ปก The Excel Hideaway01

รีวิวฉบับที่ 1029.. สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปชมตึกเสร็จโครงการ The Excel Hideaway จาก All Inspire Development ค่ะ ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น อาคาร จำนวน 159 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยลาซาล 11 ซึ่งตัวซอยลาซาลเองนี้เป็นทางเชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ สามารถไปทะลุแบริ่ง หรือถนนบางนา-ตราดก็ได้ หรือถ้าใครจะไปขึ้นทางด่วนก็อยู่ในระยะที่ไม่ไกลนัก ตัวโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง 940 เมตร และห่างจากหน้าปากซอยลาซาล 11 ประมาณ 400 เมตร แน่นอนว่าเป็นระยะที่ไกลกว่าจะเดินถึง แต่โครงการก็มี Shuttle Service ไว้ให้บริการ หน้าตาโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูพร้อมๆกันเลยค่าา

Fact @ 3 March 2016

  • The Excel Hideaway (ดิ เอ๊กซ์เซล ไฮด์ อะเวย์)
  • บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ใน: ซ.ลาซาล 11 (ซอยร่วมพัฒนา) ถนนลาซาล (สุขุมวิท 105) แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น  1 อาคาร
  • จำนวนห้องพักอาศัยทั้งโครงการ 159 ยูนิต
  • ที่ดินประมาณ 1-1-25 ไร่
  • ที่จอดรถในช่องจอด 56 คัน หรือ 35% รวมซ้อนคันจอดได้ราวประมาณ 66 คัน หรือ 41%
  • Type A: Studio ขนาด 24.20 ตร.ม
  • Type B: 1 Bed ขนาด 26 ตร.ม 
  • Type C: 1 Bedขนาด 27.70 ตร.ม  
  • Type D: 1 Bed ขนาด 28.20 ตร.ม  
  • Type E: 2 Beds ขนาด  44.50  ตร.ม  
  • Type F: 1 Bed ขนาด  42.40 ตร.ม  
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.55 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุดประมาณ  64,000-93,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของทั้งโครงการประมาณ 73,000 บาท
  • www.excelcondo.com
  • Tel: 092-272-1730 หรือ 092-272-1731
  • Mail: [email protected]

 

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.664133,100.609043

excel hideaway map

แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตัวโครงการอยู่ในซอยลาซาล 11 ซึ่งซอยลาซาล (สุขุมวิท 105) เป็นซอยคู่ขนานกับแบริ่ง และเชื่อมถนนสามเส้นหลักคือ บางนาตราด – สุขุมวิท – ศรีนครินทร์

Overall Map Excel Hideaway

ความเจริญโดยรอบโครงการค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ หลักๆคือถนนใหญ่อย่างถนนสุขุมวิท จะมี APT แบริ่งมอลล์ที่เป็นตลาดขายของข้างๆ BTS แบริ่ง, The Coast Village, Bitect บางนา หรือจะไกลไปหน่อยก็จะมี อิมพีเรียล สำโรง หากไปบนถนนบางนาตราดจะมี Central บางนา, Mega Bangna และในอนาคตจะมีการลงทุนศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บริเวณตรงข้าม ไบเทค บางนา นั่นก็คือ Bangkok mall ของกลุ่ม The mall ที่มีกำหนดจะสร้างเสร็จในปี 2561 ซึ่งถ้าเปิดตัวจะทำให้ย่านนี้มีความคึกคักและมีสีสันขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องทำใจแลกมากับการจราจรที่จะต้องติดขัดเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ห่างไปอีกหน่อยบนถนนศรีนครินทร์จะมีศูนย์การค้า Seacon Square และ Paradise Park

จากที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายโดยใช้ถนนสุขุมวิทแต่การจราจรอาจจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ  สามารถเลี่ยงมาใช้รถไฟฟ้าสถานีแบริ่งเข้าตัวเมืองได้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที  เส้นสุขุมวิทยังสามารถใช้วิ่งไปจังหวัดสมุทรปราการหรือใช้ลัดออกเส้นศรีนครินทร์เชื่อมออกไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ชลบุรีได้

หากโฟกัสเข้ามาดูความอุมสมบูรณ์ภายในซอยลาซาล (สุขุมวิท105) ถือว่าเป็นซอยใหญ่ที่ค่อนข้างคึกคัก ถ้าเทียบกับซอยอื่นๆในย่านนี้ มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตลาด อยู่ทั้งซอยผลัดกันเปิดตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าถ้าหิวตอนดึกออกมายังไงก็มีของกิน แต่ความที่โครงการเข้าไปจากปากซอยลาซาล 11 ร่วม 400 เมตร การเดินออกมาซื้อข้าวของ มันก็ออกจะไกลเกินระยะเดินสบายๆไปหน่อย

จากปากซอยลาซาล 11 เข้าไปโครงการ ต้องใช้เส้นทางตามแนวเส้นแดง ระยะทางราวๆ 400 เมตร ด้านในเป็นซอยตัน จึงแทบไม่มีรถผ่านเข้าออกเลย แถมกำแพงด้านในสุด ก็เป็นสนามกอล์ฟ ราชนาวี การควบคุมดูแล ง่ายหน่อย ไม่เหมือนซอยที่เป็นเส้นทางลัดคนผ่านเข้าออกตลอดเวลา แต่ก็ต้องแลกกับความไม่สะดวกในการเรียกรถนะคะ

การเดินทางเข้าออกสะดวกสุดคือ ทางปากซอยฝั่งสุขุมวิท ซึ่งมีระยะทาง 940 เมตร และเดินต่ออีกไม่กี่ก้าวก็ถึงทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS แบริ่งแล้ว ระยะนี้คนปกติเดินไม่ไหว คงต้องพึ่งรถสองแถวที่วิ่งในซอย หรือใช้บริการพี่วิน ที่มีให้บริการค่อนข้างจะเยอะอยู่ ยังดีที่โครงการมีบริการรถรับส่ง Shuttle Service ที่ BTS แบริ่งคงจะพอช่วยให้สะดวกได้เยอะอยู่

การเข้าออกนอกจากทางด้านสุขุมวิทแล้ว เราสามารถเข้าออกทางด้านถนนบางนา-ตราดได้นะ ไกลหน่อย 2.2 กิโลเมตร แต่เอาไว้ใช้ได้เวลาหลบเลี่ยงรถติด หรือจะเดินทางไปไบเทค

ทางด่วน

เส้นทางที่เราพาไปในวันนี้ เราจะพาไปอัพเดทเส้นทางจากต้นซอยลาซาลจนถึงโครงการกันว่าสภาพแวดล้อมตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง  คือ ลงทางด่วนบางนาวิ่งตรงบนเส้นสุขุมวิท จากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆผ่าน BTS บางนา จนถึงซอยลาซาลที่อยู่ก่อนถึง BTS แบริ่งเล็กน้อย จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอยลาซาล ดูบรรยากาศทั้งสองข้างทาง ขับรถตรงไปเรื่อยๆจนถึงซอยลาซาล 11 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปยังโครงการ The Excel Hideaway ค่ะ

B loft 2

เมื่อถึงจุดใกล้ลงทางด่วน เราจะเจอป้ายบอกทางไปบางนา กับถนนสุขุมวิท 62 ให้เราขับตรงไปเกาะทางบางนาก่อนค่ะ

B loft 3

ขับไปอีกนิดจะเจอป้ายเลี้ยวซ้าย ไปบางนา,พระโขนง และตรงไปเป็นสมุทรปราการ,ชลบุรี ตรงไป

ให้เราเตรียมชิดซ้ายเพื่อไปทางบางนาค่ะ

B loft 4

เมื่อเลี้ยวซ้ายมา ทางจะพาเราขึ้นสะพานแบบนี้

B loft 6

ขับมาเรื่อยๆเราจะมาลงสะพานตรง  BITEC บางนา และ The Coast Bangkok คอนโด High Rise 39 ชั้น และ 35 ชั้น 2 อาคาร ที่ผสมผสานระหว่างคอนโดและ Community Mall มี The Coast Village อยู่ข้างล่าง สามารถมาช็อปปิ้ง หาอะไรอร่อยๆทานได้

B loft 7

เลยไปหน่อยเป็น BTS  บางนา

ถัดจากสถานีบางนามาจะเป็นสนามกีฬาภูติอนันต์ กองทัพเรือ

ไม่ไกลกันเป็นปั๊ม Shell

ถัดไปเป็น BTS แบริ่ง ที่ด้านขวามือเป็น APT แบริ่งมอลล์ มีอาหารและของใช้ให้ซื้อหากันได้ค่ะ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 105 หรือซอยลาซาลกัน

เข้ามาในซอยจะเป็นถนน 2 เลน จุดสังเกตคือหน้าซอยจะมี 7 eleven ขนาดใหญ่อยู่ ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่มีการล้อมรั้วเพื่อเตรียมพัฒนาต่อ

ไม่ไกลกันนักจะมีวินมอร์เตอร์ไซค์คอยให้บริการคนเข้า-ออกซอย หากลงจาก BTS เดินเข้าซอยมานิดเดียวก็สามารถเรียกใช้บริการพี่วินเพื่อไปยังโครงการได้ค่ะ

ในซอยลาซาลจะมี CenterPoint Entertainment ที่เป็นศูนย์ประชุม และ ห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ รายการเพลงชื่อดังอย่าง The Voice Thailand ก็มาจัดรายการที่นี่

ขับมาเรื่อยๆเราจะเจอสำนักงานขายของ Excel Hideaway

สองข้างทางของถนนในซอยลาซาลส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น พื้นที่ด้านล่างจะทำการค้าหลากหลาย เช่น ร้านอาหาร ร้านขายเครื่องเขียน ร้านซักแห้ง เป็นต้น

ขับมาเรื่อยๆจะเจอโครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท ที่ตอนนี้กำลังล้อมรั้วทำการก่อสร้างด้วย

ช่วงกลางๆซอยจะมีเต้นท์ขายอาหาร ที่รอบๆจะเป็นอพาร์ทเม้นท์และอาคารพาณิชย์ บริเวณช่วงนี้ของซอยลาซาลจะมีผู้อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่น

Villa-ลาซาล-13

ใกล้ๆกันจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7Eleven ที่อยู่ใต้ลาซาลอพาร์ทเม้นต์ และ Family Mart อยู่ตรงข้ามกันเลย สะดวกดีนะ ถัดจาก 7Eleven ไปจะเป็นซอยลาซาล 11 เดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพื่อไปยังโครงการกันค่ะ

หน้าซอยลาซาล 11 จะมี 7Eleven ขนาดใหญ่ มีที่จอดรถด้านหน้าให้ด้วย สามารถมาใช้บริการกันได้

เลี้ยวเข้ามาในซอยลาซาล 11 นอกจากช่วงต้นซอยทางขวามือจะมี 7Eleven แล้ว ทางซ้ายมียังมีพี่วินแก็งค์เล็กๆที่สามารถใช้บริการเพื่อเข้า-ออก ซอยได้

ทางขวามือด้านหลัง 7Eleven จะมีร้านส้มตำ ปลาเผา แม่ประคองให้มาฝากท้องกันได้อีก

ขับรถเข้ามาในซอยบรรยากาศจะค่อนข้างเงียบสงบ สองข้างทางเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

เข้ามาอีกนิดจะเจอทางแยกแรก หากตรงไปจะเป็นซอยตัน แต่เราจะเลี้ยวขวาเพื่อไปยังโครงการกันค่ะ

Hybridเลี้ยวขวามาจะเจอบ้านพักอาศัยทั้งสองข้างทาง และตึกที่อยู่ทางซ้ายมือคือ The Excel Bearing โครงการรุ่นพี่จาก All Inspire Development เช่นกัน

The Excel Hideaway 7

ตรงมาอีกนิดจะเจอทางแยกทางซ้ายมือ เราจะเลี้ยวซ้ายข้าง The Excel Bearing เพื่อไปยังโครงการกันค่ะ

พอเลี้ยวเข้าซอยมาเราจะเจอบรรยากาศสองข้างทางที่ค่อนข้างเงียบ ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่า

แต่ละบ้านจะมีการปลูกทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น สภาพแวดล้อมจึงร่มรื่น แต่ก็มีความเงียบสงบสูงมากถึงมากที่สุด หากเดินผ่านตอนกลางคืนคนเดียวก็คงวังเวงอยู่เหมือนกันนะ

เข้ามาอีกนิดเดียวจะเจอกับโครงการ The Excel Hideaway แล้ว โดยอาคารทางด้านนี้จะติดกับที่ดินว่างเปล่าค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่าของบุคคลอื่น

เดินไปจนสุดซอยจะติดกับรั้วของสนามกอล์ฟราชนาวีที่มีตาข่ายกันลูกกอล์ฟให้ โดยระยะของโครงการห่างจากสนามกอล์ฟพอสมควร ดังนั้นจึงไม่เสียงกับการที่ลูกกอล์ฟจะกระเด็นเข้ามาในโครงการค่ะ

ทำเลของโครงการอยู่ในซอยลาซาล 11 ลึกเข้ามาประมาณ 400 เมตร สภาพแวดล้อมรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยที่เงียบสงบ ไม่มีสาธารณูปโภคในระยะใกล้มากนัก เวลาเข้า-ออกโครงการในตอนกลางคืนจะค่อนข้างลำบากหน่อย รอบๆโครงการไม่มีตึกสูงในระยะประชิด วิวรอบๆจึงค่อนข้างดีโดยเฉพาะฝั่งสนามกอล์ฟซึ่งเป็นวิวพิเศษ ที่ไม่ค่อยมีโครงการไหนมีวิวนี้สักเท่าไหร่ เราลองมาไล่ดูแต่ละทิศของโครงการว่าอยู่ติดกับอะไรและได้วิวไหนกันบ้างนะคะ

ทิศเหนือ อยู่ติดกับสนามกอล์ฟราชนาวี ซึ่งเป็นทิศที่มีวิวดีที่สุด เพราะสนามกอล์ฟเป็นสีเขียวสบายตา

ทิศตะวันออก อยู่ติดกับ บ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่า จะมองไปเห็นอาคารเตี้ยๆโล่งๆไม่มีตึกสูงบังสายตาในระยะประชิด

ทิศใต้ อยู่ติดกับ ที่ดินว่างเปล่าที่ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าอนาคตจะเป็นอะไร หวังให้ไม่เป็นตึกสูงมาบังสายตานะคะ ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น มองไปไกลๆจะเห็น The Excel Bearing คอนโด Low Rise 8 ชั้นอยู่ด้วย

ทิศตะวันตก อยู่ติดกับ ซอยลาซาล 11 ที่เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ และฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้นและที่ดินว่างเปล่า

ทิศเหนือ ที่ติดกับสนามกอล์ฟราชนาวีเมื่อมองออกไปจะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่สบายตามาก โดยจากการวัดระยะจาก Google แล้วโครงการอยู่ห่างจากสนามกอล์ฟประมาณ 50 เมตร ซึ่งรัศมีที่จะรอดจากระยะลูกกอล์ฟคือ 300 เมตร แต่ในช่วงอาณาเขตที่ติดต่อกับโครงการจะมีตาข่ายช่วยกันลูกกอล์ฟอยู่ จึงมีโอกาศเป็นไปได้ต่ำที่ลูกกอล์ฟจะกระเด็นเข้ามาถึงในห้องค่ะ

เมื่อมองออกมาทาง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ก็จะเห็นว่าสนามกอล์ฟมีการกั้นตาข่าย เพื่อป้องกันลูกกอล์ฟกระเด็นมาโดนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกล้ๆตลอดแนวถนนเลย วิวทางด้านนี้จะยังคงเห็นสยามกอล์ฟและอาคารใกล้เคียง ที่มีการปลูกต้นไม้เป็นพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ มองไปไกลๆจะเห็นอาคารสูงที่อยู่บนถนนบางนา-ตราด

 ทิศตะวันตก จะมองเห็นที่ดินว่างเปล่า บ้าน และอาคารพักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ รอบๆมีต้นไม้สีเขียวค่อนข้างเยอะ วิวโล่งๆไม่มีตึกสูงบังวิวในระยะประชิด มองไปไกลๆจะเห็นรางรถไฟ BTS และตึกสูงบนถนนสุขุมวิท

 ทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะเห็นซอยลาซาล 11 ที่มีอาคารรอบๆส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยและเป็นอพาร์ทเม้นต์  อาคารสีเทาๆขาวๆที่เห็นตรงหัวมุมซอยนั้นคือ The Excel Bearing คอนโด 8 ชั้น

 ทิศใต้ จะติดกับที่ดินว่างเปล่าและบ้านพักอาศัยรอบๆ วิวค่อนข้างโล่ง มองไปไกลๆจะเห็นอพาร์ทเม้นต์และคอนโดที่อยู่ในซอยลาซาลและแบริ่ง

ทิศตะวันออก จะติดกับที่ดินว่างเปล่าและบ้านพักอาศัย 2 ชั้นเช่นกัน แต่ด้านนี้มุมมองจะโล่งมีตึกสูงในระยะใกล้น้อยกว่าทิศใต้ และเห็นพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ

 ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นอาคารของสนามกอล์ฟและพื้นที่สีเขียวของสนามกอล์ฟราชนาวียาวไปไกลสุดตา

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

  • CenterPoint Entertainment ~850 เมตร
  • Big C และ Major Cineplex ~2.5 กิโลเมตร
  • BITEC บางนา ~ 2.6  กิโลเมตร
  • Paradise Park~ 7.3 กิโลเมตร
  • Central บางนา ~ 8.2 กิโลเมตร
  • Seacon square ~ 8.9 กิโลเมตร
  • Mega บางนา ~ 10.1 กิโลเมตร

 

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ  The Excel Hideaway เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร ตัวอาคารออกแบบสไตล์ Luxury Loft Resort มีการใช้โทนสีน้ำตาล-สีอิฐ และติดป้ายชื่อโครงการบนกำแพงหินธรรมชาติ ทำให้โครงการเพิ่มอารมณ์รีสอร์ทเข้าไปอีก

Facade อาคารจะมีการใช้สีพื้นเป็นสีน้ำตาลและเล่นลายด้วยสีอิฐ ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำและติดตั้งระแนงแนวตั้งเพื่อตกแต่งอาคารและเป็นตัวพราง Compressor แอร์ มีการใช้ช่องเปิดกว้างเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าอาคารได้อย่างเต็มที่

มาดู Master Plan ของโครงการกัน พื้นที่ชั้น G ไม่มีอะไรซับซ้อนจะเป็นสวน และพื้นที่จอดรถจำนวน 66 คัน หรือคิดเป็น 41% ให้มาน้อยไปหน่อย ด้านในอาคารจะมีสำนักงานนิติบุคคล ห้องน้ำรวมและ Lobby อยู่ตรงส่วนเข้าออกลิฟค่ะ

 

เรามาเริ่มที่ทางเข้าโครงการที่ติดกับซอยลาซาล 11 กันค่ะ ด้านหน้าจะเป็นป้ายโครงการ “The Excel Hideaway” ที่ติดอยู่บนกำแพงหินที่เป็นส่วนหนึ่งของรั้วโครงการ  

ทางเข้าโครงการเป็นประตูรั้วไม้กระดกตรงกลาง แยกทางเข้า-ออก ไม่มีประตูรั้วเลื่อนปิด

เวลาลูกบ้านเข้ามาก็จะสแกนคีย์การ์ด แล้วประตูรั้วไม้กระดกจะยกขึ้น ส่วนถ้าใครเป็น Visitor ก็จะมีพี่ยามมาปิด-เปิดให้ค่ะ ที่ทางเข้าโครงการมี CCTV ติดตั้งไว้เรียบร้อย

เข้ามาด้านในจะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร

มองไปสุดทางจะเป็นรั้วโครงการที่มีการปลูกไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นตลอดแนวรั้วเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ภายในโครงการ ส่วนที่ติดกับอาคารด้านนี้จะเป็นที่ดินว่างเปล่าและบ้านพักอาศัย 2 ชั้น

มองไปทางขวามือจะเป็นศาลพระภูมิ ด้านหลังเป็นสวนหย่อมที่เป็นสนามหญ้าและไม้ยืนต้นให้ร่มเงา ข้างๆมีที่จอดรถภายนอกอาคารและจอดรถใต้อาคารแล้วแต่จะเลือกจอด

ฝั่งตรงข้ามกันจะมีป้อมยาม 1 จุด และมีที่จอดรถภายนอกอาคารและใต้อาคารด้วย เดี๋ยวเราจะพาไปเดินดูส่วนจอดรถภายในอาคารกันค่ะ

เข้ามายังที่จอดรถใต้อาคารจะเป็นพื้นปูนขัดมันทั้งหมด เส้นทางเดินรถจะเป็นสองเลน จอดรถทั้งสองข้างทางซ้าย-ขวา

ทางขวามือจะเป็นทางเข้า Lobby โครงการและทางขึ้นบันไดหนีไฟ เดี๋ยวเราจะพาเดินไปดูที่จอดรถข้างหน้าก่อนเดี๋ยวจะพากลับมานะคะ

ตรงไปสุดทางจะเป็นรั้วด้านที่ติดกับอาคารที่อยู่ตรงข้ามสนามกอล์ฟราชนาวี ทางซ้ายมือจะมีประตูรางเลื่อนเหล็กโปร่งเป็นทางเข้า-ออกอีกทางหนึ่ง

โดยประตูนี้หลักๆจะใช้เป็นประตู Service ไม่ได้เปิดตลอดเวลานะคะจะมีเวลาปิด-เปิด

ใต้อาคารด้านนี้ก็มีที่จอดรถให้อีกประมาณ 2 คันค่ะ ด้านบนเป็นห้องออกกำลังกาย

กลับมาที่ทางเข้า Lobby เป็นประตูกระจกบานเปิด ซึ่งประตูนี้สามารถเปิดเข้าไปได้เลยไม่ต้องสแกนบัตรค่ะ

หน้าประตูมีป้ายติดประชาสัมพันธ์เวลาเข้า-ออกรถ Shutter Service ที่รับส่งไปยังสถานี BTS แบริ่ง

เข้ามาภายในโถง Lobby ค่อนข้างโปร่งเนื่องจากมีช่องเปิดกระจกเต็มบาน ทางขวามือเป็นที่นั่งพักคอยส่วนทางซ้ายมือเป็นนิติบุคคล

ส่วนของนิติบุคคล จะเป็นห้องกระจกที่เป็นหน้าต่างบานเลื่อน ให้สามารถมาติดต่อสอบถามได้

ข้างๆห้องนิติบุคคลเป็นห้องนำ้รวมสำหรับพนักงาน, แขกผู้มาติดต่อ หรือลูกบ้านที่ต้องการใช้งานห้องน้ำในชั่วโมงเร่งด่วน

ห้องน้ำรวมก็เหมือนห้องน้ำทั่วไปที่มีโถสุขภัณฑ์ และเคาท์เตอร์อ่างล้างมือ

ถัดไปเป็นส่วนของโซฟานั่งพักคอยจะเป็นโซฟายาวหันหลังชนกัน นั่งได้ทั้งหมดประมาณ 8 คน

ผนังตรงที่นั่งพักคอยจะมีประตูทางเข้าโถงลิฟต์เป็นประตูกระจก เวลาจะเข้า-ออกต้องใช้คีย์การ์ดสแกน บุคคลอื่นที่ไม่มีคีย์การ์ดจะได้เข้าตึกไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ

ด้านบนเป็นตัวสแกนบัตรด้านนอก ส่วนด้านล่างเป็นตัวกดออกจากด้านในโถงลิฟต์

เข้ามาด้านในโถงลิฟต์จะมีรูปปั้นประติมากรรมอยู่ที่สุดทางเดิน ทางซ้ายมือเป็น Mail Box ส่วนทางซ้ายมือเป็นลิฟต์โดยสารจำนวน 2 ตัว

Mail Box จะ Built-in ติดกับผนังเป็นรูปตัว U หน้าตู้มีตัวเลขบอกหมายเลขห้องชัดเจน

ลิฟต์โดยสารของโครงการมีจำนวน 2 ตัว เดี๋ยวเราจะพาขึ้นไปดู Facilities ที่ชั้น 2 กันนะคะ

ชั้น 2 จะเป็นชั้นที่มี Facilities และเริ่มต้นห้องพักอาศัยนะคะ Facilities บนชั้นนี้นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ก็จะเป็นส่วนห้อง Facilities 2 ชั้น ชั้นล่างที่ตรงกับชั้น 2 คือ Fitness มีบันไดเดินขึ้นไปด้านบนที่เป็น Library  ส่วนห้องพักอาศัยชั้นนี้มีทั้งหมด 22 ห้อง ห้องที่อยู่ทิศเหนือ 2 ห้องคือ 2C-01 และ 2C-02 พอจะได้วิวสนามกอล์ฟ แต่ยังไม่สวย เพราะยังอยู่ในระดับที่เตี้ยไปนิด คนซื้อห้องชั้นนี้ ไม่ต้องคาดหวังเรื่องวิวนะคะ เพราะอยู่แค่ชั้นสองเอง ระดับพ้นแนวรั้วมานิดเดียว

ห้องชั้นนี้ มีดีตรงไม่ต้องพึ่งพาลิฟท์ และราคาถูกสุด คนกลัวความสูงน่าจะชอบ ส่วนห้องที่เป็นมุมอับสุดคือห้องที่อยู่ตรงสระว่ายน้ำ 3 ห้องคือ 2B-06, 2B-07, 2B-08 ที่หน้าระเบียงห้องจะมีการปลูกไม้พุ่มบังระเบียงมิดเพื่อความ Priivacy จากสระว่ายน้ำ แต่ก็ส่งผลให้ระเบียงไม่โปร่งไปด้วย เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบออกมารับลมที่ระเบียง ไม่ซีเรียสเรื่องแสงธรรมชาติ และชอบห้องราคาพิเศษมากๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 เมื่อมองไปทางขวามือจะเป็นทางเข้า Facilities ทั้งหมด ที่จะต้องเข้าผ่านทางห้องออกกำลังกายค่ะ

ด้านหน้ามีป้ายบอกทางเข้าห้องออกกำลังกาย(Fitness) ชัดเจน รวมทั้งมีป้ายบอกกำหนดการให้บริการฟิตเนส ห้องสมุด และสระว่ายน้ำตั้งแต่เวลา 9.00-22.00 น. ของทุกวัน

เข้ามาในห้อง Fitness จะเป็นผนังกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน บรรยากาศค่อนข้างโปร่งแสงธรรมชาติเข้าดี เวลาออกกำลังกายจะหันหน้ามองวิวด้านหน้าซึ่งเป็นวิวถนนและบ้านพักอาศัยด้านหน้าโครงการค่ะ

หันไปทางซ้ายมือจะเป็นทางออกไปยังสระว่ายน้ำ

ส่วนทางด้านขวามือจะมีเครื่องออกกำลังกาย และตู้วางของ Built-in ที่เป็นล็อกเกอร์ให้สามารถวางของได้

ตู้นี้จะมีช่องวางของโชว์และล็อกเกอร์ให้เก็บของส่วนตัวได้ค่ะ

ซึ่งตรงโถงด้านนี้มีฝ้าเพดานค่อนข้างสูง เนื่องจากด้านบนเป็น Double space ของห้องสมุดที่สามารถมองลงมาที่ห้องออกกำลังกายได้

หากเราจะขึ้นไปที่ห้องสมุด จะมีบันไดทางขึ้นที่ด้านข้างตู้วางของแบบนี้ ฝ้าเพานสูงและโอ่โถงดีเลยหละ

ขึ้นบันไดมาเราจะเจอห้องสมุดที่ค่อนข้างโปร่ง เนื่องจากผนังด้านหน้าจะเป็นกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน มีการวางชุดโซฟาให้ประมาณ 3 ชุด ให้สามารถนั่งอ่านหนังสือ ทำงาน หรือนั่งคุยกันได้

วิวจากห้องสมุดฝั่งที่ติดกับถนนลาซาล 11 ที่จะมองเห็นที่ดินว่างเปล่าและบ้านพักอาศัยรอบๆค่ะ

มองกลับไปจะมีตู้โชว์และตู้วางหนังสือที่โครงการเตรียมไว้ให้อ่านเพลินๆ

หนังสือที่วางไว้ให้อ่านเป็นนิตยสารอ่านเล่นทั่วๆไปค่ะ

มองไปทางขวามือจะเป็นชุดนั่งเล่นแบบ 2 ที่นั่ง วางชิดราวกันตกที่เป็นกระจกนิรภัย มองออกไปจะเห็นวิวสนามกอล์ฟราชนาวี

จากโต๊ะนั่งเล่นมองไปจะเห็นวิวนี้ค่ะ ด้วยความที่ห้องสมุดอยู่ในชั้นลอยของพื้นที่ชั้นสอง มุมมองของสนามกอล์ฟที่ได้จีงไม่สูงนักและต้องมองผ่านตาข่าย วิวไม่ค่อยปังเท่าไหร่

มองลงไปจะเห็นพื้นที่ออกกำลังกายด้านล่างด้วย ซึ่งการทำชั้นลอยแบบนี้มีข้อดีคือทำให้พื้นที่ดูกว้างและเวลาเรามานั่งรอเพื่อนออกกำลังกายก็สามารถขึ้นลงหากันได้ง่าย แต่สำหรับคนที่ต้องการความสงบอาจจะลำบากหน่อยในช่วงเวลาที่มีคนมาออกกำลังกายเยอะ เนื่องจากเสียงของคนที่ออกกำลังกายจะดังขึ้นมาถึงข้างบน อาจจะรบกวนสมาธิในการอ่านหนังสือหรือการทำงานไปด้วย

ฝั่งตรงข้ามกันก็เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่ง ที่ติดกับราวกันตก มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำด้านล่าง

วิวสระว่ายน้ำที่มองจากที่นั่งภายในห้อง มุมมองฝั่งนี้จะวิวดีกว่าอีกด้านหน่อยเพราะเห็นสระว่ายน้ำและต้นไม้รอบๆร่มรื่นดีค่ะ

มองลงไปข้างๆจะเห็นห้องออกกำลังกายด้านล่างฝั่งประตูทางออกไปยังสระว่ายน้ำ เดี๋ยวเราจะพาลงไปดูกัน

จาก Facilities ด้านในอาคาร หากจะออกไปยังสระว่ายน้ำจะต้องผ่านห้องออกกำลังกาย ไปทางประตูกระจกที่สามารถเปิดออกไปได้แบบนี้ค่ะ

เมื่อเปิดประตูออกมาเราจะเจอบันไดทางขึ้นไปยังสระว่ายน้ำ

จะขออธิบายจากภาพมุมสูงของสระว่ายน้ำนะคะ โดยเราขึ้นบันไดมาจะเป็นสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร ริมสระมีพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆที่มีระแนงคลุมด้านบนให้ ซึ่งระแนงนี้ไม่สามารถให้ร่มเงาพอที่จะบังแดดให้ได้นะ ที่นั่งแบบนี้จะเหมาะในเวลาแดดร่มลมตกมากกว่า

ขอบสระว่ายน้ำเป็นกระเบื้องเงาสีดำที่มีความเสียดทานต่ำ เวลาเดินที่ขอบสระเท้าเปียกๆอาจจะลื่นได้ต้องระวังกันด้วยนะคะ ทางลงจะใช้บันไดสระว่ายน้ำตรงนี้ซึ่งมีทางขึ้น-ลงทางนี้ทางเดียว มองตรงไปจะเห็นขอบน้ำปริ่มๆและมีกระจกเป็นราวกันตก

สระว่ายน้ำนี้จะเป็นระบบ Overflow หรือระบบน้ำล้น เวลาเราว่ายน้ำ น้ำจะลงที่บ่อด้านล่างนี้แล้วหมุนเวียนไปเรื่อยๆ โดยโครงการจะใช้ราวกันตกด้านหน้าเป็นกระจกบานเปลือย

เวลามองจากด้านนอกก็จะเห็นกระเบื้องขอบสระและกระจกเปลือยด้านหน้าแบบนี้ค่ะ

จากประตูทางออกสระว่ายน้ำมองไปทางขวามือจะเป็นกำแพงปูนกันตกธรรมดา

ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการวางโซฟาริมสระขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางมาให้ ด้านบนเป็นระแนงเหล็กทาสี ที่เป็นระแนงตกแต่งเฉยๆไม่ได้ช่วยเรื่องกันแดดสักเท่าไหร่

จากที่นั่งเล่นริมสระมองไปที่สระว่ายน้ำจะได้มุมมองแบบนี้

ด้านหลังที่นั่งเล่นจะเป็นที่ล้างตัวกลางแจ้งและห้องน้ำรวม

ที่ล้างตัวเป็น Rain Shower 1 จุด

พื้นที่ล้างตัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีการยกธรณีขึ้นมากันน้ำไหลออกข้างนอก

ข้างๆกันเป็นห้องน้ำรวม 1 ห้อง ที่ให้ใช้ร่วมกันไปเลย ไม่ได้แยกหญิงชาย

ภายในห้องน้ำจะมีเคาท์เตอร์อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ 1 โถ ไม่มีโถชายให้นะคะ

พื้นที่หน้าห้องโซนที่ติดกับสระว่ายน้ำจะมีทางเดินไปถึงด้านหน้า

เมื่อเดินเข้ามาจะเป็นทางเดินระหว่างสระว่ายน้ำกับห้องพักอาศัยที่อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งประโยชน์ของทางเดินนี้จริงๆแล้วจะเป็นตัวช่วยกั้นพื้นที่ไม่ให้ห้องพักอยู่ติดกับสระว่ายนำ้จนเกินไป เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัยในชั้นนี้ มองตรงไปจะเป็นราวกันตกกระจกนิรภัย มุมมองจึงโล่งมองเห็นพื้นที่ข้างล่างเลย

มาดูผังที่ชั้น 3 กันบ้าง ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะเป็นชั้นพักอาศัยหลักแล้วนะคะ ชั้นนี้มีห้องพัก 22 ยูนิต ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ โดยสาร 80 : 1 ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐานนะคะ ห้อง 3C-01, 3C-02 ที่อยู่ทางทิศเหนือจะได้วิวสนามกอล์ฟ ซึ่งวิวชั้นนี้จะดีกว่าชั้น 2 แน่นอนเพราะจะได้มุมมองที่เปิดโล่งมากกว่า  วิวทั้งด้านตะวันออก(ขวา) และ ตะวันตก (ซ้าย) ค่อนข้างเปิดโล่งตั้งแต่ชั้น 3 นี่แหละ ดังนั้นเลือกได้ตามสบาย คนนอนตื่นสายออกจากบ้านบ่ายๆ กลับบ้านดึกๆ สามารถเลือกทิศตะวันตกได้ส่วนคนที่ทำงานใช้ชีวิตปกติ นอนตื่นเช้าออกจากบ้านเร็ว และกลับบ้านช่วงเย็น ก็เลือกทิศตะวันออกน่าจะเหมาะกว่า

 

ชั้น 4-8 จะมีผังเหมือนกัน โดยจะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดค่ะ มีห้องจำนวน 23 ยูนิตต่อชั้น นอกจากห้อง 4C-01, 4C-02 ที่เห็นสนามกอล์ฟเต็มๆแล้ว ในชั้นนี้ยังมีห้องเพิ่มขึ้นมาหนึ่งห้องคือห้อง 4E อยู่ในตำแหน่งที่เห็นสนามกอล์ฟเต็มๆเช่นกัน  รูปแบบตึกแบบนี้ สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตปกติ การอยู่ห้องทางทิศตะวันออกได้เปรียบ เพราะนอกจากจะไม่ร้อนจากแดดบ่ายแล้ว ยังพอจะมองเห็นสนามกอล์ฟได้บ้างค่ะ

 

เราพาขึ้นลิฟต์มาดูชั้นพักอาศัยกันบ้าง ออกจากลิฟต์มาจะเจอทางแยกไปส่วนห้องพักอาศัย

โถงทางเดินจะเป็นโทนสีขาว พื้นเป็นแกรนิตโต้สีขาว ส่วนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ตลอดทางเดิน สุดทางเป็นช่องเปิดช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าดีและอากาศถ่ายเทสะดวก

ช่องเปิดที่ปลายทางเดินจะเป็นกระจกบาน Fix และหน้าต่างบานกระทุ้งแบบนี้ค่ะ ทางขวามือเป็นตู้ใส่อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นประตูทางเข้าบันไดหนีไฟ

บันไดหนีไฟค่อนข้างโปร่งเพราะมีช่องแสงที่ชานพักทุกช่วงค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือกว้าง 8 เมตร ยาว 12 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
  • ห้องสมุด
  • ลิฟท์โดยสาร 1 ตัวต่อหนึ่งอาคาร 80 : 1
  • ที่จอดรถในช่องจอด 56 คัน หรือ 35% รวมซ้อนคันจอดได้ราวประมาณ 66 คัน หรือ 41%
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

มาเริ่มกันที่ห้อง Type B แบบ  1 Bedroom พื้นที่ 26 ตารางเมตร ความสูงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่มีในห้องตัวอย่างจะเป็นของ SB Furniture ให้แบบนี้ทั้งหมดยกเว้น Prop และ Buit-in ตกแต่ง เมื่อเข้าห้องไปปุ๊บสิ่งแรกที่เจอคือห้องรับแขกที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ ถัดไปเป็นห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน ซึ่งในห้องนอนโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ถัดมาจะเป็นครัวเปิดซึ่งเป็นพื้นที่แยกสัดส่วนออกไป  โดยห้องครัวจะประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวและพื้นที่ว่างให้วางตู้เย็น ถัดไปเป็นระเบียงซึ่งมีพื้นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์ และส่วนที่เชื่อมต่อกับครัวอีกส่วนคือห้องน้ำซึ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งไว้ให้ชัดเจนค่ะ

ประตูห้องเป็นประตูสำเร็จรูปลามิเนตลายไม้พร้อมติดตาแมวมาให้ มีไฟซ่อนไว้ให้ที่ฝ้าเพดานด้านบน ข้างๆมีป้ายหน้าห้องให้ดีไซน์น่ารักดี กลอนประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลสธรรมดา

ติดป้ายบอกเลขห้องไว้ให้แบบนี้ทุกห้องค่ะ

กลอนประตูและมือจับก้านโยกสแตนเลส

พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้ มีคิ้วธรณียื่นขึ้นมาเล็กๆเพื่อปิดรอยต่อระหว่างพื้นโถงทางเดินและพื้นห้องนอนให้ รวมทั้งยังช่วยกันไม่ให้แมลงหรือแมลงเข้าห้องได้

เปิดเข้ามาจะเจอห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ส่วนทางซ้ายมือเป็นครัวเปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียงและห้องน้ำ โดยห้องนั่งเล่นจะประกอบด้วยโซฟา โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีที่โครงการแถมให้

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ให้ 1 ดวง  และติดตั้ง Smoke Detect มาให้ทั้งส่วนห้องรับแขกและห้องนอน

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า ตรงประตูมีการติดตั้งตัวกันกระแทกให้เรียบร้อย ส่วนโซฟาและตู้วางทีวีโครงการให้มาแบบนี้เลยค่ะ ห้องนี้มีระยะดูทีวีประมาณ 2.20 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาด 46″-52″ จะเป็นระยะที่พอกับสายตา

ตู้วางทีวีของ SB Furniture มีลิ้นชักให้ใส่ของเล็กๆน้อยๆและวางเครื่องเล่นซีดีได้ หน้าบานเป็นบานเลื่อนแบบบานเดี่ยว สามารถเลือกได้ว่าจะเลื่อนทางซ้ายหรือขวา

โซฟาขนาด 2 ที่นั่งของ SB Furniture เช่นกัน ใต้โซฟาเป็นช่องใส่ของ หน้าบานเป็นบานเลื่อนปิด-เปิดได้

พื้นที่ข้างโซฟาเป็นโต๊ะรับประทานขนาด 2 ที่นั่งของ SB Furniture 

ลองวางเก้าอี้ในระยะนั่งจริงจะเขยิบออกมาเกือบจะติดกับโซฟาเลยค่ะ ซึ่งระยะนี้ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอักมากนักแต่ถ้าคนตัวใหญ่ก็อาจจะนั่งอึดอัดหน่อย ต้องเปลี่ยนมานั่งที่เก้าอี้ด้านหน้า

ติดตั้งรางเลื่อนประตูที่พื้นพร้อมปิดคิ้วรอยต่อให้เรียบร้อย ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้เหมือนกับห้องนั่งเล่นค่ะ

เข้ามาในห้องนอนขนาดไม่ใหญ่มาก มีช่องเปิดให้ 1 บานค่อนข้างกว้าง แสงธรรมชาติเข้าดีค่ะ

เตียงที่โครงการให้มาเป็นเตียง Queen size ขนาด 5 ฟุตไม่รวมฟูก ข้างเตียงเป็นลิ้นชัก 3 ตอน สามารถเปิดออกมาใส่ของได้

ลิ้นชักในช่วงหัวเตียงติดตั้งเต้ารับไว้ให้ สามารถเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าได้

หัวเตียงทั้งสองข้างมีพื้นที่ว่าง สามารถวางโต๊ะหัวเตียงขนาด 50 x 50 เซนติเมตร เพื่อวางโคมไฟหรือวางของเล็กๆน้อยๆได้

ช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ผสมกับบาน Fix เฟรมเป็นอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสเขียวตัดแสง กรองแดดได้ส่วนหนึ่งแต่ทางที่ดีหาผ้าม่านมากรองด้วยเหมือนห้องตัวอย่างจะช่วยได้ดีกว่า เพราะช่องเปิดค่อนข้างกว้างค่ะ กระซิบนิดนึงว่าสำหรับห้องทางทิศเหนือจะได้ห้องวิวสนามกอล์ฟแบบนี้ เวลามองไปรู้สึกสบายตา วิวดีมากก

พื้นที่ข้างเตียงสำหรับให้เดินไปเปิด-ปิดหน้าต่างเหลือค่อนข้างเยอะ เดินผ่านสบายๆ

พื้นที่ปลายเตียง โครงการวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือมาให้ ที่บานตู้ด้านตรงกลางยังมีกระจกให้ยืนส่องได้ทั้งตัว

โดยตู้เสื้อผ้ามีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ภายในตู้เสื้อผ้าก็มีฟังก์ชั่นครบตามลักษณะของตู้เสื้อผ้าทั่วไปที่มีราวแขวนผ้า ลิ้นชักเก็บของ เวลาเปิดบานตู้ออกมาก็จะเหลือทางเดินอยู่หน่อยนึงพอให้เอี้ยวตัวเดินผ่านได้ค่ะ

มือจับตู้เสื้อผ้า

ข้างๆกันเป็นโต๊ะเขียนหนังสือที่มีลิ้นชักเปิด-ปิดได้ พร้อมเก้าอี้ล้อเลื่อนบุหนังสีขาวไม่มีพนักพิง 

โครงการแถมแอร์มาให้ของ York

เรามาต่อกันที่ห้องครัวเปิด เป็นห้องที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นและห้องนอน แน่นอนว่าพอทำผนังห้องปาดมุมแบบนี้เราจะได้ห้องที่ดูกว้างขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยข้อจำกัดนิดนึงที่ว่า เราจะกั้นห้องเป็นครัวปิดได้ยาก ส่วนพื้นห้องครัวเป็นพื้นลามิเนตซึ่งหากมีความชื้นสะสมไปนานๆลามิเนตอาจจะบวมได้ ดังนั้นหากทำน้ำหกเลอะพื้นให้รีบเช็ดอย่าปล่อยไว้นะคะ

ถัดไปเป็นชุดครัว Built-in ที่โครงการติดตั้งมาให้ทั้งชุดแบบนี้เลย ทางขวามือเป็นช่องว่างเปล่าๆสำหรับวางตู้เย็น ส่วนเคาท์เตอร์ครัวทั้งด้านบนและด้านล่างมีหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ผนังเคาท์เตอร์เป็นปูนฉาบเรียบทาสีธรรมดา ซึ่งอนาคตถ้าเราล้างจานตรงนี้อาจจะทำให้ผนังชื้นและขึ้นรา หรือเกิดคราบสะสม ทำความสะอาดได้ยาก จึงแนะนำให้ปูกระเบื้องหรือติดพลาสติกกันเปื้อน เพื่อทำให้ง่ายและสะดวกต่อการทำความสะอาดมากขึ้น 

อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสและก็อกน้ำทรงโค้งของ MEX ขนาดไม่ใหญ่มาก

ถัดจากห้องครัวเป็นพื้นที่ระเบียง ที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเดี่ยว เลื่อนไปทางซ้ายมือได้อย่างเดียวเท่านั้น

ตัวล็อกประตู

พื้นมีการยกธรณีขึ้นมา รวมกับรางเลื่อนประตูรวมแล้วประมาณ 17 เมตร เพื่อกันน้ำไหลเข้ามาในห้อง พื้นที่ระเบียงกว้าง  1.55 x  1.00 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

 ราวระเบียงเป็นเหล็กโปร่งสูง 1 เมตร ข้างๆเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสี 

ที่ผนังระเบียงมีการติดตั้งเต้ารับแบบกันน้ำให้เผื่อวางเครื่องซักผ้า รวมทั้งก๊อกน้ำเผื่อล้างระเบียง 

มองขึ้นไปด้านบนมีการติดตั้ง Compressor มาให้ แบบเป่าลมร้อนเข้าในระเบียง แต่ด้วยความที่จุดติดตั้งค่อนข้างสูงเราจึงไม่ได้รับไอร้อนมากเท่าไหร่ค่ะ (แต่ก็ยังร้อนอยู่ดีนะ) บนฝ้าเพดานติดตั้งโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง

ถัดไปเป็นห้องน้ำ โครงการใช้ประตูสำเร็จรูปสีขาว มือจับเป็นสแตนเลสหัวกลม

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิคสีเทา มีการยกธรณีประตูค่อนข้างสูง กันน้ำในห้องน้ำไหลออกมาเปียกลามิเนตห้องนั่งเล่น

ห้องน้ำใช้โทนสีขาวเทาและมีการใช้กระเบื้องเล่นลวดลายใต้กระจกให้ด้วย ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกเงาเป็นบานกระจกติดผนังเต็มบาน, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบนำ้ที่มาพร้อมกับฉากกั้น

อ่างล้างหน้าทรงครึ่งวงกลม ส่วนก็อกน้ำสแตนเลสของ American standard หรือเทียบเท่า

โถสุขภัณฑ์ของ American standard พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่

สายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ American standard

ถัดไปเป็นพื้นที่อาบน้ำ ขนาด 1.00 x 0.70 เมตร ที่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ แนะนำให้หาฉากกั้นกระจกหรือผ้าม่านแบบกันน้ำมาติดนะคะ เวลาอาบน้ำจะได้ไม่กระเด็นไปเปียกส่วนแห้ง

ที่พื้นมีการยกธรณีกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาชนิดเดียวกับพื้นห้องน้ำส่วนแห้ง

ในห้องตัวอย่างโครงการไม่ได้ติดติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำมาให้ แต่ของจริงจะมีให้นะคะของ American standard

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งให้และมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 1 ดวง แสงสว่างค่อนข้างน้อยไปหน่อยนะ 

ต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom Type E ขนาด 28.2 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ที่มีในห้องตัวอย่างเป็นของ SB Furniture ซึ่งจะให้แบบนี้ทั้งหมดยกเว้น Prop และ Buit-in ตกแต่งเหมือนห้องแบบแรก เมื่อเข้าห้องมาจะเจอโถงที่จัดให้เป็นส่วนรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นที่มีประตูกระจกบานเลื่อนให้สามารถนั่งมองวิวจากในห้องและเดินออกไปยืนรับลมที่ระเบียงได้ โดยโถงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอน และส่วน Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำ ห้องนอนในห้องนี้ไม่มีห้องน้ำในตัว จะต้องมาเข้าห้องน้ำรวมกันที่ห้องครัวซี่งเป็นแบบแยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้ค่ะ

ประตูห้องเป็นประตูสำเร็จรูปลามิเนตลายไม้พร้อมติดตาแมวมาให้ มีไฟซ่อนไว้ให้ที่ฝ้าเพดานด้านบน ข้างๆมีป้ายหน้าห้องให้ดีไซน์น่ารักดี กลอนประตูเป็นแบบก้านโยกสแตนเลสธรรมดาเหมือนห้องแบบแรก

พื้นห้องนอนเป็นลามิเนตลายไม้ มีคิ้วธรณียื่นขึ้นมาเล็กๆเพื่อปิดรอยต่อระหว่างพื้นโถงทางเดินและพื้นห้องนอนให้ 

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง  และติดตั้ง Smoke Detect มาให้เรียบร้อย

มองกลับไปที่ประตูห้องของจริงจะมีตัวกันกระแทกติดให้ที่พื้นเหมือนห้องแบบแรก ที่ผนังข้างประตูด้านบนจะติดตั้งเมนบอร์ดไฟมาให้ ข้างๆกันเป็นโต๊ะพร้อมเก้าอี้ขนาด 2 ที่นั่ง ที่เราสามารถใช้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารหรือที่นั่งเล่นก็ได้ ฝั่งตรงข้ามกันทางซ้ายมือเป็นตู้ใส่ของอเนกประสงค์ค่ะ

โดยตู้ใส่ของนี้เป็นของ SB Furniture ด้านบนจะเป็นชั้นวางของแบบเปิดโล่ง ส่วนด้านล่างมีหน้าบานเปิด-ปิดให้เรียบร้อย

โต๊ะรับประทานขนาด 2 ที่นั่งของ SB Furniture ด้วยขนาดโต๊ะที่เล็กและวางเข้ามุมพอดีทำให้เวลาใช้งานจริงอาจจะรู้สึกอึดอัดคับแคบไปบ้าง ดังนั้นเวลาเรานั่งรับประทานอาหาร 2 คน ถ้าขยับโต๊ะ-เก้าอี้ออกจากมุมห้องก็จะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นนะคะ เพราะพื้นที่รอบข้างยังเหลือให้พอขยับออกมาได้อีกพอสมควร

ถัดไปเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่โครงการจัดวางทีวีและโซฟานั่งเล่นมาให้เรียบร้อยแล้ว ระยะดูทีวีประมาณ 2.20 เมตร เหมาะกับการวางทีวี 46″-52″ จะเป็นขนาดที่พอดีกับสายตาค่ะ

โซฟาขนาด 2 ที่นั่งของ SB Furniture เบาะบุหนังสีเทาอ่อนมาให้ ส่วนใต้ล่างเป็นลิ้นชักบานเลื่อนใส่ของได้เล็กน้อย

ตรงข้ามกันเป็นตู้วางทีวีของ SB Furniture มีลิ้นชักให้ใส่ของเล็กๆน้อยๆและวางเครื่องเล่นซีดีได้ หน้าบานเป็นบานเลื่อนแบบบานเดี่ยว สามารถเลือกได้ว่าจะเลื่อนทางซ้ายหรือขวา

มองไปทางขวามือจะเป็นพื้นที่วาง Compressor แอร์ แบบหันลมร้อนออกนอกอาคาร ที่พื้นมีการยกธรณีเพื่อแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนโดยพื้นที่วาง Compressor แอร์จะเป็นพื้นปูนขัดมันธรรมดา ในขณะที่พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิค

ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นระเบียงเข้ามุม มองไปจะเห็นระเบียงห้องข้างๆ โดยราวกันตกจะใช้เป็นราวเหล็กโปร่งทาสีเทาเหมือนกันทั้งหมดค่ะ

จากระเบียง หากมองไปที่พื้นจะไม่รู้สึกหวาดเสียวเท่าใดนัก เนื่องจากมีแผ่นพื้นที่เป็นตัวตกแต่งอาคารรองรับอยู่ใต้ระเบียง คิดอีกอย่าง เวลาเราทำของกระเด็นออกไปนอกระเบียงก็จะคาอยู่บนแผ่นพื้นไม่ตกลงไปข้างล่างเหมือนกันนะ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะติดตั้งโคมไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวงค่ะ

ถัดไปเป็นห้องนอนที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานสามตอน เลื่อนไปทางขวามือได้ทางเดียว ส่วนทางขวามือเป็นบาน Fix

ที่พื้นระหว่างห้องจะมีรางเลื่อนประตูพร้อมปิดคิ้วรอยต่อให้เรียบร้อย ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้เหมือนกับห้องนั่งเล่นค่ะ

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานโครงการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 ดวง พร้อม Smoke Detect

พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านหนึ่ง โครงการจัดตู้เสื้อผ้า,โต๊ะเขียนหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เก็บของมาให้เป็น Set เลยของ SB Furniture โดยตู้เสื้อผ้าจะมีหน้าตาและฟังก์ชั่นเหมือนกับที่แถมให้ห้องแบบแรก คือหน้าบานตู้เป็นลามิเนตและติดตั้งกระจกเงาไว้ให้ส่องความเรียบร้อย ข้างๆเป็นโต๊ะพร้อมเก้าอี้ และที่ติดกันเป็นตู้ใส่ของอเนกประสงค์ค่ะ

ลองเปิดหน้าบานตู้เสื้อผ้า พร้อมลิ้นชักออกมาแล้วจะเห็นว่ามีระยะติดกับเตียงเลย เวลาจะหยิบเสื้อผ้าแต่งตัวอาจจะต้องเบี่ยงๆตัวออกมาจากตู้หน่อย หรือไม่ก็ยืนที่ปลายเตียงจะสบายกว่าค่ะ ส่วนระยะของโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง เราลองเอาเก้าอี้ออกมาในระยะที่นั่งแล้วจะเห็นว่าระยะเก้าอี้ไม่ติดประชิดกับเตียง จึงสามารถนั่งได้สบายๆไม่อึดอัดค่ะ ส่วนตู้ที่อยู่ข้างๆเป็นตู้ที่มีช่องให้ใส่ของค่อนข้างเยอะ แต่ไม่มีหน้าบานปิดให้ ดังนั้นอาจจะต้องดูแลในเรื่องการทำความสะอาดฝุ่นเป็นพิเศษหน่อยนะ เพราะถ้าเราวางของในช่องที่ไม่มีตู้ปิด ฝุ่นจะเข้าไปเกาะได้ง่ายกว่าปกติค่ะ

พื้นที่ปลายเตียงเป็นประตูบานเลื่อนเข้าห้อง ซึ่งหากเราอยู่บนเตียงจะได้มุมมองประมาณนี้ ซึ่งเราสามารถปิดประตูและหาม่านมาติดตั้งเพื่อความเป็นส่วนตัวก็ได้ หรือจะเปิดประตูเพื่อนอนดูทีวีจากห้องนั่งเล่นก็ได้ค่ะ

โดยพื้นที่ว่างปลายเตียงถึงโซฟามีระยะประมาณ 0.55 เมตร สามารถเดินผ่านได้สบายๆ

ถัดไปเป็นพื้นที่ครัวที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำรวมทางขวามือและระเบียงห้องที่อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งตรงทางเข้านี้เราสามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนเพื่อทำเป็นครัวปิด ป้องกันไว้เวลาที่เราประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่ลอยฟุ้งเข้าห้อง

ถัดไปเป็นชุดครัว Built-in ที่โครงการติดตั้งมาให้ทั้งชุดแบบนี้เลย ทางขวามือเป็นช่องว่างเปล่าๆสำหรับวางตู้เย็น ส่วนเคาท์เตอร์ครัวทั้งด้านบนและด้านล่างมีหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ ผนังเคาท์เตอร์เป็นปูนฉาบเรียบทาสีธรรมดา ซึ่งอนาคตถ้าเราล้างจานตรงนี้อาจจะทำให้ผนังชื้นและขึ้นรา หรือเกิดคราบสะสม ทำความสะอาดได้ยาก จึงแนะนำให้ปูกระเบื้องหรือติดพลาสติกกันเปื้อน เพื่อทำให้ง่ายและสะดวกต่อการทำความสะอาดมากขึ้น ทางซ้ายมือมีเต้ารับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าเตรียมไว้ให้ รองรับการเสียบไมโครเวฟ กาน้ำร้อน หรือเตาไฟฟ้าเล็กๆเผื่อทำอาหารได้ สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาในครัวนี้ก็คือช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาด 7 กิโลกรัมได้สบายๆค่ะ

มือจับตู้และบานพับแบบธรรมดา ไม่มี Soft-closed

อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสและก็อกน้ำทรงโค้งของ MEX ขนาดไม่ใหญ่มาก

ข้างๆเคาท์เตอร์ครัวเป็นหน้าต่าง ด้านล่างเป็นบาน Fix ส่วนด้านบนเป็นบานกระทุ้ง ด้วยความที่บานเปิดกว้างแสงจึงเข้าได้ดีช่วยให้ครัวไม่อับและบานกระทุ้งที่แม้ช่องเปิดจะไม่ได้กว้าง แต่ก็ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีในระดับนึง

ฝั่งตรงข้ามเคาท์เตอร์ครัวจะมีพื้นที่ว่าง ซึ่งเราสามารถวางตู้ใส่ของ หรือชั้นอเนกประสงค์เพื่อเก็บของเพิ่มได้

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานมีการติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้  1 ดวง และติดตั้ง Smoke Detect มาให้เรียบร้อย

ถัดไปเป็นห้องน้ำ โครงการใช้ประตูสำเร็จรูปสีขาว มือจับเป็นสแตนเลสหัวกลม

พื้นที่อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกเงาเป็นบานกระจกติดผนังเต็มบาน ขวามือเป็นอ่างล้างหน้าทรงครึ่งวงกลมและก็อกน้ำสแตนเลสของ American standard หรือเทียบเท่า ส่วนทางซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American standard พร้อมสายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่ของ American standard เช่นกัน

ที่พื้นมีการยกธรณีกันน้ำไหลไปสู่ส่วนแห้ง ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีเทาชนิดเดียวกับพื้นห้องน้ำส่วนแห้ง

ที่ผนังโครงการติดตั้งชุดฝักบัวอาบน้ำพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ แต่ไม่มีที่วางสบู่ต้องหามาติดเองนะคะ

ฝักบัวขนาดเล็กๆกระทัดรัด

มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานจะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งให้และมีไฟดาวน์ไลท์ให้ 1 ดวง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @3 March 2016

  • ห้อง 3A06 ทางทิศตะวันออก วิวสวน เนื้อที่ 24.20 ตร.ม. ราคา 1.89 ล้านบาท หรือ  บาท/ตร.ม. (ราคาพิเศษเหลือ 1.550 ล้านบาท หรือ 40,202 บาท/ตร.ม.)
  • ห้อง 6808 ทางทิศตะวันตก วิวสระว่ายน้ำ เนื้อที่ 26 ตร.ม. ราคา 1.799 ล้านบาท หรือ 40,202 บาท/ตร.ม.
  • ห้อง 7C02 ทางทิศเหนือ วิวสนามกอล์ฟ เนื้อที่ 27.70 ตร.ม. ราคา 2.599 ล้านบาท หรือ 40,202 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 5,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
  • โปรโมชั่น : แอร์ 12,000 BTU 1 เครื่อง, ฟรีโอน, ฟรีค่าส่วนกลางปีแรก ถึง 30 April, 2016

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The Excel Hideaway อยู่ในซอยลาซาล 11 ห่างจากหน้าปากซอยลาซาลและ BTS แบริ่งอยู่ที่ประมาณ 940 เมตรซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ระยะเดิน คงต้องอาศัยการขับรถยนต์ นั่งพี่วิน หรือไม่ก็พึ่งบริการ Shuttle Service จากโครงการ โดยตัวโครงการนี้จะมีทำเลที่แตกต่างจากคอนโดในซอยลาซาลทั่วๆไป เนื่องจากโครงการอยู่ห่างจากปากซอยลาซาล 400 เมตร ที่ตั้งโครงการอยู่สุดซอยที่เป็นซอยตัน บรรยากาศรอบๆภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ที่ดินว่างเปล่า และมีอพาร์ทเม้นต์บ้างนิดหน่อย ภาพรวมค่อนข้างเงียบสงบในตอนกลางวันและยิ่งสงบหนักไปจนถึงเปลี่ยวในตอนกลางคืน หารถเข้าได้แต่หาออกยาก คงต้องพึ่งพาการโทรเรียกแท็กซี่เข้า-ออกซอย แนะนำให้หาเบอร์แท็กซี่ประจำหรือใช้ Uber อะไรก็ว่ากันไปจะดีที่สุดค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ๆจะหาได้ยาก หากจะออกมาหาของกินต้องมาหน้าปากซอยลาซาล 11 จะมี 7Eleven อยู่ขนาบหน้าปากซอยเลย ฝั่งเยื้องๆกันก็เป็น Family Mart อีกหนึ่งที่ ซึ่งจริงๆแล้วพอมาถึงหน้าปากซอยลาซาล 11 จะมีพี่วินประจำอยู่ หากอยากออกไปหาของกินไกลๆกว่านี้ก็ไปได้ไม่ยากแล้ว โดยตัวซอยลาซาลเองมีสภาพแวดล้อมในซอยค่อนข้างคึกคักเนื่องจากมีทางลัดเชื่อมกับถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ทำให้มีรถผ่านตลอดเวลา และแน่นอนว่าเมื่อเป็นซอยทางผ่านที่มีปริมาณรถหนาแน่น ความอุดมสมบูรณ์ก็มาตามปริมาณรถ สองข้างทางของซอยลาซาลมีของกินของใช้หลากหลาย ทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7Eleven, Family Mart, ตลาด, ร้านขายยา และร้านอาหารหลากหลาย สภาพแวดล้อมโดยรอบๆส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ 2-4 ชั้น อพาร์ทเม้นท์ และมีบ้านพักอาศัยบ้างประปรายค่ะ

เนื่องจากสภาพแวดล้อมรอบๆที่เป็นบ้านพักอาศัยและที่ดินว่างเปล่าซะเยอะจึงทำให้ไม่มีตึกสูงมาบังในระยะประชิด เวลามองออกไปจะเห็นพื้นที่สีเขียวค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะทางทิศเหนือที่เป็นทิศ  High Light วิวสนามกอล์ฟราชนาวี หากยิ่งเลือกชั้นที่สุงมากเท่าไหร่ก็จะได้มุมมองที่กว้างและวิวที่สวยมากขึ้นเท่านั้น และไม่ต้องกังวลเรื่องลูกกอล์ฟจะกระเด็นเข้าห้องหรือไม่ เพราะรอบๆสนามกอล์ฟมีการกั้นตาข่ายไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ เดินทางสะดวก ทางเลี่ยงทางลัดเยอะ สามารถเลือกใช้ได้หลายเส้นทาง เวลาเส้นทางหลักติดมากๆ มีทางด่วนให้ใช้เป็นหลักก็คงเป็นด่านบางนา น่าเสียดายที่แม้จะสะดวกต่อการใช้รถ แต่เค้าจัดที่จอดรถรวมซ้อนคันแล้วได้ประมาณ 41% ยังไม่ถึงครึ่งของผู้พักอาศัยทั้งหมดเลย หากกลับมาคอนโดดึกๆนี่คงต้องวนหาจอดเอาที่ว่างข้างๆไม่ก็ถนนซอยหน้าโครงการกันบ้างหละ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ค่อนข้างลำบากเนื่องจากโครงการอยู่ห่างจากปากซอยลาซาล 11 ประมาณ 400  เมตร และห่างจากรถไฟฟ้า 940 เมตร ซึ่งไม่ใช่ระยะเดิน คงต้องพึ่งพาแท็กซี่ และพี่วินที่หน้าปากซอยลาซาล 11 เป็นหลัก อย่างไรก็ดีทางโครงการเขามี Shuttle Service รับส่งที่สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งคงจะพอช่วยให้ลูกบ้านสบายได้ในช่วงที่ Shuttle Service ยังให้บริการ แต่ถ้าค่ำๆ หรือเช้ามากๆ คงต้องโทรเรียกรถเองค่ะ

วัสดุที่ให้มาค่อนข้างมาตรฐานสำหรับคอนโดราคานี้ โครงการขายแบบ fully furnished ค่อนข้างจัดเต็มแบบหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย เฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้เป็นของ  SB Furniture ทั้งตู้วางทีวี-ตู้ใส่ของแบบลอยตัว, โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, เตียง 5 ฟุตไม่รวมฟูก, ตู้เสื้อผ้าแบบเลื่อนเปิด-ปิดได้, ชุดครัว Built-in ที่ให้ซิ้งค์ล้างจานมาให้, พื้นเป็นลามิเนตลายไม้ และสุขภัณฑ์ส่วนใหญ่ให้ของ American Standard

การออกแบบจัดห้องค่อนข้างดี มีห้องให้เลือกหลากหลายส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ 1 Bedroom เป็นทางเลือกให้ผู้อยู่อาศัย 1-2 คน ไปจนถึงครอบครัวขนาดเล็ก ฟังก์ชั่นโดยรวมค่อนข้าง Fix มาแล้วเพราะขายแบบ Fully furnished  แต่ยังพอขยับเคลื่อนย้ายได้อยู่เพราะตู้เตียงที่ให้มาเป็นแบบลอยตัว ซึ่งก็ดีที่ได้ออกแบบพื้นที่มาให้ลงตัวดีแล้ว อยู่ที่ว่าเราจะชอบห้องแบบไหนเท่านั้นเอง หากพิจารณาจากห้องตัวอย่างห้องแรกขนาด 26 ตารางเมตรมีการจัดวางฟังก์ชั่นเรียบๆเหมือนคอนโดทั่วๆไปที่ผลักส่วนพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนให้อยู่ทางซ้ายส่วน Service อย่างครัวและห้องน้ำให้อยู่ทางขวา แยกการใช้งานเป็น 2 ส่วน ซึ่งห้องแบบที่ 2 ขนาด 28.5 ก็คล้ายๆกัน แต่ฟังก์ชั่นดูกว้างและน่าใช้งานกว่า เพราะห้องนอนและห้องนั่งเล่นดูแยกส่วนเป็นห้องๆและสามารถ Take View ได้ทั้สองห้องเลย ที่สำคัญแสงธรรมชาติเข้าดีมากเกือบทั้งห้อง

สาธารณูปโภคให้มาค่อนข้างน้อย หลักๆจะอยู่ในชั้น 2 ที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ, Fitness, ห้องสมุด ส่วนที่ชั้น 1 จะมี  Lobby และตู้จดหมาย ซึ่งแต่ละส่วนก็มีขนาดไม่ใหญ่อลังการอะไรมาก ตามมาตรฐานของคอนโด Low Rise ราคานี้ ซึ่งติดใจนิดนึงตรงที่ว่าคอนโดนี้มีวิวสนามกอล์ฟเป็นวิวที่พิเศษอยู่ หากมี Facilities เพิ่มที่ชั้นดาดฟ้า หรือเปลี่ยนเป็นยก Facilities ไปไว้ด้านบนจะได้วิวที่ดีกว่าชั้น 2 เยอะมากเลย แต่อย่างว่า ด้วยทำเลของพื้นที่ทำให้ต้องปรับขนาดและราคาเพื่อความเหมาะสม และการมี Facilities น้อยๆแบบนี้ก็แปรผันตรงกับจำนวนผู้ใช้งานที่น้อยไปด้วยและยังช่วยให้ค่าส่วนกลางถูกลงมาด้วย

 

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 73,000 บาท/ตร.ม., 3 March 2016

  • ทำเล 7/10 -เข้ามาในซอยลาซาล 11 อีก 400 เมตร อยู่สุดซอยที่เป็นซอยตัน รอบๆเป็นบ้านคนเงียบๆ ไม่มีสาธารณูปโภคในระยะใกล้ๆต้องออกมาหน้าปากซอยเท่านั้น แต่มีข้อดีที่ได้วิวสวยจากสนามกอล์ฟ
  • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 -เดินทางด้วยรถยนต์สะดวก ทะลุเข้า-ออกได้หลายทางทั้งจากสุขุมวิท, บางนา-ตราด และศรีนครินทร์ แต่ให้ที่จอดรถมา 41% ถือว่าน้อยไปหน่อย
  • ไม่ใช้รถ 7/10 -อยู่ในซอยลึก ไม่มีรถโดยสารผ่าน ต้องโทรเรียกแท็กซี่หรือพี่วินเป็นหลัก ยังดีที่โครงการมี Shuttle Service ให้บริการ
  • วัสดุ 7.5/10 -ให้มาเยอะดีแบบ Fully Furnished แต่คุณภาพก็กลางๆตามมาตรฐานราคานี้
  • แบบ 7.5/10 -ส่วนใหญ่เป็นห้องขนาดเล็ก หยิบจับได้ง่าย โดยออกแบบห้องมาให้แบบ Fullr Furnished แต่ให้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว จึงสามารถปรับเปลี่ยนและตกแต่งห้องได้ง่ายขึ้น
  • สาธารณูปโภค 7/10 -ให้มาไม่เยอะมาก แต่ก็พอสมน้ำสมเนื้อกับราคาและจำนวนผู้อยู่อาศัย 159 ยูนิต

  • ECONOMY CLASS
  • 7.16 / 10.00

BOTTOM LINE

The Excel Hideaway เหมาะกับคนมองหาคอนโดในย่านลาซาล-แบริ่ง ชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย ยูนิตน้อยๆไม่ซีเรียสเรื่อง Facilities มีรถส่วนตัวหรือมอเตอร์ไซค์ สลับกับใช้รถโดยสารสาธารณะอย่างแท็กซี่,พี่วิน หรือ Shuttle Serviceไป BTS บ้าง ไม่ติดหรู ไม่เน้นแบรนด์ ไม่ชอบห้องใหญ่ ชอบความเรียบง่าย มีเฟอร์นิเจอร์มาให้แบบย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย มีงบประมาณระดับ 1.55 – 2.59 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนราว 10,850– 18,130 บาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )