ปก Supalai

รีวิวฉบับที่ 1136 … วันนี้เราจะพาไปชมบ้านเดี่ยวชานเมืองในย่านเพชรเกษมที่เพิ่งเปิด Presales กันไปหมาดๆเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 59 ที่ผ่านมากับโครงการ ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 จาก ศุภาลัย โครงการตั้งอยู่บนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ซึ่งทำเลนี้จะอิงความเจริญของถนนเพชรเกษม 69 (บางบอน 3) ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อถนนใหญ่อย่างถนนเพชรเกษมและถนนเอกชัยที่สามารถทะลุไปพระราม 2 ได้ ตัวโครงการนี้จะรวมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมเข้าไว้ด้วยกัน แต่สำหรับรีวิวฉบับนี้เราจะขอเน้นไปที่ตัวบ้านเดี่ยวกันก่อนนะ หน้าตาโครงการและตัวบ้านจะเป็นอย่างไรไปชมพร้อมๆกันเลยค่าา ^^

 

Fact @ 28 July 2016

  • Supalai Ville Phetkasem 69 (ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69)
  • บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
  •  MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ เขตหนองแขม
  • เนื้อที่โครงการ 52-0-39.4 ไร่ จำนวน 353 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท

  • บ้านศุภกฤต ที่ดิน 63.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 
  • บ้านศุภฤทัย  ที่ดิน 56 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 
  • บ้านศุภฤทธิ์ ที่ดิน 56.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 
  • บ้านศุภดำรง ที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 
  • บ้านศุภลักขณา ที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 

  • บ้านแฝดราคาเริ่มต้น  3.88 ล้านบาท
    • บ้านแฝดศุภกัลยา ที่ดิน 35 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 122 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 

  • ทาวน์โฮมราคาเริ่มต้น 2.56 ล้านบาท
    • ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 18 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 

    • เพดานสูง 2.6 เมตร
    • ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 54,000 บาท
    • โครงการเริ่มก่อสร้าง :10 ต.ค.58
    • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : 30 ธ.ค.61
    • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
    • Call Center :  1720

    ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

    NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ

     


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.685767, 100.359016

    Map 69

    จากแผนที่ของโครงการจะเห็นว่า โครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ที่เชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม 69 (บางบอน 3), ถนนเพชรเกษม 81 (บางบอน 5) และถนนพุทธสาคร ซึ่งถนนสามเสันนี้สามารถไปทะลุถนนใหญ่อย่างถนนเพชรเกษม, ถนนเอกชัย, พุทธมณฑสาย 4 และถนนกาญจนาภิเษกได้ ความอุดมสมบูรณ์จะอิงถนนเพชรเกษมเป็นหลักมีทั้ง Community Mall อย่าง Victoria Gardens มีห้าง Big C,  โฮมโปร, The Mall และ Tesco Lotus โรงเรียนก็มีอนุบาลเด่นหล้า โรงเรียนเลิศหล้า โรงเรียนปัญญาศักดิ์บางบอน โรงเรียนสารสาสน์บางบอน เป็นต้น ส่วนรถไฟฟ้าก็เป็นการตัวเลือกการเดินทางที่สามารถไปใช้ได้แต่ค่อนข้างไกล โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีหลักสองหน้า The Mall บางแค ห่างจากโครงการประมาณ 8 กิโลเมตร

    Map สถานที่สำคัญ ศุภาลัย วิลล์

    ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านหนองแขม ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครค่อนไปทางจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยความที่อยู่ในเขตชานเมืองที่อยู่อาศัยจึงเป็นแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ โดยบ้านที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ ด้านล่างมักเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร  ส่วนบ้านที่อยู่ในซอยก็เป็นบ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์โฮม ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้มีค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะเกาะกลุ่มอยู่บนถนนเพชรเกษม ร้านอาหารส่วนมากจะเป็นร้านในตึกแถว ห้างที่ใกล้ๆก็มี  The Mall บางแค, Tesco Lotus, Big C, Homepro มี Victoria Gardens ซึ่งเป็น Community mall ขนาดใหญ่อยู่หน้าปากซอยเพชรเกษม 69

    พอเข้ามาในซอยเพชรเกษม 69 ช่วงต้นซอยค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีทั้งร้านค้าในตึกแถว มีตลาดคลองขวาง, Lotus Express ให้ไปจับจ่ายใช้สอยกันได้ เขยิบเข้ามาใกล้ๆภายในถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือจะเป็นถนนเส้นเล็กๆที่สองข้างทางเป็นชุมชนเก่าแก่ มีตึกแถว ตลาด ร้านค้า ค่อนข้างคึกคัก รวมทั้งมีโรงงานและโกดังเก็บของกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ หากจะโฟกัสมาที่บรรยากาศรอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ทั้งที่สร้างเองและเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่หลายหมู่บ้าน รวมทั้งมีอาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการค้าขายอย่างร้าน ครัวเรือน ที่เป็นร้านจำหน่ายของใช้ในบ้านให้ไปซื้อหากันได้

    Map ศุภาลัย วิลล์

    โครงการนี้เป็นโครงการหมู่บ้านในซอยย่อยที่สามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้หลายเส้นหลักๆคือ ถนนเพชรเกษม ถนนเอกชัย ถนนกาญจนาภิเษก และถนนพุทธสาคร โดยหากมาจากถนนเพชรเกษม สามารถเข้าได้ทั้งจากถนนเพชรเกษม  69 (บางบอน 3) และถนนเพชรเกษม 81 (ถนนมาเจริญหรือถนนบางบอน 5) โดยถนน 2 เส้นนี้สามารถพาไปทะลุถนนเอกชัย-บางบอน แล้วไปยังออกพระราม 2 ได้ อีกทางคือจากถนนเลียบคลองภาษีเจริญ สามารถขับตรงไปออกถนนพุทธสาครเพื่อไปออกจังหวัดสมุทรสาครได้อีก และจากถนนเพชรเกษมสามารถทะลุไปยังเส้นกาญจนาภิเษกไปออกถนนบรมราชชนนีได้

    ข้อดีของโครงการที่อยู่ในซอยย่อยแบบนี้คือ เราสามารถลัดเลาะไปยังถนนใหญ่เส้นอื่นๆในเวลาเร่งด่วนที่มีรถติดบนถนนใหญ่ได้ เช่น หากจะไปยังถนนกาญจนาภิเษกแทนที่จะใช้ถนนใหญ่อย่างถนนเพชรเกษม เราก็เลี่ยงโดยวิ่งจากถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งมุ่งหน้าเข้าถนนเพชรเกษม 69 วิ่งตรงไปเข้าซอยอินทาปัจ จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าซอยเพชรเกษม 63 ซึ่งซอยนี้จะเงียบกว่าซอยเพชรเกษม 69 บรรยากาศจะเป็นบ้านคนซะส่วนใหญ่ ตรงไปเรื่อยๆจนถึงซอยร่มไทรขับไปจนสุดซอยจะไปทะลุถนนกาญจนาภิเษกได้ เป็นต้น

    ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ จะมีรถสองแถววิ่งผ่านหน้าโครงการโดยรถจะมาทุกๆ 15 นาที สามารถนั่งไปได้ถึงหน้าปากซอยเพชรเกษม 69 แล้วไปต่อรถโดยสารบนถนนเพชรเกษมก็มีให้เลือกหลากหลาย ส่วนมอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท๊กซี่ก็มีวิ่งผ่านหน้าโครงการแต่อาจจะต้องรอหน่อย ส่วนถ้าใครอยากใช้รถไฟฟ้าจะมี BTS แต่จะไกลจากโครงการอยู่พอสมควร ในปัจจุบันมีการให้บริการอยู่ที่ BTS บางหว้าเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ต้องใช้วิธีต่อรถ 2 ต่อเพราะสองแถวที่ผ่านหน้าโครงการไปส่งแค่ The Mall บางแค ส่วนรถไฟฟ้าต่อขยายที่มีปลายทางอยู่ที่สถานีหลักสองใกล้ The Mall บางแค ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ

    Map เดินทาง ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69

    การเดินทางวันนี้เราจะเริ่มจากจุดตัดระหว่างถนนเพชรเกษมกับถนนกาญจนาภิเษก (ช่วงซอยเพชรเกษม 49) ขับตรงไปเรื่อยๆบนถนนเพชรเกษมดูบรรยากาศสองข้างทาง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรเกษม 69 ขับตรงไปเรื่อยๆจนถึงตลาดคลองขวาง ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือดูบรรยากาศทั้งสองข้างทางไปจนถึงโครงการค่ะ

    supalai ville 1

    เราเริ่มจากถนนเพชรเกษมช่วงซอยเพชรเกษม 49 ซึ่งเป็นซอยที่เลี้ยวมาจากถนนกาญจนาภิเษก ให้เราเลี้ยวเข้าถนนใหญ่เพชรเกษมค่ะ

    supalai ville 2

    ตัวถนนเพชรเกษมเองเป็นถนน 6 เลน บรรยากาศ 2 ข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถว ร้านค้า มีธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่อยู่กระจายอยู่ทั้งสองฝั่งถนน

    supalai ville 3

    ทางซ้ายมือมีโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค ให้ได้ไปใช้บริการยามเจ็บป่วยไข้ ส่วนตึกสูงที่อยู่ถัดไปเป็นคอนโด Fuse Sense และมีคอนโด Low Rise อย่าง Plum condo บางแค อยู่ใกล้ๆกัน เป็นคอนโดจากพฤกษาทั้งสองที่

    supalai ville 4

    ไม่ไกลกันจะเจอปั๊ม Esso ที่มี Tesco Lotus Express บางแคเหนือให้มาซื้อของกินของใช้เล็กๆน้อยๆได้

    supalai ville 6

    ขับมาเรื่อยๆจะเจอ BigC Supercenter  อยู่ทางซ้ายมือ ที่นี่จะรวมเอาทั้ง Index Living Mall ที่ขายเฟอร์นิเจอร์และรับจ้างให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบ้านอย่าง Homework ด้านในจะเป็นแหล่งศูนย์การค้า และที่จอดรถขนาดใหญ่ มีทั้งร้านอาหารดังๆ โรงหนัง รวมถึงลานโบว์ลิ่ง และโรงภาพยนตร์ของ Major Cineplex

    supalai ville 7

    มีโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า บางแค ที่มีค่าเทอมราคาเบาๆอยู่ที่ 50,000 นิดๆ

    supalai ville 8

    ตรงมาอีกจะเจอ Community Mall ชื่อ Victoria Gardens มีร้านกาแฟ Starbuck ที่เราไม่ค่อยได้นักในย่านชานเมืองนอกจากนี้ยังมีทั้ง McDonald แบบ Drive-thru รวมถึงร้านซูชิและ Foodland ภายในมีร้านค้ากว่า 200 ร้าน พอถึงตรงนี้ให้เราเตรียมชะลอรถแล้วชิดซ้ายไว้นะคะ

    supalai ville 9

    เลย Victoria Gardens มานิดเดียวจะเจอศาลเจ้าของท้าวมหาพรหม เป็นที่เคารพสักการะของคนในย่านนี้ จากตรงนี้ให้เราเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพชรเกษม 69 กันค่ะ

    supalai ville 10

    มาถึงหน้าซอยเพชรเกษม 69 จะมีป้ายบอกชัดเจน เลี้ยวซ้ายตามรถคันหน้าไปเล้ยยยย

    supalai ville 11

    เลี้ยวเข้ามาบนถนนเพชรเกษม 69 หรือถนนบางบอน 3 จะเป็นถนน 3 เลนที่มีรถวิ่งเข้าออกพลุกพล่านตลอดเวลา เพราะเป็นถนนที่เป็นทางลัดไปทะลุออกถนนเอกชัย เชื่อมต่อไปพระราม 2 ได้

    supalai ville 12

    ขับเข้ามานิดเดียวเราจะเจอทางเข้า Victoria Gardens อีกทาง ฝั่งขวามือจะเป็นคลองทวีวัฒนาที่มีความยาวเลียบถนนเพชรเกษม 69 ไปสิ้นสุดที่คลองภาษีเจริญ

    supalai ville 13

    มองไปทางซ้ายมือจะเจอป้ายรถเมล์ซึ่งบนถนนเส้นนี้จะมีรถเมล์สาย 7 คลองขวาง-หัวลำโพงวิ่งผ่าน

    supalai ville 14

    มีปั๊ม Esso ซึ่งมี Tesco Lotus Express ให้ไปใช้บริการกันได้

    supalai ville 15

    ไม่ไกลกันจะเจอวัดราษฏร์บำรุง เป็นวัดขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 20 ไร่เศษ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2425 ไม่ทราบนามและประวัติผู้สร้าง เดิมเป็นวัดมอญ และได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะสงฆ์เมื่อปี พ.ศ. 2500 และมีการบูรณะพัฒนามาเรื่อยๆจนสวยงามอย่างทุกวันนี้

    supalai ville 16

    เราขับมาเรื่อยๆจะเจอ Lotus Express..

    supalai ville 17

    ใกล้กันเป็นตลาดคลองขวาง ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ในชุมชน มองไปทางขวามือจะเป็นสะพานข้ามคลองไปยังถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ให้เราเลี้ยวขวาข้ามสะพานไปกันค่ะ

    supalai ville 19

    เลี้ยวเข้ามาบนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ บรรยากาศช่วงต้นซอยคึกคักมากกก สองข้างทางแวดล้อมไปด้วยตึกแถวเก่าแก่ความสูง 2-5 ชั้น ด้านล่างมีการค้าขายตั้งแต่เสื้อผ้า อาหาร ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ มีสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลาย ข้างหน้าเรามีทั้งแท๊กซี่ พี่วิน รับส่งตลอดค่อนข้างสะดวก

    supalai ville 20

    เขยิบเข้ามาในซอยสองข้างทางจะเริ่มเห็นบ้านพักอาศัยที่เป็นบ้านเดี่ยว มีหมู่บ้านจัดสรรที่มักจะทำเป็นทาวน์โฮมด้านในและทำอาคารพาณิชย์ติดถนนด้านหน้า ความพลุกพล่านจะน้อยกว่าช่วงต้นซอยหน่อย

    เขยิบเข้ามาลึกอีกก็จะเริ่มมีที่ดินว่างเปล่า สลับกับบ้านพักอาศัยและมีโรงงานขนาดใหญ่กระจายตัวอยู่เป็นช่วงๆ

    โกดังเก็บของขนาดใหญ่ให้เช่าก็มี

    เราขับมาเรื่อยๆ บรรยากาศสองข้างทางก็ยังคงเป็นตึกแถวเก่า สลับกับตึกใหม่ ทุกหลังมีการค้าขายภายในอาคารกันเป็นปกติ

    ตรงนี้มีโรงเรียนประชาบำรุง

    ไม่ไกลกันเราจะเจอร้านขายวัสดุก่อสร้างและร้านครัวเรือนที่เป็นอาคารพาณิชย์  4 ชั้น ขายของจำพวกอุปกรณ์ที่ใช้ในครัวเรือนตามชื่อ ติดกันจะเป็นโครงการศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 แล้วค่ะ

    Map zoom ศุภาลัย

    สภาพแวดล้อมของโครงการเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่มีหมู่บ้านขนาดใหญ่หลายหมู่บ้าน มีตึกแถว ตลาด ร้านค้า โรงเรียน มีโรงงานและโกดังกระจายตัวอยู่รอบๆพื้นที่ โดย

    • ทางทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้น โซนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ
    • ทางทิศตะวันออกจะแบ่งเป็น 3 ช่วง โดยทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ โกดังเก็บของขนาดใหญ่ ทางทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัย 2 ชั้น มีทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและกำลังก่อสร้าง และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับร้านครัวเรือน ซึ่งเป็นตึก 4 ชั้น ขายอุปกรณ์ที่ใช้ภายในครัวเรือน
    • ทางทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินว่างเปล่าที่มีการล้อมรั้วไว้ ซึ่งมีแนวโน้มค่อนข้างสูงว่าจะมีการพัฒนาเป็นหมู่บ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆในอนาคต
    • ทางทิศใต้ ติดกับ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นค่ะ

    ทางทิศตะวันออก ของโครงการติดกับร้านครัวเรือน เป็นตึก 4 ชั้น สามารถเดินไปซื้อของใช้ภายในบ้านได้สะดวกดี

    ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

    ทางทิศตะวันตก ติดกับที่ดินว่างเปล่าที่มีการล้อมรั้วไว้

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

    • มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ~  3.7 กม.
    • โรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล ~ 4 กม.
    • Victoria Garden ~  4.5 กม.
    • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศบางบอน ~ 4.8 กม.
    • Big C Extra เพชรเกษม 2 ~  4.8 กม.
    • โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ บางแค ~  7 กม.
    • เดอะมอลล์ บางแค ~ 8.3 กม.
    • The Paseo  ~13.9 กม.

     

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    ผังโครงการศุภาลัยวิลลเพชรเกษม 69

    โครงการศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 เป็นโครงการขนาดใหญ่บนพื้นที่ 52 ไร่เศษ มีบ้านทั้งหมด 353 หลัง โดยแบ่งเป็นเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม การก่อสร้างบ้านแต่ละแบบจะคละกันไปตามพื้นที่ โดยจะสร้างบ้านก่อนแล้วค่อยขายไล่ไปเป็นเฟสๆ ซึ่งขณะนี้ Facilities หลักๆของโครงการและตัวบ้านเฟสแรกใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ

    ตัวโครงการมีทางเข้าออกหลักอยู่ที่ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือฝั่งมุ่งหน้าเข้าถนนเพชรเกษม 69 โดยด้านหน้าโครงการจะมีซุ้มทางเข้าที่มีป้อม รปภ. 1 จุด อยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยถนนทางเข้าออก เมื่อเข้าไปยังโครงการจะเจอถนนหลักกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนย่อยกว้าง 9 เมตร โดยมี Facilities ให้ที่หน้าโครงการ 1 จุด ประกอบด้วย จุดจอดจักรยาน, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น, สระว่ายน้ำ, Fitness, นิติบุคคล และห้องน้ำแยกชาย/ หญิง การจัดวางผังบ้านจะให้บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ๆอยู่ทางด้านหน้าของโครงการ ซึ่งเป็นทำเลภายในโครงการที่ค่อนข้างได้เปรียบเพราะอยู่ใกล้กับทางเข้าออกทำให้ไปต้องขับรถไกลและบ้านใหญ่เหล่านั้นจะหันหน้าเข้าสวนจึงได้วิวสวนไปเต็มๆ แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันเนื่องจากลูกบ้านทุกหลังก็ต้องมาใช้สวนนี้ด้วย ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง

    ส่วนบ้านโซนในถัดจาก Clubhouse เป็นต้นไปจะเป็นโซนที่มีการแตกซอยย่อยออกไป โดยแต่ละซอยก็จะเป็นบ้านแฝดคละกับทาวน์โฮมบ้าง บางซอยก็จะเป็นบ้านเดี่ยวบ้าง ทำให้บรรยากาศของแต่ละซอยมีความแตกต่างกันออกไป หากมองจากผังอย่างเดียวคงไม่สามารถเห็นภาพบรรยากาศภายในซอยย่อยเหล่านี้ได้ ดังนั้นการจะเลือกตำแหน่งที่ตั้งของบ้านจึงต้องไปดูสถานที่จริงจะดีที่สุดนะคะ

    ทางเข้าโครงการมีป้าย Supalai Ville ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษชัดเจน ตรงกลางเป็นซุ้มทางเข้าโครงการเรียบๆสีเทา-ขาว ตรงกลางเป็นป้อม รปภ. อยู่ระหว่างทางเข้า-ออกที่มีการกั้นด้วยรั้วไม้กระดก โดยลูกบ้านจะผ่านประตูโดยใช้ Access card ระยะใกล้ ส่วนผู้มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับ รปภ. ก่อนค่ะ

    พื้นที่สวนข้างๆซุ้มทางเข้าโครงการจะมีจุดจอดจักรยานให้ 1 จุด เผื่อใครอยากจะขี่จักรยานออกมาจากบ้านแล้วมาขึ้นรถประจำทาง หรือรถสองแถวตรงนี้ก็ได้ โดยรถสองแถวที่ผ่านโครงการจะวิ่งมาประมาณทุกๆ 15 นาที สามารถไปถึงหน้าซอยเพชรเกษม 69 ได้เลย ส่วนพี่วินและแท๊กซี่ก็มีผ่านมาเรื่อยๆค่ะเพราะถนนเส้นนี้ใช้เป็นทางลัดได้เลยมีวิ่งผ่านอยู่บ่อยๆ

    เข้ามาภายในโครงการจะเจอถนนหลักกว้าง 12 เมตร ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างบ้านเดี่ยวในอนาคต ถัดไปเป็นบ้าน สำนักงานขาย และบ้านตัวอย่าง ส่วนทางขวามือเป็นสวนสาธารณะที่ยาวไปเชื่อมต่อกับ Clubhouse ด้านหลัง เดี่ยวเราจะพาเดินไปดูกันนะคะ

    เราเดินเข้ามายังสวนสาธารณะของโครงการจะมีการปลูกสนามหญ้า ไม้พุ่ม มีเลนวิ่งให้พร้อมเก้าอี้นั่งพักเป็นจุดๆ ซึ่งตอนนี้โครงการเพิ่งเปิดตัวต้นไม้ที่เราเห็นจึงยังเป็นต้นเล็กๆอยู่ แต่ในอนาคตเมื่อต้นไม้เติบโตเต็มที่แล้วบรรยากาศจะร่มรื่นขึ้นกว่านี้อีกค่ะ

    เราเดินมาเรื่อยๆจะเจอลานโล่งๆที่มีการทำแท่นขึ้นมาวางศาลพระภูมิตรงนี้ค่ะ ด้านหลังเป็นรั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร มีการต่อเหล็กแหลมขึ้นไปเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

    ใกล้ๆกันจะเป็นสนามเด็กเล่นเล็กๆ มีเครื่องเล่นให้ 1 เครื่อง

    เดินมาอีกหน่อยจะเจอวงเวียนต้นไม้ ใครมาวิ่งจ็อกกิ้งเหนื่อยๆก็มายืนพักใต้ร่มไม้ได้ แต่ต้องรอให้ต้นไม้โตขึ้นกว่านี้หน่อยนะคะ เพราะตอนนี้ต้นไม้ยังไม่โตเต็มที่ให้ร่มเงาไม่เยอะเท่าที่ควร

    ถัดไปเป็นที่จอดรถสำหรับลูกค้าผู้มาติดต่อ ข้างๆกันเป็น Clubhouse และสระว่ายน้ำ

    โดย Clubhouse นี้จะประกอบด้วย ห้องน้ำแยกชาย/หญิง, ห้องนิติบุคคล, ห้อง Fitness และสระว่ายน้ำพร้อมจุดล้างตัว เดี๋ยวเราจะพาไปดูเป็นส่วนๆไปนะคะ

    ส่วนสระว่ายน้ำของโครงการจะเป็นระบบเกลือ ขนาดประมาณ 4 x 20 เมตร รอบๆสระว่ายน้ำน่าจะมีชุดเก้าอี้มาให้นั่งเล่นสักหน่อยนะ

    ติดกับห้องออกกำลังกายจะเป็นจุดล้างตัวที่มีฝักบัวให้ 3 จุด

    ติดกันเป็นห้อง Fitness ที่บรรยากาศภายในค่อนข้างโปร่งเพราะมีกระจกรอบ มีกระจกเงาที่ช่วยให้ห้องดูกว้างและยังใช้ส่องดูตัวเองขณะออกกำลังกายได้ โดยห้องนี้บรรจุเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่อง

    ขณะออกกำลังกายก็มองวิวสระว่ายน้ำได้แบบนี้

    ถัดมาที่ห้องนิติบุคคล ในตอนนี้ยังเป็นห้องโล่งๆที่อนาคตจะมีการวางโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์สำนักงานตามสไตล์ห้องนิติบุคคล

    ถัดจาก Clubhouse ไปก็จะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด ที่มีการแตกซอยย่อยออกไปทั้งซ้าย-ขวา

    ภายในซอยย่อยทุกซอยจะมีถนนกว้าง 9 เมตร โดยบรรยากาศในแต่ละซอยจะแตกต่างกันออกไป เช่น ซอยนี้เป็นซอยที่ประกอบด้วยบ้านแฝด และทาวน์โฮม ยูนิตพักอาศัยในซอยนี้จึงค่อนข้างหนาแน่น แต่ถ้าใครซื้อบ้านเดี่ยวบรรยากาศภายในซอยก็จะหนาแน่นน้อยกว่านี้ค่ะ

    หน้าตาของบ้านตัวอย่างและบ้านเปล่าที่เป็นบ้านแฝด

    และหน้าตาของทาวน์โฮมภายในโครงการที่มี Type นี้แบบเดียว จะเห็นว่าสีของบ้านแฝดและทาวน์โฮมใช้สีโทนขาว-เทา-น้ำตาล ไปในทิศทางเดียวกันไม่หลุด Theme

     

    สิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 4 x 20 เมตร
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
    • สวนสาธารณะ 
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
    • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
    • Key Card Access ระยะใกล้
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
    • ถนนหลักกว้าง 16 เมตร  และถนนภายในกว้าง 9 เมตร

     

     


    Product Walkthrough

    ตัวโครงการมีแบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 7 แบบ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวจำนวน 108 ยูนิต มีให้เลือก 5 แบบ, บ้านแฝดจำนวน 102 ยูนิต และทาวน์โฮมจำนวน 143 ยูนิต รวมเป็น 353 ยูนิต โดยแบบบ้านมีให้เลือกดังนี้

    • บ้านเดี่ยว

    • บ้านศุภกฤต  ที่ดิน 63.4 ตร.วาพื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • บ้านศุภฤทัย  ที่ดิน 56 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • บ้านศุภฤทธิ์  ที่ดิน 56.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • บ้านศุภดำรง(แบบใหม่) ที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
    • บ้านศุภลักขณา  ที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

  • บ้านแฝดศุภกัลยา ที่ดิน 35 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 122 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ดิน 18 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 113 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • โดยเราจะขอยกตัวอย่างมาให้ดู 2 แบบ คือ บ้านเดี่ยวแบบใหม่ศุภดำรงและบ้านศุภฤทธิ์นะคะ

    plan ศุภดำรง

    มาเริ่มกันที่บ้านศุภดำรง ที่เป็นแบบบ้านใหม่ บนที่ดินประมาณ 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดได้ประมาณ 2 คัน เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอโถงที่สามารถจัดเป็น Living area เป็นห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารได้ ข้างๆประตูทางเข้าบ้านมีจัดฟังก์ชั่นที่น่าสนใจตรงที่นำโถงบันไดไว้หน้าบ้านและมีการทำช่องหน้าต่างเต็มผนังโถงบันได ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดีมากแต่บรรยากาศทางเข้าจะไม่ได้ดูใหญ่โตเพราะต้องแบ่งพื้นที่ให้บันไดส่วนนึง ทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องน้ำรวม มีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นห้องทำงานได้ ถัดไปเป็นห้องครัวที่เชื่อมต่อกับลานซักล้าง

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอโถงกลางที่สามารถจัดฟังก์ชั่นเป็น Family area ไว้นั่งเล่น ดูทีวีแบบ Private ของครอบครัวได้ โดยโถงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำรวม ด้านหนึ่งเป็น Master Room ที่มีห้องน้ำในตัว ขนาดห้องค่อนข้างใหญ่สามารถจัดพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk -in Closet หรือเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้  อีกด้านหนึ่งเป็นห้องนอนเล็กและห้องนอนขนาดกลางที่ไม่มีห้องน้ำให้ในตัว ต้องมาใช้ห้องน้ำรวมร่วมกันที่โถงกลางค่ะ

    ตัวบ้านศุภดำรง ใช้โทนสีน้ำตาลอ่อน-ขาว และสีหินตกแต่ง รั้วหน้าบ้านเป็นรั้วเหล็กโปร่งทาสีดำสูงประมาณ 1.5 เมตร ซึ่งรั้วบ้านแบบนี้อาจจะดูไม่ค่อยมีความ privacy เท่าไหร่ แต่เค้าออกแบบมาเพื่อให้ปลูกพุ่มไม้ไว้ด้านใน เวลามองเข้าไปจะเห็นเป็นรั้วต้นไม้เขียวๆ แบบนี้ ซึ่งโครงการจะปลูกต้นไม้ไว้ให้ในบ้านเดี่ยวทุกหลังเรียบร้อย ใครอยากได้พุ่มไม้แน่นๆก็ไปหามาปลูกเพิ่มอีกได้

    ตัวบ้านมีการยกสูงขึ้นมาจากระดับพื้นถนนที่พื้นตรงประตูหน้าบ้านจึงมีความลาดเอียงเล็กน้อยเผื่อเวลาฝนตกน้ำจะได้ไหลจากพื้นบ้านลงสู่ร่องน้ำด้านล่าง ประตูทางเข้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเหล็กโปร่ง ทางซ้ายมือมีการติดตั้งโคมไฟมาให้ 1 ดวง พร้อมตู้จดหมาย กริ่งกดเรียก และตู้พักขยะ

    ตู้ใส่จดหมายดูรูปร่างหน้าตาทันสมัยดีค่ะ

    ส่วนการใช้ตู้พักขยะค่อนข้างสะดวก โดยจะมีตัวถังที่เราสามารถทิ้งถุงขยะจากในบ้านแล้วรถเก็บขยะก็จะมาเก็บจากประตูด้านนอก ทำให้เราทิ้งขยะจากในบ้านได้เลยไม่ต้องเดินออกไปทิ้งข้างนอก

    เข้ามาภายในบ้านจะเป็นลานจอดรถที่สามารถจอดได้ประมาณ 2 คัน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 × 30 เซนติเมตร พื้นด้านหน้าทำ Slope เผื่อน้ำไหลเรียบร้อย

    supalai ville

    เราจะพาไปดูรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ โครงการจะปูสนามหญ้ารอบๆบ้านไว้ให้ในลักษณะนี้ทุกหลัง รั้วหน้าบ้านเป็นรั้วโปร่งทั้งหมด ส่วนที่เป็นปูนจะมีแค่เสารั้วเท่านั้น หากใครกังวลเรื่องความ Privacy ก็สามารถหาต้นไม้มาปลูกเพิ่มจากที่โครงการจัดไว้ให้ได้ค่ะ

    supalai ville (1)

    เราเดินเลาะมาข้างบ้าน ระหว่างตัวบ้านกับรั้วกำแพงมีระยะห่างค่อนข้างเยอะ สามารถปลูกต้นไม้หรือจัดสวนสวยๆริมทางเดินได้สบายค่ะ ช่องเปิดกระจกกว้างๆด้านหน้านี้เป็นหน้าต่างโถงบันไดที่อยู่หน้าบ้าน การทำช่องเปิดกระจกเยอะแบบนี้ช่วยให้โถงบันไดโปร่งและสว่างมาก ถัดไปจะเป็นหน้าต่างของห้องนั่งเล่น และประตูตรงส่วนรับประทานอาหาร

    ส่วนของหลังบ้านจะมีหน้าต่างของห้องรับประทานอาหารและห้องครัว

    ลานซักล้างของบ้านนี้จะถูกนำมาไว้ตรงข้างบ้าน ซึ่งการจัดลานซักล้างไว้ข้างบ้านแบบนี้จะมีข้อเสียกว่าการไว้หลังบ้านตรงที่ เวลาเราจะซักผ้า ล้างจาน หรือใช้งานพื้นที่ตรงนี้จะมีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าการอยู่หลังบ้าน เพราะมุมมองจากหน้าบ้านมองเข้ามาเห็นได้ถึงลานซักล้างเลยแต่ก็แก้ได้ง่ายๆค่ะแค่ปลูกไม้พุ่มสูงมาบังไว้ก็มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแล้วค่ะ

    ส่วนข้อดีคือสำหรับบ้าน Type นี้ โครงการจะให้พื้นที่ข้างบ้านเยอะกว่าพื้นที่หลังบ้าน ดังนั้นเราจะได้พื้นที่รอบๆลานซักล้างที่กว้าง ไม่อึดอัด และอนาคตหากจะต่อเติมเพิ่มพื้นที่ครัวก็จะได้พื้นที่เยอะขึ้น

    กลับมาที่ประตูหน้าบ้านกันค่ะ ที่ประตูหน้าบ้านจะมีการยื่นชานออกมาประมาณ 1.20 ม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 ซม. ล้อมรอบด้วยทรายล้างกันลื่น ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานเปิดคู่ลูกฟักกระจก

    มือจับประตูเป็นแบบก้านโยก ลูกบิดสแตนเลส กรอบประตูและหน้าต่างของที่นี่จะเป็นแบบ uPVC ทั้งหมด

    ที่สันของประตูมีตัวล็อกบนและล่างอยู่ ซึ่งมีข้อดีตรงที่ช่วยลดการโจรกรรม ขโมยจะงัดแงะประตูได้ยากขึ้น

    มองกลับไปที่ประตูทางเข้าบ้านจะเห็นว่าด้านซ้ายมีท้องบันไดอยู่ตรงทางเข้าบ้านทำให้บรรยากาศตรงทางเข้าได้ดูใหญ่ แต่รูปด้านจากภายนอกจะดูสวยงาม ตรงข้ามกับโถงบันไดเป็นหน้าต่างกระจกบาน Fix ที่เป็นตัวช่วยให้พื้นที่บริเวณประตูทางเข้าบ้านดูกว้างขึ้น

    เปิดประตูเข้ามาในบ้านจะเจอพื้นที่ภายในขนาดใหญ่ประมาณ 8.8 x 3.6 เมตร สามารถจัดพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารได้

    มองกลับไปจะเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่มีระยะดูทีวีประมาณ  2.7 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 55″ จะเป็นระยะที่พอดีกับสายตา ข้างๆประตูทางเข้าเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดูกันภายหลัง

    กลับมาที่ห้อง living area จะเห็นว่าห้องนี้มีหน้าต่างและประตูโดยรอบช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดี ห้องนี้จึงสว่างมาก

    โดยกลอนประตูและหน้าต่างกระจกทุกบานในบ้านจะล็อกด้วยกลอน 2 ชั้น หน้าตาแบบนี้ สำหรับบ้านมาตรฐานของจริงจะมีมุ้งลวดติดตั้งให้ที่หน้าต่างทุกบานนะคะ

    น้ำนอนครัว

    ถัดไปจะเป็นพื้นที่ของห้องครัว ห้องทำงาน และห้องน้ำเดี๋ยวเราจะพาไล่ไปดูทีละส่วน

    พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมผิวด้าน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

    ภายในห้องครัวมีพื้นที่ขนาด 3.05 x 3.6 เมตร โดยบ้านจริงโครงการจะให้เป็นห้องเปล่าไม่มีเคาน์เตอร์ครัวใดๆมาให้ มองตรงไปมีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังส่วนซักล้างได้

    หน้าต่างภายในห้องครัวจะเป็นบานเลื่อนและบานเปิดที่โครงการจะติดมุ้งลวดมาให้ด้วยนะคะ

    ถัดไปเป็นห้องทำงานหรือห้องอเนกประสงค์ ขนาด 3 x 2.45 เมตร โครงการวางฟังก์ชั่นให้เป็นห้องทำงาน โดยสามารถ  Built-in ชั้นวางของ หรือตู้หนังสือ แล้วพอมีที่ให้วางโต๊ะทำงานแบบ 1 คนได้สบายๆ หรือถ้าใครจะทำเป็นห้องนอนก็ได้นะแต่ห้องจะวางเตียงได้แต่ 3.5 ฟุต ส่วนห้องน้ำไม่ได้มีห้องน้ำในตัวจะต้องไปใช้ห้องน้ำกลางที่อยู่ติดกันเลยค่ะ

    ส่วนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวของ Cotto ตรงผนังติดกระจกเงาให้

    ข้างๆกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Cotto รุ่นประหยัดน้ำพร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ Cotto

    สายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ Cotto

    ฝักบัวสแตนเลสขนาดพอดีมือ

    มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 ดวง พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ช่วยระบายอากาศและช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดีค่ะ หน้าต่างห้องน้ำก็ติดตั้งมุ้งลวดมาให้ด้วยนะ

    ถัดไปเป็นโถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ที่มีห้องเก็บของใต้บันไดอยู่ข้างๆ ด้านในมีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ติดตั้งมาให้เรียบร้อย เผื่อต้องเปิดใช้ห้องในตอนกลางคืน

    ตัวบันไดมีลักษณะ U Shape โครงสร้างบันไดเป็นก่ออิฐฉาบปูน บันไดเป็นเนื้อไม้แผ่นสำเร็จสีมะฮอกกานี มีก่อผนังกันตกและราวจับเป็นไม้สีเดียวกับลูกตั้งและลูกนอน ส่วนพื้นห้องชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. สีแตกต่างกับพื้นบันไดเยอะเลยค่ะ

    supalai ville 25

    มองกลับไปที่โถงบันไดจะมีความโปร่งมาก เนื่องจากที่ผนังห้องเป็นกระจกเต็มบาน เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นเป็นโถงกระจกแบบภาพขวามือ โดยหน้าต่างนี้จะมีทั้งหน้าต่างกระจกบาน Fix ช่วยให้แสงสว่างเข้าโถงบันได และหน้าต่างบานเปิดช่วยในการระบายอากาศ ทำให้โถงบันไดนี้มีอากาศถ่ายเทดีค่ะ ส่วนกระจกโครงการเลือกใช้กระจกใสเขียวตัดแสงเบอร์ 5 ( SMG GREEN)

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นห้องโถงที่สามารถวางโซฟาเป็นมุมนั่งเล่นของครอบครัว หรือจะจัดเป็นฟังก์ชั่นอื่นได้ตามความต้องการ

    โดยที่ผนังห้องโถงเราสามารถติดตั้งทีวีติดผนังแบบบ้านตัวอย่างได้ แต่ระยะดูทีวีค่อนข้างกว้างประมาณ 3.6 เมตร ควรเลือกจอใหญ่ขนาด 60″  ขึ้นไปจะเป็นขนาดที่พอดีค่ะ สำหรับใครที่อยากวางโต๊ะวางทีวีก็แนะนำให้วางโต๊ะเล็กๆ ไม่ควรวางเต็มพื้นที่ผนังเพราะทางซ้ายมือเป็นประตูของห้องนอนใหญ่ หากเราวางโต๊ะเต็มผนังจะเป็นการเบียดทางเข้าห้องนอนจนเกินไป

    ห้องโถงนี้จะเป็นโถงกลางที่เชื่อมต่อพื้นที่ห้องในชั้น 2 ทั้งหมด เดี๋ยวเราจะพาไปไล่ดูตั้งแต่ ห้องนอน 2 >ห้องนอน 3> ห้องน้ำ และห้องนอนใหญ่ นะคะ

    ห้องนอน 2  มีขนาด 3 x 3.57 เมตร เป็นห้องขนาดเล็กที่สุดในบรรดาห้องทั้งหมดในบ้าน Type นี้ ด้วยขนาดของห้องเหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต หรือใครชอบวางเตียงใหญ่ขึ้นมาหน่อยขนาด 5 ฟุต ก็ยังพอไหว แต่จะเหลือพื้นที่รอบข้างเตียงน้อยไปหน่อย โดยในห้องตัวอย่างโครงการวางเตียงขนาด 3.5  ฟุตมาให้ดูกัน จะเห็นว่ารอบเตียงเหลือพื้นที่วางของได้ค่อนข้างเยอะดี แต่หากใครไม่อยากทำเป็นห้องนอนก็สามารถดัดแปลงห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องดูหนังหรือห้องอื่นๆได้ตามต้องการ

    หน้าต่างภายในห้องนี้จะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบ UPVC สีขาว ตัวล็อค 2 ชั้น คือตัวล็อคที่บานประตูและตัวล็อคก้นหอยตรงกลาง โดยโครงการจะติดตั้งมุ้งลวดมาให้แบบนี้ทุกบานนะคะ

    พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือแบบนี้ได้ค่ะ

    ติดกันเป็นห้องนอน 3 ขนาด  3 x 3.78 เมตร ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอน 2 เล็กน้อย สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ

    พื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่เยอะมาก เหมาะกับการติดตั้งทีวีติดผนังจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้มากกว่าการวางโต๊ะวางทีวี ที่มุมห้องสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดประมาณ 1 เมตร ได้ค่ะ

    ถัดมาเป็นห้องน้ำรวมชั้น 2 ขนาด  1.4 x 2.5 เมตร ที่มีการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย แต่ไม่มีการกั้นฉากกั้นให้นะคะต้องหามาติดเอง

    พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาขนาด 30 x 30 เซนติเมตร มีการลดระดับเล็กน้อยและมีการปิดคิ้วรอยต่อเรียบร้อย

    อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวของ Cotto มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ยื่นออกมาเป็น Low wall ตรงจุดติดตั้งโถสุขภัณฑ์ ให้สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ โถสุขภัณฑ์ที่ให้มาเป็นของ Cotto พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ค่ะ

    ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ ขนาด 1.4 x 0.8 เมตร ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้แต่จะมีการก่อผนังทึบมาแยกพื้นที่ให้ส่วนหนึ่ง พื้นส่วนอาบน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยกันน้ำไหลจากส่วนเปียกมายังส่วนแห้ง ทางที่ดีแนะนำให้หาฉากกั้นหรือผ้าม่านกันน้ำมาติดตั้งนะคะ เวลาเราอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นไปเปียกส่วนอื่นๆ

    ที่ผนังส่วนอาบน้ำมีการติดตั้งชุดฝักบัวมาให้ แต่ไม่มีที่วางสบู่ต้องหามาติดเอง และมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นแท่นนั่งอาบน้ำ เผื่อผู้สูงอายุสามารถนั่งอาบน้ำได้

    พื้นที่ปลายเตียงมีขนาดประมาณ 2.6 x 3.6 เมตร สามารถกั้นห้องด้านหลังเป็น Walk-in closet แล้ววางโต๊ะวางทีวีแบบนี้ได้

    โดยพื้นที่ตรงนี้จะมีหน้าต่างทรงกลมบาน Fix เหมาะกับการวางโต๊ะเครื่องแป้งเผื่อสาวๆจะได้ใช้แสงธรรมชาติขณะแต่งหน้าได้ค่ะ

    พื้นที่วางเตียงนอนค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบายๆ โดยยังเหลือพื้นที่หัวเตียงทั้งสองด้านไว้วางของได้อีก ทางซ้ายมือมีหน้าต่างที่ข้างเตียงและมีประตูที่สามารถออกไปยังระเบียงได้ โดยประตูเป็นกระจกบานเลื่อนคู่ขนาดใหญ่

    พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีครีม 30 x 30 เซนติเมตร มีการลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลเข้าห้อง พื้นที่ระเบียงมีขนาด  0.65 x 3.6 เมตร จะเห็นว่าตัวระเบียงค่อนข้างแคบไม่เหมาะกับการออกมานั่งเล่นรับลม เนื่องจากพื้นที่คงไม่เพียงพอ ซึ่งประโยชน์ที่แท้จริงของการออกแบบพื้นที่แบบนี้คือเรื่องวิวที่ได้จากห้องนอน เพราะคนที่อยู่ในห้องจะได้ช่องเปิดกว้าง ในขณะเดียวกันก็มีความปลอดภัยเพราะมีระเบียงยื่นออกไปพร้อมราวระเบียงที่ช่วยกันตกได้ด้วย โดยโครงการจะติดตั้งราวระเบียงเป็นรั้วเหล็กโปร่งเพื่อให้คนในห้องสามารถมองออกไปเห็นวิวได้กว้างๆ โดยพื้นที่ระเบียงที่ว่างๆนี้สามารถวางต้นไม้จัดเป็นมุมสวนเล็กๆ สร้างมุมมองสีเขียวจากห้องนอนได้

    การระบายน้ำจากระเบียงจะมีการเจาะรูไว้ให้ตรงผนังระเบียงด้านล่าง

    โดยข้างๆระเบียงห้องก็มีพื้นปูนของหลังคาลานจอดรถยื่นออกมารับน้ำที่ลงมาจากระเบียง เพื่อระบายลงไปอีกที

    จากระเบียงมองเข้าไปภายในห้องนอนจะเจอประตูทางเข้าห้อง และข้างๆกันเป็นประตูห้องน้ำ

    ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่มีขนาด  1.4 x 2.5 เมตร ซึ่งมีขนาดเท่ากับห้องน้ำรวมที่โถงชั้น 2 และมีจัดพื้นที่เหมือนกันเป๊ะๆ โดยแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย แต่ไม่มีการกั้นฉากกั้นให้ต้องหามาติดเอง โดยมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นแท่นนั่งอาบน้ำ เผื่อผู้สูงอายุสามารถนั่งอาบน้ำได้ค่ะ

    plan ศุภฤทธิ์

    ถัดมาเป็นบ้านศุภฤทธิ์ ที่ดินประมาณ 56.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยบ้าน Type นี้จะมีพื้นที่มากกว่าบ้านแบบแรก และมีห้องนอนเพิ่มมาให้ที่ชั้น 1 ซึ่งห้องนี้ใหญ่กว่าแบบแรกพอสมควรเหมาะกับครอบครัวใหญ่ที่มีผู้สูงอายุค่ะ

    การจัดวางผังบ้านยังคงคล้ายๆกับแบบแรกแต่ตำแหน่งบันไดถูกย้ายไปอยู่ตรงกลางบ้านแล้วทำให้พื้นที่ตรงทางเข้าบ้านจะกว้างขึ้น ส่วนการวางฟังก์ชันต่างๆภายในบ้านยังคล้ายๆกับแบบแรกจะต่างกันตรงที่พื้นที่แต่ละส่วนจะมีขนาดใหญ่ขึ้นห้องนอน 2 และ 3 จะมีขนาดที่ไม่เท่ากันแล้ว ห้องนอน 2 จะใหญ่กว่าเหมาะสำหรับเด็กวัยรุ่นที่โตแล้ว แต่ห้องน้ำยังคงต้องใช้ร่วมกันอยู่นะคะ

    หน้าตาของบ้านแบบศุภฤทธิ์ ใช้โทนสีเทาอ่อน-ขาว และวัสดุแทนไม้ตกแต่งที่ Facade ชั้น 2 รั้วหน้าบ้านมาตรฐานของจริงจะเป็นรั้วเหล็กโปร่งทาสีดำสูงประมาณ 1.5 เมตร เหมือนบ้านแบบแรก มีการปูสนามหญ้าและปลูกไม้พุ่มให้ทุกหลังค่ะ

    เข้ามาภายในบ้านจะเป็นลานจอดรถที่สามารถจอดได้ประมาณ 2 คัน พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 × 30 เซนติเมตร โรยกรวดหินสีขาวรอบๆ มองตรงไปจะมีประตูห้องเก็บของใต้บันได สามารถใช้เก็บพวกไม้กวาด ไม้ถูพื้น หรืออุปกรณ์ล้างรถได้ ด้านในมีหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ไว้เผื่อใช้ห้องตอนกลางคืน

    เราจะพาไปเดินดูรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ โครงการจะปูสนามหญ้ารอบๆบ้านไว้ให้ รั้วหน้าบ้านเป็นรั้วโปร่งทั้งหมดทั้งหมดเหมือนบ้านแบบแรก ที่ประตูหน้าบ้านจะมีชานยื่นออกมาประมาณ  1.2 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ล้อมรอบด้วยทรายล้างและมีการก่อปูนขึ้นมาทำเป็นม้านั่งให้

    พื้นที่ข้างบ้านกว้างประมาณ 2  เมตร ที่ตัวบ้านฝั่งนี้มีหน้าต่างบานเลื่อนของห้องนั่งเล่น ประตูตรงส่วนรับประทานอาหารและหน้าต่างด้านหลังเป็นของห้องครัว จะเห็นว่าหน้าต่างทุกบานเป็นหน้าต่างกระจกทั้งหมด หากเราจัดสวนสวยๆตรงนี้ก็จะเพิ่มวิวที่ดีเมื่อมองออกมาจากบ้านได้ค่ะ

    พื้นที่หลังบ้านจะมีลานซักล้างที่สามารถออกมาได้จากห้องครัว โดยพื้นลานซักล้างปูด้วยกระเบื้องเซรามิค และมีการทำรองน้ำไหลไว้ให้เรียบร้อย

    เดินวนมาที่ข้างบ้านอีกฝั่ง ตรงนี้จะมีหน้าต่างของห้องนอน 4 หรือห้องนอนผู้สูงอายุ ถัดไปเป็นหน้าต่างเล็กๆของห้องน้ำ และด้านหน้าเป็นพื้นที่ลานจอดรถค่ะ

    เรากลับมาที่ประตูหน้าบ้านที่เป็นประตูบานเลื่อนคู่ กรอบ UPVC สีขาว ที่ผนังด้านบนทั้งสองข้างของประตูมีการติดตั้งโคมไฟไว้ให้

    ตัวล็อคประตูเป็นแบบ 2 ชั้น คือตัวล็อคที่บานประตูและตัวล็อคก้นหอยตรงกลางเหมือนประตูหน้าต่างของบ้านแบบแรก

    พื้นบ้านมีการยกระดับขึ้นจากชานหน้าบ้านประมาณ 15 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร

    เข้ามาภายในบ้านจะเป็น Living area ขนาดประมาณ 9.8 x 3.52  เมตร สามารถจัดฟังก์ชั่นเป็นห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารได้ โดยห้องนี้จะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องครัว ห้องนอนใหญ่ และห้องน้ำที่อยู่ด้านหลัง

    เมื่อมองกลับไปที่ประตูทางเข้าบ้าน จะเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่สามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโซฟาแยกอีก 1 ตัวด้าน ส่วนที่ผนังอีกด้านหนึ่งสามารถ Built-in ตู้วางทีวีได้โดยหากจัดพื้นที่แบบนี้จะมีระยะดูทีวีประมาณ 2.7 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 55″ – 60″  จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ

    supalai ville 39

    ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำรวม และห้องเก็บของใต้บันได เดี๋ยวเราจะพาไปดูทีละส่วนนะคะ

    ประตูห้องครัวเป็นประตูบานเลื่อนคู่ กรอบ UPVC สีขาว

    พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 เซนติเมตร แบบด้าน ที่พื้นมีธรณีฉากกั้นบานเลื่อนยื่นขึ้นมาเล็กน้อย เวลาเข้า-ออกระวังสะดุดนะคะ

    เข้ามาภายในห้องครัวขนาด 2.98 x 3.50 เมตร โครงการจะให้เป็นห้องเปล่าไม่มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ หน้าต่างภายในห้องครัวเป็นบานเลื่อนที่โครงการจะติดมุ้งลวดมาให้ด้วยทุกบาน มองตรงไปมีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังส่วนซักล้างหลังบ้านได้

    ถัดไปเป็นห้องนอนชั้นล่างที่เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ โดยห้องนี้มีขนาด 3.50 x 3.55 เมตร เหมาะกับการวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต โดยในบ้านตัวอย่างวางเตียงขนาด 5  ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองข้างให้วางโต๊ะหัวเตียงสบายๆ หน้าต่างห้องนี้มีทั้งหน้าต่างบานเลื่อนคู่บานใหญ่ และหน้าต่างบานเล็กตรงหัวเตียงที่เป็นบานเปิด ช่วยให้เปิดระบายอากาศได้และแสงธรรมชาติเข้าดี

    พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ เราสามารถ Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าแบบในบ้านตัวอย่าง หรือจะ Built-in โต๊ะวางทีวีก็ได้สำหรับใครที่ชอบดูทีวีในห้อง

    ถัดมาเป็นห้องน้ำรูปตัว L ที่มีการแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งค่อนข้างดี โดยพื้นที่เฉพาะส่วนอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มีขนาด 2.7 x 1.4 เมตร

    พื้นห้องน้ำมีการลดระดับเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 30 เซนติเมตร

    ที่ผนังอ่างล้างหน้ามีการติดตั้งกระจกเงาบานเปลือยมาให้ ตัวอ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวของ Cotto มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ยื่นออกมาเป็น Low wall ตรงจุดติดตั้งโถสุขภัณฑ์ ให้สามารถวางของเล็กๆน้อยๆได้ โถสุขภัณฑ์ที่ให้มาเป็นของ Cotto รุ่นประหยัดน้ำ พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ค่ะ

    ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.9 x 1 เมตร ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ พื้นส่วนอาบน้ำมีการลดระดับเล็กน้อยกันน้ำไหลจากส่วนเปียกมายังส่วนแห้ง ที่ผนังติดตั้งชุดฝักบัวมาให้ แต่ไม่มีที่วางสบู่ต้องหามาติดเอง และมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นแท่นนั่งอาบน้ำให้เผื่อผู้สูงอายุ

    ติดกับห้องน้ำเป็นห้องเก็บของใต้บันได ภายในห้องติดตั้งหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์มาให้เรียบร้อย

    ถัดไปเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ตัวบันไดมีลักษณะ U Shape มีชานพัก 2 จุด โครงสร้างบันไดเป็นก่ออิฐฉาบปูน ลูกตั้งและลูกนอนเป็นเนื้อไม้แผ่นสำเร็จสีมะฮอกกานี มีก่อผนังกันตกและราวจับเป็นไม้สีเดียวกับลูกตั้งและลูกนอน ส่วนพื้นห้องชั้น 2 จะปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. สีใกล้เคียงกว่าพื้นบันไดมากกว่าบ้านแบบที่แล้ว

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 ของบ้านจะเจอกับโถงกลางที่สามารถจัดเป็นพื้นที่ Living area นั่งเล่นได้ โดยโถงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอนเล็ก 2 ห้องและห้องน้ำรวม รวมทั้งห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว โดยเราจะพาไปไล่ดูตั้งแต่ ห้องนอน 2 >  ห้องน้ำ >ห้องนอน 3> Living area และห้องนอนใหญ่ตามลำดับนะคะ

    เข้ามาในห้องนอน 2 ขนาดประมาณ 2.6 x 3.77 เมตร โดยห้องนี้เป็นห้องนอนที่เล็กที่สุดของบ้าน เหมาะกับทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเด็กเล็ก

    โดยโครงการวางเตียงขนาด 3 ฟุตมาให้ดูเป็นไอเดีย พร้อมตกแต่งห้องสไตล์เด็กเล็กน่ารักดี

    พื้นที่ปลายเตียงสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดประมาณ 1 เมตรได้ โดยพื้นที่ข้างตู้เราสามารถทำเป็นชั้นวางของเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้อีก ซึ่งตู้นี้โครงการทำมาให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆไม่ได้ให้นะคะ

    ถัดไปเป็นห้องน้ำรวมชั้น 2 ขนาด  1.4 x 3.2 เมตร ที่มีการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย แต่ไม่มีการกั้นฉากกั้นให้ต้องหามาติดเอง โดยมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นแท่นนั่งอาบน้ำให้ การใช้งานหลักของห้องนี้คือรองรับผู้ที่อยู่ห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง และเป็นห้องน้ำรวมสำหรับสมาชิกในบ้านที่มาใช้งานโถงชั้น 2 สุขภัณฑ์ในห้องน้ำนี้เป็นของ Cotto ทั้งหมด

    ติดกันเป็นห้องนอน 3 ขนาดประมาณ 3.56 x 3.77 เมตร ห้องนี้มีขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตสบายๆ

    หากจัดห้องแบบบ้านตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างเยอะ เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะวางโต๊ะเก้าอี้ทำงานก็ยังมีพื้นที่เพียงพอ

    ถัดไปเป็นโถงกลางชั้น 2 เราสามารถจัดพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่นของครอบครัวได้  โดยสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมติดตั้งทีวี หากจัดพื้นที่แบบนี้จะมีระยะดูทีวีประมาณ 2.4 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 52″ จะเป็นระยะที่พอดีกับสายตาค่ะ

    supalai ville 28

    หากนั่งอยู่ที่โซฟามองกลับไปที่โถงบันไดจะได้มุมมองแบบนี้

    มาถึงห้องสุดท้ายคือห้องนอนใหญ่ ขนาดประมาณ  3.5 x 7 เมตร โดยโครงการจัดฟังก์ชั่นให้ทางขวามือเป็น Walk-in Closet ส่วนทางซ้ายมือเป็นที่วางเตียงนอนที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียง

    เฉพาะพื้นที่นอนมีขนาด  4.1 x 3.5 เมตร สามารถวางเตียงนอนขนาด 6 ฟุต แบบบ้านตัวอย่างได้สบายๆ และพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองด้านยังสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ที่ผนังทางขวามือเป็นประตูกระจกบานเลื่อนที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงได้

    ระเบียงห้องนี้เป็นระเบียงทรงโค้ง พื้นมีการลดระดับต่ำจากพื้นห้องนอนเล็กน้อยกันน้ำเข้าห้อง

    ระเบียงเป็นปูนทึบและมีราวสแตนเลสด้านบน สูงประมาณ 1 เมตร ส่วนราวระเบียงด้านข้างเป็นทึบทาสีขาว มีการเจาะช่องระบายให้น้ำไหลเหมือนบ้านแบบแรก

    ถัดไปเป็นพื้นที่ปลายเตียงขนาดประมาณ 2.9 x 3.5 เมตร ซึ่งเราสามารถกั้นห้องทำ Walk-in closet แบบห้องตัวอย่างและวางทีวีแบบนี้ได้

    โดย Walk-in closet เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและวางโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้ มองตรงไปที่ผนังจะมีหน้าต่างบานเปิดขนาดใหญ่ให้  1 บาน ซึ่งหน้าต่างตรงนี้โครงการจะมีมุ้งลวดติดมาให้เหมือนกับหน้าต่างบานอื่นๆ

    ฝั่งตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ขนาดประมาณ  1.43 x 3.2 เมตร มีการจัดฟังก์ชั่นเหมือนกับห้องน้ำรวมชั้น 2 เป๊ะๆ เพียงแต่เพิ่มเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่เชื่อมต่อไปเป็น Low wall ที่โถสุขภัณฑ์ให้ โดยมีการแบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เรียบร้อย แต่ไม่มีการกั้นฉากกั้นให้ต้องหามาติดเอง โดยมีการก่อปูนขึ้นมาเป็นแท่นนั่งอาบน้ำให้เหมือนกับส่วนอาบน้ำห้องอื่นๆค่ะ

    ปลั๊กและสวิตซ์ไฟให้ของ schindler

    supalai ville 2

    เก็บภาพหน้าตาบ้านแบบอื่นๆมาให้ดูกันนะคะ เริ่มที่บ้านเดี่ยว 2 ชั้น “ศุภกฤต” บนที่ดิน 63.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น มีที่จอดรถให้ 2 คัน เป็นแบบบ้านเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ

    supalai ville 1

    ถัดมาเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น “ศุภฤทัย” บนที่ดิน 56 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ส่วนพักผ่อน และมีที่จอดรถให้  2 คัน
    supalai ville 3

    สุดท้ายเป็นแบบบ้านเดี่ยวขนาดเล็กที่สุดในโครงการคือบ้าน “ศุภลักขณา” บนที่ดิน 50 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และมีที่จอดรถให้ 2 คันค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 28 July, 2016

    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น “ศุภดำรง” เนื้อที่ 53.8 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. ราคา 5.89 ล้านบาท หรือ 35,269 บาท/ตร.ม.
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น “ศุภฤทธิ์” เนื้อที่ 56.2 ตร.วา.  พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ราคา 6.1 ล้านบาท หรือ 34,857 บาท/ตร.ม.
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น “ศุภฤทัย” เนื้อที่ 56.4 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. ราคา 6.6 ล้านบาท หรือ 33,502 บาท/ตร.ม.
    • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น “ศุภกฤต”  เนื้อที่ 63.4 ตร.วา. พื้นที่ใช้สอย 213 ตร.ม. ราคา 7.22 ล้านบาท หรือ 33,896 บาท/ตร.ม.

    • จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 70,000  บาท
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 54,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี

    • บ้านเดี่ยว 1,100 บาท /ยูนิต/เดือน หรือประมาณ 22 บาท/ตร.วา/เดือน
    • บ้านแฝด 950 บาท/ยูนิต/เดือน หรือประมาณ 27 บาท/ตร.วา/เดือน

    • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลของโครงการ ศุภาลัย เพชรเกษม 69 อยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือช่วงกลางๆซอย ซึ่งเป็นทำเลหมู่บ้านที่อยู่ในซอยย่อยอีกที ถึงแม้ทำเลนี้จะเป็นทำเลที่เป็นรองจากซอย เพชรเกษม 69 แต่ยังถือว่าเป็นทำเลที่ดีอยู่เพราะถนนเลียบคลองที่ใช้เป็นทางลัดทะลุจากบางบอน 3 ไปยังบางบอน 5 และไปสุดที่ถนนพุทธสาครที่เป็นถนนเชื่อมกับพุทธมณฑลสาย 4 ได้ คนแถวนี้เลยใช้เป็นทางลัดกันเยอะเส้นนี้เลยไม่เปลี่ยวและมีความคึกคักขึ้นมาพอสมควร

    ในย่านบางบอน 3 กับ 5 ยังเป็นแหล่งชุมชนอาศัยอยู่เยอะมีหมู่บ้านขึ้นมากมายตั้งแต่เก่ายันใหม่ ทำให้ชุมชนแถวนี้มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง แต่แหล่งของกินจากโครงการจะต้องเป็นระยะขับรถหรือขี่มอเตอร์ไซด์ไปนะคะ เพราะถ้าเป็นระยะเดินนี่ไม่มีของกินในเลยนอกจาก 7/11 ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร ความอุดมสมบูรณ์หลักๆต้องไปพึ่งพาถนนเพชรเกษม 69 (บางบอน 3) และเพชรเกษม 81 (บางบอน 5) ซึ่งบนถนนสองเส้นนี้จะมีร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด และร้านสะดวกซื้อให้เลือกเพียบ หรือไม่ก็ออกไป Community mall ใกล้ที่สุดอย่าง Victoria Gardens บนถนนเพชรเกษม ซึ่งบนถนนเส้นนี้ก็มีห้างสรรพสินค้าทั้ง Big C, Lotus, The Mall บางแค หรือจะไปบนถนนเอกชัย ก็มีร้านอาหารราคาย่อมเยาหลายร้าน

    โครงการการเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกเพราะสามรถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นอื่นๆได้เยอะมาก ส่วนถ้าจะใช้ทางด่วนก็วิ่งไปถนนเอกชัยออกไปพระราม 2 หรือจะไปออกทางบางบอน 5 ทะลุพระราม 2 ทีเดียวก็ได้แต่จะอ้อมนิดหน่อย จุดที่ต้องทำใจหน่อยคือปัญหารถติดบนถนนเพชรเกษมในชั่วโมงเร่งด่วนเพราะมีคนอยู่กันเยอะขึ้น ซึ่งข้อดีของโครงการคืออยู่ในซอยย่อยจึงมีทางลัดเลาะช่วยเลี่ยงรถติดได้ ทำให้ช่วยร่นเวลาการเดินทางไปได้เยอะ ส่วนการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ จะมีรถสองแถวผ่านหน้าโครงการ ซึ่งสามารถไปต่อรถเมล์บนถนนเพชรเกษม 69(สาย 7 คลองขวาง-หัวลำโพง) และ เพชรเกษม 81(สาย 80 และ 80ก) ได้ ส่วนรถไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ใช้ได้แต่จะไกลจากโครงการหน่อย คือรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สถานีหลักสอง(ยังไม่เปิดให้บริการ) และรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีบางหว้า

    ความปลอดภัยของโครงการให้มาตามมาตรฐานทั่วไป คือมี CCTV,  รั้วกั้นไม้กระดก,  เข้าออกโดยการสแกนคีย์การ์ด และมี รปภ.ดูแล 24 ชั่วโมง ภายในบ้านไม่มีสัญญาณกันขโมย แต่จะติดตั้งกลอนประตู 2 ชั้น คือเป็นตัวล็อคธรรมดาและตัวล็อคก้นหอย ส่วนที่บานประตูบ้าน Type ศุภดำรงจะพิเศษหน่อยตรงที่ประตูหน้าบ้านมีตัวล็อคแบบซ่อนที่ขอบประตูป้องกันการโจรกรรมได้ส่วนหนึ่ง

    วัสดุของโครงการให้มาตามมาตรฐานสมกับราคา โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้ฉนวนกันความร้อนหนา 3 นิ้วบนฝ้าเพดาน  ผนังก่ออิฐมวลเบาข้อดีคือไม่อมความร้อน ชายคาบ้านเป็นไวนิลระบายอากาศช่วยลดความร้อน ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง พื้นที่ชั้นล่างส่วนใหญ่จะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ไซส์ 60 x 60 เซนติเมตร  ส่วนชั้นบนจะได้พื้นไม้ลามิเนต วงกบหน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็น UPVC สีขาวและบานกระจกใสเขียวตัดแสง ชุดสุขภัณฑ์ของ COTTO หรือเทียบเท่า แต่จะไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมา ครัวไม่ได้เลยต้องทำเองค่ะ จุดเด่นของวัสดุคือการให้ของที่พิเศษกว่าที่อื่นเล็กน้อย คือมีการติดมุ้งลวดมาให้ มีวัสดุในไลน์อนุรักษณ์พลังงาน เช่น โถสุขภัณฑ์ Cotto รุ่นประหยัดน้ำ,  มีการติดตั้งระบบสวิตซ์ปิด-เปิด อัตโนมัติควบคุมด้วยแสงอาทิตย์สำหรับดวงโคมประตูรั้วเพื่อลดการใช้ไฟโดยไม่จำเป็น เป็นต้น

    การออกแบบโครงการมีการแบ่งพื้นที่ให้บ้านเดี่ยวครอบคลุมโซนด้านหน้าที่ติดกับสวน ส่วนพื้นที่ตั้งแต่ Clubhouse เป็นต้นไปจะเป็นซอยย่อยที่แตกไปจากซอยหลักอีกที ซึ่งบรรยากาศในแต่ละซอยจะไม่เหมือนกันแล้วแต่การจัดวางบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมว่าแต่ละซอยจะจัดเรียงอย่างไร จุดที่แปลกหน่อยคือ Clubhouse ที่มีหน้าตาแตกต่างจากตัวบ้านไปแต่การใช้งานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะซึ่งเรื่องความสวยงามก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลค่ะ ถ้าใครชอบดีไซน์แบบนี้อยู่แล้วก็ถือว่าไม่มีปัญหา เพราะโครงการจัด Facility มาให้โอเคกับ 353 ยูนิต

    ส่วนตัวบ้านเราจะขอเน้นไปที่บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ บนที่ดิน 50 ตารางวาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 150 -213 ตารางเมตร การออกแบบบ้านมีคอนเซปต์คือการอนุรักษ์พลังงานโดยการวางตำแหน่งให้ห้องทุกห้องมีช่องเปิดกว้างและทั่วถึงเพื่อให้ห้องสามารถรับแสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทดี เป็นการลดพลังงานการลดการใช้ไฟฟ้าไปในตัว ห้องครัวของบ้านทุกหลังเป็นครัวปิด ซึ่งมีข้อดีที่สามารถประกอบครัวหนักได้โดยที่กลิ่นไม่ลอยเข้ามารบกวนส่วนต่างๆในบ้าน ในบรรดาแบบบ้านทั้ง 5 แบบ จะมีแบบบ้านศุภดำรงที่โดดเด่นกว่าแบบบ้านทั่วไป คือมีโถงบันไดหน้าบ้าน เหมาะกับคนที่ชอบบ้านโถงบันไดโปร่งๆแสงธรรมชาติเข้าดีค่ะ

    สาธารณูปโภคหลักๆจะเป็นสวนสาธารณะ 1 จุด โดยมีที่จอดจักรยานให้ที่ด้านหน้าโครงการ และมีสนามเด็กเล่นเล็กๆที่มีเครื่องเล่นให้ 1 เครื่อง มี Clubhouse ที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ห้องนิติบุคคล ห้อง Fitness และห้องน้ำแยกชาย-หญิง โดยค่าส่วนกลางบ้านเดี่ยวจะอยู่ที่ 1,100 บาท/เดือน คิดเป็นตารางวาละ 20 กว่าบาทถือว่าราคาสมเหตุสมผลดีค่ะ

     

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 5.89 – 7.22 ล้านบาท, 28 July,2016 (เฉพาะบ้านเดี่ยว)

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่บนถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ เงียบสงบ มีทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดเยอะ ไม่มีของกินในระยะใกล้ต้องไปที่เส้นเพชรเกษม 69 หรือ เพชรเกษม 81
    • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – แบบสวย ลงตัว เน้นการประหยัดพลังงานและหน้าต่างในบ้านเยอะ อากาศถ่ายเทได้ดี
    • วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานตามราคา 
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.25/10 – มีที่สวนสาธารณะหน้าโครงการจุดเดียว และตามต้นไม้ที่ปลูกให้บ้านแต่ละหลัง ถนนโครงการกว้างดี ทำให้สภาพโครงการไม่แออัด
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – สวนสาธารณะ ที่จอดจักรยาน ฟิตเนส สระว่ายน้ำ
    • 7.54 / 10.00

    BOTTOM LINE

    ศุภาลัย วิลล์ เพชรเกษม 69 เหมาะกับคนที่มองหาบ้านในย่านเพชรเกษม ไม่ชอบความวุ่นวายเลยอยากจะขยับจากถนนเส้นหลักเข้ามาหาที่สงบ ในราคาที่จับต้องได้ ชอบบ้านพื้นที่เยอะ ฟังก์ชั่นครบ ชอบส่วนกลางครบแต่ไม่เน้นใช้งาน เดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก แต่หวังใช้รถไฟฟ้าในอนาคตและรถโดยสารสาธารณะอยู่บ้าง มีงบประมาณ 5.89 – 7.22 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ  39,000 – 48,000 บาท

    ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )