สวัสดีค่ะ … วันนี้ Thinkofliving เรามีบทความรวมคอนโดใกล้ BTS ตลาดพลู ฉบับ UPDATE ปลายปี 2019 นี้มาฝากกันค่ะ โดยเราจะมีเรื่องราวของทำเลนี้มาเล่าให้ฟัง พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลของคอนโดย่านนี้มาให้อ่านกันด้วยค่ะ ติดตามอ่านกันต่อได้เลย


Highlight 2019

คอนโดมือ 1 เรียงลำดับจากราคาเริ่มต้น

คอนโดมือ 2 เรียงลำดับจากราคาเริ่มต้น

ความเป็นมา… รถไฟฟ้า BTS

ก่อนอื่นเลยขอพูดถึงรถไฟฟ้า BTS กันก่อน เรามารู้จักเรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟฟ้าของชาวกรุงเทพกันนะคะ เมื่อปี 2542 เดือนธันวาคม คนกรุงเทพได้รู้จักรถไฟฟ้ากันเป็นครั้งแรก โดยสายเเรกที่เปิดใช้บริการคือสายสุขุมวิท เส้นทางการเดินทางเริ่มต้นจากสถานีหมอชิตไปจนถึงสถานีอ่อนนุชซึ่งอยู่อีกฝั่ง และ สายสีลม ที่เดินทางจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติมายังสถานีสะพานตากสิน โดยทั้งสองสายนี้จะมีตัดกันที่สถานีรถไฟฟ้าสยามค่ะ สยามเลยกลายเป็นใจกลางเมืองไปโดยปริยายเลย คือถ้าเป็นวัยรุ่นขับรถไม่เป็นเนี่ย จะนัดกันที่สยามคือง่ายสุด เข้าใจตรงกันว่าเป็นกึ่งกลางของทุกคนอะไรประมาณนั้นเลย ซึ่งการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้านั้น นับว่าเป็น Big Change อย่างหนึ่งที่เปลี่ยนเเปลงวิถีชีวิตของคนกรุงเทพเลยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเดินทาง ที่เราสามารถเดินทางไปมาได้สะดวก สามารถควบคุมเวลาเดินทางของตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งลมพึ่งฟ้า ฝนตก รถติดกันอีกต่อไป

ต่อมาเมื่อเดือน พฤษภาคม ปี 2552 ได้มีการเปิดใช้บริการส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้า BTS สายสีลมขึ้น เพิ่มเติมจากสถานีสะพานตากสิน มายังสถานีวงเวียนใหญ่ ซึ่งทำให้ชาวฝั่งธน ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งพระนครไป ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้น สามารถมายังตัวเมืองที่เป็นทำเลเศรษฐกิจ อย่างสีลม สาทร สยาม อโศกง่ายขึ้นนะคะ ไม่ต้องขึ้นเรือ ต่อรถ ต่อมอเตอร์ไซค์ หรือเสียเวลา เดินทาง 2 ชม.ต่อเที่ยวอีกต่อไป  และในช่วงปี 2556 นี้เอง จากสถานีวงเวียนใหญ่ ก็มีการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายไปยังสถานีอื่นๆอีกมากขึ้น โดยเปิดไล่ไปยังสถานีโพธิ์นิมิตร สถานีตลาดพลูและจนมาถึงสถานีบางหว้า ดังที่เห็นกันในปัจจุบัน

หลังจากที่ชาวกรุงอย่างเรามีรถไฟฟ้าใช้กันเเล้ว การเดินทางไปเรียน ไปทำงานของคนเมืองหรือนักเรียนนักศึกษา ก็เริ่มพึ่งพาการใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น (แน่นอนว่าคนทำงานบางคนและนักเรียน นักศึกษา ยังไม่สามารถมีกำลังเก็บเงินซื้อรถเป็นของตัวเองได้ ถ้าบางคนอยากวางเเผนการเงินขึ้นมา การซื้อรถยนต์ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่าเสื่อม Depreciation ตลอดเวลา ซึ่งต่างจากการซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์) ดังนั้น ความต้องการที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้ามีสูงขึ้น Developer เจ้าต่างๆก็ต่างหาที่ดินมาพัฒนาเป็นคอนโดหรือที่พักอาศัยกันอย่างครึกครื้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนเเปลงที่อยู่อาศัยของคนเมืองกันเลยทีเดียวค่ะ

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีลมเอง ในปัจจุบันจะเริ่มให้บริการตั้งแต่สถานีสนามกีฬาเเห่งชาติ มาสิ้นสุดที่สถานีบางหว้า โดยจากสถานีสนามกีฬามาจนถึงสถานีสะพานตากสิน โซนนี้ส่วนมากเป็นโซนทำงาน ห้างสรรพสินค้า (สยาม สีลม ช่องนนทรี) จนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามานั่นแหละค่ะ เราถึงจะเริ่มเห็นคอนโดพักอาศัยแนวใกล้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น คือนอกจากใช้รถไฟฟ้าเดินทางเข้าออกเมืองหรือไปทำงานกันได้ง่ายเเล้ว ถ้าจะขับรถไปสีลมหรือสาทรเนี่ย ระยะทางมันใกล้มากๆเลยค่ะ คือเหมาะกับคนที่ทำงานเเถวสีลม-สาทรแล้วอยากหาคอนโดใกล้ๆที่เดินทางสะดวก (คือถ้าจะไปซื้อคอนโดเเถวอ่อนนุช ระยะเวลาการเดินทางถึงเเม้จะเป็นรถไฟฟ้าก็ร่วมชม.เลยนะคะ คิดถึงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นเข้าไปอีก การมีคอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่ไกลจากที่ทำงานอาจไม่ได้สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างที่คิดก็ได้) โดยถ้าเราลองไล่ไปตามสถานีต่างๆหลังจากสถานีสะพานตากสินเนี่ยจะมีคอนโดขึ้นใกล้ๆรถไฟฟ้าแทบทุกสถานีเลย แต่สถานีที่น่าสนใจเเละเราอยากแนะนำกันคือสถานีตลาดพลูค่ะ ที่เราบอกว่าน่าสนใจคือ สถานีนี้นับเป็นสถานีที่มีความอุดมสมบูรณ์หนาแน่นมาก และการเดินทางที่สะดวกมากค่ะ เราไปดูกันดีกว่าว่าทั้งการเดินทางเเละของกินแถวนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง

ประวัติย่านตลาดพลู

ซึ่งถ้าเราจะพูดถึงรถไฟฟ้าตลาดพลูกันแล้ว เราจะไม่รู้เรื่องราวของตลาดพลูก็คงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมค่ะ สำหรับประวัติความเป็นมาของย่านตลาดพลูนี้ เดิมพื้นที่บริเวณนี้มีชาวจีนมาตั้งถิ่นฐานกันตั้งเเต่สมัยกรุงธนบุรีเลยค่ะ (ก่อนที่จะเป็นกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีกรุงเทพเป็นเมืองหลวงอย่างในปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อมีการย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรีมาเป็นกรุงเทพหรือข้ามมาฝั่งพระนครเเล้ว ชาวจีนท้องถิ่นนั้นจึงมีการย้ายถิ่นตามมายังฝั่งพระนครมากขึ้น โดยถิ่นฐานที่ย้ายกันมาอยู่มากก็จะเป็นย่านสำเพ็งเยาวราชที่เราคุ้นเคยกันดีในปัจจุบัน ส่วนถิ่นเดิมอย่างตลาดพลูนั้น ก็มีชาวมุสลิมจากภาคใต้เข้ามาอาศัยแทนที่ เเละเริ่มประกอบอาชีพทำสวนพลูกัน จนกลายเป็นอาชีพที่แพร่หลายของคนย่านนี้ ค้าขายกันยิ่งใหญ่จนกลายเป็นตลาดซื้อขายพลูขึ้นมา และเป็นตลาดพลูอย่างที่เราเรียกกันติดปากในปัจจุบันนี่เองค่ะ

ถ้าดูจากผังข้างบน ตลาดพลูในปัจจุบันจะตั้งอยู่บนถนนเทอดไท ที่สามารถใช้เดินทางไปยังแยกท่าพระ วงเวียนใหญ่ บางหว้า (ถนนเพชเกษม)ได้ หรือจะเป็นถนนราชพฤกษ์ ถนนรัชดาภิเษก เพื่อข้ามไปยังพระราม 3 ก้ได้เช่นกัน ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลูนั้นจะอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ห่างจากตัวตลาดพลูจริงๆประมาณ 800 เมตรนะคะ สามารถเรียกใช้พี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการไปยังตลาดพลูได้เลย

เรื่องอาหารการกิน

ในตลาดพลูเนี่ย ถือว่าเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงทางด้านร้านอาหาร ของกินอร่อย มีตลาดวัดกลางเป็นตลาดที่ขายทั้งอาหารแห้งและอาหารสด มีของกินของใช้วางขายด้วย ตัวตลาดจะมีกลิ่นอายของยุคเก่า บ้านเรือนไม้และตึกแถว ของขึ้นชื่อก็เช่น หมี่กรอบจีนหลี ร้านกุยช่าย ข้าวหมูแดงหมูกรอบ เป็นต้นค่ะ

นอกจากตลาดพลูเเล้วอีกจุดหนึ่งความอุดมสมบูรณ์หลักของบริเวณนี้คือเดอะมอลล์ท่าพระค่ะ ตัวเดอะมอลล์ท่าพระนับว่าเป็นห้างที่ยังมีคนเข้าไปใช้บริการกันอย่างหนาแน่น มีทั้งร้านอาหารแบบที่ห้างทั่วไปมี มีโรงหนัง ร้านกาแฟ ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมไปจนถึงฟิตเนส เปิดให้บริการ คนแถวนี้ที่เบื่อการเดินตลาด อยากกินอาหารฟาสฟู้ด อยากดูหนังพักผ่อน ก็มายังเดอะมอลล์ท่าพระนี้ได้ อีกอย่างฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ ก็จะมีตลาดซอย 13 ไทยช่วยไทยพลาซ่า ร้านอาหาร ร้านแผงลอยเต็มไปหมด ทำให้ย่านนี้มีบรรยากาศคึกคัก สะดวกสบายสำหรับคนอยู่อาศัยแถวนี้ที่ไม่ชอบทำอาหารเองค่ะ นอกจากตลาดเเละห้างเเล้ว บางคนก็อาจจะอยากรู้นะคะว่า เเถวนี้เนี่ย มี Hyper Market อย่าง Lotus หรือ Big C รึเปล่า เผื่ออยากซื้อของใช้ราคาถูกจำนวนมาก เราก็ต้องขอบอกเลยว่า Hyper Market มีนะคะ แต่อาจจะไม่ได้ใกล้มากขนาดเดินถึง คือจะเป็น Big C ดาวคะนองที่อยู่เลยไปบนถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินค่ะ

นอกจากอาหารการกินซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของชาวชอบกินอย่างเราเเล้ว เรื่องอื่นๆที่เราควรคิดถึงก็มีความสำคัญนะคะ อย่างเช่นบริเวณที่เราจะอยู่เนี่ย มีโรงพยาบาลอะไรใกล้ๆไหม เผื่อเจอเหตุฉุกเฉิน รู้ไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไรใช่ไหมค่ะ ซึ่งบริเวณสถานีตลาดพลูนี้ ก็มีโรงพยาบาลชื่อดังอยู่เช่นโรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี และโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า หรือถ้าจะเป็นโรงเรียน บริเวณนี้ก็จะมีโรงเรียนเช่น โรงเรียนอำนวยศิลป์ศึกษา โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ โรงเรียนสตรีกุหลาบธนบุรี แต่ถ้าอยากได้โรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อย อาจจะต้องข้ามสะพานกรุงเทพมายังโซนพระราม 3 ก็จะมีโรงเรียนตระกูลสารสาสน์ตั้งอยู่และโรงเรียน เซนต์ยอแซฟ ยานนาวา หรือจะข้ามสะพานตากสินมายังฝั่งสาทรก็จะมีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเเละอัสสัมชัญอยู่ค่ะ

การเดินทางในย่านตลาดพลู

จบกันจากหมวดการกินและสถานที่กันเเล้ว เรามาดูอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยของคนกันดีกว่าค่ะ ปัจจัยนั้นคือการเดินทางนั่นเอง บริเวณรถไฟฟ้าสถานีตลาดพลูนี้จะตั้งอยู่ใกล้ๆกับสี่เเยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนรัชดาภิเษกกับถนนราชพฤกษ์ค่ะ

ถนนรัชดาภิเษก นั้น เมื่อเลยตลาดพลูไปก็จะสามารถเชื่อมไปยังถนนจรัญสนิทวงศ์ ใช้เดินทางไปยังตลิ่งชันได้ หรือถ้าไปอีกฝั่งนึงก็จะไปยังสะพานกรุงเทพที่ข้ามไปยังถนนพระราม 3 ได้ และถนนรัชดาภิเษกนี้ นอกจากจะตัดกับถนนราชพฤกษ์แล้ว ยังตัดกับถนนเทอดไท ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน (ใช้เดินทางไปยังวงเวียนใหญ่และดาวคะนอง) ถนนเจริญนคร (ใช้เดินทางไปยังถนนกรุงธนบุรีและถนนราษฎร์บูรณะ)

ส่วนถนนราชพฤกษ์ จะเป็นถนนที่ต่อมาจากถนนกรุงธนบุรี ที่เมื่อข้ามสะพานตากสินไป จะกลายเป็นถนนสาทรใต้ และจะตัดกับถนนเจริญนครและถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน(คล้ายกับถนนรัชดาภิเษกเลย ถ้ามองจากแผนที่ถนนจะตัดกันเป็น 3 เหลี่ยมค่ะ) ถ้าไปอีกฝั่งนึงจะไปตัดกับถนนวุฒากาศ และสามารถแยกไปยังถนนกัลปพฤษ์ และไปยังโซนพุทธมณฑลได้ค่ะ

ซึ่งถ้ามองเรื่องการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก นับว่าทำเลนี้สามารถใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนอื่นๆได้หลายสาย หลายเส้นทาง ทั้งเข้าและออกเมืองได้สะดวกเลยนะคะ แต่สำหรับคนที่ต้องการใช้ทางด่วน ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนศรีรัช ที่ต้องไปขึ้นที่สาทรเลย ข้ามสะพานตากสินไป หรือทางด่วนเฉลิมมหานครที่แถวพระราม 3 เลยค่ะ

สำหรับคนที่ถนัดใช้บริการการขนส่งสาธารณะ สำหรับบริเวณนี้ก็จะมีทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า BTS, BRT วินมอเตอร์ไซค์ หรือแท็กซี่ ก็มีให้เลือกใช้แทบทุกรูปแบบเลยค่ะ เราสามารถใช้รถไฟฟ้าโดยการขึ้นจากสถานีตลาดพลูเพื่อใช้ในการเข้าเมืองไปยังย่านสาทร หรือเลยไปถึงสยามได้ง่าย หรือจะไปยังบางหว้าก็ได้ ส่วนในอนาคตบริเวณ BTS บางหว้านั้นจะ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ให้สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้หลากหลายมากขึ้นด้วยนะคะ และอีกตัวเลือกนึงสำหรับใครที่เรียนหรือทำงานในย่านพระราม 3 หรือจะไปสีลมและสาทรนั้นก็มี BRT รองรับเช่นเดียวกัน โดยขึ้นได้ที่สถานีราชพฤกษ์ ตำแหน่งทางขึ้นอยู่ใกล้กับสี่เเยกรัชดา-ราชพฤกษ์เลย เรียกว่าสะดวกในการเดินทางมากๆ แถมราคาก็น่าคบหาอีกด้วยค่ะ


CONDOMINIUM

 

เรามาดูโครงการที่มีอยู่แถว BTS ตลาดพลูกันดีกว่านะคะ คอนโดที่ขึ้นมาบริเวณใกล้ BTS ตลาดพลูนั้นนอกจากคอนโดที่ขึ้นเลียบถนนราชพฤกษ์แล้ว ยังมีอีกส่วนที่ขึ้นมาริมถนนรัชดาภิเษกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีคอนโดที่อยู่ในซอยอีก แล้วตรงไหนดีกว่ากัน? หลายคนอาจเกิดคำถามใช่ไหมค่ะ เราลองมาวิเคราะห์สนุกๆกันดีกว่า ว่าแต่ละฝั่งนี้ดีหรือไม่ดีอย่างไร

Zone 1 

มาดูฝั่งเเรกกันดีกว่าค่ะ ฝั่งนี้ข้อดีสุดๆเลยคือ ใกล้กับตลาดพลูมาก เดินไปตลาดหาของกินได้ บรรยากาศมีความเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเก่า มีทั้งวัด ตลาด กระจายอยู่ ภายในซอยเทอดไท 33 เป็นอีกถนนที่มีความสำคัญ เพราะสามารถใช้เดินทางจากถนนราชพฤกษ์ไปยังถนนเทอดไทได้ เเละใช้ไปยังถนนรัชดาภิเษกได้ค่ะ คอนโดเเถบนี้จะมีอยู่ 5 โครงการเลย ตัวคือ Life Condo @ ท่าพระที่เป็นโครงการเก่า กับ Life Sathorn Sierra ที่เพิ่งเปิดตัวจาก AP , The Matt สาทร-ท่าพระ และ The Matt สาทร-ท่าพระ 2 จากวีไอพี และThe Regent Orchid ตลาดพลู

บริเวณนี้การเดินทางมีข้อด้อยเล็กน้อย ตรงที่ถ้าเราจะเดินทางจากฝั่งนี้ไปยังสะพานตากสิน เราต้องออกไปยังถนนเทอดไทก่อนเเล้วเลี้ยวขวาไปยังถนนรัชดาภิเษก พอถึงสี่เเยกค่อยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์นะคะ หรือจะกลับรถใต้สะพานข้ามเเยกตลาดพลูก็ได้ค่ะ เพียงเเต่ถ้าเราออกมาจากซอยเทอดไท 33 เราจะไม่สามารถตรงไปถนนราชพฤกษ์ได้โดยตรง

และอีกเรื่องคือตัวรถไฟฟ้า BTS จะมีทางขึ้นลงสถานีอยู่อีกฝั่งค่ะ (ติดถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออก) ซึ่งถ้าเราจะเดินไปสถานีนั้นต้องเดินลอดใต้ถนนเป็นสิบเลนเลย ซึ่งตอนกลางคืนก็ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น แต่ก็ถือว่าโชคดีที่มีทางเท้าให้เดินนะคะ

Life @ BTS ท่าพระ

มาที่ตัวแรกคือ Life @ BTS ท่าพระ ตัวนี้ถือว่าเป็นคอนโดตึกสูงตัวเเรกๆของทำเลนี้เลยค่ะ ตั้งอยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษก (ทางเข้าจะใกล้กับสะพานข้ามไปยังถนนจรัญสนิทวงศ์)  ระยะห่างจาก BTS อยู่ที่ประมาณ 600 เมตร สำหรับคอนโดนี้ ทาง Thinkofliving เราเคยทำรีวิวเอาไปแล้ว
สำหรับคนที่สนใจอยากอ่านเพิ่มเติมคลิกเลยค่ะ รีวิว : Life Condo @ ท่าพระ

ปล.โครงการสร้างเสร็จเมื่อปี 2012 ดังนั้นในปัจจุบันจะต้องหารูปแบบห้องที่เป็นมือ 2 เท่านั้นแล้วค่ะ โครงการนี้เป็นอาคารสูง 17 ชั้น  672 ยูนิต รูปแบบห้องมีตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms มีร้านค้าอยู่ชั้นล่างสุด และเนื่องจากเป็นโครงการที่เก่าแล้วดังนั้นพื้นที่ส่วนกลางจึงไม่จัดเต็มเหมือนคอนโดในยุคหลังๆนะคะ โดยจะมีอยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 6 เท่านั้น แต่ก็มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่นั่งเล่นให้มา แต่ขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ เราเเอบไปส่องตามเวปขายคอนโดมือสองมา (August 2018) ขายอยู่ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 55,000-75,000 ค่ะ

ราคาขาย Update (December 2019) จากเวปซื้อ-ขาย คอนโดมือสองจะอยู่ที่ช่วงราคา 1.69 – 6.59 ล้านบาท หรือ 44,xxx – 78,xxx บาทต่อตร.ม. จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของโครงการนี้คือราคาห้องต่อตร.ม.ที่ถูกกว่าโครงการอื่นโดยรอบเลยนะคะ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังอยากได้ห้องที่มีพื้นที่มาก ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

Life Sathorn Sierra (NEW 2019)

โครงการ Life Sathorn Sierra เป็นโครงการใหม่จาก AP ที่เพิ่งเปิดตัวมาในปี 2019 นี้ค่ะ โครงการนี้จะมีข้อแตกต่างจากชาวบ้านเรื่องทำเลอยู่นะคะ ถึงแม้ทางเข้าจะอยู่ที่ถนนราชพฤกษ์ แต่จะอยู่ฝั่งมุ่งหน้าเข้าเมือง แต่ว่าเลยแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ไปแล้ว ทำให้ในกรณีที่ใช้รถส่วนตัวขับวนเพื่อเข้าไปยังตลาดพลูหรือไปยัง The Mall ท่าพระ อาจจะต้องกลับรถนิดนึง แต่ถ้าขับเข้าเมืองไปยังสาทรแล้วถือว่าสะดวกกว่ามากค่ะ
ชมรายการ The Sneak : Life Sathorn Sierra

โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ สูง 40 ชั้น 1,971 ยูนิต รูปแบบการขายเป็นแบบ Fully Fitted และราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 99,000 บาทต่อตร.ม.ค่ะ ส่วนราคาเริ่มต้นของห้องแต่ละแบบจะอยู่ที่ Studio เริ่มต้น 2.6 ล้านบาท , 1 Bedroom เริ่มต้น 3 ล้านบาท , 1 Bedroom Plus เริ่มต้น 3.4 ล้านบาท และ 2 Bedrooms เริ่มต้น 5.5 ล้านบาทค่ะ ปัจจุบันโครงการเริ่มขายรอบ VIP ไปบ้างแล้วนะคะ แต่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ดังนั้นใครสนใจอาจจะต้องรอกันอีกซักนิดค่ะ

ส่วนจุดเด่นของโครงการนี้ที่เห็นชัดเลยคือพื้นที่ส่วนกลางที่สระว่ายน้ำยาวมากเลยทีเดียวและมี Sky Facilities ที่ชั้น 40 อีกด้วย ชมวิวได้เต็มที่เลยค่ะ

The Matt สาทร – ท่าพระ 

มาดูอีกตัวหนึ่งที่อยู่ฝั่งนี้กันดีกว่า The Matt สาทร – ท่าพระ เป็นคอนโด Low Rise ตั้งอยู่ในซอยเทอดไท 33 ค่ะ คอนโดสูง 8 ชั้น จำนวนยูนิตอยู่ที่ 178 ยูนิต มีที่จอดรถประมาณ 48 % ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ แต่ด้วยข้อดีคือใกล้รถไฟฟ้าสามารถเดินได้ระยะทางอยู่ที่ประมาณ 400 เมตร จึงเหมาะกับคนที่เดินทางด้วยการใช้รถไฟฟ้ามากกว่า โครงการมีแนวคิดการออกแบบที่ว่า “Let’s match your life” สามารถ Match ชีวิตของคุณได้ด้วยตัวเอง กับพื้นที่ส่วนกลางที่จัดมาให้หลากหลาย มีแบบห้องให้เลือกหลายฟังก์ชัน รวมถึงสามารถเลือกโทนสีวัสดุในห้องได้ด้วยค่ะ ไหนๆโครงการนี้ก็ขายการ Match Lifestyle กับการอยู่อาศัยเเล้ว เรามาดูส่วนกลางกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรให้เราสามารถ Match ได้บ้าง

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ มีสระว่ายน้ำ , ฟิตเนสมาให้ใช้สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย มีพื้นที่นั่งเล่นชมสวนสำหรับสายชิลล์ มี Creative Co-Working Space พร้อม High Speed Wi-Fi รองรับการทำงานของเหล่ามนุษย์เงินเดือนและ Freelance ทั้งหลาย มีความสะดวกสบายเพิ่มให้ด้วย Grab & Go เครื่องจำหน่ายอาหาร+เครื่องดื่มตลอด 24 ชั่วโมงเผื่อให้หิวตอนดึกแล้วไม่อยากเดินออกไปข้างนอก และ Washer & Dryer Zone ห้องซักผ้าแยกส่วนค่ะ

และอีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้คือการที่เราสามารถเลือก Style ห้องได้ด้วยการเลือกวัสดุตกแต่ง โดยทางโครงการจะมีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 3 แบบคือ Sweet Escape หวานๆ อบอุ่นๆ, Marble Delight โทนสีขาวๆ คลีนๆ หินอ่อนๆ และสุดท้ายคือ Tropical Vibes เป็นโทนสีที่ดูเข้มขึ้นมาหน่อยค่ะ

โดยปัจจุบัน The Matt Condo กำลังจะเริ่มก่อสร้าง และคาดว่าจะเสร็จภายในปี 2563 โครงการขายเเบบ Full Furnished มีห้องให้เลือกเริ่มจาก 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม., 1 Bedroom Plus 31-45 ตร.ม., 1 Bedroom Extra 34 ตร.ม.และ2 Bedrooms 58-60 ตร.ม. ราคาห้องเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น) และราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้น 56,000 บาท/ตร.ม.
สามารถเข้าไปอ่าน รีวิว The Matt สาทร – ท่าพระ ได้เลยค่ะ

ราคา Update (December 2019) เนื่องจากโครงการนี้ Sold out ไปแล้วนะคะ เราเลยแอบไปสืบราคามือสองมาให้ดู จะมีห้องขายดาวน์อยู่ที่ช่วงราคา 1.83 – 2.84 ล้านบาท หรือ 59,xxx – 67,xxx บาทต่อตร.ม.นะคะ ถือว่าราคาขึ้นอยู่เหมือนกันแต่ยังอยู่ในช่วงราคาที่ไม่สูงมาก พอจับต้องได้อยู่ค่ะ สถานะโครงการกำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะสร้างเสร็จช่วงเมษายน 2020 นี้นะคะ

The Matt สาทร-ท่าพระ 2 (NEW 2019)

ใครที่พลาด The Matt สาทร – ท่าพระโครงการแรก ตอนนี้มีโครงการ The Matt สาทร – ท่าพระ 2 เปิดตัวมาฝั่งตรงข้ามกันเลยค่ะ ตัวนี้เป็น Low Rise เหมือนกัน 190 ยูนิต โครงการนี้ยังขายเป็นแบบ Fully Furnished เหมือนเดิม และพื้นที่ส่วนกลางที่แม้จะเป็นโครงการ Low Rise แต่ก็ให้มาครบนะคะ ทั้งสวน Lobby แบบ Double Volume, Co-Working และมีฟิตเนสกับสระว่ายน้ำที่จัดไว้ชั้นดาดฟ้าด้วยค่ะ ส่วนรูปแบบห้องที่นี่จะมีห้อง 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms ที่เราสามารถเลือก Theme วัสดุภายในห้องได้ 3 โทนดังนี้ 1) Marble Delight โทนไม้สีอ่อน 2) Tropical Vibes โทนไม้สีเข้ม และ 3) Sweet Escape ลายผ้า

จากที่สอบถามเรื่องราคามา ตอนราคาห้องเริ่มต้น 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. จะอยู่ที่ 1.99 ล้านบาท หรือ 66,xxx บาทต่อตร.ม. ส่วนห้อง 2 Bedrooms ขนาด 58 ตร.ม.ราคาจะอยู่ที่ 4.2 ล้านบาท หรือ 72,xxx บาทต่อตร.ม.ค่ะ ถือว่าทำราคาออกมาได้น่าสนใจเลยนะคะ กับโครงการใหม่ที่ส่วนกลางครบ และเป็นรูปแบบ Fully Furnished แบบนี้
สนใจเข้าไปอ่าน Preview : The Matt สาทร – ท่าพระ 2

The Regent Orchid ตลาดพลู

The Regent Orchid ตลาดพลู โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งคอนโด Low Rise ในซอยเทอดไท 33 (ซอยเดียวกันกับ The Matt Condo) แต่จะเป็นโครงการที่มีอยู่ 3 อาคาร ดังนั้นจำนวนยูนิตจึงจะมีมากกว่าอยู่ที่ 581 ยูนิตค่ะ ปัจจุบัน โครงการนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้อดีคือใกล้กับ BTS แต่ก็มีข้อควรระวังคือเป็นโครงการที่อยู่ติดกับวัดบางสะแก ดังนั้นอาจจะมีเสียงงานรื่นเริงหรือเสียงสวดมาให้ได้ยินได้ รวมไปถึงเรื่องกลิ่นและควันจากเมรุเผาที่มาจากวัดด้วยนะคะ พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ก็มีให้ตามมาตรฐานคือสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวน ส่วนรูปแบบห้องจะเน้นห้องขนาดเล็ก คือมีแต่ห้อง Studio และ 1 Bedroom ขายเท่านั้น
อ่านเพิ่ม ทำเล : The Regent Orchid ตลาดพลู

ราคา Update (December 2019) ห้องมือสองที่เจอ จะอยู่ในช่วง 1.6 – 2.5 ล้านบาท หรือ 52,xxx – 89,xxx บาทต่อตร.ม. ค่ะ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจของคนที่อยากได้คอนโดราคาไม่สูงใกล้รถไฟฟ้า


Zone 2 

มาที่ฝั่งต่อมากันค่ะ ฝั่งนี้จะอยู่ระหว่างถนนราชพฤกษ์ ถนนรัชดาภิเษก และถนนวุฒากาศ เป็นฝั่งที่รถไฟฟ้า BTS ตลาดพลูลงมาถึงพอดีค่ะ โดยบริเวณนี้จะขอเล่าเป็นสองส่วนคือส่วนที่เป็นคอนโดติดกับถนนราชพฤกษ์กับคอนโดที่อิงกับถนนรัชดาภิเษกนะคะ จุดเด่นของคอนโดที่อยู่โซนนี้คือเป็นคอนโดที่อยู่ฝั่งเดียวกับรถไฟฟ้า เดินไปได้แบบที่ไม่ต้องข้ามถนนค่ะ

สำหรับคอนโดบนถนนราชพฤกษ์จะมี ศุภาลัยปาร์ค สถานีตลาดพลู, Casa Condo เป็น Low rise ตัวนึงและ High rise อีกตัว และที่เปิดใหม่มาในปี 2019 จะมี Altitude Unicorn สาทร – ท่าพระ การเดินด้วยรถยนต์ไฟยังสะพานตากสินนั้น สามตัวนี้จะเจอเงื่อนไขเดียวกับคอนโดโซนด้านบนเลย คือต้องไปกลับรถใต้สะพานบริเวณเเยกตลาดพลูนะคะ

Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ (NEW2019)

ขอเริ่มโซนนี้ที่โครงการใหม่ก่อนนะคะ Altitude Unicorn สาทร – ท่าพระ จาก Altitude Development โครงการนี้นอกจากชื่อที่ดูแปลกแล้ว (Unicorn) ตัวตึกก็เลือกใช้สีชมพูของ Grand Canyon อีกด้วยค่ะ โครงการนี้เป็น High Rise ริมถนนราชพฤกษ์ สูง 34 ชั้น 711 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, ชั้น 7 และชั้น 34 ที่สามารถชมวิวได้

ส่วนกลางออกแบบมาได้น่าสนใจนะคะ ดูทันสมัย Futuristic นิดๆ และมีฟังก์ชันหลากหลาย ลองคลิกเลื่อนดูตัวอย่างได้ค่ะ

Image 1/4
Co-working แบบ Double Volume

Co-working แบบ Double Volume

ส่วนรูปแบบห้องของที่นี่จะมีทั้งแบบ Simplex หรือความสูงห้องทั่วไป และห้องแบบ Loft ที่มีชั้นลอยได้ค่ะ
ใครสนใจเข้าไปอ่าน รีวิว Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ

ราคา Update (December 2019) ราคาต่อตร.ม.ปัจจุบันอยู่ที่ 110,000 บาทต่อตร.ม. ห้อง 1 Bedroom (แบบเริ่มต้นของโครงการ) ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท ห้อง 1+1 Bedroom Loft ราคาเริ่มต้นที่ 4.9 ล้านบาท ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus ยังมีขายอยู่นะคะ แต่เหลือจำนวนยูนิตไม่มากแล้ว

ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู

ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู เป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินประมาณ 300 เมตร เป็น High Rise สูง 34 ชั้น มีจำนวน 785 ยูนิต ออกแบบเน้นพื้นที่สีเขียว โดยเล่นระดับแบบ Step Terrace Garden ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง ราคาเริ่มต้นก็จะอยู่ที่ 1.61 ล้านบาทค่ะ ถือว่าราคาไม่เเรงเท่าไหร่นะคะ ภายในโครงการมีแบบห้องให้เลือกตั้งแต่แบบ Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระหว่าง  60,000 – 72,500 บาท/ตร.ม.

สำหรับโครงการนี้ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์ ในช่วงทางกลับรถใต้ทางยกระดับถนนราชพฤกษ์ทำให้ทางเข้าโครงการ ถึงแม้จะเป็นคอนโดที่ใกล้กับรถไฟฟ้า แต่หน้าทางเข้าก็จะมืดๆหน่อยเพราะเจอกับพื้นที่กลับรถใต้สะพาน ทำให้อาจจะดูน่ากลัวสำหรับผู้หญิงที่เดินกลับบ้านตอนดึกๆนะคะ ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดตระกูล Casa แล้วสองตัวนั้นจะใกล้รถไฟฟ้ามากกว่าและมีของกินละเเวกใกล้เคียงเยอะกว่าค่ะ

จุดขายหลักๆของโครงการนี้คือการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียว Step Terrace Garden 7 ชั้น ทำให้ห้องพักอาศัยในชั้นต่างๆ สามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวส่วนกลางได้ง่ายกว่าโครงการอื่นๆที่มักจะอยู่ที่ชั้นล่างสุดหรือดาดฟ้า โครงการจัดพื้นที่ส่วนกลางมาครบตามมาตรฐาน ในราคาห้องที่หยิบจับง่ายในย่านนี้ค่ะโครงการนี่มีขายทั้งแบบ Full Fitted และ Full Furnished นะคะ อาจสอบถามราคาเพิ่มเติมได้ที่โครงการเลย

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 September 2017
Studio ขนาด 27.5 – 28.5 ตร.ม.

  • ห้อง Fully Fitted ราคา 1.77 – 2.26 ล้าน มีส่วนลด 110,000 บาท เหลือ 1.66 – 2.15 ล้านบาทหรือ 60,364 – 75,439 บาท/ตร.ม.
  • ห้อง Fully Furnished ราคา 1.77 – 2.26 ล้าน มีส่วนลด 30,000 บาท เหลือ 1.74 – 2.23 ล้านบาทหรือ 63,273 – 98,673 บาท/ตร.ม.

1 Bedroom ขนาด 35 – 37.5 ตร.ม.

  • ห้อง Fully Fitted ราคา 2.32 – 2.84 ล้าน มีส่วนลด 130,000 บาท เหลือ 2.19 – 2.71 ล้านบาทหรือ 62,571 – 72,267 บาท/ตร.ม.
  • ห้อง Fully Furnished ราคา 2.32 – 2.84 ล้าน มีส่วนลด 40,000 บาท เหลือ 2.28 – 2.8 ล้านบาทหรือ 65,143 – 74,667 บาท/ตร.ม.
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • ค่ากองทุน 380 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม./เดือน

สามารถเข้าไปอ่าน รีวิว ศุภาลัย ปาร์ค สถานีตลาดพลู ได้ค่ะ

Update (December 2019) โครงการนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างนะคะ คาดว่าจะสร้างเสร็จปลายปี 2020 โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1.7 ล้านบาท เป็นห้องแบบ Studio ค่ะ

CASA Condo รัชดา-ราชพฤกษ์ 

สำหรับ CASA Condo รัชดา-ราชพฤกษ์ เป็นคอนโด High rise สูง 27 ชั้น มี 627 ยูนิตสร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2012 จาก Q House พื้นที่ส่วนกลางจะมีตามมาตรฐานคือ Lobby ที่ชั้น 1 Main Facility จะอยู่ที่ชั้น 5 มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ และมีสวนส่วนกลางแทรกอยู่บางชั้นพักอาศัยค่ะ ส่วนรูปแบบห้องที่นี่จะเน้นห้องแบบ Studio ซึ่งมีสัดส่วนห้องครึ่งนึงของโครงการเลย และมีห้องแบบ 1 Bedroom บ้างและห้อง 2 Bedrooms จำนวนไม่มากค่ะ
สามารถเข้าไปอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ รีวิว : CASA Condo รัชดา-ราชพฤกษ์

Update (December 2019) รูปแบบห้องที่ขายปัจจุบันจะเป็นห้องมือสองนะคะ ช่วงราคาขายจะอยู่ที่ 2.19 – 6 ล้านบาท หรือ 62,xxx – 125,xxx บาทต่อตร.ม.

CASA Condo รัชดา-ท่าพระ

และอีกตัวคือ CASA Condo รัชดา-ท่าพระ ค่ะ เป็นของ Q House เช่นกัน แต่โครงการนี้เป็น Low rise สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2011 โครงการนี้จะมีอยู่ 2 อาคาร สูง 8 ชั้นทั้งคู่ รวม 274 ยูนิต ส่วนกลางจะมีแค่ Lobby และ Laundry ให้มานะคะ ส่วนรูปแบบห้องที่ขายจะเป็นห้อง Studio และ 1 Bedroom เท่านั้น
สามารถเข้าไปอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้ รีวิว : CASA Condo รัชดา-ท่าพระ

Update (December 2019) ปัจจุบันโครงการนี้จะขายมือสองอยู่ที่ช่วงราคา 1.85 – 3.9 ล้านบาท หรือ 62,xxx – 105,xxx บาทต่อตร.ม.


ต่อมาเรามาดูที่คอนโดบนถนนรัชดาภิเษกกันบ้างค่ะ ทำเลฝั่งนี้จะว่าดีก็ดีนะคะ เพราะมีตลาดซอย 13 , ไทยช่วยไทยพลาซ่า และถ้าคอนโดไหนทะลุมายังซอยเทอดไท 33 ได้ ก็จะมีร้านอาหารข้างทางเต็มไปหมดเลยค่ะ มีร้านสะดวกซื้ออย่าง Lotus Express อยู่ 2 จุดภายในซอยเทอดไท 33 ด้วยนะคะ เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ก็ง่าย เพราะเมื่อเดินลงมาจากรถไฟฟ้าเเล้ว เราก็ให้พี่วินเข้ามาซอยเทอดไท 33 มาโผล่หลังคอนโดอย่าง U-delight ได้เลย หรือก็ทะลุมายังถนนรัชดาภิเษกได้อีกหลายซอยเลยค่ะ แต่สำหรับคนที่ขับรถอาจจะมีเรื่องให้หงุดหงิดเล็กน้อย เพราะบริเวณนี้ช่วงเวลาเร่งด่วนนั้นก็เรียกได้ว่า รถติดไม่เเพ้ในเมืองเลยนะคะ ถ้าเราออกจากคอนโดมายังถนนรัชดาภิเษก ก็ต้องมากลับรถที่ใต้สะพานเเยกตลาดพลูเช่นกัน คือกว่าจะไปถึงจุดนั้นก็ต้องมีความอดทนพอสมควร ไม่มีทางหนีเลยค่ะ เเนะนำให้ใช้รถไฟฟ้าดีกว่า ในช่วงเวลาเร่งด่วนนะคะ

สำหรับคอนโดที่อิงถนนรัชดาภิเษกนี้จะมีอยู่ทั้งหมด 5 โครงการคือ Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ , The Parkland รัชดา-ท่าพระ , U Delight @Talat Phlu Station และ Bangkok Horizon รัชดา- ท่าพระค่ะ และ Niche Pride สาทร – ท่าพระ ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2020 ค่ะ

Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ

Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ เป็นโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จช่วงปี 2018 สำหรับโครงการนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่ทำออกมาได้หรูหรากว่าตัวอื่นที่อยู่บนทำเลนี้อย่างเห็นได้ชัดเลย ทั้งหน้าตาโครงการ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง อีกทั้งยังได้ข้อดีที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามาก จากบันไดทางลงรถไฟฟ้า เดินมาประมาณ 300 เมตรก็ถึงโครงการเเล้ว อีกทั้งด้านข้างโครงการคือตลาดเลย และฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น The mall ท่าพระเลยค่ะ นับว่าเป็นทำเลที่คึกคักปลอดภัย เดินลงจากรถไฟฟ้าเข้าโครงการได้ทันทีเเบบเเทบไม่เหนื่อย และไม่ต้องต่อรถให้วุ่นวาย อีกทั้งการที่อยู่ใกล้สี่เเยก ทำให้การเดินทางวนไปกลับรถเพื่อเดินทางไปยังโซนสะพานตากสินนั้นสะดวกพอดู เพราะด้วยความใกล้เเยกของโครงการนี้เเหละค่ะ ดีขนาดนี้ถ้ามาดูเรื่องราคาก็จะต้องเเลกมากับราคาที่สูงกว่าตัวอื่นๆข้างเคียงนะคะ เราไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการกันดีกว่า

Whizdom Station รัชดา – ท่าพระ เป็นคอนโด High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 690 ยูนิต อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าตลาดพลูประมาณ 80 ม. มาพร้อมกับแนวคิดการออกแบบ ที่ผสมผสานด้วยกลิ่นไอและบรรยากาศแบบบ้านสวน มีห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio , 1-2 Bedroom และ Penthouse ในราคาเริ่มต้นตอนเปิดตัว 2.25 ล้านบาท และขายหมดไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่ 2 ปีก่อนเเล้วค่ะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 August 2018

  •  2 Bedroom แบบห้อง D3 เนื้อที่ 59  ตร.ราคา 7.59 ล้านบาท หรือ 120,00 บาท/ตร..
  • เพดานสูง 2.65 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

เข้าไปอ่านรีวิวตึกเสร็จได้ที่ Whizdom Station รัชดา-ท่าพระ

Update (December 2019) ช่วงราคาขายตามเวปมือสองอยู่ที่ 2.3 – 7.67 ล้านบาท หรือ 102,xxx – 189,xxx บาทต่อตร.ม.ค่ะ ดูแล้วราคาค่อนข้างสูงโดดจากโครงการอื่นเหมือนกันนะคะ

The Parkland รัชดา-ท่าพระ

ขอบคุณรูปจาก Google Street View

เข้ามายังถนนรัชดาภิเษก ต่อมาจะเป็นคอนโด The Parkland รัชดา-ท่าพระ ค่ะ คอนโดนี้เป็นคอนโด High Rise 33 ชั้นสร้างเสร็จเเล้วตั้งแต่ปี 2013 มีส่วนกลางมาให้ตามมาตรฐานคือมีLobby , Fitness , สระว่ายน้ำ และห้องสมุดให้มาค่ะ

Update (December 2019) ช่วงราคาขายตามเวปมือสองอยู่ที่ 2 – 4.95 ล้านบาท หรือ 51,xxx – 99,xxx บาทต่อตร.ม.ค่ะ ถือว่าเป็นอีกโครงการที่ราคาน่าสนใจนะคะ ในงบที่จำกัดสามารถเลือกห้องที่พื้นที่กว้างขึ้นได้นั่นเอง

U Delight @ ตลาดพลู สเตชั่น

ถัดมาใกล้ๆกับ The Parkland จะเป็นคอนโด  U Delight @ ตลาดพลู สเตชั่น โครงการนี้เป็นโครงการ High Rise มี 2 อาคาร จำนวนรวม 973 ยูนิต ใช้ส่วนกลางร่วมกัน โครงการนี้มีห้องให้เลือก 2 แบบคือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom สร้างเสร็จประมาณปี 2017 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ

โครงการนี้พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ตรงกลาง บน Podium ระหว่าง 2 อาคารค่ะ จุดเด่นของที่นี่อย่างนึงเลย Facility ทำออกมาได้บรรยากาศเป็นมิตรมาก มีการใช้โทนไม้กับสีสันมาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งภายใน ทำให้สดใส น่าใช้งานค่ะ พื้นที่ส่วนกลางนอกจากสระว่ายน้ำเเล้วก็มีฟิตเนส ห้องอ่านหนังสือ แอบเห็นใต้อาคารมี 7-eleven มาเปิดด้วย และยังเป็นมิตรกับคนที่ใช้จักรยานนะคะ มีคนจอดจักรยานเต็มเลย และที่สำคัญคือโครงการนี้เป็นโครงการหนึ่งที่มีทางออกทั้งถนนรัชดาภิเษกและซอยเทอดไท 33 นับว่าสะดวกสำหรับคนเดินทางมากมาก เเละเมื่อเดือนที่เเล้วผู้เขียนแวะไปส่องโครงการ แอบเห็นว่ามีโปรโมชันใกล้ปิดการขาย เหลือห้องละ 2.55 ล้านบาทค่ะ ถ้าได้ราคานี้ถือว่าคุ้มเลยนะคะ โครงการนี้ขายทั้งแบบ Full Fitted และ Full Furnished แต่ค่าส่วนกลางไม่รวมกับที่จอดรถ (คิดเพิ่มเดือนละ 300 บาท) โครงการนี้เราได้เข้าไปทำรีวิวตึกเสร็จไว้เเล้ว
สามารถเข้าไปอ่าน รีวิว U Delight @ ตลาดพลู สเตชั่น ได้เลยค่ะ

Update (December 2019) ตอนนี้โครงการขายหมดแล้วนะคะ จะมีห้องขายต่อมือสองอยู่ค่ะ สามารถโทรไปสอบถามกับทางโครงการโดยตรงเลยก็ได้ ช่วงราคาที่เจอจะอยู่ที่ 2.25 – 4.65 ล้านบาท หรือ 75,xxx – 129,xxx บาทต่อตร.ม. ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 30-31 ตร.ม.ค่ะ

Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ

โครงการ Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ จะประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 145 ยูนิต ตั้งอยู่ด้านหน้าใกล้กับถนนรัชดาภิเษก กับส่วนที่เป็นคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น จำนวน 565 ยูนิต แบ่งเป็นที่จอดรถ 6 ชั้น และชั้นพักอาศัย 24 ชั้น อยู่ด้านในถัดเข้าไป ส่วนที่เป็น Low Rise นั้นได้ขายหมดเเล้ว ดังนั้นรายละเอียดเราจะพูดถึง High Rise กันเป็นหลักค่ะ

สำหรับโครงการนี้จะอยู่ไกลจากสถานีตลาดพลูมากที่สุดเลยค่ะ ไม่เหมาะสำหรับการเดินเท้าเข้ามายังโครงการเท่าไรนัก แต่ก็จะได้บรรยากาศสงบขึ้นมาหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายมากนัก ภายในโครงการส่วนกลางมีให้ไม่มากนัก แต่ก็มีการปรับปรุงใหม่อย่างบริเวณ Lobby ที่ดูน่าใช้งานเลย ถึงแม้จะมีส่วนกลางมาให้ไม่มาก แต่ภายในห้องนอนก็นับว่ามีขนาดกำลังดี และจัดห้องได้น่าอยู่อาศัยนะคะ วัสดุที่ให้มาก็โอเคในระดับหนึ่งเลย

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 17 July 2018

  • ห้อง 907 ชั้น 9 Type A1 ขนาด 33.74 ตร.ม. ราคาขาย 3,728,270 บาท เฉลี่ย 110,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 1401 ชั้น 14 Type A ขนาด 27.28 ตร.ม. ราคาขาย 3,082,640 บาท เฉลี่ย 113,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 2707 ชั้น 27 Type A1 ขนาด 33.65 ตร.ม. ราคาขาย 4,021,175 บาท เฉลี่ย 119,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 2913 ชั้น 29 Type B ขนาด 61.28 ตร.ม. ราคาขาย 7,384,240 บาท เฉลี่ย 120,500 บาทต่อตร.ม.
  • ห้อง 3018 ชั้น 30 Type A ขนาด 27.18 ตร.ม. ราคาขาย 3,288,780 บาท เฉลี่ย 121,000 บาทต่อตร.ม.
  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 0 บาท
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 36 บาท/ตร.ม./เดือน

สามารถเข้าไปอ่าน รีวิว Bangkok Horizon รัชดา-ท่าพระ ได้ค่ะ

Update (December 2019) โครงการนี้ขายเป็นแบบ Fully Furnished ห้องสร้างเสร็จพร้อมอยู่ค่ะ ในช่วงแรกที่เปิดขายและในช่วงที่เราได้เข้าไปทำรีวิว จะเห็นได้ว่าราคาห้องของที่นี่จะอยู่ 3 ล้านบาทขึ้น แต่ปัจจุบันจากที่เช็คในเวปจะมีจัดโปรโมชันห้องพร้อมอยู่ 2.09 ล้านบาทอยู่นะคะ ถือว่าลดราคาลงมาเยอะเหมือนกัน ใครสนใจเข้าไปถามโครงการโดยตรงได้เลย

Niche Pride สาทร – ท่าพระ (NEW2019)

Niche Pride สาทร-ท่าพระ เป็นโครงการใหม่จากทาง Sena x Hankyu ที่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลโครงการปล่อยออกมานอกจากตำแหน่งที่ดิน ที่จะอยู่ตรงหัวมุมแยกรัชดา-ราชพฤกษ์เลย และใกล้รถไฟฟ้ามากในระยะเดินสบาย รายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการนี้คาดว่าในช่วง Q1 ของปี 2020 น่าจะมีรายละเอียดมาให้เห็นกันนะคะ


Zone 3 

สำหรับคอนโดฝั่งนี้ จะมีโครงการสองส่วน ส่วนแรกคือโครงการที่อยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์เลย และอีกส่วนคือโครงการที่ติดถนนรัชดาภิเษก โครงการที่ติดกับถนนราชพฤกษ์ ถ้าเรามองจากแผนที่เราอาจจะคิดไปก่อนเเล้วว่าค่อนข้างไกลจากสถานี แต่เอาเข้าจริง บันไดทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้า จะข้ามเเยกมาลงยังฝั่งนี้ด้วยนะคะ ทำให้เราไม่ต้องไปเสี่ยงชีวิตข้ามถนนแยกใหญ่ๆเกือบ 10 เลน เดินเป็น Skywalk สวยๆเข้าสถานีตลาดพลูได้เลย และสำหรับคนที่อยู่คอนโดถัดเข้ามาบนถนนรัชดาภิเษก ก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ดักรอให้บริการอยู่ที่ทางลงบันไดรถไฟฟ้าเลยค่ะ ข้อดีของบริเวณนี้คือ อยู่ฝั่งเดียวกับเดอะมอลล์ท่าพระ เปรียบเหมือนเรามีเพื่อนบ้านเป็นห้างสรรพสินค้า ขาดเหลืออะไรเดินไปซื้อได้เลย สบายสุดๆค่ะ และข้อดีอีกอย่างของบริเวณนี้คือเราสามารถหลบช่วงรถติดของเเยกนี้ได้ โดยการใช้ถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าไปยังพระราม 3 หรือถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งใช้เป็นถนนที่สามารถเดินทางข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งพระนครได้ด้วยนะคะ

The Parkland ตากสิน – ท่าพระ

ในโซนนี้ที่เรานำมาเล่าให้ฟังจะมีโครงการที่ใช้ชื่อ Parkland อยู่หลายตัวเลยนะคะ สำหรับโครงการนี้จะใช้ชื่อว่า The Parkland ตากสิน-ท่าพระ จาก Narai Property ซึ่งเป็น High Rise 29 ชั้น 2 อาคาร ทำให้จำนวนยูนิตอยู่ที่ 829 ยูนิต โครงการนี้สร้างเสร็จในปี 2011 ค่ะ  สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ ชั้น 1 จะมีพื้นที่สวน และ Lobby ส่วนชั้น 7 จะเป็น ฟิตเนสและสระว่ายน้ำที่ยาวถึง 43 เมตรเลยค่ะ ส่วนห้องพักจะมีตั้งแต่แบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ค่ะ
อ่านรีวิวต่อที่ The Parkland ตากสิน-ท่าพระ

Update (December 2019) ที่นี่จะมีขายแต่ห้องมือสองแล้วนะคะ ช่วงราคา 1.9 – 5.5 ล้านบาท หรือ 64,xxx – 105,xxx บาทต่อตร.ม. เป็นโครงการที่ถือว่าได้เรื่องขนาดห้องที่ค่อนข้างกว้าง (เมื่อเทียบกับคอนโดที่เปิดขายใหม่ในยุคหลังๆ)

The Parkland Grand ตากสิน

อีกหนึ่งโครงการตระกูล Parkland ที่ตั้งอยู่ติดๆกันเลยค่ะ The Parkland Grand ตากสิน โครงการนี้พอมีคำว่า Grand ห้อยท้ายชื่อ เราย่อมคาดหวังถึงสิ่งที่ดีกว่าแบรนด์ธรรมดาใช่ไหมคะ? สำหรับโครงการนี้แน่นอนว่าจำนวนยูนิตจะลดลงเหลือ 566 ยูนิต เป็นอาคารสูง 34 ชั้น มีการออกแบบส่วนกลางที่ดูมีดีไซน์เพิ่มขึ้นมาค่ะ เช่นบรรยากาศภายในสวน ขนาดของ Lobby เป็นต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการนี้ให้ที่จอดรถมามากกว่า 100% เลย และห้องพักอาศัยก็จะไม่มีห้องแบบ Studio แล้ว แต่จะเริ่มต้นที่ 1 Bedroom และ 2 Bedrooms เป็นหลักค่ะ
อ่านรีวิวต่อที่ The Parkland Grand ตากสิน

Update (December 2019) ช่วงราคาขายมือสองของโครงการนี้อยู่ที่ 2.59 – 6.4 ล้านบาท หรือราคาต่อตร.ม.อยู่ในช่วง 61,xxx – 111,xxx บาทต่อตร.ม.ค่ะ เหมาะกับคนที่อยากอยู่โครงการ High Rise ยูนิตกลางๆ ได้ที่จอดรถ แต่ก็ยังได้ความสะดวกสบายของรถไฟฟ้าค่ะ

Aspire สาทร-ท่าพระ

โครงการ Aspire สาทร-ท่าพระ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 30 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,219 ยูนิต การออกแบบโครงการเน้นความ Modern เรียบง่าย โครงการนี้สร้างเสร็จเมื่อปี 2017 ปัจจุบันโครงการนี้ Sold Out ไปแล้วนะคะ ถ้าสนใจไปตามหามือ 2 ได้ค่ะ

โครงการนี้มีความเเปลกตรงที่พื้นที่ส่วนกลางเเทบทั้งหมดจะอยู่ชั้น Ground Floor ค่ะ

บรรยากาศก็น่าสนใจ ดูเรียบร้อยดีนะคะ แต่สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากๆ อาจจะไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะจำนวนยูนิตค่อนข้างมากเลย

โครงการนี้ช่วงเปิดตัวจะขายแบบ Full Fitted มีรูปแบบห้องให้เลือกเป็นแบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom เเละสามารถเข้าไปอ่านรีวิวตึกเสร็จได้ที่ Aspire สาทร-ท่าพระ

Update (December 2019) ช่วงราคาขายมือสองของโครงการนี้อยู่ที่ 2.43 – 5.66 ล้านบาท หรือ 87,xxx – 143,xxx บาทต่อตร.ม. เหมาะกับคนที่อยากได้คอนโดพร้อมอยู่ พื้นที่ส่วนกลางดีไซน์ดี แถมมีร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่หน้าโครงการด้วยค่ะ

Supalai Loft @Talat Phlu Station

Supalai Loft @Talat Phlu Station เป็นอีกหนึ่งโครงการตึกเพิ่งสร้างเสร็จค่ะ เป็นโครงการ High Rise สูง 35 ขั้น 879 ยูนิต ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือตัวห้องค่ะ อย่างที่เรารู้กันดีอยู่เเล้วว่าศุภาลัยให้ห้องขนาดใหญ่กว่าโครงการอื่นๆในละเเวกแน่นอน รูปแบบห้องในโครงการก็จะมี Studio 33 ตร.ม. (แค่เริ่มต้นแบบStudio ก็มีขนาดใหญ่กว่า 1 Bedroom ของบางโครงการเเล้วนะคะ) 1 Bedroom 39 ตร.ม. และ 2 Bed 63.5 ตร.ม.

พื้นที่ส่วนกลางที่ให้ก็ตามมาตรฐานคือฟิตเนส ล็อบบี้ สระว่ายน้ำค่ะ สำหรับโครงการนี้เรายังไม่มีรีวิวนะคะ มีแต่เฉพาะพรีวิว สามารถคลิก  Preview : ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีตลาดพลู เพื่ออ่านเพิ่มเติมได้ค่ะ โครงการนี้มีขายทั้งแบบ Full Fitted และ Full Furnished เลย ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านต้นๆค่ะ

ลุมพินีเพลส รัชดา-ท่าพระ

ขอบคุณภาพจาก Google Street View

และโครงการสุดท้ายคือโครงการ ลุมพินีเพลส รัชดา-ท่าพระ โครงการนี้สร้างเสร็จตั้งแต่ปี 2007 ค่ะ ตัวนี้จะห่างจากรถไฟฟ้ามากหน่อยประมาณ 1 กม.เลย ภายในโครงการจะเป็นกลุ่มอาคาร มี Low Rise 1 อาคาร และ High Rise 2 อาคาร สูง 29 ชั้น รวม 923 ยูนิต ห้องพักอาศัยทในโครงการที่มีอายุหน่อยจะมีขนาดค่อนข้างกว้างนะคะ เช่นห้อง Studio ที่เป็นห้องเริ่มต้นของโครงการก็จะเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม.แล้ว ส่วนแบบห้องอื่นๆก็จะมีทั้งห้อง 1 Bedroom และห้อง 2 Bedrooms ค่ะ

Update (December 2019) ช่วงราคาขายมือสองของโครงการนี้อยู่ที่ 1.15 – 4.5 ล้านบาท หรือ 38,xxx – 77,xxx บาทต่อตร.ม. ถือว่าเป็นอีกโครงการที่ราคาถูก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอายุของโครงการและระยะห่างทั้งจากรถไฟฟ้าและความอุดมสมบูรณ์อื่นๆด้วยค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเรื่องราวของรถไฟฟ้าและย่านตลาดพลู รวมไปถึงคอนโดที่มีอยู่รอบๆรถไฟฟ้าตลาดพลู สำหรับตัวผู้เขียนเองคิดว่าทำเลนี้ค่อนข้างสะดวกสบายเลย เหมาะกับคนที่ต้องการหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานแถวสีลม สาทร แถมยังมีความสะดวกด้านอาหารการกินพร้อม ในราคาน่าคบหา กินได้ เหลือ(เงิน)เก็บ ถ้าวันเสาร์หรืออาทิตย์ที่รถไม่ติด ขับรถเข้าเมืองได้สบายๆเลย

สภาพแวดล้อมและชุมชน

เนื่องจากทำเลตลาดพลูนี้ โดยเฉพาะตัวตลาดพลูเป็นย่านเก่าแก่มาแต่ก่อน ดังนั้นบรรยากาศภายในตลาดจึงมีความเก่าขลัง มีของกินดั้งเดิมให้เลือกชิม และลิ้มลอง นอกจากนี้การที่ทำเลนี้เป็นที่ย่านที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว ทำให้ระบบขนส่งและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตมีค่อนข้างครบครัน โดยเฉพาะการที่มีห้างสรรพสินค้าอย่างเดอะมอลล์ท่าพระอยู่ใกล้ในระยะเดินถึงนั้นก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบของทำเลนี้ ที่แตกต่างไปจากสถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียง คือจะกิน ช็อป ดูหนัง เล่นฟิตเนส รวมครบจบที่เดียวค่ะ

การคมนาคม 

การเดินทางไปสู่ที่ต่างๆของทำเลนี้ถือว่าสะดวกไม่น้อย ทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีถนนหลายสายตัดผ่าน เราสามารถเลือกได้เข้าและออกเมืองได้ง่าย เช่นการเข้าเมืองไปยังโซนสีลม-สาทร ก็สามารถขับรถผ่านถนนราชพฤกษ์เอง หรือจะผ่านถนนรัชดาภิเษกเพื่อไปยังถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็ได้ หรือจะใช้ถนนรัชดาภิเษกเพื่อข้ามสะพานกรุงเทพไปยังถนนพระราม 3 ก็ใช้เชื่อมต่อไปยังพระราม 4 คลองเตยก็ได้เช่นกัน ถึงแม้บางเวลาอาจจะมีรถติดบ้างบริเวณสี่เเยกรัชดา-ราชพฤกษ์ แต่ก็นับว่ามีตัวเลือกใช้ถนนลัดเลาะไปมาเพื่อหลีกเลี่ยงทางรถติดได้นะคะ

สิ่งที่สำคัญของทำเลนี้คงหนีไม่พ้น การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า อย่างที่บอกไป ที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าสามารถช่วยให้ชีวิตการเดินทางในปัจจุบันของเราง่ายดายขึ้นมาก BTS สถานีตลาดพลู ถือว่าอยู่สายสีลม ซึ่งเป็นเส้นที่ผ่านสุรศักดิ์ ช่องนนทรี สีลม ไปยังสยาม และสิ้นสุดที่สถานีสนามกีฬา คือผ่านเเหล่งทำงานย่านเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพเลย หรือว่าในอนาคตที่บริเวณสถานีบางหว้า (ห่างจากสถานีตลาดพลูไปอีก 2 สถานี) ก็จะกลายเป็นสถานี interchange หรือจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน สถานีบางหว้า ที่ใช้เดินทางออกเมืองไปยังพุทธมณฑล หรือเข้าเมืองไปยังหัวลำโพงเพื่อเชื่อมกับสถานีที่เปิดให้บริการในปัจจุบันที่เราคุ้นเคย ใช้เดินทางมายังเตาปูน จัตุจักร ได้ ซึ่งถ้าเปิดใช้บริการเเล้ว คงสะดวกสบายยิ่งขึ้นมากเลยนะคะ

นอกจากนี้ยังมีสถานีรถ BRT ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสี่เเยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ใช้สำหรับคนที่ต้องการเดินทางเเบบชิวๆไปยังสาทร-ช่องนนทรีได้อีก (ค่าบริการสบายกระเป๋ามาก 15 บาทตลอดสาย) หรือจะเป็นระบบขนส่งแบบดั้งเดิมเช่น รถเมล์, Taxi, วินมอเตอร์ไซค์ ทำเลนี้มีให้เลือกใช้หมด (ขาดก็คงแต่เรือด่วนเจ้าพระยาเท่านั้นแหละคะ)

ตัวเลือกคอนโด 

หลังจากข้ามเเม่น้ำเจ้าพระยามาเเล้ว บริเวณถนนกรุงธนบุรี ถนนราชพฤกษ์ สองข้างทางที่รถไฟฟ้าตัดผ่านก็มีคอนโดขึ้นเยอะมากเลยนะคะ ตัวเลือกคอนโดของบริเวร BTS ตลาดพลูนี้ มีทั้งมือ 1 และมือ 2 ราคาก็มีให้เลือกตามแต่งบประมาณในกระเป๋าของแต่ละคน ความชอบตัวห้องกว้าง ชอบพื้นที่ส่วนกลางเยอะ ชอบบรรยากาศ หรือชอบเดินทางสะดวก ราคาเริ่มล้านต้นๆก็ยังมีให้เห็นอยู่ หรือถ้ามีงบประมาณ 3 ล้านคอยติดตามจังหวะโปรโมชันก็จะได้ห้องแบบ 1 Bedroom ไปนอนสบายๆเลยค่ะ

*อ่านสักนิด*

ในการเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้าแต่ละสถานีนั้น แต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกที่จะอยู่ใกล้สถานีที่อยู่ในตัวเมือง เพราะสภาพชุมชนรอบๆที่คึกคัก สามารถไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ได้ด้วย ขอนั่งไปสองสามสถานีแล้วถึงที่ทำงานเลย คนพวกนี้ก็ต้องจ่ายแพง ในขณะที่บางคนบอกว่า ออกไปอยู่ไกลๆหน่อยก็ได้ สุดสายเลยก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ติดรถไฟฟ้าก็พอ ยอมตื่นเช้าขึ้นซัก 15-30 นาที แต่จ่ายถูกกว่า และเงียบสงบกว่า ส่วนบางคนก็แปลก เลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานี ขอให้ใกล้ไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตาม แล้วสถานีไหนล่ะจึงจะเป็นสถานีที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลนะคะ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานีใดเป็นสถานีที่ดีที่สุดดีเท่ากับตัวคุณเองค่ะ