รีวิวฉบับที่ 1534.. สวัสดีค่ะ หลังจากที่เราเคยทำรีวิวโครงการ บ้านริมสวน ซีนเนอรี มา 2 ครั้งแล้ว วันนี้ทางโครงการเปิดเฟสที่ 4 เป็นเฟสใหม่ที่มาพร้อมกับบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวแบบใหม่ไฉไลกว่าเดิม ด้วยรูปลักษณ์ที่ Modern มากขึ้นรวมไปถึงการพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานภายในบ้านที่มีความน่าสนใจทีเดียวค่ะ จะเป็นอย่างไรเราไปชมกัน

Fact @ 06 December 2016

  • Baan Rimsuan Scenery (บ้านริมสวน ซีนเนอรี)
  • บริษัท สวนหลวงบ้านและที่ดิน จำกัด
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
  • เนื้อที่โครงการ 51-0-61 ไร่ จำนวน 283 ยูนิต
  • บ้านแฝด
    – SCENIC ที่ดิน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 4.8 ล้านบาท
    – SCENE ที่ดิน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ (แบบเก่า)
  • บ้านเดี่ยว
    – SCENERY ที่ดิน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 6.6 ล้านบาท
  • Update 17/05/21
    – SCENEC ขนาดที่ดิน 45.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    – SCENT ที่ดินมีขนาด 55.90 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร : 02-186-8423

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.618393, 100.715957

บ้านริมสวน ซีนเนอรี ตั้งอยู่ช่วงบางนา-ตราด กม. 13 ในซอยวัดหลวงพ่อโต (ถนนสุขาภิบาล 6) ตรงเข้ามาประมาณ 1.7 กม. จะเห็น 3 แยกเล็กๆ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนรัตนพิศาล 2 ตรงเข้ามาประมาณ 300 ม. ก็จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือแล้วค่ะ

ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่แถบบางนา-ตราด ช่วงกม. 13 ส่วนใหญ่ทำเลนี้จะเป็นทำเลโครงการแนวราบทั้งหมดนะคะ จัดเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างตัวเมืองสมุทรปราการที่อยู่บนถนนสุขุมวิทและออกเมืองไปทางฉะเชิงเทรา ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆ ขับรถไปได้ง่ายๆ เลย จะมีอยู่ทั้งถนนบางนา-ตราด และถนนเทพารักษ์ อย่างถนนบางนา-ตราด ก็จะเป็น Market Village ที่มีทั้ง Tesco Lotus และ HomePro อยู่ภายใน มี Makro และตลาดกิ่งแก้วอยู่ฝั่ง หรือเลยไปไกลอีกหน่อยก็จะเป็นห้างใหญ่เลยอย่าง Mega Bangna สามารถมาช็อปปิ้ง ดูหนังกันได้โดยไม่ต้องเข้าเมืองไปไกล มาที่ฝั่งเทพารักษ์ ก็มี Big C และตลาดน้ำอยู่เช่นเดียวกันค่ะ โดยรวมแล้วทำเลนี้เหมาะกับคนที่มักเดินทางเข้า-ออกเมืองอยู่บ่อยๆ หรือทำงานบนถนนบางนา-ตราด และมีรถยนต์ส่วนตัวนะคะ

ขยับเข้ามาภายในซอยโครงการ หรือที่คนแถวนี้มักรู้จักคือ ซอยวัดหลวงพ่อโต ซอยนี้จัดเป็นซอยใหญ่ คึกคัก เพราะเป็นซอยที่สามารถออกไปยังถนนเทพารักษ์ได้ รวมทั้งภายในซอยมีวัดบางพลีใหญ่ในหลวงพ่อโตซึ่งเป็นวัดดังในย่านนี้อีกด้วย ความอุดมสมบูรณ์ภายในซอยนี้มีพอสมควรนะคะ ใครขี้เกียจไปไหนไกลก็พึ่งพาร้านค้าภายในซอยนี้ได้เลยค่ะ

การเดินทางหลักๆ ของโครงการใช้ได้ทั้ง 2 ถนนใหญ่ คือ ถนนบางนา-ตราด และ ถนนเทพารักษ์ สำหรับถนนบางนา-ตราดนั้นเป็นถนนใหญ่ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก และมีจุดตัดกับถนนอื่นๆ อีกทั้งถนนสุขุมวิทที่แยกบางนา ตัดถนนศรีนครินทร์ที่แยกศิครินทร์ ตัดกับวงแหวนรอบนอกฝั่งใต้รวมทั้งถนนกิ่งแก้วที่สามารถตรงไปยังสุวรรณภูมิได้อีกด้วย ทำให้การเดินทางเข้าไปยังโครงการหรือจากโครงการไปยังจุดต่างๆ ได้ไม่ยาก ส่วนถนนเทพารักษ์เป็นถนนคู่ขนานกับถนนบางนา-ตราด ตรงเข้าไปเชื่อมกับถนนสุขุมวิทเช่นกันแต่จะตัดบริเวณแพรกษา ใกล้ย่านอุตสาหกรรม ซึ่งใครทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมละแวกนั้นใช้เส้นนี้จะใกล้กว่าค่ะ แต่ถนนเส้นนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นถนนที่มีรถค่อนข้างหนาแน่นทีเดียวนะคะ ดังนั้นอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยนะคะ หรือจะเลี่ยงเข้าถนนสุขาภิบาล 4 ตรงขนานกับถนนเทพารักษ์ไปเรื่อยๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ

ซูมเข้ามาอีกหน่อยสำหรับทางเข้าหลักของโครงการนั้นจะต้องพึ่งพิงถนนสุขาภิบาล 6 เพราะถนนรัตนพิศาล 2 นั้นจะไม่มีทางไปทะลุออกบางนา-ตราดได้นะคะ ในส่วนของทางเข้าหลักจากถนนสุขาภิบาล 6 นั้นจะเป็นทางเข้า A นะคะ ส่วนทางเข้า B นั้นก็สามารถใช้ได้เช่นกันแต่จะเป็นถนนย่อยลงมาอีกหน่อย และไม่แน่ใจว่าเปิดให้เข้า-ออกได้ตลอดไหมนะคะ ส่วนทางหลักที่โครงการแนะนำมาก็จะเป็นทางเข้า A นี่แหละค่ะ ^^

เส้นทางที่เราจะไปกันในวันนี้เริ่มต้นจากจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์และถนนบางนา-ตราด ฝั่งขาออกเมืองนะคะ เราจะตรงไปเรื่อยๆ ตัดถนนกาญจนาภิเษก ถนนกิ่งแก้ว และตรงไปอีกจากจุดตัดกับถนนกิ่งแก้วประมาณ 5 กม. จะเจอสะพานกลับรถ (เกือกม้า) จากนั้นกลับรถแล้วตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 3.8 กม. ก็จะเจอซอยวัดหลวงพ่อโต หรือถนนสุขาภิบาล 6 จากนั้นตรงเข้ามาในซอยประมาณ 1.6 กม. จะเจอ 3 แยกเล็กๆ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนพิศาล 2 ซึ่งเป็นถนนย่อยที่เชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 6 ตรงมาอีกประมาณ 300 ม. ก็จะถึงโครงการค่ะ เดี๋ยวเราตามไปดูเส้นทางและบรรยากาศในการเดินทางกันค่ะ

จากจุดตัดถนนศรีนครินทร์เพื่อเข้าถนนบางนา-ตราด เราจะขับมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ยาวๆ เลยค่ะ

ผ่าน Chic Republic ซึ่งเป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยจะเป็น Index Living Mall ขายเฟอร์นิเจอร์เหมือนกัน

ตรงมาตามทางเรื่อยๆ ผ่าน Tesco Lotus Extra บางนา ใครจะแวะซื้อของเครื่องใช้ก่อนเข้าบ้านก็สะดวกดีค่ะ สำหรับคนทำงานในเมืองกำลังจะกลับบ้าน จริงๆ แล้วจะมี Tesco Lotus ที่ใกล้กว่านี้แต่อยู่คนละฝั่งถนน มาช็อปฝั่งนี้เลยไม่เสียเวลากลับรถอีกรอบ

ตรงมาอีกหน่อยในแผนที่จะเห็นเป็นจุดตัดกับถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ซึ่งฝั่งซ้ายนั้นจะมีทางไปออกถนนอ่อนนุช แถบลาดกระบัง สุวรรณภูมิ หรือใครจะขึ้นถนนกาญจนาภิเษกตรงนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ ส่วนทางซ้ายอีกฝั่งนึงนั้นเป็น Mega บางนา และ Ikea ค่ะ จัดเป็นห้างใหญ่ในละแวกนี้เลย ใครเบื่อๆ บ้านในวันหยุดก็มาช็อปปิ้ง มาดูหนังที่นี่ได้เลยไม่ต้องถ่อเข้าเมืองไกล

เราตรงมาอีกหน่อยก็จะขอเบี่ยงเข้าเลนด้านในกันก่อน เพราะอีกหลายโลเหมือนกันกว่าจะถึง

ตรงยาวๆ มาเลยค่ะ เมื่อผ่านถนนกิ่งแก้วแล้วเราก็จะเริ่มเบี่ยงซ้ายเพื่อออกไปขึ้นสะพานกลับรถนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอ Market Village ที่ภายในมีทั้ง Tesco Lotus และ HomePro ค่ะ ถือว่าเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดแล้ว โดยมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. อยู่ในระยะที่ขับรถมาได้สบายๆ

ส่วนฝั่งตรงข้ามกับ Market Village ก็จะเป็น Makro และตลาดสดกิ่งแก้วค่ะ

ขับตรงมาช่วงที่เลยมหาวิทยาลัยหัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติมาแล้วเราจะเริ่มเบี่ยงซ้ายเพื่อไปกลับรถที่สะพานเกือกม้ากัน

ขึ้นสะพานกลับรถ

กลับรถมาแล้วตรงมาเรื่อยๆ ยาวๆ เลยผ่านวัดบางโฉลงใน ด้านหน้ามีตลาดบางโฉลงดูเป็นตลาดใหญ่ดี ใครเคยมาซื้อกับข้าวแถวนี้มาแนะนำกันได้นะคะ

จากนั้นเราก็เดินหน้าต่อ เห็นป้ายโครงการตามเสาไฟฟ้าเรื่อยๆ ตลอดทาง ก็ตามป้ายเลยค่ะ

และแล้วก็ถึงซอยทางเข้าโครงการแล้ว นั่นก็คือซอยวัดหลวงพ่อโต หรืออีกชื่อเป็นทางการหน่อยก็คือ ถนน สุขาภิบาล 6

สำหรับซอยนี้เป็นซอยใหญ่ทีเดียวนะคะ ซึ่งจะสังเกตง่ายๆ อย่างซอยไหนที่มีวัดใหญ่นั้นส่วนใหญ่แล้วจะค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ และนอกจากนี้ซอยนี้ยังเป็นซอยที่สามารถไปทะลุออกถนนเทพารักษ์ด้านหลังได้ด้วย และหน้าปากซอยนั้นก็มีรถ 2 แถวเรียงตัวเป็นตับเลย

รถในซอยมากจริงๆ ตลอดข้างทางก็มีร้านอาหารเพิงตามทางและอาคารพาณิชย์ต่างๆ ค่อนข้างคึกคักอยู่เหมือนกันค่ะสำหรับบริเวณที่อยู่ใกล้หน้าปากซอย

ตรงเข้ามาอีกหน่อยบรรยากาศจะเงียบลงมาหน่อย แต่ก็มีร้านอาหารข้างทางเรื่อยๆ อยู่นะคะ อย่างร้านสีแดงส้มฝั่งซ้ายมือนี้เป็นร้านขนาดกลางๆ ขายก๋วยเตี๋ยว ขายข้าว หลายเมนูเหมือนกัน แต่วันไปโครงการได้ไปลองก๋วยเตี๋ยวเป็ดมา จานใหญ่มากในราคาสบายกระเป๋า

ตรงมาอีกหน่อยก็มีอาคารที่รวมร้านอาหารต่างๆ ไว้ร่วมกันเป็น Community เล็กๆ และทีเด็ดเลยน่าจะเป็นชาบู นางใน

เรายังตรงไปอีกนะ จนเจอ 3 แยกแบบนี้ จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนรัตนพิศาล 2 เลยค่ะ

ถนนรัตนพิศาล 2 นี้เป็นถนนสั้นๆ ที่เชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 6 ช่วงต้นซอยจะเห็นอาคารพาณิชย์และบ้านเล็กบ้านน้อยบ้างค่ะ ส่วนด้านในลึกๆ จะเป็นโกดังเกือบทั้งหมดเลย ดังนั้นในซอยนี้เราจะเห็นรถใหญ่ค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะ

ตรงมาประมาณ 300 ม. ก็เจอหน้าโครงการแล้วค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ที่ดินโครงการอยู่ติดถนนด้านหน้าและยาวไปถึงคลองสวนด้านหลังเลย บรรยากาศโดยรอบของโครงการค่อนข้างสงบส่วนใหญ่จะเป็นโกดังเก็บสินค้า ไม่มีเสียงดังแต่มีรถใหญ่เข้า-ออกเยอะ และด้านหน้าปากทางถนนจะมีชุมชนเล็กๆ ไม่ได้คึกคักมากนัก

  • ทิศเหนือ : บ้านเดี่ยว, โกดังเก็บสินค้า
  • ทิศตะวันออก : โกดังเก็บสินค้า
  • ทิศใต้ : ที่ดินเปล่า
  • ทิศตะวันตก : คลองสวน

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • วัดบางพลีใหญ่ในหลวงพ่อโต ~1.8 กม.
  • Market Village ~2.3 กม.
  • ตลาดน้ำโบราญ บางพลี ~1.9 กม.
  • โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ~ 3 กม.
  • โรงพยาบาลบางพลี ~3.5 กม.
  • Big C บางพลี ~3.6 กม.
  • โรงพยาบาลบางนา 5 ~5.3 กม.
  • ตลาดกิ่งแก้ว ~5.4 กม.
  • Makro บางพลี ~5.5 กม.
  • Mega Bangna ~7 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูที่ Master Plan กันบ้างนะคะ สำหรับเนื้อที่ดินโครงการมีขนาด 51 ไร่กว่า ภายในวางผังให้มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 283 ยูนิต ซึ่งแบ่งงานก่อสร้างออกเป็น 6 เฟสด้วยกัน ปัจจุบันทยอยก่อสร้างในเฟสที่ 3 และ 4 อยู่นะคะ เริ่มจากทางเข้า-ออกโครงการจะมีอยู่ฝั่งเดียวคือติดกับถนนรัตนพิศาล 2 ซึ่งเป็นถนนเล็กๆ เชื่อมเข้ากับถนนสุขาภิบาล 6 ตรงเข้ามาภายในโครงการด้านหน้ายังเว้นที่ดินว่างไว้อยู่ 2 ข้างทางของถนน ซึ่งยังไม่มีโครงการจะพัฒนาเป็นอะไรนะคะ อาจจะต้องคอยสอบถามทางโครงการเพิ่มเติมกันหน่อย มีตรงเข้ามาถึง Sale Office แล้ว ตัวถนนจะแยกออกเป็น 3 ทาง โดยถนน Main อยู่ตรงกลาง กว้าง 15 ม. ส่วนถนนรองกว้าง 9 ม. ค่ะ ทั้ง 3 เส้นจะมีซอยเล็กๆ เชื่อมเข้าด้วยกัน

ในส่วนของสาธารณูปโภคโครงการมี 2 จุดใหญ่ๆ แบ่งเป็นโซนด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อให้ลูกบ้านทั้งโซนด้านในและด้านนอกใช้งานได้สะดวก เนื่องจากความลึกของหมู่บ้านจากบ้านด้านในสุดโครงการถึงหน้าโครงการก็ค่อนข้างไกลเหมือนกันนะคะ การแบ่งส่วนกลางออกเป็น 2 จุดถือว่าเป็นข้อดีทีเดียว ซึ่งส่วนกลางด้านหน้านั้นจะมีส่วน Club House ที่ภายในมีพื้นที่นั่งเล่น Fitness และสระว่ายน้ำ รวมทั้งยังมีสนามหญ้าและสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่วิ่งเล่นอีกด้วย ในส่วนของส่วนกลางด้านหลังโครงการจะเล็กลงมาหน่อยคือมีสวน พื้นที่นั่งเล่น และสนามพัตต์กอล์ฟค่ะ

ว่ากันต่อสำหรับตำแหน่งหน้าบ้านนั้น จะหันเข้าถนนทั้งหมด โดยอยู่ในทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เหมาะสมในการวางตำแหน่งหน้าบ้านเพื่อให้รับลมได้ตลอดทั้งปีอย่างทิศเหนือนั้น ข้อดีคือเรื่องของทิศทางแดด ที่จะได้แดดอ่อนๆ เข้าทางหน้าบ้านในช่วงเช้า ไม่ร้อนมาก ส่วนทิศใต้ข้อดีคือมีลมพัดผ่านเข้าทางหน้าบ้านได้ดี แค่เปิดหน้าต่างหลังบ้านเพิ่ม ลมก็พัดเข้าบ้านเย็นสบายแล้วค่ะ ซึ่งก็ต่างมีจุดเด่นต่างกันหน่อยนะคะ แล้วแต่ใครให้ความสำคัญแบบไหนค่ะ

สำหรับรีวิวฉบับนี้เป็นรีวิวอัพเดตโครงการนะคะ เนื่องจากทางทีมงาน Think of Living ได้ทำรีวิวมาแล้วทั้งหมด 2 รีวิวด้วยกันนะคะ โดยส่วนโครงการเองมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยจากเดิม ส่วนใหญ่จะยังคงเหมือนเดิมค่ะ เราจะพาไปชมว่าส่วนไหนที่มาการปรับเปลี่ยนไปและบรรยากาศโครงการเมื่อเวลาผ่านไปแล้วมีการดูแลจัดการโครงการเป็นอย่างไรบ้างนะคะ

ภาพด้านบนคือภาพเมื่อช่วงปลายปี 2016 นะคะ แต่ปัจจุบันมีการก่อสร้างใหม่เสร็จเรียบร้อย มีความสวยงามมากขึ้นรวมถึงมีหลังคากันแดดกันฝนได้ดี นอกจากตัวซุ้มโครงการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์โครงการได้มากขึ้นอีกด้วยนะคะ

สำหรับทางเข้า-ออกนี้เดิมใช้ระบบ Sticker คือหน้ารถติดสติกเกอร์ก็จะมีรปภ.เปิดประตูโครงการให้ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนเป็นระบบ Key Card Access ทำให้การเข้า-ออกสะดวกและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในส่วนการเข้าโครงการแบ่งเป็น 3 ช่องทางด้วยกัน ฝั่งซ้ายสุดคือประตูทางเข้าสำหรับคนเดิน และทางเข้ารถนั้นก็จะแบ่งเป็น 2 ช่องทางด้วยกัน คือทางเข้าลูกบ้าน และทางเข้าผู้มาติดต่อ สำหรับทางเข้าลูกบ้านสามารถสแกนบัตรเข้าโครงการได้เลย ส่วนผู้เข้ามาติดต่อต้องทำการแลกบัตรก่อนนะคะ เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นภายในโครงการ ในส่วนของระบบเปิด-ปิดนี้ใช้เป็น Double Access ประกอบด้วยไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ และบานเลื่อนอัตโนมัติค่ะ

ถนนภายในโครงการยังคงความสะอาด และร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ทางโครงการดูแลอย่างดีนะคะ สำหรับถนนในช่วงแรกนี้จะแบ่งออกเป็น 2 เลน เข้า-ออก คั่นกลางด้วยเกาะกลางที่ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่

พื้นที่ด้านข้างช่วงหน้าโครงการเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาในอนาคต โดยเป็นกรรมสิทธิ์ของบจก. สวนหลวงบ้านและที่ดิน

หันมาทางซ้ายเป็น Sale Office ในปัจจุบันนะคะ ซึ่งในอนาคตก็จะมีการปรับเป็นส่วนนิติบุคคลต่อไปนะคะ

ถนน Main มีความกว้างอยู่ที่ 15 ม. จากนั้นตรงมาอีกหน่อยความกว้างของถนนก็จะลดลงไปเหลือประมาณ 12 ม. เพราะพื้นที่สวนยื่นออกมาทำให้กินพื้นที่ถนนเข้ามาหน่อยค่ะ บรรยากาศยังคงเดิมนะคะ มีความสะอาดเรียบร้อยดีมากแม้โครงการจะขายเฟสนี้ไปนานแล้วและมีลูกบ้านเข้าพักอาศัยมาสักระยะแล้วค่ะ

มาที่พื้นที่ส่วนกลางแรกนะคะ ในบริเวณนี้ยังคงเหมือนเดิมกับรีวิวครั้งที่แล้วเลยค่ะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไรไปชมกัน

ช่วงแรกเป็นพื้นที่สนามหญ้าให้เด็กๆ วิ่งเล่นหรือจะพาน้องหมามาเดินเล่นก็ได้นะคะ พื้นที่ส่วนนี้รวม Club House ด้วยมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 1.2 ไร่เลยทีเดียว

บรรยากาศสนามเด็กเล่นยังคงเดิมเรียบร้อยเหมือนเดิมเลยค่ะ โดยในสนามเด็กเล่นนี้จะมีเครื่องเล่นให้ทั้งหมด 4 เครื่องค่ะ พื้นบริเวณนี้ดูด้วยกระเบื้องยางมีความนุ่ม เผื่อเวลาเด็กๆ วิ่งเล่นแล้วหกล้มจะได้ไม่เป็นแผลหนักมากเท่าวิ่งบนพื้นปูนปกติ

บรรยากาศบริเวณสนามเด็กเล่นและศาลาที่นั่งเล่นในร่ม บริเวณส่วนนี้ค่อนข้างร่มรื่นดีมากจากร่มเงาของต้นไม้ใหญ่นะคะ จะบอกว่าโครงการที่ขายมาสักระยะแล้วหากมีการดูแลดีๆ ก็จะได้เปรียบกว่าโครงการใหม่ตรงที่ต้นไม้และสวนนี่แหละที่มีการเจริญเติบโตให้ร่มเงาได้ดีกว่าต้นไม้ใหม่ๆ เยอะมากๆ

ถัดมาศาลานั่งเล่นอีกจุดหนึ่ง มีบ่อน้ำด้านหน้าสวยงาม

ถัดมาคือส่วน Club House นะคะ จากรีวิวฉบับที่แล้วเราเคยได้รีวิวกันไปแล้วนะคะ ดังนั้นเราจะพาไปชมกันคร่าวๆ เพื่อดูบรรยากาศในปัจจุบันกัน สำหรับส่วน Club House นี้จะมีการเข้า-ออกโดยผ่านการสแกนบัตรเพื่อเข้ามาใช้งานเท่านั้นนะคะ เพื่อให้เฉพาะลูกบ้านเท่านั้นที่สามารถเข้ามาใช้ได้ ส่วนด้านในประกอบไปด้วยห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ในชั้นบน ปัจจุบันเป็นอย่างไรไปดูกันค่ะ

ภายในห้อง Fitness สะอาดเรียบร้อย เครื่องเล่นยังเหมือนเดิมอยู่ในสภาพดี ภายในห้องฟิตเนสค่อนข้างโปร่งโล่งทีเดียวด้วยกระจกรอบทิศ ด้านใน ใครไม่ชอบออกกำลังกายแบบเปิดแอร์ก็สามารถเปิดหน้าต่างได้สบาย ไม่ร้อนมาก

ถัดมาที่สระว่ายน้ำแบบ Outdoor แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ค่ะ ขนาดกำลังดี สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ค่ะ ด้านข้างสระมีพื้นที่นั่งเล่นใต้หลังคา วาง Day Bed ให้ 2 ตัว มานั่งเล่นริมสระชิลๆ ได้เลย

ชั้นบนสุดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor คืออยู่ในร่มกันแดดกันฝนได้ และได้ลมพัดมาจากส่วนสนามหญ้า บริเวณนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบายดีทีเดียวนะคะ ใครเบื่อๆ บ้านก็มานั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศกันได้เลย

จากพื้นที่นั่งเล่นมองออกไปเป็นสวนสีเขียวสดชื่นสบายตาดีค่ะ

บริเวณด้านข้างของ Club House จัดให้เป็นพื้นที่จอดรถเป็นสัดส่วนชัดเจน เพื่อให้ลูกบ้านที่อยู่ด้านในแล้วขี้เกียจเดินมาออกกำลังกายต่างๆ สามารถขับรถมาจอดได้เลย และไม่เกะกะขวางทางส่วนถนนด้านหน้าอีกด้วยค่ะ

ถัดมาขนาดถนนหลักจะลดเหลือ 12 ม. จาก 15 ม. นะคะ

ชอบตรงที่ทางโครงการปลูกต้นไม้ทั้งไม้พุ่มเตี้ยและพุ่มสูงให้ด้วย เพื่อให้บริเวณถนนหลักดูสดชื่นสวยงาม

เราเดินมาอีกพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งด้านในนะคะ บริเวณนี้แบ่งเป็นพื้นที่พัตต์กอล์ฟและสนามหญ้าขนาดใหญ่

สนามพัตต์กอล์ฟจัดมาให้ 5 หลุมด้วยกัน ไว้สำหรับคุณพ่อบ้านใช้เวลาเพลินในวันหยุดได้ ไม่ต้องออกไปไหนไกล ส่วนด้านข้างสนามพัตต์กอล์ฟจัดให้เป็นม้านั่งไว้นั่งเล่นได้ค่ะ

สนามหญ้าที่นี่ให้มาใหญ่มากเด็กๆ วิ่งเล่นกันได้สนุกสนานเลยค่ะ

ติดกับสนามหญ้าทำเป็นทางเดินให้สวยงาม ตกแต่ง Landscape ด้วยม้านั่งที่มีลวดลาย

ปิดท้ายด้วยศาลานั่งเล่นขนาดใหญ่ ด้านในจัดให้มีม้านั่งอยู่ 2 ตัว เหมือนด้านนอกเลยค่ะ ตัวศาลานี้จะหันหน้าไปทางสนามหญ้า เผื่อผู้ปกครองมาปล่อยเด็กๆ วิ่งเล่นสนามหญ้า ก็นั่งรอด้านในศาลาชิวๆ ได้นะคะ

ถัดมาที่ถนนเชื่อมไปยังถนนรอง บริเวณนี้ก็ปลูกต้นไม้ให้ทั้ง 2 ฝั่งได้บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว

ปิดท้ายด้วยบรรยากาศของถนนซอยย่อยที่มีความกว้างถนนอยู่ที่ 9 ม. เป็นความกว้างมาตรฐานสามารถสวนทางกันหรือกลับรถได้ระดับนึงนะคะ สำหรับถนนรองนี้จะแตกต่างจากถนนหลักอยู่หน่อยตรงความกว้างที่น้อยกว่า ความสะดวกในการเข้า-ออกโครงการและไม่ได้มีปลูกต้นไม้ให้ริมฟุตบาท แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวมากกว่าบ้านที่ติดถนนหลักเช่นเดียวกันค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ แบ่งสระเด็กลึก 0.6 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม.
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 เครื่อง
  • พื้นที่นั่งเล่น Semi-Outdoor
  • สนามเด็กเล่น
  • สนามพัตต์กอล์ฟ
  • สวนสาธารณะ 2 ไร่กว่า
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้าและไม้กั้นกระดกอัตโนมัติ
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • ถนนหลักกว้าง 15 ม. และถนนรองกว้าง 9 ม.

 


Product Walkthrough

แนวคิดในการออกแบบ บ้านริมสวน ซีนเนอรี่ คือ Design Every Moment of Your Life ซึ่งทางโครงการได้นำความเข้าใจในไลฟ์สไตล์และเทรนด์ในปัจจุบัน มาพัฒนาตัวบ้านให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุก ๆ แง่มุมทั้งการอยู่อาศัย การพักผ่อน รวมไปถึงการทำงาน ตัวบ้านมีการออกแบบให้สอดคล้องกับทิศทางลมและแสงแดด มีความโปร่งสบายด้วยช่องแสงที่เปิดรับแสงธรรมชาติ และ มีการระบายอากาศที่ดี

ส่วนงานโครงสร้างของบ้านใช้ระบบ Conventional คือ ใช้เสา – คานปกติ ก่อผนังด้วย EkoBlok ซึ่งจะมีคุณสมบัติพรุนคล้ายคลึงกับ อิฐมวลเบาที่เรารู้จักมักคุ้นกันดี ที่มีข้อดีคือสามารถระบายความร้อนได้ดี ไม่อมความร้อน และยังมีความแข็งแรงคล้ายคลึงกับอิฐมอญที่มีจุดเด่นคือความคงทนแข็งแรง ดังนั้นใครที่จะต่อเติมหรือทุบผนังเพื่อปรับเปลี่ยนบ้านก็สามารถทำได้นะคะ ซึ่งแตกต่างจากระบบ Prefabrication ที่ไม่สามารถต่อเติมได้

ซึ่งบ้านตัวอย่างในรีวิวนี้ที่เราจะพาไปชมกันคือ บ้านหน้าตาใหม่ ที่มีการพัฒนาหน้าตาบ้านให้มีความ Modern มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงปรับฟังก์ชันภายในให้ลงตัวมากขึ้น มีความกว้างขวางและการใช้งานที่ยืดหยุ่นได้น่าสนใจ

เริ่มจากบ้านแฝด SCENIC หน้าตาบ้านออกแบบมาในสไตล์ Modern เน้นความเรียบง่ายและใช้สี Monotone ส่วนที่ติดกันของบ้านแฝดจะเป็นพื้นที่ในชั้นล่าง บริเวณครัวและห้องน้ำ ส่วนชั้นบนนั้นมีพื้นที่ระหว่างกลางเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เนื่องจากห้องชั้นบนส่วนใหญ่เป็นห้องนอนและห้องพักผ่อนทั้งหมดค่ะ

มาดูที่แปลนบ้านกันค่ะ SCENIC ที่ดินเริ่มต้นที่ 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตัวรูปแบบบ้านทำมาได้ลงตัวดีทีเดียวค่ะ ข้อดีเลยคือเป็นบ้านหน้ากว้าง จึงสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในได้ดี สำหรับชั้นล่างเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร และส่วนครัว ซึ่งทั้งนี้ตัวพื้นที่ครัวเองสามารถกั้นเป็นครัวปิดเป็นสัดส่วนได้ เพื่อที่จะทำอาหารได้เต็มที่ ส่วนด้านหลังบ้านจัดให้เป็นลานซักล้างต่างๆ ด้านหลังซึ่งให้มาขนาดใหญ่และแข็งแรงด้วยโครงสร้างเดียวกับตัวบ้านเลย ชอบตรงที่พื้นที่ซักล้างสามารถแบ่งเป็น 2 โซนการใช้งานได้ คือโซนที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ที่ติดกับครัว เนื่องจากมีประตูทางเข้าได้จากทั้ง 2 ฝั่งด้วยกัน ทำให้สามารถกั้นพื้นที่การใช้งานได้ ส่วนนึงเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ภายนอก และอีกพื้นที่นึงเป็นพื้นที่ซักล้างได้

ชั้น 2 ขึ้นมาเป็นโถงทางเดินยาว แจกไปยังห้องนอนใหญ่ ซึ่งมีตำแหน่งอยู่ด้านหน้าบ้าน ลักษณะเป็นห้องขนาดยาว สามารถจัดพื้นที่ได้ดี ภายในแบ่งเป็นพื้นที่เตียงนอน Walk-in Closet และยังสามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนเลย ซึ่งประตูทางเข้าจะอยู่ในทิศทางเดียวกับประตูที่เข้าจากโถงทางเดิน ทำให้การจัดวางโถสุขภัณฑ์ลงตัวเป็นสัดส่วน ส่วนด้านหลังบ้านเป็นห้องนอนกลางและเล็กค่ะ

เริ่มต้นกันที่หน้าบ้านประตูรั้วเป็นรั้วเหล็กโปร่งแบบบานพับเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านในพื้นบ้านยกสูงขึ้นจากถนนโครงการเพื่อกันน้ำไหลเข้าตัวบ้านได้พอสมควร ส่วนที่จอดรถ ขนาดความกว้างอยู่ที่ประมาณ 5.6 ม. ซึ่งสามารถจอดรถได้ 2 คัน พอดีๆ ในส่วนของหลังคาที่จอดรถนั้นจะครอบคลุมรถได้ประมาณครึ่งคันนะคะ ใครที่ไม่อยากให้รถเปียก เสียเวลาล้างรถใหม่หรือกลัวสีรถลอกไม่สวยเวลาโดนแดดก็สามารถติดตั้งผ้าใบกันแดดกันฝนได้ หรือจะทำเป็นหลังคาเบา ใช้วัสดุมุงหลังคาเป็น Polycarbonate ก็ได้เช่นกันค่ะ ทั้ง 2 อย่างนี้ติดตั้งไม่นานและมีให้เลือกแบบตามท้องตลาดเยอะ แล้วแต่ใครจะชอบสไตล์แบบไหนเลยค่ะ

ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับปลูกสวนได้เล็กน้อยนะคะ

เข้ามาดูส่วนที่ติดกับบ้านข้างเคียงกันนะคะ จะเป็นช่องทางเดินแบบนี้

ภายในผนังด้านบนเจาะเป็นหน้าต่างให้กับส่วนห้องน้ำ ทำให้ห้องน้ำมีพื้นที่ระบายความชื้นและอากาศได้ดี แม้จะผนังอีกด้านนึงจะติดกับเพื่อนบ้าน ส่วนฝั่งขวามีประตูสูงประมาณ 1.6 ม. เปิดไปด้านในเป็นพื้นที่เก็บของ ซึ่งมีขนาดพอสมควร สามารถจุของได้เยอะเหมือนกัน เช่น พวกอุปกรณ์ทำความสะอาด

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ดินด้านข้างซึ่งมีพื้นที่พอสมควรที่สามารถปลูกต้นไม้ หรือจัดสวนขนาดเล็กได้ รวมถึงทำทางเดินด้านข้างได้

ด้านในของรั้วบ้านนั่นติดตั้งถังขยะให้เรียบร้อย ลูกบ้านสามารถทิ้งขยะจากภายในบ้านตัวเองได้เลย และการที่มีถังขยะเป็นของตัวเองไม่ได้ใช้ร่วมกับบ้านข้างเคียงเป็นของส่วนกลาง ซึ่งมักจะเกิดปัญหาเพื่อนบ้านตามมาภายหลังได้

พื้นที่ด้านข้างรั้วบ้านมีความกว้างระดับนึงที่สามารถจัดสวนได้ ส่วนรั้วบ้านระหว่างบ้านข้างเคียงมีความสูงไม่มากนัก หากใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถปลูกไม้พุ่มสูงเพื่อบังสายตาได้นะคะ

บานประตูใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบเปิดคู่ ด้านข้างเป็นบาน Fixed ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนกรอบบานใช้เป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำและกระจกสีเขียวตัดแสงค่ะ

เข้ามาเจอกับพื้นที่รับแขก / นั่งเล่นซึ่งเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารและครัวด้านใน ความพิเศษของบ้านหลังนี้คือการที่ได้หน้ากว้างทำให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่งพอสมควรเลย ประกอบกับมีช่องเปิดอย่างประตูด้านหน้า หน้าต่างด้านข้างและประตูด้านหลังก็เพิ่มพื้นที่ให้แสงสว่างธรรมชาติเข้ามาภายในได้ดีมากขึ้น ในส่วนของพื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เป็นมาตรฐาน

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นนี้มีขนาด 4.45 x 3.55 ม. จัดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควรสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้เต็มที่เลยค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารซึ่งสามารถรองรับโต๊ะรับประทานอาหารถึง 8 ที่นั่งด้วยกันได้สบายเลยค่ะ

ด้านหลังบ้านบริเวณพื้นที่รับประทานอาหารนี้มีประตูบานเลื่อนกระจกที่เป็นบานเปิดคู่ พร้อมบานกระจกแบบ Fixed อีก 2 บานด้านข้างขนาดเดียวกับประตูหน้าบ้านเลยค่ะ

ออกมาที่บริเวณลานซักล้างตรงนี้ไม่ธรรมดานะคะ เพราะลานซักล้างด้านหลังที่ทางโครงการทำมาให้เป็นมาตรฐานนี้มีความยาวตามความยาวบ้านเลย ดังนั้นจึงสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 โซนด้วยกัน โซนนี้ลูกบ้านสามารถจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ได้ เช่น ใครชอบปลูกต้นไม้กระถาง จัดพื้นที่นั่งเล่น จิบชาเพลินๆ ก็ยังได้ค่ะ แม้ขนาดไม่ใหญ่มากแต่สามารถตกแต่งสร้างฟังก์ชันได้เหมือนกัน สำหรับส่วนนี้จะได้เฉพาะพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกมาตรฐาน ตัวพื้นเป็นโครงสร้างเดียวกับโครงการเลยมีความแข็งแรงทีเดียว ส่วนหลังคาและการกั้นพื้นที่ด้วยผนังนั้นลูกบ้านต้องต่อเติมเพิ่มเองนะคะ ทางโครงการจัดมาให้เป็นตัวอย่างเท่านั้นค่ะ

ถัดมาที่พื้นที่ครัวกันบ้างค่ะ สำหรับครัวนี้หากใครที่ชอบทำครัวหนัก ทำกับข้าวกินเองที่บ้าน แนะนำว่าให้ติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มเติมเพื่อทำให้ส่วนครัวเป็นครัวปิดเป็นสัดส่วนมากขึ้น ช่วยให้กลิ่นอาหารไม่ฟุ้งไปยังส่วนอื่นๆ หรือใครที่ไม่ได้เน้นทำกับข้าวหนักๆ อยู่แล้วก็สามารถจัดพื้นที่ตามบ้านตัวอย่างได้เลย คือจัดเป็น Pantry เตรียมอาหาร โต๊ะอเนกประสงค์ต่างๆ ได้

ถัดมาด้านในออกแบบให้เป็น Pantry ครัวค่ะ โดยมีความยาวอยู่ที่ 2.45 ม. ฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำในชั้นล่าง ส่วนฝั่งขวาคือประตูทางออกไปยังส่วนลานซักล้างอีกโซนนึง จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ

สำหรับอีกประตูนึงที่เชื่อมออกไปยังลานซักล้างด้านหลังบ้านจะมีขนาดเล็กลงมาประตูที่อยู่ด้านหลังพื้นที่รับประทานอาหารหน่อย ลักษณะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบคู่

ส่วนนี้สามารถวาง Pantry สำหรับซักล้างต่างๆ ได้ พร้อมทั้งวางเครื่องซักผ้าได้ดีเลยค่ะ

ถัดมาที่ห้องน้ำชั้นล่างและติดๆ กันเป็นโถงทางขึ้นบันไดนะคะ ความกว้างของบันไดนับจากด้านในของราวบันไดเลยอยู่ที่ 0.95 ม. ถือว่ามีความกว้างกำลังดี ไม่แคบไปค่ะ

มาที่ภายในห้องน้ำชั้นล่างกันค่ะ แบ่งเป็นโซนเปียกและแห้งเรียบร้อย โดยบริเวณโซนเปียกหรือพื้นที่อาบน้ำนั้นจะลดระดับลงมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดี ส่วนใครที่ไม่ชอบให้น้ำกระเด็นออกจากโซนเปียกเลยก็สามารถติดตั้งม่านพลาสติกแบบโค้งเพิ่มเติมได้นะคะ ราคาย่อมเยาอีกด้วย และเหมาะกับการกั้นน้ำกระเด็นได้มากที่สุดของพื้นที่อาบน้ำที่มีการปาดขอบแบบนี้ ส่วนผนังของห้องน้ำติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง ระบายความชื้นและอากาศต่างๆ ได้ดี

ส่วนสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้เป็น American Standard ตัวอ่างเป็นแบบฝั่งติดผนัง มาพร้อมกับกระจกเงา

ติดๆ กันเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard ทั้งหมด

ขึ้นมาที่ชั้น 2 กันต่อนะคะ บริเวณโถงบันไดจัดออกมาได้ดีค่ะ เริ่มจากส่วนของบันไดก่อนจัดให้มีชานพักเดินได้ง่าย บริเวณผนังมีช่องเปิดขนาดใหญ่ ประกอบด้วยหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศได้ และกระจกบานสูงที่ช่วยให้แสงสว่างภายนอกเข้ามาภายในโถงบันไดได้ดีมาก ในช่วงกลางวันไม่จำเป็นต้องเปิดไฟก็ช่วยให้สว่างได้ทั้งหมดแล้ว

ขึ้นมาชั้น 2 ลักษณะโถงจะเป็นแบบโถงทางเดินยาวเชื่อมไปยังห้องนอนและห้องน้ำในชั้นบน

สำหรับห้องนอนแรกมีขนาด 2.6 x 2.8 ม. สามารถวางเตียงขนาด Single Bed ได้กำลังดีเลยค่ะ ส่วนด้านข้างก็มีพื้นที่เหลือที่จะวางตู้เสื้อผ้า หรือโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างได้กำลังดีค่ะ นอกจากนี้ก็ติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนให้เรียบร้อย ไว้ระบายอากาศและแสงเข้าได้ดี สำหรับใครที่ไม่อยากเปิดแอร์นอนทุกวัน จะเปลี่ยนเป็นเปิดหน้าต่างก็ได้นะคะ แค่ติดตั้งมุ้งลวดเพิ่มเติมกันแมลงและยุงเข้าได้

ถัดมาอีกห้องนึงเป็นห้องนอนกลาง ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้เลยค่ะ แต่ในบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องอเนกประสงค์ เช่น จัดเป็นห้องทำงาน ห้องสะสมงานอดิเรก ก็ได้ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับ Life Style ของลูกบ้านเลยค่ะ

สำหรับห้องน้ำส่วนกลางที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 ห้องนอนในชั้นบนนี้ จะอยู่ตำแหน่งกลางบ้านนะคะ ระหว่างโซนหลังบ้านที่มีห้องนอนเล็ก 2 ห้องและหน้าบ้านที่เป็นตำแหน่งของห้องนอนใหญ่เพื่อให้ทั้ง 3 ห้องใช้งานห้องน้ำได้สะดวก ภายในห้องน้ำแบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจนเป็นสัดส่วน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเรียบร้อย เป็นมาตรฐานให้ในทุกหลังของ Type นี้ ในส่วนของสุขภัณฑ์ใช้เป็น American Standard ทั้งหมด

ภายในส่วนพื้นที่อาบน้ำ มีติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งให้เรียบร้อย ด้านข้างทำเป็นชั้นวางของซึ่งสามารถวางครีมแชมพูต่างๆ หรือจะจัดของประดับตกแต่งได้เช่นกันค่ะ

อีกฝั่งเป็นฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard เช่นเดิมนะคะ ด้านข้างมีติดตั้งสายไฟและท่อต่างๆ เตรียมพร้อมไว้สำหรับลูกบ้านซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งได้เลย

สำหรับห้องน้ำชั้นบนนี้ที่พิเศษคือสามารถเข้าได้จากทั้ง 2 ทาง คือจากโถงทางเดิน และห้องนอนใหญ่

ถัดมาที่ห้องนอนใหญ่กันค่ะ ฝั่งซ้ายเป็นประตูที่เข้า-ออกจากห้องน้ำเมื่อสักครู่นี้

เข้ามาด้านในโซนพื้นที่เตียงนอนมีขนาดใหญ่ทีเดียวนะคะ อยู่ที่ประมาณ 3.9 x 4 ม. สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตสบายมากพร้อมพื้นที่ด้านข้างเตียงกว้างขวางเลย สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้สบายค่ะ ฝั่งหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ช่วยให้แสงเข้ามาภายในห้องได้ดีส่งเสริมให้ห้องดูโปร่งโล่งมาก

สำหรับระเบียงนี้จะเป็นระเบียงหลอกนะคะ ไม่ได้สามารถใช้งานได้จริงเพียงแต่มีราวกันตกให้เพื่อให้สามารถทำบานเปิดขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งการลดขนาดระเบียงแล้วปรับให้เป็นพื้นที่ใช้สอยภายในเต็มที่แทนก็เป็นการออกแบบที่น่าสนใจ เพราะส่วนใหญ่แล้วเราก็มักไม่ได้ใช้ระเบียงหน้าบ้านเท่าไหร่นัก หากเทียบกับการเปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้สอยภายในแทนก็มีโอกาสที่จะได้ใช้พื้นที่มากกว่า

ส่วนปลายเตียงจัดมาให้เป็นพื้นที่ Walk-in Closet นะคะ

สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet มีขนาด 2.5 x 1.5 ม. ภายในมีช่องเปิดคือหน้าต่างให้ถึง 2 ฝั่งด้วยกันค่ะ ซึ่งเวลาจะแต่งหน้าก็สามารถเปิดม่านใช้แสงธรรมชาติได้เลย ส่วนตอนไหนที่แต่งตัวก็จำเป็นต้องมีม่านปิดในส่วนนี้ด้วยเช่นกันค่ะ สำหรับพื้นที่นี้สามารถรองรับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้ารูปตัว L ยาวได้นะคะ

ถัดมาที่บ้านเดี่ยวกันต่อนะคะ สำหรับบ้านเดี่ยวของโครงการมีการพัฒนาจากเฟสที่แล้วให้มีรูปลักษณ์ Modern มากขึ้นชัดเจนทีเดียวค่ะ โดยเน้นการตกแต่งที่เรียบง่าย นำกระจกมาใช้มากขึ้นทำให้ตัวบ้านดูโปร่งและทันสมัย

สำหรับบ้าน SCENERY มีที่ดินมาตรฐานอยู่ที่ 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บ้านเดี่ยวนี้จัดฟังก์ชันได้น่าสนใจทีเดียวนะคะ ด้วยตัวบ้านที่มีหน้ากว้างและจัดพื้นที่ให้ไม่มีผนังกั้นเท่าไหร่นัก จะเห็นว่าจากแปลนชั้นล่าง พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ Multi-Purpose Area และพื้นที่รับประทานอาหาร เชื่อมต่อกันทั้งหมด ยังไม่รวมกับพื้นที่ครัวและส่วน Terrace Area ด้านข้างอีกด้วยจึงทำให้แปลนชั้นล่างค่อนข้างยืดหยุ่นได้เยอะพอสมควร การจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ทำได้ง่ายและสามารถใช้พื้นที่ภายในได้เต็มที่ดีค่ะ ในอนาคตหากลูกบ้านต้องการที่จะต่อเติมห้องนอนผู้สูงอายุก็สามารถทำได้โดยปรับให้พื้นที่รับประทานอาหารเป็นส่วนห้องนอนได้ แล้วดันพื้นที่รับประทานอาหารปัจจุบันมาอยู่ตรงบริเวณ Multi-Purpose Area ได้เลยค่ะ ส่วนฝั่งทางเข้าจากที่จอดรถก็ไม่ธรรมดานะคะ เพราะทางโครงการออกแบบมาให้เป็นประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งปกติทั่วไปเราจะเห็นประตูฝั่งนี้เป็นประตูบานเปิดทึบมาตรฐาน แต่การที่ได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกช่วยทำให้พื้นที่บริเวณโถงบันไดสว่างมากขึ้น

ชั้น 2 จัดโถงทางเดินให้ค่อนข้างมาก แบ่งเป็นโซนชัดเจน คือขึ้นมาแล้วจะเจอกับห้อง Recreational หรือห้องอเนกประสงค์ได้ ซึ่งติดกันคือห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว โซนห้องนอนด้านหลังนี้แบ่งเป็นห้องนอนเล็กและห้องนอนกลาง คั่นกลางด้วยห้องน้ำชั้น 2 ที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและกลางค่ะ

เริ่มจากส่วนที่จอดรถนะคะ สามารถจอดรถยนต์ได้ 2 คันกำลังดีค่ะ บางบ้านที่มีที่ดินมากหน่อยก็สามารถจอดรถคันเล็กเพิ่มเติมได้อีกนะคะ

ด้านข้างมีพื้นที่ดินพอสมควรเลยค่ะ สามารถจัดสวนขนาดย่อมๆ ได้สบายมากๆ หรือใครที่อยากหาพื้นที่นั่งเล่นชมสวนก็สามารถต่อเติมเฉลียงเพิ่มเติมยื่นมาที่สวนมากขึ้นได้นะคะ

ส่วนด้านข้างบ้านนั้นจะเห็นว่ามีห้องกระจกที่ยื่นออกมาด้านข้าง จริงๆ แล้วในบ้านมาตรฐานจะเป็นส่วนระเบียงที่ใช้โครงสร้างเดียวกับคานนะคะ ไม่ได้มีทำเป็นห้องหลังคาแบบนี้ให้นะคะ จะมีเพียงส่วนพื้นให้ แต่ลูกบ้านสามารถต่อเติมเป็นห้องกระจกบนโครงสร้างของโครงการได้เลยค่ะ

ด้านหลังบ้านมีพื้นที่ไม่มากนักนะคะ สามารถปลูกต้นไม้ขนาดเล็กหรือไม้พุ่มได้ สุดทางเป็นพื้นที่ลานซักล้างค่ะ

ลานซักล้างที่ได้มาจะเหมือนกับบ้านแฝดที่เราพาไปดูก่อนหน้านี้คือให้มาแค่ส่วนพื้นอย่างเดียวค่ะ

อีกฝั่งเป็นเป็นพื้นที่เปล่าไว้ให้ปลูกสวนขนาดย่อมๆ ได้

ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อน กรอบบานอลูมิเนียม Powder coat สีเทา กระจกเขียวใส พื้นชั้น 1 จะมีการยกระดับสูงขึ้นมาประมาณบันได 2 ขั้น ช่วยกันน้ำกันฝนได้ และ สะดวกในการซักล้าง ส่วนผนังติดตั้งดวงโคมติดผนังให้เรียบร้อย

เข้ามาในบ้านจะมาเจอกับพื้นที่รับแขกอยู่ด้านหน้าสุดของตัวบ้าน ภายในบ้านจะดูโปร่งเพราะมีหน้าต่างสามารถรับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้ดี พื้นที่ในส่วนของห้องรับแขกจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ครัวอยู่ตรงข้ามห้องอาหาร จัดพื้นที่มาว่าค่อนข้างกว้าง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งาน หรือจัดพื้นที่ต่างๆได้ง่ายตามความเหมาะสมของผู้อยู่อาศัย สำหรับบ้านจริงจะได้เป็นบ้านเปล่าๆไม่มีเฟอนิเจอร์ตกแต่งนะคะ 

พื้นที่นั่งเล่น/รับแขกนี้สามารถตั้งชุดโซฟาแบบ 3-4 ที่นั่ง และโต๊ะชุดรับแขกได้ ด้านหลังโซฟาจะหน้าต่างบานเลื่อน ช่วยให้ห้องดูโปร่งมีแสงเข้าถึงไม่มืดทึบ ในส่วนของผนังของบ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ส่วนระยะดูทีวีค่อนข้างกว้าง สามารถเลือกทีวีขนาดใหญตั้งแต่ 40″ ขึ้นไปได้ค่ะ

ถัดมาคือพื้นที่ Multi-Purpose บริเวณนี้จัดว่ามีพื้นที่กว้างพอสมควรเลยนะคะ สามารถจัดเป็นฟังก์ชันเพิ่มเติมได้ เช่นพื้นทำงานหรือตั้ง Shelf วางของตกแต่งก็ได้เช่นกัน

ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่มีความยาวของพื้นที่ค่อนข้างมากทีเดียวค่ะ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้สูงสุดถึง 10 ที่นั่งก็ยังได้ค่ะ หรือจะจัดตามบ้านตัวอย่างที่ทำพื้นที่รับประทานอาหารไว้ฝั่งซ้าย และติดกันเป็นพื้นที่เตรียมอาหาร

ส่วนฝั่งซ้ายของพื้นที่รับประทานอาหารนั้นจะเป็นส่วน Terrace Area ที่ทางโครงการตกแต่งมาให้ดูว่าสามารถต่อเติมเป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นชิลๆ อ่านหนังสือจิบชาชมวิวสวนได้

ภายในสามารถวางโต๊ะทำงานหรือชุดโซฟาขนาด 2  ที่นั่งได้กำลังดีค่ะ

ถัดมาอีกฝั่งของบ้านนะคะ แบ่งเป็น 2 โซนด้วยกันคือโซนซ้ายของรูปเป็นส่วนห้องครัว ส่วนฝั่งขวาเป็นโถงบันไดที่ขึ้นไปยังชั้น 2 เชื่อมกับโถงทางเดินที่เข้ามาจากส่วนที่จอดรถค่ะ

สำหรับห้องครัวนี้ในบ้านมาตรฐานจะมีการกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกลักษณะใกล้เคียงกับบ้านตัวอย่างเพียงแต่เปลี่ยนเป็นอลูมิเนียมสีดำมาตรฐานนะคะ

พื้นที่ครัวนี้มีขนาดประมาณ 3.1 x 3.4 ม. จัดว่ามีขนาดใหญ่พอสมควรเลยค่ะ โดยภายในครัวนี้สำหรับบ้านมาตรฐานจะเป็นพื้นที่เปล่านะคะ ลูกบ้านต้องมาทำเคาน์เตอร์ครัวต่างๆ เอง ซึ่งในบ้านตัวอย่างจะเพียงตกแต่งครัวมาให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้นค่ะ ส่วนด้านข้างห้องนี้มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศดังนั้นจึงช่วยให้ห้องไม่อับ ระบายความชื้นได้ดี รวมไปถึงเวลาทำกับข้าวก็เปิดหน้าต่างได้

ติดกันนั้นเป็นประตูออกไปส่วนลานซักล้างด้านหลังบ้าน

ถัดมาที่พื้นที่โถงทางเดินติดกับบันไดนะคะ บริเวณนี้เชื่อมกับประตูบานเลื่อนที่ออกไปยังที่จอดรถได้

ส่วนใต้บันไดจัดให้มีห้องเก็บของมาด้วย ข้อดีเลยนอกจากเก็บของ ให้ดูไม่รกบ้านได้แล้ว ยังถือว่าได้ใช้พื้นที่ใช้สอยได้เต็มที่อีกด้วยนะคะ

ด้านในสุดเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งออกแบบมาเป็น Powder room คือห้องน้ำที่ไม่มีพื้นที่อาบน้ำ เน้นไว้ใช้ต้อนรับแขกหรือเวลาอยู่บ้านในชั้นล่าง ส่วนใครจะอาบน้ำแต่งตัวก็ไปอาบน้ำที่ชั้นบนแทนนะคะ และสำหรับรูปแบบการตกแต่ง สุขภัณฑ์ต่างๆ จะเหมือนกับบ้านตัวอย่างที่แล้วเลยค่ะ เพิ่มเติมที่พิเศษขึ้นมาคือมีการทำฝ้าซ่อนไฟให้ด้วยดูสวยงามดี พร้อมกับหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายความชื้นและอากาศได้ดี

มาที่โถงบันไดกันบ้างนะคะ แบบบ้านนี้ได้โถงบันไดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว บริเวณนี้โปร่งโล่งเพราะได้แสงสว่างจากบานกระจกขนาดใหญ่

สำหรับพื้นบันไดทำออกมาได้ดีมีชานพักให้ชัดเจน

โถงทางเดินในบ้านหลังนี้จะยาวพอสมควร แจกไปยังห้องต่างๆ ลักษณะทางเดินจะเป็นรูปตัว L คือแจกไปยังห้องอเนกประสงค์และห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน และเลี้ยวขวาไปยังหลังบ้านที่เป็นห้องนอนกลาง เล็กและห้องน้ำใช้ร่วม

ห้องนี้เป็นห้องที่ใช้นั่งเล่นกันเองในครอบครัวแบบเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนถ้ารับแขกจริงจังก็จะใช้พื้นที่ด้านล่างได้เลยค่ะ หรือลูกบ้านคนไหนที่ต้องการห้องทำงานเป็นสัดส่วนก็สามารถทำพื้นที่ห้องนี้เป็นห้องทำงานได้เช่นกัน และด้านหน้าบ้านมีประตูบานเลื่อนเชื่อมออกไปยังระเบียงภายนอก

สำหรับระเบียงด้านนอกนั้นเป็นระเบียงยาวตลอดความยาวของหน้าบ้านเลย แต่มีกั้นพื้นที่ไว้คือระเบียงส่วนห้องอเนกประสงค์และระเบียงส่วนห้องนอนใหญ่ชัดเจน สำหรับพื้นระเบียงใช้เป็นกระเบื้องเซรามิก ราวกันตกเป็นกระจกทั้งหมด ราวจับใช้เป็นอลูมิเนียมพ่นสีดำ

สำหรับห้องอเนกประสงค์นี้ทางโครงการออกแบบ Interior ไว้เป็นไอเดียสำหรับผู้ต้องการจะตกแต่งบ้านโดยให้ไอเดียว่าห้องนี้สามารถตกแต่งให้เชื่อมเข้าห้องนอนใหญ่ได้ เพื่อใครที่ชอบพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่มากขึ้นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันค่ะ

ส่วนห้องนอนใหญ่ขนาดค่อนข้างกว้างและโปร่ง จัดพื้นที่ภายในกว้างสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ และชั้นวางของด้านข้างได้ มีพื้นที่เหลือรอบเดินสะดวก ตำแหน่งของห้องอยู่ด้านหน้าตัวบ้าน มีหน้าต่างและประตูกระจกตัดแสงบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติเห็นวิวจากภายนอกแบบมุมกว้างได้

หากวางเตียง 5 ฟุตจะกำลังดีสุดเพราะเหลือพื้นที่ทางเดินด้านข้างให้สามารถเดินได้ง่ายกำลังดี

ด้านข้างเตียงเป็นทางเข้าส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำ

ภายใน Walk-in Closet สามารถ Built-in ชุดตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ แต่มีพื้นที่ไม่พอสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งนะคะ สามารถแก้ปัญหาโดยกรุกระจกเอาเหมือนบ้านตัวอย่างก็ได้เช่นกันนะคะ

ภายในห้องน้ำในห้องนอนได้ขนาดใหญ่ทีเดียวนะคะ แบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจนด้วยระดับพื้น หากไม่อยากให้น้ำกระเด็นออกด้านนอกสามารถติดตั้ง Shower Box เพิ่มเติมได้ค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์ก็จาก American Standard เหมือนเดิมนะคะ

ถัดมาสุดทางเดินแบ่งซ้าย-ขวาเป็นห้องนอนตรงกลางเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องนอนเล็กก็จัดว่าไม่ได้เล็กนะคะ เพราะสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้เลย พร้อมพื้นที่รอบเตียงกำลังดีเลยค่ะ

ด้านข้างเตียงอีกฝั่งออกแบบให้เป็นส่วน Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ

ถัดมาที่ห้องน้ำที่ใช้ร่วมระหว่างห้องนอนกลางและเล็กนะคะ ขนาดจะเล็กลงมาหน่อยจากห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ แต่ได้พื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่มากกว่า สามารถกั้นด้วยฉากกั้นกระจก หรือวิธีอื่นๆ ก็โอเคแล้ว

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กก็ยังสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายมากค่ะ และยังมีพื้นที่ทางเดินเหลือให้เดินได้สบาย

อีกฝั่งของเตียงจัดให้เป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าขนาดกำลังดีเลยค่ะ

อัปเดตแบบบ้านใหม่ 17/05/21

*ข้อมูลและรูปภาพจากโครงการ

SCENEC

บ้าน 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 45.50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 138 ตร.ม.
4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

Image 1/16
สำหรับแบบบ้าน SCENEC ยังคง Concept Modern Home และเลือกใช้สีแบบ MONOTONE ที่อ่อนที่ทำให้บ้านไม่ร้อน

สำหรับแบบบ้าน SCENEC ยังคง Concept Modern Home และเลือกใช้สีแบบ MONOTONE ที่อ่อนที่ทำให้บ้านไม่ร้อน


SCENT

บ้าน 2 ชั้น ที่ดินมีขนาด 55.90 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 139 ตร.ม.
4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

Image 1/16
แบบบ้าน Scent เป็นบ้านในสไตล์ Modern โดยใช้สีเทาในรูปแบบ Monotone มองจากภายนอกตัวบ้านทุกหลังจะมีพื้นที่รอบบ้าน แต่บ้านแปลงมุมอย่างหลังนี้ที่จะได้ที่ดินใหญ่ขึ้นกว่าแปลงมาตรฐานอื่นๆ ทำให้สามารถจัดสวน หรือเป็นพื้นที่ที่คนในครอบครัวสามารถจัดกิจกรรมนอกบ้านกันได้

แบบบ้าน Scent เป็นบ้านในสไตล์ Modern โดยใช้สีเทาในรูปแบบ Monotone มองจากภายนอกตัวบ้านทุกหลังจะมีพื้นที่รอบบ้าน แต่บ้านแปลงมุมอย่างหลังนี้ที่จะได้ที่ดินใหญ่ขึ้นกว่าแปลงมาตรฐานอื่นๆ ทำให้สามารถจัดสวน หรือเป็นพื้นที่ที่คนในครอบครัวสามารถจัดกิจกรรมนอกบ้านกันได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 06 December 2016

  • SCENIC บ้านแฝด แปลง 193 ที่ดิน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ราคา 4.685 ล้านบาท
  • SCENIC บ้านแฝด แปลง 191 ที่ดิน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 155 ตร.ม. ราคา 4.95 ล้านบาท
  • SCENERY บ้านเดี่ยว แปลง 232 ที่ดิน 52 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. ราคา 6.65 ล้านบาท
  • SCENERY บ้านเดี่ยว แปลง 235 ที่ดิน 54.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. ราคา 6.95 ล้านบาท

  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า n/a ปี
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

บ้านริมสวน ซีนเนอรี เป็นโครงการที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในย่านบางนา-ตราด กม. 13 อยู่ ในช่วงราคา 4.8 – 7.1 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยวัดหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นซอยใหญ่เชื่อมระหว่างถนนบางนา-ตราดและถนนเทพารักษ์ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาบ้านทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านบ้านแฝด ที่เน้นเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยบางนา-ตราดเป็นหลัก และอยู่ในช่วงราคาที่หยิบจับได้ง่าย เพราะโครงการบ้านติดถนนบางนา-ตราดในช่วงราคานี้และเป็นบ้านใหม่นั้นค่อนข้างหาได้ยากในช่วงเวลานี้ รวมทั้งยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมในการเดินทางไปออกถนนเทพารักษ์ได้เช่นกัน ซึ่งก็ต้องยอมแลกกับทำเลที่เข้ามาภายในซอยประมาณ 2 กม. แต่สำหรับซอยวัดหลวงพ่อโตนี้ไม่ใช้ซอยเล็กๆ นะคะ แต่เป็นซอยใหญ่ที่มีวัดบางพลีใหญ่ในหลวงพ่อโต จัดเป็นซอยสำคัญและค่อนข้างคึกคักพอสมควรค่ะ

ทำเลบางนา-ตราด กม. 13 ถึงจะเลยจากเมืองมาพอสมควรแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆ โดยไม่ต้องขับรถไกลมาก เช่น Market Village ตลาดสด ตลาดน้ำ และ Big C อยู่ในระยะ 1-2 กม. เรียกว่าขับรถออกจากบ้านไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ได้ใกล้ๆ เลยไม่ต้องขับเข้าเมืองไปไกล และซอยวัดหลวงพ่อโตนั้นอย่างที่บอกไว้ว่าเป็นซอยใหญ่ คึกคัก มีความเจริญพอสมควร จะเห็นทั้งร้านค้า ร้านอาหารเปิดขายอยู่ตามระยะ ทำให้หาของกินได้ไม่ไกลมากนักในระยะขับรถ ส่วนใครจะเดินช็อปปิ้งดูหนังในวันหยุดบนถนนบางนา-ตราดนี้ก็มีห้างใหญ่ๆ เลยอย่าง Mega Bangna ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 7 กม. ไม่ต้องวิ่งเข้าเมืองในเสียเวลารถติด

ตัวโครงการจัดผังออกมาได้ดี ด้วยความที่เป็นโครงการขนาดใหญ่มีจำนวนยูนิต 283 บนพื้นที่ทั้งหมด 51 ไร่กว่า และมีลักษณะที่ดินหน้าแคบลึกจากถนนหน้าโครงการไปสุดคลองสวนด้านหลัง ก็เลยมีการวาง Facilities ให้เป็น 2 จุดใหญ่ๆ ในโซนด้านหน้า และโซนด้านหลังโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านทั้งสองโซนไม่ต้องเดินไปใช้งานไกลๆ ส่วนงานออกแบบบ้านนั้นมีการปรับเปลี่ยนจากเฟสที่ผ่านมา ให้มีสไตล์ที่ Modern มากขึ้น เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาดที่ดิน รวมถึงการจัดฟังก์ชันบ้านค่อนข้างเด่นและน่าสนใจ โดยการทำบ้านแบบหน้ากว้าง และเน้นการเชื่อมต่อของพื้นที่ภายในทำให้สามารถจัดฟังก์ชันได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่ ชั้นบนมีห้องอเนกประสงค์ที่ลูกบ้านสามารถจัดได้ตามความต้องการ และเรื่องความโปร่งโล่งของบ้านที่ได้ช่องแสงค่อนข้างมากอีกด้วยค่ะ มาที่บ้านแฝด จัดเป็นบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางให้อารมณ์ภายในเหมือนบ้านเดี่ยว ครัวจัดให้เป็นครัวปิดทำกับข้าวได้ ส่วนชั้นบนชอบตรงทางเข้าห้องน้ำที่จัดให้ลงตัวดี และสามารถเปิดได้จากห้องนอนใหญ่และโถงทางเดิน โดยประตูติดตั้งที่ฝั่งเดียวกันทำให้การวางสุขภัณฑ์ค่อนข้างลงตัวดี 

งานโครงสร้างอาคารเป็นระบบ Conventional เสา-คาน ปกติและใช้วัสดุ EkoBlok ก่อผนัง ข้อดีของ Ekoblok สามารถระบายความร้อนได้ดี ไม่อมความร้อน และยังมีความแข็งแรงคล้ายคลึงกับอิฐมอญ ซึ่งทำให้เราสามารถต่อเติมหรือทุบผนังเพื่อปรับเปลี่ยนบ้านได้ในอนาคต แตกต่างจากระบบการก่อสร้างบ้านแบบ Prefabrication ที่ไม่สามารถทำได้นะคะ ส่วนวัสดุภายในบ้านนั้นได้ตามราคาที่จ่าย คือพื้นชั้น 1 เป็นพื้นแกรนิตโต้ ชั้น 2 พื้นลามิเนต ส่วนระเบียงและห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิกขนาดใหญ่ งานหน้าต่างใช้กรอบบานอลูมิเนียม Fitting ดี มีน้ำหนัก กระจกเขียวตัดแสง สุขภัณฑ์จาก American Standard ทั้งหมด

สาธารณูปโภคให้มาพอสมควรด้วยขนาดพื้นที่ส่วนกลางประมาณ 2 ไร่ มีสวน สนามเด็กเล่น Club House ที่ผ่านในมีส่วน Fitness และสระว่ายน้ำ ส่วนสวนโซนด้านหลังก็จัดสนามพัตต์กอล์ฟให้ 5 หลุม ถือว่ามี Facilities ครบครันนะคะ ความกว้างของถนนหลักกว้าง 15 ม. ถนนรอง 9 ม. ได้ CCTV รอบโครงการและมีพี่ยามตลอด 24 ชม. และมีการปรับเปลี่ยนระบบความปลอดภัยในการเข้า-ออกจากสติกเกอร์แปะหน้ารถเป็น ระบบ Keycard Access รวมไปถึงประตูเข้าออกที่ใช้เป็น Double Access ทั้งไม้กั้นกระดกอัตโนมัติและประตูบานเลื่อนไฟฟ้า พร้อมแยกช่องการจราจรเป็นช่องทางเข้ารถสำหรับลูกบ้านและผู้มาติดต่ออีกด้วยค่ะ เรียกว่าดีทีเดียวนะคะ ส่วนในแง่ของตัวโครงการแล้วจัดเป็นโครงการที่ทยอยสร้างและขายไปเรื่อยๆ ก็ถือว่ามีการดูแลจัดการพื้นที่ส่วนกลางและสภาพโครงการดี ยังคงความใหม่และน่าใช้งานอยู่

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 4.8 – 7.1 ล้านบาท06 December 2016

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – อยู่ในซอยเชื่อมถนนบางนา-ตราดและเทพารักษ์ มีของกินในซอยเป็นระยะ เน้นมีรถยนต์ส่วนตัว
  • ความปลอดภัย 8/10 – Keycard Access, Double Access
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เน้นดีไซน์ Modern ภายในโปร่งโล่งและมีความยืดหยุ่นในการจัดฟังก์ชันได้ดี
  • วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 –ได้ขนาดสวน 2 ไร่กว่า บวกกับการดูแลสภาพโครงการได้ดียังคงร่มรื่นและสวยงาม
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ได้ครบ น่าใช้งานเหมือนเดิม
  • 7.55 / 10.00

BOTTOM LINE

บ้านริมสวน ซีนเนอรี เป็นโครงการบ้านในซอยวัดหลวงพ่อโต มี Product ในเลือกทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ตอบโจทย์คนที่มองหาบ้านแถบบางนา-ตราดและเทพรักษ์ เน้นเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ชอบพื้นที่สวน และใช้ Facilities มีงบประมาณ 4.8 – 7.1 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ  34,000 – 57,000 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )