญ่บางส่วน จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากสองทางหลัก คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านทางห้องนั่งเล่น และทางประตูเปิด-ปิดที่เชื่อมกับโรงจอดรถ

จากทางเข้าฝั่งห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน เข้ามาด้านในจะเจอห้องนั่งเล่นอันดับแรก ถัดเข้าไปคือพื้นที่ทานอาหาร ลึกเข้าไปในตัวบ้านอีกหน่อยจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2, ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นห้องนอนได้, ห้องน้ำส่วนกลางและห้องครัวแบบครัวปิด ซึ่งภายในจะมีประตูเปิดออกไปหลังบ้านเป็นส่วนซักล้างค่ะ

ชั้นบนแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนอีก 3 ห้อง ซึ่งในส่วนของห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่เต็มในส่วนของด้านหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัวและ Walk-in Closet ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง จะต้องแชร์ห้องน้ำกัน นอกจากนี้ในชั้นบนก็จะมีพื้นที่นั่งเล่นอีกตำแหน่งหนึ่ง เผื่อชั้นล่างมีแขก สมาชิกคนอื่นก็สามารถมานั่งเล่นที่ชั้นบนได้ค่ะ

ภายนอกของบ้านแบบ Gen X ถูกดีไซน์ออกมาในสไตล์ Modern โดยรวมของบ้านถูกตกแต่งด้วยสี Earth Tone ได้แก่ ขาว น้ำตาล ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติและใช้กระจกตัดแสงเป็นหลัก มีการออกแบบให้หลังคาบ้านเป็นทรงเพิงหมาแหงน ทำให้ฝ้าเพดานในส่วนหน้าบ้านสูงกว่าข้างหลังค่ะ ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นหลังคากระเบื้องลอนคู่ มีความยาวยื่นออกมาจากตัวบ้านไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ได้มากนัก ส่วนรั้วหน้าบ้านแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ประตูทางเข้าคนและประตูทางเข้ารถยนต์ สำหรับพื้นที่สวนรอบๆ บ้านจะปูหญ้าให้ และได้ทั้งไม้ยืนต้นและไม้พุ่ม คล้ายๆ กับบ้านตัวอย่างเลยค่ะ

ประตูทางเข้ารถยนต์ที่ได้จะติดระบบรีโมทมาให้เรียบร้อย ทำให้มีความสะดวกในการใช้งาน ติดกันกับประตูจะมีช่องสำหรับใส่ขยะ ทำให้หน้าบ้านดูเรียบร้อยไม่ต้องมีถังขยะรวมมาตั้งหน้าบ้านนะคะ

ก่อนอื่นจะพาไปชมบรรยากาศรอบๆตัวบ้านกันก่อนนะคะ จากหน้าบ้านจะมีประตูทางเข้า 2 ทาง ทางแรกคือทางเข้าจากห้องรับแขกเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน อีกทางหนึ่งคือประตูเข้าบ้านฝั่งโรงรถค่ะ

ประตูฝั่งโรงรถจะเป็นประตูไม้ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน มีระยะที่ยกขึ้นสูงจากพื้นโรงจอดรถมาหน่อย ตัวบานประตูเป็นไม้อัด ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งข้อดีของการมีปลั๊กไฟฝั่งที่จอดรถทำให้สามารถเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดรถได้สะดวก และเป็นฝั่งที่มีกันสาดจากด้านบนยาวกว่าอีกฝั่ง ช่วยป้องกันน้ำเข้าปลั๊กไฟได้ และด้านข้างประตูมีห้องเก็บของหลังที่จอดรถที่ Built-in ไว้ให้

ห้องเก็บของเป็นตู้ไม้บานเปิดปิด ภายในมีพื้นที่โล่งว่างให้ใช้เก็บของได้เยอะพอสมควร

ถัดไปทางซ้ายเป็นพื้นที่ว่าง ที่สามารถใช้จัดสวนได้ ซึ่งตรงนี้มีประตูที่เชื่อมกับห้องอเนกประสงค์ของชั้นล่างด้วย

ด้านข้างของตัวบ้านจะมีพื้นที่เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินที่เลือก แต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากันนะคะ

พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านจะมีพื้นที่เหลือพอให้ปลูกต้นไม้อีกเช่นกัน และมีลานซักล้างที่เชื่อมกับห้องครัว วัสดุเป็นคอนกรีตขัดเรียบค่ะ

บริเวณด้านข้างอีกฝั่งหนึ่งของบ้านจะเหลือพื้นที่ไว้ปลูกต้นไม้ได้อีกเช่นกัน ซึ่งบ้านจริงก็จะปูหญ้าและลงต้นไม้ริมรั้วมาให้ด้วย

กลับมาที่ทางเข้าหลักหน้าบ้านฝั่งห้องรับแขก บริเวณพื้นเฉลียงหน้าประตูบ้านจะถูกยกระดับขึ้นจากพื้นลานจอดรถอยู่นิดหนึ่ง เพื่อแยกเป็นส่วนถอดรองเท้าหน้าบ้าน

โดยประตูทางเข้าบ้านฝั่งห้องรับแขกจะเป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อน จึงเป็นช่องแสงธรรมชาติให้แก่ตัวบ้าน ทำให้มีช่องแสงธรรมชาติที่มาก ด้านข้างประตูติดไฟกริ่งไว้เพื่อให้ความสว่างด้านหน้าบ้าน

ลักษณะของมือจับบานประตูหน้าบ้านมีพื้นที่ให้จับได้พอดีมือค่ะ ประตูเป็นแบบล็อก 2 ชั้นคือ ตัวล็อกที่มือจับประตูและตัวล็อกก้นหอย 2 ฝั่งของประตูอีกชั้นนึงค่ะ

เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ส่วนพื้นที่ด้านในทางฝั่งขวาจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.6 เมตรก็ถือว่าปกติ ผนังในบ้านเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนดวงไฟในบ้านตัวอย่างจะติดโคมซาลาเปาให้นะคะ

มาดูรายละเอียดทีละห้องกัน เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน โซฟาที่จัดไว้เป็นตัวอย่างเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง และโซฟาเดี่ยวอีก 1 ตัว ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้ ภาพรวมห้องรับแขกค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะถูกล้อมด้วยช่องแสงถึง 3 ด้านเลยค่ะ

ส่วนพื้นที่ผนังสำหรับติดทีวีมีความกว้างพอสมควร ซึ่งจริงๆ สามารถ Built-in เป็นชั้นวางทีวีและตู้เก็บของได้เต็มพื้นที่มากกว่านี้ จะทำให้มีช่องเก็บของมากขึ้น พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้าง 3.45 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดที่ใหญ่ถึง 60 นิ้วหรือใหญ่กว่านี้อีกก็ได้ค่ะ

พื้นที่ระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวี มีระยะห่างพอสมควรให้วางโต๊ะรับแขกได้ และยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินเข้าไปด้านในตัวบ้านได้สบายค่ะ

ผ่านพื้นที่รับแขกเข้ามายังพื้นที่รับประทานอาหารทางขวา

พื้นที่รับประทานอาหารในบ้านตัวอย่างวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งแล้วเพิ่มเก้าอี้ที่หัวมุมอีก 2 ที่นั่งทำให้เวลาใช้งานจริงอาจจะเล็กไปหน่อย ซึ่งจริงๆ ระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะค่อนข้างกว้างสามารถปรับเป็นโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่งก็ได้ ด้านหลังโต๊ะอาหารติดกับพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านที่กั้นกันด้วยประตูกระจกด้านหน้าบ้านจึงเป็นช่องแสงของตัวบ้านที่ใช้รับแสงธรรมชาติเข้ามา ช่องแสงตรงนี้จะนำความร้อนเข้าสู่บ้านไม่ร้อนมากนักเพราะพื้นเฉลียงอยู่มีชายคาคลุมอีกทีหนึ่ง ห้องทานอาหารจึงไม่ได้รับแสงและความร้อนที่มากไปนัก

พื้นที่ใช้สอยด้านในที่ถัดจากพื้นที่ทานอาหารเข้าไป จะเป็นเป็นห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องครัว และทางซ้ายคือห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเป็นห้องนอนได้

ประตูห้องน้ำและห้องครัวเป็นแบบบานเลื่อนนะคะ ได้วัสดุเดียวกันคือเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียม

กรอบอลูมิเนียมได้มาตรฐาน และติดเส้นกำมะหยี่ไว้ตลอดแนวประตู ช่วยกันประตูกระแทกค่ะ

พื้นห้องน้ำถูกลดระดับจากพื้นที่อาศัยส่วนอื่นๆ ลงมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ โดยตัวจบพื้นของโครงการนี้จะแตกต่างจากโครงการโดยทั่วไป คือได้ตัวจบเป็นอลูมิเนียม ซึ่งมีความทนทาน และอายุการใช้งานมากกว่าตัวจบไม้ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะได้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลยนะคะ แยกส่วนเปียกแห้งไว้เรียบร้อย มีพื้นที่อาบน้ำอยู่ภายในห้องด้วย ในเวลาเร่งด่วนก็อาจจะแบ่งคนลงมาอาบน้ำชั้นล่างได้ เพื่อประหยัดเวลาในตอนเช้าค่ะ ภายในมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ครบถ้วน ได้แก่ อ่างล้างมือ กระจกเงา และสุขภัณฑ์ ผนังหน้องน้ำจะกรุกระเบื้องทุกด้าน

อ่างล้างหน้าได้ของ Mogen มีขนาดให้ใช้งานได้พอสมควร ด้านข้างก๊อกน้ำมีพื้นที่ให้วางสบู่ได้เล็กน้อย

ใต้อ่างล่างมือจะมีตู้เก็บของแบบบานเปิด-ปิด แบ่งช่องวางของออกเป็น 2 ฝั่ง เวลาใส่ของก็อย่าใส่เต็มมากนะคะ เผื่อพื้นที่เอาไว้สำหรับเวลาซ่อมก๊อกน้ำด้วยค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ Cotto หรือเทียบเท่า มาพร้อมที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระ ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่ไว้นิดหน่อยสำหรับการหยิบทิชชู่

ติดกันเป็นพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.5 x 0.8 ม. ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานใช้งานได้พอดีๆ ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้จะมีขอบปูนกั้นยกขึ้นมาจากพื้นอีกเล็กน้อย เพื่อกันน้ำออกมายังพื้นที่ส่วนแห้งค่ะ

ภายในพื้นที่อาบน้ำก็จะติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้เรียบร้อย ด้านล่างจะมีก๊อกน้ำอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีในการช่วยอำนวยความสะดวกเวลาต้องการรองน้ำใส่ถังน้ำสำหรับถูบ้าน หรือรองน้ำใส่กะละมังซักผ้าก็สะดวกดีค่ะ

หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ  ได้ของ Cotto มีขนาดจับได้ถนัดมือดี

ต่อไปมาดูห้องครัวที่อยู่ติดกัน เป็นครัวแบบปิดมีประตูบานเลื่อนให้เรียบร้อย ช่วยให้เวลาทำครัวไทยหนักๆ กลิ่นก็จะไม่ฟุ้งเข้ามายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ

ภายในห้องครัว พื้นจะปูด้วยกระเบื้องสีเทาต่อมาจากห้องทานอาหาร ส่วนผนังเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีค่ะ ภายในห้องมีเคาน์เตอร์ครัวแบบตัว L ไว้ให้พร้อมตู้เก็บของบนผนัง ซึ่งบ้านจริงที่ส่งมอบก็จะมีให้แบบนี้เลยนะคะ และผนัง 2 ด้านของห้องจะมีหน้าต่างบานสไลด์เพื่อเป็นช่องรับแสงธรรมชาติและใช้ระบายอากาศภายในห้องครัวค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวตัว L เป็นตู้ไม้บานเปิดปิด Top ของเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแกรนิต มีคุณสมบัติเช็ดทำความสะอาดสะดวก ให้ความเงางามเป็นประกาย ทนกรด ทนด่าง ทนรอยขีดข่วน แต่ก็มีข้อเสียของหินธรรมชาติที่จะมีรูพรุน ทำให้ซึมซับน้ำอาจก่อให้เกิดคราบรอยด่างได้ง่าย โดยด้านล่างจะมีตู้เก็บของบานเปิดปิดและแบบลิ้นชัก 2 ชั้น

ด้านบนเคาน์เตอร์ฝังอ่างล้างจานไว้เรียบร้อย ตัวอ่างล้างจานยี่ห้อมีขนาดใหญ่พอสมควร สามารถวางหม้อขนาดกลางและจานอีกอีก 2-3 ใบได้

ส่วนตู้ลอยเป็นตู้ไม้แบบเปิดปิด ภายในแบ่งช่องวางของออกเป็น 4 ช่อง เก็บของได้เยอะทีเดียวค่ะ

อีกมุมหนึ่งของห้องครัวติดกับประตูทางเข้าเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็นที่ทางโครงการเว้นช่องเอาไว้ให้ เวลาจะซื้อตู้เย็นมาใส่ก็ต้องวัดระยะพื้นที่ให้แน่นอนก่อนซื้อด้วยนะคะ

พื้นที่ใช้สอยภายในห้องครัวจะมีระยะความกว้างระหว่างเคาน์เตอร์ถึงผนังให้เดินทำครัวอยู่ประมาณ 1.6 ม. ก็ถือว่าเป็นระยะที่สามารถเดินทำครัวได้สดวก

ด้านในสุดของห้องเป็นประตูสำหรับออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้านค่ะ

พื้นที่ซักล้างหลังบ้านจะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัวเล็กน้อย โดยพื้นที่ส่วนนี้จะเป็นคอนกรีตขัดเรียบ ซึ่งก็เหมาะสมกับพื้นที่นอกบ้านเพราะจะช่วยกันลื่นได้ค่ะ

กลับเข้ามาในบ้าน มายังห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ตรงข้ามห้องครัวซึ่งสามารถจัดเป็นห้องนอนได้สบายๆ

ประตูห้องทำมาเป็นประตูบานทึบ ด้วยวัสดุเป็นบานไม้อัด แบบเปิดปิด

มือจับได้เป็นลูกบิดแบบตัว L ส่วนด้านหลังประตูจะติด Stopper ไว้เรียบร้อย

ภายในห้องอเนกประสงค์สำหรับบ้านตัวอย่างจะจัดเป็นห้องนอนค่ะ ซึ่งครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุถือว่าเหมาะทีเดียว เพราะพื้นที่ภายในห้องนี้ค่อนข้างกว้าง มีช่องแสงเยอะ ช่วยให้บบรยากาศดูโปร่งโล่ง และมีทางเข้าจากทางด้านหน้าบ้านได้โดยไม่ต้องผ่านห้องรับแขกด้วย ซึ่งจากตำแหน่งของห้องนี้ก็จะอยู่ติดกับห้องน้ำชั้นล่าง ที่มีประตูเปิดปิดเป็นประตูบานเลื่อน ทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้ง่ายนะคะ หรือถ้าจะจัดเป็นห้องอเนกประสงค์แบบห้องทำงานก็ลงตัวค่ะ

ด้านข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งเป็นช่องแสงธรรมชาติ ฝั่งขวาเป็นหน้าต่างบานเลื่อน ส่วนฝั่งซ้ายเป็นประตูกระจกบานเลื่อน

โดยฝั่งซ้ายจะเป็นประตูบานเลื่อน กระจกตัดแสง สามารถเปิดออกไปเชื่อมกับทางหน้าบ้านได้เลย

ส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในห้องฝั่งด้านข้างประตูเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เสื้อผ้า หรือถ้าเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นตู้โชว์ Built-in ก็ลงตัวดีค่ะ

ด้านข้างห้องอเนกประสงค์ เป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นชั้นบนและในบริเวณนี้จะมีประตูเข้าบ้านจากฝั่งโรงจอดรถด้วย โดยข้างประตูก็จะมีพื้นที่สำหรับทำชั้นวางรองเท้า หรือทำเป็นตู้เก็บของใช้ ตู้โชว์ก็ได้

ตัวโครงบันไดจะเป็นโครงเหล็กสำเร็จรูปทำให้ระยะลูกตั้งและนอนได้มาตรฐานดี ใช้งานได้สะดวก ส่วนวัสดุพื้นของบันไดเป็นหินแกรนิต ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 1 ม. ราวกันตกเป็นลูกกรงเหล็กทาสีดำ มือจับเป็นไม้จริง โดยบันไดจะมีราวกันตกอยู่ตลอด แม้ตัวราวจับด้านบนจะไม่ได้เชื่อมต่อกันโดยตรงแต่ถือว่าดีที่ให้มาตลอดแนวค่ะ

ส่วนชานพักบันไดเป็นแบบบันไดสามเหลี่ยมเข้ามุมซึ่งจริงๆ ชานพักควรจะเป็นขั้นสี่เหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่พอให้ยืนพักได้ แต่เนื่องจากฝ้าสูงและมีพื้นที่บันไดน้อยจึงต้องยอมเปลี่ยนชานพักเป็นบันไดเข้ามุมแทนค่ะ

ช่องแสงของบันไดมีขนาดใหญ่ทีเดียว โดยจะจัดไว้ตรงกลางโถงบันได ทำให้ตัวโถงบันไดไม่มืดจนเกินไป แต่ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวหน่อยเพราะช่องหน้าต่างนี้จะตรงกับบ้านข้างๆพอดี จึงควรติดม่านโปร่งไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวค่ะ

ขึ้นมายังโถงชั้น 2 จะเจอพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ระหว่างห้องนอนทั้ง 3 ห้องของชั้นนี้ ห้องนอนแรกทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งซ้าย ฝ้าในชั้นนี้มีความสูง 2.6 ม. เช่นเดียวกับชั้นล่าง วัสดุพื้นชั้นบนจะได้เป็นพื้นกระเบื้องไวนิลลายไม้

โดยจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นดูทีวีได้อีกตำแหน่งหนึ่ง เผื่อเวลาที่มีแขกมาหาพ่อแม่ที่ชั้นล่าง ลูกๆ ก็ยังสามารถนั่งเล่นอยู่บนนี้ได้

ต่อไปจะพาไปดูห้องนอนใหญ่กันต่อ โดยประตูห้องจะอยู่ติดกับพื้นที่ส่วนกลางเลย

ส่วนพื้นของห้องนอนจะเป็นพื้นไวนิลลายไม้ต่อเนื่องมาจากพื้นที่ส่วนกลาง มีตัวจบพื้นเป็นขอบธรณีกั้นเล็ก ช่วยกั้นฝุ่นจากพื้นทางเดินเข้าไปในห้องนอนค่ะ

มาดูในห้องนอนใหญ่เป็นห้องนอนที่ได้พื้นที่ส่วนหน้าบ้านทั้งหมด มีความพิเศษที่ฝ้าเพดานส่วนด้านหน้าบ้านจะมีฝ้าเพดานที่สูงถึง 3 ม. ภายในห้องมีช่องหน้าต่างและประตูกระจกบานเลื่อนช่วยให้แสงธรรมชาติจากด้านนอกผ่านเข้ามาได้มาก ทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่งและอบอุ่น สำหรับห้องนี้จะมีครบทุกฟังก์ชัน ได้แก่ ห้องน้ำในตัว พื้นที่ Walk-in Closet และระเบียง

นอกจากพื้นที่วางเตียงที่กว้าง วางตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ แล้ว ยังมีพื้นที่ปลายเตียงเหลือให้สามารถตั้งโซฟาได้อย่างสบายๆ ด้วย ถ้าตั้งหันหน้าออกไปทางระเบียงแบบบ้านตัวอย่าง ก็สามารถใช้นั่งชมวิวได้

ในส่วนของพื้นที่ระเบียงด้านนอกจะถูกกั้นกับพื้นที่ภายในห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน โดยตำแหน่งของระเบียงนี้อยู่ทางหน้าบ้าน ถ้าเราจัดสวนหน้าบ้านให้สวยงาม จะทำให้พื้นที่ระเบียงนี้ได้วิวสวนชั้นล่างอีกด้วย

พื้นที่ระเบียงนี้ปูด้วยกระเบื้องเซรามิก กว้างยาวประมาณ 0.7 x 3 ม. มีพื้นที่พอให้ออกมายืนชมวิว ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นกระจกตัดแสงจึงสามารถมองทะลุไปเห็นวิวด้านนอกได้

ส่วนพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งของห้อง จะเป็นส่วนของพื้นที่ห้อง Walk-in Closetและห้องน้ำ ซึ่งบ้านจริงก็จะมีประตูเลื่อนกั้นพื้นที่ Walk-in Closet ให้ไว้เรียบร้อยนะคะ

รางประตูบานเลื่อนของพื้นที่ Walk-in Closet จะถูกฝังลงไปกับพื้น ทำให้สามารถเดินเข้าออกได้สะดวก

พื้นที่ภายใน Walk-in closet มีพื้นที่กว้างพอสมควรให้สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนัง 2 ฝั่งหรือจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งฝั่งหนึ่งก็ได้

ระยะทางเดินภายใน Walk-in Closet มีระยะประมาณ 1.1 ม.

เวลาออกแบบตู้ Built-in ก็เว้นช่องหน้าต่างไว้หน่อยเพราะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมจะวางโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาในเวลาที่คุณผู้หญิงนั่งแต่งหน้า

ภายในพื้นที่ Walk-in Closet จะมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ในห้องนี้ โดยประตูจะเป็นบานเปิดปิดไม่ได้เป็นบานเลื่อนเหมือนในห้องน้ำชั้นล่างนะคะ

ภายในห้องน้ำในเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังห้องทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องเหมือนกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่าง ต่างกันเพียงตัวอุปกรณ์และสุขภัณฑ์จะเป็นแบบที่ดีกว่า

ด้านข้างอ่างล้างหน้าจะมีหน้าต่างบานเลื่อนให้สามารถเปิดระบายอากาศได้

พื้นที่ส่วนเปียกแยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ด้วยวัสดุกระจกนิรภัยแบบใส ทำให้น้ำไม่กระเด็นออกมายังส่วนอื่นๆ

ภายในพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้เรียบร้อย

หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ก็จะเหมือนกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่าง แต่ก็จะมีที่พิเศษเพิ่มขึ้นมาคือมี Rain Shower เพิ่มขึ้นมาให้ด้วย และด้านล่างจะมีก๊อกน้ำอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีในการช่วยอำนวยความสะดวกเวลาต้องการรองน้ำใส่ถังน้ำสำหรับถูบ้าน หรือรองน้ำใส่กะละมังซักผ้าก็สะดวกดีค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดเล็กกว่าห้องน้ำชั้นล่างหน่อย คือประมาณ 1.1 x 0.9 ม. ขนาดกระทัดรัดใช้งานได้จริง แต่ถ้าคนตัวใหญ่หน่อยอาจจะอึดอัดไปนิดดดด ><*

ด้านในห้องน้ำจะมีความพิเศษอยู่ตรงที่มีหน้าต่างเพื่อเปิดออกไปพื้นที่ Outdoor เล็กๆ ที่เชื่อมกับพื้นที่อาบน้ำด้วย ซึ่งการที่ใช้วัสดุเป็นกระจกจะช่วยให้มีช่องแสงเพิ่มในห้องน้ำทำให้ห้องดูโปร่งและสามารถเปิดระบายอากาศได้อีกด้วย

พื้นที่ตรงนี้สามารถใช้ปลูกต้นไม้ สร้างบรรยากาศภายในห้องน้ำ หรือจะวางราวตากผ้าก็ได้ ทำให้สะดวกเวลาที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็ตากผ้าเช็ดตัวในนี้ได้เลย สำหรับปลูกต้นไม้หรือวางราวตากผ้าตรงนี้มีขนาดประมาณ 75 x 90  ซม.

ออกมาจากห้องนอนใหญ่จะเชื่อมต่อกับโถงทางเดินบนชั้น 2 ที่เชื่อมไปยังห้องนอนอีก 2 ห้องที่อยู่ฝั่งหลังบ้าน

พามาดูภายในห้องนอนเล็กห้องแรก จัดเป็นห้องนอนเล็กหรือเป็นห้องทำงานก็ได้ ซึ่งถ้าจัดเป็นห้องนอนเล็กก็มีพื้นที่พอกับเด็กวัยรุ่นที่มีข้าวของยังไม่เยอะนัก อย่างบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน ก็จะมีพื้นที่พอให้โต๊ะทำงาน และชั้นวางหนังสือได้ สบายๆ

ภายในห้องก็จะมีบานหน้าต่าง ให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้

ต่อมาที่ห้องน้ำส่วนกลางของชั้นบน ซึ่งจะต้องแชร์กันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน นอกจากนี้ภายในห้องยังมีหน้าต่างช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้องน้ำอีกด้วย ภายในจะติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำไว้ครบเหมือนห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้นล่างค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างประมาณ 0.85 x 1.4 เมตร สามารถใช้งานได้สะดวก

ภายในพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้เรียบร้อย ด้านข้างติดตั้งชั้นวางของไว้ให้

มาต่อกันที่ห้องสุดท้ายของตัวบ้านกับห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งที่ติดกับโถงบันได ด้านในเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียง ขนาดของห้องสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ถึง 6 ฟุตเลย ห้องนี้มีข้อดีที่เป็นห้องมุมทำให้มีหน้าต่างหลายด้านนะคะ นอกจากจะได้วิวภายนอกแล้ว ยังเป็นช่องแสงธรรมชาติของห้องด้วยค่ะ

ส่วนพื้นที่ปลายเตียงเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เสื้อผ้า ถ้าไม่ได้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนังก็สามารถแบ่งพื้นที่ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกด้วย

หน้าตาปลั๊กและสวิทซ์ตามมาตรฐานที่ได้จากโครงการค่ะ

ต่อไปเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยกับแบบบ้าน GEO มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 208 ตร.ม. 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านนี้จะค่อนข้างแตกต่างกับแบบบ้าน Gen X ค่อนข้างมาก โดยจะจัดแปลนบ้านชั้นล่างเป็นตัว L เน้นเปิดมุมมองให้สามารถมองเห็นพื้นที่สวนตรงกลางได้สะดวก ส่วนชั้นบนจะจัดแปลนเป็นตัว U ล้อมพื้นที่สวนตรงกลางไว้เช่นกัน ซึ่งการออกแบบบ้านด้วยแนวคิดนี้จะเห็นกันมากขึ้นในปัจจุบัน มีข้อดีที่ทำให้แต่ละห้องมีช่องแสงธรรมชาติค่อนข้างมาก และยังเปิดมุมมองให้มองเห็นสวนตรงกลางบ้าน นอกจากนี้ยังทำให้สมาชิกในบ้านที่อยู่ในแต่ละห้อง สามารถมองเห็นห้องอื่นๆ ของตัวบ้าน อย่างเช่นเวลาที่อยู่ในห้องนอนใหญ่บนชั้น 2 ก็สามารถมองลงมายังพื้นที่รับประทานอาหารเพื่อดูว่ามีใครตื่นบ้างหรือยังนะได้ แบบบ้านนี้จึงช่วยให้สมาชิกมีปฎิสัมพันธ์กันง่ายขึ้นด้วยค่ะ

ภายนอกของบ้านแบบ GEO มีหน้าตาและสีของอาคารคล้ายๆ แบบแรก จะแตกต่างกันที่แปลนเท่านั้นค่ะ

พื้นที่สวนตรงกลางบ้านที่เป็นพื้นที่โล่ง สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ได้บริเวณนี้ เพื่อให้ร่มเงาและให้บรรยากาศร่มรื่นกับตัวบ้าน

พื้นที่ภายในบ้านชั้น 1 จะโปร่งโล่ง มองเห็นพื้นที่สีเขียวภายนอก

พื้นที่บริเวณบริเวณห้องรับแขกหน้าบ้าน

มุมมองจากทางเดินส่วนกลางบนชั้น 2 ก็จะมองลงมาเห็นพื้นที่สีเขียวกลางบ้านได้ รวมถึงห้องนอนอีก 2 ห้องบนชั้นนี้ก็จะได้วิวมุมนี้ด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องนอนใหญ่ ได้ฝ้าเพดานสูงถึง 3 ม.

บรรยากาศภายในห้องนอนรอง มีขนาดที่อยู่อาศัยได้สบายทีเดียว

สุดท้ายคือบรรยากาศภายในห้องนอนเล็ก ที่ถึงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กสุด แต่ก็ได้ช่องแสงมาบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ทำให้ห้องดูโปร่งมากค่ะ

ต่อไปเป็นแบบบ้าน Simply A ที่แปลนบ้านถูกจัดฟังก์ชันมาคล้ายๆ กับแบบบ้าน Gen X เลยแตกต่างกันนิดเดียวที่มีพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มเข้ามาอีกฟังก์ชันหนึ่ง และที่แตกต่างกันอีกอย่างคือรูปร่างหน้าตาของตัวบ้าน สำหรับแบบนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 178 ตร.ม. มีทั้งหมด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถค่ะ

ภายนอกของบ้านแบบ Simply A มาในสไตล์ Contemporary ด้วยสีขาวฟ้า

สำหรับแบบสุดท้ายที่นำมาฝากกัน จะเป็นบ้านสไตล์ Contemporary อีกหลังหนึ่ง คือแบบ Simply B จะมีพื้นที่ใช้สอยเท่ากับแบบ Simply A เลย แตกต่างกันที่แบบบ้านนี้จะไม่มีห้องอเนกประสงค์ เหมาะกับบ้านที่ชอบพื้นที่ชั้นล่างโล่งๆ ไม่กั้นห้องเยอะ ชอบให้พื้นที่ใช้สอยเชื่อมถึงกันมากๆ ค่ะ

ในส่วนของหน้าตาอาคารดูเผินๆ ภายนอกก็จะคล้ายกับแบบ Simply A นะคะ แต่แบบนี้จะใช้สีโทนขาวน้ำตาลแทนค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 30 May 2017

  • Gen X แปลงเลขที่ 072 เนื้อที่ 57.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. ราคา 6.4855 ล้านบาท
  • Geo แปลงเลขที่ 070 เนื้อที่ 57.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม. ราคา 6.4975 ล้านบาท
  • Geo แปลงเลขที่ 161 เนื้อที่ 54.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม. ราคา 6.24 ล้านบาท
  • Simply A แปลงเลขที่ 087 เนื้อที่ 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. ราคา 5.33 ล้านบาท
  • Simply B แปลงเลขที่ 084 เนื้อที่ 51 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 173 ตร.ม. ราคา 5.23 ล้านบาท

  • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
  • ดาวน์ประมาณ 9%
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล – โครงการ โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9 ตั้งอยู่ในแถบชานเมืองกรุงเทพฯ บนถนนพัฒนาชนบท 3 ซึ่งใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และใกล้ย่านอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อย่างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังบนถนนฉลองกรุง ด้วยทำเลของโครงการที่มีความสะดวกในการเดินทางไปสุวรรณภูมิได้ง่ายไม่ไกลมากนัก รวมทั้งใกล้กับย่านอุตสาหกรรมด้วยนั้น จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องเดินทางไปสนามบินบ่อยๆ หรือทำธุรกิจการค้าที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมในย่านนี้ และด้วยทำเลอยู่ใกล้กับมอเตอร์เวย์สามารถเข้าเมืองทางพระราม 9 ได้ง่าย จึงเหมาะกับกลุ่มที่อาจจะทำงานในเมือง แต่ก็ยังคุ้นชินกับทำเลในย่านนี้

ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ – ในด้านอาหารการกินค่อนข้างหายากในระยะเดิน จำเป็นต้องอาศัยขับรถออกไปกินนะคะ ซึ่งแหล่งอาหารการกินที่มีอย่างคึกคักหน่อยก็จะอยู่ภายในซอย บนถนนเคหะร่มเกล้าทะลุไปออกที่ซอยมิสทีนเลยค่ะ ส่วนร้านอาหารบนถนนร่มเกล้าที่เห็นติดถนนเลยมีค่อยมากนัก จะอยู่เป็นจุดๆ ไปอย่างบริเวณตรงแยกตัดกับถนนเจ้าคุณทหาร และบริเวณหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ร่มเกล้าค่ะ ส่วนห้างที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็น Big C ร่มเกล้า ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ๆ ที่เดินทางไปได้สะดวกก็คือ Mega Bangna ค่ะ

ความปลอดภัย – โครงการนี้ถือว่าให้มาดีทีเดียวด้วยประตูแบบ Double Gate ซึ่งหายากในบ้านระดับราคานี้ โครงการจะมีป้อม รปภ. 2 จุดด้วยเช่นกันคือป้อมที่อยู่หน้าโครงการ และป้อมภายในโครงการ ซึ่งจะมีพี่ รปภ. อยู่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด ส่วนรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร ก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานค่ะ

วัสดุ – โครงการนี้ให้วัสดุส่วนใหญ่ได้ค่อนข้างดีทีเดียว พื้นชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้, พื้นชั้นบนของบ้านได้กระเบื้องไวนิลลายไม้ ตัวจบขอบพื้นต่างๆ จะได้เป็นอลูมิเนียม จึงมีความทนทานมากกว่าตัวจบไม้ที่พบเห็นกันทั่วๆ ไป ตัวบันไดปูด้วยหินแกรนิต, วงกบอลูมิเนียมอบสีขาว, ไฟในบ้านตัวอย่างได้เป็นโคมซาลาเปา ส่วนห้องครัวได้ชุด Built-in เคาน์เตอร์ครัว ห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์ของ Cotto และ Mogen ครบชุด พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ (เฉพาะห้องน้ำชั้นบน) ส่วนห้องนอนใหญ่ได้ฉากกั้นพื้นที่ Walk-in Closet มาด้วย

การออกแบบ – การวางผังโครงการออกแบบมาให้มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างมากเห็นได้จากแนวต้นไม้ใหญ่ ที่มีอยู่ตลอดทางทั้งบนถนนหลักและในซอยย่อย การแบ่งบล๊อกบ้านออกเป็นกลุ่มย่อยๆ มียูนิตไม่เยอะ ทำให้การอยู่อาศัยไม่อึดอัด ส่วนการออกแบบบ้านจัดวางฟังก์ชันได้ดี มีให้เลือกหลายแบบที่เหมาะกับแต่ละครอบครัว และตัวบ้านปรับฟังก์ชันให้เหมาะกับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยได้ เช่นห้องอเนกประสงค์ในชั้นล่างที่ติดกับห้องน้ำ สามารถทำเป็นห้องผู้สูงอายุได้ลงตัว

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – ภาพรวมดูร่มรื่นดี เข้ากับชื่อโครงการที่บอกว่าเป็น The Park จัดสวนมาให้ 2 ตำแหน่งทั้งด้านหน้าและด้านในตัวโครงการ มีการดูแลจัดการที่ดี มีคนสวน แม่บ้านทำความสะอาดตลอด คุ้มกับค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.ม.

สาธารณูปโภค – ให้มาทั้งสวน 2 ตำแหน่ง Clubhouse Fitness สระว่ายน้ำ ซึ่งน่าจะพอกับจำนวนลูกบ้านที่มีเพียง 202 หลัง 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4.6 – 7 ล้านบาท, 30 May 2017

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนพัฒนาชนบท 3 มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบไม่มากนัก ต้องอาศัยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก
  • ความปลอดภัย 8.5/10 – ประตูแบบ Double Gate, ป้อม รปภ. 2 จุด ที่ด้านหน้าและภายในโครงการ, รั้วสูง 3 ม.
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – แบบสวย จัดพื้นที่เหมาะสม น่าอยู่อาศัย
  • วัสดุ 8.5/10 – ให้มาค่อนข้างดีทีเดียว
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – พื้นที่ภายในโครงการมีความร่มรื่นดี ด้วยต้นไม้ใหญ่
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ได้ Clubhouse สระว่ายน้ำ Fitness และสวนส่วนกลาง 2 ตำแหน่ง
  • 8.05 / 10.00

BOTTOM LINE

โฮมเพลส เดอะพาร์ค วงแหวน-พระราม 9 เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวในย่านลาดกระบัง ที่สามารถเดินทางไปสุวรรณภูมิได้สะดวก เข้าเมืองได้สะดวกด้วยเส้นมอเตอร์เวย์  ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แบบบ้านมีให้เลือกเยอะ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน มีงบประมาณ 4.6-7 ล้าน มีความสามารถในการผ่อนเดือนละ 32,000 – 49,000 บาท

ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )