Cover2-3-4

รีวิวฉบับที่ 969 … สวัสดีครับ พอดีวันนี้ผมจะพาไปดูบ้านเดี่ยวโซนเทพารักษ์ของ SC Asset อันที่ผมจะพาไปดูอันนี้เป็นแบรนด์ระดับ Middle High ของเค้า มีชื่อว่า Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน คืออยู่เหนือกว่าแบรนด์ “LIFE” Bangkok Boulevard และต่ำกว่าแบรนด์ “GRAND” Bangkok Boulevard นั่นเอง โครงการนี้เป็นบ้านเดี่ยวระดับราคาประมาณ 8 – 14 ล้าน ทำเลของที่นี่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ ระหว่างศรีนครินทร์กับบางพลี มีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท

เนื่องด้วยโครงการ Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน เป็นโครงการที่มีการเริ่มก่อสร้างนานแล้ว(ประมาณ 5 ปีก่อน) เป็นโครงการแรกๆของแบรนด์บูเลอวาร์ด ปัจจุบันเรียกว่าทางโครงการใกล้จะปิดการขายแล้ว ทางเราเลยได้ขออนุญาตไปเยี่ยมชมภาพบรรยากาศ สภาพแวดล้อม และส่วนกลางที่หลังโครงการแล้วเสร็จว่าต้นไม้ร่มรื่นขนาดไหน ส่วนบ้านตัวอย่างที่เข้าไปดูได้มีแค่แบบเดียวนะครับ 

Fact @ 12 November 2015

  • Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน (บางกอก บูเลอวาร์ด เทพารักษ์-วงแหวน)
  • SC ASSET
  • UPPER-HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ  อำเภอเมืองสมุทรปราการ
  • เนื้อที่โครงการ 61-1-97 ไร่ จำนวน 222 ยูนิต
  • บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ

  • Blue Danube ที่ดินเริ่ม 50 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 219 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Silver Rhine ที่ดินเริ่ม 60 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 248 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
  • Golden Thames ที่ดินเริ่ม 70 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 305 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

  • เพดานชั้น 1 สูง 2.60 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.80 เมตร
  • พื้นที่ใช้สอยในบ้าน 219 – 305 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้น 7.99 – 14.0 ล้านบาทหรือ 148,237 บาท/ตร.วา
  • ปัจจุบันโครงการสร้างแล้วเสร็จ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1749
  • ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด : 13.607470, 100.665129

    map-BB

    แผนที่จากทางโครงการครับ จะแสดงให้เห็นชัดถึงอยู่จุดใกล้ขึ้นลงทางด่วนเทพารักษ์-วงแหวนตะวันออกกาญจนาภิเษก ถ้ามาจากทางบางนาตราด ให้ลงแล้วสังเกตเห็นปั๊ม Shell ให้เตรียมกลับรถ ส่วนสภาพแวดล้อมใกล้ๆ แหล่งอาหารการกินและห้างก็ถือว่ามีอยู่ระดับนึงนะครับอาทิเช่น Tops Supermarket, BigC, Tesco Lotus และ Mega บางนา ที่ขับรถไปประมาณ 5-10 นาที ในแผนที่แสดงให้เห็นถึงสายของรถไฟฟ้าในอนาคตที่มีแพลนจะก่อสร้างอย่าง MRT ส่วนต่อขยาย (สายสีเหลือง) และก็รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อนแบริ่ง-สมุทรปราการ (กำลังก่อสร้างอยู่ด้วย)

    แผนที่ระยะไกล

    โครงการ Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน ตั้งอยู่ในซอยแยกจากถนนหลักเทพารักษ์ประมาณ 340 เมตร แต่เป็นซอยส่วนตัวของ SC ASSET ที่ใช้เข้าออกระหว่างโครงการเราและ Vista 180(ทาวน์เฮ้าส์) ตัวโครงการอยู่โซนถนนเทพารักษ์โซนที่อยู่ระหว่างทางด่วนกาญจนาภิเษกหรือถนนวงแหวนตะวันออกกับถนนกิ่งแก้ว การเดินทางไปได้หลายทางหลากหลายค่อนข้างสะดวกแต่รถติดช่วงเข้างานและเลิกงาน เนื่องจากทำเลนี้เรียกว่าอยู่ในละเเวกอุตสาหกรรม มีโรงงาน โกดังเก็บของมากมาย ดังนั้นรถบรรทุกใหญ่ๆ มักจะวิ่งผ่านทำให้รถติดเสมอๆ การเข้าเมืองสามารถใช้เส้นกาญจนาภิเษก วิ่งเส้นบางนา-ตราดไปยังสุขุมวิท หรือใช้ถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออกไปเส้นพระราม 9 ได้ หรือออกเมืองไปทางพระราม 2 บางแค ก็ง่ายเลย แค่ออกจากโครงการแล้วขึ้นทางด่วนวงแหวนรอบนอกแล้วยิงยาวเลย ที่สำคัญทำเลนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิเท่าไรด้วยนะ

    โดยรอบโครงการไม่ค่อยมีสาธารณูปโภคแบบเเหล่งชอปปิ้งมากนัก ห้างที่ใกล้สุดเห็นจะเป็น Big C, Tops Supermarket, ตลาดหนามแดง, มินิมาร์ทต่างๆ (~ 4 km. จากโครงการ) แต่ถ้าขยับรัศมีออกไปหน่อยก็จะมีตัวเลือกเพียบเลยอาทิเช่น  Mega Bangna, Homepro, Tesco Lotus, Foodland ประมาณ 8, ตลาดกิ่งแก้ว, Makro  (~ 10 km.จากโครงการ)  เนื่องจากโดยรอบมีโรงงาน บ้านพัก บ้านเดี่ยวและหมู่บ้านมากมายทำให้อาหารการกินหาได้หาไม่ยากเลย

    แผนที่การเดินทางวันนี้BB

    การเดินทางในวันนี้ ตัวผมมาจากในตัวเมืองกทม.แถวดินแดง เลยใช้ทางด่วนเป็นหลัก เริ่มจากขึ้นทางด่วนศรีรัชตรงไปทางพระราม 9 แล้วก็เน้นตามป้ายบางนา วงแหวนตะวันออกเข้าไว้ หลังจากนั้นม้วนเข้าถนนวงแหวนตะวันออก-กาญจนาภิเษก ตรงยาวๆข้ามแยกถนนบางนาตราด(เห็น Mega Bangna อยู่ขวามือ) แต่จะเสียด่าค่าด่วนครั้งนึง 15 บาท หลังจากนั้นตรงต่อมาแค่ประมาณ 3.5 กม.จะเห็นป้ายเทพารักษ์แล้วลงทางด่วนได้เลย เข้าสู่ถนนเทพารักษ์ วิ่งไปประมาณ 1 กม.เห็นปั๊ม Shell ให้กลับรถ หลังจากกลับรถมาพอเราเห็นปั๊ม Esso ให้ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย

    ผมเริ่มจากทางด่วนพิเศษศรีรัชบริเวณพระราม 9 มุ่งหน้าขาออกนะครับ เน้นให้ตามป้าย บางนา-ศรีนครินทร์ เข้าไว้

    ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายว่าเดี๋ยวจะเจอกับวงแหวนรอบนอก

    ให้เราชิดซ้ายเอาไว้เลยครับ จะเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษกไปทางบางนา

    เข้าเลนซ้ายเอาไว้ จะเข้าสู่ถนนกาญจนาภิเษก

    พอหลังจากนั้นให้ชิดขวา ตามป้ายบางนา

    พอม้วนตามทางมาแล้วตอนนี้เราเข้าสู่ถนนวงแหวนตะวันออก-กาญจนาภิเษกแล้วนะครับ

    เส้นนี้รถพ่วง รถสิบล้อ และรถบรรทุกก็จะเยอะหน่อยนะครับ เนื่องด้วยเป็นทางผ่านไปมาทั้งระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิ หรือไปทางท่าเรือบางนา และก็มุ่งหน้าออกเมืองไปทางพระราม 2 บางแคก็ได้ ต้องระวังกันนิดนึงนะ

    เห็นไหมครับ พวกพี่รถใหญ่เค้าขับกันสามเลนเลยทีเดียว

    หลังจากตรงมาระยะนึงแล้ว ทีนี้เราจะเน้นตามป้ายจราจร “เทพารักษ์”

    เราตรงไปอย่างเดียวนะครับ  ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปชลบุรี ถ้าเลี้ยวขวาไปแยกบางนา

    หลังจากข้ามแยกวงแหวนมาแล้วจะเจอกับจุดรับบัตรทางด่วน

    พอพ้นจุดรับบัตรทางด่วน ให้ตามป้าย “เทพารักษ์” เอาไว้เลย ซึ่งเป็นทางลงแรกเลย

    ถึงทางลงทางด่วนแล้ว วิ่งมาจากจุดรับบัตรแค่ประมาณ 3.5 กิโลเมตรเท่านั้น เสียค่าทางด่วน 15 บาท

    ลงมาเจอกับถนนเทพารักษ์เลยครับ ให้วิ่งไปตามทางนะ

    ถนนเป็นถนน 6 เลน มีเกาะกลางปลูกต้นไม้เอาไว้ตลอดทาง สองข้างทางมีโรงงาน โกดัง บริษัทต่างๆ ปั๊มน้ำมัน มินิมาร์ท ตึกแถวร้านค้าอยู่ตลอดเส้น

    ตรงมาแค่นิดเดียวก็เห็นโครงการ Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน แล้วอยู่ฝั่งตรงข้าม เราต้องตรงไปอีกประมาณ 450 เมตร จะเจอจุดกลับรถ

    ถึงจุดกลับรถแล้ว จุดสังเกตซ้ายมือเป็นโชว์รูม Toyota

    กลับรถมาปุ๊ปจะเจอกับปั๊มบางจาก ที่มี BigC Mini อยู่ข้างในครับ

    หลังจากนั้นตรงมาอีกหน่อยจะเจอกับปั๊ม ESSO ที่มี Family Mart อยู่ด้านในเช่นเดียวกัน และเริ่มเห็นทางเข้าโครงการหน่อยๆแล้ว ให้ชิดเลนซ้ายสุดเอาไว้เลย

    ถึงทางเข้าโครงการแล้วครับ มีป้ายชื่อโครงการบอกเอาไว้เห็นเด่นชัด

    แผนที่ระยะปประชิด

    มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆของโครงการกันหน่อย ตัวโครงการด้านฝั่งทิศเหนือทั้งหมดตอนนี้ยังเป็นผืนที่เปล่ายังไม่มีการพัฒนาใดของบุคคลอื่นอยู่ ฝั่งทางขวาทิศตะวันออกใกล้กับคลองทับนางรอบๆมีบ้านอยู่อาศัยปะปนเล็กน้อย ส่วนทางฝั่งทิศใต้จะเป็นแนวบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น จากซอยมังกรขันดี สุดท้ายฝั่งทิศตะวันตกรั้วกำแพงส่วนใหญ่ของเราจะติดกับโครงการพี่น้องของ SC เช่นเดียวกับแต่เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ครับ

    **รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

     

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • ตลาดหนามแดง ประมาณ 2 กม.
    • Tops Supermarket ประมาณ 3.3 กม.
    • BigC, รพ.บางปลี ประมาณ 4.2 กม.
    • Mega Bangna ประมาณ 6.5 กม.
    • Homepro, Tesco Lotus ประมาณ 7.4 กม.
    • Foodland ประมาณ 8 กม.
    • ตลาดกิ่งแก้ว, Makro บางพลี ประมาณ 9.7 กม.
    • เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา ประมาณ 14.4 กม.
    • Bitec บางนา ประมาณ 15 กม.
    • สนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 26 กม.

     


    เจาะลึกตัวโครงการ

    แผนที่เจาะลึกโครงการ

    โครงการนี้เป็นโครงการขนาดกลางมีจำนวนยูนิตประมาณ 222 ยูนิตเนื้อที่โครงการ 61 ไร่ ถือว่าความหนาแน่นกำลังดีมีความเป็นส่วนตัวไม่พุลกพล่านจนเกินไปโครงการนี้สร้างไปเยอะพอสมควรแล้ว และมีลูกบ้านเข้าอยู่ในบางส่วน ถนนทางเข้าหลักให้มาใหญ่มากๆประมาณ 16 เมตรแถมมีลงต้นไม่ใหญ่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่งมาให้ด้วย ถนนรองกว้างประมาณ 9 เมตร

    ระบบรักษาความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน ประตูทางเข้าโครงการเป็นแบบ Double Security Gate หลังจากผ่านประตู 1 มาจะเจอกับ Club House ถ้าจะเข้าไปในส่วนพักอาศัยก็ต้องผ่านประตูที่ 2 ไป ที่ป้อมแรกจะใช้ระบบ Key Card ระยะไกล เวลาขับรถไม่ต้องลดกระจกเพื่อบัตรเอามาแตะ เวลาฝนตกก็ไม่เปียกครับ กล้องวงจรปิดในโครงการมีมาให้ 57 จุดเรียกว่าครบทั้งโครงการทุกซอย รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตรและต่อรั้วเหล็กแหลมไปอีก 0.5 เมตร

    การจัดสัดส่วนของโครงการ จากทางเข้า Gate 1 (ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบเซนเซอร์บัตรระยะไกล ขับเข้าไปได้เลยถ้าเป็นลูกบ้าน) หลังจากนั้นจะเป็นถนนกว้าง 16 เมตร ยาวเข้าไปประมาณ 340 เมตร และจะเจอกับ Clubhouse ทางขวามือ มีที่จอดรถผู้มาติดต่อประมาณ 5 คัน Clubhouse ด้านในประกอบไปด้วยห้องนิติบุคคลที่ปัจจุบันยังเป็นสำนักงานขายและมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ด้านข้างมีสระว่ายน้ำ Outdoor ระบบเกลือเป็นทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่อยู่พื้นที่เดียวกัน ติดกันเป็นห้อง Fitness และอ่านหนังสือ และสวนหย่อม

    ออกมาจาก Clubhouse ก็จะเป็นด่านทางเข้าประตูเลื่อน Gate ที่ 2 โดยถนนจะกว้าง 16 เมตร เท่าเดิม และถนนซอยจะกว้างประมาณ 9 เมตร  แต่ละซอยจะมีป้ายบอกซอยย่อยชัดเจน และมี CCTV หัวท้ายซอยทั้งหมด ส่วน Facility ทีเด็ดอีกอย่างอยู่ใจกลางโครงการคือ Miracle Park เป็นสวนหย่อมเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่กว่า อยู่ใจกลางโครงการ มีทางเดินเล่น และเก้าอี้นั่ง ไฟส่องทางเดินตลอดทาง มีน้ำพุ เครื่องเล่นเด็กและก็ศาลาอเนกประสงค์ด้วยครับ

    พอเลี้ยวเข้ามาจากถนนเทพารักษ์แล้วขวามือจะเห็นป้ายโครงการของ SC ASSET ทั้งคู่ คือ Gate 1 นี่จะใช้ร่วมกันทั้งสองโครงการนะครับ

    เลี้ยวเข้ามาจะเจอกับ Gate 1 ป้อมยามชั้นแรก โครงการนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Gate Security สำหรับลูกบ้านการเข้า-ออกด้วยการขับรถเป็นแบบ Key Card Access ระยะไกล เหมือนกับ Easy Pass ทางด่วน โดยเซนเซอร์ก็จะเลื่อนเปิดประตู 2 ตอนให้ แยกช่องทางเข้าอยู่ทางซ้ายและทางออกอยู่ทางขวาโดยมีป้อมยาวอยู่ตรงกลาง ส่วนรถที่เป็นแขกลูกบ้านก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ยาม แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาเพื่อจะต้องแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออก  นอกจากนั้นก็จะมีกล้อง CCTV จับทั้งในส่วนของป้ายทะเบียนรถและใบหน้าคนขับเลยเข้า-ออก โดยกล้อง CCTV นี้จะมีทั้งด้านหน้าโครงการ ถนนโครงการด้านใน

    ระหว่างทางก็จะมีการจัดสวนทั้งสองฝั่ง และมีป้ายโครงการรวมถึงโคมไฟสำหรับเปิดตอนกลางคืนด้วย ระยะขับรถจาก Gate 1 ไปจนถึง Gate 2 จะประมาณ 340 เมตร เป็นทางในระยะสั้นๆ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเดินเมื่อไหร่นี่ก็ไกลอยู่เหมือนกัน

    เข้ามาแล้ว จะเป็นโซน Visitor Area และ โซน Club House ที่อยู่ทางด้านหน้า ซึ่งจะเป็นการกั้นส่วนระหว่างลูกบ้าน กับ ผู้มาติดต่อให้แยกออกจากกัน โดยถ้ามีแขกมาหาเราที่บ้าน รปภ.ก็จะให้ ผู้ที่มาติดต่อจอดรถรออยู่ที่ด้านหน้าก่อน หรือไม่ก็เข้าไปนั่งรอในห้องรับแขกของ Club House จากนั้นก็จะไปถามเจ้าของบ้านก่อน ว่าสะดวกจะให้เข้าพบรึเปล่า ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จัก หรือไม่ได้นัดไว้ก่อน เราอาจจะปฏิเสธไม่ให้เข้าพบก็ได้ รปภ.ก็จะเชิญให้กลับ ซึ่งวิธีนี้ก็จะเป็นการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับลูกบ้านได้อีกขั้นหนึ่ง

    Club House ซึ่งปัจจุบันเป็น Sale Office ครับ ด้านข้างทางซ้ายมือจะเป็นสระว่ายน้ำ

    ด้านหน้าจะเป็นห้องรับแขก ปัจจุบันใช้เป็นสำนักงานขาย แต่ในอนาคตก็คงจะกลายเป็นพื้นที่รับแขกแบบเต็มตัวสำหรับลูกบ้าน

    ด้านหน้ามีที่จอดรถของ Visitor อยู่ส่วนหนึ่งสามารถใช้เป็นที่จอดรถในกรณีที่ลูกบ้านที่อยู่ข้างในลึกๆ ขับรถออกมาใช้งาน Club House ก็ได้ ติดกันจะมีแนวสวนพุ่มไม้และน้ำพุเล็กๆกั้นสายตา เอาไว้หน่อยไม่ให้มองเห็นสระว่ายน้ำแบบเต็ม เป็นน้ำพุที่ไม่ได้หวือหวามาก แต่ส่วนสำคัญคือ เป็นการสร้างเสียงน้ำไหลให้กับพื้นที่รอบๆสระน้ำ

    คลับเฮาส์ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ วางสระว่ายน้ำเอาไว้ด้านข้าง ต้อนรับแขกที่พึ่งมาถึง สระว่ายน้ำมีขนาด 12 x 16 เมตร ลึก 1.2 เมตร เป็นระบบเกลือครับ แต่มีชุดเก้าอี้นอนอาบแดดให้น้อยไปหน่อย 2 ตัว

    สระมีการแยกสระเด็กเอาไว้ให้(โค้งด้านล่างซ้าย) ลึกประมาณ 0.6 เมตร มุมนี้จะเห็นว่ารอบๆสระปลูกต้นไม้เอาไว้เพิ่มความร่มรื่นบางส่วน

    ด้านข้างของสระสองข้างทางปลูกต้นไม้และจัดสวนเอาไว้ด้วย

    มีทางเดินเล่นนิดหน่อย และสามารถนั่งพักเป็นเก้าอี้คอนกรีตก่อขึ้นมาตามระหว่างทางครับ มีไฟทางเดินมาให้แต่ไม่มากเท่าไร

     

    ห้อง Fitness ขนาดไม่ใหญ่มาก ภายในห้องผนังด้านนึงติดกระจกเงาเอาไว้เพื่อไม่ให้ดูอึดอัด โครงการวางเครื่องเล่นเอาไว้ให้ประมาณ 8 ชิ้นครับ

    ออกมาจาก Clubhouse ก็จะเจอกับด่านพี่ยาม Gate ชั้นที่ 2

    การเข้าพื้นที่โครงการด้านในจะเหมือนกันกับด่านที่แล้วคือ Key Card Access ระยะไกล รถลูกบ้านก็ขับผ่านเครื่องรับสัญญาณไปได้เลย

    CCTV 2 จุดเอาไว้ส่องทะเบียนรถและใบหน้าผู้เข้ามา ถ้าเป็นส่วนของแขกผู้มาติดต่อรปภ.จะตรวจท้ายรถทั้งเข้า-ออกเลยนะครับ ได้ความรู้สึกปลอดภัยดีสำหรับลูกบ้านนะ

    ประตูเป็นบานเลื่อนเหล็ก 2 ตอนหน้าตาเช่นนี้

    ผ่านจาก Double Gate Security มาแล้วก็จะเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 16 เมตร โดยถนนหลักจะใจกลางโครงการเลย จะเห็นว่าสองข้างทางถนนเมนจะปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้ตลอดทาง

    และยังมีทางเดินคอนกรีตแบบนี้เอาไว้ด้วย เวลาเดินเล่นหรือไปมาหาเพื่อนบ้านจะได้ไม่ต้องเดินบนคอนกรีต

    ถนนซอยกว้างประมาณ 9 เมตร จะเห็นว่าหน้าบ้านแต่ละหลังจะมีการลงสวนหย่อมให้ลูกบ้านด้วยนะครับ มองไปมีสีเขียวมาแซมทำให้ดูร่มรื่นหน่อย

    ป้ายซอยโครงการมีบอกทุกซอย ส่วนหัวและท้ายซอยมี CCTV ทุกซอยนะครับ อย่างที่บอกไปรวมแล้วทั้งหมด 57 จุด

    รั้วโครงการสูง 3 เมตร ใช้อิฐศิลาแลงในการก่อสร้าง มีเหล็กปลายแหลมสำหรับป้องกันข้าศึกที่จะโจมตีได้

    โครงการนี้ไม่ได้ทำช่องกลับรถไว้ให้นะครับ ที่เห็นนี้เป็นช่องว่าง ช่องไฟตามกฎหมายนั้นเอง ทำเป็นสวนหย่อมสนามหญ้าเล็กๆเอาไว้

    โซนสวนสาธารณะของโครงการ อยู่ใจกลางโครงการ เราไปดูภายในสวนกันว่าจะจัดออกมาได้น่าใช้ขนาดไหน

    สวนสาธารณะส่วนกลางของที่นี่ มีพื้นที่รวมประมาณ 2 ไร่กว่าๆ ปัจจุบันต้นไม้ในสวนอายุประมาณ 3-4 ปีแล้ว นับตั้งแต่โครงการเริ่มเปิดขาย ที่นี่ทำสวนตั้งแต่เริ่มแรกสร้างโครงการทำให้ต้นไม้ในสวนเจริญเติบโตมาพอสมควรแล้ว ดูเขียวๆดีทีเดียว 😀

    พื้นที่ทางเดินเข้าด้านหน้าสวนที่ติดกับถนนเมนโครงการ จะปูพื้นด้วยคอนกรีตพิมพ์ลาย และมีไฟส่องทางเดินเอาไว้ให้ตลอดทาง มีป้ายเพลทเงินข้างๆบอกเอาไว้ว่า “Miracle Park” มองจากด้านหน้าก็ดูร่มรื่นแล้วนะเนี่ย

    เดินเข้ามาหน่อยจะเห็นทางแยกเป็นสามทาง ทางขวาสุดเส้นทางเดินปูพื้นกระเบื้องสีดำ, ทางกลางปูพื้นคอนกรีตธรรมดา และทางตรงไปสะพานไม้

    หันมาทางขวาสุดสุดก่อน จะมีทางเดินเล็กๆให้เข้าไปหลบเงาแดดได้ มีเก้าอี้ก่อคอนกรีตเอาไว้สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนได้เต็มไปหมด

    ส่วนทางสะพานไม้จะไปสิ้นสุดที่บ่อน้ำพุตรงกลางสวน ซึ่งมีพร็อพตกแต่งของบางกอกบูเลอวาร์ดที่ชอบเห็นกันบ่อยๆคือ เจ้าเป็ดเหลืองตัวนี้ มุมด้านนี้มองแล้วฟินนน อยากจะมาห้อยขาริมสะพานยามเย็นทอดอารมณ์จัง (>_<) ใครจะพาเด็กๆเล็กมาเดินเล่นด้วยควรให้อยู่ในสายตาตลอดนะครับ ล้อมรอบบ่อน้ำพุจะเป็นพุ่มเตี้ยๆจะได้ไม่สามารถเดินลงไปใกล้ๆได้นอกจากจุดนี้

    ทางเดินคอนกรีตค่อนข้างกว้าง สามารถเดินหรือวิ่งออกกำลังกายได้จริงจัง นี่ขนาดตอนบ่าย 2 แดดแรงๆ ยังได้ร่มเงาจากต้นไม้เยอะพอสมควรทีเดียว

    ระหว่างทางก็จะเจอเก้าอี้คอนกรีตหล่อแบบนี้ตลอดทางในสวนครับ

    มีไฟทางเดินส่องเอาไว้ให้ตลอดทาง

    เดินมาจนถึงช่วงท้ายๆสวนแล้วจะเห็นทางขวามีเครื่องเล่นเด็ก

    ชุดเครื่องเล่นเด็กหน้าตาเช่นนี้ครับ บริเวณรอบๆเครื่องเล่นจะปลูกหญ้าเรียบๆแทนไม่มีแนวพุ่มไม้

    ถัดจากเครื่องเล่นไปจะพบกับมุมศาลาอเนกประสงค์ เอาไว้สำหรับทำกิจกรรมทั่วไปได้ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก

    รอบๆศาลา ก็มีที่นั่งและไฟส่องสว่างให้เช่นกัน

     

    สิ่งอำนวยความสะดวก

    • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 12 x 16 เมตร รวมสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.20 เมตร
    • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายไว้ประมาณ 8 เครื่อง
    • พื้นที่สวนสาธารณส่วนกลางประมาณ 2 ไร่กว่า พร้อมทางเดินออกกำลังกาย
    • ชุดเครื่องเล่นเด็กและศาลาอเนกประสงค์ภายในสวน
    • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ รวม 57 จุด
    • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตรและรั้วเหล็กแหลมโปร่งต่อเพิ่มอีก 50 cm.
    • Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
    • Key Card Access ระยะไกล + สติ๊กเกอร์ติดรถยนต์
    • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
    • ประตูรั้วโครงการแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน (Double Gate Security)
    • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง ที่วงกบประตูและหน้าต่าง
    • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

     


    Product Walkthrough

    blue danube

    แบบบ้านของที่นี่จะมีทั้งหมด 3 แบบครับ เริ่มจาก Blue Danube เป็นบ้านหลังเล็กสุด พื้นที่ใช้สอย 219 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นเป็นแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มีครัวไทยแยกส่วน หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา

    silver rhine

    ต่อมาเป็นแบบ Silver Rhine หลังนี้พื้นที่ใช้สอย 248 ตารางเมตร จะเป็นฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้าน พื้นที่ที่เพิ่มมาหลักๆคือ ห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเพิ่มมา 1 ห้อง และห้องแม่บ้านที่อยู่ด้านหลังบ้านอีก 1 ห้อง หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 60 ตารางวา

    Gold

    สุดท้ายเป็นบ้านแบบ Golden Thames ขนาด 305 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นแบบ 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ที่ได้ที่จอดรถในร่มเพิ่มมาอีก 1 คัน เทียบจากบ้านหลังกลาง แต่ฟังก์ชั่นของห้องต่างๆในบ้านจะถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น และใช้งานได้สมบูรณ์มากขึ้น หลังนี้ขนาดที่ดินเริ่มต้นที่ประมาณ 70 ตารางวา

    ** โดยบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปดูนั้นมี 2 หลัง ก็คือแบบ Golden Thames ขนาดใหญ่สุดก่อน และ อีกหลังคือแบบ Silver Rhine ขนาดกลาง ครับ

    plan-1st

    มาดูแปลนบ้านหลังแรกที่จะพาไปดูกันก่อน มีที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 305 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ห้องรับแขก 1 ครัวปิด 1 ห้องคนรับใช้ 3 ที่จอดรถ  แปลนชั้นล่าง จากหน้าบ้านเข้ามาจะมี Living Area ด้านหน้าที่เป็นส่วนรับแขก ส่วน Living Area 2 จะเข้าไปอยู่ด้านหลัง สำหรับคนในบ้านมานั่งพักผ่อน ซึ่งแบบนี้จะแยกจากกันได้ชัดเจนและเหมาะสมกว่าแบบกลาง โต๊ะรับประทานอาหาร วางอยู่ติดกับ Pantry จะอยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นทั้งสองห้อง ถัดเข้ามาเป็นโถงบันไดสำหรับขึ้นชั้นสอง มีห้องเก็บของใต้บันไดด้วย

    ตรงทางเดินจากโถงบันได ไปยังส่วนครัวที่อยู่ด้านหลัง จะมีห้องนอนชั้นล่าง คั่นอยู่ตรงกลาง ห้องนอนชั้นล่างนี้จะใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ หรือจะใช้เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพักที่บ้านก็ได้เหมือนกัน โดยห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกห้องนอน ใช้ร่วมกับห้องรับแขก แต่สามารถอาบน้ำได้

    ส่วนพื้นที่ครัวจะอยู่ด้านหลังติดกับประตูทางเข้าลานจอดรถ เปิดประตูออกจากครัวไปจะเป็นลานซักล้างด้านหลัง  แต่ที่อยู่ติดกับครัวจะมีห้องนอนของแม่บ้านอยู่ด้านนอกด้วย มีประตูเข้าจากนอกบ้านแยกต่างหาก และมีห้องน้ำให้ในตัว

    Plan-2nd

    พอขึ้นมาที่ชั้นสองแล้วจะเจอกับ Family Area แต่ขนาดไม่ได้ใหญ่มากจริงๆน่าจะขยายออกอีกหน่อย เพราะว่าพื้นที่ทั้งหมดที่เพิ่มมาแทบจะไปลงกับห้องนอนอย่างเดียว ห้องนอน 3 ห้องเ แต่ในห้องนอนใหญ่สุด กับห้องนอนรอง จะเพิ่มฟังก์ชั่นที่เป็นห้องนั่งเล่น “Relax Area” ที่อยู่ในห้องนอนมาด้วย สำหรับเป็นมุมนั่งเล่นส่วนตัวของใครของมัน อยู่ในบ้าน แต่ทีเด็ดคือห้องนอน Master Bedroom ที่ใส่ Walk-in Closet แบบ Full-Size มาให้ 2 ฝั่ง และขยายขนาดของห้อง Relax Area ในห้องนอนให้กว้างขึ้น และใช้งานได้ดีขึ้น ส่วน Master Bathroom จะเพิ่มฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเข้ามา

    นี้เป็นบ้านตัวอย่างนะครับ เลยไม่มีรั้วให้เห็น หน้าตาบ้านเป็นแบบนี้ โครงสร้างของบ้านก่อด้วยอิฐมวลเบา Q-CON ครับ และจะมีการใช้วัสดุต่างๆที่ช่วยลดความร้อนของบ้าน เช่น ที่ใต้ฝ้าเค้าจะใส่ฉนวน Stay Cool หนา 3 นิ้ว (ปกติมีตั้งแต่ 3-6 นิ้ว), ใต้หลังคาใส่แผ่นอลูมิเนียมสะท้อนความร้อน, ใช้หลังคาเป็น CPAC Monier และใช้สี Bayer Cool รวมๆกันก็คือต้องการจะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นน่ะเอง

    ตัวบ้านสูงกว่าระดับถนนในโครงการเล็กน้อย พื้นลานจอดรถเป็นพื้นทรายล้าง ปูทับบนพื้นคอนกรีต

    พื้นที่ลานจอดรถที่อยู่ในร่ม จะลงเสาเข็มด้วยครับเท่ากับตัวบ้าน เผื่อไว้ว่ากรณีบางบ้านอยากจะต่อเติมส่วนลานจอดรถ ก็สามารถทำเพิ่มได้

    ที่เพดานลานจอดรถ จะมีอุปกรณ์ motion sensor ติดไว้ให้ทุกหลัง ต่อเข้ากับหลอดไฟหน้าบ้าน เวลามีคน (หรือโจร) เดินเข้าบ้าน หรือมีรถยนต์ถอยหลังเข้ามา ไฟหน้าบ้าน และโรงรถ ก็จะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ

    ตรงนี้จะมีประตูทางเข้า ฝั่งลานจอดรถอยู่ด้วย พร้อมกับ Step บันได 1 ขั้น ห้องเก็บของติดกับโรงรถ ปิดด้วยบานประตูสีขาว มีช่องระบายอากาศ

    ห้องเก็บของเป็นช่องเก็บของตื้นๆ ไม่ลึกมาก แต่สามารถเก็บของชิ้นยาวๆ สูงๆได้ กรณีเรามีอุปกรณ์ล้างรถ หรืออุปกรณ์ทำสวน เราก็สามารถนำมาเก็บไว้ตรงนี้ได้ โดยไม่ต้องขนเข้าไปในบ้าน

    ทางเดินไปทางฝั่งประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านปูด้วยคอนกรีตแผ่นสำเร็จแบบนี้ และก็มีสวนให้รอบๆด้วย

    เดินมาที่หน้าบ้าน ตรงนี้จะเป็นประตูทางเข้าบ้านหลัก เฉลียงหน้าบ้านปูด้วยหินแกรนิตสีดำ (ถ้าบ้านหลังเล็ก-หลังกลางจะเป็นกระเบื้องผิวหยาบ)

    ทางเดินไปยังด้านข้างบ้านฝั่ง Living Area 2 เนื่องด้วยบ้านตัวอย่างหลังนี้เป็นแปลงมุม ก็เลยทำให้มีเนื้อที่ดินเหลือสำหรับจัดสวนค่อนข้างมาก

    Idea ตกแต่งบ่อน้ำเล็กๆ เฉลียงด้านข้าง

    เรียกว่าแต่งออกมาได้สวย น่าใช้ น่านั่งจิบกาแฟ มองวิวสวนในบ้าน น้ำตกเล็กๆเชื่อมต่อกับบ่อน้ำ 😀

    เดินต่อมาด้านหลังบ้านกันแล้ว ฝั่งที่ติดกับร้าบกำแพงด้านหลังก็จะมีการปลูกต้นไม้ไว้ให้ ช่วยเพิ่มสีเขียวสบายตา

    ประตูกระจกบานเลื่อนตรงนี้เป็นตำแหน่งบริเวณโซนรับประทานอาหาร ระดับมันค่อนข้างสูงนะครับ แนะนำทำสเต็ปเพิ่มเอาไว้ก็ได้ เวลาเดินเข้า-ออก จะได้สะดวกหน่อย อ้อ บ่อเกรอะเค้าก็ทำฝาปิดเอาไว้อย่างดีนะ

    เดินต่อมาหน่อยเจอที่ตั้งปั๊มน้ำอยู่บริเวณตรงกลางหลังบ้าน ถัดไปเป็นลานซักล้าง

    ลานซักล้างนี่ติดกับประตูของห้องครัว ข้างๆมีทำท่อน้ำทิ้งเอาไว้ให้ ส่วนประตูบานถัดไปเป็นของห้องแม่บ้านครับ

    กลับมาที่ประตูหน้าบ้านทางเข้าหลัก เป็นแบบบานคู่ วัสดุเป็นไม้สักเคลือบผิวด้าน

    มือจับเป็นแบบก้านโยกคู่ Stainless มีลวดลายสีดำ

    ความสูงพื้นถึงฝ้า ชั้นล่างอยู่ที่ 2.60 เมตร เข้าบ้านมาปุ๊บ ส่วนแรกที่เจอก็จะเป็นห้องรับแขกก่อน ซึ่งจะเป็นห้องรับแขก 1 สำหรับต้อนรับแขกโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นโซฟานั่งดูทีวีจะอยู่แยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร บ้านหลังใหญ่สุดนี้ Spec วัสดุในบ้านจะถูกอัพเกรดขึ้นมาจากบ้านสองแบบแรกอยู่หลายส่วน อย่างเช่น พื้นบ้านบริเวณส่วนรับแขกตรงนี้ จะปูด้วยหินอ่อน Carrara Marble จากอิตาลี

    ตำแหน่งของโซฟาขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เราอยากได้เลยครับ อยากได้ไซส์ไหนจัดวางตรงไหน บริเวณโซฟานั่งเล่นจะติดกับหน้าต่างบานเลื่อนทั้งสองจุด ทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่ และสามารถมองออกไปที่สวนรอบบ้านได้ เวลากลางวันไม่ต้องเปิดไฟยังนั่งอ่านหนังสือได้สบายๆ กระจกพวกนี้จะเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณแสงสว่างที่จ้าเกินไป และช่วยลดปริมาณแสง UV ได้บางส่วนครับ วัสดุกรอบกระจกเป็น Aluminium อบสีขาว

     

    ผนังด้านนี้ของจริงจะเป็นฉาบเรียบทาสี ติดวอลเปเปอร์นะครับ เราสามารถ Built-In เป็นชั้นวางทีวีและเก็บของได้ตามใจชอบ จัดว่าเหลือเฟือมาก ใส่ทีวีจอใหญ่ๆ 60-70 นิ้ว

    ถัดจากโซฟารับแขก เข้ามาเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร และ Pantry ซึ่งวางอยู่ติดกัน

     

    โต๊ะรับประทานอาหารนี่ก็ยังจัดเป็นส่วนกึ่งๆรับแขกได้อยู่ จึงเอามาไว้ติดกับห้อง Living 1 แต่ในบ้านหลังนี้ใส่โต๊ะแบบ 6 ที่นั่งมาให้ดูเท่านั้นเอง ในความเป็นจริง บ้านนี้ขายแบบบ้านเปล่าอยู่แล้ว พื้นที่ก็ค่อนข้างเหลือเฟือ เราจะจัดเป็นโต๊ะยาว 8 ที่นั่ง หรือ 10 ที่นั่งก็ได้ (ถ้าไม่ใส่ Pantry ด้านข้างตามบ้านตัวอย่าง) หรือใครจะอยากจัดโต๊ะกลม ก็ยังพอมีพื้นที่ให้ทำได้ครับ แต่แนะนำเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมดีกว่า จะได้มีพื้นที่รอบๆโต๊ะเยอะหน่อย

    ผนังด้านหลังโต๊ะกินข้าวเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่ได้แสงส่องเข้ามาบริเวณโต๊ะทานอาหาร มองเห็นสวนทางเดินรอบๆบ้านได้ เวลาจะเข้าออกก็ระวังนิดนะครับเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม.

    มาดูส่วน Pantry ที่อยู่ข้างๆโต๊ะกินข้าวบ้าง ตรงแพนทรี่มีการวางโต๊ะ Island ไว้หนึ่งตัว สำหรับใช้งานเอนกประสงค์ เช่น วางถาดขนม วางอาหารที่เตรียมจะเสิร์ฟขึ้นโต๊ะอาหาร หรือใครจะใช้เป็น Breakfast Bar ก็ทำได้  **พื้นที่ตรงนี้ จริงๆแล้วก็ให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ จะไม่ใส่อย่างที่เค้าทำให้ดูก็ได้ เผื่อว่าใครจะอยากได้พื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหารที่ใหญ่ขึ้น ก็จะได้ขยับมาแทนที่

    ถัดจากโต๊ะรับประทานอาหารเข้ามา เป็นส่วนที่เรียกว่า Living Area 2 ผนังของห้องนั่งเล่น 2 นี้ อยู่ติดกับพื้นที่สวนข้างบ้าน 3 ด้านเลย และมีประตูให้เปิดออกไปที่สวนได้  ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จริงๆแล้วเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ต้องมีก็ได้ เราสามารถกั้นห้องตรงนี้ทำเป็นห้องเอนกประสงค์อื่นๆได้ตามใจชอบ แต่ในบ้านตัวอย่างเขาใส่มาให้ดูเป็นไอเดีย เพื่อที่จะแยกฟังก์ชั่นการใช้งานห้องรับแขก กับการนั่งเล่นดูทีวีบนโซฟาออกจากกัน เช่น บางทีพวกผู้ใหญ่อาจจะนั่งคุยกัน อยู่ที่โซฟารับแขก จิบน้ำชา กินขนม พวกเด็กๆอาจจะมานั่งรวมตัวกันที่โซฟาดูทีวี นั่งเล่นเกม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ แยกกลุ่มออกไป แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่ไม่ห่างไกลกันมาก มี Space ที่เชื่อมต่อกันได้อยู่

     

    ถ้าเรานั่งอยู่บนโซฟาแล้วมองออกไปตรงๆ ก็จะเห็นทีวี กับสวนได้พร้อมๆกันแบบนี้

    ต่อมาเป็นทางเดินเข้าไปยังโถงบันได ระหว่างทางจะเจอห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างก่อน

    ห้องนอนชั้นล่างนี้เป็นห้องนอนที่ไม่มีห้องน้ำในตัวครับ  ห้องนี้อยู่ติดกับหน้าบ้าน มีหน้าต่างเปิดออกระบายอากาศได้ มีแสงสว่างธรรมชาติส่องเข้าในห้อง  เหมาะสำหรับให้ผู้สูงอายุที่ไม่ชอบเดินขึ้นชั้น 2 หรือให้แขกที่มาพักที่บ้าน พักที่ห้องนี้ ถ้าใครไม่ได้ใช้อาจจะทำเป็นห้องอื่นๆ เช่นห้องรีดผ้า ห้องเก็บของใช้ต่างๆ หรือบางคนบุผนังห้องนี้ด้วยฉนวนกันเสียง แล้วทำเป็นห้องดูหนังส่วนตัว หรือ ห้องซ้อมดนตรีก็มีนะ  พื้นห้องนอน เป็นพื้นปาร์เก้ ไม้มะค่า พื้นที่ในห้องก็เรียกว่าใหญ่พอที่จะทำเป็นห้องนอนได้สบายๆ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้า เตียง 6 ฟุต โต๊ะหัวเตียง แล้ววางโต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงานได้อีก

    ปลายเตียงก็มีพื้นที่เหลือสำหรับวางทีวีและวางตู้เสื้อผ้าได้ด้วย

    ออกจากห้องนอน เดินต่อมายังโถงกลางบ้าน ทางขวาจะเป็นประตูเปิดออกไปยังโรงรถ ด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนตรงไปเป็นทางเข้าครัว เราไปดูห้องครัวกันก่อน

    ห้องครัวของบ้านจะเป็นครัวไทยแบบปิด แยกส่วนออกไป มีประตูกั้น พื้นที่ครัวของจริงที่ให้มาจะมีแค่เคาน์เตอร์ครัว 2 ฝั่ง ท้อปหินแกรนิต ไม่ใส่หน้าบาน ไม่มีตู้เก็บของด้านบน และไม่มีเตา ไม่มีเครื่องดูดควันนะครับ  ประตูเปิดออกไปยังลานซักล้างด้านหลังครัว ด้านข้างมีหน้าต่างบานกระทุ้งสองบาน สำหรับให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ และสำหรับการเปิดระบายอากาศ พื้นที่เคาน์เตอร์ครัว และส่วนเตรียมอาหาร ของจริงไม่ได้ใส่หน้าบานนะครับ

    ต่อมาเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของใต้บันได โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นบันไดของบ้านหลัง Golden Thames จะเป็นไม้แดงเต็มแผ่น ในขณะที่บ้านหลังเล็กอีก 2 หลังจะเป็นพื้นไม้จริงชิ้นเล็กๆประกอบเข้าด้วยกัน  ภายในห้องเก็บของใต้บันไดปูด้วยกระเบื้องเคลือบเงาไซส์ 30 x 30 cm. ใส่ตู้ไฟ และงานระบบต่างๆไว้ใต้บันไดด้วย

    ราวบันไดของบ้านทั้ง 3 แบบจะเหมือนกัน คือเป็นราวบันไดไม้แดง ต่อกับเหล็ก Wrought Iron นำเข้า ชานพักบันไดเต็มพื้นที่ เป็นชั้นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ไม่มีขั้นบันไดสามเหลี่ยม

    พื้นที่ชั้น 2 นี้เป็นพื้นปาร์เก้ ไม้มะค่าทั้งหมด

    ที่โถงบันได มีการติดบานหน้าต่างเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้ ให้โถงบันไดสว่างในเวลากลางวัน

    ตรงหน้าต่างนี้จะมีบานกระทุ้งเล็กๆอยู่อีกหนึ่งบาน เพื่อเปิดรับลมธรรมชาติ ที่จะไหลเข้าบ้านได้ ในกรณีที่เปิดหน้าต่างบานอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการที่ใส่เป็นบานเล็กแบบนี้จะได้ไม่ต้องเปิดบานใหญ่ทั้งบาน (แต่ควรจะไปติดมุ้งลวดเพิ่มเติมนะครับ พวกแมลง หรือ จิ้งจก จะได้ไม่เข้ามาในบ้าน

    ขึ้นมาที่ชั้น 2 ความสูงพื้นถึงฝ้าของชั้นบนอยู่ที่ 2.80 เมตร ตรงกลางจะเป็นพื้นที่ Family Area ทางซ้ายสุดที่ใกล้กับโถงบันไดเป็นห้องนอนขนาดเล็กสุด ถัดไปไกลๆ ที่อยู่ด้านหน้าบ้าน เป็นห้องนอนขนาดกลาง ส่วนทางขวาเป็นห้อง Master Bedroom

    พื้นที่ Family Area ที่อยู่ชั้น 2 นี้จะเป็นเหมือนห้องนั่งเล่นของคนที่อยู่ชั้นบน ทำหน้าที่หลักๆคือ เอาไว้ดูทีวีเวลาขี้เกียจเดินลงไปข้างล่าง หรือเวลาที่อยากจะดูทีวีพร้อมกัน แต่คนนึงอยากดูบอล อีกคนอยากดูละคร หรือไม่ก็เวลาที่ด้านล่างคุณพ่อคุณแม่มีแขกมาหาที่บ้าน แล้วไม่อยากให้ลูกๆลงไปรบกวน ก็ให้เด็กๆอยู่ที่ชั้น 2 นั่งเล่นกันไปตรงนี้ แต่ผมว่าบ้านหลังนี้พื้นที่ 305 ตารางเมตร พื้นที่ Family Area ตรงนี้น่าจะใหญ่กว่านี้หน่อย เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้ร่วมกันได้หลากหลายขึ้น แต่เข้าใจว่าอาจจะอยากให้ลงไปใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างมากกว่า จึงไม่เน้นพื้นที่ข้างบนมากนัก ซึ่งมันก็แล้วแต่ความชอบของผู้อยู่อาศัยจริงๆครับ

    หน้าต่างช่องแสงบริเวณนี้จะเป็นบานกระทุ้งทั้งหมดแบบนี้ ที่วงกบประตูและหน้าต่างทุกบ้าน ของบ้านทุกหลัง จะติดระบบป้องกันการโจรกรรมด้วย โดยจะเป็นระบบ Shock Sensor ตรวจจับการกระแทก และ Magnetic Sensor  ที่ตรวจจับการงัดแงะ ซึ่งมันจะร้องเตือนถ้ามีคนพยายามจะเข้ามาในบ้าน

    พื้นที่วางโซฟานั่งเล่นสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสมาชิกและรูปแบบความชอบของแต่ละครอบครัวนะ

    ตัวสัญญาณกันขโมย จะเชื่อมกับแผงควบคุมที่ติดอยู่ที่ชั้นสอง ซึ่งตัวแผงควบคุมนี้จะส่งสัญญาณไป 2 จุด ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์บ้าน โดยจะโทรไปยังป้อมรปภ.กลางของหมู่บ้าน และโทรเข้ามือถือของเจ้าของบ้าน กรณีที่เราไม่อยู่บ้าน ก็จะสามารถรู้ได้ แต่เราต้องเสียบสายโทรศัพท์บ้านเอาไว้นะครับ

    ห้องนอนใหญ่พื้นที่จัดมาเหลือเฟือมากจริงๆ ดูจากการที่วางเตียงขนาด 6 ฟุตพร้อมฐานเตียง และโต๊ะข้างลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่ทั้ง 3 ด้านรอบเตียงเหลือให้กลิ้งได้อีก ไม่รู้ว่าเหลือพื้นที่ขนาดนี้จะเหลือเยอะไปรึเปล่า

    พื้นที่ปลายเตียง วางตู้เก็บของชั้นวางทีวีเอาไว้  ระยะเดินผ่านก็ยังมีเหลือมากอยู่

    ทางซ้ายจะแยกมาเป็นห้อง Relax Area หรือเป็นเหมือนห้อง Living Room ขนาดเล็กๆ ส่วนตัวๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เอาไว้พักผ่อน หรือเปลี่ยนอิริยาบท เราไม่จำเป็นต้องจัดเป็นโซฟาดูทีวีก็ได้ จะทำเป็นมุมทำงานก็ได้  หน้าต่างช่องแสงที่อยู่ด้านหลังโซฟาขนาดใหญ่พอสมควรและเป็นกระจกเข้ามุมด้วย

    ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทางเข้าห้องน้ำและห้องแต่งตัว หน้าห้องน้ำจะเป็น Walk-in Closet แบบ Full-Size ใส่ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ด้านเต็มที่เลย พื้นที่ตรงนี้พอลองใส่ตู้แบบเต็มๆขึ้นมาแล้ว ก็จะทำให้เก็บของอื่นๆเพิ่มได้ นอกเหนือจากเสื้อผ้าด้วย เช่นพวกกระเป๋า หรือ Accessory ต่างๆ แล้วแต่เราว่าจะจัดแบบไหนนะครับ

    ที่ปลายสุดของทางเดินยังมีช่องแสงอีกหนึ่งจุดด้วย ต้องบอกว่าโครงการพยายามจะใส่ช่องแสงเพิ่มเข้าไปในทุกๆห้อง เพื่อลดการใช้แสงจากหลอดไฟ และเพิ่มความสามารถในการถ่ายเทอากาศในบ้านได้เป็นอย่างดี

    ห้องน้ำ Master Bathroom ครับ ห้องนี้จะใส่ฟังก์ชั่นอ่างอาบน้ำเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ตัวห้องน้ำถูกลดระดับลงมาประมาณ 7 ซม. เวลาทำความสะอาดจะได้ไม่กระเด็นมาเปียกไม้ปาร์เก้ครับ

    อ่างล้างหน้าและพื้นที่วางของเก็บของขนาดใหญ่กว่าห้องอื่น ด้านล่างเป็นช่องเก็บของ พวกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในห้องน้ำ กระดาษทิชชู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีพื้นท่ีสำหรับติดเครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำมาให้ด้วย ในขณะที่ห้องอื่นๆจะติดเครื่องทำน้ำอุ่น

    พื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ อยู่ข้างๆ Shower Box  ตัวโถสุขภัณฑ์ของห้องน้ำใหญ่นี้จะดู Premium ขึ้นมานิดหน่อย เทียบจากขนาดและรูปร่างของถังน้ำด้านหลัง ถ้าสังเกตดูที่ผนังจะติดกระเบื้องโมเสกเพิ่มให้ด้วย

    ตำแหน่งวาง Shower Box อยู่ตรงกลางห้องน้ำเลย ห้องนี้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้แล้ว (เย้) เป็นแบบกระจกนิรภัย กรอบ Stainless มีหน้าต่างช่องแสงบานกระทุ้งมาให้ด้วย พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงอีกประมาณ 2 ซม. ขนาดประมาณ 1.1 x 1.2 เมตร

    หัวฝักบัวแบบ Hand Shower หมุนปรับระดับได้ หัวก็อก COTTO หน้าตาดูดีกว่าห้องอื่นๆ

    อ่างอาบน้ำ วางอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า ยี่ห้ออ่าง, ก็อก และสุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นของ COTTO ทั้งหมดครับ

     

    ห้องนอนขนาดกลาง ที่อยู่หน้าบ้านบ้าง ห้องนี้จัดมาเป็นเหมือนให้ลูกสาวคนโตของบ้าน ดูจากสี และลวดลายสไตล์ Vintage ที่ใช้ พื้นที่เตียงในห้องนี้ใส่เตียง 5 ฟุต เอาไว้ ก็ยังมีระยะรอบด้านเตียงเหลือทางเดินไว้สบายๆ

    ผนังด้านข้างเป็นผนังกระจกหลายๆบานประกอบกัน มีบานหน้าต่างสไลด์เปิดได้ พร้อมกับกระจกแบบเข้ามุม ให้สามารถมองเห็นวิวได้กว้างขึ้น

     

    ข้างๆทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนกลาง จะมีเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนของคุณลูกสาวด้วย ที่ในแปลนจะเขียนว่าเป็น Relax Area นั่นแหละ ซึ่งถ้าห้องนี้ลูกชายคนโตยึดไป ก็จะกลายเป็นมุมนั่งเล่นเกมแน่นอน หรือาจจะเอาโต๊ะทำงานมาตั้ง แล้วใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงาน ที่ได้แสงธรรมชาติ ก็สามารถทำได้ด้วยนะ   หน้าต่างเข้ามุม มีบานกระทุ้งอีก 2 บาน สามารถเลือกเปิดให้เหมาะสมกับความต้องการได้ จริงๆก็แอบเสียดายนะ ที่ไม่ใช่หน้าต่างกระจกบานใหญ่แผ่นเดียว

     

    ห้องน้ำของห้องนี้ Layout แอบแปลกๆหน่อย พอเข้ามาแล้วเจออ่างล้างมือทางขวาแบบนี้ แล้ววางโถสุขภัณฑ์ทางซ้าย เหมือนกับว่าห้องน้ำมันกว้างไม่สุด ยาวไม่สุด ยังไงอย่างนั้น เลยจะดูมีพื้นที่เหลือๆที่ไม่ได้ใช้งาน พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.3 เมตร ลดระดับลง 2 ซม. ไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้  ผนัง Shower Box ฝั่งซ้ายติดตำแหน่งเสาพอดีจึงก่อเป็นที่นั่ง สำหรับนั่งอาบน้ำเอาไว้ซะเลย ด้านหลังมีหน้าต่างเปิดได้บานนึง ส่วนฝั่งที่ติดฝักบัว เจาะช่องผนัง ทำที่วางสบู่ตั้ง 4 จุด

    อ่างล้างมือห้องนี้เล็กๆ ทรงกลม

    เหนือโถสุขภัณฑ์ เจาะช่องที่ผนังเพื่อทำเป็นชั้นวางของเล็กๆ และมีราวแขวนผ้าขนหนูด้านข้าง

    ห้องนอนเล็กฝั่งหลังบ้าน เข้ามาในห้องแล้วจะเห็นแบบนี้ ทางซ้ายเป็นเตียงนอน ทางขวาเป็นพื้นที่ที่วางโซฟานั่งเล่น ด้านในเป็นห้องน้ำ กับ ตู้เสื้อผ้า ห้องนี้วางเตียงแบบไซส์ 5 ฟุตเอาไว้ให้ดูแบบนี้ทำให้นอนสบาย แต่ไม่สามารถหาพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้นะครับ  พื้นที่ปลายเตียงยังเหลือให้เดินผ่านได้ค่อนข้างกว้าง วางตู้เก็บของ หรือใส่ชั้นวางทีวีเต็มผนังได้เลย

     

    มุมด้านนี้เป็นโต๊ะนั่งทำงาน ด้านบนทำเป็นตู้ชั้นวางของอเนกประสงค์ได้ ติดกันเป็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าด้านใน

    ตู้เสื้อผ้าอยู่ทางด้านในสุดหน้าห้องน้ำ ที่ปลายสุดของทางเดิน มีบานหน้าต่างอีกหนึ่งบาน ช่วยเพิ่มปริมาณแสงธรรมชาติในห้องนอนได้

    เข้ามาดูพื้นที่ในห้องน้ำบ้าง จัดเป็น 3 ฟังก์ชั่นมาตรฐาน วางอ่างล้างหน้า ไว้คู่กับโถสุขภัณฑ์ทางด้านหน้า และมี Shower Box อยู่ทางด้านใน พื้นที่ Shower Box ขนาดใหญ่เหลือเฟือ แต่ไม่ได้ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ซึ่งควรไปหาติดเอง เพื่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกันนะครับ เพราะไหนๆเขาก็จัดสรรพื้นที่มาให้แล้ว

    อ่างล้างมือของห้องนี้เป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสครับ พร้อมพื้นที่วางของรอบๆตรึ่งนึง

    พื้นที่รอบๆโถสุขภัณฑ์ให้มาแบบเหลือๆ นั่งได้แบบไม่อึดอัด ผนังรอบๆปูกระเบื้องสีขาว แบบมี Texture หน่อยๆ ข้างๆโถสุขภัณฑ์ มีหน้าต่างบานกระทุ้งอีกหนึ่งบานสำหรับระบายอากาศในห้องน้ำ และสำหรับให้แสงส่องเข้ามาได้ เผื่อใครชอบอ่านหนังสือระหว่างทำธุระไปด้วย 😀 ข้างๆมีชั้นวางของสำหรับวางของกระจุกกระจิกได้ด้วย

    ชั้นวางสบู่และแชมพู อยู่ตรงข้ามกับฝักบัว ข้างๆติดกระเบื้องโมเสกสีแดงเข้มสลับดำมาให้ เพิ่มความ Modern ลงไป พื้นที่อาบน้ำลดระดับลง 2 ซม. ขนาดประมาณ 0.8 x 1.3 เมตร

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

     

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 12 November 2015

    • แบบบ้าน Enhance Blue Danube พื้นที่ใช้สอย 219 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา ราคา 7.99 ล้านบาท
    • แบบบ้าน Enhance Silver Rhine พื้นที่ใช้สอย 248 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 60 ตารางวา ราคา 8.99 ล้านบาท
    • แบบบ้าน Enhance Golden Thames พื้นที่ใช้สอย 305 ตารางเมตร ที่ดินเริ่มต้น 70 ตารางวา ราคา 12.99 ล้านบาท

    • บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย
    • ขายแบบบ้านเปล่า (ห้องน้ำ/เคาน์เตอร์ครัว/จัดสวน/ถังน้ำ/ปั๊มน้ำ/โทรศัพท์บ้าน 1 เบอร์/ระบบสัญญาณกันขโมยทั้งหลัง/ติด Wallpaper)
    • จอง 50,000 บาท (ทำสัญญา ติดต่อสอบถามเซลล์โครงการ)
    • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 70,000 บาท
    • แปลงมุม ราคาเพิ่มอีก 200,000 บาท
    • ค่าส่วนกลาง 20 บาทต่อตารางวาต่อเดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


    เจาะลึกรวบยอด

    โครงการ Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน ตั้งอยู่ในซอยแยกจากถนนหลักเทพารักษ์ประมาณ 340 เมตร แต่เป็นซอยส่วนตัวของ SC ASSET เป็นทำเลที่เหมาะกับคนใช้รถนะครับ ด้านการเดินทางถนนเทพารักษ์เชื่อมต่อกับหลายเส้นทางติดขัดเสียแต่ว่าเส้นเทพารักษ์, ศรีนครินทร์, บางนา-ตราด มักเป็นเส้นทางเดินรถบรรทุกเพราะโดยรอบมีโรงงานและโกดังเก็บของจึงทำให้บางช่วงเวลาการจราจรจะติดขัดบ้าง แต่ก็ขับไปขึ้นทางด่วนวงแหวนได้ใกล้มากในระยะประมาณ 700 เมตร

    สำหรับคนไม่ขับรถ มีรถสองแถวสีแดงขับผ่านหน้าโครงการ วิ่งไป สำโรง – คลองอาเสี่ย เที่ยวละ 8 บาท นั่งไปตลาดสำโรงหรือไปไหนมาไหนได้บ้าง แต่รถมาไม่บ่อย นอกจากนี้ก็มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ต้นซอยที่ดินไทย หน้าโรงพยาบาลบางนา  5  เอาจริงๆผมว่ากลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านระดับนี้คงใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักเนอะ อาจจะบอกไว้เผื่อแม่บ้านจะออกไปจ่ายตลาดกับข้าวยังไงมากกว่า

    ด้านหน้าโครงการอาหารการกิน ร้านค้าในระยะเดินถึงไม่ค่อยมีอะไรมาก มีแค่ Family Mart ที่อยู่ในปั๊ม Esso ติดกับ Gate 1 แหล่งชอปปิ้งใกล้สุดคงจะเป็น Tops Supermarket, Big C บางพลีหรือถ้าอยากเดินเล่นชิว ๆ ไปดูหนัง ดินเนอร์ คงต้องไปตรง Mega Bangna หรือ Central City Bangna นะครับ

    มองทำเลในภาพใหญ่ เทพารักษ์เป็นถนนเส้นหลักของเมืองสมุทรปราการ เป็นเส้นที่ใช้คมนาคมหลักอาจจะเป็นรองเส้นบางนา-ตราดหรือศรีนครินทร์อยู่บ้าง และด้วยความเจริญที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการที่มีจุดขึ้นลงวงแหวนก็ทำให้พื้นที่แถวนี้เข้าออกง่ายขึ้น เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกมากขึ้น ทำให้มีหมู่บ้านมาเปิดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเชิงของการคมนาคมจริงๆแล้วอาจจะต้องดูเรื่องของรถบรรทุกอยู่บ้าง อาจจะขับรถไม่สะดวกในบางเวลาเพราะเส้นเทพารักษ์เป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการขนส่งของโรงงานแถวนี้

    ตัวโครงการออกแบบมาโดยค่อนข้างเน้นเรื่อง Security กับ Privacy สังเกตได้จากเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆที่มีมาให้ในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Double Gate Security การแบ่งโซนลูกบ้านกับโซนผู้มาติดต่อ, กล้อง CCTV 57 ตัวรอบโครงการ, รั้วโครงการที่ต่อเติมขึ้นไปสูงๆ และใส่ระบบกันขโมยให้ทุกบ้าน ทุกบานประตูหน้าต่าง สำหรับบ้านราคา 8-14 ล้านแล้วก็ถือว่าให้มาสมน้ำสมเนื้อกัน และจำนวน 222 หลังเทียบกับที่ดิน 61 ไร่แล้ว ก็ถือเป็นจำนวนที่กำลังเหมาะสม ไม่เยอะเกินไป เทียบกับราคา

    อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ พื้นที่สีเขียวในโครงการ ที่ตั้งใจใส่มาเยอะพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผมเข้ามาดูโครงการที่ลงสวนไว้แล้วถึง 2 ปี สังเกตเพิ่มเติมได้จากพื้นที่สวนสาธารณะ, แนวรั้วต้นไม้ตลอดทั้งโครงการ แม้แต่รั้วบ้าน หรือภายในบ้าน ก็จัดสวนให้ ใส่ต้นไม้มาแน่นดี สร้างความร่มรื่นในหมู่บ้านได้ดี

    ตัวบ้านออกแบบมาถึงจะมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ในระดับ 219-305 ตารางเมตร แต่ไม่ได้เน้นให้มีฟังก์ชั่นเยอะๆ แบบมีห้องเยอะๆอยู่กันหลายๆคน แต่ให้จำนวนฟังก์ชั่นมีเท่าๆกับครอบครัวปกติ 3-4 ห้องนอน แต่เน้นขยายขนาดของห้องให้ใหญ่ขึ้น และให้ใช้ฟังก์ชั่นแต่ละจุดได้สะดวกสบายขึ้น ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง มีห้องนั่งเล่น 2-3 แห่งในบ้านหลังเดียว ซึ่งอาจจะตอบโจทย์หรือไม่ตอบโจทย์ของแต่ละครอบครัวอันนี้ต้องดูตัวเองนะครับ ส่วนตัวผมจากที่ดูแล้ว ตัวบ้านขนาดกลาง 248 ตารางเมตร ดูจะตอบโจทย์กับระดับ อยู่ในจุดที่ Optimal ที่สุด เนื่องจากฟังก์ชั่นแทบไม่ต่างจากบ้านหลังใหญ่ 305 ตารางเมตร เพียงแค่พื้นที่จะเล็กกว่า แต่บ้านหลังใหญ่จะดูมีพื้นที่บางส่วนที่เกินๆมาที่อาจจะไม่ได้จำเป็นมาก เทียบกับเงิน 2-4 ล้านที่ต้องจ่ายเพิ่มจากบ้านขนาดกลาง ซึ่งคนที่เลือกบ้านหลังใหญ่สุด อาจจะมีความจำเป็นอย่างหนึ่งคือ ขนาดที่ดินที่ใหญ่กว่า กับจำนวนที่จอดรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดขายที่น่าสนใจของบ้านหลังใหญ่ครับ ส่วนคนที่กำลังเลือกระหว่างบ้านหลังกลาง กับหลังเล็ก ก็ให้มาดูความสำคัญของห้องแม่บ้าน กับห้องนอนชั้นล่างเป็นหลัก ซึ่งผมคิดว่า ถ้าจะต้องมีแม่บ้านมาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย การมีห้องแม่บ้านก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี หรือถ้ามีสมาชิกผู้สูงอายุในบ้าน ความจำเป็นของห้องนอนชั้นล่างก็ควรจะให้อาศัยอยู่อย่างจริงจังได้มากขึ้นครับ

    วัสดุที่ให้มาในบ้านก็ถือว่าให้มาสมราคาค่าตัว พื้นห้องนอนเป็นปาร์เก้, กระเบื้องแกรนิโต้ 60 x 60 ผสมพื้นหินอ่อนสำหรับบ้านหลังใหญ่, บันไดไม้จริง, ประตูไม้สัก, สุขภัณฑ์ COTTO ทั้งหลัง, ติดสัญญาณกันขโมยที่ประตูหน้าต่างทุกบาน, จัดสวนให้รอบบ้าน, กระเบื้องห้องน้ำแต่งลายโมเสก รวมๆแล้วก็จัดว่าโอเค อ้อ..แล้วห้องครัวผมคิดว่าใส่หน้าบานให้หน่อยก็ดีนะ

    ส่วนสาธารณูปโภคในโครงการก็ถือว่าให้มาโอเค น่าใช้งาน มีครบถ้วน แต่ห้องฟิตเนสกับอ่านหนังสือเล็กไปหน่อย มีพื้นที่สวนเยอะและจัดออกมาได้สวยน่าใช้งานมากๆ เมื่อเทียบกับราคาบ้าน, จำนวนยูนิต, ขนาดของที่ดิน และราคาค่าส่วนกลางที่ 20 บาท/ตร.วา/เดือน ถือว่าโอเคครับ

     

    Judgement

    เนื่องด้วยโครงการ Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน เป็นโครงการที่มีการเริ่มก่อสร้างนานแล้ว เป็นโครงการแรกๆของแบรนด์บูเลอวาร์ด ทางเราเลยได้ขอไปเยี่ยมชมภาพบรรยากาศ สภาพแวดล้อม และส่วนกลางโครงการแล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่ เลยทำให้ไม่มีการตัดสินให้คะแนนเปรียบเทียบในโครงการนี้ครับ

    สรุปหัวข้อรวบยอด, 12 November 2015

    • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง – ติดถนนใหญ่เทพารักษ์ ใกล้ทางด่วนวงแหวนตะวันออก ความอุดมในรัศมีไม่เกิน 4 กม.มีไม่มาก และอยู่ในโซนที่เวลาเข้า-เลิกงานรถติดมากใกล้แหล่งอุตสาหกรรม
    • ความปลอดภัย – Double Gate Security, CCTV ทั้วทั้งโครงการ ตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยทุกหลัง รั้วรอบโครงการสูง 2.5+0.5 ม. ได้ไฟโรงรถเปิดปิดอัตโนมัติ
    • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย – บ้านหลังเล็กและหลังกลางใส่ฟังก์ชั่นมาดี แต่บ้านหลังใหญ่ยังมีพื้นที่ส่วนเกินเยอะ ทุกแบบเป็นแบบหน้ากว้างหมด
    • วัสดุ – วัสดุส่วนใหญ่ อยู่ในเกณฑ์ มาตรฐานของระดับราคาบ้าน
    • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ –  ใส่ต้นไม้มาค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะตามริมรั้วโครงการ และสวนของจริงสวยน่าใช้มาก มีจำนวนยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว
    • สาธารณูปโภค – คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ,ฟิตเนส,ห้องอ่านหนังสือมีให้ครบแต่ขนาดเล็กไปหน่อย และสวนอีก 2 ไร่กว่า จัดว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานบ้านระดับนี้

     

    BOTTOM LINE

    Bangkok Boulevard เทพารักษ์-วงแหวน เหมาะสมกับคนที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวโซนเทพารักษ์ ศรีนครินทร์ และบางพลี ใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ใช้ทางด่วนไปไหนมาไหนบ่อยๆ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบในระยะขับรถไม่ไกลมาก มองดูโครงการที่เน้นเรื่อง Security และ Privacy ของลูกบ้านเป็นส่วนสำคัญ และยอมจ่ายเงินเพิ่มส่วนหนึ่ง เพื่อให้ได้สินค้าแบรนด์ และเพื่อความสบายใจในคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย มีงบประมาณ 8-14 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนเดือนละประมาณ 60,000 – 100,000 บาท

    ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ

    สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )