รีวิวฉบับที่ 1731 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชม MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ คอนโด Low Rise ใจกลางอนุสาวรีย์ชัยฯ ติดถนนใหญ่ราชวิถี ใกล้ทางด่วนและอยู่ในระยะเดินไป BTS ประมาณ 400 เมตร โครงการนี้มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด ลาน BBQ และเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วยค่ะ ห้องพักมีให้เลือกทั้ง 1-2 Bedroom ตัวโครงการจะเป็นยังไงเราไปชมกันเลยค่ะ

Fact @ 6 November 2018 

  • MAESTRO 07 VICTORY MONUMENT (มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ)
  • บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน : เขตราชเทวี
  • คอนโด Low Rise 1 อาคาร สูง 8 ชั้น +2 ชั้นใต้ดิน จำนวน 171 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 67 คัน หรือคิดเป็น 40%
  • ที่ดินประมาณ 1-0-41.8 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง :  ปี2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี2561
  • 1 Bedroom 27 – 29.34 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 45.51 – 68.37 ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 02-116-1111

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.763901, 100.540098

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลที่ตั้งโครงการ MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ  อยู่ติดถนนใหญ่คือถนนราชวิถี ใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งถือเป็นจุดตัดของถนนหลักสายเส้นทั้งถนนพญาไท ถนนพหลโยธิน และถนนดินแดง จากโครงการถ้ามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกจะเจอกับสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งเป็นทางแยกที่ใช้เส้นทางไปยังถนนราชปรารถที่ใช้ไปยังประตูน้ำ ถนนดินแดงไปยังพระราม 9 และถนนราชวิธีไปทางตะวันตกไปสะพานซังฮี้ได้ค่ะ นอกจากเส้นทางหลักแล้วยังสามารถใช้เส้นทางลัดได้อีกด้วย ข้างๆโครงการจะอยู่ติดกับซอยราชวิถี7 ซึ่งเป็นซอยเดินรถทางเดียวที่เชื่อมต่อกับซอยรางน้ำได้ โดยซอยราชวิถีฝั่งเลขคี่ส่วนใหญ่จะเป็นถนนที่เดินรถทางเดียวหรือ Oneway ค่ะ

#การเดินทางด้วยรถยนต์ ใครอยู่แถวนี้ก็มีความได้เปรียบพอตัว เนื่องจากอยู่ใกล้อนุสาวรีย์ฯ ทำให้มีทางให้เลือกใช้หลายทาง ซึ่งแต่ละทางก็เป็นถนนเส้นใหญ่ๆ ไปแตกเป็นเส้นเล็กๆอีกหลายเส้น เริ่มจาก

  1. พหลโยธิน (เหนือ) มุ่งหน้าสะพานควาย – จตุจักร – ห้าแยกลาดพร้าว
  2. ราชวิถี (ตะวันตก) ไปถนนพระราม 6, ถนนดุสิต และ ตรงไปขึ้นสะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้)
  3. พญาไท (ใต้) มุ่งหน้าไปพญาไท – ราชเทวี – สยาม
  4. ราชวิถี (ทิศตะวันออก) ถ้าเข้าซอยรางน้ำ, ราชปรารภ, เข้าถนนดินแดงไปวิภาดีรังสิต หรือถนนพระราม 9

มาดูเรื่องทางด่วนกันบ้าง จากโครงการสามารถขึ้นทางพิเศษศรีรัชได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรกเป็นเส้นทางที่ออกจากโครงการ เลี้ยวซ้ายไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธิน และเลี้ยวเข้าทางซ้ายเพื่อเข้าทางพิเศษศรีรัช ระยะทางจากโครงการประมาณ 750 เมตรเท่านั้นค่ะ ถือว่าใกล้กับโครงการมากๆ

เส้นทางที่ 2 เป็นเส้นทางไปทางพิเศษศรีรัชเช่นกัน แต่มุ่งหน้าไปทางพระราม9 ให้ออกจากโครงการมาแล้วเลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายเข้าซอยราชวิถี4 แล้วเลี้ยวซ้าย จะมีทางให้กลับรถไปขึ้นทางด่วนที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพหลโยธิน 2 ระยะทางรวมประมาณ 750 เมตร

การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ สามารถทำได้สะดวก เนื่องมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ระยะทางประมาณ 400 เมตร สามารถเดินได้สบายๆบน Sky Walk ด้านบน และจาก BTS อนุสาวรีย์ฯนั่งไปเพียง 1 สถานีก็จะเป็นสถานีพญาไทซึ่งเป็นจุด Interchange กับ Airport Link อีกด้วย นอกจากนั้นถ้านั่งต่อไปอีกเพียง 2 สถานีก็จะถึงสถานีสยาม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางรถไฟฟ้าไปยังสายสีลมได้ นอกจากจะมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้กับโครงการแล้ว ยังใช้บริการรถสาธารณะอย่างวินมอเตอร์ไซค์ก็สะดวกด้านหน้าโครงการมีวินตั้งอยู่ หรือจะเรียก Taxi ก็สามารถทำได้ง่ายเพราะถนนราชวิถีเป็นถนนสายหลักมีรถผ่านอยู่ตลอดเวลา ส่วนใครที่ชอบนั่งรถประจำทางก็จะมีผ่านอยู่ตลอดค่ะ รถประจำทางนั้นส่วนใหญ่ก็มีจุดรวมอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั่นเอง ซึ่งจะมีสถานีหยุดรถรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ดังนี้

  •  เกาะราชวิถี : 8, 12, 14, 18, 28, 92, 97, 108, 157, 171, 509, 515, 536, 538, 539, 542, R26E
  • เกาะพญาไท : 14, 17, 29, 34, 36, 38, 39, 54, 59, 62, 74, 77, 139, 140, 172, 177, 183, 187, 204, 503, 529, 536, 539, 542
  • เกาะดินแดง : 12, 24, 36, 36ก, 58, 69, 92, 168, 171, 172, 187, 528, 529, 538, R26E
  • เกาะพหลโยธิน : 8, 26, 27, 29, 34, 38, 39, 54, 63, 74, 77, 97, 108, 157, 166, 177, 204, 502, 503, 509, 510, 522, A2

ความอุดมสมบูรณ์ รอบๆโครงการนี่ต้องบอกว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ เนื่องจากบริเวณใกล้ๆกับโครงการมีห้างสรรพสินค้า ตลาดและร้านอาหารอยู่เยอะมากๆ ในระยะที่สามารถเดินถึงได้สบายๆเลย ไม่ว่าจะเป็น Center One, Victory Mall, Fashion Mall, Century Mall นอกจากนั้นถนนรางน้ำเองก็มีของกินเยอะมากๆ ส่วนใหญ่จะเปิดสายหน่อยประมาณ 10 โมงยาวไปจนสี่ห้าทุ่ม นอกจากนั้นยังมี Pub&Retaurant หลากหลายร้าน และยังมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven อยู่เป็นระยะๆ นอกจากนี้ในซอยรางน้ำประมาณ 100 เมตรจากที่ตั้งโครงการจะมี King Power ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปลอดภาษีที่กรุ้ปทัวร์จีนชอบมาเดินกัน แถมภายในจะมีโรงละครอักษราอยู่ คนที่ชอบดูละครเวทีหรือพวกงาน Stage ต่างๆ ก็น่าจะถูกใจค่ะ เพราะอยู่ใกล้ เดินไปได้สบายๆ

นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้วยังมีพื้นที่สีเขียวอย่างสวนสาธารณะชื่อ สวนสันติภาพ อยู่ห่างจากโครงการเพียง 150 เมตร เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายกันได้ทุกวันเลยทีเดียว ทางฝั่งตะวันตกของถนนพญาไท ยังเต็มไปด้วยโรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยสำหรับนักศึกษาแพทย์และวิทยาลัยพยาบาลไม่ว่าจะเป็นกรมแพทย์ทหารบก, วิทยาลัยพยาบาล, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมงกุฏ, คณะเภสัชมหาวิทยาลัยมหิดล ฯลฯ ซึ่งมันก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ย่านนี้มีผู้คนหนาแน่นขึ้น อาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็หาได้ง่ายและมีราคาไม่แพงค่ะ

ก่อนจะไปชมที่ตั้งและรอบๆโครงการ เราขออธิบายเรื่องของ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดศูนย์กลางของย่านนี้กันก่อน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการไปประมาณ 300 เมตร เป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของทหาร ตำรวจและพลเรือนที่เสียชีวิตไปในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เรื่องการปรับปรุงพรมแดนไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศสซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 59 คน ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นผู้วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2484 และจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นผู้กระทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2485 สถาปนิกผู้ออกแบบอนุสาวรีย์คือ หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล

กฎหมายอาคารกำหนดไว้ว่าสิ่งปลูกสร้างที่อยู่โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะต้องถูกจำกัดความสูงไม่เกิน 16 เมตร (ประมาณอาคาร 4-5 ชั้น) ในรัศมี 200 เมตร และสูงไม่เกิน 24 เมตร (ประมาณคอนโด 8 ชั้นทั่วไป) ทำให้รอบๆพื้นที่ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ฯฝั่งถนนราชวิถีนี้จึงไม่มีคอนโด High Rise ขึ้นมาให้เห็นกัน เพราะติด Building Code หรือกฏหมายก่อสร้างอาคารนั่นเองครับ พวกคอนโดมิเนียมใกล้ BTS อนุสาวรีย์ฯ จึงไปผุดขึ้นมาทางฝั่งถนนพญาไทแทน  และอีกเรื่องที่แถมอนุสาวรีย์เป็นจุดที่มีความสำคัญทางด้านการเมือง เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญๆ หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ที่นี่จะมีส่วนเกี่ยวข้องเสมอ ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึงประกอบไปอีกปัจจัยนึงด้วยค่ะ

ส่วนของการเดินทางไปโครงการวันนี้ จะเริ่มจากที่ BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วลงมายังด้านล่างบริเวณเกาะพญาไท เพื่อชมความอุดมสมบูรณ์ที่เกาะพญาไทด้านล่างกันสักหน่อยก่อนจะเดินไปยังโครงการทางถนนราชวิถี(ตอนต้น) ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถใช้ทางเดิน Sky Walk ไปลงที่ถนนราชวิถีได้เลยค่ะ ระยะทางรวมๆจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังโครงการก็ไม่ไกลประมาณ 400 เมตรเท่านั้น

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มกันที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ

จากผังรถไฟฟ้า ทางออกที่ใกล้กับโครงการเรามากที่สุดจะเป็นทางออก 4 ซึ่งจะอยู่บริเวณถนนพญาไท แต่วันนี้เราจะพาเดินไปลงที่ทางออก 2 เพื่อดูสถานที่สำคัญและความอุดมสมบูรณ์เพิ่มเติมซักหน่อย ก่อนเข้าไปยังโครงการค่ะ

เมื่อเราลงรถไฟฟ้ามาแล้วให้ไปยังทางออกที่ 2

พอลงมาด้านล่างจะเจอกับเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์คู่ใจของคนย่านนี้ ข้างหน้าตอนเช้าๆจะมีของกินมาขายด้วย

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าห้างเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่าก่อนห้างเปิด จะมีร้านขายของกินหลายร้าน สำหรับคนที่ทำงานแถวนี้หรือผ่านไป-มา ก็มาเลือกซื้อกันได้

ตรงข้ามกับห้างเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า ตรงนี้มีวินมอเตอร์ไซค์ด้วย สำหรับคนที่ต้องการเดินทางใกล้ๆไม่ใช้รถไฟฟ้าก็มาใช้บริการพี่วินได้

ต่อไปเราจะเดินไปยังโครงการกันค่ะ โดยที่เดินมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ระหว่างทางเดินมีร้านกาแฟ Starbucks อยู่ด้านข้างด้วย สำหรับคอกาแฟได้มีที่นั่งดืมชิลล์ๆ ใกล้กับโครงการ

เดินมาอีกเล็กน้อยก็จะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์อีกแล้ว ถือว่าแถวนี้มีเยอะมากๆเลยค่ะ เลือกเดินทางได้สะดวก ทางขวามือก็จะผ่านร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven ด้วย

เดินมาอีกหน่อยก็มีร้านคาเฟ่และร้านอาหารอยู่ริมทาง

นอกจากจะร้านอาหารนั่งเล่นในแอร์กันแล้วยังมี Street Market เป็นซอยร้านขายของแบบตลาดคนเดินเล็กๆ ให้เดินช้อปหาของกินกันเพลินๆอีกด้วย

เดินมาอีกหน่อยทางด้านขวามือเราจะผ่าน สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์

เดินมาอีกหน่อยจะเป็นทางเข้าห้าง Victory Point แล้วค่ะ

ถ้าเราเดินลงจาก BTS มาจนถึงทางเดินเชื่อม Sky Walk ทางด้านขวามือเราจะเจอกับห้าง Victory Point ภายในห้างนี้ก็มีร้านอาหารหลากหลาย ร้านค้า รวมถึงร้านเสริมสวย และคลีนิคทันตกรรมค่ะ

เมื่อมองตรงมาจะเห็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอยู่ด้านหน้า ทางไปโครงการจาก Sky Walk คือเดินไปทางขวามือและลงบันไดที่ถนนราชวิถี บริเวณห้าง Center One แต่วันนี้เราจะพาไปชมความอุดมสมบุรณ์ด้านล่างกันค่ะ

เมื่อลงมาข้างล่างที่บริเวณเกาะพญาไท ตรงมุมที่จะเห็นก่อนเลยก็คือร้านก๋วยจั๊บน้ำข้น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของที่นี่ นอกจากจะมีก๋วยจั๊บแล้วยังมี ข้ามมันไก่ และหมูตุ๋นด้วย ร้านเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า วันอาทิตย์-จันทร์ ปิดตี 1 และวันศุกร์-เสาร์ ปิดตี 3 เลยค่ะ ถือว่าเปิดนานๆมากๆ ใครที่กลับดึกบ่อยๆน่าจะเป็นขาประจำเลยทีเดียว

บรรยากาศที่เกาะพญาไทด้านหน้านอกจากจะมีร้านข้าวแล้วยังมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และร้านขนม Puff&Pie ด้วย

เชื่อว่าหลายคนที่ไม่ได้มาลงเดินเท้าสัมผัส จะยังไม่ทราบว่าที่รอบๆอนุสาวรีย์ที่เป็นจุดรอรถเมล์ทั้งสี่ฝั่ง เค้ามีการตั้ง “ชื่อเกาะ” ทั้งสี่เอาไว้ด้วย บางคนก็รู้ว่ามีชื่อเกาะนะ แต่จำไม่ได้ซะทีว่าอันไหนมันเกาะอะไรกันแน่ ฮ่าๆๆ วันนี้เรามีภาพประกอบจากโดรนมาให้ดูทำความเข้าใจกันง่ายๆ

  1. เกาะพญาไท (สีน้ำเงิน) – มีหลังคาโดม เดินไปหน่อยเจอ BTS ติดกับถนนพญาไท ไปสยามได้
  2. เกาะดินแดง (สีแดง) – คือฝั่งก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ หัวมุมมีห้าง Fasion Mall ไปดินแดงได้
  3. เกาะพหลโยธิน (สีเขียว) – ติดถนนพหลโยธิน เกาะนี้มีต้นไม้เยอะสุดเลย ไปจตุจักรเส้นนี้เลย
  4. เกาะราชวิถี (สีม่วง) – ติดกับโรงพญาบาลราชวิถี ถนนราชวิถี ไปสวนสัตว์ดุสิตได้

เดินมาอีกหน่อยจะเป็นลานทางเข้า มีป้ายเกาะพญาไทตัวใหญ่มาก

ด้านในมีร้านค้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าเฟชั่น กระเป๋า รองเท้า ราคาไม่แพงเอาใจขาช้อปมากๆ

นอกจากร้านเสื้อผ้าแล้วก็มีร้านกาแฟ ของหวานไห้มานั่งดื่มกันได้ ด้านในมีตู้ ATM ให้กดด้วยค่ะ

บรรยากาศร้านค้าส่วนใหญ่ในเกาะพญาไท

ต่อมาเราจะเดินไปทางถนนราชวิถีตอนต้นกัน ให้เราเดินไปเรื่อยๆไปยังหัวมุมถนน

ตรงหัวมุมเกาะพญาไทบริเวณซอย ราชวิถี11 ตรงนี้จะมีท่ารถตู้อยู่ด้วยค่ะ

มีไปตลาดบางแค ราคาตลอดเส้นทาง 40 บาท

มีไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ราคา 37 บาทเท่านั้น

เดินมาเรื่อยๆ เจอกับถนนราชวิถีให้เลี้ยวขวามาค่ะ มีร้านขายขนมโรตีสายไหมอยู่ตรงมุมเลย

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วให้เดินตรงไปเรื่อยๆ บรรยากาศข้างทางก็ยังคึกคักมีทั้งของกินของใช้ขายตลอดเส้นทาง

ผ่านซอย ราชวิถี9 ซึ่งด้านหน้าติดกับห้าง Center One ภายในซอยก็มีตลาดเล็กๆ ไปตอนเช้าหน่อยก็ยังไม่ค่อยมีร้านเปิดเท่าไหร่ค่ะ

ด้านในมีทางเข้าไปยัง Tesco Lotus Express ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

มาดูด้านหน้าที่ทางเข้า Center One กันบ้างค่ะ ตั้งแต่หน้าห้างเราก็เห็นแล้วว่ามีร้านค้ามาขายมากมาย ส่วนใหญ่เป็นสินค้าแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เคสโทรศัพท์ก็มีเยอะมากๆเลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีร้าน McDonald’s ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย

บรรยากาศภายในห้าง Center One ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าหลากลายแทบจะทุกประเภทเลยทีเดียว

ออกมาเดินไปโครงการกันต่อค่ะ ระหว่างทางก็จะมีแผงลอยขายขนมหลายร้าน ถือว่าย่านนี้หาของกินง่ายมากๆเลย

เดินมาอีกนิดเดียวก็จะเจอกับซอยร้อยล้านเซนเตอร์ เป็นพื้นที่รวมร้านค้าต่างๆมาให้เดินเลือกซื้อของกัน

ด้านในก็จะเป็นสินค้าแฟชั่นแนวใกล้เคียงกับบริเวณเกาะพญาไทที่ผ่านมาค่ะ

เดินต่อมาตามถนนราชวิถี ข้างทางก็จะมีร้านค้าตลอดเส้นทางเลย

เดินมาอีกนิดบริเวณใกล้กับซอย ราชวิถี 7 ตรงนี้มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ค่ะ ซึ่งเป็นวินที่ใกล้กับโครงการของเราที่สุดเรียกได้ว่าเดินออกมาจากโครงการก็เจอวินเลย

ราคาค่าโดยสารก็เริ่มต้นที่ 20 บาท

มาถึงปากซอยราชวิถี 7 ก็จะเห็นทางเข้าโครงการ MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ แล้วค่ะ โดยโครงการจะอยู่ติดถนนราชวิถีด้านข้างติดกับซอยราชวิถี 7

โดยซอยราชวิถี7 จะเป็นซอยเดินรถทางเดียวที่เชื่อมต่อกับซอยรางน้ำได้  สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดขากลับบ้านหรือใช้เดินไปเชื่อมกับซอยรางน้ำได้

ถัดซอยมาหน่อยจะเจอประตูทางเข้า-ออกรองซึ่งจะอยู่ในซอยราชวิถี 7

จากที่ตั้งโครงการ เราจะพาเดินเลยโครงการไปอีกหน่อย เพื่อไปดูสวนสันติภาพกันค่ะ ระหว่างทางเดินก็ยังมีความคึกคักเหมือนกับก่อนถึงโครงการ

ข้างทางมีร้านทอง และถัดไปเป็นร้านขายยาด้วยค่ะเดินออกมาซื้อได้ไม่ไกลจากโครงการ

ถัดมาอีกเล็กน้อย มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven อยู่ก่อนถึงซอย ราชวิถี 3

มาถึงซอย ราชวิถี 3 แล้วจะเห็นสวนสันติภาพอยู่ขวามือเลย

บริเวณหน้าสวนมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วยค่ะ

สวนสันติภาพ เป็นสวนสาธารณะส่วนใหญ่จะมีคนมาวิ่งออกกำลังกายกันเป็นประจำ จะเปิดให้ใช้ตั้งแต่ตี 5 จนถึง 3 ทุ่มเลย

บรรยากาศภายในเรียบร้อย มีคนดูแลสวนตลอดค่ะ

ภายในมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาค่อนข้างเยอะ และมีบึงตรงกลางให้บรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะกับการมาพักผผ่อนตอนเย็นๆ หรือมาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าก็น่าสนใจค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกันค่ะ โครงการมีทางเข้า-ออกหลักอยู่ทางทิศเหนือ ติดกับถนนราชวิถี ฝั่งตรงข้ามตลอดทั้งแนวเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3-6 ชั้น ทิศตะวันออกติดกับอาคารพักอาศัยสูง 10 ชั้น ทิศใต้ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ทิศตะวันตกติดกับซอยราชวิถี 7 ซึ่งเป็นซอย One Way และ ใกล้กับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 6 ชั้น สรุปตามทิศต่างๆได้ ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถนนราชวิถี
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 10 ชั้น, อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยราชวิถี 7

ทิศเหนือ ติดกับถนน ราชวิถี ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 3-6 ชั้น

ทิศตะวันออก ด้านหน้าติดกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น ด้านล่างเป็นคลีนิคเสริมความงามมีทั้ง นิติพลและถัดไปเป็นวุฒิศักดิ์เลยค่ะ

ทิศตะวันตก ซอย ราชวิถี 7 เป็นซอยผ่านออกของรถ ซึ่งเป็น One Way มีรถผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • เซ็นเตอร์วัน ช้อปปิ้งพลาซ่า – 130 เมตร
  • สวนสันติภาพ – 150 เมตร
  • อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  – 450 เมตร
  • โรงพยาบาลราชวิถี – 500 เมตร
  • เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า – 600 เมตร
  • คิงเพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ – 700 เมตร
  • โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ –  800 เมตร
  • มหาวิทยาลัยมหิดล (บางคณะ) –  850 เมตร
  • โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า – 1.0 กิโลเมตร
  • โรงเรียนศรีอยุธยา – 1.0 กิโลเมตร
  • สำนักงานเขตราชเทวี – 1.0 กิโลเมตร
  • พระราชวังพญาไท – 1.2 กิโลเมตร
  • วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก – 1.3 กิโลเมตร
  • วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า – 1.3 กิโลเมตร
  • แฟชั่นมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ – 1.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลรามาธิบดี – 2.0 กิโลเมตร
  • กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี –  2.0 กิโลเมตร


เจาะลึกตัวโครงการ

มาดูที่ผังโครงการกันบ้าง โครงการ MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ  เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บนพื้นที่ 1-0-41.8 ไร่ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 171 ยูนิต รูปทรงของที่ดินจะมีทางเข้า-ออกอยู่ติดกับถนนราชวิถีและไปใหญ่ขึ้นด้านใน เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส เมื่อเข้าโครงการมาแล้ว สามารถไปยังลานจอดรถได้ที่ชั้นใต้ดินซึ่งมีทั้งหมด 2 ชั้นด้วยกัน สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 67 คัน คิดเป็นประมาณ 40% ชั้น 1 มี Drop Off ทางด้านหน้าเข้าไปยัง Lobby ได้เลย พื้นที่ Lobby เชื่อมต่อกับ Executive Lounge มีทางเข้าไปยังส่วนพักอาศัยได้โดยจะต้องแตะ Key Card เข้าไปเป็นการช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน ส่วนของ Facilities ชั้นล่างมีห้อง Kids Room และห้องซักรีดสามารถเดินขึ้นไปยัง Facilities ชั้น 2 ได้เลย หรือถ้าใครชอบใช้ลิฟต์มากกว่าก็สามารถใช้ลิฟต์ขึ้นไปได้ โดยลิฟต์โดยสารทั้งโครงการมีทั้งหมด 2 ตัวคิดอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟต์เป็น 85.5 : 1  ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่น ไม่ต้องรอลิฟต์นานในชั่วโมงเร่งด่วน ไม่มีลิฟต์บริการค่ะสามารถใช่ร่วมกับลิฟต์โดยสารได้เลย

มาเริ่มดูกันที่หน้าโครงการกันเลยค่ะ ประตูทางเข้ารถยนต์ขนาดใหญ่มากดูโอ่โถง

ทาเง้ขา-ออกจะแบ่งเป็น 2 ช่องทางแยกกัน กั้นด้วยไม้กั้นกระดกในส่วนด้านหน้านี้ไม่มีป้อมยามค่ะ

ตรงส่วนไม้กั้นกระดกเป็นระบบ Key Card Access แบบทาบระยะใกล้ บริเวณนี้จะมีกล้องวงจรปิดคอยดูอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเข้ามาแล้วมองตรงไปจะเห็น Lobby เลย ทางด้านซ้ายมือเป็นทางลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินค่ะ

ทางลงไปลานจอดรถใต้ดินมีป้อมยามอยู่ทางซ้ายมือคอยดูแลความปลอดภัยของโครงการ

ทางลงลานจอดรถเป็นทางลาดสวนกัน 2 ช่อง จำกัดรถที่มีความสูงไม่เกิน 2.1 เมตรค่ะ

มีห้องงานระบบไฟฟ้าอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนลงไปยังลานจอดรถชั้น B1

ลานจอดรถจะอยู่ใต้ดิน 2 ชั้นสามารถจอดเข้าซองได้ทั้งหมด 67 คัน คิดเป็น 40%

มีลิฟต์โดยสารสามารถใช้ขึ้นไปยัง Lobby ด้านบนได้เลย

มาดูส่วน Lobby กันบ้าง ซึ่งทางเข้าของอาคารจะตกแต่งด้วยบานกระจกทำให้บรรยากาศด้านในดูโปร่งและรับแสงธรรมชาติได้ดี

ภายในเป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง 2 ชั้นมีช่องแสงทั้งด้านข้างและด้านหน้าทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ การตกแต่งเรียบง่ายดูหรูหรา

บรรยากาศภายใน Lobby มองไปด้านหน้าโครงการ โดยจะมีการจัดชุดที่นั่งมาให้หลายชุดเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกบ้าน

ด้ายซ้ายของส่วน Lobby เป็นส่วนของ Executive Lounge เอาไว้นั่งเล่น พักผ่อน นัดคุยงานกับเพื่อน

มีประตูทางเข้าไปภายในโครงการซึ่งจะต้องสแกนบัตรก่อนเข้าค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นห้องจดหมายสำหรับลูกบ้านอยู่ทางซ้ายมือ ตรงไปจะเป็นส่วนของโถงลิฟต์ของอาคาร

ภาพห้อง Mail Box ของลูกบ้านทุกยูนิต

เข้ามาแล้วจะเจอกับโถงลิฟต์ก่อนซึ่งตรงนี้มีประตูทางเข้าไปยังส่วนห้องพักอาศัยอยู่อีกประตูนึงซึ่งจะต้องสแกนบัตรก่อนค่ะ

Kids Room จะอยู่ทางด้านซ้ายมือเป็นห้องกระจกสามารถมองเห็นได้จากข้างนอก เวลาเด็กๆมาเล่นภายในห้องผู้ปกครองสามารถนั่งทำงานด้านนอกแล้วดูเด็กๆไปด้วยได้ค่ะ

ภายในห้องปูพื้นด้วยพรมเหมาะสำหรับเด็ก แบ่งเป็น 2 โซน โซนด้านหน้าเป็นที่นั่งเล่น มีเบาะนั่งให้พร้อมกับของเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ส่วนด้านหลังเป็นที่นั่งโซฟามีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น

จากห้อง Kids Room สามารถมองเห็นภายนอกได้ ด้วยกระจกบานใหญ่ด้านข้าง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

มีของเล่นเด็กให้เล่นหลากหลาย เหมาะกับเด็กๆทุกช่วงวัย

ถัดมาทางด้านซ้ายมือเป็นห้องซักรีด และด้านขวามือเป็นทางไปยังห้องน้ำส่วนกลางและห้องนิติบุคคลค่ะ

แวะมาดูห้องน้ำส่วนกลางชั้นล่างกันซักเล็กน้อยค่ะ

ห้องน้ำหญิงจะอยู่ด้านในสุด มีสัญลักษณ์เป็นผู้หญิงสไตล์คุณนายอังกฤษ

ด้านในห้องน้ำกั้นส่วนระหว่างพื้นที่อ่างล้างหน้าและส่วนโถสุขภัณฑ์ มีอย่างละ 1 ห้องค่ะ

ดูชั้นล่างกันไปเรียบร้อยแล้ว เราจะพาไปดูส่วนของ Facility ด้านบนชั้น 2 กันค่ะ

เริ่มจากผังชั้น 2 จะแบ่งเป็นส่วนห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง โดยห้องพักอาศัยทั้งหมดในชั้นนี้จะเป็น Single Corridor และมีประตูกั้นระหว่างทางเดินห้องกับพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ลูกบ้านชั้นนี้มีความเป็นส่วนตัวสูง และมีบางห้องที่อยู่บริเวณปีกอาคารทั้ง2 ด้านเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางทางด้านในด้วย การใช้งาน Facilities ชั้น 2 จะต้องเดินออกมาจากโถงลิฟต์ก่อน ออกมาจะเจอกับ Pool Terrace และสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด ยาว 14.50 ม. (รวมที่นั่งภายในสระว่ายน้ำประมาณ 2 เมตร) ลึก 1.20 m. มี Fitness Center อยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนขวามือสามารถเข้าไปยัง Creative Space ซึ่งเป็นห้องทำงานและห้องนั่งเล่น Indoor มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ ภายในโครงการจะเป็นยังไงไปชมกันเลยค่ะ

ภาพบรรยากาศภายในลิฟต์โดยสารของโครงการ

เมื่อออกมาแล้วจะเจอกับโถงลิฟต์ชั้น 2 ฝั่งนึงเป็นทางเข้าไปยังส่วนพักอาศัยและ อีกฝั่งเป็นประตูทางออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางสามารถมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำได้เลย

ประตูทางเข้าส่วนห้องพักอาศัยจะต้องใช้ Key Card เพื่อเข้าด้านในค่ะ ช่วยกันไม่ให้ลูกบ้านชั้นอื่นเข้าไปรบกวนความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้นนี้

ภาพบรรยากาศเมื่อเดินบันไดขึ้นมา บรรยากาศด้านบนค่อนข้างโปร่งเนื่องจากมีกระจกขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากและทำให้เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด

ตรงส่วนของ Creative Space ก็เป็นผนังกระจกมองเห็นได้จากด้านนอกเลย ทำให้ส่วนโถงลิฟต์ชั้น 2 ดูกว้างและให้ความรู้สึกสบาย

สำหรับคนที่จะออกไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลางจะต้องออกผ่านประตูนี้ค่ะ

ออกมาแล้วจะเจอกับส่วน Pool Terrace มีที่นั่งโซฟาล้อมรอบด้วยน้ำกั้นความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านด้วยไม้พุ่มล้อมรอบสระว่ายน้ำ ทางด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำส่วนกลางและห้อง Fitness Center

โซฟา Pool Terrace เป็นรูปทรงตัว L นั่งได้หลายคน จะชวนเพื่อนๆมาปาร์ตี้กันที่สระว่ายน้ำก็ได้ค่ะ แต่ก็ต้องเสียงเบานิดนึงเพราะอยู่ใกล้กับห้องพักอาศัยพอสมควรเลย

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด ยาว 14.50 ม. (รวมที่นั่งภายในสระว่ายน้ำประมาณ 2 เมตร) ลึก 1.20 m.

ตรงข้ามกับสระว่าน้ำเป็นห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิง และห้อง Fitness Center

ภายในห้องน้ำมีอ่างล้างมือและกระจก 2 บาน มีโถสุขภัณฑ์ 2 ห้อง

ภายในห้องน้ำหญิงจะมีห้อง Stream Room 1 ห้อง และห้องน้ำชายจะมีห้องซาวน่าค่ะ

ภายในห้อง Fitness Center มีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง ค่อนข้างหลากหลายชนิด สามารถมาเลือกใช้ออกกำลังกายได้ทุกส่วน

เมื่อออกกำลังกายอยู่ Fitness Center ก็มองออกไปยังสระว่ายน้ำด้านนอกได้จากกระจกบานใหญ่เต็มผนัง ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะเช่นกันค่ะ

คนที่ว่ายน้ำอยู่ในสระว่ายน้ำก็สามารถมองเข้าไปเห็นภาย Fitness ได้เช่นกัน

ทางเข้า Creative Space เป็นทางเดินหิน โรยด้วยกรวดรอบๆ ไปยังฝั่งขวามือจากทางเข้า ตรงนี้จะไม่มีหลังคาทางเดินนะคะ ถ้าฝนตกหนักมากๆอาจจะทำให้เดินออกมาใช้งานไม่ได้

ภายในห้องจะแบ่งเป็น 2 ส่วน เริ่มจากส่วนด้านหน้าทางเข้า เป็นชุดโซฟาสำหรับนั่งคุยเล่นสบายๆ หรือจะนั่งอ่านหนังสือก็เหมาะดีค่ะ

ตรงนี้จะเป็นส่วนตัวน้อยหน่อยเนื่องจากมองเห็นตรงส่วนโถงลิฟต์และคนที่โถงลิฟต์ก็มองเห็นเราด้วยค่ะ แต่จะได้ความโปร่งมากๆและนั่งชมวิวสระว่ายน้ำได้

อีกส่วนเป็นโซนนั่งทำงาน มีโต๊ะแยกให้หลายชุด พร้อมชั้นวางของทั้ง 2 ข้าง ตกแต่งให้บรยากาศสบายๆเหมาะกับการนั่งทำงานชิลล์ๆ

จากส่วนกลางของชั้น 2 จะสามารถมองเห็นลานหญ้าที่ชั้น 3 ได้ด้วยค่ะ

ชั้น 3 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด แต่จะต่างกับชั้นอื่นตรงที่ จากโถงลิฟต์สามารถเดินออกมายังลานหญ้า(Garden) เพื่อมองวิวสระว่ายน้ำได้ ห้องพักส่วนใหญ่ของโครงการเป็นแบบ 1 Bedroom จะมีห้อง 2 Bedroom อยู่ตรงส่วนมุมอาคารชั้นละ 3 ห้องเท่านั้นค่ะ ห้องพักทางทิศตะวันออกและทางทิศใต้เป็นห้องที่ได้ Single Corridor เพราะทิศนี้จะติดกับอาคารสูง 10 ชั้น ซึ่งถ้าทำห้องพักไปจะถูกบล็อกวิวทั้งหมด ทางโครงการจึงออกแบบให้ทิศนี้ไม่มีห้องพักค่ะ ส่วนห้องทางทิศตะวันตกจะเป็น Double Corridor ซึ่งอาจจะทำให้มีความเป็นส่วนตัวน้อยลงหน่อย เนื่องจากจะมีคนเดินผ่านหน้าห้องของเราเยอะขึ้น

เมื่อออกมาจากโถงลิฟต์ชั้น 3 จะเห็นประตูทางซ้ายมือ เป็นทางออกไปยังสวนด้านนอก

ออกมาแล้วจะเห็นเป็นพื้นที่ลานหญ้าเทียมโล่ง สามารถมองเห็นวิวสะว่ายน้ำที่ชั้น 2 ได้

ตัวอย่างวิวสระว่ายน้ำจากห้องพักอาศัยชั้น 3 ค่ะ

ชั้น 4 -7 จะเหมือนกับชั้น 3 ทุกอย่างเลย ยกเว้นไม่มีลานหญ้า(Garden) ให้ออกมาชมวิวค่ะ ชั้นพักอาศัยจะมีความหนาแน่นมากที่สุดอยู่ที่ 24 ยูนิตต่อชั้นคือตั้งแต่ชั้น 3 ถึงชั้น 8 เลย การวางผังห้องพักส่วนใหญ่จะจัดให้ห้องแบบ 1 Bedroom อยู่ตรงกลาง ส่วนมุมของอาคารจะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ค่ะ

 

ส่วนของชั้น 8 นั้นจะต่างจากชั้น 4-7 ตรงที่โถงลิฟต์จะมีบันไดทางขึ้นไปยังพื้นที่ส่วงกลางชั้น Roof Top

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้น 8 มีประตูทางขึ้น Roof Top อยู่ทางซ้ายมือ เห็นแสงเข้ามาจากทางเดินขึ้นด้านบนเลยค่ะ

Facilities ด้านบนมีอะไรบ้างเราไปชมภาพบรรยากาศด้านบนกันเลยค่ะ

ทางขึ้นชั้น Roof Top จะขึ้นได้จากบันไดอย่างเดียวนะคะ มีสามารถใช้ลิฟต์ขึ้นมาได้ ทำให้คนที่ร่างกายไม่แข็งแรง หรือใช้รถเข็นไม่สามารถขึ้นมาชั้น Roof Top ได้

ที่ชั้น Roof Top จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนปีกฝั่งทิศตะวันตก และส่วนทิศตะวันออก โดยมี Jogging Track เชื่อมกัน ฝั่งทิศตะวันตกจะเป็นลาน Peaceful Yoga Court สำหรับเล่นโยคะ และลาน Sky Playground ให้เด็กๆมาวิ่งเล่นได้ ถัดไปทางทิศเหนือ สามารถมองเห็นวิวถนนราชวิถีเป็นลาน BBQ Outdoor ให้ลูกบ้านที่จองสามารถมาใช้งานพื้นที่นี้จัดปาร์ตี้ได้ ส่วนฝั่งทิศตะวันออกนั้นจะมีลาน Pet Zone เนื่องจากคอนโดนี้ไม่ได้ห้ามเลี้ยงสัตว์ ลูกบ้านสามารถเลี้ยงน้องหมาน้องแมวได้ แล้วยังพามาเดินเล่นด้านบนชั้นนี้ได้ด้วยค่ะ ทางฝั่งเหนือจะเป็นส่วน Birdcage Cabana เก้าอี้นั่งพักผ่อนชมวิวชั้นดาดฟ้า อย่ารอช้าเราไปดูภาพบรรยากาศโครงการกันเลยค่ะ

ออกมาจากทางขึ้นเราไปดูทางฝั่งตะวันตกกันก่อนนะคะ

เมื่อขึ้นมาแล้วมองไปทางฝั่งขวามือก็จะเห็น Peaceful Yoga Court ก่อนเลย ซึ่งเป็นลานหญ้าเทียมอเนกประสงค์ ใช้ออกกำลังกายประเภทอื่นก็ได้ค่ะ

ถัดไปก็เป็นลาน Sky Playground ให้เด็กๆได้มานั่งเล่น แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กหน่อยแนะนำว่าผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ เนื่องจากไม่มีราวกั้นกันตกให้

ตรงมาจะเป็นส่วนของ BBQ Courtyard ตรงส่วนนี้จะต้องจองก่อนขึ้นมาใช้งานค่ะ

ลาน BBQ มีที่นั่งหลายชุด สามารถจัดปาร์ตี้พาเพื่อนๆขึ้นมาสังสรรกันได้เลยค่ะ

เคาน์เตอร์ย่าง BBQ จะมีอ่างล้างจานและพื้นที่เตรียมอาหารให้ด้วยค่ะ ถือว่าสะดวกมากๆเลย

ถัดมาเรามาทางฝั่งตะวันออกกันบ้าง (ขึ้นมาแล้วเลี้ยวซ้าย) ที่เห็นราวกันระแนงสีดำ ด้านในเป็นพื้นที่ Pet Zone ค่ะ

มีลานอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงได้ด้วย โดยตรงส่วนอาบน้ำจะปูกระเบื้องทำให้ไม่เลอะเทอะ

ทางเข้าเป็นประตูเปิดเลื่อนสามารถล็อคได้ สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงแล้วอยากขึ้นมาลานโยคะด้านบนก็น้ำสัตว์เลี้ยงมาไว้ในนี้ก่อนได้

รอบด้านมีรั้วต้นไม้กั้นไม่ให้สัตว์กระโดดออกไปได้  และมีถังขยะให้สำหรับเก็บมูลด้วยค่ะ

ถัดไปจะเป็นส่วนของ Birdcage Cabana พื้นที่นั่งเล่นชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน

ที่นั่งเป็นวงกลมรูปทรงกรงนก จะมานอนอ่านหนังสือหรือถ่ายรูปสวยๆก็ทำได้ค่ะ

มาดูเรื่องวิวของโครงการกันบ้าง ทางทิศเหนือของโครงการที่ชั้นบนจะสามารถมองเห็นถนนราชวิถี และทางพิเศษศรีรัชได้ ทิศตะวันออก มองไปทางฝั่งสวนพระนคร จะมีอาคารพักอาศัยสูงประมาณ 10 ชั้นบังสายตาอยู่ ซึ่งชั้นพักอาศัยก็จะเป็นกำแพงทึบอยู่แล้วค่ะ ทิศทิศใต้ มองไปทางซอยรางน้ำไม่มีอาคารสูงมากนักทำให้มองเห็นถึงย่านพญาไทเลย และทางทิศตะวันตกมองไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะเห็นวิวอาคารพาณิชย์ด้านหน้าและโรงพยาบาลราชวิถี

ทิศตะวันตก มองไปทางฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเห็นอาคาร Center One

ทิศใต้ มองไปทางฝั่งพญาไทในระยะใกล้ๆไม่มีอาคารสูงเท่าไหร่นัก ทำให้มองเห็นอาคารในระยะไกลๆได้ค่ะ

ทิศเหนือ มองเห็นถนนราชวิถี และอาคารพาณิชย์ฝั่งตรงข้ามสูงประมาณ 3-6 ชั้น

ทิศตะวันออก เห็นอาคารพักอาศัยสูง 10

วิวจากชั้น Roof Top เมื่อมองลงมายังส่วนกลางด้านล่าง ซึ่งคนที่อยู่ฝั่งด้านในของโครงการก็จะเห็นวิวเป็นสระว่ายน้ำและพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น Ground Floor

  • จุดจอดรับส่ง (Drop off)
  • ป้อมรักษาความปลอดภัย (Guardhouse)
  • ล็อบบี้(Magnifique Lobby)
  • กล่องจดหมายส่วนตัว (Secure Postbox)
  • ที่จอดรถจักรยาน (Bike rack)
  • ห้องซักรีด (Launderette)
  • ห้องรับรองพเิศษ(Executive Lounge)
  • ห้องเด็กเล็ก (Kid’s Room)

  • ชั้น 2
    • พื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space)
    • สระว่ายน้ำ(Deluxe Swimming Pool) ระบบเกลือ ขนาด 14.50 เมตร กว้าง 4.60 เมตร ลึก 1.2 เมตร
    • ลานระเบียงสระว่ายน้ำ (Pool Terrace)
    • ห้องสตีม และ ซาวน่า (steam, sauna)
    • ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า (Changing Room)
    • ศูนย์ออกกำลังกาย (Fitness Center) ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7-8 เครื่อง

  • ชั้น Rooftop
    • ลู่วิ่ง (Jogging Track)
    • ลานโยคะ (Peaceful Yoga Court)
    • สนามเด็กเล่น (Sky Playground)
    • โซนสัตว์เลี้ยง (Pet Zone)
    • Birdcage Cabana
    • ลานบาร์บีคิว (BBQ Courtyard)

    • สวนหย่อมรอบโครงการ
    • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 85.5 :  1
    • ที่จอดรถประมาณ 67 คันคิดเป็น 40%
    • ระบบ CCTV / Access Card


    Product Walkthrough

    สำหรับห้องพักของโครงการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1 Bedroom 27 – 29.34 ตร.ม. และ 2 Bedrooms 45.51 – 68.37 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ Built-in บางชิ้นเช่นตู้รองเท้า และ ตู้เสื้อผ้า เนื่องจากโครงการนี้ได้ Sold-out ไปแล้ว ห้องตัวอย่างที่จะพาไปชมจะเป็นห้องพร้อมอยู่ของจริงเลยนะคะ

    เรามาดูห้องแรกคือ 1 Bedroom 27 ตารางเมตร ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับครัวปิดและห้องน้ำก่อนเลย มีตู้รองเท้าอยู่หน้าห้องเอาไว้เก็บรองเท้าให้เป็นระเบียบก่อนเข้าไปในห้อง ครัวปิดนี้ข้อดีคือสามารถป้องกันกลิ่นเวลาทำอาหารได้ ในผังเค้าจัดให้โต๊ะทานข้าวอยู่ใกล้ๆกับประตูบานเลื่อน ซึ่งดูจากระยะอาจจะกระชั้นหน่อย พอดึงเก้าอี้ออกมานั่งอาจจะไปขวางประตูห้องน้ำและประตูบานเลื่อน เราสามารถเอาไปนั่งทานที่พื้นที่นั่งเล่นด้านในได้ค่ะ ถัดเข้าไปในห้องเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่นอนพักผ่อน ให้เราได้ใช้งานอย่างเชื่อมต่อและได้รับแสงธรรมชาติจากระเบียงด้วยค่ะ ข้างๆระเบียงมีมุมให้เราวางโต๊ะทำงานได้ จะได้ทำงานไปชมวิวไปด้วยได้ ส่วนตำแหน่งของตู้เสื้อผ้านั้นจะอยู่ข้างเตียง มีขนาดเพียงพอต่อการใช้งาน 1-2 คน

    ประตูทางเข้าห้องเราได้ตามนี้เลย มีตกแต่งกรอบด้านบนมาให้ด้วย มือจับประตูเป็นแบบก้านโยก

    ระดับพื้นของห้องจะยกสูงขึ้นจากพื้นโถงทางเดิน ซึ่งมีข้อดีคือเวลาแม่บ้านมาทำความสะอาดจะสามารถกันฝุ่นกันน้ำไม่ให้เข้ามาที่ห้องของเราได้

    เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวก่อน ห้องน้ำจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ครัวของห้องนี้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้โดยประตูบานเลื่อนที่กั้นจะช่วยกันกลิ่นและควันของอาหารได้ประมาณนึง แต่พื้นห้องใช้วัสดุเป็นพื้นไม้ลามิเนต อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานในครัวนัก เพราะถ้าซักล้างหรือมีน้ำหกอาจจะทำให้ชื้นหรือบวมได้

    เรามาดูทางฝั่งหน้าห้อง จะเห็นว่าทางเข้าอยู่ระหว่างเคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บรองเท้าเลย ซึ่งจะมีระยะการใช้งานประมาณ 1.18 เมตร สามารถยืนทำครัวได้สบายๆ

    ตู้รองเท้าชุดนี้ทางโครงการให้มาด้วยค่ะ ข้อดีของการมีตู้รองเท้าคือทำให้ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ไม่มีรองเท้าวางเกะกะหรือช่วยลดฝุ่นในห้องได้

    ชุดครัวได้ทั้งตู้ล่างและตู้บนเปิดออกมาเก็บของได้ตามนี้ วัสดุของตู้คือโครงไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต Top เป็นหินควอทซ์ สี Dark Charcoal (เทาดำ)ซึ่งเป็นหินที่แข็งแรงทนทานกว่าหินธรรมชาติ ดูแลรักษาง่าย เกิดรอยขีดข่วนยาก ทนต่อกรดด่างและสารเคมี ผนังด้านหลังครัวติดตั้งกระเบื้องเซรามิคสีขาวครีมมาให้ด้วย สามารถกันคราบน้ำมันจากการทำอาหารกระเด็นมาโดนได้ ตรงกลางของตู้ด้านล่างเป็นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า ส่วนบริเวณด้านข้างของเคาน์เตอร์จะมีพื้นที่ให้วางตู้เย็นค่ะ 

    เตาไฟฟ้าทางโครงการให้มาแบบ 2 หัวของ Hafele เหมาะแก่การใช้งานในห้อง 1 Bedroom

    อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวของ Hafele เช่นกัน รอบๆอ่างมีระยะให้วางของสำหรับเตรียมอาหาร

    เครื่องดูดควันได้ของ Hafele เป็นแบบต่อท่อดูดควันออกด้านนอกค่ะ

    ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องน้ำซึ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ผนังกระจกได้เต็มบานแบบนี้เลยค่ะ ผนังปูด้วยกระเบื้องมาให้รอบห้องค่ะ

    พื้นห้องน้ำจะมีการลดระดับลงทำให้เวลาใช้งานน้ำจะไม่ไหลออกมานอกห้อง

    อ่างล้างหน้าได้ของ Lavenz ที่ด้านล่างเป็นตู้สามารถเปิดออกมาเก็บของเล็กๆน้อยๆได้

    โถสุขภัณฑ์ได้ของ Kohler พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆมาให้ครบ

    พื้นที่อาบน้ำแยกเป็นส่วนเปียกชัดเจนด้วยประตูกระจกนิรภัย ช่วยกันน้ำกระเด็นออกมาโดนส่วนแห้งเวลาที่เราอาบน้ำได้

    พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.13 x 0.83 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่กว้างพอสมควร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน เวลาใช้งานจะไม่ลื่นค่ะ อีกทั้งยังมีธรณีสูงขึ้นมากันน้ำไหลออกไปโดนส่วนแห้งด้วย

    ชุดฝักบัวได้ตามนี้ มีช่องด้านข้างเอาไว้วางของใช้พวกสบู่-แชมพูด้วย

    ชุดฝักบัวของ Kohler ค่ะ จับได้พอดีมือ โดยทางโครงการจะมีเตรียมระบบน้ำร้อนเอาไว้ให้แต่ลูกบ้านต้องซื้อเครื่องมาติดเองค่ะ

    ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและนอนพักผ่อน ซึ่งจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกกรอบบานอลูมิเนียมแบบ 2 ตอน

    เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งๆ สามารถจัดเป็นเตียงแบบ King Size และมีชุดโซฟาอยู่ปลายเตียงได้ ทางฝั่งซ้ายทางโครงการมี Built-in ตู้เสื้อผ้ามาใช้ ส่วนทางฝั่งขวาเป็นประตูทางออกไปที่ระเบียงค่ะ ฝ้าเพดานของห้องนี้จะสูง 2.45 เมตรนะ

    ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาเป็นบานเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง และมีการดีไซน์ให้บานนึงเป็นกระจกเงา เวลาเราจะแต่งตัวก็สามารถมาใช้บานนี้ส่องตรวจสอบการแต่งกายก่อนออกจากบ้านได้

    อีกฝั่งจะเป็นหน้าต่างและประตูทางออกไปที่ระเบียง โดยหน้าต่างเราจะได้แบบ Bay Window ด้วย

    ตรงผนังฝั่งปลายเตียงมีเดินงานระบบสำหรับติดตั้งทีวีมาให้เรียบร้อย

    แอร์ทางโครงการก็มีติดตั้งมาให้ขนาด 18,000 BTU ค่ะ

    ระเบียงมีการออกแบบแยกพื้นที่ Condensing Unit ของแอร์ออกเป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้งระแนงบังสายตามาให้ อีกฝั่งจะเป็นส่วนของ Bay Window หรือ หน้าต่างแบบเข้ามุม

    พื้นที่การใช้งานของระเบียงจะอยู่ที่ 2.83 x 0.65 เมตรค่ะ

    ถัดมาคือ 2 Bedroom 45.51 ตารางเมตร ห้องนี้รองรับกลุ่มครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย หรือ ไม่ก็จะเหมาะกับคนที่มีงบประมาณมากขึ้นมาหน่อย ต้องการอยู่ร่วมกัน 2 คนขึ้นไป ห้องนี้วางผังแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนทำกิจกรรมร่วมกันและพื้นที่พักผ่อนแยกออกจากกันชัดเจน กั้นเป็นสัดส่วน ซึ่งมีข้อดีคือถ้าสมาชิกอีกคนมีเพื่อนมาหา เราก็สามารถอยู่ในห้องนอนพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว ครัวห้องนี้เป็นครัวเปิดตั้งอยู่บริเวณหน้าห้อง ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมาะกับทำอาหารเบาๆหรือซื้ออาหารมาทานในห้องมากกว่า ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารจัดได้ 4 ที่นั่งและยังมีพื้นที่รอบๆเหลืออีก ด้านในสุดจึงจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียง ที่สามารถนั่งชมวิวได้เต็มที่เพราะมีพื้นที่วาง Condensing Unit เป็นสัดส่วน อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องนอนใหญ่ และ ห้องนอนเล็ก ที่ต้องใช้ห้องน้ำรวมกันค่ะ

    ห้องนี้พอเปิดประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่โล่งๆเลย ซึ่งสามารถจัดเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้เช่นพื้นที่รับประทานอาหาร นั่งเล่น เป็นต้น อีกฝั่งคือพื้นที่พักผ่อน

    ส่วนฝั่งหน้าห้องเป็นครัวในลักษณะของครัวเปิด เหมาะกับการทำอาหารง่ายๆหรือซื้ออาหารเข้ามาทาน  บริเวณนี้ทางโครงการไม่ได้กั้นผนังมาให้ ซึ่งถ้าเราอยากต่อเติมเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ แนะนำเป็นผนังกระจกเพราะห้องจะได้ดูโปร่ง ไม่ทึบตัน

    ชุดครัว Spec ต่างๆได้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ เคาน์เตอร์จะเป็นรูปตัวแอลเข้ามุม มีช่องเอาไว้วางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า ด้านข้างเป็นพื้นที่วางตู้เย็น

    โครงการติดตั้งผนังกันเปื้อนมาให้เช่นเดียวกันค่ะ สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดเวลาทำอาหารได้ ชุดอุปกรณ์ต่างๆทั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันได้เหมือนกับห้องก่อนหน้า

    ช่องตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าค่ะ

    ถัดมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาได้ประมาณ 2-3 ที่นั่ง โดยจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร ถัดไปเป็นทางออกไปที่ระเบียง ตรงนี้เราสามารถนั่งชมวิวได้ค่ะ มีแอร์ติดตั้งมาให้ด้วย

    ระเบียงมีแยกพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์เป็นสัดส่วน ซึ่งไม่ตรงกับหน้าต่างเวลาเรามองออกนอกน้องจะได้ไม่บดบังวิวค่ะ

    พื้นที่ระเบียงจะมีขนาด 2.90 x 0.65 เมตร ราวกันตกระเบียงสูง 1.10 เมตรค่ะ

    ต่อมาเราจะพาไปชมอีกฝั่งของห้องคือห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำ และห้องนอนเล็กค่ะ โดยห้องน้ำของห้องนี้จะดีไซน์เหมือนห้องก่อนหน้า ดังนั้นจึงขอข้ามไปนะคะ

    ห้องแรกคือห้องนอนเล็กเป็นห้องที่มีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศและชมวิวได้ด้วย สามารถวางเตียงแบบ Queen Size ได้แต่ถ้าวางเป็นเตียงเล็ก 3.5 ฟุตก็จะมีพื้นที่ข้างเตียงมากขึ้นค่ะ ห้องนอนกั้นผนังเป็นสัดส่วนดีดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัวเวลาใช้งาน

    อีกมุมหนึ่งฝั่งหน้าห้องค่ะ ตำแหน่งการวางแอร์ทางโครงการติดตั้งมาด้านข้างซึ่งลมเย็นจะไม่เป่าเข้าหน้าเราโดยตรงค่ะ

    อีกห้องหนึ่งคือห้องนอนใหญ่ มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถวางเตียงได้แบบ King Size และมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก หรือจะเอามาใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ค่ะ บริเวณโต๊ะและเตียงมีติดตั้งปลั๊กมาให้ครบซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้ดี เราสามารถวางโคมไฟหรือชารจ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้

    หน้าต่างส่วนใหญ่จะเป็นบาน Fix แต่จะมีบานกระทุ้งให้สามารถเปิดระบายอากาศได้

    บรรยากาศฝั่งหน้าห้องค่ะ ทั้งห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กเราจะได้ตู้เสื้อผ้ามาด้วย ดีไซน์เดียวกับห้องแบบ 1 Bedroom ค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 6 November 2018 

    เนื่องจากโครงการได้ Sold Out ไปแล้ว ห้องที่มีขายจึงเป็นแบบ Resale โปรดสอบถามรายละเอียดจากทางโครงการเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-1161111 ค่ะ

    • 1 Bedroom 27 – 29.34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.8 ล้านบาท (ราคา Pre-Sale ณ.วันเปิดตัวโครงการ)
    • 2 Bedrooms 45.51 – 68.37 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
    • Fully Fitted
    • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
    • Kitchen & Sink
    • Hob & Hood
    • จอง n/a บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นคอนโด Low Rise ที่ตั้งอยู่ใจกลางอนุสาวรีย์ชัยแท้ๆ รายล้อมไปด้วยแหล่งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ซึ่งถ้าเราสังเกตจะเห็นว่าคอนโดที่มาขึ้นในทำเลนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ค่อนไปทางพญาไทซะมากกว่า นั่นเป็นเพราะบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯนั้น มีกฎหมายควบคุมการก่อสร้าง ได้แก่ กฎหมายอาคารกำหนดไว้ว่าสิ่งปลูกสร้างที่อยู่โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะต้องถูกจำกัดความสูงไม่เกิน 16 เมตร (ประมาณอาคาร 4-5 ชั้น) ในรัศมี 200 เมตร และสูงไม่เกิน 24 เมตร (ประมาณคอนโด 8 ชั้นทั่วไป) ทำให้รอบๆพื้นที่ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ฯฝั่งถนนราชวิถีนี้จึงไม่มีคอนโด High Rise ขึ้นมาให้เห็นกัน โดยโครงการ MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ อยู่ในระยะที่สร้างได้ 8 ชั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมโครงการนี้จึงเป็นคอนโด Low Rise ที่อยู่ติดถนนใหญ่นั่นเองค่ะ

    สำหรับทำเล ถ้าพูดถึงอนุสาวรีย์ชัยฯทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์เลย มีครบทั้ง Century Movie Plaza ห้างใหญ่ของย่านอนุสาวรีย์ที่มี Tops Supermarket, ร้านอาหาร, ธนาคาร, โรงหนัง Century รอบๆที่ตั้งโครงการในระยะเดินจะใกล้ถนนรางน้ำนี่ร้านอาหารเพียบ หาของกินง่าย 7-11 เยอะ มี King Power ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปลอดภาษีที่ชาวต่างชาติชอบมาเดินกัน แถมภายในจะมีโรงละครอักษราอยู่ คนที่ชอบดูละครเวทีหรือพวกงาน Stage ต่างๆ ก็น่าจะถูกใจ และยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนสันติภาพ คนชอบออกกำลังกายก็ไปวิ่งเล่นได้ทุกวัน หรือถ้าใครชอบเดินช็อปแนวสตรีทหน่อย ที่รอบๆวงเวียนอนุสาวรีย์ฯก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงห้างอื่นอีกอย่าง Victory Mall, Fasion Mall และ Center One ที่ทั้งหมดเราสามารถเดินไปจากโครงได้ค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรวมของโรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยสำหรับนักศึกษาแพทย์และวิทยาลัยพยาบาลอยู่เยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกรมแพทย์ทหารบก, วิทยาลัยพยาบาล, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมงกุฏ, คณะเภสัชมหาวิทยาลัยมหิดล, โรงยาบาลรามาธิบดี ฯลฯ ซึ่งมันก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ย่านนี้มีผู้คนหนาแน่นขึ้นไปอีก และมีอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็หาได้ง่ายที่ราคาไม่แพงมาตั้งเต็มไปหมดค่ะ

    การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกมากๆเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ราชวิถี และด้านข้างทางทิศตะวันตกอยู่ติดกับซอย ราชวิถี7 ซึ่งเป็นซอยเดินรถทางเดียวที่เชื่อมต่อกับซอย รางน้ำได้ซึงซอยราชวิถีฝั่งเลขคี่ส่วนใหญ่จะเป็นถนนที่เดินรถทางเดียว ถนนราชวิถีใกล้กับโครงการจะมีทางแยกสำคัญๆอยู่ 2 แยกคือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นจุดตัดถนนหลักสามารถเชื่อมต่อได้ทุกเส้นทางไม่ว่าจะเป็นไปราชวิถีตอนปลาย ไปพหลโยธิน และไปพญาไทได้ ทางฝั่งขวามือก็จะมีแยกสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งเป็นถนน 3 เส้นทางคือ ถนนราชปรารถใช้ไปยังประตูน้ำ และถนนดินแดงไปยังพระราม 9 และถนนราชวิธีไปทางตะวันตกไปสะพานซังฮี้ได้

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถทำได้สะดวก เนื่องจากมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ไม่ไกลจากโครงการ ระยะทางประมาณ 400 เมตร สามารถเดินได้สบายบน Sky Walk ด้านบน และนั่งไปเพียง 1 สถานี ไปยังพญาไทก็เป็นจุด Interchange กับเส้น Airport Link ด้วย นอกจากนั้นอีกเพียง 2 สถานีก็จะถึงสถานีสยาม เป็นจุดเปลี่ยนเส้นรถไฟฟ้าสายสีลมได้ นอกจากจะมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ใกล้กับโครงการแล้ว ยังใช้บริการรถสาธารณะอย่างวินมอเตอร์ไซค์ก็สะดวก เนื่องจากด้านหน้าโครงการมีวินตั้งอยู่ จะเรียก Taxi ก็สามารถทำได้ง่ายค่ะ เนื่องจากถนนราชวิถีเป็นถนนสายหลักมีรถผ่านอยู่ตลอดเวลา หรือใครที่ชอบนั่งรถประจำทางก็จะมีผ่านอยู่ตลอดค่ะ เนื่องจากมีจุดรวมอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั่นเอง รวมถึงมีศูนย์รวมของวินรถตู้ไปยังสถานที่ต่างๆค่ะ

    วัสดุ ให้มาได้มาตรฐาน เฟอร์นิเจอร์ขายแบบ Fully-Fitted มีชุดครัวที่อุปกรณ์ต่างๆเป็นของ Hafele  สุขภัณฑ์ แอร์ เฟอร์นิเจอร์ Built-in บางรายการมาให้เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางรองเท้า สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler และ Lavenz  พื้นเป็นไม้ลามิเนต ในห้องน้ำกรุกระเบื้องแกรนิตโต้

    การออกแบบ ทำออกมาได้ดี ทั้งการออกแบบตัวอาคารและส่วนของการวางผังที่มีการแยกส่วนห้องพักออกจากพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และในทิศที่มีตึกบีงทางโครงการก็เลือกที่จะไม่วางผังห้องพักในทิศนี้ ในห้องพักเองก็ออกแบบได้ลงตัว มีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน แยกพื้นที่ทำกิจกรรมและพื้นที่พักผ่อนได้ชัดเจนค่ะ

    สาธารณูปโภค เป็นคอนโด Low Rise ที่มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้ครบครัน และทำออกมาได้น่าใช้งาน ทั้ง Lobby , Kid’s Room , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำระบบเกลือ , ห้องสมุดหรือพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) , ห้องน้ำที่มีห้องสตีมและ ซาวน่า ส่วนชั้นบนจะมี Rooftop ซึ่งจะมีการจัดโซนแบ่งออกเป็น ลู่วิ่ง , ลานโยคะ , โซนสัตว์เลี้ยง , พื้นที่นั่งเล่น Birdcage Cabana และ ลานบาร์บีคิว

    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคา AVG 140,000 บาท/ตร.ม.,  6 November 2018 

    • ทำเล 8.5/10 – ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ราชวิถี ใจกลางอนุสาวรีย์ฯที่อุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย ใกล้ BTS 
    • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวกเพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน มีซอยลัด 
    • ไม่ใช้รถ 8/10 – ห่างจาก BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ 400 เมตร สามารถเดินได้สบายบน Skywalk 
    • วัสดุ 7.5/10 – ให้มาได้มาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted 
    • แบบ 7.75/10 – ออกแบบได้ดี ลงตัวทั้งการวางผังและแบบห้อง
    • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันและน่าใช้งาน 

    • HIGH CLASS
    • 7.98/ 10.00

    BOTTOM LINE

    MAESTRO 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดติดถนนใหญ่ ที่เลี้ยงสัตว์ได้ ในทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯแท้ๆ อาจจะเป็นคนที่ทำงานอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรือ เป็นคนที่ชอบความอุดมสมบูรณ์ หาของกินง่ายและเดินทางสะดวก  มีงบประมาณ 3.8-10 ล้าน   หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 27,000-70,000 บาท/เดือน