ปก ภัสสร

รีวิวฉบับที่ 1093 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการที่อยู่ในตระกูลภัสสร เพรสทีจ กันค่ะ นั่นคือ ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบ้านแฝด 2 ชั้นอีกหนึ่งโครงการใน พฤกษา อเวนิว ซึ่งโครงการนี้ จะถูกเติมคำว่า ” ลุกซ์ ” ลงไปในชื่อโครงการแสดงถึงความแตกต่างจากโครงการภัสสร เพรสทีจ รุ่นพี่อีกโครงการหนึ่งที่อยู่ใน พฤกษา อเวนิวเหมือนกัน ..โดยจะมีขนาดของพื้นที่ใช้สอยในบ้านที่เล็กลง ทำให้มีราคาที่หยิบจับง่ายขึ้นค่ะ เรามาดูกันว่าโครงการจะทำออกมาเป็นอย่างไรค่ะ

Fact @ 7 June 2016

  • Passorn Prestiege Luxe Pattanakarn (ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สวนหลวง
  • เนื้อที่โครงการ 32-3-44.30 ไร่ จำนวน 178 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จำนวน 49 ยูนิต
  • ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา

  • แบบบ้านที่ 1 พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.
  • แบบบ้านที่ 2 พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.

  • บ้านแฝด 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จำนวน 129 ยูนิต
  • ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35.7 ตร.วา
    • แบบบ้านที่ 3 พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.
    • แบบบ้านที่ 4 พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม.
    • แบบบ้านที่ 5 พื้นที่ใช้สอย 121 ตร.ม.

  • ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาทหรือ 137,254 บาท/ตร.วา (40,496 บาท/ตร.ม.)
  • โครงการเริ่มก่อสร้าง เดือนสิงหาคม 2558
  • คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี 2562
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 1739
  •  

    เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

    สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.728663, 100.633799

    แผนที่

    จากแผนที่โครงการ ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ ตั้งอยู่ในซอย พัฒนาการ 38 ระยะทางจากหน้าปากซอยเข้ามาถึงตัวโครงการประมาณ 2 กม. การเข้าถึงโครงการหลักๆแล้ว ถ้าพึ่งพารถยนต์จะสะดวกกว่า เนื่องจากซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้เป็นทางลัดเลาะได้หลายเส้นทาง และไม่ไกลจากทางด่วนมากนัก สำหรับรถไฟฟ้าบริเวณใกล้โครงการที่สุดคือ  สถานี อ่อนนุช ซึ่งอยู่ห่างไปพอสมควร ไม่ได้อยู่ในระยะที่เดินถึง และบริเวณใกล้แยกพัฒนาการ ยังมี Airport Rail Link สถานีหัวหมากเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเดินทางค่ะ

    ภัสสร แบบบ้าน (1 of 6)

    ตำเเหน่งที่ตั้งของโครงการ ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ ตั้งอยู่ใน Pruksa Avenue ที่เป็นพื้นที่ของโครงการแนวราบหลายๆโครงการของพฤกษามาอยู่รวมกัน และแชร์ถนนหลักของโครงการร่วมกัน ตัว Pruksa Avenue อยู่ในซอยพัฒนาการ 38 เข้ามาจากถนนพัฒนาการประมาณ 2 กิโลเมตร โดยถนนพัฒนาการจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ใช้เชื่อมเข้า-ออกเมืองกับพื้นที่ชานเมือง เพราะถนนเส้นนี้เชื่อมต่อระหว่างถนนเพชรบุรีกับถนนอ่อนนุช(สุขุมวิท 77) จึงมีการจราจรที่หนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนี้บนถนนพัฒนาการมีทางลัดที่สามารถทะลุไปได้หลายเส้นทาง เช่น จากซอย พัฒนาการ 38 เองก็สามารถลัดไปยัง ซอยพัฒนาการ 32 ซึ่งใช้ไปทะลุอ่อนนุชได้ และ ซอยพัฒนาการ 25 ไปทะลุหลังรามคำแหง หรือซอย รามคำแหง 24 และถนน พระราม9 ได้

    สภาพแวดล้อมบนถนนพัฒนาการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ และ ตึกแถว มีโครงการประเภทคอนโดตั้งอยู่บ้างแต่ไม่มาก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวราบซะหมด สำหรับเเหล่ง Shopping ที่ใกล้ที่สุดคือ Tesco Lotus ที่อยู่ระหว่างซอย พัฒนาการ 43 กับ 45  และ Max Value ส่วนถ้าจะเดินห้างก็มีให้เลือกระหว่าง The Nine ที่อยู่บนถนนพระราม9 กับ Thanya Park, Paradise และ Seacon Square บนถนนศรีนครินทร์

    ภัสสร แบบบ้าน (2 of 6)

    สำหรับการเดินทาง ถ้าวิ่งจากในเมืองโซนดินแดง พระราม 9 หรือรัชดา เข้ามาถึงตัวโครงการก็สามารถใช้เส้นทางพระราม 9 ผ่านแยกรามคำแหง เลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนรามคำแหงตรงมาเรื่อยๆจนเจอแยกคลองตัน เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนพัฒนาการ (หรือจะใช้เส้นพระราม 9 วิ่งตรงมาเข้าถนน ศรีนครินทร์แล้วมาเลี้ยวเข้าถนนพัฒนาการก็ได้ ) จากนั้นเราถึงกลับรถใต้อุโมงค์แล้วเข้าซอยพัฒนาการ 38 ค่ะ ซึ่งเส้นทางนี้คุณฝนเคยอธิบายโดยละเอียดไว้แล้ว โดยใช้เป็นเส้นทางไปโครงการ ภัสสร เพรสทีจ ที่ตั้งอยู่ในพฤกษาอเวนิวเช่นกัน สามารถกดอ่านได้เลยค่ะ

    ภัสสร แบบบ้าน (6 of 6)

    สำหรับเส้นทางที่จะใช้ไปโครงการในวันนี้ จะพาไปดูเส้นทางที่เชื่อมต่อจาก Airport Link ที่เป็นตัวช่วยในการเดินทางเข้าเมืองในเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นค่ะ เริ่มต้นจากสถานีแอร์พอร์ต ลิงค์ หัวหมาก บนเส้นศรีนครินทร์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนพัฒนาการ วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ  1.8 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าซอยพัฒนาการ 38 ค่ะ

    เริ่มต้นจากสถานีแอร์พอร์ต ลิงค์ หัวหมาก บนถนนศรีนครินทร์นะคะ ซ้ายมือจะเป็นทางเลี้ยวเข้าไปตัวสถานี โดยบริเวณใต้สถานีจะมีรถยนต์มาจอดเรียงรายซึ่งเป็นรถของคนมาใช้บริการแอร์พอร์ต ลิงค์ ส่วนเส้นทางไปโครงการก็ตรงไปเลยค่ะ

    ตรงมานิดหนึ่ง ฝั่งซ้ายจะเป็นคอนโด ลุมพินี เพลส ศรีนครินทร์-หัวหมาก สเตชั่น ถ้าตรงไปด้านหน้าจะเป็นแยกพัฒนาการ โดยมีป้ายบอกทางติดอยู่ ให้เลือกเลี้ยวขวาไปคลองตันค่ะ

    ตรงมาอีกนิดก็ถึงแยกพัฒนาการแล้วค่ะ ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนพัฒนาการเลย

    เข้าถนนพัฒนาการมาแล้ว เป็นถนน 6 เลน แบ่งเป็นไป 3 เลน กลับ 3  เลน และบริเวณแยกพัฒนาการยังมีสะพานข้ามแยกด้วยค่ะ เพราะเป็นสี่แยกที่รถค่อนข้างติดทีเดียว ฝั่งซ้ายของถนนเป็นหมู่บ้าน Noble Tara ฝั่งขวาเป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ

    ตรงมาบนถนนพัฒนาการ ฝั่งซ้ายจะผ่านโชว์รูมมาสด้า ฝั่งขวาผ่านโลตัส พัฒนาการ เป็น Hypermarket ที่ใกล้โครงการที่สุด ติดกับโลตัสเป็น คอมมูนิตี้มอลล์ London Street ที่พึ่งเปิดโครงการไปเมื่อปีที่แล้วค่ะ

    ตรงมาอีกนิด บรรยากาศบนถนนพัฒนาการจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ร้านแถวๆนี้ก็อร่อยดีค่ะเป็นที่ฝากท้องได้ จึงเป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์พอสมควรนะคะ

    ตรงมาอีกหน่อยจะเจอป้ายบอกทางไปซอยพัฒนาการ 44 ซึ่งทางเข้าโครงการภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ สามารถเข้าได้ทั้งทางซอยพัฒนาการ 44 และซอยพัฒนาการ 38 นะคะ แต่เดี๋ยวเราจะไปเข้าทางซอยพัฒนาการ 38 ที่เป็นทางเข้าหลักของพฤกษา อเวนิว ก่อน เพื่อดูบรรยากาศโดยรอบโครงการ แล้วค่อยวนมาออกซอยพัฒนาการ 44 ค่ะ

    ตรงมาอีกนิดเดียวก็จะเจอซอยพัฒนาการ 38 แล้วค่ะ หน้าปากซอย 2 ฝั่ง เป็น Family Mart และร้านขายยาค่ะ ด้านหน้าซอยมีป้ายบอกทางว่าสามารถทะลุไปถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77 ) ได้

    ภัสสร แบบบ้าน (3 of 6)

    ต่อไปจะพาเข้าไปดูภายในซอยพัฒนาการ 38 นะคะ จากต้นซอยจนถึงทางเข้า Pruksa Avenue มีระยะทางประมาณ 1.2 กม. จากแผนที่จะเห็นว่า จากต้นซอยจนก่อนถึงหัวโค้ง จะมีร้านสะดวกซื้อ แฟมิลี่มาร์ท ร้านขายของชำหลายร้าน ที่มีแผงขายผัก ร้านอาหารตามสั่ง และร้านอาหารสดตอนเช้าด้วย ถัดจากหัวโค้งนั้นมาก็จะเป็นอาคารที่พักอาศัยแทบทั้งหมด มีโกดังเก็บสินค้าก่อนถึงสะพานเข้าโครงการ ในซอยพัฒนาการ 38 จะมีชุมชนมุสลิมที่อยู่อาศัยกันมานานแล้ว ดังนั้นจะสังเกตเห็นว่ามีมัสยิดชื่อ อันวารุ้ล อับร้อล และอพาร์ทเม้นท์ชื่อแบบมุสลิมหลายแห่งเลย ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละโครงการค่ะ

    หน้าปากซอยจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ ถัดไปจะเป็นเต็นท์ขายอาหาร และ ร้านขายของชำ ซอยนี้จะค่อนข้างคึกคักมีรถเข้าออกตลอด เนื่องจากสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดได้ค่ะ เต็นท์ขายอาหาร มีอาหาร ของสด ของแห้งขายเยอะอยู่ พอพึ่งพาได้

    ตรงตามทางมาจะเจอมัสยิดอันวารุ้ลอับร้อจอยู่ทางซ้ายมือ  ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงเรียกสวดเวลาละหมาด ไปด้วยนะคะ  ฝั่งตรงข้ามมีแผงขายของ ร้านอาหารตามสั่งอยู่

    ตรงมาอีกนิดจะถึงทางโค้ง ให้เลี้ยวขวาไปตามทางนะคะ หัวมุมจะมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวและอาหารตามสั่งอยู่ค่ะ

    จะหัวโค้งมาให้ตามทางไปเรื่อยๆ บริเวณกลางๆซอย ก็เป็นย่านหอพัก 3-4 ชั้น มาถึงแถวนี้ไม่เห็นร้านอาหารอะไรแล้วค่ะ จะมีเพียงรถเข็นขายอาหาร อย่างส้มตำ ไก่ย่างบ้าง 2-3 ร้าน บรรยากาศสงบมากกว่าช่วงต้นซอย

    เข้ามาด้านในซอยอีกหน่อยจะเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ ฝั่งซ้ายจะมีร้านล้างรถอยู่ ซึ่งมาเปิดหลังจากที่มีพฤกษา อเวนิว มาขึ้นโครงการอยู่ด้านในนับสิบโครงการนี่แหละค่ะ และมีป้ายบอกทางลัดว่าเลี้ยวขวาสามารถไปถนนอ่อนนุชได้ โดยเลี้ยวขวาไปเชื่อมกับซอยพัฒนาการ 32 สามารถไปทะลุถนนอ่อนนุชได้ค่ะ

    ตรงมาเรื่อยๆจะเจอแยกทางซ้ายเป็นทางเข้า พฤกษา อเวนิว ให้ข้ามสะพานเข้าไป  ฝั่งขวาของสะพานจะมีชื่อโครงการต่างๆบอกอยู่ค่ะ

    ภัสสร แบบบ้าน (5 of 6)

    ต่อไปเราจะพาเข้าไปชมด้านในพฤกษา อเวนิว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการหมู่บ้านนับสิบโครงการ มีทั้งบ้านเดี่ยวบ้านแฝด ทาวน์โฮม ด้านในสุดของพฤกษา อเวนิว จะใกล้กับมัสยิด อัล กู๊บรอ อยู่ตรงบริเวณด้านหลังพื้นที่โครงการ The Palm พัฒนาการ ซึ่งโครงการทั้งหมดในพฤกษาอเวนิวก็จะอยู่ในระยะได้ยินเสียงเรียกสวดเวลาละหมาดด้วยนะคะ แต่จะมากน้อยก็แล้วแต่ตำแหน่งของแต่ละโครงการ โดยโครงการในพฤกษา อเวนิว ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว  ได้แก่

    และทาวน์เฮาส์  ได้แก่

    สำหรับโครงการภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ เมื่อเข้ามาใน พฤกษา อเวนิว ให้ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงวงเวียนแล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปแล้วข้ามสะพานข้ามคลองมาอีกนิดก็จะถึงโครงการค่ะ

    ข้ามสะพานมาฝั่งซ้ายมือจะผ่านโครงการ Patio เป็นโครงการแรก ส่วนฝั่งขวาจะเป็นโครงการ The Plant

    พอเจอวงเวียนให้เลี้ยวไปทางซ้าย โครงการที่อยู่ด้านหลังวงเวียนคือ The Plant Estique ค่ะ

    เลี้ยวซ้ายมา จะเจอกับโครงการ The Plant Elite ทางฝั่งขวา ให้ตรงไปเรื่อยๆแล้วข้ามสะพานข้ามคลองไปค่ะ

    ลงมาจากสะพานฝั่งซ้ายจะเป็น The Plant Exclusique ส่วนฝั่งขวาเป็น The Connect ถัดจาก The Connect ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ

    ถึงแล้วค่ะ โครงการ Passorn Prestique Luxe อยู่ทางฝั่งขวามือ ถัดจาก The Connect เลยค่ะ แต่เราจะยังไม่เข้าโครงการนะคะ จะพาไปดูเส้นทางเข้า-ออกโครงการทางซอยพัฒนาการ 44 อีกสักนิด โดยข้ามสะพานข้ามคลองที่ติดกับโครงการก็จะเข้าซอยพัฒนาการ 44 แล้วค่ะ ซึ่งจริงๆถ้ามาจากทางแยกพัฒนาการก็สามารถเข้าซอย 44 ได้เลยนะคะ เพราะจะถึงก่อนซอย พัฒนาการ 38 ค่ะ

    ภัสสร แบบบ้าน (4 of 6)

    จากโครงการถึงปากซอยพัฒนาการ 44 มีระยะทางประมาณ 1 กม. โดยบรรยากาศภายในซอยพัฒนาการ 44 จะคล้ายๆซอยพัฒนาการ 38 ที่เป็นหมู่บ้านพักอาศัย 2-3 ชั้นเป็นส่วนใหญ่ จะแตกต่างกันหน่อยที่ซอย 44 จะเป็นบ้านพักอาศัยสลับกับมีที่ดินเปล่าอยู่หลายแปลง เวลาขับรถเข้าออกในตอนกลางคืนจะเปลี่ยวมากกว่า แต่จากบริเวณกลางซอยที่เป็นโรงเรียนนานาชาติคริสเตียน กรุงเทพฯ ไปจนถึงหน้าปากซอยก็จะมีความคึกคักอยู่บ้าง เพราะเป็นกลุ่มอพาร์ทเม้นท์หลายอาคาร ที่มีร้านค้าอยู่ชั้นล่างของหอพัก และฝั่งขวาของซอยยังมีสนามฟุตบอลเปิดให้บริการด้วยค่ะ

    ลงสะพานแล้วตรงมาอีกหน่อยจะผ่านหมู่บ้าน The Exclusive เป็นโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ฝั่งขวาจะเป็นที่ดินเปล่าค่ะ ทำให้ซอยในช่วงนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ในเวลากลางคืนก็จะค่อนข้างเปลี่ยวค่ะ บ้านในกลุ่ม พฤกษา อเวนิว จึงเหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่านะคะ

    ตรงมาถึงบริเวณกลางซอย ฝั่งซ้ายมือจะผ่านสนามฟุตบอล ส่วนฝั่งขวามือเป็นโรงเรียนนานาชาติคริสเตียน กรุงเทพฯ ค่ะ ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงหน้าซอยจะมีความคึกคักมากขึ้นค่ะ

    ตรงมาทางหน้าปากซอย ฝั่งซ้ายจะเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น ส่วนฝั่งขวาจะเป็นหอพัก 6-8 ชั้น หลายอาคาร ด้านหน้าอาคาร 2 ฝั่งจะมีร้านค้าแผงลอย อาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดขายกันค่ะ

    ตรงมาจนถึงหน้าปากซอย จะมีทางแยกไปทางซ้าย และทางตรงไป โดยทั้ง 2 ทางจะเข้าไปยังถนนพัฒนาการเหมือนกัน แต่ทางซ้ายจะเป็นทางที่เอาไว้เข้าซอยพัฒนาการ 42 นะคะ (ที่เป็นทางเข้า 2 ทางแบบนี้เพราะปากซอยใกล้จุดกลับรถใต้ถนนพัฒนาการพอดีค่ะ)

    ภัสสร แบบบ้าน (1 of 1)**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

    มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ ถนนหน้าโครงการเป็นถนนส่วนกลางของ พฤกษา อเวนิว สภาพแวดล้อมถนนส่วนกลาง 2 ข้างทางจะเป็นโครงการบ้านและทาวน์โฮมรุ่นพี่ตลอดเส้นทาง จึงเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างเงียบสงบ มีข้อดีที่สงบเหมาะกับการอยู่อาศัย มีการรักษาความปลอดภัยด้วยป้อมยาม 2 ฝั่งทางเข้าออกทั้งทางซอยพัฒนาการ 38 และซอยพัฒนาการ 44 เป็นถนนกว้าง 2 เลน แบ่งเป็น ไป 1 เลน กลับ 1 เลน โดยทางเข้าออกโครงการอยู่ใกล้กับป้อมยามฝั่งทางเข้าออกที่ติดกับซอย 44 ค่ะ โดยมีพื้นที่ที่ติดต่อกับโครงการคือ

    • ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
    • ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับหมู่บ้าน Narasiri และ หมูบ้าน The Connect
    • ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับคลองหัวหมาก อีกฝั่งหนึ่งของคลองเป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
    • ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับถนนส่วนกลางใน พฤกษา อเวนิว

    ภัสสร-LR-2-of-11_new

    เรามาดูสภาพแวดล้อมที่ติดกับที่ดินของโครงการกันนะคะ ภายในเส้นประสีเหลืองเป็นพื้นที่ของ ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ ถัดไปจาก โครงการคือที่ดินของหมู่บ้าน The Connect ที่ล้อมรั้วและกำลังก่อสร้างเหมือนกัน ระหว่างโครงการทั้ง 2 จะมีทางเข้าออกของรถบรรทุกเป็นทางที่แยกไว้ให้เข้าไปยังพื้นที่ก่อสร้างโดยไม่ต้องผ่านซุ้มประตูหน้าโครงการค่ะ

    ภัสสร-LR-3-of-11_new

    ด้านข้างฝั่งซ้ายของโครงการจะเป็นคลองหัวหมากค่ะ เส้นประสีเหลืองคือขอบเขตของโครงการนะคะ

    ฝั่งตรงข้ามเป็นโครงการ The Plant Exclusique ค่ะ

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ – 3.5 กิโลเมตร
    • ตลาดสดพัฒนาการ – 3.9 กิโลเมตร
    • Tesco Lotus – 4.1 กิโลเมตร
    • The Nine พระราม 9 – 5.3 กิโลเมตร
    • Thanya Shopping Park – 5.5 กิโลเมตร
    • Seacon Square – 7.3 กิโลเมตร
    • Paradise Park – 8 กิโลเมตร
    • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 8.2 กิโลเมตร

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    Print

    มาดูที่ตัวโครงการ ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบ้านแฝด 2 ชั้น 178 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 32-3-44.30 ไร่ โดยมีกำหนดจะเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2562 ค่ะ ซึ่งปัจจุบัน บ้านตัวอย่างทุกแบบสร้างเสร็จแล้ว ส่วนบ้านจริงที่ส่งมอบและพื้นที่สีเขียวส่วนกลางยังไม่เสร็จนะคะ จึงยังไม่สามารถดูบ้านเปล่าเทียบกับบ้านตัวอย่างได้ค่ะ

    ที่ดินของตัวโครงการมีด้านยาวติดถนนประมาณ 90 ม. จากถนนหลักตรงเข้ามาในโครงการฝั่งซ้ายจะเป็นบล็อกบ้านที่หันหน้าเข้าถนนหลัก ส่วนฝั่งขวาจะเป็นซอยอยู่อาศัยแบบกลุ่มบ้านเล็กๆ ซอยละ 2-4 หลัง ทั้งหมด 4 ซอย จากถนนหลักตรงไปด้านในสักพักจะผ่านพื้นที่คลับเฮาส์และสวนส่วนกลางของโครงการ ถัดจากตรงนี้จะมีวงเวียน ซึ่งเป็นจุดที่เริ่มแจกถนนออกเป็นซอยย่อยทั้ง 2 ฝั่ง เป็นซอยอยู่อาศัยอีก 9 ซอย แต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่เท่ากัน ตั้งแต่ซอยละ 6 หลังไปจนถึงซอยด้านในสุดที่มีจำนวนบ้านกว่า 25 หลัง

    โดยถนนหลักโครงการจากซุ้มทางเข้ามีความกว้าง 20.5 ม. ถัดมาจะแคบลงเหลือประมาณ 15 ม.จนถึงบริเวณหน้าคลับเฮ้าส์ และเมื่อผ่านช่วงวงเวียนจะมีแคบลงเหลือ 12 ม. และ 10 ม. ตามลำดับ ส่วนถนนซอยมีความกว้างประมาณ 9 ม. ตำแหน่งของสวนส่วนกลางจะอยู่ช่วงหัวโค้งก่อนถึงวงเวียน เป็นตำแหน่งที่อยู่บริเวณกลางที่ดิน โดยระยะทางจากทางเข้าถึงสุดเขตที่ดินมีระยะประมาณ 300 ม. เป็นระยะที่เดินมาใช้สวนตรงกลางโครงการได้สบายค่ะ

    การวางตัวของบ้านแต่ละหลัง จะหันหน้าเข้าหาถนนภายในโครงการ มีทั้งที่หันเข้าถนนหลัก 15, 12, 10 ม. และถนนซอยที่กว้าง 9 ม. ส่วนการเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล สำหรับลูกบ้านที่ชอบความสงบแนะนำให้เลือกหลังที่อยู่ท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ ส่วนผู้ที่เน้นเข้าออกสะดวก ก็เหมาะจะเลือกหลังที่อยู่ด้านหน้าโครงการค่ะ

    สำหรับทิศของบ้านในโครงการส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็มีหลังที่หันหน้าเข้าถนนหลักจะหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางทิศใต้จะได้แสงที่แรงกว่าและลมที่แรงกว่าด้วย แบบบ้านของโครงการมี 5 แบบ ทั้งแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด การเลือกบ้านขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบ หากเลือกแบบบ้านแฝด พื้นที่ใช้สอยในบ้านและพื้นที่สวนด้านข้างบ้านจะมีน้อยหน่อย แต่ราคาก็จะถูกกว่าแบบบ้านเดี่ยว สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยบ้างกว้างๆ มีพื้นที่สวนรอบบ้านกว้างๆและมีงบประมาณเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อยก็เลือกแบบบ้านเดี่ยวได้

    ซุ้มประตูหลักของโครงการออกแบบมาให้เป็นซุ้มแบบมีหลังคาไว้หลบฝนหลบแดดได้ ทางเข้าโครงการเป็นคอนกรีตแสตมป์ถูกยกระดับขึ้นมาจากถนนประมาณ 30 ซม. เพื่อช่วยในการระบายน้ำและป้องกันน้ำไหลเข้าโครงการได้

    ความกว้างถนนบริเวณหน้าซุ้มประตูกว้าง 20.5 ม. แบ่งเป็นทางเข้าออกฝั่งละ 8 ม., เกาะกลาง 2 ม. ซึ่งป้อม รปภ.จะอยู่บริเวณเกาะกลางเพื่อแยกฝั่งรถเข้า-ออกโครงการ ฟุตบาททางเดิน 2 ฝั่งมีระยะฝั่งละ 1 ม.

    ทางเข้าโครงการจะแยกออกเป็น 2 ช่องทาง โดยช่องฝั่งซ้ายจะเป็นทางเข้าสำหรับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการช่วยให้ลูกบ้านไม่เสียเวลาต่อคิวรอนานถ้ามีบุคคลภายนอกมาแลกบัตร สามารถใช้ระบบ Keycard Access ผ่านเข้าออกได้เลย ส่วนช่องฝั่งขวาที่ติดกับป้อมยาม เป็นช่องทางเข้าสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออกก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ รปภ. แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาเพื่อจะต้องแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออก และด้านข้างประตูใหญ่จะมีประตูทางเข้า-ออก สำหรับคนเดินแยกไว้ต่างหากอีกประตูหนึ่งค่ะ

    ระบบรักษาความปลอดภัยจะมีทั้งประตูเลื่อนไฟฟ้าและไม้กระดกกั้น ด้านข้างป้อมพี่รปภ.มีกล้อง CCTV ส่องคนขับในระยะใกล้ ส่วนช่องทางเข้าฝั่งซ้ายจะมีเครื่องแสกน Keycard ทำให้ไม้กระดกเปิดอัตโนมัติ

    ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาที่ถนนหลักภายในโครงการ เป็นถนนที่มีความกว้าง 15 ม. บรรยากาศ 2 ข้างทาง จะร่มรื่นด้วยต้นไม้ ในช่วงต้นของถนนหลักฝั่งซ้ายจะเป็นบล็อกบ้านอยู่อาศัยที่หันหน้าบ้านเข้าหาถนนหลักแบบนี้ แต่ฝั่งขวาที่เห็นเป็นแนวต้นไม้ ในอนาคตจะถูกแบ่งเป็นบล็อกบ้านเช่นกัน ซึ่งจะเป็นแบบซอยย่อย 2-4 หลัง เราสามารถแยกเข้าซอยอยู่อาศัยต่างๆ ได้จากถนนเส้นนี้

    พื้นที่ฝั่งซ้ายที่ติดกับบ้านตัวอย่าง ตอนนี้ทำเป็นลานจอดรถสำหรับลูกค้าที่เข้ามาติดต่อ แต่ในอนาคตจะเป็นพื้นที่ขายเช่นเดียวกันค่ะ

    บ้านหลังแรกเป็นสำนักงานขาย และหลังถัดๆไปเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 5 แบบค่ะ

    ภัสสร house (1 of 1)-2

    จากถนนหลักตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะถูกกั้นไว้เป็นพื้นที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

     

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
    • สวนสาธารณะ 1 ไร่กว่า
    • ระบบ CCTV 2 จุด ที่ Main Gate
    • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
    • Key Card Access ระยะไกล
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า
    • ถนนหลักกว้าง 20.5, 15, 12, 10 ม. และถนนซอยกว้าง 9 ม.
    • รถตู้รับส่งสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช และซีคอนสแควร์ (โดยมีค่าใช้จ่ายต่อเที่ยว)


    Product Walkthrough

    โครงการ ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ  เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบ้านแฝด 2 ชั้น มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งหมด 178 หลัง มีทั้งหมด 5 ดังนี้ค่ะ

    • บ้านเดี่ยวแบบ Primo พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
    • บ้านเดี่ยวแบบ Paradiz พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
    • บ้านแฝดแบบ Re-Fine พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
    • บ้านแฝดแบบ Re-Sense พื้นที่ใช้สอย 135 ตารางเมตร (3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)
    • บ้านแฝดแบบ Re-Life พื้นที่ใช้สอย 121 ตารางเมตร (3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ)

    ซึ่งเราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จและตกแต่งแล้วให้ดู 2 หลังคือ บ้านเดี่ยวแบบ Primo และบ้านแฝดแบบ Re-Life ซึ่งตกแต่งไว้เป็นตัวอย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเป็นบ้านจริงที่ขายนั้นจะเป็นบ้านเปล่า ไม่มีการตกแต่งภายในให้นะคะ

    1Primo

    บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 5 แบบ แบบแรกที่เป็นบ้านตัวอย่างคือ Primo เป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุด และมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในแบบบ้านเดี่ยว ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 167 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ จอดได้ 2 คัน และมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้หน้าบ้าน จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากสองทางหลัก คือบานประตูเลื่อนหน้าบ้านทางห้องนั่งเล่น และทางประตูเปิด-ปิดที่เชื่อมกับโรงจอดรถ

    จากทางเข้าฝั่งห้องนั่งเล่นหน้าบ้าน เข้ามาด้านในจะเจอห้องนั่งเล่นอันดับแรก ถัดเข้าไปคือห้องทานอาหาร เดินไปทางซ้ายจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ตรงกลางฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันได ถัดจากห้องน้ำเป็นห้องครัว ภายในห้องครัวมีประตูเปิดออกไปหลังบ้านเป็นส่วนซักล้าง

    บนชั้น 2 แปลนบ้านจะเป็นรูปตัว U มีบันไดขึ้นมาจากชั้นล่างอยู่ตรงกลางบริเวณด้านซ้ายของบ้าน เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอโถงทางเดินเชื่อมห้องนอนทั้ง 3 ห้อง และห้องน้ำส่วนกลาง โดยห้องนอนเล็กสุดจะอยู่ติดกับบันได ถัดไปเป็นห้องน้ำซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนเล็ก 1 และห้องนอนเล็ก 2 ที่ไม่มีห้องน้ำในตัว จะต้องออกมาใช้ห้องน้ำส่วนกลางร่วมกัน ส่วนห้องนอนใหญ่ที่สุดจะอยู่ทางขวามือจากบันได มีห้องน้ำในตัวและมีระเบียงที่จะมองเห็นสวนหน้าบ้าน

    ภายนอกของบ้านแบบ Primo ถูกดีไซน์ออกมาในสไตล์ Art Nouveau แบบเรียบหรู โดยรวมของบ้านถูกตกแต่งด้วยสี Earth Tone ได้แก่ น้ำตาล ขาว เขียว ครีม ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติ ราวระเบียงชั้น 2 ถูกตกแต่งด้วยสีดำและสีทอง เพื่อให้บ้านดูโดดเด่นขึ้น ช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสง ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นหลังคากระเบื้องซีแพคโมเนีย มีความยาวยื่นออกมาจากตัวบ้านไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ได้มากนัก หน้าบ้านตัวอย่างเป็นพื้นที่เปิดโล่งไม่ได้มีรั้วมาให้ดู ซึ่งบ้านจริงจะมีรั้วทั้ง 4 ด้านนะคะ

    ตัดภาพจากบ้านตัวอย่างมาที่บ้านจริงกันนะคะ ประตูรั้วหน้าบ้านเป็นประตูเลื่อนโดยลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ด้านหน้ามีประตูเล็กเข้า-ออกสำหรับคนเดิน ทางซ้ายของประตูรั้วบ้านจะมีตู้ไปรษณีย์สีน้ำตาล ด้านหน้าตู้จะติดเลขที่บ้านไว้ ใต้ตู้ไปรษณีย์จะมีกริ่งบ้านค่ะ

    พื้นลานจอดรถเทคอนกรีตขัดเรียบไว้ ตัวหลังคาบ้านจะคลุมที่จอดรถได้ประมาณครึ่งคัน ถ้าต้องการให้คลุมทั้งคันรถจะต้องต่อกันสาดเพิ่มด้านหน้า ให้มีที่จอดรถในร่มเพิ่มขึ้น ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ก็เป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านนิยมต่อเติมที่สุดเลยนะคะ

    หน้าบ้านจะมีประตูทางเข้า 2 ทางนะคะ คือทางเข้าจากทางห้องนั่งเล่นและทางเข้าจากทางลานจอดรถค่ะ ทางเข้าบ้านฝั่งห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสไลด์ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน ส่วนประตูฝั่งโรงรถจะเป็นประตูไม้บานเปิด-ปิดที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้านเช่นกัน

    ก่อนอื่นจะพาไปชมบรรยากาศรอบๆตัวบ้านกันก่อนนะคะ บ้านจริงจะมีรั้วกั้นทั้ง 4 ด้านรอบบ้านค่ะ

    ด้านข้างของตัวบ้านจะมีพื้นที่เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินที่เลือก แต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากันนะคะ อย่างบ้านตัวอย่าง (ภาพบน) จะเหลือพื้นที่ด้านข้างน้อยกว่าภาพล่างที่เป็นแปลงมุมค่ะ บ้านแปลงมุมก็จะมีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้ใหญ่ได้และเหลือพื้นที่สนามหญ้าให้เดินเล่นได้อีกด้วย บ้านจริงที่ได้ก็จะปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม และปูหญ้ามาให้นะคะ

    พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านจะมีพื้นที่เหลือพอให้ปลูกต้นไม้อีกเช่นกัน และมีลานซักล้างที่เชื่อมกับห้องครัว วัสดุเป็นคอนกรีตขัดเรียบค่ะ

    บริเวณด้านข้างอีกฝั่งของบ้านจะเหลือพื้นที่ไว้ปลูกต้นไม้ได้อีกเช่นกัน ซึ่งบ้านจริงก็จะปลูกไม้พุ่มและปูหญ้ามาให้แล้ว

    เดินวนมาถึงประตูเข้าบ้านฝั่งโรงรถจะเป็นประตูไม้ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน โดยมีขั้นบันไดที่ยกขึ้นจากพื้นโรงจอดรถ ประตูฝั่งที่จอดรถนี้เป็นประตู UPVC ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง ซึ่งข้อดีของการมีปลั๊กไฟฝั่งที่จอดรถทำให้สามารถเสียบปลั๊กไฟเพื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดรถได้สะดวก และเป็นฝั่งที่มีกันสาดจากด้านบนยาวกว่าอีกฝั่ง ช่วยป้องกันน้ำเข้าปลั๊กไฟได้ นอกจากนี้ยังมี Door Stop แบบมีตะขอเกี่ยวประตูหน้าบ้านค่ะ เวลาลมพัดประตูจะได้ไม่กระพือเปิดปิดทำให้เกิดเสียงดังค่ะ

    กลับมาที่ทางเข้าหลักหน้าบ้าน ประตูกระจกบานสไลด์หน้าบ้านเป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อน จึงเป็นช่องแสงธรรมชาติให้แก่ตัวบ้าน ทำให้มีช่องแสงธรรมชาติที่มาก ตัวบานเลื่อนเป็นแบบเปิดตรงกลาง 2 ด้าน ทำให้ช่องทางเดินเข้าบ้านกว้าง 1.1 ม. ซึ่งดีกว่าแบบประตูบานเลื่อนที่เปิดได้ทีละข้างนะคะ

    พื้นเฉลียงหน้าประตูบ้านถูกยกระดับขึ้นจากพื้นลานจอดรถ 2 ขั้น เพื่อแยกเป็นส่วนถอดรองเท้าหน้าบ้าน พื้นยกระดับ 2 ขั้นนี้สูงจากพื้นลานจอดรถประมาณ 37 ซม. ปูด้วยกระเบื้องผสมทรายล้าง มีข้อดีคือช่วยกันลื่นได้ดี ส่วนพื้นในตัวบ้านก็ยกระดับจากพื้นหน้าประตูอีกระดับหนึ่ง ตัวรางของประตูถูกกดให้มีระดับที่เท่ากับพื้นกระเบื้องด้านในตัวบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดบานประตูนะคะ พื้นภายในบ้านจะยกระดับสูงขึ้นจากเฉลียงประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60 ซม.ค่ะ

    ลักษณะของมือจับบานประตูหน้าบ้านมีพื้นที่ให้จับได้พอดีมือค่ะ ประตูเป็นแบบล็อก 2 ชั้นคือ ตัวล็อกที่มือจับประตูและตัวล็อกก้นหอย 2 ฝั่งของประตูอีกชั้นนึงค่ะ

    เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดไปด้านในเป็นส่วนพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.58 เมตรถือว่าปกตินะคะ ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นวอลเปเปอร์ทั้งหลังเช่นกัน ยกเว้นส่วนห้องครัวที่จะให้เป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะคะ ส่วนดวงไฟบ้านตัวอย่างจะติดไฟดาวน์ไลท์และโคมไฟแขวน ส่วนบ้านจริงจะให้เฉพาะไฟดาวน์ไลท์นะคะ

    เข้ามาภายในบ้านแล้วมองกลับไปที่ประตูหน้าบ้านจะเห็นพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมดในชั้น 1 นะคะ ฝั่งขวาถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นตำแหน่งบันไดขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายไล่จากประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่วางโซฟาของห้องนั่งเล่น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานข้าวค่ะ

    มาดูรายละเอียดทีละจุดกันนะคะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน โซฟาที่จัดไว้เป็นตัวอย่างเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง และโซฟาเดี่ยวอีก 1 ตัว ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้ หรือจะวางเป็นโซฟาตัว L ก็ได้นะคะ

    ส่วนพื้นที่ผนังสำหรับติดทีวีมีความกว้าง 3.2 ม. ค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถ Built-in เป็นชั้นวางทีวีเต็มผนังได้เลยนะคะ พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้าง 2.5 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดที่ใหญ่ถึง 60 นิ้ว ได้เลยค่ะ

    ภัสสร-House-LR-17-of-144_new

    พื้นที่ระหว่างชั้นวางทีวีถึงโซฟามีพื้นที่ทางเดินเหลือประมาณ 2.25 ม. ถ้าจะเลือกโต๊ะกลางก็ควรเลือกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้เหลือพื้นที่ทางเดินได้สะดวกค่ะ

    ด้านหลังโซฟาทั้ง 2 ฝั่งจะมีหน้าต่าง ซึ่งมีข้อดีที่เป็นช่องที่ใช้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องนั่งเล่นนะคะ แต่จากตำแหน่งของหน้าต่างจะมีข้อเสียที่สามารถมองจากข้างบ้านเข้ามาได้ง่าย ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวภายในบ้านไปได้ จึงควรติดม่าน 2 ชั้นให้ด้านในเป็นผ้าโปร่งที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้ และกันสายตาจากบ้านข้างเคียงได้ค่ะ

    ต่อมาเป็นพื้นที่ด้านในของบ้าน เป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 6 ตัว ด้านหลังและด้านข้างของโต๊ะอาหารมีช่องแสงของตัวบ้านที่รับแสงเข้ามาจากทั้ง 2 ด้าน ทำให้เวลานั่งทานข้าวเวลากลางวันจะร้อนสักนิด ต้องติดม่านช่วยนะคะ แต่ถ้าทำสวนรอบๆและมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาจะช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีเลยค่ะ ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้พอสมควร หรือจะปรับเป็นโต๊ะทานข้าวแบบเหลี่ยมก็มีพื้นที่พอค่ะ

    ช่องแสงด้านข้างโต๊ะทานข้าวฝั่งหนึ่งเป็นประตูบานเลื่อนนะคะ โดยสเปคของประตูบานเลื่อนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดได้ทีละข้าง เมื่อเปิดแล้วมีความกว้างของช่องทางเดินประมาณ 90 ซม. จึงมีขนาดช่องทางเดินเข้าออกเล็กกว่าด้านหน้าบ้านค่ะ

    วงกบประตูบานเลื่อนจะยกขึ้นมาตัวบ้าน 12 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำจากด้านนอกบ้านไหลเข้ามาด้านในได้ ตรงนี้เวลาเดินจะต้องระวังสะดุดนะคะ

    ส่วนพื้นเฉลียงไม้ด้านนอกมีระดับลดลงมาจากพื้นบ้าน 17 ซม. ซึ่งส่วนนี้ที่บ้านตัวอย่างทำไว้ให้ดูเป็นไอเดียในการตกแต่งเท่านั้นนะคะ ถ้าเป็นบ้านจริงที่ส่งมอบให้ลูกบ้านจะไม่ได้มีเฉลียงไม้แบบนี้ค่ะ

    ภัสสร-House-LR-23-of-144_new

    กลับเข้ามาในบ้านติดกับโต๊ะทานข้าว จะมีเคาน์เตอร์เล็กๆ ไว้สำหรับวางถาดเสิร์ฟ วางจานขนม ซึ่งส่วนนี้บ้านจริงจะไม่ได้มีเคาน์เตอร์มาให้ นะคะ หลังเคาน์เตอร์จะเป็นห้องครัว ด้านซ้ายมือเป็นประตูไปโรงจอดรถ ตรงกลางเป็นทางไปห้องน้ำกับห้องเก็บของซึ่งพื้นจะลดระดับลงไปหน่อยนะคะ

    ระดับพื้นทางไปห้องน้ำจะถูกกดลดลงไป 2 ขั้นบันได ประมาณ 36 ซม. เพราะเป็นห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดจึงต้องการความสูงของพื้นถึงฝ้าที่เพิ่มขึ้นนะคะ ส่วนด้านข้างบันไดจะเป็นห้องเก็บของค่ะ

    ประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป UPVC แบบมีเกล็ดระบายอากาศ มือจับประตูเป็นลูกบิดหน้าตาธรรมดาค่ะ

    ห้องน้ำชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำในห้องนี้นะคะ ภายในมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ครบถ้วนนะคะ ได้แก่ อ่างล้างมือ กระจกเงา และสุขภัณฑ์ ผนังหน้องน้ำจะกรุกระเบื้องทุกด้านนะคะ

    อ่างล้างมือของ American Standard มีขนาดขนาดใหญ่พอสมควร ส่วนขอบอ่างมีระยะให้พอวางของได้บ้าง ส่วนก๊อกน้ำได้ของ American Standard เช่นกันค่ะ

    โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบสองชิ้นยี่ห้อ American Standard หรือเทียบเท่า มากับที่แขวนกระดาษชำระและสายฉีดชำระ ด้านข้างมีการเว้นพื้นที่ไว้นิดหน่อยสำหรับการหยิบทิชชู่

    ถัดมาเป็นพื้นที่ระหว่างห้องครัวและห้องทานอาหาร โดยบ้านตัวอย่างตกแต่งไว้เป็นเคาน์เตอร์วางของ ซึ่งจริงๆพื้นที่ตรงนี้อาจทำเป็น Pantry เล็กๆ สำหรับทำอาหารเช้าง่ายๆ เช่น ปิ้งขนมปังหรือชงกาแฟก็ได้นะคะ ทางซ้ายเป็นทางเข้าห้องครัวไทย เป็นครัวแบบเปิดนะคะ ไม่ได้มีประตูปิดค่ะ ทำให้เวลาทำครัวไทยหนักๆกลิ่นจะฟุ้งเข้ามายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆได้นะคะ แนะนำให้ทำประตูปิดเพิ่มเติมเข้าไปทีหลังจะดีกว่าค่ะเพราะกลิ่นจะได้ไม่ฟุ้งไปทั่วทั้งบ้าน

    ภายในห้องครัวไทย พื้นจะปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาวต่อมาจากพื้นที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าห้อง ส่วนผนังเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีค่ะ ขนาดของห้องมีขนาดพอให้ทำเคาน์เตอร์แบบตัว U ได้นะคะ และมีตำแหน่งที่เดินท่อน้ำไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าในห้องครัวเรียบร้อย ส่วนเคาน์เตอร์ครัวและตู้ที่เห็นไม่ได้ให้มานะคะ

    อีกมุมหนึ่งของห้องครัวก็เป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เย็นค่ะ โดยสามารถเลือกตู้ที่ใหญ่กว่านี้ได้แต่ก็ต้องวัดระยะพื้นที่ให้แน่นอนก่อนซื้อด้วยนะคะ ประตูด้านหลังบ้านเป็นประตูสำเร็จ UPVC เหมือนแบบประตูหน้าบ้านฝั่งโรงจอดรถ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้านค่ะ

    พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน จะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัว 34 ซม. โดยจะก่อด้วยคอนกรีตขัดเรียบ มีขอบรอบลานซักล้างอีก 5 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำจากลานซักล้างไหลออกไปโดยพื้นที่สนามหญ้าโดยรอบนะคะ

    ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นโครงเหล็กสำเร็จรูปทำให้ระยะลูกตั้งและนอนได้มาตรฐานดีค่ะ

    ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 97 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. ลูกนอนกว้าง 25 ซม. ถือว่าเป็นขนาดมาตรฐาน ใช้งานได้สะดวกค่ะ

    ราวกันตกเป็นลูกกรงเหล็กทาสีขาว มือจับเป็นไม้สำเร็จรูป บริเวณช่วงโค้งของบันไดจะมีราวกันตกอยู่ตลอด แม้ตัวราวจับด้านบนจะไม่ได้เชื่อมต่อกันได้ตรงแต่ถือว่าดีที่ให้มาตลอดแนวค่ะ

    เดินขึ้นบันไดมาจะมีชานพักบันได 1 จุด เป็นขั้นสี่เหลี่ยมที่มีขนาดกว้าง ยืนได้สะดวกดีค่ะ

    ช่องแสงของบันไดจะจัดไว้ตรงกลางโถงบันได ทำให้ตัวโถงบันไดไม่มืดจนเกินไป แต่ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวเพราะช่องหน้าต่างนี้จะตรงกับบ้านข้างๆพอดี จึงควรติดม่านโปร่งไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่ง เหมือนหน้าต่างห้องนั่งเล่นหน้าบ้านค่ะ

    ภัสสร-House-LR-39-of-144_new

    ขึ้นมายังโถงชั้น 2 ห้องนอนแรกทางฝั่งซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก ห้องถัดไปเป็นห้องน้ำที่อยู่ระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งขวาของบันได ฝ้าในชั้นนี้มีความสูง 2.58 ม. เช่นเดียวกับชั้นล่าง วัสดุพื้นชั้นบนจะได้เป็นพื้นลามิเนตค่ะ

    มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกเลยนะคะ เป็นห้องนอนที่เล็กที่สุดในบ้านแต่ก็มีพื้นที่กว้างพอสมควรสำหรับเด็กวัยรุ่น ภายในมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องไม่อึดอัด ห้องตัวอย่างถูกจัดวาง Furniture ต่างๆไว้เป็นไอเดียในการตกแต่ง ได้แก่ เตียงขนาด 3.5 ฟุตที่ถูกวางชิดผนังไว้ฝั่งหนึ่ง ทำให้เหลือพื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่าค่ะ

    ห้องตัวอย่าง Built-in พื้นที่ด้านปลายเตียงให้เป็นตู้โชว์ แต่ถ้าต้องการติดทีวี ก็สามารถ Built-in ให้เป็นช่องสำหรับแขวนทีวีได้สบายๆค่ะ ส่วนฝั่งขวาติดกระจกไว้ที่ผนังทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นได้ ส่วนนี้ก็สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียในการตกแต่งได้อีกเช่นกัน

    พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งขวาที่ติดกับตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่กว้างประมาณ 1.1 ม. สามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของหัวเตียงขนาดเล็ก เพราะถ้าเลือกโต๊ะขนาดใหญ่จะบังประตูตู้เสื้อผ้านะคะ จึงแนะนำสำหรับห้องนี้ว่าควรใช้เตียงแบบที่หัวเตียงมีชั้นวางของมาด้วยเลยค่ะ

    ส่วนปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 88 ซม. ก็ยังมีพื้นที่ตรงปลายเตียงให้สามารถเดินไปเปิดหน้าต่างได้สบายๆนะคะ

    ด้านข้างของเตียงมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน บานไม่ใหญ่นัก แต่บานกระจกนี้ก็เป็นช่องแสงของห้องนอนได้ค่ะ

    จากฝั่งด้านหน้าต่างมองมาประตูเข้าห้อง ด้านข้างประตูเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือหรือใครจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะคะ

    ต่อมาเป็นห้องน้ำของชั้น 2 ที่เป็นห้องน้ำรวมสำหรับห้องนอนเล็ก 2 ห้อง บานประตูเป็นบาน UPVC เหมือนชั้นล่างนะคะ ห้องน้ำที่บ้านตัวอย่างและบ้านจริงที่ส่งมอบให้ลูกบ้านจะเหมือนกันนะคะ แต่ขนาดห้องน้ำบนชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำที่ชั้นล่าง โดยชั้นบนจะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำเพิ่มขึ้นมา และแยกพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้ค่ะ

    ตัวอ่างล้างหน้ามีขนาดใหญ่กว่าห้องน้ำชั้นล่างและมีช่องเก็บของแบบเปิดใต้อ่างล้างหน้า ได้ของ Mogen หรือเทียบเท่า ส่วนก๊อกน้ำจะเป็นของ American Standard ค่ะ

    สำหรับพื้นที่ส่วนเปียกภายในห้องน้ำจะมีฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานกระจกใส ตัวมือจับด้านนอกสามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ส่วนด้านในมีติด Stopper ป้องกันฉากกั้นอาบน้ำกระแทกกับผนังด้านในค่ะ

    พื้นที่ภายในฉากกั้นอาบน้ำมีขนาด 1.5 x 1 ม. ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานใช้งานได้พอดีๆนะคะ พื้นห้องน้ำในส่วนเปียกจะมีขอบปูนกั้นยกขึ้นมาจากพื้นอีก 9 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ

    หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ ด้านล่างจะมีก๊อกน้ำอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีในการช่วยอำนวยความสะดวกเวลาต้องการรองน้ำใส่ถังน้ำสำหรับถูบ้าน หรือรองน้ำใส่กะละมังซักผ้าก็สะดวกดีค่ะ

    อุปกรณ์อาบน้ำ ได้แก่ ฝักบัวของ  American Standard มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ

    ห้องถัดมาคือห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งซึ่งมีขนาดกว้างกว่าห้องนอนเล็กห้องแรก หรือจะเรียกว่าห้องนอนลูกคนโปรดก็ได้ค่ะ ห้องนี้จะมีช่องแสง 2 ฝั่งเหมือนห้องนอนเล็กห้องแรก ทำให้ภายในดูโปร่งเช่นกัน ภายในมีพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต โดยมีพื้นที่เหลือทั้ง 2 ฝั่งจริงๆแล้วสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตก็ได้เพราะมีพื้นที่เหลือพอนะคะ แต่พื้นที่ใช้สอยที่เหลือภายในห้องจะลดลง

    ด้านข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งมีพื้นที่เหลือให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้อย่างสบาย ส่วนหัวเตียงด้านในก็มีพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้เช่นกันค่ะ ปลายเตียงเหลือพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวีได้ ซึ่งสามารถทำเป็นตู้ Built-in สำหรับวางทีวีและเก็บของในตู้เดียวเลยก็ได้ค่ะ

    ห้องตัวอย่างตกแต่งพื้นที่ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า ซึ่งถ้าต้องการติดทีวีบนผนังด้านปลายเตียงก็สามารถย้ายตู้เสื้อผ้าไปไว้ที่ผนังฝั่งที่ติดกับประตูอีกฝั่งหนึ่งก็ได้

    ผนังฝั่งนี้ค่ะที่ติดกับประตู สามารถ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าได้เกือบเต็มผนังเลยค่ะ แต่อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับเปิดปิดประตูไว้ประมาณ 1 ม. นะคะ

    ต่อไปมาดู Master Bedroom กันค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่อยู่อาศัยในชั้น 2 เลยนะคะ ภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงด้วยค่ะ ข้อดีของห้องที่มีขนาดใหญ่แบบนี้คือสามารถกั้นพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet ทำให้ห้องมีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นได้นะคะ ตัวห้องมีระยะพื้นถึงฝ้าสูงเท่ากับห้องนอนชั้น 2 ห้องอื่นๆค่ะ

    ภัสสร house (1 of 1)

    การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งสำหรับวางเตียงนอน ซึ่งบ้านตัวอย่างวางไว้ขนาด 5 ฟุต โดยมีพื้นที่เหลือทั้ง 2 ฝั่งจริงๆแล้วสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เพราะมีพื้นที่เหลือพอนะคะ แต่พื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงจะลดลง

    พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายและขวามีพื้นที่กว้างประมาณข้างละ 0.7 ม. จึงสามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ซึ่งด้านหลังโต๊ะหัวเตียงติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือเสียบปลั๊กโคมไฟได้สะดวก พื้นที่ปลายเตียงหากทำชั้นวางทีวีทางฝั่งขวาจะเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 0.8 ม.

    ภัสสร-House-LR-64-of-144_new

    พื้นที่ด้านข้างเตียงจัดไว้เป็นที่นั่งเล่นภายในห้อง ซึ่งบ้านจริงจะเป็นบ้านเปล่านะคะ แต่เราสามารถเก็บไว้เป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้ ถัดไปจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นส่วนของห้องน้ำและ Walk-in Closet ค่ะ

    ภัสสร-House-LR-66-of-144_new

    พื้นที่ข้างเตียงระหว่างเตียงนอนกับส่วน  Walk-in Closet เหลือเป็นพื้นที่ทางเดินประมาณ 1.8 เมตร สามารถวางโซฟาเดี่ยวข้างเตียงได้สบายๆค่ะ

    ด้านหลังโซฟาเป็นประตูบานกระจกสไลด์สำหรับออกไประเบียงด้านนอก ทำให้ภายในห้องมีช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ

    พื้นที่ระเบียงนี้ปูด้วยกระเบื้องผสมทราบล้าง กว้างยาวประมาณ 0.84 x 5.9 ม. ซึ่งเหมาะจะออกมายืนรับลม ชมวิว หรือตั้งกระถางต้นไม้แค่นั้นค่ะ ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นลูกกรงเหล็ก ซี่ไม่ได้ถี่มากจะสามารถมองทะลุไปเห็นวิวด้านนอกได้

    ระหว่างพื้นระเบียงกับพื้นห้องนอนจะมีขอบปูนกั้นสูง 17 ซม. นะคะ กันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้ามาในตัวห้องได้ค่ะ

    ภัสสร-House-LR-69-of-144_new

    ต่อมาเป็นพื้นที่ Walk-in closet มีข้อดีคือสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เต็มผนังฝั่งซ้ายที่ติดกำแพง ส่วนพื้นที่ด้านหน้าคงถูกใจคุณผู้หญิงมากเพราะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ หน้าต่างด้านหลังโต๊ะเครื่องแป้งเป็นแบบบานเลื่อนเปิดได้ เพื่อเป็นช่องระบายอากาศภายในห้องนอนค่ะ ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำในตัวของ Master Bedroom ค่ะ

    ห้องน้ำในตัวเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเหมือนกับห้องน้ำส่วนกลางที่ชั้น 2 พื้นและผนังห้องทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องเหมือนกันค่ะ ต่างกันเพียงตัวอุปกรณ์และสุขภัณฑ์จะเป็นแบบที่ดีกว่า ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดเล็กกว่าหน่อยคือประมาณ 1.48 x 0.9 ม. ค่ะ

    ผนังด้านหลังอ่างล้างมือมีข้อดีคือสามารถติดกระจกได้เต็มบานเลยนะคะ จะช่วยทำให้ภายในห้องดูกว้างขึ้นค่ะ

    ตัวอ่างล้างหน้าจะเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าของห้องน้ำในบ้านอีก 2 ห้องนะคะ ก๊อกน้ำจะได้ของ American Standard เหมือนกันค่ะ

    ใต้อ่างล่างมือจะมีตู้เก็บของแบบบานเปิด-ปิดค่ะ ซึ่งจะต่างจากห้องน้ำอื่นที่ได้เป็นช่องโล่งๆนะคะ เวลาใส่ของก็อย่าใส่เต็มมากนะคะ เผื่อพื้นที่เอาไว้สำหรับเวลาซ่อมก๊อกน้ำด้วยค่ะ

    โถสุขภัณฑ์จะได้ของ American Standard เหมือนกันแต่จะเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่าค่ะ

    Pattern

    ต่อไปเป็นบ้านแฝดบ้างนะคะ แบบที่เลือกมาทำรีวิวคือแบบ Re-Life เป็นบ้านขนาดเล็กที่สุด และมีจำนวนยูนิตมากที่สุดในแบบบ้านแฝดของโครงการ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 35.7 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 121 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ แบบบ้านจะคล้ายกับบ้านเดี่ยวแบบ Primo เลย ต่างกันเพียงตำแหน่งของบันไดที่ย้ายจากหน้าประตูฝั่งโรงจอดรถไปไว้ด้านหลังส่วนทานข้าว และจำนวนห้องน้ำที่ลดลงเหลือชั้นละห้อง ทำให้ห้องนอนทั้ง 3 ห้องที่ชั้นบนจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ

    ภายนอกของบ้านแบบ Re-Life ถูกดีไซน์ออกมาในสไตล์ Art Nouveau แบบเรียบหรูเช่นเดียวกับแบบ้านเดี่ยวนะคะ โดยรวมของบ้านถูกตกแต่งด้วยสีโทน เทา ขาว เขียว ให้ความรู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติ ราวระเบียงชั้น 2 ถูกตกแต่งด้วยสีดำและสีทอง เพื่อให้บ้านดูโดดเด่นขึ้น ช่องแสงเป็นบานกระจกเขียวตัดแสง ส่วนหลังคาของตัวบ้านเป็นหลังคากระเบื้องซีแพคโมเนีย มีความยาวยื่นออกมาจากตัวบ้านไม่เยอะ ทำให้บังแดดหรือฝนไม่ได้มากนัก หน้าบ้านตัวอย่างเป็นพื้นที่เปิดโล่งไม่ได้มีรั้วมาให้ดู ซึ่งบ้านจริงจะมีรั้วทั้ง 4 ด้านนะคะ

    หน้าบ้านจะมีประตูทางเข้า 2 ทางนะคะ คือทางเข้าจากทางห้องนั่งเล่นและทางเข้าจากทางลานจอดรถค่ะ ทางเข้าบ้านฝั่งห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสไลด์ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน ส่วนประตูฝั่งโรงรถจะเป็นประตูไม้บานเปิด-ปิดที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้านเช่นกัน

    ก่อนอื่นจะพาไปชมบรรยากาศรอบๆตัวบ้านกันก่อนนะคะ บ้านจริงจะมีรั้วกั้นทั้ง 4 ด้านรอบบ้านค่ะ

    มาดูด้านข้างของตัวบ้าน ข้างบ้านจะมีพื้นที่เท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินที่เลือก แต่ถ้าเลือกแบบบ้านแฝดขนาดแปลงที่ดินเริ่มต้นก็จะมีขนาดเล็กกว่าแบบบ้านเดี่ยวนะคะ เป็นทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่ปลูกต้นไม้รอบบ้านมากนัก แต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากันนะคะ บ้านจริงที่ได้ก็จะปลูกต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม และปูหญ้ามาให้นะคะ

    พื้นที่ด้านหลังของตัวบ้านจะมีพื้นที่เหลือพอให้ปลูกต้นไม้ และฝั่งซ้ายเป็นลานซักล้างที่เชื่อมกับห้องครัวเป็นคอนกรีตขัดเรียบค่ะ

    บริเวณด้านข้างของบ้านที่ติดกับบ้านอีกหลังจะเหลือพื้นที่ไม่เยอะนัก ซึ่งบ้านจริงก็จะปลูกไม้พุ่มและปูหญ้ามาให้แล้ว

    เดินวนมาถึงประตูเข้าบ้านฝั่งโรงรถจะเป็นประตู UPVC ที่ยกขึ้นสูงจากพื้นหน้าบ้าน ด้านข้างประตูมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ ติดให้ 1 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมี Door Stop แบบมีตะขอเกี่ยวประตูหน้าบ้านค่ะ เหมือนแบบบ้านเดี่ยวเลยนะคะ

    กลับมาที่ทางเข้าหน้าบ้าน ประตูกระจกบานสไลด์หน้าบ้านเป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อน จึงเป็นช่องแสงธรรมชาติให้แก่ตัวบ้าน ทำให้มีช่องแสงธรรมชาติที่มาก ตัวบานเลื่อนเป็นแบบเปิดได้ทั้ง 2 บาน แต่เปิดได้ทีละฝั่งนะคะ ทำให้ช่องทางเดินเข้าบ้านกว้าง 0.9 ม. จะแคบกว่าประตูของบ้านเดี่ยวที่เป็นแบบเปิดออกทั้ง 2 ฝั่งพร้อมกันได้ค่ะ

    พื้นเฉลียงหน้าประตูบ้านถูกยกระดับขึ้นจากพื้นลานจอดรถ 2 ขั้น เพื่อแยกเป็นส่วนถอดรองเท้าหน้าบ้าน พื้นยกระดับ 2 ขั้นนี้สูงจากพื้นลานจอดรถ 37 ซม. ปูด้วยกระเบื้องผสมทรายล้าง มีข้อดีคือช่วยกันลื่นได้ดี ส่วนพื้นในตัวบ้านก็ยกระดับจากพื้นหน้าประตูอีกระดับหนึ่ง ตัวรางของประตูถูกกดให้มีระดับที่เท่ากับพื้นกระเบื้องด้านในตัวบ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสะดุดบานประตูนะคะ พื้นภายในบ้านจะยกระดับสูงขึ้นจากเฉลียงประมาณ 5 ซม. ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาวขนาด 60 ซม.ค่ะ

    ประตูกระจกบานสไลด์หน้าบ้านเป็นบาน Fix ผสมบานเลื่อนมีขนาดกว้าง 1.8 ม. สูง 2 ม. รับแสงธรรมชาติได้มาก ตัวบานเลื่อนสามารถเปิดได้ฝั่งเดียว ทำให้ความกว้างเวลาเปิดประตูจะมีความกว้างคือประมาณ 0.9 ม. เวลาจะนำของที่มีขนาดใหญ่เข้าบ้านต้องระวังนิดนึงค่ะ

    ลักษณะของมือจับบานประตูหน้าบ้านมีพื้นที่ให้จับได้พอดีมือค่ะ ประตูเป็นแบบล็อก 2 ชั้นคือ ตัวล็อกที่มือจับประตูและตัวล็อกก้นหอยอีกชั้นนึงค่ะ

    เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ถัดไปด้านในเป็นส่วนพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารและส่วนครัว ด้านในสุดหลังส่วนทานอาหารจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ พื้นที่ชั้น 1 มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่างสูง 2.58 เมตรถือว่าปกตินะคะ ผนังในบ้านตัวอย่างจะติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นวอลเปเปอร์ทั้งหลังเช่นกัน ยกเว้นส่วนห้องครัวที่จะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะคะ ส่วนดวงไฟบ้านตัวอย่างจะติดไฟดาวน์ไลท์และโคมไฟแขวน ส่วนบ้านจริงจะให้เป็นไฟดาวน์ไลท์เท่านั้นนะคะ

    เข้ามาภายในบ้านแล้วมองกลับไปที่ประตูหน้าบ้านจะเห็นพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมดในชั้น 1 นะคะ ฝั่งขวาถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นตำแหน่งของประตูฝั่งโรงจอดรถและห้องน้ำ ส่วนฝั่งซ้ายไล่จากประตูเข้ามาจะเป็นพื้นที่วางโซฟาของห้องนั่งเล่น ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานข้าวค่ะ

    มาดูรายละเอียดทีละจุดกันนะคะ เริ่มจากห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน โซฟาที่จัดไว้เป็นตัวอย่างเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้นะคะ

    ภัสสร-House-LR-89-of-144_new

    พื้นที่ระหว่างชั้นวางทีวีถึงโซฟามีพื้นที่ทางเดินเหลือประมาณ 1.8 ม. ถ้าจะเลือกโต๊ะกลางก็ควรเลือกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้เหลือพื้นที่ทางเดินได้สะดวกค่ะ พื้นที่นี้มีระยะระหว่างโซฟาถึงทีวีกว้าง 3 ม. จึงสามารถติดทีวีขนาดที่ใหญ่ถึง 60 นิ้ว ได้เลยค่ะ

    ด้านหลังโซฟาจะมีหน้าต่างแบบบ้านเลื่อนผสมบาน Fixed สามารถเลื่อนเปิดด้านข้างได้ 2 ฝั่ง ซึ่งมีข้อดีที่เป็นช่องที่ใช้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องนั่งเล่นนะคะ แต่จากตำแหน่งของหน้าต่างก็มีข้อเสียที่สามารถมองจากข้างบ้านเข้ามาได้ง่าย ทำให้เสียความเป็นส่วนตัวภายในบ้านไปได้ จึงควรติดม่าน 2 ชั้นให้ด้านในเป็นผ้าโปร่งที่แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาได้ และกันสายตาจากบ้านข้างเคียงได้ค่ะ

    ต่อมาเป็นพื้นที่ด้านในของบ้าน เป็นตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ตัว ด้านข้างของโต๊ะอาหารมีช่องแสงของตัวบ้านที่รับแสงเข้ามา ส่วนระยะโดยรอบโต๊ะทานข้าวมีระยะให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้พอสมควรค่ะ ส่วนด้านหลังโต๊ะทานข้าวจะเป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ

    ช่องแสงด้านข้างโต๊ะทานข้าวเป็นประตูบานเลื่อนนะคะ โดยสเปคของประตูบานเลื่อนข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนแบบเปิดได้ทีละข้างเหมือนแบบประตูหน้าบ้าน เมื่อเปิดแล้วมีความกว้างของช่องทางเดินประมาณ 1.1 ม. จึงมีขนาดช่องทางเดินเข้าออกที่กว้างกว่าด้านหน้าบ้านค่ะ

    ภัสสร-House-LR-95-of-144_new

    กลับเข้ามาในบ้านถัดจากโต๊ะทานข้าว ไล่จากด้านซ้ายก็จะมีประตูฝั่งโรงจอดรถ ถัดมาเป็นห้องน้ำชั้นล่าง และห้องครัวที่อยู่ทางขวาสุดค่ะ

    ประตูห้องน้ำเป็นบานสำเร็จรูป UPVC แบบมีเกล็ดระบายอากาศ มือจับประตูเป็นลูกบิดหน้าตาธรรมดาเหมือนแบบห้องน้ำในบ้านเดี่ยวนะคะ แต่ห้องน้ำชั้น 1 ของบ้านแฝดจะเป็นห้องน้ำที่มีแยกส่วนเปียกแห้ง มีพื้นที่อาบน้ำอยู่ภายในห้องด้วย ในเวลาเร่งด่วนก็อาจจะแบ่งคนลงมาอาบน้ำชั้นล่างได้ เพื่อประหยัดเวลาในตอนเช้าค่ะ ภายในมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ครบถ้วนนะคะ ได้แก่ อ่างล้างมือ กระจกเงา และสุขภัณฑ์ ผนังหน้องน้ำจะกรุกระเบื้องทุกด้านนะคะ

    อ่างล้างหน้ามีขนาดขนาดใหญ่พอสมควร แต่จะเล็กกว่าของบ้านเดี่ยวและไม่ได้มีช่องเก็บของใต้อ่างล้างมือให้ แต่ขอบอ่างมีระยะให้พอวางของได้บ้าง ตัวอ่างล่างหน้าได้ของ Mogen หรือเทียบเท่า ส่วนก๊อกน้ำได้ของ American Standard ตำแหน่งของอ่างจะติดชิดด้านซ้ายไปหน่อยทำให้เวลาใช้งานอาจจะไม่ค่อยสะดวกนักค่ะ

    พื้นที่ส่วนเปียกจะไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะคะ ต้องติดเพิ่มเองค่ะ

    พื้นที่ส่วนเปียกมีขนาด 1.2 x 0.8 ม. ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานใช้งานได้พอดีๆนะคะ

    พื้นที่ส่วนแห้งภายในห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นบ้าน 7 ซม. และพื้นห้องน้ำในส่วนเปียกจะลดระดับลงไปจากส่วนแห้งอีก 3 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ

    หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ

    อุปกรณ์อาบน้ำ ได้แก่ ฝักบัวของ  American Standard มีขนาดจับได้ถนัดมือดีค่ะ

    ถัดมาเป็นทางเดินไปห้องครัว ฝั่งขวาจะมีห้องเก็บของใต้บันได ถ้ามองตรงไปจะเป็นเคาน์เตอร์เล็กๆ ด้านหลังเป็นช่องแสงของตัวบ้านอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเคาน์เตอร์ตรงนี้บ้านจริงจะไม่ได้มีให้นะคะ แต่ก็สามารถเก็บไว้เป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้ค่ะ

    ห้องเก็บของใต้บันไดเป็นบานประตูเปิดปิด ภายในปูกระเบื้องไว้เรียบร้อยนะคะ

    ต่อไปมาดูห้องครัวกันตัวครัวยังคงเป็นครัวแบบเปิดไม่ได้มีประตูปิดค่ะ ทำให้เวลาทำครัวไทยหนักๆกลิ่นจะฟุ้งเข้ามายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆได้นะคะ ก็ยังคงแนะนำให้ทำประตูปิดเพิ่มเติมเข้าไปทีหลังค่ะ

    ภายในห้องครัวไทย พื้นจะปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาวต่อมาจากพื้นที่เคาน์เตอร์ด้านหน้าห้อง ส่วนผนังเป็นผนังปูนฉาบเรียบทาสีค่ะ ขนาดของห้องมีขนาดพอให้ทำเคาน์เตอร์แบบตัว U ได้นะคะ และมีตำแหน่งที่เดินท่อน้ำไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าในห้องครัวเรียบร้อยค่ะ

    ประตูด้านหลังบ้านเป็นประตูสำเร็จ UPVC เหมือนแบบประตูหน้าบ้านฝั่งโรงจอดรถ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้านค่ะ

    พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน จะถูกลดระดับลงไปจากพื้นห้องครัว 34 ซม. โดยจะก่อด้วยคอนกรีตขัดเรียบ มีขอบรอบลานซักล้างอีก 5 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำจากลานซักล้างไหลออกไปโดยพื้นที่สนามหญ้าโดยรอบนะคะ

    ต่อมาที่บันไดขึ้นชั้น 2 ตัวโครงบันไดจะเป็นโครงเหล็กค่ะ

    ลูกตั้งและลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 100 ซม. ลูกตั้งของบันไดสูงกว่ามาตรฐานนิดหน่อย เนื่องจากต้องการประหยัดพื้นที่ใช้สอยในบ้านทำให้ลูกตั้งของบันไดที่นี่เลยสูงกว่าปกตินิดหน่อย เวลาเดินขึ้นต้องระวังหน่อยนะคะ แต่ตัวลูกนอนถือว่าเป็นขนาดมาตรฐานค่ะ

    โถงบันไดจะมีช่องแสงเข้ามาจากผนังด้านหลังบ้านค่ะ ทำให้บันไดไม่มืดนะคะ

    เดินขึ้นบันไดมาจะมีชานพักบันได 2 จุด เป็นขั้นสี่เหลี่ยมที่มีขนาดกว้าง ยืนได้สะดวกดีค่ะ

    ภัสสร-House-LR-117-of-144_new

    ขึ้นมายังโถงชั้น 2 ห้องนอนแรกทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็ก ห้องถัดไปเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งที่จะกว้างกว่าห้องแรกค่ะ ถัดไปทางซ้ายเป็น Master Bedroom ส่วนห้องน้ำจะติดกับบันไดทางฝั่งซ้ายค่ะ ฝ้าในชั้นนี้มีความสูง 2.58 ม. เช่นเดียวกับชั้นล่าง วัสดุพื้นชั้นบนจะได้เป็นพื้นลามิเนตค่ะ

    มาดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันก่อน โดยบ้านตัวอย่างจะจัดห้องนี้ให้เป็นห้องอเนกประสงค์หรือห้องทำงานแทน เพื่อเป็นไอเดียสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้มีจำนวนสมาชิกครบทุกห้อง ก็สามารถจัดห้องนี้เป็นห้องทำงานได้

    ขนาดห้องมีพื้นที่พอจะทำโต๊ะทำงานสำหรับ 2-3 คนได้เลยค่ะ

    มาดูห้องนอนเล็กอีกห้องนะคะ ภายในมีพื้นที่กว้างพอสมควร ภายในมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ 1 บาน และประตูกระจบานเลื่อน 1 บานสำหรับออกไประเบียงอีก 1 บาน ทำให้ห้องไม่อึดอัด ห้องตัวอย่างถูกจัดวาง Furniture ต่างๆไว้เป็นไอเดียในการตกแต่ง ได้แก่ เตียงขนาด 3.5 ฟุตที่ถูกวางชิดผนังไว้ฝั่งหนึ่ง ทำให้เหลือพื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ สำหรับบ้านจริงจะไม่ได้ให้ Furniture นะคะ จะเป็นห้องเปล่าค่ะ

    ด้านข้างเตียงเป็นตำแหน่งสำหรับวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือหรือใครจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้นะคะ

    ห้องตัวอย่าง Built-in พื้นที่ด้านปลายเตียงให้เป็นชั้นวางทีวี หรือถ้าอยากให้มีตู้เก็บของเพิ่มขึ้นก็สามารถ Built-in เต็มผนังด้านนี้สำหรับเก็บของและวางทีวีได้เลยคะ

    ด้านข้างเตียงฝั่งหนึ่งมีพื้นที่เหลือ 1 ม.ให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้อย่างสบาย ส่วนหัวเตียงด้านในก็มีพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้เช่นกัน แต่อาจจะชนกับตู้เสื้อผ้าบ้างจึงแนะนำให้เป็นเตียงแบบที่มีหัวเตียงมาเลย ปละใช้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ค่ะ ปลายเตียงหลังจากวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้ ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งที่ติดกับประตูบานเลื่อนออกไประเบียง เหลือพื้นที่เว้นไว้นิดหน่อย แค่ไม่ให้เตียงชนกับประตูเวลาเลื่อนเปิดเท่านั้นค่ะ

    ด้านหลังโซฟาเป็นประตูบานกระจกสไลด์สำหรับออกไประเบียงด้านนอก ทำให้ภายในห้องมีช่องให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ เนื่องจากบ้านแบบนี้เป็นบ้านแฝดทำให้ต้องมีด้านนึงของบ้านที่เรียกว่าติดกับบ้านข้างๆเลย เค้าจึงทำกำแพงนี้มาให้เพื่อที่เห็นจะช่วยให้ลูกบ้านยังมีความเป็นส่วนตัวและใช้งานได้ดีอยู่ค่ะ

    พื้นที่ระเบียงนี้ปูด้วยกระเบื้องผสมทราบล้าง กว้างยาวประมาณ 28 x 17.5 ม. ซึ่งสามารถทำเป็นสวนเล็กๆ สำหรับนั่งเล่น หรือจัดสวนเล็กๆได้เลยนะคะ ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นลูกกรงเหล็ก ซี่ไม่ได้ถี่มากจะสามารถมองทะลุไปเห็นวิวด้านนอกได้

    อีกฝั่งหนึ่งของระเบียงจะเห็นหน้าต่างของห้องนอนเล็กที่อยู่ติดกัน และระหว่างพื้นระเบียงกับพื้นห้องนอนจะมีขอบปูนกั้นสูง 17 ซม. นะคะ กันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้ามาในตัวห้องได้ค่ะ

    มาดู Master Bedroom กันต่อค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้านเลยนะคะ ภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัวซึ่งจะต้องแชร์กับห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องด้วยนะคะ ตัวห้องมีระยะพื้นถึงฝ้าสูงเท่ากับห้องนอนชั้น 2 ห้องอื่นๆค่ะ ภายในห้องมีหน้าต่างทางฝั่งหัวเตียง และมีประตูบานเลื่อนกระจกที่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูไม่ทึบนะคะ

    การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องที่บ้านตัวอย่างวางเตียงนอนไว้ขนาด 5 ฟุต โดยมีพื้นที่เหลือทั้ง 2 ฝั่งจริงๆแล้วสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เพราะมีพื้นที่เหลือพอนะคะ แต่พื้นที่สำหรับวางโต๊ะหัวเตียงจะลดลง

    พื้นที่ปลายเตียง มีพื้นที่ให้สามารถวางชั้นวางทีวีได้ค่อนข้างกว้าง สามารถแบ่งพื้นที่ไปเป็นโต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

    พื้นที่ด้านข้างของเตียงฝั่งซ้ายระหว่างเตียงนอนกับตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่กว้างประมาณ 1.4 ม. และฝั่งขวามีพื้นที่กว้างประมาณ 0.5 ม. จึงสามารถเดินขึ้นเตียงได้สะดวก ด้านในสุดเป็นตำแหน่งของโต๊ะหัวเตียง ซึ่งด้านหลังโต๊ะหัวเตียงติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับเสียบชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือเสียบปลั๊กโคมไฟได้สะดวก พื้นที่ปลายเตียงหากทำโต๊ะเขียนหนังสือจะเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 0.4 ม.

    ด้านข้างเตียงนอนเป็นประตูบานกระจกสไลด์สำหรับออกไประเบียงด้านนอก

    โดยระหว่างพื้นระเบียงกับพื้นห้องนอนจะมีขอบปูนกั้นสูง 17 ซม. นะคะ กันไม่ให้น้ำฝนไหลเข้ามาในตัวห้องได้ค่ะ

    ราวกันตกถูกออกแบบไว้เป็นลูกกรงเหล็ก ซี่ไม่ได้ถี่มากจะสามารถมองทะลุไปเห็นวิวด้านนอกได้

    พื้นที่ระเบียงนี้ปูด้วยกระเบื้องผสมทราบล้าง กว้างยาวประมาณ 0.49 x 3.4 ม. ซึ่งเหมาะจะออกมายืนรับลม ชมวิว หรือตั้งกระถางต้นไม้แค่นั้นค่ะ

    จากระเบียงมองเข้ามาในห้อง จะเห็นประตูห้องน้ำที่อยู่ด้านข้างตู้เสื้อผ้า เป็นห้องน้ำห้องเดียวบนชั้น 2 นะคะ

    ภายในห้องน้ำเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่าง พื้นและผนังห้องทั้งหมดปูด้วยกระเบื้องเหมือนกัน ทั้งอุปกรณ์และสุขภัณฑ์ก็เป็นสเปคเดียวกันค่ะ

    ประตูเข้าห้องน้ำชั้นบนสามารถเข้าได้จากทางฝั่ง Master Bedroom และทางโถงทางเดินชั้น 2 ค่ะ

    ผนังด้านหลังอ่างล้างมือมีข้อดีคือสามารถติดกระจกได้เต็มบานเลยนะคะ จะช่วยทำให้ภายในห้องดูกว้างขึ้นค่ะ

    สำหรับพื้นที่ส่วนเปียกภายในห้องน้ำจะมีฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานกระจกใส ตัวมือจับด้านนอกสามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ส่วนด้านในมีติด Stopper ป้องกันฉากกั้นอาบน้ำกระแทกกับผนังด้านในค่ะ

    ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็มีขนาดพอๆกันกับห้องน้ำชั้นล่างคือประมาณ 1.05 x 1.18 ม. พื้นห้องน้ำในส่วนเปียกจะมีขอบปูนกั้นยกขึ้นมาจากพื้นอีก 9 ซม. เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปส่วนอยู่อาศัยอื่นๆค่ะ

    หน้าตาฝักบัวที่โครงการให้ค่ะ มุมซ้ายเป็นตำแหน่งสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นที่เดินสายไฟไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

    ปลั๊กไฟภายในบ้าน Schneider หรือเทียบเท่าค่ะ

    2Paradiz

    แบบบ้านเดี่ยว Paradiz กับบ้านแฝด Re-Fine จะใช้แบบบ้านเดียวกันนะคะ คือ มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 145 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถเหมือนกัน ต่างกันที่ขนาดที่ดินเริ่มต้น โดยแบบ Re-Fine มีที่ดินเริ่มต้นที่ 40 ตร.วา ส่วน Paradiz จะเริ่มต้นที่ 50 ตร.วาค่ะ แบบบ้านชั้นล่างจะคล้ายกับแบบ Primo เลยแต่ประตูหน้าบ้านจะมีประตูเดียวทางฝั่งห้องนั่นเล่น ส่วนชั้นบนจะต่างกับแบบ Primo นิดเดียวคือจะย้ายห้องนอนเล็กมาไว้ด้านหน้าบ้านทำให้ห้องนอนเล็กมีระเบียงในห้อง ส่วนห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่ระเบียงที่เล็กลงค่ะ

    ภัสสร แบบบ้าน (1 of 2)

    บรรยากาศภายนอกของแบบบ้านเดี่ยว Paradiz และแบบบ้านแฝด ReFine

    Pattern

     

    บ้านแฝด Re-Sense มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ จะคล้ายกับแบบบ้านแฝด Re-Fine นะคะ แต่จะต่างกันที่แบบ Re-Sense จะมีห้องน้ำชั้นละ 1 ห้อง ทำให้ห้องนอน 3 ห้องที่ชั้นบนต้องแชร์ห้องน้ำกันนะคะ

    ภัสสร แบบบ้าน (2 of 2)

    บรรยากาศภายนอกของแบบบ้านเดี่ยว Re-Sense

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 7 June 2016

    • บ้านเดี่ยวแบบ Primo พื้นที่ใช้สอย 167 ตารางเมตร ที่ดิน 62.6 ตารางวา ราคา 7.7 ล้านบาทหรือ 123,003 บาท/ตร.วา (46,107.7 บาท/ตร.ม.)
    • บ้านเดี่ยวแบบ Paradiz พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร ที่ดิน 50 ตารางวา ราคา 6.79 ล้านบาทหรือ 135,800 บาท/ตร.วา (46,827.5 บาท/ตร.ม.)
    • บ้านแฝดแบบ Re-Fine พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร ที่ดิน 40 ตารางวา ราคา 5.79 ล้านบาทหรือ 144,750 บาท/ตร.วา (39,931 บาท/ตร.ม.)
    • บ้านแฝดแบบ Re-Sense พื้นที่ใช้สอย 135 ตารางเมตร ที่ดิน 38.2 ตารางวา ราคา 5.34 ล้านบาทหรือ 139,790 บาท/ตร.วา (39,555.5 บาท/ตร.ม.)
    • บ้านแฝดแบบ Re-Life พื้นที่ใช้สอย 121 ตารางเมตร ที่ดิน 35.7 ตารางวา ราคา 4.9 ล้านบาทหรือ 137,255 บาท/ตร.วา (40,495.8 บาท/ตร.ม.)

    • จองและทำสัญญา 50,000 บาท
    • ดาวน์ 5% ผ่อนดาวน์ 6 งวด
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
    • ค่าส่วนกลางของโครงการ 25 บาท/ตรว./เดือน และค่าส่วนกลางถนนภายนอกโครงการ 5บาท/ตรว./เดือน รวมทั้งสิ้น 30 บาท/ตร.ว./เดือน
    • ค่าจดจำนอง 1%  และค่าอากรแสตมป์ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ 2% ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
    • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
    • โปรโมชั่น จัดสวน(ตามมาตรฐานโครงการ), ปั๊มน้ำ+แทงค์น้ำ 1,000 ลิตร, ฉากกั้นอาบน้ำในห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง, วอลเปเปอร์ทั้งหลัง (ยกเว้นห้องครัวทาสี)

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ ตั้งอยู่ใน พฤกษา อเวนิว กลุ่มหมู่บ้านของพฤกษานับสิบโครงการในซอยพัฒนาการ 38 จากปากซอยต้องเข้ามาลึกพอสมควรและตัวซอยค่อนข้างแคบนะคะ ทำให้มั่นใจได้ว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการจะเป็นที่อยู่อาศัยทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบเหมาสำหรับการอยู่อาศัย แต่ก็ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มีเลยนะคะ จะต้องอาศัยรถออกไปด้านหน้าซอยก็จะเริ่มมีร้านค้า ร้านอาหารค่ะ

    ทำเลที่ตั้งโครงการถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลเมืองออกมาหน่อย และไม่มีรถไฟฟ้าหรือแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ ในระยะที่เดินได้ แต่การเดินทางไปยังที่ดินแปลงนี้ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะว่ามีทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วน Motorway ตัดผ่านทางต้นถนนพัฒนาการที่สี่แยกคลองตันและกลางถนนพัฒนาการที่สี่แยกพัฒนาการ  ทำให้การเดินทางด้วยรถมีศักยภาพสูง อีกทั้งสามารถเข้าตัวเมืองผ่านเส้นหลักสองถนนคือถนนเพชรบุรีตัดใหม่และพระราม 9 แถมยังมีเส้นทางลัดไปออกซอยต่างๆอีกเยอะเช่น มีทางออกไปเส้นอ่อนนุชเอาไว้ไปสุขุมวิทได้ อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการตั้งอยู่ใกล้ถนนสายสำคัญก็ไม่สามารถที่จะเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้นะคะ

    ดังนั้นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจึงค่อนข้างจะสะดวกกว่า แต่ปัญหาคือการจราจรในช่วงเวลาเร่งรีบที่มักจะหนาแน่นมาก ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะอยู่ทำเลไหนในกรุงเทพฯรถก็น่าจะติดไม่แพ้กัน ดังนั้นทำเลที่มีเส้นทางลัดหรือใกล้ทางด่วนจึงได้เปรียบกว่า ซึ่งโครงการนี้มีเส้นทางลัดหลายเส้นทาง เดินทางเข้าออกนอกเมืองก็สะดวกขึ้นค่ะ

    ความปลอดภัย – ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมี รปภ. ดูแลตลอด มีประตูเลื่อนอัตโนมัติและไม้กระดก การผ่านเข้า – ออกด้วยระบบ Keycard นอกจากนี้ยังมีระบบ CCTV ที่ Main Gate ส่วนความสูงรั้วรอบโครงการ 3 เมตร

    การออกแบบโครงการ – การวางผังค่อนข้างแน่นเห็นได้จากจำนวนยูนิตในซอยย่อยที่บางซอยมีจำนวนมากกว่า 25 ยูนิต แต่ก็จะมีซอยต้นๆที่มีจำนวนยูนิตน้อย ตำแหน่งสวนส่วนกลางอยู่ในตำแหน่งตรงกลางทำให้ลูกบ้านในซอยต่างๆ รวมถึงซอยท้ายๆสามารถมาใช้ได้สะดวก แบบบ้านในโครงการมีทั้งหมด 5 แบบ มีทั้งบ้านเดี่ยวบ้านแฝด 3 ห้องนอน 2-3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยรวมแล้วออกแบบบ้านมาได้เรียบร้อยและเป็นสัดส่วน ด้วยหน้าบ้านที่หน้ากว้างทำให้พื้นที่ใช้สอยในบ้านดูลงตัว สำหรับบ้านที่มี 2 ห้องน้ำ ห้องน้ำชั้นล่างจะมีพื้นที่สำหรับอาบน้ำให้ทำให้สามารถแบ่งสมาชิกในบ้านมาใช้ห้องน้ำชั้นล่างได้ในเวลาเร่งด่วน ห้องครัวเป็นครัวเปิดต้องกั้นประตูเพิ่มเอง ส่วนชั้นบนจัดพื้นที่ได้ดี โดยห้องนอนทุกห้องมีขนาดใข้งานได้จริง และห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ให้สามารถจัด Walk-in Closet ได้ทำให้การอยู่อาศัยเป็นสัดส่วนดี

    วัสดุ – วัสดุพื้นและ บันไดเหมือนกับโครงการ Patio แต่ราคาต่อตร.ม. Patio ถูกกว่า คือพื้นชั้นล่างจะได้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ส่วนชั้น 2, 3 ทั้งหมดจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนต หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมเนียมอบสีขาว  แต่ก็จะมีที่ดีคือไฟที่ให้เป็นดาวน์ไลท์ อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ของ Mogen และ American Standard ส่วนอื่นๆตามมาตรฐานปกตินะคะ ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง และตอนนี้มีโปรโมชั่นติดวอลเปเปอร์ทั้งหลังด้วย ส่วนฝ้าเพดานในบ้านจะเป็นแบบฉาบเรียบ ส่วนพื้นห้องเก็บของปูกระเบื้องให้เรียบร้อยค่ะ 

    พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ – จากซุ้มหน้าโครงการถือว่ามีขนาดใหญ่ดี ถนนหลักที่เป็นทางเข้าโครงการร่มรื่นดี โดยถนนหลักและถนน ซอยในโครงการมีขนาด 20, 15, 12, 10 และ 9 ม. ซึ่งเป็นความกว้างมาตรฐาน

    สาธารณูปโภค – พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะมี ClubHouse, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนสและสวนส่วนกลางขนาด 1 ไร่กว่า ซึ่งถือว่าให้พื้นที่สวนพอสมควรกับจำนวนยูนิตในโครงการ แต่ตรงนี้คงต้องรอดูของจริงอีกทีดังนั้นคะแนนจะให้จากข้อมูลพื้นฐานของโครงการก่อนนะคะ

    Judgement

    ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับแพคเกจ 4.9 – 7.8 ล้านบาท, 7 June 2016

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ทำเลดี เข้าเมืองได้สะดวก มีทางลัดเยอะ 
    • ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูเลื่อน รั้วกั้นไม้กระดก รปภ.24 ชม. CCTV หน้าหมู่บ้าน
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – การวางฟังก์ชั่นเหมาะสม ใช้งานได้จริง
    • วัสดุ 7.25/10 – วัสดุพื้น บันได ให้เหมือนบ้านเดี่ยวระดับ Main Class แต่อุปกรณ์ไฟ และสุขภัณฑ์จะดีขึ้นมาหน่อย
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – มีสวนหย่อมในโครงการขนาดประมาณ 1 ไร่กว่า แต่หน้าตายังไม่เห็น
    • สาธารณูปโภค 7/10 – มีคลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและสวนให้แต่หน้าตายังไม่เห็น
    • 7.51 / 10.00 

    BOTTOM LINE

    ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการแยกออกมาจากครอบครัวใหญ่ มีสมาชิก 3-4 คน ที่ต้องการหาบ้านไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก และยังสามารถเข้าในตัวเมืองฝั่งเพชรบุรี อ่อนนุช ได้ง่าย เป็นคนใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ชอบอาศัยอยู่ในซอยที่มีความสงบมากกว่าริมถนนหลัก แลกกับการเข้าซอยย่อยอีกหน่อย มีงบประมาณ 4.9-7.8 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเดือนละ 34,000 – 55,000 บาท

    ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )