รีวิวฉบับที่ 1685 … สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาไปชมทำเลใจกลางเมืองย่านอโศกกันอีกครั้ง กับโครงการ The Collection ซอยสุขุมวิท 16 คอนโดหรูตัวใหม่ล่าสุดจาก Siamese Asset ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 ถึงแม้จะเป็นทำเลในซอยและถูกรายล้อมไปด้วยอาคารสูง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบและสวนเบญจกิติได้ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า Interchange และเป็นซอยลัดเลี่ยงรถติดที่มีความอุดมสมบูรณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จะเป็นอย่างไรเราไปรับชมและอัพเดทข้อมูลทำเลพร้อมๆกันเลยครับ

สำหรับข้อมูลของโครงการ The Collection ซอยสุขุมวิท 16 สามารถติดตามชมได้ที่ คลิกที่นี่

Location
พิกัด : 13.731059, 100.560927

ย่านอโศกที่เรารู้จักกันดีในทุกวันนี้ มีจุดกำเนิดมาจากถนนสายสั้นๆ เส้นหนึ่งในกรุงเทพที่มีชื่อว่า ถนนอโศกมนตรี มีความยาวเพียง 1.3 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นที่แยกอโศกมนตรีซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนรัชดาภิเษก (ที่มุ่งหน้ามาจากเขตคลองเตย) ไปสิ้นสุดที่แยกอโศกเพชรบุรี ที่ถนนเพชรบุรี เดิมมีชื่อเรียกว่าซอยสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก)” และถนนอโศกเคยเป็นที่ดินของพระอโศกมนตรี (เรียม เศวตเศรณี) ซึ่งเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้อุทิศที่ดินร่วมกับเจ้าของที่ดินรายอื่นและซื้อที่ดินที่เป็นตลาดเดิมมอบให้เทศบาลนครกรุงเทพสร้างถนนสายนี้ จึงกลายเป็นถนนสายแรกๆของกรุงเทพที่ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นแหล่งธุรกิจหลักหรือ CDB ที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีอาคารสำนักงาน, โรงแรมระดับ 5 ดาว, แหล่ง Shopping สำคัญๆ เช่น Terminal 21 และ The EM District เพียง 1 สถานีและเพียง 4 สถานีถึงสยาม นอกเหนือจากนั้นบริเวณแยกอโศกยังเป็นจุด Interchange สำคัญระหว่าง BTS (สถานีอโศกกับ MRT (สถานีสุขุมวิท) อีกด้วย

โครงการ The Collection ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 ที่ขนานไปกับถนนรัชดาภิเษกใกล้กับแยกอโศกมนตรี โดยถนนรัชดาภิเษกนี้เป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนพระราม 4 ซึ่งถนนฝั่งขาเข้ามีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรเพราะเป็นถนนเส้นที่นิยมตัดเข้าถนนอโศกมนตรีเพื่อเชื่อมต่อไปถนนเพชรบุรีได้ง่ายที่สุด และสามารถเชื่อมต่อถนนสุขุมวิทที่แยกอโศกเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าเมืองไปทางเพลินจิต ชิดลม สยาม ได้โดยตรง หรือจะเลี้ยวขวาเพื่อออกเมืองไปบางนา สมุทรปราการก็ได้ ส่วนถนนพระราม 4 ก็สามารถไป CBD ที่สำคัญอีกโซนหนึ่งอย่างสีลม สาทร หรือจะลงใต้ไปพระราม 3 และออกเมืองไปคลองเตย พระโขนง หรือบางนาได้ครับ นอกจากนี้ซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการจะสามารถเชื่อมต่อไปยังซอยเศรษฐีทวีทรัพย์ เพื่อไปออกที่ถนนพระราม 4 เพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนรัชดาภิเษกที่แยกพระราม 4 ได้ หรือจะเชื่อมต่อซอยสุขุมวิท 24 เพื่อไปพร้อมพงษ์ และสามารถเลี้ยวขวาไปทางอ่อนนุช บางนา สมุทรปราการก็ได้โดยไม่ต้องไปเสียเวลากลับรถเลยครับ

มาดูด้านความอุดมสมบูรณ์กันบ้างนะ ต้องบอกว่าทำเลนี้ถือเป็นทำเลย่านอโศกฝั่งใต้และตัวโครงการเองก็ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 ที่ขนานไปกับถนนรัชดาภิเษก ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์จึงอิงตั้งแต่ถนนสุขุมวิทบริเวณใกล้กับแยกอโศก และลงมาตามเส้นถนนรัชดาภิเษกไปจนถึงย่านพระราม 4 เริ่มตั้งแต่ถนนสุขุมวิทซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อย่าง Terminal21, Interchange21 และ Exchange Tower ที่อยู่ตรงแยกอโศก หรือถ้านั่ง BTS ย้อนกลับมาที่สถานีพร้อมพงษ์ก็มีห้างหรูอย่าง EmQuartier และ Emporium ส่วนบนถนนรัชดาภิเษกซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการก็จะเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานใหญ่ๆ ทั้ง C.T.I. Tower, Lake Ratchada Complex และ Ocean Tower รวมถึงมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพอย่างสวนเบญจกิติซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ และในอนาคตยังมีสวนป่าเบญจกิติเฟสต่อๆไปเกิดขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ความอุดมสมบูรณ์ย่านพระราม 4 ก็มีไม่แพ้กัน เริ่มตั้งแต่แยกพระราม 4 ติดกับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์จะมี Mega Project อย่าง The PARQ ซึ่งเป็นอาคาร Mixed-use ขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย TCC มูลค่าโครงการกว่า 14,000 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม 5 ดาว และศูนย์ประชุม รวมถึงตอนนี้ก็มีการขยายศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ตารางเมตร อีกด้วย ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะมี FYI CENTER มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท พัฒนาโดย Golden Land เป็นอาคารสำนักงาน 2 อาคารสูง 12 ชั้น และยังมี Modena By Fraser เป็นโรงแรมสูง 14 ชั้น พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันอาคารสำนักงานและโรงแรมก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้วครับ และนอกจากนี้ในอนาคตก็จะมี Mega Project อีกแห่งหนึ่งซึ่งยังคงเกาะไปตามแนวสถานีรถไฟฟ้า MRT คือ ONE BANGKOK ที่อยู่ใกล้ๆ กับ MRT ลุมพินี และอยู่ใกล้กับสวนลุมพินีด้วย เป็นอาคาร Mixed-use ขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดย TCC อีกเช่นกัน มูลค่าโครงการกว่า 120,000 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม และร้านค้า ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2564 ครับ

ส่วนในปัจจุบันความเจริญของย่านพระราม 4 ก็มีมากพอสมควร โดยจะอยู่บริเวณห้าง Big C และ Tesco Lotus ซึ่งแถวๆ นั้นจะเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานอีกเช่นกัน ทั้งอาคารมาลีนนท์, บจก.เอสโซ่, อาคารสิรินรัตน์ และ Green Tower รวมถึงภายในซอยอารีย์ยังเป็นย่านคนมีเงินอยู่อาศัยกันเยอะ เพราะเป็นซอยที่เชื่อมต่อไปออกพร้อมพงษ์ที่มีห้างหรูได้ จึงทำได้ในซอยหลัง Big C นี้มีทั้ง K Village และคอมมูนิตี้มอล์ที่รวมร้านอาหารและภัตตาคารญี่ปุ่นแพงๆ อย่าง Nihomachi อีกด้วย

อีกหนึ่ง Highlight ของทำเลย่านนี้คือใกล้กับสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯถึง 4  สวน เริ่มตั้งแต่สวนลุมพินี ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 360 ไร่ และมีทางจักรยานลอยฟ้าสามารถขี่จักรยานข้ามถนนมาเชื่อมต่อกับสวนป่าเบญจกิติและสวนเบญจกิติได้ โดยสวนเบญจกิติเป็นสวนที่มีจุดเด่นคือมีทะเลสาบขนาดใหญ่บนเนื้อที่กว่า 130 ไร่ ภายใต้แนวคิดป่ารักษ์น้ำ รวมไปถึงมีสวนป่าเบญจกิติซึ่งเดิมทีเป็นพื้นที่ของโรงงานยาสูบ แต่ปัจจุบันได้ส่งมอบให้กรมธารักษ์และถูกพัฒนาเป็น “สวนป่าเบญจกิติ” เพื่อให้กลายเป็นปอดแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยได้แบ่งพื้นที่การพัฒนาออกเป็น 3 เฟสด้วยกันคือ เฟสแรกขนาดพื้นที่ 61 ไร่ ในปัจจุบันได้เปิดใช้บริการแล้วครับสามารถเดินเข้าไปชมสวนหรือวิ่งออกกำลังกายกันได้แล้วนะ ส่วนเฟสที่ 2 มีเนื้อที่ 170 ไร่ และเฟสที่ 3 มีเนื้อที่ 89 ไร่ ซึ่งรวมแล้วมีขนาดพื้นที่กว่า 320 ไร่เลยทีเดียว ถ้ายังไม่จุใจยังมีสวนสาธารณะอีก 2 แห่งที่สามารถขี่จักรยานไปตามฟุตบาทเพื่อไปต่อได้อีกด้วย มีทั้งสวนชูวิทย์เนื้อที่ 6 ไร่ และสวนเบญจสิริเนื้อที่ 29 ไร่ ซึ่ง The Collection ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าอยู่ตรงกลางซึ่งรายล้อมไปด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯทั้ง 4 แห่งเลยทีเดียว สำหรับคนชอบออกกำลังกายหรือรักธรรมชาติต้องไม่พลาดแน่ๆ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถก็สะดวกมากๆ เพราะแยกอโศกเป็นทำเลที่ตั้งของรถไฟฟ้า Interchange ของ BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 650 m. ทำให้เรามีทางเลือกให้การเดินทางเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

มาลองซูมดูใกล้ๆกันบ้าง อย่างที่บอกว่าระยะจากทางลง Skywalk ของ BTS อโศก บริเวณหน้า Exchange Tower จนมาถึงโครงการมีระยะทางประมาณ 600 m. เท่านั้น ซึ่งถือเป็นระยะที่เดินได้สบายๆ ครับ มีทางเท้าให้เดินและมีคนเดินอยู่ตลอดเวลาไม่เปลี่ยวแน่นอน หรือถ้าขี้เกียจเดินที่หน้าปากซอยสุขุวิท 16 ก็มีวินมอไซค์อยู่นะ ส่วนขาไปปากซอยก็มีวินมอไซค์ที่อยู่หลัง Lake Ratchada Complex ในระยะเพียง 40 m. เท่านั้นเอง ส่วนถ้าเราอยากจะไปสวนเบญจกิติก็มีทางม้าลายซึ่งจะต้องเดินลัดไปทางด้านข้างอาคาร Ocean Tower ซึ่งก็เปิด-ปิดตามเวลาอาคารออฟฟิศนะ อยู่ในระยะ 220 m. หรือจะใช้สะพานลอยก็ได้ซึ่งจะต้องเดินผ่านข้างอาคาร Column Tower ซึ่งอยู่ในระยะประมาณ 390 m. ก็จะสามารถข้ามถนนเพื่อไปวิ่งออกกำลังกายหรือเดินชมสวนกันได้ง่ายๆ อย่างปลอดภัยมากขึ้นครับ

สำหรับการเดินทางโดยใช้รถยนต์ จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือทางพิเศษเฉลิมมหานครที่ด่านพระราม 4 ถึงจะเลี่ยงรถติดที่แยกอโศกมาแล้วแต่แยกพระราม 4 ก็ติดมากพอกันเลยครับ แต่ก็ไม่ต้องไปเสีเวลากลับรถและติดไฟแดงหลายต่อมากนัก โดยเส้นทางนี้มีระยะห่างจากโครงการมาประมาณ 4.7 km. ต้องเผื่อเวลาประมาณครึ่ง ชม. เผื่อรถติดในเวลาเร่งด่วนด้วยนะ

และเนื่องจากทำเลของเราเป็นทำเลในซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดมาพระราม 4 ได้ง่ายกว่าที่จะต้องไปกลับรถบนถนนรัชดาภิเษกหรือพระราม 4 เพื่อเข้าเมือง ฉะนั้นเราสามารถที่จะมาขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครที่ด่านพระราม 4 อีกจุดหนึ่งได้ ซึ่งถึงแม้จะอ้อมกว่าสักเล็กน้อยแต่ก็ช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่าพอสมควร ไม่ต้องเสี่ยงรถติดที่แยกอโศกให้เสียเวลา มีระยะทางประมาณ 3.2 km. และต้องเผื่อเวลาสักครึ่ง ชม. เช่นกัน

ส่วนขากลับจาก ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ก็ให้ใช้ทางลงที่เพลินจิตเข้าสู่ถนนสุขุมวิท และเลี้ยวขวาที่แยกอโศกเพื่อตัดเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษกซึ่งมีระยะเพียง 2.5 km. เท่านั้นเอง แต่รถก็ติดมากอยู่ดีนะโดยเฉพาะเวลาหลังเลิกงาน

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้สำหรับคนใช้รถใช้ถนนก็คือจุดกลับรถบนถนนรัชดาภิเษก ตลอดทั้งเส้นจะมีจุดกลับรถแค่ 2 จุดคือหัวกับท้าย และทางลัดต่างๆ ประกอบด้วย

  • เส้นสีแดง เป็นระยะทางจากโครงการไปยังหน้าปากซอยสุขุมวิท 16 มีระยะทางประมาณ 400 m.
  • เส้นสีเหลือง เป็นถนนซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของโครงการ สามารถเชื่อมต่อไปยังซอยเศรษฐีทวีทรัพย์เพื่อไปยังพระราม 4 ได้โดยมีระยะทางประมาณ 1.7 km. ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะมีบางช่วงที่เป็นทาง One way จะต้องขับตามเส้นทางดังภาพ ส่วนขากลับสามารถขับตรงมาตามทางปกติได้เลยครับ
  • เส้นสีฟ้า สามารถเชื่อมต่อไปออกพร้อมพงษ์ได้โดยใช้ซอยสุขุมวิท 24 มีระยะทางรวมจากโครงการมาตามเส้นสีเหลืองแล้วแยกออกมาตามเส้นสีฟ้ารวมประมาณ 2.8 km.

สำหรับคนที่ชอบเดินห้างหรูๆ ก็สามารถใช้ทางลัดจากถนนซอยสุขุทวิท 16 เชื่อมต่อซอยสุขุมวิท 24 เพื่อมายังห้าง Emporium หรือ EmQuartier บริเวณสถานีพร้อมพงษ์ได้ และสามารถเดินทางกลับมาที่โครงการได้สะดวกโดยไม่ต้องไปเสียเวลากลับรถเลยครับ

มาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ตั้งโครงการกันบ้างนะครับ โครงการ The Collection ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 ที่ขนานไปกับถนนรัชดาภิเษก โดยถนนรัชดาภิเษกเป็นถนนหลักเส้นใหญ่ซึ่งมีสวนเบญจกิติเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งขาเข้า และมีอาคารสำนักงานใหญ่ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ทางฝั่งขาออก ซึ่งอาคารขนาดใหญ่หลายๆ อาคารจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 16 ที่อยู่ทางด้านหลัง เนื่องจากภายในซอยเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัย มีร้านค้าร้านอาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าฝั่งถนนใหญ่ด้านหน้า นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยโรงแรมและร้านนั่งดื่มซึ่งมีชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน และที่สำคัญตัวโครงการยังสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบขนาดใหญ่ของสวนเบญจกิติได้แม้จะเป็นทำเลในซอยก็ตาม รวมถึงมองเห็น City Line ไกลๆ และได้ดูพระอาทิตย์ตกดินสวยๆอีกด้วย

บริเวณโดยรอบอาคารจะมีอาคารสูงอยู่รายล้อม โดยเฉพาะทางทิศตะวันตกมีอาคาร Ocean Tower สูง 32 ชั้นทางด้านซ้าย และ Lake Ratchada Complex สูง 38 ชั้นทางด้านขวา ซึ่งอาจบังวิวทะเลสาบและสวนทางด้านข้างบางส่วนของตัวโครงการได้ แต่ตัวโครงการเองก็มีความสูงมากกว่าเพื่ออยู่ที่ประมาณ 41 ชั้น คงต้องรอดูกันต่อไปว่าที่ส่วนกลางชั้นบนจะถูกบังวิวหรือพ้นจะระความสูงอาคารเพื่อนบ้านมากน้อยแค่ไหนครับ ส่วนทางด้านทิศตะวันออกก็จะมี Lake Avenue Condominium สูง 26 ชั้น โรงแรมชามา เลควิว อโศก และ Millenium Residence หมู่ตึกสูง 51 – 53 ชั้นอยู่ด้วย

สำหรับการเดินสำรวจในวันนี้ผมขอแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆด้วยกันคือ

  • เส้นสีแดง คือ เส้นทางเริ่มต้นตั้งแต่สถานี BTS อโศก เดินตาม Skywalk มาตามเส้นทางในซอยสุขุมวิท 16
  • เส้นสีเหลือง คือ เส้นทางเลียบถนนใหญ่รัชดาภิเษกทางด้านหน้า รวมไปถึงฝั่งตรงข้ามและสวนเบญจกิติด้วย
  • เส้นเขียว คือ เส้นทางโซนพระราม 4 เริ่มตั้งแต่ MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปจนถึงแยกพระราม 4 และทางลัดจากซอยอารีย์ข้าง BigC ที่เชื่อมต่อมายังซอยสุขุมวิท 16 ได้
  • เส้นสีชมพู คือ เส้นทางบริเวณ BTS สถานีพร้อมพงษ์ ประกอบด้วย สวนเบญจสิริ ซอยสุขุมวิท 24 และซอยสุขุมวิท 26

เริ่มต้นการเดินทางวันนี้ที่สะดวกที่สุดคือรถไฟฟ้า BTS อโศก ให้ใช้ทางออกที่ 6 เพื่อมายังโครงการครับ

เป็นที่ทราบกันดีว่า BTS อโศก เป็นสถานี Intercgange ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก และรถไฟฟ้ามหานคร MRT สถานีสุขุมวิท ซึ่งคนจะค่อนข้างเยอะมากๆ และมีทางเดินเชื่อมไปใต้ดินได้จากสถานี BTS เลยด้วย นอกจากนี้ตัวสถานียังมีทางเชื่อมต่อกับห้างใหญ่อย่าง Terminal21 ที่มีของขายต่างๆ มากมายและมีโรงภาพยนต์ขนาดใหญ่อยู่ชั้นบนด้วย แล้วยังขึ้นชื่อเรื่อง Foodcourt ที่มีอาหารถูกและอร่อยมากอีกด้วย ถ้าใครที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นประจำแล้วต้องกลับบ้านมาลงที่สถานีนี้ก็แนะนำให้แนะทานอาหารที่นี่กันก่อนกลับบ้านได้นะครับ

ส่วนทางไปโครงการให้เดินต่อไปตามทาง Skywalk ที่เชื่อมต่อข้ามแยกอโศกมนตรีที่ขึ้นชื่อว่ารถติดมาก แต่เราเดินอยู่บน Skywalk ก็เดินข้ามไปแบบชิลๆสบายๆได้เลย

เดินมาจะเจอป้ายบอกทางแยกทางซ้ายไปอาคาร Interchange21 หรืออาคารซิตี้แบงค์ และตรงไปอีกหน่อยจะเป็นทางไปอาคาร Exchange Tower ซึ่งเป็นทางไปโครงการนะครับ

เรามาแวะดูที่อาคาร Interchange21 กันก่อนนะ อาคารนี้มีทีเด็ดซ่อนอยู่เผื่อใครบางคนอาจได้ใช้เส้นทางนี้ก็ได้

เมื่อเข้ามาภายในอาคารเราจะเห็นป้ายบอกทางไป MRT สุขุมวิท ซึ่งเราสามารถไปรถไฟฟ้ามหานครได้โดยผ่านอาคารนี้ได้ โดยลงบันไดเลื่อนภายในอาคารตามป้ายมาเรื่อยๆ จนมาถึงชั้นที่มี Family Mart จะมีประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดออกไปภายนอกอาคาร ข้อดีของเส้นทางนี้คือเราสามารถมา MRT สุขุมวิท ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเปียกฝนหรือแดดร้อนๆด้านนอกมากนัก ถึงแม้จะเดินบน Skywalk ได้แต่ถ้าฝนสาดแรงๆก็เปียกได้เหมือนกันนะ

เมื่อออกมาด้านนอกจะมาโผล่ฝั่งตรงข้ามของ Terminal21 พอดี และทางฝั่งนี้ก็มีทางเข้าสถานีรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท เช่นกันนะ

อีกอย่างหนึ่งคือสถานีรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท นี้จะมี Metro Mall ตั้งอยู่ด้วย ภายในมีร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟหลายร้าน เหมาะสำหรับคนชอบนั่งทำงานตามร้านกาแฟโดยที่ไม่อยากไปเบียดเสียดแย่งกับคนอื่นตามห้างใหญ่ๆ เพราะที่นี่ก็มีคนมาใช้บริการอยู่พอสมควร แต่ยังพอมีที่นั่งเหลือให้ได้เลือกกันได้ตามอัธยาศัย หรือถ้าไม่อยากเสียตังค์ค่ากาแฟ ที่สุดปลายทางเดินนี้ก็มีจุดนั่งพักซึ่งมีปลั๊กไฟให้เสียบคอมหรือชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือได้ด้วยนะ

กลับมาที่ Skywalk ถ้าเรามองมาทางขวามือจะเห็นทางลงบริเวณด้านหน้าอาคาร Exchange Tower ซึ่งเราจะต้องลงตรงนั้นแล้วเดินไปตามทางเท้าเลียบถนนรัชดาภิเษกเรื่อยๆ จะเป็นเส้นทางไปโครงการครับ

เนื่องจากรีวิวทำเลอโศกคราวก่อนผมได้พาไปลงด้านหน้าอาคาร Exchange Tower บริเวณแยกอโศกมนตรีกันมาแล้ว คราวนี้ผมจะลองพามาอีกเส้นทางหนึ่งคือเราสามารถใช้บันไดเลื่อนในอาคาร Exchange Tower ได้ครับ เหมาะสำหรับวันที่ฝนตกหรือคนที่ไม่อยากเดินตากแดดร้อนๆนะ

เมื่อเข้ามาภายในชั้นบนจะมีธนาคารต่างๆ รวมถึงมีร้าน Boots ให้ได้ซื้อของกันก่อนกลับบ้านด้วย นอกจากนี้ที่ชั้น 1 ยังมี Starbucks ให้ได้นั่งคุยงานจิบกาแฟกันอีกด้วย

เมื่อออกมาด้านนอกอาคาร หันไปมองฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอาคารสำนักงานตามตึกแถวเก่าดั่งเดิมครับ

เดินมานิดเดียวเราก็มาถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 16 กันแล้ว เดี๋ยวเราจะลองเข้าไปดูภายในซอยกันก่อนนะครับว่ามีสภาพแวดล้อมเป็นยังไงบ้าง

หน้าปากซอยมีเซเว่นตั้งอยู่ และหน้าเซเว่นก็มีวินมอไซค์ตั้งเรียงรายอยู่ทั้ง 2 ข้างทาง มีอัตราค่าโดยสารจากปากซอยถึงตัวโครงการประมาณ 15 บาทเท่านั้น แต่ระยะทางไม่ได้ไกลมาก ถ้าอยากประหยัดตังค์ในกระเป๋าก็สามารถเดินได้นะครับ

ถัดเข้ามาทางซ้ายมือจะมีอาคารสีชมพูสดใสเป็นโรงแรม Clover Asoke ซึ่งมีชาวต่างชาติมาพักอาศัยอยู่ตลอดเวลาเลยครับ

หันไปทางด้านขวาก็มีอีกโรงแรมชื่อเก๋ๆว่า โรงแรม “มาดูซิ”

บรรยากาศภายในซอยระหว่างทางก็มีทางเท้าให้เดินได้สะดวกนะ มีคนเดินผ่านอยู่ตลอดเวลา เสียอย่างเดียวคือไม่มีแนวต้นไม้หรือกันสาดให้หลบแดดได้เลย ใครกลัวแดดอาจต้องพกร่มกันด้วยนะครับ ส่วนถนนซอยนี้ก็มีรถผ่านเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ค่อนข้างคึกคักมากเลยทีเดียว

ตึกสีเทาๆส้มๆทางขวามือนี้ก็เป็นโรงแรมอีกแล้ว ชื่อว่าโรงแรม Citadines Sukhumvit 16 Bangkok โรงแรมซอยนี้เยอะมากๆครับ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็เยอะเช่นกัน

ส่วนทางซ้ายคือ City Lake Tower เป็นคอนโดมิเนียมเก่าสูง 28 ชั้น

ติดกันก็มีคอนโดมิเนียม Domus สูง 12 ชั้น เป็นตึกที่ดูใหม่กว่าหน่อยครับ

เดินต่อมาหันมามองทางด้านซ้ายเราจะเจอกับหมู่ตึกสูง 2 อาคารซึ่งขึ้นอยู่เคียงข้างกัน ได้แก่ The Lake คอนโดมิเนียมสูง 36 ชั้น และ Column Tower โรงแรมและอาคารสำนักงานสูง 20 ชั้น

ที่ด้านล่างจะเห็นว่ามีช่องระหว่างอาคารซึ่งรถสามารถผ่านได้ โดยเส้นทางนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับถนนรัชดาภิเษกที่อยู่ทางด้านหน้า ซึ่งเปิดให้คนทั่วไปสามารถใช้ได้ด้วยนะ แต่เป็นทาง One way ใช้ได้เฉพาะขาเข้ามาจากถนนรัชดาภิเษกเพื่อลัดมาที่ซอยสุขุมวิท 16 นี้ได้เท่านั้น

ทาง One way เชื่อมต่อระหว่างถนนรัชดาภิเษกทางด้านหน้ามาสู่ถนนซอยสุขุมวิทที่อยู่ทางด้านหลัง

มาต่อกันที่ในซอยสุขุมวิท 16 ทางซ้ายมี Food Land ที่เปิดบริการตลอด 24 ชม.อยู่ด้วย ภายในมีซุปเปอร์สามารถมาแวะซื้อของสดมาประกอบอาหารทานเองได้นะครับ

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่เปิดบริการตลอด 24 ชม. อยู่ภายในอีกด้วย เรียกได้ว่าอยู่ที่นี่ไม่อดตายแน่นอน แต่ราคาอาจจะสูงกว่าร้านทั่วไปหรือที่ Terminal21 นะครับ

ฝั่งข้ามมีร้านอาหารชื่อ 32 December Patisserie & Bistro เป็นร้านสีขาวเหมือนบ้านอังกฤษ บรรยากาศน่ารักมาก เมนูอาหารมีทั้งฟิวชั่น ไทย และอาหารฝรั่ง

ถัดเข้ามาก็มีเซเว่นอยู่ตรงนี้ด้วยนะ ไม่ต้องเดินไปปากซอยให้เมื่อย นอกจากนี้ยังมีร้านค้าร้านอาหารอื่นๆอีก ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว

หันมาดูทางขวามือเป็นอาคารจอดรถที่มี Food Land กับร้านอาหารอยู่ด้านล่างอาคารซึ่งได้พาไปดูมาแล้วเมื่อสักครู่ ส่วนตามริมทางจะมีรถเข็นขายของเต็มไปหมด โดยเฉพาะวันธรรมดาที่มีพนักงานออฟฟิศเยอะมากเป็นพิเศษ

ที่ใต้ตึกอาคารจอดรถ Food Land  ช่วงเวลาพักเที่ยงจะเห็นพนักงานเดินเข้า-ออก ที่ลานจอดรถของอาคารจอดรถนี้กันเยอะเลยครับ เดี่ยวเราลองตามเขาขึ้นบันไดไปดูว่าด้านบนมันมีอะไร

ขึ้นมาถึง…ตกใจเหมือนกันนะ ผมก็พึ่งเคยเห็นว่ามี Food Court อยู่บนนี้ เรียกว่ากินข้าวกันกลางลานจอดรถเลยทีเดียว จากที่ลองสอบถามแม่ค้าดูได้ความว่า ร้านอาหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของตลาดปลาวาฬ ซึ่งเดิมทีเคยตั้งอยู่ติดกับอาคารจอดรถ Foodland เพียงแต่ว่าร้านค้าเหล่านี้มาตั้งชั่วคราวเท่านั้นนะ ยังไม่แน่ว่าจะตั้งขายกันถาวรรึเปล่า ปัจจุบันเปิดทำการจันทร์-ศุกร์ เวลาประมาณ 6.00 – 14.00 น. เป็นร้านอาหารที่เปิดสำหรับพนักงานบริษัทในย่านนี้นั่นเองครับ

กลับออกมาที่ด้านนอก ติดกันกับอาคารจอดรถ Food Land  คือที่ตั้งโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ซึ่งจะเห็นว่ามีการล้อมรั้วปิดเรียบร้อย ตรงนี้แหละคือจุดที่บอกว่าเป็นตลาดปลาวาฬเก่า แล้วตอนนี้ตลาดย้ายไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ?

คำตอบคือในซอยฝั่งตรงข้ามนั่นเอง จะเห็นว่าช่วงพักเที่ยงมีพนักงานออฟฟิศออกมาเดินกันเยอะมากๆ

ภายในซอยนี้เป็นซอยตัน ที่ด้านในสุดเป็นที่ตั้งของตลาดปลาวาฬปัจจุบันซึ่งเดินเข้ามาแค่ 30 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ในซอยนี้ยังเป็นที่ตั้งของคลีนิคทำฟันและร้านอาหารอีกด้วย

ภายในตลาดปลาวาฬมีทั้งของซื้อของขายและมีร้านอาหารอยู่ด้านหลัง เป็นตลาดสำหรับพนักงานออฟฟิศ เปิดทำการจันทร์-ศุกร์ เวลาประมาณ 6.00 – 14.00 น. เดิมทีที่ตรงนี้เป็นลานจอดรถเก่ามาก่อนและตลาดนี้พึ่งย้ายมาจากที่ตั้งโครงการ Whizdom เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง

กลับมาที่ถนนซอยสุขุมวิท 16 อีกครั้ง มีอาคารสำนักงานสูง 6 ชั้น และชั้นจอดรถของ Lake Ratchada Complex

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ Tensui ที่กำลังมีการทำรั้วใหม่กันอยู่ ผมถ่ายรูปอัพเดทให้ดูจากที่ได้มาทำรีวิวที่นี่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะเห็นว่าตอนนี้มีการล้อมรั้วเหล็กใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ โดยรั้วขยับเข้าไปประมาณ 1 m. ทำให้ทางเท้ากว้างมากขึ้นเป็น 3 m. สามารถเดินได้สะดวกขึ้นครับ

ร้านอาหารญี่ปุ่นนี้มีทางเข้าอยู่ที่ซอยสามมิตรด้านข้างซึ่งในระหว่างที่กำลังปรับปรุงรั้วอยู่ก็ยังเปิดทำการปกตินะครับ สามารถเข้าไปอุดหนุนกันได้

ภายในซอยสามมิตรก็มีคอนโดสูงชื่อ Lake Avenue สูง 26 ชั้น ตั้งอยู่ด้วยครับ ซึ่งซอยนี้ยังมีทางต่อลึกเข้าไปทางขวาอีกนิดหน่อย

เมื่อเลี้ยวขวามาจะเห็นตึกสูง 2 ฝั่งคือ Millenium Residence เป็นหมู่ตึกสูง 51 – 53 ชั้น และโรงแรม Shama Lakeview Asoke

ซอยสามมิตรนี้เป็นซอยตันนะ จะมีถนนเส้นสุดที่ Millenium Residence นี่แหละครับ

หน้าปากซอยสามมิตรเป็นชั้นจอดรถของ Lake Ratchada Complex ที่ด้านล่างมีทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ และคลีนิคครับ

นอกจากนี้ยังมีวินมอไซค์อยู่ด้านหน้าด้วย เป็นวินมอไซค์ที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด ห่างมาแค่ประมาณ 40 m. เท่านั้น ราคาค่าโดยสารตามนี้เลยครับ

ติดกันทางด้านซ้านของชั้นจอดรถของ Lake Ratchada Complex ก็เป็นที่ตั้งโครงการ The Collection ที่มีการล้อมรั้วเมทัลชีทเตรียมพร้อมสำหรับการก่อสร้างกันแล้วครับ

มาดูภาพรวมจากทางด้านหน้า Site ที่ดินกันก่อนนะ เริ่มจากทางด้านซ้ายมี Diyal Mansion สูง 9 ชั้น อาคารมูลนิธิพัฒนาระบบกองทุนสูง 13 ชั้น และอาคาร Ocean Tower สูง 32 ชั้นตั้งอยู่ ส่วนทางด้านขวามี Lake Ratchada Complex สูง 38 ชั้น และอาคารจอดรถสูง 13 ชั้นที่ตั้งอยู่ติดกับที่ดินโครงการเลยครับ

มาดูภาพมุมสูงกันบ้างนะ ลักษณะที่ดินของโครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตอนนี้กำลังมีการก่อสร้าง Sale Gallery กันอยู่ เดี๋ยวถ้าเขาสร้างเสร็จแล้วจะพามาชมกันแน่นอนครับ

เริ่มจากทางทิศใต้ของโครงการหรือก็คือถ้าเรามองจากด้านหน้าโครงการเมื่อสักครู่ก็จะอยู่ทางด้านซ้ายของโครงการนั่นเอง เป็น Diyal Mansion สูง 9 ชั้น ซึ่งก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับตัวโครงการมากนักเพราะไม่ได้อยู่ประชิดตัวโครงการมากจนเกินไป มีถนนซอยเล็กๆคั่นอยู่ และอาจมีความสูงถึงแค่เพียงชั้นจอดรถหรือชั้นพักอาศัยที่เป็นส่วนน้อยของโครงการ The Collection เท่านั้นครับ ต้องรอดูแบบ Final กันอีกทีนะว่าจะเป็นยังไง

แต่ที่ทราบตอนนี้คือจะมี 2 อาคาร เป็นอาคาร A สูง 7 ชั้น จะตั้งอยู่ทางด้านหน้าโครงการ (ซ้าย) อาคารนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเป็นประเภทอาคารอะไร ส่วนอีกอาคารหนึ่งเป็นอาคาร B สูง 41 ชั้น จะตั้งอยู่ทางด้านในของโครงการ (ขวา) โดยอาคารนี้จะเป็นคอนโดมิเนียมทั้งอาคาร และสาเหตุที่สามารถสร้างตึกสูงในซอยได้เพราะมีระยะร่นจากถนนซอยเข้ามามากพอสมควรนั่นเองครับ

มองตรงไปทางทิศใต้ก็ยังพอมีช่องมุมมองที่สามารถมองออกไปยัง City View ไกลๆได้อยู่บ้างนะครับ ไม่ได้โดน Ocean Tower บังหมดซะทีเดียว

ต่อมาขอเริ่มจากทางขวาโดยจะหมุนทิศทางไปตามเข็มนาฬิกานะ อาคาร Lake View Apartment สูง 8 ชั้น นี้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโครงการ ซึ่งจะมีการทุบอาคารนี้ทิ้งเพื่อสร้างเป็นตึกสูงแทนครับ

วิวทางทิศตะวันตกนี้ถือเป็นจุดขายของโครงการ มีช่องระหว่างอาคารสูงทั้ง 2 ด้านที่สามารถมองเห็นวิวสวนและทะเลสาบของสวนเบญจกิติได้ครับ อาจโดนบังวิวแค่มุมมองด้านข้างเล็กน้อยเท่านั้น แล้วยังสามารถมองเห็น City Line ไกลๆได้อีกด้วย

อาคารสูงทางด้านขวาของโครงการคือ Lake Ratchada Complex สูง 38 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานที่เวลาตอนกลางคืนหรือหลังเลิกงานจะไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเหมือนอาคารคอนโดด้วยกันที่จะมีคนพักอาศัยตอนกลางคืนเหมือนกันครับ แค่อาจบังวิวสวนและทะเลสาบตรงมุมนี้ไปบ้างเท่านั้น

ทิศเหนือติดกับตัวโครงการซึ่งก็คืออาคารที่ยืนอยู่เป็นอาคารจอดรถของ Lake Ratchada Complex มีความสูงประมาณ 13 ชั้น มองตรงไปจะเห็น C.T.I. Tower สูง 32 ชั้น และ Column สูง 20 ชั้น

มองลงมาด้านล่างจะมีที่ตั้งโครงการคอนโดเพื่อนบ้านที่เป็นอาคารสูงเช่นเดียวกันครับ

ต่อมาทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทิศที่มองออกไปทางแยกอโศกมนตรีหรือปากซอยสุขุมวิท 16 จะได้วิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งจากช่องระหว่างอาคารข้างเคียงครับ แล้วยังเป็นทิศที่แดดไม่ร้อนอีกด้วย

ทิศตะวันออกก็ยังเหมาะกับคนที่ชอบ City View มีช่องเปิดระหว่างอาคารสูงทั้ง 2 ด้าน จึงทำให้ได้วิวที่เปิดโล่งอีกมุมหนึ่งเพราะในระยะใกล้เป็นบ้านพักอาศัยที่มีเนื้อที่และมีการปลูกต้นไม้ทำให้ได้วิวพื้นที่สีเขียวอีกด้วยครับ

ทิศสุดท้ายคือด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นถนนซอยสุขุมวิท 16 มีอาคารแนวราบประเภทร้านอาหารและที่อยู่อาศัย

ถ้ามองตรงไปจะมีโรงแรมชามา เลควิว อโศก และ Millenium Residence สูง 51 – 53 ชั้น บังวิวอยู่ครับ อาจต้องมองทางด้านข้างที่ยังมีพื้นที่เปิดโล่งแทนนะ

คราวนี้เราลองมาดูวิวสวนและทะเลสาบของสวนเบญจกิติกันเต็มๆดูบ้าง ถือเป็นจุดเด่นที่สุดของโครงการเลยก็ว่าได้ โดยโครงการสร้างอยู่ระหว่างตึกสูง 2 อาคาร ถ้ามองมาตรงๆก็จะทำให้ยังสามารถ Take View แบบนี้ได้อยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางทางด้านบนหรือชั้นพักอาศัยชั้นสูงๆ ก็จะได้วิวที่ดีกว่านี้ครับ ซึ่งภาพที่ถ่ายนี้เป็นวิวจากชั้น 13 นะครับ

หันมามองทางด้านซ้ายเป็นถนนรัชดาภิเษกฝั่งมุ่งหน้าไปทางพระราม 4 จะมองเห็นศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์อยู่ไกลๆ

หันมามองทางขวาเป็นถนนรัชดาฝั่งมุงหน้าไปทางอโศกมนตรี จะมองเห็นวิวเมืองอโศกได้แบบนี้

กลับมาที่ด้านล่าง ทางซ้ายของโครงการจะมีร้านนั่งดื่มเก๋ๆตั้งอยู่ มีซอยเล็กๆด้านข้างโครงการด้วย

ถนนซอยข้างโครงการนี้เป็นซอยตันครับ เข้าไปได้ไม่ลึกมาก กว้างแค่ประมาณ 4 – 5 m. เท่านั้น

ทางด้านซ้ายเป็น Diyal Mansion สูง 9 ชั้น ที่ได้เห็นไปแล้วก่อนหน้านี้ตอนขึ้นไปดูวิวด้านบน

ส่วนทางด้านขวามีอาคาร Lake View Apartment สูง 8 ชั้น ที่ได้บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่ายังอยู่ในพื้นที่ดินของโครงการและจะมีการทุบทิ้งเพื่อสร้างเป็นอาคารสูง 41 ชั้นแทน

ทางด้านหลังเป็นทางเชื่อมของ Lake Ratchada Complex มีความสูงเพียงแค่ 4 ชั้น กั้นอยู่ระหว่างตัวโครงการกับถนนรัชดาภิเษก มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ ถ้าอาคารสูงใหม่ที่กำลังจะก่อสร้างนั้น มีระยะขอบเขตของอาคารเท่ากับตัว Apartment เดิมนี้ ก็จะพอให้เรานึกภาพออกได้ว่าอาคารสูงทั้ง 2 ด้านจะมีมุมอาคารที่จะบังมุมมองของสวนและทะเลสาบไปประมาณนี้ครับ

มาต่อกันที่ซอยสุขุมวิท 16 ฝั่งเดียวกับโครงการก็ยังคงเป็นร้านนั่งดื่มทั่วไป ซึ่งทั้งตอนกลางวันและกลางคืนก็จะมีลูกค้าโดยเฉพาะชาวต่างชาติมานั่งกันอยู่เรื่อยๆครับ

ฝั่งตรงข้ามโครงการก็เป็นทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟด้วยครับ ราคาสูงอยู่เหมือนกันนะ

ถัดมาคือโรงแรมชามา เลควิว อโศก ที่ด้านหน้ามีวินมอไซค์ชั้นอยู่ด้วย

และที่ใต้โรงแรมก็มีร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อ Lawson ด้วย สะดวกดีครับ เดินมาจากโครงการไม่ไกลเพียง 100 m. เท่านั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านนวดอยู่ตามตึกแถวเต็มไปหมด เวลาปวดเมื่อยตามตัวก็มาใช้บริการกันได้นะ

ตรงประตูรั้วเหล็กสีน้ำเงินนี้ที่มีวินมอไซค์อยู่ด้านหน้าจะเป็นทางลัดที่เดินลัดเลาะข้างตึก Ocean Tower ไปทะลุออกด้านหน้าที่ถนนรัชดาภิเษกได้ จะสังเกตได้ว่าช่วงเวลาพักเที่ยงหรือหลังเลิกงานจะมีพนักงานออฟฟิศเดินผ่านตรงนี้เป็นจำนวนมาก

เส้นทางนี้สำหรับคนเดินสามารถผ่านได้ แต่รถผ่านไม่ได้นะ ประตูก็มีเวลาเปิด-ปิดตามเวลาทำการของตึกออฟฟิศทั่วไปคือ 2 – 3 ทุ่มครับ

เมื่อเราเดินลัดเลาะมาเรื่อยๆก็จะมาโผล่ที่หน้า Ocean Tower แบบนี้ ซึ่งเส้นทางนี้มีความสำคัญต่อโครงการคือ เป็นเส้นทางที่ใช้ลัดจากโครงการมาถนนรัชดาภิเษกได้ใกล้ที่สุด ซึ่งบริเวณนี้มีทั้งป้ายรถเมล์ วินมอไซค์ และทางม้าลาย

มาต่อกันที่เส้นทางที่สองเป็นเส้นทางสีเหลืองกันเลยครับ ซึ่งเราจะเดินไปตามทางเท้าเลียบถนนรัชดาภิเษกและข้ามถนนไปยังสวนเบญจกิติและสวนป่าเบญจกิติที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยครับ

คราวนี้เราลองมาทางถนนใหญ่ด้านหน้ากันบ้างนะครับ เริ่มต้นที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 16 จะมีทางเท้าเดินอย่างดี มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะมากครับ

เดินมาอีกหน่อยจะเจอป้ายรถเมล์ และทางด้านหน้าจะเห็นสะพานลอยอยู่ไม่ไกลด้วย

ถัดมาจะเจอโรงแรม Madusi ที่เราได้เห็นด้านหลังตึกจากในซอยเมื่อกี้

ส่วนตึกต่อมาคือคอนโด The Lake ซึ่งมีสะพานลอยอยู่ด้านหน้าพอดีเลย

ลองขึ้นมาดูด้านบนสะพานลอยกันก่อนนะครับ ทางด้านนี้เป็นทางเข้าเมืองไปสี่แยกอโศกมนตรี ซึ่งจะเห็นได้ว่ารถฝั่งเข้าเมืองรถค่อนข้างติดมากนะครับ นี่ขนาดเป็นช่วงบ่ายแล้วนะ

ส่วนอีกด้านเป็นทางฝั่งขาออก จะมองเห็นสวนเบญจกิติด้วยนะ ส่วนรถฝั่งขาเข้าก็จะติดมาจนถึงตรงนี้เลย

กลับมาที่ด้านล่าง อาคารต่อมาคือ Columm Tower เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ด้านหลังมี Food Land ด้วยนะ

ถัดมาเป็น C.T.I. Tower เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ถัดไปเป็นที่ตั้งของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เช่นเดียวกัน และค่อยเป็น Lake รัชดา คอมเพล็กซ์ครับ

ถัดมาก็คืออาคาร Lake Ratchada Complex สูง 38 ชั้น ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับโครงการเลยครับ

Lake Ratchada Complex จะมีทางเชื่อมตึกสูง 4 ชั้น กับอาคารมูลนิธิพัฒนาระบบกองทุน ซึ่งเป็นอาคารที่กั้นอยู่ระหว่างที่ตั้งโครงการกับถนนรัชดาภิเษกครับ

เดินตรงต่อมาจะมีป้ายรถแท็กซี่อยู่ด้านหน้าอาคารมูลนิธิพัฒนาระบบกองทุน

ตึกสูงสุดท้ายคือ Ocean Tower เป็นอาคารสำนักงานสูง 32 ชั้นครับ

ที่ด้านหน้า Ocean Tower มีวินมอไซค์อยู่ด้วย ราคาก็ตามนี้เลยครับ

ถัดมาเป็นทางลัดเลาะด้านข้างตึกที่ได้พาเดินมาแล้วก่อนหน้านี้จากซอยสุขุมวิท 16 ทางด้านใน

ที่ด้านหน้ามีอู่ซ่อมมอไซค์และร้านส้มตำเล็กๆอยู่ด้วย

เลยมานิดเดียวก็จะมีป้ายรถเมล์อยู่ตรงนี้ไม่ไกลจากโครงการถ้ามาทางลัดครับ

กลับมาที่หน้า Ocean Tower จะมีทางม้าลาย สามารถใช้เดินข้ามไปสวนเบญจกิติหรือไปป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามเพื่อเข้าเมืองก็ได้ แต่ถ้าใครคิดว่าเดินข้ามถนนตรงนี้มันอันตรายก็สามารถเดินย้อนกลับไปใช้สะพานลอยก่อนหน้านี้ก็ดีนะ

งั้นเราลองข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้ามดูกันต่อดีกว่าครับ มีคนใช้งานจริงๆกันด้วยนะตรงนี้ดูจากในภาพได้เลย

ที่ทางเดินฝั่งตรงข้ามจะมีวินมอไซค์อยู่เป็นระยะๆ และจะมีรถมอไซค์วิ่งสวนไป-มา เดินระวังกันด้วยนะครับ

คราวนี้มาดูสวนเบญจกิติกันบ้าง เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 130 ไร่ เราสามารถเดินมาใช้บริการ ชมสวน นั่งปิคนิค และออกออกกำลังกายได้ง่ายๆโดยใช้สะพานลอยข้ามมาจากฝั่งตรงข้าม ซึ่งสวนนี้มีระยะเวลาเปิดปิดคือตั้งแต่ตี 5 ถึง 3 ทุ่ม

ภายในสวนจะมีทะเลสาบขนาดใหญ่ภายใต้แนวคิด “ป่ารักษ์น้ำ” ซึ่งจะมีลู่วิ่งโดยรอบทะเลสาบสามารถมาวิ่งออกกำลังกายกันได้นะ

หันมาดูทางด้านซ้ายของทะเลสาบ เราจะเห็นแนวอาคารตึกสูงตั้งเรียงรายกันอยู่ โดยระหว่างคือ Lake Ratchada Complex สูง 38 ชั้น และ อาคารมูลนิธิพัฒนาระบบกองทุนหรือ CMD สูง 13 ชั้น กับ Ocean Tower สูง 32 ชั้น จะเป็นที่ตั้งโครงการ ซึ่งจะมาสามารถมองเห็นทะเลสาบและสวนสีเขียวของสวนเบญจกิตินี้ได้ครับ

นอกจากลู่วิ่งรอบๆทะเลสาบแล้วก็ยังมีทางจักรยานให้ได้ขี่กันในสวนที่มีต้นไม้ธรรมชาติสีเขียวดูร่มรื่นอีกด้วย หรือเราจะเอาเสื่อมานั่งปิคนิคเล่นก็ได้นะครับ

นอกจากนี้สวนเบญจกิติยังมีประตูที่สามารถเชื่อมต่อกับสวนป่าเบญจกิติที่อยู่ทางด้านหลังได้ด้วย เป็นเฟสแรกที่โรงงานยาสูบได้คืนพื้นที่ตรงนี้ให้กลายเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นปอดแห่งใหม่ของคนกรุงเทพครับ โดยเราสามารถเปิดประตูรั้วเพื่อเดินข้ามไปยังสวนป่าได้ตามระยะเวลาเปิดปิดทำการของสวนเบญจกิติ หรือถ้าใครขี่จักรยานมาแล้วไม่อยากเสียเวลาลงมาเปิดหรืออยากขี่ได้ต่อเนื่องก็สามารถเลี้ยวไปทางขวาเพื่ออ้อมไปออกด้านข้างได้ครับ

ภายในสวนป่าเบญจกิติแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วน ซึ่งพื้นที่เฟสแรกที่เริ่มพัฒนาและเปิดให้บริการแล้วมีขนาด 61 ไร่ แบ่งออกเป็นลานจอดรถ พื้นที่ลานกว้างเอาไว้นั่งเล่นชมดอกไม้นานาพันธ์ และพื้นที่ด้านในสุดจะเป็นสวนป่าครับ

สวนป่าด้านในมีการปลูกต้นไม้ไว้เยอะพอสมควรเลย ซึ่งถ้าต้นไม้เหล่านี้ในอนาคตโตขึ้นก็จะร่มรื่นและหนาแน่นมากขึ้นจนกลายเป็นป่าได้ สมชื่อสวนป่าจริงๆครับ นอกจากนี้ยังมีทางเดิน ม้านั่งพักผ่อน และถนนโดยรอบให้ได้มาขี่จักรยานชมสวนเล่นกันอีกด้วย

มาที่เส้นทางที่ 3 เส้นสีเขียว โซนพระราม 4 เริ่มตั้งแต่ MRT ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปจนถึงแยกพระราม 4 และทางลัดจากซอยอารีย์ข้าง BigC ที่เชื่อมต่อมายังซอยสุขุมวิท 16 ได้

ตัดภาพมาที่รถไฟฟ้า MRT คราวนี้ผมจะพาไปดูทำเลอีกจุดหนึ่งของเส้นถนนรัชดาซึ่งมีความเจริญไม่แพ้กัน ก็คือ MRT สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือบริเวณแยกพระราม 4 นั่นเองครับ

เมื่อมาถึงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ซึ่งจะมีสถานี MRT อยู่ที่ด้านหน้าเลยครับ ตอนนี้ผมเลือกที่จะมาขึ้นฝั่งตรงข้ามกับศูนย์ประชุมนะ

ฝั่งนี้เป็นชุมชนซอยไผ่สิงโตซึ่งเป็นชุมชนดั่งเดิมและเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นแล้ว

มองตรงไปจะเห็นอาคารกระจกขนาดใหญ่ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดใหม่ก็คือ Modena By Fraser เป็นโรงแรมสูง 14 ชั้นพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร

ถัดมาก็มีอีกโครงการที่เป็น Mega Project ที่ได้เปิดการแล้วคือ FYI CENTER เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่ด้านล่างมีร้านค้าร้านอาหารอยู่ด้วย

ที่แยกพระราม 4 มีสะพานลอยอยู่ด้วย ขึ้นมาดูบนสะพานจะเห็นได้ว่ามีการจราจรค่อนข้างตึกคักมากเลยทีเดียว

มีภาพทั้ง 4 เส้นทางมาฝากกันด้วยครับ จะเห็นได้ว่ารถส่วนใหญ่ของย่านนี้จะมุ่งหน้าไปทางพระราม 4 สังเกตได้จากภาพด้านบนทางขวาเป็นภาพที่มุ่งหน้าไปทางพระราม 4 และภาพด้านล่างทางขวาเป็นภาพที่ถนนมุ่งหน้ามาจากทางสวนลุมครับ ถ้างั้นเราลองไปดูที่พระราม 4 กันดีกว่านะว่ามันมีอะไรกันทำไมคนถึงไปเยอะจัง

เริ่มต้นที่แยกซอยอารีย์ที่อยู่ข้างๆ BigC พระราม 4 ฝั่งตรงข้ามเป็น Tesco Lotus พระราม 4 สาเหตุที่เลือกเริ่มตรงนี้เพราะซอยนี้แหละคือทางลัดที่สามารถเชื่อมต่อกับซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการได้ จะเห็นได้ว่าตรงโซนนี้ก็ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และคึกคักมากเลยทีเดียวนะ

ลองขึ้นมาดูบนสะพานลอย จะเห็นหมู่ตึกอาคารสำนักงานสำคัญๆหลายตึก ทั้งอาคารมาลีนนท์ของช่อง 3, อาคารของบจก.เอสโซ่แห่งประเทศไทย, อาคารสิรินรัตน์ และ Green Tower ดูปริมาณรถนั่นสิครับ ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานแล้วคนออกจากออฟฟิศกำลังจะกลับบ้านกันเยอะมากๆ

จากถนนพระราม 4 เลี้ยวเข้าซอยอารีย์ จะเป็นเส้นทางที่จะกลับไปยังโครงการได้ครับ เมื่อเลี้ยวเข้ามาในซอยอารีย์ด้านข้างทางขวาจะเป็น BigC พระราม 4 ถนนซอยนี้จะมีรถผ่านคึกคักตลอดเวลาเพราะเป็นซอยที่เป็นทางลัดเพื่อเชื่อมต่อกับถนนสำคัญและซอยต่างๆได้หลายเส้นทาง คนส่วนใหญ่จึงใช้เส้นทางนี้เพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนใหญ่กันได้ครับ

เมื่อขับมาสักพักเราจะเจอกับทางแยกบริเวณหน้า K Village ถ้าเราขับตรงไปจะสามารถเชื่อมต่อไปยังซอยสุขุมวิท 26 เพื่อไปออกพร้อมพงษ์ได้ หรือถ้าเราเลี้ยวขวาจะไปยังซอยอรรถกระวีซึ่งเป็นซอยสั้นๆ ขนานไปกับซอยอารีย์ ภายในซอยอรรถกระวีจะมีคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านนั่งดื่มสวยๆอยู่หลายร้าน อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับห้างหรูอย่าง EmQuartier และ Emporium ที่ BTS สถานีพร้อมพงษ์ และยังใกล้ใจกลางเมืองอโศกอีกด้วย จึงทำให้ที่ดินแถวนี้มีราคาแพงมากครับ ส่วนถ้าเราจะกลับไปยังโครงการจะต้องเลี้ยวซ้ายนะ

สำหรับซอยทางด้านซ้ายนี้จะเป็นซอย One way สลับกับ Two way เป็นบางช่วง ซึ่งเราไม่สามารถขับรถตรงมาจากซอยสุขุมวิท 16 มาออกที่ซอยอารีย์ข้าง BigC ได้โดยตรง แต่จะต้องเลี้ยวออกไปที่ถนนใหญ่พระราม 4 ก่อนหน้านี้ไม่กี่ซอยครับ แต่สำหรับขากลับที่เป็นทาง One way เราสามารถขับตรงยาวๆไปได้เลย

เส้นทางสุดท้ายที่จะพาไปดูคือ เส้นทางสีชมพู บริเวณ BTS สถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นสถานีเพื่อนบ้านนี่เอง บริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญสำหรับคนที่จะอาศัยอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าซอยสุขุมวิท 16 มีทางลัดสามารถเชื่อมต่อมาออกที่ซอยสุขุมวิท 24 สุขุมวิท 26 หรือสุขุมวิท 22 ได้ จึงทำให้เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งในการเลี่ยงรถติดบนถนนใหญ่และสามารถขับรถมาร้านค้า ร้านอาหาร หรือห้างสรรพสินค้าได้โดยไม่ต้องต่อรถสาธารณะ เราลองไปดูกันเลยดีกว่าครับว่าทำเลตรงนี้เป็นยังไงกันบ้าง

เริ่มต้นที่ BTS สถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งเป็นสถานีเพื่อนบ้านกับสถานีอโศกนี่เอง

สำหรับสถานีนี้มีความสำคัญตรงที่มีห้างสรรพสินค้าหรูอย่าง EmQuatier และ Emporium ตั้งอยู่ครับ ถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสามารถเดินเข้าห้างได้ด้วย Skywalk เลย แต่สำหรับทำเลโครงการ The Collection ที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 16 สามารถขับรถมาได้นะ

นอกจากนี้สถานีนี้ยังมีทางเดิน Sky walk เชื่อมต่อมาลงที่สวนเบญจสิริที่อยู่ข้างๆ Emporium ได้อีกด้วย

สำหรับสวนเบญจสิริก็เป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่คนกรุงเทพมักจะมาพักผ่อนและออกกำลังกายในตอนเย็นกันเป็นจำนวนมาก ภายในมีทั้งสวนธรรมชาติสีเขียวปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบบ่อน้ำไว้อย่างร่มรื่น มีทางเดินอย่างดีโดยรอบสามารถวิ่งออกกำลังกายรอบสวนได้ รวมถึงมีสนามเด็กเล่นและเครื่องออกกำลังกายไว้คอยบริการอีกด้วย

ต่อมาเป็นซอยสุขุมวิท 24 เป็นถนนใหญ่กว้างถึง 4 เลน จึงทำให้สามารถสร้างอาคารสูงได้ มีความคึกคักและความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างสูง เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านนวด และโรงแรมเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้คนส่วนใหญ่ยังใช้ถนนเส้นนี้เป็นทางลัดเชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนพระราม 4 ได้ง่ายอีกด้วย จึงทำให้รถในซอยนี้หนาแน่นอยู่พอสมควรเลย

สุดท้ายคือซอยสุขุมวิท 26 เป็นซอยลูกพี่ลูกน้องกับซอยสุขุมวิท 24 แต่มีความเจริญและความคึกคักที่แตกต่างกันมาก เนื่องจากถนนซอยมีขนาดเล็กกว่าเพียงแค่ 2 เลน จึงทำให้ยากต่อการพัฒนาเป็นอาคารขนาดใหญ่ แต่ภายในซอยนี้ก็มีบริบทที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ เต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ถ้าซอยสุขุมวิท 24 มีชาวต่างชาติที่เป็นฝรั่งเยอะ ซอยสุขุมวิท 26 ก็มีชาวญี่ปุ่นเยอะเช่นกัน แถมที่บริเวณกลางๆซอยตลอด 2 ข้างทางถนนยังมีแนวต้นไม้ปลูกไว้อย่างร่มรื่นอีกด้วย

เมื่อย้อนกลับมาถึงที่หน้าโครงการอีกครั้งก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว จะเห็นพฤติกรรมของคนแถวนี้คือจะข้ามสะพานลอยเพื่อมาออกกำลังกายที่สวนเบญจกิติกันในช่วงเย็นเป็นจำนวนมาก แสดงว่าคนกรุงเทพโดยเฉพาะคนแถวนี้เป็นคนที่รักและใส่ใจสุขภาพกันมากๆเลยนะครับเนี่ย

แถมอีกนิดสำหรับคนที่เดินเท้าในช่วงเวลากลางคืน ต้องบอกว่าทำเลซอยสุขุมวิท 16 เป็นทำเลชุมชนที่ไม่เป็นซอยตัน จึงทำให้ภายในซอยไม่เปลี่ยวมืดเหมือนซอยหมู่บ้านทั่วไปนะครับ

ภายในซอยสุขุมวิท 16 (เวลา 21.30 .) บริเวณต้นๆซอยจะยังมีคนเดินกันอยู่พอสมควร มีไฟข้างทางส่องสว่างอยู่ตลอดทางและมีรถขับผ่านอยู่ตลอดเวลา ไม่เปลี่ยวและไม่มืดสามารถเดินได้ แต่ถ้าเข้ามาเลย Food Land จนถึงหน้าโครงการก็จะเงียบๆหน่อย แต่ถ้าโครงการคอนโดใหม่ๆสร้างเสร็จ มีแสงไฟ มีรปภ. และมีคนอยู่มากขึ้นก็จะมีความคึกคักและปลอดภัยมากกว่านี้เยอะเลยครับ

สรุปรีวิวทำเลที่ตั้ง

สำหรับทำเลของโครงการ The Collection ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 เป็นทำเลใจกลางเมืองย่านอโศก มีอาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง เป็นทำเลในซอยแต่สามารถสร้างตึกสูงได้จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ บวกกับที่ดินในย่านนี้ถูกพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยค่อนข้างน้อยเพราะที่ดินมีราคาสูงมาก ที่ตั้งโครงการอยู่ทางอโศกฝั่งใต้ มีจุดเด่นคือใกล้สวนเบญจกิติ ได้วิวสวนและทะเลสาบ ถึงแม้โดยรอบโครงการจะมีอาคารสูงต่างๆอยู่รายล้อมแต่ก็ยังมีช่องเปิดที่ทำให้ได้ City View ที่เปิดโล่งซึ่งหาได้ยากในทำเลซอยนี้เต็มที จึงเหมาะกับคนมองหาคอนโดวิวสวนสวยๆ ส่วนการเดินทางเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก มีทางเลือกทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT หรือรถสาธารณะต่างๆ กรณีใช้รถยนต์ก็สะดวกเพราะใกล้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ซอยสุขุวิท 16 ก็เป็นซอยลัดใช้เลี่ยงรถติดไปเชื่อมต่อซอยลัดอื่นๆหรือไปพระราม 4 ได้

ด้านความอุดสมบูรณ์มีครบหาของกินของใช้ง่าย ที่อยู่ใกล้ๆก็มีห้าง Terminal 21 หรือในซอยสุขุมวิท 16 ก็มีร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง ร้านค้า ร้านอาหาร และ Food Land เปิด 24 ชม. ส่วนในวันทำงาน จ-ศ ก็มีตลาดและร้านอาหารตอนกลางวันเปิดบริการพนักงานออฟฟิศในย่านนี้ราคาไม่แพงเป็นกันเอง  นอกจากนี้ยังใกล้กับสวนเบญจกิติสามารถเดินข้ามทางม้าลายหรือข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามโครงการได้เลย ได้สถานที่พักผ่อนออกกำลังกายสาธารณะขนาดใหญ่ใกล้กับโครงการ ถูกใจคนรักสุขภาพและธรรมชาติแน่นอนครับ

วันนี้คงต้องขอจบการพามาชมรีวิวทำเลเท่านี้ก่อนครับ หากมีความก้าวหน้าของโครงการยังไงจะเอาเพิ่มเติมให้ครับ สำหรับข้อมูลของโครงการ The Collection  สามารถชมได้ที่ คลิกที่นี่  หรือโทร. 092-989-2459